โล๊ะ!!!!! ทุกรายการ 100 บาท...เริ่มหน้า 676 เป็นต้นไป

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ญาณวโร นามะ, 4 มกราคม 2017.

  1. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    10489.เหรียญ หลวงพ่อพระกาฬ วัดกลางบางซื่อ จ.นนทบุรี พ.ศ.2523 รุ่นพิเศษ.. สภาพสวย ****แบ่งให้บูชา 250 บาท***
    DSC_0017.JPG DSC_0018.JPG
     
  2. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    10490. พระขุนแผนไข่ผ่าซีก เนื้อผงยุคแรก หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ จังหวัดสุพรรณบุรี สภาพเดิมบูชา ***แบ่งให้บูชา 500 บาท****

    พระขุนแผนไข่ผ่าซีกรุ่นแรก ที่ท่านจัดสร้างขึ้นในราวประมาณปี พ.ศ. 2480 ได้ถอดแบบมาจาก
    พระขุนแผนกรุเก่าวัดพระรูป ซึ้งเนื้อแบบนี้สร้างจำนวนน้อย เพราะเนื้อออกมัน คล้ายสมเด็จวัดระฆัง มีประสบการณ์มากมาย ด้านแคล้วคลาดคงกระพัน ไม่แพ้พระกรุ โดยเฉพาะด้านเมตตามหานิยมโชคลาภและค้าขาย


    DSC_0015.JPG DSC_0016.JPG
     
  3. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    488
    ค่าพลัง:
    +1,758
    โอนเงินเรียบร้อย 500 บาท
     
  4. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รับทราบครัล
     
  5. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    10491.หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน เนื้อผงเกษรดอกไม้108 รุ่นปลดหนี้ ปี 2534 วัดบางคลาน (หิรัญญาราม) ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร พร้อมกล่องเดิมครับ ****แบ่งให้บูชา 450 บาท***

    ประกอบด้วยพระชุด 3 องค์ ดังนี้

    1.พิมพ์รูปเหมือนลอยองค์
    2.พิมพ์จอบใหญ่
    3.พิมพ์จอบเล็ก


    หลวงพ่อเงิน บางคลาน ทุกรุ่นประสบการณ์ดีทางด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดจากภัยทั้งปวง เมตตามหานิยม โชคลาภ และค้าขายดีมาก ผู้มีพลังศรัทธาต่อหลวงพ่อเงิน ต้องการที่จะมีไว้ในครอบครอง พระหลวงพ่อเงินไม่จำเป็นต้องทันท่านปลุกเสกเสมอไป ขอให้พิธีดี เจตนาสร้างดี บารมีหลวงพ่อเงินก็แผ่ถึงแล้วครับ ผู้ที่ศรัทธาหลวงพ่อเงินต่างประจักษ์กันทั่วหน้าครับ
    DSC_0036.JPG DSC_0037.JPG
     
  6. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการพิเศษ
    พระผงสุพรรณ หลวงพ่อดี วัดพระรูป เนื้อดินเผา จ.สุพรรณบุรี พร้อมกล่องเดิมๆๆจากวัด ***แบ่งให้บูชา กล่องละ 100 บาท**** (มีอยู่4กล่อง)
    DSC_0038.JPG DSC_0039.JPG DSC_0040.JPG
     
  7. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    10492.พระสมเด็จ หลวงปู่รอด วัดเกริน จ.ปทุมธานี ****แบ่งให้บูชา 1250 บาท***ปิดครับ
    หลวงปู่รอดวัดเกรินเป็นพระเชื้อสายรามัญที่มีความเข้มขลังทางพระเวทวิทยาคม เป็นยิ่งนักโดยเฉพาะเรื่องคงกะพันชาตรีไม่มีใครเกินแม้แต่พระสมเด็จที่มักมี พุทธคุณทางด้านเมตตาแต่ของท่านกลับเหนียวจนกระสุนเจาะไม่เข้าทำให้พระสมเด็จ ของท่านถูกทหารและตำรวจเช่าบูชาไปจนหมดสนามจนแทบกลายเป็นตำนานให้ได้ยินแต่ เพียงชื่อสมเด็จกริ่ง อ.รอดวัดเกรินนอกจากนั้นท่านยังสร้างนางพญาพิมพ์เล็กแจกเด็กและสตรี สร้างพระสังกะจายแจกแม่ค้า รูปถ่ายและที่สุดของเครื่องรางของคนมอญคือพิรอดแขนและแหวนพิรอดที่ได้รับการ ถ่ายทอดมาจากหลวงปู่รอดแห่งวัดน้ำวนที่เป็นเกจิเชื้อสายรามัญเช่นเดียวกัน และมีศักดิ์เป็นลุงของท่านด้วย

    เจ้าคุณรามัญมุนี(มะลิ)ยังยอมรับว่าพิรอดของท่านรอดนั้นขลังนักเพราะไฟไม่ อาจเผาพิรอดของท่านให้มอดไหม้ลงได้ แม้กระทั่งงูเห่าถูกคนที่สวมพิรอดอยู่เดินไปเหยียบก็นอนแน่นิ่งไม่วกกลับมา ฉกแต่อย่างใด และก่อนหน้านั้นท่านเคยเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่รอดแห่งวัดเจตวงษ์ผู้เป็นพระ ฐานานุกรมของสมเด็จพระพุทธาจารย์โตดังนั้นท่านจึงรู้สูตรการสร้างพระสมเด็จ

    ท่านหลวงปู่รอดจึงได้สร้างพระสมเด็จตามสูตรของสมเด็จโตที่ต้องสำเร็จด้วยผง วิเศษทั้ง5ประการโดยท่านจะลบผงเตรียมไว้ก่อนเมือได้ฤกษ์ดีก็จะเริ่มสร้างโดย นำปูนเปลือกหอยมาบดในรางบดยาจนละเอียดเป็นผงซึ่งกินเวลาเกินครึ่งวันในวันๆ หนึ่งจึงสร้างพระได้ไม่กี่องค์พระสมเด็จของท่านเนื้อจึงละเอียดแน่นละมักมี รอยปาดเพื่อลบมุม ส่วนตะไบเงิน ทอง นาค ที่เห็นฝังอยู่ในเนื้อพระก็มาจากการที่ท่านนำพระยอดธงมาตะไบ

    ซึ่งมูลเหตุก็มาจากเจดีย์เก่าในวัดเกรินพังลงและมีพระยอดธงเนื้อเงิน นาค ทองจำนวนหนึ่งแตกออกมาซึ่งตามคติความเชื่อของคนมอญเมื่อมีคนเสียชีวิตจะเก็บ ศพไว้2ปีและจะทำหน้ากากครอบหน้าไว้เป็นทอง นาค เงินตามฐานะเมื่อนำศพไปเผาก็จะถวายหน้ากากไว้ที่วัดเมื่อมีจำนวนมากก็จะนำ มาสร้างเป็นพระยอดธงบรรจุในเจดีย์เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาตามคติความเชื่อ เราจึงพบพระยอดธงตามเจดีย์เก่าในแทบจะทุกวัดของจังหวัดปทุมธานี

    พระสมเด็จของท่านนั้นมีทั่งชนิดเนื้อใบลานและเนื้อผงและผงออกสีชมพูนิดหน่อย มีทั่งชนิดบรรจุตะกรุดสาริกาขนาดเล็กที่เวลาเขย่าจะเหมือนบรรจุกริ่งเอาไว้ และไม่บรรจุตะกรุดสาริกา บางองค์จะมีตะกรุดโทนบรรจุเอาไว้ด้วยซึ่งจะพบเห็นน้อยเพราะเป็นตะกรุดเมตตา พระเครื่องของท่านโดดเด่นทางคงกะพันจนมีชื่อเลืองลือไปทั่วจนคิดว่าพระท่าน ดีแต่เหนียวท่านจึงได้ใส่ตะกรุดลงไปด้วยเพื่อให้รู้ว่าเรื่องเมตตาท่านก็ เป็นไม่ได้น้อยหน้าพระเกจิองค์ใด พระสมเด็จรุ่นแรกที่ท่านสร้างเป็นพิมพ์หน้าเดียว ต่อมาจึงเป็นพิมพ์สองหน้าที่มีทั้งโรยตะไบและไม่โรยตะไบ ปัจจุบันพระเครื่องของท่านแทบทุกชนิดกลายเป็นของหาดูยากไปแล้วครับ

