WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ภาพถ่ายสภาพพายุจาก Asia Satellite (Weather Channel)



แผนภาพแสดงปริมาณน้ำฝนใน 24 ชั่วโมง




จุดเสี่ยงที่จะเกิดพายุหมุนเขตร้อน




แผนที่ลม





ภาพแผนที่แสดงศักยภาพการเกิดน้ำท่วมโดย NASA [24 ชม.]





แผนที่อากาศกรมอุตุนิยมวิทยา ล่าสุด !

 

ดร.อาจอง เตือน ธ.ค.55-ม.ค.56 อาจเกิดสึนามิในอ่าวไทย

เขียนโดย NaiNat โพสต์เมื่อ วันพฤหัสที่ 13 กันยายน 2555



ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนธันวาคม 2555 ถึง เดือนมกราคม 2556 จะครบรอบ 11 ปี ของการเกิดพายุสุริยะ
ซึ่งหากเกิดพายุสุริยะขึ้นอีกจริง จะส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวอย่างหนัก และอาจเกิดสึนามิในบริเวณอ่าวไทยเป็นครั้งแรกได้
เพราะมีรอยเลื่อนแผ่นดินไหวในแถบประเทศฟิลิปปินส์และไทย จะมีเวลาในการเตรียมตัวและเตือนภัย 15 ชั่วโมง
แต่อย่างไรก็ตาม โอกาสเกิดพายุสุริยะครั้งใหญ่ยังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์
Mthai News
แท็ก : สึนามิ, อ่าวไทย
ติดต่อทีมข่าว : news@mthai.com

 

Sanba ล่าสุดเพิ่งดูมามันเป็นไต้ฝุ่นระดับ 5 super typhoon ไปแล้วค่ะเร็วมาก:boo:
RSOE EDIS - Emergency and Disaster Information Service

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เหยื่อไวรัสมรณะ “เวสต์ ไนล์” ในสหรัฐฯ พุ่งเฉียด 120 ศพ ติดเชื้อทะลุ 2,600 ราย ชี้ระบาดหนักสุดในรอบหลายปี</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 กันยายน 2555 14:34 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=425><TBODY><TR><TD vAlign=top width=425 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ยอดผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสมรณะ “ เวสต์ ไนล์” ในสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นถึง 35 เปอร์เซ็นต์ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ยอดรวมผู้เสียชีวิตทั้งหมดในปีนี้จากเชื้อซึ่งมียุงเป็นพาหะชนิดนี้ได้เพิ่มอย่างน้อย 118 รายแล้ว

ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี)ซึ่งมีฐานอยู่ที่มลรัฐจอร์เจียระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสดังกล่าวล่าสุดได้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 118 รายแล้ว ทั้งที่การตรวจสอบเมื่อ 2 กันยายนที่ผ่านมายอดผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่ 87 ราย ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้วได้เพิ่มจาก 1,993 รายเป็น 2,636 รายภายในระยะเวลาเพียง 10 วันเท่านั้น และยังไม่มีแนวโน้มว่าการระบาดจะสิ้นสุดลงโดยง่าย

รายงานของซีดีซีระบุว่า กว่า 2 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ 6 มลรัฐ คือ เทกซัส ลุยเซียนา เซาท์ ดาโกต้า มิสซิสซิปปี มิชิแกน และโอคลาโฮมา โดยในจำนวนนี้กว่า 40 เปอร์เซ็นต์อยู่ในเทกซัส ซึ่งเป็นพื้นที่ที่การระบาดรุนแรงที่สุด

