เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 12 พฤศจิกายน 2008.

  1. วรรณนันท์

    วรรณนันท์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +2,602
    บารมีในหลวงท่าน สยบมาร

    สมัยพี่ทำงานอยู่โรงแรม แขกเขียนจดหมายมาคอมเพลนว่า เด็กโกงเงิน แขกทานเครื่องดื่มในห้อง (มินิบาร์) ตอนเช็คเอ๊าท์เขามีแต่แบ๊งค์ใหญ่ แบ๊งค์เล็กไม่มี เงินไทยก็หมด เด็กรับเงินไปแล้วไม่ทอน สอบไปสอบมา เด็กสารภาพว่าไม่ได้ทอนเงินแขก นึกว่าแขกทิป อีนี่นะนาย ใจคอมัน ค่าน้ำน่ะ ประมาณร้อยเดียว เงินทอนมันประมาณ 900 ยังมีหน้ามาบอก นึกว่าแขกใจดี
     
  2. วรรณนันท์

    วรรณนันท์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +2,602
    สมัยทำงานโรงแรม(ห้าดาวกลางกรุงฯนี่แหละ) คนตาถั่ว ไม่ได้มีตาทิพย์ เห็นกันจั๋งๆ สะใจ พวกรอบดึกเขาต้องคอยดูว่ามีใครแปลกปลอมมั่วขึ้นโจรกรรมแขกบนห้องพักหรือไม่ หรือแขกคนใหนพาใครมาพักโดยไม่ได้ลงทะเบียนหรือเปล่า วางกำลังกันเป็นจุดๆ ใช้วอสื่อสารกัน วันหนึ่งไนท์แมเนเจอร์ตาไว เห็นกระทาชายนายหนึ่งที่ไม่ใช่แขกขึ้นลิฟต์เบอร์สองไป จะตามไปขึ้นด้วยก็ไม่ทันลิฟต์ปิดพอดี เลยดูอยู่ข้างล่างว่าลิฟต์จอดชั้นไหน เห็นจอดชั้น 9 เลยวอแจ้งรปภ ชั้น 9 ซึ่งก็เห็นตาคนนั้นผ่านไปไวๆเหมือนกัน อ๊ะไม่ได้การ ต้องสะกดรอยตาม เฮ้ยมันเลี้ยวไปทางวิงซ้ายแล้ว วะทำไมมันไวจัง เห็นแต่หลังไวๆ พอรปภผ่านหัวมุมมาเห็น กระทาชายนายคนนั้นยืนอยู่หน้าห้องพักห้องหนึ่ง รปภ รีบจ้ำกะให้ทันก่อนมันจะเข้าห้อง เฮ้ยทำไมมันเข้าห้องโดยไม่ต้องเปิดประตูวะ คิดได้แค่นั้นตัวรปภก็มาเกือบถึงหน้าห้องแล้ว เหลือบตาดูเบอร์ห้อง อ๋าย 910 ก็ไอ้ห้องเนี้ยมันปิดตายมานานแล้ว บรื๋อส์ส์ส์ ใส่ตีนหมาโกยแน่บลงมาแทบไม่ทัน (สติดีมั่ก... ไม่ร้องตะโกนครับเพราะเดี๋ยวแขกอื่นแตกตื่นจะตกงาน) ละล่ำละลักเล่าให้ไนท์แมเนเจ้อร์ฟัง เป็นเรื่องโด่งดังเล่ากันสามเวลาและก่อนนอนเจ้าค่ะ

    ปล. แขกคนนั้นเค้าตายคาห้อง นัยว่าใช้ยาเกินขนาด
     
  3. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    อ๋อ...แบบนี้นี่เอง หลวงพ่อปราโมชท่านสอนว่า พรหมลูกฟักคือมนุษย์ที่มีขันธ์ 5 แต่เข้าฌาน4 ไปลดขันธ์ตัวเองให้เหลือ 1 ขันธ์ เลยกลายเป็นพรหมลูกฟัก ระวังด้วยนะครับเพื่อนๆ เกิดมาเพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ

    ไว้ว่างๆ อัสดงจะไปเยี่ยมท่านอาจารย์บ้างนะครับ ช่วงนี้ต้นเดือน งานเข้าเยอะมากๆ จะแว้บไปเอาขนมไปฝากอาจารย์กลางเดือนนะครับ ^.^

    <TABLE borderColor=#00a200 height=293 borderColorDark=#ffac59 width="48%" align=center borderColorLight=#00a200 border=1 mm_noconvert="TRUE"><TBODY><TR><TD align=middle width=332 bgColor=#ccffcc height=69>อบรมปฐมจักระ
    อาคารพรสวรรค์

    </TD></TR><TR><TD align=middle width=332 bgColor=#ffffce height=54>เปิดรับสมัคร

    วันจันทร์ที่ 4 ม.ค.2553
    เวลา 16.00 น. - 17.00 น.
    </TD></TR><TR><TD align=middle width=332 bgColor=#ffffcc height=52>เรียน

    วันจันทร์ที่ 4 - 9 ม.ค.2553

    วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 -19.00 น.
    วันเสาร์ เวลา 8.00 - 10.00 น.

