ไสยศาสตร์ฉบับชาวบ้าน..มี.สาระ แบบกันเอง

การ ต้องธรณีสาร หมายถึงการเกิดอาเพศ โดนอาถรรพ์ ทั้งตั้งใจไม่ตั้งใจ
เช่น การจับต้องของอาถรรพ์ หรือกระดูกผีตายโหง งูเหลือมเข้าบ้าน
เหยีบบ ธรณีประตู ก็อยู่ในข่ายที่ต้องอาถรรพ์ ด้วยเช่นกัน
แต่ไม่รุนแรง มีเพียงแค่ มีราคีในราศรี การแก้นั้น ก็ อาบน้ำมนต์ ธรณีสาร ถ้าไม่มีจริงๆ ก้ อธิฐาน เอาจากน้ำมนต์ของวัดที่เราคิดว่าศักดิ์สิทธิ์

หรือที่ไหน เขาประกอบพิธีน้ำมนต์ ก็เอามาอาบ..

การอาบน้ำมนต์ที่ถูกต้องควรอาบกลางแจ้ง..นอกชายคา

ไม่เช่นนั้น สิ่งไม่ดี จะวิ่งวนอยู่ในบ้าน จะไปโดนคนอื่นอีก นี่คือเหตุผล

และอาบก่อนมืดค่ำ เพราะพลังแสงสริยะ จะช่วยทำลายสิ่งอัปมงคล

 

นอกเรื่อง หน่อยนะ...วันนี้ ลูกน้องไปร่วม ขยายผล การจับกุมยาเสพติด

ผู้ต้องหาในคุกเป็น คนสั่งการ...ใหญ่...

ฟังจากเสียง ที่ดักฟังได้ แสดงว่า ในคุก โทรศัพท์ ได้ตลอด ๒๔ ชม.

มีประเทศไทยประเทสเดียวมั้งนี่...

ติดคุก สั่งยาบ้า มาขายได้ สั่งฆ่าคนนอกคุกได้

แล้วคุก เอาไว้ ขัง อะไร น้อ...เฮ่อ สงสาร ประเทศไทยนะ

ท่านสมาชิก เวป นี้ ผมคิดว่า คง อยู่ ในเส้นทางธรรมกันทุกท่าน

เรามาช่วยกันนะครับ...มีลูกหลาน ก็อย่าปล่อย ดูแล อย่างใกล้ชิดครับ..

ยาเสพติด ยิ่ง ปราบ ยิ่ง โต...

 

เขี้ยวหมูตัน

หลายท่านคงเคยได้ยินมาว่า เขี้ยวหมูตัน นั้น เป็นของดี หายาก ..มีดีทาง มหาอุด

อาจารย์ผม เล่าให้ฟังว่า เขี้ยวหมูป่า นั้นปกติจะกลวง ถ้าอายุมากๆ จะตันตามอายุไข แล้วจะมีเทวดารักษา...ทำให้เกิดอานุภาพในตัว
พรานป่าสมัยก่อน ไปยิงสัตว์ ถ้าเจอหมูป่าแล้วยิงไม่ดัง ก็จะสันนิษฐานว่า มีเขี้ยวตันแน่นอน...

การนำมาใช้ ต้องรอให้หมูล้มเอง ใครมีโชคก็จะได้ไป.บางครั้งหมุป่่าจะนำไปฝากไว้ที่ต้นไม้ก่อนตาย..(แทงติดไว้ที่ต้นไม้.)

