เรื่องพิเศษ รวมก๋วยเตี๋ยว ที่ไม่ธรรมดา

.


“เตี๋ยวเหอะ” ก๋วยเตี๋ยวเรือรสจัดจ้านโดนใจ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">2 ตุลาคม 2554 18:46 น.</td></tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="baseline"><table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"><tbody><tr><td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บรรยากาศในร้านเตี๋ยวเหอะ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> “ไปกินเตี๋ยวกันเหอะ” เป็นประโยคที่ “ผ่านมาแวะกิน” ใช้ชักชวนเพื่อนอยู่บ่อยๆ ในยามที่เริ่มหิว ซึ่งในมื้อนี้ เราก็อยากจะชักชวนท่านนักกินด้วยประโยคนี้เช่นกัน และจะพาไปลองชิมก๋วยเตี๋ยวเรือรสชาติจัดจ้านอร่อยโดนใจกันที่ร้าน “เตี๋ยวเหอะ” ที่เพียงแค่ฟังชื่อก็คล้ายจะเชิญชวนให้เดินเข้าร้านแล้ว

“เตี๋ยวเหอะ” เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือรสชาติดุเด็ด ตามแบบฉบับก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรดั้งเดิม แต่นำมาเสนอในรูปแบบใหม่ให้มีลูกเล่นมากขึ้น เน้นที่วัตถุดิบคุณภาพ สด สะอาด และหลากหลาย ซึ่งทางร้านก็มีให้เลือกทั้งหมูและเนื้อ โดยจะแยกหม้อ แยกชาม ชามสีดำเป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ส่วนชามสีขาวเป็นก๋วยเตี๋ยวหมู และมีเส้นให้เลือกทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ และบะหมี่

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เตี๋ยวลิ้นเนื้อกรึบ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> มาดูที่เมนูเด็ดของร้าน เริ่มที่ เตี๋ยวลิ้นเนื้อกรึบ (110 บาท) ใช้เนื้อลิ้นวัวมาหมักกับเครื่องเทศและซอสต่างๆ นานข้ามวัน จากนั้นจึงจะนำมาย่างบนเตาโดยใช้น้ำมันรำข้าวทาขณะย่างเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม ส่วนน้ำซุปได้จากการต้มกระดูกวัวและเศษเนื้อ พร้อมด้วยเครื่องเทศทั้งไทยและจีนหลากหลายชนิด ตุ๋นข้ามคืนจนได้น้ำซุปกลิ่นหอม ผสมกับเลือดแล้วจึงตักใส่ชาม และสูตรเด็ดของก๋วยเตี๋ยวเรือก็อยู่ที่การปรุงรสมาให้เสร็จสรรพ ลองชิมจากน้ำซุปที่หอมหวนชวนหิว รสชาติปรุงมาจัดจ้าน อร่อยแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม ส่วนลิ้นวัวก็เด้งกรึบสมชื่อ ได้รสชาติสมุนไพรทุกคำ

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เตี๋ยวเรือเนื้อน่อง</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> จากนั้นก็มาลองชิม เตี๋ยวเรือเนื้อน่อง (55 บาท) เลือกใช้เนื้อน่องจากเนื้อโคขุนที่มีจุดเด่นอยู่ที่มีเอ็นแทรกอยู่ นำเนื้อมาสไลด์บางๆ ลวกพอสุก ชิมแล้วเคี้ยวนุ่มปาก นอกจากนี้ในชามก็ยังใส่เนื้อเปื่อย ตับ และลูกชิ้น มาด้วย แน่นอนว่าชามนี้ก็ต้องปรุงรสมาแล้ว ได้รสชาติออกเผ็ดๆ เปรี้ยวๆ หอมกลิ่นน้ำซุป

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เตี๋ยวเรือน้ำสันนอกหมู</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> อร่อยจากชามเนื้อแล้ว ก็มาลองชิมเมนูหมูกันบ้าง เตี๋ยวเรือน้ำสันนอกหมู (55 บาท) ที่มีจุดเด่นตรงที่เลือกใช้เนื้อสันนอกหมูปลอดสารมาสไลด์ แล้วลวกพอสุก ใส่ลูกชิ้นหมู ตับ และหมูตุ๋นลงไปในชามด้วย ส่วนน้ำซุปของก๋วยเตี๋ยวหมูนั้นก็ต้มจากกระดูกหมู และเคี่ยวจนได้ที่เช่นกัน ชิมเนื้อหมูเคี้ยวนุ่ม รสชาติน้ำซุปก็ปรุงมาถูกปากดีแล้ว

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เตี๋ยวเรือแห้งสันคอหมูจี่ไฟ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ส่วนชามสุดท้ายนี้ต้องลองให้ได้ เตี๋ยวเรือแห้งสันคอหมูจี่ไฟ (55 บาท) ที่ทางร้านใช้เนื้อสันคอหมูปลอดสารมาสไลด์ แล้วจี่ไฟบนกระทะเคลือบด้วยน้ำมันรำข้าวปรุงพิเศษแค่พอเนื้อสุก และในชามก็ยังมีลูกชิ้นหมู ตับ และหมูตุ๋นที่เปื่อยนุ่ม ก๋วยเตี๋ยวเรือแห้งก็ปรุงมาด้วยเช่นกัน โดยใส่ซีอิ้วดำ พริกน้ำส้ม น้ำตาลอ้อย น้ำปลา พริกป่นและถั่วลิสงคั่วเองสดใหม่ และที่ขาดไม่ได้คือกากหมูกระเทียมเจียวหอมกรอบเคี้ยวมัน ใส่ผักกาดหอมสดมากินคู่กันด้วย ชามนี้ก็อร่อยโดนใจไม่แพ้กัน

แต่หากใครชอบกินก๋วยเตี๋ยวเรือแบบดั้งเดิม (25 บาท) ทางร้านก็มีให้ชิมเช่นกัน หรืออยากกินข้าวก็ขอแนะนำ ข้าวกะเพราหมูตุ๋น (50 บาท) ที่เสิร์ฟมาในหม้อดิน และยังมีเมนูกินเล่นที่น่าสนใจไม่น้อยทั้ง ลูกชิ้นหมู/เนื้อ ปิ้งหรือทอด (ไม้ละ 12 บาท) เกี๊ยวกรอบหมูเด้งไก่ขมิ้น (60 บาท) ส่วนเมนูเครื่องดื่มที่ทางร้านชงเองก็หอมอร่อยชื่นใจทั้ง น้ำแดงมะนาวโซดา (25 บาท) และ ชามะนาวน้ำผึ้ง (25 บาท)

เห็นเมนูน่ากินแบบนี้ก็อยากจะเชิญชวนมาลองลิ้มก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ดกันที่ร้าน “เตี๋ยวเหอะ” จะได้มาอิ่มอร่อยกันถ้วนหน้า

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน “เตี๋ยวเหอะ” ตั้งอยู่เลขที่ 7 อารีย์ซอย 4 (ฝั่งเหนือ) ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. การเดินทาง จากถนนพหลโยธิน เลี้ยวเข้าซอยพหลโยธิน 7 ประมาณ 200 เมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยอารีย์ 4 (ฝั่งเหนือ) สังเกตหน้าปากซอยมีร้านข้าวใหม่ปลามัน ตรงเข้าไปจนสุดซอย เจอทางบังคับให้เลี้ยวขวา จากนั้นให้เลี้ยวซ้าย ร้านเตี๋ยวเหอะอยู่ด้านขวามือ หรือถ้าเข้าทางซอยพหลโยธิน 9 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยชำนาญอักษร ตรงมาเกือบสุดซอย ร้านเตี๋ยวเหอะอยู่ด้านซ้ายมือ สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าร้าน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 10.00-16.00 น. ส่วนวันพฤหัสบดี-เสาร์ เปิดช่วงเย็นเพิ่มเติม เวลา 18.00-21.00 น. โทร. 0-2278-3411

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> คลิก!!อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “เตี๋ยวเหอะ”
</td></tr></tbody></table>
<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ชื่อร้าน : เตี๋ยวเหอะ

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยวเรือ

เมนูจานเด่น : เตี๋ยวลิ้นเนื้อกรึบ,เตี๋ยวเรือเนื้อน่อง,เตี๋ยวเรือน้ำสันนอกหมู,เตี๋ยวเรือแห้งสันคอหมูจี่ไฟ

บรรยากาศร้าน : บ้านไม้เก่า ตกแต่งสไตล์ย้อนยุค

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่เลขที่ 7 อารีย์ซอย 4 (ฝั่งเหนือ) ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. การเดินทาง จากถนนพหลโยธิน เลี้ยวเข้าซอยพหลโยธิน 7 ประมาณ 200 เมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยอารีย์ 4 (ฝั่งเหนือ) สังเกตหน้าปากซอยมีร้านข้าวใหม่ปลามัน ตรงเข้าไปจนสุดซอย เจอทางบังคับให้เลี้ยวขวา จากนั้นให้เลี้ยวซ้าย ร้านเตี๋ยวเหอะอยู่ด้านขวามือ หรือถ้าเข้าทางซอยพหลโยธิน 9 ให้ลี้ยวซ้ายเข้าซอยชำนาญอักษร ตรงมาเกือบสุดซอย ร้านเตี๋ยวเหอะอยู่ด้านซ้ายมือ

สถานที่จอดรถ : บริเวณด้านหน้าร้าน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.00-16.00 น. ส่วนวันพฤหัสบดี-เสาร์ เปิดช่วงเย็นเพิ่มเติม เวลา 18.00-21.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 0-2278-3411



-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000123499-

-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000124114-

.

 

.

