เหตุที่ผมออกจากวัดพระธรรมกาย เพราะ...

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย วงบุญพิเศษ, 30 ธันวาคม 2011.

  1. วงบุญพิเศษ

    วงบุญพิเศษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +649

    เรื่องในส่วนของปรัยัติอภิธรรม ผมไม่มีความรู้เลยครับ คงจะมีผู้ทรงภูมิรู้มาตอบปัญญาธรรมท่านได้ในภายหลัง
     
  2. บ้านธรรมะ

    บ้านธรรมะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +14
    [​IMG]
    สัพพะทุกขะนิสสะระณะ นิพพานะสัจฉิกะระณัตถายะ
    เพื่อกำจัดทุกข์ทั้งปวงให้สิ้นไปและกระทำพระนิพพานให้แจ้ง

    อารัมภบท
    หากท่านได้อ่านกระทู้นี้จนจบ ท่านจะสามารถจับต้นชนปลายเรื่องราวเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายได้เป็นอย่างดี

    สิ่งที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ เป็นประสบการณ์จริงของผมที่ได้เข้าไปสัมผัสวัดพระธรรมกายในระยะเวลาหลายปี ถึงแม้จะไม่มาก แต่ด้วยความที่ผมเป็นคนที่หากสนใจอะไรแล้ว ต้องรู้ให้จริง ต้องรู้ให้หมด ต้องจับต้นชนปลายให้ได้ ทำให้เรื่องราวต่างๆในวัดพระธรรมกายทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ล้วนผ่านสายตาผมทั้งสิ้น
    โดยจริตผมแล้ว เป็นคนที่รักพระพุทธศาสนามาก และปรารถนาให้พระศาสนามีความรุ่งเรืองเฟื่องฟู รักการสร้างบุญบารมี และมีพื้นฐานความรู้ในส่วนของพระสุตตันตปิฎกมากกว่าอีกสองปิฎก ผมเข้าวัดพระธรรมกายเพราะได้ดูเคเบิลทีวีช่องDMC ซึ่งเป็นของวัดพระธรรมกาย มีการถ่ายทอดรายการต่างๆตลอด 24ชั่วโมง รายการที่มีเรตติ้งสูงสุดคือรายการ “โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา” มีหลวงพ่อธัมมชโย (ปัจจุบันดำรงสมณศักดิ์ที่ พระเทพญาณมหามุนี) เป็นผู้แสดงธรรม


    [​IMG]
    การบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์เป็นการยาก เพื่อให้สรรพสัตว์เข้าสู่พระนิพพานโดยเร็วในยุคสมัยของพระองค์ หาใช่เพื่อการบูชาด้วยดวงประทีปนับแสนนี้ไม่ แก่นกับกระพี้พีงแยกให้ออก


    -มีการอ่านผลการปฎิบัติธรรมของศิษยานุศิษย์ เพื่อเป็นแนวทางแก่ผู้ที่ยังไม่เข้าถึงธรรมและเป็นกำลังใจในการปฏิบัติธรรม(ซึ่งจากการศึกษาในภายหลังจากต้นวิชชา พบว่าเพี้ยนไปเป็นจำนวนมาก)
    -เทศน์เรื่องอานุภาพของบุญตามโครงการต่างๆที่ทางวัดกำลังโปรโมท เช่นช่วงการระดมสรรพกำลังสร้างองค์พระปิดเจดีย์ ก็จะอ่านอานุภาพการสร้างองค์พระที่ศิษย์วัดส่งไป
    -มีการประกาศข่าวบุญต่างๆของทางวัดทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศอย่างเป็นทางการ เช่นโครงการบวชพระหนึ่งแสนรูป โครงการบวชอุบาสิกาแก้วหนึ่งล้านคน โครงการตักบาตรพระหนึ่งล้านรูป โครงการเด็กดีวีสตาร์หนึ่งล้านคน เป็นต้น
    -และที่สำคัญที่สุดคือ Case study คือการอ่านเรื่องราวชีวิตของศิษย์ที่ส่งไปพร้อมคำถามต่างๆที่เกี่ยวกับเรื่องในอดีตชาติ-ปัจจุบันชาติที่ต้องอาศัยญาณทัศนะในการตอบ ทั้งหมดเพื่อเป็นกรณีศึกษากฎแห่งกรรม ซึ่งในCase studyนี้เอง ได้มีการกล่าวถึง “หมู่คณะ” ในนานาทัศนะเพื่อเสริมศรัทธาดังจะกล่าวต่อไป

    เมื่อผมได้ติดตามรายการต่างๆทางช่อง DMC เป็นระยะเวลาหนึ่งก็เกิดความเลื่อมใส ศรัทธาในงานบุญต่างๆของทางวัด เพราะล้วนสร้างผลดีต่อพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น ทุกๆงานมีความเป็นระเบียบ เรียบร้อย ยิ่งใหญ่ และมีผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อพระศาสนา ซึ่งทั้งหมดต้องใช้ “งบประมาณ(เงิน) กำลังคน กำลังสติปัญญาอย่างมหาศาล” และในปัจจุบันนี้ไม่มีหมู่คณะศรัทธาใดสามารถทำได้ เท่าวัดพระธรรมกายอีกแล้ว


    [​IMG]
    กระพี้งามแต่ไมมีแก่น ไม่มีมรรคผลนิพพาน จะมีกระพี้ไปทำไม?

    วิธีการสอน ปลูกฝัง และสร้างกระแสศรัทธา
    มีการปูพื้นเรื่องราวให้ดู “มั่นคง” และ “มั่นใจ” ในการร่วมเดินทางไปในสังสารวัฏว่า “หมู่คณะของเรา เป็นหมู่คณะเดียวในสังสารวัฏนี้ที่มีปณิธานไปสู่ที่สุดแห่งธรรม โดยมีมหาปูชนียาจารย์ 3ท่านเป็นผู้นำ คือพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงพ่อวัดปากน้ำ พระเดชพระคุณพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) และคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง มีการร่วมเวียนเกิดเวียนตายด้วยกันมาหลายอสงไขยมหากัป โดยมีที่พักที่สวรรค์ชั้นดุสิต เรียกว่า “ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์” โดยพวกเราทั้งหมดเป็นพระโพธิสัตว์ที่ปรารถนาขนหมู่สัตว์ทั้งหมด เข้าสู่พระนิพพาน ไม่ให้เหลือแม้เพียงหนึ่ง โดยมีการเสริมเติมว่า ที่เรียกว่าวงบุญพิเศษเพราะ หมู่คณะเรายังไม่ได้รับการพยากรณ์ (ยังเป็นอนิยตโพธิสัตว์) แต่มีวิมานในเขตของนิยตโพธิสัตว์ ณ ดุสิตาเทวโลก มีจำนวนพี่น้องร่วมวงบุญประมาณ6ล้านคน และในทุกๆกึ่งพุทธกาล จะมีการอธิมุตติการกิริยาลงมาในมนุษย์โลกเพื่อสั่งสมบารมีโดยการฟื้นฟูพระพุทธศาสนา และในที่สุดหมู่คณะของเราจะเข้านิพพานเป็นหมู่คณะสุดท้าย”

    [​IMG]
    หากเรื่องดุสิตบุรีและหมู่คณะ มีจริง คงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่เหตุไฉนพระบรมศาสดาหรือหลวงพ่อวัดปากน้ำ จึงมิได้ตรัสหรือเทศน์ไว้เลย?