ทั้งนี้ เชื้อไวรัสเวสต์ ไนล์ อุบัติขึ้นครั้งแรกที่ประเทศยูกันดาในทวีปแอฟริกาตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ.1937 แต่พบครั้งแรกในสหรัฐฯเมื่อปี 1993 โดยไวรัสซึ่งยังไม่มีวัคซีนตัวใดรับมือได้ชนิดนี้ สามารถติดต่อได้ในหมู่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด รวมถึง มนุษย์ ไม่เว้นแม้แต่จระเข้ ซึ่งเคยพบการติดเชื้อมาแล้วเช่นกัน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD vAlign=top width=450 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ประท้วง'หนังต้านอิสลาม'ยังเดือด โจมตีสถานทูตUSที่เยเมน-อียิปต์</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 กันยายน 2555 22:36 น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพยนตร์เรื่อง “อินโนเซนซ์ ออฟ มุสลิมส์” ที่มีเนื้อหาต่อต้านศาสนาอิสลาม ก่อให้เกิดกระแสประท้วงอย่างกว้างขวางในประเทศมุสลิมทั่วโลก ในภาพนี้ผู้ประท้วงที่ตูนีเซียช่วยกันเผาธงชาติอเมริกันที่ประดับภาพของ มาริลิน มอนโร ดาราเซ็กซ์บอมบ์ชื่อดัง ระหว่างชุมนุมเดินขบวนที่ด้านนอกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯในกรุงตูนิสเมื่อวันพุธ(12)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเจนซี/เอเอฟพี - กระแสชาวมุสลิมแสดงความเคียดแค้นภาพยนตร์ที่จงใจดูหมิ่นศาสนาอิสลามยิ่งลุกลามออกไปเมื่อวันพฤหัสบดี(13) โดยที่เยเมนกลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้าไปภายในเขตสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯเป็นเวลาสั้นๆ ส่วนในอียิปต์ผู้ประท้วงพากันขว้างก้อนหินใส่อาคารสถานทูต หลังจากที่ได้เกิดการปะทะกันในช่วงคืนวันพุธ(12)มาแล้ว ขณะเดียวกันเรือรบอเมริกันก็บ่ายหน้าไปยังลิเบีย ภายหลังที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศนั้นเสียชีวิตเพราะความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับความโกรธกริ้วระลอกนี้

ที่กรุงซานา ตำรวจเยเมนใช้เครื่องฉีดน้ำตลอดจนยิงปืนขึ้นฟ้า เพื่อขับไล่ผู้ประท้วงจำนวนหลายร้อยคนซึ่งบุกฝ่ากำแพงกั้นเข้าไปในเขตสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ โดยที่เอเอฟพีรายงานว่ามีผู้ชุมนุมอย่างน้อย 1 คนถูกยิงเสียชีวิต และอีก 5 คนได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณด้านนอกของสถานทูต ขณะที่ตำรวจพยายามป้องกันไม่ให้เกิดการบุกรุกครั้งใหม่

รอยเตอร์บอกว่า ก่อนบุกเข้าไปในสถานทูต ผู้ประท้วงได้ทุบทำลายสำนักงานรักษาความปลอดภัยที่ด้านนอกพร้อมกับเผารถยนต์ไปหลายคัน นอกจากนั้นผู้เห็นเหตุการณ์ผู้หนึ่งเล่าว่า ได้เห็นไฟไหม้ภายในสถานทูตและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยิงปืนขึ้นฟ้า ขณะที่ผู้ประท้วงพากันวิ่งหนีจากนั้นก็บุกเข้าไปใหม่

ส่วนที่กรุงไคโร ตำรวจอียิปต์ได้ยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุมประท้วงครั้งล่าสุดที่บริเวณด้านนอกสถานเอกอัครราชทูตอเมริกัน โดยที่ผู้ชุมนุมได้ขว้างก้อนหินและโยนขวดเข้าไปในสถานทูต เหตุการณ์นี้บังเกิดขึ้นหลังจากมีการปะทะเป็นระยะๆ ตลอดทั้งคืนวันพุธ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขระบุว่าทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 16 คน

การชุมนุมประท้วงอย่างรุนแรงในไคโรเริ่มขึ้นตั้งแต่วันอังคาร(11) แล้ว โดยในคืนวันนั้น ผู้ประท้วงได้บุกเข้าไปในสถานทูตสหรัฐฯ ฉีกกระชากธงชาติอเมริกันลงมา พร้อมกับนำธงอิสลามสีดำขึ้นไปติดไว้แทน

ประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี ของอียิปต์ ซึ่งมาจากกลุ่มอิสลามเคร่งจารีต ได้กล่าวประณามภาพยนตร์เรื่อง ““อินโนเซนซ์ ออฟ มุสลิมส์” ที่จัดสร้างโดยโปรดิวเซอร์สหรัฐฯ ซึ่งทำให้ชาวมุสลิมพากันโกรธแค้น แต่ในการกล่าวปราศรัยทางโทรทัศน์ของรัฐ เขาก็กล่าวเตือนว่าไม่ควรใช้วิธีการรุนแรงมาประท้วง