“ก๋วยเตี๋ยวปีกไก่สายน้ำผึ้ง” ถึงรสกลมกล่อม หอมนุ่มลิ้น <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">16 ตุลาคม 2554 14:46 น.</td> </tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บรรยากาศที่นั่งภายในร้าน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ช่วงนี้มองไปทางไหนก็เห็นมีแต่คนเดือดร้อนจากน้ำท่วม “ผ่านมาแวะกิน” อยากเห็นทุกๆ คนเตรียมตัวรับกับสถานการณ์ให้พร้อม ไม่ประมาท แต่อย่าตระหนกและก็ไม่อยากจะให้เครียดมากเกินไปนัก เลยอยากจะชวนไปหาของอร่อยกินกันให้สบายใจดีกว่า มื้อนี้จะพาไปชิมก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ ในย่านสุขุมวิท ที่ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวปีกไก่สายน้ำผึ้ง”

“ก๋วยเตี๋ยวปีกไก่สายน้ำผึ้ง” ที่ขึ้นชื่อเรื่อง ความอร่อยนั้นเปิดขายกันมากว่า 50 ปีแล้ว ซึ่งปัจจุบันถือเป็นรุ่นที่ 3 ที่สืบทอดกันมา จุดเด่นของที่นี่ก็คือก๋วยเตี๋ยวปีกไก่ที่เมื่อเดินผ่านร้านก็ได้กลิ่นหอม ยวนใจ เชิญชวนให้เข้ามาลิ้มลองแล้ว

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">หม้อตุ๋นปีกไก่เห็นแล้วชวนหิว</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ก๋วยเตี๋ยวของร้านนี้เป็นสไตล์จีนที่จะไม่มีการใส่เครื่องเทศลงไป ตุ๋นหรือต้มน้ำแกง อย่างตัวน้ำซุปนั้นก็ต้มมาจากโครงไก่ผสมกับกระดูกหมู ปรุงรสเล็กน้อยด้วยซีอิ๊วและเกลือ ก็จะได้น้ำซุปใสๆ ที่หวานกลมกล่อมอยู่ในตัว ส่วนปีกไก่ที่เป็นของเด็ดของร้านนั้น จะใช้ทั้งปีกไก่มาตุ๋นกับเกลือและซีอิ๊ว ตุ๋นหม้อตุ๋นนานกว่า 4 ชั่วโมง จนได้เนื้อไก่ที่เปื่อยนุ่ม

นอกจากก๋วยเตี๋ยวปีกไก่น้ำใสแล้ว ทางร้านก็ยังมีทั้งก๋วยเตี๋ยวหมู เย็นตาโฟ และต้มยำ เอาไว้ให้เลือกสรรกินกันได้ และเส้นต่างๆ ที่มีให้เลือกก็มีทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ บะหมี่ เกี้ยมอี๋ และวุ้นเส้น

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ก๋วยเตี๋ยวปีกไก่น้ำ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ซึ่งก๋วยเตี๋ยวของที่นี่นั้นจะขายกันในราคาชามละ 35-50 บาท ตามแต่ว่าจะใส่เครื่องอะไร โดยเครื่องเคราต่างๆ นอกจากปีกไก่ตุ๋นแล้วก็มีตับหมู ไส้หมู กระเพาะหมู เครื่องในไก่ กึ๋น ตับไก่ ไข่อ่อน ที่ล้วนแต่ล้างสะอาดและต้มจนสุกไม่เหม็นคาว และยังมีลูกรอกที่ทางร้านทำเอง ทำจากไข่ไก่กรอกลงไปในไส้หมูแล้วนึ่งให้สุก

เดินไปที่หน้าร้านเห็นหม้อตุ๋นปีกไก่แล้วก็ชักหิว เลยต้องขอสั่ง ก๋วยเตี๋ยวปีกไก่น้ำ (35 บาท) มาลองชิมเป็นชามแรก เราเลือกเป็นเส้นเกี้ยมอี๋ และใส่ทั้งปีกไก่ตุ๋น ตับหมู ไส้หมู กระเพาะหมู ไข่อ่อน ฮือก้วย และลูกรอก แล้วยังใส่ถั่วฝักยาวลวกลงไปด้วย ลองชิมน้ำซุปที่หอมหวานกลมกล่อม อร่อยถูกใจ ส่วนปีกไก่ก็อร่อยไม่แพ้กัน ทั้งเปื่อยนุ่ม เนื้อหวาน ได้รสชาติเค็มเล็กๆ กินแล้วเพลินจนหมดชาม

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ก๋วยเตี๋ยวปีกไก่แห้ง</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> มาต่อชามที่สองด้วย ก๋วยเตี๋ยวปีกไก่แห้ง (35 บาท) คราวนี้ขอสั่งเป็นเส้นเล็ก ที่ใส่เครื่องเครามาพร้อมเพรียงเช่นเดียวกับก๋วยเตี๋ยวน้ำ แต่ชามนี้ให้ความอร่อยที่แตกต่างออกไป เพราะทางร้านจะใส่เครื่องปรุงพริกป่น น้ำตาล มาให้แล้ว และยังได้รสชาติปีกไก่ตุ๋นเต็มๆ เข้ากับเส้นเล็กที่เหนียวนุ่มโดนใจ

สำหรับของอร่อยอีกชามก็เป็น เส้นใหญ่เย็นตาโฟ (35 บาท) ความเด็ดของชามนี้อยู่ที่ซอสเย็นตาโฟที่ทางร้านทำเอง เมื่อทำเป็นก๋วยเตี๋ยวก็จะปรุงในชามมาให้เสร็จสรรพ จากนั้นก็ใส่เครื่องเย็นตาโฟ ทั้งเลือดหมู เต้าหู้ เห็ดหูหนูดำ ปลาหมึกกรอบ และสารพัดลูกชิ้น ชิมน้ำซุปรสชาติเปรี้ยวหวานเผ็ด อร่อยได้แบบไม่ต้องปรุงเพิ่มแล้ว

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เย็นตาโฟ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ส่วนเมนูสุดท้าย ขอลองชิมอะไรเบาๆ บ้าง อย่าง เกาเหลาปีกไก่ใส่ดอกขจร (35 บาท) ชามนี้นอกจากจะได้ความอร่อยจากน้ำซุปที่กลมกล่อม บวกกับปีกไก่ตุ๋นที่เปื่อยนุ่มละลายในปากแล้ว ก็ยังมีดอกขจรลวกใส่ลงมาด้วย ได้รสชาติความอร่อยที่เข้ากันได้ดี

เมนูก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ แบบนี้ ต้องมากินกันแบบร้อนๆ ที่ร้านถึงจะได้บรรยากาศ แต่ถ้าใครจะสั่งกลับบ้านความอร่อยก็ยังคงอยู่เหมือนกินที่ร้านเช่นกัน และถ้าหากมาที่ร้านแล้วก็อยากให้มาลองชิม เต้าหู้ตุ๋น (35-50 บาท) ที่ตุ๋นจนเข้าเนื้อ ได้ความอร่อยไม่แพ้เมนูอื่นๆ

ใครที่อ่านไปดูรูปไปแล้วเริ่มหิว ก็ต้องมาที่ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวปีกไก่สายน้ำผึ้ง” กันเลย

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เกาเหลาปีกไก่ใส่ดอกขจร</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวปีกไก่สายน้ำผึ้ง” ตั้ง อยู่ที่ 392/20 ซ.สุขุมวิท 20 (สายน้ำผึ้ง) ถ.สุขุมวิท คลองเตย กทม. การเดินทางจากแยกอโศก ตรงมาทางถนนสุขุมวิท-พระโขนง จนถึงซอยสุขุมวิท 20 สังเกตระหว่างซอยสุขุมวิท 18 และ 20 จะมีซอยเล็กๆ อยู่ (ปากซอยมีร้านขายผ้าวัชรี) ให้เลี้ยวเข้าไปประมาณ 20 เมตร จะเห็นร้านอยู่ขวามือ มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน หรือหากใช้ BTS ให้ลงที่สถานีอโศก ทางออกที่ 4 แล้วเดินมาทางซอยสุขุมวิท 20 สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าร้าน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 09.00-15.00 น. (ในหนึ่งเดือนจะหยุดหนึ่งครั้งแต่วันไม่แน่นอน ให้โทรศัพท์ไปสอบถามก่อน) โทร. 0-2258-1958

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> คลิก!!อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “ก๋วยเตี๋ยวปีกไก่สายน้ำผึ้ง”</td></tr></tbody></table>

<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="495"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="495"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ชื่อร้าน : ก๋วยเตี๋ยวปีกไก่สายน้ำผึ้ง

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยว

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวปีกไก่น้ำ-แห้ง, เย็นตาโฟ, เกาเหลาปีกไก่ใส่ดอกขจร

บรรยากาศร้าน : ห้องแถวโล่งๆ

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 392/20 ซ.สุขุมวิท 20 (สายน้ำผึ้ง) ถ.สุขุมวิท คลองเตย กทม. การเดินทางจากแยกอโศก ตรงมาทางถนนสุขุมวิท-พระโขนง จนถึงซอยสุขุมวิท 20 สังเกตระหว่างซอยสุขุมวิท 18 และ 20 จะมีซอยเล็กๆ อยู่ (ปากซอยมีร้านขายผ้าวัชรี) ให้เลี้ยวเข้าไปประมาณ 20 เมตร จะเห็นร้านอยู่ขวามือ มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน หรือหากใช้ BTS ให้ลงที่สถานีอโศก ทางออกที่ 4 แล้วเดินมาทางซอยสุขุมวิท 20

สถานที่จอดรถ : สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าร้าน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-15.00 น. (ในหนึ่งเดือนจะหยุดหนึ่งครั้งแต่วันไม่แน่นอน ให้โทรศัพท์ไปสอบถามก่อน)

เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 0-2258-1958


-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000130805-

-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000130812-


.

 

.

