*_________* บุญบาป ไม่มีจริงนะเกิดใหม่ก็ไม่มีจริง

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=TS0IPIUF_7s"]YouTube - ???? ?????????????? - ??????[/ame]

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=TS0IPIUF_7s]YouTube - เพชร โอสถานุเคราะห์ - ธรรมดา[/ame]

 

งั้นก็อย่ามีศาสนาเลยดีกว่า มีศาสนาไหนบ้างละที่พิสูจน์ได้ตามหลักวิยาศาสตร์อะ ( แต่ผมคิดว่าพุทธศาสนาพิสูจน์ได้ตามหลักวิทยาศาสตร์นะ )
ยิ่งศึกษามันก็จะยิ่งเพิ่มข้อถกเถียงไปเปล่าๆ เออ แล้วคนที่กำลังศึกษาเรื่องนี้่อยู่เขามีศาสนาไหมอะครับ

 

กบในกะลา บัวในโคลนตม (แล้วหัดเขียนและใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องด้วย เดียวภาษาเขาจะวิบัติ)

 

เธอกินข้าว แล้วอิ่มหรือไม่?

นั่นก็เป็นผลของกรรม (การกระทำ คือกินข้าว ผลคือ อิ่ม)

เมื่อวานของเธอมีมั้ย? ไหนเอามาให้ดูหน่อยซิ?

แล้วพรุ่งนี้ของเธอล่ะ มีมั้ย? ไหนเอามาให้ดูหน่อย?

เมื่อวาน คือ อดีต

พรุ่งนี้ คือ อนาคต

ชาติก่อน ชาตินี้ ก็เหมือน ๆ กัน

ถ้ามันไม่มีจริง ๆ ทำไมยังมีเหตุการณ์เด็กระลึกชาติอยู่?

วิทยาศาสตร์น่ะ วิจัยได้แค่วัตถุ

จะวิจัยเรื่องจิตก็ไปคิดเอาว่ามันเป็นการทำงานของสมอง

อะไรที่จับเข้าห้องทดลองไม่ได้ ก็หาว่าไม่มีอยู่จริงทั้งหมด

ขอท้าเลย กล้ามั้ย?

ให้นักวิทยาศาสตร์มาทำฌาณให้ได้ถึง ฌาณ ๔ ดู

และปฏิบัติตามที่ครูบาอาจารย์แนะนำให้

ให้มาพัก พำนักอยู่ที่ ๆ ปฏิบัติธรรมกันอย่างจริงจัง

วิทยาศาสตร์เปิดเผยความจริงของธรรมชาติก็จริง

แต่สิ่งที่ถูกเปิดเผย มีไม่ถึง 1 ใน 1,000,000 ของความจริงทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ

อะไรที่ว่าสัมผัส จับต้องไม่ได้ ก็หาว่าไม่มีอยู่จริง

วิจัยกันยังไง ไม่ใช่ "ธัมฺมวิจย" เสียด้วย

วิจัยธรรมชาติฝ่ายรูปเพียงอย่างเดียวโดยไม่สนใจธรรมชาติฝ่ายนาม

เพราะเหตุนี้ถึงได้มีการวิวาทด้วยวาทะกันไม่จบสิ้น


เจริญพร

 

คนแบบนี้ต้องไล่ไปค้นหาแดนศิวิไลศ์
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=mZZxNMQRBG4]YouTube - แดนศิวิไลซ์ สุดขอบฟ้า[/ame]

 

ใช่เลยครับ เห็นด้วยมากที่สุด

 

นานาจิตตัง
มันเป็น ปัจจักตังครับ
เป็นสิ้งผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตนครับ
ไม่มีใครอธิบายได้หรอกครับ

 

มันเป็นเรื่องอจินไตย รู้ไปแล้วทำให้เราพ้นทุกข์ได้เหรอ ควรจะสนใจปัจจุบันที่ตัวเองดีกว่านะ ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบหรือยัง

 

