แก้วมณีโชติ สิ่งวิเศษสูงสุดในโลกิยภูมิ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jets-one, 5 กรกฎาคม 2011.

  1. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    เอามอเตอร์ไซด์คืน
    ขณะที่ผมนั่งเขียนต้นฉบับนี้ พี่ดาบใบโทร.มาเล่าเรื่องให้ทราบว่า ไม่กี่วันมานี้ มีเพื่อนตำรวจที่เชียงใหม่โทร.มาแจ้งให้ทราบว่า รถมอเตอร์ไซด์ที่จอดอยู่ใต้ถุนแฟลตตำรวจ 7 ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย พี่ดาบทราบดังนั้นจึงยกมือไหว้ระลึกถึงองค์พ่อ ๑๖ และพ่อจิตรา พ่อจินดา อธิษฐานว่า พ่อช่วยให้พวกโขมยนำรถมาคืนให้ด้วยเถิด จากนั้นแกก็เดินทางไปเชียงใหม่ ก็พบว่ารถของแกถูกนำไปจอดใต้ถุนแฟลต 8 แต่หมายเลขทะเบียนและบังโคนรถถูกเปลี่ยนไป แต่หมายเลขรถตรงกัน พวกเพื่อนตำรวจถามด้วยความแปลกใจว่ามันเป็นไปได้ยังไงไอ้เพื่อน คนที่อยู่ที่นี่ รถมอเตอร์ไซด์หายมาเป็นสิบคันแล้วไม่มีใครเคยได้กลับคืน แต่ของนายกลับได้คืน นายมีของดีอะไร พี่ดาบว่า กูมีองค์พ่อโว้ย องค์พ่อของกูศักดิ์สิทธิ์ พวกเพื่อน ๆ ก็ถาม ว่า องค์อะไรของมึง พี่ดาบไม่บอก
     
  2. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    สัมภาษณ์เจ๊เล็ก
    สุภาพสตรีอีกท่านหนึ่งที่มีความสนิทชิดใกล้กับองค์ญาณมาก ๆ จนองค์ญาณนับถือเป็นพี่สาวและเป็นแม่คนที่สอง คือเจ๊เล็ก หรือคุณสถาพร ศรีหิรัญรัตน์ เจ้าของร้านเงินไหลมาราชาวีดิโอ อยู่ใกล้ ๆ กับสี่แยกโชคชัย ผู้เขียนได้รู้จักกับองค์ญาณผู้ถือครองเหล็กไหลโกฏิปีก็เพราะเจ๊เล็กนี่แหละที่เป็นสื่อนำพาให้มาพบกัน เพราะเจ๊เล็กขายนิตยสารทุกประเภท อยู่ว่าง ๆ ก็นั่งอ่านหนังสือ จนรู้จักหมอเมือง ก็เลยชวนองค์ญาณมารู้จักกับหมอเมืองด้วย
    อยู่มาวันหนึ่ง ผมโทร.นัดองค์ญาณเพื่อสัมภาษณ์เรื่ององค์พ่อเหล็กไหล หรือพ่อจิตรา องค์ญาณก็นัดหมายให้พบกันที่บ้านเจ๊เล็ก องค์ญาณอยู่ในชุดกางเกงและเสื้อสีดำ ไปรอรับผมที่สี่แยก พาไปบ้านเจ๊เล็ก เมื่อผมคุยกับเจ๊เล็ก องค์ญาณบอกว่ารู้สึกเพลีย ง่วง ขอตัวนอนสักครู่นะคะ คุยกันตามสบายนะ เธอก็เอนตัวนอนบนตั่งข้าง ๆ นั่นเอง
    “เจ๊ครับ รู้จักองค์ญาณมาหลายปีแล้วหรือ” ผมยิงคำถาม เจ๊ตอบว่า “ตั้งแต่ พ.ศ.2546 “ ผมถามว่า “เพราะเหตุใดจึงมารู้จักกัน” เจ๊ตอบว่า “ฉันถูกจับข้อหาจำหน่ายซีดีเถื่อน ละเมิดลิขสิทธิ์ ฉันไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร พ่อเด็กก็ตายไปหลายปี ฉันก็ทำมาหาเลี้ยงลูกอยู่คนเดียว พอดีน้องสาวบอกว่ามีคนช่วยได้ เป็นเพื่อนของเขาเอง เขาจึงพาฉันไปรู้จักองค์ญาณ ๆ จึงวิ่งเต้นช่วยเหลือฉันจนหลุดคดี ช่วงนั้นฉันไม่รู้หรอกว่าแกมีของดี หรือเป็นร่างขององค์ไหน เพราะแกปกปิดตัวเอง คนแถวนี้ไม่มีใครรู้จัก แกเก็บตัวราวกับแม่มด และชอบเที่ยวไปอยู่ประเทศนั้นประเทศนี้ กลับมาว็อบ ๆ แว็บ ๆแล้ว แกก็ไปอีก มาทราบเอาภายหลังว่าแกหลบหนีจากการเป็นร่างทรงขององค์พ่อ ฉันมาสนิทตอนที่แกกลับมาล้มป่วย เพราะพ่อไม่ยอมให้ไปไหน ป่วยจนคลานสี่ขา ฉันก็เทียวดูแลเอาใจใส่ ฉันจึงรักเหมือนน้องสาวจริง ๆ “
    “ตั้งแต่รู้จักกับองค์ญาณ ได้พบกับเหตุอัศจรรย์บ่อยมั้ยครับ ?” ผมถาม
    “หลานชายของฉันนะ มีอยู่วันหนึ่ง ฉันจุดธูปอยู่ชั้นล่าง แกก็รู้ว่าฉันจุดธูปบูชาพ่อเหล็กไหล แกอยู่ข้างบนได้กลิ่นธูปจึงตะโกนลงมาว่า “ป้า ถ้าปู่เหล็กไหลแน่จริง ขอให้ควันธูปที่ป้าจุดจงเป็นลำลอยขึ้นมาในห้องให้เห็นหน่อยสิ แค่นั้นแหละคุณเอ๋ย สักครู่แกวิ่งลงมาด้วยความตื่นเต้น บอกว่า “ป้า ๆ ๆ ผมเชื่อแล้วว่าปู่เหล็กไหลเก่งจริง ๆ ดูสิ ควันธูปลอยเป็นลำขึ้นไปถึงในห้องเลย” ตั้งแต่นั้นไอ้หลานคนนี้ก็เคารพนับถือพ่อปู่จริง ๆ ไปขึ้นบายศรีมอบตัวเป็นศิษย์ แกไปไหนก็ระลึกนึกถึงปู่เสมอ คราวหนึ่งไปเที่ยวพัทยา นั่งรถสองแถวแดง วางกระเป๋าไว้ข้าง ๆ พอลงจากรถกลับลืม กว่าจะรู้ตัวรถก็ผ่านไปไกลแล้ว จึงตะโกนว่า “พ่อช่วยด้วย ๆ” แล้วแกก็รีบเรียกมอเตอร์ไซด์ติดตามไป ไปพบรถสองแถวคันนั้นจอดรออยู่ข้างทาง เจ้าของรถถือกระเป๋ารออยู่ แกถึงยอมรับว่าพ่อแน่จริง ๆ
     
  3. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    มีอยู่คราวหนึ่ง ฉันซื้อหัวว่านซึ่งมีลักษณะเหมือนหัวหอม คนขายมันเอาต้นที่งอกใบและดอกให้ดูด้วย ฉันเห็นดอกมันสวยจึงซื้อไว้ พอองค์ญาณมาที่บ้านฉันจึงมอบให้ไป เขาก็ชวนฉันไปบ้าน ให้ฉันเอาหัวว่านลงกระถาง แล้วเขาก็เอาน้ำทิพย์ขององค์พ่อมารด แล้วตบที่ข้างกระถางว่า ถ้าองค์พ่อเก่งจริงขอให้ว่านนี้งอกใบและดอกให้เห็นในวันพรุ่งนี้เช้า ฉันได้ยินก็ขำ ๆ นะ ไม่เชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องจริง พอเช้าวันรุ่งขึ้นองค์ญาณก็โทร.เรียกฉันว่า เจ๊..มาดูความอัศจรรย์เร็ว ต้นว่านมีดอกให้เห็นแล้ว ฉันก็รีบไปดู คุณเอ๋ย มันเหลือเชื่อ ดอกสีแดงบานเป็นกรวยแตรสวยงาม พร้อมก้านดอกยาวเกือบคืบ แถมมีใบให้ดูอีก มันเป็นเรื่องอัศจรรย์เหลือเชื่อ ฉันจึงยอมรับว่าพ่อวิเศษจริง ๆ
    อีกคราวหนึ่ง ฉันอยู่กับองค์ญาณที่บ้านสวน แกโกรธอะไรของแกไม่รู้ ยกนิ้วชี้ต้นกระถินนรงค์ ต้นใหญ่ขนาดต้นเสา แกพูดว่า “มึงล้มเดี๋ยวนี้นะ ๆ ๆ “ ทันใดนั้นต้นกระถินต้นนั้นก็โค่นแบบถอนรากถอนโคนคล้ายถูกพายุใหญ่ ฉันตกใจยืนตาค้าง คิดว่า นี่ฉันอยู่กับแม่มดหรือไง และเวลาล้มก็ไม่ได้ล้มไปทางบ้านเขาด้วยนะ ไม่มีอะไรเสียหายเลย
    หมอ รู้มั้ยว่าก่อนที่หมอจะมาพบองค์ญาณ พ่อลงมาประทับร่างองค์ญาณ บอกว่า อีผีเขื่อนตา มึงรอดูนะ อีกเดือนกว่า ๆ อีคำก้อนจะได้พบกับคู่บุญของมัน มันเคยเป็นศิษย์ข้า เคยนั่งภาวนาแข่งกันใต้ต้นพิกุล ว่าใครจะบรรลุก่อนกัน แล้วมันก็แข็งเป็นหินด้วยกันทั้งคู่ (แข็งเป็นหินคือแข็งทื่อ เอาเข็มแทงยังไม่เข้าเลย เป็นการบรรลุฌานระดับสูง) มันมาคราวนี้มันจะมาชักนำกันสร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ ข้าจะช่วยมัน“ (เหตุการณ์ที่ท่านเล่าจะผ่านมากี่แสนกี่ล้านปีก็ไม่รู้ได้ เพราะถามท่านแล้ว ท่านบอกว่ามันนานจนนับไม่ได้ )
    พอเจ๊เล็กเล่าถึงตอนนี้ องค์ญาณก็ลุกขึ้นนั่ง สายตาแข็งกร้าว หัวเราะลั่นด้วยความพอใจ พูดว่า “ เออ..ข้ามาแล้ว อีผีเขื่อนตา มึงพูดถูก มันมาหากันเหมือนกูว่ามั้ย” แล้วท่านก็หันมาพูดกับผมว่า “ไงไอ้เทวดา มึงมันมีบุญบารมีมากมายนัก เป็นเทวดาเดินดิน มีอะไรก็ทอดทิ้งหมด ไม่อาลัยยินดีกับอะไร มึงมันเหมือนคนบ้า แต่ก็บ้าดี กูชอบวะ อีผีเขื่อนตา หาบุหรี่มาให้ข้าสูบ” ผมเป็นคนสูบบุหรี่อยู่แล้ว จึงควักบุหรี่จุดถวาย ท่านรับไปสูบพ่นควันโขมง พูดว่า “ไอ้เทวดา เองอยากรู้อะไรเองถามข้า ไปถามอีคำก้อนมันไม่รู้เรื่องหรอก อีผีเขื่อนตามันก็ไม่รู้ ข้ามาแล้วให้ถามข้า เองรู้มั้ย อีคำก้อนมันก็กลัวว่าข้าจะลงมาคุยกับเองมันถึงใส่ชุดแดง มันรู้ว่าพ่อไม่ชอบชุดแดง (พ่อจิตราเรียกสีดำเป็นสีแดง) แต่กันข้าได้มั้ย ข้าอยากมาก็มา อยากไปก็ไป มีใครห้ามข้าได้ ไม่ต้องอัญเชิญข้าก็มา
    ไอ้เทวดา เองรู้ตัวมั้ย เองไปอยู่ไหนมันก็ร้อนรุ่ม อยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง ไปอยู่ที่ไหนคอมพิวเตอร์ของเองเสียแล้วเสียอีก หอบเข้าร้านซ่อมเขาก็บอกว่าไม่เป็นไร กลับที่อยู่มันก็ใช้ไม่ได้ เองรู้มั้ย “ ท่านถามพร้อมกับหัวเราะด้วยความชอบใจ ผมจึงรู้ว่าถูกท่านติดตามมานานแล้ว และท่านกลั่นแกล้งผมเล่น ทำให้ผมต้องย้ายไปเรื่อย ๆ จนมาพบกับองค์ญาณ ท่านหมายมั่นปั้นมือที่จะให้ผมกับองค์ญาณช่วยกันสร้างบุญกุศลร่วมกัน และให้องค์ญาณช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ตามที่ท่านต้องการ ท่านอยากให้องค์ญาณฝึกสมาธิภาวนา เพื่อจะได้เพิ่มพลังจิตให้แกร่งกล้า และรับสื่อจากท่านได้ดีกว่านี้ แต่ท่านสอนองค์ญาณไม่ทำตามสักอย่าง ท่านจึงว่า อีคำก้อนมันดื้อ (คำก้อนเป็นชื่อองค์ญาณในชาติก่อน พ่อจิตรายังเรียกชื่อนั้น แต่ชื่อองค์ญาณ เป็นถ้อยคำที่องค์พ่อ ๑๖ เป็นผู้เรียกขาน) ผมว่า “ผมก็แนะนำเหมือนกันนะครับพ่อ” ท่านว่า “ข้ารู้ว่าเองแนะนำ แต่เห็นมันทำตามอยู่ 2 ครั้ง มันเอาหัวใจพุทธองค์(เหล็กไหล) มาตั้งวางบนขี้ผึ้งก็นั่งดู ดูไปมันก็ยิ้ม แล้วก็ไม่เห็นมันทำต่อ “
     
