ให้บูชาวัตถุมงคลประจำปี ๒๕๖๖

รับทราบการจองชุดช้อนครับ ขอบพระคุณมากครับ

 

รายการฝาก
ให้บูชาธง 5 ธาตุ ประกอบด้วย ธง 5 ผืน 5 สี ใช้ปรับฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย บ้าน ออฟฟิต โรงงาน ขับไล่สิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งปวง ป้องกันสิ่งไม่ดีทั้งหลายไม่ให้เข้ามา โบกพัด ความเจริญรุ่งเรือง ความมั่งคั่ง ความร่ำรวย ความสุข และโชคลาภ ให้หลั่งไหลมา พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกาเสก ร่วมกับพระอาจารย์อ๊อด เสกพิธีใหญ่วันที่ 21 มีนาคม 2566 โดยเฉพาะ พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิลังการ์ อธิฐานปลุกเสก 3 วาระ วาระแรก ที่กุฏิวัดโพธิลังการ์
วาระสอง ที่มูลนิธิพระมหาจักรพรรดิโพธิสัตว์กวนอิม ในวันฟ้าอภัย วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๖ วาระสาม ที่มูลนิธิพระมหาจักรพรรดิโพธิสัตว์กวนอิม วันที่ ๖ เมษายน ๖๖ พลังฤกษ์ ๖๖๖ ตามฤกษ์ฉีเหมิน
วันฟ้าอภัย 天赦日 (วันอภัยโทษจากสวรรค์) เป็นวันอภัยบาป เป็นวันมงคลสำหรับจักรพรรดิแห่งสวรรค์ ที่จะยกโทษบาปของสรรพสัตว์ที่ได้ล่วงเกินสวรรค์และสิ่งศักดิ์ทั้งปวง ตลอดถึงการบนบาลศาลกล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้ วันนี้สวรรค์อภัยให้ทั้งหมดแก่ผู้กราบไหว้ขอขมากรรมต่อสวรรค์ ผู้กราบไหว้ขอพรจะได้รับความเฮง( 興) ความเจริญรุ่งเรืองมีความสุข และโชคลาภ ความมั่งคั่ง ความร่ำรวย สุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาวนาน
พระอาจารย์อ๊อดท่านมีความตั้งใจในพิธีนี้มาก โดยคำนวณฤกษ์ตามหลักวิชา ฉีเหมินตุนเจี่ย 奇门遁甲 ขี่มึ้งตุงกะ (ภาษาจีนแต้จิ๋ว) โดยใช้ฤกษ์ประสานกันทั้งหมด ๓ ช่วงเวลา
เริ่มจากเช้า ใช้ฤกษ์มังกรคืนอำนาจเป็นฤกษ์มงคล มหามงคลสูงสุด ในวิชาฤกษ์ยามฉีเหมิน ซ้อนด้วยฤกษ์อำนาจสัมบูรณ์.ช่วงบ่าย มังคืนอำนาจซ้อนด้วยสาวหยกพิทักษ์ประตู ทำให้เกิดปาฏิหารย์ไฟลุกด้านหลังพิธีหลังจากพระอาจารย์เขียนฮู้ลงในกระดาษ ก่อนหน้านี้ ๑ วัน ได้คุยกับพระอาจารย์แล้วว่า ไฟลุกแน่นอนเตรียมน้ำไว้เลย ไฟก็ลุกตามที่ได้คุยกันไว้จริง ๆ เป็นปาฏิหารย์แห่งความสำเร็จ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำพิธีแล้วไฟลุกทุกครั้งที่ใช้ฤกษ์พลังเต็มแบบนี้ ช่วงเย็น ฤกษ์มังกรคืนอำนาจ ปิดท้ายด้วยพิธีอธิษฐานจิตจาก พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิลังการ์ นั่งคุยกับพระอาจารย์ว่า ใกล้หมดฤกษ์แล้วเดี๋ยวพระอาจารย์บ๊ะ ท่านจะออกจากสมาธิแล้ว ตรงตามฤกษ์ ตามเวลาเป๊ะ แบบไม่ได้นัดหมาย จบพิธี ๑๙.๐๐ น. .
พิธีอลังการ พลังงานดีที่สุดในรอบ ๑๐๐ ปี
เพราะว่า วันที่ ๒๑ มีนาคม เป็นวันเที่ยงเสี่ยยิก(ฟ้าอภัย) เป็นวันพระข้างแรม แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ปีขาล ประกอบด้วย ฤกษ์ฉีเหมินที่เกิดขึ้นน้อยมาก ๆ ถ้าใช้คนคำนวณฤกษ์นี้อาจต้องใช้เวลาเป็นร้อยปี ถึงจะคำนวณฤกษ์นี้ได้ ถือได้ว่า เป็นที่สุดในที่สุด แห่ง ๑๐๐ ปี เลยทีเดียว
.ส่วนเรื่องพลังงานนั้นถือว่าสุดยอดที่สุด
วัตถุมงคล ลูกแก้วปรับธาตุ และวัตถุมงคลอื่นในงานนี้ รอบนี้ถือว่าเข้มขลังสุด ๆ รวมพลังความเฮง ความปัง ในรอบ ๑๐๐ ปี รวมไว้ที่เดียว
ใครได้ไปถือว่าสุดที่สุด ทั้งพลังความเฮง ความมั่งคั่งร่ำรวย โชคลาภ ความสำเร็จ สมปรารถนา แบบ ๑๐ เท่า ๑๐๐ เท่า ๑๐๐๐ ทวี
วาระสาม วันที่ ๖ เมษายน ๖๖ พลังฤกษ์ ๖๖๖ ตามฤกษ์ฉีเหมิน ที่ส่งพลังต่อเนื่องมาตั้งแต่ วันที่ ๒๑ มีนาคม ส่งพลังมังกรคืนอำนาจ และพลังอำนาจสมบูรณ์เติมเต็มบริบูรณ์ในทุก ๆ ด้าน
( วันนี้พระอาจารย์บ๊ะท่านเสกนานมาก ๆ ในพิธีวันนี้แอบกระซิบถามท่านว่าพระอาจารย์วันนี้นานมากเลยครับ " ท่านตอบว่าแค่ ๑๐ นาทีเอง " ในคำตอบของท่านมีอะไรซ่อนอยู่ถึงความตั้งใจของท่าน ในการส่งความเฮงสู่ลูกศิษย์ )
๑๐ นาที ของท่าน = ๑ ชั่วโมง ถ้าตามฤกษ์วันนี้มังกรคืนอำนาจ คือทำน้อยได้มาก ลงมือทำน้อยแต่สำเร็จมหาศาล ๑๐ เท่า ๑๐๐๐ ทวี ทำอะไรก็สำเร็จ ×๑๐ ลงทุนอะไรก็สำเร็จ ×๑๐ สาธุ สาธุ สาธุ
ขอความสำเร็จสมปารถนาจงเกิดมีแด่ทุกท่าน
ไม่สามารถทำได้บ่อย ๆ เพราะต้องอิงกับฤกษ์ยาม ถือว่าปีนี้โชคดีมีฤกษ์ที่ดีในรอบร้อยปีเลยครับ

+++ข้อสำคัญในการวางธงจะต้องวางให้ถูกตำแหน่งและถูกสีนะครับ ธงสีเหลืองต้องอยู่ตรงกลางเท่านั้นครับห้ามวางตำแหน่งอื่น(ภาพธงที่อยู่ในพิธี)
รายการนี้ฝากมาเพียง 1 ชุด ให้บูชาชุดละ 1500 จัดส่ง 50 จองได้สามวันครับ

 

