เรื่องเด่น 2012 คำบอกเล่าจากต่างดาวและหลักฐาน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 26 พฤศจิกายน 2010.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    * Tibet towers in Himalayas


    2010/01/25
    สิ่งก่อสร้างนี้ ตั้งอยู่บนเทือกเขา หิมาลัย ในหลายตำบล ในแต่ละตำบล มีลักษณะที่รูปแบบที่ต่างกัน(มองจากมุมสุง) บางแห่งเป็นลักษณะรูปดาว 8 แฉก บางแห่งเป็นรูป Inter locking rectangles ข้างในกลวง ไม่มีใครรู้ว่าแน่ชัดมันคืออะไร สร้างเพื่ออะไร

    Towers นี้ สร้า้งจากหิน คาดว่ามีอายุในระหว่าง 600-1400 ปี และ โครงสร้างมีความแข็งแรงมาก ที่นี่เคยมีแผ่นดินไหวหลายครั้งแต่ Towers นี้ยังตั้งอยู่ ไม่ถูกทำลายไปตามกาลเวลาและภัยธรรมชาติ และ Towers ทั้งหมดนี้ก่อสร้างในสถานที่ ผู้คนยังไม่มีภาษาเขียนใช้กัน ผู้คนท้องถิ่นที่นี่ ประดับบ้านด้วยเครื่องหมาย Swastika


    * ข้อสังเกตุ ชาว Aryan เคยเดินทางผ่านเทือกเขาหิมาลัย จากไซบิเรีย สู่ อินเดีย

    <OBJECT class=BLOG_video_class id=BLOG_video-9497fa75ab0612a4 codeBase=http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0 height=266 width=320 classid=clsid:D27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000>
























    <embed src="http://www.youtube.com/get_player" type="application/x-shockwave-flash"width="320" height="266" bgcolor="#FFFFFF"flashvars="flvurl=http%3A%2F%2Fv5.nonxt8.googlevideo.com%2Fvideoplayback%3Fid%3D9497fa75ab0612a4%26itag%3D5%26app%3Dblogger%26ip%3D0.0.0.0%26ipbits%3D0%26expire%3D1311978595%26sparams%3Did%252Citag%252Cip%252Cipbits%252Cexpire%26signature%3D1289AD94942590C6107B7A220E9A72CD2A00E054.6FB0E5A11B89B3AD9EB503DD2E0D1E9867DDCACE%26key%3Dck1&iurl=http%3A%2F%2Fvideo.google.com%2FThumbnailServer2%3Fapp%3Dblogger%26contentid%3D9497fa75ab0612a4%26offsetms%3D5000%26itag%3Dw160%26sigh%3DoeoV-S9tilnBk_Ya_uUd6tu5pk0&autoplay=0&ps=blogger"allowFullScreen="true" /></OBJECT>[​IMG]





    <OBJECT class=BLOG_video_class id=BLOG_video-cb15fa82d5e19a76 codeBase=http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0 height=266 width=320 classid=clsid:D27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000>
























    <embed src="http://www.youtube.com/get_player" type="application/x-shockwave-flash"width="320" height="266" bgcolor="#FFFFFF"flashvars="flvurl=http%3A%2F%2Fv16.nonxt6.googlevideo.com%2Fvideoplayback%3Fid%3Dcb15fa82d5e19a76%26itag%3D5%26app%3Dblogger%26ip%3D0.0.0.0%26ipbits%3D0%26expire%3D1311978595%26sparams%3Did%252Citag%252Cip%252Cipbits%252Cexpire%26signature%3D5D8039CD13A9A6388391476A56B2E620FAF55110.33406ADFA8342398DA7FC41900F5DF37CC3B5170%26key%3Dck1&iurl=http%3A%2F%2Fvideo.google.com%2FThumbnailServer2%3Fapp%3Dblogger%26contentid%3Dcb15fa82d5e19a76%26offsetms%3D5000%26itag%3Dw160%26sigh%3D78NSajbA6NlSbLB4jZA_fBHacos&autoplay=0&ps=blogger"allowFullScreen="true" /></OBJECT>[​IMG]




    <OBJECT class=BLOG_video_class id=BLOG_video-4aef4ab6a1964da9 codeBase=http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0 height=266 width=320 classid=clsid:D27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000>
























    <embed src="http://www.youtube.com/get_player" type="application/x-shockwave-flash"width="320" height="266" bgcolor="#FFFFFF"flashvars="flvurl=http%3A%2F%2Fv9.nonxt2.googlevideo.com%2Fvideoplayback%3Fid%3D4aef4ab6a1964da9%26itag%3D5%26app%3Dblogger%26ip%3D0.0.0.0%26ipbits%3D0%26expire%3D1311978595%26sparams%3Did%252Citag%252Cip%252Cipbits%252Cexpire%26signature%3D563DCBECA670D8A20BC633A9BEE8119408CD8449.66DB051145786589E8902FFFB864B25BF40C4425%26key%3Dck1&iurl=http%3A%2F%2Fvideo.google.com%2FThumbnailServer2%3Fapp%3Dblogger%26contentid%3D4aef4ab6a1964da9%26offsetms%3D5000%26itag%3Dw160%26sigh%3DvmDXTjGV7cn3J-orJ-_indVqgns&autoplay=0&ps=blogger"allowFullScreen="true" /></OBJECT>[​IMG]



    <OBJECT class=BLOG_video_class id=BLOG_video-9ecfc3fa0577fb0b codeBase=http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0 height=266 width=320 classid=clsid:D27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000>
























    <embed src="http://www.youtube.com/get_player" type="application/x-shockwave-flash"width="320" height="266" bgcolor="#FFFFFF"flashvars="flvurl=http%3A%2F%2Fv9.nonxt4.googlevideo.com%2Fvideoplayback%3Fid%3D9ecfc3fa0577fb0b%26itag%3D5%26app%3Dblogger%26ip%3D0.0.0.0%26ipbits%3D0%26expire%3D1311978595%26sparams%3Did%252Citag%252Cip%252Cipbits%252Cexpire%26signature%3D3F6DB245086220A68939B6BD8591FBCEAF92A64F.59F1FF607012F4C0E0DFA8FDEE6668B10876F4B9%26key%3Dck1&iurl=http%3A%2F%2Fvideo.google.com%2FThumbnailServer2%3Fapp%3Dblogger%26contentid%3D9ecfc3fa0577fb0b%26offsetms%3D5000%26itag%3Dw160%26sigh%3DKGCkxVM6qtJWo0jv9YAhaplPi-0&autoplay=0&ps=blogger"allowFullScreen="true" /></OBJECT>[​IMG]



    <OBJECT class=BLOG_video_class id=BLOG_video-ba32571d5a4e8cfd codeBase=http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0 height=266 width=320 classid=clsid:D27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000>
























    <embed src="http://www.youtube.com/get_player" type="application/x-shockwave-flash"width="320" height="266" bgcolor="#FFFFFF"flashvars="flvurl=http%3A%2F%2Fv22.nonxt8.googlevideo.com%2Fvideoplayback%3Fid%3Dba32571d5a4e8cfd%26itag%3D5%26app%3Dblogger%26ip%3D0.0.0.0%26ipbits%3D0%26expire%3D1311978595%26sparams%3Did%252Citag%252Cip%252Cipbits%252Cexpire%26signature%3DC0FCD3E0E9D6FCBC7E3541559F3AB792FC2D04C.FB2ABD1CA3DD4158029CF9F864AA08B986BDB56%26key%3Dck1&iurl=http%3A%2F%2Fvideo.google.com%2FThumbnailServer2%3Fapp%3Dblogger%26contentid%3Dba32571d5a4e8cfd%26offsetms%3D5000%26itag%3Dw160%26sigh%3D-LrUw7yEcJPC_OxtTIUYB_1x7dA&autoplay=0&ps=blogger"allowFullScreen="true" /></OBJECT>[​IMG]





    เขียนโดย Dots conector ที่ 1/25/2010

    Dots connector: * Tibet towers in Himalayas
     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    * ดาว NIBIRU {planet x} ที่จริงมันเข้ามาใกล้โลก ในปี 2003


    2009/12/25
    ดาว NIBIRU {planet x} ที่จริงมันเข้ามาใกล้โลก ในปี 2003

    แต่การเข้าใกล้โลกครั้งนั้นของ NIBIRU ไม่เคยมีการเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณะชน

    เพราะมีเรื่องที่เรียกได้ว่าสร้างความตกใจ ฉงนสนเท่กับ นักวิทยาศาสตร์ ไม่น้อย กับเหตุการณืที่เกิดขึ้น แต่นักฟิสิกส์ที่ ชื่อ Nassim Haramein ชาวSwiss นำเรื่องนี้มาเปิดเผย

    คือ ดาวเทียมSoho

    จับภาพ ดาวหาง ขนาดใหญ่ (ขนาดใหญ่กว่าดาวพฤหัส) ดาวหางดวงนี้ว่ากันว่าคือ NIBIRU นั่นเอง เข้ามาใน solar system และเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ซึ่งดูเหมือนจะพุ่งชนดวงอาทิตย์ แต่ทันใดนั้น

    ได้มีรังสีพุ่งออกมาจากดวงอาทิตย์ ยิงตรงไปที่ดาวหาง จน ออกห่างจากดวงอาทิตย์ หลุดจากวงโคจร ไป

    นักวิทยาศาสตร์ อย่างNassim ยังหลุดปากออกมาว่านี่เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ ชึ่งต้องมีใครซึ่งกำลัง ปกป้อง ดูแลเราอยู่

    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/zjD5aayptXk&hl=en_US&fs=1& width=425 height=344 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>