    หลวงปู่รอด สุมุตฺโต มรณภาพ พ.ศ.๒๕๑๓ อายุ ๙๐ ปี หลังท่านมรณะแล้ว มีคนเข้ามาถามหาวัตถุมงคลของท่านถึงที่วัด จึงเกิดการทำเทียมเลียนแบบขึ้น ที่นิยมมี ๒ ชนิด คือ พิรอดแขน และพระพิมพ์สมเด็จ ผู้ทำคือ นายเหล็ง รามัญจิต ซึ่งเป็นผู้ช่วยถักพิรอด และพิมพ์พระสมเด็จ ฯ เมื่อครั้งหลวงปู่ยังมีชีวิต รวมถึงคนรอบข้างวัดอีกหลาย ๆ คน หลายคนยังมีชีวิตอยู่ ปัญหาคือ เมื่อหลวงปู่มรณะ แม่พิมพ์พระสมเด็จ ฯ ( ทำจากหินมีดโกน ) ไม่รู้หายไปไหน นายณรงค์ รามัญจิต ( ปัจจุบันเป็นกรรมการวัด) เล่าให้ฟังว่า ที่บ้านนายเหล็ง มีพิรอดแขน และพระสมเด็จ ฯ ผึ่งแดดไว้เพียบ
    หลวงปู่รอด ปกติเป็นพระที่สะอาด เจ้าระเบียบ และ เรียบร้อย พูดน้อย และละเอียด วัตถุมงคลที่ท่านสร้างจะพิถีพิถันมาก และสร้างน้อย ปกติจะสร้างเฉพาะในพรรษา เช่น พระพิมพ์สมเด็จ ฯ วันหนึ่งจะได้เพียง ๒๐ - ๓๐ องค์เท่านั้น กรรมวิธีเริ่มจากให้เด็กวัด ( ปัจจุบันแต่ละคนอายุเกิน ๖๐ ) นวดผงด้วยหินบดยา จากเช้าจนบ่าย ระหว่างนี้ หลวงปู่จะเดินมาดูและนำน้ำว่านดอกทองผสมกับปูนแดง ( กินกับหมากพลู ) กับผงอิทธิเจโรยใส่เป็นระยะ ๆ จนกว่าท่านจะสั่งหยุด เนื้อพระที่ได้จึงละเอียดแน่นและเนียนอมชมพูน้อย ๆ จึงนำมากดพิมพ์ เมื่อถึงเวลาถอดพิมพ์ ท่านจะใช้ตอกขูดแต่งขอบข้างพร้อมใช้นิ้วหัวแม่มือคลึงให้เรียบ พระสมเด็จ ฯ ของท่านจึงมีเอกลักษณ์

    ส่วนพระของนายเหล็ง เนื่องจากบุคคลิกส่วนตัวคงเป็นคนไม่ละเอียด และหรือรีบร้อนทำ บล๊อคแม่พิมพ์ไม่ค่อยทำความสะอาด ทำให้พิมพ์พระที่ออกมาตื้น ติดพิมพ์ไม่ชัด แม้ว่าจะใช้แม่พิมพ์ของแท้ ถ้าเนื้อหาว หรือแตกราน ขอบข้างไม่เรียบร้อย พิมพ์ออกตื้นๆ ท่านว่า " ให้วาง "

    หลวงปู่รอด อดีตเจ้าอาวาสวัดเกริน ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่ภู วัดอินทร์ พระเนื้อผงของท่านจึงมีส่วนละม้ายคล้ายคลึงกับของอาจารย์ คือ หลวงปู่ภู แม้แต่หลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ ยังนำพระของท่านมาฝากให้หลวงปู่รอดช่วยปลุกเสกด้วย
    DSC_0046.JPG DSC_0047.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2023
  8. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    10493.สมเด็จ ปี06 แจกกรรมการ (มีตรายางด้านหลังพระ) สภาพสวยมาก หายาก เพราะแจกกรรมการ เนื้อจัดมาก ๆ มีก้อน "ชิ้นสมเด็จฯ" พิธีใหญ่ สภาพสวย เพราะสร้างน้อยมีมวลสารแค่สมเด็จวัดระฆัง และสมเด็จวัดบางขุนพรหม แกะพิมพ์เหมือนสมเด็จวัดระฆังทุกประการ ****แบ่งให้บูชา 1850 บาท****ปิดครับ

    ได้พระสมเด็จที่ออกจากวัดประสาทบุญญวาสมา พอดี,,พรรค พวกกันแกไปรู้จักคุณลุงคนหนึ่งบ้านอยู่แถววัดประสาทบุญญวาส ตอนนี้แกอายุ 70 กว่าปีแล้ว แกบอกว่าสมัยก่อนตอนพ.ศ. 2506 แกได้เป็นกรรมการ เป็นคนตำผงพระสมเด็จ ที่ทางวัดบางขุนพรหม ได้ให้พระสมเด็จที่แตกหักมาเป็นปี้ปๆ ที่นำมไาสร้างเป็นพระหลวงปู่ทวด พระสมเด็จ และก็มีอีกหลากหลายพิมพ์ ส่วนพิมพ์พระสมเด็จนี้จะมีประทับตรายางไว้ข้างหลังด้วยว่าเป็นรุ่นแจก กรรมการ ปี พ.ศ. 2506 เป็นผงสมเด็จล้วนๆเลยครับ ผมเห็นว่าเป็นพระที่มีเจตนาการสร้างดี พิธียิ่งใหญ่ พุทธคุณสุดยอด ก็เลยนำมาแบ่งประมูลครับ....ที่สำคัญราคาก็ไม่ได้แพงอะไรมากมาย สำหรับคนรุ่นใหม่อย่างเราที่อยากได้พระสมเด็จ พุทธคุณสูง เทียบเท่าพระสมเด็จของพุทธาจารย์โต ผมว่าอันนี้ก็น่าจะใช้แทนกันได้อย่างสบายใจ ก็เพราะว่าเป็นผงสมเด็จบางขุนพรหมล้วนๆนั่นเองครับ,,, พระวัดปราสาทบุญญาวาส สร้างเมื่อ พ.ศ ๒๕๐๖-๒๕๐๘ มีความดีเด่นเป็นเลิศอยู่ ๓ อย่าง ประการแรก เจตนา ของผู้สร้างดี คือสร้างแล้วบรรจุเจดีย์เพื่อสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา ส่วนที่เหลือแจกเป็นทานให้เปล่าไม่มีการซื้อขายแต่อย่างใด ประการที่๒ ส่วนผสมของเนื้อพระดี มีคุณค่าทางด้านไสยศาสตร์ พระคณาจารย์นับร้อยองค์นำผง ว่าน แร่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ มามอบให้ และใส่ผงสมเด็จบางขุนพรหมที่แตกหักชำรุดลงไปมากมายเป็นประวัติการณ์ ประการที่๓ พระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ทั่วทุกภาคของประเทศไทยจำนวนหลายร้อยองค์ ซี่งอยู่ในชั้นแนวหน้า หนึ่งในจำนวนนั้นก็มี หลวงปู่ทิม อิสริโก หลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี ท่านเจ้าคุณนรฯ ลฯ อีกหลายองค์ที่เก่งๆที่อยู่ในชั้นแนวหน้า มาร่วมกันปลุกเศกอัดพลัง ๓ วัน ๓คืน ติดต่อกันโดยไม่หยุดพัก แล้วอย่างนี้เรื่องคุณภาพพุทธคุณของพระที่สร้างขึ้นจะขนาดไหน... ราคาก็ยังไม่แพงมาก ยังพอหาได้ พระที่มีสเป็กแบบนี้ จึงเหมาะที่จะหาไว้บูชา คุ้มครอง ป้องกันตัวดีนักแล... .
    ข้อมูลเพิ่มเติมhttps://uauction3.uamulet.com/AuctionDetail.aspx?bid=288&qid=19881
    DSC_0063.JPG DSC_0064.JPG DSC_0062.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2023
  9. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    10494.พระสมเด็จวัดเกศไชโยพิมพ์ 7ชั้น นอกพิมพ์ จ.อ่างทอง สภาพสวย ****แบ่งให้บูชา 2500 บาท****
    พระสมเด็จวัดเกศไชโย นับเป็นพระที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมสะสมอย่างกว้างขวาง นับเนื่องจากว่าเป็นพระที่อยู่ในตระกูล “พระสมเด็จ”

    วัดไชโยวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร นับเป็นที่วัดเก่าแก่ แต่ไม่มีหลักฐานปรากฏว่าใครสร้าง ชาวบ้านเรียกชื่อวัดนี้ว่า “วัดไชโย” หรือ “วัดเกศไชโย” เป็นเวลานานมาแล้ว ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา สุดเขตแดนตอนเหนือของ จ.อ่างทอง วัดเกศไชโยเริ่มปรากฏชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไปก็เมื่อครั้งท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) อดีตท่านเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ผู้เป็นอมตะเถระ ได้มาสร้างพระพุทธรูปใหญ่โตขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เรียกกันว่าหลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งขัดสมาธิ ก่ออิฐสอดินถือปูนขาว ไม่ได้ปิดทอง ประทับนั่งอยู่กลางแจ้ง ขนาดหน้าตักกว้าง 8 วา 6 นิ้ว สูงสุดถึงยอดพระรัศมี 11 วา 1 ศอก 7 นิ้ว มองเห็นได้แต่ไกล ต่อมาให้ชื่อว่า “พระมหาพุทธพิมพ์”

    ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยารัตนบดินทร (บุญรอด) ที่สมุหนายก สำเร็จราชการกรมมหาดไทย เป็นแม่กองปฏิสังขรณ์วัดไชโยขึ้นใหม่ทั่วพระอารามเมื่อปีกุน (พ.ศ.2430) ตอนที่สร้างพระวิหารครอบพระมหาพุทธพิมพ์ได้มีการกระทุ้งรากฝังเข็ม พระมหาพุทธพิมพ์เป็นพระพุทธรูปใหญ่ทนการกระเทือนไม่ได้จึงพังทลายลงมา และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับสร้างพระพุทธรูปขึ้นใหม่เป็นของหลวงทดแทนพระพุทธรูปที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้สร้างเอาไว้ และจากที่พระมหาพุทธพิมพ์ พังทลายลงมานี้เอง จึงได้พบพระพิมพ์เนื้อผงขาวทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเป็นจำนวนมาก เรียกกันว่า “พระสมเด็จวัดเกศไชโย” เป็นที่ยอมรับและเชื่อกันว่า “พระสมเด็จวัดเกศไชโย” เป็นพระเครื่องที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ สร้างและบรรจุเอาไว้เพื่อเป็นพุทธบูชาและเป็นอนุสรณ์แด่โยมมารดาของท่านชื่อ “เกศ”
    DSC_0072.JPG DSC_0073.JPG DSC_00721.JPG
     
