เรื่องเด่น 10 สุดยอดเกจิ ผู้มี "พลังจิตสูง" ในอดีต!

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Prophecy, 17 สิงหาคม 2012.

  1. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    ใครอยากหายทุกข์ก็ต้องปฏิบัติเองครับ คุณ Sianns เป็นทุกข์ ก็ต้องเข้าใจอริยสัจ 4 และเดินตามทาง มรรคมีองค์ 8 ครับ


     
  2. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    ขอโทษนะครับที่ copy paste บ่อย แต่ตามนี้...


    อริยสัจ หรือจตุราริยสัจ หรืออริยสัจ 4 เป็นหลักคำสอนหนึ่งของพระโคตมพุทธเจ้า แปลว่า ความจริงอันประเสริฐ ความจริงของพระอริยะ หรือความจริงที่ทำให้ผู้เข้าถึงกลายเป็นอริยะ มีอยู่สี่ประการ คือ

    1. ทุกข์ คือ สภาพที่ทนได้ยาก ภาวะที่ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ สภาพที่บีบคั้น ได้แก่ ชาติ (การเกิด) ชรา (การแก่ การเก่า) มรณะ (การตาย การสลายไป การสูญสิ้น) การประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รัก การพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก การปรารถนาสิ่งใดแล้วไม่สมหวังในสิ่งนั้น กล่าวโดยย่อ ทุกข์ก็คืออุปาทานขันธ์ หรือขันธ์ 5

    2. ทุกขสมุทัย คือ สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ได้แก่ ตัณหา 3 คือ กามตัณหา-ความทะยานอยากในกาม ความอยากได้ทางกามารมณ์, ภวตัณหา-ความทะยานอยากในภพ ความอยากเป็นโน่นเป็นนี่ ความอยากที่ประกอบด้วยภวทิฏฐิหรือสัสสตทิฏฐิ และ วิภวตัณหา-ความทะยานอยากในความปราศจากภพ ความอยากไม่เป็นโน่นเป็นนี่ ความอยากที่ประกอบด้วยวิภวทิฏฐิหรืออุจเฉททิฏฐิ

    3. ทุกขนิโรธ คือ ความดับทุกข์ ได้แก่ ดับสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ กล่าวคือ ดับตัณหาทั้ง 3 ได้อย่างสิ้นเชิง

    4. ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา คือ แนวปฏิบัติที่นำไปสู่หรือนำไปถึงความดับทุกข์ ได้แก่ มรรคอันมีองค์ประกอบอยู่แปดประการ คือ 1. สัมมาทิฏฐิ-ความเห็นชอบ 2. สัมมาสังกัปปะ-ความดำริชอบ 3. สัมมาวาจา-เจรจาชอบ 4. สัมมากัมมันตะ-ทำการงานชอบ 5. สัมมาอาชีวะ-เลี้ยงชีพชอบ 6. สัมมาวายามะ-พยายามชอบ 7. สัมมาสติ-ระลึกชอบ และ 8. สัมมาสมาธิ-ตั้งใจชอบ ซึ่งรวมเรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า "มัชฌิมาปฏิปทา" หรือทางสายกลาง

    มรรคมีองค์แปดนี้สรุปลงในไตรสิกขา ได้ดังนี้ 1. อธิสีลสิกขา ได้แก่ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ และสัมมาอาชีวะ 2. อธิจิตสิกขา ได้แก่ สัมมาวายามะ สัมมาสติ และสัมมาสมาธิ และ 3. อธิปัญญาสิกขา ได้แก่ สัมมาทิฏฐิ และสัมมาสังกัปปะ

    อริยสัจ 4 นี้ เรียกสั้น ๆ ว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค

    อริยสัจ 4 - วิกิพีเดีย
     
  3. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    โลกน่าเบื่อ ไม่ชอบ ไม่อยากอยู่ในโลก ไม่อยากทุกข์อีกแล้ว ต้องเดินตามมรรคมีองค์ 8
     
  4. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    เข้าใจว่าคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Prophecy<!-- google_ad_section_end --> และ คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sianns<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6559975", true); </SCRIPT> พูดกันคนละประเด็นแล้วล่ะค่ะ

    เท่าที่อ่านมาจับประเด็นได้ว่า...