ผึ้งหลวง รวมอาหาร


โดย...ชายโย
วันนี้ผมเริ่มออกจากตัวเมือง จ.เชียงราย ไปรับประทานอาหารที่ร้านผึ้งหลวง อยู่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เป็นจุดแวะพักระหว่างทาง หากคุณออกจากตัวเมืองตอนเช้าแล้วแวะเที่ยวที่วัดร่องขุ่น ของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เราจะถึง อ.เวียงป่าเป้า ตอนเที่ยงวันพอดี ซึ่งวัดร่องขุ่นที่ไปมาล่าสุดนั้นเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้วครับ มีความสวยงามราวกับเดินอยู่บนวิมานเมฆ หลุดออกมาจากภาพจิตรกรรมของอาจารย์เฉลิมชัยกันเลยทีเดียว คิดว่าคงมีน้อยคนในโลกที่กล้าสร้างสถาปัตยกรรมไทยได้งดงามขนาดนี้

​

​

กลับมาที่ร้านผึ้งหลวงนี้กันต่อครับ ด้วยความที่ตัว อ.เวียงป่าเป้า ไม่ใหญ่มากนัก การหาร้านนี้ก็ไม่ยากเย็นเกินความสามารถของนักชิมแน่นอน ร้านผึ้งหลวงจะตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงสาย 118 ในตัวอำเภอ เป็นร้านขนาดประมาณ 10 กว่าโต๊ะ ตัวร้านสะอาด ตกแต่งสไตล์รีสอร์ตน่านั่งพักรับประทานอาหารอย่างยิ่ง
แม้ว่าเมนูอาหารที่ร้านนี้ไม่ได้โดดเด่นด้วยรสชาติเลอเลิศมากนัก แต่ด้วยความที่เป็นร้านสำหรับนั่งพักระหว่างทางจากเชียงรายไปสู่ตัวเมือง เชียงใหม่ จึงมีอาหารจานเดียวเด่นๆ ให้เลือกตั้งแต่สเต๊กหมู ไก่ ปลา สปาเกตตี ก๋วยเตี๋ยวซี่โครงหมูตุ๋น ปิดท้ายด้วยเมนูข้าวผัดและข้าวขาหมู รวมอาหารจานด่วนจานเดียว ในแบบที่น้อยร้านจะกล้าเอาเมนูสเต๊กมาขายพร้อมๆ กับอาหารไทยทั่วไป

​

​

หากมองในอีกแง่หนึ่ง คิดว่าเมนูสเต๊ก สปาเกตตี ทั้งหลายคงกลายเป็นเมนูที่ใครๆ ก็ทำเป็นวัตถุดิบ ก็หาง่ายมีขายในบ้านเรา แม้ในต่างจังหวัดก็ยังได้เห็นร้านสเต๊กริมถนนผุดขึ้นพอๆ กับร้านกาแฟ จนเผลอแอบคิดไปว่ากาแฟสดเอสเปรสโซเป็นเครื่องดื่มพื้นเมืองของไทยไปแล้ว เพราะมีร้านกาแฟตั้งเยอะจริงๆ สิ่งที่เรากำลังจะบอกต่อไปก็คือร้านผึ้งหลวงแห่งเวียงป่าเป้าก็ขายกาแฟเช่น กัน เผลอๆ ร้านอาหารตามปั๊มน้ำมันยังขายไม่หลากหลายเท่าร้านนี้เลยครับ หากเกี่ยงกันระหว่างพักรับประทานก๋วยเตี๋ยวหรือเมนูข้าว ส่วนคนขับอยากดื่มกาแฟ ก็ร้านนี้เลยครับ ไม่หลากหลายแต่ครบ...ที่สำคัญรสชาติ ปริมาณ และราคา อยู่ในเกณฑ์สมเหตุสมผลครับ


-http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3/116279/%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3-


.

 

<table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="headline" align="left" valign="baseline">“เนื้อตุ๋นจักรเพ็ชร” ทีเด็ดเนื้อตุ๋นรสโดนใจ</td> <td align="right" valign="baseline" width="102"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">23 ตุลาคม 2554 13:56 น.</td></tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บรรยากาศแบบบ้านไม้เก่าภายในร้าน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> หากว่าพูดถึงก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น คิดว่าหลายๆ คนคงมีร้านเด็ดอยู่ในใจกันบ้าง ส่วนหนึ่งในร้านเด็ดของ “ผ่านมาแวะกิน” นั้นก็คือร้าน “เนื้อตุ๋นจักรเพ็ชร” ซึ่งมีชื่อเรื่องความอร่อยของเนื้อตุ๋นมานานแล้ว ตั้งอยู่ที่ ถ.ราชพฤกษ์ แต่ร้านที่จะพาไปชิมกันในวันนี้เป็นสาขา 2 ตั้งอยู่ที่โครงการสนามบินน้ำ มาร์เก็ต พาร์ค

“เนื้อตุ๋นจักรเพ็ชร” ที่สาขานี้ตกแต่งร้านใน บรรยากาศเหมือนบ้านไม้โบราณ ใช้โต๊ะเก้าอี้เป็นไม้ มีการตกแต่งด้วยโคมไฟ รูปภาพ และกระจกสี ที่ทำให้ดูนั่งสบายในห้องแอร์เย็นฉ่ำ

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภายนอกร้าน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> แน่นอนว่าเมนูเด็ดของร้านนั้นก็ต้องอยู่ที่เนื้อตุ๋น ซึ่งเราก็สั่ง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ (45 บาท) มาลองชิมกัน มีให้เลือกทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ บะหมี่ฮ่องกง เส้นโซบะ และวุ้นเส้นญี่ปุ่น เครื่องเคราที่ใส่ก็มีทั้งเนื้อเปื่อย ลูกชิ้นเนื้อ เนื้อสดที่เป็นเนื้อโคขุนส่วนสันใน และเอ็นแก้ว และความเด็ดอีกอย่างก็อยู่ที่น้ำซุปเนื้อซึ่งปรุงรสด้วยเครื่องเทศยาจีนกว่า 20 ชนิด เคี่ยวกันทั้งคืนไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง ทำให้ได้น้ำซุปที่เข้มข้นคล่องคอ ชิมเนื้อเปื่อยก็นุ่มเปื่อยสมชื่อ ลูกชิ้นเนื้อเด้งแน่น เนื้อสดไม่เหนียวเคี้ยวอร่อย ส่วนเอ็นแก้วเคี้ยวกรุบ แถมเวลากินก็มาเพิ่มความจัดจ้านกันด้วยน้ำจิ้มที่เป็นน้ำส้มพริกดองสูตร พิเศษของทางร้าน รับรองว่าโดนใจคนชอบเนื้อแน่นอน

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> แต่ถ้าใครไม่นิยมกินเส้น ก็แนะนำ เกาเหลาหม้อไฟ (140 บาท) ที่เสิร์ฟมาในหม้อไฟอุ่นร้อน ใสเครื่องเครามาครบครันทั้งเนื้อตุ๋น เนื้อสด ลูกชิ้นเนื้อ และเอ็นแก้ว แล้วยังใส่เม็ดพริกไทยดำลงไปเพิ่มเติมให้ได้รสชาติความหอมเผ็ดร้อนมากขึ้น ตักน้ำซุปร้อนๆ มาซดแล้วคล่องคอ หอมยาจีนเป็นที่สุด และถ้าอยากเพิ่มหรือเปลี่ยนเป็นเนื้อส่วนอื่นๆ ทางร้านก็มีให้เลือกเป็นแบบจิ้มจุ่ม ที่สั่งแยกมาต่างหากก็ได้

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="300"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="300"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline"> เกาเหลาหม้อไฟ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ข้าวซอยเนื้อ (80 บาท)เป็นอีกหนึ่งเมนูแนะนำของทางร้าน เน้นความเข้มข้นและหอมเครื่องแกงข้าวซอยที่ทางร้านทำเอง ใส่กะทิสด และเลือกใช้เนื้อน่องลายนำไปต้มกับน้ำแกงข้าวซอยนาน 3-4 ชั่วโมงจนเปื่อยและรสชาติเข้าเนื้อ ส่วนเส้นข้าวซอยก็สั่งตรงมาจากทางเหนือเช่นกัน ลองชิมก็ได้รสชาติเข้มข้น ได้ความหอมมันจากกะทิ เนื้อเปื่อยนุ่มอร่อยดี กินคู่กับเครื่องเคียงทั้งพริกผัด หอมแดงซอย และผักกาดดองก็ยิ่งอร่อยถูกใจ

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ก๋วยเตี๋ยวหมูเส้นโซบะ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ส่วนใครไม่กินเนื้อวัว เมนูหมูของร้านนี้ก็อร่อยไม่ใช่เล่น เราลองสั่ง ก๋วยเตี๋ยวหมูเส้นโซบะ (110 บาท) มาลองชิม เส้นโซบะญี่ปุ่นที่ทำจากแป้งโฮลวีทนั่นก็นุ่มอร่อย เข้ากับน้ำซุปหมูที่เคี่ยวกับเครื่องยาจีนเช่นกัน ทำให้หอมกลมกล่อม เครื่องอื่นๆ ก็ใส่ทั้งหมูสดเนื้อนุ่ม หมูขั้วตับนำมาตุ๋นจนเปื่อย ลูกชิ้นหมูอร่อยเด้ง และซี่โครงหมูอ่อนนำมาตุ๋นจนนุ่มเปื่อยละลายในปาก เรียกว่าอร่อยไม่แพ้ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเลยทีเดียว

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ข้าวแกงกะหรี่ซี่โครงหมู</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> หรือจะเป็น ข้าวแกงกะหรี่ซี่โครงหมู (90 บาท) ที่เป็นสูตรแบบอินเดีย เน้นเครื่องเทศอินเดียและกะทิสด ตุ๋นกับซี่โครงหมูโดยสูตรเฉพาะของทางร้าน ได้มาเป็นแกงกะหรี่ซี่โครงหมูหอมๆ ราดมาบนข้าวหอมมะลิร้อนๆ หน้าตาน่ากิน รสชาติก็ไม่ธรรมดา เข้มข้นเข้าเนื้อ หอมมันเครื่องแกงกะหรี่

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ข้าวซอยเนื้อ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> นอกจากเมนูก๋วยเตี๋ยวเนื้อ-หมูแล้ว ก็ยังมีเมนูอร่อยๆ ที่น่าลองชิมอีก อาทิ เกาเหลาหมู/เนื้อ (70 บาท) ข้าวซอยไก่ (80 บาท) แพะตุ๋นยาจีน (390 บาท) หรือจะเป็นเมนูกินเล่นอร่อยๆ อย่างเช่น ลูกชิ้นเนื้อ/หมู (จานเล็ก 30 บาท จานใหญ่ 50 บาท) ไส้กรอกหมูเยอรมัน (90 บาท) หอมคำ (80 บาท) เนื้อโคขุนย่าง (90 บาท) หมูย่างจักรเพ็ชร (90 บาท) เป็นต้น

เนื้อตุ๋นรสเด็ดโดนใจแบบนี้ ถ้าใครอยากชิมก็แวะมาได้ที่ร้าน “เนื้อตุ๋นจักรเพ็ชร” ทั้งที่สาขาแรก ถ.ราชพฤกษ์ และที่สาขาสนามบินน้ำแห่งนี้

