เรื่องเล่าของข้าพเจ้าความศักดิ์สิทธิ์พระคาถาชินบัญชร

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย ชัชวาล เพ่งวรรธนะ, 1 ตุลาคม 2008.

  1. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    จิตนายนิรยบาล

    [FONT=&quot]"เออ..เอาเรื่องเหมือนกันนะเจ้าแบม..เนี่ย สงสัยจะเป็นยมบาลในระดับที่ลงโทษจิตที่ชั่วร้ายในขุมลึก ๆ แน่เลย[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]<o:p></o:p>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2010
  2. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    จิตเบียดเบียนเจอผู้จ้องเบียดเบียน

    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]"ฮ่า ๆ ติ๊ก..รู้ไหมคนนี้จินตนาการทั้งหลับและก็ตื่นคือ สับให้เละที่ปากที่บอกว่าเขาผิด ตัดคอ ตัดมือ ตัดแขน
    [/FONT]
    [FONT=&quot][/FONT][FONT=&quot] <o:p></o:p>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2010
  3. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    จุดปฏิสนธิกำเนิดชาติภพ

    จุดปฏิสนธิ

    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]“ติ๊ก..พอเข้าใจจุดปฏิสนธิของมนุษย์ไหม เพราะหลวงพี่ของอ้อง..นะท่านใช้เป็นจุดโจมตีเพื่อที่จะไประลึกชาติ
    [/FONT]
    [FONT=&quot][/FONT][FONT=&quot]<o:p></o:p>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2010
  4. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    ผีจอมตุ๋น

    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]จิตดวงแรกเกิดเมื่อวิญญาณก้าวลงสู่ครรภ์ พลังงานก็เริ่มขับเคลื่อนต่ออย่างไม่ขาดสาย ภพชาติก็เริ่มใหม่
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot][/FONT][FONT=&quot]<o:p></o:p>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2010
  5. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    คาถากันผีสำหรับเด็กน้อย(จำง่าย ท่องได้คล่อง)

    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot] “ฮ่า ๆ ๆ ได้มาจากยายของอ้อง..เอง ตอนแกเล่นไพ่นะ ติ๊ก..จะฟังไหมล่ะ แต่ไม่ได้ทะลึ่งนะ” ติ๊ก..มองหน้าผมว่ามันจะเล่าอะไรหว่าแล้วไปเกี่ยวกับยายอ้อง..ได้ยังไง<o:p></o:p>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]<o:p></o:p>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2010
  6. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    สื่อสัมผัสวิญญานของมนุษย์

    [FONT=&quot]“อ้อง..ที่อ้อง..กำลังถามติ๊ก..เกี่ยวกับอสุรกายภูตผีปีศาจต่าง ๆ ทั้งหลายใช่ไหม” ผมพยักหน้าว่าใช่<o:p></o:p>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]<o:p></o:p>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2010
  7. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    ผีไม่ได้ตั้งใจแหะแห่ๆๆ

    [FONT=&quot] “ติ๊ก..แล้วแก้ไขอย่างไรล่ะ” เทพติ๊ก..พูดออกมาว่า<o:p></o:p>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]“อ้อง..ทุกอย่างมันเกิดจากเหตุต้นผลกรรม แก้ที่เหตุ [/FONT][FONT=&quot]<o:p></o:p>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2010
  8. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    รัศมีของอสูรกายต่างๆ

    [FONT=&quot]“ติ๊ก..แล้วเทพชั้นสูงต่าง ๆ การจะยินดีมาหาใครก็ตาม ก็ต้องมาหาคนที่มีคุณธรรมสูง มีศีลที่รักษาเอาไว้ดีอยู่เสมอ
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot][/FONT][FONT=&quot]<o:p></o:p>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2010
  9. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    เวียนว่ายเกิดดับนับไม่ถ้วน

    เวียนว่ายเกิดดับ นับไม่ถ้วน

    [FONT=&quot]“อ้อง..นี่ไล่ถามติ๊ก..มาเกือบจะทุกภูมิเลยนะ [/FONT][FONT=&quot]<o:p></o:p>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2010
  10. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    Germ cell (จิตสะสมภพชาติจึงสะสมเชื้ออย่างมากมาย)

    [FONT=&quot]
    [/FONT]

    [FONT=&quot]“เมื่อภพชาติมีมากมาย ก็จะมีการเรียนรู้ในสภาวะของจิตแต่ละประเภทตามความหยาบและละเอียด ที่จิตไปสะสมเชื้อเอาไว้
    [/FONT]



