แฉความลับ (ทหารปฏิรูปประเทศไทย)

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย เกตุวดี, 15 กุมภาพันธ์ 2014.

  1. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    วันที่ 20 ส.ค.57 กลุ่มติดอาวุธ IS โมโห สหรัฐทิ้งระเบิดใส่พวก สั่งฆ่าตัดหัวนักข่าวสหรัฐทันที

    กลุ่มติดอาวุธ IS ที่เคยหนุนหลังโดยอเมริกา ได้ฆ่าตัดหัว นายเจมส์ โฟลีย์ ผู้สื่อข่าวสหรัฐฯ ที่ถูกลักพาตัวไปเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน แก้แค้นที่อเมริกาโจมตีทางอากาศถล่มพวกเขาในอิรัก พร้อมยังจับนักข่าวอเมริกันไว้อีกคน และบอกว่าชะตากรรมของชายคนนี้ อยู่ที่การตัดสินใจของประธานาธิบดี โอบามา

    เจมส์ โฟลีย์ เป็นนักข่าวมีประสบการณ์ ตะลุยเข้าไปทำข่าวสงครามในลิเบีย ก่อนมุ่งหน้าสู่ซีเรีย หลังเกิดการพยายาม โค่นอำนาจการปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เพื่อทำข่าวให้แก่เว็บไซต์โกลบอลโพสต์ เอเอฟพี และสำนักข่าวอื่นๆ

    และกลุ่มติดอาวุธ IS ที่เคยหนุนหลังโดยอเมริกา ยังประกาศว่าจะโจมตีผลประโยชน์ และคนอเมริกาทุกแห่ง ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลกนี้ ทำให้อเมริกา ถึงกับหยอง สั่งเครื่องบินตนเองทุกชนิดอย่าบินเฉียดใกล้ซีเรีย

    ระฆังก่อการร้ายนอกซีเรีย เคาะแล้ว เหตุการณ์มันหมุนวนย้อนกลับไปในอดีตอีกครั้ง ไม่นานต่อจากนี้ จะได้เห็นข่าวช็อคตะลึงโลกคล้าย 9/11 ที่อเมริกาสร้างมันขึ้นมา แต่คราวนี้ไม่รู้จะเป็นรูปแบบใด เพื่อประโยชน์ลุยประเทศใดประเทศหนึ่ง..หวยน่าไปออกทางซีเรีย มากกว่าอิหร่าน

    เพราะขืนลุยอิหร่าน นั่นหมายความว่าช่องแคบเออร์มุซ จะถูกปิด จะไม่มีน้ำมันแม่แต่สักหยด ได้เล็ดลอดจากตะวันออกกลางไปทั่วโลก

    [​IMG]

    @ เสธ น้ำเงิน4


    ***ทหารปฏิรูปประเทศไทย***
     
  2. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    วันที่ 21 ส.ค.57 เผย..สนช.ลงมติเลือก บิ๊กตู่ เป็นนายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 29 ของไทย

    วันนี้เป็นวัน "ทหารเสือราชินี" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เดินทางพร้อม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. และคณะ ด้วยเฮลิคอปเตอร์ จากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ไปยัง กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ. ค่ายนวมินทราชินี) จ.ชลบุรี เพื่อเป็นประธานในงานวันคล้ายวันสถาปนา กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ทหารเสือราชินี) ค่ายนวมินทราชินี ครบ 64 ปี มีประชาชนมารอต้อนรับจำนวนมาก

    และยังถือฤกษ์ดีเหมาะสำหรับ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โหวต เลือกนายกฯ ที่มาจากทหารเสือราชินี เพื่อให้ประเทศไทยยิ่งใหญ่เหมือนพยัคฆ์ ในวันนี้ที่รัฐสภาจึงมีการประชุม สนช. เพื่อเลือก นายกรัฐมนตรี โดยมีมาตรการรักษาความปลอดภัย วางกำลังทหาร 1 หมวดจำนวน 50 นาย สนธิกำลังกับตำรวจ จำนวน 1 กองร้อย 150 นาย เพื่อรักษาความปลอดภัยโดยรอบบริเวณรัฐสภา

    ขณะที่พื้นที่ภายในรัฐสภา มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำรัฐสภา ส่วนทาง กทม.ได้ร่วมโดยติดตั้งกล้องวงจรปิด โดยไม่มีกลุ่มใดออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน

    ต่อมาที่ประชุม สนช. มีมติเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 29 ของราชอาณาจักรไทย ด้วยคะแนนเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ (ประธาน และรองประธาน ฯ งดออกเสียงตามมารยาทและธรรมเนียม) และขั้นตอนต่อจากนี้ ประธานสภา สนช.จะได้นำรายชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ขืนทูลเกล้าทูลประหม่อม พระเจ้าอยู่หัวต่อไป ภายในวันนี้

    หลังจากที่ สนช. มีมติเลือก บิ๊กตู่ เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ บิ๊กตู่ ได้เดินออกมาจากห้องประชุม กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ มีสีหน้ายิ้มแย้ม สื่อมวลชน พยายามสอบถามเรื่องต่างๆ แต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ พูดสั้นๆ ว่ายังไม่ได้โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง

    ประวัติ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย, ผู้บัญชาการทหารบก

    1. ประวัติการศึกษา

    - เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2497 ที่จังหวัดนครราชสีมา มีชื่อเล่นว่า ตู่ นิยมเรียกว่า "บิ๊กตู่" เป็นบุตรชายคนโตจากพี่น้องทั้งหมดสี่คน และเป็นพี่ชายของ พลโท ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3

    - มีอุปนิสัยที่เงียบขรึม ด้วยความที่เป็นพี่ชายคนโตจึงต้องทำตัวเป็นพี่ที่ดี ในวัยเยาว์เขาเป็นคนเรียนเก่งมีความถนัดและความชอบในวิชาคณิตศาสตร์, ภาษาอังกฤษ และวิทยาศาสตร์ จากการสนับสนุนของบิดามารดา

    - สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 จากโรงเรียนสหะกิจวิทยา จังหวัดลพบุรี ต่อมาได้ศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย ในจังหวัดเดียวกัน แต่เรียนได้เพียงปีเดียวก็ลาออก เนื่องด้วยบิดาเป็นนายทหาร จำต้องโยกย้ายไปในหลายจังหวัด

    - จึงเข้าศึกษาที่โรงเรียนวัดนวลนรดิศ กรุงเทพมหานคร จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
    - จบโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 และ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 23

    2. ชีวิตครอบครัว

    - สมรสกับ ร.ศ.นราพร จันทร์โอชา อดีตอาจารย์ประจำสถาบันภาษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    - มีบุตรสาวฝาแฝดสองคนคือ น.ส.ธัญญา และ น.ส.นิฏฐา จันทร์โอชา

    3. ประวัติรับราชการ

    - เริ่มต้นรับราชการที่หน่วย "ทหารเสือราชินี" (กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ หรือ ร.21 รอ.) ตั้งแต่เป็นผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.21 พัน.2 รอ.)

    - เป็นเสนาธิการกรมฯ รองผู้บังคับกรม และขึ้นเป็นผู้บังคับการกรมฯ ตามลำดับ

    - ต่อมาย้ายมาเป็น รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ( พล.ร.2 รอ.) และเป็นผู้บัญชาการกองพลฯ ต่อจากนั้นได้รับตำแหน่งเป็น รองแม่ทัพภาคที่ 1

    - ในเหตุการณ์รัฐประหาร โดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้าคณะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในขณะนั้นมียศเป็น "พลตรี" ก็เป็นผู้หนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการยึดอำนาจ ด้วยรับคำสั่งตรงจาก พล.ท.อนุพงษ์ เผ่าจินดา แม่ทัพภาคที่ 1

    - หลังจากนั้นเมื่อ พล.ท.อนุพงษ์ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และเลื่อนชั้นยศเป็น "พลเอก" พลตรีประยุทธ์ ก็ได้เลื่อนชั้นยศขึ้นเป็น "พลโท" รับตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 และได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) อีกด้วย

    - พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายทหารที่มีความสนิทสนมกับ พล.อ.อนุพงษ์ เป็นอย่างมาก ด้วยความเป็นผู้ใต้บังคับบัญชามาตลอดในกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ โดยพลเอกประยุทธ์นับถือ พลเอก อนุพงษ์ เสมือนพี่ และอาจารย์คนหนึ่งของตน โดย พลเอกประยุทธ์ เป็นนายทหารที่มีบุคลิกที่อ่อนนุ่ม โดยมักติดคำว่า "นะจ๊ะ" ต่อท้ายการพูด จึงได้รับอีกชื่อหนึ่งจากสื่อมวลชนว่า "ตู่นะจ๊ะ"

    - พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับตำแหน่งเป็น รองหัวหน้า ผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ระหว่างวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551 ถึง 14 กันยายน พ.ศ. 2551

    - ได้รับแต่งตั้งเป็น หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ถึง 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553

    - วันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็น ผู้บัญชาการทหารบก

    - เป็นหนึ่งในคณะดำเนินคดีศาลยุติธรรมระหว่างประเทศระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา พ.ศ. 2554

    - ผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ผอ.รส.) ในการประกาศกฏอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

    - พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับหน้าที่ผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ผอ.รส.) อีกครั้งในการประกาศกฏอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

    - หลังจากการหารือของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความวุ่นวายทางการเมืองทั้ง 7 ฝ่าย ไม่เป็นผลสำเร็จ จึงทำการรัฐประหารในวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 และ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ในเวลาต่อมาจนถึงปัจจุบัน

    - พล.อ. ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้แต่งเพลง "คืนความสุขให้ประเทศไทย" เพื่อสื่อความหมายจากใจที่ต้องการคืนความสุขให้ประชาชน โดยมอบให้วิเชียร ตันติพิมลพันธุ์ นักแต่งเพลงประกอบละครชื่อดัง เป็นผู้เรียบเรียงเนื้อร้องประกอบทำนอง และขับร้องโดยกองดุริยางค์ทหารบก

    เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย

    - พ.ศ. 2553 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้น มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
    - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้น มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
    - พ.ศ. 2542 เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 3 ตติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ต.จ.ว.)
    - พ.ศ. 2533 เหรียญรามมาลาเข็มกล้ากลางสมร (ร.ม.ก.)
    - เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 2 ประเภทที่ 1
    - เหรียญราชการชายแดน
    - เหรียญจักรมาลา

    เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเครื่องอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ

    - Pingat Jasa Gemilang (Tentera) จากสาธารณรัฐสิงคโปร์
    - Bintang Kartika Eka Pakci Utama จากสาธารณรัฐอินโดนีเซีย
    - The Legion of Merit (Degree of Commander) จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา

    ชายผู้ไม่ค่อยยิ้ม เมื่อก่อนมีพุง หน้ากลม (เดี๋ยวนี้ยุบแล้ว) ใจดี แต่โหด..จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของราชอาณาจักรไทย ตามครรลองกฎหมาย ตามที่ เสธ เคยบอกไว้ล่วงหน้าเมื่อกว่า 4 เดือนที่แล้ว..ใครที่ตามเพจ แฉ ความลับ ตลอดมาก็จะรู้ว่าตรงเป๊ะ

    เป็นครรลองตามประชาธิปไตยแบบไทย อนุรักษ์นิยมแบบตะวันออก ที่จะนำธงชาติไทยให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร คู่กับสถาบันสถาบันพระมหากษัตริย์ตลอดไป


    [​IMG]

    @ เสธ น้ำเงิน2
    https://www.facebook.com/thailandcoup
     
  3. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    วันที่ 22 ส.ค.57 รัสเซีย เปิดเกมส์รุกเข้าดินแดนยูเครนอย่างเป็นทางการแล้ว

    หลังจากจอดรอที่พรมแดนมานานกว่าสัปดาห์ รถบรรทุก 10 คันแรก ในขบวนรถบรรทุกช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของรัสเซีย ก็ ได้เดินทางข้ามพรมแดน เข้าไปในภาคตะวันออกของยูเครนแล้ว และมุ่งหน้าสู่เมืองลูฮานสก์เรียบร้อยแล้ว
    การข้ามพรมแดนเข้าไปในยูเครนครั้งนี้ ยังไม่ได้รับอนุญาตจากทางรัฐบาลยูเครน โดยขบวนรถบรรเทาทุกข์นี้ ขนน้ำดื่ม,เครื่องปั่นไฟ และถุงนอน เพื่อลำเลียงไปส่งให้พลเรือนในเขตลูฮานสก์

    ซึ่งตรงจุดนี้มีนักรบของกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย ถูกกองทัพรัฐบาลยูเครนปิดล้อมอยู่ และยังมีการยิงปืนใหญ่ถล่มเมืองดังกล่าวมาหลายสัปดาห์แล้ว ด้านกาชาดสากลแถลงว่า ต้องการรับประกันความปลอดภัยจากทุกฝ่ายในการนำสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปช่วยประชาชน

    และยังไม่มีความชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่กาชาด เดินทางมาพร้อมกับขบวนรถที่มุ่งหน้าเข้ายูเครนด้วยหรือไม่ เพราะไม่เห็นเจ้าหน้าที่กาชาดแม้แต่คนเดียว

    อาการแบบนี้มันแหม่งๆ แล้ว เพราะยูเครน ก็ขู่ว่าจะโจมตีและไม่รับรองความปลอดภัยของขบวนรถนี้ หากยูเครนเกิดทำจริงๆ รัสเซียก็จะใช้เป็นข้ออ้างที่ดูสมเหตุสมผล ในการเริ่มก่อสงครามกับยูเครนทันที คล้ายก่อสงครามกับจอร์เจีย เมื่อปี 2008

    และเมื่อรัสเซียลงมือ ทางอเมริกา และ EU ที่จ้องอยู่ก็จะเข้ามาผสมโรงทันที นั่นคือจุดเริ่มต้นของสงครามใหญ่ระหว่างตะวันตก และตะวันออก

    ความเคลื่อนไหวนี้น่าจับตาอย่างยิ่ง ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับขบวนบรรเทาทุกข์รัสเซียชุดแรกนี้ เพราะตลอดแนวพรมแดนด้านติดยูเครน ตอนนี้รถถัง ปืนใหญ่ เครื่องบิน จรวด กำลังพลพร้อมเป๊ะแล้ว




    @ เสธ น้ำเงิน2

    ***ทหารปฏิรูปประเทศไทย***
     
  4. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    วันที่ 22 ส.ค.57 บิ๊กตู่ เตือนกลุ่มต่อต้าน และโจมตีให้ร้าย คสช.เจอแน่

    พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พูดในรายการ“คืนความสุขให้คนในชาติ”ทางทีวีพูล ขอร้องคนที่ไม่เข้าใจ ที่ยุยงปลุกปั่น ซึ่งเป็นคนกลุ่มเดิมๆ ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่ดี เป็นการขัดขวางการเดินหน้าของประเทศชาติ ทำให้การบริหารประเทศช้า ด้วยการอ้างการเลือกตั้งและประชาธิปไตย
    ทั้งๆ ที่ประชาธิปไตยที่ผ่านมายังไม่สมบูรณ์
    ขอร้องบรรดาผู้ที่ยังไม่ค่อยเข้าใจที่พยายามจะต่อว่า หรือต่อต้าน หรือกล่าวคำตำหนิติเตียน ทำใบปลิว บัตรสนเท่ห์ ใช้โซเชียล เน็ตเวิร์ค ให้ร้าย การกระทำอันเป็นเจตนาดีของ คสช.ไม่ทราบว่าจะทำไปเพื่ออะไร

    วันนี้ถือว่า มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจากในอดีต เห็นได้จากคนต่างชาติที่มาเที่ยวบอกว่า บ้านเมืองดีขึ้น สะอาดเรียบร้อย ไม่มีเหตุประท้วง มีความเชื่อมั่นมากขึ้น

    ท่านหัวหน้า คสช. พูดเป็นนัยยะแบบนี้ม็อบต่างๆ ที่กำลังปลุกกัน เช่น ม็อบสวนยางที่ใต้ ม็อบพลังงานที่อนุสาวรีย์ ฯลฯ ที่กำลังนัดรวมตัวกัน แนะนำให้ เลิกล้มไปได้เลย...ขอเตือนเสียก่อนดีๆ เจ้าหน้าที่เอาหนักไม่เว้นแน่ๆ ไฟเขียวซะวาบขนาดนี้

    และเรื่องพลังงาน และ ยางพารา บิ๊กตู่ก็พูดไปแล้ว ว่าจะแก้ปัญหา และมีแนวทางอย่างไร ไม่มีใครพูดอะไรซ้ำๆ บ่อยๆ อีกแล้ว เพราะท่านอธิบายชัดแล้ว ใครก่อม็อบช่วงนี้ ก็เตรียมใจรับผลที่จะตามมากับตนเองและครอบครัวเอาเอง..จบแล้ว !!

    เห็นชื่อมือปราบม็อบที่เตรียมไว้แล้วจะสะอึก พวกเขาเกิดมาเพื่อการนี้จริงๆ


    [​IMG]


    @ เสธ น้ำเงิน2
    https://www.facebook.com/thailandcoup
     
  5. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    วันที่ 22 ส.ค.57 เผย..คำมั่นลูกผู้ชาย บิ๊กตู่ ชูกำปั้น “ ผมทำตามสัญญาทุกอย่าง"

    รายการคืนความสุขให้คนในชาติศุกร์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าที่นายกรัฐมนตรี พูดทางทีวีพูล โดยสรุปสาระสำคัญว่า โดยขอความร่วมมือกลุ่มผู้ต่อต้าน ที่เรียกตัวเองว่า “ประชาธิปไตย” โดยเรียกร้องให้มีการคืนอำนาจ และการเลือกตั้ง โดยมีการใช้คำตำหนิติเตียน ทำใบปลิว บัตรสนเท่ห์ โซเซียลเน็ตเวิร์ค ให้ร้ายการกระทำของ คสช.

