<<<<<<<______คนส่องพระ ______>>>>>>>

เมื่อวานนี้เป็นวันดีสำหรับผมอีกวันหนึ่งครับ

เพราะว่าเมื่อวานนี้เป็นโอกาสอันดีที่ผมได้มีโอกาสได้ชมไป

ขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคแบบไม่ได้ชมผ่านจอเป็นครั้งแรกในชีวิต

ผมคิดว่าจะเป็นครั้งที่ตราตรึงใจผมไปมิมีเสื่อมคลายเป็นแน่นอนครับ



ซึ่งผมได้อาศัยอยู่ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ครับ

ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงพยาบาลศิริราชครับ






พสกนิกรต่างเฝ้าชมชมกระบวนเรือ และชื้นชมพระบารมีครับ





และเรือพระที่นั่งสุพรรณหงษ์






และเมื่อเรือพระที่นั่งสุพรรณหงษ์ลอยลำเคลื่อนมาถึงฝั่งตรงข้ามอาคารที่ประทับของ

องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นที่รักยิ่งของพสกนิกรชาวไทย

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร

ทรงยืนขึ้นและหันพระพักต์ไปยังอาคารที่ประทับ เพื่อถวายความเคารพ

์




ปล. ด้านบนอาคารที่ประทับหลายๆคนคงไม่ทันได้สังเกตุเพราะว่าอยู่สูง

แต่ด้วยผมเป็นคนค่อนข้างสายตาอยู่ไม่สุข เลยทำให้มองเห็นอย่างนี้ครับ (ธงสัญลักษณ์)

ขอลบรูปนี้ดีกว่า ^_______^​

 

[Norragate]
บารมีหลวงปู่หมุน คุ้มครองนะครับเพื่อนโอ๊ต


--------------------------------------------------------------------------------------------
เห็นศรัทธาหลวงปู่หมุนกันหลายคน ผมไม่รู้จักเลย ไปดูข้อมูลพระเครื่องของหลวงปู่หมุน ราคาแรงมากๆ คุณนอร์ คุณกูล คุณขอขวด สุดยอดมากๆๆๆๆๆๆ ^_^

 

[ช้างป่า]

เมื่อวานนี้เป็นวันดีสำหรับผมอีกวันหนึ่งครับ

เพราะว่าเมื่อวานนี้เป็นโอกาสอันดีที่ผมได้มีโอกาสได้ชมไป

ขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคแบบไม่ได้ชมผ่านจอเป็นครั้งแรกในชีวิต

ผมคิดว่าจะเป็นครั้งที่ตราตรึงใจผมไปมิมีเสื่อมคลายเป็นแน่นอนครับ



ซึ่งผมได้อาศัยอยู่ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ครับ

ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงพยาบาลศิริราชครับ






พสกนิกรต่างเฝ้าชมชมกระบวนเรือ และชื้นชมพระบารมีครับ





และเรือพระที่นั่งสุพรรณหงษ์






และเมื่อเรือพระที่นั่งสุพรรณหงษ์ลอยลำเคลื่อนมาถึงฝั่งตรงข้ามอาคารที่ประทับของ

องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นที่รักยิ่งของพสกนิกรชาวไทย

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร

ทรงยืนขึ้นและหันพระพักต์ไปยังอาคารที่ประทับ เพื่อถวายความเคารพ

์




ปล. ด้านบนอาคารที่ประทับหลายๆคนคงไม่ทันได้สังเกตุเพราะว่าอยู่สูง

แต่ด้วยผมเป็นคนค่อนข้างสายตาอยู่ไม่สุข เลยทำให้มองเห็นอย่างนี้ครับ (ธงสัญลักษณ์)

ขอลบรูปนี้ดีกว่า ^_______^​

-------------------------------------------------------------------------------------------
อนุโมทนากับคุณช้างป่าด้วยครับ ^__^
(good)(good)(good)(good)(good)(good)​

 

[MrCHAN]รูปเหมือนปั้มรุ่นแรก เนื้อทองเหลือง :z5

:z7
------------------------------------------------------------------------------
สวยงามมากๆครับพี่โญ ^__^

(ping)(good)(ping)(good)(ping)(good)(ping)

 

เนื้อผงองค์ต่อไปจากท่านมหาพล
สงสัยกว่าจะถ่ายภาพหมด ประมาณสิ้นเดือนพฤศจิกายนแน่ ๆ (smile)