    </TD></TR><TR><TD align=middle width=332 bgColor=#ffffce height=54>ต้องเรียนทั้ง 6 วันติดต่อกันห้ามขาด
    ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
    </TD></TR><TR><TD align=middle width=332 bgColor=#ffffce height=50>แผนที่ไปอาคารพรสวรรค์ <SMALL>(คลิกดูรายละเอียด)</SMALL>
    </TD></TR><TR><TD align=middle width=332 bgColor=#ffffcc height=52>การรับสมัคร

    โปรดมาสมัครด้วยตัวเองที่อาคารพรสวรรค์

    ในวันจันทร์ (วันแรกที่เริ่มเรียน) ลงทะเบียนเรียนก่อนเวลา 17.00 น.


    ไม่รับจองทางโทรศัพท์

    </TD></TR><TR><TD align=middle width=332 bgColor=#ffffce height=54>เรื่องอื่น ๆ

    - การแต่งกายตามปกติ (ไม่ต้องสวมชุดขาว)

    - อุปกรณ์การเขียน ทางผู้เข้ารับการอบรมต้องเตรียมมาเอง

    - โปรดมาก่อนเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง (เริ่มเรียนเวลา 17.00 น.ตรง)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    อบรมโดยคุณย่าเยาวเรศ ครับ เอ...ท่านใดพอทราบมั้ยครับว่า เขาอบรมอะไรกัน แบบไหน ผมยังไม่เคยอบรมเลยครับ ทางอาจารย์มีสอนบ้างไหมครับ พอดีเจอทางเนตครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2009
  4. ตัวกลมๆ

    ตัวกลมๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +5,941
    คุณวรรณนันท์น้าาาาา ทำให้ผิดคาด ตัวจริงแข็งแรงรูปร่างอย่างสาว(สวย)ฝาหรั่งเลย
    เป็นคนหมั่นทำบุญจริงๆ แถมพาเพื่อนไปทำบุญเก่งอีกต่างหาก ยินดีที่ได้รู้จักค่าอาจารย์
    [​IMG]
    งานนี้ต้องขออนุโมทนาบุญ รศ.ดร.มนูญและคณะ ที่ร่วมกันทำบุญถวายพระองค์ใหญ่สวยงามมาก
    ตอนนี้ท่านจัดให้เป็นพระประธาน วัดคุ้งท่าเลา แล้วยังมีระฆังใบใหญ่ (ยังไม่ได้ลองตีเลย)
    วันอาทิตย์ที่่ผ่านมา (22/11/2552) และอนุโมทนาบุญกับผู้ที่ร่วมบุญกับอาจารย์ทุกท่านนะคะ
    ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ซื้อโน่นซื้อนี่ คิดอะไรก็ขอให้สมประสงค์เจ้าค่า

    [​IMG]

    โบสถ์ที่วัดคุ้งท่าเลา ที่พวกเราขึ้นไปถวายนั้น เป็นบันไดไม้ (ไม่มีราวจับจ้า) เห็นเจ้าจ๋อนั่ง
    นิ่งข้างฝา แล้วแมวเดินไปเดินมา เยอะมากค่ะ ส่วนพระท่านดูปลื้มโขอยู่ พระลูกวัดมาร่วมทำพิธี
    เป็นสิบรูป สวดกันนาน ผู้บริจาคก็โทรไปหาที่บ้านให้ฟังพระด้วย อาจารย์ว่า เห็นร่างใน
    ร้องไห้ ดีใจได้ทำบุญ และกุศลยังส่งถึงญาติที่ป่วย ถึงญาติทิพย์ที่ตายไปด้วย

    วัดคุ้งท่าเลาเป็นอย่างไรนั้น คงจำได้นะคะ เป็นวัดที่อยู่บ้านหมี่ ลพบุรี เอกลักษณ์คือ ประตูวัดค่ะ
    เขาทำเป็นพญาวานร เราต้องขับรถทะลุปากเข้าไป อาจารย์สามตา พี่ดาวทะเลทราย
    พี่มังกรบูรพาเคยเล่าวิธีรับพลังแล้วนะคะ เอ...จำได้ว่า เดินตรงลิ้นจะมีพลังเตะปี๊บนี่นา