แต่ถ้าตายด้วย ปืน หรือถูกทำร้าย เช่น โดนลูกปืนอาคม เขาจะถือว่าไม่ดี คือเจ้าของตายมีแรงแช่ง จะมีอาถรรพ์ตามมา ถ้าได้มาไม่มีที่มาที่ไป จึงควรระวัง

ได้มาแล้วต้องนำไปทำพิธี เสียก่อน..จึงจะใช้ได้

เขี้ยวหมูตัน ดีเด่นทาง มหาอุด มหาอำนาจ
ป้องกันเขี้ยวงา คุณไสย และภูตผี ปีศาจ

 

แล้วเรื่อง คาถาธรณีสาร นั้น เป็นคาถาครูแรงนะครับใครที่อ่านเจอ

แล้วนำไปท่องเล่นๆไม่ได้ หรือจะฝึก ก้ต้องยกครู เป็นเรื่องเป็นราว

ไม่งั้น โดนธรณีสาร ทันที

 

..แล้วซ้องหมู..ละครับมีจริงใหมครับพี่ ผมเคยอ่านเจอ..

 

ขอคุณมากๆๆครับ

 

เคยได้ยิน..แต่คำเล่า..บางคนสมัยก่อน อาจจะเคยเห็นแต่สมัยนี้คงหาดูยาก

เพราะ คำว่า ซ้องหมู หมายถึง ขยะในปากหมู นั่นแหละ ที่ไปกินแล้วมันค้างแน่นไม่ละลาย แต่ที่เป็น ซ้องดี จะเกิดจากหมู กินหัว/ต้นว่าน กินแล้วสะสม ท่านว่ามันจะคายก้ไม่ออก จะกลืน ก้ไม่เข้า

แต่พี่ เองไม่เคยเห็น เคยมีคนเฒ่า คนแก่ เล่า ผ่านๆ ว่า มันกินว่าน

แล้วมีดี คือ ยิงไม่เข้า ไปเจออีกทีมันตายเอง ในปากมีแต่ เศษว่าน

บ้างก็ว่า ละเอียดมัดเป็นวง บ้างก็ว่า เหมือนผมสีแดง ..นี่คือ คำเล่า ครับ

สรุป มันดี เพราะ ไปกินว่านคงกระพัน มา..ว่างั้น

 

เหมือนเคยอ่านเจอครับ แต่ในนิยายเพชรพระอุมาครับ ตอนที่รพินทร์เดินป่ากับคุณชายใหญ่ ... ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกจะมีเกี่ยวกับงาช้างที่หักคาอยู่บนต้นไม้ด้วย จำไม่ได้ว่าเรียกว่าอะไร ..

 

สำหรับ วัตถุอาถรรพ์ ของสัตว์ ประเภทดีในตัวนั้นก็มีหลายอย่าง

งา ก็ดีทางตรวจสอบยาพิษ ยาสั่ง ผมไปไหน ก็พกติดตัว เป็น ตะเกียบงา

สั่งมาจากพม่า เล่มเล็กๆพกติด กระเป๋า ไว้ จุ่มอาหาร จากชาวเขา

เพราะพวกนี้ ชอบลอง..ใช้ยาสั่งเก่ง(ยาพิษ) ถ้ามี มันจะ เดือด เลย

เคยเจอกับตัวเอง ๒ ครั้ง....ยาสั่ง ชาวเขา เขาทำตามสูตรง่ายๆ

ไม่ได้ใช้อะไรมาก แค่ พิษ โน้นผสมพิษนี้ เป็นภูมิปัญญา

กินของแสลงที่ กระตุ้นกัน ถ้าแพ้ รุนแรงอาจจะตายได้ หรือ

ถ้าแก้ทัน คางเหลือง

 

พนมเทียน คนเขียนท่านก็ชอบทางนี้อยุ่แล้วครับ

เลยผูกโยงเรื่องราวให้ดู สนุก..ที่จริง ก็คือคำเล่า สมัยคนโบราณ

ในรุ่น ยุค ผม บางเรื่องก็ แค่ได้ฟัง...แต่บางเรื่อง ก็ยังพอได้เห็น

ที่เห็นบ่อยๆ ตอนผมเด็กๆ และต้องคอยหลบกระสุนปืน

ก็ตอนเสือยิงกัน ปล้นกัน..ผมจำติดตา

ไปเลี้ยงวัวแล้วเห็น เสือดวลปืนกันบนถนน แล้วตาย

เห็น จะจะ.ห่างแค่ไม่ถึง ๕๐ เมตร ต้องแอบไปนอนหมอบแทบไม่หายใจ

กับคูน้ำในนาข้าว

 

... ลุ้นยิ่งกว่าในหนังอีกครับแบบนี้ ^^ ...ประสบการ์ณ สุดยอดเลยครับ ...