    [FONT=&quot][/FONT][FONT=&quot] <o:p></o:p>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2010
  11. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    จิตบันทึกภพ เกิดมานับไม่ถ้วน ทุกชนิดขึ้นๆลงๆ

    [FONT=&quot]ถ้าอ้อง..ดูทีวีเรื่องการทำเด็กหลอดแก้ว จะเห็นไข่ใส ๆ เล็ก ๆ ที่ใช้กล้องขยายขึ้นเวลาอ้อง..ไปในที่ที่อากาศชื้น ๆ ปลายขนอ้อง..จะมีละอองน้ำเล็ก ๆ เกาะอยู่ก็แทบมองไม่เห็นแล้ว
    [/FONT]
    [FONT=&quot]<o:p></o:p>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2010
  12. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    แก่นแท้ของบุญคือการสละอารมณ์เพื่อคลายอุปทาน สมมุติที่ยึดติด

    ทาน ศีล ภาวนา

    [FONT=&quot]“สิ่งหนึ่งที่พระพุทธองค์ท่านตรัสอยู่เสมอก็คือคำว่า บัณฑิตผู้มีปัญญาทั้งหลาย [/FONT][FONT=&quot]<o:p></o:p>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2010
  13. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    เปลือกแห่งทาน แก่นแห่งบุญ

    [FONT=&quot]บุญ คำนี้ถ้าพูดด้วยหลักแห่งเหตุและผลแล้วก็คือ การสลัดออก การคลายออก การปล่อยออก ด้วยใจทั้งหมดทั้งสิ้น
    [/FONT]


    [FONT=&quot][/FONT][FONT=&quot]<o:p></o:p>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2010
  14. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    สละออก ไม่ยึดอารมณ์ คลายอุปทานก็เพราะผลแห่งเบื้องต้นที่ทำทาน ศีล ภาวนา

    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]สถานที่บางแห่งเน้นบุญด้วยเงินและศรัทธา สร้างสิ่งเพ้อฝันให้คนทุ่มเทโดยไร้ปัญญาชี้นำ แต่บัณฑิตผู้มีปัญญาเน้นบุญด้วยใจและศรัทธามุ่งเข้าไปชำระล้างที่จิต ขจัดออกเสียด้วยการคลายออกอยู่เสมอ[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot] เป็นผู้ทำทานด้วยสติและพอประมาณในฐานะของตน ไม่เดือดร้อนตนเองและผู้อื่น
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]อ้อง..ขอชี้ถึงทานที่บริสุทธิ์แท้จริงกัน นั่นคือทานที่ประกอบกับบารมี ขึ้นชื่อว่าบารมีแล้วก็คือการบำเพ็ญความดีอย่างถึงที่สุดเพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายอันสูงยิ่ง นั่นคือสาวกภูมิและพุทธภูมิ[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot] ทานชนิดนี้เป็นทานของผู้ให้เพื่อให้ใจคลายออกจากสิ่งที่เกาะยึด<o:p></o:p>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot] การทำสมาธิก็ดี การที่จะให้จิตเข้าสู่ความเป็นกลางถึงที่สุดก็ดี จะต้องผ่านความละเอียดของจิตในแต่ละฐานอยู่เสมอ[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot] การเสียสละการให้แม้แต่สิ่งที่รักมากที่สุดซึ่งพระเวสสันดรท่านได้กระทำมาในทุก ๆ ภพ แม้แต่ให้ชีวิตเป็นทานและให้คนที่ท่านรักมากที่สุด ก็เพื่อที่จะก้าวไปสู่บารมีอันสูงที่สุด เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชน ไม่ได้หวังผลจะไปใช้เพื่อความสุขสบาย ร่ำรวยทั้งบนสวรรค์และภพหน้า เป็นคนรวยมหาศาลก็หาไม่
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ดังนั้น ขึ้นชื่อว่าทานที่เป็นแก่นแท้ของทาน ย่อมนำมาเพื่อเป็นสิ่งที่จะส่งเสริมในทางสมาธิในฐานต่าง ๆ ไม่ให้ไปติดใน ปีติสุข นิมิตและความละเอียดของจิตนั่นเอง
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot] ดังนั้นขอให้สังเกตว่าทานที่มีอานิสงส์สูงที่สุดจึงเป็นทานอันเกี่ยวกับผลของจิตทั้งสิ้น นั่นก็คือธรรมทาน และสูงที่สุดก็คืออภัยทาน
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ทานที่ลงทุนน้อยที่สุดและให้ผลที่สูงที่สุด เข้าถึงจิตถึงใจมากที่สุด ประกอบด้วยความเลื่อมใสศรัทธา เป็นทานแห่งการสลัดออก การคลายออก เป็นทานบารมี แห่งผู้ให้โดยแท้จริง<o:p></o:p>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]อ้อง..เลยไม่ค่อยเข้าใจว่าจะเอาเงินไปทำอะไรกันนักหนา เห็นเน้นกันจังบุญที่สูงที่สุดแต่ต้องใช้เงินยิ่งเยอะยิ่งดี
    [/FONT]