  4. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    ผมถามว่า “ผมเข้าใจว่า ถ้าองค์ญาณเพ่งมององค์เหล็กไหลจนบรรลุถึงฌานสมาบัติ จะสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ มันจะจริงเหมือนที่ผมคิดมั้ยครับพ่อ” ท่านตอบว่า “จริง สมัยโบราณเขาก็ทำกันอย่างนี้” ผมถามว่า “งั้นเรื่องวิทยาธรที่เหาะเหินเดินอากาศที่เล่าไว้ในพระไตรปิฎกก็มีจริงสิครับพ่อ” ท่านรับว่า “จริง แต่คำว่าวิทยาธรนั้นหมายถึงพวกครุฑ พวกกินนร กินรี พวกนี้มีปีก เดินดินก็ได้ เหาะเหินบนอากาศก็ได้ พวกนี้ชอบเรียนเวทมนต์คาถา มีอาคมขลังมาก จึงมีฤทธิ์มาก”
    ความจริงผมพูดคุยซักถามองค์พ่อจิตรามากมายหลายเรื่อง แต่นำมาเล่าให้ทราบเท่านี้ บางเรื่องก็เขียนเล่าไปแล้วและจะเล่าผสมผเสกันไปในเนื้อเรื่อง


    องค์เทพจิตรา จักรพรรดิ์เหล็กไหล
    องค์พ่อจิตรา เป็นหัวหน้าเทพยดาชั้นจตุมหาราชิกา ซึ่งนับตั้งแต่เทวดาชั้นภูมเทวดาขึ้นไปจนถึง ชั้น ๑๔ ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับท่าน ท่านเป็นทั้งเทพและอมนุษย์ คือกึ่งยักษ์กึ่งเทพ เช่นเดียวกับท้าวเวสสุวรรณ แต่ท้าวเวสสุวรรณท่านปกครองพวกยักษ์และภูตผีปีศาจทั้งปวง รวมถึงสัตว์นรก ซึ่งในตำแหน่งผู้ควบคุมสัตว์นรกเรียกท่านว่า “ท้าวยมบาล” ภาษาบาลีเรียกว่า “ท้าวกุเวร” ผมไม่ได้ว่าเอาเองนะครับ องค์พ่อจิตราเป็นผู้บอกผมในเรื่องนี้ แต่ผมกลับลืมถามท่านว่า ในภาษาบาลีนั้นองค์ท่านมีชื่อว่าอะไร รู้แต่ว่าท่านมีอำนาจเหนือเทพดาทั้งปวง และเป็นจักรพรรดิ์ครอบครองดูแลเหล็กไหลทั้งโลก ดังนั้นท่านจึงไม่กลัวว่าไอ้มนุษย์ผู้ทรงอาคมมหาอาคมหน้าไหนจะใช้วิชามาเรียกเหล็กไหลของท่านไปได้ ถ้าคนไหนขืนทำ มันจะกระอักเลือดตายในพิธีกรรมที่มันกำลังดำเนินอยู่ (พ่อจิตราเรียกเหล็กไหลว่า “หัวใจพุทธองค์ “)
    ความที่องค์พ่อจิตรา เป็นทั้งเทพและอมนุษย์ ท่านจึงมีนิสัยนักเลง พูดจาเสียงดังฟังชัด ตรงไปตรงมา ไม่เกรงใจใคร เอง ๆ ข้า ๆ กู ๆ มึง ๆ แล้วแต่อารมณ์ของท่าน ถ้าพอใจท่านก็ชื่นชมเสียนักหนา ถ้าไม่พอใจท่านก็ด่าไม่ไว้หน้า กระถางธูปทองเหลืองหนาและหนัก ท่านจับขึ้นมาเตะปลิวไปเหมือนลูกฟุตบอล แต่แข้งองค์ญาณที่ท่านอาศัยประทับอยู่ไม่เห็นหักหรือชอกช้ำ เมื่อท่านลงมาจะเรียกหาบุหรี่ สูบมวนต่อมวน เรียกหาสุรามาดื่มติดต่อกัน 2-3 ขวด เคี้ยวหมากตุ้ย ๆ เมื่อออกแล้วไม่เห็นว่าองค์ญาณจะมีอาการเมาแม้แต่น้อยนิด แต่ท่านนิยมดื่มสุราต่างประเทศราคาแพงที่ศิษยานุศิษย์พากันซื้อมาถวาย แต่ถึงแม้วาจาท่าทางของท่านจะดุดัน ใครได้คุยกับท่านกลับชอบใจ ทั้งรัก เคารพ และเกรงกลัว.... เพราะท่านให้ได้ทั้งคุณและโทษ
    แต่ผู้ที่ทำให้ท่านโกรธที่สุดคือผู้ที่รังแกลูกสาวท่านคือองค์ญาณ ท่านเล่นถึงตายทีเดียว เท่าที่ทราบ มีฆราวาสจอมขมังเวทย์กระอักเลือดตายไปแล้ว 1 คน คนห่มเหลืองเป็นบ้าไป 1 คน และกำลังเป็นผีเดินได้ใกล้จะตายอีก 2 คน โทษฐานส่งคุณไสยใส่ลูกสาวท่าน ดังนั้นใคร ๆ ที่อ่านเรื่องนี้แล้วจะไปลองดีกับท่าน หรือไปรังแกองค์ญาณ โปรดระวัง อย่าหาว่าสันยาสีไม่เตือน
    การได้มาเป็นสานุศิษย์ขององค์พ่อ ๑๖ ขององค์พ่อเหล็กไหล ถ้าจะว่ามีโชคก็ถือว่าเป็นโชคใหญ่ แต่ถ้าจะว่าเป็นเคราะห์ก็ต้องถือว่าเป็นเคราะห์ใหญ่เช่นกัน
    ถ้าใครได้มาขึ้นบายศรีเป็นลูกศิษย์ หรือไม่ได้ขึ้นบายศรี แต่ได้รับการช่วยเหลือปัดเป่าจากท่านจนมีชีวิตที่ดีขึ้น ได้รับการแก้ปัญหาให้ดีขึ้น ท่านก็ถือว่าผู้นั้นเป็นสานุศิษย์ของท่าน ถ้าคนผู้นั้นเคารพรักองค์พ่อ ๑๖ เคารพรักท่านและองค์ญาณอย่างจริงจังและจริงใจ และตั้งใจประกอบแต่คุณงามความดี ชีวิตของเขาก็จะประสบแต่ความเจริญรุ่งโรจน์ และจะไม่มีภัยอันตรายใด ๆ มากล้ำกลาย เมื่อประสพเหตุที่ติดขัด หรือมีอันตรายเฉพาะหน้า แค่ระลึกถึงท่านและองค์พ่อ ๑๖ ขอความช่วยเหลือ เหตุร้ายใด ๆ ก็ได้รับการปัดเป่าทันท่วงที นี้คือโชคใหญ่
     
  5. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    แต่ถ้าคนผู้นั้นไม่ซื่อสัตย์ต่อองค์พ่อ ๑๖ ต่อองค์พ่อจิตราก็ดี ไม่ซื่อสัตย์ต่อองค์ญาณก็ดี ประพฤติตนไม่เหมาะสม มีการกระทำใด ๆ เช่นทำร้าย หรือกล่าววาจาให้ร้ายต่อผู้มีพระคุณ ต่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เคยชุบอุปถัมภ์ตนเองมา หรือกล่าววาจาให้ร้ายต่อผู้ทรงคุณงามความดี ทรงศีลทรงธรรม มันผู้นั้นจะได้รับเคราะห์ร้ายอย่างใหญ่หลวง จะได้รับการลงโทษสั่งสอนจากองค์พ่อเหล็กไหล เริ่มแรกอาจตักเตือนด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง เช่นอยู่เฉย ๆ ก็พลัดตกบันได อยู่เฉย ๆ ก็หกล้มเคล็ดขัดยอก ถลอกปอกเปิก บางคนอาจหนักถึงขั้นหน้าแตกก็มี ถ้าผู้นั้นยังไม่รู้สึกตัว ยังประพฤติชั่วช้าอยู่ เขาจะได้รับการตักเตือนที่หนักขึ้นไปอีก บางคนถึงขั้นเข้าห้องไอซียู เมื่อรู้สึกตัวว่าผิด ให้คนไปบอกกล่าวกับองค์ญาณหรือองค์พ่อที่ตำหนัก ทำฑัณฑ์บนไว้ว่าถ้าหายจะไปกราบขอขมาที่ตำหนัก และจะเลิกเป็นคนชั่ว อาการป่วยของเขาจะหายอย่างรวดเร็ว เมื่อหายต้องไปกล่าวขอขมา และสาบานตนว่าจะไม่ประพฤติเช่นนั้นอีก แต่ถ้ากล่าววาจาสาบานตนแล้วยังกระทำชั่วอยู่ รับรองว่าต้องตายใน 3 เดือน หรือเป็นง่อยเปี้ยเสียขา พูดจาไม่เป็นผู้เป็นคน ไม่มียกเว้น เพราะพ่อเหล็กไหลไม่อยากให้สานุศิษย์ของท่านเป็นคนหนักโลก นี่คือเคราะห์ใหญ่ของผู้ที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ถ้าใครไม่เชื่อก็ลองสอบถามเจ๊เล็กและครูพรดูได้ ท่าน 2 คนนี้กลัวพ่อเหล็กไหลและองค์ญาณเป็นที่สุด
     