    รวมทั้งยังคงมีการซุ่มซ่อน หลบเลี่ยง ดำเนินการในลักษณะที่มีการปกปิดซ่อนเร้นอยู่ตลอดมา และผมทราบมีการประชุมลับกันอยู่หลาย ๆ ที่ด้วยกัน โดยเป็นคนกลุ่มเดิม ๆ รู้ด้วยว่าพูดจากันว่าอะไรบ้าง

    ยืนยันว่า บ้านเมืองเกิดปัญหามากมายที่ในระยะเวลาที่ผ่านมา และ คสช.กำลังแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ อย่าพยายามทำให้คนไทยโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยเข้าใจผิด เราน่าจะมองว่า ถ้าเราปล่อยให้สิ่งเหล่านั้น ยังเดินหน้าต่อไปด้วยการ “ เป็นประชาธิปไตยแบบเดิม” ก็น่าจะทำให้ประเทศไทยเสียหายเป็นอย่างยิ่งในอนาคต ทำให้การพัฒนาประเทศช้าลงตามลำดับ

    ส่วนการปรองดอง และการปฏิรูป เพิ่งเริ่มต้น ในระยะที่ 2 อย่าเพิ่งตำหนิ ติเตียน เรื่องของตัวบุคคล โดยตอนนี้ ถ้าดูในโซเชียลมีเดีย ดูในสื่อ ก็แทบจะไม่มีคนดีเหลืออยู่แล้ว ในสายตาของสังคมวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้ จะให้โอกาสของคนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตามเข้ามาแก้ไขร่วมกัน โดยจะมีการควบคุมด้วยระบบธรรมาภิบาล

    ขณะที่ภาคเศรษฐกิจ มีทั้งวิกฤติ และโอกาส ทำอย่างไรจะให้วิกฤติเป็นโอกาสให้ได้ ทั้งภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และอื่น ๆ ต้องพัฒนาตนเองทั้งความรู้ความสามารถ ความซื่อสัตย์ ความเข้าใจซึ่งกันและกันรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

    โดยยึดเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นหลัก และจะมีการปรับปรุงเทคโนโลยีให้ทันสมัย โดยจะมีการสนับสนุนด้านเงินทุน ด้วยแบงค์รัฐ และกองทุนของรัฐ รวมทั้งบีโอไอ เพื่อให้เกษตรกรมีศักยภาพในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น พัฒนาความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลกให้มากขึ้น

    สำหรับด้านกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม ให้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาปฏิรูปแห่งชาติ หาวิธีทำกฎหมาย “ให้เป็นธรรมกับคนทุกคน “ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน ก่อนกลับเข้าสู่การเป็นประชาธิปไตยที่ยั่งยืน

    นอกจากนี้ คสช.ได้แก้ปัญหาด้านความมั่นคง ได้แก่ปัญหาที่ดินทำกิน ซึ่งได้มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคง คสช. ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และส่วนราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไปจัดตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินแบบบูรณาการ

    คือโฉนดที่ดินยังเป็นของรัฐ แต่ให้ประชาชนทำมาหากินร่วมกันได้ และมีการปลูกป่าไปด้วย และย้ำว่า ไม่อยากให้มีการบุกรุกป่าสมบูรณ์อีกเป็นอันขาด ส่วนป่าชุมชนอยากให้ปรับมาเป็นป่าเศรษฐกิจ ให้คนในพื้นที่มาดูแล ซึ่งจะต้องมีการดูแลข้อกฎหมายใหม่ เพื่อไม่ให้มีการบุกรุกป่ามากขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการหารือ สามารถแสดงความคิดเห็นต่อ คสช.ได้

    สำหรับความคืบหน้า การลงทะเบียนแรงงานต่างด้าว ขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว 8 แสนกว่าราย ทั่วประเทศ ปัจจุบันก็กำลังดำเนินการร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในการเตรียมการ พิสูจน์ยืนยันสัญชาติอีกครั้งหนึ่ง

    เพื่อจะจัดทำพาสปอร์ตให้ถูกต้อง เพื่อจะได้สามารถบริหารจัดการแรงงานได้ ป้องกันปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งในผู้ประกอบการต้องให้ร่วมมือ โดยการเปิดรับลงทะเบียนจะมีต่อไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค.57 หลังจากนั้นจะเป็นการพิสูจน์สัญชาติให้แล้วเสร็จภายใน 31 มี.ค.58

    เรื่องของการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดี และความร่วมมือในด้านต่าง ๆ การปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ ได้มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน และส่วนราชการต่าง ๆ ไปรวบรวมกฎหมายที่จะต้องปรับปรุงให้ทันสมัย และเพื่อให้เป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศ

    ปัญหาบางประการ คนไทยอาจจะไม่ค่อยทราบ หรือไม่ค่อยได้สนใจ แต่ส่งผลกระทบต่อประเทศชาติเป็นอย่างมาก เช่น ปัญหาการค้างาช้าง ซึ่งอาจจะมีงาช้างในประเทศจำนวนน้อย ส่วนใหญ่ จะเป็นงาช้างที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ลักลอบเข้ามา เป็นงาช้างแอฟริกาบ้าง หรือจากอื่น ๆ

    จะเห็นขนาดที่ยาวใหญ่ อันนี้คือปัญหาสำคัญ ที่จะส่งผลกระทบต่อ อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ ที่พวกเรารู้จักกันในชื่อ CITES ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย หรือที่เรียกกันว่า IUU Fishing

    ปัญหาการค้ามนุษย์ ที่มีการปรับลดระดับประเทศไทยจาก Tier 2 ลดมาเป็น 2.5 วันนี้กลับมาเป็น Tier 3 แล้ว เราต้องพยายาม จะทำอย่างไรให้ย้อนกลับขึ้นไปให้ได้ ตรงนี้จะเป็นภาระผูกพันที่เกิดจากกลไกในการแก้ปัญหาด้านต่าง ๆ ของประชาคมโลกทั้งสิ้น

    ทั้งนี้ในส่วนของการพัฒนาความร่วมมือ และความสัมพันธ์อันดีกับมิตรประเทศในอาเซียน ก็มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้มีการค้าขายกับมิตรประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการปรับปรุงชายแดนให้เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ

    สำหรับการตรวจสอบการระบายข้าว ตอนนี้มีความคืบหน้าไปมาก เป็นการตรวจสอบปริมาณ เป็นการตรวจสอบว่ามีจำนวนครบหรือไม่ ซึ่งจะมีการตรวจสอบของ ปปช.และคณะกรรมการอื่นๆ ต่อไป รวมถึงจะมีการตรวจสอบ DNA ว่าเป็นข้าวชนิดเดียวกันหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ เพื่อเตรียมการสู่การระบายข้าวต่อไป

    โดยยืนยันว่าผลการตรวจสอบข้าว ที่มีการเปิดเผยออกมาเป็นเพียงการตรวจสอบนับจำนวนข้าวเท่านั้น ยังมีการตรวจสอบในกระบวนการอื่นๆ ส่วนเรื่องเกี่ยวกับมาตรการรองรับผลิต ผลข้าวใหม่ มีแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรไปแล้ว คือดูแลปรับปรุงคุณภาพให้ได้คุณภาพที่ดีขึ้น มีพันธุ์ข้าวที่ดีปลูก และการสี การผลิตออกมาจะต้องไม่ปลอมปนกัน

    ไม่นำข้าวนอกประเทศมาปนในประเทศ จะได้เกิดการแข่งขันเสรี ซึ่งเป็นทางออกอย่างยั่งยืน แต่ต้องใช้เวลา ซึ่งต้องขอร้องว่าอย่ามาประท้วงร้องเรียนในเวลานี้

    ส่วนการแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ จะแก้ปัญหา 2 ส่วนคือ การเตรียมระบายยางในสต็อกจากโครงการรักษาเสถียรภาพราคายางพารา ซึ่งเป็นโครงการเก่า และยางใหม่ที่กำลังจะออกสู่ตลาด โดยจะเน้นการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ยางดิบให้ได้ โดยไปเชื่อมต่อกับ BOI เชื่อมต่อกับโรงงานต่าง ๆ ที่มีการผลิตยางไปทำถนน ไปทำถุงมือที่ใช้ปริมาณยางจำนวนมาก

    และจะมีการแก้กฎระเบียบเพื่อพัฒนายางพาราทั้งระบบ ทั้งมาตรการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ได้แก่ แนวทางจัดการสต็อกยาง มาตรการบริหารจัดการในช่วงฤดูกาลผลิต ได้แก่ แนวทางยกระดับราคาเพิ่มสภาพคล่องด้านการตลาด

    แนวทางเพิ่มมูลค่าและคุณภาพผลผลิต มาตรการพัฒนายางพาราเพื่อความยั่งยืน ได้แก่ การปรับโครงสร้างด้านการตลาด แนวทางในการหาตลาดส่งออกใหม่ รวมทั้งสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาง ควบคุมพื้นที่การปลูกยาง

    ทั้งนี้ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ทำการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อม เกี่ยวกับการจัดทำร่างยุทธศาสตร์สินค้าเกษตรเป็นรายพืชเศรษฐกิจ 4 สินค้า เป็น Road map คือ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และอ้อย ด้วย

    เรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการพลังงาน คสช. เห็นชอบให้เดินหน้าโครงการลงทุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง ทั้งนี้เพื่อรองรับความต้องการการใช้งานที่มากขึ้นจากภาคประชาชน ภาคครัวเรือน ภาคอุตสาหกรรม ที่เรามีการขยับขยายตัวมากขึ้นตามลำดับ

    เน้นความมั่นคงทางด้านพลังงานไฟฟ้าต่อไปในอนาคต รวมทั้งการแก้ปัญหาไฟไม่พอ ไฟดับในภาคใต้ด้วย ที่สำคัญจะมีการสนับสนุน โรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนต่างๆ ที่ผ่านมา บีโอไอได้อนุมัติการลงทุนโรงไฟฟ้าจากขยะ ซึ่งยังเป็นการแก้ปัญหาการกำจัดขยะอีกด้วย

    เรื่องโรงไฟฟ้า ต้องเดินไปตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2553-2573 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 ที่ให้ประเทศไทยได้มีปริมาณกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในอนาคต

    เรื่องอื่น ๆ ที่สำคัญ คือ เรื่องของการเดินสู่ประชาธิปไตย ในอนาคตของประเทศไทย คือการปฏิรูปและการปรองดอง ทุกคนก็เป็นห่วงถึงความต่อเนื่องในการทำงาน ในการปฏิรูปของ คสช. และรัฐบาลในวันนี้ อย่างน้อยท่ามกลางความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมา ก็ดีกว่าที่ไม่ได้ทำใช่หรือไม่

    ขอความร่วมมือเรื่องการปฏิรูป ที่ชี้แจงเหตุผลความจำเป็นไปแล้ว หากทุกคนเป็นคนไทย ไม่ว่าจะกลุ่มใด พวกใด “ ควรจะเข้ามาสมัคร” เข้ามาทำให้สำเร็จ เป็นรูปธรรมโดยเร็ว จะไม่ไปก้าวก่ายในขบวนการปฏิรูปทั้งสิ้น ถือว่าเป็นเรื่องของคนไทยทุกคนต้องช่วยกัน

    ยืนยันว่ามีเจตนาบริสุทธิ์ ที่จะทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมือง ดังนั้นไม่อยากให้พูดเรื่องรัฐประหารว่าดีหรือไม่ดีอย่างไรแล้ว เมื่อทำมาแล้วก็ต้องคอยช่วยเหลือให้เกิดสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้นให้ได้ ส่วนสภาปฏิรูปยืนยันว่า ไม่มีการเลือกไว้แล้ว แต่จะได้มาจากระบบคัดสรร

    และเมื่อได้ สปช.แล้ว ก็จะมีการกำหนดเรื่องใน 11 กลุ่มปัญหา แล้วแต่ละคณะจะไปศึกษารายละเอียดมานำเสนอในสภา เหมือนคณะกรรมาธิการของ สนช. หรือ ส.ส. เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจึงนำมาเสนอให้ สนช.ออกกฎหมาย

    กรณีอุ้มบุญ ได้มอบให้ สตช.แก้กฎหมายอุ้มบุญ ระหว่างนี้ให้ตรวจสอบให้เป็นไปตามข้อกฎหมายเดิมอยู่บางประการ โดยเน้นว่าระหว่างนี้ให้มีการผ่อนผัน ให้กับผู้หญิงที่อุ้มบุญหรือกำลังท้องอยู่ เพราะขณะนี้ผู้หญิงเหล่านี้ไม่กล้าไปพบแพทย์ ไม่กล้าไปโรงพยาบาล

    ส่วนคลินิกที่จ้างหรือทำให้ก็ถูกปิดไปแล้ว ซึ่งเป็นอันตรายต่อเด็ก จึงให้มีการผ่อนผันเป็นรายๆไป โดยให้กระทรวงสาธารณสุข เข้ามาช่วยดูแลในส่วนนี้ด้วย

    สำหรับการปฏิบัติงานของ คสช. ในช่วงของการมีนายกรัฐมนตรี มีรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีแล้ว จะบริหารราชการในระบบกฎหมาย และระเบียบปกติ แต่หากเรื่องใดเป็นเรื่องเร่งด่วน ที่ต้องการอำนาจพิเศษในการขับเคลื่อน หรือเรื่องเร่งด่วน ต้องใช้กฎหมายพิเศษให้เสนอ คสช.ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว หรือ จัดตั้งคณะกรรมการเข้าดำเนินการได้ในทันที

    เช่น การแก้ไขปัญหาคอรัปชั่น โดยทันที การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การแก้ไขปัญหาความยากจนระยะสั้น การแก้ไขปัญหายาเสพติด การแก้ไขปัญหาบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติ และการจัดระเบียบอื่น ๆ

    รวมทั้งปัญหาด้านการศึกษาหลายๆ เรื่องที่ต้องใช้อำนาจของ คสช.เพื่อให้การแก้ปัญหาทำได้สำเร็จโดยเร็ว และต้องมีการแก้ปัญหาการศึกษาในทุกระดับ รวมทั้งเชื่อมโยงกับปัญหาภาคแรงงานด้วย

    นอกจากนี้ในการแก้ปัญหาด้านการศึกษา จะต้องมีการใช้ระบบไอทีเพื่อการศึกษา โดยการเสริมอุปกรณ์จะต้องเน้นเรื่องความคุ้มค่า ให้มีการบูรณาการการศึกษาทางไกล ระบบ e-learning รวมทั้งได้มอบให้กระทรวงศึกษาธิการมีการจัดทำ Smart Classroom

    พิจารณาเรื่องเนื้อหา การเรียน การสื่อ การสอนเป็นลำดับแรก โดยแนะนำให้นำเนื้อหาหรือสื่อการสอนในโครงการศึกษาทางไกล ผ่านดาวเทียม ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่หัวหินมีอยู่แล้วนำมาประยุกต์

    ส่วนเรื่องการสาธารณสุข โดยเฉพาะเรื่องของกองทุน 30 บาท ให้มีการขึ้นบัญชีเสียสละ กล่าวคือให้คนรวย เสียสละสิทธิการรักษาพยาบาลรัฐ 30 บาทให้คนจน เพื่อให้เงินงบประมาณมีพอสำหรับดูแลสุขภาพให้ทั่วถึง เช่นเดียวกับกองทุนการศึกษา คนรวยที่บางทีเป็นลูกข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ก็ไม่ควรมาขอกู้ ควรให้คนจนกู้

    ส่วนเรื่องพลังงาน รัฐวิสาหกิจ กำลังมีการปรับปรุงหลายประการ หลายมิติที่เกี่ยวพันเรื่องโครงสร้างราคา โครงสร้างการผลิต การจัดหาแหล่งพลังงาน พลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน จะค่อยๆ แก้ไป “ อย่าใจร้อน..อย่าไปเชื่อข้อมูลตามที่เขียนกันตามเวปไซต์ ตามโซเซียลมีเดีย “ แต่ขอให้ฟังเหตุผลและขอให้เข้าใจกัน

    การดำเนินการด้านกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมของ คสช. พยายามปรับปรุงแก้ไขในเรื่องที่เร่งด่วนไปบ้างแล้ว เรื่องใหญ่ ๆ สำคัญ ๆ ที่มีผลผูกพันกับหลาย ๆ อย่าง ต้องไปแก้กันในสภาปฏิรูป หรือสภานิติบัญญัติ เพราะไม่ควรที่จะไปออกคำสั่ง หรือประกาศ คสช.ต่าง ๆ เพื่อที่จะไปหาวิถีทางจะกำจัดเรื่องนั้นเรื่องนี้ หรือกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดได้ 100% เป็นการชั่วคราวเท่านั้น

    การที่จะทำให้เกิดความยั่งยืนถาวร คงต้องไปแก้ในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และในคณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เพราะต้องการทำกฎหมายทุกอย่างให้เกิดความเป็นธรรมกับคนทุกหมู่เหล่า คนไทยทั้งประเทศ

    ที่ผ่านมานั้น จากระบบการเมือง การบริหารประเทศที่มีการทับซ้อน ก้าวก่ายกัน วันนี้ คสช. ต้องพยายามปรับแก้ปัญหาเก่าๆ เหล่านั้นด้วย สปช. และ สนช. ดีกว่าการให้ คสช. แก้ด้วยความรวดเร็ว โดยใช้กฎหมายพิเศษ เพราะวันหน้าเราต้องกลับเข้ามาสู่การเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มีการเลือกตั้งที่ทุกพวก ทุกฝ่ายพอใจ

    คิดว่าทุกคนคงไม่มีใครอยากทำไม่ดี อยู่ที่ใครจะเป็นผู้กำกับดูแล ใครจะควบคุมการใช้อำนาจให้ถูกต้องได้มากน้อยเพียงใด ทุกคนต้องมาช่วยกัน นั่นคือปัญหาสำคัญ เพื่อจะนำพาประเทศชาติไปข้างหน้า

    ฉะนั้นวันนี้อย่าเพิ่งมาติ ให้ร้ายกันตั้งแต่ยังไม่ได้ทำอะไร หรือทำไปบ้างแล้ว จะถูก จะผิด จะดี จะไม่ดี กฎหมายต้องตัดสินมา เมื่อจะแก้ไข เราก็ต้องเปลี่ยนแปลงวิธีคิด วิธีปฏิบัติ ให้เหมาะสม ไม่ได้หมายความว่า คสช.จะไปยกโทษให้ ยังไม่มี ทำไม่ได้หรอก คนผิดก็ต้องถูกลงโทษตามกฎหมายทุกคน

    กรณีความขัดแย้งของภาคประชาชน ขอความร่วมมือ จากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น อบต. (องค์การบริหารส่วนตำบล) อบจ. (องค์การบริหารส่วนจังหวัด) กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยดูแลอย่าให้ประชาชนมาประท้วงอีก

    ยืนยันว่าปรับย้ายในกองทัพ ตำรวจ ได้ทำตามระเบียบวินัยอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ตามกติกา มีคนวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดให้เสียหาย และพอไม่ตรง ก็ไม่เห็นเขาพูดอะไร ขอโทษ เรามีหลักการ จะถูกจะผิดจะดีไม่ดี เขาพิจารณากันหลายคน ไม่ใช่ใครจะไปชี้ตรงโน้น ตรงนี้ได้ มีระเบียบวินัย

    ท้ายที่สุด บิ๊กตู่ พูดว่า “ ขอบคุณนะครับ ก่อนจะถึงเวลานี้ผมเหนื่อยมาก พูดก็เหนื่อย ทำก็เหนื่อย ขอบคุณที่ทุกคนกรุณาฟังผม “ แต่จะเชื่อมั่นหรือไม่ ต้องคอยดูกันต่อไป แต่ขอ “ อย่ามาต่อต้านเรา อะไรทั้งสิ้น “ เราก็รู้ทั้งหมด แต่เรารู้ไม่ใช้ความรุนแรงอะไรกับท่าน

    ถ้าไปใช้กฎหมายมาก ๆ ก็น่าเบื่อ ท่านอาจจะไม่เบื่อแต่ผมเบื่อ เบื่อการใช้กฎหมายมาก ทำให้สังคมมีปัญหาหมด เป็นเรื่องของท่าน ต้องพิจาณา ใคร่ครวญในความเป็นจริง อย่ามองโลกด้านเดียว ฟังใครอย่างเดียว

    บางอย่างต้องใช้ทั้ง รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ ในการทำงาน ในการบริหารราชการ แต่ต้องใช้หลักธรรมาภิบาล ในการแก้ไขปัญหาเดินหน้าประเทศไทยต่อไป

    ** ดูคลิป VDO ย้อนหลังที่ [ame=http://www.youtube.com/watch?v=Ovv7_SehRrk]คืนความสุขให้คนในชาติ Fri ศุกร์ 22 สิงหาคม 2557 - YouTube[/ame]

    เมื่อคราววันที่ 18 ส.ค.57 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. หัวหน้า คสช. ได้แถลงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2558 จำนวน 2,575,000 ล้านบาท ต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และให้คนไทยได้ยินทั้งประเทศว่า ได้จัดทำงบประมาณ โดยยึดหลักสองประการคือ