ให้บูชาเหรียญท้าวเวสสุวรรณ เนื้อทองเหลือง ของ วัดพังตรุ กาญจนบุรี หมายเลข ๔๘๖
รุ่นนี้พระอาจารย์เล็กได้เสกด้วยครับ
สำหรับข้อมูลที่พระอาจารย์ได้กล่าวถึงรุ่นนี้มีดังนี้ครับ ผมขอนำข้อความบางช่วงบางตอนเกี่ยวกับรุ่นนี้มาให้อ่านครับ
"เอาตอนนี้เลยครับ" หา..? อาตมาอ้าปากค้าง เมื่อจอมเทพแห่งจตุมหาราชิกาภูมิบอกหน้าตาเฉย ขณะที่อาตมากำลังนั่งลงเพื่อเจริญพระกรรมฐานรอบเช้า เอิ่ม..มีใครบอกกับพ่อปู่บ้างไหมว่า เวลาไม่ได้อยู่ในภาค ย.ยักษ์เขี้ยวใหญ่แล้ว พ่อปู่หล่อล่ำกว่านายอาร์โนลด์อีก..?!
ความจริงวันนี้อาตมาต้องไปปลุกเสกมีดลูกพราหมณ์และเหรียญท้าวเวสสุวรรณที่วัดพังตรุ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี แต่เวลาที่ท่านอาจารย์พระมหาธวัชชัย กลฺยาโณ ป.ธ. ๙ เจ้าคณะอำเภอพนมทวนนัดไว้คือบ่ายโมงตรง...
ในเมื่อเวลาไม่ได้อยู่ในระยะเวลาของการสงเคราะห์ พ่อปู่อาร์โนลด์ เอ๊ย...พิมพ..เอ๊ย..กุเวร (ทำไมชอบนึกว่าเวรแล้วกู..?!) จึงให้เริ่มเสียตั้งแต่ตอนนี้เลย...
น้อมจิตนึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆ กันมา มีหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง เป็นที่สุด...
พุ่งจิตออกไปยืนหยัดอยู่นอกขอบจักรวาล ด้วยท่าที่คิดว่าเท่ที่สุดแล้ว ประมาณว่า "ข้ามาคนเดียว" แผ่พุ่งพลังจิตออกไปเหมือนกับเหวี่ยงแห ครอบใส่ดาราจักรมหึมาที่หมุนวนเป็นวงกลมคล้ายกงจักร รวบแล้วดึงเอาพลังงานมหึมามโหฬารจนประมาณไม่ถูกเข้ามาทันที..!
"เฮ้ย..หยุด..เดี๋ยวตาย..!" เสียงหลวงพ่อฤๅษีฯ ตวาดพร้อมกับไม้เท้าฟาดเปรี้ยงลงกลางกบาล ก่อนที่จะกวาดไม้เท้าออกขวางหน้า พลังงานหลากสีที่แผ่ออกมาขวางเอาไว้ เหมือนเขื่อนยักษ์สกัดสายน้ำป่าที่เชี่ยวกรากจนอยู่หมัด..!
"ใครสอนให้เอ็งทำแบบนี้วะ ?"
"เกล้าฯ เองขอรับ เกล้าฯ ประมาณความฉลาดของมันผิดไปหน่อยขอรับ" คลำหัวที่เจ็บลึกเจ็บจริง..ขายหน้าสิ้นดี..ต้องให้ครูบาอาจารย์มาออกหน้ารับแทน...
"เอาใหม่โว้ย..ใจเย็น ๆ อย่าโง่แล้วอวดฉลาด เดี๋ยวก็ได้ระเบิดตัวเองเป็นฝุ่นไปเท่านั้นเอง" หลวงพ่อฤๅษีฯ เมตตาแนะนำ "เริ่มจากขอบารมีพระแบบตอนที่เอ็งแผ่เมตตาก่อน นั่นแหละ..ให้ภาพพระกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับตัวเองก่อน แล้วแผ่กว้างออกไปตามลำดับจนคลุมไปทั้งโลก.."
"คราวนี้ขยายออกไปจนทั่วสุริยจักรวาล ขยายออกไปจนคลุมดาราจักรทางช้างเผือก แล้วค่อย ๆ รวบกลับมา จากใหญ่ลดลงมาเป็นกลาง จากกลางลดลงมาเป็นเล็ก แล้วดึงเข้ามาในร่างกาย จากนั้นค่อยส่งลงไปที่วัตถุมงคล.."
สรุปว่าอาตมาโง่แล้วขยัน ข้ามขั้นตอนไปเลย จะเอาน้ำทั้งมหาสมุทรเทใส่ขวดทีเดียว จนเกือบจะวางระเบิดตัวเองไปแล้วไหมล่ะ..!
มีดทุกเล่ม วัตถุมงคลทุกชิ้น เปล่งแสงสว่างเจิดจ้า "คาถา" พ่อปู่อาร์โนลด์กำชับขณะกลับร่างเป็น ย.ยักษ์เขี้ยวใหญ่ ยกกระบองยาวกดปลายลงไปยังกองวัตถุมงคล ท่านี้คุ้น ๆ เหมือนกำลังตำข้าวหรือตำขนมจีนด้วยสากมือ "โป๊กกก..!" พ่อปู่ไม่ทันว่าอะไร โดนหลวงพ่อฤๅษีฯ ฟาดกบาลซ้ำไปอีกทีแล้ว..!
"สักกัสสะ วชิราวุธัง ยะมัสสะ นะยะนาวุธัง อาฬะวะกัสสะ ธุสาวุธัง เวสสุวัณณัสสะ คะทาวุธัง นารายะณัสสะ จักราวุธัง ปัญจะอาวุธานัง เอเตสังอานุภาเวนะ สัพพะศัตรู วินาสสันติ" คาถาวันนี้เหมือนกับโดนผูกใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ...
"หัวใจ" พูดให้ยาวหน่อยก็ได้มั้ง ? ยังดีที่พอจะมีวัวปนอยู่บ้าง ถึงพอที่จะฟังรู้เรื่อง "เวสสะ ภุสสะ นะโมพุทธายะ" เทพอาวุธขยายใหญ่ประดุจเขาพระสุเมรุ พลังที่แผ่ออกมาแทบจะบดภูเขาให้เป็นผุยผง..!
ภาพพระพุทธเจ้าทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตทั้ง ๕ พระองค์ ปรากฏขึ้นพร้อมฉัพพรรณรังสีสว่างไสวไปทั้งจักรวาล ทุกรูปทุกนามกราบลงแทบพระบาท พระรูปพระโฉมเลื่อนลับกลับคืนไปเร็วพอ ๆ กับตอนที่มา...
"เสร็จแล้ว" กลับคืนมาหล่อเหมือนเดิม ไม้ตีพริก เอ๊ย..กระบองเอาไปซุกไว้ที่ไหนก็ไม่รู้ ? อาตมากราบขอบพระคุณทุกท่านทุกองค์ โดยเฉพาะหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ที่เมตตาสงเคราะห์ และเมตตารับผิดแทนลูกศิษย์โง่ ๆ คนนี้ ลืมตาขึ้นมาตีห้าตรงพอดี ๑ ชั่วโมง ๑๐ นาทีเต็ม ๆ..!
เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมิถุนายน ๒๕๖๓
พระอาจารย์กล่าวว่า "ท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณเป็นหัวหน้าของท้าวมหาราชทั้ง ๔ พระองค์ พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าเจตจำนงของท่านว่าอย่างไร อีก ๓ องค์ก็จะตามด้วย ถ้าอีก ๓ องค์ตามด้วยก็แปลว่า บริวารทั้งหมดของท่านที่มากมายจนนับได้ไม่ถ้วนก็ตามอีก คราวนี้ท่านมีเจตจำนงว่า บุคคลใดก็ตาม ถ้าหากว่าตั้งใจปฏิบัติเพื่อความเป็นพระโสดาบัน ท่านจะตามคุ้มครองตลอดชีวิต แต่ต้องตั้งใจทำจริง ๆ นะ ไม่ใช่ประเภทว่าตั้งใจเล่น ๆ !
ตอนสร้างเหรียญรอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุน ได้เอารูปของท่านลงไว้ด้านหลังของเหรียญ ท่านก็มาเสกให้เอง แล้วหลังจากนั้นก็มีโอกาสได้เสกวัตถุมงคลอีกหลายรุ่นที่เป็นรูปของท่าน โดยเฉพาะรุ่นของวัดพังตรุ ที่มีเสกมีดลูกพราหมณ์และเหรียญอาร์ม งานนั้นท่านไปยืนรอเพราะว่าอาตมาไปช้า อาตมาไปถึงจะเข้าโบสถ์ ปรากฏว่าท่านไปยืนรออยู่ก่อนแล้ว ท่านตั้งใจจะสงเคราะห์เต็มที่ ดังนั้น..ถ้าหากว่าเหรียญหลังท้าวเวสสุวรรณของวัดท่าขนุนหมด ก็ไปเอาของวัดพังตรุได้ ความจริงอาตมาก็ได้มาหลายเหรียญ แต่ว่ายังเก็บเอาไว้ ไม่ได้เอาออกมาให้บูชากัน
เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนธันวาคม ๒๕๖๓
ให้บูชา 300 ปิดรายการ จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

 

