ใครมีประสบการณ์แปลกเล่าสู่กันฟังได้ครับ

ใช่ค่ะ ใครเจอแบบนี้ต้องขนลุกแน่นอน ตื่นเต้นสุดๆ

 

......(ซ้ำ).......

 

......(ซ้ำ).......

 

ผมได้ยินพระอาจารย์ท่านหนึ่ง(จำชื่่อไม่ได้แล้ว..สัญญาณไม่เที่ยง)

ท่านบอกไว้น่าคิดว่า..ของบางอย่างที่เกิดจากการรู้ การปฏิบัติของเรา

หากนำไปบอกเล่าใคร มันเฝือๆ แต่ถ้าเก็บไว้กับเรา มันเต็มอิ่มเต็มใจเรา

 

ก็เป็นวลีที่ดี คุยกันสนุกตรงนี้แหล่ะแลกเปลี่ยนความคิดเพิ่มรสชาติของชีวิต

 

แสดงว่า ท่านคิดได้แล้วว่า ถ้าเอาไปเล่าให้คนอื่นฟัง ถ้าเขาไม่เชื่อ ก็เหมือนเขาคิดว่าเราโกหก อาจเกิด อกุศล แก่ทั้งสองฝ่ายได้ หรือ ถ้าเล่าไปแล้ว ไม่สามารถพิสูจน์ ได้ว่า จริง ตามที่พูด ก็อาจเกิด อกุศล กับทั้งสองฝ่ายได้

ก็เลย ไม่พูดดีกว่า ไช่มั้ยคะ

 

ถ้าจับอริยสัจได้แล้วอะไรๆก็เป้นแต่ของสักว่า แต่ก็เถอะมันคงจะตื่นเต้นกันบ้างเนาะ

 

ผมนึกตอนที่ผมขนหัวลุกแล้วขำสุดๆตอนนั้นผมไม่มีสักเส้นมันยังลุกได้555มันยอดมากจริงๆบอกไม่ถูก อาการขนหัวลุกนั้นถ้าไม่มีความกลัวอยู่ด้วย มันก็ให้รสชาติที่สุดยอดจริงๆ ตัวนี้เบาเลย555(ยิ้ม)

 

บางครั้งจุดประสงค์ก็แตกต่างกัน

 

บางครั้งเราอาจจะมองว่าครั้งแรกกับครั้งที่สามเป็นเรื่องปรกติ(ปรกติแบบปุถุชน) แต่ครั้งแรกครั้งที่สามมันอาจจะเป็นการผิดปรกติก็ได้ เพราะชีวิตที่ปรกติที่พระองค์เลือกก็ไม่ใช่ชีวิตแบบเดิมๆถึงขนาดต้งบวชตลอดชีวิต

 

ฉันขอ แสดงมุมมอง อีกมุมหนึ่ง ที่อยากให้ ทุกท่าน รับเอาไว้ พิจารณา หน่อย จะเป็นการรบกวนมากไป หรือเปล่าคะ

ก็คือ ทำไม ถึงพากันคิดและ เข้าใจ ว่า ท่านบวชตลอดชีวิต ด้วยล่ะคะ

ทำไมไม่พากันคิด ว่า วรรณะ สมัยนั้น เข้มงวด แต่เพศ สมณะ นั้น คือ วรรณะ ที่ เข้าได้กับทุกวรรณะ วรรณะที่ละลายได้ทุกวรรณะ ล่ะคะ

 

วรรณะอื่นคือ สมมุติที่ยึดสมมุติ

วรรณะสมณะของท่าน คือ วิมุติ ที่พ้น สมมุติ ล่ะคะ

 

ว่ารู้หมดแล้ว พอไม่ใช่ที่รู้มา ก็เป็นกิ้งก่าเลยใช่ไม๊ค่ะ

แสดงว่า ถ้ารู้จริงแล้ว ไม่ควรพูดรึเปล่าค่ะ

 