    สิ่งที่คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Prophecy<!-- google_ad_section_end --> พูด คือการไม่สามารถวางได้คือยังทุกข์อยู่ วางโลกธรรมไม่ได้ คือการยอมรับไม่ได้

    ส่วนสิ่งที่คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sianns<!-- google_ad_section_end --> พูด เป็นการพูดในมุมของปัญหาที่มีและการแก้ไขปัญหาเพื่อให้เริ่มต้นใหม่ได้จริงๆ
    มันหมายถึงการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้ดีขึ้นจากปัจจุบันที่เป็นอยู่ และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ถ้าจะทำ และทำให้ดีได้
    ไม่ได้หมายถึงทุกข์ของตนเอง แต่เป็นทุกข์(ปัญหา) ของสังคมที่ต้องเปลี่ยนแปลงและแก้ไขให้ดีกว่านี้ค่ะ
     
  5. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    ถ้าเรื่องเปลี่ยนโลก นะครับ คิดว่าคนที่จะเปลี่ยนโลกได้จะต้องเป็นผู้มีบารมีมหาศาล คนเขาพยายามจะเปลี่ยนโลกกันมามาก จะรวมโลก จะให้คนได้อยู่ดีกินดี แต่เท่าที่เห็นไม่มีใครทำสำเร็จ
     
  6. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    นิพพานไงครับ นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง ถ้าไม่ดีจริง พระพุทธเจ้าคงไม่สอนทางไปนิพพาน นิพพานแล้วไม่มีเกิด เมื่อไม่เกิดก็ไม่ต้องทุกข์

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2012
  7. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ดังนั้น..จากปัญหาที่มีในสังคมทุกๆ ด้าน ต้องอาศัยการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งจะอุเบกขาไม่ได้
    หากทุกคนต่างอุเบกขา..นั่นเท่ากับว่าเราเข้าใจที่ตนเอง วางที่ตนเอง ยอมรับที่ตนเองได้ ตนเองหยุดเบียดเบียนได้
    แต่คนอื่นยังทุกข์ คนอื่นยังไม่เข้าใจ คนอื่นยังไม่หยุดเบียดเบียน หากเราทุกคนต่างอุเบกขา คือไม่ทำอะไร เท่ากับว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลง
    และหนำซ้ำจะมีแต่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม เพราะคนที่ยังไม่หยุดเบียดเบียนนั่นเอง

    ดังนั้น..การอุเบกขา จึงต้องอุเบกขาที่ใจ คือยอมรับได้ทุกอย่างที่ใจ แต่การกระทำ ปัญหาในสังคมมี ก็ต้องแก้ไข ไม่ใช่อุเบกขาการกระทำด้วย
    ไม่อย่างนั้น ปัญหาที่มีก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขได้และเลวร้ายไปได้อีกเรื่อยๆ เมื่อมีการเบียดเบียน มันก็จะเบียดเบียนกันไปเรื่อยๆ ก็จะเข้าสู่ความสงบไม่ได้จริง

    คำว่าสัปปายะ จะไม่เกิดในสังคม แล้วความสงบสุขจะเกิดได้อย่างไร ก็ในเมื่อความ โลภ ความหลง ยังอยู่กันเต็มบ้านเต็มเมือง
    ทุกสังคม ไม่เว้นแม้แต่ในวัด สถานที่ซึ่งควรเป็นที่พึ่งจริงๆ ยังพึ่งไม่ได้จริงในหลายๆ สถานที่ ก็ยังมีการเบียดเบียนกันเลย
    อย่างที่เราเห็นๆ รู้ๆ กันอยู่

    ตามความหมายคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sianns<!-- google_ad_section_end --> น่าจะเป็นแบบนี้นะคะ
     