    ข้างนอกนั้น บนนั้นกำลังเกิดสงคราม (star war) อยู่หรือไม่ ให้เข้าไปดูภาพจากกล้อง soho ของ นาซ่า ที่จับภาพได้ว่า มีการ ยิง torpedo ใส่ object (UFO)

    http://www.bibliotecapleyades.net

    sound of space-Voice และJupiter sounds

    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/t0lq6ttvh9M&hl=en_US&fs=1& width=425 height=344 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>

    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/e3fqE01YYWs&hl=en_US&fs=1& width=425 height=344 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>


    เขียนโดย Dots conector ที่ 12/25/2009

    Dots connector: * ดาว NIBIRU {planet x} ที่จริงมันเข้ามาใกล้โลก ในปี 2003

    ปล.ถ้าคลิบดูไม่ได้ ก็กดไปดูที่ลิ้งค์ต้นฉับแทน ละกัน เนาะ<!-- google_ad_section_end -->
     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    * โลกเรานั้นมีชีวิต


    2009/12/25 Space-Time-lines

    http://www.freewebs.com


    อันที่จริงโลกเรานั้นมีชีวิต หรือเรียกอีกทีก็เป็นพลังงาน(spiritual) ที่คล้ายกับมนุษย์


    ในยุคโบราณนั้นค้นหาน้ำและแร่ธาตุต่างๆไต้พื้นผิวโลกโดย ใช้สิ่งที่เรียบง่ายมาก คือใช้กิ่ง hazel,rowan ,willow โดยทำเป็นรูปตัว Y ชี้ไปตามจุดที่เรียกว่า earth energy grid
    ถ้ากิ่งไม้สั่นไหวก็แสดงว่าตรงนั้นมีแร่ธาตุหรือน้ำอยู่

    ทำไมคนในยุโบราณถึงเข้าใจในสิ่งนี้ ก็เพราะว่าพลังงานโลกนั้นเชื่อมโยงกับพลังงานที่มีอยู่ในมนุษย์

    space time-lines

    มีหลายประเทศที่พยายามค้นหาพลังงานของโลก ( ley-lines)

    รูปร่างของพลังงานโลก ley-lines ไม่สามารถวัดความยาวของมันได้ เพราะเส้นทางหรือสนามพลังงานของโลกนั้นมีขอบเขตที่ไม่สิ้นสุด ไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดจบ
    ในภาพเส้นที่อยู่ตรงกลางถ้าพลิกมองด้านตรงดู จะเห็นว่าเป็นแค่จุด และมีวงจรขั้วบวกและลบวิ่งอยู่เป็นวงกลม ลักษณะเหมือนโดนัท
    แต่ถ้ามองด้านข้างจะเป็นลักษณะเหมือนคลื่นที่วิ่งสลับขั้วบวก- ลบ และจุดตรงกลางที่มันวิ่งมาชนกันจะเท่ากับ 0 หรือสมดุล(Neutral -Zero line)

    [​IMG]



    จุดที่3เรียกว่าสมดุลนั่นแหละ เป็นจุดที่(Absolute )คงที่



    ดังนั้น earth energy grid นั้นสุดท้ายแล้วก็คือสิ่งนี้

    การเคลื่อนที่นั้นเป็นการเปลี่ยนฐานข้อมูลให้เป็นสิ่งที่มองเห็นได้ เป็นการเคลื่อนที่ระหว่างขั้ว+และ- สรุปคือทุกสิ่งที่เรามองเห็นคือสิ่งที่ว่างเปล่า

    มันเป็นเพียงแค่พลังงานเท่านั้น
    เช่นเดียวกับร่างกายมนุษย์ ใช้พลังงาน พลักดันร่างกายให้เคลื่อนไหว
    แต่จริงๆแล้วด้วยตัวพลังงาน เองแล้วมันไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน มันยังอยู่ที่นั่น ที่เดิม (เวลาของปัจุบัน )In truth, we or our consciousness rather is always in the ETERNAL PRESENT.

    เรารู้ว่าร่างกายเราเคลื่อนไหว สามารถไปตามที่ต่างได้ ฯลฯ แต่ที่จริงแล้วเราอยู่ที่เดิมเพียงแต่มีการเปลี่ยนฐานข้อมูล ในพลังงาน เท่านั้นเองดังนั้นเราจึงอาศัยอยู่ใน (unconscious)
    ที่เราไม่สามารถรู้สึกได้เพราะจิตไต้สำนึกเรายังไม่ตื่น และ Ego ที่พยายามผลักความเป็นจริงเกี่ยวกับผู้สร้างออกไป

    [​IMG]
    earth energy grid













    คนในสมัยโบราณ(ชาวอาระยัน)สร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆบนแนวearth energy grid เพื่อสร้างความสมดุลให้แก่โลก หลังจากที่ continent จมลงทะเล
    คนในสมัยโบราณ(ชาวอาระยัน)สร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆบนแนวearth energy grid เพื่อสร้างความสมดุลให้แก่โลก หลังจากที่ continent จมลงทะเล


    [​IMG]
    [​IMG]






















    ร่างกายของมนุษย์เองก้อมีจุดของพลังงานที่เหมือนกับโลก

    [​IMG]












    เขียนโดย Dots conector ที่ 12/25/2009


    Dots connector: * โลกเรานั้นมีชีวิต
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    2009/12/20 ทำไม Alex Collier ได้ถูกเผ่าพันธ์ Andromedans เป็นเผ่าพันธ์ที่เป็นมิตรกับ เผ่าพันธ์เรา จับตัวไปเมื่อตอนเด็ก อายุประมาณ 6-7 ขวบ
    แต่ตอนนั้นมีความทรงจำบางส่วนที่ถูกลบไป (เพราะเค้ายังเด็กเกิน)แต่พอ อายุ 14 ก็ถูกจับตัวไปอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ Alex บอกว่าเค้าไม่รู้สึกกลัวไดๆเลย
    และ Andromedans ขอความร่วมมือจากเค้า ที่จะติดต่ดผ่านและหาข้อมูลให้ Alex ตอบตกลง และก็มีการติดต่อกันอีกหลายครั้งโดยAndromedans
    ได้ให้เครื่องมือสื่อสารชนิดพิเศษ

    ทีนี้เอาแบบพอกว้างๆนะครับ

    ในจักวาลนี้ มีมากมายหลาย planet หลาย galaxy มีเผ่า พันธ์ หลายเผ่าพันธ์ โลกเรานั้น มนุษย์เป็นเผ่าพันธ์ที่ถูุกสร้างให้เชื่อมโยงกับโลก
    และเป็นเผ่าพันธ์ดั้งเดิมอาศัยอยู่ที่นี่
    เพราะโลกใบนี้จริงๆแล้วมีชีวิต มนุษย์มีพลังงานที่เชื่อมโยงกับโลกทำให้โลกมีชีวิตอยู่ได้ และทำให้จักวาลขับเคลื่อน
    (ผู้สร้างที่หลายศาสนาเรียกว่าพระเจ้าเป็นพลังงานเริ่มต้นสร้างทุกเผ่าพันธ์ทุก planet ทุกgalaxy )
    และในจักวาลนั้นมีระบบระเบียบ (ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี) เอาแบบเข้าใจง่ายๆนะ ก็เหมือนประเทศเราที่มี ประมุข ของประเทศ และหลากหลายระดับ และโลกนี้เป็น planet ที่สามารถไปได้หลาย dimension เปรียบเทียบเหมือนกับเมืองหลวงของประเทศอะครับ
    เพราะเหตุนี้จึงเป็นที่หมายตาของ เผ่าพันธ์ Reptilian
    หลายล้านล้านปีก่อนที่มนุษย์ถูกสร้างนั้น มีหลายเผ่าพันธ์เข้ามาเยือนโลก แต่ไม่ได้มาอาศัยอยู่
    Reptilian เป็นเผ่าพันธ์แรกที่นำโลกใบนี้เข้าสู่แผนที่จักวาล และถือยึดครอง (คล้ายกับโคลัมบัสอ่ะครับ)
    ย้อนไปอีกนิด Reptilian นั้นมาจากดาว Dragonis และทำสงครามยึดครองดาวดวงอื่น เช่น Orionซึ่ง Graysอาศัยอยู่

    Grays เผ่าพันธ์ที่ อ่อนแอ จึงแพ้สงคราม จึงโดน พวก Reptilian เปลียน ยีนส์ ทำให้ไม่สามารถสืบเผ่าพันธ์ได้
    และบางส่วนก็อนำไปใช้แรงงาน
    เพราะฉนั้นเอง Grays ที่อาศัยอยู่ในโลกนี้จึงต้องการ รักษาเผ่าพันธ์ของตัวเองไว้โดยการสต๊อคยีนส์ ไว้ผสมข้ามเผ่าพันธ์
    พวกนี้อาศัยอยู่ได้โดยดูดพลังงานจากมนุษย์ และในขณะเดียวกันก็ทำงานให้กับ Reptilian แต่บางที Grays ก็ช่วยอะไรบางอย่างกับ
    มนุษย์เหมือนกันแต่ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนเสมอ
    มาถึง Reptilian ที่ยังไม่ผสมDNA ก็อยู่ไต้ดิน ในน้ำ (โลก) พวกนี้มีชีวิตอยู่ด้วยการอาศัยเลือดจากสิ่งมีชีวิตในโลกนี้
    บางส่วนที่ผสมแล้วก็ยังดื่มเลือดอยู่
    และ anunaki ก็เป็นเผ่าพันธ์Reptilian เหมือนกันตามภาพครับ
    Reptilian เป็นเผ่าพันธ์ระดับ 3 (เทคโนโลยีสุงแต่spiritualหรือพลังงานต่ำกว่ามาก)จะต่ำกว่า Andromedas (เทคโนโลยีสุงเท่ากับ spiritualหรือพลังงาน)
    ส่วนลักษณะ Andromedas นั้นไม่มีน้ำหนัก พูดตรงๆคือจับต้องไม่ได้ แต่เป็นรูปร่างของพลังงาน