    [FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]พระพุทธองค์ท่านไม่เคยสอนเช่นนี้เลย ท่านพูดว่าคนที่ทำบุญเช่นนั้นจึงมีผลเช่นนี้
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]แต่ในภาวะแห่งปัจจุบันแทนที่จะชี้ในสิ่งที่เป็นแก่นแท้แห่งทาน
    [/FONT]
    [FONT=&quot]กลับไปสอนให้เกาะยึดซะอีก
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ไม่รู้จักคำว่า พอเพียงหรือไงนะ
    [/FONT]

    [FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]อ้อง..เลยขอให้พวกเราเข้าใจในทานที่เป็นแก่นแท้เอาไว้ พิจารณาดูเถิดด้วยปัญญาของท่านทั้งหลาย
    [/FONT]

    [FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อไม่หน้ามืดซะแล้วก็ไม่งมงาย เหตุและผลย่อมรู้อยู่แก่ใจ นี่แค่เป็นสิ่งเบื้องต้นเท่านั้น จะมาตาย แหงกกันแค่นี้เองหรือครับ<o:p></o:p>[/FONT]
     
  15. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    ศีลแห่งอริยมรรครักษาที่สติที่ใจเป็นแก่นแห่งศีล

    [FONT=&quot] อ้อง..ไม่เชื่อหรอก ทุกท่านล้วนแล้วแต่มีปัญญากันทั้งนั้น แล้วทานที่เป็นธรรมทานและอภัยทานเกี่ยวกับจิตอย่างไร
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ขอบอกว่า เกี่ยวข้องกันอย่างถึงที่สุด เพราะธรรมทานคือการให้ในสิ่งที่บริสุทธิ์เพื่อให้ผู้รับเดินมาในทางเดินที่ถูกต้อง
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot] เพราะมีแต่พระธรรมอันบริสุทธิ์เท่านั้นที่ควรเป็นสรณะที่เกาะยึด ยึดเพื่อเข้าไปเรียนรู้และทำลายเสียซึ่งอาสวะกิเลสทั้งหลาย[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot] ดังนั้นผลแห่งธรรมทานจึงยังจิตของผู้ให้ ให้ประกอบไปด้วยความสะอาดของจิตที่บริสุทธิ์อยู่เสมอ ให้สิ่งที่บริสุทธิ์ย่อมได้ผลแห่งความบริสุทธิ์ <o:p></o:p>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot] ส่วนการให้อภัยทานดีที่สุดเป็นอย่างไร ทานชนิดนี้มีผลมากมีพละมาก เพราะเหตุจากการคลายออกเสียซึ่งทิฏฐิของตน การที่ไม่ผูกโกรธ ไม่จองเวร ไม่อาฆาตพยาบาท แม้แต่ศัตรูของตน เป็นการขจัดเสีย ซึ่งนิวรณ์ที่มีกำลังมากชนิดหนึ่ง ซึ่งนิวรณ์ชนิดนี้คือพยาปาโท อันเกี่ยวเนื่องมาจากจิตที่คุมแค้นนี่เอง<o:p></o:p>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot] อ้อง..เคยพูดอยู่เสมอว่า เรามักจะกลัวเจ้ากรรมนายเวรที่ไม่มีวันหมดซะที แต่ลืมไปหรือว่า ตัวเราก็เป็นเจ้ากรรมนายเวรของคนอีกจำนวนมากเช่นกัน[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot] การปลดโซ่แห่งใจเป็นการคลายออกเสียซึ่งปมที่ผูกมัด ไม่ว่าชาติ ที่แล้วหรือชาตินี้ก็ตาม ขอเพียงแค่นึกว่า ไม่ว่าใครทำอันใดกับข้าพเจ้าทางกาย วาจา ใจ มาอย่างสาหัสสากรรจ์ ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมทั้งสิ้น
    [/FONT]

