เรื่องเด่น โศกนาฏกรรมครั้งใหม่!! เรือล่มเกาหลีใต้ ดับแล้ว 9 สูญกว่า 287

ขอให้มีคนรอดชีวิตมากที่สุด

 

เสียใจด้วยครับ ไม่ทราบสาเหตุจากการล่ม เกิดจากอะไร???

 

ผู้เสียสละแห่งเรือเซวอล

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/5ohIB91H1Qg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์, ทวิตเตอร์ @yoware, pbs.twimg.com

เหตุเรือล่มเกาหลี ชาวเน็ตร่วมยกย่อง 4 ฮีโร่ พยายามช่วยชีวิตคนอื่น ๆ บนเรือ โดยมี 2 รายที่ต้องแลกด้วยชีวิต

จากเหตุการณ์เรือเฟอร์รี่ล่มนอกชายฝั่งทางใต้ของประเทศเกาหลีใต้ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย สูญหาย 271 ราย และกำลังดำเนินการค้นหาอย่างต่อเนื่อง ตามที่ได้รายงานข่าวไปนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2557 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า ชาวเน็ตต่างยกย่องฮีโร่ 4 ราย ที่สละชีวิตช่วยเหลือคนอื่น ๆ บนเรือเซวอลอย่างไม่คิดชีวิต โดยมี 2 รายที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้

โดยรายแรก คือ จอง ชาวุง นักเรียนอายุ 17 ปี เขาได้สละเสื้อชูชีพให้เพื่อนคนหนึ่งที่กำลังจะจมน้ำ และยังเข้าไปช่วยเพื่อนนักเรียนอีกหลายคนที่ว่ายน้ำไม่เป็น แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เสียชีวิต เนื่องจากทนความหนาวเย็นของน้ำไม่ไหว

อย่างไรก็ตาม มีรายงานด้วยว่า ในวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา ชาวเน็ตได้ร่วมอวยพรวันเกิดให้ จอง ชาวุง ด้วย เนื่องจากตรงกับวันคล้ายวันเกิดครบ 18 ปีของเขาพอดี แม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม

ขณะที่รายที่ 2 คือ ปาร์ค จียอง พนักงานบนเรือเฟอร์รี่วัย 22 ปี เป็นหนึ่งในศพแรก ๆ ที่เจ้าหน้าที่พบร่างของเธอ ซึ่งในขณะเกิดเหตุนั้น รายงานระบุว่า ปาร์ค จียอง มีสติมากพอที่จะตรวจดูว่าทุกคนใส่เสื้อชูชีพ และช่วยแจกเสื้อชูชีพให้กับทุกคน รวมถึงช่วยผลักดันคนอื่น ๆ ออกจากเรือที่กำลังจะจมลง แม้ว่าน้ำทะเลจะทะลักเข้ามาจนสูงถึงอกแล้ว แต่เธอก็ยังไม่ยอมออกไปเรือจนตัวเองจมไปกับกระแสน้ำที่ไหลเข้าเรืออย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ หนึ่งในผู้โดยสารที่รอดชีวิต เล่าถึงช่วงเวลานั้นว่า ปาร์ค จียอง ได้พยายามช่วยเหลือผู้โดยสารทุกคน แต่ตัวเธอเองกลับไม่ได้สวมเสื้อชูชีพ จึงได้ถามเธอไปว่าทำไมเธอถึงไม่ใส่เสื้อชูชีพแล้วหนีไปด้วยกัน แต่ ปาร์ค จียอง กลับตอบว่า เธอจะเป็นคนสุดท้ายที่จะออกจากเรือ

ภายหลัง เจ้าหน้าที่พบร่างของไร้วิญญาณของเธอ ก่อนจะนำส่งไปให้ครอบครัวได้จัดพิธีศพ ซึ่งตลอดงานศพนั้น คุณแม่ของเธอยังคงทำใจไม่ได้ และร้องไห้ต่อการจากไปอย่างกะทันหันของลูกสาว

สำหรับรายที่ 3 คือ คิม ฮองกยอง อายุ 59 ปี หนึ่งในผู้โดยสาร ที่ใช้ผ้าม่านในเรือทำเป็นเชือกช่วยให้คนที่กำลังจะจมน้ำรอดชีวิตมาได้กว่า 20 ราย ส่วนตัวเขาก็ได้รับการช่วยเหลือจากชาวประมง และแม้ว่าตัวเขาจะปลอดภัยแล้ว แต่เขาก็ยังอาสาจะช่วยตามหาผู้สูญหายคนอื่น ๆ ต่อไป