    ก่อนหน้าAndromedas ก็มีอีกเผ่าพันธ์ผมจำชื่อไม่ได้แล้ว เดี๋ยวค่อยหามาตอบ เคยเข้ามาเฝ้าาดูเผ่าพันธ์เราเหมือนกันแต่ไม่ได้ช่วย
    จนกระทั่งระบอบจักวาลเกิดสดุด จึงเป็นสาเหตุให้Andromedas ต้องยื่นมือมาช่วย
    และAndromedas พูดถึงเผ่าพันธ์มนุษย์ว่า เป็นเผ่าพันธ์ที่ถูกสร้างมาพิเศษมากเพราะมีการรวมเอายีนส์ DNA ของเผ่าพันธ์humanoid ทั้งหมด
    20กว่าสายพันธ์ (อันนี้ไม่แน่ใจจำนวนเดี๋ยวกลับไปฟังวิดิโออีกที) Andromedas บอกว่าพลังงานที่อยู่ในมนุษย์นั้นเป็นพลังงานเดียวกันกับพลังงานต้นแบบ(ผู้ สร้าง)
    (ยกตัวอย่างเช่นน้ำทะเลหยดเดียวกับน้ำทะเลทั้ง ocean นั้นมีโมเลกุลเหมือนกัน)

    นี่เป็นอีกสาเหตุนึงที่ Reptilians ต้องการผสมDNA กับมนุษย์ มนุษย์เป็นเผ่าพันธ์เดียวที่มีการรวบยีนส์DNA ได้สมบูรณ์แบบ

    และพวกนี้หลอกใช้มนุษย์บางส่วนที่เห็นแก่ได้โดยแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี กับเผ่าพันธ์ของตัวเอง (โดยการทำลายเผ่าพันธ์ของตัวเอง ผ่าน สงคราม โรคระบาด และอื่นๆอีกมากมาย)และกุมความลับไว้จากสายตาของเผ่าพันธ์ตัวเอง มนุษย์ส่วนนี้ ต้องการย้ายถิ่นฐานไปดาวดวงอื่น(เพราะไม่ต้องการอยู่ไต้การควบคุมของ Reptilians ) เช่นดวงจันทร์หรือ ดาวอังคาร แต่หารู้ไม่ว่า ที่ดวงจันทร์และดาวอังคาร
    ก็มีพวกReptilians เหมือนกัน

    ณ ตอนนี้ NASA จึงยกเลิกความคิดที่จะย้ายไปดาวดวงอื่นโดย การยึดขั้วโลกเหนือไว้เป็นอณานิคม โดยการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ระเบิดไต้ผิวโลกทำให้แกนโลกเอียง
    เพื่อจะให้ขั้วโลกหนืออุ่นขึ้น

    ผมแปลจากที่ Alex พูดไว้ และรายละเอียดนั้นยังมีอีกมากมาย จากเวบdavidicke ก้อมี ที่อธิบายว่าอาหาร และ ยา
    บางชนิดทำให้
    ยีนส์ของมนุษย์เปลี่ยนไป ไม่สามารถมีลูกได้(เป็นหมัน) ก็เป็นการลด กำจัดเผ่าพันธ์มนุษย์อีกทางหนึ่ง


    เขียนโดย Dots conector ที่ 12/20/2009

    Dots connector: * แปลจาก Alex Collier
     
  5. กัลกิ

    กัลกิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +5
    ธรรมชาติคือสิ่งสร้างสรรค์และทำลาย พระพุทธศาสนาก็สอนถึงหลักความสมดุล หรือจะเรียกว่าทางสายกลางก็ไม่ผิดจากกันนัก โดยเฉพาะมีพระพุทธศาสนาอีกแบบหนึ่งซึ่งเราลืมกันไปแล้ว พระพุทธศาสนาแบบนี้พบในแถบใต้จรดอินโดนีเซีย ปะปนกับแบบมหายาน และยังพบที่ภาคอีสานตอนล่าง น่าจะพบที่เขมรอีก เราเรียกพระพุทธศาสนาแบบศุนย์ภาวะ พบหลักฐานที่จารึกปราสาทหินพิมาย คำว่า ศูนย์ภาวะ ก็หมายถึง การดับสูญ (ทั้งกิเลสและการเวียนว่ายตายเกิด) ซึ่งทางเถรวาทจะเรียก "สุญญตา" นอกจากนี้ยังบอกได้จากเลขฐานจำนวนเต็ม ก็คือ เส้นจำนวนนั่นเอง ถ้าเราลากเส้นจำนวนจะพบว่าธรรมชาติของตัวเลขจะมี 3 ชนิดใหญ่ ก็คือ จำนวนเต็มลบ จำนวนเต็มศูนย์ และจำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มศูนย์อยู่ตรงกลางพอดี นั่นคือศูนย์ภาวะหรือทางสายกลาง หรือความสมดุลนั่นเอง นอกจากนี้ยังพบหลักฐษนอีกว่า เลขศูนย์นี้ถูกค้นพบในแถบอารยธรรมสินธุ (อินเดีย เนปาล โฮเมนโดจาโร - ฮารัปปา) และอารยธรรมสุวรรณภูมิ (ไทย ขอม ลาว มอญ พม่า) นี้มาก่อน ฝรั่งไม่มีเลขศูนย์ตั้งแต่แรกแล้วครับ หลักฐานก็คือเลขฮินดูอารบิค และเลขไทยที่เราอยู่ทุกวันนี้ไงครับ ฝรั่งรับวัฒนธรรมเลขฮินดูอารบิคไปใช้นั่นเอง <?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock><v:shape style="Z-INDEX: -1; POSITION: absolute; MARGIN-TOP: 0.05pt; WIDTH: 225pt; HEIGHT: 208.5pt; MARGIN-LEFT: 0.05pt; mso-position-horizontal: absolute; mso-position-horizontal-relative: text; mso-position-vertical: absolute; mso-position-vertical-relative: text" id=il_fi alt="" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_s1032"><v:imagedata src="file:///C:\Users\user\AppData\Local\Temp\msohtml1\12\clip_image001.jpg" o:href="http://www.mongkhonthip.com/legend/images/legend_park28.jpg"></v:imagedata></v:shape><o:p></o:p>
     
  6. กัลกิ

    กัลกิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +5
    ธรรมชาติคือสิ่งสร้างสรรค์และทำลาย พระพุทธศาสนาก็สอนถึงหลักความสมดุล หรือจะเรียกว่าทางสายกลางก็ไม่ผิดจากกันนัก โดยเฉพาะมีพระพุทธศาสนาอีกแบบหนึ่งซึ่งเราลืมกันไปแล้ว พระพุทธศาสนาแบบนี้พบในแถบใต้จรดอินโดนีเซีย ปะปนกับแบบมหายาน และยังพบที่ภาคอีสานตอนล่าง น่าจะพบที่เขมรอีก เราเรียกพระพุทธศาสนาแบบศุนย์ภาวะ พบหลักฐานที่จารึกปราสาทหินพิมาย คำว่า ศูนย์ภาวะ ก็หมายถึง การดับสูญ (ทั้งกิเลสและการเวียนว่ายตายเกิด) ซึ่งทางเถรวาทจะเรียก "สุญญตา" นอกจากนี้ยังบอกได้จากเลขฐานจำนวนเต็ม ก็คือ เส้นจำนวนนั่นเอง ถ้าเราลากเส้นจำนวนจะพบว่าธรรมชาติของตัวเลขจะมี 3 ชนิดใหญ่ ก็คือ จำนวนเต็มลบ จำนวนเต็มศูนย์ และจำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มศูนย์อยู่ตรงกลางพอดี นั่นคือศูนย์ภาวะหรือทางสายกลาง หรือความสมดุลนั่นเอง นอกจากนี้ยังพบหลักฐษนอีกว่า เลขศูนย์นี้ถูกค้นพบในแถบอารยธรรมสินธุ (อินเดียเนปาล โฮเมนโดจาโร - ฮารัปปา)) และอารยธรรมสุวรรณภูมิ (ไทย ขอม ลาว มอญ พม่า) นี้มาก่อน ฝรั่งไม่มีเลขศูนย์ตั้งแต่แรกแล้วครับ หลักฐานก็คือเลขฮินดูอารบิค และเลขไทยที่เราอยู่ทุกวันนี้ไงครับ ฝรั่งรับวัฒนธรรมเลขฮินดูอารบิคไปใช้นั่นเอง

    ขออภัยที่โพสซ้ำ เนื่องจาก โพสเมื่อกี้ตัวอักษรเล็กไปสักหน่อยครับ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    Omnec สตรีผู้มาจากต่างดาว แฉหมดเปลือก UFO จักรวาล<!-- google_ad_section_end -->




    <!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "ca-pub-2576485761337625";/* 336x280 */google_ad_slot = "0551074580";google_ad_width = 336;google_ad_height = 280;//--> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20110622/r20110627/show_ads_impl.js"></SCRIPT>
    [​IMG]

    Die Frau von der Venus/Interview mit Omnec Onec 1


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=21uVnv1Tm-g&feature=player_detailpage"]YouTube - ‪UFO - (OMNEC ONEC - ICH KAM VON DER VENUS - 1v4).avi‬‏[/ame]

    [FONT=&quot]ผู้กลับชาติมาเกิดจากดาวประกายพรึก[/FONT]

