Archan chum อ.ชุม 59-60

วันนี้อัฟเดทเบาๆกับพระขุนแผนครับ​

ขุนแผนรุ่นแรกหลวงหลวงพ่อไสว ฐิตวัณโณ วัดปรีดาราม จ.นครปฐม​

มี 3 องค์ครับ สีแดง 2 องค์ สีขาว 1 องค์ บูชาองค์ละ 450 บาท
องค์สีขาวมีเกศาติดอยู่ที่หน้าองค์พระเยอะครับ​

ค่าจัดส่งครั้งละ 50 บาท​

 

รูปวัตถุมงคล อ.จุล จะถ่ายรูปลงให้ชมกันราวๆวันพระฤหัสนะครับ ช่วงนี้ยุ่งหัวหมุนเลย...

 

hi jikshow how are you you have something new ha so cool i will call you soon na bye now

 

รับทราบครับพี่ภานุวัต และขอบคุณสำหรับพระธาตุครับผม....

 

หมายเลข EMS พี่ j999 ครับผม EH648438931TH

จัดส่งให้ช่วงก่อนเที่ยงครับพร้อมของแถม 1 ชิ้น

ขอบคุณมากครับ

 

สวัสดีตอนเที่ยงครับ....วันนี้เงียบเหลือเกิน...พรุ่งนี้จะอัพเดทรายการใหม่ให้ชมกันครับ....

 

รอชมคราบบผม

 

"ขอกราบขอบคุณที่ได้รับไออุ่น การุณจากแฟนเพลง".....เพลงพี่ยอดรักครับ อิๆๆๆ

 

แก้เงียบกันสักรายการครับ ......

รูปหล่อรุ่นแรก หลวงปู่จันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ จ.นครศรีธรรมราช เกจิชื่อดังที่สังขารไม่เน่าเปื่อยครับ

ประวัติ หลวงพ่อจันทร์ สุเมโธ วัดทุ่งเฟื้อ​

พ่อท่านจันทร์ สุเมโธวัดทุ่งเฟื้อตามประวัติหลวงพ่อจันทร์ท่านเป็นผู้มีวิชาอาคมแก่กล้าเครื่องราง ควายธนูพ่อท่านจันทร์ถือเป็นควายธนูหนึ่งเดียวของเมืองใต้

ประวัติหลวงพ่อจันทร์สุเมโธ
เกิด วันพฤหัสบดี ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2453 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน6ปีชวด ณ บ้านหลาแก้ว อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช บิดาชื่อนายเขียวมารดาชื่อนางพุดแก้ว นามสกุล ทองแก้วหลวงพ่อจันทร์ท่าน เป็นบุตรชายคนโตมีพี่น้อง4คน มีอาชีพทำสวนทำไร่ ตอนเยาว์วัยได้ศึกษาในสำนักของ พระครูสังฆรักษ์วัดหลาแก้ว ได้ศึกษาอักขระสมัยและวิชาอาคมต่างๆเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นก็ศึกษาพุทธาเวทจากตำราต่างๆ มีวิชาอาคมพอตัวเลยทีเดียวนักเลงหัวไม้ต่างกลัวท่าน เนื่องจากท่านหนังเหนียวยิ่งนัก เมื่ออายุครบ 20ปีก็ได้อุปสมบทที่วัดศาลาแก้ว มีพระครูพนังศรีวิสุทธิพุทธิภักดี เป็นพระอุปัชฌาย์อาจารย์เห้ง วัดศาลามีแก้ว เป็นพระกรรมาวาจารย์ ได้ฉายาว่า "สุเมโธ"

อักขระปรากฏ
คราวหนึ่ง พ่อท่านจันทร์ สุเมโธท่านเดินทางธุดงค์อยู่ในป่าช้าจังหวัดพัทลุงขณะที่ท่านเข้าพักแขวนกลดไว้กับกิ่งไม้ในป่าช้าวัดแห่งหนึ่งบริเวณใกล้ริมคลองป่าเรียบร้อยแล้ว “หลวงพ่อจันทร์”ท่านก็เดินจงกลมคลายความเหน็ดเหนื่อยพอสมควรแล้วท่านก็นั่งสมาธิภาวนาในกลด เพราะเป็นช่วงพลบค่ำพอดี

