ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. กระติ๊บ

    กระติ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +940
    คุณ Me, myself คะ คิดเสียว่าได้เผยแผ่เรื่องราวการปฏิบัติธรรมเป็นธรรมทานนะคะ เพราะจากที่คุณโพสมา ตั้งแต่กระทู้แรกจนถึงตอนนี้ มีเนื้อหาธรรมมะ หลายอย่างที่มีประโยชน์ และเป็นแนวทางให้กับผู้อื่นได้ศึกษา ก็เสมือนคุณได้สร้างธรรมทาน ให้บังเกิด เป็นกุศลใหญ่ ดิฉันเสียดายอย่างยิ่ง ที่กระทู้นี้จะจบลงไปเพียงเท่านี้

    ยังไงก็จะติดตามและให้กำลังใจต่อไปนะคะ
     
  2. nahathai

    nahathai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2009
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +2,393
    เรียน คุณMe myself
    ได้โปรดอย่าหยุดเขียน เพราะ บทความของคุณ ทำให้ดิฉันและนักอ่านหลายคน กำลังมุมานะ ขยัน ฝึก กับการปฏิบัติ เพราะข้อความของคุณ ทำให้สิ่งที่เป็นคำถามอะไรต่างๆที่ค้างคาในใจ ไม่ต้องสงสัยอะไรให้มากความ ให้ตั้งใจปฏิบัติดี ทำดีได้ดี ไม่ต้องสงสัย และ ขมักเขม้นในการทำสมาธิ อย่างตั้งใจ และอะไรอีกหลายๆอย่างค่ะ ถือว่าทำบุญนะคะ เขียนต่อนะคะ ดิฉันและอีกหลายท่าน อ่านบทความของคุณหลายๆเที่ยว เกือบทุกครั้งที่เข้าเวบค่ะ
     
  3. มหาจอร์จ

    มหาจอร์จ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +32
    อนุโมทนาครับ
    ข้อความนี้โดนใจมากๆครับ

    แล้วที่ท่านผิดหวังมากที่สุดก็คือลูกศิษย์ลูกหาเปลี่ยนไปกลายเป็นไปหลงวัตถุเครื่องรางของขลังมากกว่าที่จะไปฝึกจิต ดิฉันก็ว่าก็หลวงพ่อปลุกเสกได้ดี คนเขาเลยศรัทธาไง ท่านก็ว่าฉันไม่ได้ปลุกเสก ฉันขอบารมีของพระพุทธองค์ต่างหาก ฉันจะทำได้ไง เพราะยังไงก็ต้องตายอยู่ดี

    อย่าไปเช่าพระเครื่องมากมายเกินกำลังตัวเอง มันจะทุกข์ จุดประสงค์ที่ฉันสร้าง เพื่อให้คนที่เขาเอาไปบูชานึกเห็นว่าพระเครื่องคือตัวแทนถึงพระพุทธเจ้า จำภาพเป็นนิมิต นึกถึงพระพุทธองค์ทุกขณะจิต ท่านบอกเป็นการปิดประตูนรก ลูกศิษย์ทั่วไปหลงผิดกันมาก ติดวัตถุมงคลมาก นำมาตีราคากันได้ยังไง นี่คือรูปแทนพระพุทธเจ้า"


    ข้อความนี้กระตุกต่อมหลับผมให้กลับมาตั้งสติกันใหม่
    คงทำให้อีกหลายท่านตื่นกันเสียที
    หลงกันมานาน กะจะรวย อีก 10 ปี ข้างหน้า
    ที่ท่านบอกไว้ ประมาณ ปี 2564 ฝันหวานกันเลยเชียว
    อยากเป็นมหาเศรษฐีกันเยอะ จะอยู่ถึงกันหรือเปล่ายังไม่รู้
    พอความโลภเข้ามา เลยพากันลืม คำสอนหลวงพ่อเลย
    ถ้าตายวันนี้ พระเครื่องหลวงพ่อก็เอาไม่ได้ ดีไม่ดีลูกหลานเอาไปขายอีก ผมพอแล้ว ไม่เอาแล้วครับ จะน้อมนำโอวาทหลวงพ่อไปปฏิบัติครับ ไปนิพพานกันดีกว่า สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤษภาคม 2009
  4. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    อนุโมทนาบุญ กับทุกแรงเชียร์ค่ะ ยกมืออีกคนค่ะ ไม่อยากให้คุณเลิกเขียนเลยนะค่ะ ทุกถ้อยคำ ทุกคำพูดมีประโยชน์และกำลังใจมาก โดยเฉพาะ เรื่องการฝึกจิต อย่าเลิกเลยนะค่ะ คุณ Me, myself
     