  10. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    10495.เหรียญรุ่นแรก "เสือเผ่น" หลวงพ่อเที่ยง" วัดพระพุทธบาทเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ปี 31 เนื้อทองแดง สภาพหิ้ง สุดยอดประสบการณ์ ในพื้นที่ก็หายากแล้วนะครับ น่าเก็บครับ

    ประสบการณ์
    ตะกรุดหนังเสือ วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2531 บนยอดเขากระโดง อันเป็นภูเขาไฟที่ดับมานับพัน ๆ ปี อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งของวนอุทยานเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กลุ่มข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดสี่ห้านายพร้อมด้วย ชาวบ้านอีกหลายคนใด้ขึ้นไปชุุมนุมกันอยู่ที่นั่น... ชื่อของบรรดาข้าราชการจังหวัดบุรีรัมย์นั้น ท่านขอให้สงวนเอาไว้ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางอย่าง แต่ชาวบ้านที่พอจะเปิดเผยใด้ก็มี คุณวรพจน์ ลิ้มพานุกิจ คุณอุทัย ใจชื่น และคุณกลิ่น โนนสังกาศ เป็นชาวตลาดในเมืองบุรีรัมย์ เขามาชุมนุมทำอะไรกัน? การกระทำครั้งนี้ ในตอนแรกต้องการปกปิดเป็นความลับ เพราะไม่อยากให้ใครใด้รู้เห็น แต่หลังจากผ่านการทดลองไปแล้ว ความลับทั้งหลายจึงถูกเปิดเผยขึ้น มีสิ่งหนึ่งแขวนอยู่กับกิ่งไม้ นั่นก็คือ ตะกรุด ดอกหนึ่ง ซึ่งชาวคณะได้นำมาจาก วัดพระพุทธบาทเขากระโดง เป็นของ หลวงพ่อเที่ยง ปภังกโร พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งดินแดนที่ราบสูง ได้รับจากมือมาก็เอามาลองกันเลย เพื่อที่จะดูว่าแน่จริงสมคำร่ำลือหรือเปล่า........... ใครจะเป็นคนยิง ? เสียงผู้อาวุโสคนหนึ่งในคณะถามขึ้น ข้าราชการสังกัด นปพ. อาสาเป็นผู้ยิงเดินเข้าหาตะกรุดพร้อมด้วยปืนพกกึ่งอัตโนมัติขนาด 11 มม. ในมือ มีเสียงทัดทานของใครคนหนึ่งเตือนมาข้างหลัง.....เดี๋ยวเถอะมึง ได้รู้ว่าหมู่หรือจ่า หลวงพ่อท่านบอกห้ามลองของนะโว้ย!!! เฮียเงียบเถอะ เขากำลังจะเอาจริงเอาจัง. เสียงห้ามจากอีกคนยืนอยู่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ การทดลองวัตถุมงคลต่าง ๆ ของหลวงพ่อเที่ยงนั้นเป็น ข้อห้ามอย่างเด็ดขาด เพราะจะนำเอาสิ่งไม่ดีมาสู่ตัวเอง แต่คณะทดลองของขลังนี้ก็ยอมเสี่ยงด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าของที่ได้มานั้นดีจริง เนื่องจากเห็นพิธีการสร้างแล้วน่าทึ่งแปลกพิสดารล้ำลึก ชนิดที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนเลยนั่นเอง เริ่มตั้งแต่พิธีบวงสรวงเทพารักษ์ และดวงวิญญาณของพญาเสือโคร่ง ซึ่งน่าขนลุกขนพอง หลังจากนั้นก็มีการลงอักขรยันต์ลงบนหนังเสือโคร่ง กว่าจะเสร็จกินเวลานานมาก แล้วมาถึงพิธีปลุกเสกพระคาถากำกับ หัวใจเสือ เป็นอันแล้วเสร็จ ตะกรุดพญาเสือโคร่งมหาอำนาจ ปากกระบอกปืนถูกจ่อห่างจากตะกรุดดอกนั้นประมาณ 2 ฟุต ทุกคนกลั้นลมหายใจอย่างตื่นเต้น เดี๋ยวจะใด้รู้กันว่าของหลวงพ่อนั้นแน่แค่ไหน แต่ก็มีเสียงทักท้วงขึ้นอีก หัวหน้าทีมสั่งให้เปลี่ยนปืนที่จะใช้ยิงเป็นปืนวอลเว่อร์แทน เพราะเก็บกระสุนที่ด้านง่ายกว่าปืนออโต้ ซึ่งจะต้องกระชากลำเลื่อนเพื่อคายกระสุนปืนที่ด้านออกจากรังเพลิงทำให้เสียเวลา เอาล่ะยิงใด้ !! มือปืนกระตุกไกยิงทันที แชะ...แชะ...!! ยิงไม่ออก กระสุนด้าน เฮ้ย ซัดให้หมดโม่ไปเลย !! เสียงหัวหน้าทีมกำกับบท มือปืนจาก นปพ. จึงสับไกรวดเดียว แชะ...แชะ...แชะ...แชะ...!! น่าอัศจรรย์..กระสุนชุดนั้นไม่ลั่นเลยแม้แต่นัดเดียว ! หัวหน้าทีมน้ำเสียงสั่น สั่งให้หันปากกกระบอกปืนไปทางอื่นแล้วลองยิงดู เปรี้ยง...เปรี้ยง...!! ทุกคนตกตะลึงเมื่อเสียงปะทุแตกของกระสุนปืนขนาด .38 ดังกึกก้อก มือปืนยังไม่แน่ใจแหงนลำกล้องขึ้นฟ้าอีกสองนัด มันก็ระเบิดออกมาไม่เหลือ นั่นเป็นการพิสูจน์ที่ทุกคนมั่นใจทันที เมื่อกระสุนนัดที่ 4 สิ้นเสียงลง หัวหน้าทีมปราดเข้าไปเก็บเอาตะกรุดทันที. ตะกรุดดอกนี้ของผมโว้ย แสนหนึ่ง ก็ไม่ขายว่ะ !! เพราะว่าเป็นตะกรุดดอกที่ลองยิงนั่นเอง ทำให้ราคาพุ่งพรวดขึ้นไปตามความหวงแหนของเจ้าของ. เย็นนั้นที่ไปลองตะกรุดกันก็มาที่ร้านอาหารในตัวเมืองบุรีรัมย์ หลังจากที่เข้าไปขอเช่าตะกรุดเอาไว้อีกคนละหลาย ๆ ดอก ความจริงจะเอากันมากกว่านั้น แต่หลวงพ่อบอกว่าเอาไว้ให้คนอื่นเขาบ้างจะได้ทั่วถึง แยกจากร้านเหล้าแล้ว หัวหน้าทีมก็กลับมานอน แล้วคืนนั้นเองสิ่งที่หลวงพ่อเตือนเอาไว้ก็เกิดขึ้น ขณะที่หลับสนิทได้ฝันว่ามี เสือโคร่ง ตัวใหญ่มหึมาตัวหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง ตรงเข้าไปหาแล้วกระโดดขึ้นคร่อมร่าง แยกเขี้ยวยิงฟันขาววับ ก่อนจะตะปปกรงเล็บอันแหลมคมเข้าใส่อย่างไม่ปรานีปราศรัย ท่านตกใจร้องเสียงลั่นบ้านจนคนในบ้านตื่นกันหมด มีคนในบ้านพังประตูเข้าไปพบว่าท่านนั่งตัวสั่นงันงกอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าซีดขาวเม็ดเหงื่อโซมหน้า. เมื่อสติกลับคืนมา ท่านก็นึกถึงคำสั่งของหลวงพ่อที่ว่า ห้ามลองของเป็นอันขาดเพราะเอาไปลองนั่นเอง ไม่เชื่อคำสั่งจึงทำให้พญาเสือโคร่งโกธร พอรุ่งเช้า ท่านจึงรีบบึ่งรถไปหาหลวงพ่อที่วัด พอเจอหน้าท่าน หลวงพ่อเลยเอ่ยถามว่า ? เจออะไรดีมาหรือ ? ท่านก็เล่าเรื่องทีฝันเห็นเสือโคร่งมาทำร้ายให้ฟัง โดยไม่กล่าวถึงเรื่องที่ไปลองตะกรุดกันเมื่อวานนี้ หลวงพ่อหัวเราะและย้อนถามไปว่า ถามจริง ๆ เถอะ เมื่อวานไปทดลองยิงตะกรุดดูใช่ไหม ? หลวงพ่อรู้ใด้อย่างไรครับ ? ท่านย้อนถามด้วยความแปลกใจ เพราะเรื่องนี้สั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้บอกใคร ฉันสร้างของฉันมาเองแล้วทำไมจะไม่รู้ว่าใครเอาไปทำอะไรที่ใหน ท่านจึงได้สารภาพว่าเอาไปลองยิงกันจริง และยิงไม่ออก ตนเองไม่ใด้ตั้งใจดูแคลนนับถือหลวงพ่อมาก แต่ที่เอาไปลองก็เพื่อจะเอามาเปิดเผยให้ประชาชนทั่วไปทราบกันว่า ของหลวงพ่อดีมากน้อยแค่ไหนเท่านั้น. หลวงพ่อจึงกล่าวเตื่อนว่า การกระทำเช่นนี้ ทำให้วิญญาณพญาเสือโคร่งโกรธมาก ทีหน้าทีหลังอย่าทำอีกเด็ดขาดเก็บตะกรุดเอาไว้ให้ดี เขาจะช่วยเราได้ในยามคับขัน !? ข้าราชการท่านนั้นก็ก้มลงกราบบอกกับหลวงพ่อว่า นับตั้งแต่นี้จะไม่ลองของ ของหลวงพ่ออีก และนับถือสนิทใจแล้วว่า ของหลวงพ่อนั้นเยี่ยมจริง ๆ ข้าราชการท่านนั้น ยังได้พบประสบการณ์รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์อีกถึงสองครั้งขณะที่คนอื่นเสียชีวิตหมด ครั้งหนึ่งขณะที่เข้าไปในดงชุมโจร เพื่อรับตัวมือปืนถูกซุ่มยิงเข้ามาในรถปิกอัพ ทุกคนรวมทั้งคนขับตายเกลี้ยง แต่ตัวท่านรอดมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร มีเพียงรอยกระสุนเป็นจ้ำ ๆ สามสี่แห่งที่ลำตัว. อีกครั้ง รถที่นั่งไปประสานงานกับรถสิบล้อ คนที่นั่งมาด้วยอีกสองคนตายคาที่ ส่วนท่านบาดเจ็บเล็กน้อย แต่กว่าจะเอาตัวออกมาจากซากรถที่พังยับเยิน ต้องเอาเลื่อยมาตัดถ่างเหล็ก ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ถึงเอาตัวออกมาได้ ก่อนหน้าที่ หลวงพ่อเที่ยงจะเป็นที่รู้จักกันทั่วทั้งภาคอีสาน และดังระเบิดขึ้นมาท่านได้สร้างวัสถุมงคลขึ้นมาอย่างหนึ่ง ทำให้ชื่อเสียงของท่านจารึกอยู่ในโสตประสาทของบรรดาผู้ที่แสวงหาเครื่องรางของขลังในด้าน อยู่ยงคงกระพัน นั่นก็คือ...ตะกรุดเกราะเพชร... เมื่อปี พ.ศ. 2522 หลวงพ่อพระอธิการเย็น เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทเขากระโดงองค์ที่ 2 ซึ่งสืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อจาก หลวงพ่อบุญมา ได้มรณภาพลง หลวงพ่อเที่ยง กลับจากธุดงค์ จึงต้องมารับหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดพระพุทธบาทเขากระโดง เป็นองค์ที่ 3 หลวงพ่อเที่ยง ยึดถือแนวปฏิบัติเดิม เคร่งในวิปัสนากรรมฐาน และความสันโดษ ปฏิปทาของท่านเริ่มเป็นที่รู้จักและเลื่อมใสในหมู่ผู้คนชาวบุรีรัมย์ก่อน แล้วบอกกันต่อไป ใครที่มาบุรีรัมย์ก็จะได้รับคำแนะนำให้ไปกราบขอพรเพื่อความเป็นมงคล ผู้คนที่มากราบไหว้แล้วกลับไปเกิดความสบายใจ ก็ทำให้ผู้คนหลั่งไหลกันมาที่วัดพระพุทธบาทเขากระโดงเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ในจำนวนนี้ บางคนเมื่อมาถึงวัดแล้ว ก็อยากได้ของดีกลับไปบูชา ช่วงแรก ๆ ท่านก็ไม่ได้ทำให้ใครบอกว่าของดีก็อยู่ในตัวทุกคนนั่นแหละ ของดีที่ท่านว่าก็คือ ความดี. ต่อมา ท่านทนต่อการรบเร้าไม่ไหว เพราะไม่ได้สร้างพระสร้างเหรียญอะไรเอาไว้เลย มองซ้ายมองขวา เห็นแผ่นทองที่ชาวบ้านเอามาถวายก็หยิบมาเขียนอักขรยันต์ลงไปแล้วม้วนปลุกเสกลงอาคม จากนั้นเอาเชือกร่มสีแดงที่ลูกศิษย์ซื้อมาทำธุระแล้วเหลือเอาทิ้งไว้ มาร้อยเป็นสายตะกรุดแจกไป ตะกรุดที่แจกไปนั้น ก็เกิดปาฏิหาริย์ให้ผู้คนมีความศรัทธาในเรื่องแคล้วคลาดก่อนเป็นอันดับแรก และเป็นที่ฮือฮามาตั้งแต่บัดนั้น วิชาสร้างตะกรุดนี้ หลวงพ่อเที่ยงท่านได้ร่ำเรียนมาจากพระอาจารย์เขมร ซึ่งเป็นพระธุดงค์ เป็นผู้ประสิทธ์ประสาทวิชาให้เมื่อครั้งที่ท่านรอนแรมธุดงค์เข้าไปในประเทศเขมรสมัยที่ยังไม่ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทเขากระโดง !! เมื่อท่านต้องการสร้างเครื่องรางของขลัง เพื่อแจกจ่ายก็ต้องทำให้ดีที่สุด ถูกต้องตามวิธีการที่ท่านเชี่ยวชาญแล้วรอฤกษ์จันทรคราส เพื่อความเข้มขลังสุดยอด เข้าหลักพิชัยยุทธตามตำนานโบราณ ความตั้งใจของท่านคือ เพื่อแจกจ่ายให้กับทหารที่ประจำการอยู่ตามแนวชายแดน เริ่มตั้งแต่เส้นทางที่ท่านออกธุดงค์ผ่านไป จากกองกำลังสุรานารี กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 23 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน ทหารอาสาสมัครที่ปฏิบัติหน้าที่ตามชายแดน การกระทำนั้นย่อมได้ผล เพราะอย่างน้อยก็เป็นขวัญและกำลังใจกับทหารที่ได้รับตะกรุดไป ซึ่งแน่หละประสบการณ์อภินิหารย่อมปรากฎขึ้นกับบรรดามหาร เหล่านั้นคนแล้วคนเล่า ผู้ที่ยืนยันประสบการณ์ได้คือ อส. สมพร อส. สมชาย อส. ยืน ที่พาครอบครัวมากราบหลวงพ่อเที่ยงที่วัดพระพุทธบาทเขากระโดงเล่าว่า