ความอัศจรรย์เกิดขึ้นแก่จิต
ขณะที่นั่งสมาธิจนจิตค่อยสงบลงแล้วสติสัมปชัญญะสมบูรณ์แจ่มใสมาก “หลวงพ่อจันทร์”ท่านได้เล่าให้บรรดาศิษย์ฟังภายหลังว่าจิตสงบดีแล้วเหตุการณ์การอันอัศจรรย์ก็ปรากฏขึ้น ทำให้เห็นอักขระแบบภาษาขอมลอยขึ้นเด่นชัดจากริมแม่น้ำลำป่า ไปอยู่ในท่ามกลางอากาศก็ได้กำหนดอักขระเหล่านั้นมาพิจารณาแล้วทำอุบายเพ่งเป็นกสิณโดยอาศัยอักขระโบราณที่ปรากฏมาเป็นนิมิตรหมายแห่งการบำเพ็ญเพ่งเป็นองค์กสิณยิ่งนานวัน ความสงบยิ่งแนบแน่นตามลำดับ

พยัคฆามาเยี่ยม
เมื่อความมืดมาปกคลุมไปทั่วลุ่มน้ำลำป่าจังหวัดพัทลุง บริเวณภายนอกกลดอากาศเย็นเป็นพิเศษขณะพ่อท่านจันทร์และหมู่คณะของท่านนั่งกำหนดจิตอยู่ทันใดนั้นความเงียบก็ถูกทำลายด้วยอำนาจเสือโคร่งตัวโต เสียงร้องของมันขู่ข่มขวัญทุกคนที่ได้ยิน มันเดินไปวนมาข้างๆกลดเพราะได้กลิ่นมนุษย์พระธุดงค์ดังกล่าวได้ปฏิบัติตามคำเตือนให้อยู่ในความสงบ นั่งปฏิบัติกันโดยปกติเสือเหมือนมาทดสอบจิตใจเมื่อพระธุดงค์ทุดท่านมีมานะอดทนที่แน่วแน่พร้อมทั้งแผ่เมตตาไปยังเสือตัวนั้นในที่สุดเสือโคร่งก็สิ้นความพยายามผละหายกลับไปในป่าลึก

พบดินแดนสงบ
จากการเดินธุดงค์ไปทั่วทั้ง 14จังหวัดภาคใต้ต่อมาในปี พ.ศ.2491 พ่อท่านจันทร์ สุเมโธ ท่านได้จำพรรษาที่วัดทุ่งเฟื้อเพราะเล็งเห็นว่าเหมาะแก่การเจริญวิปัสสนาสมาธิเป็นอย่างยิ่ง จากอดีตวัดทุ่งเฟื้อที่เคยมีสภาพทรุดโทรม ก็ได้รับการพัฒนาเปิดป่าเปลี่ยนเป็นศาลาโรงธรรม หอระฆัง พระอุโบสถและกุฏิสงฆ์ขึ้นมาตามลำดับ ต่อมาพ่อท่านจันทร์ ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดทุ่งเฟื้อ อย่างสมบูรณ์พระสงฆ์ต่างจังหวัดและชาวบ้านต่างมาฝากตัวเป็นศิษย์ท่านเป็นจำนวนมากเพื่อศึกษาตำราพิชัยสงคราม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องวิชาคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดมหาอุด แต่งคนเลิศดีนักแลฯ ถือเป็นวิชาสุดยอดทั้งนั้น และหลวงพ่อจันทร์ก็เคยเดินทางไปศึกษาวิชากับ อาจารย์เอียดดำ วัดในเขียว อีกด้วย<O</O


พุทธคุณพระเครื่อง “พ่อท่านจันทร์”
ในเรื่องอิทธิมงคลวัตถุของพ่อท่านจันทร์นั้นมีอานุภาพดีเด่นในทางพุทธคุณสูงอานุภาพสูงส่งจากประสบการณ์ผู้นำติดตัวไปใช้ก็มีมากมายจึงเป็นที่หวงแหนของผู้ที่ครอบครองไว้สำหรับความรู้สึกของศิษยานุศิษย์ที่ได้เรียนวิชาคงกระพัน วิชาชาตรี วิชาแคล้วคลาดวิชามหาอุด วิชาแต่งคน และรับมอบอิทธิวัตถุมงคลของหลวงพ่อจันทร์พูดได้ว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียว

หลวงพ่อจันทร์มรณภาพตามกำหนด
กฎแห่งไตรลักษณ์มีอย่างไรความจริงก็ย่อมปรากฏเช่นนั้น หลวงพ่อจันทร์ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติจนเกิดฌานจนแก่กล้า สามารถรู้เหตุการณ์ต่างๆแม้แต่วันตายดังบันทึกของคณะศิษย์วัดทุ่งเฟื้อ ทุกๆสาย คืนวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2532 ท่านเข้าสมาธิภาวนาตั้งแต่หัวค่ำด้วยอิริยาบถอันสงบแม้อาการป่วยกระเสาะกระแสะมาตลอดท่านก็ไม่ ทอดธุระเรื่องภาวนา ตลอดคืนจนได้เวลา 05.00น. อันเป็น เวลาใกล้สว่าง หลวงพ่อจันทร์ท่านได้ให้บรรดาศิษย์ช่วยกันพยุงกายท่านให้ลุกขึ้นเพราะท่านนั่งสมาธิมาตั้งแต่หัวค่ำ เรี่ยวแรงก็น้อยลง เมื่อพระสมุห์พิงค์ ขึ้นแล้วท่านได้เปลี่ยน สบง จีวร สังฆาฏิใหม่หมดเสร็จแล้วท่านได้บอกให้ลูกศิษย์ประคองให้นั่งลงทำสมาธิต่อไปหลังจากฉันอาหารเช้าแล้ว ท่านก็หลับตาลง และได้สั่งให้พระสมุห์พิงค์ผู้เป็นศิษย์จุดเทียนไว้เบื้องหน้าหนึ่งเล่มพร้อมทั้งไม่ให้ใครมาส่งเสียงบริเวณนั้นจะทำสมาธิครั้งสุดท้ายหลังจากกล่าวแก่ศิษย์ทุกคนแล้ว หลวงพ่อจันทร์ท่านก็หลับตาลงเป็นครั้งสุดท้ายกำหนดจิตเข้าสู่สมาธิ เป็นลำดับเวลา 08.30น.บรรดาลูกศิษย์ ที่เฝ้าดูอาการของ พ่อท่านจันทร์ เห็นผิดสังเกตเพราะศีรษะของท่านโน้นเอียงลงมาเล็กน้อย ซึ่งปกติท่านจะนั่งตัวตรงไม่ไหวติงศิษย์ที่อยู่ใกล้ชิดท่านย่อมรู้ดี จึงทราบว่าพ่อท่านจันทร์ สุเมโธวัดทุ่งเฟื้อท่านได้มรณภาพแล้ว วันที่ 10 พฤศจิกายน 2532

<O</O

<O</O​

ร่างกายไม่เน่าเปื่อย
การนั่งมรณภาพของหลวงพ่อจันทร์ เมื่อวันที่10 พฤศจิกายน 2532 ได้ลือกระฉ่อนไปทั่วสารทิศเมืองนครศรีธรรมราช สังขารของท่านไม่เน่าเปื่อยสังขารของท่านแข็งดุจหินแม้เวลาล่วงเลยมาหลายปี

หลวงปู่จันทร์ สุเมโธ หลวงปู่จันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ
หลวงปู่จันทร์ สุเมโธ หลวงปู่จันทร์ วัดทุ่งเฟื้อพระผู้มีเมตตาธรรมชั้นสูงมีมหิธานุภาพอาคมขลัง พระเครื่อง"หลวงปู่จันทร์" เด่นด้าน คงกระพันชาตรี มหาอุด และ"หลวงพ่อจันทร์"ท่านยังเก่งทางวิชาแต่งคนสุดยอดวิชาพิชัยสงคราม และมีความสามารถเรียกและตัดเหล็กไหล ได้อย่างเชี่ยวชาญแม้แต่ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช ก็เคารพนับถือท่านพระเครื่องและวัตถุมงคลของท่านมีมากมายให้เลือกเช่าหามาบูชาเครื่องรางของขลังที่มีชื่อของท่านคือควายธนูเป็นที่เสาะหาและต้องการกันมากในหมู่ลูกศิษย์ที่เคารพและนับถือท่านด้วยประสบการณ์ที่พบเจอกัน