ให้บูชาเหรียญพญายักษ์ วัดแจ้ง เนื้อทองสัมฤทธิ์เดช(นวะ) "รุ่นมหาโภคทรัพย์ " วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ซึ่งถือว่าจัดสร้างครั้งแรกในรอบ 250 ปี เป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่พิธีหนึ่ง องค์นี้ตอกโค้ดและหมายเลข ๕๓๕๒
สำหรับรุ่นนี้พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน ได้กล่าวไว้ในเสียงธรรมของวัดท่าขนุนว่า
แต่ว่ามีเรื่องสนุกที่งานวัดอรุณราชวราราม ที่หลวงปู่สมเกียรติท่านนิมนต์ไว้ ไปเรียกหลวงปู่สมเกียรติเสียจนหมดราคาเลย พระพรหมวัชรเมธี รองสมเด็จพระราชาคณะ เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เจ้าคณะภาค ๙ ท่านนิมนต์ไปปลุกเสกพระพุทธรูป และร่วมหล่อพญายักษ์วัดแจ้ง พวกเราเคยได้ยินกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ใช่ไหม ? ยักษ์วัดแจ้งกับยักษ์วัดโพธิ์ตีกันจนกระทั่งราบเป็นหน้ากลอง เขาจึงเรียกว่าท่าเตียน ปรากฏว่ามีเรื่องอยู่ ๒ เรื่องที่ควรพูดถึง
อันดับแรกเลยก็คือในเมื่อเป็นเรื่องของยักษ์ หลังจากที่กราบพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านบอกว่าเป็นหน้าที่ของท้าวเวสสุวรรณ ก็วิ่งไปหาท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณ สงสัยมาก ถามท่านปู่ว่า "เอาจริง ๆ นะครับ สมมติวัตถุมงคลชิ้นหนึ่ง ถ้าให้เต็มบารมีของท่านปู่เลย คุ้มครองได้ไกลเท่าไร ?" มีใครสงสัยเหมือนอาตมาบ้างไหม ?
ท่านบอกว่า "๑๐๐ โยชน์" โอ้พระเจ้า...ประเทศไทยหัวถึงท้ายเพิ่ง ๑,๔๐๐ กว่ากิโลเมตร ไอ้ ๑๐๐ โยชน์นี่ ๑,๖๐๐ กิโลเมตร แต่ส่วนใหญ่ท่านไม่ให้ขนาดนั้นหรอกนะ ให้มาหน่อยหนึ่ง คือสงสัยจริง ๆ ว่าฝีมือระดับท้าวมหาราช แล้วเป็นหัวหน้าท้าวมหาราชด้วย ถ้าหากว่าตั้งใจช่วยจริง ๆ ได้สักกี่กิโลเมตร ปรากฏว่า ๑,๖๐๐ กิโลเมตร ถ้าขีดจากศูนย์กลางออกไปรอบ ๆ นี่ ได้หลายประเทศเลยนะ..!
แต่ที่สนุกกว่านั้นก็คือมียักษ์ผู้หญิง ทะมัดทะแมงแข็งขันมาก ชุดที่ใส่นี่น่าเอาไปจำนำมาก..! เพชรล้วน ๆ เลย ยืนเยื้อง ๆ ไปทางขวาด้านหลัง ถามว่าเป็นใคร ? เขาบอก "นี่ยักษ์วัดแจ้ง" หา..! เพิ่งจะรู้ว่ายักษ์วัดแจ้งเป็นผู้หญิง เขาบอกว่าเขาเป็นเทวดาชั้นวชิระ ในสังกัดของท้าวเวสสุวรรณ ดูแลเขตนี้อยู่ ก็เลยต้องใช้ชื่อยักษ์วัดแจ้ง
ในชีวิตของกระผม/อาตมภาพ ต้องบอกว่าถ้าหากว่าเจอเทวดาชั้นจาตุมหาราชเป็นผู้หญิงนี่ ขอให้รับรู้ไว้ว่าแต่ละคนนี่สุดยอดทั้งนั้นเลย อย่างที่ไปเนปาล เจอเจ้าแม่หลักเมือง นภิสราเทวี อันนั้นก็สุดแสบเลย หลอกพระหัวทิ่มหัวตำ คือถ้าหากว่าจากของท่านนี่ เลื่อนอีกชั้นหนึ่งก็เป็นระดับอินทกะ แล้วจากอินทกะทั้ง ๑,๐๐๐ องค์เลือกกันขึ้นไป ถึงจะเป็นท้าวมหาราช
ถ้าหากว่านับท้าวมหาราชเป็น ผบ.เหล่าทัพ ท่านท้าวเวสสุวรรณก็เท่ากับเป็น ผบ.ทบ. ท่านท้าวธตรฐก็เป็น ผบ.ทอ. เหล่าทัพอากาศ ท่านท้าววิรูปักษ์ก็เป็น ผบ.ทร. ทัพเรือ พญานาคอยู่กับน้ำ ก็เหลือตำรวจก็คือท่านท้าววิรุฬหก กุมภัณฑ์
ถ้าหากว่าท้าวมหาราชเป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพ ระดับอินทกะนี่ก็ต้องอยู่ในระดับแม่ทัพภาค ชั้นวชิระลงมาก็บรรดาผู้บัญชาการกองพล ใหญ่โตมโหฬาร แต่ละท่านนี่คุมพื้นที่หลาย ๑๐๐ ตารางกิโลเมตรกระมัง ?
งานนี้นั่งปลุกเสกช่วงกลางคืน เผลอหลับก็เลยฝันไป เล่าให้พวกเราฟัง แล้วไม่ต้องไปยืนยันกับใครนะว่ายักษ์วัดแจ้งเป็นผู้หญิง เดี๋ยวแม่เจ้าประคุณโมโห จะเอากระบองอุดปาก..! ที่เล่าให้พวกเราฟังก็ฟังกันเอาไว้ ถึงเวลาไปจะได้รู้ว่าใครเป็นใคร ตั้งใจบูชาได้ถูกที่ถูกทาง ท่านจะได้สงเคราะห์ให้เต็มที่
แต่ว่าของหลวงปู่สมเกียรตินี่ท่านหล่อพญายักษ์วัดแจ้งมาดูท่าจะไม่มาก คาดว่าถ้าหากเรื่องนี้ลือกันออกไป เดี๋ยวก็หมดเกลี้ยง จริง ๆ หลวงปู่ท่านไม่ได้ให้พูดหรอก แต่ว่าพูดไปทีไร ไอ้พวกตาวิทย์ วัดอรุณ พวกเซียนพระ จะเอาไปโพสต์ลงทันที ก็เลยกลายเป็นช่วยหลวงปู่ขายของก็แล้วกัน
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
ที่สำคัญตอนทำพิธีหล่อ ได้ปรากฏเป็นกลุ่มควันคล้ายพญายักษ์ วัดแจ้งถือกระบองด้วยครับ
ให้บูชา ปิดรายการ จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
ปล.กล่องเดิมไม่อยู่ครับ

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองเหรียญท้าวเวสสุวรรณวัดพังตรุ เนื้อทองเหลืองครับ ขอบพระคุณมากครับ

 

รับทราบการจองธง 5 สีของพระอาจารย์บ๊ะครับ ขอบพระคุณมากครับ

 