นอกจากที่เยเมนและอียิปต์แล้ว ในวันพฤหัสบดียังเกิดการประท้วงที่อิรักและอิหร่าน ขณะที่ในวันพุธก็เกิดการประท้วงที่บริเวณด้านนอกสถานทูตสหรัฐฯทั้งในโมร็อกโก, ซูดาน, และตูนีเซีย

ในวันอังคารซึ่งตรงกับวาระครบรอบ 11 ปีของเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน 2001 กลุ่มติดอาวุธนิยมอิสลามได้เปิดการโจมตีแบบทหารเข้าใส่สถานกงสุลสหรัฐฯ ตลอดจนเซฟเฮาส์แห่งหนึ่งในเมืองเบงกาซี ทางภาคตะวันออกของลิเบีย คริสโตเฟอร์ สตีเวนส์ เอกอัครราชทูตอเมริกัน พร้อมด้วยชาวอเมริกันอื่นๆ อีก 3 คน เสียชีวิตจากการโจมตีคราวนี้ ซึ่งมีการใช้อาวุธทั้งปืน, ปืนครก, และระเบิดมือ นอกจากนั้นยังมีชาวลิเบียได้รับบาดเจ็บอีก 8 คน

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ แถลงลั่นปากว่าจะนำพวกติดอาวุธอิสลามิสต์ที่รับผิดชอบก่อเหตุคราวนี้มา “รับความยุติธรรม” ให้จงได้ ขณะเดียวกัน กองทัพสหรัฐฯได้ส่งเรือพิฆาต 2 ลำมุ่งไปยังลิเบีย ในความเคลื่อนไหวที่เจ้าหน้าที่อเมริกันผู้หนึ่งอธิบายว่า เพื่อทำให้คณะรัฐบาลสหรัฐฯมีความยืดหยุ่นได้มากขึ้นสำหรับการปฏิบัติการใดๆ ในอนาคตต่อเป้าหมายในลิเบีย

นอกจากนั้นกองทัพสหรัฐฯยังจัดส่งทีมนาวิกโยธินต่อต้านการก่อการร้าย เข้าไปเสริมความมั่นคงปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อเมริกันในลิเบียอีกด้วย

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯหลายรายระบุว่า การโจมตีสถานกงสุลที่เบงกาซีซึ่งทำให้เอกอัครราชทูตสตีเวนส์เสียชีวิตคราวนี้ น่าจะไม่ใช่เหตุบังเอิญหรือเป็นไปเอง แต่เป็นการวางแผนล่วงหน้า

ในบรรดาผู้ที่ก่อเหตุคราวนี้ ทางฝ่ายลิเบียระบุว่ามีกลุ่มอันซาร์ อัลชาริอะห์ ที่เป็นกลุ่มอิสลามิสต์ท้องถิ่นที่ติดอาวุธหนัก และเป็นพวกที่เห็นอกเห็นใจอัลกออิดะห์ ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯหลายรายกล่าวว่า รายงานบางกระแสจากภูมิภาคดังกล่าวบ่งชี้ว่า พวกสมาชิกของอัลกออิดะห์ที่ตั้งฐานในแอฟริกาเหนือ ก็น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เก๋งจีนกลางทะเลสาบซีหูถูกพายุพัดพังราบ</TD><TD vAlign=baseline width=102 align=right></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 กันยายน 2555 18:17 น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ความสวยงามของเก๋งจีน"จี๋เสียน"บริเวณทะเลสาบซีหู ในหังโจว มณฑลเจ้อเจียง ก่อนเกิดพายุพัด (ภาพ-ซินหวา)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=431><TBODY><TR><TD vAlign=top width=431 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สภาพเก๋งจีน"จี๋เสียน"หลังเกิดพายุพัดถล่มเมื่อบ่ายวันที่ 12 ก.ย. (ภาพซินหวา)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>ซินหวา--วานนี้ (12 ก.ย.) เก๋งจีนนาม “จี๋เสียน” หนึ่งในเก๋งจีนกลางทะเลสาบซีหู ในเมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียง ถูกพายุฝนพัดล้มครืนลง โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