  5. nahathai

    nahathai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2009
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +2,393
    เห็นด้วยกับข้อความของคุณ #187<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Ricardo DeCalgar
    คือดิฉันกับสมาชิก ก็ศีกษา เรียนรู้ จากการอ่านนี่แหละค่ะ ก็ไม่อยากให้คุณ Me myself หยุดการเขียน
     
  6. Jenny_Lee

    Jenny_Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    414
    ค่าพลัง:
    +1,357

    ขอสนับสนุนคุณกระติ๊บด้วยอีกคนค่ะ
     
  7. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    ได้สติครับ ตื่น ตื่น ตื่นหมดคน...


    และขอสารภาพ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ เช่าพระหลวงพ่อมามากพอสมควร แต่พอมาช่วงนี้เริ่ม สำนึก คิดได้แล้วว่า เราจะเช่าบูชาไปมากทำไม ตายไปก็เอาไปไม่ได้ ลูกหลานก็ไม่รู้ว่าจะสนใจเหมือนเราเปล่า ดีไม่ดี เอาพระไปขายกันหมด

    ก็อย่างที่หลวงพ่อท่านบอก นั่นแหละครับ ท่านสร้างเพื่อให้เป็นที่ระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้า ก่อนตายนึกนึงได้ ก็ปิดอบายภูมิ

    ตอนนี้ จะหันมาปฏิบัติมากขึ้น จะปฏิบัติตามคำสอนหลวงพ่อไปจนวันตายครับ

    ขอบพระคุณมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤษภาคม 2009
  8. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    กราบแทบเท้าพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่กรุณามาเตือนพวกเราครับ
    ผมจะน้อมมาปฏิบัติเพื่อมุ่งตรงสู่พระนิพพานตามคำสอน
    และขออนุโมทนากับคุณ Me, myself ด้วยครับที่นำมาบอกพวกเรา

    คุณwara 43 ครับ
    มีเพื่อนแล้วครับ อย่างน้อยผมคนนึงที่เช่าบูชาวัตถุมงคลหลวงพ่อเช่นเดียวกับคุณ
    ผมบูชาติดตัวส่วนนึง ส่วนนึงให้คนในครอบครัว ส่วนนึงเก็บไว้ให้ลูกหลานในวันหน้า
    เหลืออีกส่วนนึงเก็บไว้ ยามภัยพิบัติมาถึง ผมจะแจกให้เพื่อนฝูงที่สนิทและลูกหลานของเขา
    หากเขามีบุญพอก็จะได้รอดจากภัย หรือหากหมดบุญขณะจิตอยู่กับวัตถุมงคลนั้น
    ก็จะทำให้พ้นอบายภูมิ
    เราก็จะได้อานิสงส์ด้วย
    ผมมีความเห็นว่า
    ข่าวภัยพิบัติที่กำลังแพร่กันขณะนี้
    เป็นส่วนนึงที่ทำให้ทุกคนตื่นตัว
    คนที่กำลังใจดีก็จะเร่งศึกษา + ปฏิบัติ ทาน ศีล ภาวนา เพื่อมุ่งสู่พระนิพพาน
    แต่คนที่มีกำลังใจอ่อน ก็ยังต้องอาศัยสื่อ
    ก็คือวัตถุมงคลของหลวงพ่อนี่ละครับ

    สุดท้ายนี้
    ขอกราบมายังแทบเท้าพระเดชพระคุณหลวงพ่ออีกครั้ง
    กราบ...กราบ...กราบ
     
  9. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เอ๊า...ไม่ใช่จะแปลความหมายไปทางลบกันซะหมดล่ะ ดิฉันว่าท่านคงให้มีได้แต่พอประมาณ คืออย่าไปทุ่มเทเงินทองหาเช่ามาให้มันมากมายมากกว่า ดิฉันก็เข้าใจว่าบางคนยังต้องการสิ่งยึดเหนี่ยว แต่ถ้ามันเยอะมันก็กลายเป็นวิ่งหาแต่เครื่องรางของขลังโดยลืมเนื้อแท้ของการปฎิบัติ เลยทำให้ท่านมาเตือน