    1. น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย มาเป็นแนวทางในการกำหนด กรอบวงเงินงบประมาณ ที่สมเหตุสมผล และมุ่งพัฒนาทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจสังคม และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยยึดคนเป็นศูนย์กลาง

    2. ยึดแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 เป็นทิศทาง ในการพัฒนาประเทศ ควบคู่กับนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ

    นี่จึงเป็นเสมือนประหนึ่งจารึกคำมั่นสัญญา ของผู้ชายคนนี้ไว้กับปวงชนชาวไทย เพื่อการสร้างชาติไทยให้บรรลุวัตถุประสงค์ ตามที่มุ่งหมาย

    และในวันที่ สนช.เห็นชอบ บิ๊กตู่ เป็นนายกรัฐมนตรีนี้ เป็นวัน "ทหารเสือราชินี" พอดี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เดินทางพร้อมคณะไปยัง จ.ชลบุรี เพื่อเป็นประธานในงานวันคล้ายวันสถาปนา กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ. , ทหารเสือราชินี) ค่ายนวมินทราชินี ครบ 64 ปี

    หลังจากที่ สนช. มีมติเลือก บิ๊กตู่ เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ บิ๊กตู่ ได้เดินออกมาจากห้องประชุม กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ มีสีหน้ายิ้มแย้ม ขากลับได้เดินขึ้น ฮอลิปคอปเตอร์ พร้อมหันมาโบกมือลา ยิ้ม และชูกำปั้น แม่บ้านคนหนึ่ง ตะโกนว่า "เป็นนายกฯ แล้ว อย่าลืมที่นี่นะคะ บิ๊กตู่ ตอบว่า “ ผมทำตามสัญญาทุกอย่าง"

    หลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 เป็นต้นมา คนไทยทุกคน เคยให้โอกาสนักแสวงโชคการเมืองมาทั้งชีวิตถึง 82 ปีแล้ว แต่ประชาชนถูกเอารัดเอาเปรียบตลอดมา หลังจาก บิ๊กตู่ ได้รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี คงราวในวันจันทร์ที่ 25 ส.ค.57 ช่วงเช้า ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทางทีวีพูล

    ก็จะเป็นวันเริ่มต้นวันแรกที่ บิ๊กตู่ จะทำงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 29 ของราชอาณาจักรไทย เพื่อเริ่มต้นแก้ไขปัญหานานับประการ ที่นักการเมืองเลือกตั้งทิ้งไว้ให้ เพื่อปลดแอกคนไทย ให้หลุดพ้นจากการกดขี่ เอารัดเอาเปรียบ โดยใช้รูปแบบการปกครอง ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ตามวิถีจารีตประเพณีวัฒนธรรมตะวันออก

    คนไทยควรลองให้โอกาส บิ๊กตู่ ได้ทำงานในตำแน่งนายกรัฐมนตรี “ ทำตามสัญญาทุกอย่าง" โดยน้อมนำ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาใช้สร้างชาติของพวกเราให้เจริญรุ่งเรือง วัฒนาถาวรขึ้น

    น้อมนำ พระบรมราโชวาท ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 6 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2512 ความว่า

    " ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากอยู่ที่การส่งเสริมให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้"

    @ เสธ น้ำเงิน3


    ***แฉความลับ***
     
  6. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    วันที่ 24 ส.ค.57 ตำรวจจับกุมตัวแกนนำม็อบ วีระ และพวก 7 คน ควบคุมตัวผิดกฎอัยการศึก

    ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อเวลา 15.00 น. มวลชนกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานไทย ได้นัดรวมตัวกันเกิน 5 คน ใกล้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กทม. เตรียมเดินขบวน และแจกใบปลิวระหว่างทาง ไปสวนจตุจักร โดยมี นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และ นางบุญยืน ศิริธรรม อดีต ส.ว. สมุทรสงคราม ได้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

    โดยมี พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ดูแลสถานการณ์ด้วยตัวเอง ท่ามกลางตำรวจประมาณ 10 นาย เตรียมความพร้อมบริเวณดังกล่าว ต่อมาตำรวจ และ ทหาร ได้เขาเจรจากับแกนนำ ขออย่าเดินขบวนเนื่องจากอยู่ในช่วงกฎอัยการศึก ไม่เช่นนั้นจะควบคุมตัว แต่ทั้งสองคนดื้อดึงยืนยัน จะเดินเท้าไปสวนจตุจักร โดยจะรวมกลุ่มกันเกิน 5 คน

    ต่อมาเวลา 16.10 น. มวลชนกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานไทย และแดงแฝงกายผสมเดินเข้าขบวน เริ่มเดินเท้าจากลานห้างวิคตอรี่ ฝั่งภัตตาคารพงหลี ขึ้นทางเดินลอยฟ้า (สกายวอล์ค) มุ่งหน้าไปทางสนามเป้า โดยได้แยกกันเป็นกลุ่ม พร้อมตะโกนโวยวายปลุกปั่นไปตลอดทาง

    แต่เมื่อเดินมาถึงปากซอยพหลโยธิน 2 หน้าอาคารกันยะกิจการ ได้มีตำรวจ ตรงเข้าหามวลชน ก่อนควบคุมตัวมวลชน 7 คน ขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขัง รวมทั้ง นายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น

    ผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมด จะถูกควบคุมตัวเป็นระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน ตามกฎอัยการศึก พร้อมดำเนินคดีในข้อหาชุมนุมเกิน 5 คน ทุกราย และศาลทหารอาจลงโทษโทษจำคุกอีกคนละหลายเดือน เทียบเตียงกรณีกลุ่มนกพิราบกระป๋อง ญาติก็ลองยื่นประกันตัวหลังพ้น 7 วันในชั้นศาล เพื่อให้ศาลเมตตา

    เป็นการเจตนายั่วยุ ท้าทาย บีบให้ใช้เจ้าหน้าที่ต้องใช้กำลังเข้าจับกุม เพราะรู้ทั้งรู้ว่าเดินขบวนแบบนี้ก็ต้องเกิน 5 คนอยู่แล้ว จากนี้ต่อไปอาจจะมีการตรวจสอบ และจับกุมผู้โพสยุยงทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คต่อไป ใครแชร์หรือกด Like แบนเนอร์ยุยงพวกนี้ ควรยกเลิกเสีย

    ตอนนี้ไม่ว่าจะเดินขบวนโดยอ้างเหตุผลหวังดี บริสุทธิ์ เพื่อชาติใดๆ ก็ไม่ได้ทั้งสิ้น เพราะกฎหมายไม่ได้ยกเว้นไว้ว่า คนดีเดินม็อบเกิน 5 คนแล้วไม่ผิด และไม่ต้องรับโทษ กฎหมายระบุแค่ถ้าชุมนุมเกิน 5 คน แล้วผิดกฎอัยการศึก ต้องรับโทษเท่าเทียมกันหมด ไม่ว่ายาก ดี มี จน ไม่เกี่ยวประวัติอะไรทั้งสิ้น

    เสธ เตือนด้วยความหวังดีล่วงหน้ามาหลายวันแล้ว ถ้าคนเข้าใจดี ก็จะไม่กล้าฝ่าฝืนกฎหมาย ถ้าวันนี้ทำกฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ จับอีกกลุ่ม แต่ละเว้นอีกกลุ่ม เราจะอธิบายสังคมได้อย่างไร เจ้าหน้าที่เขาต้องทำตามหน้าที่ เมื่อพบกระทำผิดซึ่งหน้าก็ต้องควบคุมตัว เขาก็ลำบากใจ

    เลิกเรียกร้องความสนใจด้วยวิธีนี้ เพื่อต่อรองเอาโควต้าตำแหน่ง สปช.ให้พรรคพวกเถอะ ทำไม่ได้หรอก ทหารคงไม่ยอมให้มีเอาเปรียบกันแบบนั้นได้ ถ้าดิสเครดิสกรรมการคัดเลือก และมาแบล็คเมล์กดดันกันแบบนี้ได้ แล้วยุคนี้จะต่างอะไรกับยุคนักการเมืองน้ำเน่าที่ผ่านมา

    อย่าเอาเปรียบผู้สมัคร สปช.คนอื่น แบบนั้นไม่ตรงไปตรงมา และไม่ดี ไปสมัคร สปช.สายปฏิรูปพลังงาน เหมือนกับประชาชนไทยอีก 3 พันคนตอนนี้ ยังเหลือเวลาอีกราว 9 วัน แล้วยอมถูกคัดเลือกตามระบบเถอะ กรรมการเขายุติธรรมพอ แบบนั้นถูกกฎหมาย และเกิดผลปฏิรูปพลังงานได้แน่ๆ อยู่แล้ว 100%

    กฎหมาย คือ หลักประกันความเท่าเทียมกันของทุกคน และความมั่นคงของคนในสังคมเสมอ อย่าทำตัวฝ่าฝืนกฎหมายกันอีกต่อไปเลย ให้ประเทศไทยได้พักผ่อนบ้าง ประเทศเราเหนื่อยมานานกว่า 10 ปีแล้ว ไม่ว่าเว้นม็อบเลย



    [​IMG]

    [​IMG]


    @ เสธ น้ำเงิน2

    ***ทหารปฏิรูปประเทศไทย***
     
  7. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    วันที่ 24 ส.ค.57 ชาวสวนยาง ได้ยุติการเคลื่อนไหวก่อม็อบแล้ว คสช.ตัดสินใจเทขายสต็อกยางเข้าสู่ตลาดรวดเดียว

    สต็อกยางพารา 2.1 แสนตันในไทย ปัญหาเกิดจาการแทรกแซงของรัฐบาลเผาไทยที่ผ่านมา เป็นปัญหาใหญ่ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องแก้ไขเป็นการเร่งด่วน โดยหากแบกสต็อกเอาไว้ จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา และหากเท สต็อกออกมารวดเดียวจะมีผลกดราคายางพาราในตลาดของเกษตรกร ที่ล่าสุดราคาอยู่ที่ 50 บาทต่อ กก.

    ช่วงเวลา 3 เดือน ที่ผ่านมา มันมีทั้งข้อดีข้อเสียต่อราคายางในตลาด แต่ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ก่อน ที่ผ่านมา คสช.ตัดสินใจแบบเฉียบขาด เทขายสต็อกยางเข้าสู่ตลาดรวดเดียวทันที ในการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มี บิ๊กตู่ เป็นประธาน

    ได้เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรฯ ขายยางในสต็อก 2.1 แสนตัน กับผู้ประกอบการ ซึ่งในต้นสัปดาห์นี้ กระทรวงเกษตรฯ จะลงนามกับผู้ประกอบการรายดังกล่าว เพื่อส่งมอบยางล็อตแรกปริมาณ 1 แสนตัน แยกเป็น ยางแท่ง 4 หมื่นตัน และ ยางแผ่นรมควัน 6 หมื่นตัน

    การขายยางในสต็อกดังกล่าว ถือว่ากระทรวงเกษตรฯ ดำเนินการในช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากยางของเกษตรกร ที่ออกสู่ตลาดในจังหวะนี้มีน้อย ส่งผลให้ผู้ประกอบการไม่สามารถหาซื้อยางจำนวนมากเพื่อส่งมอบได้

    ประกอบการการเก็บสต็อกยางไว้ จะส่งผลให้กระทรวงเกษตรฯ ต้องรับภาระค่าบริหารจัดการที่สูงมาก อีกทั้งยังจะส่งผลกระทบต่อราคายางที่จะออกสู่ตลาดมากขึ้นในช่วงปลายปี ดังนั้นการระบายยางในช่วงนี้ จึงเป็นการแก้ไขปัญหาราคายางได้ระดับหนึ่ง และคาดว่าระดับราคายางจะปรับตัวเข้าสู่ปกติในระยะต่อไป

    ส่วนความเคลื่อนไหวของสหกรณ์ชาวสวนยางทั่วประเทศ ที่จะออกมาเรียกร้อง และยื่นหนังสือให้ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้เข้ามาช่วยเหลือปัญหาราคายางตกต่ำนั้น

    ล่าสุด ทางกลุ่มสหกรณ์ชาวสวนยาง และภาคี ได้ยุติการเคลื่อนไหวก่อม็อบแล้ว เพราะขัดกฎอัยการศึก พร้อมกับได้มีการหารือกัน เพื่อหามาตรการแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำออกมาใหม่

    ชาวสวนยาง ทำถูกแล้ว อย่าเพิ่งก่อม็อบเลย ไม่มีประโยชน์ใดๆ หันหน้ามาปรึกษาหารือกับภาครัฐดีกว่า มาช่วยกันคิด เพราะมันเป็นปัญหาเก่าที่รัฐบาลเผาไทย ทิ้งขยะใต้พรมเข้าไว้ แต่การแก้ปัญหาค้างเก่านั้น ก็ไม่เกินความสามารถสติปัญญาของคนไทยหรอก

    ประชุมระดมความคิดกัน แล้วทำเป็นข้อสรุปจากเกษตรกรชาวสวนยางพารา แล้วทำเป็นข้อเสนอส่งให้ศูนย์ดำรงธรรมประจำจังหวัด ไม่ต้องเดินทางเข้า กทม.ให้เสียค่ารถ ค่าพาหนะ เรื่องถึง คสช.อย่างรวดเร็วแน่นอน

    จากนั้นก็อาจต้องเปิดเวทีเล็ก ปรึกษาหารือเชิงลึก คุยกันแบบพี่น้อง หาทางแก้ปัญหาเก่าด้วยกัน..แล้วรัฐบาลจะได้นำข้อสรุปนั้นมาใช้อำนาจรัฐดำเนินการ ไม่ต้องมีการเมืองหรือสีใดๆ ต่อกัน มีแต่เกษตรกรกับทหารเท่านั้น...มันต้องมีวิธีแก้สิ ให้กำลังใจชาวสวนยางนะ


    @ เสธ น้ำเงิน2

    ***ทหารปฏิรูปประเทศไทย***
     
  8. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    วันที่ 25 ส.ค.57 พล.อ.ประยุทธ์ รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมให้คำมั่นว่า “ จะมุ่งมั่น ทุ่มเทอย่างเต็มที่ “

    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่าโดยที่ได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ได้บัญญัติให้พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งตามมติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

    และประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้นําความกราบบังคมทูลพระกรุณาว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ลงมติเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2557 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

    จึงทรงพระราชดําริว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ที่สมควรไว้วางพระราชหฤทัยให้ดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรี

    อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 19 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)พุทธศักราช 2557 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรี บริหารราชการแผ่นดินตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

    ประกาศ ณ วันที่ 24 สิงหาคม พุทธศักราช 2557 เป็นปีที่ 69 ในรัชกาลปัจจุบัน
    ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
    พรเพชร วิชิตชลชัย
    ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

    แต่เช้าเวลา 08.18 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางเข้ามายังกองบัญชาการกองทัพบก พร้อมเข้าสักการะพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 หน้าหอประชุมกิตติขจร ณ กองบัญชาการกองทัพบก

    เวลา 10.45 น. พิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เริ่มโดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อัญเชิญพระบรมราชโองการฯ วางบนแท่น จากนั้นนางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการรัฐสภา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อ่านพระบรมราชโองการฯ

    เวลา 10.47 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เปิดกรวยและถวายบังคมต่อเบื้องพระบรมฉายาลักษณ์ รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยมี รศ.นราพร จันทร์โอชา ภริยา และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ผบ.สส. ปลัดกลาโหม ผบ.เหล่าทัพ และบรรดาข้าราชการระดับปลัดกระทรวง

    พล.อ.ประยุทธ์ ได้แสดงความเคารพสูงสุด รับสนองพระบรมราชการฯ ตามแบบฉบับทหาร ตามโบราณราชประเพณี ที่คนแทบไม่เคยเห็นมาก่อน และยืนยันว่า การตัดสินใจรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นั้นเพื่อแก้ปัญหาชาติ ขอให้มั่นใจว่า "ผมจะทำทุกอย่างเพื่อชาติ ราชบัลลังก์ และประชาชน"

    หลังจากรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ ห้อง 321 ภายในอาคารเดียวกัน ความว่า "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผมรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

    และนับเป็นเกียรติอันสูงสุดในชีวิตแก่ผม และวงศ์ตระกูล อย่างหาที่สุดมิได้ ผมตระหนักดีถึงภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ และสำคัญยิ่ง ว่าจากนี้ต่อไป ผมต้องรับผิดชอบในการนำพาประเทศชาติและประชาชนเพื่อก้าวเดินไปข้างหน้า ซึ่งได้มีการปฏิบัติดังต่อไปนี้

    การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ได้แก่ การคัดเลือกรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการ รัฐมนตรีช่วยว่าการ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เพื่อบริหารราชการแผ่นดิน โดยเร็วที่สุด โดยจะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม ภายในเดือน กันยายน 2557

    การบริหารประเทศในทุกๆ ด้าน ในบทบาทของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนงานเร่งด่วนเฉพาะหน้า ที่ต้องการความรวดเร็วในการแก้ปัญหา โดยรัฐบาล และ คสช.ต้องมีการหารือในการปฏิบัติ ตลอดจนวิธีการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด

    รวมทั้งต้องระมัดระวังการก้าวล่วงซึ่งกันและกัน แต่ก็ต้องมีการตรวจสอบและถ่วงดุลกัน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ขอให้ทุกคนอย่าได้กังวลกับตัวบุคคลมากนัก วันนี้เราจะต้องสร้างระบบทุกระบบให้เข้มแข็ง เพื่อต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันให้ได้โดยเร็ว

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ส่วนราชการ ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น ต้องเข้มแข็ง พัฒนาปรับปรุงตนเองในทุกมิติ ทั้งนี้ เพื่อเตรียมการและรองรับการปฏิรูป ที่จะต้องทำให้ฝ่ายการเมืองมีระบบธรรมาภิบาลในการบริหารประเทศในระยะต่อไป และจะได้ร่วมกันนำพาประเทศชาติไปสู่อนาคต

    อย่างไรก็ตาม ประชาชนก็เช่นกัน เป็นส่วนสำคัญที่สุดที่จะทำให้การบริหารราชการแผ่นดินของพวกเราในขณะนี้ สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประเทศได้ ทั้งในงานด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมีปัญหาสำคัญอยู่หลายประการด้วยกัน ทั้งภาคเกษตรกร รัฐ ประชาชนโดยทั่วไป ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน

    บ้านเมืองเรามีปัญหาสะสมสำคัญๆ มากมายมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว ทั้งนี้ เพื่อรองรับการเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน และการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 นี้ด้วย

    ด้านความมั่นคง ยังมีปัญหาอยู่หลายประการ อาทิเช่น ปัญหาชายแดน ทั้งในเรื่องการปักปันเขตแดน การหลบหนีเข้าเมือง สินค้าหนีภาษี ปัญหาความมั่นคงภายใน ในเรื่องยาเสพติด อาชญากรรม อาวุธสงคราม การพนัน แรงงานต่างด้าว และอื่นๆ

    ด้านเศรษฐกิจ การเดินตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างเป็นรูปธรรม การส่งเสริมการลงทุนในภาคต่างๆ การลดความเหลื่อมล้ำ การสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร และประชาชนผู้มีรายได้น้อย โครงสร้างภาษี พลังงาน สาธารณูปโภคพื้นฐาน ปัญหาปากท้องประชาชนถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้ พวกเราทุกคนจะพยายามแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็ว แต่ทั้งนี้ก็ต้องไม่ทำให้เกิดปัญหาระยะยาวต่อไปในอนาคต