ส่วนรายที่ 4 ที่ได้รับยกย่องให้เป็นฮีโร่ด้วยนั้น ก็คือ ปาร์ก ยอง ซุป อายุ 56 ปี เขาเป็นชาวประมงที่ตัดสินใจนำเรือเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสามารถดึงตัวผู้ประสบภัยขึ้นมาจากน้ำได้ 27 คน และพาพวกเขาไปสู่ที่ปลอดภัย ซึ่งเจ้าตัวบอกด้วยว่า เขาเคยประสบเหตุลักษณะนี้และรู้ดีว่ามันน่ากลัวขนาดไหนเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย ดังนั้น เมื่อเขาได้ยินเสียงสัญญาณขอความช่วยเหลือ จึงไม่ลังเลที่จะนำเรือตรงเข้าไปช่วยผู้ประสบภัยเลย

 

ข่าวเรือล่มที่เกาหลีใต้ สื่อต่างประเทศ เผย 3 ความเป็นไปได้ของสาเหตุที่ทำให้เรือเฟอร์รี่ เกาหลีล่ม

วันที่ 17 เมษายน 2557 เว็บไซต์เดอะมิเรอร์ของอังกฤษ เผย 3 ความเป็นไปได้ที่อาจเป็นสาเหตุทำให้เรือเซวอลอับปางลงกลางทะเล นั่นคือกระแสลมแรง, การหักเลี้ยวกะทันหัน และชนกับหินใต้น้ำ โดยมีรายละเอียดแต่ละทฤษฎีดังต่อไปนี้

กระแสมลมแรง

แหล่งข่าวอ้างการนำเสนอความเป็นไปได้ประการนี้จากสถานีโทรทัศน์วายทีเอ็น ซึ่งเผยว่าเรือเซวอลได้แล่นออกนอกเส้นทาง และปะทะกับกระแสลมแรงพัดกระหน่ำ ทำให้ตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรทุกไว้บริเวณดาดฟ้าถูกพัดเลื่อนจากตำแหน่งเดิมจนทำให้เรือเสียการทรงตัว ซึ่งเข้ากันกับคำให้การจากผู้รอดชีวิตที่ระบุว่า ได้ยินเสียงตู้บรรทุกสินค้าร่วงลงน้ำ อีกทั้งทางสำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ก็รายงานว่า เจ้าหน้าที่ชายฝั่งระบุว่าเรือเซวอลได้แล่นไปในเส้นทางที่ต่างจากเส้นทางที่กระทรวงกิจการนาวีและประมงแนะนำเอาไว้เล็กน้อย

การหักเลี้ยวกะทันหัน

ข้อสันนิษฐานประการที่สอง คาดว่าเรือเซวอลอาจมีการหักเลี้ยวอย่างกะทันหัน ทำให้ตู้สินค้าและยานพาหนะที่บรรทุกไปใต้ท้องเรือ (ชั้น 1-2) ซึ่งมีน้ำหนักรวมกันไม่ต่ำกว่า 1,100 ตัน เลื่อนออกจากตำแหน่งเดิม จนทำให้เรือเสียการทรงตัว ล่มในที่สุด

การชนกับหินใต้น้ำ

แม้ว่าเส้นทางเดินเรือที่ใช้กันเป็นปกติในการเดินทางระหว่างเมืองอินชอนและเกาะเชจูนี้จะเป็นเส้นทางที่ปลอดภัย แต่บริเวณนี้เป็นเขตน้ำตื้นที่มีหินใต้น้ำเป็นจำนวนมาก ดังนั้นหากเรือเซวอลมีการแล่นออกนอกเส้นทางจริง ก็มีความเป็นไปได้ที่จะชนเข้ากับหินใต้น้ำและทำให้เรือล่มลง