    และเสริมศรัทธาเข้าไปอีก
    …อย่างที่กล่าวแล้วว่า ในรายการ “โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา” มีการเล่าเรื่องราวกรณีศึกษากฎแห่งกรรม(Case study) ซึ่งทุกเรื่องจะมีการกล่าวย้อนไปในอดีตเมื่อพุทธันดรก่อนๆ ที่หมู่คณะลงมาสร้างบารมี โดยกล่าวว่าเกี่ยวเนื่องด้วยหลวงพ่อวัดปากน้ำ คุณยายแม่ชีจันทร์ หลวงพ่อธัมมชโย และหลวงพ่อทัตตชีโว ให้ดูน่าเชื่อถือ ดูมีเรื่องมีราว มีเหตุมีผล ซึ่ง Case study นี้ หลวงพ่อเจ้าอาวาสจะกล่าวนำก่อนว่า “หลับตา ฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาวหนึ่งทีแล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรา” ในทำนองว่าเพื่อกันวินัยอวดอุตริ แต่ผู้ฟังมิได้คิดเช่นนั้น มีการเชื่อกันอย่างเอาเป็นเอาตายว่าทุกเรื่องเป็นความจริง ยิ่งปรากฏมีพิธีกร พระที่ได้ออกรายการต่างๆเอ่ยอ้างถึงCase study ว่าเป็นเรื่องจริง แม้กระนั้นก็มิได้มีการกล่าวแก้ตัวแต่อย่างใดจากเจ้าอาวาสว่าเรื่องราวเหล่านั้น จริงเท็จประการใด มิหนำซ้ำเจ้าอาวาสยังแสดง อวัจนภาษา ลีลาว่าเป็นจริงดังนั้นด้วย ก็เป็นอันว่าได้กระแสศรัทธา คุณวิเศษ โดยอาศัย “ปากต่อปาก” ของผู้เลื่อมใสอยู่แล้ว ยิ่งไปกันใหญ่ตราบจนปัจจุบัน

    [​IMG]
    สมัยหลวงพ่อวัดปากน้ำยังมีชีวิตอยู่ ก็ได้ปรารถเหตุจะเผยแผ่วิชชาธรรมกายไปทั่วโลกเหมือนกัน ท่านก็กล่าวเพียงว่า ธรรมกายจะเลี้ยงธรรมกายทำได้ ไม่ต้องเอากิเลสมาร ไม่ต้องพูดถึงสวรรค์ให้คนไปทำบุญกับท่านเพื่อเป็นทุนในการเผยแผ่วิชชาธรรมกายเลย


    มีการปลูกฝังว่าเราทุกคนเกิดมาเพื่อสร้างบุญบารมีอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันเยี่ยงพระโพธิสัตว์ ให้เราทุกคนรักพระพุทธศานา และมีจิตใจเป็นหนึ่งเดียวกับหลวงพ่อธัมมชโย ว่าอย่างไรก็ว่าตามกัน ปลุกเร้าให้ทุกคนตื่นตัวในการรักษาพระศาสนา โดยการสร้างถาวรวัตถุ พุทธสถานให้ยิ่งใหญ่เพื่อรอการรวมตัวของพุทธบริษัท สร้างพระเจดีย์เป็นจุดรวมใจ สร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมเพื่อรองรับคน ในปัจจุบันหากรวมแล้วทั้งวัดจะสามารถจุคนได้แน่นสุดๆได้ราว 1.4ล้านคน

    ทุกอย่างดูจะไม่มีข้อกังขา
    ทุกอย่างดูมีเหตุมีผลรองรับ แต่ทว่า เบื้องหลังข้ออ้างว่าเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ก็คือ “กิเลสมาร” ความหล่อ สวย รวยๆ ฉลาดๆ ความเจริญยิ่งด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข สวรรค์วิมาน-สวน-สระ-ประติมากรรม ความอยากอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น ความโลภ การวาดหวังอานิสงค์ ผลบุญ ซึ่งทั้งหมดถูกลบล้างด้วยเหตุผลที่ว่า “หมู่คณะของเรามิได้หวังนิพพานชาตินี้ แต่ยังจะต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกเพื่อสร้างบารมีให้แก่รอบไปเรื่อย โดยไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น (ที่สุดแห่งธรรม) จึงยังมีกิเลส แต่ทุกๆคนเมื่อเวียนเกิดเวียนตายไปเรื่อยๆก็จักสามารถลด ละไปได้ ขนาดคุณยายอาจารย์ยังเคยกล่าวไว้ว่า ใครจะเข้านิพพานก็เข้าไป ยายก็ขอโมทนา แต่ยายจะอยู่ปราบไอ้ดำก่อน” เป็นอันว่าทุกๆคนก็ตั้งหน้าตั้งตา “เตรียมเสบียง” ไว้เสวยโลกียสุขไปทุกภพทุกชาติทั้งพระทั้งโยม ไม่มีใครหวังนิพพานเลย จนผมอดคิดไม่ได้ว่า หากเกิดกระแสที่สุดแห่งธรรมฟีเวอร์ จะไม่มีอริยบุคคลเลยในโลก ทุกคนหวังแต่การเกิดภพชาติไม่รู้จักจบจักสิ้น ประดุจติดห่วงแห่งมารอย่างสิ้นเชิง เป็นบ่าวเป็นทาสของเขาไปตลอดกาล สรุปคือ “ถูกมารปราบเสียหมดท่า” อานิสงส์ของการทำบุญทอดผ้าป่า (ภาคพิเศษ) ตอนที่ 7

    ชื่อวัดพระธรรมกาย ก็ต้องมี “วิชชาธรรมกาย” เป็นหลักสำคัญ แต่…
    เมื่อระยะเวลาผ่านไประยะหนึ่ง ผมสังเกตการสอนสมาธิปฏิบัติตามแนวหลวงพ่อวัดปากน้ำในวัดพระธรรมกาย สามารถสรุปใจความได้ว่า “ให้นำใจไปจรดที่ศูนย์กลางกายฐานที่7 ตลอดเวลาทั้งนั่ง นอน ยืน เดิน ทำใจเฉยๆ สบายๆ อาจกำหนดนิมิตเป็นดวงแก้วใส องค์พระ หรืออะไรก็ได้ และให้ภาวนาสัมมาอะระหัง เมื่อใจถูกส่วนเข้าก็จะเห็นเอง ประสบการณ์ภายในจะสอนตนได้เอง และในที่สุดจะสามารถเข้าถึงพระธรรมกายได้ หากใครที่ยังไม่เข้าถึง ให้เสริมด้วยการสร้างบุญให้มากๆ สักวันหนึ่งจะเข้าถึงได้เอง” ดูจะไม่แปลกอะไร หากเรามิได้ศึกษาวิชชาธรรมกายจากสายอื่นเลย แม้หลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านก็เคยกล่าวว่า “หยุด เป็นตัวสำเร็จ” ทุกอย่างที่เป็นเรื่องวิชชาธรรมกาย ในวัดพระธรรมกาย ไม่มีองค์ความรู้อื่นใดนอกจาก การทำใจหยุดใจนิ่ง แม้หนังสือที่เกี่ยวกับ “องค์ความรู้ทางวิชชาธรรมกาย” ที่ออกมาจากวัดพระธรรมกาย ก็หาไม่ได้เลยสักเล่ม ตามหลักวิชาการแล้ว องค์กรใดมีข้อมูลระดับไหนก็ควรมีข้อมูลองค์ความรู้ในระดับต่างๆให้ได้ศึกษา หากเป็นวัดพระธรรมกาย ก็ควรมี “วิชชา” ธรรมกาย ให้ได้ศึกษา แต่ในวัดพระธรรมกาย หนังสือที่มีมากและมียอดการผลิตสูงสุดคือหนังสือที่เกี่ยวกับ “อานุภาพ” บุญต่างๆ เช่นอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ ประวัติมหาเศรษฐีต่างๆที่รวยได้เพราะการทำบุญที่วัดนี้ ฯลฯ

    [​IMG]
    ตำราทางมรรคผล:ตำราพื้นฐานที่วัดปากน้ำแจกฟรีตั้งแต่สมัยหลวงพ่อสด ที่หาในวัดพระธรรมกายไม่มี
    หนังสือ " ทางมรรคผลนิพพาน ฉบับดั้งเดิม ปี ๒๔๙๙ "