รายการฝาก
ให้บูชาแก้วน้ำทรง สตาร์บัค พร้อมหลอด ของวัดบ้านห้วยน้ำขาว จ.กาญจนบุรี สำหรับแก้วได้เข้าพิธีอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลของรุ่นนี้มีดังนี้
เมื่อพิธีวันที่ ๒๔-๒๕ กรกฎาคม ที่ผ่านมา ฤๅษีทั้ง ๑๐๘ ท่านมาหมดมาช่วยกันเสก ครูบาอาจารย์ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตช่วยกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้งานพระศาสนาเดินหน้าต่อไป
พระอาจารย์เล่าว่า “เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ไปบวงสรวงพุทธาภิเษกวัตถุมงคลให้ด็อกเตอร์พระครูโรจน์ที่วัดบ้านห้วยน้ำขาว กำลังบวงสรวงอยู่ หลวงพ่อวัดท่าซุงมายืนประกบหลัง แล้วท่านก็ถอยไปนั่งที่โซฟา คนที่มองไม่เห็นก็จะเอาข้าวเอาของไปวาง อาตมาก็เลยต้องให้เอาอาสนะมาปู จะได้เป็นเครื่องหมายไม่ให้ใครมานั่ง ด็อกเตอร์พระครูโรจน์ก็เลยเอารูปหลวงพ่อมาวางด้วย หมดเรื่องหมดราวไป
ความจริงเรื่องของครูบาอาจารย์ที่ท่านมาสงเคราะห์ ก็ต้องบอกว่าด้วยความเนื่องกันมาอย่างหนึ่ง ด้วยความเมตตาของท่านอย่างหนึ่ง และบางทีก็เป็นคำสั่งของพระท่าน ว่างานนี้ให้ครูบาอาจารย์ท่านใดมาสงเคราะห์ เป็นต้น เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าเรามีประสบการณ์บ่อย ๆ ความเชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัยก็จะมีมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามลำดับ”
ที่มา เว็บวัเท่าขนุน พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๖๓
ดังนั้น ท่านแม่จึงรับหน้าที่เสกของในกองวัตถุมงคลด้านเมตตา และลาภ ส่วนด้านมหาอำนาจ หรือ การป้องกัน ในฝ่ายปราบ จะเป็นหน้าที่ของท่านพ่อท้าวมหาราชทั้งสี่ ส่วนพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง เห็นท่านมาพักเดียว ท่านโบกมือลา จึงรีบเข้ากราบท่าน ๆ ว่า แม่เขาจัดการแล้ว ฉันไม่ต้องทำอะไรแล้ว แต่องค์ที่อาตมาเห็นว่าท่านมาเสกเป็นจริงเป็นจัง คือ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่านั่นเอง อาตมาไม่ทราบได้ว่า ท่านมาทำไม..? ได้มีเล่าให้ท่านเจ้าอาวาสฟังหลังพิธี ท่านทำตาโตร้องบอกว่า ก็ยันต์ นะ ฤๅ ชา เป็นยันต์ของหลวงปู่ท่าน และมีอีกหลายอย่างที่เกี่ยวกับท่าน ๆ จึงมาสงเคราะห์มั้งครับ...แม้กระทั่ง ฤๅษีทั้ง ๑๐๘ ท่านมาหมดมาช่วยกันเสก ได้ถามท่านว่า มาได้อย่างไรครับ ท่านว่า ที่นี่แต่เดิมเคยเป็นที่ที่ฤาษีมาบำเพ็ญตบะ และที่มาได้เพราะพระอาจารย์บ๊ะด้วย ตั้งแต่รอบที่ท่านเพิ่งเสกไป ท่านว่างานของพวกท่านยังไม่เสร็จ อาตมาก็ไม่ได้ถามเซ้าซี้อะไร เท่ากับว่า งานนี้ครูบาอาจารย์ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตช่วยกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้งานพระศาสนาเดินหน้าต่อไป ในขณะที่ทุกพระองค์ต่างช่วยกันเมตตาเสกของให้ อาตมาได้แต่นั่งดู ท่านสั่งให้เข้าสมาธินิ่งๆ ทำตัวเป็นเครื่องส่งผ่านพลังงานทั้งหมด ก่อนที่ท่านทั้งหลายจะเสกเสร็จ อาตมาได้ย้ำอธิษฐานลงไปว่า ขอให้วัตถุมงคลทั้งหมดช่วยสงเคราะห์ผู้ที่บูชาไปให้เห็นผลไว ๆ ตามอานิสงส์แห่งวัตถุมงคลชิ้นนั้นๆ ขอให้จำหน่ายหมด ให้วัดคล่องตัว ให้โยมคล่องตัวด้วยเช่นกัน ให้งานพระศาสนาดำเนินไปได้อย่างดี ให้วัตถุเหล่านี้กลายเป็นวัตถุมงคลสมแก่ฐานะเถิด เอวํ.....
ขอบพระคุณข้อมูลบางช่วงตอน จากเพจ เกษมธรรมบำเพ็ญบุญ
ตอน: หลวงพ่อเอเมตตาเล่าถึง พิธีปลุกเสกวัตถุมงคล วัดบ้านห้วยน้ำขาว จังหวัดกาญจนบุรี (๒๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๓)
สำหรับแก้วรุ่นนี้ ท่านเจ้าอาวาสวัดบ้านห้วยน้ำขาวท่านได้กล่าวว่า เสกแล้วใช้ได้.......
ครูบาอาจารย์ท่านบอกหมอยามา...
ทำให้แก้วเมื่อใส่น้ำแล้วเป็นยาได้เลย...
ฝากมา 1 ใบ ให้บูชาใบละ 850 ค่าส่ง 50 จองได้สามวันครับ
ปล.รายการนี้เจ้าของเดิมอาราธนาทำน้ำมนต์มาบ้างครับ สภาพใหม่มาก ที่วัดหมดมานานแล้วครับ

 

ให้บูชาพระผงแหวกม่าน เปิดโลก พิมพ์ใหญ่ ของ หลวงปู่สุภา กันตสีโล ออกที่สำนักสงฆ์เขารัง ภูเก็ต รุ่นนี้จัดสร้างตอนปี 39
สำหรับข้อมูลของรุ่นนี้มีดังนี้ครับ
สมเด็จแหวกม่านเปิดโลก หลวงปู่สร้างขึ้นเนื่องฉลองอายุวัฒนะมงคลครบรอบ 101 ปี และซึ่งในปีนั้น ดวงตาของหลวงปู่ มีปัญหา นายแพทย์ชัยเยนทร์ ได้ให้หลวงปู่สละดวงตาข้างขวา ดังนั้นหลวงปู่จึงให้ศิษย์นำเอาดวงตาข้างขวานั้นมาเป็นส่วนผสมและได้ตั้งชื่อพระรุ่นนี้ว่า "แหวกม่านเปิดโลก" หลวงปู่สุภาได้บอกกับลูกศิษย์ว่า ใครมีพระรุ่นนี้จะมีสติปัญญาดี เพราะได้ดวงตาของหลวงปู่ไป ยิ่งถ้าคนปฏิบัติเจริญพระกรรมฐานด้วยจะก้าวหน้าดีมาก
พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกาเคยได้กล่าวไว้ว่า “ สมเด็จเเหวกม่านเปิดโลกของหลวงปู่สุภาจะเเหวกอุปสรรคขวากหนามทั้งหลาย ให้มีเเสงสว่างหรือทางออกให้กับคนที่มีไว้บูชา”
ฝากมา 1 องค์ ให้บูชา 450 ปิดรายการ จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
ปล.องค์นี้ตรงขอบบนมุมซ้ายกระเทาะไปหน่อยครับ เนื่องจากเก็บไม่ดี ถ้าสมบูรณ์จะราคาแพงกว่านี้ครับ

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองพระผงแหวกม่านเปิดโลก หลวงปู่สุภาครับ ขอบพระคุณมากครับ

 

ให้บูชาผ้ารอยเท้าของหลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี ปี 36 ซึ่งครบรอบ 100 ปี ชาตกาลของหลวงปู่พอดีเลยครับ ผ้ารอยเท้านี้เป็นผ้าสกรีนจากผ้าต้นแบบรอยเท้าของหลวงปู่ ซึ่งหลวงปู่อนุญาตเป็นทางการให้สกรีนรอยเท้าหลวงปู่ และเป็นเพียงรุ่นเดียวที่จัดทำอย่างเป็นทางการ ที่วัดเองก็หมดแล้วครับ ขนาดประมาณ 9×12 นิ้ว เป็นรอยเท้าของพระอรหันต์ที่ท่านได้อธิษฐานจิตไว้อย่างดี พกติดตัวเป็นมงคล
พระเครื่องของหลวงปู่บุดดานั้นเน้นด้านลาภแน่นอนครับ ด้านการเงินการทองโดยเฉพาะ พระเครื่องของหลวงปู่บุดดามีคนตั้งใจบูชาปลดหนี้ปลดสินกันมาเยอะแล้วครับ รุ่นนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่น่าเก็บครับ
พระเครื่องของหลวงปู่บุดดา ราคาไม่แรง เรียกว่าราคาหลักร้อยพุทธคุณหลักล้านครับ ท่านเป็นพระอรหันต์ที่องค์หลวงพ่อวัดท่าซุงให้การยอมรับ องค์หลวงปู่ดู่ วัดสะแก องค์หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง องค์หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม หรือกระทั่งหลวงพ่อคูณเอง ก็ล้วนให้การยอมรับนับถือครับ พระเครื่องของท่านกลับไม่เป็นที่นิยมของในตลาดพระเครื่อง ทำให้ราคาพระเครื่องของท่านไม่แรง แต่กลับเป็นผลดีสำหรับผู้ที่จะหาพระเครื่องที่มีอานุภาพสูงมาไว้ติดตัว ถ้าเทียบกับพระเครื่องบางรุ่นของบางอาจารย์ที่มีราคาแรงเพราะมีการเชียร์แล้ว พระเครื่องของหลวงปู่บุดดาน่าห้อยติดตัวแบบแขวนเดี่ยวได้เลยครับ เพราะมีประสบการณ์มากมายไม่ว่าจะเด่นด้านเมตตา ไม่ว่าเป็นเรื่องโชคลาภ แม้กระทั่งโดนยิงจนตกรถมอเตอร์ไซค์แล้วไม่เป็นอะไรก็มีมาแล้ว หลวงปู่บุดดาท่านเป็นที่รู้จักกันทั่วแล้วคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากครับ
ลองห้อยดูครับ จะรู้ว่าพระของท่านดีจริง ผมขอเชียร์จากใจครับ
หลวงปู่บุดดาท่านเป็นสหธรรมิกของหลวงพ่อพระราชพรหมยานวัดท่าซุง องค์หลวงพ่อยืนยันว่าท่านเป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ
หลวงปู่ดู่เองยังรับแป้งเสกจากหลวงปู่บุดดาแล้วทาที่ศรีษะท่านเลยครับ หลวงปู่ดู่บอกว่าพระอรหันต์ให้ของสูงก็ต้องไว้ที่สูง
หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพงไม่ยอมให้หลวงปู่ลงมารถมาหา ท่านต้องขึ้นไปกราบหลวงปู่บุดดาเองที่รถ
หลวงพ่อคูณเองมากราบหลวงปู่บุดดาถึงรถ พระสุปฏิปันโนหลาย ๆ องค์ให้ความเคารพหลวงปู่มากครับ
ให้บูชาผืนละ 500 ปิดรายการ ค่าจัดส่ง 40 จองได้สามวัน
ปล. ผมจะหักเงินจำนวน 150 เพื่อร่วมบุญสร้างมณฑปเพื่อประดิษฐานสรีระสังขารหลวงปู่บุดดาที่วัดกลางชูศรีเจริญสุข รายการนี้ทางวัดไม่ได้รู้เห็น เป็นเจตนาของผมเองครับ