  8. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ดังนั้น..การอุเบกขา จึงต้องอุเบกขาที่ใจ คือยอมรับได้ทุกอย่างที่ใจ
    แต่การกระทำ ปัญหาในสังคมมี ก็ต้องแก้ไข ไม่ใช่อุเบกขาการกระทำด้วย

    ไม่อย่างนั้น ปัญหาที่มีก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขได้และเลวร้ายไปได้อีกเรื่อยๆ
     
  9. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    จะมีใครรู้นิพพานดี เท่าพระพุทธเจ้า ผมต้องขอโทษด้วยที่ไม่ขอตอบ


     
  10. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,500
    อืมมม ผมว่า ผมกำลังเปิดเข้ามาดู 10 สุดยอดเกจิ นะ
    เอ๊ะ หรือว่าผมคลิ๊กผิดล่ะนิ ซักสับสน ๆ
    โอเค ๆ ถือว่า เรามาดู 2ผู้มีพลังจิต สุดยอด ในปัจจุบัน ก็ได้เนอะ
     
  11. samzuzaa

    samzuzaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +501
  12. blazeee

    blazeee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +7
    ศาสนาพุทธ สอนให้เราลดกิเลสแล้วจะพบสิ่งที่เรียกว่า "ความสุข"

    แต่ทว่า

    คนไทยยุคใหม่เริ่มมีศรัทธาในศาสนาน้อยลง ไม่เข้าใจในหลักธรรมคำสอน

    จึงมีกิเลศมากมาย มีแต่ความอยากได้ อยากชนะ อยากรวย อยากมีความสุข

    ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือ สิ่งที่เรียกว่า "กิเลส"

    หลายคนอาจจะบอกว่ากิเลสนี้เองไม่ใช่หรอที่ทำให้เรามีความสุข

    ขอตอบว่า ใช่

    แต่มันเป็นเพียงแค่ "ความสุขทางกาย"

    แต่ทว่า ในใจก็ยังปรารถนาที่อยากจะได้อีก อยากจะมีอีก

    สิ่งที่เรียกว่า ความสุขทางใจ ตะหาก ที่จะอยู่กับเราไปตลอด

    หากมองให้ดีแล้ว หลักคำสอนของศาสนาพุทธ ช่วยให้คนพบ"ความสุขทางใจ"

    โลกเราเปลี่ยนได้ยาก ต่างคนต่างจิตใจ คงต้องใช้เวลานาน

    เพราะคนไทยเดี๋ยวนี้เสื่อมศรัทธาต่อศาสนาพุทธ

    หากจะเริ่ม ต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน ให้คนเห็นว่าดีจริง เป็นของจริง

    คุณเป็นคนหนึ่งรึเปล่า ที่กำลังขาด ศรัทธา
     
  13. ployfat

    ployfat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +217
    มิจฉาทิฐฎิ
     
  14. Tuumm

    Tuumm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +7,528
    ผมว่าน่จะถามได้นะครับถ้าหากคุณTPCมีครูบาอาจารย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและพอที่จะรู้ข้อเท็จจริงเรื่องนี้อยู่บ้าง เพียงแต่ว่าครูบาอาจารย์ท่านอาจจะกลัวว่าเราจะยึดติดในฤทธิ์มากกว่าการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของพระสงฆ์ แต่จริตของคน ความชอบของคนนั้นต่างกัน คงต้องอธิบายให้ครูบาอาจารย์ท่านฟังว่าพระพุทธเจ้าเองท่านก็มีอยู่ 3 ประเภท คือ ปัญญาธิกะ ศรัทธาธิกะ และวิริยาธิกะ และพระอรหันต์เองก็แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ สุขวิปัสสโก เตวิชโช ฉฬภิญโญ และปฏิสัมภิทาญาณ และก็ไม่แปลกที่คนเราแต่ละคนจะมีจริตชอบแนวทางไหนเป็นหลักเป็นแบบแผน ซึ่งจริตก็จะเป็นที่มาของวิถีของแต่ละคนว่าจะนิพพานที่ตรงจุดไหนครับ