    มีสติค่ะ สติมาปัญญาเกิด แล้วจะมองเห็นถึงสิ่งต่างๆได้อย่างดี
     
  10. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    (kiss)ครับ เข้าใจครับ

    เจตนาที่ว่าคือ ไม่ใช่ไปไขว่ขว้า หามาบูชาเกินกำลังของตัวเอง มันจะเป็นทุกข์ มันจะเดือดร้อน
    พอเงินหมดก็เป็นทุกข์ เพราะมันต้องกิน ต้องใช้

    เรื่องการเงินนี่ปัญญาหาใหญ่จริงๆๆครับ สำหรับในโลกมนุษย์นี่
    มีมากไปใช้ไม่ถูกทางก็ทุกข์ มีน้อยมันก็ทุกข์ ไม่มีก็ทุกข์

    สำหรับลูกหลานหลวงพ่อโชคดี มีคาถาเงินล้าน ใครได้สวดแบบจริงใจ มีใจเคารพ มีผลมหาศาลครับ

    ท้ายสุด หันมาปฏิบัติกันให้มากๆๆ จะได้ไม่ต้องผุดต้องเกิดกันซักที เข้าพระนิพพานกันชาตินี้ครับ

    ขอบพระคุณมากครับ
     
  11. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    เห็นด้วยทุกประการครับ
    ขออนุโมทนาอีกครั้งครับ
    กระผมน้อมรับมาปฏิบัติยิ่ง ๆ ขึ้นไปครับ
     
  12. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    คุณ Me,myself ครับ
    เขียนต่อเรื่อย ๆ นะครับ
    ผมรออ่านอยู่
    ข้อเขียนของคุณเป็นกำลังใจ + ประโยชน์แก่ผู้ปฏิบัติ
    ตลอดจนลูกหลานหลวงพ่อทุกคนครับ
     
  13. RICK

    RICK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +380
    จาก คห.363
    เรื่องคนที่ฝึกมโนฯแล้วไม่เป็นผลรบกวนขยายความอีกนิดครับ เพราะเราเป็นคนใหม่ไปฝึกก็คงยังไม่รู้อะไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤษภาคม 2009
  14. ดับ

    ดับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +533
    อนุโมทนาทุกๆท่านทุกๆกระทู้ครับ ผมก็เป็นกำลังใจให้คุณพี่เจ้าของกระทู้อีกคนครับ เป็นเรื่องไม่แปลกครับที่จะมีจิตตกกันบ้างเพราะเรายังอยู่ในโลก ยิ่งสังคมในเมืองแล้ว สิ่งกระทบมันเยอะมาก ผมเข้าใจสภาวะจิตตกเป็นอย่างดี(เพราะตอนนี้กำลังตกเต็มที่ หาทางบังคับให้มันขึ้นอยู่)
    ตอนนี้ครู(ขอใช้คำว่าครูแทนคำว่า"มาร"นะครับ)ส่งข้อสอบมาถี่มาก ครูที่อยู่ในตัวผมจะรู้อย่างดีว่าผมอ่อนทางไหน(แน่ละก็ตัวเราเองนี่) เลยส่งข้อสอบมาให้ผมได้ฝึกอยู่เรื่อยๆ เพื่อที่จะทำให้ผมเป็นคนที่มีสติที่ตื่นตลอด เผลอตอนไหนข้อสอบมาตอนนั้น และส่วนมากจะมาในสิ่งที่ผมคิดว่าผมรู้ผมเข้าใจและไม่เผลอ สุดท้ายครูก็ทำให้รู้ว่าตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ตราบนั้นโอกาสที่จะเผลอย่อมีได้ตลอด เผลอเมื่อไหร่ทางลงนรกก็เปิดรออยู่เต็มที่ ร่างกายนี้เป็นเครื่องมือของกิเลส เกิดจากกิเลส เรายังยึดติดในร่างกายนี้เพียงใด อย่าหวังเลยว่าจะพ้นจากเงื้อมมือของกิเลส ผมยังเลวอยู่มากโดนครูหลอกมาตั้งนานว่าตัวเองดี เดี๋ยวนี้รู้แล้วว่า เมื่อไหร่ที่คิดว่าตัวเองดี เมื่อนั้นเราก็ประมาท ย่อมเปิดโอกาสให้กิเลสมาเป็นเจ้านายได้อีก อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ที่กลับสู่วงโคจรได้แล้ว ผมก็จะพยายามพาจิตกลับสู่สภาวะที่มันควรจะเป็นให้ได้เร็วที่สุด ขอสติจงมีแก่ทุกๆท่าน อนุโมทนาครับ
     