  6. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    องค์พ่อจินดา
    เหล็กไหลเงินยวงอีกองค์มีเทพประจำชื่อจินดา องค์นี้ผู้ที่นำมามอบให้คือพระธุดงค์รูปร่างสูงใหญ่ ผิวขาว ผมขาว ให้แล้วก็หายวับไปกับตา เมื่อผมสอบถามองค์เทพจิตรา ท่านบอกว่าคือหลวงปู่ใหญ่ ที่คนทั่วไปรู้จักในนาม “หลวงปู่เทพโลกอุดร” แต่องค์พ่อจินดาท่านไม่ชอบแสดงบทบาท นาน ๆ ครั้งท่านจะลงมาสนทนากับลูกศิษย์สักครั้ง ท่านชอบทำงานอยู่เบื้องหลังมากกว่า ส่วนมากองค์ญาณจะอัญเชิญท่านติดตัวไปรักษาคนป่วยนอกสถานที่ พร้อมกับเหล็กไหลชนิดแคปซูลองค์เล็ก ๆ ซึ่งพ่อจิตราบอกว่าเก่งรองจากท่าน ซึ่งองค์เล็กนี้เคยทำให้สานุศิษย์ตื่นตามาแล้ว เพราะเกาะไต่ออกจากพานครูมาตั้งไข่เด้งหน้าเด้งหลังให้ดูเป็นที่ประจักตาแก่สานุศิษย์ 5-6 คน และมีอยู่คราวหนึ่ง มีคนห่มเหลืองคนหนึ่งนำวัตถุธาตุคล้ายเหล็กไหลมาฝากไว้ที่พานครูเพื่อขอให้องค์พ่อแผ่บารมี แต่เหล็กไหลองค์เล็กชนิดแคปซูล ขนออกมาทิ้งไว้นอกพานครู ทำเอาสานุศิษย์หัวเราะด้วยความขบขัน
    เรื่องคนห่มผ้าเหลือง จะเป็นพระจริงหรือแค่อยู่ในรูปแบบลวงคน ลวงคนได้ แต่ลวงเทวดาไม่ได้ ท่านรู้หมดว่าใครดีใครชั่ว บางคนอาจซื้อหน้านิตยสารโฆษณาตัวเองจนมีชื่อเสียงก้องแผ่นดิน แต่เทวดาท่านสั่นหัว ท่านเรียกไอ้ ทีเดียวนะครับ ทำเป็นเล่นไป แต่บางคน ถึงแม้จะไม่ห่มเหลือง ไม่ห่มขาว ไม่มีรูปแบบใด ๆ ให้คนสนใจ ถ้าดีจริง ๆ ท่านก็รับรอง ชื่นชม และสนับสนุน ดังนั้น การนับถือคนจึงควรมีปัญญากำกับเสมอ อย่าเป็นคนโง่งมให้เขาหลอกลวง มันเสียเหลี่ยม อย่าเชื่อรูปแบบ คนขี้โกงมันจะสวมเครื่องแบบลวงเรา
    การอ่านหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารต่าง ๆ ควรทำใจให้เป็นกลาง อ่านแล้วพินิจพิเคราะห์ดู เพราะพระสงฆ์องค์เจ้าส่วนมากที่ลงปกหนังสือ ล้วนเสียค่าโฆษณาตัวเอง เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ถึงจะเป็นรูปแบบฤาษี ชีผ้าขาว ชาวบ้านผู้ทรงอาคมก็แล้วแต่ ส่วนมากคนเหล่านี้เรียนวิชาไสยเวทดำ ให้ทั้งคุณและโทษ ถ้ามีใครเข้าไปหา ตัวเองพอใจ เขาจะทำคุณไสยใส่คนนั้นให้ลุ่มหลงเสียเอง บางคนสิ้นเนื้อประดาตัว เพราะเอาเงินทองมาบำรุงบำเรอคน ๆ นั้น ใครว่าอย่างไรก็ไม่ฟัง บางคนถึงกับบ้านแตกสาแหรกขาด คนห่มเหลืองบางคน จอมขมังเวทบางคน ถึงขั้นฆ่าสามีหรือภรรยาของเขาให้ตายด้วยภูตผีที่ตัวเองเลี้ยงไว้ เพื่อแย่งคู่รักของเขา คนที่มาหาองค์พ่อ ๑๖ และองค์พ่อเหล็กไหลมีจำนวนมากที่โดนแบบนี้ ท่านต้องช่วยถอนของให้ และท่านจะเล่าความจริงให้ฟังทั้งหมดโดยที่ผู้ไปหาไม่ต้องเอ่ยปากเล่า
    บางครอบครัว พ่อ แม่ ลูก กลายเป็นศัตรูกัน มาหาองค์พ่อก็ถมึงทึงใส่กัน แต่พอท่านถอนของและอบรมแล้วก็กลายเป็นรักกัน จูงมือกันลงตำหนักด้วยอาการยิ้มแย้มแจ่มใส
    ผมท่องอยู่ในยุทธจักรดงขมิ้นมานาน แม้สึกหาลาเพศออกมาก็ไม่ได้ทิ้งวงการ เพราะต้องเขียนเรื่องเกี่ยวข้อง ต้องไปหาพระหาเจ้าที่มีคนบอกกล่าว ผมพบว่า พระบางองค์(คนห่มเหลือง) เต็มไปด้วยมารยาสาไถย เจ้าเล่ห์ ประจบประแจง บางคนตัวเองอายุเพียง 30-40 แต่ใช้คำพูดแทนตัวเองว่าหลวงพ่อ หลวงปู่ แถมออกตัวว่า เขาเรียกกันนะ อาตมาไม่ได้บอกให้เขาเรียก ก็ทำไมไม่บอกเขาเล่าว่า เรียกอย่างนี้ไม่ดีนะ ไม่ชอบ แต่ที่เห็นมากับตา ญาติโยมที่มาหาอายุคราวพ่อคราวแม่ กลับเรียกเขาว่าลูกอย่างนั้นลูกอย่างนี้ เรียกตัวเองว่าหลวงปู่ หลวงพ่อ เห็นแล้วคลื่นไส้อยากอาเจียน มองสายตาก็รู้ว่าเจ้าเล่ห์ บอกตัวเองเป็นพระนักปฏิบัติ อยู่วัดป่าวัดดอย อยู่อย่างสงบ หวังหลุดหวังพ้น แต่พอไปวัดเห็นเป็นโฆษกถือไมค์โฆษณาอวดคุณวิเศษของตนเอง โฆษณาขายวัตถุมงคลเสียเอง แต่คนไทยก็อัปปรีย์จัญไร สติปัญญาน้อย ช่างดูไม่ออกมองไม่เห็นว่าอะไรเป็นอะไร พวกเราพากันสนับสนุนมหาโจรปล้นพระศาสนา อย่าหวังว่าทรัพย์สินที่ให้ทานกับคนพวกนี้จะเกิดกุศลผลบุญ เพราะมันเป็นเสบียงให้มหาโจรปล้นพระศาสนา
    บางคนอายุแค่สามสิบ เรียกตัวเองว่าหลวงปู่ มีการบอกว่าเข้านิโรธสมาบัติเท่านั้นวันเท่านี้วัน เพื่อหลอกให้ญาติโยมมาทำบุญกับตัวเอง ผู้ที่เข้านิโรธสมาบัติได้มีแต่พระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา และบรรลุถึงฌาน ๘ ถ้าอย่างหลวงปู่เกษม เขมโก หลวงปู่พรหมา วัดพระบาตรตากผ้า หลวงปู่มั่น ก็เชื่อได้ว่าท่านสามารถเข้านิโรธสมาบัติจริง ถ้าเป็นพระยุคนี้ ก็เห็นมีแต่พระอาจารย์เกษม อาจิณณสีโล วัดสามแยก น้ำหนาว นอกนั้นยังมองไม่พบว่าใครจะบรรลุธรรมชั้นสูงจนถึงขั้นนั่งเข้านิโรธสมาบัติได้ แต่พระอาจารย์เกษม ก็ดี หลวงปู่ครูบาอาจารย์ที่บรรลุธรรมขั้นสูงก็ดี ไม่เคยได้ยินได้ฟังท่านเล่าว่าท่านเข้านิโรธสมาบัติ ถึงแม้ท่านจะเคย หรือจะทำ ท่านก็ไม่มาประกาศให้ใครรู้
    การอวดคุณวิเศษที่ไม่มีในตัวเอง นี่แหละคือปาราชิก เป็นอาบัติหนักที่สุด หนึ่งในสี่ข้อของปาราชิก เพราะมันคือการหลอกลวง มันคือสิบแปดมงกุฏ ชาวบ้านหลอกลวงก็ไม่น่าคบอยู่แล้ว แล้วคนห่มเหลืองหลอกลวงมันจะไม่ยิ่งไปกว่าหรือ
     
