ไสยศาสตร์ฉบับชาวบ้าน..มี.สาระ แบบกันเอง

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย tang_2536, 24 ตุลาคม 2012.

แท็ก: แก้ไข
  1. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    ดีครับที่เป็นแบบนั้น..ปกติแล้ว ธรรมะย่อมชนะอธรรม ครับ..แต่ บางครั้งฝ่ายอธรรมนั้นก็ชอบรุกรานครับ..จึงเกิดคำว่า ไสยฯขาว ขึ้นมา เหมือนมีผูกก็ต้องมีแก้..แต่ว่า แนวทางไสยฯขาวที่ผมอยากให้รู้ไว้นั้น..คงเป็นเรื่องราวที่ควรศึกษาไว้เพื่อดำรงความเป็นไทยในแขนงหนึ่งครับ..ชาวพุทธเรายอมรับว่า ธรรมะขององค์ศาสดา นั่นคือแนวทางพ้นทุกข์..แต่อย่างที่ผมบอกครับ..ทุกคนเดินไปเส้นทางเดียวกันแต่อาจจะแวะซอยมั่งครับ.๕๕
     
  2. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,807
    พี่คำรณครับเดี๋ยวจะมีคน PM มาขอความช่วยเหลือนะครับ ทานด่วนครับ
     
  3. ช้างป่า

    ช้างป่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +16,480


    อย่าแวะเยอะเด้อครับ อิอิ

    คาถาอะไรที่จริงผมก็ไม่มีศึกษาอะไรหรอกครับ

    อาศัยอาราํํทนาอำนาจแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่ตั้งให้พออบอุ่นใจแล้วครับ

    (ที่จริงจำไม่ค่อยได้ บวกกับไม่อยากจำ ^____^ )
     
  4. saylom2530

    saylom2530 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +934
    ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ
     
  5. kawpunt

    kawpunt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,276
    ค่าพลัง:
    +3,087
    สวัสดีครับ

    เข้ามาตามอ่านชอบมากครับ ได้ความรู้ดีชอบเรื่องนี้มานานต้องเข้ามาขอความรู้หน่อยนะครับ
     
  6. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,807
    พี่คำรณ หลวงปู่ทองดำ ท่านสอนคาถาอะไรบ้างครับ....
     
  7. lively

    lively เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +755
    ศึกษาเพิ่มเติมความอยากรู้ครับ:cool:
     
  8. ส่างปา

    ส่างปา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,531
    ค่าพลัง:
    +11,165
    :cool::cool:
    ขอบคุณครับที่แนะนำ จริง ๆ ก็อยากมีไว้ติดตัวบ้าง และถือเป็นการฝึกจิตไปในตัวด้วยครับ

    ขอถามนิดนึงการ การใช้คาถามาก ๆ มันจะเป็นบังกรรม(เรียกว่าอะไรดีล่ะ)ของเราหรือเปล่า เช่นว่าจริง ๆ เราจะต้องเจอแบบนี้ แต่เราว่าคาถาไปแล้วมันเปลี่ยนไปอีกแบบนึง ...........
     
  9. kengnaja

    kengnaja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,961
    ค่าพลัง:
    +16,856
    สวัสดีครับพี่ tang_2536 พอดีได้คาถาจากคนแก่มานานแล้วครับ ท่านบอกว่าเป็นคาถาที่ได้มาจากหลวงพ่อที่นับถือครับ
    เป็นคาถาอัญเชิญสิ่งที่มองไม่เห็นให้มาคุ้มครองครับ

    นะโม 3 จบ
    เวลาเดินทางให้ว่า
    เอหิ เอหิ นะมะพะทะ
    แล้วพอถึงที่หมายให้อัญเชิญออกว่า
    เวสังภัณเต
    ผมใช้ประจำเวลาเดินทางครับ:cool:

     
  10. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    อย่าไปเข้าใจแบบนั้นครับ..ถ้าศึกษาเรื่องกรรมดีๆจะรู้อะไรคือ กรรมที่หนัก เบา..กรรมที่ไม่หนักที่บรรเทาได้นั้นมีครับ..ถ้าหนักจริงยังทำให้พ้นได้ ดังเช่น.ท่านพระอริยะ เคยฆ่าคนมา แต่บำเพ็ญเพียร อย่างแรงกล้า จนพ้น กรรมนั้นได้..กรรมนั้นก็ไม่ส่งผลให้ได้รับทุกข์..เพราะท่านพ้นทุกข์ไป..แต่ท่านจะยอมรับทุกข์นั้นความเข้าใจในทุกข์แห่งผลกรรม ดั่งพระโมคคัลานะ..ยอมให้โจรทุบแต่นั่นคือธาตุ๔ครับที่โดนทุบไม่ใช่ จิตธาตุ
    คนธรรมดา กรรมตัดรอนนี่มีผลถึงตายก่อนกำหนดได้.ถ้าไม่มี เกราะป้องกันครับ..ดังนั้น เราถือว่าเรากันไว้ดีกว่าแก้ ครับ..
     
  11. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    ก็ได้บทสองบท..แหละ.อย่างที่ท่านสอนโดยทั่วไป..อย่าทิ้ง
    นะโมพุทธายะ..

    อย่างบท ทีมะสังอังขุฯ....ท่าน ต่อท้ายให้.เพิ่ม
    นะโมพุทธายะ.. พุท ธะ สัง มิฯ
     
  12. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    อิทธิฤทธิ์(ไสยฯ) พลังงาน.(วิทย์).

    พลังงานนี่หลายคนคงเข้าใจครับ..แต่ พลังอิทธิฤทธิ์บางคนอาจจะไม่เข้าใจ แล้วพาลเถียงว่าไม่มีอีก..
    ไฟฟ้าช้อตคนตาย..คนรู้ว่ามีไฟฟ้า แต่เห็นตัวไฟฟ้าไหมนี่คือคำตอบครับ..

    ศาสนาพุทธ นับว่า ใกล้เคียงหลักวิทยาศาสตร์ มากที่สุดครับ
    พระพุทธเจ้าค้นพบ คำว่า อะตอม ก่อน นักวิทยาศาสตร์

    โลกนี้มีธาตหลัก ๔ ธาตุ...นะ= น้ำ มะ =ดิน พะ =ไฟ ทะ= ลม
    ดินตั้งบนน้ำ..มีไฟ และลม ช่วยเหลือ เรื่อง พลังงาน..ทำให้ ดิน/ของแข็ง สลาย..น้ำ/ของเหลว สลาย หรือเคลื่อนไหว..แต่ทั้งหมด ตั้งอยู่ใน อากาศธาตุ..โลกกลมๆก็ตั้งอยู่บนอากาศ..


     
  13. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    ในร่างกายเรานั้น ๔ ธาตุ น้ำก่อกำเนิด(น้ำกาม) จนก่อดิน มีลมยัดใส่มา.(ลมหายใจแรกของคนเป็นคือลมออก/ลมหายใจสุดท้ายของคน(ตาย)คือลมเข้า..สรุปมีแค่ ๒ ลมเนาะ..) ไฟหนุนไปมา..ลมหนุน ให้เคลื่อนไหว..
    เมื่อใด ธาตุตีรวนจะแสดงทางกายภาพ..ลมสะดุด ก็หน้ามืด ไฟสะดุด ก็ ตัวร้อน..น้ำสะดุดก็ เป็นหวัด..ดินสะดุด.กล้ามเนื้ออ่อนแรง..
    คนโบราณเรา.....ใช้ธาตุมาตั้งสมมุติฐานของชีวิตครับ ใช้ครอบคลุมทั้งหมด...ทั้งภายนอกภายใน..
     
  14. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    คราวนี้มากล่าวถึงอิทธิฤทธิ์.พลังงานที่มองไม่เห็น..