    สำหรับที่วัดนี้มีแต่ข้อความนะคะ กล้องข้าน้อยแบ็ตหมด หลังจากถ่ายที่วัดไชโย
    และวัดไลย์ไปแล้ว ส่วนกล้องอาจารย์มีหวง อิอิ ไม่ยอมให้ยืมมาลงเน็ต 55555 ถ่ายที่วัดคุ้งท่าเลา
    วัดไลย์ไปหลายรูปเลยนะคะอาจารย์

    งานนี้ตัวกลมขอขอบคุณพี่เห็ดหอมและครอบครัวนะคะ ที่ให้ติดรถไปด้วย อะไรก็ไม่ยอมให้จ่าย
    สนับสนุนให้คนไ้ด้ไปทำบุญให้อิ่มท้องนั้นกุศลแรงค่ะ อาจารย์สามตาถึงได้ว่า พี่เห็ดหอมมี
    อริยทรัพย์เยอะ แถมนั่งไปก็ให้ความรู้ธรรมะอีก แล้วยังพาทัวร์วัด พาทำบุญหลายอย่าง
    ที่สำคัญพาไปไหว้บริเวณที่มีพลังเย็นของพระศรีอาริย์ในทุกวัดเลย อนุโมทนาบุญ เต็มๆเลยพี่

    พี่sid2 สงบนิ่งค่ะ เห็นยิ้ม...แล้วก็ยิ้ม คงจำชื่อนี้ได้ เป็นผู้ที่เอาพระพุทธรูป(พระศรีอาริย์)
    ต้นมณฑาทิพย์ไปถวายวัดที่ขอนแก่น

    เล่าไปผิดถูกอย่างไร ขออภัยด้วยนะคะ( ไม่มีรูปนี่ เล่าไม่ได้อารมณ์เยยยย)

    [​IMG]
    นางเอกในรูปไม่รู้จักจ้า แต่ขอบคุณนะคะ อนุเคราะห์ได้เห็นขนาดประตูวัด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2009
  5. ตัวกลมๆ

    ตัวกลมๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +5,941
    อ้อ ตอบคุณatsadongค่ะ พลังคอสมิค(พลังจักรวาล)สายคุณย่าเยาวเรศ
    จัดไว้ 3 ระดับ ระดับต้น 6วันต่อกัน ระดับพัฒนา 2วัน ระดับกายทิพย์นั้นแล้วแต่คุณย่าพิจารณา

    เป็นการเรียนเพื่อเอาพลังธรรมชาติ มาใช้เพื่อรักษาตัวเองและผู้อื่น สอนโดยไม่ได้มุ่งเน้น
    เงินทอง ใครช่วยเหลือบริจาคเท่าไหร่ก็ได้ แต่ละปีไ้ด้นำเงินไปบริจาคให้มูลนิธิของในหลวงค่ะ

    การเรียนนี้จะเป็นการกระตุ้นจักระแต่ละส่วน ในระดับต้นและพัฒนาจะไม่ให้ยุ่งกับจักระ1ค่ะ
    โดยมี พระอาจารย์(หลวงปู่)ดาสิรา นาราดา(มรณะนานแล้ว) เป็นผู้นำวิธีการมาเผยแพร่
    ถึงตอนนี้ลูกศิษย์จะแตกเป็นหลายสายค่ะ อย่างพลังยูเรอัส ของอ.กิตติชัย ก็ต่อยอดมาสอน
    เป็นการนั่งสมาธิ เดินปราณ รักษาตัวเองและผู้อื่น อาศัยแค่มือ และพลังจิต เน้นความรัก
    และความเมตตาค่ะ ของอ.กิตติชัยมีค่าเรียน เพื่อช่วยค่าเช่าห้อง ค่าแอร์ ค่าเอกสาร
    (สงสารคนสอนหน่อยน้อ) แล้วมีหลายระดับ ระดับละ1-2วัน ศิษย์พี่่ดาวทะเลทรายไปถึงระดับ8แล้วมัั้งคะ

    พลังกายทิพย์เพื่อสุขภาพ <-กดอ่านรายเอียดเวปของคุณย่าเยาวเรศ
     
  6. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    อนุโมทนาสาธุ กับน้องตัวกลม ที่นำเรื่องทัวร์บุญมาฝาก

    นี่ถ้ามีรูปด้วย คงดีไม่น้อยเลยเชียว



     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 พฤศจิกายน 2009
  7. ตัวกลมๆ

    ตัวกลมๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +5,941
    เดี๋ยว(หลายเดี๋ยว)จะลงวัดไชโย วัดไลย์ค่ะพี่มังกรบูรพา ส่วนวัดคุ้งท่าเลาที่ไปถวายพระ และระฆัง รอรูปที่กล้อง
    อาจารย์ก่อนค่ะ สำหรับตัวกลมนั้นไฮไลท์ที่วัดไลย์ เพราะต้องเริ่มปูพื้นฐานให้ตัวเองและเจ้าตัวเล็กด้วย
    ว่างกว่านี้ก่อนนะคะ จะมาเล่า อิอิ คนตาไม่ทิพย์เอาเรื่องคนตาทิพย์มาลง นี่ก็
    ต้องเอาใจไปตามอะพี่ ใช้เวลาหน่อย *********update กระทู้บน ได้รูปที่กล้องอาจารย์แล้วค่า****

    ...คุณวรรณนันท์มีเรื่องเล่าออกจะแยะ ค่อยๆไขมาให้อ่านบ้างนะคะ ขอบคุณสำหรับเรื่องแรกๆค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2009
  8. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    ว้าวคุณตัวกลมๆ รู้ลึกจังเลย ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  9. pevex

    pevex เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +114

    55555 อุตส่าห์ตั้งใจอ่าน.. แหม่ๆๆๆๆ ^^
     
  10. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ก่อนหน้านี้ 6เดือน...มีผู้ใจบุญและศรัทรา..และทำงานเป็น ข้าราชการระดับ ค่อน ข้างสูง
    เป็นคนแรกที่พบ ว่า ดอกไม้มณฑาทิพย์ ของวัดไลย์ มีความศักดิ์สืทธิ์..จนต้องเก็บเอาไว้ให้ในหลวงไว้ ถวายสังฆทาน แด่พระศรีอาริย์

    เขารู้ว่าต่อจากนี้ไปจะเป็นยุคแห่งพระศรีอาริย์....แต่ยังไม่มีเหรียญ ที่ออกแแบโดยเฉพาะ สำหรับ พระศรีอาริย์....เขาจึงว่าจ้างให้ช่างแกะเหรียญ และ ปั๊มออกมา เป็น รุ่นแรก จำนวน 500 เหรียญ...เสรํจวันที่ 22 พย 52 พอดี...ก็เลยไปเข้าวัดไล ลพบุรี ซึ่ง องค์พระศรีอาริย์ เสด็จ ประทับ อยู่ที่นั่น..

    .มีการทำพิธีอัญเชิญ พลังพุทธสูงสุดลงมาอัดใส่เหรียญ ทั้งหมด เพื่อเป็น ศิริมงคล ต่อผ้ที่มีศรทราในองค์พระศรีอาริย์ และ ดอกไม้สวรรค์ มีเพีบง 500 เหรียญ..มาเอาได้ที่ ชมรมคนตาทิพย์ ได้ที่ บู๊ธ 042 (วันอาทิตย์ 10..-16.30 น)

    ที่ พันทิพย์พลาซ่า งามวงศ์วาน ชั้น 6 ลอ๊ค D 24 12.30-16.30 จันทร์ ถึงเสาร์
    .............................................................
    ..............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2009
  11. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ก่อนหน้านี้ 6เดือน...มีผู้ใจบุญและศรัทรา..และทำงานเป็น ข้าราชการระดับ ค่อน ข้างสูง
    เป็นคนแรกที่พบ ว่า ดอกไม้มณฑาทิพย์ ของวัดไลย์ มีความศักดิ์สืทธิ์..จนต้องเก็บเอาไว้ให้ในหลวงไว้ ถวายสังฆทาน แด่พระศรีอาริย์

    เขารู้ว่าต่อจากนี้ไปจะเป็นยุคแห่งพระศรีอาริย์....แต่ยังไม่มีเหรียญ ที่ออกแแบโดยเฉพาะ สำหรับ พระศรีอาริย์....เขาจึงว่าจ้างให้ช่างแกะเหรียญ และ ปั๊มออกมา เป็น รุ่นแรก จำนวน 500 เหรียญ...เสรํจวันที่ 22 พย 52 พอดี...ก็เลยไปเข้าวัดไล ลพบุรี ซึ่ง องค์พระศรีอาริย์ เสด็จ ประทับ อยู่ที่นั่น..

    .มีการทำพิธีอัญเชิญ พลังพุทธสูงสุดลงมาอัดใส่เหรียญ ทั้งหมด เพื่อเป็น ศิริมงคล ต่อผู้มีจิตศรัทราในองค์พรศรีอาริย์ มีเพีบง 500 เหรียญ..มาเอาได้ที่ ชมรมคนตาทิพย์ ได้ที่ บู๊ธ 042 (วันอาทิตย์ 10..-16.30 น)

    ที่ พันทิพย์พลาซ่า งามวงศ์วาน ชั้น 6 ลอ๊ค D 24 12.30-16.30 จันทร์ ถึงเสาร์
    .............................................................
    ..............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2009
  12. ตัวกลมๆ

    ตัวกลมๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +5,941
    [​IMG]
    รูปประกอบค่ะ ที่วัดไลย์ ต.เขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี วันที่ 22 พ.ย.2552

    [​IMG]
    ถวายผ้าทรง

    [​IMG]
    ทางสำนักพระราชวังได้นำดอกมณฑาทิพย์ไปถวายเป็นพุทธบูชา เพื่อขอพรจากพระศรีอาริยเมตไตรย
    ให้ในหลวง ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2552 เมื่อมีข่าวว่าดอกไม้นี้อยู่ที่วัดไลย์
    ประชาชนทราบข่าว ต่างเดินทางมาทำบุญที่วัด และพากันเด็ดดอกมณฑาทิพย์นี้ไปจนหมด เพื่อนำไปบูชา
    หรือนำไปเป็นตัวยาเพื่อรักษาโรคบางชนิด ซึ่งมีผู้สูงอายุเล่าว่ารักษาได้ จนต้นไม้ดูบางตาไปถนัดตา
    ล่าสุดทางวัด ติดป้ายประกาศไว้ เพื่อให้กับประชาชนทุกคนที่มากราบไหว้ ได้ชมกันเท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2009
  13. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ส่วนใหญ่ เราจะเห็น รูป องค์พระศรีอ่ริย์ในลักษณะสมบูรณ์
    แต่จากวัดไลย์ องค์พระศรีอาริย์ จะมีลักษณ์ค่อนข้างผอม
    นั่นคือปาง พุทธบรรพชา....คือบวชเป็นพระในยุคที่พระพุทธโคดมยังอยู่
    เป็นองค์ที่อยู่ท้ายสุดของขบวน
    .............................................................................
    เป็นพระที่ชื่อว่า "อชิตะ"...พระพุทธโคดม รับสั่งว่า
    ต่อไป จะเป็น "องค์พระศรีอริเมตไตร"
    พระพุทธเจ้าองค์ต่อไป ที่ จะรักษา ศาสนาพุทธไว้
    ให้ครบ 5000 ปี
    .............................................................
     
  14. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    พระอชิตเถระ

    ชาติภูมิ
    ท่านพระอชิตะ เกิดในตระกูลพราหมณ์ กรุงสาวัตถี เดิมชื่อว่า อชิตมาณพ เมื่อมีอายุสมควรแก่การเล่าเรียนแล้ว มารดาบิดาได้นำไปฝากให้เป็นศิษย์เล่าเรียนศิลปะ ในสำนักของพราหมณ์พาวรีผู้เป็นปุโรหิตของพระเจ้าปเสนทิโกศล ครั้นเมื่อพราหมณ์พาวรีคิดเบื่อหน่ายในฆราวาสวิสัย จึงได้ถวายบังคมลาพระเจ้าปเสนทิโกศลออกจากหน้าที่ปุโรหิต ออกบวชเป็นชฎิล ประพฤติพรตตามลัทธิของพราหมณ์ ตั้งอาศรมอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำโคธาวารี ที่พรมแดนแห่งเมืองอัสสกะและอาฬกะต่อกัน เป็นอาจารย์ใหญ่บอกไตรเพทแก่หมู่ศิษย์ อชิตมาณพพร้อมกับมาณพอื่นได้ออกบวชติดตามด้วย และอยู่ศึกษาศิลปวิทยาในสำนักของพราหมณ์พาวรีนั้นฯ

    พราหมณ์พาวรีผูกปัญหาให้ไปทูลถามพระบรมศาสดา

    ครั้นต่อมา พราหมณ์พาวรีได้ทราบข่าวว่า พระสิทธัตถราชกุมาร ผู้เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าศักยะทรงผนวช ปฏิญญาของพระองค์ว่าเป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ แสดงธรรมสั่งสอนประชาชน มีคนเชื่อและเลื่อมใสยอมเป็นสาวกปฏิบัติตามคำสั่งสอนเป็นจำนวนมาก พราหมณ์พาวรีประสงค์จะสืบสวนให้ได้ความจริง จึงเรียกมาณพผู้เป็นศิษย์สิบหกคน มีอชิตมาณพเป็นหัวหน้าผูกปัญหาให้คนละหมวด ๆ ให้ไปกราบทูลลองถามดูจึงอชิตมาณพพร้อมด้วยมาณพอีกสิบห้าคน ลาพราหมณ์พาวรีผู้เป็นอาจารย์ แล้วพากันไปเฝ้าพระบรมศาสดาที่ปาสาณเจดีย์ แคว้นมคธ กราบทูลขอโอกาสถามปัญหาคนละหมวด ๆ เมื่อพระบรมศาสดาทรงประทานโอกาสอนุญาตแล้ว อชิตมาณพผู้เป็นหัวหน้า จึงกราบทูลถามปัญหาทีแรก ๔ ข้อว่า