 

ให้บูชาพระผงอิทธิเจ พิมพ์สามเหลี่ยมจิ๋ว ของหลวงปู่เทียม วัดกษํตราธิราช ปี 19
พระพิมพ์สามเหลี่ยมจิ๋วนี้ เป็นผงเดียวกันกับพระขุนแผนผงอิทธิเจ ซึ่งเด่นด้านเมตตามหาลาภมาก
สำหรับหลวงปู่เทียมนั้น ตะกรุดมหาระงับของท่านถือเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย เป็นที่ต้องการกันมาก พระเครื่องของท่านมีประสบการณ์กันมาก

ข้อมูลที่ผมเอามาจากในเว็บได้กล่าวว่าพระสมเด็จจั่ว หลวงพ่อเทียม สิริปัญโญ แหล่งข่าววงในแถววัดกษัตราธิราชวรวิหาร กระซิบให้ฟังว่า พระรุ่นนี้ จริง ๆ แล้ว สร้างทำไว้ ตั้งแต่ ปี 16 โดยประมาณ แต่ว่าได้นำพระสมเด็จจั่ว มาเข้าพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ ปี 19 จากนั้นมาจึงจัดอยู่ในทำเนียบ ปี 19 เป็นของเก่า ของดี ของทันยุคหลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราชวรวิหาร แน่นอน…

สำหรับองค์นี้ผมได้มาจากสายตรงหลวงปู่เทียมครับ รับประกันความแท้ครับ
องค์นี้จะรานมาแต่เดิมครับ เนื่องจากแก่มวลสารมาก ทำให้เนื้อเปราะง่าย เป็นมวลสารเดียวกันกับพระขุนแผน สีขาว (มากประสบการณ์) ของหลวงปู่เทียม ครับ
ผมให้บูชา 200 ปิดรายการ ส่ง 40 จองได้สามวันครับ

 

ให้บูชาพระผงอิทธิเจ พิมพ์สามเหลี่ยมจิ๋ว ของหลวงปู่เทียม วัดกษํตราธิราช ปี 19
พระพิมพ์สามเหลี่ยมจิ๋วนี้ เป็นผงเดียวกันกับพระขุนแผนผงอิทธิเจ ซึ่งเด่นด้านเมตตามหาลาภมาก
สำหรับหลวงปู่เทียมนั้น ตะกรุดมหาระงับของท่านถือเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย เป็นที่ต้องการกันมาก พระเครื่องของท่านมีประสบการณ์กันมาก

จองครับ

 

รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณมากครับ

 

ให้บูชาลูกแก้วมะเฟืองจักรพรรดิ์ ขนาด ๒๕ มม. (เทียบกับขนาดเหรียญ 5 บาทครับ)ของพระอาจารย์เอ บ้านสุมโน
สำหรับข้อมูลของรุ่นนี้มีดังนี้ครับ
ลูกแก้วมะเฟือง จักรพรรดิ ขนาด ๒๕ มม.
พลังงานที่อัดเเน่นอยู่ภายในลูกเเก้วมะเฟืองนั้น มหาศาลเกินกว่าขนาดเเละราคาหลายเท่า ทั้งมหาอำนาจมหาเมตตาผสานรวม ร่วมกันแผ่มวลพลังงานออกมาอย่างสมดุล คอยหนุนเสริมผู้ครอบครองอย่างคล่องตัว แม้สิ่งชั่วร้ายก็ต้องมลายหายไป ด้วยมหาปราบที่อยู่ภายใน พร้อมระเบิดออกเพื่อทำลายสิ่งอัปมงคลทั้งหลายให้สิ้นซาก
หากต้องการฝ่ายเมตตา พลังงานเเห่งมหาอำนาจด้านนี้ ก็จะทำหน้าที่ทันที ให้บังเกิดมีเเต่ความชุ่มเย็น ใครเห็นก็อยากสงเคราะห์ช่วยเหลือ อุดหนุนจุนเจือค้าขายเจริญรุ่งเรือง หากชีวิตติดขัด ลูกแก้วจะช่วยขจัดอุปสรรค และเป็นเเสงนำทางให้ชีวิตสว่างไสว ช่วยให้เรารอดพ้นวิกฤตทั้งหลายไปได้อย่างถูกที่ถูกเวลา
ส่วนใครปรารถนาความคล่องตัว ให้ภาวนาพระคาถาเงินล้านควบคู่ไปด้วย ลูกแก้วจะช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดผลอย่างรวดเร็ว
เอาเป็นว่า ขนาดยังไม่ได้ออกให้ร่วมบุญบูชาอย่างเป็นทางการ ก็ได้สร้างประสบการณ์ให้เห็นกับตาเเอดมาเเล้ว... พระอาจารย์นวย (พระสมุห์ฐิติ ฐิติโก) แห่งสำนักสงฆ์ สุธรรมาราม พูดหลังจากพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีเงินล้านเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมาว่า
“หลวงตาไม่เคยทอดผ้าป่าได้เงินล้านมาก่อนเลยในชีวิต ตั้งเเต่ได้ลูกเเก้วมะเฟืองมาพกติดตัวไม่ถึงเดือน ได้เงินมาพัฒนาสำนักสงฆ์เป็นล้านเลย สุดยอดจริงๆ” เรื่องนี้เเอดได้ยินกับหูตัวเอง อ่านเเล้วก็อย่าไปขอท่านนะครับ ท่านมีเเค่ลูกเดียวให้ท่านเก็บไว้สร้างวัดเถอะครับ
เเละยิ่งไปกว่านั้น แอดเเอบเห็นหลวงพ่อเอท่านพกลูกแก้วมะเฟืองติดตัว นำไปไหนมาไหนด้วยตลอดเวลา เรื่องความคล่องตัวสำหรับหลวงพ่อท่านคงไม่ต้องพูดถึง
เเต่แอดสังเกตเอาเองว่า ตั้งเเต่ท่านพกลูกเเก้วมะเฟือง จากที่คล่องตัวอยู่เเล้ว ยิ่งทวีความคล่องตัวหนักมากขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด… ไปที่ไหนก็มีเเต่คนควักเงินทำบุญกับท่าน เเล้วไม่ได้ทำจำนวนน้อยๆเสียด้วย ท่านแค่ปรารภหรือแค่คิดจะทำอะไร ก็แทบจะสำเร็จซะเดี๋ยวนั้นกันเลย ต้องใช้คำว่า เร็วแล้วเร็วอีก คล่องแล้วคล่องอีก
อีกเรื่องหนึ่งที่แอดแอบสังเกต และให้คนอื่นช่วยสังเกตด้วย คือ ตั้งแต่ที่หลวงพ่อท่านพกแก้วมะเฟือง ท่านจะพูดเหตุการณ์อะไรต่อมิอะไรลอยๆออกมา เช่นเรื่องไฟจะไหม้ หรือแม้แต่เรื่องลมพัดจะทำให้คนตาย ท่านพูดไม่ทันข้ามวัน ก็จะมีข่าวสารออกมาให้พวกเราหน้าเหวอไปตามๆกัน เห็นท่านว่า ช่วงนี้ไม่อยากหลับตาเลย หลับตาทีไรมันจะเห็นภาพต่างๆลอยมา เลยต้องเล่าให้ลูกๆฟังไว้ก่อน แบบนี้จะเรียกว่าช่วยให้เกิดความชัดเจนแจ่มใส ได้หรือไม่หนอ..?
จากกรณีตัวอย่างต่างๆ เเอดสรุปได้อย่างไม่ลังเลเลยว่า นอกจาก มหาอำนาจ มหาเมตตาเเล้ว ลูกเเก้วมะเฟืองยังช่วยเรื่องมหาลาภ และทิพจักขุญาณได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
แอดเคยได้ยินหลวงพ่อเอพูดเพียงครั้งเดียวว่า “หลวงพ่อชอบลูกแก้วมะเฟืองนี้มาก พระท่านเสกให้สุด เขามีทั้งบู๊และบุ๋นอยู่ในตัว จะมีการพลิกเกมส์แก้สถานการณ์ทุกอย่างได้พอเหมาะพอดี ป้องกันก็ดี กรรมฐานก็ดีมากนะ ความคล่องตัวสูงจัด ต้องถือว่าเป็นของที่มีความพิสดารมากจริงๆ ไม่ใช่เล่นๆเลย นี่ถ้าได้นำลูกแก้วเหล่านี้ไปวางไว้บนหน้าตักพระพุทธรูปทุกองค์ที่บ้าน แล้วสวดมนต์บูชา ทำสมาธิ พลังงานจะมหาศาลขนาดไหน คงเจริญรุ่งเรืองน่าดู”
ส่วนคนที่สวดมนต์ เจริญภาวนาทำสมาธิ วิปัสสนากรรมฐานเป็นปกติ ลูกแก้วจะยิ่งหนุนส่งให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างดีเยี่ยม หากปฏิบัติมโนมยิทธิ ก็ยิ่งช่วยส่งเสริมให้ทิพจักขุญาณว่องไวเเจ่มใส บังเกิดฤทธิ์ทางใจอย่างน่าอัศจรรย์ หรือแม้เเต่คนที่ชื่นชอบในอภิญญาสมาบัติ ก็ให้จับภาพลูกแก้วเป็นนิมิตแห่งกสิณได้ รวมความว่า สิ่งมหัศจรรย์จะเกิดขึ้นกับชีวิตและจิตใจเเบบคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว เนื่องจากกองกสินต่างๆได้รวมอยู่ในลูกแก้วมะเฟืองเหล่านี้แล้ว นี่คือความลับที่เเสนพิสดารของลูกเเก้วมะเฟืองนั่นเอง…
อานุภาพทั้งหมดที่กล่าวมา เกิดจากความเมตตาอันหาประมาณมิได้ของครูบาอาจารย์ ตั้งเเต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าลงมา ตลอดจน หลวงปู่ หลวงพ่อ พรหม เทพเทวา ท่านปู่ ท่านย่า ท่านเเม่ รวมถึง หลวงพ่อเล็ก หลวงพ่อเอ พระอาจารย์บะ ที่ได้ประสิทธิลูกแก้วมะเฟือง ในพิธีพุทธาภิเษกจักรพรรดิที่หลวงพ่อเอได้รับคำสั่งตรงลงมา เพื่อเป็นมรดกอันล้ำค่า เเก่ลูกศิษย์ลูกหา จะได้มีวัตถุมงคลชั้นเลิศไว้บูชา ทั้งยังสามารถพกพาไปได้ทุกที่ทั่วโลก ไม่ติดด่านตรวจใดๆ ถ้าจะเก็บไว้หย่อนลงหลุมเสาเอก เสาโท หรือแม้แต่หลุมเสาศาลพระภูมิ ก็ไม่มีปัญหา เพราะไม่มีรูปองค์พระ แต่กลับเป็นเครื่องระลึกนึกโยงถึงคุณของพระรัตนตรัยอันหาที่สุดมิได้...อย่างที่เคยบอกไว้ว่าพิธีจักรพรรดิครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายเเล้วก็ได้
การเลี่ยมติดตัวที่ถูกต้องคือ มะเฟืองต้องอยู่ในเเนวตั้ง ไม่ใช่เเนวนอน