    ด้านสังคมและวัฒนธรรม ระบบการศึกษา การปลุกจิตสำนึก การปลูกฝังอุดมการณ์ การดำรงซึ่งวัฒนธรรมไทยอย่างยั่งยืน การรักษาทรัพยากรธรรมชาติ การป้องกันการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การปลูกฝังค่านิยมต่างๆ เหล่านั้น และอุดมการณ์ให้กับคนในชาตินั้น เป็นสิ่งที่จะทำให้การแก้ปัญหานั้นเกิดขึ้นอย่างยั่งยืน

    ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม การแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัย ไม่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศในปัจจุบัน ไม่สอดคล้องกับพันธสัญญาต่างๆ รวมทั้งกฎหมายที่ส่วนราชการต้องแก้ไข เพื่อความสะดวกและความถูกต้อง ซึ่งที่ผ่านมานั้นยังดำเนินการไม่เรียบร้อย

    สิ่งต่างๆ ที่เป็นปัญหาที่ผมกล่าวมาแล้วนั้น รัฐบาล คสช. และประชาชนทุกคน ต้องมาร่วมกันแก้ปัญหา เราไม่ปิดกั้นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หรือต้องการกำจัดฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทั้งสิ้น จะเห็นได้ว่าในสภาปฏิรูปฯ สมาชิกสภาปฏิรูปฯ ไม่ได้มีข้อกำหนด ข้อห้ามอะไรต่างๆ เหมือนกับสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

    ซึ่งจะต้องดำเนินการตามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมทุกประการ ที่ต้องยึดหลักการหลายอย่างในการจัดตั้งสภานิติบัญญัติฯ ในส่วนสภาปฏิรูปฯ เราต้องการให้ทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย เข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด ในการปฏิรูปทั้ง 11 ด้าน

    ทั้งกลุ่มการเมือง กลุ่มพลังประชาชน นักเศรษฐกิจ นักวิชาการ ข้าราชการ สื่อมวลชน ผู้แทนส่วนต่างๆ เราไม่ต้องการให้ส่วนหนึ่งส่วนใดตกขบวนประชาธิปไตย เพื่อสร้างอนาคตของชาติให้มั่นคงและยั่งยืน ไม่เกิดปัญหาต่อไปในอนาคต

    โอกาสนี้ ผมขอให้คำมั่นต่อพี่น้องประชาชนว่า “ จะมุ่งมั่น ทุ่มเทอย่างเต็มที่ “ ในการปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน นำความสุข ความร่มเย็น มาสู่พี่น้องประชาชน

    และทำให้ประเทศชาติมีความเป็นปึกแผ่นมั่นคง พร้อมไปกับการสร้างความรัก สามัคคี ในทุกกลุ่มทุกฝ่าย ผมขอขอบคุณสำหรับความร่วมมือที่ทุกคนในชาติจะมอบให้กับรัฐบาล และ คสช.ในการปฏิบัติงานในห้วงต่อไป

    นับแต่เวลานี้เป็นต้นไป คือ การเริ่มนับหนึ่งการทำงานใน ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อบริหารราชการแผ่นดินราชอาณาจักรไทย ขอประชาชนทุกคนรวมใจกันเป็นหนึ่ง ยุติความขัดแย้งทั้งหลาย นำพาชาติไทยของเราเดินหน้าต่อไปสู่อนาคตอย่างวัฒนาถาวร


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    @ เสธ น้ำเงิน3

    ***แฉความลับ***
     
  9. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    วันที่ 26 ส.ค.57 แฉ..เมื่อความจริงจะถูกเปิดเผย คนที่ร้อนรนพิรุธก่อน คือคนสร้างฉากนั่นเอง

    ตามที่มีกระแสปล่อยข่าวทางโซเชี่ยลมีเดียกรณีท่อก๊าซ จนสร้างความสับสนให้กับประชาชน และต่อมาทำให้สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีหนังสือถึงคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อถามว่าข้อเท็จจริง และข้อสรุปเป็นอย่างใดกันแน่

    บิ๊กตู่ นายกฯ หมาดๆ จึงได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงาน ประสานงานกับคณะกรรมการกฤษฎีกา ในการหารือร่วมกับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดย ปลัดกระทรวงพลังงาน ระบุว่า เตรียมประสานคณะกรรมการกฤษฎีกา หารือร่วมสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อหาข้อสรุปกรณี ปตท.คืนท่อก๊าซฯ ให้รัฐครบถ้วนหรือไม่ ตามอำนาจมหาชนก่อนแปรรูป

    คาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้ โดยขอให้กลุ่มต่อต้านทุกฝ่ายใจเย็นๆ เพราะแม้ว่ามีมติให้แยกท่อก๊าซฯ มาตั้งเป็นบริษัทลูก แต่ไม่ได้ดำเนินการในทันที เป็นเพียงการวางหลักการเท่านั้น ซึ่งตามแผน ปตท.ดำเนินการแยกท่อเสร็จประมาณกลางปี 2558

    นอกจากนี้ กระทรวงพลังงาน เตรียมจัดรับฟังความเห็นประกอบการพิจารณาแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ฉบับใหม่ โดยจะจัดในวันที่ 29 สิงหาคม 57 ที่กรุงเทพฯ และจะจัดทั่วประเทศ ภายใน 3 เดือนจากนี้ ส่วนความชัดเจนด้านการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ต้องรอรัฐบาลใหม่เข้ามาพิจารณา ก่อนประกาศปรับโครงสร้างราคาอย่างเป็นทางการต่อไป

    ** ดูเรื่องเดิมเรียบเรียงความเป็นมาเรื่องท่อก๊าซ ตั้งแต่แรกๆ ของการฟ้องร้อง จนศาลพิพากษา และมีมติ ครม. จนสิ้นกระบวนการทางกฎหมาย ครบถ้วน " รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม " เผื่อไปเจอใครเขาคุยกันที่ไหน จะได้ไปยืนฟังเขารู้เรื่อง

    ** ไปดูที่ ความจริงเรื่องการส่งคืนท่อก๊าซธรรมชาติของ ปตท. | ThaiPublica

    - วันที่ 22 ส.ค.57 หลวงปู่พุทธอิสระ วัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม ได้ส่งข้อความประชาสัมพันธ์ ว่า ขอเชิญแกนนำ, ตัวแทน และผู้ประสานงานเครือข่ายพลังงานต่างๆ เข้าร่วมประชุมเพื่อทำความเข้าใจ สรุปการตั้งกระทู้คำถามสดในทุกด้าน ที่เกี่ยวกับพลังงานทุกชนิด และรับทราบในกฏ กติกา มารยาท

    เพื่อฟังการเสวนาเรื่อง "การปฏิรูปพลังงานเพื่อความปรองดองของชาติ" โดย ปิยสวัสดิ์ และคณะ , ตัวแทน จาก ปตท. กระทรวงพลังงาน และบริษัทพลังงานต่างๆ ในวันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม 2557 เวลา 10.00 น. ณ วัดอ้อน้อย (ธรรมอิสระ) กำแพงแสน จ.นครปฐม

    - วันที่ 25 ส.ค.57 หลวงปู่พุทธอิสระ แสดงความคิดเห็นหัวข้อ “ หรือว่าวีรบุรุษจะหลงทาง” กรณีที่ นายวีระ และพวก ในนาม "กลุ่มจับตาปฎิรูปพลังงานไทย" ถูกตำรวจจับกุม ขณะเดินรณรงค์จากลานวิคตอรี่ พ้อยท์ อนุสาวรีย์ชัย ไปจตุจักร ที่บริเวณใต้ สถานีรถไฟฟ้าสนามเป้า ไปเมื่อวานนี้

    ** ดูภาพข่าวนี้ที่ https://www.facebook.com/thailandcoup/posts/342051095962071

    ระบุว่า ใจหายที่เห็นภาพคุณวีระ และพวกกลุ่มพลังงานถูกจับกุม ส่วนตัวเห็นว่า น่าจะมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ ดังนั้นในวันพุธที่ 27 ส.ค.57 ในเวลา 09.00 - 16.00 น. ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี กทม. มีนัดกันไปถกกับกลุ่มผลประโยชน์พลังงาน เช่น บริษัท ปตท. กลุ่มบริษัทที่ได้รับสัมปทานจากรัฐ ตัวแทนกระทรวงพลังงาน ตัวแทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ฯลฯ โดยมีตัวแทน คสช.เป็นคนกลาง

    ** จะถ่ายทอดสดงานนี้ ให้กองเชียร์ และประชาชนคนกลางๆ ดูที่ สถานีโทรทัศน์ " สถานีอิสระธรรม " (DDTV) ดูได้ทางจานดำ PSI ช่อง 235 , จาน Infosat ช่อง 240 เพราะเดี๋ยวนี้คนไทยดูทีวีดิจิตอลกันแล้ว และอีกแห่งทางเว็ปไซต์ที่ อิสระธรรม

    หลวงปู่บอกต่อว่า...กว่าฉันจะพยายามประสานงาน เพื่อให้เกิดการพูดคุยสอบถามกัน ทั้งสองฝ่ายมิใช่ง่ายเลย แต่เมื่อ ปตท.โดยปิยสวัสดิ์ และคณะรับปาก ที่จะให้เวลาทั้งวัน ในการตอบทุกปัญหาที่ทุกคนสงสัย และเป็นทุกคำตอบที่ฉันสัมทับว่า ต้องมีเอกสารรองรับพร้อมเซ็นชื่อกำกับด้วย มันก็น่าจะสร้างบรรยากาศความเข้าใจ ความพึงพอใจ

    และประชาชนที่จะเป็นผู้ได้ประโยชน์ จากการถามตอบปัญหาในเรื่องพลังงานได้ระดับหนึ่ง ซึ่งฉันเป็นผู้ควบคุมการเสวนาครั้งนี้ โดยเปิดโอกาสให้ ผู้มีข้อมูลและหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ มาลงชื่อซักถาม และต้องถามอย่างกระชับ ไม่เยิ่นเย้อ ผู้ตอบปัญหาก็ต้องไม่ยืดยาด กระชับ เรียกว่างานนี้ไม่ต้องการน้ำ ฉันอยากฟังแต่เนื้อๆ

    พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังได้ 400 - 500 คน ในช่วงท้ายเปิดให้ตั้งกระทู้สดถามปัญหาแก่กลุ่มผลประโยชน์พลังงาน และกลุ่มผู้ต่อสู้เรื่องพลังงาน โดยที่ทุกคำถามและทุกคำตอบจะต้องมีหลักฐานยืนยันมีที่มาที่ไปอย่างชัดเจน ไม่ใช่ฟังคนอื่นเขาเล่ามา สรุปทุกคำถามทุกคำตอบ ผู้ถามผู้ตอบจะต้องรับผิดชอบหากมีเอกสารเท็จจะต้องถูกดำเนินคดีจากผู้ที่เกี่ยวข้อง

    ฉันหวังว่าการนำเอาทุกปัญหาของพลังงานขึ้นมาวางบนโต๊ะ แล้วเปิดโอกาสให้ทุกกลุ่มทุกฝ่ายที่ได้ประโยชน์ และเสียประโยชน์มานั่งพูดคุยกัน เพื่อหาข้อยุติที่ถูกต้องเป็นประโยชน์แก่คนทั้งประเทศ “ มันน่าจะดีกว่าการแสดงพลังออกไปเดินประท้วงตามถนน”

    เป็นโอกาสของประชาชนคนกินข้าวแกง อย่างพวกเราแล้วพี่น้อง อย่าเอาแต่มานั่งถกเถียง นั่งพูดกันอยู่ฝ่ายเดียวเลย เรามานำปัญหา ข้อมูล ข้อข้องใจสงสัยที่มีมายาวนาน มาช่วยกันทำให้กระจ่าง ในวันที่ 27 ส.ค.57 ในเวลา 09.00 – 16.00 น. ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดี กทม.

    และหากมีเวลาเหลือมากพอ พวกเราจะได้ช่วยกันชี้นำเสนอแนะทิศทางพลังงานเพื่อประโยชน์ของคนทั้งประเทศ อย่างที่พวกเราฝันกันเอาไว้ ทั้งหมดนี้มันขึ้นอยู่กับความร่วมไม้ร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจของแกนนำและผู้เสียสละทั้งหลายว่า จะช่วยรักษาเวลาในการถามและตอบปัญหาได้มากขนาดไหน

    สมัยก่อนพวกเราพูดอยู่ฝ่ายเดียว สู้อยู่ฝ่ายเดียว ไม่เคยได้รับความสนใจใส่ใจให้ความสำคัญ แต่ปัจจุบันขณะนี้ เวลานี้ พวกเรามีโอกาสแล้ว เราไม่ควรละเลย ส่วนคนที่อ้างว่ามีข้อมูล รู้ลึก เป็นต่อสู้ แต่พอถึงเวลาให้แสดงและยืนยันในข้อมูลนั้นๆว่าต้องจริง ต่างคนต่างกลับอ้างโน่นอ้างนี่ หรือว่าข้อมูลที่ตนมีเป็นเท็จ ถ้าแน่จริงก็มาร่วม มาช่วยยุติด้วยกัน มาหาทางออกให้บ้านเมือง

    - วันที่ 25 ส.ค.57 หลวงปู่พุทธอิสระ แสดงความคิดเห็นอีกครั้งหัวข้อ “ เออมันแปลกดีนะ” สรุปได้ดังนี้

    คุณปิยสวัสดิ์ และพวกเขามาพูดคุย และฉันก็ขอร้องให้จัดเวทีถกปัญหาเรื่องพลังงาน จะได้หาข้อยุติของปัญหาให้บ้านเมือง ในวันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม 57 แต่ที่ข้อความที่ หม่อมกรกสิวัฒน์ โพสลง “ ดูประดุจว่า” เขาเป็นผู้นัดจัดการประชุม ????

    เมื่อคุณปิยสวัสดิ์มาพบ เวลาต่อมาก็มีคณะผู้บริหารของ ปตท.มาพบอีก เพื่อแจ้งความคืบหน้าการจัดเวทีเสวนาพลังงาน เมื่อเวลาใกล้วันนัดหมาย ฉันได้สั่งให้กองเลขา โทรนัดหมายให้แกนนำพลังงานทุกคนที่มีข้อมูลเชิงลึก จริง ชัดเจน มาปรึกษาหารือ

    และต้องเป็นข้อมูลที่รับรองได้ว่าจริงพร้อมพิสูจน์ ให้ลงชื่อกำกับด้วยว่าเป็นเอกสารจริง พร้อมรับผิดชอบ แรกๆ ก็มีการรับปากทุกคนว่าจะมาร่วมในวันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม 57 แต่แล้วก็เกิดเหตุแปลก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 57 แกนนำทั้งหลายที่รับปากว่าจะมาร่วมปรึกษาหารือกลับเดินไปให้ตำรวจจับ ????...แปลกมาก !!

    โดยอ้างว่าไปเดินชักชวนเพื่อปฏิรูปพลังงาน ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่ามันผิดคำสั่ง คสช. และรู้อยู่ว่าวันรุ่งขึ้นจะต้องมาร่วมปรึกษาหารือ และวันที่ 27 สิงหาคม 57 จะต้องไปประชุม เพื่อยืนยันข้อมูลของตนว่าถูกต้อง มีเอกสารอ้างอิงถูกกฎหมาย

    เวลาต่อมา คุณปานเทพ โทรมาขอให้เลื่อนการนัดเสวนาในวันที่ 27 นี้ออกไปก่อน เพราะแกนนำหลายคนถูกจับ !!...อ้าววววว ก็ตั้งใจให้จับเพื่อ ????

    ต่อมาเฟสบุ๊คของหม่อมกรเขียนว่า หากมีผู้ร่วมงานน้อยจะถือว่าไม่เป็นที่น่าเชื่อถือ ???? น้านนน หากจะถามฉันว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันคงตอบว่า “ มันแปลกดีนะ “ ทั้งที่พวกเราสู้หาทางออกให้พลังงาน สู้เพื่อประโยชน์ของคนทั้งชาติ สู้กันมาหลายปี

    ต่างฝ่ายต่างกลุ่มต่างก็อ้างว่า สู้เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศ แม้เวทีแจ้งวัฒนะก็ได้ทำถึงขนาดร่างเป็นกฎหมายปฏิรูปพลังงาน ร่วมกว่า 60 มาตรา แต่ก็คิดเอาฝ่ายเดียว พอมาวันนี้มีคู่กรณีเข้ามาพูดคุยหาข้อยุติ ยอมรับในกติกาที่ว่าต้องพิสูจน์กันด้วยเอกสารยืนยัน

    ฝ่ายที่อยากพิสูจน์มาตลอด กลับอ้างโน่นอ้างนี่ ทั้งที่มองเห็นเส้นชัยอยู่ข้างหน้า แต่ไม่กล้าวิ่ง ทำให้ฉันสงสัยว่า “ ใครหลอกใครกันแน่ คนไทยที่ไม่ได้กินหญ้าลองมาพิจารณาดู “...โห..หลวงปู่พูดได้สุโค่ยมาก

    ** ดูต้นฉบับเพจหลวงปู่ฯ ที่ https://www.facebook.com/buddha.isa...57455723445/10152629954268446/?type=1&theater

    สรุป..เรื่องนี้ประชาชนเริ่มเห็นเค้ารางอะไรแล้วใช่ไหม ?? ว่ามันเกิดความผิดปกติ โดย เสธ จะต่อจิ๊กซอ ตามลำดับเรื่องราวดังนี้คือ

    1. มีกลุ่มคนปล่อยข่าวลือเรื่องท่อก๊าซ ปตท. กันมากช่วง 3 เดือนนี้ จน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก็งง !!! เพราะเรื่องมันจบไปกว่า 7 ปีแล้ว แต่กลับมีกลุ่มคนอ้างเอาชื่อ สตง.มาใช้ประโยชน์ โพสยุยงปลุกปั่นประชาชน สตง.จึงตัดสินใจ ทำหนังสือถึงคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ถามว่าข้อเท็จจริง และข้อสรุปมันเป็นอย่างใดกันแน่ ??

    2. ปิยสวัสดิ์ และคณะผู้บริหารของ ปตท. ไปพบหลวงปู่พุทธอิสระ “ ขอร้อง” ให้เป็นตัวกลางจัดเวทีถกปัญหาเรื่องพลังงาน ในวันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม 57 จะได้หาข้อยุติของปัญหาให้บ้านเมือง

    3. แต่หม่อมกร ออกข่าวกลายเป็นว่า เขาเป็นผู้นัดจัดการประชุมนี้เอง ทั้งที่ไม่เป็นความจริงใดๆ ทั้งสิ้น เป็นการตีกินเอาดื้อๆ ..เริ่มแปลกและ ????