เขาทั้งสามถูกล้อมกรอบยิงจากพวกข้าศึกที่แนวชายแดนขณะทำการเฝ้าฐาน แต่แล้วก็ตีฝ่าวงล้อมออกมาโดยไม่ได้รับอันตราย ซึ่งทั้ง 3 อส. มีตะกรุดหลวงพ่อเที่ยงคนละดอก ทั้งสามยืนยันว่า ที่รอดตายมาได้ก็เพราะกฤตยาคมอันเข้มขลังของตะกรุด ช่วยปกป้องคุ้มครองชีวิต !! ต่อมา เมื่อยามแผ่นดินชายแดนคลายร้อนควันสงครามสงบลง ทหารกล้าได้ร่วมใจเดินทางมาช่วยพัฒนาวัดพระพุทธบาทเขากระโดงด้วยความเต็มใจและศรัทธาในตัวหลวงพ่อเที่ยง ผู้ที่ศรัทธาท่านจากบุรีรัมย์ จากจังหวัดใกล้เคียง หรือแม้อต่กรุงเทพ ก็ยังเดินทางมาช่วยพัฒนาวัด ถ้าดูให้ดีที่บริเวณหน้าอุโบสถจะเห็นก้อนหินขนาดสี่คนโอบวางเรียงรายกกันเป็นกำแพงกั้นดิน มันมาเรียงกันอยู่เป็นระเบียบได้อย่างไร ? ก็เพราะพลังแรงศรัทธาของกลุ่มนักรบที่กลับจากชายแดน และประชาชนที่มีจิตศรัทธาต่อหลวงพ่อเที่ยงนั่นเอง เครื่องรางของขลังในชุดแรก ๆ ของหลวงพ่อเที่ยงนั้น ท่านสร้างแต่เพียง ตะกรุดเกราะเพชร และตะกรุดหนังเสือโคร่ง การทำตะกรุดก็ต้องใช้มือถัก ก่วาจะได้แต่ละอันใช้เวลามาก. สุดยอดของขลังอีกอย่างหนึ่งของหลวงพ่อเที่ยง ที่บรรดาชายฉกรรจ์ทั้งหลายต้องการ ก็คือ สักยันต์น้ำมันหัวใจเสือ เพราะจากปากต่อปากของคนที่ผ่านการสักมาแล้วนั้น ยืนยันสรรพคุณของ ยันต์เสือเผ่น ที่สักด้วยมือของหลวงพ่อเที่ยง ว่ามีความเข้มขลังขนาดไหน เสือเผ่น ของหลวงพ่อเที่ยงนั้น ร่ำลือกันมากในหมู่ทหารพรานว่า เป็นมหาอำนาจทางคงกระพันชาตรีอย่างแท้จริง ตั้งแต่โบราณกาลมาแล้วที่เสือมักจะเกี่ยวข้องกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และไสยศาสตร์โดยเป็ฯมหาอำนาจอยู่เสมอ พระอาจารย์ต่าง ๆ พากันสักยันต์เป็นรูปเสือเผ่น หรือ เสือโผนไว้ที่หน้าอก หรือที่ บ่า เป็นต้น ถือว่ามีมหาอำนาจซ้ำยังมีความคงกระพันชาตรีในตัวของมันเอง. ในสมัยพยัคฆ์ร้ายไทยถีบ หรือ สามล้อถีบในกรุงเทพ ยังไม่เลิก ก่อนยุคที่ จอมพล สฤษดิ์ ยังไม่เถลิงอำนาจนั้น นายสายสีใหม สามล้อถีบจากเมืองชลบุรี มีเรื่องกับพวกสามล้อจากบ้านทวาย(สะพานดำใกล้ที่ทำการประปานครหลวง) นายสายเสียท่าถูกรุมเลื่อยด้วยเลื่อยตัดน้ำแข็งซึ่งมีฟันใหญ่และคมกริบ. แต่คมเลื่อยไม่ได้กินเลือดของนายสาย แม้แต่หยดเดียว !! เพราะนายสาย สีใหม สักเสือเผ่น ที่หน้าอก แถมยังทีตะกรุดหนังเสือ ห้อยคออยู่อีกหนึ่งดอก ไม่ทราบว่าเป็นของพระอาจารย์ผู้ใด หลังจากวันนั้น มีคนถามถึงยันต์เสือเผ่น ที่สัก และ ตะกรุดหนังเสือ นั้นเป็นของพระอาจารย์ที่ใหน นายสายไม่ยอมบอกที่มา แต่บอกว่าเป็นพระอาจารย์องค์หนึ่งแถบตะวันออก. สมัยก่อน พระอาจารย์แถบตะวันออกที่ดังเริ่มจาก หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย เทพเจ้าแห่งเขี้ยวเสือ ยุคหลังก็มีหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส ซึ่งเป็นเครื่องรางที่ให้ผลทางด้าน คงกระพันชาตรี โดยเฉพาะ. เครื่องรางที่ทำมาจาก หนังหน้าผากเสือ หนังเสือ เขี้ยวเสือ หรือแม้แต่ เล็บเสือ ล้วนมีมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาทั้งสิ้น. การสร้างตะกรุดหนังเสือโคร่งมหาอำนาจนั้น จะต้องมีการเซ่นไหว้ปลุกเสกพิธีเต็มรูปแบบ กว่าจะออกมาเป็นตะกรุดเสือโคร่งมหาอำนาจนั้นไม่ใช่ของง่าย หากทำประเภทสุกเอาเผากินแล้วอาทิตย์เดียวเสร็จ แต่ของหลวงพ่อเที่ยงไม่มีทาง ท่านคำนึงถึงประสิทธิภาพมาก จึงตั้งใจสร้างอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่เริ่มสร้างจะยึดเอาฤกษ์วันสุริยคราสเป็นวันบูชาเทพารักษ์ และวิญญาณของพญาเสือโคร่ง เขียนอักขระยันต์ลงบนหนังเสือพร้อมกำกับพระคาถา แล้วนำมาปลุกเสกเดี่ยวในเจดีย์มหาราช. พระบุญเลี้ยง ลูกศิษย์ใก้ลชิดรูปหนึ่ง มี่มาขอฝากตัวเป็นศิษย์เพราะความเคารพนับถือหลวงพ่อเที่ยงได้เล่าให้ฟังว่า ในยามที่หลวงพ่อเที่ยงตั้งธาตุสร้างตะกรุดพญาเสือโคร่ง ซึ่งท่านจะต้องใช้ธาตุไฟ หลวงพ่อเที่ยงจะดูหนุ่มขึ้น หน้าแดงตัวแดงมีพละกำลังมหาศาล นอกจากนี้แล้ว บรรดาลูกศิษย์ของท่านที่มารอรับตะกรุดในตอนแรกก็จะมีพละกำลังมหาศาลเช่นเดียวกัน. หากบริกรรมคาถาหัวใจเสือโคร่งแล้ว ก็เหมือนของขึ้นมีกำลังมหาศาล หนังดีไม่สามารถจับรั้งตัวไว้ได้เพราะสู้กำลังไม่ไหว. พระคาถาเสือโคร่งว่าดังนี้ "พยัคโฆ พยัคฆะ สัญญาลัพพะติ อิติหิหึมหัม'' ซึ่งพระคาถาบทนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก หากเอาไปใช้กับตะกรุดพญาเสือโคร่งของหลวงพ่อเที่ยง จะเกิดความเข้มขลังเป็นที่สุดทีเดียว จากคำบอกเล่าของพระภิกษุสองรูปคือ พระอาจารย์บุญมี ฐานจาโร วัดบ้านบัว ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และพระอาจารย์ชัย ฉันทโก วัดพระพุทธบาทเขากระโดง ได้กรุณาเล่าเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์ที่มีลูกศิษย์ของหลวงพ่อเที่ยงประสบมา แล้วนำมาเล่าใหท่านฟังอักต่อหนึ่ง เรื่องเกิดขึ้นกับ นายน้อย ศิลาทอง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 3 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นายน้อยมีอาชีพรับจ้างฆ่าสัตว์ทั่วไป ใครจ้างฆ่าก็ไป นายน้อยมีตะกรุดพญาเสือโคร่งของหลวงพ่อเที่ยงคาดเอวประจำอยู่ดอกหนึ่ง นายน้อยรับจ้างฆ่าวัวให้แขกปาทานคนหนึ่งในจังหวัดสระบุรี แต่นายน้อยเป็นเพชฌฆาตฆ่าสัตว์แข่งกับอีกเขียงหนึ่ง ซึ่งฆ่าสัตว์ถูกกฎหมาย ก็เลยเป็นคู่แข่งกัน คู่แข่งของนายน้อย ซึ่งเป็นแขกปาทานด้วยได้ใช้กลยุทธ์สกปรกว่า ชวนชวนนายมาทำงานไห้กับตน โดยจะให้เงินเดือนสูงกว่าเป็นเท่าตัว นายน้อยเห็นว่าเงินดีก็เลยหักหลังเจ้านายเก่า ด้วยการไปรับจ้างฆ่าสัตว์ให้กับนายใหม่ ทำให้นายเก่าถึงกับโกรธแค้น หาว่านายน้อยหักหลังเป็นหมาสองราง แบบนี้ต้องฆ่าทิ้งถึงจะหายแค้น เพราะกิจการของนายเก่าต้องหยุดชะงักหาคนฆ่าสัตว์ไม่ได้. และวันที่ 4 ธันวาคม 31 เวลาประมาณ 3.00 น. นายน้อยกับเพื่อนอีกคนหนึ่งทำงานฆ่าสัตว์ตามปกติ ขณะที่กำลังชำแหละเนื้ออยู่นั้น ก็มีชายฉกรรจ์สองคนแอบเข้ามาในโรงฆ่าสัตว์ พร้อมด้วยอาวุธปืน นายน้อยเห็นเหมือนกัน แต่ก็หนีไม่รอด เพราะสองคนนั้นปิดทางออกเอาไว้โดยสิ้นเชิง มันสองคนจ่อปากกระบอกปืนเข้าหาร่างนายน้อยที่ยืนตัวสั่นด้วยความกลัวสุดขีด แล้วลั่นไกใส่ทันที แชะ แชะ แชะ แชะ !! กระสุนด้านทั้งสี่นัด ทำให้คนร้ายทั้งสองขัดใจมากขึ้น เล็งปืนไปที่นายน้อยพร้อมคำรามว่า.... หนังเหนียวหรือมึง ให้มันรู้ไปสิว่ามืออย่างกูจะยิงไม่ออก เอามันโว้ย ซ้ำมันให้ตาย !! แล้วทั้งสองก็กระหน่ำยิงซ้ำอีก เสียงระเบิดสนั่นดังก้องโรงฆ่าสัตว์แห่งนั้น.........นายน้อยคิดว่าตัวเองตายแล้ว จึงหลับตาปี๋ฟูบนอนอยู่กับพื้น จนกระทั่งใด้ยินเสียงร้องโอย ๆ จากมือปืนทั้งสอง นายน้อยรู้ตัวเองว่าไม่ตายแน่นอน เพราะไม่มีส่วนใหนของร่างกายที่เจ็บปวดเลย กระสุนไม่ถูกตัวเองแน่นอน มองไปทางมือปืน ก็เห็นว่ามันสองคนเอามือกุมหน้าที่ชุ่มโชนไปด้วยเลือดสด ๆ โดยทิ้งปืนทั้งสองกระบอกไว้ในที่เกิดเหตุ นายน้อยตรงเข้าไปหยิบปืนที่พวกมันทิ้งเอาไว้ก็ขนลุกซู่ เพราะลำกล้องแตกไม่มีชิ้นดี รูปร่างบิดเบี้ยว การระเบิดของปืนคงทำให้สะเก็ดของมันถูกหน้าของคนทั้งสองจึงใด้ทั้งปืน และวิ่งหนีไปด้วยความกลัว ตะกรุดรุ่นนี้จึงเป็นที่ฮือฮากันมาก ชาวบ้านให้ฉายาว่า "ตะกรุดรุ่นพยัคฆ์ปืนแตก" นายน้อยยืนยันว่า ถ้าไม่ได้ตะกรุดพญาเสือโคร่งของหลวงพ่อเที่ยงเขาคงกลายเป็นผีไปแล้ว นั่นคือเรื่องราวของตะกรุดพญาเสือโคร่งของหลวงพ่อเที่ยง ผู้มีฉายาว่า "เทพเจ้าแห่งภูเขาไฟ" มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นที่ จ. บุรีรัมย์ เป็นเรื่องที่ประหลาดมาก หลวงพ่อเที่ยงท่านเล่าว่า เมื่อปี พ.ศ. 2535 ซึ่งปีนั้น ตามความเชื่อถือว่าเป็นปีที่ดุร้ายมาก เพราะนางสงกรานต์ขี่เสือกินเลือดเป็นภักษาหาร ซึ่งที่กรุงเทพฯ ของเราก็เกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ขึ้นมา จนกระทั่งมีผู้คนล้มตายกันมากมาย เหตุการณ์ครั้งนี้ดังไปทั่วโลก ก่อนที่ีจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น หลวงพ่อเที่ยงได้ทำนายเอาไว้ล่วงหน้าว่า... " ในปีนั้น หากใครดวงไม่แข็งอาจจะรักษาชีวิตตัวเองไว้ไม่รอด และจะเกิดเหตุการณ์ร้ายที่ทำให้ผู้คนล้มตายมากมาย" หลวงพ่อเที่ยงท่านทราบล่วงหน้าได้อย่างไรว่าจะเกิดเรื่องนี้ มาฟังท่านเล่ากันต่อไป ท่านกล่าวว่า... วันหนึ่งขณะท่านเข้าสมาธิเจริญภาวนาอยู่ในกุฏิ พอตกดึกก็ได้ปรากฏอสุรกายรูปร่างใหญ่โต หน้าตาดุร้ายคล้ายยักษ์ มายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับตวาดเสียงดังลั่นว่า...."ข้ามาขอชีวิตมนุษย์ 2 พันคนท่านอย่าขวางได้ใหม" ในนิมิตนั้นท่านตอบไปว่า... "ในอาณาเขตบุรีรัมย์อาตมาให้ไม่ได้" อสุรกายเอ่ยเสียงดุดันว่า "เอ้า...ในเมื่อท่านให้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ข้าจะไปเอาที่อื่น" เมื่อมันพูดจบก็หายไปจากนิมิตนั้น มีคนถามว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่หลวงพ่อเที่ยงท่านไม่ยอมตอบ แล้วที่มันบอกจะเอาชีวิตคน 2 พันคนจะทำอย่างไร ? ท่านยิ้มแล้วตอบว่า อย่างที่บอกไปแล้วว่าคนดวงแข็งก็ไม่เป็นไร แต่ท่านก็หาทางแก้ไขเอาไว้แล้ว คือสร้างพระกริ่งรูปเหมือนหลวงพ่อขี่เสือรุ่นแรกเพื่อล้างอาถรรพ์ โดยให้ชื่อว่า "รุ่นสยบพบัคฆา" จำนวนจำกัด เมื่อหมดแล้วก็หมดเลยท่านจะไม่ส้รางอีก มีคำพูดว่า หลวงพ่อเที่ยงคือศูนย์รวมจิตใจของชาวบุรีรัมย์ !! ผู้เขียนก็เห็นด้วยเช่นกัน เพราะหลวงพ่อเที่ยง เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทเขากระโดง จ. บุรีรัมย์ รูปนี้เป็นพระสงฆ์ผู้มีวิชาความรู้สูงมาก เป็นผู้ที่เจนจบอาคมหลายแขนง ท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ มีความเมตตา ต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย เรื่องแคล้วคลาด ผองภัยให้พกหนัง คงกระพันป้องไว้ ภัยสัตว์ร้าย ปัดลมเพลมพัด ที่ซัดกาย อีกเด่นหมายถูกโฉลก เสี่ยงโชคดี แขวนหรือคาดปราศปัด อุบัติเหตุ อีกอาเภทลี้ลับ ขับไล่ผี มีหนังเสืออาคม ไว้ข่มดี คุณมากมี ควรหามาครองเอย..................