รูปหล่อรุ่นแรกองค์นี้สวยระดับแชมป์ครับผม สร้างเป็นครั้งแรก เมื่อปี 2527

หากท่านใดสนใจ PM มาสอบถามราคาได้ครับ(ไม่แพง)
<O</O
<O</O

 

สมัยท่านมีชีวิตท่านขุนพันธ์มาเรียนวิชากับท่านอยู่บ่อยๆ
รูปพ่อท่านจันทร์กับท่านขุนพันธ์ สมัยยังมีชิวิต

 

ตามสัญญาครับ วันนี้นำ วัตถุมงคล อ.จุลมาให้ชมกัน ถ่ายรูปมาเสร็จแล้ว....
อาจารย์จุล วัดลานแซะ อ.ควนขนุน จังหวัดพัทลุง.....

ท่าน อ.จุล วัดลานแซะ มีอภินิหารมากมาย สามาถนั่งบนก้นครก ให้ ดวงจันทร์มืดไป เหมือนราหูอมจันทร์ได้ ท่านเป็น ศิษย์อาจารย์ทองเฒ่า และ พ่อท่านรอด วัดควนกรวด ท่านบวชสองครั้ง บวชครั้งที่สองเมื่ออายุประมาณ 55 ปี เดิมท่านเป็นหมอไสยศาสตร์ ใครผีเข้า หรือโดนของไม่ว่าหนักเบา ท่านเพียงเอามือลูบปาก แล้วใช้ให้หาย คนไข้ที่แทบตายก็หายทันที ชาวมาเลย์มารักษากับท่านมากมาย (โดนของแขก) หายกลับไปทุกราย ท่านสามารถล่องหนกำบังหายตัวได้ เคยเดินจากวัดลานแซะไปวัดทะเลน้อยถึงก่อน มีรถกะบะมานิมนต์ท่านที่วัดแต่ท่านบอกให้กลับไปก่อน พอรถกะบะกลับไปวัดทะเลน้อย เห็น อ.จุลยืนอยู่แล้ว เหรียญและรูปเหมือนเนื้อว่านของท่านประสบการณ์มากมาย ขึ้นชื่อทางด้านเหนียวมาเป็นอันดับหนึ่ง และอีกอย่างที่หนีไม่พ้นคือเรื่องผีๆสางๆ ผีกลัวสุดๆ