    4. ปิยสวัสดิ์ และ คณะผู้บริหารของ ปตท.มาพบหลวงปู่อีกครั้ง เพื่อแจ้งรายงานความคืบหน้าการจัดเวทีเสวนาพลังงาน วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม 57 เมื่อเวลาใกล้วันนัดหมาย หลวงปู่ได้สั่งให้กองเลขา โทรนัดหมายให้แกนนำพลังงานทุกคนที่มีข้อมูลเชิงลึก จริง ชัดเจน มาปรึกษาหารือ

    โดยมีข้อแม้ว่า...จะต้องเป็นข้อมูลที่รับรองได้ว่าจริงพร้อมพิสูจน์ “ ให้ลงชื่อกำกับด้วยว่า เป็นเอกสารจริง พร้อมรับผิดชอบ “...จุดนี้สำคัญมาก !! แรกๆ ก็มีการรับปาก NGO ทุกคนว่า จะมาร่วมนัดนี้

    แต่แล้วก็เกิดเหตุแปลกขึ้น เมื่อจู่ๆ วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 57 ช่วงบ่ายแกนนำ NGO ทั้งหลาย ที่รับปากว่าจะมาร่วมปรึกษาหารือกันตามที่นัดหมายไว้ กลับจงใจเดินไปให้ตำรวจจับ ????...โดยอ้างว่าไปเดินชักชวนเพื่อปฏิรูปพลังงาน

    ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่ามันผิดคำสั่ง คสช. อยู่โทนโท่ และรู้อยู่ว่าวันรุ่งขึ้น (จันทร์ที่ 25 สิงหาคม 57) จะต้องมาร่วมปรึกษาหารือ และวันที่ 27 สิงหาคม 57 จะต้องไปประชุม เพื่อยืนยันข้อมูลของตนว่าถูกต้อง มีเอกสารอ้างอิงถูกกฎหมาย

    และยิ่งพิลึกหนึก เมื่อกลับไม่พานพบแกนนำ NGO คนสำคัญที่ต้องการเป็น สปช. ไปร่วมเดินม็อบครั้งนี้ และถูกจับกุม แต่กลับส่งอีกทีมไปให้ตำรวจจับ..แปลกมากจริงๆ !!

    5. หมายว่าว่าแกนนำต้องการให้ตำรวจจับ วันที่ 24 ส.ค.57 เพื่อใช้เป็นข้ออ้าง ไม่ต้องไปร่วมหารือพลังงาน วันที่ 25 ส.ค.57 ที่วัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม ทั้งที่แกนนำ ไม่ได้ถูกจับหมดทุกคน แต่แกนนำที่เหลือเลยถือข้ออ้างนี้ไม่ยอมไป

    6. ปริศนาความลับในเวลาต่อมา เมื่อ ปานเทพ โทรหาหลวงปู่ ขอให้เลื่อนการนัดเสวนาในวันที่ 27 ส.ค.57 นี้ออกไปก่อน เพราะแกนนำหลายคนถูกจับ !!...อ้าววว..โป๊ะเช๊ะ

    7. ต่อมาหม่อมกร ประโคมว่าหากมีผู้ร่วมงาน วันที่ 27 ส.ค.57 ที่สโมสรกองทัพบก น้อย จะถือว่าไม่เป็นที่น่าเชื่อถือ ???? น้านนน...ก็เครือข่ายข้อ 6 เป็นคนขอเลื่อนเอง...และแกนนำ NGO ที่เคยเป็น ส.ว. ออกมาแจ้งว่าวันที่ 27 ส.ค.57 จะหนีไปเสวนาพลังงานที่ จ.พัทลุง และ จ.ปัตตานี ??

    เพราะไม่กล้าลงนามรับรองเอกสาร เพื่อให้ไกลจาก กทม.เข้าไว้สุดขั้ว จะได้เป็นข้ออ้างเข้าร่วมงานที่หลวงปู่ กับ คสช. เป็นกรรมการกลาง ที่กองทัพบกไม่ได้...เข้าใจหรือยังประชาชน..เรียบร้อย..มันจบแล้ว !!

    8. บิ๊กตู่ ในฐานะนายกฯ หมาดๆ เมื่อวานช่วงเช้า รีบสั่งการทันที ให้กระทรวงพลังงาน ประสานงานกับ คณะกรรมการกฤษฎีกา หารือร่วมกับ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เรื่องท่อก๊าซ ถ้าเรื่องสรุปผลตรงกันออกมา อาจทำให้ NGO บางองค์ถึงกับไข้ขึ้น

    เพราะหากเอกสารที่ NGO นำมาพูดให้ร้าย คสช.และรัฐวิสาหกิจ ตลอด 3 เดือนที่ผ่าน เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ตามที่หลวงปู่ให้ลงนามรับรองเอกสารและรับผิดชอบ นั่นหมายถึงข้อมูลที่ NGO พูดมาหลายปี...เป็นเท็จทั้งสิ้น !!

    คนไทย 67 ล้านคน คงอยากถามเหมือนหลวงปู่เหมือนกันว่า “ มันเกิดอะไรขึ้น “ และ “ มันแปลกดีนะ “ ทั้งที่ NGO อ้างว่าสู้หาทางออกให้พลังงาน สู้เพื่อประโยชน์ของคนทั้งชาติ สู้กันมาหลายปี อ้างว่า สู้เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศ อยากดีเบตให้กองเชียร์ฟัง

    พอมาวันนี้ มีคู่กรณีกันเข้ามาพูดคุยหาข้อยุติ ยอมรับในกติกาที่ว่าต้องพิสูจน์กันด้วยเอกสารยืนยัน ฝ่ายที่อยากพิสูจน์มาตลอด กลับอ้างโน่นอ้างนี่ ทั้งที่มองเห็นเส้นชัยอยู่ข้างหน้า แต่ไม่กล้าวิ่ง “ ใครหลอกใครกันแน่ คนไทยที่ไม่ได้กินหญ้าลองมาพิจารณาดู “

    เคยบอกแล้วว่าหลักอาชญวิทยา ผู้กระทำผิดย่อมมีพิรุธ และต้องทิ้งร่องรอยเชื่อมกับการกระทำนั้นๆ เสมอ “ เมื่อความจริงจะถูกเปิดเผย คนที่ร้อนรนพิรุธก่อน คือคนสร้างฉากนั่นเอง” มี NGO บางกลุ่มไม่อยากให้เรื่องราวที่คลุมเครือ มันกระจ่างชัดออกมา

    พอหลวงปู่ และ บิ๊กตู่ จะทำให้ฟ้าสว่างกระจ่างแจ้ง จึงมีกลุ่มคนต้องการเอาใบบัวปิดช้างไว้ต่อไป ไม่อยากให้ประชาชนทราบชัดเจน เพื่อประโยชน์บางประการ เช่น การขอทุนจากต่างชาติมาดำเนินงานองค์กรตนเองต่อ , การต่อรองขอตำแหน่งทางการเมือง จากผู้มีอำนาจ แบบ “ ทางด่วน “ เพราะไม่ต้องการแข่งขัน กับประชาชนทั่วไป อ้างว่าพวกตนเก่งกว่า ทำงานมานานกว่า ต้องมีโควตาพิเศษให้ ฯลฯ

    ที่ผ่านมามีบางคนไม่เชื่อสิ่งที่ เสธ พยายามสื่อ และเตือนสติเรื่อยมา เพราะความรัก และเชื่อใจกันมันบังตา ทำให้เชื่อทุกอย่างในคนที่ศรัทธาบอกกล่าว โดยขาดสติตนเอง ตามหลักคำสอนพุทธศาสนา

    ** ไปดูเรื่องเดิม แก็งค์แบ่งงานกันทำที่ https://www.facebook.com/topsecretthai/posts/260597420796959

    เมื่อให้ไปสมัครสมาชิกสภาปฏิรูป (สปช.) กลุ่ม NGO บางกลุ่มก็พยายามบอกว่า “กรรมการไม่เป็นกลาง เพราะไม่ใช่พวกตน “ แต่จากนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “การคัดเลือกสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)

    โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 20 – 21 สิงหาคม 2557 จากประชาชนที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศ กระจายทุกระดับการศึกษาและอาชีพ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,248 หน่วยตัวอย่าง gกี่ยวกับความสนใจ การเสนอชื่อเข้าเป็น สปช. และความเชื่อมั่น ต่อความโปร่งใสของกระบวนการคัดเลือกผู้เข้ารับการสรรหาเป็น สปช. ในระดับจังหวัด อาศัยการสุ่มตัวอย่างตามหลักวิชาการทางสถิติ ได้ผลการสำรวจ คือ

    ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อความโปร่งใสในกระบวนการคัดเลือกผู้เข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในระดับจังหวัด “ เพียงร้อยละ 12.26 ไม่มีความเชื่อมั่นเลยในความโปร่งใส “

    แสดงว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ราว 87% เห็นต่างจากกลุ่ม NGO คือ เขาเชื่อมั่นว่า “กรรมการคัดเลือกนั้นเป็นกลาง และโปร่งใสพอ “ และประชาชนหลายคนอาจยังไม่ทราบว่ากรรมการคัดเลือก สปช.ประจำจังหวัดนั้น มีผู้พิพากษา เป็นกรรมการด้วย...พอจะการันตีความเป็นกลางได้ไหม ??

    ส่วน สปช.จำนวน 250 คน นั้น ทุกคนก็มีสิทธิโหวต ทิศทางการปฏิรูปพลังงานของชาติเท่าเทียมกัน ไม่ว่าเขาจะเป็น สปช.สายใดๆ ดังนั้นกลุ่มคนที่โวยวาย ตีปลาหน้าไซ และอ้างว่าไม่เชื่อมั่นต่อความโปร่งใส ต่อคัดเลือก สปช. ต้องทำใจว่า “ท่านคือเสียงส่วนน้อย “ ในสังคมเท่านั้น

    ตอกย้ำด้วยผลโพลของ ชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน เผยผลวิจัยเชิงสำรวจมาสเตอร์โพล การศึกษาตัวอย่างแกนนำชุมชน 622 ชุมชน เมื่อวันที่ 22-23 ส.ค.2557 หลังจาก สนช. โหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนี้

    - ร้อยละ 94.0 ประชาชน ระบุมีความสุขมากถึงมากที่สุดที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
    - ร้อยละ 80.7 สนับสนุน ผล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
    - ร้อยละ 77.00 เชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะพาประเทศไทยรอดผ่านพ้นวิกฤติได้

    ด้านระยะเวลาในการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีเพื่อแก้ปัญหาประเทศ
    - ร้อยละ 71.8 แก้ปัญหาได้เรียบร้อย
    - ร้อยละ 53.1 ต้องการว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ เร่งแก้ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตร รองมา ปากท้อง รายได้ และค่าครองชีพ

    ในโพลสำรวจ แกนนำชุมชนคิดต่างจาก NGO อีกแล้ว ที่บอกว่าต้องปฏิรูปพลังงานก่อน เพราะประชาชนเขารู้ และฉลาดว่ามีช่องทางสภาปฏิรูปที่สมาชิก สนช. 250 คน ที่ต้องไประดมสมองคิดร่วมกันอยู่แล้ว พร้อมกับการปฏิรูปด้านอื่นอีก 11 ด้าน

    ประเทศไทย คือรถยนต์ มันต้องขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กันทุกชิ้นส่วน..ล้อรถ จะหมุนนำรถไปก่อน โดยไม่รอตัวรถไม่ได้ จึงแสดงว่าประชาชน ไม่คิดว่าเรื่องพลังงานเป็นปัญหาเร่งด่วนของพวกเขา แต่พวกเขาต้องการให้รัฐบาล ช่วยแก้ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำมากที่สุด รองมา ปากท้อง รายได้ และค่าครองชีพ

    เสียงประชาชนตามพลโพล คือ เสียงสวรรค์ เสียงส่วนใหญ่ของพวกเขา จึงจะมีโอกาสได้รับการพิจารณาจากรัฐบาล และ คสช. ก่อนตามลำดับคิวความสำคัญก่อนหลัง เพื่อช่วยเหลือพวกเขา ในขณะเดียวกันก็ทำการแก้ปัญหาอื่นๆ เช่น ปากท้อง รายได้ และค่าครองชีพ คู่ขนานกันไปด้วย

    เมื่อประชาชน เห็นว่ารัฐบาล และ คสช.ตั้งใจแก้ปัญหาให้พวกเขาจริงๆ บางอย่างอาจสำเร็จเร็ว บางอย่างอาจช้า ก็จะกลายเป็นเกราะกำบังให้คนทำงาน มากกว่าคนพูดเท็จ เมื่อนั้นม็อบทั้งหลายก็จะแพ้ภัยเสียงมหาชน ฟ่อไปเอง ถ้ากลุ่มไหนยังดื้อฝ่าฝืนกฎหมายอีกก็ต้องจับ..

    เปรียบเทียบว่า ถ้าขับรถผ่าไฟแดง เจ้าหน้าที่ก็ต้องจับ จะอ้างแถว่าจะรีบไปทำบุญ กลัวไม่ทันถวายเพลพระไม่ได้..ผิดก็คือผิด !! คนที่ต่อจิ๊กซอเก่งๆ ต้องใจเย็นๆ หัดมองความผิดปกติให้รอบด้าน ถึงจะเห็นภาพชัดของ “ แก็งค์แบ่งงานกันทำ ความเหมือนที่แตกต่าง “

    เข้าใจที่ เสธ เคยพูดมาตลอดเวลาไหมว่า “ เรื่องบังเอิญ ไม่มีอยู่จริงในโลก “ แต่มันเกิดขึ้น เพราะมีคนวางแผนต้องการให้มันเป็น และเกิดแบบนั้น...

    สาธุชน ที่เคารพนับถือหลวงปู่ฯ ให้ใช้ปัญญาตรองเอา..หลวงปู่ฯ กำลังคลี่คลายปริศนาความลับดำมืดนี้ โดยใช้หลักธรรมมะ โปรดช่วยพิจารณาด้วยสติเถิด !!

    ดังคำหลวงปู่ฯ ที่ว่า “ ใครหลอกใครกันแน่ คนไทยที่ไม่ได้กินหญ้าลองมาพิจารณาดู “..!!


    @ เสธ น้ำเงิน3

    ***แฉความลับ***
     
  10. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    วันที่ 26 ส.ค.57 เกาหลีใต้ กลายเป็นเมืองบาดาล ต้องปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แล้ว

    เกิดฝนตกหนักมากทางภาคใต้ของเกาหลีใต้ จนน้ำท่วมอย่างเฉียบพลัน เมืองหลายเมืองกลายเป็นเมืองบาดาล รถยนต์ลอยเกลื่อนไปทั่ว เหมือนลอยกระทง และทางการต้องสั่งปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ผลิตไฟฟ้าอย่างเร่งด่วน ป้องกันเหตุไม่คาดฝัน

    และดวงอาทิตย์ก็การระเบิดซ้ำโซล่าแฟร์ ปลดปล่อยรังสีออกมาอีกแล้ว แต่คาดว่าจะผ่านชั้นบรรยากาศโลกเข้ามาทำอันตรายมนุษย์ไม่ได้ แต่จะทำให้ระบบ GPS และระบบสื่อสารบนโลกปั่นป่วน ส่วนผลอื่นๆ ยังต้องรอดูผว่าจะรุนแรงขนาดใด เช่น ระบบการบิน ระบบไฟฟ้า ฯลฯ

    เดือน ส.ค.นี้ทั้งเดือน โลกโดนโจมตีทั้งจากภายในโลกเอง และนอกโลกอีกด้วย พ้นเดือนนี้ไปคงค่อยๆ คลี่คลาย ฝากไว้แต่รอยจารึกจากซุปเปอร์มูน..

    แต่ที่ต้องจับตา คือ เดือนตุลาคม 2557 เพราะนักวิทยาศาสตร์พบสนามแม่เหล็กโลกกำลังกลับขั้ว ยังคาดเดาความรุนแรงได้ไม่ชัดเจนว่าจะรุนแรงขนาดไหน


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    @ เสธ น้ำเงิน4

    ***ทหารปฏิรูปประเทศไทย***
     
  11. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    วันที่ 27 ส.ค.57 ศาลทหารพิพากษาประหารเสื้อแดง นปช. 26 รายรวด

    จากกรณีผู้ต้องหากลุ่มติดอาวุธแดง นปช. แก็งค์ "ขอนแก่นโมเดล" ที่ถูกทหารจับได้ พร้อมกับคลังอาวุธสงคราม มหาศาล ขนาดที่จะสร้างความเสียหายกับชาติและประชาชนได้อย่างรุนแรง

    โดยกลุ่มนี้รับงานตรงทางไลน์มาจากคนแดนไกล และฝึกอาวุธโดย เครือข่ายแรมโบ้อีสาน อาวุธจัดหามาจาก เจ้านายของ สุดา สหายสุดซอย ที่เป็นคนสนิทคนแดนไกล

    วันนี้ศาลทหาร มีคำพิพากษาประหารชีวิตกลุ่มติดอาวุธแดง นปช. แก็งค์ "ขอนแก่นโมเดล " ทั้งหญิงและชาย จำนวน 26 รายเรียบไม่เหลือหรอ และศาลทหารภายใต้กฎอัยการศึก มีศาลเดียว ไม่มีอุธรณ์ และฎีกา นั่น หมายถึง ทั้ง 26 ราย จะต้องถูกประหาร ตามขั้นตอนกฏหมายคือโดยการฉีดยาพิษ

    พวกกลุ่มติดอาวุธแดง นปช.ที่ถูกจับแล้วพร้อมอาวุธ แต่ประชาชนไม่ค่อยรู้ อีกราว 1,000 ราย คงรู้แล้วใช่ไหม ? ว่าศาลทหารมีฤทธิ์เดชขนาดไหน และรู้หรือยัง ว่าทำไมจึงยังไม่ยกเลิกกฎอัยการศึก ?

    เอาไว้ปรามม็อบก็ใช่ส่วนหนึ่ง แต่เอาไว้ประหารชีวิตกลุ่มติดอาวุธนี่แหละหมากเด็ด ใครกล้าทำรุนแรงกับชาติและประชาชนตอนนี้...ให้ดูตัวอย่างกันไว้ ดีนะที่มันยอมตายไม่ซัดทอดนายมัน เพราะนายมันคงให้ถุงขนมญาติไปเยอะ

    นี่ดีนะที่เพิ่งประกาศกฎอัยการศึกเมื่อ 22 พ.ค.2557 ถ้ามีการประกาศมาตั้งแต่ต้นปี 2553 สงสัยพวกเผาบ้านเผาเมืองคงต้องใช้รถคอนเทนเนอร์หลายสิบคัน มาขนนักโทษไปประหาร

    พวกที่หนีคดีไปต่างประเทศ แถวยุโรป มะกัน และประเทศที่ลี้ภัย ประเทศพวกนี้มันเลี้ยงเอาไว้เพื่อจิกหัวใช้ให้หมิ่นสถาบันฯ จึงไม่ยอมส่งตัวกลับมาไทย แต่หาก กลับมาเมื่อไรเจอแน่ !!

    ผิดต้องเป็นผิด ไม่มีนิรโทษกรรม ก่อความรุนแรง ถ้าถูกจับได้โทษระบุไว้เท่าไรก็ตามนั้น ฤดูหนาวเหน็บมันคงมาเร็วก่อนกำหนด !!