สำหรับใครที่พลาดลูกแก้วพยับเมฆา ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของพิธีจักรพรรดิคือ ลูกแก้วมะเฟืองใหญ่พิเศษ ขนาด ๒๕ มม. ที่มีอานุภาพไม่ต่างกัน เเถมพกพาใส่กระเป๋าติดตัวไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก จึงทำให้เรามี ความเป็นจักรพรรดิติดตัวไปด้วยทุกที่ แม้แต่หลวงพ่อเอท่านยังพกใส่ย่ามติดตัวตลอด ซึ่งลูกแก้วมะเฟืองนี้ผ่านการอธิษฐานจิตปลุกเสกโดย หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน เเละ หลวงพ่อเอ บ้านสุมโน ณ อาคารศรีสง่า วัดท่ามะขาม ซึ่งพิธีนี้หลวงพ่อเอได้นำลูกแก้วจักรพรรดิองค์ครูของท่านลงเป็นองค์ประธานในพิธีพุทธาภิเษกจักรพรรดิ ด้วยพลังงานของลูกแก้วองค์ประธาน ผสานรวมกับพลังเเห่งพุทธานุภาพ เเละ เทวตานุภาพ ที่สงเคราะห์ลงมา ส่งผลให้ลูกแก้วมะเฟืองมีอานุภาพเทียบเท่ากับวัตถุมงคลที่ครบพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครอง ป้องกัน ปกปัก รักษา หรือ เมตตา ค้าขาย โชคลาภ โดยเฉพาะด้านเจริญพระกรรมฐานจะส่งผลให้เจริญก้าวหน้าดีมาก หากปฏิบัติมโนมยิทธิก็ยิ่งช่วยให้ทิพจักขุญาณว่องไวเเจ่มใส บังเกิดฤทธิ์ทางใจอย่างน่าอัศจรรย์ รวมถึงเป็นการรวมกสินทั้ง ๑๐ กองไว้ในลูกแก้วมะเฟืองลูกเดียว สามารถนำมาจับเป็นองค์กสิน เพื่อเป็นฐานสำหรับการฝึกอภิญญาได้เลยทีเดียว ส่วนเคล็ดลับสำคัญ คือการบูชาด้วยพระคาถาเงินล้านจะเป็นการเร่งรอบบารมีหนุนเสริมพลังงานของลูกแก้ว ให้เติมเต็มส่วนที่เราขาด ก่อเกิดความพอดีสมบูรณ์พูนผลตามที่เราปรารถนา อีกทั้งยังดึงดูดสิ่งดีมีเเต่ความมงคลเข้ามา สิ่งอัปมงคลชั่วร้ายจะมลายสิ้นไป ไม่หมดเพียงเเค่นั้น ลูกแก้วมะเฟืองยังมีเคล็ดพิเศษเฉพาะตัวอีกหนึ่งอย่างคือคำว่าเฟืองเปรียบเสมือนฟันเฟืองที่คอยขับเคลื่อน เลื่อนตัวไปข้างหน้า มีเเต่ความเจริญก้าวหน้าทั้งทางโลกเเละทางธรรมอย่างเดียว ไม่เลี้ยวออกจากสัมมาทิฏฐิจนกว่าจะถึงจุดสูงสุดที่ปรารถนาคือพระนิพพาน
ซึ่งนอกจากพิธีจักรพรรดิที่วัดท่ามะขามเเล้ว ยังได้พระอาจารย์บะ เมตตามาอธิษฐานจิตเสกเพิ่มเติมตามสายวิชาของท่าน เรียกได้ว่า ดีเเล้วดีอีก ครบพร้อมบริบูรณ์ทั้งหมดนี้ก็เพื่อประโยชน์ใหญ่ของญาติโยมที่จะได้สุดยอดวัตถุมงคลไว้คุ้มครองตัว ใครบูชาทันต้องถือว่าความคุ้มค่าคุ้มราคาสุดๆ
ให้บูชาลูกละ1000 บาทจัดส่ง 40 บาทจองได้สามวันครับ มีเพียงองค์เดียวครับ
ปล. ทางบ้านสุมโนให้บูชาองค์ละ 800 บาทแล้วครับ ผมเลี่ยมกรอบไว้เรียบร้อยครับ

 

ให้บูชาแก้วมณีรัตนะ รุ่น 2 สีขาว ของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤๅษี) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ปี 24
สำหรับแก้วมณีรัตนะนั้นลูกศิษย์บางท่านเรียก ลูกแก้วจักรพรรดิ์ บางท่านเรียก ลูกแก้วสารพัดนึก เรียกว่าประสบการณ์ในการขอโชคลาภ และความคล่องตัวมีมากมายนัก ประสบการณ์มีมาตั้งสมัยองค์หลวงพ่อวัดท่าซุงยังมีชีวิตอยู่
ลูกแก้วชุดนี้สร้างออกมาเป็น รุ่น2 มีอยู่ด้วยกัน3วรรณะ คือ แบบกลมสีขาว แบบกลมสีเขียวอ่อน และแบบกลมสีนิลดำ
ลูกแก้วทั้งหมดทุกแบบทุกรุ่น หลวงพ่อท่านพุทธาภิเษกโดยใช้ลูกแก้วจักรพรรดิ์องค์จริงเป็นประธาน พระท่านบอกกับหลวงพ่อท่านว่า ผลจะได้ถึง 99%ของลูกแก้วองค์จริง
การอาราธนาลูกแก้วท่านบอกให้ทำเป็นกรรมฐานจะเกิดผลมากและยิ่งใหญ่ คือทิพจักขุญาณ ให้อาราธนาทุกวันควบคู่กับการภาวนาพระคาถาเงินล้านไปด้วย จะมีความคล่องตัว จะบังเกิดให้เห็นทันตา และยังป้องกันอันตรายต่างเหมือนพระเครื่องทุกประการ ควรอธิษฐานว่า “ขอความปราถนาทุกอย่างของข้าพเจ้าจงสำเร็จทุกประการ”

พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน เคยกล่าวไว้ในหนังสือกระโถนข้างธรรมมาสน์ว่า(ขอนำข้อความบางช่วงบางตอนที่ท่านได้กล่าวถึงลูกแก้วมณีรัตนะของหลวงพ่อวัดท่าซุงมาให้อ่านครับ)
"ผู้ที่ได้ไปก็ประสพผลในด้านต่าง ๆ ทั้งลาภผล แคล้วคลาด คงกระพัน เป็นสารพัดนึกจริง ๆ หลวงพ่อจึงเรียกว่า“แก้วมณีรัตนะ” คือ เหมือนกับมีแก้วจักรพรรดิไว้ในครอบครองนั่นเอง..."
พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ ๒๘ มีนาคม ๒๕๓๓
(จากหนังสือกระโถนข้างธรรมมาสน์)

วิธีการใช้ลูกแก้ว
(คัดลอกบางตอนจากหนังสือสมบัติพ่อให้ หน้า ๑๒๑ )
..."ก่อนที่จะภาวนาคาถาให้มองดูลูกแก้วเสียก่อน จำภาพแก้วได้ ก็หลับตานึกถึงภาพแก้วนั้นแล้วก็ภาวนา นี่ทำเป็นกรรมฐาน จะภาวนา พุทโธ หรือ นะมะพะทะ ว่าได้ทุกอย่างเพราะว่าแก้วเป็นอาโลกกสิณ สำหรับอาโลกสิณนี่เป็นกสิณพื้นฐานของทิพจักขุญาณ หากว่าขณะที่หลับตาภาวนา ภาพลูกแก้วเลือนไปจากใจ ให้ลืมตาดูใหม่ จำภาพลูกแก้วแล้วภาวนาต่อไป จนกระทั่งภาพลูกแก้วติดตาติดใจ คราวหลังเราไม่ต้องมองดูลูกแก้ว แต่นึกภาพลูกแก้วได้เป็นปกติอย่างนี้ท่านเรียกว่า อุคหนิมิต อุคหนิมิตนี่เป็น อุปจารสมาธิ เป็นผลของทิพจักขุณาณ เมื่อทำอย่างนี้เรื่อยๆ ไปจนกระทั่งภาพลูกแก้วติดตาติดใจอยู่เสมอ ต่อมาก็อธิฐานให้ลูกแก้วโตขึ้น ก็จะเห็นภาพลูกแก้วโตขึ้น อธิฐานให้เล็กลงก็จะเล็กลง ให้อยู่สูงก็อยู่สูง ให้อยู่ต่ำก็อยู่ต่ำ อยู่หน้าก็ได้ อยู่หลังก็โด้ตามชอบใจ อย่างนี้เป็น ปฏิภาคนิมิต ถือว่าเป็นนิมิตสูงสุดส่วนหนึ่ง..."
"ในเมื่อเห็นลูกแก้วชัดเจนแจ่มใสดีเท่าไหร่ ความเป็นทิพจักขุญาณของท่านพุทธบริษัทที่จะเห็นภาพอื่นก็จะเห็นชัดเจนเท่า นั้น แต่ว่าถ้าเห็นลูกแก้วชัดเจนดีแล้ว ต่อไปก็อธิฐานขอให้ภาพลูกแก้วหายไป ขอภาพของพระพุทธเจ้าจงปรากฏ ในเมื่อเห็นภาพของพระพุทธเจ้าปรากฏแทน ขอให้อธิฐานให้พระองค์โตขึ้น ภาพของพระพุทธเจ้าโตขึ้น ขอให้พระองค์ทรงเล็กลง ก็เล็กลง ให้สูงให้ต่ำได้ตามความต้องการ อย่างนี้ถือว่าถึง ที่สุด ของ มโนมยิทธิ
ถ้าทำมโนมยิทธิได้ตามนี้แล้วจึงเคลื่อนออก ถ้าเคลื่อนไปไหนจิตกับกายจะตัดกันเด็ดขาด คือว่าไป สุดตัว ถ้าไปสุดตัวก็จะได้พบทุกอย่าง จะพบเทวดา จะพบพรหมก็ดี พบพระอรหันต์ก็ดี เราก็จะมีสภาพไปนั่งคุยกันอย่างสบาย เหมือนนั่งคุยกันอยู่นี่ ถือว่าเป็นการเต็มมโนมยิทธิที่ศึกษา เพราะมโนมยิทธิที่ศึกษากันอยู่เวลานี้ เราใช้กำลังครึ่งเดียว..."
"แต่ว่าเพื่อผลประโยชน์ของบรรดาท่านพุทธบริษัทว่า"ทุกคนยังต้องกินต้องใช้ พระพุทธเจ้าก็ทรงห่วงเหมือนกัน ท่านถือว่าถ้าทุกคนยากจนเสียจริงๆ ไม่มีกินมีใช้ การเจริญสมาธิก็ไม่มีผล เพราะมีความเดือดร้อน
ฉะนั้นท่านจึงแนะนำว่า ถ้าทำสมาธิในด้านของกรรมฐานครบถ้วนพอใจแล้ว หลังจากนั้นให้ต่อด้วย คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า (คาถาเงินล้านปัจจุบัน) และเวลาที่เจริญพระกรรมฐานทรงฌาณเท่าไร คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าก็จะทรงฌาณเท่านั้น เมื่อคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าทรงเป็นฌาณ การเงินของท่านพุทธบริษัทจะมีการคล่องตัวดีมาก ถ้าปฏิบัติได้เป็นฌาณจริงๆ คือ เห็นภาพชัดจริงให้สังเกตุดูว่า หลังจากทำไป ๓ เดือน ผลการปฏิบัติลาภสักการะจะเกิด การเงินไม่ฝืดเคือง ยิ่งทำนานมากเงินก็จะยิ่งขังตัว..."
"เงินเดือนที่ไม่ค่อยพอเดือน มันก็จะเริ่มพอเดือน เดือนหน้ากับเดือนหลัง มันสวัสดีกันได้ก็พอตัวแล้ว ต่อมาเจ้าเดือนหน้ามันไม่ยอมไป เดือนใหม่ก็ยังมีมาอีก มันเริ่มขังตัว มันเริ่มขังตัวแน่นะ รวมความว่า มันนอนคุยกันในกระเป๋าได้ ทำตามนี้มีผลจริงๆ นะ และวิธีที่ใช้เงินในคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าก็มีแบบหนึ่ง ซึ่งเคยได้กล่าวไว้แล้ว.."

ผมมีแบ่งให้ทั้งหมด 5 องค์ครับ ให้บูชาองค์ละ 430 จัดส่ง 40 จองได้สามวัน
ปล.ลูกแก้วชุดนี้ผมขอรับประกันด้วยชีวิตว่า บูชามาจากวัดท่าซุงโดยตรง และนำมาเลี่ยมกรอบแบบสองห่วงเองเพราะจะนำมาทำเป็นประคำมือไว้สวดมนต์ ที่บูชาจากวัดโดยตรงเพราะไม่กล้าบูชาที่อื่นไม่มั่นใจครับ ถ้าจะทำไว้ห้อยห่วงเดียว ก็สามารถให้ช่างเจียรห่วงออกได้ด้านนึงครับ

 

รายการฝาก
ให้บูชาแก้วน้ำมนต์ท้าวเวสสุวรรณ รวมยันต์ต่าง ๆ ของพระอาจารย์บ๊ะท่านออกแบบไว้ให้ครบครัน สำหรับรุ่นนี้พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกา และพระอาจารย์อ๊อดวัดหน้าพระเมรุ ร่วมเสก ที่ตำหนักพระมหาจักรพรรดิ์โพธิสัตว์กวนอิมอยุธยา
สำหรับแก้วน้ำท้าวเวสสุวรรณนั้น แค่ใส่น้ำก็กลายเป็นน้ำมนต์ แก้ววัสดุเกรด 304 food grade ขนาด ๙๐๐ ml. สีขาว เป็นของที่มีเกรดครับ วัสดุดีเชื่อถือได้
สำหรับข้อมูลของรุ่นนี้มีดังนี้ครับ
หลวงพ่อบ๊ะ วัดโพธิลังการ์
อธิฐานจิต ปลุกเสก ๒ วาระ
วาระแรก พิธีวันฟ้าอภัย ในวันที่ ๒๑ มีนาคม ๖๖ ฤกษ์ดีในรอบ ๑๐๐ ปี ๓ ช่วง เวลา เช้า บ่าย ค่ำ ๑๐ เทพมหามงคลอันสูงสุด สุดเฮง สุดปัง เติมเต็มความมั่งคั่งบริบูรณ์ (พิธีลูกแก้วปรับธาตุรุ่นสองซึ่งเป็นที่ต้องการกันมาก)
วาระที่ ๒ วันที่ ๖ เมษายน ๖๖ พลังฤกษ์ ๖๖๖ ตามฤกษ์ฉีเหมิน ที่ส่งพลังต่อเนื่องมาตั้งแต่ วันที่ ๒๑ มีนาคม ส่งพลังมังกรคืนอำนาจ และพลังอำนาจสมบูรณ์เติมเต็มบริบูรณ์ในทุก ๆ ด้าน
( วันนี้พระอาจารย์บ๊ะท่านเสกนานมาก ๆ ในพิธีวันนี้แอบกระซิบถามท่านว่าพระอาจารย์วันนี้นานมากเลยครับ " ท่านตอบว่าแค่ ๑๐ นาทีเอง " ในคำตอบของท่านมีอะไรซ่อนอยู่ถึงความตั้งใจของท่าน ในการส่งความเฮงสู่ลูกศิษย์ ) ๑๐ นาที ของท่าน = ๑ ชั่วโมง ถ้าตามฤกษ์วันนี้มังกรคืนอำนาจ คือทำน้อยได้มาก ลงมือทำน้อยแต่สำเร็จมหาศาล ๑๐ เท่า ๑๐๐๐ ทวี ทำอะไรก็สำเร็จ ×๑๐ ลงทุนอะไรก็สำเร็จ ×๑๐ สาธุ สาธุ สาธุ
ฝากมาแค่ใบเดียว(หมดแล้วหมดเลยครับ)
ให้บูชา ปิดรายการ จัดส่ง 50 จองได้สามวันครับ