ทั้งนี้ เรือเซวอลเป็นเรือที่ผลิตขึ้นในประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว และใช้เป็นเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากเส้นทางระหว่างเมืองอินชอนและเกาะเชจู ซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรระหว่างเกาะที่ใช้กันเป็นปกติ กระทั่งวันที่ 16 เมษายน สัญญาณขอความช่วยเหลือถูกส่งออกมาจากเรือเมื่อเวลา 08.52 น. ก่อนที่เรือจะตะแคงและพลิกหงายท้องลงใต้น้ำในที่สุด โดยผู้โดยสารรายหนึ่งที่รอดชีวิตระบุว่า ได้ยินเสียงดังโครมใหญ่ ก่อนที่เรือจะเทเอียงข้างอย่างรวดเร็ว และล่มลงจนเกือบมิดทั้งลำในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง เหลือเพียงส่วนท้องเรือสีน้ำเงินพ้นผิวน้ำขึ้นมาเท่านั้น

ทางด้านยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันในขณะนี้ อยู่ที่ 25 ราย ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 179 ราย ขณะที่ผู้สูญหายอยู่ที่ 271 ราย โดยเหตุการณ์เรือเซวอลล่มนับเป็นโศกนาฏกรรมทางน้ำที่รุนแรงที่สุดของเกาหลีใต้ในรอบ 20 ปี

http://hilight.kapook.com/view/100864

 

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/0RWOYlMYlx4" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

คลิบเรือเอียงก่อนจม

รือล่มเกาหลี ล่าสุด YTN สื่อเกาหลีใต้ เผยคลิปเหตุการณ์จริงจากเหตุเรือเซวอลอับปาง ขณะผู้โดยสารพยายามเอาตัวรอดตอนเรือเอียง

ยังคงเป็นเหตุการณ์สะเทือนใจที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง สำหรับเหตุเรือล่มเกาหลีใต้ หลังเรือเฟอร์รี่เซวอล ที่นำผู้โดยสาร 476 ชีวิต จากเมืองอินชอนไปเกาะเชจู ล่มนอกชายฝั่งเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2557 โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 29 ราย สูญหายอีกกว่า 270 คน (ข้อมูลเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2557) ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้โดยสารที่สูญหายและคาดว่ายังคงติดค้างอยู่ในเรือเซวอล

ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (18 เมษายน 2557) สื่อ YTN ของเกาหลีใต้ ได้เผยคลิปเหตุการณ์ภายในเรือเซวอล ขณะที่เรือเอียง ออกมาให้ได้ชมกัน โดยในขณะนั้นผู้โดยสารหลายคนที่สวมเสื้อชูชีพอยู่ ได้พยายามหาที่ยืน หรือเกาะผนังหน้าต่างเพื่อทรงตัวภายในเรือ พร้อมกันนี้ ได้มีรายงานด้วยว่า ผู้โดยสารทั้งหมดในคลิปรอดชีวิตจากเหตุเรือเกาหลีใต้อัปปางดังกล่าว

 

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

เรือล่ม เกาหลีใต้ ซีเอ็นเอ็นจำลองภาพเหตุการณ์ พร้อมระบุว่า การที่กัปตันประกาศให้ผู้โดยสารอยู่นิ่ง ๆ ถือเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2557 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ได้จำลองภาพเหตุการณ์ของเรือเซวอล ขณะที่เรือกำลังล่มและขณะที่ทีมกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือ พร้อมแนะนำว่า หากเกิดเหตุเรือล่มควรให้ผู้โดยสารทุกคนขึ้นไปดาดฟ้าเรือ และพยายามออกมาจากเรือให้เร็วที่สุด ดังนั้น การที่กัปตันบนเรือเซวอลแนะให้ลูกเรืออยู่นิ่ง ๆ กับที่ จึงเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง

ทั้งนี้ ในขณะที่เรือเอียงและเหมือนจะล่มนั้น ผู้โดยสารก็จะเริ่มล้ม บางคนก็ได้รับบาดเจ็บ บางคนก็จะพยายามปีนป่ายหนีจากฝูงชน ซึ่งในตอนนั้น ผู้คนจะเกิดความหวาดกลัวสุดขีด ตื่นตกใจจนกลายเป็นความอลหม่าน

อย่างไรก็ตาม ในกรณีของเรือเซวอลนั้น เมื่อน้ำเริ่มไหลเข้ามาในลำเรือมากขึ้นเรื่อย ๆ กัปตันกลับประกาศให้ผู้โดยสารอยู่นิ่ง ๆ "อย่าขยับ เพราะถ้าคุณขยับ มันจะยิ่งอันตรายมากขึ้นไปอีก" กัปตันกล่าว ซึ่งมีคลิปวิดีโอของผู้โดยสารที่ใส่เสื้อชูชีพ มุดเข้าไปหลบใต้โต๊ะและอยู่นิ่ง ๆ เพื่อรอความช่วยเหลือ แต่สำหรับคนที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งกัปตัน กลับมีชีวิตรอดออกมาราวปาฏิหาริย์