  15. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    การที่จะฝึกมโนฯได้ต้องทำสมาธิได้ถึงฌาน 4 นะคะ แต่หลวงพ่อก็บอกว่าให้เริ่มจากอุปจารสมาธิก็ได้ ไม่ทราบว่าท่านกัลยาณมิตรทั้งหลายเข้าใจเรื่องฌานกันมากน้อยแค่ไหน อย่างฌาน 1 เป็นยังไง ฌาน 2 เป็นยังไง แล้วรู้ได้ยังไงว่าท่านทำสมาธิได้ฌานที่เท่าไหร่

    เอาอย่างนี้ค่ะ มาช่วยกัน คนที่เคยไปฝึกมโนฯมาแล้ว ดิฉันอยากให้ท่านมาช่วยเล่าเรื่องระหว่างที่ฝึก เริ่มตั้งแต่ตอนทำสมาธิไปจนถึงสุดท้าย แล้วเรามาดูกันว่าทำไมถึงไม่ได้

    แล้วดิฉันจะมาอธิบายเรื่องฌานเรื่องสมาธิให้ฟังแบบง่ายๆ แล้วเอาไปปฎิบัติ อย่างน้อยก็จะได้ไม่หลงเข้ารกเข้าพงล่ะค่ะ แวะมาบอกแค่นี้ก่อน จะไปนั่งสมาธิค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 พฤษภาคม 2009
  16. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เช้านี้ก็ไปใส่บาตรมาอีกค่ะ เอาบุญมาฝากค่ะ
     
  17. ดับ

    ดับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +533
    อนุโมทนาครับ
     
  18. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    ขอคำแนะนำด้วยครับ

    ประสบการณ์ และลำดับที่เคยไปฝึกที่บ้านสายลมครับ

    เริ่มแรกก็ไป ถวายเครื่องบูชาพระ มีดอกไม้3สี ธูป เทียน พร้อมเงินค่าครู ครับ

    ต่อไป ก็บูชาพระรัตนตรัย สมาทานศีล สมาทานพระกรรมฐาน ขอขมาพระรัตนตรัย ครับ

    เริ่มทำสมาธิ เริ่มแรก ก็ผมซ้อมภาวนา พุทธโธก่อน แล้วก็มา นะมะพะทะ ครับ

    จากนั้น พอประมาณ 15 นาที ครูผู้ฝึกก็ให้ตัดคำภาวนา มาพิจารณา ขันธ์5
    ว่ามันเป็นทุกข์ เป็นเพียงธาตุทั้ง4 มารวมกันเท่านั้น มันมีการเกิดขึ้น แล้วเสื่อม แล้วก็สลายไปในที่สุด ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา แล้วก็ให้ตัดกังวล ถ้าตายตอนนี้ก็ยอมตาย ไม่กลัวตาย พิจารณาด้วยปัญญาจนพอใจ

    หลังจากนั้น ก็ขอบารมีพระพุทธเจ้า ขึ้นไปพระจุฬามณี ไปกราบท่านปู่พระอินทร์ ไปพระนิพานกราบพระพุทธเจ้า กราบหลวงพ่อ ไปดูวิมาน ของตัวเองครับ

    (มีอยู่นิดนึง เวลามาฝึกอย่าอยากไปมากจนเกินไป เพราะตัวอยาก เป็นตัวที่ทำให้ไปไม่ได้ครับ)

    ขออนุญาตถามครับ
    เรื่องของณาน ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ ขอคำแนะนำด้วยครับ
    ถาม 1 : ตอนตัดภาวนา มาพิจารณา เราเข้าณานที่4 แล้วใช่มั้ยครับ
    ถาม 2 : ผมทำสมาธิแล้วภาวนากำหนดลมหายใจ ชอบเคลิ้ม เหมือนหลับ แต่ว่าก็คิดว่าตัวเองเหมือนไม่หลับ พอรู้สึกตัวเหมือนตัวเอง คำภาวนาหายไปนะครับ
    ถาม 3 : พอภาวนาไป คำภาวนาหาย ก็กลับมาภาวนาใหม่ เหมือนวนอยู่อย่างนั้น ไม่ไปถึงไหนครับ