    พิธีกร: คำถามแรกนะครับ ออมเนค โอเนค คือชื่อของคุณใช่ไหมครับ?
    Omnec: จริง ๆ เรียก ออมเนค ก็พอค่ะ แต่ ออมเนค โอเนค เป็นชื่อจริงของฉันค่ะ
    พิธีกร: อย่างแรกสุดเลยนะครับ ผู้ชมทางบ้านหรือเราเองได้แต่จินตนาการว่ามีผู้คนบนดาวศุกร์เพราะนักวิทยา ศาสตร์บอกว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาวดวงนั้น หรือว่าพวกเขาไม่ได้บอกความจริงแก่เรา หรือว่าจริง ๆ แล้วเราไม่สามารถมองเห็นสิ่งมีชีวิตบนดาวศุกร์ได้ แล้วคุณอยู่ในมิติอื่นหรือเปล่าครับ?
    Omnec: ในยุคหนึ่งนั้นสิ่งมีชีวิตบนดาวศุกร์ก็เคยมีอารยธรรมอยู่ในโลกทางกายภาพ อยู่เช่นเดียวกับมนุษย์บนโลกใบนี้ แต่นั่นก็เป็นเวลานานมาแล้ว อย่างน้อยก็ 20 ล้านปีค่ะ
    พิธีกร: นานมากจริง ๆ นะครับ
    Omnec: แต่ว่า ณ ตอนนี้วัฒนธรรมและสังคมของเราอยู่ในมิติคู่ขนานกับโลกทางกายภาพ อันที่จริงชาวดาวศุกร์ก็เป็นบรรพบุรุษของชนเผ่าโบราณบางเผ่าพันธุ์บนโลกนี้ แล้วอันที่จริงทุกชนเผ่าบนโลกล้วนสืบเชื้อสายจากชนเผ่าจากดาวดวงอื่นทั้ง สิ้น แต่เหตุการณ์ทั้งหมดก็เกิดขึ้นก่อนที่มนุษย์จะบันทึกประวัติศาสตร์เอาไว้ เสียอีกนะคะ
    พิธีกร: แล้วชาวดาวศุกร์ก็เป็นกลุ่มแรก ๆ ที่เกิดขึ้นในจักรวาลด้วยใช่ไหมครับ?
    Omnec: ใช่ค่ะ ก็จริง ๆ แล้วมนุษย์และระบบสุริยะต่าง ๆ มาจากกาแล็กซี่อื่นก่อนที่โลกจะก่อกำเนิดเป็นดาวเคราะห์เสียอีก พวกเขาถูกส่งมาเพื่อคุ้มครองกาแล็กซี่แห่งนี้และจุติเป็นสิ่งมีชีวิตขั้นสูง แล้วก็เข้าครองดาวเคราะห์อีกสี่ดวงในระบบสุริยะก็คือ ดาวศุกร์ ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี และ ดาวเสาร์ พวกเขาก็คือบรรพบุรุษของเผ่าพันธุ์หลักสี่เหล่าบนโลกนี้ แล้วต่อมาพวกเขาก็เข้าครองโลกนี้ด้วย นับจากนั้นเป็นต้นมาพวกเขาที่เป็นต้นกำเนิตเผ่าพันธุ์ ไม่ใช่กลุ่มที่มาบนโลกนะคะ แต่เป็นกลุ่มดั้งเดิมจากดาวอื่นก็อยู่ในมิติคู่ขนานกับโลกทางกายภาพ แล้วด้วยวิทยาการและความสามารถทางจิตวิญญาณพวกเราชาวดาวศุกร์ เราก็สำแดงร่างปรากฏและอยู่ในจักรวาลทางกายภาพได้ค่ะ
    พิธีกร: แล้วบนดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ เช่น ดาวอังคาร ดาวเสาร์ มีสิ่งมีชีวิตอยู่ไหมครับ?
    Omnec: ไม่ค่ะ ไม่ได้อยู่บนโลกทางกายภาพ
    พิธีกร: แต่ว่าอยู่ในมิติที่มีระดับการสั่นสะเทือนสูงกว่าใช่ไหมครับ?
    Omnec: ใช่แล้วค่ะ แต่คุณก็ยังพบร่องรอยอารยธรรมของชนเผ่าต่าง ๆ ได้อยู่ค่ะ
    พิธีกร: บนดาวอังคารสินะครับ
    Omnec: ใช่ค่ะ ก็เห็นว่ามีการค้นพบอยู่บ้าง
    พิธีกร: ก็คงเป็นอย่างนั้นนะครับ แต่บนดาวอังคารนี่ก็ยังมีสิ่งมีชีวิตขั้นสูงที่อยู่ในมิติสูงเช่นเดียวกับ ชาวดาวศุกร์อยู่ใช่ไหมครับ?
    Omnec: แน่นอนค่ะ
    พิธีกร: ครับ ว่าแต่คุณมายังโลกนี้ได้อย่างไร คุณขึ้น UFO มาหรือว่ามาในแบบอื่นครับ?
    Omnec: อืม...บนดาวเคราะแต่ละดวง โดยเฉพาะดาวเคราะห์ที่เก่าแก่จะมีเมืองอยู่แห่งหนึ่งที่มีที่ตั้งอยู่ทั้งใน โลกทางกายภาพและในมิติคู่ขนานด้วย ประมาณว่าเป็นเมืองที่เร้นอยู่…
    พิธีกร: บนโลกนี้ด้วยเหรอครับ หรือว่าบนดาวดวงอื่น?
    Omnec: บนโลกนี้ก็มีวิหารเร้นลับโบราณอยู่ตามที่ต่าง ๆ แล้ววิหารเหล่านี้ก็เป็นที่ที่มนุษย์เรียกว่าประตูเชื่อมระหว่างมิติ แต่ว่าสถานที่เหล่านี้ก็ถูกซ่อนไว้นานมาแล้ว บนดาวดวงอื่น ๆ ก็มีสถานที่ลักษณะนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งเปิดโอกาสให้เราปรากฏร่างได้ และยังทำให้เรานำยานพาหนะออกมาใช้เดินทางในโลกทางกายภาพได้อีกด้วย เรามียานอวกาศที่ใช้เดินทางระหว่างกาแลคซี่ ระหว่างมิติ และข้ามเวลา และนี่ก็คือวิธีที่ฉันเดินทางมายังโลกนี้ หลังจากที่ฉันสำแดงร่างปรากฏในเมืองที่ว่านี้บนดาวศุกร์ ก็มีคนพาฉันขึ้นยานอวกาศซึ่งใช้วิธีเดียวกันกับการปรากฏร่าง แล้วฉันก็ถูกนำมาที่ธิเบตมาอยู่ที่สำนักสงฆ์แล้วพำนักอยู่ที่นั่นในช่วงปี แรก เพื่อที่จะปรับตัวให้ชินกับสภาพแรงดึงดูดของโลก เรียนรู้ภาษา และปรับสภาพร่างกายของตัวฉันเองค่ะ
    พิธีกร: คุณคงต้องปรับตัวลำบากเลยทีเดียวนะครับ จากดาวที่มีแรงดึงดูดน้อยแล้วต้องมาอยู่ยังโลกที่แรงดึงดูดต่างกันเช่นนี้
    Omnec: ใช่แล้วค่ะ การปรับสภาพร่างกายนั้นลำบากจริง ๆ
    พิธีกร: คุณออกเดินทางมาตอนอายุเท่าไหร่ครับ แล้วคุณลงมาเกิดใหม่หรือว่ามาพร้อมกายหยาบเลย?
    Omnec: ถ้าจะนับตามมาตรฐานระบบเวลาและความเข้าใจของมนุษย์แล้วละก็ ฉันก็มาตอนที่ฉันเป็นเด็กอายุเจ็ดขวบค่ะ
    พิธีกร: เป็นช่วงที่คุณมาครั้งแรกสินะครับ
    Omnec: แต่ถ้านับตามเวลาที่อยู่ในมิติของชาวดาวศุกร์รวมถึงเวลาของโลกมนุษย์แล้ว ฉันก็คงเกิดมาได้ 130 ปีแล้วละค่ะแม้ว่าฉันจะดูเหมือนเด็กเจ็ดขวบก็ตาม เพราะว่าช่วงอายุพวกเรายืนยาวมากและกระบวนการชราภาพก็ดำเนินไปอย่างช้ามาก ณ ตอนนี้อายุของฉันที่ใกล้เคียงที่สุดก็คือ 250 ปีค่ะ
    พิธีกร: คุณก็ยังดูดีอยู่นะครับแม้อายุจะปาเข้าไปขนาดนั้นแล้ว
    Omnec: แต่บนโลกฉันก็มีอายุเทียบเท่ากับคนอายุ 50 ปีค่ะ
    พิธีกร: ครับ แล้วนี่เป็นงานหรือเป็นหน้าที่ที่คุณต้องมาที่นี่หรือว่าคุณอาสามา แล้วทำไมคุณถึงมาที่นี่ครับ?
    Omnec: เป็นเหตุผลรวมกันทั้งหมดนั่นแหละค่ะ ฉันได้รับคำขอจากจิตวิญญาณเบื้องบน
    พิธีกร: จิตวิญญาณของดาวศุกร์หรือว่าเป็นจิตวิญญาณ...
    Omnec: จิตวิญญาณเบื้องบนเป็นจิตวิญญาณของสรรพสิ่งทั้งมวลในจักรวาลค่ะ