    ****แบ่งให้บูชา 450บาท****
    DSC_0009 (2).JPG DSC_0010 (1).JPG images.jpg k8.jpg mo.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2023
  11. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    10496.พระเนื้อดินพิมพ์วัดตะไกร พิธีมงคลมหาลาภ วัดสารนาถ ระยอง
    คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ปี๒๔๙๙ สภาพสวย
    พระมงคลมหาลาภ 2499 คุณแม่บุญเรือน พิมพ์พระพนัสบดียืน เนื้อดินเผาผสมผงพุทธคุณ พระรุ่นนี้เป็นพระที่หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าปลุกเสก ปี ๒๔๖๐-๒๔๖๒ และได้เปิดกรุพระพนัสบดี สมัยทวารวดี เพื่อเป็นที่ระลึกฉลองสมโภชพระพุทโธชินราชจอมมุนี พระประธานวัดสารนาถฯ จ.ระยอง ปี ๒๔๙๙ ที่คุณแม่บุญเรือนเป็นประธานสร้าง โดยคุณแม่บุญเรือนได้อธิษฐานจิตและพระสายล.ป.มั่นกว่าร้อยรูปร่วมปลุกเสก มีคุณค่าน่าสะสมและบูชาเป็นอย่างยิ่งครับ
    ขออ้างอิงข้อความจากหนังสืออนุสรณ์พระมงคลมหาลาภ วัดสารนาท จ.ระยอง ดังนี้