    นะ ธาตุน้ำ ใช้ทางเมตตา..ค้าขาย
    มะ ธาตุดิน ใช้ทาง คงกระพันชาตรี อิทธิฤทธิ์
    พะ ธาตุไฟ..ใช้ทางขับไล่สิ่งชั่วร้าย สะเดาะ
    ทะ ธาตุลม ใช้ทาง กำบัง ล่องหน สะกด
    ทั้งหมดนี้..เป็นฐานของพลังงาน..ที่มองไม่เห็น ด้วยตาเปล่าครับ..แต่ครูอาจารย์โบราณท่านบอก อุปเทห์มากมายหลายวิธี แค่ ๔ ธาตุ ก็เรียนไม่จบหมดสิ้นครับ..แต่ เราก็ควรรู้ไว้ครับ...ว่ามีที่ไป มา ยังไง
     
  15. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    ใครที่อยากได้ วัตถุมงคลใดๆก็ต้องศึกษาไว้ว่า..การสร้างมีที่มาที่ไปอย่างไร..เพราะอิทธิฤทธฺ์ จะเกิดขึ้นได้.จะมีจุดเริ่มต้นขั้นตอนสร้างเป็นลำดับแรก..
    ว่าเรื่อง พระเครื่องก่อนครับ
    พระผงนั้น นับว่าสร้างยากมากครับ..เพราะต้องเขียนยันต์บนกระดานชนวน แล้วลบผงจนได้ปรมาณที่พอเหมาะจึงนำไปผสมมวลสารอื่น เช่น ว่าน ต่างๆ..ความขลังจะเริ่มที่เขียนยันต์ลบผงแล้วครับ..
    พระสร้างจากโลหะ.เช่น เหรียญ รูปเหมือน พระพุทธรูป.จะใช้การเขียนยันต์ลงในวัสดุที่จะหลอม เช่น ตะกั่ว แผ่นทองแดง เงิน นาค.หรือ ทอง แล้วแต่ จะใช้ ยันต์ ชนิดใด..รวมไปถึงนำวัสดุ อาถรรพ์ทางที่ดีมาผสม เช่น ตะปูสร้างโบสถ์ เนื้อแร่ กายสิทธิ์อื่นๆ.ที่มีดีในตัว
     
  16. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    หลังจากสร้างเสร็จ แล้ว การนำมาปลุกเสกนั้น แค่ขั้นตอนปลายนะครับ..เพราะถ้านับตามหลักโบราณจริงๆ บางเหรีญก็ใช้ไม่ได้..เนื่องจาก ปั้มมาแล้วตัวอักขระยันต์ติดเส้นยันต์..เรียกว่า ยันต์ตาบอด คืดใช้ไม่ได้..แต่ อย่างที่บอกครับ...วัสดุขั้นเตรียมการ ที่นำมาหล่อ ถ้ามีขั้นตอนดี ผ่านครูอาจารย์เก่งๆมา.ก็ ขลังจากตรงนั้นมาแล้ว..ไม่ใช่มาขลังหลังจาก ปั้ม แล้วปลุกเสก..สมมุติใครก็ แล้วแต่ นำวัสดุที่ไม่ผ่านกรรมวิธีขั้นต้นมา.นำมาหล่อ ปั้ม เลยนั้น ยากที่จะ ดำรงความขลัง ไว้ได้..ครับ
     
  17. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    ส่วน วัตถุมงคล ด้าน ผ้ายันต์ ประเจียด ตะกรุด..ก็ต้องสร้างด้วยมือจริงๆจะขลัง..มั่นคงถาวร..
    ที่กล่าวเช่นนี้เพราะ..ตามตำราการสร้างนั้น ต้องเขียนยันต์.ตามลำดับไปจนจบ ตั้งแต่ลากเส้น..เรียกว่า ยันต์ มีหลายมุม..ตั้งแต่ ๓ ๔ และมากกว่า ๔ เช่น ๗ ๙
    ลงคาถา เรียกว่า อักขระ ถ้ามี เลข เรียก เลขะ.ขั้นตอนนี้สำคัญ หากตัวคาถาติดเส้นยันต์เป็นอันว่าใช้การไม่ได้..ดังนั้นใครไปขอของดีจากพระเก่งๆไปซะตอนท่านตาดีๆ ไม่งั้นท่านจะไม่ได้ เพราะทำไม่ได้นั่นเอง
    เขียนแล้ว..ต้องนำไปปลุกเสกหรือประจุ พลัง ตามที่ตำราครูอาจารย์บอกไว้..บางครู อาจจะต้องดำน้ำลงไปเสก บ้างก็ เสกกลางแจ้ง..
    ดังนั้น ถ้าใครมีของขลังชนิดนี้ที่มีอายุเก่าๆของโบราณควรเก็บไว้ให้ดีครับ..เพราะสร้างยาก..ครูอาจารย์สมัยนี้ ไม่ค่อยสร้างให้แบพิถีพิถันแบบนี้ครับ..ตระกรุด ก็ แกะบล้อคได้ ปั้มเอาครับ.มาเสกภายหลัง..ถ้าท่านสำเร็จ อภิญญา คงไม่มีปัญหา แต่ถ้าพึ่งพาตัวคาถาอย่างเดียวคงไม่ขลังสมบูรณ์แน่ๆ
     