บ่ายวันที่ 12 ก.ย.ลมพายุฝนฟ้าคะนอง จู่โจมโหมพัดใส่เมืองหังโจวอย่างบ้าคลั่ง แม้กระแสลมโหมกระพืออยู่ไม่นาน ทว่าอานุภาพของมันกลับรุนแรงเหลือคณา ไม่เพียงแต่ทำให้ต้นเพลนที่มีลำต้นใหญ่เกินหนึ่งคนโอบอายุร่วม 60-70 ปี ที่ตั้งตระหง่ายอยู่ทั้งสองข้างของทางเดินรอบทะเลสาบซีหู ล้มระเนระนาด

พายุยังได้พัดเก๋งจีนหรือศาลากลางน้ำ “จี๋เสียน” จุดชมวิวเลื่องชื่อพังยับ และล้มครืนลงไปในทะเลสาบซีหูทะเลสาบที่ได้รับขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งเมืองหังโจว”

โชคดีที่นักท่องเที่ยวซึ่งอยู่ในบริเวณนั้นประมาณ 10 กว่าคนวิ่งหนีออกมาได้ทัน

ศาลากลางน้ำ“จี๋เสียน” มีอายุประมาณ 10 ปี โดยเป็นศาลาทรงโบราณที่สร้างขึ้นเพิ่มเติมในปีค.ศ.2002 ตั้งตระหง่านตรงบริเวณจุดชมวิวรอบทะเลสาบซีหู ซึ่งเป็น 1 ใน 18 จุดชมวิวเก่าแก่ที่ลือชื่อจากยุคราชวงศ์ชิง

หัวหน้าโครงการงานก่อสร้างศาลา “จี๋เสียน” บอกกับผู้สื่อข่าวถึงสาเหตุที่ทำให้ศาลาล้มครืนลง เนื่องจากตัวศาลาก่อสร้างด้วยไม้ เพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อมธรรมชาติรอบๆทะเลสาบ และตั้งอยู่ในตำแหน่งเปิดรับลมเต็มที่ โดยลมพายุมีความแรงลม64.4กม/ชม.

โดยก่อนเกิดเหตุเขาได้รับแจ้งการเตือนภัยพายุระดับสีเหลืองจากกรมอุตุนิยมวิทยา ดังนั้นจึงรีบแจ้งไปยังนักท่องเที่ยวและพ่อค้าแม่ขายแผงลอยที่อยู่บริเวณทะเลสาบฯให้หลบออกมาได้ทันท่วงที

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบดูแลทะเลสาบฯได้กอบกู้ซากศาลาเสร็จเรียบร้อยแล้ว และคณะกรรมการดูแลทะเลสาบฯกำลังทำการพิจารณาดำเนินการสร้างศาลาขึ้นใหม่โดยยังไม่ได้ระบุว่าจะสร้างเป็นไม้หรือปูน




</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดูแลทะเลสาบซีหูได้ช่วยกันกอบกู้ศาลากลางน้ำที่ล้มลงด้วยแรงลมพายุ (ภาพ-ซินหวา)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เจ้าหน้าที่ฯ กำลังกู้ส่วนหลังคาของศาลา โดยนำเชือกผูกโยงจากหลังคาทั้ง4มุม แล้วนำเรือลากออกจากจุดเกิดเหตุ (ภาพ-ซินหวา)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>มศว เตือนระวังแก๊งตุ๋นหลอกสอบตรง เด็กอีสานถูกหลอกสูญเงินหลายหมื่น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 กันยายน 2555 17:27 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>อธิการบดี มศว เตือนระวังแก๊งต้มตุ๋นหลอกสอบตรง หลังเด็กนักเรียนทางภาคอีสานถูกหลอกสูญเงินหลายหมื่นบาท พร้อมยืนยันไม่มีการสอบตรงเดือน ก.ค. อีกทั้งเตรียมสอบทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ วันที่ 22-23 กันยายนนี้ ณ อิมแพค เมืองทองธานี , มธ. และสวนกุหลาบฯ นนทบุรี