    เรื่องวิชชาธรรมกายในระดับอื่น เช่นวิชชา18กาย ซึ่งในสมัยหลวงพ่อวัดปากน้ำถือเป็นเรื่องอนุบาล ปกติ มีการแจกหนังสือทางมรรคผลให้แก่สาธุชนทั่วไปซึ่งกล่าวถึงวิชชาธรรมกายในเบื้องต้น จนถึง18กาย(แม้ในปัจจุบันที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญก็ยังแจกฟรีเป็นธรรมทาน) ในวัดพระธรรมกายถือเป็นเรื่องลึกลับ ห้ามพูดถึง สาธุชนส่วนใหญ่ในวัดยังไม่ทราบเรื่องนี้ด้วยซ้ำไป ทุกเรื่องเมื่อมี “ปัญหาข้อสงสัย” เกิดขึ้น ก็จะโยนไปที่พระอาจารย์ท่านนั้นท่านนี้ ให้ไปนั่งสมาธิเอง โยนไปในอาคารภาวนา60ปีบ้าง (เป็นอาคารที่เชื่อกันว่าใช้เป็นเสมือนโรงงานทำวิชชาธรรมกายระดับสูง มีพระปฏิบัติได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งเรื่องราวในอาคารนี้ทุกอย่างเป็นความลับสุดยอด)
    ทำให้ศิษย์วัดพระธรรมกายทุกคนอยู่กับ “ความเชื่อ-ศรัทธา” ไม่รู้จุดหมายของตนอย่างมีหลักวิชชา ก็ลุยอธิษฐานตามติดติดตามเขาไปแล้ว

    ทำไมถึงเชื่อได้ขนาดนั้น
    1. มีการเชื่อมโยงไปที่หลวงพ่อวัดปากน้ำเป็นหลัก เริ่มต้นด้วยประวัติของคุณยายอาจารย์จันทร์ ขนนกยูงว่าเป็นศิษย์ของหลวงพ่อวัดปากน้ำ มีความเชี่ยวชาญในวิชชาธรรมกายระดับสูง มีอัธยาศัย-จริตดีมาก ได้รับการยอมรับจากหลวงพ่อวัดปากน้ำให้เป็นหัวหน้าเวรทำวิชชาในโรงงานทำวิชชาธรรมกายระดับสูงที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญและได้รับการชื่นชมจากหลวงพ่อสด ว่า “เป็นหนึ่งไม่มีสอง” มีฤทธิ์ มีเดช บุญญาบารมี มีอานุภาพมาก ซึ่งจากการที่ผู้เขียนได้ศึกษาจากต้นวิชชา ทำให้ทราบว่า แม่ชีจันทร์มีตำแหน่งหน้าที่เพียง “รักษาการหัวหน้าเวรทำวิชชา” และได้รับการชื่นชมว่า “เป็นหนึ่งไม่มีสอง ทางด้านการตรงต่อเวลา” ทั้งหมดทำไปเพื่อปูทางให้ “หลวงพ่อธัมมชโย”
    2. มีการนำเรื่องราว ประวัติของศิษย์วัดที่ทุ่มเทชีวิตแล้ว “รอดตาย หายป่วย รวยเรื้อรัง” มาโปรโมท ในทำนองเพื่อยืนยัน-กระตุ้นศรัทธา ในอานุภาพความขลัง ซึ่งที่ “จนไม่เลิก ตายอนาถ” มีเป็นจำนวนมากก็มิได้มีการกล่าวถึง
    3. มีการโปรโมทความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อธัมมชโยว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก ผ่านประวัติของแม่ชีจันทร์ว่าได้ถ่ายทอดวิชชาทั้งหมดให้เจ้าอาวาส พร้อมด้วยการพูดจาหาเสียงให้เจ้าอาวาสว่า “พูดอะไรแล้ว เป็นจริงทุกอย่าง” เช่นว่าต่อไปจะมีคนมาปฏิบัติธรรมเป็นล้านคน ทำบุญมากๆแล้วรวย เหตุการณ์อัศจรรย์ตะวันแก้ว แต่ที่พูดแล้วไม่จริงก็มีมาก อย่างล่าสุดที่บอกว่ากรุงเทพน้ำจะไม่ท่วมเพราะมีพญานาคมาช่วยดูดน้ำ ก็ไม่จริง ท่วมไปครึ่งเมือง และนอกจากCase study แล้วก็ยังมีการพูดถึง "เรื่องราวละเอียดๆ” เช่นเรื่องพญามาร การเกิดดับของโลก โลกนี้ โลกหน้า เหตุการณ์ปัจจุบันของต่างจักรวาลเพื่อเคล้าศรัทธาในหนาแน่น อย่างเร็วๆนี้คือการพูดถึง “พระพุทธเจ้าในอีกจักรวาลว่ากำลังประทับบนจักรแก้ว มีพระสาวกเป็นจำนวนมากกำลังเวียนประทักษิณโดยรอบพระพุทธเจ้านั้น” ผ่านรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
    4. มีการให้ผู้ปฏิบัติธรรม ที่อ้างว่าได้วิชชาแล้ว ออกมาเล่าเรื่องราวละเอียดต่างๆเกี่ยวกับภพภูมิ มาร วิญญาณ ที่ได้กล่าวสรรเสริญบูชาหลวงพ่อธัมมชโย ดังเทปเสียงของ “น้าจี้” ที่มีการนำมาลงใน YouTube แต่สำนักปฏิบัติธรรมกายสายอื่น ได้ทำธรรมวิจัยแล้วว่าน้าจี้พูดไม่ตรงหลักวิชชาธรรมกาย สิ่งที่พูดไม่มีในหลักวิชชา
    5. ฯลฯ
    [​IMG]
    ลักษณะพระธรรมกาย ที่วัดปากน้ำ วัดหลวงพ่อสดฯ สายอาจารย์การุณย์ และอื่นๆรับรอง
    พระธรรมกาย | วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม

    [​IMG]
    ภาพพระธรรมกายหลายVersion ของวัดพระธรรมกายที่ไม่ถูกลักษณะ จนเป็นที่กังขาของสายปฏิบัติอื่น
    ซึ่งมีลักษณะ คล้อยตามวัยและใบหน้าของเจ้าอาวาส


    ผลการปฏิบัติเอง จึงได้รู้สู่วิชชาธรรมกาย “ของจริง”
    ผมเป็นคนชอบนั่งสมาธิมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว หลังจากที่รู้จักวิชชาธรรมกายจากวัดพระธรรมกาย ก็เร่งรุดหน้าปฏิบัติธรรมตามแนวทางของวัด คือการนำใจมาจรดที่ศูนย์กลายกายฐานที่7 เลย จนเห็นดวงธรรม (ปฐมมรรค) ตามแนววิชชาธรรมกายในไม่ช้าหลังจากเข้าวัด และในที่สุดเมื่อกลางเดือนกันยายน ปี พ.ศ 2553 ผมปฏิบัติจนเห็นพระธรรมกายภายใน *เพียงครึ่งองค์ส่วนบน จิตสงบตกศูนย์อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เห็นพุทธลักษณะกายธรรมภายในชัดเจน จีวรพลิ้ว เกตุดอกบัวตูม แต่ประเด็นคือ ธรรมกายที่ผมเห็น ไม่เหมือนองค์พระธรรมกายที่ทางวัดปั้นออกมาให้ดูและบูชา ผมได้แต่สงสัยอยู่ในใจ เพียงได้สอบถามจากคนในวัด เขาก็บอกว่าผมคงยังไม่เห็นของจริง แต่ผมมั่นใจของผม อีกหลายเดือนต่อมาผมจึงได้ศึกษาวิชชาธรรมกายในอินเตอร์เน็ตอย่างจริงจัง สนใจแต่ “หลักวิชชา” ไม่สนใจกระพี้เปลือกนอก จนนำไปสู่บทความ-เว็บ ของสำนักปฏิบัติธรรมกายสายอื่น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มิได้ให้ความสำคัญ เพราะได้รับการปลูกฝังจากทางวัด ไม่กล้าไปที่อื่นเพราะกลัวจะไม่ได้วิชชาของจริง เชื่อในเรื่องที่ว่าหลวงพ่อสดกับหลวงพ่อธัมมะเป็นหนึ่งเดียวกัน ของจริงมีเพียงที่นี่ที่เดียว( The Only One)
    *ในภายหลัง ผมจึงได้เข้าถึงพระธรรมกายเต็มองค์ เพราะได้เดินใจตามฐานทั้ง7 ตามต้นวิชชาที่วัดพระธรรมกายไม่ได้สอน ผมเข้าวัดมานานยังไม่ทราบว่าต้องเดิน7ฐาน มาทราบภายหลัง แม้เทปเสียงหลวงพ่อวัดปากน้ำก็นำนั่งไล่7ฐาน