  18. wit_nu

    wit_nu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +90
    สุดยอดครับ แล้วมีคาถาเกี่ยวกับลาภลอยไหมครับ เรียกลาภเรียกเงินเรียกทอง
     
  19. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    ส่วนการสร้างวัตถุมงคลด้านเมตามหานิยมนั้นมี แขนงแตกออกไปเยอะมาก..ใช้วัสดุมากมายหลายอย่าง..
    สีผึ้ง..ต้องใช้สีผึ้งแท้เป็นมวลสารหลัก.จะขลัง.ส่วนอื่นจะผสมเป็นเคล็ดวิชา.เช่น ว่าน ผงเมตตา.ตระกรุดดอกเล็กฝังไว้..แล้วก็นำไปหุงตามตำรา.ถ้าสุดยอดวิชาหุงสีผึ้งต้องหุงในป่าช้า ด้วยเตโชธาตุ.คือใช้พลังจิต บังคับธาตุไฟละลาย..เมื่อนำไปใช้ก็จะมีพุทธคุณดีเด่น เมตตา ค้าขาย.
    ของอาถรรพ์ อื่น..กาฝากต้นมะยม กาฝากต้นมะรุม ถ้าใครเจอให้เอากิ่งด้านทิศตะวันออก คนโบราณเรียกทิศตะวันขึ้น (หมายถึงทำมาหากินขึ้น) เมื่อได้มาไม่ต้องทำอะไรมาก..ถ้ารู้จักครูอาจารย์ก็ขอให้ท่านปลุกเสกให้..จริงๆมีดีในตัว..ถ้าใครมีอยู่แล้วไม่รู้ทำยังไง
    ....นำไปที่ห้องพระ..ตั้งนะโม ๓ จบ ระลึกถึงพระรัตนตรัย
    สวดบทพระพุทธคุณ ธัมมะคุณ และ สังฆคุณ ( อิติโสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโตฯ) แล้ว ว่า
    คาถา...นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ นะมะอะอุฯ
    ๓ จบ ๙ จบ ได้ทั้งนั้น เท่านี้ก็ได้ของขลังไว้ค้าขายแล้วครับ...
    แขวนไว้หน้าร้านดีนักครับ..
    ถ้าหาไม่ได้จริงๆ..อันนี้ เป็นเคล็ดอีกอย่าง...ที่ พ่อค้าแม่ขาย.นำไปใช้ได้จริง..
    ไปหาซื้อ ลอบ ไซ ที่ใช้ดักปลา..ควรจะใช้แล้ว ถ้ายังไม่ใช้ก็ เอาไปวางดักในน้ำเป็นพิธีหน่อย ไม่งั้นไม่ขลัง...เวลานำเข้าร้านให้ เอาถือปากด้านที่ดักออกนอกร้านครับ..แขวนไว้ด้านในร้านที่มองเห็นลูกค้า..ใช้ได้ดีครับ..ได้ผลมาหลายคนแล้ว..
     
  20. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    มีแต่คาถาค้าขายน่ะครับ..
    แหม ลาภลอย นี่คงหายากครับ.แล้วแต่บุพกรรมเก่า ครับ..เคยให้ทานมามากบางคนท่องก็ได้ผล

    ถ้า ลาบลอย ละก็ไม่ค่อยยาก..ไม่ทีร้านแถวใกล้ๆบ้านลองสั่งดูครับ..๕๕๕
     

แชร์หน้านี้

Loading...