  7. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    พึงรู้ไว้ว่า “คนจริงของจริงเขาไม่อวดกัน ที่อวดกันโครม ๆ ๆ ล้วนของปลอมทั้งนั้น แต่คนไทยนับถือพระนับถือเจ้า ได้ฟังคนใส่ชุดเหลืองชุดกลักพูดแล้วเชื่อหมด ทำไมไม่คิดว่าไอ้พวกนี้มันก็มาจากลูกชาวบ้าน มันเป็นเทวดาเหาะมาจากฟากฟ้าเสียเมื่อไร อยากด่าก็ด่าได้ ไม่บาป เทวดาทั้งหลายท่านก็เบื่อหน่ายเอือมระอา เขาก็นินทากันอยู่ในหมู่เทวดา ว่าคนไหนมันอุตริอย่างไร คนไหนมีลูกมีเมียกี่คน ลับหลังคนมันทำอัปรีย์จัญไรอย่างไร มันยกหูชูหางอย่างไร เอาของไปทำบุญกับคนพวกนี้ เอาข้าวให้หมาในบ้านกินยังได้บุญกว่า
    คนห่มเหลืองอีกพวกหนึ่งที่ต้องระวัง คือพวกตุ๊ด หรือพวกกะเทยที่เข้ามาอาศัยผ้าเหลืองหากิน พวกนี้ระยำหมามาก ๆ ให้สังเกตดูเถอะ พระตุ๊ดพระกระเทยล้วนเป็นนักโกหกหลอกลวงทั้งนั้น ที่สวมลูกประคำ ห่มผ้าสีกลัก ลองสังเกตให้ดี ๆ เป็นพระตุ๊ดเสียส่วนมาก บางคนเป็นทั้งเกย์คิง และเกย์ควีน เลี้ยงเด็กหนุ่ม ๆ ไว้บำรุงบำเรอตัวเอง แต่เผลอ ๆ ก็เอาสาวมานอนด้วยเช่นกัน เชื่อคนบวชนานเถอะน่า ให้ใช้สติปัญญาและสายตาที่เฉียบแหลม อย่าหลับหูหลับตาเชื่อ แต่อย่าไปมองพระทุกองค์เป็นอย่างนั้นนะครับ พระที่เรียนมาก ๆ มักไม่ค่อยมีปัญหา เวลาผ้าเหลืองร้อน หรือทำผิดพลาด เขาก็รีบสึกหาลาเพศออกไป ไม่มาหลอกให้คนไหว้อยู่หรอก ถึงจะมีอยู่บ้างก็ไม่มากนัก แต่แปลก พวกตุ๊ด มันจะเรียนมากขนาดไหน เป็นมหาเปรียญ เป็นพระครู เป็นเจ้าคุณ หน้ามันก็หนาทุกคน เชื่อไม่ได้ อยู่ให้ไกล ๆ เลย
    คนห่มเหลืองบางคน เป็นลูกชาวบ้านนอกคอกนา ไม่มีตระกูลรุนชาติ พอห่มผ้าเหลืองก็เอาลูกประคำมาสวมคอ ทำตัวเป็นพระเมืองเหนือทั้ง ๆ ที่เป็นชาวอีสาน แล้วสถาปนาตัวเองเป็นครูบาเจ้า อยากทราบว่าพ่อแม่มันเป็นลูกเจ้าท่านหลานเธอมาแต่ชาติปางไหน จึงให้คนเรียกตัวเองว่าครูบาเจ้า ผู้ที่สามารถเรียกตัวเองเป็นครูบาเจ้าได้มีองค์เดียวคือ หลวงปู่ครูบาเจ้าเกษม เขมโก แต่ท่านไม่ได้เรียกตัวเอง ชาวบ้านเป็นผู้เรียก เพราะท่านเป็นลูกเจ้า แม้ท่านครูบาสมจิต วัดสะแล่ง อำเภอลอง จังหวัดแพร่ พ่อของท่านเป็นลูกเจ้าเมืองลอง ตัวท่านเป็นหลานเจ้าเมืองลอง ไม่เคยได้ยินท่านเรียกตัวเอง หรือให้คนอื่นเรียกตัวท่านเองว่าครูบาเจ้า
    วันที่องค์พ่อจิตราลงมาคุยกับผมต่อหน้าเจ๊เล็ก ท่านบอกว่า พระเมืองแพร่ที่พวกเองชวนกันไปกราบนั้นเป็นพระดีนะ พ่อรับรอง (คือท่านครูบาสมจิต วัดสะแล่ง อำเภอลอง จังหวัดแพร่)
     
  8. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    องค์พระสรรพสัตตาบดี หรือ องค์เทพศักดิ์พระศาสตราบดี
    ความที่องค์พ่อจิตรา ให้ทั้งคุณและโทษ เมื่อบทใจดีก็ดีเสียจนเกินธรรมดา ถ้าบทจะให้โทษก็รุนแรงถึงตาย องค์พระโสฬส หรือองค์พ่อ ๑๖ ผู้เป็นพระอาจารย์ที่พ่อจิตราเคารพนับถือจึงต้องลงมากำกับ คอยช่วยชี้นำทาง คราใดที่องค์พ่อจิตรากำลังโกรธใครหัวฟัดหัวเหวี่ยง จนเสียศูนย์ องค์พระโสฬส ซึ่งมีพระนามว่า “องค์สรรพสัตตาบดี”ซึ่งมีความหมายว่าผู้เป็นใหญ่กวาสรรพสัตว์ทั้งปวง หรืออีกพระนามหนึ่งคือ องค์เทพศักดิ์พระศาสตราบดี แปลว่า ผู้เป็นใหญ่เหนือศาสตราวุธทั้งปวง ซึ่งเป็นพระอาจารย์จะลงมาประทับร่างองค์ญาณ คอยสั่งสอน ชี้นำ ช่วยเหลือมวลมนุษย์ ด้วยใบหน้าที่อิ่มเอิบ ผุดผ่อง สดใส วาจาเยือกเย็นหวานนุ่ม ถ้อยคำพร่ำสอนเต็มไปด้วยเหตุและผล พูดจาต่อเนื่องกันด้วยภาษาราบเรียบ และเมื่อถึงคราวอวยพรท่านจะพูดภาษาเทพสลับกับภาษามนุษย์ ซึ่งภาษาเทพที่ท่านพูดนั้น จะว่าบาลีก็ไม่ใช่ จะว่าภาษาแขกก็ไม่แน่ใจ เพราะผมไม่ใช่แขก จึงฟังไม่รู้ แต่ผมเป็นมหาเปรียญ รู้ภาษาบาลี
    ลักษณะขององค์สรรพสัตตาบดีนั้น คล้ายพระอริยเจ้ามาก ท่านนิ่ง หน้าตาผุดผ่องสวยงาม วางมือบนเข่าทั้ง 2 ข้าง หรือ วางประสานท่าสมาธิบ้าง ท่านแย้มแต่พองาม ไม่เคยหัวเราะสักครั้งเดียว ซึ่งแตกต่างจากองค์พ่อจิตรา เมื่อลงมาก็หัวเราะลั่นด้วยความชอบใจก่อนที่จะทักทายปราศัยกับผู้คน
    องค์พ่อสรรพสัตตาบดี หรือองค์พ่อ ๑๖ เป็นพรหมอยู่ชั้นสุทธาวาส ซึ่งเป็นพรหมชั้นสูงสุด ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดอีก ท่านบรรลุเป็นพระอนาคามี แล้วจะบำเพ็ญเป็นพระอรหันต์บรรลุนิพพานในชั้นที่ ๑๖ คือชั้นสุทธาวาสนั่นเอง ท่านไม่ให้โทษใคร ใครชั่วช้าสารเลวอย่างไรท่านก็ให้อภัย ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามวิบากกรรมของผู้นั้น ท่านไม่เคยกล่าววาจาให้ใครเสียหาย แต่ถ้าผู้ใดมีกรรมเบาบางพอจะช่วยเหลือให้หลุดจากบ่วงกรรมนั้น หรือผ่อนหนักเป็นเบา องค์พ่อ ๑๖ จะช่วยเต็มที่ จึงมักมีผู้มาให้ท่านช่วยเรื่องหน้าที่การงาน การสอบเข้างาน การประมูลรับเหมางาน การเกณฑ์ทหาร คดีความ การเลื่อนยศศักดิ์ การโยกย้าย รักษาอาการป่วยเรื้อรัง เป็นต้น ท่านจึงทำตนสมกับเป็นองค์พรหมคือ มี เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา
    มีสุภาพสตรีคนหนึ่งอยู่สุราษฎร์ธานี นั่งรถทัวร์ไปหาองค์ญาณถึงโคราช เมื่อราววันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมานี่เอง ทำพิธีเสร็จก็เดินทางกลับทันที วันต่อมาขณะอยู่ระหว่างเดินทางกลับได้โทร.มาแจ้งให้องค์ญาณทราบว่า ร้านขายของกิจการตกต่ำมา 3 ปีกว่าแล้ว ขายไม่เคยได้ถึงวันละ 2 หมื่นสักที แต่วันนี้ลูกสาวโทร.มาแจ้งว่า เมื่อวานมีลูกค้ามากมายเข้าร้าน ซื้อสินค้าไปตั้ง 5 หมื่นกว่า น่าอัศจรรย์นัก องค์พ่อศักดิ์สิทธิ์จริง
     
  9. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    ของวิเศษขององค์พ่อ ๑๖
    ดอกรุ่งเรืองมณี (ดอกดาวเรือง) ที่ท่านมอบให้นั้นวิเศษนักหนา มีเรื่องราวติดขัดสิ่งใด แค่ยกดอกรุ่งเรืองของท่านขึ้นจบหัว แล้วคิดถึงท่าน เรื่องนั้น ๆ ก็ผ่านไปด้วยดี แม้เรื่องนั้นไม่น่าจะแก้ไขได้ เช่นชายหนุ่มคนหนึ่ง เรียนหนังสือจบมหาวิทยาลัย เป็นนักเรียนระดับเกียรตินิยม แต่สอบเข้ารับราชการที่ไหนก็ได้แค่สอบผ่าน พอตรวจร่างกายไม่เคยผ่านแม้แต่ครั้งเดียว เพราะผลเอกซเรย์พบว่ามีปอดเพียงข้างเดียว เมื่อมาหาองค์พ่อ ๑๖ หลังจากขึ้นบายศรีมอบตัวเป็นศิษย์แล้วท่านก็มอบดอกรุ่งเรืองให้3 ดอก บอกว่าก่อนจะเข้าห้องเอ็กซเรย์ให้นำดอกรุ่งเรืองมณีจบหัวคิดถึงท่าน เด็กหนุ่มก็ทำตามนั้น ปรากฏเหตุอัศจรรย์ ผลเอ็กซเรย์ออกมา ปอดเต็มทั้ง 2 ข้าง แต่เขายังไม่ยอมแค่นั้น ต้องส่งไปทำการเอ็กซเรย์ในโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง สร้างความวิตกกังวลให้กับเด็กหนุ่มเป็นอันมาก จึงมากราบองค์พ่ออีก ท่านบอกว่าไม่ต้องวิตกหรอก ให้ทำเหมือนเดิม ก็พบกับความอัศจรรย์เป็นครั้งที่ 2 ผลเอ็กซเรย์ออกมาก็พบปอดเต็มทั้ง 2 ข้าง เด็กหนุ่มคนนี้จึงได้งานดีที่คนใฝ่ฝันอยากจะทำกันมาก และทำมาจนถึงทุกวันนี้
    การจะลงมาโปรดมนุษย์นั้น ส่วนมากองค์พ่อ ๑๖ จะทำหน้าที่ แต่บางครั้งถ้าเป็นเรื่องเร่งด่วนองค์พ่อจิตรามักทำเสียเอง เช่นกรณีคนหาย ท่านตามกลับมาภายในวันเดียวเท่านั้น ดังเรื่องนายจอม ชาวตำบลรุ่งอรุณ อำเภอโชคชัย มีลูกติดเมียเป็นคนปัญญาอ่อน แต่อยู่ในวัยหนุ่มแล้ว นายจอมก็รักและห่วงใยลูกคนนี้ราวกับบุตรของตนจริง ๆ อยู่มาวันหนึ่ง มีงานศพใกล้บ้าน นายจอมและครอบครัวไปช่วยงานศพนั้นจนเสร็จ หลังเผาศพแล้วต่างก็กลับบ้านของตนเอง แต่นายจอมเพิ่งรู้ตัวว่าบุตรชายปัญญาอ่อนได้หายตัวไป จึงช่วยกันหาตัวอยู่ 2-3 วัน ก็ไม่พบ นายจอมเสียใจมาก จึงไปบนผีแถว ๆ นั้นว่า ถ้าได้ลูกคืนมาจะล้มวัวควายถวาย จัดงานฉลอง 3 วัน 3 คืน จากนั้นแกไปหาญาติคนหนึ่งซึ่งสนิทกับองค์ญาณแล้วเล่าเรื่องให้ฟัง ยายคนนั้นฟังแล้วก็บอกว่า เองอย่ากลุ้มใจไปเลย ให้ไปกราบองค์พ่อที่ตำหนัก เดี๋ยวท่านจะเรียกเอาลูกมาคืนให้เอง แล้วยายคนนั้นก็พานายจอมไปตำหนัก เมื่อจุดธูปเทียนแล้ว องค์พ่อก็ลงมาประทับร่างองค์ญาณ ท่านถามนายจอมว่า “มีอะไรอยู่ในกระเป๋ากางเกงของเอง เอาออกมาให้ข้าเดี๋ยวนี้” เมื่อนายจอมล้วงเอาซองพลาสติกบรรจุยาเม็ดสีขาวมากกว่า 30 เม็ด (ยานอนหลับ) ออกมาให้แล้ว ท่านก็พูดว่า “ลูกหาย แต่เองคิดจะกินยาตายเชียวรึ เองไม่ต้องวิตก คืนนี้จะมีคนส่งลูกคืนถึงบ้าน แต่ต้องรับปากก่อนว่าจะไม่ล้มวัวควายเหมือนที่เองไปบนไว้ เพราะวันนี้พ่อช่วยชีวิตไว้ถึง 2 ชีวิตแล้ว คือชีวิตเองกับลูก อย่าได้ทำลายชีวิตอื่นอีกเลย” นายจอมก็รับปาก เมื่อแกกลับบ้าน ในคืนนั้นเอง คนที่สุรินทร์ก็ขับรถเอาลูกปัญญาอ่อนมาส่งถึงบ้าน บอกว่ามันติดรถไป ถามชื่อแซ่ที่อยู่ก็ไม่รู้สักอย่าง แน่ใจว่าเป็นคนบ้านนี้ แต่เพิ่งมีเวลาเอามาส่งวันนี้ นายจอมดีใจเหลือหลาย จึงรีบไปหาบายศรีมาถวายองค์พ่อในเช้าวันรุ่งขึ้น แล้วหาลิเกมาร้องรำถวายองค์พ่อที่ตำหนัก ทดแทนการล้มวัวควาย
     