:z5

:z7

ข้อมูลเกี่ยวกับวัดอัมรินทราราม
http://moohin.com/trips/bangkok/Watamarintraram/

หากย้อนไปราวปีพ.ศ.2485 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สงครามมหาเอเชียบูรพาประเทศไทยได้รับความเสียหายจากภัยสงครามนี้โดยตรง ทำให้หลายจุดในประเทศหายนะด้วยลูกระเบิด หนึ่งในจุดยุทธ์ศาสตร์ที่กองทหารญี่ปุ่นจะทิ้งระเบิดนั้นได้แก่ สถานีรถไฟริมคลองบางกอกน้อย อันเป็นบริเวณที่ตั้งของวัดที่หมูหิน.คอมจะพามารู้จักและแนะนำกันในทริปนี้ ซึ่งก็คือ วัดอมรินทรารามวรวิหาร นั่นเอง

วัดอมรินทรารามวรวิหาร สร้างขึ้นประมาณปีพ.ศ.2200 ไม่ปรากฏว่าผู้ใดเป็นผู้สร้าง เดิมทีมีชื่อวัดว่า “วัดบางว้าน้อย” ตั้งคู่กับ “วัดบางว้าใหญ่” หรือวัดระฆัง โฆสิตารามในปัจจุบันเป็นวัดที่มีพื้นที่อาณาเขตอยู่ในกำแพงเมืองฝั่งตะวันตกของกรุงธนบุรี

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกระดับขึ้นให้เป็นวัดอารามหลวง จากเดิมเป็นวัดชั้นตรีชนิดวรวิหาร ซึ่งต่อมาในสมัยรัชกาลที่1 ได้ทำการปฏิสังขรณ์ใหม่หมดทั้งพระอาราม และโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชูปถัมภ์ในการสร้างถาวรวัตถุอื่นๆ ที่ยังคงค้างคาอยู่ให้เสร็จสิ้น แล้วพระราชทานนามวัดใหม่เป็น “วัดอมรินทรารามวรวิหาร” ซึ่งมี “หลวงพ่อโบสถ์น้อย” ประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ในวิหาร

จุดที่น่าสนใจภายในวัด อยู่ที่วิหารหลวงพ่อโบสถ์น้อย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้สะพานอรุณอมรินทร์และทางรถไฟ ได้รับการปฏิสังขรณ์ใหม่เมื่อพ.ศ.2492 และมีการปฏิสังขรณ์อีกหลายครั้ง ขนาดของวิหารมีความยาว 11.50 เมตร กว้าง 7.50 เมตร สูงถึงเพดานประมาณ 7 เมตร นับว่าเป็นโบสถ์ที่มีขนาดเล็ก เหมือนดังชื่อเรียกขานว่า โบสถ์น้อย ภายในวิหาร ที่ฝาผนังเขียนภาพพุทธประวัติ มีพระประธานคือ “หลวงพ่อโบสถ์น้อย” เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นศิลปะแบบสุโขทัย ปางมารวิชัยลงรักปิดทอง หน้าตักกว้าง 4 ศอก 22 นิ้ว ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้คนนิยมมากราบสักการะขอพรจากหลวงพ่อกันเป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยความศักดิ์สิทธ์ของหลวงพ่อตั้งแต่ในครั้งสงครามมหาเอเชียบูรพา จากภัยในครั้งนั้นทำให้บริเวณวัดเสียหายเกือบทั้งหมด พระครูวิหารกิจจานุการ

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสของวัดอมรินทรารามวรวิหารในปัจจุบัน ท่านได้ให้ข้อมูลว่า ตอนที่ระเบิดลง ภายในวัดนี้เสียหายพังพินาศหมด เนื่องจากวัดอยู่ติดกับสถานีรถไฟพอดี คงเหลือไว้แต่เพียงวิหารหลวงพ่อโบสถ์น้อย และมณฑปพระพุทธบาทจำลอง ที่รอดพ้นภัยมาได้ แต่ด้วยแรงระเบิดจึงทำให้เศียรของหลวงพ่อร้าว แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรหลวงพ่อโบสถ์น้อยได้

สำหรับมณฑปพระพุทธบาทจำลอง สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่1 เป็นมณฑปทรงจัตุรมุขหลังคา 2 ซ้อน 2 ตับ ตับล่างเป็นกันสาด ยอดมณฑปมีความสูงตลอดยอด 8 วา 3 ศอก ประดับด้วยกระเบื้อง และชามเขียนสีของจีน สวยงามทีเดียวค่ะ ภายในประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง มีกำแพงล้อม และประตูเข้าออกทั้ง 4 ทิศ แต่ช่วงที่หมูหินไปนั้น มณฑปกำลังปรับปรุงซ่อมแซมพอดีค่ะ จึงไม่มีโอกาสไปกราบสักการะรอยพระพุทธบาทจำลอง