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=472><TBODY><TR><TD vAlign=top width=472 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> ผศ.นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยว่า ช่วงต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา พบแก๊งต้มตุ๋นหลอกเด็กนักเรียนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 1,000 คน เข้าสมัครสอบโครงการรับตรงของ มศว ทั้งแพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และศึกษาศาสตร์ โดยเสียเงินค่าสมัครสอบ 150 บาท เมื่อสอบเสร็จ ทำทีแจ้งประกาศผลสอบ ให้นักเรียนจ่ายเงินค่าเล่าเรียนหลักหมื่นบาท ที่ศูนย์ย่อยของ มศว แต่ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ทางราชภัฏฯ เห็นท่าผิดสังเกต จึงรีบแจ้งทาง มศว ให้ทราบ

ทั้งนี้ อธิการบดี มศว กล่าวยืนยันว่า ไม่มีการเปิดสอบรับตรงในช่วงเดือน ก.ค. และดำเนินการสมัครสอบเสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา จัดสอบตรงทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ วันที่ 22-23 กันยายนนี้ โดยใช้สนามสอบที่อิมแพค เมืองทองธานี สนามสอบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และโรงเรียนสวนกุหลาบฯ นนทบุรี ส่วนคณะแพทยศาสตร์ไม่มีโครงการสอบตรงกับทาง มศว เนื่องจากกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) เป็นผู้รับผิดชอบ.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ผู้ว่าฯ สุโขทัยเผยสถานการณ์น้ำใกล้กลับสู่ภาวะปกติ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 กันยายน 2555 09:41 น.

นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการระบายน้ำออกจากเขตเมือง หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการสร้างกำแพงกั้นน้ำยมแล้ว ยังเหลือน้ำที่ต้องเร่งสูบอีกร้อยละ 20 คาดว่าภายในวันนี้จะเรียบร้อย พร้อมสั่งเฝ้าระวังแนวกั้นอย่างดี เชื่อว่าแม้จะมีฝนตกลงมาก็ยังควบคุมได้ แต่ยังน่าห่วงในพื้นที่ อ.กงไกรลาศ ที่น้ำไหลไปรวม ซึ่งสั่งนายอำเภอเฝ้าระวังอย่างดีที่สุดแล้ว
สำหรับมาตรการในการเยียวยานั้น ได้หารือกับนายอำเภอ แลเทศบาลแล้ว โดยวันนี้จะเปิดให้ประชาชน มายื่นเรื่องได้หากมีความพร้อม ซึ่งจะยึดตามระเบียบกฎหมายที่วางไว้

 

สุพรรณบุรีระดับน้ำท่าจีนเพิ่มสูงเทศบาลมั่นใจระบายทัน

เวลา 08.00 น. วันที่ 14 กันยายน นายอภิชาต ชโลธร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางปลาม้า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่าตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคม มีปริมาณน้ำฝนมาก ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนที่ไหลผ่านตลาดร้อยปีเก้าห้องมีระดับสูงขึ้น อย่างไรก็ตามทางเทศบาลบางปลาม้าได้ทำการก่อสร้างแนวเขื่อนเสร็จแล้วประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังมีรอยรั้วซึมอยู่บ้าง เพราะเป็นการทดสอบช่วงปีแรกๆของการก่อสร้างเขื่อน แต่ยังมีสถานีสูบน้ำที่ดำเนินการเสร็จแล้วจำนวน 2 จุด คือสถานีสูบน้ำเก้าห้อง และสถานีสูบน้ำบ้านหมี่ แต่ช่วงนี้น้ำท่วมสูงขึ้นเครื่องสูบน้ำไม่พอ จึงประสานกับ อบจ.สุพรรณบุรี และสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 7 เพื่อขอสนับสนุนเครื่องสูบน้ำรวม 5 เครื่องมาแสตนบายและสูบตลอดทั้งวันทั้งคืน ซึ่งระดับน้ำบวกอยู่ 5.26 เมตร จากเมื่อ 2554 ที่เทศบาลบางปลาม้าระดับน้ำบวกอยู่ที่ 6.30 เมตร ซึ่งยังห่างจากระดับเดิม แต่ปีนี้เรามั่นใจว่าจะไม่ท่วมเพราะมีแนวเขื่อนป้องกัน และสามารถสูบน้ำระบายออกได้ตลอดเวลา.