ไม่ไช่หรอกค่ะ ถ้ารู้จริงแล้ว มันต้อง พิสูจน์ได้ จริงกับ ทุกคนค่ะ ไม่ไช่จริง แต่ เฉพาะ ตนคนเดียวหรอกค่ะ อันไหน จริง มันต้อง รับรู้และเข้าใจได้จริง เหมือนกัน ทุกคน ไม่มี ยกเว้น ค่ะ

หรือ ที่ตนเองรู้มาน่ะจริง แท้แน่นอน แต่ ไม่สามารถ อธิบาย แสดง พูด ให้คนอื่นรู้ตามได้ ก็ เหมือนกับ มีของดี แต่ ไม่เกิดประโยชน์กับใคร เลย ตนเองก็ได้แต่เก็บงำ เอาไว้ แล้ว มันก็จะเหมือน ของดีแต่ไร้คุณค่าไงคะ

แล้ว มันดีจริง ตรงไหนกันล่ะคะ

 

ดูการดำเนินชีวิตที่เรียบง่ายต่างหากไม่เกี่ยวสถานะใดๆทางสังคม

 

มันก็คงไม่ดี ถ้ามีความอยากหรือความต้องการที่จะให้คนอื่นทราบ

แบบนี้รึเปล่าค่ะ

 

การที่เรารู้อะไร แล้วจะเก็บไว้กับตัวก็ได้ จะบอกใครก็ได้ อย่ายึดมั่นกับคำพูดเพียงเพราะว่าใครเป้นคนพูด เพราะคำพูดนั้นท่านอาจอยากจะสื่อความหมายนัยเดียวที่ท่านต้องการสื่อเท่านั้น แต่การที่รู้อะไรแล้วบอกแก่คนอื่นก็เป็นประโยชน์ได้ เพราะจะได้มีการศึกษาและพัฒนาต่อให้คนนั้นหายสงสัยได้เพื่อนำสู่ความเจริญทางปัญญาต่อไปได้ครับ

 

ใช่ๆ สัญญาไม่เที่ยง หากเราปฏิบัติจนเข้าใจ และ เห็นด้วย ก็จะเลิกกลัว
การ จดจำ อ่านเขียน ......

คนที่กลัว เกรง หวาดหวั่นว่า การอ่านตำรา จะทำร้าย นี่พวกนี้ ไม่เห็น หรือ
ไม่เข้าใจตามความเป็นจริงว่า สัญญาไม่เที่ยง

หากคนๆหนึ่ง ยังแยกขันธ์ไม่ได้ ก็จะเป็นธรรมดา ที่กลัวสัญญามันทำร้าย

ยิ่งไม่เคยเห็น สัญญาไม่เที่ยง ก็จะยิ่งกลัวไปกันใหญ่

**************************

แต่ถ้าเรามาฝึกหัด ปฏิบัติให้มากๆ ทำเนืองๆ จนเริ่มเห็น ขันธ์กองอื่นๆ อย่าง
เช่น วิญญาณขันธ์ ตรงนี้เราก็จะเริ่มเห็นแล้วว่า สัญญาขันธ์มีคุณตอนไหน
และมีโทษอย่างไร มันมีคุณตรงที่เราต้องอาศัย สื่อสารกับมะนุด มันมีโทษ
ตรงที่มันไม่เที่ยง ซึ่งจะเห็นการทำงานของสัญญาขันธ์ได้ชัดๆ ก็ต้องมาแยก
วิญญาณขันธ์ออกมาก่อน

ทีนี้วิญญาณขันธ์เอง ก็ไม่เที่ยง พอเห็นแบบนี้ สัญญญาขันธ์ที่อาศัยวิญญาณ
ขันธ์ทำงานก่อน แต่เราเห็นแล้วว่า วิญญาณขันธ์ไม่เที่ยง จิตไม่เที่ยง มโนไม่
เที่ยง ใจไม่เที่ยง ตรงนี้เราก็จะแทบรู้รอบครอบ สัญญาขันธ์ เพราะแม้แต่สิ่ง
ที่นำไปรู้ ไปเห็น ไปยิน ไปฟัง ไปสัมผัส ไปรู้กลิ่น มันไม่เที่ยง การเกรงกลัว
สัญญาขันธ์เพราะสำคัญผิดว่า เที่ยง ก็จะ บางลงไปอีก