    พิธีกร: ในมิตินี้แล้วก็มิติที่สูงกว่าด้วย ไม่ใช่แค่ดาวศุกร์และดาวอื่น ๆ ใช่ไหมครับ?
    Omnec: ค่ะ เหล่าจิตวิญญาณเบื้องบนมีภารกิจเกี่ยวข้องกับชะตาลิขิตของมนุษย์บนโลกและโลก ทางกายภาพด้วย จิตวิญญาณเบื้องบนเหล่านี้ครั้งหนึ่งก็เคยมาจุติบนโลกแล้ว ณ ตอนนี้ก็วิวัฒน์เป็นจิตวิญญาณขั้นสูงแล้วค่ะ
    พิธีกร: เหมือนกับศาสดาต่าง ๆ ใช่ไหมครับ พระเยซูก็เช่นกันใช่ไหมครับ?
    Omnec: ค่ะ พระเยซูก็เป็นจิตวิญญาณหนึ่งในกลุ่มนั้นค่ะ....ภารกิจของเหล่าจิตวิญญาณ เบื้องบนก็คือช่วยให้มนุษย์และคนในสังคมได้ทราบเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่ ขาดหายไป สิ่งที่มนุษย์ไม่ได้บันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ซึ่งสูญหายไปบนโลกนี้ และให้มนุษย์ทราบถึงต้นกำเนิดที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง จิตวิญญาณจะนำข้อมูลกลับมาให้มนุษย์เพราะว่าโลกนี้กำลังเข้าสู่ยุคที่เรียก ว่า “New Age” (นิว เอจ) ซึ่งการรับรู้และจิตสำนึกจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และข้อมูลต่าง ๆ ต้องนำกลับมาให้มนุษย์ได้รับทราบเพื่อที่จะเปลี่ยนมุมมองและแนวคิดของมนุษย์ บนโลก ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกับคำสอนที่ศาสนาคริสต์มีอยู่ค่ะ
    พิธีกร: คุณเป็นคนเดียวที่มาจากดาวศุกร์หรือเปล่า หรือว่ามีอีกหลายคนมาที่นี่ครับ?
    Omnec: ไม่ค่ะ จริง ๆ แล้วมีอยู่มากมายเลย
    พิธีกร: แต่คุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่าคนทั่วไปจะรู้จักกันดีนะครับ
    Omnec: ก็...ฉันเป็นคนที่ได้รับเลือกให้เผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณชนค่ะ
    พิธีกร: ถ้าอย่างนั้นก็ยังมีอีกหลาย ๆ คนปฏิบัติงานอยู่ใช่ไหมครับ?
    Omnec: ค่ะ พวกเขาปฏิบัติงานกันในหลายระดับค่ะ
    พิธีกร: ครับ แล้วคุณมีความสามารถพิเศษอย่างเช่นการอ่านความคิด หรือดูรัศมีออร่าหรืออะไรทำนองนั้นไหมครับ?
    Omnec: จริง ๆ แล้วเราทั้งหลายมีกฎแห่งจิตวิญญาณบางประการที่คุ้มครองความคิดส่วนบุคคลอยู่ ค่ะ ดังนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเช่นนั้น แต่...
    พิธีกร: คุณไม่อยากใช้พลังอย่างนั้นหรือว่าคุณทำไม่ได้?
    Omnec: ไม่ได้ค่ะเพราะว่ามีการคุ้มครองลักษณะพิเศษอยู่ แต่ถ้าหากว่ามีความคิดมุ่งร้ายผุดขึ้นมาในความคิดของคุณ เราก็จะรับรู้ได้ แต่หลายคนบนโลกนี้ก็ไม่อาจรับรู้แบบพวกเราได้เพราะ...
    พิธีกร: แต่ก็มีคนบนโลกนี้ที่คุณสามารถโทรจิตสื่อกันได้ใช่ไหมครับ?>>
    Omnec: ค่ะ ถ้าในแง่ของโทรจิตแล้วฉันก็สื่อกระแสจิตกับมนุษย์ที่มีความสามารถในด้านนี้ ได้ แล้วฉันก็ใช้วิธีนี้เพื่อสื่อกับคนที่ไม่ได้อยู่บนโลกด้วย
    พิธีกร: บนดาวศุกร์เหรอครับ?>>
    Omnec: ค่ะ ฉันสื่อจิตไปเวลาที่ต้องการข้อมูลต่าง ๆ แล้วนี่ก็ไม่ใช่การเข้าทรงด้วยเพราะว่าฉันติดต่อได้โดยตรงกับจิตหรือสิ่งมี ชีวิตที่ฉันรับรู้ได้ แต่ว่า...อย่างที่เราก็รู้ว่าผู้คนในอารยธรรมโบราณบนโลกเคยมีความสามารถใน การสื่อสารกันโดยใช้กระแสจิตเช่นนี้ และสามารถจดจำผู้ที่อยู่ก่อน รวมทั้งประวัติศาสตร์ของพวกเขาได้ แต่ว่าก็เกิดมีการปรับแต่งพันธุกรรมของมนุษย์โลกหลังจากยุคแอตแลนติส แล้วก็มีการรุกรานจากระบบจักรวาลอื่นเข้ามาด้วย...
    พิธีกร: เป็นเวลานานนับพันปีแล้วใช่ไหมครับ?
    Omnec: ใช่แล้วค่ะ อันที่จริงก็เป็นช่วงก่อนคริสตกาลนั่นแหละค่ะการปรับแต่งพันธุกรรมมนุษย์ก็ เป็นการแยกสมองออกเป็นสองส่วนด้วยกัน นั่นทำให้มนุษย์ไม่สามารถสื่อสารกันได้โดยไม่ใช้คำพูด แล้วยังไม่สามารถจดจำอารยธรรมที่มีอยู่ก่อน ก่อนที่พวกเขาจะมาเกิดในโลกทางกายภาพนี้ เหตุนี้มนุษย์จึงใช้สมองสองส่วนนี้ได้เพียงแค่สำหรับการใช้ชีวิตอยู่บนโลก ทางกายภาพนี้เท่านั้น สิ่งนี้เป็นสิ่งที่มนุษย์ที่มารุกรานโลกเป็นคนทำขึ้นมา ซึ่งเป็นกลุ่มที่ก่อตั้งระบบชนชั้นและการแบ่งแยกระหว่างเผ่าพันธุ์และความ ขัดแย้งระหว่างศาสนาขึ้น แล้วสถาปนากลุ่มตัวเองขึ้นครองอำนาจ บงการและควบคุมมนุษย์โลก นี่เองที่ทำให้พวกที่รุกรานควบคุมมนุษย์ได้มากขึ้นเพราะมนุษย์ได้สูญเสีย ความสามารถดังกล่าวไปหมด แล้วความลับและองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่พวกนั้นบังคับให้มนุษย์ดั้งเดิมถ่ายทอดมาก่อนที่มนุษย์จะถูกปรับแต่ง พันธุกรรมก็สงวนไว้สำหรับองค์กรลับต่าง ๆ ที่ก่อตั้งขึ้นมาสำหรับพวกชนชั้นสูงและมีอำนาจให้ศึกษาเท่านั้น ส่วนคนที่เหลือก็ถูกจำกัดและควบคุมในรูปของศาสนา คำสอนต่าง และ ความรู้ต่าง ๆ และระหว่างนั้นพวกนั้นก็แบ่งแยกเผ่าพันธุ์ สร้างภาษา ก่อตั้งศาสนาต่าง ๆ และทุกอย่างที่เกิดจากระบบเหล่านี้...>>
    พิธีกร: คือแบ่งแยกทุกสิ่งออกจากแหล่งต้นกำเนิดนั่นเอง
    Omnec: ใช่ค่ะ แล้วพวกเขาก็สร้างความขัดแย้งแตกแยกให้เกิดขึ้น
    พิธีกร: แล้วพวกเขาเป็นใครกันล่ะครับ?
    Omnec: อืม...ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้บอกค่ะว่าพวกเขามาจากดาวดวงไหนเนื่องจาก ปัจจุบันนี้พวกเขาอยู่ในช่วงกระบวนการพยายามเยียวยาและแก้ไขในสิ่งที่ทำลงไป ในอดีต
    พิธีกร: พวกเขารับรู้แล้วและอยากจะแก้ไขในสิ่งที่ทำลงไปใช่ไหม?
    Omnec: ถูกแล้วค่ะ และนี่ก็เป็นกระบวนการเปลี่ยนผ่านวิวัฒน์โลกนั่นเอง
    พิธีกร: แล้วพวกเขาอยู่บนโลกนี้ด้วยหรือเปล่าครับ? แล้วพวกเขายังติดต่อสื่อสารกับ