 

ภูเขาไฟฟูเอโก้ระเบิดส่งเขม่าควันสูงกว่า3ก.ม.

ข่าวต่างประเทศ วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ.2555 10:34น.



ภูเขาไฟฟูเอโก้ ในกัวเตมาลา ระเบิด พ่นเขม่าควันสูงกว่า 3 ก.ม.
ภูเขาไฟฟูเอโก้ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศกัวเตมาลา ได้เกิดระเบิดแบบเฉียบพลันขึ้น เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมทั้งพ่นเถ้าถ่านเป็นหมอกควันสูงถึง 3 กิโลเมตร ขณะที่พ่นลาวาสูงราว 600 เมตร ทำให้ทางการต้องเร่งอพยพชาวบ้านกว่า 33,000 คน ออกนอกพื้นที่เสี่ยงภัย

ด้าน เซอร์จิโอ คาบานาส ผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉิน กล่าวว่า ขณะนี้ ได้เร่งอพยพชาวบ้านจาก 17 หมู่บ้านรอบบริเวณภูเขาไฟฟูเอโก้ โดยเตือนภัยฉุกเฉินระดับสีแดงทางตะวันตกเฉียงใต้ ที่ห่างจากเมืองอันติกัวราว 16 ก.ม. ซึ่งมีประชาชนอีกราว 45,000 คน อาศัยอยู่ เตรียมพร้อมที่จะอพยพหนี พร้อมกันนี้ ได้เตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้เข้าไปในเขตอันตรายอีกด้วย

 

อัพเดต เส้นทางน้ำท่วม น้ำท่วมถนน 2555

เขียนโดย Mthai News Reporter
โพสต์เมื่อ วันพฤหัสที่ 13 กันยายน 2555



ทางหลวงเผย น้ำท่วมถนน ใช้การไม่ได้แล้ว 2 สาย ขณะที่เส้นทางหลัก สายเอเชีย,มิตรภาพ ยังใช้การได้ปกติ
จากภาวะฝนตกหนัก และเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่อยู่ในขณะนี้ กรมทางหลวงได้ตรวจสอบพบเส้นทางชำรุดจากเหตุน้ำท่วมแล้วใน 4จังหวัด โดยแบ่งเป็น 6เส้นทาง ใช้การไม่ได้ 2เส้นทางได้แก่

- ทางหลวงหมายเลข 2181 ตอนแยกทางหลวงสาย 12 (ปากห้วยขอนแก่น) – หล่มสัก

- ท้องที่อำเภอหล่มสัก ที่ กม. 4-6 จ.เพชรบรูณ์ เนื่องจากมีระดับน้ำสูง 60ซม.

ส่วนเส้นทางสายหลัก ที่ใช้สัญจรไปยังภูมิภาคอื่นๆ ยังใช้การได้ปกติ ไม่ว่าจะเป็น

-ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) จาก กรุงเทพ ฯ ผ่านไป จังหวัดพระนครศรีอยุธยา – สระบุรี – ลพบุรี – นครสวรรค์ ไปถึง เชียงราย

-ทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเชีย)บางปะอิน – นครสวรรค์

-ทางหลวงหมายเลข 2 มิตรภาพ จาก สระบุรี ผ่านนครราชสีมา – ขอนแก่น ไป จังหวัดหนองคาย

-ทางหลวงหมายเลข 21 (สระบุรี-หล่มสัก )

-ทางหลวงหมายเลข24 (สีคิ้ว-อุบลราชธานี)

-ทางหลวงหมายเลข 4 กรุงเทพ –สงขลา

-ทางหลวงหมายเลข 41 และ 44

ทั้งนี้หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง หรือต้องการความช่วยเหลือ นอกจากจะสอบถามเส้นทางผ่านสายด่วน 1586 ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักงานประชาสัมพันธ์ (02) 354- 6530 (02)354- 6668-76 ต่อ 2014 ,2031 ศูนย์บริหารงานอุบัติภัย สำนักบริหารบำรุงทาง (02) 354 -6551

Mthai News

 