    สำหรับผมการที่เราชอบฤทธิ์ไม่แปลกครับ แต่ความดีต้องมากก่อน จากนั้นจึงเลือกว่าจะเอาฤทธิ์เป็นออฟชั่นมั้ยตามภาษาสมัยใหม่ ถ้าเอาฤทธิ์ด้วยก็ต้องใช้เวลานานกว่าตัดตรงครับ

     
  15. Tuumm

    Tuumm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +7,528
    อย่าหมดศรัทธาในพุทธศาสนิกชนในปัจจุบันครับ ผมว่าปัจจุบันนี้ทั้งคนธรรมดาและพระสงฆ์เองมีบุคคลที่เข้าใจในพุทธศาสนามากขึ้นกว่าแต่ก่อนโดยเฉพาะช่วงปี 2400กว่าๆเยอะครับ อาจเป็นเพราะช่วงนี้เป็นยุคต้นของกึ่งพุทธกาล เราจึงมีพระอรหันต์และคนดีๆมาเกิดเยอะเพื่อทำนุบำรุงพุทธศาสนาให้อยู่จนครบห้าพันปี แต่พวกอลัชชีหรือพวกเข้าใจอะไรผิดๆก็คงต้องมีบ้าง เพราะแม้แต่สมัยพุทธกาลเราก็มีพวกนี้อยู่แล้ว โดยผู้นำอลัชชีคนแรกที่มีการบันทึกก็คือ พระเทวทัต

    สิ่งหนึ่งที่พวกเราที่เกิดในยุคนี้ควรภูมิใจว่าพุทธศาสนาของเราจะเจริญกว่ายุคปี 2400กว่าๆ เพราะปัจจุบันนี้เราไม่มีปากฎว่าพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบต้องมาทนทุกข์หรือต้องอธิกรณ์แบบในสมัยนั้น ซึ่งผมถือว่าเป็นความอัปยศของพุทธศาสนาเมืองไทยที่พระอริยะต้องมาต้องอธิกรณ์ มันแสดงให้เห้นถึงการเห็นผิดเป็นชอบของพุทธศาสนิกชนที่มีอำนาจมากบางกลุ่ม และพระเถระชั้นผู้ใหญ่บางพวกในยุคนั้น ตัวอย่างความอัปยศในยุคนั้นได้แก่

    1.ครูบาศรีวิชัย ตนบุญแห่งล้านนาต้องอธิกรณ์ว่าซ่องสุมผู้คน ตั้งตนเป็นผู้นำอลัชชี อวดอุตริมนุษธรรมที่ไม่มีในตน และต้องถูกควบคุมตัวมาสอบสวนที่กรุงเทพอยู่นานปี พระอริยะผู้ปราถนาพุทธภูมิและเป็นพระนักพัฒนาที่ยิ่งใหญ่กลับต้องมาเดือดร้อนเช่นนี้ ในยุคที่เราบอกว่าพุทธศาสนาเจริญกว่าควรจะมีเช่นนี้หรือ
    2.กรณีพระป่าผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบสายหลวงปู่มั่นหลวงปู่เสาร์ในยุคแรกๆถูกกล่าวหาว่าไม่ปฏิบัติตามพระไตรปิฎกและถูกต่อต้านโดยพระเถระชั้นผู้ใหญ่บางกลุ่มบางพวกในสมัยนั้น ถ้าสมัยนั้นเข้าใจพุทธศาสนามากกว่าในปัจจุบันจริง เรื่องการต่อต้านและคว่ำบาตรพระป่าในยุคเริ่มต้นคงไม่ปรากฎขึ้นแบบนี้
    3.กรณีหลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อมถูกกล่าวหาเพื่อตั้งอธิกรณ์ว่าอวดอุตริมนุษธรรมที่ไม่มีในตน
    4.กรณีหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณีต้องอธิกรณ์ว่าอวดอุตรมนุษธรรมที่ไม่มีในตน ในเรื่องทิพจักขุญาณ ผลคือ หลวงพ่อเนื่องท่านได้ทิพจักขุญาณจริงๆ