    *** พระมงคลมหาลาภ พ.ศ.2499 ของวัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานครเป็นพระสมเด็จแบบสมเด็จพระพุฒาจารย์ พระพุทโธเล็ก พระวัดตะไกร และพระแบบวัดนางพระยา ฯลฯ (และแบบอื่นๆอีกมาก)พระเครื่องเหล่านี้สร้างเป็นที่ระลึกในงานสมโภชพระพุทโธชินราชจอมมุนี ซึ่งสร้างที่ วัดสัมพันธวงศ์ พระนคร แล้วอัญเชิญไปประดิษฐานเป็นพระประธาน ณ วัดสารนาถธรรมราม อ.แกลง จ.ระยอง พร้อมด้วยพระอัครสาวกซ้ายขวา เมื่อวันที่ 5-31 มีนาคม 2499 ***
    พระ รุ่นนี้ ปลุกเสกโดยคุณแม่บุญเรือน วัดอาวุธ และ คณาจารย์หลายท่านเช่น
    หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
    หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล
    หลวงปู่ดุลย์ อตุโล วัดบูรพาราม
    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ
    หลวง พ่อเงินวัดดอนยายหอม เป็นต้น

    ****ทั้ง นี้ ได้รับการปลุกเสก ซ้ำที่วัดสารนาถธรรมาราม จ.ระยองอีกครั้ง
    โดยนิมนต์พระสายระยอง และสายกรรมฐานเช่น
    หลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง
    หลวง ปู่ทิม วัดละหารไร่
    หลวงพ่อลี วัดป่าคลองกุ้ง
    อาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม
    โดย ทั้งหมดเพื่อจัดสร้างและสมโภชน์พระพุทโธภาสชิน ราชจอมมุนี ในขณะที่แม่ชีบุญเรือน เป็นประธาน
    จัด สร้างและคุมงานเอง

    ***แบ่งให้บูชา 450 บาท****(ที่วัดสารนาถ จ.ระยอง ให้บูชา 3000 บาท)
    images (1).jpg
    DSC_0923.JPG DSC_0925.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2023
  12. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    10497.พระขุนแผน หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จังหวัดอยุธยา
    รุ่นครบ 8 รอบ ปี ๒๕๕๒ ตอกโค๊ต นะ ด้านหน้า
    สวยงามน่าสะสมครับ
    เป็นวัตถุมงคลรุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ทิม วัดพระขาว อยุธยา เป็นรุ่นนิยมครับ
    มีในรายการประกวด ตอกโค้ดนะกำกับด้านหน้า เมตตาค้าขายดีครับ

    ***แบ่งให้บูชา 300 บาท***

    วัตถุมงคลของหลวงพ่อมีประสบการณ์ในทุกด้านบูชาติดตัวสบายใจหายห่วง ลูกศิษย์ลูกหาท่านล้วนทราบกันดีครับ

    นับตั้งแต่หลวงปู่ทิม วัดพระขาว มรณภาพ วัตถุมงคลแทบทุกรุ่น ราคาเช่าหาแพงขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว และเมื่อมีข่าวล่าสุด ที่ว่าสรีระของหลวงปู่ไม่เน่าเปื่อยเช่นนี้ ยิ่งทำให้วัตถุมงคลของหลวงปู่มีราคาแพงขึ้นไปอีก หลวงปู่ท่านแนะนำพวกเราว่า "การใช้วัตถุมงคลให้ได้ผล” สิ่งสำคัญคือต้องมีความเชื่อ ความศรัทธา ความเคารพบูชาเสียก่อน

    (หลวงปู่ทิม)

    “สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาจาก พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ อันเป็นคาถาของพระพุทธเจ้าทั้งนั้น อาตมาไม่มีเทพ ไม่มีพระอินทร์ มีแต่พระพุทธเจ้า..”

    ถึงแม้วัตถุมงคลของหลวงปู่ทิมจะเกิดอภินิหาร ช่วยคนรอดตายหรือประสบความสำเร็จบ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งที่พวกเรามีโอกาสได้กราบนมัสการหลวงปู่ ท่านมักจะบอกพวกเราเสมอว่า..


    “การจะใช้ให้ได้ผล ต้องอยู่ที่การอธิษฐานจิต แต่วัตถุมงคลทุกอย่างไม่สามารถ”หยุดการตาย” หรือ “คุ้มครองไม่ให้ตายไม่ได้” ต่อให้มีพระดีขนาดไหนก็ไม่สามารถหยุดเรื่องเหล่านี้ได้เลย...

    ประโยชน์ของวัตถุมงคล ใช้ในทางแคล้วคลาด หากเรายังไม่ถึงคราวตาย คนเราเมื่อถึงคราวก็ต้องตายทุกคน แม้แต่พระพุทธเจ้าของเราท่านยังถึงพระนิพพานเหมือนกัน...”