ชาวเน็ตแห่วิจารณ์ภาพน้ำท่วมหน้า ม.กรุงเทพ รังสิต

เขียนโดย nuntarat โพสต์เมื่อ วันศุกร์ที่ 14 กันยายน 2555



(ภาพจาก Mamay Moonoi )
MThai News: เมื่อเวลาประมาณ 21.26 น. ที่เฟซบุ๊คของ สวพ.FM. 91ได้มีการส่งต่อ( Shared)ภาพน้ำท่วมหน้า มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต จากผู้ใช้ชื่อ Mamay Moonoi โดยระดับน้ำสูงประมาณตาตุ่ม และมีภาพนักศึกษาที่เดินลุยน้ำ ขณะที่บางขึ้นไปยืนบนม้านั่งรอรถเมล์ เพื่อเลี่ยงน้ำท่วม ซึ่งภาพนี้มีคนแชร์และแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ หลายคนเมื่อเห็นภาพได้กดแชร์และวิจารณ์ว่าสถานการณ์น้ำท่วมที่ใกล้เข้ามา บางความเห็นพาดพิงการทำงานของรัฐบาล อยากให้รัฐบาลมีมาตรการด้านน้ำท่วมที่ดีกว่านี้
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีความคิดเห็นของผู้ที่อยู่ในพื้นที่ออกมาชี้แจงถึงกรณีน้ำท่วมตามภาพดังกล่าวว่า ภาพน้ำท่วมดังกล่าวเกิดจากการระบายน้ำไม่ทันเมื่อฝนตกเท่านั้น ไม่ใช่น้ำท่วมที่เกิดจากน้ำไหลบ่ามาแต่อย่างใด ซึ่งในกรณีนี้ Maake Krab ได้เสนอความเห็นที่น่าสนใจคือ
พื้นที่ดังกล่าวจริงอยู่ฝนตกหนักแบบนี้น้ำจะท่วมขังแต่เป็นเส้นทางไปนิคมอุตสาหกรรมที่โดนน้ำท่วมจนเสียหายมากมายแล้วทำไมไม่แก้ไขปรับปรุงรับช่วงเวลาที่ฝนจะตกหนัก … การที่ถนนพหลโยธินที่ควรเป็นเส้นทางหลักสามารถใช้ได้เพียงช่องทางเดียวในภาวะเช่นนี้อะไรจะเกิดขึ้นครับ ทั้งการขนถ่ายสินค้าการคมนาคมและการรับสถานะการน้ำท่วมเหมือนปีที่แล้วที่ถนนหลักที่เข้ากรุงเทพทั้งสายเหนือและสายใต้ท่วมจนการขนส่งสินค้าไม่สามารถทำได้สะดวกจนทำให้สินค้าหลายตัวไม่สามารถกระจายสินค้าไปได้
นอกจากนี้ยังมีการโพสต์ภาพน้ำท่วมขังที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส(BTS) อุดมสุขและปุณณวิถีด้วย

Mthai News

 

ทึ่ง! คลิปกองทัพปูเสฉวนอพยพ

เขียนโดย Mthai News Reporter
โพสต์เมื่อ วันพฤหัสที่ 13 กันยายน 2555



ขณะที่หลายฝ่ายคาดเป็นการย้ายที่อยู่อาสัย ปัดเป็นการหนีหรือเตือนภัยพิบัติ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ที่บริเวณชายหาดแห่งหนึ่งในแนนนี่ พ้อยต์ ใกล้กับเมืองคอนโคเดีย ของหมู่เกาะยูเอส เวอร์จิ้น ได้เกิดเรื่องราวสุดแปลกขึ้น เมื่อกองทัพปูเสฉวนจำนวนนับพันตัวได้พากันแห่ขึ้นบกในบริเวณดังกล่าว สร้างความประหลาดใจให้ผู้พบเห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ และผู้ชมที่ได้ดูคลิป

ทั้งนี้รายงานไม่ได้ระบุว่า การอพยพขึ้นบกดังกล่าวเป็นการย้ายถิ่นฐาน หรือเป็นการเตือนภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาแต่อย่างใด สำหรับปูเสฉวน เป็นปูขนาดเล็ก มีขา 10ขา ไม่มีเปลือกแข็งหุ้ม มักจะหาเปลือกหอยเปล่าๆ เป็นที่พักอาศัย สามารถอยู่ได้หลายพื้นที่ ทั้งบนบก หรือแม้แต่ทะเลลึก