    ไม่รู้จะพัฒนาให้ดีได้อย่างไร ขอคำแนะนำด้วยครับ

    ขอบพระคุณมากๆๆครับ
     
  19. ANUWART

    ANUWART เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2,669
    ค่าพลัง:
    +14,320
    สาธุครับ

    ขออนุโมทมนาสาธุการกับเจ้าของกระทู้ด้วยครับ /นิพพานเป็นที่ที่มีความสุข
     
  20. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0

    ที่ดิฉันอยากให้คนที่เคยไปฝึกมาช่วยเล่ารายละเอียดการฝึกก็เพื่อที่เราจะได้มาสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือแนะนำข้อปฏิบัติให้แก่กัน ขอบคุณนะคะที่มาแบ่งปันประสบการณ์ แต่คุณก็ไม่ได้เล่านะคะว่าที่คุณเห็นคุณไปน่ะ มีลักษณะยังไง คุณเห็นจริงหรือเปล่า หรือว่าว่าตามกันไป (อันนี้ไม่ได้จะปรามาสว่าคุณไม่เห็นจริงหรืออะไรนะคะ เพราะต้องการทราบข้อมูลจริงๆ)

    เพราะว่ามีน้องคนหนึ่งเขาเล่าว่า ก็ไปฝึกเหมือนคุณนี่แหละ แบบที่คุณเล่ามานั่นเลย แต่พอตอนที่ครูถามว่าเห็นอะไรไหมนี่ จริงๆเขายังไม่เห็นนะ (เขาบอกมีหลายคนก็ไม่ได้เห็นอะไร) แต่ถ้าตอบว่าไม่เห็นปุ๊บ ครูก็จะว่าให้ดูให้ดีๆ เราตัดนิวรณ์แล้ว ตอนนี้มีแสงทิพย์ เพราะฉะนั้นจะมีตาทิพย์มองเห็น ครูก็ว่าไปประมาณนี้ น้องเขาว่า แค่เรื่องสีของพระจุฬามณีเองก็ตอบกันไปคนละอย่างแล้ว แต่ถ้าตอบอยู่ในสามสีนี้คือ ทอง ใส แก้ว ถูกต้องตามมาตรฐาน ถ้าใครยังตอบไม่ได้ ครูก็จะถามย้ำๆบอกให้ดูให้ดีๆ จนส่วนใหญ่ก็ต้องตอบไปตามอย่างที่ครูอยากให้ตอบ ทั้งๆที่ไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลย อย่างน้องเขาบอกที่เขาอ่านมาว่าพระจุฬาเป็นแก้ว เขาก็เลยตอบว่าแก้ว แล้วเขาก็เล่าว่าพอขึ้นไปข้างบนยิ่งหนักกว่าอีก เพราะจะถามว่าพระพุทธองค์ใส่ชุดอะไร ใส่รองเท้าหรือเปล่า แล้วก็ตามสูตรต้องพาไปไหว้พระอินทร์ ก็เหมือนที่คุณเล่ามานั่นแหละ เขาบอกลูกศิษย์ยังนั่งปวดขาอยู่เลย แล้วมันจะไปเห็นอะไร มีคนนึงเขาตอบไม่ได้ เขาบอกครูว่าผมนั่งปวดขาอยู่นี่ แล้วจะให้ผมไปเห็นอะไร ผมไม่เห็น พอบอกอย่างนี้ครูก็พยายามบอกว่าให้ตัดนิวรณ์ใหม่ พอทำแล้วก็ไม่เห็น ครูก็ว่าตัดนิวรณ์แล้วมันต้องเห็น อะไรประมาณนี้ จนสุดท้ายคิดว่าเขาคงรำคาญมั้งก็ต้องตอบไปแบบเอาใจครู ซึ่งครูก็บอกว่าถูกต้อง...กรรม