    ขอบคุณ ARCHYSHOP และคุณหมู มหาชัย เอื้อเฟื้อคำแปล

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=40jo5uElYNI&feature=player_detailpage"]YouTube - ‪Ascension‬‏[/ame]


    เครดิต คุณ ped2011http://palungjit.org/threads/omnec-สตรีผู้มาจากต่างดาว-แฉหมดเปลือก-ufo-จักรวาล.297056/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กรกฎาคม 2011
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=Xgrl9S6HtK8"]YouTube - ‪Metallica - The Unforgiven lyrics‬‏[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=ZJTKCgLqZkU&feature=related"]YouTube - ‪Metallica the unforgiven 2 lyrics‬‏[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=mKP8FnoIvrY&feature=related"]YouTube - ‪The Unforgiven III lyrics‬‏[/ame]

    Unforgiven I- i can't forgive them

    Unforgiven II- i can't forgive you

    Unforgiven III- i can't forgive me

    ...

    เนื้อเพลง: The Unforgiven

    New blood joins this earth
    and quikly he's subdued
    through constant pain disgrace
    the young boy learns their rules
    with time the child draws in
    this whipping boy done wrong
    deprived of all his thoughts
    the young man struggles on and on he's known
    a vow unto his own
    that never from this day
    his will they'll take away
    what I've felt
    what I've known
    never shined through in what I've shown
    never be
    never see
    won't see what might have been
    what I've felt
    what I've known
    never shined through in what I've shown
    never free
    never me
    so I dub thee unforgiven
    they dedicate their lives
    to running all of his
    he tries to please them all
    this bitter man he is
    throughout his life the same
    he's battled constantly
    this fight he cannot win
    a tired man they see no longer cares
    the old man then prepares
    to die regretfully
    that old man here is me
    what I've felt
    what I've known
    never shined through in what I've shown
    never be
    never see
    won't see what might have been
    what I've felt
    what I've known
    never shined through in what I've shown
    never free
    never me
    so I dub the unforgiven
    you labeled me
    I'll label you
    so I dub the unforgiven


    <SCRIPT language=JavaScript>var divid = 'vdo_lyrics_page';var maxvideo = 0;var videotitle=new Array();var videothumb=new Array();var videourl=new Array();function vdoupdate(root) { var feed=root.feed; var entries=feed.entry||[]; for (var i=0;i<entries.length;++i) { var entry=entries; var title=entry.title.$t; var medias=entry.media$group.media$content; var thumb=entry.media$group.media$thumbnail[0].url; var swfurl=''; for(var j=0;j<medias.length;++j) { var media=medias[j]; if (media.type=='application/x-shockwave-flash') { swfurl= media.url; videotitle[maxvideo] = title; videothumb[maxvideo] = thumb; videourl[maxvideo] = swfurl; maxvideo++; break; } } } showallvideo();}function showallvideo() { obj2=document.getElementById('sz10_out'); obj3=document.getElementById('sz10'); if (obj2 && obj3) obj2.insertBefore(obj3, obj2.firstChild); if (maxvideo > 0) { html = 'วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
    '; for(i = 0; i < maxvideo ; i++) { html += '
    [​IMG]


















    ' + videotitle + '






    '; } obj=document.getElementById(divid);// obj.innerHTML=html + '
    '; obj.innerHTML=html + '
    วิดีโอนี้เรียกโดยอัตโนมัติด้วยระบบค้นหาของ YouTube ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะตรงหรือไม่ตรงกับเนื้อเพลงในหน้านี้ ทางเว็บไซต์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ที่นำวิดีโอนี้ขึ้นบนเว็บไซต์ หากต้องการดูรายละเอียดของผู้เพิ่มวิดีโอหรือต้องการแจ้งวิดีโอไม่เหมาะสมกรุณาคลิกบนวิดีโอเพื่อไปยังเว็บไซต์ YouTube</div>'; obj.style.display = 'block'; obj.style.border = '1px solid silver'; obj.style.background = 'white'; obj.style.padding = '2px'; }}function loadvideo(id) { if (id >= 0 && id < maxvideo) { html='' + videotitle[id] + '
    '; html+='<object width="400" height="245">​





    </param>
    </param>
    </param><embed src="' + videourl[id] + '" type="application/x-shockwave-flash" wmode="window" width="400" height="245" allowscriptaccess="always"></embed></object>​







    '; obj=document.getElementById(divid);obj.innerHTML=html;obj.style.display = 'block'; obj2=document.getElementById('video_sz10'); obj3=document.getElementById('sz10'); if (obj2 && obj3) obj2.insertBefore(obj3, obj2.firstChild); }}</SCRIPT>


    เนื้อเพลง: The unforgiven II

    Lay beside me, tell me what have they done
    Speak the words I wanna hear, to make my demons run
    The door is locked now, but it's open if you're true
    If you can understand the me, then I can understand the you

    Lay beside me, under wicked sky
    Black of day, dark of night, we share this pair of lives
    The door cracks open, but there's no sun shining through
    Black heart scarring darker still, but there's no sun shining through
    No, there's no sun shining through
    No, there's no sun shining

    What I've felt, what I've known
    Turn the pages, turn the stone
    Behind the door, should I open it for you?

    Yeah
    What I've felt, what I've known
    Sick and tired, I stand alone
    Could you be there, 'cause I'm the one who waits for you
    Or are you unforgiven too?

    Come lay beside me, this won't hurt I swear
    She loves me not, she loves me still, but she'll never love again
    She lay beside me, but she'll be there when I'm gone
    Black hearts scarring darker still, yes she'll be there when I'm gone
    Yes she'll be there when I'm gone
    Dead sure she'll be there

    What I've felt, what I've known
    Turn the pages, turn the stone
    Behind the door, should I open it for you?

    Yeah
    What I've felt, what I've known
    Sick and tired, I stand alone
    Could you be there, cause I'm the one who waits for you
    Or are you unforgiven too?

    Lay beside me, tell me what I've done
    The door is closed, so are your eyes
    But now I see the sun, now I see the sun
    Yes, now I see it

    Yeah
    What I've felt, what I've known
    Turn the pages, turn the stone
    Behind the door, should I open it for you

    What I've felt, what I've known
    So sick and tired, I stand alone
    Could you be there, cause I'm the one who waits
    The one who waits for you

    Oh, what I've felt, what I've known
    Turn the pages, turn the stone
    Behind the door, should I open it for you
    So I dub thee unforgiven
    Oh, what I've felt
    Oh, what I've known

    I'll take this key
    And I'll bury it in you
    Because you're unforgiven too

    Never free
    Never me
    Because you're unforgiven too

    เนื้อเพลง: The Unforgiven III

    How could he know this new dawn's light
    Would change his life forever?
    Set sail to sea but pulled off course
    By the light of golden treasure

    Was he the one causing pain
    With his careless dreaming?
    Been afraid
    Always afraid
    Of the things he's feeling
    He could just be gone

    He would just sail on
    He would just sail on

    How can I be lost?
    If I've got nowhere to go?
    Searched the seas of gold
    How come it's got so cold?
    How can I be lost
    In remembrance I relive
    How can I blame you
    When it's me I can't forgive?

    These days drift on inside a fog
    It's thick and suffocating
    This seeking life outside its hell
    Inside intoxicating
    He's run aground
    Like his life
    Water's much too shallow
    Slipping fast
    Down with the ship
    Fading in the shadows now
    A castaway

    They've
    All gone
    Away

    They've gone away

    How can I be lost
    If I've got nowhere to go?
    Search for seas of gold
    How come it's got so cold?
    How can I be lost
    In remembrance I relive
    And how can I blame you
    When it's me I can't forgive?

    Forgive me
    Forgive me not
    Forgive me
    Forgive me not
    Forgive me
    Forgive me not
    Forgive me
    Forgive me, why can't I forgive me?

    Set sail to sea but pulled off course
    By the light of golden treasure
    How could he know this new dawn's light
    Would change his life forever

    How can I be lost
    If I've got nowhere to go?
    Search for seas of gold
    How come it's got so cold?
    How can I be lost
    In remembrance I relive
    So how can I blame you
    When it's me I can't forgive?<SCRIPT language=JavaScript>var divid = 'vdo_lyrics_page';var maxvideo = 0;var videotitle=new Array();var videothumb=new Array();var videourl=new Array();function vdoupdate(root) { var feed=root.feed; var entries=feed.entry||[]; for (var i=0;i<entries.length;++i) { var entry=entries; var title=entry.title.$t; var medias=entry.media$group.media$content; var thumb=entry.media$group.media$thumbnail[0].url; var swfurl=''; for(var j=0;j<medias.length;++j) { var media=medias[j]; if (media.type=='application/x-shockwave-flash') { swfurl= media.url; videotitle[maxvideo] = title; videothumb[maxvideo] = thumb; videourl[maxvideo] = swfurl; maxvideo++; break; } } } showallvideo();}function showallvideo() { obj2=document.getElementById('sz10_out'); obj3=document.getElementById('sz10'); if (obj2 && obj3) obj2.insertBefore(obj3, obj2.firstChild); if (maxvideo > 0) { html = 'วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
    '; for(i = 0; i < maxvideo ; i++) { html += '
    [​IMG]


















    ' + videotitle + '






    '; } obj=document.getElementById(divid);// obj.innerHTML=html + '
    '; obj.innerHTML=html + '
    วิดีโอนี้เรียกโดยอัตโนมัติด้วยระบบค้นหาของ YouTube ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะตรงหรือไม่ตรงกับเนื้อเพลงในหน้านี้ ทางเว็บไซต์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ที่นำวิดีโอนี้ขึ้นบนเว็บไซต์ หากต้องการดูรายละเอียดของผู้เพิ่มวิดีโอหรือต้องการแจ้งวิดีโอไม่เหมาะสมกรุณาคลิกบนวิดีโอเพื่อไปยังเว็บไซต์ YouTube</div>'; obj.style.display = 'block'; obj.style.border = '1px solid silver'; obj.style.background = 'white'; obj.style.padding = '2px'; }}function loadvideo(id) { if (id >= 0 && id < maxvideo) { html='' + videotitle[id] + '
    '; html+='<object width="400" height="245">





    </param>
    </param>
    </param><embed src="' + videourl[id] + '" type="application/x-shockwave-flash" wmode="window" width="400" height="245" allowscriptaccess="always"></embed></object>







    '; obj=document.getElementById(divid);obj.innerHTML=html;obj.style.display = 'block'; obj2=document.getElementById('video_sz10'); obj3=document.getElementById('sz10'); if (obj2 && obj3) obj2.insertBefore(obj3, obj2.firstChild); }}</SCRIPT><SCRIPT src="http://gdata.youtube.com/feeds/api/videos/-/Music?orderby=relevance&max-results=4&format=5&restriction=124.120.207.61&vq=The%20Unforgiven%20III%2Cmv%2Cofficial%2CMetallica&alt=json-in-script&callback=vdoupdate"></SCRIPT>

    ปล. เวรระงับได้ด้วยการไม่จองเวร เนาะ [​IMG] [​IMG]