 

ชาวเขา กับ ผี

เรื่องการใช้ผี หรือเซ่นผี ของชาวเขานั้น

ก็เป็นเรื่องนี่ไม่น่าเชื่อ ก็ต้องเชื่อ ชาวมูเซอ จะนิยมถอดกระดูกไก่

พิธีนี้ นิยมทำเพื่อ จะกระทำการใดๆจะต้องการสำเร็จ

รวมทั้งการทำผิด อื่นๆ หลายครั้งที่ผมจับขบวนการค้ายาบ้าได้ เป็นชาวเขา

จะบอกทุกครั้งว่า ถอดกระดูกไก่ มาแล้วทำไมโดนจับ(เขาบ่นหมอผี)

เขาจะฆ่าไก่ เพื่อเซ่นผี แล้วจะดูกระดูก ซึ่งจะมีวิธีดู ผมเองไม่สันทัดวิธี

แต่ที่แน่ๆ พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ หลายคนที่มีบัญชีรายชื่อ แบล็คริส

ปัจจุบัน บางคน(อ.แม่อาย เชียงใหม่)ต้องฆ่าไก่ เพื่อดูกระดูกทุกวัน

 

พระชนะ ผี

เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่ผมนำกำลังทหารไปตรวจค้นยาเสพติดที่ชาวเขาซุกซ่อนไว้

สายรายงานชัดเจน เพราะแอบไปดูตอนขอดูยาบ้าตัวอย่าง

แต่พอเอาทหารไปเกือบร้อย ค้นปูพรมในสวนลิ้นจี่ หาครึ่งวันก็ไม่เจอ

ทั้งเหล็กแหลม จอบ เสียม ครบมือ

สายเกือบจะโดนยำ..๕๕ เพราะขุดดินมากๆ แล้วมันเหนื่อย

ลูกน้องมากระซิบ มีกระทง เซ่นผีวางไว้ที่ต้นไม้ใกล้ๆ

นึกขึ้นมาได้..มันเล่นผีหรือเปล่า

เราก็ เล่นพระสิ..ไปหยิบย่ามคู่กาย

(ผมจะมีย่ามติดตัวครับ ในนั้นจะมี เทียนแท้สีผึ้งหนักบาท ธูป และดอกไม้สีขาว และอุปกรณือื่นๆ มีดหมอ ไม้มะขามป้อมสั้นๆ ขันใบเล็กๆ ติดไปทุกครั้งถ้าออกไปในป่า หรือทำงาน)

ว่าแล้วก็ ทำน้ำมนต์ ด้วยบท นะโมตาบอด บทนี้ผีกลัวมากครับ

ถ้าใครถูกกระดูกฝังในที่ ในแดน ก็ขับออก ..

ประพรม ไปทั่ว ตามสายบอก...ไม่ถึง ๒๐ นาที ก็เจอ ตรงจุดที่ขุดเดิม

ผมบอกลูกน้องว่า เรื่องนี้ไม่เชื่อ ก็ หย่าลบหลู่...นะ ผีมีจริง ว่ะ

 

ขอบพระคุณมากๆ ครับท่าน tang 2536 ที่ทำให้เกิดกระทู้ดีๆ มีสาระแบบบรรยากาศบ้านเราๆ ได้ความรู้มากครับ

 

ขอบคุณ ครับ..

กระทู้ผม เน้น แนว พื้นบ้าน

จะว่า นิทาน ไสยศาสตร์ ก็ได้

..แต่ อิงความจริงนะครับ

ไม่ได้ ไร้ข้อมูล..แต่ถ้าไม่รุ้ ก็จะบอกไม่รู้ครับ..