    โลก คือ หมู่สัตว์อันอะไรปิดบังไว้ จึงหลงดุจอยู่ในความมืด เพราะอะไรเป็นเหตุจึ้งไม่มีปัญญาเห็นปรากฏ พระองค์ตรัสว่าอะไรเป็นเครื่องฉาบไล้สัตว์โลกนั้นให้ติดอยู่ ตรัสว่าอะไรเป็นภัยใหญ่ของสัตว์โลกนั้น

    พระบรมศาสดาทรงพยากรณ์ว่า โลก คือ หมู่สัตว์อันอวิชชา คือ ความไม่รู้แจ้งปิดบังไว้ จึงหลงดุจอยู่ในที่มืด เพราะความอยากมีประการต่าง ๆ และความประมาทเลินเล่อ จึงไม่มีปัญญาเห็นปรากฏ เรากล่าวว่า ความอยากเป็นเครื่องฉาบไล้สัตว์โลกให้ติดอยู่ และเรากล่าวว่า ทุกข์เป็นภัยใหญ่ของสัตว์โลกนั้น ฯ

    อชิตมาณพ

    ขอพระองค์จงตรัสบอกว่า อะไรเป็นเครื่องห้าม เครื่องปิดกั้นความอยาก ซึ่งเป็นดุจกระแสน้ำหลั่งไหลไปในอารมณ์ทั้งปวง ความอยากนั้นจะละได้เพราะธรรมอะไร

    พระพุทธเจ้า

    เรากล่าวว่า สติเป็นเครื่องห้าม เป็นเครื่องป้องกันความอยาก และความอยากนั้น จะละได้เพราะปัญญาฯ

    อชิตมาณพ

    ปัญญา สติ กับ นามรูปนั้น จะดับไป ณ ที่ไหน ข้าพระพุทธเจ้ากราบทูลถามแล้ว ขอพระองค์ตรัสบอกความข้อนี้แก่ข้าพระพุทธเจ้า

    พระพุทธเจ้า

    เราจะแก้ปัญหาที่ท่านถามถึงที่ดับของนามรูปทั้งหมด ไม่มีเหลือแก่ท่าน เพราะวิญญาณดับไปก่อน นามรูปจึงดับไป ณ ที่นั้นเองฯ

    อชิตมาณพ

    ชนได้เห็นธรรมแล้ว (ได้บรรลุมรรคผลแล้ว) และชนผู้ยังต้องศึกษาอยู่สองพวกนี้มีอยู่ในโลกเป็นอันมาก ข้าพระพุทธเจ้าขอกราบทูลถามถึงความประพฤติของชนพวกนั้น พระองค์มีปัญญาแก่กล้า ขอจงตรัสบอกแก่ข้าพระพุทธเจ้า?

    พระพุทธเจ้า

    ภิกษุผู้ได้เห็นธรรมแล้ว และชนผู้ต้องศึกษาอยู่ต้องเป็นคนไม่กำหนัดในกามทั้งหลาย มีใจไม่ขุ่นมัว ฉลาดในธรรมทั้งปวง มีสติอยู่ทุกอิริยาบถฯ

    บรรลุพระอรหันต์

    ครั้นสมเด็จพระบรมศาสดา ทรงพยากรณ์ปัญหาที่อชิตมาณพกราบทูลถามอย่างนี้แล้ว ในที่สุดการแก้ปัญหา อชิตมาณพก็ได้สำเร็จพระอรหัตผล (ก่อนอุปสมบท) เมื่อจบโสฬสปัญหาพยากรณ์แล้ว อชิตมาณพพร้อมด้วยมาณพสิบห้าคน กราบทูลขออุปสมบทในพระธรรมวินัย พระองค์ก็ทรงอนุญาตให้เป็นภิกษุด้วยวิธีเอหุภิกขุอุปสัมปทา ท่านพระอชิตะดำรงชนมายุอยู่โดยสมควรแก่กาลแล้ว ก็ดับขันธปรินิพพานฯ...

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2009
  15. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    อัสดงขาดแต่ ฉลาดในธรรม และมีสติทุกอิริอยาบถ สงสัยจังว่า จะได้ 2 ข้อนี้ครบต้องกี่ 10 ปีเนี่ยะ เฮ้อ... ^^
     