เนื้อว่านของท่านนั้น มี 2 รุ่นครับ พิมพ์หัวมนและพิมพ์หัวตัด แบบหนา และบาง รุ่นหัวมนสร้างก่อน เหรียญรูปเหมือนท่าน ที่ฐานเขียนว่า “พระครูจุล” สร้างจากเนื้อว่านและผงจากนั้นนำมาชุบน้ำว่านสบู่เลือดอีกครั้งนึง ประสบการณ์ สุดๆครับ ตำรวจและผู้คุมชอบครับ เหนียวสุดๆ ผงที่ใช้ทำ ท่านเดินทางไปเอามาจากระโนดครับเป็นผงที่ท่านบอกว่ามีที่นั่นที่เดียว และนำมากดพิมพ์ในถ้ำครับ พอผงหมดท่านก็ไปเอาใหม่ ผงนี้ตอนท่านมรณะภาพ ลูกศิษย์ท่านหนึ่งเคยเอาไปไว้บ้านปรากฏว่า ผีหลอกทั้งวันทั้งคืน อยู่ไม่ได้ ปัจจุบันลุงอู๊ด ศิลาทอง ช่างเลี่ยมกรอบพลาสติกแถวตลาดสดพัทลุงลูกศิษย์อาจารย์จุลท่านหนึ่งเก็บรักษาผงเหล่านั้นอยู่ บางท่านว่าท่านเคยอยู่วัดเขาโพรกเพลงมาก่อน และเริ่มสร้างพระนี้มาก่อนอยู่วัดลานแซะอีก เหรียญท่านสร้างราวขึ้นเมื่อราวๆปี 2516 ส่วนรูปเหมือนเนื้อว่านสร้างครั้งแรกเมื่อปี 2514 ผมเดินทางกลับบ้านเมื่อเดือน เม.ย ที่ผ่านมา เจอกับหลานของ อ.จุล เขาเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับวัตถุมงคลของ อ.จุล ให้ผมฟังมากหมาย ที่พอจะจำได้มีอยู่สองเรื่อง
<O
</Oเรื่องแรกสาเหตุที่ทำให้ท่านโด่งดังทั้งแต่สมัยไม่มรณะภาพคือ มีนายทหารกลุ่มนึงจาก จ.นครศรีธรรมราช ไปกราบท่านที่วัดเพื่อไปขอของดีจากท่าน ท่านก็ให้เหรียญกับรูปเหมือนเนื้อว่านคนละ 1 องค์ จากนั้นทหารกลุ่มนั้นก็ขับรถกลับไประหว่างทางก็หยุดพักที่ศาลาข้างทาง มีทหารคนนึงหยิบืปืนมาขึ้นลำบังเอิญปืนลั่นดังปัง! และแล้วเพื่อนทหารอีกคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็ล้มฟุบลงเพราะโดนกระสุนปืน ทั้งหมดรีบยกเพื่อนทหารที่โดนปืนลั่นใส่ขึ้นรถทันที พอไปถึงโรงพยาบาลก็บอกหมอว่าเพื่อนโดนปืนลั่นใส่ หมอและพยาบาลก็ช่วยกันถอดเสื้อนายทหารคนนั้น แต่ไม่มีเลือดมีแต่รอยไหม้......เป็นอันว่ายิงไม่เข้า ทั้งหมดเลยกลับรถไปที่วัดอีกครั้งเพื่อไปกราบ อ.จุล จากนั้นมาท่านก็เป็นที่รู้จักในพื้นที่และจ.พัทลุงเป็นอย่างดี จนทุกวันนี้ประสบการณ์วัตถุมงคลของท่านเป็นอันดับต้นๆของพัทลุงเลยทีเดียว

<O</O
<O</O
เรื่องที่สอง มีลูกศิษย์ อ.จุล คนนึงทำนาปลูกข้าวแต่ปีนั้นมีตั๊กแตนกินข้าวเยอะ ได้รับความเสียหายมาก ก็ไม่รู้จะทำอย่างไหร ก็ไปเอาเหรียญ อ.จุล อาราธนาแล้วพาเหรียญวิ่งรอบนาข้าวบุกป่าหญ้าคาต่างๆ 3 รอบ แล้วพอรุ่งเช้าปรากฏว่าไม่มีตั๊กแตนมากินข้าวแกอีกเลย แกไม่รอช้ารีบไปวัดลานแซะกราบ อ.จุล พอไปถึง อ.จุล ออกมาจากกุฏิ สีหน้าแปลกๆ แล้ว อ.จุล ก็บอกว่า “มึงเอากูไปทำอะไร หญ้าคาบาดกูเต็มตัวแล้ว” ลูกศิษย์คนนั้นตกใจแล้วเรียนเรื่องราวต่างๆให้ท่านทราบ ท่านก็บอกว่า ”ครั้งต่อไปให้เอาเหรียญหรือวัตถุมงคลของท่านไปทำน้ำมนต์รดก็พอ ไม่ต้องเอาเหรียญกูวิ่งรอบทุ่งนาหรอก “ นี่คือความขลังของพระสายเขาอ้อและเมืองพัทลุง วัตถมงคล อ.จุล แปลกอยู่อย่างนึงท่านจะเสกเดี่ยวทุกครั้งและไม่ยอมให้ใครฟังด้วยท่านว่าฟังแล้วจะบ้า! โดยเฉพาะพระรูปเหมือนเนื้อว่านท่านไปปลุกเสกในถ้ำบนเขาคนเดียว...... ผมพยายามหาประวัติของท่านแต่ก็ได้มาไม่มากจะพยายามศึกษาต่อไป.....ครับ<O</O