และจะบางไปเรื่อยๆ หากเรา แยกขันธ์5 จน ฆนะมันแตก มันสลับขาหลอก
เราไม่ได้อีก เราปล่อยวางขันธ์เพราะไม่ถือมั่น มีไตรลักษณ์ญาณเพียงพอ

ชีวิตก็จะอิสระ คนฉลาดก็จะอ่าน พระไตรปิฏกให้มากๆ ทรงจำตัวอักษรอัน
มีค่ามหาศาลไว้ที่ตน เป็นดั่งขุนคลังชั้นยอด

ไม่โดนสัญญาขันธ์แหกตา หางจุดตูด จนต้องพลอยอันเชิญสิ่งมีค่า เอาไว้ในตู้

 

อนึ่ง อุปนิสัย รักการอ่าน ไม่ได้อยู่ดีๆ จะทำให้มันเกิดขึ้นได้

มันก็เหมือน การขี่จักรยาน คนบางคนไม่เป็น พอได้ขับรถเก๋งแล้ว ก็อาจจะ
ไม่สนใจขี่จักรยานอีกเลย แต่ ถ้ามาฝึกหัดเอาตอนแก่ ก็อาจจะ ขี่ได้ เพียง
แต่ว่า สังขารไม่อำนวย กระดูกกระเดี้ยวหัก ตาฝ่าฝาง มันก็ต้องแลกกันบ้าง

แต่ส่วนใหญ่ ก็จะรู้ชัดว่า จะฝืนสังขารไปทำไม

ด้วยเหตุนี้ ลาภในการมีอุปนิสัยในการทรงจำตารา ปฏิสัมภิทา ญาณ จึงถูก
มองข้าม และ ไม่มี เพราะว่า ไม่ได้ สร้างเสริมอุปนิสัย ไว้ก่อน

การถึงวิมุติ เอาประโยชน์ตนเป็นใหญ่ ถ้าเป็นเรื่องวิมุติ ย่อมหาที่ ติ ไม่ได้
นั้นแน่นอน

แต่...........การอัญเชิญให้พระศาสดากลับมายังโลก......ท่านๆไม่ศรัทธาเรื่องนี้บ้างหรือ

ถ้ามี ศรัทธา ก็ขอให้ใช้ ศรัทธานำท่านไปอ่านหนังสือ พระไตรปิฏกไว้เนืองๆ เถิด

******************

แล้วพวกท่าน จงดู ธรรมธงชัยที่จะโบกสบัด บรรดาพระ หรือ อุบาสก อุบาสิกา ที่
ศึกษาธรรมไม่เพียรพยายามปฏิบัติ จะทนต่อการ พิสูจน์ไม่ได้

เมื่อนั้น คนชั่ว คนทราม จะถูกแยกออก ด้วย ธรรมฤทธิ์ ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

โดยไม่จำเป็นต้องเอา ภัยพิบัติ ความตาย การสิ้นศรัทธาต่อเพื่อนมนุษย์ ไปเชิด
ชูมะนุดต่างดาว แท่งศิลาสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม อะไรอีกเลย



*************

จบแล้วนะ ท่านบิ๊กตู่ นี่ เป็นเรื่องแปลก ที่ผมจะเล่า เพื่อคลายเครียด คลาย
ความคับแค้นจากตัณหา เนาะ !!

หนุกๆ อย่าไปซีเรียสอะไรหละ

 

ผมชอบฟังธรรมะไม่ชอการอ่าน อ่านแล้วตาปวดตาง่วงนอน