ส่วนใคร รู้ นอกเหนือ จากนี้ อย่ารีรอ ครับ..หลายคนสนใจอยู่

 

พระกรุไว้พานิช พระใช้ขอองค์มีชีวิต

เรื่องพระกรุนี่ก็เกิดเรื่อง ลังเลได้

ลูกน้องผมคนหนึ่ง เป็นคนเล่นพระ ซื้อมาแลกไป แต่ละองค์ บางครั้ง หมื่น บางองค์แสนก็เคยผ่านมือ

พอจำเป็น ไปทำงานที่ยะลา กะผม..

แรกๆใหม่ๆไม่เท่าไหร่ ..ไม่กี่สัปดาห์ ระเบิดโน่น ฆ่านี่ ทุกวัน

พวกเราต้องเข้าพื้นที่ตลอด..ผมจะเตือนลูกน้องตลอด ของจริงนะโว้ย

ช่วยตัวเองก่อนนะ ดูแลตัวเอง...อย่าประมาท

คนเล่นพระนี่กะแซะๆ..มา ถาม เสธ.ครับ มีพระแบ่ง ซั้กองค์ไหมครับ

เอ้า..แล้วไอ้ที่ กรุนั้นกรุนี้ดี หมื่นสองหมื่น ที่เล่าให้ฟังล่ะ

มันบอกว่า แฮะๆ ผมก็ส่องตามตำหนิครับ ได้มาก็ขายไป.ไว้พุทธพานิชย์ครับ .ผมก็ไม่แน่ใจกลัวไม่มีพุทธคุณน่ะครับ.ที่นี่มันตายจริงน่ะครับ
.ขององค์นึง ที่ได้จาก ลพ.อะไรก็ได้ที่ เสธ.ว่าขลังๆนะครับ

เลยแบ่งให้ไป องค์นึง .

นี่แหละครับ..ถ้ามีสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน จริงๆ

ผมว่าหลายท่าน คงเป็นแบบนี้แหละ.

.ก็ขนาดนักเลงพระ ว่าแบบนี้ผมเลยไม่แน่ใจว่าถ้าได้พระกรุมาจากคนอื่น

ผมจะกล้าใช้ไหม...เพราะ เขาบอกเองว่า ปลอมเหมือนยิ่งกว่าของแท้อีก..

..

 

คุณไสย

เรื่องคุณไสย หลายท่านก็สนใจถาม

ผมเอง ก็สนใจ จึงพยายามสอบถามครูอาจารย์มาตลอด

เพราะไม่เชื่อว่า คนเราจะเสกอะไร ต่อมิอะไร ไปทำให้คนมีอันเป็นไปได้

แต่เมื่อได้รับการเปิดเผยจากครูอาจารย์ จึงรู้ว่ามี จริง.ๆ

แต่..มีคำว่าแต่ครับ..หมายถึง ต้องมีเงื่อนไข องค์ประกอบ หลายอย่าง

ที่จะมีคนทำเช่นนั้นได้ และ คนจะถูกทำเช่นนั้นได้

เพราะอยุ่ๆคนเราจะไปเสก นั่นนี่ ไปทำคนโน้น คนนี้ คงไม่ใช่

เหมือนมีคนซื้อ ต้องมีคนขาย

สมัยนี้ คำว่า โดนของ ก็ยอมรับว่ามีบ้าง แต่น้อยลงไปตามปัจจัย

สมัยก่อนนั้น ยอมรับว่ามีมาก ยิ่งสมัยผมเด็กๆยิ่งเห็นบ่อย

เพราะยุคนั้น ไม่มีไฟฟ้า ใช้..ไปไหนก็จุดตะเกียงน้ำมันก้าดไป

จึงน่ากลัวในยามค่ำคืน...คนโบราณต้องสอน ค่ำมาได้ยินเสียงอะไรห้ามทัก

เพราะวิชาคุณไสย ถ้าทำไป แบบ ลมเพ ลมพัด คือทำตามวันเวลา

ถ้าใครทักก็โดน...