    นี่คือตัวอย่างให้เห็นถึงความตกต่ำของพุทธศาสนาในช่วงปี 2400กว่าๆที่พระอริยะต้องมาลำบากได้ยากเพราะความเข้าใจผิดๆของพระเถระชั้นผู้ใหญ่บางท่าน พระสงฆ์บางกลุ่ม และบุคคลผู้ด้อยปัญญาหลายๆคนในสมัยนั้น สำหรับผม ผมคิดว่าปล่อยคนผิดร้อยคน ไม่แย่เท่าลงโทษผู้บริสุทธิ์เพียงหนึ่งคนครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2012
  16. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
    หลักคิด ในปัจจุบัน บอกว่า เราควรมีแนวความคิดที่เป็น possitive thinkings คือเชิงบวก ในทางพุทธศาสนา ของเราพระพุทธองค์กล่าวคำนี้มานานแล้วคือ สัมมาทิฏฐิ คือการคิดดีคิดชอบคิดบวก

    เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมาเราที่เรารับรู้เรียนรู้มารับทราบมาแล้วก็ดีนั้น เราควรตั้งอยู่ในหลักการเหตุและผล และพิจารณาด้วยปัญญา หากจะศรัทธาเชื่อก็ควรศรัทธาเชื่อด้วยปัญญา และเราไม่ควรคิดไม่ดี แต่เรามีข้อซักถามได้เพื่อยังปัญญาให้แจ้งยิ่งขึ้นไปอีก
    สุดท้ายสิ่งอื่นใดดีหรือไม่ดีไม่สำคัญ ขอให้ความคิดเราอยู่ตัี้งอยู่ในสัมมาทิฏฐิ หากเราตั้งและทรงตัวในความคิดเราได้ เราก็จะคิดทำอะไรอย่างไม่ประมาทและถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ยังผลให้การทำอะไรก็ย่อมสำเร็จได้ เพราะทุกอย่างเริ่มต้นจากความคิด หรือจินตนาการ จินตวิสัย และวิสัยทัศน์ ประกอบร่วมกัน

    สุดท้ายเรื่องการแสดงอิทธิฤทธิ์อภิญญา นี่ก็อยู่ที่หลักคิดและอนุสัยสันดารเดิมของแต่ละบุคคล ว่าสั่งสมกันมาอย่างไร พระพุทธองค์อบรมสั่งสอนเราให้เราไม่ประมาท จึงเป็นหลักธรรมที่ทุกคนควรน้อมนำเข้ามาเตือนสติให้ดี และเตือนใจตนเองให้มากนะครับ

    ขอทุกท่านพึงเจริญในธรรมและดำรงตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาทครับ
     
  17. นักรบธรรม

    นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    970
    ค่าพลัง:
    +1,178
    แล้วปัจจุบันมีด้วยหรือเปล่าครับ
     
  18. Tuumm

    Tuumm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +7,528
    ในปัจจุบันเท่าที่ทราบยังไม่มีที่จัดเป็นทางการแบบนี้ครับ

     
  19. Freddy_Kruger

    Freddy_Kruger เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +759
    พ.ศ. ๒๔๕๒ ยังไม่มีการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชเลยนะครับ สถาปนากันปีถัดไปคือ พ.ศ. ๒๔๕๓ ครับ

    พวกบรรดาเซียนพระนี่ก็ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงกันเลย สมเด็จฯ พระองค์นั้นท่านก็มีพระนามของท่านอยู่ แต่ดันไปเลือกเอาข้อด้อยทางพระวรกายมาเรียก ซึ่งสมควรประณามคนที่ออกพระนามแบบนี้มาก ๆ ครับ
     
  20. Sikkha

    Sikkha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    556
    ค่าพลัง:
    +421
    ขอถามว่าในปัจจุบันพระอาจารย์องค์ไหนมีพลังจิตสูงครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...