อันนี้เป็น เเค่ กะทู้ สิ่ง ตั้งขึ้นมาโดยไม่คิดเเค่นั้นเองครับ

บุญบาปย่อมมีจริง เเต่ ชาติหน้ารัยนี้ไม่รู้ ไม่มีครัยรู้เเน่นอนเพราะนั่งพิมอยู่ยังไม่ตาย

ถ้าคุณ ทํา สิ่งดี บุญ ย่อม ส่งผลดีให้ตนเองเเละ สังคม คือบุญที่เเท้จริง จะเก็บสะสมไปชาติหน้าชาติรัย ไม่มีครัยรู้ เพราะ ยังไม่ได้ไปเกิดใหม่กันสักคน นี่ยังไม่ใช่บุญอีกงัย

บาป ก็มีจริง ถ้าคุณ ทําบาป ย่อม ก็ความเดือนร้อน ทั้ง ตัวคุณเเละสังคมเช่นกัน

ให้ไอ่พวกฝรั่ง ที่พิสูจรัยนั่น ไปกระทืบ คนไทยสักคนดิ บาปเกิดทันใด คนไทยไม่ยอม กระโดดทีบ หน้า นั้นงัยผมกรรม

ไม่ได้เก่งเเต่พระพุทธองค์สอนมางัยก็เชื่ออย่างนั้นเเหละ ไม่ต้องการพิสูจไม่มีข้อสงสัยใดใดทั้งสิ้น เพราะที่พระพุทธองค์ท่านสอนไว้ ก็มีเเต่สิ่งดีงามทั้งนั้น

ถ้าโลก นี้ ไม่มี ครัย เชื่อ ว่าบุญบาปมีจริง หรือยังสับสนให้ มันก็คง เป็นเหตุเป็นปัจจัย ให้โลก ฉิบ...นั่นเเหละ

 

ผมขอแนะนำ จขกท. 2 ประการ

1. ให้เปลี่ยนชื่อหัวข้อกระทู้เสียใหม่ เพราะชื่อหัวข้อมันสื่อไปในทางที่ เป็นมิจฉาทิฐิ จะพาคนที่ยังไม่เข้าใจหลักของพระพุทธศาสนาให้เกิความไขว้เขว้ได้ จะเป็นบาปกรรมติดตัวไปเปล่า ๆ ผมว่าน่าจะตั้งเป็นคำถามแบบปลายเปิดไว้ เผื่อคนที่มีความสนใจต่อเรื่องนี้อย่างจริงๆ จะได้เข้ามารับรู้ข้อมูลหรือถกกันในด้านการศึกษา ผมว่าน่าจะปลอดภัยทั้งต่อตัว คุณ จขทก และเพื่อนที่เข้ามาโพสเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน

2. ให้พยายามศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เพิ่มเติมให้มากกว่านี้นะครับ เพราะ ดูเหมือนคุณยังศึกษาน้อยเกินไป สิ่งที่คุณอ่านมาจากหนังสือเล่มเดียว ไม่ได้หมายความว่า สิ่งนั้น ๆ มันจะต้องเป็นไปตามหนังสือเล่มนั้นแต่เพียงอย่างเดียว

ผมเคยได้อ่านเรื่องราวการค้นคว้าของนักวิทยาศาสตร์ในตะวันตก เกี่ยวกับเรือง การระลึกชาติได้ ที่นายแพทย์ระดับ ศาสตราจารย์ ด๊อกเตอร์ ของ จุฬาลวงกรณ์มหาวิทยาลัย ท่านได้นำมาลงอ้างอิงไว้ในหนังสือของอาจารย์แพทย์ แต่ผมจำชื่อหนังสือเล่มนั้นไม่ได้แล้ว เพราะว่าอ่านตอนไปรอตรวจโรคที่ รพ. ศิริราช นานมากเกือบ 10 ปี แล้ว และได้รับรู้เรื่องราวจากอีกหลายที่ ซึ่งก็มีแนวโน้มไปในทางเดียวกัน