  10. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    ของวิเศษขององค์พ่อ ๑๖
    ดอกรุ่งเรืองมณี (ดอกดาวเรือง) ที่ท่านมอบให้นั้นวิเศษนักหนา มีเรื่องราวติดขัดสิ่งใด แค่ยกดอกรุ่งเรืองของท่านขึ้นจบหัว แล้วคิดถึงท่าน เรื่องนั้น ๆ ก็ผ่านไปด้วยดี แม้เรื่องนั้นไม่น่าจะแก้ไขได้ เช่นชายหนุ่มคนหนึ่ง เรียนหนังสือจบมหาวิทยาลัย เป็นนักเรียนระดับเกียรตินิยม แต่สอบเข้ารับราชการที่ไหนก็ได้แค่สอบผ่าน พอตรวจร่างกายไม่เคยผ่านแม้แต่ครั้งเดียว เพราะผลเอกซเรย์พบว่ามีปอดเพียงข้างเดียว เมื่อมาหาองค์พ่อ ๑๖ หลังจากขึ้นบายศรีมอบตัวเป็นศิษย์แล้วท่านก็มอบดอกรุ่งเรืองให้3 ดอก บอกว่าก่อนจะเข้าห้องเอ็กซเรย์ให้นำดอกรุ่งเรืองมณีจบหัวคิดถึงท่าน เด็กหนุ่มก็ทำตามนั้น ปรากฏเหตุอัศจรรย์ ผลเอ็กซเรย์ออกมา ปอดเต็มทั้ง 2 ข้าง แต่เขายังไม่ยอมแค่นั้น ต้องส่งไปทำการเอ็กซเรย์ในโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง สร้างความวิตกกังวลให้กับเด็กหนุ่มเป็นอันมาก จึงมากราบองค์พ่ออีก ท่านบอกว่าไม่ต้องวิตกหรอก ให้ทำเหมือนเดิม ก็พบกับความอัศจรรย์เป็นครั้งที่ 2 ผลเอ็กซเรย์ออกมาก็พบปอดเต็มทั้ง 2 ข้าง เด็กหนุ่มคนนี้จึงได้งานดีที่คนใฝ่ฝันอยากจะทำกันมาก และทำมาจนถึงทุกวันนี้
    การจะลงมาโปรดมนุษย์นั้น ส่วนมากองค์พ่อ ๑๖ จะทำหน้าที่ แต่บางครั้งถ้าเป็นเรื่องเร่งด่วนองค์พ่อจิตรามักทำเสียเอง เช่นกรณีคนหาย ท่านตามกลับมาภายในวันเดียวเท่านั้น ดังเรื่องนายจอม ชาวตำบลรุ่งอรุณ อำเภอโชคชัย มีลูกติดเมียเป็นคนปัญญาอ่อน แต่อยู่ในวัยหนุ่มแล้ว นายจอมก็รักและห่วงใยลูกคนนี้ราวกับบุตรของตนจริง ๆ อยู่มาวันหนึ่ง มีงานศพใกล้บ้าน นายจอมและครอบครัวไปช่วยงานศพนั้นจนเสร็จ หลังเผาศพแล้วต่างก็กลับบ้านของตนเอง แต่นายจอมเพิ่งรู้ตัวว่าบุตรชายปัญญาอ่อนได้หายตัวไป จึงช่วยกันหาตัวอยู่ 2-3 วัน ก็ไม่พบ นายจอมเสียใจมาก จึงไปบนผีแถว ๆ นั้นว่า ถ้าได้ลูกคืนมาจะล้มวัวควายถวาย จัดงานฉลอง 3 วัน 3 คืน จากนั้นแกไปหาญาติคนหนึ่งซึ่งสนิทกับองค์ญาณแล้วเล่าเรื่องให้ฟัง ยายคนนั้นฟังแล้วก็บอกว่า เองอย่ากลุ้มใจไปเลย ให้ไปกราบองค์พ่อที่ตำหนัก เดี๋ยวท่านจะเรียกเอาลูกมาคืนให้เอง แล้วยายคนนั้นก็พานายจอมไปตำหนัก เมื่อจุดธูปเทียนแล้ว องค์พ่อก็ลงมาประทับร่างองค์ญาณ ท่านถามนายจอมว่า “มีอะไรอยู่ในกระเป๋ากางเกงของเอง เอาออกมาให้ข้าเดี๋ยวนี้” เมื่อนายจอมล้วงเอาซองพลาสติกบรรจุยาเม็ดสีขาวมากกว่า 30 เม็ด (ยานอนหลับ) ออกมาให้แล้ว ท่านก็พูดว่า “ลูกหาย แต่เองคิดจะกินยาตายเชียวรึ เองไม่ต้องวิตก คืนนี้จะมีคนส่งลูกคืนถึงบ้าน แต่ต้องรับปากก่อนว่าจะไม่ล้มวัวควายเหมือนที่เองไปบนไว้ เพราะวันนี้พ่อช่วยชีวิตไว้ถึง 2 ชีวิตแล้ว คือชีวิตเองกับลูก อย่าได้ทำลายชีวิตอื่นอีกเลย” นายจอมก็รับปาก เมื่อแกกลับบ้าน ในคืนนั้นเอง คนที่สุรินทร์ก็ขับรถเอาลูกปัญญาอ่อนมาส่งถึงบ้าน บอกว่ามันติดรถไป ถามชื่อแซ่ที่อยู่ก็ไม่รู้สักอย่าง แน่ใจว่าเป็นคนบ้านนี้ แต่เพิ่งมีเวลาเอามาส่งวันนี้ นายจอมดีใจเหลือหลาย จึงรีบไปหาบายศรีมาถวายองค์พ่อในเช้าวันรุ่งขึ้น แล้วหาลิเกมาร้องรำถวายองค์พ่อที่ตำหนัก ทดแทนการล้มวัวควาย
     
  11. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    น้ำมนต์เหล็กไหลคือน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ที่เกิดจากการแผ่พลังงานจากเหล็กไหลลงสู่ธาตุน้ำ โดยการนำเหล็กไหลซึ่งอาจเป็นองค์เหล็กไหลชั้นเยี่ยม หรือจะเป็นรังเหล็กไหลก็ได้ แช่ลงไปในน้ำ โดยทั่วไปจะแช่ทิ้งไว้เฉย ๆ เป็นเวลาตั้งแต่ 20 นาทีขึ้นไป เพราะตามธรรมชาติของเหล็กไหลนั้นย่อมแผ่รัศมีของตัวเอง เมื่อเหล็กไหลได้แผ่รังสีลงในน้ำ ก็จะทำให้น้ำนั้นเริ่มมีประจุพลังงานของเหล็กไหลวิ่งไปมาอยู่ภายใน
    ประจุพลังงานของเหล็กไหลที่กระจายลงสู่น้ำ ไม่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์ ในทางตรงกันช้ามกับทำให้น้ำธรรมดากลายเป็นน้ำอมฤต ที่สามารถนำมาใช้บรรเทาอาการป่วย หรือทำให้ร่างกายแข็งแรงทนทานต่อเชื้อโรคในอากาศ และช่วยในการปรับธาตุให้ร่างกายสมดุลกับอากาศรอบ ๆ ตัว
     
  12. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    ช่วยชีวิตแม่วัวคลอดลูก
    คุณเอ (อุดมศักดิ์) อยู่จังหวัดชุมพร ได้แต่โทร.หาองค์ญาณ ไม่เคยไปกราบองค์พ่อที่ตำหนักสักที เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา วัวตัวเมียที่เลี้ยงไว้ตัวหนึ่งคลอดลูกเอาเท้าออกก่อน เท้าโผล่ออกมาแล้วแต่ก็ติดอยู่เพียงนั้น คุณเอโทร.เรียกสัตวแพทย์มาช่วยทำคลอด หมอก็หมดปัญญา แม่วัวอ่อนเพลียและเจ็บปวดมาก มันนอนมูบลง น้ำตาไหลพราก คุณเอดูแล้วก็น้ำตาไหลไปด้วย สงสารมันจับใจ ไม่สามารถทนดูสภาพนั้นได้จึงให้คนเฝ้าไว้ ตัวเองก็เดินกลับบ้านซึ่งอยู่ห่างจากสวนราว 500 เมตร เดินไปเดินมาเหมือนเสือติดจั่น คิดว่าทำอย่างไรดี ก็นึกถึงองค์ญาณขึ้นมา พยายามกดโทรศัพท์หาองค์ญาณก็โทร.ไม่ติด จึงโทร.อีกเบอร์หนึ่งก็ติดของอาจารย์สุรัชพร จึงเล่าเรื่องให้ฟัง ครูพรก็บอกให้จุดธูป 9 ดอก ระลึกถึงองค์พ่อ ๑๖ และองค์พ่อเหล็กไหล ช่วยให้องค์ญาณรับสายทีเถอะ เมื่อโทร.หาองค์ญาณอีกครั้งหนึ่งองค์ญาณจึงรับสาย บอกว่ากำลังนั่งบนรถทัวร์เพื่อเข้ากรุงเทพ ฯ คุณเอจึงขอความช่วยเหลือ ช่วยให้แม่วัวคลอดลูกได้ทีเถอะ ลูกมันตายแล้วแต่ขอแม่ไว้ อย่าให้ตายเลยเพราะสงสารมัน องค์ญาณรู้เรื่องก็ใช้ญาณตรวจดู เห็นเหตุแจ่มชัดแล้ว จึงยกมือไหว้หาองค์พ่อ ๑๖ แลองค์พ่อจิตรา พลางยกมือยกไม้แบบให้พรแล้วเป่าไปทางจังหวัดชุมพร คนนั่งข้าง ๆ ดูแกก็คงแปลกใจ คงคิดว่าแกบ้า เวลาผ่านไปไม่ถึง 10 นาที แม่วัวก็คลอดลูกได้สำเร็จ แต่ลูกตายแล้ว คลอดลูกได้แล้วแม่วัวกินน้ำไปเกือบถัง เมื่อเช้านี้ (3 กุมภาพันธ์) ผมโทร.สอบถามคุณเอ เขาว่าแม่วัวแข็งแรงเป็นปกติ แต่องค์ญาณได้โทร.บอกว่าห้ามขายวัวตัวนี้ให้คนเอาไปฆ่า เพราะเป็นวัวที่พ่อให้ชีวิตไว้ คนไหนฆ่าคนนั้นจะฉิบหายล่มจม รวมทั้งเจ้าของที่ขายให้เขาด้วย คุณเอก็เชื่อ และจะหาโอกาสไปกราบองค์ญาณและองค์พ่อสักวันหนึ่ง
    ดูสิครับ ถ้าเคารพนับถือองค์พ่อจริงจัง แม้ไม่เคยไปกราบท่านที่ตำหนัก ถ้ามีเหตุฉุกเฉินจริง ๆ หากติดต่อผ่านองค์ญาณท่านก็ช่วยได้จริง ๆ นี่คือความศักดิ์สิทธิ์ของท่านที่หามนุษย์ผู้ใดเสมอเหมือนมิได้
     