    [FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]เพียงแค่นึกคิดก็มีอานิสงส์แห่งใจคลายออก ยิ่งทำได้วันละมาก ๆ จิตก็จะอ่อนโยนลง เพราะเป็นทานแห่งพรหมวิหารธรรม ซึ่งพรหมวิหารธรรมนี้เป็นคุณธรรมของจิต ทำให้จิตอ่อนโยนและเข้าสมาธิ ได้ง่าย เป็นจิตของพรหมผู้ประเสริฐโดยแท้<o:p></o:p>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ดังนั้นการให้อภัยทานจึงเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เพราะมีความละเอียดในใจที่ต้องคลายออก จึงจัดเป็นทานที่ส่งใจให้ก้าวไปสู่แก่น คือการสละออกอย่างแท้จริง ทานทุกชนิดล้วนแล้วแต่ดีทั้งสิ้นแต่ให้ดูที่จิตด้วย
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ขอให้เป็นผู้ให้ ผู้คลายออกด้วยจิตแห่งความเลื่อมใสและศรัทธาอันประกอบด้วยปัญญา ผู้ที่ทำทานชนิดนี้แล จึงจะก้าวเข้ามาสู่การรักษาศีลแห่งใจที่เสมอภาค ศีลแห่งพระอริยบุคคล บรรพชิตและคฤหัสถ์ที่เสมอภาคคือการรักษาศีลที่ใจ <o:p></o:p>[/FONT]
     
  16. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    พระพุทธองค์วางรากฐานจากเบื้องต้นไปหาทางพ้นไปอย่างดีแล้ว(เราไปติดสุขกันมากไป)

    [FONT=&quot]ศีลคือความปกติของใจที่ไม่เบียดเบียน ประกอบไปด้วยกายวาจาและใจที่สุจริต ศีลจึงเป็นความบริสุทธิ์ทำให้จิตขาวสะอาด
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ไม่ขุ่นมัวด้วยกามคุณ ๕
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ศีลจึงเป็นฐานของสมาธิ สมาธิจะก้าวหน้าก็ด้วยมาจากทานที่สละออก คลายออก ไม่ยึดติด สมาธิจะมั่นคงก็ด้วยเหตุมาจากศีลที่ทำให้จิตขาวสะอาด[/FONT]
    [FONT=&quot]จึงปราศจากนิวรณ์อันขุ่นมัวมากีดกั้นจิต[/FONT][FONT=&quot] สิ่งนี้เป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงวางเอาไว้ด้วยเหตุและผลมาที่ระดับของจิตทั้งสิ้น
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot] การที่จะทำให้สมาธิสงบและตั้งมั่นได้นั้น จึงต้องอาศัยทานและศีลมาประกอบเข้าหากันด้วย เพราะการสละออก และการรักษาใจให้บริสุทธิ์เป็นฐานที่มั่นคงของสมาธิอย่างแท้จริง[/FONT]

    [FONT=&quot]<o:p></o:p>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ศีล ๕ เป็นต้นทางของศีลทั้งหลาย แต่การรักษาศีลที่แท้จริงอยู่ที่การรักษาที่ต้นทางคือใจ นี่เอง ส่วนการรักษาตามกฎระเบียบ ไม่ว่าจะตามวินัยก็ดี หรือ การรักษาของคฤหัสถ์ก็ดี นั่นเป็นปลายศีล
    [/FONT]