ลิงค์คลิปวีดีโอ
ปูเสฉวน นับล้านยกพลขึ้นบก - YouTube

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=7gJZv9bUfbU"]??????? ????????????????? - YouTube[/ame]

 

อุทัยธานี-น้ำท่วมเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนขยายวงกว้าง

วันศุกร์ ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2555




น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ยังคงไหลบ่าทะลักลงแม่น้ำแควตากแดด อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมขยายวงกว้างออกไปอีก และยังพบคอสะพานคลองระแวงใกล้ ม.รามฯอุทัยธานี ทรุดตัวลงหวั่นเกิดอันตราย

สถานการณ์น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ยังคงไหลบ่าทะลักลงสู่แม่น้ำแควตาดแดดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมขยายวงกว้าง ในพื้นที่เหนือเขื่อน ในตำบลหนองยายดา ตำบลโคกหม้อ อำเภอทัพทัน และพื้นที่ท้ายเขื่อน ในตำบลหนองไผ่แบน อำเภอเมือง โดยเฉพาะพื้นที่ท้ายเขื่อน หมู่ที่ 2 บ้านเนินซาก ตำบลหนองไผ่แบน ล่าสุดพนังกั้นน้ำแม่น้ำแควตากแดด ได้ถูกน้ำกัดเซาะพังทลายลง ส่งผลให้กระแสน้ำได้ทะลักเข้าท่วมถนนบ้านเนินซาก-บ้านจักษา ระยะทางกว่า 500 เมตร ระดับน้ำสูง กว่า 50 ซม.ใช้การสัญไม่ได้ และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ นอกจากพื้นที่นาข้าวทั้งข้าว กข และหอมมะลิอายุได้ 3 เดือนใกล้ที่จะตั้งท้องออกรวงจมอยู่ใต้บาดาลเสียหายอย่างสิ้นเชิงเป็นบริเวณกว้าง

นางสำอาง วงธัญการ อายุ 70 ปี ชาวนาบ้านเนินซาก ตำบลหนองไผ่แบน กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า ปีนี้ได้ลงทุนทำนาข้าวหอมมะลิ จำนวน 8 ไร่ เกือบ 20,000 บาท โดยซื้อพันธุ์ข้าวหอมมะลิสุรินทร์มาปลูก ข้าวกำลังเจริญงอกงาม หวังที่จะขายได้กำไร และเหลือเก็บไว้กิน ความหวังต้องถูกพังทลายไปเพราะเกิดน้ำท่วมฉลับพลัน และขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาตรวจสอบและให้การช่วยเหลือเลย

ขณะเดียวกันสถานการณ์น้ำป่าที่ทะลักมาทางท้ายเขื่อนผ่านคลองระแวงก่อนที่ไหลลงสู่แม่น้ำสะแกกรัง ยังได้ส่งผลให้สะพานของคลองระแวง ตำบลสะแกกรัง อำเภอเมือง ถนนทางหลวงหมายเลข 333 ขาขึ้น เกิดทรุดตัวลงช่วงคอสะพานด้านใน และช่วงรอยต่อสะพานเชื่อมกับถนน ราว 10 เมตร ชาวบ้านหวั่นเกิดอันตรายสะพานพัง หากกระแสน้ำมีเพิ่มมากขึ้นกว่านี้

 

กรมอุตุฯ ประกาศเตือนฉบับที่ 8 ฝนตกหนักถึงหนักมาก

วันศุกร์ ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2555


ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา"ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย" ฉบับที่ 8 วันที่ 14 กันยายน 2555

บริเวณความกดอากาศสูงได้แผ่ลิ่มลงมาปกคลุมถึงตอนบนของประเทศไทยทำให้ร่องมรสุมกำลังแรงที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเริ่มเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกในช่วงวันที่ 14-15 กันยายน 2555 ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 14–18 กันยายน 2555 ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในช่วงวันเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น "ซันปา" (SANBA) บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง ประมาณ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงวันที่ 15-16 กันยายน 2555 พายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

ประกาศ ณ วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 05.00 น.

 

มันมา 2 หย่อมดูโอ้..เลย... 0_O""

เหนือเตรียมพร้อมรับน้องน้ำ..