  13. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    ช่วยชีวิตแม่วัวคลอดลูก
    คุณเอ (อุดมศักดิ์) อยู่จังหวัดชุมพร ได้แต่โทร.หาองค์ญาณ ไม่เคยไปกราบองค์พ่อที่ตำหนักสักที เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา วัวตัวเมียที่เลี้ยงไว้ตัวหนึ่งคลอดลูกเอาเท้าออกก่อน เท้าโผล่ออกมาแล้วแต่ก็ติดอยู่เพียงนั้น คุณเอโทร.เรียกสัตวแพทย์มาช่วยทำคลอด หมอก็หมดปัญญา แม่วัวอ่อนเพลียและเจ็บปวดมาก มันนอนมูบลง น้ำตาไหลพราก คุณเอดูแล้วก็น้ำตาไหลไปด้วย สงสารมันจับใจ ไม่สามารถทนดูสภาพนั้นได้จึงให้คนเฝ้าไว้ ตัวเองก็เดินกลับบ้านซึ่งอยู่ห่างจากสวนราว 500 เมตร เดินไปเดินมาเหมือนเสือติดจั่น คิดว่าทำอย่างไรดี ก็นึกถึงองค์ญาณขึ้นมา พยายามกดโทรศัพท์หาองค์ญาณก็โทร.ไม่ติด จึงโทร.อีกเบอร์หนึ่งก็ติดของอาจารย์สุรัชพร จึงเล่าเรื่องให้ฟัง ครูพรก็บอกให้จุดธูป 9 ดอก ระลึกถึงองค์พ่อ ๑๖ และองค์พ่อเหล็กไหล ช่วยให้องค์ญาณรับสายทีเถอะ เมื่อโทร.หาองค์ญาณอีกครั้งหนึ่งองค์ญาณจึงรับสาย บอกว่ากำลังนั่งบนรถทัวร์เพื่อเข้ากรุงเทพ ฯ คุณเอจึงขอความช่วยเหลือ ช่วยให้แม่วัวคลอดลูกได้ทีเถอะ ลูกมันตายแล้วแต่ขอแม่ไว้ อย่าให้ตายเลยเพราะสงสารมัน องค์ญาณรู้เรื่องก็ใช้ญาณตรวจดู เห็นเหตุแจ่มชัดแล้ว จึงยกมือไหว้หาองค์พ่อ ๑๖ แลองค์พ่อจิตรา พลางยกมือยกไม้แบบให้พรแล้วเป่าไปทางจังหวัดชุมพร คนนั่งข้าง ๆ ดูแกก็คงแปลกใจ คงคิดว่าแกบ้า เวลาผ่านไปไม่ถึง 10 นาที แม่วัวก็คลอดลูกได้สำเร็จ แต่ลูกตายแล้ว คลอดลูกได้แล้วแม่วัวกินน้ำไปเกือบถัง เมื่อเช้านี้ (3 กุมภาพันธ์) ผมโทร.สอบถามคุณเอ เขาว่าแม่วัวแข็งแรงเป็นปกติ แต่องค์ญาณได้โทร.บอกว่าห้ามขายวัวตัวนี้ให้คนเอาไปฆ่า เพราะเป็นวัวที่พ่อให้ชีวิตไว้ คนไหนฆ่าคนนั้นจะฉิบหายล่มจม รวมทั้งเจ้าของที่ขายให้เขาด้วย คุณเอก็เชื่อ และจะหาโอกาสไปกราบองค์ญาณและองค์พ่อสักวันหนึ่ง
    ดูสิครับ ถ้าเคารพนับถือองค์พ่อจริงจัง แม้ไม่เคยไปกราบท่านที่ตำหนัก ถ้ามีเหตุฉุกเฉินจริง ๆ หากติดต่อผ่านองค์ญาณท่านก็ช่วยได้จริง ๆ นี่คือความศักดิ์สิทธิ์ของท่านที่หามนุษย์ผู้ใดเสมอเหมือนมิได้
     
  14. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    น้องบิ๊กพูดได้แล้ว
    ผมมีลูกชาย 2 คน คนโตชื่อน้องบิ๊ก เกิด 23 กุมภาพันธ์ 2541 คนเล็กชื่อน้องบูม เกิด 22 มกราคม 2544 น้องบิ๊กเป็นเด็กหน้าตาดีมาตั้งแต่เป็นทารก มีแววเฉลียวฉลาดมาตั้งแต่เด็กน้อย อายุเพียง 9 เดือน น้องบิ๊กเล่นอยู่คนเดียว จับถังของเล่นล้มคว่ำลง พูดเป็นภาษาอังกฤษตามหนังการ์ตูนที่เปิดให้ดูทุกวัน ว่า “Look at mee”ผมดีใจมาก คิดว่าลูกเราพูดได้เร็วผิดปกติ แต่มันก็เป็นเพียงถ้อยคำเดียวที่เปล่งออกมา จนอายุ2 ขวบกว่าก็ไม่ยอมพูดอะไรอีก พาไปหาจิตแพทย์ชื่อดัง ตามโรงพยาบาลดัง ๆ จนเกือบทั่ว ก.ท.ม. หมอแต่ละท่านก็ลงความเห็นไปคนละอย่าง เสียเงินให้อาจารย์ฝึกพูดไม่รู้เท่าไร ใครว่าที่ไหนดีแม่เขาก็พาไปมาจนหมด แต่บิ๊กก็ไม่ยอมพูด แต่ก็พูดได้ตามที่เขาสอนให้พูด แต่คิดคำพูดเองไม่เป็น อาการที่เหมือนเด็กออร์ทิสติกอื่น คือชอบเล่นนิ้ว นอกนั้นบิ๊กไม่ได้แตกต่างจากเด็กปกติ แต่ไม่ยอมเรียนหนังสือ ไปโรงเรียนทุกวัน แต่ไปเล่นกับครู เดินไปห้องนั้นห้องนี้ กับเพื่อน ๆ บิ๊กไม่สนใจที่จะเล่นกับใคร
    ผมกับแม่ของเด็กอยู่กันแบบสามวันดีสี่วันไข้ มีเรื่องทะเลาะกันให้ลูกดูอยู่บ่อย ๆ จนผมเอือมระอา จึงออกจากกรุงเทพ ฯ ไปอยู่เชียงราย เมื่อปี 2544 หวังจะให้ครอบครัวออกไปอยู่ด้วย ก็ไร้ผล แม่เขาบอกว่าถ้ามาอยู่โคราชจะพาลูกออกไปอยู่ด้วย ผมก็ไปเช่าบ้านอย่างดีอยู่ขามทะเลสอ รอจน 3 เดือนก็ไร้ผล จึงขนของกลับไปอยู่แพร่ แต่น้องบิ๊กก็คร่ำครวญถึงแต่พ่อ อยากไปอยู่กับพ่อ ผมไปเยี่ยมลูกแต่ละครั้ง เมื่อจากลูก บิ๊กก็คร่ำครวญร้องไห้ วิ่งหาจนทั่วบ้าน กว่าจะสงบได้ต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์ จนคนในบ้านเอือมระอา ต่างพูดกันว่า ต่อไปอย่าให้พ่อมันมาหาอีก
    เขาอยากไปอยู่กับพ่อ เพราะพ่อเลี้ยงมาแต่หลังคลอด อาบน้ำ ป้อนข้าว ป้อนนม ขี้ เยี่ยว อยู่ที่พ่อหมด และอุ้มจนติดมือ ติดพ่อจนกระทั่งแม้พ่อเข้าห้องน้ำก็ต้องไปนั่งรอ เมื่อพ่อจากไป จึงสร้างความอาลัยอาวรณ์ให้บิ๊กมาก แต่พ่อก็หาได้ใจอ่อนกลับไปอยู่กับแม่ของเขาไม่ รอแต่จะให้แม่นำลูกออกมาอยู่ด้วย เรื่องมันจึงไม่ประสบกันอย่างนี้ บิ๊กจึงประท้วงแม่ด้วยการไม่ยอมพูด จนกลายเป็นนิสัยพูดไม่เป็น ไม่อยากพูด
    เมื่อผมพูดเรื่องนี้ให้องค์ญาณฟัง องค์ญาณจึงเล่าว่าท่านเป็นเด็กก็ไม่ยอมพูดจนถึงอายุ 7 ขวบ เพราะอยากได้รองเท้าแต่พ่อแม่ไม่ยอมซื้อให้ ก็เลยประท้วงด้วยการไม่พูด แล้วก็กลายเป็นนิสัยไม่อยากพูดกับ ใคร ๆ เขาก็เรียกอีเปอบ้าง อีใบ้บ้าง แม่ก็เอากบเอาเขียดมาตบปาก เอาเลือดนกกระจิบกระจอกมาป้ายปาก ก็ปล่อยให้เขาทำ แต่ก็ไม่พูด เมื่อครบเกณฑ์เข้าโรงเรียนอายุ 7 ขวบ แม่พาไปโรงเรียน ครูใหญ่ไม่รับเข้าเรียน บอกว่าเด็กไม่พูดจะเรียนหนังสือได้อย่างไร เด็กหญิงยืนอยู่ข้างแม่จึงพูดโพล่งขึ้นว่า “พูดได้ ทำไมจะพูดไม่ได้ ไม่อยากพูดเฉย ๆ หรอก”
    แม่ได้ยินดังนั้นก็ดีใจ สวมกอดลูก พูดว่า “โถลูกแม่ เจ้าทำให้แม่เดือดเนื้อร้อนใจมาจนถึงปานนี้ เจ้าก็พูดได้แต่ทำไมไม่ยอมพูด” เด็กหญิงก็ไม่ยอมบอกว่าทำไมจึงไม่พูด แต่ถึงแม้พูดได้ เด็กหญิงก็พูดน้อย และเรียนหนังสือเก่งทุกวิชา แต่ตกภาษาไทยครับ มาพูดเป็นนกกระจิบกระจาบเอาตั้งแต่อายุ 15 ปี เมื่อเรียนมัธยมแล้ว
     