และผมก็เคยนำเรื่องนี้มาเล่าให้เพื่อนที่ทำงานฟัง คนที่เขาไม่เชื่อเรื่องการกลับมาเกิด (ไม่ศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา เขามีแค่ชื่อว่าเป็น ช่าวพุทธในบัตรประชาชนเท่านั้น ) ผมอ้างอิง ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ คนระดับศาสตราจารย์นายแพทย์ ได้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม และก็มีได้อ้างอิงผลการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ในตะวันตกหลาย ๆคน มาประกอบในหนังสือ เขาก็บอกเลยว่าไม่จริง ปฏิเสธทันทีเลย ยังไม่ทันได้ดงได้ดูรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมเลย ลักษณะอย่างนี้ เขาเรียกว่าอะไรกันครับ ใครรู้ช่วยตอบผมทีครับ

 

เรียกว่า ไม่เห็น พระธรรม ไม่หลั่งนั้มตาครับ
เง้อ มีเเต่ ไม่เห็น โลงศพไม่ หลั่งนั้มตา
เฮ้อ เอางี้ใช้ได้ ทั้งสองอย่างละกัน :boo:

 

โย่วว .. อ่านแล้วต้องไปแชร์เพิ่ๆ คร้า

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=R7KGELSO5h8&feature=player_embedded]YouTube - แม่ชีทศพร222- ธรรมะของพระพุทธเจ้า[/ame]

 

สวัสดีครับคุณ 00000000 ก่อนอื่นคุณต้องทำความเข้าใจเรื่องของวิญญาณซะก่อน วิญญาณที่คุณ000000 เข้าใจนั้นเป็นแบบไหน ทำไมคุณ00000 จึงคิดว่ามีมากหรือมีน้อยคุณ00000 คิดมาจากอะไรครับ เคยทำให้แจ้งในวิญญาณรึยัง ผมแนะนำให้คุณ00000 ไปศึกษาและทำให้รู้จริงในเรื่องของวิญญาณก่อนจะดีกว่าที่มานั่งคิดเอาโดยไม่รู้ดีกว่านะครับ เพื่อประโยชน์ของตน พอปฎิบัติพอได้แล้วให้เอาการปฏิบัติไปเปรียบเทียบกับ ธรรมที่พระพุทธเจ้าเคยแสดง เรื่องที่เกี่ยววงรอบการเกิดของทุกสรรพสิ่ง คือ ปฎิจจสมุปบาท ถ้าคุณทำจนละเอียด คุณจะรู้ว่า กำเนิดของจักรวาล ก็อยุ่ภายใต้กฎนี้ครับ ขอให้คุณ00000 ทำให้รู้แจ้งด้วยตัวเองนะครับ ผมจะเอาใจช่วยนะครับ

 

มนุษย์คิดได้แค่นี้แหล่ะหนา จึงนำพาโลกมาถึงจุดนี้ได้
สัตว์โลกยังคงเป็นไปตามกรรม

 

คุณเคยฝันมั้ยครับ ถ้าเคยแล้วจะอธิบาย ยังไงให้คนเขาเห็นแบบที่เรา

เห็นในฝัน อย่างสมบูรณ์แบบหล่ะครับ ไม่มีทางครับ ซึ่งในฝันนั้นมีรายละเอียด

มากมายที่อธิบายไม่ได้ มันก็เหมือนกันครับ ของแบบนี้ต้องรู้ ต้องเห็นด้วย

ตัวของเราเองเมื่อเห็นและรู้แล้วอธิบายให้คนอื่นไปก็ไม่มีใครรู้เหมือนที่เราเห็นหลอกครับ

เหนื่อยปล่าวเฉย ๆ ความรู้แบบนี้ของใครของมันครับ ^ ^

ปล. เหมือนพระท่านบอกหล่ะครับ ว่า เราอธิบายว่ากินข้าวอิ่มของตัวเราให้คนอื่นรู้สึก
เหมือนเราเป็นยังไงซึ่งเป็นไม่ได้ นะครับ 555+ ดื้นรนไปก็สูญปล่าว 555+

 

ก็โอเคนะ ขอบคุณครับ

 

บะ มหัศจรรย์ความคิดจริง 5555+ เอาๆ ขอเก็บไว้พิจรณา ก่อนเน้ออออ พระเจ้าข้าาาาาาาาาาา

 

ก็ดีครับ .......................