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“เนื้อตุ๋นจักรเพ็ชร” ตั้ง อยู่ที่โครงการสนามบินน้ำ มาร์เก็ต พาร์ค ถ.สนามบินน้ำ อ.เมือง จ.นนทบุรี การเดินทางถ้ามาจาก ถ.งานวงศ์วาน ให้มุ่งหน้ามายัง ถ.รัตนาธิเบศร์ ผ่านแยกแคราย วิ่งตรงมาจนเห็นห้างเซ็นทรัลทางขวามือ ให้ไปกลับรถที่สะพานกลับรถ จากนั้นชิดซ้าย เลี้ยวเข้า ถ.เลี่ยงเมืองนนทบุรี วิ่งตรงไปเรื่อยๆ จนถึงสามแยก จะเห็นโครงการสนามบินน้ำ มาร์เก็ต พาร์ค ทางขวามือ ให้เลี้ยวเข้าไป ร้าน “เนื้อตุ๋นจักรเพ็ชร” ตั้งอยู่ในโครงการ สามารถจอดรถได้บริเวณลานจอดรถ ร้านเปิดทุกวัน เวลา 10.00-21.30 น. โทร. 0-2966-9934-5, 08-1372-2935 ส่วนที่สาขา ถ.ราชพฤกษ์ โทร. 0-2432-2241, 08-1372-2935

*** คลิกอ่านรายละเอียดและการเดินทางไปยังร้าน "เนื้อตุ๋นจักรเพ็ชร" ได้ที่นี่***</td></tr></tbody></table>
<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ชื่อร้าน : เนื้อตุ๋นจักรเพ็ชร

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น,เกาเหลาหม้อไฟ,ก๋วยเตี๋ยวหมูเส้นโซบะ,ข้าวแกงกะหรี่ซี่โครงหมู,ข้าวซอยเนื้อ

บรรยากาศร้าน : บรรยากาศเหมือนบ้านไม้โบราณ ใช้โต๊ะเก้าอี้เป็นไม้ มีการตกแต่งด้วยโคมไฟ รูปภาพ และกระจกสี

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่โครงการสนามบินน้ำ มาร์เก็ต พาร์ค ถ.สนามบินน้ำ อ.เมือง จ.นนทบุรี การเดินทางถ้ามาจาก ถ.งานวงศ์วาน ให้มุ่งหน้ามายัง ถ.รัตนาธิเบศร์ ผ่านแยกแคราย วิ่งตรงมาจนเห็นห้างเซ็นทรัลทางขวามือ ให้ไปกลับรถที่สะพานกลับรถ จากนั้นชิดซ้าย เลี้ยวเข้า ถ.เลี่ยงเมืองนนทบุรี วิ่งตรงไปเรื่อยๆ จนถึงสามแยก จะเห็นโครงการสนามบินน้ำ มาร์เก็ต พาร์ค ทางขวามือ ให้เลี้ยวเข้าไป ร้าน “เนื้อตุ๋นจักรเพ็ชร” ตั้งอยู่ในโครงการ

สถานที่จอดรถ : สามารถจอดรถได้บริเวณลานจอดรถ

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.00-21.30 น.

เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 0-2966-9934-5, 08-1372-2935 ส่วนที่สาขา ถ.ราชพฤกษ์ โทร. 0-2432-2241, 08-1372-2935


-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000133427-

-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000134008-

.

Travel - Manager Online -

 

ขอขอบคุณที่แนะนำ.........
น่าอร่อยทั้งนั้นเลย ร้านเยอะแยะมาก มีให้เลือกมากมาย

 

.


กิงโนะดงบุริ ราเมน โอ้โห...เมนูทองคำ


โดย...ลีโอ
กิงโนะดงบุริ ความหมายรวมในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “ชามทองคำ” เอกลักษณ์อันโดดเด่นจึงเป็นชามที่ทำจากทองคำร้อยเปอร์เซ็นต์ และที่โอ้โหไปกว่านั้นยังมีเมนูที่ใส่ทองคำแท้ๆ ให้ลิ้มลอง นั่นคือราเมงหูฉลามทองคำ นัยๆ ว่าเป็นเมนูมงคลแถมยังมีเมนูอีกหลากหลายที่ไม่ซ้ำแบบใครเชียวล่ะ
ด้วยคอนเซปต์ที่ทางร้านเขาตั้งใจเอาไว้ว่า ไม่อยากเอาเปรียบต้องอร่อยเต็มที่ ต้องเยอะ ต้องอิ่ม ในราคาที่เซอร์ไพรส์ โดยไม่หลงลืมความอร่อย ที่สำคัญมีเมนูแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครให้ลิ้มลองหลากหลายเห็นแล้วต้องโอ้โห!

​

​

โอ้โหแรกบรรยากาศแสนอบอุ่นกับการตกแต่งสไตล์เจแปนนิสโมเดิร์น นั่งชิลสบายๆ มีครัวเปิดอยู่ตรงกลางโชว์ฝีมือให้เห็นกันจะจะเรียกน้ำย่อยได้ดีชะมัด
โอ้โหต่อมาที่นี่นอกจากมีเมนูดั้งเดิมของญี่ปุ่นทั้ง ราเมง ชูชิ ชาซิมิ เทมปุระ ยังมีเมนูแปลกใหม่ที่รับรองว่าไม่เคยรับประทานที่ไหนมาก่อนแน่นอน ซึ่งล้วนอร่อยทั้งน้าน!
นอกจากนี้ ยังมีเมนูที่คุณสามารถสร้างสรรค์ได้ด้วยตัวเอง อยากได้เมนูถูกใจและเลิศขนาดไหนก็บอกได้เชฟมากฝีมือจัดให้ด้วยความเต็มใจ เพราะทางร้านย้ำว่าต้องการ “ทำครัวของเราให้เป็นครัวของคุณ”
ไม่รอช้าล่ะขอประเดิมด้วยเมนูสุดหรู อาวาบิราเมง รูปร่างโสภานำหน้าด้วยเปาฮือชั้นดีจากแม็กซิโก กับเส้นราเมงเหนียวนุ่มย้ำความโดดเด่นด้วยแผ่นทองคำร้อยเปอร์เซ็นต์ ชามก็เป็นทองคำทำมาเพื่อเมนูนี้โดยเฉพาะ อืมม ทั้งหรูหราและอร่อยแดดิ้นในราคาเบาๆ 800 บาท โอ้โห?! ได้ใจไปเต็มๆ

​

​

จานต่อมา คาโกะยากิ ในรูปแบบเกี๋ยวซ่ารูปลักษณ์แปลกตา กรอบนอกนุ่มใน อร่อยโดนใจเหมือนกัน อีกเมนูที่ไม่น่าพลาดคากิอาเงะของทอดกรอบที่ธรรมดามีแต่กุ้ง แต่จานนี้พิเศษตรงที่เพิ่มหอยเชลล์ตัวโตๆ กินกับข้าวญี่ปุ่นนุ่มๆ เพิ่มรสชาติด้วยมันและเผือกอุดมอิ่มของแท้
แต่ที่ปลื้มสุดๆ โฟว์การ์ด้ง ตับห่านชิ้นโตมากๆ ขอย้ำว่าโตและอวบราดด้วยซอสทาริยากิสูตรเฉพาะของร้าน กินกับข้าวญี่ปุ่นแปลกใหม่แต่เข้าขากันดีชะมัด ที่สำคัญตับห่านชั้นดี ชิ้นโตจานนี้สนนราคาเพียงแค่ 480 บาท โอวว์แม่เจ้า!
นอกจากนี้ ยังมีเกี๋ยวซ่าผักขมชีส สลัดเป็ดรมควัน ชาชาชูแกะ ชาชูน่องลาย แกงกะหรี่ญี่ปุ่น อร่อยแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครจริงๆ

​

​

โอ้โห สุดท้ายบริการแสนประทับใจเสมือนคนครอบครัวเดียวกันทีเดียว
ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 2 โครงการนิฮอนมาชิ สุขุมวิท 26 (ติดกับเค วิลเลจ) เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00-14.00 น. และเวลา 17.30-22.30 น. ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ เปิดเวลา 11.0022.30 น. โทร. 02-258-2897





-http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3/118881/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B4-%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%99-%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B9%82%E0%B8%AB-%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B9%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B3-


.

 

เลาะเมืองภูเก็ต หาชิมของอร่อย ๆ

​

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ Memories pink

นอกจากท้องทะลสวย ๆ หาดทรายขาว ๆ และสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อต่าง ๆ แล้ว "ภูเก็ต" ยังเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารการกิน อาจเพราะเต็มไปด้วยผู้คนจากหลายวัฒนธรรม ทั้งไทย จีน และมุสลิม จึงผสมผสานกันกลายเป็นเมืองที่มีของกินโดดเด่น มีทั้งอาหารพื้นเมือง อาหารทะเล และอาหารนานาชาติ วันนี้กระปุกดอทคอมเลยจะพาเพื่อน ๆ ไปเดินเลาะเมืองภูเก็ต ค้นหาของอร่อย ๆ กินกัน

​

เริ่มที่ เส้นหมี่ผัดฮกเกี้ยน ซึ่งหมี่ฮกเกี้ยนเป็นอาหารของคนภูเก็ตเชื้อสายจีนฮกเกี้ยน ลักษณะหมี่จะเหลืองกลมเส้นใหญ่กว่าบะหมี่ทั่วไป จะผัดแบบน้ำขลุกขลิกพร้อมใส่เนื้อหมู ปลา ปลาหมึก แต่ถ้าให้อร่อยยิ่งขึ้นต้องใส่ไข่แบบไม่สุก และกินคู่แคบหมูกับหอมแดง อืม...เป็นอะไรที่ลงตัวมาก ^^

​

ต่อด้วย น้ำพริกภูเก็ต หรือ น้ำพริกกุ้งเสียบ ซึ่งใช้ส่วนผสมเดียวกันกับน้ำพริกธรรมดา จะมีรสชาติเปรี้ยว เค็ม เผ็ด และหวานเล็กน้อย โดยเพิ่มกระเทียมในปริมาณที่มากขึ้น ใช้วิธีตำหยาบ ๆ และใส่กุ้งเสียบลงไปคลุกเคล้าจนได้ที่ รับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ และต้องกิน ผักเหนาะ หรือ ผักเกร็ด (ผักสดชนิดต่าง ๆ เช่น สะตอ, สะตอดอง ลูกเนียง หน่อเหรียง ยอดยาร่วง ยอดปราง ยอดหมุย ฯลฯ ใช้กินควบคู่กับอาหาร) ตามด้วย...อร่อยอย่าบอกใคร