  16. วรรณนันท์

    วรรณนันท์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +2,602
    น้องตัวกลมๆว่าคนที่ชมรมคนตาทิพย์นี่เห็นตัวของบุญได้ไหมคะ พี่เห็นแต่เหตุของบุญ และผลของบุญค่ะ อยากให้เฉลยว่าเรื่องต่อไปนี้ตัวของบุญหน้าตาเป็นอย่างไร เหตุของบุญคือสมัยหนึ่งพี่จะเที่ยวเดินเก็บฝาน้ำดื่มที่เป็นอลูมิเนียมไปบริจาคให้สมาคมคนพิการ เวลาพบเศษสตางค์ที่คนทำหล่นไว้บ้าง หรือลืมไว้บนโต๊ะบ้าง พี่ก็เก็บรวบรวมไว้ เมื่อได้พอสมควรแล้วพี่ก็นำไปบริจาคให้ที่ร.พ.สงฆ์ อุทิศบุญกุศลให้แก่เจ้าของเงินเหล่านั้น ผลของบุญก็คือมีคนนำกระเป๋าสตางค์ที่ทำตกหายมาส่งคืนอย่างเหลือเชื่อ คือพี่ไปซื้อของแล้วจะขนของขึ้นรถ ดันวางกระเป๋าสตางค์ไว้บนหลังคารถ พอรถเลี้ยวที่ห้าแยก ณ ระนอง กระเป๋าสตางค์พี่ก็ตกลงบนถนนกลางแยก วินมอเตอร์ไซค์เก็บมา แต่ไม่รู้จะติดต่อพี่ได้อย่างไร มีบัตรประกันรถยนต์อยู่ใบเดียว เค้าก็เลยโทรไปที่บริษัทประกันเพื่อให้ติดต่อเจ้าของรถให้มารับกระเป๋าสตางค์ บังเอิ๊ญชื่อเจ้าของรถเป็นของน้องเขยเพราะกู้เงินแบ๊งค์เค้าซื้อรถ โอ๊ยมีการโทรบอกต่อ และบอกต่อกัน กว่าพี่จะทราบข่าวก็เป็นเวลา 5 ทุ่มแล้ว สุุดท้ายเค้าก็เอากระเป๋ามาส่งให้ถึงที่ทำงาน ตั้งใจจะสรรเสริญความเป็นคนดีของเขา เพิ่งได้โอกาสคราวนี้

    ใครเห็นตัวบุญได้ ช่วยเฉลยทีนะคะ
     
  17. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    ตัวบุญของผมเป็นรูปตัวแคสเปอร์ เพราะลูกชายของผมชอบดูครับ นี่ตัวบุญก็กำลังหัวเราะให้ผมอยู่ครับ ^.^ เอ..เดี๋ยวนะครับ ตัวบุญแปลงเป็นเด็กทารก กำลังกินนมอยู่เลยครับ นี่ก็บอกผมว่า จะแปลงร่างเป็นแบบเรื่อง transformer ครับ

    ป.ล. นั่นคือตัวบุญที่ผมเห็น ใครเห็นยังไง บอกต่อกันด้วยนะครับ ผมไม่ได้ กวนตรีน ใครนะครับ ผมเห็นแบบนั้นจริงๆ ครับคุณวรรณนันท์
     
  18. วรรณนันท์

    วรรณนันท์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +2,602
    ตัวบุญนี่ก็น่ารักไปอีกแบบนะคะ :boo:
     
  19. ตัวกลมๆ

    ตัวกลมๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +5,941
    โอ้โห ได้กระเป๋าคืนด้วย ในสมัยนี้ความน่าจะเป็นในการได้คืน น่าจะเหมือนถูกรางวัลที่ 2 นะคะ
    นั่นก็ผลของการทำกุศลค่ะพี่วรรณนันท์ ส่วนบุญเป็นนามธรรม พลังบุญที่พระอาจารย์เกษมท่านเล่า คือ
    ตอนที่ทำบุญปุ๊บ จะมีแสงสว่างจ้าที่เรา หากไม่ได้อุทิศบุญ แสงก็จะไปเจิดจ้าที่กองบุญบนสวรรค์เลย
    ช่วงแสงเจิดจ้านี้ท่านให้รีบอุทิศบุญเสีย ไม่ต้องรอกรวดน้ำ พลังบุญจะส่งเสริมให้ผู้ที่เราส่งบุญให้
    ชาวทิพย์บางตนรับและเปลี่ยนสภาพความเป็นอยู่ หรือภพภูมิได้สูงขึ้น ท่านว่างั้นนะคะ

    ว่าเรื่องผลของบุญ เล่าแล้วเล่าอีกเสียหน่อย สมัยโน้นที่บ้านก็มีหมา2-3ตัว พอออกไปซื้อของ
    ไปเจอลูกหมาตัวขาวนวล ขนเกรียนถูกทิ้งไว้ที่กล่อง สงสารก็สงสารแต่บ้านก็มีเยอะแล้ว แต่
    สุดท้ายก็ขนกลับบ้านด้วย คนขายของแถวนั้นก็อยากให้เอาไป เพราะแกว่ายังไงก็ไม่มีใครเอา