  15. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ผมเชิญองค์ญาณไปกรุงเทพ ฯ เพื่อรักษาน้องบิ๊กให้พูดได้ ก็นั่งรถพาไปเที่ยวดอนหอยหลอดทั้งพี่ทั้งน้องและแม่ของเขาด้วย พาขึ้นเรือเที่ยวดูทะเลและแม่น้ำลำคลอง เมื่อนั่งอยู่ในรถองค์ญาณก็เป่าหัวให้น้องบิ๊ก น้องบิ๊กก็หอมแก้มและแขนองค์ญาณ แสดงความรักองค์ญาณมาก และเริ่มพูดจาเป็นเรื่องเป็นราวขึ้น เมื่อส่งกลับบ้านแล้วผมก็กลับที่อยู่ องค์ญาณก็กลับบ้าน
    วันต่อมาแม่น้องบิ๊กโทร.หาองค์ญาณด้วยความตื่นเต้น บอกว่าองค์ญาณคะ น้องบิ๊กพูดได้แล้ว เมื่อวานเย็นหลังจากแม่ซื้อเค๊กวันเกิดมาให้ก็กุลีกุจอปักเทียนเอง จุดเทียนเอง ร้องเพลงแฮปปี้ เบริดเดย์จนจบ แล้วเป่าเทียนจนดับหมด ก็ปบมือหัวเราะชอบใจ เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดมาก่อน เพราะแกไม่เคยสนใจอะไรเลย ต่อมาเดินไปเตะเอาขาโต๊ะเข้า ตะโกนลั่นว่า “โอ๊ย...เจ็บโว้ย..” และเดี๋ยวนี้เถียงแม่แล้วนะองค์ญาณ แม่พูดมากก็ถลึงตาใส่ บอกว่ารำคาญ “ องค์ญาณโทร.เล่าให้ผมฟังว่าแม่เขาดีใจ หัวเราะด้วยความชอบใจ องค์ญาณบอกว่าจะเข้ากรุงเทพ ฯ ไปเป่าให้อีกสัก 2 ครั้ง ก็พูดได้ตามปกติเหมือนเด็กทั่วไป
    บิ๊กมีความเป็นมาเหมือนองค์ญาณ เพราะขณะที่แม่ตั้งท้องบิ๊ก ผมฝันว่าไปเดินเที่ยวในป่า ไปพบก้อนหินกลมรี ใหญ่ขนาดลูกขนุน ก้อนหินนั้นพูดได้ว่า ข้าคือเหล็กไหล เอาไปที แล้วผมก็ได้บิ๊กมาอยู่ด้วย วิญญาณที่มาเกิดก็คงเป็นเทพประจำเหล็กไหลองค์ใดองค์หนึ่ง ผมจึงคิดแต่แรกว่าการที่บิ๊กพูดไม่เป็นคงเพราะเป็นเทวดาสิงอยู่เหล็กไหลมานาน ไม่มีโอกาสพูดกับใครคล้ายพรหมลูกฟัก (คิดเอาเองครับ) แต่เดี๋ยวนี้รู้ว่าคิดผิด เพราะเทวดาจะอยู่ที่ไหนก็ล้วนมีพวกที่พูดด้วย จะไปไหนมาไหนก็มีอิสระรวดเร็วทันใจ แต่การไม่พูดของบิ๊กคือการประท้วงผู้ใหญ่แบบองค์ญาณประท้วงแม่ที่ไม่ยอมซื้อรองเท้าให้นั่นเอง
    ผมดีใจ ที่ลูกพูดได้แล้ว องค์พ่อ ๑๖ และองค์พ่อจิตรา องค์พ่อจินดา เมตตาผมและลูกจริง ๆ ใครที่มีลูกเป็นออร์ทิสติกก็อย่าเพิ่งท้อใจนะครับ โปรดนำไปพบองค์ญาณเถิด ความหวังยังมี อย่าเชื่อหมอหรือนักจิตวิทยาให้มากนัก เขาก็คือคนธรรมดาสามัญนี่แหละ ดีไม่ดีก็ให้ลูกของเรากินยาจนระบบประสาทสั่นคลอน เรื่องของจิตรักษาไม่ได้ด้วยยานะครับ ผมว่าพวกนักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับยาทั้งหลาย(ยาฝรั่ง) เชื่อได้เพียง 25% เท่านั้น อย่าไว้ใจนัก
     
  16. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    อยากได้เหล็กไหลหรือครับ
    มีหลายท่านที่ได้อ่านเรื่องแก้วมณีโชติ หรือเหล็กไหล ได้สอบถามไปว่าท่านมีให้บูชาหรือไม่ เรื่องนี้ผมได้เขียนบอกเล่าไว้แต่แรกเริ่มแล้วว่า เหล็กไหลหรือแก้วมณีโชติ เป็นของคู่บุญของคนบางคน ไม่สามารถซื้อขายเป็นเงินตราได้ เพราะเทพที่รักษาคุ้มครองท่านไม่ต้องการให้นำท่านมาเป็นสินค้าซื้อขายเป็นเงินตรา แต่เหล็กไหลบางองค์ สามารถสืบทอดได้ทางสายเลือด แต่ถ้าผู้สืบทอดไม่รู้จักสร้างกุศลผลบุญ เหล็กไหลหรือมณีโชติก็หาได้สร้างอิทธิปาฏิหาริย์ขึ้นมาไม่ อย่างมากก็เพียงปกป้องชีวิตเจ้าของไม่ให้เกิดอันตรายเท่านั้น หาได้บันดาลให้เกิดทรัพย์สินไม่ จึงพบได้หลายรายว่าผู้ที่เป็นเจ้าของเหล็กไหลนั้นลำบากยากจนมาก มีรายได้เพียงยาไส้ไปวัน ๆ เท่านั้น ทั้งนี้เพาะเขาขาดทานบารมีส่งเสริม และเทพประจำเหล็กไหลก็หาผู้สืบทอดรายใหม่ไม่พบ จึงยังคงอยู่กับผู้นั้น แต่จะนำท่านไปขายก็ไม่ได้เช่นกัน
    และขอเรียนให้ทราบว่า หากผู้ครอบครองเหล็กไหลมีอุปนิสัยโน้มเอียงไปทางไหน เทพที่ประจำเหล็กไหลก็จะมีอุปนิสัยไปทางนั้นมากยิ่งกว่า ถ้าอยู่ในมือคนชั่ว อยู่ในมือโจร วิญญาณที่อยู่กับเหล็กไหลกลับจะนำพาไปเป็นหัวหน้าโจรเสียอีก เพราะวิญญาณที่อยู่กับเหล็กไหลนั้นเป็นกึ่งเทพกึ่งอมนุษย์ ถ้าผู้ครอบครองไม่มีบุญบารมีเพียงพอแล้ว เหล็กไหลจะสร้างความหายนะให้เกิดกับชีวิตเสียมากกว่า จึงเรียนให้ทราบว่า ถ้าท่านไม่มีบารมีธรรมเพียงพอแล้ว ถึงแม้มีทรัพย์ก็อย่าได้คิดเป็นเจ้าของเหล็กไหลเลย เพราะมันไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ นอกจากยิงไม่ออก ฟันแทงไม่เข้า ป้องกันภัยอันตรายได้ทุกอย่างเท่านั้น และมันจะชักนำให้จิตใจฮึกเหิมจนลืมตัว แล้วกลายเป็นคนชั่วที่กู่ไม่กลับ
    แต่สำหรับผู้มีบารมีธรรม ชอบบำเพ็ญเพียรทางจิตอยู่เสมอ เหล็กไหลกลับจะเพิ่มพลังอานุภาพในการเสริมสร้างพลังจิตยิ่งนัก จะทำให้จิตใจสงบ และสร้างอิทธิปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นอย่างง่ายดาย
     
  17. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    แล้วทำอย่างไรจึงจะได้ครอบครองเหล็กไหล หรือมณีโชติ ตอบได้ว่า มีแต่องค์พ่อ ๑๖ และองค์พ่อจิตราเท่านั้น ที่จะรู้ว่าใครจะมีบารมีเพียงพอที่จะได้ครอบครอง เพราะเรื่องเคยมีมาแล้ว คนมีเงินหลายร้อยล้านบาท อยากมาบูชาเหล็กไหลจากองค์ท่าน ท่านว่ากูไม่หวงหรอก มึงลองเสี่ยงบารมีดูสิ ถ้ามึงจับได้มึงก็บูชาเอาไปได้ ชายผู้นั้นกราบแล้วกราบอีก จึงเอื้อมมือไปจับเหล็กไหลที่ท่านนำมาวางไว้บนพานข้างหน้า แต่เขาก็สะดุ้งโหยง เพราะก้อนเหล็กนั้นไม่ได้แตกต่างจากเหล็กเผาไฟเลย
    องค์พ่อจิตรากล่าวว่า “เงินทองกูก็อยากได้ให้ลูกกูเหมือนกันนะ กูอยากให้มันนำไปใช้ประโยชน์ช่วยเหลือผู้คน แต่เมื่อมึงไม่มีบารมีเป็นเจ้าของกูก็ให้ไม่ได้ “ ท่านว่าของท่านอย่างนี้ ดังนั้น ใครคิดจะเป็นเจ้าของก็ลองไปทดสอบบารมีดูนะครับ ท่านคงไม่คิดขายร้อยล้านพันล้านหรอก ถ้าชอบใจคนผู้นั้นจริง ๆ ท่านอาจยกให้ฟรี ๆ ก็ได้

    องค์พ่อจิตราเป็นเทพที่คุ้มครองเหล็กไหล และเป็นใหญ่กว่าเทพทั้งปวงที่อยู่กับเหล็กไหล ท่านจะเรียกเหล็กไหลมาจากไหนเมื่อไรก็ได้ แต่ท่านจะมอบให้ใครอยู่ในดุลยพินิจของท่าน องค์ญาณผู้เป็นร่างของท่านก็ไม่มีสิทธิ์ตัดสินในเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมา องค์ญาณก็มอบให้สานุศิษย์ใกล้ชิดบางคนที่องค์ญาณชอบพอ แต่ผ่านไปไม่นานองค์พ่อจิตราก็เรียกคืนไปอยู่ที่ตำหนัก