    ฟังแล้วต้องฉุกคิดครับ “วัตถุมงคล” ต่อให้ดีเลิศประเสริฐศรีขนาดไหน ก็ยังไม่แน่นอนเท่ากับ “การทำความดี”

    “การทำความดีนั่นแหละดีที่สุด อย่าไปสร้างเวรกรรมเป็นอันใช้ได้ ต้องนำธรรมะมายึดเหนี่ยวจิตใจ ทำให้จิตใจมั่นคง”

    “กรรมดี ก็ต้องเป็นกรรมดี กรรมชั่วก็ต้องเป็นกรรมชั่ว และการทำกรรมดี ไม่ใช่เป็นการเอากรรมดี ไปล้างกรรมชั่ว..”

    ดาวน์โหลด.jpg
    DSC_0956.JPG DSC_0958.JPG DSC_0960.JPG

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2023
  13. pnt014

    pnt014 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +310
    จองครับ
     
  14. pnt014

    pnt014 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +310
    จองครับ
     
  15. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รับทราบครับ
     
  16. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    :):)***สรุปรายการจองวัตถุมงคล2/5/2566***:):):):)

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ***คุณสมาชิก..ไลน์มาจองจองครับ****
    6217.สมเด็จแหวกม่าน ผสมมวลสารและเกศาหลวงพ่อสงวน สร้างโดยอาจารย์ชัย วัดไผ่พันมือ หลังปั้มสีแดงชื่อวัดไผ่พันมือ สภาพสวย ***แบ่งให้บูชา 450 บาท****
    6123.พระปิดตาแร่บางบางไผ่หลวงปู่จันวัดโมลี จ.นนทบุรี แบบกดพิมพ์ย้อนยุคพ.ศ.2545 พร้อมกล่องเดิม..หลังจากหลวงปู่จัน ท่านได้สร้างพระปิดตาแร่บางไผ่รุ่นแรกไว้แล้ว ทางวัดโมลีก็ไม่เคยสร้างพระปิดตาแร่บางไผ่ออกมาอีกเลย ***แบ่งให้บูชา 450 บาท***
    6141. ขุนแผนมะดอล่อเป๋อ รุ่นแรก (ปีพ.ศ. 2543) ปู่หมอนาค เพชรแสงแก้ว พิเศษ !!!!! เนื้อแก่ว่าน เข้มๆ แรงๆ สุดยอดของตับล่าง คัดสวยๆ เก็บเก่าครับ ***แบ่งให้บูชา1250บาท**
    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ***คุณสักการะจองครับ****โอนแล้วครับ

    10220.เหรียญพระแก้วมรกต เนื้อทองแดง สร้างเนื่องในพิธีเปิดสำนักงานใหญ่ ธนาคารกรุงไทย วันที่ 26พฤศจิกายน 2525 พระดี พิธีใหญ่ หลักฐานชัดเจน ปลุกเสกโดยพระเกจิดังในยุคนั้นมากมาย หนึ่งในนั้นมี หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ร่วมปลุกเสก เริ่มหายากแล้วครับ ****แบ่งให้บูชา 200 บาท***
    10236.พระสมเด็จองค์ปฐมหลังหลวงพ่อฤาษีลิงดำ สร้างหลังหลวงพ่อมรณะภาพฤาษีลิงดำแล้วมวลสารดีพุทธคุณสุดยอด ประวัติจัดสร้างชัดเจน แต่มวลสารหลักก็เป็นพวกผงดินสอพองหลวงพ่อปลุกเสก 1 ไตรมาสปี 2518 พร้อมพระทุ่งเศรษฐี และผงคำข้าว และน้ำมันชาตรี มีผสมเกศาหลวงพ่อเอาไว้ด้วย ***แบ่งให้บูชา 150 บาท***
    10247.พระผงนกสาริกาคู่ เนื้อผง สีเขียวเหนียวทรัพย์ ปัดหน้ากากทอง พระอาจารย์สุริยัณ วัดป่าฉัพพรรณรังสี จ.ชัยภูมิ (หลังจารเขียนยันต์ด้วยมือ) สภาพสวย ****แบ่งให้บูชา 250 บาท****พิเศษเหลือ150บาท
    10262.เหรียญเสมาพระพุทธชินราช หน้าชินราช-หลังพระนเรศวร เนื้อตะกั่ว ปี2554 วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก ****แบ่งให้บูชา 250 บาท****พิเศษเหลือ100บาท
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    10387.พระผงหลวงปู่เหรียญ วัดอรัญบรรพต ปี 2539 รุ่นศรัทธาบารมี เนื้อมหาว่านเกษรอังคารธาตุพระสุปฎิปัณโณสายอีสาน สภาพสวบ กล่องเดิมๆๆๆ ****แบ่งให้บูชา 200 บาท**** (จองเพิ่มเติม)
    10396.สมเด็จข้างยันต์นะ ตะกรุดทองคำ หลังยันต์เกราะเพชร หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง อยุธยา ปี2533 สภาพสวย ****แบ่งให้บูชา 200 บาท****(จองเพิ่มเติม)
    10398.พระผงมวลสารจิตรลดา พิมพ์พิเศษ-พิมพ์กรรมการ ในหลวงครองราชย์ครบ 50 พรรษา ปี 2539 พิธีมหาพุทธาภิเษก เสาร์ 5 วัดบวรนิเวศวิหาร ****แบ่งให้บูชา 150 บาท****(จองเพิ่มเติม)
    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ***คุณpnt014จองครับ****
    10477.พระปิดตาเนื้อขาว กรุวัดคลองขอม จ.สุพรรณบุรี หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ปลุกเสก จัดสร้างราวปี ๒๔๕๖-๒๔๖๐ เลี่ยมพร้อมใช้ ****แบ่งให้บูชา 500 บาท****
    10496.พระเนื้อดินพิมพ์วัดตะไกร พิธีมงคลมหาลาภ วัดสารนาถ ระยอง คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ปี๒๔๙๙ สภาพสวย [B]****แบ่งให้บูชา 450 บาท****[/B]
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ***คุณPitiYayaจองครับ****
    10448.พระปิดตากรมหลวงชุมพร วัดเขตอุดมศักดิ์วนาราม จ.ชุมพร รุ่น มั่งมีศรีสุข ปี2561 กล่องเดิมๆๆ ปลุกเสก2วาระ ****แบ่งให้บูชา 100 บาท***

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ***คุณsunmkจองครับ****
    10306.พระสมเด็จรุ่นแรก หลวงพ่อองค์ตื้อ วัดศรีชมพูองค์ตื้อ จ.หนองคาย ปี ๒๕๓๕ สภาพสวย เนื้อจัด มวลสารเพียบ ****แบ่งให้บูชา 650 บาท****
    10307.พระสมเด็จพิมพ์รัศมีกรุวัดคลองขอม ล.ป.ศุข วัดปากคลอง มะขามเฒ่า ปลุกเสก ปี 2460 นานมาก แล้วที่ไม่ได้เจอ ตัวจริง องค์นี้พิเศษมีคราบกรุสวยคลาสสิค ****แบ่งให้บูชา 1500 บาท****
    10480.หลวงปู่ทวดเนื้อดินเผา (ผสมผงว่านหลวงปู่ทวด ปี2497) พระครูใบฎีกาขาว รกุขิตธมุโม วัดช้างให้ ปี 2513 เจ้าอาจารย์ถัดจากอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๒ - พ.ศ.๒๕๒๑(ท่านเป็นน้องแท้ของอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ) พระสวยครับ ****แบ่งให้บูชา 250 บาท****
    10482.พระสมเด็จ พิมพ์พระประธาน กรุวัดสะตือพุทธไสยาสน์ พระนครศรีอยุธยา ****แบ่งให้บูชา 1000 บาท****
    10476.พระสมเด็จฐาน 3 ชั้น วัดประสาทบุญญาวาส กรุงเทพฯ ปี ๒๕๐๖ มวลสารผสมผงวัดระฆัง และสมเด็จบางขุนพรหม พระเกจิที่มาร่วมพิธีวัดประสาทฯ นั้นก็มีมากถึง ๒๐๐ กว่ารูป จนนั่งภายในพระอุโบสถไม่หมด ต้องให้นั่งข้างนอกพระอุโบสถแล้วโยงสายสิญจน์ออกมา พิธีในครั้งนั้นจัดว่าเป็นพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลที่ยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ที่สุดนับแต่พิธีปลุกเสกพระเครื่องฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ เป็นต้นมา ****แบ่งให้บูชา 350 บาท***
     
  17. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    10498.ลูกอมผงยา หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม
    เป็นพระเนื้อผงว่านยาจินดามณีออกเมื่อพ.ศ.2533
    ซึ่งนับวันยิ่งหายากเพราะลูกศิษย์หลวงพ่อเปิ่นตามเก็บเงียบ

    (แยกจากชุดกรรมการ)
    ****แบ่งให้บูชา 150 บาท****
    da070ec0.jpg DSC_0659.JPG DSC_0661.JPG
     
  18. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    10499.พระผงรูปเหมือน หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร วัดเวฬุวนาราม จ.นครปฐม ปี 2523
    เลี่ยมเดิมจากวัด