 

คุณไสย

จริงๆวิชาคุณไสย นั้นเป็นวิชาคาถาอาคม

มีจริงในสมัยก่อน สมัยนี้ก็มีแต่น้อยลง

วิชาคุณไสยที่ใช้ทำร้ายคน มีทั้งใช้ ตัวคาถาอย่างเดียว
กับใช้วัตถุอาถรรพ์

ใช้คาถา ก็....วิชาแช่งคน วิชานั่งเทียน(เขียนยันต์ด้วยกระดาษสาลงชื่อ) วิชาเสกหนังควาย(ผมเคยเปิดดูตำราของอาจารย์ ต้องใช้น้ำมะพร้าวอ่อนทำน้ำมนต์) วิชากาสัก(เขียนยันต์กาสักลงชื่อ)
วัตถุอาถรรพ์ประกอบคาถา เช่นเขียนยันต์ลงบาตรแตก
ยังมีอยู่นิยมใช้มาก ตะปุโลงศพ ยังมีอยู่ กระดูกผีตายโหง(ใช้ฝังในที่ในแดน สมัยก่อนแอบไปฝังใต้ถุนบ้าน ฉิบหายหมดบ้าน แต่แก้ง่าย)

วิชาบังฟัน นิยมมากสมัยก่อน(ใช้สีผึ้งปิดหน้าผี ปั้นหุ่นเรียกจิตเข้าหุ่นใช้มีดอาคมฟัน จะตายทันทีภายใน๓วัน๗วัน ยิ่งได้ดินรอยเท้ามาผสมยิ่งดี) วิชานี้เรียนแล้วทดลองด้วยการเอากล้วย ๑ เครือมาแขวน ปั้นสีผึ้งเป็นรูปกล้วยแล้วฟัน..อาจารย์จะปอกกล้วยดู..ข้างในขาดเปลือกนอกปกติเป็นอันว่าใช้ได้

 

คุณไสย

ส่วนใหญ่แล้วการจะทำกันนั้น ต้องมีเหตุครับ จึงต้องใช้การสมมุติฐานจากความขัดแย้ง เพราะในสมัยก่อน
จะทำกันต้องจ้างวาน..เมื่อปี ๒๔๙๘ อาจารย์ผมท่านเคยรับทำ
ค่าครู ทำให้บ้านี่ ๑๐,๑๙๙ บาท ลองคิดดูละกันครับว่าตอนนั้นทองบาทละเท่าไหร่..ท่านก็บอกว่า ต้องสอบถามที่มาที่ไปกันก่อน ไม่ได้ทำง่ายๆ พอท้ายสุดท่านก็ เลิกวิชานี้ หันมาฝึก วิปัสนากรรมฐาน..แล้วไม่ถ่ายทอดใครเลย

การโดนของท่านบอกคนใกล้ชิด เท่านั้น ที่จะสังเกตุออก
เพราะการโดนวิชาคุณไสย จะดูยาก

บางครั้ง โดนไม่ถึงตาย แต่จิตจะตก ถูกงำโดยอวิชา

ทำให้ทำกินไม่ขึ้นก็มี หรืออาจะป่วยไม่ทราบสาเหตุ..

และบางคนอาจจะเสียจริต ไปแบบไม่มีสาเหตุ...ก็มี

แต่ อย่างที่บอกครับ..คนไหว้พระสวดมนต์ประจำ อวิชาเข้ายาก

เข้าไม่ค่อยถึง อาจารย์ผมก็ยืนยันแบบนั้น..โดนก็อาจจะแค่สกิดสะเกา

เทียบเคียงแค่ แบบแผลรอยข่วน ...ถ้าคนสวดมนต์ไหว้พระ

ให้สังเกตุง่ายๆว่า มีอาการงึมๆงำๆ แบบที่ไม่เคยเป็น.บ้างไหม

 

แล้วต้องทำอย่างไรครับถึงจะอยู่รอดปลอดภัย