จากนั้นต้องไปชิมอาหารอร่อยปากแต่ทรมานท้อง นั่นคือ ข้าวยำพริก เป็นการนำเอาข้าวสวยมาคลุกเคล้ากับเครื่องที่มีรสชาติเผ็ดร้อน ซึ่งประกอบด้วยหอมแดงและกระเทียมเผา โขลกรวมกับกะปิ พริกไทย มะพร้าวคั่ว กุ้งแห้ง พริกป่น ใบพาโหม และใบมะกรูดซอย พร้อมกับกินคู่ผักเหนาะอร่อยลิ้นสุด ๆ

​

ตามด้วย ขนมจีนภูเก็ต เพราะขนมจีนเป็นอาหารที่คนภูเก็ตนิยมรับประทานเป็นอาหารเช้า ทานกับน้ำแกงชนิดต่าง ๆ และที่ขาดไม่ได้คือ ผักเหนาะ หลากหลายชนิดทั้งผักสดและผักดอง แต่จะให้อร่อยยิ่งขึ้นต้องกินไปพร้อม ๆ กับไข่ต้ม ห่อหมก ปลากรอบ และทอดมันปลา รวมถึงจะกิน ขนมจีนกับน้ำชุบหยำ หรือน้ำพริกที่ปรุงด้วยการขยำเครื่องปรุงเข้าด้วยกัน ไม่ได้โขลกให้เข้ากันในครก ก็ได้รสชาติไปอีกแบบ

​

ปิดท้ายกับ ติ่มซำ อาหารเช้ายอดนิยมของคนภูเก็ตส่วนมาก โดยมีให้เลือกหลากหลายทั้งขนมจีบ, ฮะเก๋า, หมูห่อสาหร่าย, เผือกทอด, ลูกชิ้นปลา ก๋วยเตี๋ยวหลอด, ตีนไก่ตุ๋น, หมี่สั่ว, เต้าหู้ปลา, ซาลาเปา ฯลฯ กินกับน้ำจิ้มหวานแสนอร่อย

และ นี่เป็นเพียงอาหารอร่อย ๆ ที่ขึ้นชื่อเพียงไม่กี่อย่างของภูเก็ตที่เรานำมาฝากกัน แต่จริง ๆ แล้วภูเก็ตยังมีของอร่อย รสชาติเยี่ยมอีกมากมาย อยากรู้ว่าจะอร่อยขนาดไหนนั้น ต้องไปลิ้มลองเองนะจ๊ะ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก ททท. , พันทิพย์ดอทคอม และphuketindex.com


และ phuketindex.com



-http://travel.kapook.com/view32569.html-

.
__________________

 

.

หนีน้ำท่วมมากิน "ก๋วยเตี๋ยวโบราณบ้านโป่ง" ซุปกระดูกหมูเข้มข้น ขายมา70 ปีแล้ว


ก๋วยเตี๋ยวโบราณ ตู้กระจกแบบโบราณๆ และคนขายก็...โบราณ ใช่แล้ว ก็เพราะร้านนี้เขาเปิดกิจการมากว่าเจ็ดสิบปีแล้วจ้า




"ก๋วยเตี๋ยวสูตรนี้เราทำกันมาตั้งแต่รุ่นแม่" เจ๊อิม เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวโบราณ "ลิ้มซุ่นฮวด" หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ "ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ๊อิม" หันมาส่งยิ้มข้ามหม้อซุปที่กำลังเดือดปุดๆ พลางคุยกับเราขณะที่มือยังคงหั่นหมู ตักน้ำซุป และตะโกนคุยกับลูกค้าไปพร้อมๆกัน


ขนาดบ่ายแก่ๆ ลูกค้ายังแน่นขนัด สมกับที่ใครๆเขาว่ากันเสียจริง ที่การมากินก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ก็เหมือนกับการมาเล่น "เก้าอี้ดนตรี" ก็แหม ร้านนี้เขามีลูกค้าเข้าๆออกๆอยู่ตลอดเวลา คนนั้นยังไม่ทันลุก คนนี้ก็จ่อจะมานั่งต่อเสียแล้ว...ทำเอาเราอยากรู้จริงนัก ว่าก๋วยเตี๋ยวร้านนี้มีอะไรดี


"เล็กน้ำหนึ่ง บะหมี่แห้งหนึ่ง!" และแล้วชามก๋วยเตี๋ยวก็มาวางปุ๊บลงตรงหน้า โอ กระเทียมเจียวเหลืองอร่าม คื่นช่ายสีเขียวสด ช่างเป็นองค์ประกอบที่เราไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่นักในชามก๋วยเตี๋ยวที่กินๆกัน


ประเดิมคำแรกด้วยการซดน้ำซุป ความรู้สึกแรกที่ผุดขึ้นมาในห้วงความคิดก็คือ "ราเม็ง กรุณาชิดซ้ายไปเลย!"


เจ๊อิมเล่าให้เราฟังว่า กว่าจะได้น้ำซุปกระดูกหมูรสชาติเข้มข้นขนาดนี้ เจ๊ต้องใช้เวลาเคี่ยวถึงสี่ซ้าห้าชั่วโมง ก่อนจะค่อยๆต้มไปเรื่อยๆขณะขาย ซึ่งนับแล้วก็ร่วมสิบชั่วโมงได้





ถัดมาเราลองคีบเส้นเล็กที่มีกระเทียมเจียวติดมาด้วยเข้าปาก อยากจะบอกว่ากระเทียมเจียวกลีบใหญ่ๆนี่กินแล้วมันช่างหอม ช่างกรอบ ช่างช่วยเสริมรสชาติให้ก๋วยเตี๋ยวได้ดีจริงๆ ส่วนไฮไลท์ในชามก็ต้องยกให้ "หมูบะช่อ" ที่รสชาติกลมกล่อม แถมเนื้อสัมผัสไม่หยาบและไม่นุ่มนิ่มจนเกินไป กินหมูบะช่อคำ สลับกับหมูแดงคำ-- กระเทียมคำ-- เส้นเล็กคำ หมดชามเมื่อไหร่ไม่รู้ตัวเลย ให้ตายสิ




เจ๊อิมแอบแย้มเคล็ดลับให้เราฟังว่า กระเทียมเจียวนี่เจ๊ตื่นมาเจียวเองทุกวัน กระเทียมถึงได้เหลืองกรอบ และหอมขนาดนี้ ส่วนถั่วคั่วก็คั่วเองสดใหม่ทุกวันเช่นกัน




เมื่อเราถามว่าเมนูไหนเด็ดสุด เจ๊แกสวนกลับมาอย่างมั่นใจว่า "ร้านนี้อร่อยทุกอย่าง ทั้งก๋วยเตี๋ยวน้ำ ก๋วยเตี๋ยวแห้ง หรือว่าต้มยำ จะเส้นเล็ก เส้นหมี่ อีกวุ้นเส้น" โดยเฉพาะต้มยำ ที่น้ำส้มสายชูอย่าได้แหยม เพราะร้านนี้เขาใช้มะนาวสดเป็นลูกๆเท่านั้น


"เส้นหมี่หมดลูก เอาเส้นเล็กแทนไหม เส้นเล็กอร่อย" สิ้นเสียงช่างจำนรรจาของ "เจ๊อิม" ที่หันไปบอกลูกค้าพลางเชิญชวนว่าจะผิดหวังกับเส้นหมี่ที่หมดไปไย มาลองชิมเส้นเล็กเจ๊กันดีกว่า




มิใช่แค่รสชาติน้ำซุป และเครื่องเครารสเลิศที่นั้นหรอกที่ทำให้ประสบการณ์การมาเปิบก๋วยเตี๋ยวครั้งนี้เป็นที่น่าประทับใจ เพราะตัวเจ๊คนขายแกก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน


แม่ค้าช่างเม้าท์ที่หน้าตาคล้ายเพเนโลเป้ ครูซ... เราเคี้ยวหมูบะช่อตุ้ยๆพลางแอบคิดคิกๆคักๆในใจ


"เดี๋ยวว่างๆมาหาป้านะลูก ตอนห้าโมงเย็นป้าปิดร้าน มีเวลาว่างแล้ว คุยได้เต็มที่" เจ๊อิมตะโกนไล่หลังเรา หลังจากที่คนแปลกหน้าสองคน สั่งก๋วยเตี๋ยว 2 ชามพลางถามนู่นถามนี่เยอะแยะไปหมด เดาเอาว่าแกคงอยากเม้าท์ต่อถ้าไม่ติดลวกบะหมี่มือเป็นพัลวัน


ไม่เป็นไร ไว้ตอนแวะหนีน้ำท่วมคราวหน้า มากินอีกแน่ เราคิดพลางสูดกลิ่นอายซุปกระดูกหมูเฮือกสุดท้าย ก่อนจะโบกมือบ๊ายบายเจ๊อิม เจ้าของร้านช่างเจรจาคนนี้








ร้านก๋วยเตี๋ยว "ลิ้มซุ่นฮวด" (ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ๊อิม) เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 8.30-15.30 น. ถ.แสงชูโต ตรงข้ามโรงแรมเกษมสุข อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี

แต่ถ้าหาร้านไม่เจอโทรติดต่อเจ๊อิมได้โดยตรงที่เบอร์ 032-211931 (เจ๊แกแอบกระซิบมา)



-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1320137897&grpid=&catid=09&subcatid=0901-

.