"กัปตันประกาศให้ทุกคนอยู่นิ่ง ๆ ประมาณ 10 ครั้ง ดังนั้นเด็ก ๆ จึงพยายามอยู่กับที่ และคนที่พยายามหนีออกมานั้น คือคนที่รอด" หนึ่งในผู้รอดชีวิต กล่าว

ด้านผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ทางเรือเองไม่มีมาตรฐานในการอพยพคน ผู้โดยสารทุกคนควรที่จะไปหนีออกไปที่ดาดฟ้าเรือเพื่อรอการช่วยเหลือ หรือขึ้นไปยังชั้นบนของเรือเพื่อหาทางออกมาจากเรือให้ได้ ในจุดที่เรือกำลังจะล่ม ผู้โดยสารควรสละเรือและเอาตัวรอดออกมาก่อน และการที่กัปตันประกาศว่าให้ผู้โดยสารอยู่นิ่ง ๆ จึงไม่ถูกต้อง

ทั้งนี้ โดยทั่วไปหากมีน้ำไหลเข้ามายังลำเรือแล้ว ภายในเรือจะมีสัญญาณแจ้งเตือน เพื่อให้ผู้โดยสารทราบว่า เรืออาจจะชนเข้ากับโขดหินหรืออาจเกิดการระเบิด หรืออาจจะบอกว่าน้ำกำลังไหลเข้าสู่ลำเรือ จากนั้นก็เจ้าหน้าที่ก็จะติดต่อไปยังเรือลำอื่นเพื่อของความช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้ เชื่อว่า สาเหตุที่เรือล่มอาจจะมาจากสภาพอากาศที่มีหมอกทึบ จนทำให้ต้องบังคับเลี้ยวเรือกะทันหัน ในส่วนของปฏิบัติการกู้ภัยนั้น หน่วยกู้ภัยก็ต้องออกมาช่วยเหลือผู้โดยสารท่ามกลางฝนตกหนัก คลื่นลมแรง ท้องทะเลที่ปั่นป่วน และนั่นทำให้เราเห็นว่า มันยากเพียงใดสำหรับทีมกู้ภัยที่จะเข้าไปช่วยเหลือผู้รอดชีวิตที่อาจจะยังติดอยู่ในเรือ

http://t.co/HDJejoic4V

 

ถ่ายทอดสดปฏิบัติการช่วยชีวิตลูกเรือและผู้โดยสาร เซวอล

도전365 여기는 지금 [여객선 세월호 사고 특별현장생방송] on USTREAM: ch2는 언제 어디서든 다양한 우리의 모습을 보여주는 게릴라방송 채널로 운영됩니다,,때로는 QF30으로 방송 할때도 비디유

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/5Oopx_hpL7E" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

update ล่าสุดจาก TV KBS เกาหลีใต้
พบศพแล้ว30คน
สูญหาย272
รอด 174 คน

 

ไททานิก และ เรือเฟอรี่เกาหลี ล่มวันเดียวกันห่างกัน 102 ปี




มีการทวิตข่าวเรืออับปางพร้อมภาพข่าวโดยบอกว่า เรือ ไททานิค กับ เรือ เฟอร์รี่ เกาหลีใต้นั้นล่มวันเดียวกัน คือ 15 เมษายน แต่ห่างกัน 102 ปี บังเอิญไปไหม ล่าสุด !! ตาย แล้ว 6 สูญหาย 280 คน RIP. ซึ่งเมื่อสืบดูแล้วพบว่า....