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    @ เสธ น้ำเงิน2

    ***ทหารปฏิรูปประเทศไทย***
     
  12. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    วันที่ 27 ส.ค.57 เผย..ผลงานบิ๊กตู่ 2 วันหลังเป็นนายกฯ เปิดปุ๊บติดปั๊บ แก้ปัญหายางพารา

    หลังจากที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ , หัวหน้า คสช. รับสนองพระบรมราชโองการฯ เป็นนายกรัฐมนตรี ช่วงสายวันที่ 25 สิงหาคม 2557 แล้ว บิ๊กตู่ ได้ย้ำกับนายทหารระดับสูง และปลัดกระทรวงที่มาร่วมพิธีว่า “ ขอให้ทุกฝ่ายแสดงความยินดีกันแค่นี้ ช่วงนี้ไม่ใช่เวลาเฉลิมฉลอง เพราะมีเวลาน้อยที่จะทำงานแก้ปัญหาต่างๆ ขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน ทำเพื่อชาติบ้านเมือง “

    สร้างความประทับใจ ตั้งแต่วินาทีแรกที่เป็นนายกฯ สำหรับผู้ร่วมพิธีในวันนั้นอย่างมาก เพราะหมายถึง บิ๊กตู่ เป็นบุคคลที่เสียสละอย่างสูง ต้องการเข้ามาแก้ปัญหาบ้านเมือง หลังจากรับตำแหน่งเป็นทางการแล้ว บิ๊กตู่ ก็เริ่มผลักดันงานเร่งด่วนสำคัญที่เป็นความเดือดร้อนประชาชนทันที

    ปัญหาที่ว่านั้นคือ ราคายางพาราตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ที่มาของปัญหานี้เริ่มจากรัฐบาลคนแดนไกลสมัยนั้น เริ่มขยายพื้นที่ปลูกสวนยางพาราอย่างมากมายในปี 2547 จนส่งผลต่อโครงสร้างภาคเกษตรกรรมไทยมาจนถึงปัจจุบัน คือ

    1. พื้นที่ปลูกข้าว..ปี 2536 ไทยเคยมีสัดส่วนราว 55.4 % ของพื้นที่เกษตรทั้งหมด ล่าสุดปี 2556 ลดลงเหลือ 51.3 % , จำนวนเกษตรกรจาก 4.2 ล้านราย ลดลงเหลือ 3.8 ล้านราย

    2. พื้นที่ปลูกพืชยืนต้น ประเภทไม้ผล ปี 2536 มีสัดส่วน 9.6 % ล่าสุดปี 2556 เหลือ 0.8 %

    3. พื้นที่ปลูกยางพารา.. ปี 2536 มีสัดส่วน 8.0% ล่าสุดปี 2556 ได้เพิ่มเป็น 14.6% , จำนวนเกษตรกรจาก 5.4 แสนราย เพิ่มเป็น 1.16 ล้านราย หรือ เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า ???

    หลังปี 2554 เป็นต้นมา ปัจจุบันไทยมีพื้นที่ปลูกยางพารา ณ สิ้นปี 2556 ทั้งสิ้นราว 22.18 ล้านไร่ เป็นสวนยางที่สามารถกรีดได้แล้ว ราว 15.13 ล้านไร่ มีผลผลิตรวมเกือบ 4 ล้านตันต่อปี อัตราผลผลิตราว 255 กิโลกรัมต่อไร่ แยกพื้นที่ปลูกยางเป็นรายภาคเป็นดังนี้

    1. ภาคใต้ 13.94 ล้านไร่ ( 63% )
    2. ภาคอีสาน 4.4 ล้านไร่ ( 19 % )
    3. ภาคกลางและภาคตะวันออก 2.61 ล้านไร่ ( 12 % )
    4. ภาคเหนือ 1.23 ล้านไร่ ( 5 % )

    โดยเฉพาะภาคอีสานในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีเนื้อที่เพาะปลูกยางพาราเพิ่มขึ้นจากเดิมเกือบ 7 เท่า ภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัด จึงเป็นภาคที่มีประชาชนปลูกยางพารามากที่สุดในประเทศ มี 5 จังหวัดที่มีสัดส่วนพื้นที่ปลูกยางพารามากที่สุด ในภาคใต้ คือ

    - สุราษฎร์ธานี 2.63 ล้านไร่
    - สงขลา 2.06 ล้านไร่
    - นครศรีธรรมราช 1.85 ล้านไร่
    - ตรัง 1.54 ล้านไร่
    - ยะลา 1.06 ล้านไร่

    นั่นหมายความว่า มีคนวางยาเรื่องยาพาราไว้ตั้งแต่ปี 2547 โดยการขยายพื้นที่ปลูกยางพารา ทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า ที่น่าสนใจคือในภาคอีสาน เพิ่มพรวดเดียวขึ้นเป็น 7 เท่า นั้นหมายถึงมีกลุ่มคน วางแผนให้ที่ปริมาณน้ำยางล้นตลาด จากการแย่งกันผลิต (ดีมาน) ก็จะเกิดภาวะยางล้นตลาด ราคายางพาราตกลงไป (ซัพพลาย)

    ผลกระทบก็จะเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง เกษตรกรภาคที่ปลูกยางจำนวนมากก็จะเดือดร้อนที่สุด และแถมยังมีแรงงาน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับสวนยางพารา อีกจำนวนราว 3.69 ล้านคน ก็ยิ่งจะมีคนเดือดร้อนจาก ราคาผลผลิตยางธรรมชาติตกต่ำลงจำนวนมากเข้าไปอีก

    แต่คนที่ได้ประโยชน์นี้ กลับกลายเป็นกลุ่มคนที่วางแผนล่วงหน้า 10 ปี คือ กลุ่มนักการเมือง กลุ่มผู้ใช้ยางพาราแปรรูป เพราะจะได้ใช้ผลิตผลจากยางพาราในราคาต้นทุนผลิตสินค้าต่ำ และนายทุนที่รับซื้อยางจากเกษตรกร ขายในประเทศ หรือส่งออกก็จะมีกำไรมากขึ้น

    ในส่วนนักการเมือง ที่กุมพื้นที่ ส.ส.ภาคเหนือ และอีสาน ก็จะสามารถดิสเครดิส กดหัวพรรคที่กุมพื้นที่ภาคไต้ได้ตลอดไป นั่นเป็นเพราะพื้นที่ภาคใต้ปลูกยางพารา 13.94 ล้านไร่ หรือสัดส่วน 63% ของพื้นที่ปลูกยางทั้งหมด เกษตรกรย่อมได้รับผลกระทบอ่วมกว่าภาคอื่น เพราะส่วนใหญ่ทำอาชีพสวนยางพารา ก็จะแปรใจไปเลือกพรรคอื่นที่ไม่มีฐานเสียงภาคใต้

    ในขณะที่ภาคอื่นมีสัดส่วนพื้นที่ภาคใต้ปลูกยางพาราน้อย และมีพื้นที่ปลูกข้าวใกล้เคียงของเดิม นับเป็นการวางแผนอำมหิต ฆ่าอาชีพเกษตรกรชาวสวนยาง ล่วงหน้าถึง 10 ปี เพื่อให้เกิดเหตุการณ์ในวันนี้ ส่งผลให้ผลผลิตยางพารา มีมากเกินความต้องการ และทำให้ราคาตกต่ำ

    ในการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.เป็นประธานการประชุม หลังรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้เพียง 1 วัน ได้อนุมัติโครงการลงทุนและแก้ปัญหาราคายางพารารวมกว่า 80,000 ล้านบาท

    เพื่อยกระดับราคายาง โดยเพิ่มสภาพคล่องด้านการตลาด ให้ธนาคารออมสิน ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ แก่ผู้ประกอบการ วงเงินตลอดโครงการจำนวน 4,500 ล้านบาท และกระทรวงพาณิชย์รายงานสถานการณ์การส่งออกยางพาราของไทย ว่า

    - ไทยผลิตยางพาราได้มากที่สุดในโลก 4 ล้านตัน คิดเป็น 32% ของการส่งออกยางพาราโลก
    - ที่จีนมีการใช้ยางพารามากที่สุด 36% และทวีปอเมริกาเหนือ 10%

    ราคายางในตลาดโลกปีที่แล้วเฉลี่ยราว 1.02 แสนบาทต่อตัน และในปี 2557 ลดลงเป็น 9.9 หมื่นบาทต่อตัน โดยกลุ่มประเทศที่มีแนวโน้มที่จะนำเข้ายางพาราเพิ่มได้แก่ ตลาดญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อเมริกา และยุโรป

    ขณะที่ตลาดอินเดีย มีแนวโน้มที่จะนำเข้ายางธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ เพิ่มขึ้น ส่วนบราซิล ตุรกี อียิปต์ รัสเซีย เป็นตลาดรองที่มีศักยภาพ มีการแสวงหาความต้องการของตลาดใหม่ๆ ในตลาดเกิดใหม่ และใช้เวที Rubber Valley ณ เมืองชิงเต่า มณฑลชานตง ประเทศจีน ทำกิจกรรมการซื้อขายยางพาราในจีนทางออนไลน์

    รวมทั้งการเร่งเจรจาโครงการนิคมอุตสาหกรรมเมืองยาง (Rubber City) ร่วมกับประเทศมาเลเซีย และผลักดันให้ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุม Global Rubber

    ส่วนมาตรการระยะยาวเสริมจุดแข็ง ที่ไทยมีศักยภาพสร้างมูลค่าเพิ่ม ส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมและวิจัย การกำหนดมาตรฐานเพิ่มขีดความสามารถ ของผู้ประกอบการไทย และการจัดตั้งศูนย์ทดสอบยางล้อรถยนต์

    รวมทั้งการส่งเสริมความร่วมมือ ในกลุ่มประเทศผู้ผลิตยางพารา ในอาเซียนให้สำเร็จ เพื่อเป็นตลาดซื้อขายล่วงหน้าและยางพาราในกลุ่มสมาชิก และส่งเสริมให้เกิดการจัดตั้งตลาดยางพาราของกลุ่มอาเซียน

    องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) ระบุว่า การระบายยางในสต็อก 2.1 แสนล้านตัน ขณะนี้พร้อมที่จะลงนามกับผู้ประกอบการแล้วปริมาณ 1 แสนตัน ที่เหลืออีกประมาณ 1.2 แสนตันนั้น ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเสนอซื้อเข้าโดยให้ราคาสูงกว่ารายแรก

    แต่ผลที่จะทำให้ราคายางขึ้นทันที มันเป็นไปไม่ได้ มันต้องค่อยๆ ไต่ราคาขึ้นไปตามลำดับ และ คสช.ตั้งเป้าว่า ราคายางจะขยับขั้นไม่ต่ำกว่า 50 บาท และเป็น 60 บาท ต่อ กก.โดยเร็วที่สุด

    ส่วนผลการหารือระหว่าง พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้า คสช. กับอีก 6 องค์กร ชาวสวนยาง นำโดย นายเพิก เลิศวังพง ประธานชุมนุมเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (ขสยท) และได้ข้อสรุปมีมติร่วมกัน เป็นสองระยะดังนี้

    ระยะแรก เริ่มโครงการตั้งแต่ 1 กันยายน 2557

    1. อนุมัติเงินจำนวน 10,000 ล้านบาท ให้สถาบันเกษตรกรกู้ยืมใช้ซื้อยาง
    2. สนับสนุนสินเชื่อ ให้สถาบันเกษตรกรสร้างโรงงานแปรรูปยาง 5,000 ล้านบาท
    3. อนุมัติวงเงิน 15,000 ล้านบาท ให้เอกชนไทยเปลี่ยนเครื่องจักรให้ทันสมัย

    ระยะที่สอง เริ่มดำเนินการตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2557 เป็นต้นไป โดยมีระยะเวลาประเมินผลภายใน 2 เดือน

    1. ปรับโครงสร้างตลาดยางพาราใหม่ (เกษตร-พาณิชย์-คลัง) รับผิดชอบ
    2. หาตลาดใหม่เพื่อการส่งออก (พาณิชย์)
    3. สร้างแนวทางการใช้ยางภายในประเทศเพิ่มขึ้น (BOI)
    4. สร้างสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมยางพารา (เกษตร-อุตสาหกรรม)
    5. จัดโซนนิ่งการปลูกยางพารา เพื่อลดพื้นที่และปริมาณยาง (เกษตร-ทรัพยากร)
    6. โครงการลดต้นทุนการผลิตและการถ่ายทอดเทคโนโลยี (เกษตร)
    7. สร้างสถาบันวิจัยและพัฒนายางพารา ให้ได้มาตรฐานสากล (คสช.ให้ความสำคัญเรื่องนี้มากงบประมาณ 8,000 ล้านบาท )
    8. สร้างศูนย์ทดสอบยางล้อ (งบ 400ล้านบาท )

    ส่วนเรื่องขายยางในสต็อก คสช มีแค่การขอกรอบไว้ให้ระบายยางได้ แต่จะด้วยวิธีใดขอปกปิดเพื่อไม่ให้พ่อค้ายางรู้ทัน อยากรู้ให้คอยติดตามดูเอาเอง แต่รับรองว่าไม่กระทบกับราคายางในตลาดแน่นอน และ คสช.มีเป้าหมาย ขยับราคายางในประเทศให้มีราคาไม่ต่ำกว่า 60 บาทต่อกิโลกรัม

    นี่คือผลงาน 2 วัน ของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เปิดปุ๊บ ติดปั๊บ เหมือนตู้ ATM.. ในการแก้ปัญหายางพารา ที่ค้างมาจากรัฐบาลหลายยุคหลายสมัย ทิ้งปัญหาหมกหมมไว้ จากฝีมือบริหารฮ่วยๆ ของ รมต.ใส้เดือนเต้น แกนนำติดอาวุธแดง นปช.

    คนที่พูด "เผาไปเลยครับพี่น้อง" เป็นคนใต้ แต่ไม่เคยทำอะไร ต่อสู้เพื่อชาวสวนยางเลย แต่บิ๊กตู่ เกิดที่โคราช ลูกย่าโม กลับตัดสินใจฉับ และไม่ต้องพูดมาก พิรี้พิไร แก้ปัญหาให้ชาวสวนยางเท่าเทียมทุกภาค ทั่วประเทศ

    คสช.ได้ชวนตัวแทนชาวสวนยางที่กำลังเดือดร้อนจะก่อม็อบ มาสุมหัวนั่งคุยกัน และได้ข้อสรุปร่วมกัน แม้จะราคายางพารา จะไม่ขึ้นทันทีวันนี้ แต่ชาวสวนยาง และแรงงาน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับสวนยางพารา ทั่วประเทศ ก็จับต้องได้ถึงความจริงใจของ คสช.

    อีกทั้งได้มีโอกาสส่งตัวแทน มาร่วมคิดแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน จนเกิดการผลักดันงบประมาณถึงเกือบ 1 แสนล้านบาท ในการลงทุนและแก้ปัญหาราคายางพาราในระยะยาว เพราะการเดินม็อบก้ไม่ทำให้ราคายางพาราขึ้นได้ในวันนี้

    แต่การที่ได้รับรู้แนวทางแก้ปัญหาระยะเร่งด่วน กับระยะต่อเนื่อง ทำให้ชาวสวนยางสามารถวางแผนการผลิต และการดำเนินชีวิตให้ผ่านพ้นปัญหาครั้งนี้ไปให้ได้ พร้อมๆ กับคนไทยอีกกว่า 60 ล้านคน ที่เจ็บช้ำระกำใจ จากสมัยนักการเมืองมานานแสนนาน

    เมื่อมีตัวเลือกใหม่ คือ คสช.แม้จะเป็นเพียงแสงสว่างเดียวปลายอุโมงค์มืด แต่ก็ยังดีกว่าจมปลักอยู่กับอุโมงค์ที่ไร้แสงสว่างใดๆ เลย..และปลายอุโมงค์แห่งนี้ ก็มีเสียงเรียงจากทหาร พร้อมกำลังพลอีกจำนวนมาก ที่พร้อมจะมาจูงมือชาวสวนยาง กู้ภัยให้พ้นจากอุโมงค์นี้ สู่โลกภายนอกอย่างปลอดภัยในอนาคต

    ขอให้มั่นใจกัน ขอให้ไว้วางใจทหารเสือราชินีผู้นี้ เขากำลังทำตามสัญญาที่ให้ไว้ กับประชาชนทุกคน !!



    @ เสธ น้ำเงิน2

    ติดตามข่าวอื่นๆ ได้ที่...

    ***ทหารปฏิรูปประเทศไทย***

    ***แฉความลับ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 สิงหาคม 2014
  13. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    วันที่ 3 ส.ค.57 จับตาระวังภัย “ภูเขาไฟมหาประลัย” ที่อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน

    นักวิทยาศาสตร์เพิ่งรู้ไม่นานกี่ปีมานี้ว่า แท้จริงแล้ว
    อุทยานเยลโล่ว์สโตน ที่สวยงาม เก่าแก่ และเป็นที่รู้จักมากที่สุดในสหรัฐฯ แห่งนี้
    ตั้งอยู่เหนือภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกพอดิบพอดี

    และเยลโลว์สโตนมิได้เป็นเพียงภูเขาไฟธรรมดาๆ
    หากแต่เป็น มหาภูเขาไฟ (supervolcano) ที่ยังไม่ดับ
    มิหนำซ้ำยังทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย

    อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน(Yellowstone National Park)
    เป็นอุทยานแห่งแรกของโลก และของสหรัฐอเมริกา
    ตั้งอยู่ในเขตติดต่อสามรัฐได้แก่ ไวโอมิง มอนแทนา และ ไอดาโฮ
    แต่พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐไวโอมิง

    เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ มีพื้นที่กว่า มีเนื้อที่มากกว่า 5 ล้านไร่ หรือ 8,992 ตารางกิโลเมตร
    ภายในอุทยานประกอบไปด้วย ที่ราบสูงและภูเขาสูงมีหน้าผาชัน
    และมีทะเลสาบเยลโลวสโตน์

    เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีบ่อน้ำร้อน น้ำพุร้อนมากกว่า 10,000 แห่ง
    และ 250 แห่งเป็นบ่อน้ำพุร้อน

    ตอนนี้พบรายงานว่า แม็กม่าร้อนเหลว ได้ดันขึ้นมาจ่อที่ใต้ผิวพื้นดินมากๆ แล้ว ดังจะพบข่าวที่ผ่านมาเป็นระยะๆ ว่าขนาดถนนยางมะตอย ในอุทยาน ยังหลอมเหลวไหลเยิ้มไปแล้วหลายเส้นทาง

    ถ้ามันดันทะลุรอยแยกของผิวโลกขึ้นมาได้ จะได้เห็นการระเบิดที่รุนแรงอย่างที่มนุษย์ต้องตกตะลึง ลองดูสักก่อนวันที่ 10 ก.ย.57 นี้ ว่าแถวนั้นจะร้อนระอุปะทุขนาดไหน

    คนไทยที่อยู่อเมริกา หากอยู่ใกล้เคียง ให้สังเกตุสีท้องฟ้า ข่าวคราวพฤติกรรมสัตว์บก และสัตว์น้ำในรัศมีฯ และ น่าจะลองค้นหาคำเตือนภาวะฉุกเฉิน หากกรณีเยลโลส์สโตนระเบิดขึ้นมา ว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

    ถ้าไม่เกิดเหตุ ก็ถือเสียว่าเป็นการเตรียมตัว และเรียนรู้ไว้บอกลูกหลานรุ่นต่อไป


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    @ เสธ น้ำเงิน4
    https://www.facebook.com/thailandcoup
     
  14. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    วันที่ 6 ก.ย.57 ทหารทำตัวอย่างเกษตรทฤษฎีใหม่ให้ดูเป็นตัวอย่าง

    เนื้อที่ดินเพียงแค่นี้ ก็ทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามรอยพ่อได้ ทหารจึงทำให้ดูทีละขั้นตอน จากที่ดินผืนเล็กๆ ใหญ่กว่าเตียงนอนหน่อยเดียว ให้เปิดดูทีละรูป จนถึงรูปสุดท้ายที่ได้ปลาเพียบ ทำง่ายๆ แผ่นพลาสติกหนาแบบใส หรือขุ่น ก็เลือกหาซื้อในตลาดพวกร้านขายการเกษตรทั่วไป ขายเป็นตารางเมตรถูกมาก

    ส่วนผักตบชวาที่ใส่ครึ่งบ่อและเอาไม้กั้นครึ่งไว้ เพื่อบำบัดน้ำเสียโดยธรรมชาติ อีกทั้งมันจะบัง กรองความร้อนจากแสงแดดไว้ ดึงดูดแมลงน้ำ ทำให้ปลามาหลบร้อนใต้รากของผักตบฯ และกินแมลงน้ำ และกินรากผักตบฯ ไปด้วย ทำให้ระบบขับถ่ายปลาดี เป็นระบบเกื้อกูลทางนิเวศน์วิทยาขนาดเล็กอัตโนมัติ

    ทุกคนสามารถใช้พื้นดินข้างบ้าน ขุดสระเลี้ยงปลาไว้กินเองแบบสบายๆ และไว้พักผ่อนสายตาโยนอาหารเม็ดให้มันกิน ปลาพวกนี้ราว 4 เดือน จะตัวใหญ่กินได้ ที่เหลือจากกินก็ไปขายได้อีกด้วย ถ้าทำหลายบ่อ และปล่อยลูกปลาในระยะเวลาที่เหลื่อมเวลากัน ครั้งละ 1 เดือน ก็จะมีปลากินฟรี และเหลือขายทั้งปีทั้งชาติ

    บ้านที่อยู่ในเมืองก็ทำได้ ให้พ่อบ้านใช้วันหยุดค่อยๆ ขุดที่ว่างของบ้านไปเรื่อยๆ ขนาดตามชอบใจ ชวนลูกๆ มาช่วยกันหยิบจับ สอนเขาไปด้วย ส่วนแม่บ้านเป็นกองเชียร์ และกองเสบียง

    พอปลาตัวโตก็เอาเสื่อปูไปนั่งอ่านหนังสือตกปลากันในบ้านนั่นแหละ แล้วจะปิ้งย่างอะไรกันก็เต็มเหนี่ยว และถ้าปลูกผักสวนครัว ผักชี หอม กระเพรา พริก ตะไคร้ ฯลฯ ข้างๆ ปากบ่อด้วยงานนี้จบเลย ครบวงจร เด็กๆ สนุกด้วย ดีกว่าเล่นเกมส์อีก

    นี่แค่ที่ดินแค่นี้นะ ถ้ามีที่ดินมากกว่านี้ ก็แบ่งที่ดินเป็นส่วนๆ ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงปลา และอยู่อาศัย สามารถอยู่ได้แบบสบายๆ จะหน้าฝน หน้าแล้ง หน้าไหน ก็จะมีรายได้ตลอดปี..แค่ส่งลูกเป็นทหารเกณฑ์เพียงไม่นาน จะ ได้อะไรมากกว่าที่คิด !!