    เจ๊เล็ก เจ้าของร้านเงินไหลมา ราชาวีดิโอ ที่ตลาดโชคชัย ได้เล่าให้ฟังว่า “เหล็กไหลที่องค์ญาณให้ฉันไว้ติดตัวนั้นเป็นองค์เล็กขนาดแคปซูลยา ฉันก็ใส่กรอบทองใส่สายสร้อยทองไว้อย่างดี วันที่จะหนีไปนั้น เปิดกรอบออกมาเอง แล้วมาเกาะอยู่ที่สร้อยทอง ไต่ขึ้นไต่ลง ฉันตกใจ อัศจรรย์จนขนหัวลุก ฉันก็กราบ แล้วใส่กรอบไว้ตามเดิม วันต่อมาก็วางไว้บนโต๊ะส่วนตัวในห้อง ลูกชายเข้าไปในห้อง ไปพบเข้าจึงทักว่า “แม่ ทำไมกรอบพระของแม่ว่างเปล่า ของที่อยู่ข้างในไปไหนล่ะ” ฉันรีบวิ่งไปดู ตกใจ เสียใจจนน้ำตาร่วง ท่านเปิดกรอบออกเองแล้วหนีไป ท่านไม่อยากอยู่กับฉันแล้ว ฉันมีบาปอะไรหรือต้องทำเช่นนี้ ต่อจากนั้นไม่กี่วัน เหล็กไหลองค์นี้ก็ไปอยู่บนพานที่ตำหนัก แต่ฉันไม่เอาคืนเพราะท่านไม่อยากอยู่กับฉันแล้ว”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    เหล็กไหลองค์เล็ก ๆ อีกองค์หนึ่ง องค์ญาณมอบให้น้องชายที่ทำงานอยู่ท่าอากาศยานกรุงเทพ (คุณประมิน) เขาก็รักษาอย่างดี แต่ไป ๆ มา ๆ ก็หายจากกรอบอย่างไร้ร่องรอย เจ้าของตกใจโทร.สอบถาม และเล่าเรื่องให้องค์ญาณฟัง ถามว่าเสด็จกลับไปที่ตำหนักหรือเปล่า
    ทำไมเหล็กไหลจึงไม่อยู่กับเขา เขาทำผิดอะไรหรือ มีแต่เจ้าตัวและพ่อจิตราเท่านั้นที่รู้ เพราะใครจะมากล่าวตำหนิติว่าลูกสาวท่านไม่ได้ ใครมารังแกลูกสาวท่านก็ไม่ได้ เพราะใครจะอยู่ที่ไหน ในที่ลับหรือที่แจ้ง คิดอะไร พูดอะไร องค์พ่อจิตรารู้หมด (องค์ญาณก็รู้ด้วย) ไม่มีใครโกหกท่านได้ ถ้าท่านไม่พอใจท่านก็เรียกของกลับหมด “ลูกสาวข้าใครอย่าแตะ”
     
  19. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    ได้จากมือพ่อล้วนศักดิ์สิทธิ์
    ความจริงแล้ว สิ่งใดที่พ่อ ๑๖ และพ่อจิตรามอบให้สานุศิษย์ ล้วนเป็นของศักดิ์สิทธิ์วิเศษทั้งสิ้น ท่านอาจเก็บก้อนหินขึ้นมามอบให้ บอกว่าของนี้ดี ช่วยชีวิตเองได้ ของนั้นก็กลายเป็นของวิเศษยิ่งกว่าพระเครื่องที่เราไปบูชามาด้วยเงินหมื่นเงินแสน ถ้าท่านบอกว่า ของนี้ยิงไม่ออก ลองได้ ถ้าท่านรับรองและท้าอย่างนั้น ใครจะเอาปืนชนิดไหนยิงก็ไม่ออกเช่นกัน นี่คือความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ผมรู้เรื่องนี้ดี จึงนำพระสมเด็จเก่า ๆ และพระเบญจภาคี แท้ ๆ ที่ตัวเองสะสมไว้ไปมอบให้ท่านไว้จำนวนมาก เพื่อให้ท่านมอบให้คนที่บริจาคทรัพย์ช่วยท่านสร้างอาศรมปฏิบัติธรรมในฝัน
    มีหลายคนที่ทราบว่าผมจะสร้างสำนักวิปัสสนาสำหรับฆราวาส จึงถามผมว่า แล้วใครจะเป็นอาจารย์สอนกรรมฐาน ผมขอตอบ ณ ที่นี้ว่า องค์พ่อ ๑๖ ซึ่งเป็นพระอนาคามี ในพรหมชั้นสุทธาวาส จะลงมาสอนกรรมฐานแก่สาธุชนผู้สนใจ และมารักษาคนเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังที่รักษาไม่รู้หาย ทั้งช่วยเหลือผู้ประสพปัญหาชีวิตทุกรูปแบบซึ่งท่านสามารถช่วยได้ อันไม่เกินวิบากกรรมของผู้นั้น
    สำนักนี้จะมีแต่ฆราวาสเท่านั้น ทุกคนอยู่แบบอิสระ ไร้รูปแบบ จะใส่เสื้อผ้าชุดไหนสีอะไรไม่มีกำหนด ชอบใจปฏิบัติทางจิตแบบไหนเราก็ไม่ขีดเส้นตาย เพราะอุปนิสัยของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน จะให้มาปฏิบัติแบบเดียวกันเป็นไปไม่ได้ เพราะพระพุทธเจ้าตรัสสอนกรรมฐานไว้หลายสิบรูปแบบ แต่องค์พ่อ ๑๖ ท่านรู้จิตใจคน ท่านคงรู้หรอกว่าคนไหนควรรับกรรมฐานแบบไหน
    การปฏิบัติทางจิตมันไม่มีรูปแบบ มันไม่มีท่ามีทางอะไร จะแก้ผ้านั่งสมาธิก็ได้ ถ้าถนัดหกคะเมนตีลังกาทำสมาธิ ก็ทำได้ไม่ผิด จะนอนซมอยู่กับที่ทั้งวันเหมือนคนขี้เกียจก็ได้ จะเดินไปมาอยู่ทั้งวันก็ได้ ขอให้มีสติรู้กายกับจิตเพียงเท่านี้ กิเลส ตัณหา ความสุข ความทุกข์ มันอยู่ที่จิตเท่านั้นแหละ อย่าหลงรูปแบบว่าต้องใส่ชุดนั้นชุดนี้ ต้องปฏิบัติท่านั้นท่านี้ ขอเพียงแต่เอาจริง สถานที่สงบ มีอาหาร มีที่อยู่ที่สบาย ไม่ต้องกลัวว่าถ้าแต่งชุดฆราวาสบรรลุเป็นอรหันต์จะต้องตายใน 7 วัน ขอให้มันบรรลุจริง ๆ เถอะ จะตายภายในวันนั้นก็ยิ่งวิเศษ
     
  20. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    พระเครื่องเก่าแก่บูชา
    สมเด็จวัดระฆัง พระรอดลำพูน พระนางพญาพิษณุโลก พระซุ้มกอกำแพงเพชร พระผงสุพรรณ พระลีลาเม็ดขนุน พระที่วงการให้เช่าเป็นแสนเป็นล้าน ถ้าไปรับจากมือองค์พ่อ มันก็ไม่แพงระห่ำขนาดนั้น ทั้ง ๆ ที่เป็นของจริงแท้แน่นอน แต่ถ้านำไปให้เซียนพระดู ไม่ว่าจะเก่าขนาดไหน จริงแท้ขนาดไหน เขาก็ว่า “พระนอกพิมพ์” เพราะผมทดลองเอาพระรอดวัดมหาวันทุกรุ่น ทุกพิมพ์ โดยเฉพาะพิมพ์ต้อ ซึ่งมาจากกรุใต้ดินวัดมหาวัน เต็มไปด้วยสนิมเหล็กเกาะจับเต็มไปหมด แม้ตะไบเหล็กยังยากที่จะแคะออกได้ พระชุดนี้เป็นรุ่นหนึ่งที่ฤาษีนารอดเป็นผู้สร้าง จึงอยู่ใต้ดินระดับลึก แต่เซียนพระดูแล้ว บอกว่าเป็นพระนอกพิมพ์ ผมก็ไม่ทราบว่าพระตรงพิมพ์นั้นเขาสร้างขึ้นมาสมัยไหน หรือพวกเขาพากันสร้างมากับมือ จะเชื่อนักธุรกิจพุทธพาณิชย์ หรือเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถพิสูจน์ได้ก็แล้วแต่บุญนำกรรมแต่งแล้วครับ

    มีข้อที่แปลกอยู่ประการหนึ่ง ผมได้รับพรพิเศษจากองค์พ่อ ๑๖ และองค์พ่อจิตรา โดยปกติ ถ้าใครต้องการอัญเชิญท่าน ต้องมีพิธีรีตองมากมาย แต่สำหรับผมแล้ว ถ้าผมพบกับองค์ญาณ ต้องการสอบถามสนทนากับเทพองค์ไหน ท่านจะลงมาสนทนากับผมทันที โดยไม่มีพิธีรีตองอะไร ท่านให้พรผมว่าอยากได้อะไรให้ขอท่านได้ จะขอให้ร่ำรวยเท่าไรท่านก็จะให้ ผมขออะไร รู้มั้ยครับ
    ผมเบื่อหน่ายการถือครองทรัพย์สมบัติทั้งปวงในโลกนี้ เบื่อหน่ายการแสวงหา ไม่อยากได้ ไม่อยากมีอะไร เพราะมีอะไรก็เป็นทุกข์เพราะสิ่งนั้น แล้วทรัพย์สินทั้งหลายมันเป็นของในโลกนี้ ตายแล้วก็เอาไปด้วยไม่ได้ ใครจะรวยล้นฟ้าอย่างไรก็ล้วนต้องทิ้งมันไป แต่ยามมีชีวิต คนร่ำรวยก็ล้วนเป็นทุกข์เพราะทรัพย์สมบัติ แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันก็เพราะแย่งทรัพย์สมบัติเงินทอง โกหกหลอกลวงกันก็เพราะหวังได้ทรัพย์สินเงินทอง ฆ่ากันตายก็เพราะทรัพย์สินเงินทอง ดู ๆ แล้ว ทรัพย์สินเงินทองเป็นตัวก่อให้เกิดทุกข์ และทำให้คนชั่วต้องทำชั่วมากขึ้น ผมจึงไม่อยากได้ ไม่อยากมีอะไร ขออยู่ลอยตัวแบบเทวดา มีกินมีใช้ มีที่อยู่กันร้อนกันหนาว พอแล้วครับ
    ผมบอกท่านว่า ผมอยากมีตาทิพย์ หูทิพย์ มองเห็นพวกภูตผีปีศาจที่ตกทุกข์ได้ยาก ผมอยากช่วยเหลือให้เขาพ้นทุกข์ เพราะผมคบหากับคนมามากมายแล้ว ผมช่วยใครก็ไม่เห็นคนที่ได้รับการช่วยเหลือรู้สึกรู้สม เพราะคนเรามันเต็มไปด้วยกิเลสตัณหาไม่มีที่สิ้นสุด มันนึกจะเอา ๆ ๆ ได้แล้วมันก็ไม่รู้สึกถึงคุณงามความดีของคนที่ให้ แต่พวกภูตผีมันตกทุกข์ได้ยากมานาน หาใครช่วยไม่ได้ ถ้าเราช่วยเขา เขาจะเคารพบูชาเราอย่างจริงใจ หน้าที่ช่วยเหลือมวลมนุษย์เป็นขององค์ญาณ แต่หน้าที่ช่วยเหลือวิญญาณที่ตกทุกข์ได้ยากจะเป็นของผม ผมจึงขอพรให้มีหูทิพย์ตาทิพย์
     

แชร์หน้านี้

Loading...