    [​IMG]
    ผลที่ผมได้เจอคือ “วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม” มีภาพจำลองลักษณะพระธรรมกายให้ดู ปรากฏว่า “เหมือนกับที่ผมเห็น” ผมจึงมีใจน้อมไปในทางออกห่างวัดพระธรรมกาย หันมาศึกษาจากกระทู้ บทความต่างๆของวัดนี้และสำนักอื่นๆเช่นวัดปากน้ำ สายอาจารย์การุณย์ บุญมานุช เป็นต้น ทำให้ผมทราบว่า “วิชชา” ของแท้เป็นอย่างไร
    ยิ่งศึกษา ยิ่งเข้าใจ ยิ่งมั่นใจ และรู้ว่าสิ่งที่วัดพระธรรมกายทำเป็นเพียงกระพี้ ไม่มีหลักวิชชาให้เราเลย ตำราของหลวงพ่อวัดปากน้ำ มี4เล่ม คือตำราทางมรรคผล ตำราคู่มือสมภาร ตำรามรรคผลพิสดาร1และ2 ไม่มีปรากฏหรือพูดถึงในวัดพระธรรมกายเลย จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ผมคิดเองในเวลานี้ว่า “อาจเป็นเพราะ หากศิษย์วัดอ่านแล้วไม่เข้าใจ จะไม่สามารถตอบคำถามให้โยมได้ เพราะความจริงแล้ว เจ้าอาวาสเองอาจมิได้เป็นวิชชาธรรมกายเลย”

    [​IMG]
    ตำรายุคต้นวิชชา ที่ระบุ "นี่คือธรรมกาย"

    *คู่มือสมภาร
    เป็นตำราหลักสูตรระดับกลาง ความเป็นมาเกิดจากสมเด็จพระสังฆราช (สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์) วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงบัญชาให้แม่ชีนวรัตน์ หิรัญรักษ์ เขียนความรู้ที่หลวงพ่อวัดปากน้ำสอน มาถวายแก่พระองค์ ด้วยพระองค์ทรงสนพระทัย แม่ชีนวรัตน์ก็นำความนี้ไปกราบหลวงพ่อ ศิษย์ของหลวงพ่อซึ่งประกอบด้วย แม่ชีนวรัตน์, แม่ชีสมทรง สุดสาคร, คุณฉลวย สมบัติสุข จึงได้ร่วมกันเรียบเรียงตำราคู่มือสมภาร ตามความรู้ที่หลวงพ่อได้สอนไว้ รวมเป็นเล่มหนังสือ จัดพิมพ์ขึ้นถวายแด่สมเด็จพระสังฆราช พิมพ์ในนามของ น.ส.ฉลวย สมบัติสุข เมื่อปี พ.ศ. 2492 แต่ปรากฏว่าสมเด็จพระสังฆราชทรงประชวร แพทย์ห้ามใช้ความคิด จึงถวายหนังสือนี้แก่พระสาธุศีลสังวร (สนธ์ กิจฺจกาโร) ซึ่งท่านเจ้าคุณรูปนี้เป็นเลขานุการของสมเด็จฯ และท่านเจ้าคุณรูปนี้เป็นผู้เขียนคำนำไว้ในตำราคู่มือสมภารนั้นด้วย*


    ถึงแม้ว่าในวันสลายร่างคุณยายอาจารย์ วันที่3 กุมภาพันธ์ 2545 ทางวัดพระธรรมกายจะมีการพิมพ์ “ตำราคู่มือสมภาร” แจกพระสังฆาธิการที่มาร่วมงาน และได้มีการเปลี่ยนแปลงหน้าปก ของเดิมจะมีรูปพระธรรมกาย(แบบเดียวกับที่วัดปากน้ำและวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม)ซึ่งไม่เหมือนของวัดตน และได้เปลี่ยนแปลงคำนำภายในเล่มด้วย หลังจากนั้นก็มิได้มีการพิมพ์อีกเลยทั้งคู่มือสมภารและตำราสำคัญเล่มอื่นๆ เสมือนจงใจ “ทำให้ลืม” หลักวิชชาของจริงเหล่านี้ ทั้งๆที่ศิษย์ผู้ใคร่ศึกษาวิชชาธรรมกายพึงได้อ่านตำราเหล่านี้บ้าง กลับปกปิดวิชชา ปิดปัญญา โดยอ้างว่าอาจทำให้ฟุ้งได้ ยากต่อการเข้าถึงธรรม แต่ทีเรื่องทรัพย์สมบัติ ความโลภ สวรรค์ กลับประโลมกันอย่างมาก ทุกครั้งที่มีการบอกบุญ จะมีการสร้างกระแส โดยมักมีเรื่องรวยๆมาเกี่ยวข้อง อย่างไม่เกรงกลัวเลยว่าสาธุชนจะฟุ้งซ่าน ยากต่อการเข้าถึงธรรม

    (ผมคิดว่าเหตุผลของการพิมพ์ “ตำราคู่มือสมภาร” แจกในช่วงนั้นเพราะ เป็นช่วงที่วัดพระธรรมกายพึ่งผ่านเรื่องราวต่างๆมาในปี 2541-2543 เพื่อปรับความเข้าใจโดยอ้อม จึงมีการพิมพ์ตำราที่เป็นหลักวิชชาออกมาเพื่อยังศรัทธาให้เกิด)

    [​IMG]
    คู่มือสมภารฉบับวัดพระธรรมกาย ภาพพระธรรมกายที่ถูกต้องหายไป และเปลี่ยนแปลงคำนำภายใน

    ฝากถึงศิษย์วัดพระธรรมกาย

    ขอประกาศให้ผู้ใคร่ศึกษาวิชชาธรรมกายได้ทราบโดยทั่วกันว่า หลังจากที่หลวงพ่อวัดปากน้ำได้ละสังขารลง ศิษย์ระดับแนวหน้าก็ได้แยกย้ายถิ่นฐานการสอนวิชชาออกไปเป็นสายต่างๆ ปัจจุบันสามารถระบุสำนักการสอนอย่างเป็นทางการได้ 4 สำนัก คือ
    1 .วัดปากน้ำภาษีเจริญ มีพระราชพรหมเถร(หลวงปู่วีระ) รองเจ้าอาวาสและพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระวัดปากน้ำภาษีเจริญ และคุณยายตรีธา เนียมขำ(หัวหน้าเวรทำวิชชาในสมัยนั้น) ปูชนียบุคคลที่...ได้เข้าโรงงานทำวิชชาเป็นหลัก

    2. วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม จ.ราชบุรี มีพระเทพญาณมงคล ศิษย์ผู้ใกล้ชิดพระราชพรหมเถร(หลวงปู่วีระ) เป็นเจ้าอาวาส Dhammakaya Forum - Index