 

'ก๋วยเตี๋ยวหมู'กลมกล่อม ร้านเจ๊หงษ์ เมืองสุพรรณ

อิ่มอร่อย


<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>
</TD></TR></TBODY></TABLE>อย่างที่บอกกล่าวกันไว้สัปดาห์ก่อนว่า ถ้าช่วงนี้เจอน้ำท่วมจนไปไหนไม่สะดวก หรือยังไม่มีแก่ใจจะไปเที่ยวที่ไหน ให้ตัดเก็บคอลัมนŒอิ่มอร่อยไว้ก่อน หลังผ่านพ้นวิกฤตค่อยหยิบมาดูกันอีกครั้ง

ร้านอิ่มอร่อยสัปดาห์นี้แวะไปยังจังหวัดสุพรรณบุรี ขับรถลัดเลาะตามถนนมาลัยแมน เมื่อมาถึงศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสังเกตเห็นมังกรยักษ์ กลับรถแล้วเลี้ยวเข้ามาตามถนนสายสมภารคง หรือเส้นทางนพเก้าไหว้พระเก้าวัด

เส้นทางเส้นนี้มีวัดชื่อดังแบบมีตำนานในอดีตมากมายจริงๆ สังเกตด้านขวา ตรงข้ามกับวัดพระศรีรัตนมหาธาตุจะเห็นร้าน "ก๋วย เตี๋ยวหมูเจ‰หงษ์" ซึ่งตั้งแต่สายๆ จะมีรถจอดเต็มตลอดทั้งวัน ลูกค้ามีทั้งชาวบ้านในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนกันมากินก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ อย่างไม่ขาดสาย

นางซิวเง็ก แซ่ลิ้ม อายุ 80 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเจ‰หงษ์ เล่าว่า เริ่มต้นขายในสถานที่นี้มาแล้วกว่า 50 ปี

โดยประมาณปี 2500 มาตั้งรกรากมีครอบครัวอยู่ที่นี้ ในบริเวณถนนสมภารคง ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ตรงข้ามกับวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ตนเองเป็นผู้ที่สานต่อการขายก๋วยเตี๋ยวหมูเป็นรุ่นที่ 2 ซึ่งในอดีต บรรพบุรุษพ่อแม่เคยขายก๋วยเตี๋ยวเรือที่แม่น้ำท่าจีน โดยใช้เรือพายเข้าไปในเขตพื้นที่อำเภอบางปลาม้า

ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านและนักเรียนโรงเรียนสูงสุมารผดุงวิทย์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า คุ้งตาเพชร แต่เดิมนางซิวเง็กเป็นผู้ช่วย กระทั่งฝีมือเก่งกล้าแล้วจึงขึ้นเป็นผู้ปรุงหลัก ขายถึงปัจจุบันนี้กว่า 50 ปี

สำหรับก๋วยเตี๋ยวหมูสูตรต้มยำนับเป็นสูตรของทางร้านที่ขึ้นชื่อมาก ซึ่งอดีตขายตั้งแต่ชามละ 50 สตางค์ จนมาในป?จจุบัน ก๋วยเตี๋ยวหมู 20-25 บาท ก๋วยจั๋บ 25-30 บาท และจากเดิมใช้เตาถ่าน ยุคนี้หาถ่านยากขึ้นจึงหันมาใช้เตาแก๊สแทน เพื่อความสะดวกรวดเร็วทันใจลูกค้า

ปัจจุบันนางซิวเง็กให้ นางเอ็ง แซ่ลิ้ม วัย 58 ปี เป็นทายาทรุ่นที่ 3 โดยตนเองเป็นผู้ช่วยแทนเพราะร่างกายไม่เอื้ออำนวย ยืนนานไม่ได้ แต่คอยดูแลควบคุมการทำอยู่ใกล้ๆ

จุดเด่นของที่ร้านเน้นสินค้าใหม่สดเลือกซื้อทุกวันและแปรรูปเองทั้งหมด เนื้อหมูหั่นเอง สับเองทั้งหมด กระดูกหมูใช้ทำน้ำซุปเพื่อความอร่อยกลมกล่อม ถั่วคั่วเองตำเอง พริกป่นเองตามสูตรของร้าน มีเพียงเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ซื้อมา เนื่อง จากความสะดวก ประหยัดเวลา แต่ต้องเลือกเส้นที่มีคุณภาพที่เหนียวนุ่ม ทดลองก่อนตัดสินใจซื้อและต้องยึดยี่ห้อเดียวเพื่อความลงตัว

ก๋วยเตี๋ยวที่เด็ดดังที่สุดคือต้มยำแห้ง ซึ่งใครมาที่ร้านเป็นต้องชิมกันทุกคน ต้มยำต้องเผ็ดเปรี้ยว เค็มหวานลงตัวกลมกล่อมทุกอย่าง เส้นต้องนุ่มเหนียวกำลังดี โดยลวกเส้นที่เผื่อถึงมือลูกค้าแล‰วอร่อย * พอดี

ด้าน "ก๋วยจั๊บ" ต้องดูเรื่องของเส้นที่ต้มเป็นยางเหนียวเส้นม้วนสวยงามขาวใส อุ่นให้ร้อนตลอดจนถึงมือลูกค้า เครื่องในต้องเลือกสดใหม่ ล้างด้วยแป้งมันให้สะอาดไม่มีกลิ่น อย่างปอดกับไส‰ ล้างให้สะอาดก่อนต้มให้สุกจนไม่เหนียว

รสชาติเด็ดของก๋วยจั๊บต้องเค็มนำหวาน แต่เมื่อใส่เส้นใส่เครื่องเข้าไปแล้วจะมีรสชาติกลมกล่อมอร่อย กินตอนร้อนๆ จะได้รสชาติกว่า

ที่ร้านในอดีตจะมีคนดังมากินกันเป็นประจำ แต่ในปัจจุบันมีร้านให้เลือกมากมาย คนรุ่นใหม่นักท่องเที่ยวก็อาจไม่รู้จัก แต่เชื่อว่าของดีอย่างไรคนก็ต้องแวะกิน เรียกว่าโฆษณากันแบบปากตˆอปาก สมัยนี้ของทุกอย่างต้องคุณภาพสมราคาจึงจะเรียกลูกค้าได้ตลอด รสชาติต้องคงที่เท่านั้นเพราะสูตรก็ต้องเป็นสูตร อาจจะดูได้ลอกได้ แต่ทำอย่างไรก็ไม่เหมือนต้นตำรับ

สำหรับทางร้านเปิดตั้งแต่ 09.30-15.30 น. หรือใครมากันไม่ถูกสอบถามได้ที่โทร.08-7104-5540



-http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNVEEwTVRFMU5BPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1TMHhNUzB3TkE9PQ==-

.

 

.

ดุ๋งเด้งได้ ร้านโปรดคนชอบกินเส้น


เดี๋ยวนี้เวลาเจอกับเพื่อนซี้วัยเยาว์ยังมักถูกถามด้วยคำถามเดิมๆ ว่า “ยังเป็นเด็กเส้นอยู่ไหม?” คำตอบก็ยังเช่นเคยว่า “เลือกที่จะรักแล้วไม่เคยเปลี่ยนแปลง”
โดย...คุณมัลล์
เดี๋ยวนี้เวลาเจอกับเพื่อนซี้วัยเยาว์ยังมักถูกถามด้วยคำถามเดิมๆ ว่า “ยังเป็นเด็กเส้นอยู่ไหม?” คำตอบก็ยังเช่นเคยว่า “เลือกที่จะรักแล้วไม่เคยเปลี่ยนแปลง” เพราะแม้จะไม่ใช่เด็กเส้นตัวจริงเสียงจริง แต่ถ้าเรื่อง “กินเส้น” ก็ไม่เป็นสองรองใคร ว่าแล้วเพื่อนก็นำเสนอร้านสำหรับเด็ก (ชอบกิน) เส้น “ดุ๋งเด้งได้” ที่ชั้น 1 มาร์เก็ตเพลส ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ 4) แต่แอบกระซิบว่า “ราคาแพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน...แต่ก็คุ้มนะแก”

ว่ามาถึงขนาดนี้ จะไม่ลองไปเยือนประเดี๋ยวจะเสียชื่อชั้นเด็กกินเส้นตัวจริง อีกอย่างทำเลที่ตั้งก็เดินทางไปได้สะดวก จะเลือกใช้บริการหนูด่วน (รถไฟฟ้าบีทีเอส) นั่งลงสถานีทองหล่อก็ได้ เข้าซอยทองหล่อแค่ไม่กี่ร้อยเมตรก็เจอมาร์เก็ตเพลสอยู่ทางขวา หรือจะขับรถไปเองก็มีพื้นที่จอดรถสะดวกสบาย

​

เพียงแค่เห็นร้านดุ๋งเด้งได้ ต้องบอกว่า ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากร้านก๋วยเตี๋ยวเรือทั่วๆ ไป มิวายแอบคิดในใจว่า ที่ราคาแพงเพราะคิดค่าแอร์เย็นฉ่ำกับค่าประดับตกแต่งร้านที่ดูดีมีสไตล์ต่างจากร้านอื่นๆ เป็นแน่ ภายในร้านก็ดูกว้างขวางโอ่โถง จัดโต๊ะที่นั่งสำหรับ 24 ท่าน แต่ถ้ามาจำนวนมากกว่านี้ก็สามารถต่อโต๊ะได้ โดยไม่เบียดพื้นที่นั่งเดิม ไหนจะมีมุมนั่งอ่านนิตยสารเพลินๆ และที่แปลกตากว่าร้านอาหารประเภทเดียวกันก็คือ บาร์เครื่องดื่มพร้อมประดับด้วยโคมไฟระย้าเข้ากับบรรยากาศของร้านได้อย่างสวยงาม

มาถึงเมนู ที่นี้เน้นเมนู “เส้น” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของร้าน มีให้เลือกทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ วุ้นเส้น บะหมี่ วุ้นเส้นญี่ปุ่น น้ำซุปก็มีให้เลือก 3 รสชาติ น้ำตกเข้มข้นหอมกลิ่นเครื่องเทศ น้ำใสรสกลมกล่อม และต้มยำดุ๋งรสชาติจี๊ดถูกลิ้นคนไทยเลยล่ะ ส่วนเมนูอื่นๆ ก็มี เช่น เนื้อวางุลวกจิ้ม ข้าวเหนียววางุเนื้อย่าง เนื้อสเต๊กออสเตรเลีย เนื้อสเต๊กไทยเฟรนซ์ ดุ๋งน้อยโดนยำ (ยำลูกชิ้น) ดุ๋งน้อยลุยไฟ (ลูกชิ้นปิ้ง)

​

ส่วนราคาก๋วยเตี๋ยวเรือนั้น ชามละ 60 บาท ไม่ได้แพงเวอร์ต่างจากร้านอื่นๆ ในเกรดเดียวกัน แต่ราคาที่เพื่อนซี้กระซิบว่าแพงนั้น คงเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อวางุ ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูดำ ก๋วยเตี๋ยวเรือออสเตรเลีย ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูไทยเฟรนซ์ ก็แหมก็เล่นใช้เนื้อเกรดพรีเมียมขนาดนี้ ราคา 100-200 กว่าๆ ก็สมน้ำสมเนื้อกันแล้ว และครั้นได้ลองลิ้มชิมรสชาติของน้ำซุบก็ไม่ทำให้เสียชื่อสกุลก๋วยเตี๋ยวเรือ ซ้ำยังมีรสชาติไม่สุดติ่งยังพอเปิดทางให้คนไม่ชอบรสชาติจัดจ้านได้ปรุงเองตามใจชอบ แต่อย่างไรก็ตามแนะนำว่า ควรชิมก่อนปรุง ส่วนเนื้อ (วางุ) ที่ลิ้มลองในวันนั้นนุ่มลิ้นเพิ่มความสุขความอร่อยให้กับก๋วยเตี๋ยวเรือได้มากโข

​

ตบท้ายด้วยของหวาน ดุ๋งย้อนยุค ที่มีให้เลือกหลายอย่าง เช่น ไอศกรีมกะทิทรงเครื่อง ลูกตาลลอยแก้ว เฉาก๊วยโบราณ ซึ่งเป็นตัวขายดีของร้าน ได้ความหอมหวานของน้ำตาลทรายแดง และความสดหนึบของเฉาก๊วยที่คัดคุณภาพดี หรือจะเลือกดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ให้ชื่นใจ แนะนำให้สั่งเชอร์รีโค้ก ที่ได้ความซ่าหวานและหอมกลิ่นเชอร์รี

ร้านดุ๋งเด้งได้เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น. ส่วนเวลาพักกลางวันคนจะหนาแน่น สามารถโทร.จองโต๊ะได้ที่เบอร์ 023921417



-http://www.posttoday.com/กิน-เที่ยว/ร้านอาหาร/119547/ดุ๋งเด้งได้-ร้านโปรดคนชอบกินเส้น-

.