อาร์เอ็มเอส ไททานิก (อังกฤษ: RMS Titanic) เป็นเรือโดยสารซึ่งจมลงสู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1912 หลังชนภูเขาน้ำแข็งระหว่างการเดินทางเที่ยวแรกจากเซาท์แทมป์ตัน สหราชอาณาจักร ไปนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา การจมของไททานิก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1,514 ศพ นับเป็นภัยพิบัติทางทะเลในยามสงบครั้งที่มีผู้เสียชีวิตมากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์

เมื่อช่วงเช้าของวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อวันที่ 16 เม.ย 2557 เรือเฟอร์รี่เซวอลอัปปางนอกชายฝั่งทางตอนใต้ ห่างจากชายฝั่งหมู่เกาะเจจู เมืองปูซาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเกาหลีใต้ ราว 20 กิโลเมตร เมื่อช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นนักเรียน กล่าวตรงกันว่าได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นก่อนที่เรือจะเริ่มเอียงเล็กน้อย ทุกคนจึงรีบหนีกันเอาตัวรอด โดยส่วนใหญ่เลือกกระโดดลงทะเล จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่มีผู้โดยสารคนไทยในเรือลำดังกล่าว

ล่าสุด CNN ระบุว่า พบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย สามารถช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้แล้ว 368 คน ยังคงมีผู้โดยสารและลูกเรือหายไปอีก 290 คนขณะที่ปฏิบัติการกู้ภัยยังดำเนินต่อไป

โดยจากภาพจำลองการจมของเรือเซวอล จะเห็นได้ว่า เรือได้พลิกคว่ำในลักษณะหงายท้อง ส่วนบนของเรือซึ่งประกอบด้วยห้องโดยสารมากมายนั้นจมลงในทะเลทั้งหมด ซึ่งตามหลักการแล้ว เรือที่สามารถจมลงไปในทะเลแบบนี้ แสดงว่าไม่เหลืออากาศภายในแล้ว เพราะถูกน้ำไหลเข้าไปแทนที่ ทำให้เป็นไปได้ยากมากที่ผู้โดยสารภายในเรือจะรอดชีวิต

สำหรับผู้โดยสารที่สามารถหนีออกมาจากตัวเรือได้ก่อนที่เรือจะจมน้ำ ทางผู้เชี่ยวชาญเองก็ได้เปิดเผยว่า โอกาสรอดชีวิตของผู้โดยสารกลุ่มนี้ก็มีน้อยเช่นกัน เพราะน้ำทะเลมีอุณหภูมิอยู่ที่ 12 องศาเซลเซียส เย็นจนสามารถทำให้มนุษย์ช็อกได้ภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น


ไททานิก และ เฟอรี่เกาหลี
วันเดียวกันห่างกัน 102 ปี
กลไกการเกิดเหมือนกัน
ไททานิกครูดภูเขาน้ำแข็ง
เฟอรี่ครูดก้อนหินในลักษณะเดียวกัน
ประวัติศาสตร์จะบอกอะไรเรา !!!!!!

บทความจาก oknation.net

 

เห็นมีข่าว รอง ผอ.โรงเรียน ที่จัดทัศนศึกษา แขวนคอตาย

ถ้ามองในแง่ ของการรับผิดชอบ ถือว่ามีทัศนคติความเครียดสูง หนีความรับผิดชอบ

การฆ่าตัวตายของชาวเกาหลีบางกลุ่มคน เสมือนกลายเป็นวัฒนธรรม

ทั้งดารา นักการเมือง มีข่าวให้เห็นอยู่เสมอ ฮาราคีรีของญี่ปุ่นก็ไม่เชิง

ถ้ามองในแง่ของชาวพุทธ การกระทำอัตวินิบาต ถือเป็นการกระทำที่สิ้นคิด

แต่สิ่งที่สะท้อนให้เห็น เมื่อเทียบกับสังคมไทยบางกลุ่มคน

ชาวเกาหลีมีความจริงจัง กับจรรยาบรรณในชีวิต เป็นอย่างมาก

พี่ไทยเราอึด ทน ทึก กว่า ไม่หนี แต่พยายามปัด ก็ยังดีที่ไม่ฆ่าตัวตาย

 

วัฒนธรรมความอับอายในเกาหลี

 

ล่าสุด
ผู้โดยสารรวม 476 คน
พบศพ 64 คน
ยังสูญหาย 238 คน
รอด 174 คน

 