    ***แบ่งให้บูชา 350 บาท***
    ประวัติพอสังเขป
    ท่านเป็นพระโอรสของ เสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ กับ หม่อมทองนุ่น เกิดเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2460 ที่วังไชยา ก่อนที่หลวงพ่อสำเนียงจะถือกำเหนิดมาดูโลกนั้น นายเอม อยู่สถาพรเป็นพระสหายของเสด็จเตี่ย ได้เล่าให้หลวงพ่อฟังว่า
    ขณะที่หม่อมแม่ทรงพระครรภ์ได้ 2 เดือน เสด็จเตี่ยได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ไปรับเรือหลวงพระร่วงที่ต่างประเทศ จึงได้พาหม่อมแม่ไปฝากไว้กับ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท ซึ่งท่านเป็นพระอาจารย์ของเสด็จเตี่ย โดยให้นายเอม อยู่สถาพรซึ่งเป็นพระสหายเป็นผู้ดูแล
    ตัวหลวงพ่อสำเนียงจึงกลายเป็นลูก 3 พ่อ ซึ่งเสด็จเตี่ย คือ พ่อผู้ให้กำเหนิด นายเอม เป็น พ่อเลี้ยงดู พร้อมกับ หลวงปู่ศุข เป็นพ่อ ผู้ดูแลให้การศึกษาเล่าเรียน
    หลวงพ่อสำเนียงใช้นามสกุลของนายเอม คือ อยู่สถาพร (ในหนังสือไม่ได้ระบุสาเหตุ) หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร เมื่อเกิดมาแล้วก็ได้อยู่กับหลวงปู่ศุขจนเติบโต จึงได้มาศึกษาในกรุงเทพฯ ที่ร.ร.อัสสัมชัญ จนจบมัธยมปลาย จากนั้นไปศึกษาต่อที่ร.ร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้า จนจบจึงได้รับราชการทหารบก จวบได้รับยศร้อยเอก และเคยได้ร่วมสมรภูมิถึง 2 ครั้ง คือ สงครามอินโดจีน และสงครามมหาบูรพา พอกลับจากศึกสงคราม ก็ถูกมรสุมร้ายทางการเมืองกระทำเอาถูกจองจำพร้อมกับ จอมพล ป. พิบูลสงคราม - หลวงเสรี - หลวงวิจิตรวาทการ และคนอื่นๆ ในข้อหาอาชญากรสงคราม
    เมื่อได้รับการปลดปล่อยหลวงเสรีได้ไปบวชที่วัด เบญจมบพิตร ส่วนหลวงพ่อสำเนียงท่านไปบวชอยู่ที่ วัดกัลยาณมิตร ฝั่งธนบุรี ท่านตั้งใจบวชเพียง 15 วัน แต่พอบวชได้ 3 วัน ก็มีเหตุการณ์เมืองขึ้นมาอีก จึงทำให้ท่านเปลี่ยนความตั้งใจ เหตุการณ์บ้านเมืองกำลังยุ่งเหยิง จอมพล ป. พิบูลสงครามได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกวาระหนึ่ง แต่ต้องการให้หลวงพ่อสำเนียงกลับไปรับราชการอีก ทว่าท่านไม่ยอมสึก ทั้งได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่า จะขอยึดเอาผ้ากาสาวพัสตร์หุ้มห่อร่างกายจนกระทั่งตาย

    *หมายเหตุ;ท่านเป็นหนึ่งในเกจิอาจารย์ที่ปลุกเสกพระเครื่องในพิธี 25 พุทธศตวรรษ

    ดาวน์โหลด (1).jpg
    DSC_0582.JPG DSC_0584.JPG
     
  19. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    10500.พระผงของขวัญ วัดจันทรังษี หลวงพ่อโยก(พระประธานในโบสถ์)
    สร้างโดย หลวงพ่อแต้ม วัดจันทรังษี ต.หัวใผ่ อ.เมือง จ.อ่างทอง ปี 2514
    ปลุกเสกพิธีใหญ่ วัดปากน้ำ สร้างเนื้อเดียวกันพร้อม รุ่น 4 วัดปากน้ำ
    โดยมีหลวงปู่โต๊ะ วัดประดูฉิมพลีเป็นประธานปลุกเสก

    ****แบ่งให้บูชา 400 บาท****

    พระดีพิธีใหญ่ พ.ศ ลึก น่าเก็บมากมาย สร้างปี 2514 พร้อมรุ่น 4 วัดปากน้ำ เนื้อเดียวกัน ปลุกเสกพิธีใหญ่วัดปากน้ำ โดยมีหลวงปู่โต๊ะ วัดประดูฉิมพลีเป็นประธานปลุกเสก (ส่วนหลวงพ่อโยกก่อนนำกลับมาอ่างทองแวะให้หลวงปู่เทียมวัดกษัตรา จ.อยุธยาปลุกเสกเดียวอีกหนึ่งครั้ง)และหลวงปู่เทียมวัดกษัตราเนี่ย เป็นพระสายเดียวกับหลวงปู่หน่ายวัดบ้านแจ้ง จ.อยุธยาที่ใครก็รู้จักกันทั้งประเทศ พิธีพุทธาภิเษก ปลุกเสกบรรจุวิชาธรรมกายวัดปากน้ำภาษีเจริญเพื่อเข้า อันเป็นระยะเวลาเดียวกัน และเป็นพิธีเดียวกันกับการปลุกเสกพระปากน้ำรุ่น ๔ นั่นเอง
    เมื่อได้รับการปลุกเสกพระเครื่องจนครบไตรมาส หรือ ๑ พรรษาแล้ว จึงมีการนำพระเครื่องส่วนใหญ่มาเข้าพิธีพุทธาภิเษกเพิ่มเติมอีก ที่วัดกษัตราธิราชเสร็จแล้วจึงนำมาที่วัดจันทรังษีเพื่อออกแจกจ่ายแก่ผู้สนใจต่อไป ส่วนพระเครื่องอีกส่วนหนึ่งที่เหลืออยู่ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญไม่ได้นำกลับมาด้วยนั้นได้นำเข้าพิธีปลุกเสกบรรจุวิชาธรรมกายอยู่ที่วัดปากน้ำ รวมระยะเวลานานถึง ๘ พรรษา ในด้านประสบการณ์ของพระวัดจันทรังษีก็คงจะมีมากมายไม่แพ้พระเครื่องจากสำนักวัดปากน้ำเช่นกัน

    พระผงวัดจันทรังษี สร้างขึ้นโดย หลวงพ่อแต้ม ปณฑฺโต วัดจันทรังษี จ.อ่างทอง ท่านเคยมาเล่าเรียนที่วัดปากน้ำภาษีเจริญและฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ดังนั้นเมื่อท่านกลับมาเป็นเจ้าอาวาสวัดจันทรังษีแล้วพบว่า วัดอยู่ในสภาพทรุดโทรมท่านจึงได้ดำริที่จะพัฒนาวัดให้อยู่ในสภาพที่ดีขึ้น ท่านจึงนำความดังกล่าวไปปรึกษาพระครูอุปถัมถ์ธรรมกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ อันเป็นลูกศิษย์ และเป็นคนตำบลหัวไผ่เฉกเช่นเดียวกับหลวงพ่อแต้ม โดยนำผงที่สร้างพระของขวัญในคราวแรกจำนวนหนึ่งและได้เสาะหาผงตามตำราลักษณะการสร้างพระผงวัดปากน้ำรวบรวมขึ้นไว้ และได้นำเส้นเกษาของหลวงพ่อปากน้ำมาผสม(โดยมีส่วนผสมของพระของขวัญวัดปากน้ำภาษีเจริญเป็นจำนวนมาก) เพื่อขอผงวิเศษกลับไปสร้างพระพิมพ์และขออนุญาตนำพระที่สร้างขึ้นดังกล่าวมาเข้าพิธีปลุกเสกพระผงของขวัญวัดปากน้ำรุ่นสี่ด้วย สำหรับพิมพ์พระนั้นคุณสมพร สินธุวิชัยเป็นผู้แกะพิมพ์พระถวาย โดยการพิมพ์พระนั้นได้ทำการพิธีผสมผงกดพิมพ์และปลุกเสกโดยพระอาจารย์เถรานุเถรสายธรรมกายในคณะเนกขัมและในโบสถ์วัดปากน้ำภาษีเจริญ

    Phramongkoltepmuni.jpg
    DSC_0181.JPG DSC_0183.JPG DSC_0184.JPG
     
  20. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    10501.พระปิดตารุ่นแรก หลวงปู่เกลี้ยง วัดเนินสุทธาวาส ชลบุรี รุ่นแรก ปี 2497
    พระปิดตารุ่นนี้น่าเก็บมากๆเพราะมีผงเก่าคณาจารย์ดัง 5 รูป
    ที่สร้างพระปิดตาอันเป็นตำนานแห่งเมืองชลบุรี ผสมอยู่มาก

    ได้แก่ ลพ.แก้ว วัดเครือวัลย์ , ลพ.ครีพ วัดสมถะ , ลพ.โต วัดเนินสุทธาวาส , หลวงพ่อเจียม วัดกำแพง , ลป.ภู่ วัดนอก , สุดยอดพระปิดตา ตะวันออกในยุคปัจจุบัน พระแท้สบายตา
    ****แบ่งให้บุชา 800 บาท****
    หลวงพ่อเกลี้ยง เจ้าอาวาสวัดเนินสุทธาวาสองค์ปัจจุบัน ท่านเป็นหลานแท้ ๆ ของหลวงพ่อโต วัดเนินสุทธาวาส ปิดตารุ่นแรกของท่านจัดเป็นพระปิดตาที่มีมวลสารดีมาก เพราะได้ผงเก่าจากหลวงพ่อโต ,ผงของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ที่หลวงพ่อโตรวบรวมไว้ รวมทั้งผงมหาสเน่ห์ หลวงปู่ภู วัดต้นส้น และยังมีผงของเกจิอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ ผงโมลี ของ อ.วิเชียร วัดเนินฯ เป็นต้น จึงเป็นของดีหายาก พบน้อย คนในพื้นที่ต่างหวงแหน
    4DQpjUtzLUwmJZY52pTjtRqKPwbB7aK9GjkWi2tuXpcs.jpg
    DSC_0453.JPG DSC_0455.JPG get_auc1_img.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...