    3. วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี มีพระเทพญาณมหามุนี ศิษย์ของแม่ชีอาจารย์จันทร์ ขนนกยูง(รักษาการหัวหน้าเวรทำวิชชาในสมัยนั้น) เป็นเจ้าอาวาส

    4. สายอาจารย์การุณย์ บุญมานุช (ประจำที่จ.จันทบุรี) ศิษย์ของแม่ชีอาจารย์ถนอม อาสไวย์ (หัวหน้าเวรทำวิชชาในสมัยนั้น)
    นอกจากนี้ ยังมีอาจารย์ฉลวย สมบัติสุข(หัวหน้าเวรทำวิชชาในสมัยนั้น)กับคณะศิษย์จำนวนหนึ่ง มิได้เปิดสอนเป็นทางการแล้ว

    การศึกษาวิชชาธรรมกาย ควรยึดตำราต้นวิชชาทั้ง4เล่มเป็นหลัก คือทางมรรคผล คู่มือสมภาร มรรคผลพิสดาร1 มรรคผลพิสดาร2 ซึ่งทุกท่านที่ศึกษาวิชชาธรรมกายควรได้อ่านทั้งหมด


    *บุคคลยุคต้นวิชชา ที่เคยได้เข้าโรงงานทำวิชชาที่ยังมีชีวิตอยู่มี3ท่าน คือ พระราชพรหมเถร คุณยายตรีธา เนียมขำ ทั้ง2ท่านอยู่ที่วัดปากน้ำ คุณครูฉลวย สมบัติสุข อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ทั้ง3ท่านยังมีชีวิตอยู่ สามารถเข้าสอบถาม ปรึกษาได้ โดยขอให้ลืมข้อมูลที่ตนได้รับมาทั้งหมดก่อน เพราะ "หลายๆสิ่งที่ได้รับมา ได้ถูกสั่งสมมา อาจจะ หักมุมไปอย่างน่าตกใจ"

    **ในบทความมีการกล่าวถึงวิชชาธรรมกาย หากท่านไม่ได้ศึกษา ศรัทธา หรือสนใจในวิชชาธรรมกาย ขอความกรุณา อย่าวิจารณ์หลักวิชชาให้เป็นวิบาก และวัดพระธรรมกายไม่เกี่ยวกับวิชชาธรรมกาย เพราะวิชชาธรรมกายที่บริสุทธิ์ไม่มีในวัดพระธรรมกาย


    [​IMG]
    เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว
    พบแล้วไม่กำ จะเกิดมาทำอะไร
    อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง
    ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย
    เลิกอยากลาหยอก รีบออกจากกาม
    เดินตามขันธ์สามเรื่อยไป
    เสร็จกิจสิบหก ไม่ตกกันดาร เรียกนิพพานก็ได้

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=zQxhI-cJ8cg]อานิสงส์แห่งบุญ - ทิพยหารสราญรมย์ - YouTube[/ame]​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2012
  3. วงบุญพิเศษ

    วงบุญพิเศษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +649
    สวัสดีครับ

    เท่าที่จำได้ ผมประดาบกับคุณมามากที่สุด
    หลายๆสิ่งที่วัดพระธรรมกายกำลังทำ หากเป็นไปตามที่ผมคิดแต่แรกคงไม่ผิดอะไรมากนัก แต่ตอนนี้ เขากำลังไปไกลแล้ว

    ผมขอยืนพื้นไว้ที่ตรงนี้ก่อน
    วิชชาธรรมกายเป็น ชื่อวิชชาของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ โดยหลังพุทธปรินิพพาน การปฏิบัติที่ตรงทางได้ลดน้อยถอยลง จนในที่สุดหลวงพ่อวัดปากน้ำท่านปฏิบัติจนสามารถ "ค้นกลับ" วิชชาเดิมมาได้

    หลังจากที่หลวงพ่อวัดปากน้ำละสังขาร ศิษย์แต่ละสายก็กระจายกันไป
    ปัจจุบันที่โด่งดังที่สุดคือ วัดพระธรรมกาย

    แต่ปัญหาคือ สถานการณ์พระพุทธศาสนาตอนนี้ จะว่าดีก็ไม่ได้ จะว่าร้ายก็ไม่ได้ เพราะแก่นกับกระพี้แยกจากกันไม่ชัดเจน วัดพระธรรมกายพยายามทำกระพี้ให้งาม เพื่อวัดความเจริญของพระศาสนา ถาวรวัตถุคงทน-ใหญ่โต รูปลักษณ์ดูดี พระศาสนามีกำลังทรัพย์มาก

    แต่ลืมไปว่าแก่นของเราคือมรรคผลนิพพาน ลักษณะคล้ายๆตอนที่วิชชาธรรมกายมีผู้ปฏิบัติและเข้าถึงลดน้อยถอยลงไปเหมือนก่อนที่หลวงพ่อวัดปากน้ำจะค้นกลับมาอีกแล้ว เรียกได้ว่า "กลืนวิชชา" ไปเรื่อยๆ ตนไม่รู้วิชชาธรรมกายจริงๆก็ไม่บอก ปล่อยเลยตามเลยไปเรื่อย จะเพื่อรักษาภาพลักษณ์ขององค์กร หรืออะไรก็ช่าง

    แต่เรื่องหนึ่งที่เราต้องยอมรับคือ แม้แต่กระพี้ของพระศาสนา ชาวพุทธส่วนใหญ่ก็เกือบรักษาไว้ไม่ได้แล้ว วัดพระธรรมกายจึงมีงานทำทันที เพราะในส่วนแก่นเขาทำไม่ได้ ตอนนี้ผมเชื่อเลยว่า "วัดพระธรรมกายไม่มีวิชชาธรรมกาย" ตามต้นกระทู้ที่ได้กล่าวไปแล้ว เขาก็ต้องไปสร้างวัตถุ ไปเตรียมเสบียง คือทำงานหยาบ งานละเอียดทำไม่ได้

    แล้วปัญหาคืออะไร ปัญหาคืองานหยาบ(กระพี้) มีการเติบโตจนธรรมฝ่ายละเอียด(แก่น) ตามไม่ทัน คือกระพี้กับแก่นควรจะไปด้วยกันหรือเมื่อสาธุชนเข้าใจกระพี้แล้วควรเติมแก่นให้เขาทันที มิใช่ให้รู้อยู่แต่ที่กระพี้ ติดบุญ หลงบุญ มิหนำซ้ำเอากิเลสมารเข้าชักนำยิ่งไปกันใหญ่
    หากปล่อยไปเรื่อยๆ แก่นซึ่งน้อยคนจะปฏิบัติเพราะต้องทวนกระแสของโลกและน้อยคนจะเข้าใจก็จะหายไปอีก เหมือนเดิม วิชชาพระพุทธเจ้าก็จะหายไปอีกครั้ง คือมารชนะอีกแล้ว

    ปัจจุบันนี้ ไม่เพียงวัดพระธรรมกายจะทำแต่กระพี้ กลับพยายามทำให้สาธุชนเข้าใจว่ากระพี้คือแก่น ผลการปฏิบัติธรรมของศิษย์วัดที่ปฏิบัติกันอย่างแปลกๆเมื่อตรวจสอบกับต้นวิชชา ปรากฎว่าอยู่ในระดับที่ "รับไม่ได้" ซึ่งกรณีนี้ เหมือนรับงานพญามารมาชัดๆ

    ผมขอให้แยกจากกันให้ชัดเจน ระหว่างวัดพระธรรมกายกับวิชชาธรรมกาย เพื่อป้องกันวิบากกรรมจากการปรามาสวิชชาพระพุทธเจ้า