องค์แรกเป็นเนื้อว่านแล้วชุบน้ำว่านสบู่เลือดอีกทีนึง หายากมากๆ
องค์ที่สองเป็นเหรียญ มีโค๊ดดอกจันครับ ด้านหลังยันต์หายหมดแล้ว แต่ด้วยเหรียญนี้ดูแล้วขลัง ผมจึงเก็บไว้...
พระรูปเหมือนเนื้อว่านของท่านมีสร้างหลายยุค ในรูปเป็นยุคแรกเลยครับ กดพิมพ์ในถ้ำ และท่านทำคนเดียวไม่เกี่ยวกับศิษย์คนใด เพราะท่านบอกว่าเวลากดพิมพ์และปลุกเสกจะมีเทวดา เจ้าป่าเจ้าถ้ำ มาปรากฏตัว คนที่ไม่เคยเห็นอาจจะตกใจ เสียสติได้ จึงเป็นเหตุให้ท่านไม่ยอมให้ใครไปด้วย...

<O<!-- google_ad_section_end -->

(โชว์ องค์ในรูปไม่เปิดให้บูชา แต่หาใหม่ให้ได้ครับ)




<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>






</FIELDSET>

 

แม้แต่ อ.ศรีเงิน วัดดอนศาลา ยังพกพระเนื้อว่าน อ.จุล ติดตัวครับ.....ถือๆได้ว่าประสบการณ์รอบด้านและเป็นอันดับต้นๆของ จ.พัทลุงเลยทีเดียว....ท่านชอบพูดเล่น แต่ทำได้จริงอย่างเหลือเชื่อ...

 

เมื่อตอนเดือนห้าขึ้น.....ผมอยู่ กทม. ได้ยินเสียงฟ้าร้องทางทิศ ตะวันออกเฉียงใต้ โบราณว่าลมพายุจะมากในปีนี้.....

 

สมัย อ.จุล เป็นฆารวาส ผ้ายันต์ของท่านได้รับความนิยมจากแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวเยอะมากๆ จึงนับได้ว่าท่านครบครึ่งทุกอย่าง หลายท่านคงได้อ่านประวัติของท่านแล้วด้านบน ซึ่งไม่ยาวมากเพราะประวัติของท่าน ข่อนข้างหายากต้องไปนั่งฟัง หลานๆของท่านเล่าให้ฟัง จึงจะพอจับใจความมาได้บ้าง โอกาศต่อไปคงจะค้นคว้าให้ยิ่งๆขึ้นไป ขอคุณทุกท่านที่ติดตามชม.........

 

อ่านแล้วเกิดศรัทธาครับ ทำให้รู้จักพระที่เก่งๆเพิ่มขึ้นอีก

 

ขอบคุณพี่ kiati_sak ที่ติดตามชมครับ

 

สวัสดีตอนเที่ยงๆครับทุกท่าน..........

 

มีพี่ๆ PM มาสอบถามราคา วัตถุมงคล อ.จุล วัดลานแซะ ผมก็ถือโอกาสแจ้งในนี้เลย เพื่อท่านอื่นจะได้ทราบด้วย ถ้าเป็นเนื้อว่านสบู่เลือด ยุคแรกสวยแชมป์ ราคาก็ประมาณ 3,000 ส่วนเหรียญ ถ้าสวยๆจริงๆ ก็ 4,000 ครับ การเล่นวัตถุมงคลของ อ.จุล ต้องมีความรู้พอสมควร เพราะมีของเสริม และยุคหลังด้วยครับ....ส่วนตำหนิและรายละเอียดการวิเคราะห์ต้องขอเก็บเป็นความลับไว้ก่อนครับ...

 

เร็วๆนี้ผมจะเปิดประทู้หมอเดา... ในหมวดของเรื่องเล่าประสบการณ์ครับ ขอเชิญทุกท่านคอยติดตามชม....จะมีการดูดวงฟรี และพูดคุยกันในยามว่างๆครับ...

 

สวยงามมากครับ

รูปหล่อพ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ ผสมเหล็กหลบ มั้ยครับ