ในส่วนของอุโบสถนั้นเป็นอุโบสถที่สร้างขึ้นใหม่ เป็นแบบประเพณีทรงจัตุรมุข มีมุขโถงทั้ง 4 ด้าน ฐานของอาคารเป็นฐานสิงห์ลูกแก้ว หลังคา 4 ซ้อน 3 ตับ มุงกระเบื้องดินเผาเคลือบสีเครื่องตกแต่งที่หน้าบัน เป็นแบบเครื่องลำยอง มีช่อฟ้า ใบระกาหางหงส์ ลายหน้าบันเป็นรูปพระอิศวรทรงช้างเอราวัณ ออกแบบก่อสร้างโดย หลวงวิศาลศิลปกรรม สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2512

 

นำำภาพมานำเสนอว่าด้วยเมื่อวานนี้อีกเหมือนกันครับ

ผมมีโอกาสสำคัญอีกครั้งหนึ่งคือ ได้มีโอกาสร่วมรับฟังพระธรรมเทศนา



โดย

พระราชภาวนาวิกรม (หลวงพ่อเลี่ยม ฐิตธมฺโม)

แห่งวัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี







พร้องพระติดตามชาวไทย





และชาวต่างชาติ



​

 

สวยมากเลยครับพี่โญ...เห็นด้วยกับพี่บอยเลยยย ^^

 

ขอบคุณคร๊าาาาาบ...(smile)

 

น้อมกราบครูบาอาจารย์....

น้องช้างป่าถ่ายภาพได้สวย คม ชัด มากๆเลยครับ...เห็นแล้วอิ่มใจบอกไม่ถูก... ^_^

 

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน........

หากผมยังอยู่กทม. คงไม่พลาดเป็นครั้งที่สองแน่เลยครับที่จะไปนั่งริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในเวลานั้น.. ​

 

ว่าด้วยเรื่องเล็กๆที่ประทับใจผมมากๆๆๆๆๆครับ​

​

ผมไม่เคยคิดว่าการถ่ายภาพมันจะยากมากมายและตื่นเต้นอะไรมากนัก

เพราะว่าด้วยผมก็เคยใช้ทั้งกล้องตัวเล็กที่ราคาไม่สูงนัก และกล้อง Pro ตัวใหญ่ๆที่ราคาแสนหน่อยๆ ก็ยังไม่ตื่นเต้นมากนัก

และเรื่องราวที่ผมจะเล่าให้ฟังมันไม่ได้ยาวอะไรหรอกครับ เพราะเป็นแค่เหตุการณ์สั้นๆครั้งหนึ่งแต่่มันตราตรึงใจผมมากๆ

คือว่าเมื่อวานนี้ผมมีโอกาสได้เข้าไปกราบหลวงปู่เลี่ยม ฐิตธมฺโมที่ จุฬามาครับ และมีโอกาสที่จะเข้าไปกราบท่านใกล้ๆถึงในห้องรับรอง ก่อนถึงเวลาที่ท่านจะขึ้นแสดงพระธรรมเทศนา และในห้องนั้นท่านก็เมตตาสอนธรรมตามอัธยาศัยเล็กๆน้อยๆ เท่าที่ผมจับใจความได้ว่า " อย่าไปหลงยึดติดกับสิ่งสมมติโลกสมมติ มันก็แค่ชื่อสมมติขึ้นมาทั้งนั้น เรียกสิ่งนั้นว่าเป็นพระ เรียกว่าเป็นโยม เรียกว่าผู้ปฏิบัติธรรม มันก็เป็นแค่คนตั้งชื่อขึ้นมาเองเฉยๆ จริงๆแล้วก็เป็นคนเหมือนกันทั้งนั้น สังขารร่างกายตายไปก็เหมือนกันเท่านั้น " (ผมจำได้ไม่ทุกคำนะครับ สรุปเอาคร่าวๆเท่าที่สติปัญญาของผมพอจะเก็บเกี่ยวได้ หากจำได้ผิดพลาดประการใดกราบขอขมาพ่อแม่ครูอาจารย์ครับผม)