 

รายการฝาก
ให้บูชาสมเด็จพระคำข้าว(รุ่นแรก) พิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์ พิมพ์ใหญ่ ด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชร ของ วัดท่าขนุน (พิมพ์นี้จะใหญ่กว่าพิมพ์จันทร์ลอยครับ) (เหมาะกับเข้าคู่สมเด็จพระคำข้าว วัดท่าซุง เป็นอย่างยิ่งครับ)
ผมขอนำข้อความบางช่วงบางตอนที่เกี่ยวกับสมเด็จพระคำข้าวมาให้อ่านครับ
ส่วนเรื่องของพระสมเด็จคำข้าวนั้น กระผม/อาตมภาพสั่งทำไป ๓ พิมพ์ ก็คือปรกโพธิ์พิมพ์ใหญ่ ๑ พิมพ์เล็ก ๑ แล้วก็พิมพ์จันทร์ลอยอีก ๑ พิมพ์จันทร์ลอยก็คือกลม ๆ เพียงแต่ว่าพิมพ์ปรกโพธิ์นั้น ด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชร แต่ด้านหลังพิมพ์จันทร์ลอยเป็นยันต์มหาเศรษฐีเงินล้าน ซึ่งจะว่าไปแล้ว ถ้าหากว่าจะเน้นในเรื่องลาภผล ยันต์มหาเศรษฐีเงินล้านน่าจะตรงกว่า แต่ว่าตามที่พระท่านสงเคราะห์มา ก็ไม่เคยเห็นท่านทำด้านเดียว ส่วนใหญ่ก็ให้หลายด้านด้วยกัน บางครั้งก็ให้มากกว่าที่เราคิด
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๖

หลังจากฉันเช้าแล้ว มานำญาติโยมทั้งหลายร่วมกันภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ ซึ่งในงานนี้ได้นำเอาข้าวปากหม้อมาเข้าพิธี เพื่อทำเป็นผงคำข้าวศักดิ์สิทธิ์ เอาไว้สำหรับสร้างวัตถุมงคลตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านได้สั่งเอาไว้

งานนี้พระปัจเจกพุทธเจ้าท่านเสด็จมาสงเคราะห์ตั้งแต่ต้นจนจบ สว่างไสวผ่องใสเหมือนพระจันทร์วันเพ็ญอยู่ตลอดพิธี ช่วยเสกคำข้าวเพื่อที่จะนำไปเป็นผงสร้างวัตถุมงคลให้อย่างเต็มที่
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕

อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ในวันนี้กระผม/อาตมภาพได้มอบผงคำข้าวที่ทำการเสกแล้วให้แก่บุคคลที่มารับไปดำเนินการ เพื่อสร้างสมเด็จคำข้าว วัดท่าขนุน ที่ตกลงกันไว้ว่าจะมีอยู่ ๓ พิมพ์ ก็คือปรกโพธิ์พิมพ์ใหญ่ องค์ประมาณพระสมเด็จขนาดมาตรฐาน ปรกโพธิ์พิมพ์เล็ก องค์ประมาณสมเด็จคำข้าว วัดท่าซุง และขณะเดียวกันก็ยังมีองค์จันทร์ลอย ก็คือเป็นลักษณะทรงกลม ด้านหน้าเป็นรูปสมเด็จองค์ปฐมทองคำวัดท่าขนุน ด้านหลังจะเป็นพระคาถามหาเศรษฐีเงินล้าน
ตรงจุดนี้ยังไม่ขอกล่าวถึง ที่อยากจะกล่าวถึงก็คือ ท่านผู้ที่รับไปดำเนินการนั้น เมื่อกลับบ้านก็ไปภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบให้ครบตามกำลังใจของตน ปรากฏว่าเมื่อภาวนาจบแล้ว รู้สึกปวดหัวเหมือนกับจะระเบิด..! ลืมตาขึ้นมาจึงเห็นว่าตนเองวางผงคำข้าวไว้ใกล้ชิดติดกับตัวเลย จึงได้กราบขอขมาพระและอธิษฐานว่า "อาการปวดหัวขนาดนี้ ถ้าเป็นเพราะบารมีพระจริง ๆ ก็ขอให้หายในฉับพลัน" แล้วก็รายงานมาว่า "หายวับไปเหมือนกับปลิดทิ้งเลย"
กระผม/อาตมภาพอยากจะบอกว่า การสร้างพระสมเด็จคำข้าว วัดท่าขนุนนั้น ถ้าหากว่าเป็นไปตามคำพรขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ก็คือ "ปลอดโรค ให้ลาภ และศัตรูพินาศ"
ดังนั้น..ในสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ที่เล่ามา เป็นการแสดงให้เห็นว่า ด้านการรักษาโรคนั้น ท่านก็ทำได้เช่นกัน โดยเฉพาะตั้งแต่เริ่มการตำผงคำข้าวแล้วไม่มีการขอขมา ผู้ตำก็อยู่ในลักษณะปวดหัวแทบระเบิดในลักษณะนี้เช่นกัน แสดงให้เห็นว่าพระองค์ท่านสงเคราะห์ให้อย่างเต็มที่แล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องไปปลุกเสกเพิ่มเติมก็ได้
แต่ตามที่ครูบาอาจารย์ได้บอกไว้ก็คือ ทำเพื่อรักษากำลังใจของหมู่ศิษย์ เนื่องเพราะว่าถ้าคณะศิษย์ไม่ได้เห็นการบวงสรวงพุทธาภิเษกเต็มพิธี อาจจะมีความลังเลสงสัย แล้วเสียประโยชน์ที่ตนเองจะพึงได้ในบางส่วนไป
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ เป็นวันแรม ๙ ค่ำ เดือน ๘ ซึ่งโบราณเขาถือว่าเป็นฤกษ์ที่ดีที่สุด เหมาะสำหรับที่จะเอาไว้สร้างโบสถ์เท่านั้น โดยเรียกเป็นภาษาบาลีว่า อัฏฐเสาร์ นวศุกร์ ก็คือวันเสาร์ขึ้นหรือว่าแรม ๘ ค่ำ และวันศุกร์ขึ้นหรือว่าแรม ๙ ค่ำ

ฤกษ์พวกนี้จะว่าไปแล้วไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ดีเกินไป ดังนั้น..ถ้าหากว่าเอามาใช้งานทั่ว ๆ ไป ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดผลร้ายมากกว่าผลดี เหมือนกับว่าเราสามารถแบกข้าวสารได้ ๒๐ กิโลกรัม แล้วเขาโยนข้าวสารกระสอบละ ๑๐๐ กิโลกรัมมา เราก็อาจจะโดนทับตายได้..!

คราวนี้เมื่อทางด้านโรงงานส่งพระสมเด็จคำข้าววัดท่าขนุนทั้ง ๓ พิมพ์มา ซึ่งโดยปกติไม่ต้องทำพิธีแล้วก็ได้ แต่ว่าเพื่อที่บรรดาญาติโยมทั้งหลายจะได้มีความมั่นใจมากขึ้น จึงมีคำสั่งให้จัดพิธีปลุกเสกขึ้นในวันนี้ นอกจากจะเป็นฤกษ์วันศุกร์ ๙ ค่ำแล้ว ตามตำราโหราศาสตร์ วันศุกร์ยังถือว่าเป็นวันเงินวันทอง
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๖

ฝากมาที่ ให้บูชา 900 บาทจัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
ปล.จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เกิดขึ้นจริง ถ้าห้อยคู่กับพระคำข้าว วัดท่าซุง แล้วสวดมนต์ภาวนาด้วยพระคาถาเงินล้าน จะมีความคล่องตัวมากครับ