    สมัยโน้นคนเขาชอบหมาขนสวยๆค่ะ กลมเลี้ยงสักพักก็โอนไปให้เพื่อนเพราะบ้านเขามีพื้นที่
    เขาอยากได้ 1ตัวเป็นพันธุ์ผสมเทอเรีย แต่แถมตัวนี้ไปด้วย อยู่ได้อาทิตย์เดียว ก็เอาเจ้าขาวเกรียนมาคืน
    บอกว่ามันร้องเสียงแหลม กวนข้างบ้าน อะ เลี้ยงต่อ เจ้านี่ไม่ชอบอยู่นอกบ้าน กัดมุ้งลวดจน
    น้ำลายยืด เลี้ยงได้ไม่กี่อาทิตย์ก็เป็นโรคลำไส้อักเสบ นอนตายพร้อมอึเป็นน้ำ โอว..รู้สึกผิด
    เลี้ยงหมาไม่เป็น เ้ลยใส่บาตรให้ เอาขนมหมาไปวางหลุมศพ(ในบ้านอะแหละ) หมานอกบ้าน
    ก็มีแว้บมาขโมย ทำสัก 5-7วัน

    อยู่มาคืนหนึ่ง ก็ฝันเห็นผู้หญิงใส่ชุดไทยสไบฟ้าหรือเขียวนี่แหละค่ะ(แบบว่าลืมแล้ว5555)
    เธอไม่ได้อ้าปากพูดอะไรเลย แต่รับทราบว่าเธอคือ เจ้าหมาน้อยตัวนั้นและขอบใจเรา จากนั้น
    ก็เห็นเป็นกระดาษมีเลข2ตัวติดกัน เลยไปซื้อล็อตเตอรี่ ปกตินานๆจะซื้อ(ประมาณผู้ใหญ่ต้องบอกติดไว้มั่ง)
    แถมซื้อแล้วลืมตรวจซะงั้น งวดนี้ฝันเลยซื้อแต่ตอนนั้นกองสลากเพิ่งเปลี่ยนจาก7หลักเป็น 6หลัก
    เลยแยกซื้อครึ่งเดียว40บาท พอไปกินข้าวเที่ยง(นานๆทีได้ออกไปข้างนอก) ตาก็ไปเจอะ
    ใบตรวจล็อตเตอรี่ ตลกดีค่ะใจคิดซื้อ ทั้งๆที่บางทีซื้อทิ้งไม่เคยตรวจก็มี ตรวจไปไม่น่าเชื่อ

    ถูกรางวัลที่ 2 ซื้อแบ่งก็ได้ 1แสน หักภาษี ณ ที่จ่ายไป1พัน จำสายตาพนักงานแบงค์ที่มองเช็คได้ อิอิ
    เงินก้อนนั้นได้ตู้เย็น 2ชั้น1ใบ แล้วให้คุณแม่ 1หมื่น ที่เหลือไปไหนจำไม่ได้ 555555
    งวดต่อมาใจคิดซื้อ แต่ไม่ได้ซื้อนะคะ มันออกเสียด้วยสิ

    เลยบอกว่า ทำบุญแบบฟลุ้คๆก็ได้เงินแบบฟลุ้กๆ เช่นนี้แล แต่ย้ำว่า ทำบุญไม่ต้องหวังผล
    เพราะของๆเราก็เป็นของเราวันยังค่ำ(ลุงที่วัดไลย์บอกว่างั้น) แต่ว่าอุทิศบุญให้ผู้อื่นน่ะดีเลย
    เมตตาอีกต่างหาก
     
  20. วรรณนันท์

    วรรณนันท์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +2,602
    โห... ประทับใจจัง ถูกรางวัลที่สองแน่ะ เห็นด้วยค่ะที่ทำบุญต้องเต็มใจและไม่หวังสิ่งตอบแทน ทำเพราะเชื่อในบาปบุญคุณโทษ ผลของบุญเป็นเพียงพยานอย่างดีค่ะ

    พูดถึงเรื่องฝัน มีผู้หญิงคนนึงมาเข้าฝัน ขอให้บวชพระให้สององค์ แบบที่น้องตัวกลมๆว่าเลยค่ะ เวลาพูดในฝัน เค้าไม่ได้ใช้ปากพูด แล้วเค้าก็เขียนตัวเลขให้ เราก็ไม่สนใจ ให้เลข 6 ตัวตั้ง 2 ชุด เราก็ไม่สนใจ เค้าก็เขียนเลข 4 ตัวให้อีกจำไม่ได้ว่ากี่ชุุด จำได้แต่เสียงที่ติดหูว่า 2 องค์นะ ทำให้ไปแล้วค่ะ เคยมีผู้บอกว่าโชคย่อมเป็นของผู้เพียรอยู่ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...