    ทั้งนี้ผมขอบอกไว้ก่อนว่า "วัดพระธรรมกาย กำลังทำตนให้เป็นเสมือนเส้นเลือดแดงใหญ่ของพระศาสนา คือผูกชะตาตนกับพระศาสนาไว้ด้วยกันเพื่อป้องกันการล้มองค์กรของตนด้วยประการใดๆ" กรณีนี้ ยากต่อการแก้ไขครับ ผมเห็นอยู่2อย่างคือเราต้องสร้างเส้นเลือดอีกเส้นหนึ่งมาหล่อเลี้ยงพระศาสนาหรือทำให้เส้นเลือดฝอยคือสาธุชนทั่วไปที่กระจายกันอยู่ช่วยกันหล่อเลี้ยงพระศาสนาให้มั่นคงกว่าที่วัดพระธรรมกายทำได้ โดยพระศาสนาไม่ต้องไปง้อวัดพระธรรมกายเลย ทั้งหยาบและละเอียด มีการบวชพระเพื่อฟื้นฟูพระศาสนาเป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2012
  4. บ้านธรรมะ

    บ้านธรรมะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +14
    ขออนุญาติแก้ไขข้อความด้านบนให้นะครับ เพราะทีหน้าแรกออกกว้างทำให้อ่านยากครับ ขออนุโมทนาด้วยครับ
     
  5. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ว่าแต่ว่า ใครละจะไปแก้ไขในสิ่งที่วัดธรรมกายเป็นอยู่ในขณะนี้ ?

    สุดท้ายแล้ว สรรพสิ่งทั้งหลายก็จะเป็นไปตามสิ่งที่มันควรจะเป็นนั่นเอง.....
     
  6. ต้นไม้โพธิ

    ต้นไม้โพธิ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2010
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +85
    เราไม่ควรวางอุเบกขาแบบไร้สติปัญญา สิ่งที่ควรทำตอนนี้ ที่ไหนมีกำลังก็ทำไป ไม่ได้ทำแข่งกับใคร แต่ทำให้เต็มที่ เต็มกำลังใจ เพื่อสร้างความถูกต้องชอบธรรมที่แท้จริง

    กล่าวแต่เฉพาะในสายวิชชาธรรมกาย วัดหลวงพ่อสดฯ ที่ราชบุรี ก็ทำงานระดับประเทศมามากมาย แม้ทุกวันนี้ เพียงแต่ไม่ได้โปรโมทจนดังเท่าวัดพระธรรมกายนั่นเอง ถ้าเทียบแก่นสารสาระ กันแล้ว แก่นเหล็กกับเปลือกมะขามกันเลยทีเดียว

    หลักธรรมวิจัยแน่น มากมาย การเผยแผ่การต่อวิชชามีประสิทธิภาพ และยังเคยติดต่อแก้ไขทางวิชชากับทางสำนักคลองสามแล้ว แต่คำตอบกลับมาคือเงียบ เพราะทางสำนักคลองสาม ไม่ได้ปราถนาความถูกต้องแท้จริง
     
  7. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    คุณเข้าใจผิด ความหมายที่กล่าวไว้ก็คือ ทุกสิ่งก็จะเป็นไปตามสิ่งที่มันควรจะเป็นนั่นเอง ไม่ได้หมายความว่าให้อุเบกขาตะพึดตะพือ
     
  8. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    จําเมื่อสมัย ที่เรายังเถียงกันไปมาได้ไหม ในห้องหลุมดํานี่เเหล่ะ

    เราเคยบอกเธอไปเเล้วว่า

    วิชาธรรมกาย

    วัดธรรมกาย

    เเละ หลวงพ่อ

    สามอย่างนี้เราต้องเเยกกันออกให้ได้ก่อน
    เพราะถ้าเธอเเยกออกมาไม่ได้ เอาทุกอย่างมารวมกัน เอาทุกอย่างมาผสมกัน
    มันก็จะทําให้การมองเห็น ที่สิ่งที่ควรเห็น มัน เคลื่อนออกไป
    ถ้ามันใกล้ๆ ก็พอจะเรียกกันกลับมาได้
    เเต่ถ้ามันไกล มันใช้เวลานาน จนมันฝั่งเเน่น ติดอยู่ในวังวน มันก็จะยากขึ้นเป็นทวี

    ดีใจด้วย จ๊ะ

    เจริญในเจริญ
     
  9. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ลุงกํานัน

    ลุงกํานันเองก็ควรเข้าไปศึกษาให้ดี เกี่ยวกับเรื่องที่น้องเตือน พี่ วงบุญ

    เราจะได้ไม่ เคลื่อนออกไปจนเกินพอดีน่ะจ๊ะ


    วิชาธรรมกาย

    วัดธรรมกาย

    เเละ หลวงพ่อ

    สามอย่างนี้เราต้องเเยกกันออกให้ได้ก่อน
    เพราะถ้าเธอเเยกออกมาไม่ได้ เอาทุกอย่างมารวมกัน เอาทุกอย่างมาผสมกัน
    มันก็จะทําให้การมองเห็น ที่สิ่งที่ควรเห็น มัน เคลื่อนออกไป
    ถ้ามันใกล้ๆ ก็พอจะเรียกกันกลับมาได้
    เเต่ถ้ามันไกล มันใช้เวลานาน จนมันฝั่งเเน่น ติดอยู่ในวังวน มันก็จะยากขึ้นเป็นทวี
     
  10. ธรรมเกิน

    ธรรมเกิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    487
    ค่าพลัง:
    +140
    ทั้งนี้ผมขอบอกไว้ก่อนว่า "วัดพระธรรมกาย กำลังทำตนให้เป็นเสมือนเส้นเลือดแดงใหญ่ของพระศาสนา คือผูกชะตาตนกับพระศาสนาไว้ด้วยกันเพื่อป้องกันการล้มองค์กรของตนด้วยประการใดๆ" กรณีนี้ ยากต่อการแก้ไขครับ ผมเห็นอยู่2อย่างคือเราต้องสร้างเส้นเลือดอีกเส้นหนึ่งมาหล่อเลี้ยงพระศาสนาหรือทำให้เส้นเลือดฝอยคือสาธุชนทั่วไปที่กระจายกันอยู่ช่วยกันหล่อเลี้ยงพระศาสนาให้มั่นคงกว่าที่วัดพระธรรมกายทำได้ โดยพระศาสนาไม่ต้องไปง้อวัดพระธรรมกายเลย ทั้งหยาบและละเอียด มีการบวชพระเพื่อฟื้นฟูพระศาสนาเป็นต้น
    เห็นด้วยกับคุณวงบุญครับ..แต่งานนี้คงยาก นอกเสียจากเราจะร่วมมือกันแสดงให้ชาวพุทธทุกคนไม่หลงไปมากกว่านี้ ตัวผมเองไม่มีอำนาจที่จะจัดการอะไรไปมากกว่านี้ นอกจากเป็นกระบอกเสียงเล็กๆ 1 เสียงเท่านั้น แต่ยังไงเสียก้อขอเป็นส่วนหนึ่งที่ขอต่อสู้เพื่อศาสนาพุทธของเรา รอเพื่อนๆในเว็บที่ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดความอ่านร่วมกัน ต่อต้านวัดธรรมกาย คุณ afseven , คุณวิถีคนจร แสดงตัวหน่อยครับ...
     