แต่สิ่งประทับใจไม่ใช่เท่านั้นครับ เรื่องของเรื่องคือผมได้มีโอกาสเข้าไปกราบท่านในห้องรับรองนั้นแหละครับ พอถึงเวลาท่านก็จะออกไปแสดงพระธรรมเทศนาตามกำหนดการไว้ แต่พระติดตามชาวต่่างชาติได้หยิบกล้องตัวน้อยๆแต่ทำให้ผมสั่นได้ ^___^
กล่าวคือ ท่านบอกว่าให้ถ่ายภาพบรรยากาศตอนที่หลวงปู่เลี่ยม ฐิตธมฺโม ท่านแสดงธรรมให้ด้วย เผื่อว่าจะได้นำไปใช้ประโยชน์ต่อไปในอนาคต ผมก็รับไปแบบงง เพราะว่าท่านเมตตาไว้ใจผมให้ผมถ่ายให้
นับเป็นการถ่ายภาพครั้งที่ตื่นเต้นมากๆๆๆๆๆๆอีกครั้งหนึ่งครับ

​

ปล. ผมแอบถือวิสาสะเปิดชมภาพในกล้องด้วยครับ เป็นภาพหลวงปู่เลี่ยม ตอนท่านเดินตรวจสอบสภาพความเรียบร้อยต่างๆ ไม่รู้ว่าในวัดหนองป่าพงหรือว่าวัดที่ไหนหรือว่าป่าที่ไหนครับ เพราะว่าถ่ายไปทางไหนก็ป่าทั้งนั้น อิอิ

 

ขอบคุณมากๆๆๆครับ

แต่ว่าถ้าจะอิ่มกว่านี้ต้องหาโอกาสได้นั่งฟังแบบสดๆให้ได้นะครับ

ยิ่งกว่านั้นถ้านั่งภาวนาไปด้วยนะครับ จิตมันสงบลงเร็วแบบบอกไม่ถูกเลยครับ

 

เด่วนี้พอมาทราบราคาก็เสียดายเหมือนกันครับพี่บอย,น้องศักดิ์..ที่เมื่อสามปีก่อนไม่เก็บไว้เยอะๆ..ก็เลยเก็บแค่เอาไว้แขวนบูชาก็พอ...
ทุกวันนี้ก็พอเหลือไว้แขวนบูชาจริงๆก็...หมุนเงินหมุนทอง,รวย-รวย,ผงดวงเศรษฐี,เสมาสมปราถนา,และพระผงนั่งตั่งอ่ะครับ....ที่เหลือหลวงปู่ท่านไปจำพรรษาอยู่กับท่านเจ้าของตัวจริงหมดแล้ว....ฮือๆ *__*

 

รุ่นนี้โอเคมากครับน้องช้างป่า..ภาพสวย คม ชัด
สาวกCanonเหมือนผมเลย ^^

เมื่อก่อนผมใช้ตัวนี้ครับ...ใช้มานาน6 - 7 ปีมั้ง..ก่อนที่จะเพิ่งมาเปลี่ยนตัวใหม่ได้ 2 ปี .

 

"]" อย่าไปหลงยึดติดกับสิ่งสมมติโลกสมมติ มันก็แค่ชื่อสมมติขึ้นมาทั้งนั้น เรียกสิ่งนั้นว่าเป็นพระ เรียกว่าเป็นโยม เรียกว่าผู้ปฏิบัติธรรม มันก็เป็นแค่คนตั้งชื่อขึ้นมาเองเฉยๆ จริงๆแล้วก็เป็นคนเหมือนกันทั้งนั้น สังขารร่างกายตายไปก็เหมือนกันเท่านั้น

------------------------------

ส่วนคำสอนด้านบนนั้น....เป็นความจริงเลยครับน้องช้างป่า " ทุกสิ่งล้วนสมมุติ " ^^

อนุโมทนาด้วยครับ... ^^

 

เห็นด้วยทุกๆตัวอักษรเลยครับน้องช้างป่า ^__^

 

เรื่อยๆ..สบายๆเลยครับพี่โญ.. ^__^
ผมจะรอชมพระสวยๆจากพี่เสมอครับ

 

สลับมาอนุโมทนาบุญกันก่อนครับ
อนุโมทนาบุญกับน้องช้างป่าด้วยครับ
หลวงปู่เลี่ยม ท่านควรแล้วที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อชาครับ
คำสอนของหลวงพ่อชาที่ประทับใจมีมากมาย
แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมอ่านแล้วจำไว้เตือนตนเอง
ท่านใช้ชื่อว่า "รูมันลึก" ชอบมาก ๆ ครับ