    [FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]เพราะทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดมาจากเหตุคือจิต เมื่อรักษาจิตอันเป็นต้นเขาซะแล้ว ย่อมที่จะดูแลและรักษา การกระทำและคำพูดของตนได้เป็นอย่างดี
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot] เมื่อรักษาจิตให้อยู่ในสภาพปกติ ศีลย่อมบริสุทธิ์ จิตย่อมไม่ไปบังคับกายวาจาให้กระทำชั่วได้ การรักษาจิตจึงเป็นที่ต้นทาง การรักษากายวาจาจึงเป็นที่ปลายทาง <o:p></o:p>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot] อันขึ้นชื่อว่ากฎระเบียบเป็นสิ่งที่ดี เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้จิตสำรวมระวังเพื่อปิดกั้นไม่ให้บาปและอกุศล มาครอบงำได้ แต่ศีลที่เป็นข้อห้ามนี้
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้ารักษาให้ถูกต้องคือรักษาที่ใจและสำรวมสติอยู่เสมอ ย่อมทำให้จิตเข้าสมาธิและฌานได้ง่าย เพราะเมื่อรักษาสติ รักษาศีลที่ใจ สำรวมและเป็นผู้ระวังอยู่เสมอแล้ว ศีลที่รักษาด้วยใจเช่นนี้จะมีพละมาก เพราะจิตใจดำรงไปด้วยเหตุแห่งความปกติของจิต[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot] เมื่อดำรงเช่นนี้นานมากเข้าจิตย่อมผ่องใส มีความร่มเย็น ชื่นบานในหัวใจ ก็เพราะว่าศีลคือความสะอาดของจิตนั่นเอง<o:p></o:p>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อทานเป็นการสละออกของใจฉันใด ศีลเป็นการทำให้ใจใสบริสุทธิ์ นิวรณ์อันเป็นอกุศลย่อมถูกปัดออก ด้วยความสละออกและความบริสุทธ์ฉันนั้น การรักษาศีลเช่นนี้และที่ครูอาจารย์ท่านกล่าวเอาไว้ว่า
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]เป็นศีลแห่งองค์อริยมรรค เป็นศีลแห่งความเสมอภาค พระอริยบุคคลก็ดี บรรพชิตก็ดี คฤหัสถ์ก็ดี ย่อมมีศีลชนิดนี้เสมอภาคกัน คือการรักษาศีลที่ใจ
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot] เมื่อเราเข้าปฏิบัติกรรมฐาน ครูอาจารย์จะให้เราสมาทานศีลในวันเข้าเพื่อให้สำรวมระวัง และเราก็รักษาศีลด้วยใจตลอดระยะเวลาแห่งการปฏิบัตินั้น เราไม่สมาทานศีลพร่ำเพรื่อ และเราจะลาศีลก็ตอนวันออกเท่านั้น<o:p></o:p>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot] เพื่อนที่เป็นบัณฑิตที่มีปัญญาทั้งหลาย เมื่อพิจารณาแล้วจะเห็นว่าพระพุทธองค์ทรงวางแนวทางของจิตจากหยาบมาละเอียดอย่างไร ดังนั้นขึ้นชื่อว่าบุญทั้ง ๓ แล้วย่อมเกื้อหนุนกันด้วยเหตุและผลทั้งสิ้น ขอให้เข้าใจว่าจุดมุ่งหมายล้วนมาทำลายใจที่ยึดมั่น โปรดตัดคำว่า “อยากได้” ทิ้งไป ท่านจะเป็นผู้ก้าวเดินทางที่ถูกต้องอย่างมั่นคง <o:p></o:p>[/FONT]
     
  17. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    จิตจะเกิดเป็นมนุษย์ได้ไม่ใช่ง่ายๆต้องมีใจปกติรักษามาก่อนคือศีล

    [FONT=&quot]“ติ๊ก.. อ้อง..พอจะเข้าใจแล้วว่า ทำไมพระพุทธองค์ถึงตรัสว่าการเกิดเป็นมนุษย์นั้นยากมาก เพราะคนเราพอมาเกิดเป็นมนุษย์
    [/FONT][FONT=&quot]<o:p></o:p>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2010
  18. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    เมืองพระเวสสันดรอยู่ในโลกนี้หรือไม่(หาไม่เจอ)

    [FONT=&quot]คราวนี้อ้อง..ขอถามอีกเรื่อง[/FONT][FONT=&quot] ติ๊ก..เตรียมไปดูตำรามาตอบอ้อง.[/FONT][FONT=&quot]<o:p></o:p>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2010
  19. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    นิยายแห่งเทพโบราณ(คำภีร์หมื่นโลกธาตุ รออีกนิดครับ)

    [FONT=&quot]“อ้อง..เรื่องเหล่านี้เป็นอจินไตย รู้มากจะปวดหัว แต่ถ้าฟังเป็นนิทานสนุก ๆ ในเชิงวิทยาศาสตร์ล่ะก็[/FONT][FONT=&quot]<o:p></o:p>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2010
  20. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    เจ้าที่ถูกหวย เจ้าบ้านแสนน่ารัก

    เจ้าที่ถูกหวย เจ้าบ้านที่แสนรัก

    [FONT=&quot]โอปปาติกะที่อยู่ใกล้มนุษย์อีกจำพวกหนึ่งก็คือ โอปปาติกะชั้นกลาง ได้แก่ เท[/FONT][FONT=&quot]<o:p></o:p>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...