  11. ต้นไม้โพธิ

    ต้นไม้โพธิ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2010
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +85

    เราสิกขาวิชชาธรรมกายจากต้นวิชชา อันอยู่ในฐานะอนุศาสนีย์ปาฏิหาริย์ ตามพระธรรมวินัยและอรรถกถา โดยพระเดชพระคุณหลวงปู่สด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ สมควรเป็นผู้ให้ความรู้ในหลักวิชชาและการปฏิบัติตนที่บริสุทธิ์ถูกต้อง นี้เป็นกิจหลัก

    เราจึงไม่ยุยงที่จะต่อต้านใคร หรือชวนให้ผู้ใดต่อต้านปฏิเสธสำนักอื่นใดทั้งสิ้น

    เราทำหน้าที่กัลยาณมิตรที่แท้จริง และจริงใจ ตั้งเมตตาจิต ปราถนาเพียงแค่ให้เขาเข้าหาหลักต้นวิชชา เป็นอิสระทางสติปัญญาด้วยตนเอง ไม่ถูกชี้นำ ครอบงำ หลงงมงายในความเชื่อ โดยผู้ใดหรือสำนักใดเท่านั้น ให้เขารู้จักหนทางเจริญ เสื่อม ถูก ผิด แก่นสาร เปลือกกระพี้ ถึงตอนนั้นเขาจะยังร่วมกิจกรรมอยู่บ้าง หรือถอยห่างออกมาเลย ก็แล้วแต่เขาเถิด

    อย่าลดคุณค่าของบทความหรือกระทู้ให้เป็นเพียงกระทู้ แฉ จับผิด จับถูก (มีได้บ้าง หนัก-เบา ตามเหตุที่สมควร) หรือแค่โจมตี ด่ากันไปๆมาๆ จะไม่ได้ประโยชน์ทางวิชชาเลยครับ โยนิโสมนสิการเถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2012
  12. ธรรมเกิน

    ธรรมเกิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    487
    ค่าพลัง:
    +140
    อนุโมทนาในความคิดครับ ผมเองเพียงต้องการกล่าวให้เห็นถึงความเป็นจริงในหลักฐานที่เพื่อนๆสมาชิกหลายๆคน ได้เคยเผยแพร่ออกมา ส่วนคนจะเชื่อหรือไม่...ก้อคงแล้วแต่บุญกรรมของแต่ละบุคคล ไม่ต่างกัน ถึงแม้ความคิดผมจะถูกหรือผิดก้อตามที เพื่อนสมาชิกก้อยังมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจว่า ควรเชื่อหรือไม่.. ผมไม่มีสิทธิ์ไปชักจูง เพราะผมไม่ได้มีพลังอำนาจที่จะชี้นำเหมือนวัดบางวัดครับ...มนุษย์เรา ไม่มีอะไรที่เท่ากัน ปัญญาก้อเหมือนกัน บางคนฉลาด แต่ไม่เฉลียว พอมีอะไรทีผิดพลาด ก้อมักจะถูกโน้มน้าวจิตใจโดยง่าย.. ผมจึงคิดว่าถ้าไม่มีอะไรที่มาบอกกล่าวบ้าง หลายๆคนที่จิต อาจกำลังวิตก อาจเกิดการลังเลเชื่อบางเรื่องได้อย่างงมงาย ผมจะขอเป็นขอนไม้ในทะเลที่คอยต้านคลื่นลมแรงครับ เพราะผมเชื่อว่าสักวันเมื่อมีขอนไม้เยอะขึ้น อาจรวมกันเป็นเกาะที่สามารถยืนหยัดต้านคลื่นลมได้ครับ
     
  13. bhothisata

    bhothisata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    394
    ค่าพลัง:
    +5,182
    คุณวงบุญฯ.....ถ้ากลับไปหาเทปเก่าๆที่หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านโปรดเมตตาเล่าไว้ จะรู้เรื่องมากกว่านี้นะครับ สิ่งที่เราโพสต์ออกไป มิใช่จะไม่มีพี่น้องเฝ้าดูอยู่ ดีใจกับวงบุญฯครับ ไม่ขอตอบคำถามท่านผู้อื่นหรือมาแสดงความรู้กับท่านผู้อื่นนะครับ เพราะชอบแบบ นิ่งเสีย อยากทราบเรื่องอะไร ลองไปศึกษาที่วัดท่าซุง หรือซอยสายลม หรือสาขาหลวงพ่อที่มีพระอริยะอยู่นะครับ บางสิ่งบางอย่างเมื่อยังไม่ถึงเวลา พูดหรืออธิบายไปก็ยากที่จะเข้าใจ จวบจนเวลามาถึงย่อมเห็นได้ด้วยตนเอง การถ่ายทอดศาสนาก็เช่นเดียวกัน หากยังไม่ถึงเวลา ยังมีวิบากเข้าแทรก ก็จะมีทิฐิที่ถูกน้อยกว่าที่ควร ขอวงบุญฯเจริญในธรรมครับ
     
  14. Allymcbe222

    Allymcbe222 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +1,445
    ว่าจะไม่โพสต์แล้วนะเนี่ย แค่เข้ามาอ่านเฉยๆ
    แต่ต้องขอบอกว่า
    คุณวงบุญกล้าหาญมากครับ ผมชอบคุณมากแล้วล่ะตอนนี้ อิอิ

    ความจริงแล้ว เมื่อเราเคยศรัทธาสำนักใด
    แต่ต่อมาเมื่อได้ทราบเบื้องลึก จนเป็นเหตุให้ต้องออกห่าง
    หลายคนเลือกที่จะเงียบครับ
    ถือเป็นบทเรียนของตัวเองคนเดียวที่ได้พลาดไป ไม่ขอกล่าวถึงเรื่องราวเก่าๆอีกต่อไป
    ขอเริ่มชีวิตใหม่ กับทางเดินที่ถูกต้อง
    ซึ่งแบบนั้นก็ไม่ใช่ว่าไม่ดี

    แต่กรณีนี้ ส่วนตัวผม ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นเลยจริงๆ
    เพราะโดยมากแล้วตอนนี้ วัดธรรมกาย = วิชชาธรรมกาย
    หลายคนเข้าใจเช่นนั้น
    พอได้ข่าววัดธรรมกาย ก็ไปเหมาเอาว่าวิชชาธรรมกายต้องระวัง อย่าเข้าไปยุ่งเชียว
    หลายคนสรุปไปเลยว่าเป็นวิชชาไม่ดี หรือเป็นของเทียม

    หรือเป็นแค่สมถะ ไม่เกิดปัญญา ไม่บรรลุมรรคผล
    เราอย่าไปสนใจเลย มาเจริญวิปัสสนากันดีกว่า

    กรณีเช่นนี้มีเยอะ และน่าสงสารมาก
    เพราะกลายเป็นปรามาสวิชชาของพระพุทธเจ้า
    เพียงเพราะได้ข้อมูลเรื่องธรรมกายมาไม่ครบ เท่านั้นเอง

    สิ่งนี้เราควรเมตตา แก้ไขสุดความสามารถ ไม่ให้มีใครน่าสงสารมากไปกว่านี้ครับ

    ชอบคุณมาก
    :cool:
     
  15. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972
    ถ้าท่านสนใจจะศึกษาวิชชาธรรมกายอย่างจริงจัง ก็ควรเริ่มอ่านตำราทางวิชชาธรรมกาย ดังนี้ก่อน

    1.ทางมรรคผล (ที่มีรูป 18 กาย)
    2.คู่มือสมภาร
    3.มรรคผลพิสดาร 1
    4.มรรคผลพิสดาร 2

    และถ้าท่านต้องการปฏิบัติอย่างจริงจังให้ถูกตรงตามตำราทั้ง 4 เล่ม ก็ควรเข้าหาผู้รู้ที่สามารถสอนได้ตามตำรานั้นๆ สำนักวัดปากน้ำก็ดี ,วัดหลวงพ่อสด ราชบุรีก็ดี ,คุณลุงการุณย์ จันทบุรีก็ดี ล้วนแต่เรียนรู้ตามตำราทั้ง 4 เล่มนี้ ส่วนวัดพระธรรมกาย ปทุมธานี เท่าที่ทราบไม่เคยสอนหรืออธิบายความรู้ตามตำราได้ชัดเจนแต่ประการใด