 

อยากให้ลองไปกินอาหารที่หลีเป๊ะบ้าง เป็นอาหารใต้ รับรองอร่อย

 

[FONT=Tahoma,]เข้าสมัยกับน้ำมา เตี๋ยวเรือศรีอยุธยา

คอลัมน์ สวรรค์ในครัว
เขียง มะขาม


<table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#E0E0E0" valign="top">
</td></tr></tbody></table>ในวันที่ "น้องน้ำ" เผื่อแผ่กระจายความรักของเธอออกไปครึ่งหนึ่งของกรุงเทพ มหานคร

ที่ขาดหายไปสวนทางกับปริมาณน้ำที่เพิ่มมากขึ้นก็คือของกินของใช้ทั้งหลาย ที่คนกรุงแห่กันตุนไว้เต็มบ้าน

ประมาณว่าน้ำท่วมต่อกัน 3 ปี เสบียงก็ยังไม่หมด

หายากที่สุดหลังเดินลุยมาหลายตลาด ก็คือพริกขี้หนู ขิง ข่า ตะไคร้ ฯลฯ ไปช้าหาไม่ได้แล้ว

แปลชุ่ยๆ ก็คือน้ำท่วมแล้วคนกรุงเทพฯ กินเผ็ดมากขึ้น???

แต่เอาเป็นว่านอกจากกับข้าวจะหายากแล้ว ร้านอาหารก็หายากไปด้วย

ที่ ถูกน้ำท่วมไปตรงๆ ก็เยอะ ที่ขอหยุดพักขายเพราะขี้เกียจไปตะลอนหาเครื่องปรุงก็ไม่น้อย ที่ออกไปช่วยญาติน้ำท่วมหรือไปเป็นอาสาสมัครจิตอาสาก็อีกส่วน

จะหาอะไรกินวันหยุด โดยเฉพาะเวลาอยู่ด้วยกันหลายๆ คนจึงเป็นเรื่องใหญ่

อาทิตย์ล่าสุด ร่อนออกจากบ้านย่านชายขอบน้ำท่วมตรงดิ่งเข้าตัวเมืองชั้นในซึ่งยังแห้งผาก

จะกินให้เข้าสมัยน้ำท่วม ก็ต้อง "ก๋วยเตี๋ยวเรือ" สิจ๊ะ

ก๋วยเตี๋ยวเรือศรีอยุธยาอยู่ตรงข้ามบ้านสี่เสาเทเวศร์ของ "ป๋าเปรม" พอดิบพอดี ขายทุกวันไม่มีวันหยุด

ไปถึงวันอาทิตย์บ่ายๆ ก็ยังมีคนเกือบเต็มร้าน

พอได้ที่นั่งก็สั่งกันไม่ยั้ง เขามีทั้งก๋วยเตี๋ยวเนื้อก๋วยเตี๋ยวหมูให้เลือก น้ำซุปก็แยกหม้อ คนที่ "ถือ" จะได้กินสบายใจ

ร้านเขายังรักษารูปแบบก๋วยเตี๋ยวเรือดั้งเดิมคือชามเล็กชามน้อยพองาม

ถ้าสมัยวัยรุ่นก็ต้องกินร่วมสิบ ถึงจะอยู่ท้อง

ก็เหมาะกับราคา 15 บาท

น้ำซุปข้นหอมทั้งหมูและเนื้อ เวลาสั่งน้ำตกมา ขอความกรุณาชิมก่อนปรุง

เผอิญข้าพเจ้าชอบเปรี้ยวนำ ยังไงก็ต้องเหยาะน้ำส้มพริกตำเติมลงไปอีกหน่อย

เครื่องเคียงก๋วยเตี๋ยวเขามีหลายอย่าง ทั้งกากหมู เกี๊ยว(หมู)ทอด ลูกชิ้นปิ้ง

แถมมีเนื้อไทย-เฟรนช์ลวกมาให้กินเปล่าๆ อีกต่างหาก

ร้านเขาสะอาดสะอ้านดี รับออกงานด้วย แต่ต้อง 300 ชามขึ้นไป

สนใจโทร.หาคุณโบ๊ตเจ้าของร้าน 0-2628-6434 หรือ 08-8875-4679

ถ้าไม่เชื่อคนง่าย ก็ลองไปชิมเองก่อนได้


-http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNakV4TVRFMU5BPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1TMHhNUzB4TVE9PQ==-

.
[/FONT]

 

.

“อาหารพื้นเมืองภูเก็ต” หรอยอย่างแรง แฝงวิถีชีวิต วัฒนธรรมการกิน <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">13 พฤศจิกายน 2554 14:36 น.</td></tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ติ่มซำอาหารเช้าของคนภูเก็ต</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> “ภูเก็ต” ได้ชื่อว่าเป็น “ไข่มุกแห่งอันดามัน” สวรรค์ของนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่หลงใหล

นอกจากความงดงามของท้องทะเลที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลกแล้ว ภูเก็ตยังมีของดีที่ใครหลายคนอาจมองข้ามไปนั่นก็คือ เรื่องของ"อาหารพื้นเมืองภูเก็ต"ที่ โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และเป็นที่ยอมรับในเรื่องรสชาติความอร่อย ถือเป็นหนึ่งในสิ่งเชิดหน้าชูตาของเมืองนี้ ซึ่งบางเมนูหาทานที่ไหนไม่ได้ เนื่องจากมีทำเฉพาะที่ภูเก็ตแห่งเดียวเท่านั้น นอกจากนี้อาหารพื้นเมืองภูเก็ตก็ยังมีความผูกพันกับวิถีชีวิตคนภูเก็ต ทำให้การได้ลองลิ้มอาหารพื้นเมืองภูเก็ต ก็เสมือนกับว่าได้เรียนรู้วัฒนธรรม และความเป็นอยู่ของชาวภูเก็ต ผ่านจากอาหารการกินไปด้วย

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">โลบะที่ชวนกิน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> “อาหารพื้นเมืองภูเก็ต” มีความเป็นอัตลักษณ์ส่วนตัวที่โดดเด่น เพราะว่าเป็นอาหาร ที่ได้รับการผสมผสานทางด้านวัฒนธรรมของชาวพื้นเมือง และชาวจีน (จีนฮกเกี้ยน) เพราะชาวจีนเป็นชนกลุ่มใหญ่ที่สุดในภูเก็ต ฉะนั้นอาหารพื้นเมืองภูเก็ต จึงมีรสชาติที่จัดแบบอาหารใต้ทั่วไป และก็มีกลิ่นอายของความเป็นจีนสอดแทรกอยู่ด้วย ซึ่งอาหารพื้นเมืองภูเก็ตนั้นมีความหลากหลายมาก มีทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน ที่มีรูปแบบ วิธีการปรุง และรสชาติของอาหารที่แตกต่างจากที่อื่นหลายชนิดด้วยกัน

อุทิศ ลิ่มสกุล เจ้าหน้าที่ททท. หาดใหญ่ แต่เป็นชาวภูเก็ตโดยกำเนิด หนึ่งในผู้ที่ผูกพันคุ้นเคยกับอาหารภูเก็ตเป็นอย่างดี ได้พูดถึงเรื่องของ อาหารพื้นเมืองภูเก็ตว่า ถ้าให้นึกถึงอาหารพื้นเมืองภูเก็ตแล้วนั้น ตนขอมองในเรื่องของรสชาติและในเรื่องของเมนูอาหารก่อน ซึ่งเรื่องรสชาติคือไม่เหมือนอาหารที่อื่น มีความโดดเด่นไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของส่วนผสม ทั้งอาหารหนัก อาหารทานเล่น แม้กระทั่งส่วนประกอบที่เป็นน้ำจิ้ม จะมีความแตกต่างจากที่อื่น บางเมนูอาจจะเหมือนกับที่อื่นในเรื่องของส่วนผสม ส่วนประกอบ แต่น้ำจิ้มจะมีความแตกต่างกัน

และเมื่อถามถึงว่าคิดว่าอาหารพื้นเมืองภูเก็ตนั้นมีเสน่ห์ตรงไหน อุทิศ บอกว่า “ผมคิดว่าเสน่ห์ของอาหารพื้นเมืองภูเก็ต น่าจะเป็นเรื่องของที่อื่นไม่มี ก็คือความโดดเด่นหรือว่าความเป็นอัตลักษณ์ เพราะอาหารพื้นเมืองภูเก็ตมีความเกี่ยวเนื่องกับวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของคนภูเก็ต คือจริงๆ แล้วอาหารทุกอย่างถ้าหากลงไปดูรายละเอียดลึกๆ แล้วจะมีที่มา เพราะว่าบางเมนูก็จะมีความผูกพันไปเกี่ยวกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคน ภูเก็ต อย่างเช่น ขนมอิ่วบึ่งที่เอามาใช้ทาน และใช้ในงานมงคลในการรับขวัญเด็กผู้ชาย ส่วนหมี่ก็เป็นส่วนหนึ่งในการทำในเรื่องของการทำบุญ ถ้าหากสังเกตว่าที่ภูเก็ตเวลามีงานบุญ หรืองานสำคัญต่างๆ จะผัดหมี่เป็นหลัก ซึ่งเส้นหมี่มีความหมายถึงความยืนยาว”