    ผืนดินของไทยอุดมสมบูรณ์มาก แค่โยนเมล็ดพืชผักลงดิน อีกไม่นานก็ได้กินแล้ว ขอเพียงคนไทยประยุกติ์มาใช้ อย่ารอวาสนา หรือ ความช่วยเหลือจากนักการเมืองทางเดียว

    คนไทยต้องปลดแอกตัวเองจากนักการเมืองท้องถิ่น และระดับชาติ ทำเกษตรทฤษฎีใหม่ จะได้ไม่ต้องไปก้มหัวให้กับเงินซื้อเสียง 500-1,000 บาท ให้เสียศักดิ์ศรี


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    @ เสธ น้ำเงิน3


    ***ทหารปฏิรูปประเทศไทย***


    ***แฉความลับ***
     
  15. น้องใหม่ 2008

    น้องใหม่ 2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    690
    ค่าพลัง:
    +1,906
    มาติดตามอ่านครับ จะได้รู้อะไรบ้าง ชอบจัง ตอนนี้เชียงรายอ่วม แผ่นตินไหว น้ำท่วม สุโขทัย พิษณุโลก ก็โดน ชาบชึ้งกับพระมหากรุณาธิคุณที่ประทานถุงพระราชทานก่อนเพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนของท่าน ถ้าเป็นคนอื่นต้องรอให้เป็นนายกก่อนถึงจะดำเนินการช่วยเหลือ ตอนนั้นน้ำก็มาถึงอยุธยาแล้ว ทางปราจีน ฉะเชิงเทรา ท่วมอยู่สองเดือน ไม่แก้ไข เอาเวลามาแก้กฏหมา ย้ำกฏหมาครับ เพื่ออะไรก็ไม่รู้ คนเชียงรายรักพ่อของเราให้เยอะๆนะครับ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
     
  16. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
  17. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    วันที่ 11 ก.ย.57 เผยโฉมหน้าชายชุดดำยิง ร่มเกล้า ทหาร และเจาะหัวเสื้อแดงปี 53

    จากเหตุการณ์เผาประเทศ ทำลายเมืองในปี 2553 กลุ่มผู้ชุมนุมก่อการร้ายติดอาวุธแดง นปช.โดยการสนับสนุนบงการของกลุ่มการเมืองเผาไทย ชักใยสัั่งการโดยคนแดนไกล ได้ มีการชุมนุม สร้างสถานการณ์ใช้อาวุธสงครามโจมตีก่อการร้ายสากล ต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ผู้หญิง เด็ก คนชรา แม้ค้า ฯลฯ ในเขตกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด

    สถานการณ์มีความรุนแรงจนรัฐบาล ต้องมีการประกาศ พรก.ฉุกเฉิน มีการใช้กำลังทหาร และ ตำรวจ ร่วมกันปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ในพื้นที่ต่าง ๆ จนเมื่อถึงวันที่ 10 เม.ย.2553 เวลาประมาณ 20.00 น. รัฐบาล มีการปฏิบัติการขอคืนพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง

    โดยเฉพาะบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนตะนาว และบริเวณข้างเคียง โดยใช้กำลังทหาร เป็นกำลังหลักในการปฏิบัติการ ขณะนั้นด้มีกลุ่มคนร้ายแดง นปช. แต่งกายเป็นชายชุดดำ ใช้อาวุธสงคราม M79 และปืนกลมือ ยิง และขว้างระเบิดใส่ทำร้ายทหาร ตำรวจ และจงใจยิงใส่คนเสื้อแดง จนบางคนหัวเปิดหลุดไปทั้งกระบิ

    เป็นเหตุให้มีทหาร ตำรวจ และคนเสื้อแดง ได้รับบาดเจ็บ และถึงแก่ความตาย จำนวนหลายราย อันได้แก่ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม กับทหารไทยที่ปกป้องชาติ เป็นต้น

    พฤติกรรมคนร้ายชายชุดดำ สังกัดกลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนแดง นปช.ดังกล่าว เป็นที่เคลือบแคลงสงสัยของสังคมตลอดมาว่า มีตัวตนจริงหรือไม่ และเป็นกองกำลังของฝ่ายใด แต่ทั้งหมดได้รับการปกป้องจากรัฐบาลเผาไทยในเวลาต่อมา และริดสีดวง ก็ดองเค็มคดี และเป่าคดีมาโดยตลอด

    ทำให้ความจริงไม่ถูกเปิดเผยต่อสังคม การปรองดองในประเทศเดินหน้าไม่ได้ ญาติพี่น้องคนเสื้อแดงก็เข้าใจผิดฝ่ายรัฐบาล และทหาร คดีก็ถูกดึงให้คาราคาซัง เรื่อยมายาวนานถึง 4 ปี

    ตำรวจ ระดับสูงและหน่วยต่างๆ ร่วมกับฝ่ายทหาร กองทัพภาคที่ 1 และ กอ.รมน. ส่วนปฏิบัติการคณะทำงานกฏหมายส่วนรักษาความสงบ คสช. จึงตีองการทำความจริงให้ประจักษ์ จึงได้ร่วมกันทำการสืบสวนสอบสวน รวมรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ

    จนเป็นที่แน่ชัด เชื่อได้ว่า มีกลุ่มบุคคลซึ่งเป็นชายชุดดำ สังกัดแดง นปช. บางการโดยคนแดนไกล อพนวยความสะดวกโดยเผาไทย ที่มีเป้าประสงค์ต้องการทำลายชาติ ได้ร่วมกันก่อเหตุร้ายในคดีนี้

    เจ้าหน้าที่จึงได้เสนอขออนุมัติต่อศาล และศาลได้ออกหมายจับบุคคลดังต่อไปนี้

    1.นายกิตติศักดิ์ หรืออ้วน สุ่มศรี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 2 ซ.รามอินทรา36 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ หมายจับศาลอาญา 1600/2557 ลงวันที่ 10 ก.ย.2557 (จับกุมแล้ว)

    2.นายธนเดช หรือไก่รถตู้ เอกอภิวัชร์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 328/22 หมู่ 2 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพ ฯ หมายจับศาลอาญาที่ 16001/2557 ลงวันที่ 10 กย.2557 (หลบหนีอยู่)

    3.นายวัฒนะโชค หรือโบ้ จีนปุ้ย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 17 ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ หมายจับศาลอาญาที่ 1602/2557 ลงวันที่่ 10 กย.2557 (หลบหนีอยู่)

    4.นายปรีชา หรือไก่เตี้ย อยู่เย็น อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 9 ต.อินทขิล ต.แม่แตง จ.เชียงใหม่ หมายจับศาลอาญาที่ 1603/2557 ลงวันที่ 10 กย.2557 (จับกุมแล้ว)

    5.นายรณฤทธิ์ หรือนะ สุริชา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 3 ต.กลางใหญ่ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี หมายจับศาลอาญาที่ 1604/2557 ลงวันที่่ 10 กย.2557 (จับกุมแล้ว)

    6.นายชำนาญ หรือ เล็ก ภาคีฉาย อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/126 หมู่ 6 แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ หมายจับศาลอาญาที่ 1605/2557 ลงวันที่ 10 กย.2557 (จับกุมแล้ว)

    7.นางปุณิกา หรืออร ชูศรี อายุ 39 ปี อยุ่บ้านเลขที่ 702/155 ซอยพหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ หมายจับศาลอาญาที่ 1606/2557 ลงวันที่ 10 กย.2557 (จับกุมแล้ว)

    สำหรับกลุ่มชายชุดดำ สังกัดแดง นปช. ภายใต้บงการเผาไทย ที่ร่วมก่อเหตุดังกล่าว ถูกตั้งข้อหาร้ายแรงว่า ร่วมกันมี และใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด จนทำให้ผู้อื่นตาย และบาดเจ็บ ,พกพาอาวุธปืนและวัตถุระเบิดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่มีเหตุอันควร

    รวมผู้ต้องหาจำนวน 9 คน จับกุมได้แล้วจำนวน 5 คน นำมาแถลงจ่าว 4 คน หลบหนี 3 คน ถูกยิงปิดปากจากผู้ว่าจ้างตายแล้ว 1 คน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่ารับจ้างมาจริง และยอมรับว่าร่วมกันสังหารทหารไทย ตามคำสั่งของผู้ว่าจ้าง เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งตำรวจกองปราบ ดำเนินคดี ทุกคนที่ถูกจับยอมรับสารภาพ

    ผู้ต้องหากลุ่มนี้มีความเชื่อมโยงกับ น.ส.กริชสุดา หรือ เปิ้ล สหายสุดซอย ที่ถูกหมายจับ และองค์การฮิวแมน ไรท์วอท ของมะกัน กดดันให้ทหารปล่อยตัว เพราะกลัวสาวเรื่องไปถึง CIA ของมะกันว่าร่วมวางแผนก่อการร้ายสากลในไทยด้วย

    เปิ้ล แดง นปช. ยังจัดซื้อจัดหาอาวุธสงครามจากชาติตะวันตก ให้กับผู้ต้องหา ที่ใช้อาวุธสงครามยิงใส่สถานที่ต่างๆ ไปทั่ว กทม. ก่อนหน้านี้ โดยพบหลักฐานสลิปการโอนเงินจำนวนมาก ให้กับผู้ต้องหาเหล่านี้ในบ้านของ น.ส.กริชสุดา

    เปิ้ล เป็นเลขาของ เมย์ชลบุรี ที่เป็นคนสนิทแนบแน่น ที่ รับงานมาจากคนแดนไกล มาอีกต่อหนึ่งด้วย ( ยังหนีอยู่ต่างประเทศ ที่สนับสนุนการล้มเจ้าในไทย ประเทศพวกนี้ จึงไม่ยอมส่งตัวคืนให้ไทย เพราะต้องการใช้งาน ก่อการร้ายทำลายประเทศไทยต่อ)

    ผู้ต้องหาที่ยังหนี 3 คน และยังไม่ติดต่อมอบตัว และ แฉ ซัดทอด จะมีความเสี่ยงถูกฆ่าปิดปาก จากแก็งค์เผาไทย และ นปช. เหมือนหลายคนที่โดนไปก่อนหน้านี้... เพราะกลุ่มแดง นปช.ก็ คือกลุ่มก่อการร้ายในไทย ที่คล้ายกลุ่ม IS ในซีเรีย และอิรัก ตอนนี้ ที่จะตามฆ่าคนเสื้อแดงพวกเดียว ที่ทำงานร่วมกันทุกคน


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    @ เสธ น้ำเงิน2

    ***ทหารปฏิรูปประเทศไทย***
     
  18. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    วันที่ 12 ก.ย.57 บิ๊กตู่ นายกฯ ประเดิมงานแรกลงพื้นที่น้ำท่วมสุโขทัย

    วันนี้หลังแถลงนโยบายรัฐบาลต่อ สนช.แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. พร้อม คณะ ได้ขึ้นเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงที่สนามบินพิษณุโลก ท่ามกลางการให้การต้อนรับจากข้าราชการ และพี่น้องประชาชนกว่า 500 คนอย่างอบอุ่น เรียกเรียกกรี๊ดเป็นระยะ

    จากนั้นได้ไปตรวจเยี่ยมประชาชนผู้ประสบภัยจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยเดินทางลงพื้นที่วัดกงไกรลาส หมู่ 10 ต.กงไกรลาศ อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย เพื่อร่วมรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์และการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของ จ.สุโขทัย พร้อมทั้งพบปะเยี่ยมเยือน และมอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชน

    จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเดินทางลงเรือเพื่อมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในเบื้องต้นที่บ้านเกาะกง หมู่ที่ 10 ต.กงไกรลาศ อ.กงไกรลาส ซึ่งบริเวณบ้านผู้ประสบภัยยังคงมีน้ำท่วมรายล้อมตัวบ้านสูงพอสมควร

    การลงพื้นที่ครั้งนี้ไปดูปัญหาที่เกิดในลุ่มน้ำยมทั้งระบบ แก้ปัญหาทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้ง เนื่องจากแม่น้ำยมคดเคี้ยวเป็นรูปตัวยู ทำให้มีปัญหาการระบายน้ำและทิศทางน้ำ การระบายน้ำไม่ดี ทำให้น้ำล้นตลิ่ง จึงได้นำคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงไปดูด้วย

    สถานการณ์น้ำทั่วประเทศมีน้ำท่วม 32 จังหวัด ขณะนี้เข้าสู่ภาวะปกติแล้วหลายจังหวัด รัฐบาลยืนยันจะแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด หลังจากนี้ทุกหน่วยงานจะลงพื้นที่สำรวจทั่วประเทศอีกครั้ง และจะให้การเยียวยาโดยเร็ว ประชาชนไม่ต้องกังวล

    บิ๊กตู่ ระบุ วันนี้มีการแถลงนโยบายแล้ว แต่ละกระทรวงจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนให้ทั่วถึง ดูปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชนทุกด้าน เราประกาศแล้วว่าจะเป็นรัฐบาลที่จริงใจ จริงจัง ยั่งยืน เข้ามาแก้ไขปัญหา เราไม่ใช่นักการเมือง ฉะนั้นจะต้องทำงานให้เป็นรูปธรรม และทำงานให้ประชาชนอย่างทั่วถึง


    [​IMG]

    [​IMG]


    @ เสธ น้ำเงิน2
    https://www.facebook.com/topsecretthai
     
  19. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    ไขปริศนา..ทำไมฝนมาน้ำท่วม ฝนขาดน้ำแล้ง ที่แท้เกิดจากขยันผิดทางของนักการเมือง

    คงมีหลายคนเคยตั้งคำถามในใจหลายครั้งว่าเมืองไทย เวลาฝนตกหนักมากทำไมน้ำท่วม และพอถัดจากนั้นไม่นาน ทำไมเกิดภาวะน้ำแล้งทันที น้ำที่เคยท่วมมันหายไปไหนหมดเร็วนัก ถ้าเปรียบเทียบกับเมื่ออดีตกาลหลายร้อยปี ฝนในเมืองไทยตกมากขึ้นกว่าก่อนจริงหรือ คำตอบเรื่องนี้ง่ายมาก

    ฝนตกมี 2 ลักษณะ คือ ฝนที่เกิดจากไอน้ำระเหยจากป่าไม้ หรือแหล่งน้ำจืดบนแผ่นดิน ขึ้นไปควบแน่นในชั้นบรรยากาศ จนกลายเป็นก้อนเมฆ และตกกลับลงมาบนโลกอีกครั้ง เป็นการรักษาสมดุลตามธรรมชาติโดยอัตโนมัติ

    กับฝนอีกประเภท คือ เป็นเมฆฝนที่เกิดจากไอน้ำในทะเล แล้วถูกลมมรสุมที่ก่อตัวขึ้น ในทะเลแถบฝั่งอันดามัน หรือ ฝั่งทะเลจีนใต้ พัดเข้าหาฝั่ง แล้วมาตกที่ประเทศไทย ฝนประเภทนี้จะตกบ่อย และตกตลอดปี ในเขตภาคใต้ของไทย ทำให้อากาศร้อน กับ หนาว ไม่ค่อยต่างกันมากนัก

    และช่วงเดือน มิ.ย.- ต.ค.ของทุกปี จะเกิดพายุใหญ่ในฝั่งทะเลจีนใต้ พัดเข้าหาฝั่งภาคเหนือ และอีสานของไทย ปีละหลายลูก เป็นแบบนี้มานานหลายร้อย หลายพันปีแล้ว เนื่องจากไทยอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร และอยู่ในเขตร้อนชื้น

    สมัยก่อน แม่น้ำลำคลองสายหลักภาคเหนือ คือ ปิง วัง ยม น่าน รวมกันที่ปากน้ำโพ นครสวรรค์ กลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลผ่านอีกหลายจังหวัดภาคกลาง จนผ่าน กทม. และไหลลงไปรวมกับน้ำทะเล แม่น้ำทั้ง 4 สายจากเหนือ จะมีเขื่อนกั้น หลายเขื่อน เช่น เขื่อนกิ่วลม เขื่อนภูมิพล เขื่อนสริกิติ์ เขื่อนนเรศวร ฯลฯ

    เพื่อวัตถุประสงค์หลัก ใช้ในระบบชลประทานทางการเกษตร และมีผลพลอยได้เป็นการผลิตกระแสไฟฟ้า เมื่อเวลาผ่านไป ช่วงไม่กี่สิบปีผ่านมานี้ ในภาคเหนือของไทย มีกลุ่มนายทุน และนักการเมือง พรรคใหญ่ๆ ที่หมุนเวียนกันเข้ามาเป็นรัฐบาล ครองอำนาจ จึงมีการลักลอบตัดต้นไม้ใหญ่ในป่ากันขนานใหญ่ บางคนเป็นถึงหัวหน้าแก็งค์การเมืองเผาไทย

    ส่งผลให้ต้นไม้ใหญ่ ถูกตัดโค่นเอาไปขาย พื้นที่ป่าไม้ของไทยลดลงอย่างฮวบฮาบ ไอน้ำที่จะระเหยจากป่า และแหล่งน้ำจืด ไปควบแน่นเป็นเมฆฝนมีไม่พอเพียง ฝนประเภทแรกที่เกิดจากป่าไม้ เริ่มไม่ตกต้องตามฤดูกาลปกติ ฤดูแล้งจึงยาวนานขึ้นกว่าอดีตกาล แต่สังเกตุว่าฤดูแล้งนี้ไม่มีผลกระทบต่อภาคใต้นัก เพราะภาคใต้เป็นฝนประเภทที่ 2 จากมรสุม