    แต่ที่ดิฉันอ่านการฝึกของหลวงพ่อ ท่านว่าให้ครูคอยจับผิดคนฝึกนะ ให้ดูว่าเห็นจริงหรือเปล่า หรือว่าจำคำพูดคนอื่นมาตอบ ถ้าเป็นยังงั้นท่านให้ปล่อยไป เพราะแสดงว่าคนนี้ฝึกไม่ได้หรอก เพราะขนาดตัดนิวรณ์แล้วยังไม่ได้ก็แสดงว่า ใจไม่ยอมละ ยังละไม่ได้ ท่านก็ไม่อยากให้ฝึก แต่ที่น้องเขาเล่ามา กลับกลายเป็นว่ากลับกัน ไม่เห็นก็จะเอาให้เห็น เหมือนเล่นขายของเลย (นึกถึงคำพูดหลวงพ่อที่เคยฝากมาบอกเลย ที่ท่านว่าการฝึกมโน มันไม่ได้เล่นขายของนะ..อืมม)

    ก็อยากให้คนที่ไปมาแล้วมาเล่าเพื่อมาหาทางแก้ไขกัน ดิฉันไม่ได้อยากไปสู้รบตบมือหรือไปอวดเก่งกับใครหรอกนะคะ เพราะตัวดิฉันเองก็ยังฝึกไปไม่ได้ไกล ยังต้องศึกษาอีกเยอะเลย แค่ต้องการช่วยเหลือท่านกัลยาณมิตรที่ติดขัดจะได้หาทางแก้ไขทำให้มันไปถูกทางก็แค่นั้นเอง

    อ้อ..ฝากถึงจ่า จ...บอกว่าจะมาเขียนเล่าเรื่องที่ไปฝึก ยังไม่ยอมมาเขียนอีก เจอหน้าจะเขกกบาลให้ อย่ามาถามเรื่องการปฏิบัติอีกนะ จะงอนไม่บอกปล่อยให้งมหาทางไปเอง อิอิ

    อ่ะ..ตอบคำถาม

    ถาม 1 : ตอนตัดภาวนา มาพิจารณา เราเข้าณานที่4 แล้วใช่มั้ยครับ
    ที่คุณไปฝึก เป็นแค่มโนครึ่งกำลัง ใช้สมาธิแค่อุปจารสมาธิ (สมาธิเฉียดๆ) ยังไม่ถึงปฐมฌานด้วยซ้ำแต่ก็ใกล้ปฐมฌานเต็มที แต่ใช้การพิจารณาขันธ์ 5 มาตัดเพื่อละนิวรณ์ ซึ่งจะช่วยให้เกิดผลในการได้ทิพย์จักขุญาน แต่ถ้าเป็นมโนแบบเต็มกำลังจะต้องได้ฌาน 4 นั่นคือต้องนั่งสมาธิจนไม่นึกคิดอะไร ภาวนาก็หายไป ปิติก็หายไป จนแม้แต่ลมหายใจก็หายไปเลย (จริงๆยังหายใจอยู่)
    ถาม 2 : ผมทำสมาธิแล้วภาวนากำหนดลมหายใจ ชอบเคลิ้ม เหมือนหลับ แต่ว่าก็คิดว่าตัวเองเหมือนไม่หลับ พอรู้สึกตัวเหมือนตัวเอง คำภาวนาหายไปนะครับ
    จริงๆถ้านั่งสมาธิจนคำภาวนาหายไปไม่กังวล แต่ยังมีความปิติ มีความสุข มีอารมณ์เป็นหนึ่ง (เอกัคคตา) นั่นคือสมาธิระดับทุติยฌาน (ฌาน 2) แต่ที่คุณบอกมายังไม่ละเอียดพอ เลยไม่รู้ว่ามันใช่หรือเปล่า
    ถาม 3 : พอภาวนาไป คำภาวนาหาย ก็กลับมาภาวนาใหม่ เหมือนวนอยู่อย่างนั้น ไม่ไปถึงไหนครับ
    อ่านคำตอบจากข้อสองก่อน ถ้าคุณเริ่มรู้สึกว่าคำภาวนาหายไป แล้วกลับมาภาวนาใหม่ นั่นแสดงว่าสมาธิคุณลดลงไปเหลือปฐมฌาน (ฌาน 1) คือคอยจะยึดเอาแค่คำภาวนาเป็นอารมณ์ เพราะคำภาวนาเป็นวิตกวิจาร ถ้าคุณทำได้จนถึงทุติยฌานแล้ว คุณต้องคุมอารมณ์ทุติยฌานให้ได้อย่าให้คลาดเคลื่อน
     

แชร์หน้านี้

Loading...