    Unforgiven I- i can't forgive them ฉันไม่สามารถให้อภัยพวกเขา
    you labeled me เธอว์ทำฉัน
    I'll label you
    ฉันก็ทำคุณเธอว์กลับไป
    so I dub the unforgiven เมื่อไม่มีการให้อภัยกันฉันก็ทำสำเนาเก็บข้อมูลที่คุณเธอว์ทำแก่กันและกันเอาไว้

    Unforgiven II- i can't forgive you ฉันไม่สามารถให้อภัยคุณเธอว์
    Never free ไม่เคยมีอิสระเสรี
    Never me
    ฉันไม่เคยมีอิสระเสรี
    Because you're unforgiven too
    เพราะคุณเธอว์ก็ผูกใจเจ็บกันไม่เลิกเหมือนกัน...อ่า (อะนะ)

    Unforgiven III- i can't forgive me ฉันไม่สามารถอภัยให้ตัวเอง
    So how can I blame you แร้วงี้...ฉันจะตำหนิคุณเธอว์ได้อย่างไร
    When it's me I can't forgive?<SCRIPT language=JavaScript>var divid = 'vdo_lyrics_page';var maxvideo = 0;var videotitle=new Array();var videothumb=new Array();var videourl=new Array();function vdoupdate(root) { var feed=root.feed; var entries=feed.entry||[]; for (var i=0;i<entries.length;++i) { var entry=entries; var title=entry.title.$t; var medias=entry.media$group.media$content; var thumb=entry.media$group.media$thumbnail[0].url; var swfurl=''; for(var j=0;j<medias.length;++j) { var media=medias[j]; if (media.type=='application/x-shockwave-flash') { swfurl= media.url; videotitle[maxvideo] = title; videothumb[maxvideo] = thumb; videourl[maxvideo] = swfurl; maxvideo++; break; } } } showallvideo();}function showallvideo() { obj2=document.getElementById('sz10_out'); obj3=document.getElementById('sz10'); if (obj2 && obj3) obj2.insertBefore(obj3, obj2.firstChild); if (maxvideo > 0) { html = 'วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

    '; for(i = 0; i < maxvideo ; i++) { html += '
    [​IMG]





































    ' + videotitle + '

























    '; } obj=document.getElementById(divid);// obj.innerHTML=html + '
    '; obj.innerHTML=html + '
    วิดีโอนี้เรียกโดยอัตโนมัติด้วยระบบค้นหาของ YouTube ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะตรงหรือไม่ตรงกับเนื้อเพลงในหน้านี้ ทางเว็บไซต์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ที่นำวิดีโอนี้ขึ้นบนเว็บไซต์ หากต้องการดูรายละเอียดของผู้เพิ่มวิดีโอหรือต้องการแจ้งวิดีโอไม่เหมาะสมกรุณาคลิกบนวิดีโอเพื่อไปยังเว็บไซต์ YouTube</div>'; obj.style.display = 'block'; obj.style.border = '1px solid silver'; obj.style.background = 'white'; obj.style.padding = '2px'; }}function loadvideo(id) { if (id >= 0 && id < maxvideo) { html='' + videotitle[id] + '
    '; html+='<object width="400" height="245">
























    </param>






    </param>
    </param><embed src="' + videourl[id] + '" type="application/x-shockwave-flash" wmode="window" width="400" height="245" allowscriptaccess="always"></embed></object>


























    '; obj=document.getElementById(divid);obj.innerHTML=html;obj.style.display = 'block'; obj2=document.getElementById('video_sz10'); obj3=document.getElementById('sz10'); if (obj2 && obj3) obj2.insertBefore(obj3, obj2.firstChild); }}</SCRIPT><SCRIPT src="http://gdata.youtube.com/feeds/api/videos/-/Music?orderby=relevance&max-results=4&format=5&restriction=124.120.207.61&vq=The%20Unforgiven%20III%2Cmv%2Cofficial%2CMetallica&alt=json-in-script&callback=vdoupdate"></SCRIPT>
    ในเมื่อฉันเอง ก็..ยังไม่สามารถให้อภัย เหมือนกัล...?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กรกฎาคม 2011
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    นักบาสNBAขอเปลี่ยนชื่อเป็นเมตตา โลกสงบ<!-- google_ad_section_end -->


    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "ca-pub-2576485761337625";/* 336x280 */google_ad_slot = "0551074580";google_ad_width = 336;google_ad_height = 280;//--> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20110622/r20110627/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20110622/r20110627/show_ads_impl.js"></SCRIPT>
    [​IMG]


    รอน อาร์เทสต์ นักบาสของทีมแอลเอ เลเกอร์สทำเรื่องแปลกๆ เมื่อเขาอยากเปลี่ยนชื่อเป็น เมตตา โลกสงบหรือ Metta World Peace โดยเขาได้ยื่นคำร้องต่อศาลสูงท้องถิ่นแล้วและเตรียมฟังผลในเดือนสิงหาคมนี้

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รอน อาร์เทสต์ นักบาสเกตบอลของทีมแอลเอ เลเกอร์สเกิดมีอาการซึ่งในรสพระธรรมในศาสนาพุทธได้เตรียมที่จะเปลี่ยนชื่อจากภาษาอังกฤษธรรมดาเป็น Metta World Peace หรือ เมตตา โลกสงบ โดยอาร์เทสต์ได้ให้ทนายของเขายื่นเรื่องต่อศาลสูงลอสแองเจลิสโดยอาร์เทสต์ระบุว่าต้องการเปลี่ยนชื่อเพราะเหตุผลส่วนตัวโดยวันที่26ส.ค.นี้จะได้รับฟังผลการพิจารณาของศาล

    โดยก่อนหน้านี้อาร์เทสต์เคยคว้าแชมป์NBAกับเลเกอร์สในปี2010 ถือเป็นนักบาสที่มีประพฤติไม่ดีทั้งในและนอกสนามจนถูกจับถูกแบนไปหลายครั้งก่อนที่เขาจะเริ่มกลับใจซึ่งเขาเคยนำแหวนแชมป์NBAไปประมูลขายเพื่อนำรายได้มาให้กับองค์การกุศลด้านสุขภาพอีกด้วย




    ที่มาแบบนี้ก็มี!นักบาสNBAขอเปลี่ยนชื่อเป็นเมตตา โลกสงบ - ข่าวกีฬาทั่วไป, บาสเกตบอล
    เครดิต คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ปภาโส<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4829413", true); </SCRIPT> นักบาสNBAขอเปลี่ยนชื่อเป็นเมตตา โลกสงบ<!-- google_ad_section_end -->
    <SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20110622/r20110627/show_ads_impl.js"></SCRIPT>
     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=wUK2QmdUXas&feature=related"]YouTube - ‪Metallica - Nothing else matters lyrics‬‏[/ame]

    เนื้อเพลง: Nothing else Matters


    So close no matter how far
    Couldn't be much more from the heart
    Forever trusting who we are
    And nothing else matters

    Never opened myself this way
    Life is ours, we live it our way
    All these words I don't just say
    And nothing else matters

    Trust I seek and I find in you
    Every day for us something new
    Open mind for a different view
    And nothing else matters

    Never cared for what they do
    Never cared for what they know
    But I know

    So close no matter how far
    Couldn't be much more from the heart
    Forever trusting who we are
    And nothing else matters

    Never cared for what they do
    Never cared for what they know
    But I know

    Never opened myself this way
    Life is ours, we live it our way
    All these words I don't just say
    And nothing else matters

    Trust I seek and I find in you
    Every day for us something new
    Open mind for a different view
    And nothing else matters

    Never cared for what they say
    Never cared for games they play
    Never cared for what they do
    Never cared for what they know
    And I know

    So close no matter how far
    Couldn't be much more from the heart
    Forever trusting who we are
    No nothing else matters<SCRIPT language=JavaScript>var divid = 'vdo_lyrics_page';var maxvideo = 0;var videotitle=new Array();var videothumb=new Array();var videourl=new Array();function vdoupdate(root) { var feed=root.feed; var entries=feed.entry||[]; for (var i=0;i<entries.length;++i) { var entry=entries; var title=entry.title.$t; var medias=entry.media$group.media$content; var thumb=entry.media$group.media$thumbnail[0].url; var swfurl=''; for(var j=0;j<medias.length;++j) { var media=medias[j]; if (media.type=='application/x-shockwave-flash') { swfurl= media.url; videotitle[maxvideo] = title; videothumb[maxvideo] = thumb; videourl[maxvideo] = swfurl; maxvideo++; break; } } } showallvideo();}function showallvideo() { obj2=document.getElementById('sz10_out'); obj3=document.getElementById('sz10'); if (obj2 && obj3) obj2.insertBefore(obj3, obj2.firstChild); if (maxvideo > 0) { html = 'วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
    '; for(i = 0; i < maxvideo ; i++) { html += '
    [​IMG]


    ' + videotitle + '

    '; } obj=document.getElementById(divid);// obj.innerHTML=html + '
    '; obj.innerHTML=html + '
    วิดีโอนี้เรียกโดยอัตโนมัติด้วยระบบค้นหาของ YouTube ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะตรงหรือไม่ตรงกับเนื้อเพลงในหน้านี้ ทางเว็บไซต์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ที่นำวิดีโอนี้ขึ้นบนเว็บไซต์ หากต้องการดูรายละเอียดของผู้เพิ่มวิดีโอหรือต้องการแจ้งวิดีโอไม่เหมาะสมกรุณาคลิกบนวิดีโอเพื่อไปยังเว็บไซต์ YouTube</div>'; obj.style.display = 'block'; obj.style.border = '1px solid silver'; obj.style.background = 'white'; obj.style.padding = '2px'; }}function loadvideo(id) { if (id >= 0 && id < maxvideo) { html='' + videotitle[id] + '
    '; html+='<object width="400" height="245">
    </param>
    </param>
    </param><embed src="' + videourl[id] + '" type="application/x-shockwave-flash" wmode="window" width="400" height="245" allowscriptaccess="always"></embed></object>