    ดังนั้นวิชชาธรรมกาย ต้องเรียนรู้จากแหล่งต้นวิชชา แม้เทศน์ 63 กัณฑ์ของหลวงพ่อวัดปากน้ำก็ควรศึกษาเป็นอย่างยิ่ง

    การอ้างอิงวิชชาธรรมกาย แต่ไม่มีการเรียนการสอนตามตำราทางวิชชาทั้ง 4 เล่ม ก็แปลว่าผู้สอนประยุกต์ความรู้ให้เป็นเรื่องแตกต่างไปจากของเดินออกไปเรื่อยๆ ถ้าท่านเข้าใจได้เช่นนี้ ท่านก็จะทราบชัดได้ว่า วิชชาธรรมกายไม่ใช่วัดพระธรรมกาย และวัดพระธรรมกายไม่ใช่วิชชาธรรมกาย

    ถ้าวัดพระธรรมกายต้องการแก้ไขปรับปรุงตนเอง ก็ควรส่งพระไปเรียนรู้ทางวิชชาให้ถูกตรงจากสำนักวัดปากน้ำเสียใหม่ ไม่ใช่อิงความรู้จากเจ้าอาวาสที่ไม่มีความรู้ทางหลักวิชชารองรับนั่นเอง นี่คือทางรอดและการแก้ไขที่ถูกจุดที่สุดที่สำนักวัดพระธรรมกายควรกระทำนะครับ

    ห้องสนทนา
     
  16. rravikran

    rravikran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2011
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +151
    ตอนนี้คุณยายจันทร์ท่านก็ได้ชดใช้วิบากกรรมของท่านโดยโดนดูดเข้าไปในเซฟแล้ว ถูกละลายบารมีที่ท่านได้สั่งสมมาหมด และได้ยุคนี้บุคคลที่จะโดนดูดเข้าไปในเซฟมีอีกท่านคือ ท่านธัมมชโย

    เห็นศิษย์วัดพระธรรมกายแต่ละคนอธิษฐานว่าจะขอตามติดติดตามไปทุกภพทุกชาติ อธิษฐานแบบนี้น่ากลัวมากครับ

    เอาวิชชาเป็นแก่น อย่ายึดติดที่พิธีกรรมใหญ่โตครับ เคยได้ยินใหม่ว่าหลวงพ่อสดท่านเคยเทศน์ไว้ในกัณฑ์เทศน์ว่า ผู้ปกครองบุญมี 2 ภาค ภาคดำ ภาคหนึ่ง และภาคขาวภาคหนึ่ง

    การที่วัดพระธรรมกายจัดพิธีกรรมใหญ่โตได้ เพราะมารเค้าช่วยหนุนอีกแรง ที่สำคัญคนที่มาทำบุญหน่ะไม่ได้บุญหรอก ปกติเวลาเราทำบุญทั่วไปในพระศาสนา องค์พระสมณโคดมที่เป็นเจ้าของศาสนา ท่านจะเป็นผู้ให้บารมี แต่ว่าบุญจากที่ทำในวัดพระธรรมกาย บุญละเอียดมารเค้าก็เอาไป เพราะเค้าถือว่าการที่วัดใหญ่ขนาดนี้มีชื่อเสียงขนาดนี้ เพราะเค้าเป็นผู้สอดละเอียดให้หลงให้เชื่อให้ศรัทธา คนที่มาทำบุญก็ได้แค่บุญหยาบ ที่ไม่ได้มีอานิสงค์อะไร มีอานิสงค์ไว้แค่ไว้โฆษณาในรายการสู้แล้วรวยเท่านั้น

    เห็นแล้วน่าสงสารครับ บอกตรงๆนะ เสียดายที่เกิดมาเจอวิชชาของแท้ แต่ดันไม่มีปัญญา ไปเชื่อ ไปยึดติดพิธีกรรมและบุคคลที่เป็น Superman ขององค์กร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2012
  17. rravikran

    rravikran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2011
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +151
    หากคนวัดคนไหนที่อ่านกระทู้นี้ แล้วกลับใจอยากหันมาสนใจฝึกวิชชาที่แท้จริง ให้เข้ามาที่นี้ครับ จะได้มาแก้ไขวิชชาที่รู้มาผิดเพี้ยนจากทางวัดให้ถูกต้องตามหลักวิชชาธรรมกายของแท้กันครับ

    http://www.khunsamatha.com
    http://khunsamatha.fix.gs/
     
  18. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    มันก็เป้นเรื่องปกติครับพี่ บางคนก็ออกจากวัดธรรมกายไปวัดที่ราชบุรี
    บางคนก้ออกจากวัดที่ราชบุรีมาวัดธรรมกาย
    บางคนก็ออกจากสายอื่นมาสายธรรมกาย
    บางคนก้ออกจากสายธรรมกายไปสายอื่น

    ก็แล้วแต่ว่าศรัทธาเกิดที่ใหนก็ไปตามนั้นครับไม่ว่ากัน
     
  19. ต้นไม้โพธิ

    ต้นไม้โพธิ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2010
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +85

    หากเอาแต่ "ความเชื่อ" นำหน้า ก็คงหาแก่นสารได้ยาก

    ให้เราเข้าหาพระธรรมวินัยและต้นวิชชาจากวัดปากน้ำ ของแท้ของจริง ที่ยังมีการสืบทอดถ่ายทอดกันมาอย่างถูกต้องสมบูรณ์ ย้ำ ถูกต้องสมบูรณ์ มีอยู่ เพราะสิ่งที่หลายๆคนยังเข้าใจผิดกันมาว่า มีบางท่านที่เป็นผู้สืบทอดวิชชาธรรมกายผู้เดียว หรืออาจารย์ของเขาเป็นหนึ่งไม่มีสอง หรือสำนักใดๆก็ตามที่สอนไม่ถูกต้องตามพระธรรมวินัยและหลักวิชชา เราก็ควรใช้สติปัญญาทั้งนั้น มิใช่แค่สำนักคลองสามหรอก

    ส่วนการเปลี่ยน การออก ด้วย "ความเชื่อ" หรือเพราะชอบใจไม่ชอบใจอะไรบางอย่าง เรื่องเหล่านั้น ไม่นับ เพราะไม่ใช่วัตถุประสงค์ของงานที่พวกเราพยายามเผยแผ่อยู่

    ส่วนใครจะเข้าจะออกเพราะเชื่อ เพราะชอบ หรือไม่เชื่อ ไม่ชอบ ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งต่างหาก ยกตัวอย่างผมเอง ก็เคยเข้าวัดพระธรรมกายกายมานาน แม้ทุกวันนี้ก็ชอบเรื่องการบริหาร ระบบระเบียบ รูปแบบ ความสะอาด สวยงาม อลังการ นี้เป็นความชอบส่วนตัว กิจกรรมอันไหนที่ดีมีประโยชน์ต่อศาสนาพุทธ(เบื้องต้น)ผมก็อนุโมทนา

    แต่ผมก็รู้จักใช้สติปัญญาแยกแยะ ไม่หลงไหล ไปกับความเชื่อความชอบเหล่านั้น ผมแยกแยะเปลือก กระพี้ รู้จักเข้าหาหลักวิชชา ของแท้ของจริง ไม่ปิดกั้นทางมรรคผล พัฒนาตนเองไปตามที่พระธรรมวินัยและหลวงปู่สดต้นวิชชาสอน โดยไม่ถูกครอบงำ ไม่ถูกชี้นำโดยใคร หรือสำนักใดๆทั้งสิ้น ไม่สัทธรรมปฏิรูป ไม่นอกครู เราอย่าเสียเวลาปิดกั้นตนเองกันอยู่เลย
     
  20. อินทนนท์๑

    อินทนนท์๑ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +9
    หลวงพ่อสดท่านจบกิจแล้วแต่ที่สอนกันที่ปทุมจบหรือยัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...