เรือเซวอล ไม่อยากให้ผ่านไปเหมือนสายลม

อ่านแล้วอยากให้ไทยเราได้เรียนรู้บทเรียนจากเขา เช่น
1. การปรับปรุงการเดินทางเรือ ควรตรวจสอบให้ชูชีพอยู่ในสภาพใช้งานได้อยู่เสมอ เราเห็นเรือด่วนเจ้าพระยา เรือเฟอร์รี่ข้ามเกาะ เที่ยวตามเกาะ
บางทีชูชีพเน่ามาก คิดว่าถ้าตกเรือไปคงช่วยไม่ได้มาก เพราะชูชีพหมดอายุการใช้งาน บางกรุ๊ปทัวร์ก็ไม่มีชูชีพ เคยไปเที่ยวกาญ เรือหางยาวพา
ข้ามเกาะไปไหว้พระ ก็ไม่มีชูชีพให้ใส่ เราว่ายน้ำไม่เป็นแทบไม่อยากไปเลย หรือเรือข้ามเกาะ เช่น ตอนไปเที่ยวหลีเป๊ะ เรือก็เก่าแล้ว ชูชีพเก่าอีก
แถมปริมาณ ผดส. ก็ไม่รู้ว่าเกินไหม อะไรแบบนี้นะคะ เรารู้สึกว่าเป็นการประมาทจนเกินไป บางทีไปเจอสถานการณ์แบบนั้น ไม่ไปก็ไม่ได้

2. ควรให้ความรู้เยาวชน และ ผดส. ที่ไปเที่ยวทางเรือ ว่าเวลาเกิดปัญหา เราจะทำอย่างไร เชื่อใคร ออกทางไหน เพราะถ้ามีการเตรียมการณ์ไว้
พอฉุกเฉินจริงๆ จะได้ไม่จนแต้ม เราไปเที่ยวเกาะพีพี เกาะต่างๆที่กระบี่ ภูเก็ต ขึ้นเฟอร์รีลำใหญ่ สองชั้น เห็นฝรั่งและคนไทยก็แย่งกันขึ้น
แย่งกันไปบนดาดฟ้า เดินไปถ่ายรูปทั่วลำ บางทีอาจจะเป็นการถ่วงน้ำหนัก ผดส. ที่ผิดหลักศูนย์กลาง แต่ไม่มี จนท. หรือใครสนใจ
ที่สำคัญ ไม่มีการประชาสัมพันธ์เลยว่า ถ้ามีเหตขัดข้องใดๆ ให้ไปที่ไหน เรือชูชีพอยู่ทางไหน และคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นจริงๆ น่าจะแยกออกมา
และตรวจสอบว่ามีชูชีพแล้วหรือยัง ใส่ถูกวิธีการไหม เหล่านี้เป็นต้น เรารู้สึกว่ามันดูไม่ปลอดภัยเลย แต่ก็ไม่เห็นมาตรการใดๆออกมารองรับ
ไปกี่ที่ กี่เที่ยว ก็เหมือนเดิม แย่งกันขึ้นลงเรือ แย่งกันใส่ชูชีพ บางคนก็ไม่ดี ไม่เคยมีการสาธิตหรือบรรยายเรื่องความปลอดภัยตอนอยู่บนเรือเลย

และกรณีเรือเกาหลีล่ม เราว่าเกาหลีเองควรทิ้งศักดิ์ศรีบ้าบอ ที่กินไม่ได้ ที่ไม่ได้ทำความปอดภัยให้เลย และหันไปรับความช่วยเหลือจาก
ประเทศที่ยื่นมือเข้ามาช่วยก่อน ชีวิตประชาชนควรสำคัญกว่าอื่นสิ่งใด ลองคิดถึงหัวอกของคนเป็นพ่อแม่ดู รู้ว่าลูกติดกับอยู่ในเรือ อาจจะ
มีชีวิตรอดอยู่ในวันแรก เราเป็นพ่อแม่คงอยากดำน้ำไปช่วยปลดปล่อยลูกเลย มันเลือดเย็นเกินไป ที่ปล่อยให้พวกเขาตายทรมาณ
แบบนี้ เครื่องบินตกยังว่าตายเร็ว ไม่น่าจะทรมานเท่าค่อยๆจมน้ำตายแบบนี้ แบบช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย ...น่าสงสารมนุษย์จริงๆ ที่เอาศักดิ์ศรี
ความเกลียดชัง และเกียรติยศที่เป็นของนอกกาย เอามาแบกไว้และแลกมันกับชีวิตลูกหลาน มันคุ้มค่าจริงหรือ อยากให้ผู้คนหันมาคิดเรื่องเหล่านี้
กันให้มากขึ้น จะได้ไม่ต้องมีบทเรียนชีวิต บทต่อๆไปเพิ่มในอนาคตอีก...
ตอบกลับ
0 6
Flair
45 นาทีที่แล้ว