    '; obj=document.getElementById(divid);obj.innerHTML=html;obj.style.display = 'block'; obj2=document.getElementById('video_sz10'); obj3=document.getElementById('sz10'); if (obj2 && obj3) obj2.insertBefore(obj3, obj2.firstChild); }}</SCRIPT><SCRIPT src="http://gdata.youtube.com/feeds/api/videos/-/Music?orderby=relevance&max-results=4&format=5&restriction=124.120.100.75&vq=Nothing%20else%20Matters%2Cmv%2Cofficial%2CBif%20Naked&alt=json-in-script&callback=vdoupdate"></SCRIPT>

    เนื้อเพลง: Nothing else Matters

    So close no matter how far ไม่มีสิ่งใดอยู่ไกลตัว มันใกล้เข้ามาแร้ว
    Couldn't be much more from the heart ไม่สามารถจะเป็นอะไรได้ มากไปกว่า สิ่งที่มาจากใจ
    Forever trusting who we are ตลอดเวลา ให้ไว้ใจ ในสิ่งที่ตัวเราเป็น
    And nothing else matters และไม่มีสิ่งอื่นนอกเหนือไปจากนี้

    Never opened myself this way ไม่เคยเปิดเผยตัวเองด้วยวิธีนี้
    Life is ours, we live it our way ชีวิตเป็นของเราเอง เรามีชีวิตตามหนทางของเรา
    All these words I don't just say ทุกคำพูดเหล่านี้ ฉันไม่เคยกล่าวมาก่อน
    And nothing else matters และไม่มีสิ่งอื่นนอกเหนือไปจากนี้

    Trust I seek and I find in you ฉันค้นหาความไว้วางใจ และฉันพบมันในตัวคุณ
    Every day for us something new ทุกๆวันสำหรับเรามันคือสิ่งใหม่
    Open mind for a different view เปิดใจสำหรับมุมมองที่แตกต่าง
    And nothing else matters และไม่มีอะไรอื่นนอกเหนือไปจากนี้

    Never cared for what they do ไม่ต้องใส่ใจในสิ่งที่พวกเขาทำ
    Never cared for what they know ไม่ต้องใส่ใจในสิ่งที่พวกเขารู้
    But I know แต่ฉันรู้
    So close no matter how far ไม่มีสิ่งใดอยู่ไกลตัว มันใกล้เข้ามาแร้ว
    Couldn't be much more from the heart ไม่สามารถจะเป็นอะไรได้ มากไปกว่า สิ่งที่มาจากใจ
    Forever trusting who we are ตลอดเวลา ให้ไว้ใจ ในสิ่งที่ตัวเราเป็น
    And nothing else matters และไม่มีอะไรอื่นนอกเหนือไปจากนี้

    Never cared for what they do ไม่ต้องใส่ใจในสิ่งที่พวกเขาทำ
    Never cared for what they know ไม่ต้องใส่ใจในสิ่งที่พวกเขารู้
    But I know แต่ฉันรู้

    Never opened myself this way ไม่เคยเปิดเผยตัวเองด้วยวิธีนี้
    Life is ours, we live it our way ชีวิตเป็นของเราเอง เรามีชีวิตตามหนทางของเรา
    All these words I don't just say ทุกคำพูดเหล่านี้ ฉันไม่เคยกล่าวมาก่อน
    And nothing else matters และไม่มีอะไรอื่นนอกเหนือไปจากนี้

    Trust I seek and I find in you ฉันค้นหาความไว้วางใจ และฉันพบมันในตัวคุณ
    Every day for us something new ทุกๆวันสำหรับเรามันคือสิ่งใหม่
    Open mind for a different view เปิดใจสำหรับมุมมองที่แตกต่าง
    And nothing else matters และไม่มีอะไรอื่นนอกเหนือไปจากนี้

    Never cared for what they say ไม่ต้องใส่ใจในสิ่งที่พวกเขาพูด
    Never cared for games they play ไม่ต้องใส่ใจในสิ่งเกมส์ที่พวกเขาเล่น
    Never cared for what they do ไม่ต้องใส่ใจในสิ่งที่พวกเขาทำ
    Never cared for what they know ไม่ต้องใส่ใจในสิ่งที่พวกเขารู้
    And I know ฉันรู้

    So close no matter how far ไม่มีสิ่งใดอยู่ไกลตัว มันใกล้เข้ามาแร้ว
    Couldn't be much more from the heart ไม่สามารถจะเป็นอะไรได้ มากไปกว่า สิ่งที่มาจากใจ
    Forever trusting who we are ตลอดเวลา ให้ไว้ใจ ในสิ่งที่ตัวเราเป็น
    No nothing else matters<SCRIPT language=JavaScript>var divid = 'vdo_lyrics_page';var maxvideo = 0;var videotitle=new Array();var videothumb=new Array();var videourl=new Array();function vdoupdate(root) { var feed=root.feed; var entries=feed.entry||[]; for (var i=0;i<entries.length;++i) { var entry=entries; var title=entry.title.$t; var medias=entry.media$group.media$content; var thumb=entry.media$group.media$thumbnail[0].url; var swfurl=''; for(var j=0;j<medias.length;++j) { var media=medias[j]; if (media.type=='application/x-shockwave-flash') { swfurl= media.url; videotitle[maxvideo] = title; videothumb[maxvideo] = thumb; videourl[maxvideo] = swfurl; maxvideo++; break; } } } showallvideo();}function showallvideo() { obj2=document.getElementById('sz10_out'); obj3=document.getElementById('sz10'); if (obj2 && obj3) obj2.insertBefore(obj3, obj2.firstChild); if (maxvideo > 0) { html = 'วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
    '; for(i = 0; i < maxvideo ; i++) { html += '
    [​IMG]



    ' + videotitle + '

    '; } obj=document.getElementById(divid);// obj.innerHTML=html + '
    '; obj.innerHTML=html + '
    วิดีโอนี้เรียกโดยอัตโนมัติด้วยระบบค้นหาของ YouTube ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะตรงหรือไม่ตรงกับเนื้อเพลงในหน้านี้ ทางเว็บไซต์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ที่นำวิดีโอนี้ขึ้นบนเว็บไซต์ หากต้องการดูรายละเอียดของผู้เพิ่มวิดีโอหรือต้องการแจ้งวิดีโอไม่เหมาะสมกรุณาคลิกบนวิดีโอเพื่อไปยังเว็บไซต์ YouTube</div>'; obj.style.display = 'block'; obj.style.border = '1px solid silver'; obj.style.background = 'white'; obj.style.padding = '2px'; }}function loadvideo(id) { if (id >= 0 && id < maxvideo) { html='' + videotitle[id] + '
    '; html+='<object width="400" height="245">​



    </param>
    </param>
    </param><embed src="' + videourl[id] + '" type="application/x-shockwave-flash" wmode="window" width="400" height="245" allowscriptaccess="always"></embed></object>





    '; obj=document.getElementById(divid);obj.innerHTML=html;obj.style.display = 'block'; obj2=document.getElementById('video_sz10'); obj3=document.getElementById('sz10'); if (obj2 && obj3) obj2.insertBefore(obj3, obj2.firstChild); }}</SCRIPT><SCRIPT src="http://gdata.youtube.com/feeds/api/videos/-/Music?orderby=relevance&max-results=4&format=5&restriction=124.120.100.75&vq=Nothing%20else%20Matters%2Cmv%2Cofficial%2CBif%20Naked&alt=json-in-script&callback=vdoupdate"></SCRIPT> และไม่มีสิ่งอื่นนอกเหนือไปจากนี้

    ปล.แปลตามใจฉัน อะนะ ไม่ได้แปลตามหลักไวยากรณ์ แหะ แหะ<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2011
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ช่างภาพอึ้ง! จ๋ออิเหนาแอบฉกกล้อง กดชัตเตอร์ถ่ายรูปตัวเอง

    [​IMG]
    ภาพนี้เป็นฝีมือการกดชัตเตอร์ของลิงกังสุลาเวสี ขณะเดวิด สเลเตอร์ เจ้าของกล้องวิงวอนขอกล้องคืนจากฝูงลิงแสนซน

    [​IMG]

    1 2 3 ยิ้ม ฝีมือการถ่ายรูปตัวเองของลิง

    เดวิด สเลเตอร์ เล่าว่าฝูงลิงพวกนี้เป็นมิตรกับคน และซนมาก

    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000082555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กรกฎาคม 2011
  12. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    เพลงสุโค่ย ดนตรีเพราะมากๆ และขอขอบคุณมาก ๆ
     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=9h6Y7FksiCY&feature=player_embedded"]YouTube - ‪Jim Carrey on Awakening‬‏[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=q2fPkvPxmmo&feature=related"]YouTube - ‪Jim Carrey on the Power of Intention‬&rlm;[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2011
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=cAjFBsp__aE&feature=related"]YouTube - ‪Awakening (Part 1 of 4)‬‏[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=yCJqP18gBlc&feature=related"]YouTube - ‪Awakening (Part 2 of 4)‬‏[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=tdhklzlF3Dw&feature=related"]YouTube - ‪Awakening (Part 3 of 4)‬‏[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=Q1a5MlHFJu4&feature=related"]YouTube - ‪Awakening (Part 4 of 4)‬‏[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=4TXUwm1NXPo&feature=related"]YouTube - ‪A Message to the Power Elite‬‏[/ame]
     
  15. Maxx

    Maxx Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2006
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +96
    ขอบคุณมาก ขออ่านย่อ ๆ แล้วกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...