    เมื่อเข้าสูฤดูมรสุมฝนประเทศที่ 2 พัดเข้ายังพื้นที่ภาคเหนือ และอีสาน เกิดฝนตกหนัก แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปเห็นได้ชัดในระยะหลังราว 10 กว่าปีมานี้คือ จะเกิดท่อนซุงไหลมาพร้อมกับน้ำป่า เช่น แถวอุตรดิตถ์ แพร่ เพชรบูรณ์ ฯลฯ

    และระยะถัดมาจนถึงทุกวันนี้ ก็จะพบเหตุการณ์ดินถล่ม สไลด์ลงหมู่บ้าน ถนน ที่ลุ่มด้านล่าง เช่น เชียงราย แพร่ อุตรดิตถ์ ฯลฯ นั่นเป็นดัชนีสำคัญชี้ว่าไม่มีต้นไม้ใหญ่ ในการยึดหน้าดินไว้ และช่วยชะลอความแรงของน้ำจากที่สูง ลงที่ต่ำ และจะสังเกตุได้ว่าน้ำที่ไหลเชี่ยวจากภูเขานี้ไม่ใสเหมือนในอดีต แต่มีสีแดงขุ่นคลั่กจากดินลูกรังบนภูเขา

    ย่อมชี้ชัดลงไปได้อีกว่า ดินบนภูเขาสูง ชนิดลูกรัง ได้ถูกน้ำพาลงมาเบื้องล่างตลอดเวลาหลายสิบปีมานี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ดินพวกนี้ก็จะไหลลงไปที่ต่ำสุดของแต่ละบริเวณภูมิประเทศ และสะสมพอกพูนชั้นหนาขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี จุดนั้นก็คือก้นลำคลอง ซึ่งก็จะไหลลงแม่น้ำอีกที ดินตะกอนพวกนี้ก็จะไหลลงมาสะสมตรงกลางแม่น้ำ

    เราจะสามารถพบเห็นปรากฎการณ์นี้ได้ชัดเจน ที่ตรงแม่น้ำปิง ที่ไหลผ่านตัวเมืองจังหวัดตาก และตัวเมืองกำแพงเพชร , แม่น้ำน่านที่ไหลผ่านพิษณุโลก พิจิตร , แม่น้ำยมที่ไหลผ่านแพร่ , สุโขทัย , พิษณุโลก , พิจิตร , นครสวรรค์ และ แม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลผ่านนครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา ฯลฯ

    ในยามฤดูแล้ง จะพบเป็นเกาะแก่งอยู่กลางลำน้ำมากมาย จนเป็นอุปสรรคต่อร่องน้ำการเดินเรือแบบสมัยโบราณ เกาะแก่งต่างๆ จำนวนมากพวกนี้นานวันเข้า ก็มีขนาดใหญ่พอกพูนขึ้นเรื่อยๆ จนขนาดความกว้าง และความลึกของแม่น้ำเหลือนิดเดียว ความจุปริมาตรน้ำ จึงลดลงตามไปด้วย

    ต่อมาก็มีเกษตรกรไปปลูกพืชกันที่เกาะกลางแม่น้ำซะเลย เช่น ข้าวโพด อ้อย พืชสวนครัว บางที่ไปปลูกที่อยู่อาศัยบนเกาะนั่นไปเลย ต่อมาก็ปลูกต้นไม้ยืนต้นเข้าไปอีก สนุกกันใหญ่ แถมสันดอนทรายที่กว้างใหญ่บางจังหวัด ก็ทำเป็นสนามฟุตบอล บาสฯ ตะกร้อ ฯลฯ ไปซะด้วย

    หลักการฟิสิกส์ง่ายๆ เราทดลองใช้ถังน้ำแล้ว ใส่น้ำให้เต็ม เราก็จะรับปริมาณน้ำใช้ได้มาก 100% ต่อมาเราค่อยๆ เททรายใส่ถังน้ำไปเรื่อยๆ น้ำก็จะค่อยๆ ไหลออกจากถัง เพราะทรายไปแทนที่น้ำ จนเมื่อทรายอยู่ในถังได้ 75 % ของความจุ แสดงว่าน้ำก็เหลืออยู่ในถังจะมีได้เพียง 25% ของถังเท่านั้น

    ส่วนน้้ำของเดิมอีก 75% ของถัง ก็ต้องล้นออกมาทิ้งเปล่าประโยชน์ไปเฉยๆ พอเราต้องการจะใช้น้ำนั้นขึ้นมาจริงๆ เราก็เหลือน้ำใช้เพียงแค่ 25% เท่านั้น มันไม่ใช่ 100 % ตามความต้องการแต่แรก เราจึงไม่มีน้ำพอใช้ตามความต้องการ..” เมื่อดินไปแย่งที่อยู่น้ำ น้ำก็ต้องหาที่อยู่ใหม่ไปแย่งที่อยู่ดิน “ ..ธรรมชาติมันสมดุลกันเสมอ

    นึกภาพตามก็จะคิดออกว่าดินทรายที่อยู่ในถังนั่นแหละ ก็คือ ดินจากภูเขาที่ไหลมาทับถมในแม่น้ำลำคลองจนตื้นเขิน เมื่อน้ำไหลมามาก น้ำก็ไม่มีที่อยู่ จึงล้นขึ้นตลิ่ง 2 ฝากฝั่ง และท่วมบ้านเรือนประชาชน จากนั้นน้ำพวกนี้ก็ไหลลงทะเลทิ้งไปเฉยๆ

    พอฝนหมดฤดูน้ำหลาก น้ำจากภาคเหนือไม่ไหลมาเพิ่ม น้ำในแม่น้ำที่ตื้นเขิน เหลือ 25% ความจุ ก็ถูกประชาชน 2 ฝั่งรุมดูดไปใช้ ทำประปา ทำการเกษตร และระเหยไปตามธรรมชาติ แม่น้ำถูกแทนที่ด้วยดินตะกอน ไม่นานเท่าไร น้ำก็หมดเกลี้ยงจากแม่น้ำอย่างรวดเร็ว ราวปาฏิหารย์

    ยามหน้าแล้ง จุดที่น้ำเคยท่วม เช่น แถวรอยต่อพิจิตร กับนครสวรรค์ จึงไม่มีน้ำติดก้นแม่น้ำเลยสักหยด ประชาชนจึงเดือดร้อนแสนสาหัสกว่าฤดูน้ำหลากเสียอีก ไม่มีน้ำประปาใช้ ไม่มีน้ำอุปโภคบริโภค เพราะน้ำคือปัจจัยพื้นฐานยังชีพของมนุษย์

    ทีนี้ก็เกิดมีนักการเมืองหัวใส ผลักดันโครงการก่อสร้าง "พนังกั้นขอบแม่น้ำ" เพราะลำน้ำยิ่งยาวเท่าไร มันหมายถึงเงินทอนเข้ากระเป๋ากลุ่มการเมืองเท่านั้น ประจวบกับข้าราชระดับจังหวัด ที่ถูกย้ายหมุนเวียนมาอยู่ ไม่ทันศึกษางาน ก็ถูกนักการเมืองบีบบังคับด้วยอำนาจรัฐระดับรัฐบาล

    ให้ทำโครงการก่อสร้างพนังกั้นขอบแม่น้ำ โดยมีนักการเมืองคอยชง และรับลูกในรัฐบาล จึงเกิดพนังกั้นแม่น้ำ เขื่อนกั้นลงหิน สารพัดจะคิดทำขอบกั้นแม่น้ำ ให้เหมือนรางน้ำฝน ส่วนอีกทาง นักการเมืองก็ผลักดันโครงการ สร้างถนนลาดยางขนาดใหญ่ ตัดผ่านเส้นทางที่ตนเองไปซื้อที่ดินดักหน้าไว้

    เพื่อเพิ่มมูลค่าในการพััฒนาที่ดินตนเอง และกลุ่มการเมือง ยังได้เงินทอนจากการสร้างถนนอีกด้วย สร้างแล้วไม่นานก็พังอีก ก็ถมดินสูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่สร้าง จนบ้านเรือนประชาชนข้างทาง กลายเป็นต่ำกว่าถนนเป็น 1-2 เมตร..ไปดูได้เลยว่าบ้านใครเจอแบบนี้บ้าง..เพียบ

    สถานการณ์น้ำท่วม ของจังหวัดสุโขทัย จนประชาชนเกิดความเดือดร้อนจำนวนมากในขณะนี้ นั่นคือผลพวงจากการพัฒนา ที่มุ่งแต่ผลประโยชน์จากงานก่อสร้าง ที่ฝืนธรรมชาติ ในภาพคือถนนสายหนึ่งในจังหวัดสุโขทัย เมื่อน้ำท่วมลดลง ถนนก็ขาดพังชำรุดเสียหายจนสิ้น และจะสังเกตุเห็นระดับน้ำ 2 ฝากถนนที่ต่างกันชัดเจนมาก

    นั่นหมายความว่า การก่อสร้างถนนเส้นนึ้ กีดขวางเส้นทาง บล็อกการไหลของน้ำ จากที่สูงลงไปที่ต่ำ เสมือนเป็นคันกั้นน้ำขนาดเล็ก แต่ยาวมากนั่นเอง เมื่อน้ำไหลบ่ามาจากเทือกเขาทางจังหวัดแพร่ กว่าน้ำจะไหลผ่านทะลุไปได้ จะต้องเจอกับถนนแบบนี้กั้นขวางการไหล จำนวนมากนับถนนไม่ถ้วน

    ส่งผลให้ประชาชน 2 ฝากทาง และ ที่สร้างบ้านในตามที่ลุ่ม ต่างพลอยรับกรรม จากโครงการสร้างถนนของนักการเมือง กลายเป็นลอยคอ อยู่กลางกระทะขนาดใหญ่ โดยมีขอบกระทะคือถนนนั่นเอง..และนักการเมืองก็จะใส่รองเท้าบู๊ทสีชมพูราคา 4 หมื่นมาเยี่ยม เดินบนสะพานไม้ แล้วให้สัมภาษณ์นักข่าวว่า “ จังหวัดสุโขทัยธรรมาธิราช “ เอาอยู่

    ถนนแบบนี้มันสะดวกยานพาหนะเฉพาะยามฤดูไม่มีน้้ำไหลหลาก แต่เมื่อไรก็ตามน้ำมาก มันจะกลายเป็นทุกข์ เพราะจะเปลี่ยนสภาพเป็นคันกั้นน้ำ ให้ขังท่วมบ้านเรือนประชาชน ที่ติดกับดักในวงล้อมของถนนเสียเอง ทีนี้เมื่อถนนขาดแบบในภาพ น้ำในอ่างก็จะพุ่งพรวดลงที่ต่ำทันที ซึ่งคือลำคลอง มุ่งสู่แม่น้ำในที่สุด พร้อมกับตะกอนดิน

    เมื่อน้ำไหลลงแม่น้ำมากๆ พนังกั้นขอบแม่น้้ำ เขื่อนเรียงหิน ที่ทำไว้สูงท่วมหัวก็เอาไม่อยู่ น้ำก็ล้นขอบพนังที่กั้น มาท่วมบ้านเรือนประชาชน ที่เป็นชุมชนการค้าขนาดใหญ่ทันที และสร้างความเสียหายให้รถยนต์ และทรัพย์สินอื่นๆ จำนวนมากในแต่ละปี

    นักการเมืองก็จะพยายามผลักดันของบ สร้างต่อเติมพนังกั้นขอบแม่น้ำให้สูงขึ้นไปอีก และมีขนาดความยาวเพิ่มอีก เป็นวัฎจักรแก้ปัญหาปลายเหตุ แบบกำปั้นทุบดิน งูกินหาง ไม่มีจบ ไม่มีสิ้น และนักการเมืองก็ได้เงินทอนทุกครั้ง ที่ผลักดันโครงการสำเร็จ จนร่ำรวยอู่ฟู่

    แต่กลับไม่ค่อยพบนักการเมือง หรือท้องถิ่น อบจ. เคยคิดจะทุ่มงบประมาณ "ขุดลอก" เอาดินตะกอนที่กลางแม่น้ำขึ้นมา ยามช่วงฤดูแล้ง เพราะทำได้แสนง่ายดาย ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีทางวิศวกรรมอะไรมาก ระดมเอาเครื่องจักรขุดดินขึ้น ขุดให้ลึก และกว้างที่สุด เท่าที่จะทำได้

    สามารถแบ่งทำเป็นโซนๆ ตามหลักวิศวกรรม และทำทุกปีเป็นงานประจำ บรรพบุรุษของเรา เขาก็อาศัยลำน้ำนี้มาตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา กรุงธนบุรี กรุงเทพ ฯ โดยอยู่กับแม่น้ำแบบสมดุลมาแล้ว

    ตรงใดมีน้ำมากหน่อย ก็ใช้เรือโป๊ะและเครื่องจักร ดูดดินขึ้นมาไปถมยังจุดลุ่มต่ำ ตรงใดเป็นทราย ก็ขุดไปทำงานก่อสร้างอาคาร แม่น้ำ ลำคลอง ก็จะลึก และกว้าง สามารถรองรับปริมาณน้ำได้มากขึ้น ฤดูน้ำหลากก็เฉียบ ฤดูน้ำแล้งก็ชิวๆ

    มันก็มีค่าเดียวกับทำพนังกั้นขอบแม่น้ำนั่นแหละ แต่มันใช้งบการขุดน้อยนิดกว่าทำพนังกั้นขอบหลายสิบเท่า ก็เท่านั้นเอง เพราะมันมีค่าใช้จ่ายแค่ค่าน้้ำมันเชื้อเพลิง ค่าจ้างคนขับรถขุด ค่ารถแบ็คโฮ ค่ารถดั้มขนดินออกไปเท ค่าสึกหรอซ่อมแซม

    มันไม่มีค่าอิฐ หิน ดิน ทราย อะไรให้ตีองมีเงินทอน โครงการประเภทนี้ กลุ่มการเมืองจึงคิดไม่ออกจริงๆ มันยากและซับซ้อนเหลือเกิน มึนหัวไปหมด ที่ผ่านมาเลยไม่มีใครอยากทำแก้ปัญหาเส้นผมบังภูเขานี้ ที่แก้ได้ทั้งปัญหาน้ำมาก และน้ำน้อย

    ฤดูน้ำหลาก แม่น้ำลำคลองที่ลึกและกว้าง ผสานกับแก้มลิงทั้งหลาย จะสามารถรับปริมาณน้ำได้มากขึ้น ลดความเสี่ยงเสียหายจากภาวะน้ำท่วม ยามหน้าแล้ง น้ำที่เหลือขังอยู่ในจุดที่ลึกของแม่น้ำลำคลอง ก็มีปริมาณมากเพียงพอที่จะทำการเกษตร ประปา ตลอดลำแม่น้ำ จนกว่าฤดูฝนรอบใหม่จะมา ส่วนเขื่อนที่มีน้ำกักไว้ไม่ถึง 50 % ก็ไม่ต้องปล่อยน้ำมามากให้เกษตรกร

    ถ้าจังหวัดใดไม่อยากให้น้ำท่วม หรือน้ำ แล้งน้ำ ตลอดลำน้ำ ที่ไหลผ่านแต่ละจังหวัด ต้องอย่าต่างคนต่างทำ เพราะแบบนั้นไม่ได้ผล ต้องมานั่งรวมตัวกันเป็นกลุ่มจังหวัด เอาแผนที่ภูมิศาสตร์แม่น้ำลำคลองมากาง และวางแผนขุดลอกคลอง กับแม่น้ำด้วยกัน

    ระดมขุดดินสันดอน กลางแม่น้ำออกไปให้หมด ไม่ให้มีเหลือหรอ หน่วยงานใดทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง ให้ทหารไปเคลียร์ งดการสร้างพนังกั้นขอบแม่น้ำ ประหยัดเงินเอาไปเป็นค่าน้ำมันรถขุด ไม่เกิน 3 ปี ระบบจัดการน้ำจะกลับมาสมดุลเหมือนสมัยก่อนอีกครั้ง

    ขณะเดียวกัน ใครรุกล้ำตลิ่งแม่น้ำ ส่งผลให้ความกว้างแม่น้ำลดลง ก็บังคับใช้กฎหมายแบบเข้มงวด มันต้องมีวาระแห่งชาติในการจัดการแม่น้ำ ลำคลอง ทั้งประเทศ โดยวิธีการ " ขุดลอก" แบบขนานใหญ่เลย

    เพราะหลายสิบปีแล้ว ที่นักการเมืองไทยขยันสร้างแต่ถนนกันลูกเดียว ถ้าขยันขุดลอกคลอง กับแม่น้ำ เหมือนขยันทำถนน ป่านนี้คลอง และแม่น้ำ คงลึกเป็นทะเล เผลอๆ ลึกไปถึงแกนโลกแล้วด้วยซ้ำ !!

    คนเป็นนักการเมืองต้องมีวิสัยทัศน์ ต้องคิดแบบ "แมลงวัน" ไม่ใช้คิดแบบ "ผึ้ง" ถ้าหากใครลองจับเอาผึ้ง 6 ตัวใส่ในขวดใส และจับแมลงวันอีก 6 ตัวใส่ในอีกขวดหนึ่ง จากนั้นค่อยๆ วางขวดให้นอนลง เปิดฝาขวดออก หันก้นขวดไปทางหน้าต่าง แล้วสังเกตพฤติกรรมแมลงทั้ง 2 ชนิด

    จะพบว่าผึ้ง จะพยายามที่จะบินออกทางก้นขวด แต่มันก็ชนผนังอยู่แบบนั้น จนกระทั่งมันตายจากการขาดอากาศ หรืออดอาหาร ในขณะที่แมลงวัน จะสามารถบินออกมาทางฝั่งคอขวด ที่อยู่ด้านตรงข้ามกับก้นขวดได้

    เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า คนทั่วไปมักเชื่อว่า ผึ้งเป็นสัตว์ที่ฉลาด มีองค์ความรู้ พวกมันรู้ว่าการบินไปในทิศทางที่มีแสงสว่าง จะเป็นทางออกจากรัง โพรงไม้ ฯลฯ แต่เมื่อต้องมาอยู่ในขวด ซึ่งเป็นสถานการณ์ ที่ผึ้งไม่เคยเผชิญมาก่อน มันก็ยังคงเชื่อในความคิดแบบเดิม ที่มีมาตลอด คือ ต้องบินออกทางแสงสว่างเท่านั้น

    แต่สำหรับเจ้าแมลงวัน มันเป็นสัตว์ที่ไม่มีความคิดเป็นตรรกะ ดังนั้นเมื่อถูกจับไว้ในขวด มันจึงบินชนผนังขวด จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งไปเรื่อยๆ จนในที่สุดมันก็พบทางออกที่ปากขวด

    การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่า คนฉลาด รู้มาก ก็สามารถที่จะล้มเหลวได้ เพราะความรู้มาก ในขณะที่ผู้ไม่รู้ หรือคิดพื้นๆ ก็อาจจะประสบความสำเร็จจากการลองทำ ในสิ่งที่แตกต่างไปเรื่อยๆ ได้เช่นกัน

    จึงสอนใหันักการเมืองหัด “คิดนอกกรอบ” บ้าง ลองคิดแบบแมลงวัน และหยุดคิดแบบผึ้ง จะพบทางแก้ปัญหาให้กับประชาชนในระยะยาว !!


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    @ เสธ น้ำเงิน4
    https://www.facebook.com/topsecretthai
     
  20. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    [​IMG]

    ขอไว้อาลัยแด่ท่านค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...