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">มาภูเก็ตต้องไม่พลาดลิ้มรสหมี่สะปำ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> อุทิศ ขยายความให้ฟังถึงวัฒนธรรมการกินอาหารพื้นเมืองของคนภูเก็ตว่า เริ่มจากมื้อเช้าคนภูเก็ตจะนิยมกิน "ติ่มซำ" ที่ มีความหลากหลาย และติ่มซำที่ภูเก็ตแตกต่างจากที่อื่นตรงเรื่องของน้ำจิ้ม ที่นี่จะเป็นน้ำจิ้มแบบมีรสชาติเปรี้ยว หวาน และเผ็ดนิดหน่อย เป็นอาหารพื้นเมืองที่ชาวภูเก็ตกินกันตอนเช้าจะเป็นแบบสภากาแฟ แล้วก็มีอาหารอีกประเภทหนึ่งคือ ขนมจีน จะมีน้ำยาขนมจีนหลายอย่าง อาทิ แกงกะทิ น้ำพริกเป็นน้ำยาหวาน แกงไตปลา แกงปู และน้ำชุบยำ คือน้ำพริกที่ขยำกับมือเป็นน้ำยาที่แตกต่างจากที่อื่น แล้วคนที่ไปกินส่วนใหญ่ก็จะตักน้ำยาราดขนมจีนด้วยตัวเอง

“ถ้าเป็นอาหารกลางวันก็เหมือนกับอาหารทั่วไป แต่ว่าจะมีความแตกก็คือในเรื่องของอาหารว่างที่บางคนสามารถนำมาทำเป็นอาหาร มื้อกลางวันได้ อย่างเช่น โลบะ เป็นอาหารพื้นเมืองที่มีเฉพาะที่ภูเก็ตอย่างเดียว ทำมาจากอวัยวะต่างๆ ของหมู พร้อมกับเครื่องใน เอามาปรุงพร้อมกับเครื่องเทศ และหมักเคี่ยวให้จนแห้ง และบางอย่างก็จะนำมาทอดอีกครั้งหนึ่ง แล้วกทานกับน้ำจิ้มที่มีรสชาติเปรี้ยวจากมะนาว เผ็ดจากพริกป่นโรยหน้า หวาน ทานกับแตงกวา ราคาจะแตกต่างกัน มีชุดเล็ก ชุดกลางและชุดใหญ่ ที่ขึ้นชื่อมีอยู่ 2 ร้าน มีที่ร้านโลบะบังเหนียว ทางขึ้นเขารัง อีกร้านเป็นร้านไม่มีชื่อ แต่จะอยู่ตรงข้ามกับศาลเจ้าแม่ย่านาง”

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">โอเอ๋วขนมหวานของคนภูเก็ต</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> อุทิศบอก พร้อมกับพูดถึงเมนูอาหารพื้นเมืองภูเก็ตที่โดดเด่น ที่ถ้ามาภูเก็ตแล้วต้องลิ้มลองให้ได้ก็มีอยู่หลายเมนูด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น “หมี่สะปำ” เป็น อาหารขึ้นชื่อของภูเก็ต ที่ว่าถ้าใครมาภูเก็ตแล้วไม่ได้ลองชิมหมี่สะปำก็เหมือนว่ายังมาไม่ถึงภูเก็ต ที่เรียกว่าหมี่สะปำเพราะต้นตำรับจะอยู่ที่หมู่บ้านสะปำ ก็เลยเอาชื่อหมู่บ้านมาเป็นตัวเรียกหมี่สะปำติดปากกันมา ลักษณะของหมี่สะปำก็คือบะหมี่เส้นใหญ่ นำมาผัดกับพวกซีฟู้ดและเนื้อปลา ในการผัดหมี่สะปำจะผัดแบบไม่แฉะและไม่แห้งจนเกินไป หรือจะเรียกอีกชื่อก็คือหมี่ฮกเกี้ยน

“ถ้าอยากทานหมี่สะปำก็มีหลายร้าน อย่าง ร้านหมี่สะปำยายเจียร(ซึ่งเป็นร้านชื่อดังและมีการพูดถึงกันเป็นจำนวนมาก) จะมีความแตกต่างจากร้านอื่นในเรื่องของส่วนผสม ของเนื้อปลา มีซีฟู้ด แล้วผัดใส่ไข่ ใส่กวางตุ้ง และที่ร้านนี้จะเป็นบะหมี่เส้นใหญ่ “ อุทิศ แนะนำ แล้วก็ยังนำเสนอเมนูอื่นอีก

“อีกเมนูหนึ่งคือ หมี่หุ้นป้าฉ่าง จะเป็นหมี่หุ้นหรือเส้นหมี่ขาวผัด ทานคู่กับแกงจืดกระดูกหมู ป้าฉ่างเป็นต้นตำรับ แต่ตอนนี้มีอยู่หลายร้าน แต่ร้านที่คนภูเก็ตนิยมไปทานและนักท่องเที่ยวนิยมไปก็จะอยู่ที่บังเหนียว เข้าไปทางซอยของโรงเรียนเทศบาลบ้านบังเหนียว แล้วอีกที่หนึ่งที่อาจจะสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวก็จะอยู่ที่ ศูนย์อาหารตรงสี่แยกถนนดีบุก แล้วก็อีกที่หนึ่งก็จะเป็นที่ตลาดฉำฉาจะเป็นที่ขายพวกขนมหวาน ขายขนมทุกประเภท”

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">โอต๊าวหน้าตาคล้ายหอยทอด</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> อาหารพื้นเมืองภูเก็ตที่น่าลองลิ้มยังมีอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น “โอเอ๋ว” เป็น ขนมหวานที่มีให้กินเฉพาะที่ภูเก็ตเท่านั้น และคนภูเก็ตจะนิยมกินกันช่วงบ่ายสองหรือบ่ายสาม ลักษณะคล้ายๆ น้ำแข็งใส โอเอ๋วเป็นของหวานทำมาจากวุ้นของเมล็ดโอเอ๋ว (คล้ายเมล็ดแมงลัก) ที่แช่น้ำและนำมาผสมกับกล้วย ออกมาเป็นวุ้นใสๆ เวลากินจะใส่น้ำแข็งและน้ำเชื่อม และมีส่วนผสมอื่นๆ อาจจะใส่ถั่วแดงต้ม เฉาก๊วย หรือเครื่องอื่นๆ

“โอต้าว”(โอต๊าว) ลักษณะคล้ายหอยทอด เป็นการนำเอาเผือกและแป้งสาลี แล้วจะมีส่วนผสมของไข่ แล้วก็หอยพงตัวเล็กๆ แล้วผัดให้เข้ากัน เวลากินสามารถปรุงรสเพิ่มเติมได้ตามใจชอบ

และที่พลาดไม่ได้อีกเมนูหนึ่งก็คือ “หมูฮ้อง” สูตร ของคนภูเก็ตส่วนใหญ่จะนำเอาหมูสามชั้น โดยเฉพาะส่วนบริเวณคอและราวนมของหมู เอามาหั่นเป็นชิ้น และเคี่ยวด้วยพริกไทย กระเทียม และใส่ซีอิ๊วดำทำให้หวาน หรือซีอิ๊วสีแดงทำให้ผิวของหมูฮ้องดูไม่ดำจนเกินไปสีจะสวยขึ้น แล้วนำหมูไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ เนื้อหมูก็จะนุ่ม เป็นอาหารพื้นเมืองภูเก็ตที่ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">หมูฮ้องขนาดพื้นเมืองภุเก็ตอันขึ้นชื่อ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> นอกจากนี้แล้วก็ยังมีเมนูอื่นๆ อีก อาทิ ขนมบะจ่างที่จะกินตอนเช้า และมีอิ่วบึ่ง เป็นข้าวเหนียวผัดเหมือนกับบะจ่างแต่จะมีหมูแดงหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่วางข้างบนแล้วโรยด้วยหอมเจียว ซึ่งขนมอิ่วบึ่งนี้จะใช้ในพิธีรับขวัญเด็กผู้ชายที่มีอายุครบ 1 เดือน และก็ยังมีอาหารของชาวบาบ๋าภูเก็ต เป็นอาหารท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวภูเก็ต อาทิ น้ำชุบหยำภูเก็ต หมี่สั่ว เม็ดกาหยี

เรียกได้ว่าอาหารพื้นเมืองภูเก็ตนั้นมีความหลากหลาย และมีเอกลักษณ์เฉพาะที่คนภูเก็ตยังได้ทำการอนุรักษ์รักษาไว้เป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้เมนูอาหารเหล่านี้หายไปจากวิถีชีวิต ซึ่งเรื่องการอนุรักษ์อาหารพื้นเมืองภูเก็ตนี้ อุทิศ ได้ให้ความคิดเห็นไว้ว่า

“หากมองเป็น 2 ประเด็น ถ้าหากเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ก็จะมีการตั้งชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารพื้นเมืองจังหวัดภูเก็ต ซึ่งสนับสนุนโดยเทศบาลนครภูเก็ต เวลามีกิจกรรมอะไรต่างๆ ในเขตเทศบาลเมือง ก็จะให้ทางชมรมเป็นหน่วยงานที่จัดงานอาหารพื้นเมืองภูเก็ตมาจำหน่ายให้กับ นักท่องเที่ยวและผู้เข้าชมงานได้ชิมกัน”

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">น้ำพริกกุ้งเสียบ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> “แล้วอีกประเด็นหนึ่งในเรื่องของธุรกิจ ก็จะมองว่าร้านอาหารต่างๆ นี้ ในเมื่อนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่แล้วก็คือ จำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวเป็นหลัก อาหารพื้นเมืองก็จะเป็นเมนูที่จะถูกนำขึ้นมาเสนอให้กับนักท่องเที่ยวได้ชิม กัน ก็คือนอกเหนือจากอาหารทะเลแล้ว ก็ยังเป็นอาหารพื้นเมืองให้เลือก ซึ่งตรงนี้ผมมองว่าร้านอาหารในตัวเมืองถ้ามีอาหารพื้นเมืองอยู่ด้วยก็จะทำ ให้ธุรกิจของเขานั้นไปได้ดี แล้วก็เช่นเดียวกันถ้าร้านอาหารบริเวณชายทะเล เขาไม่ได้มีเมนูซีฟู้ดอย่างเดียว แต่เขาก็จะมีเมนูอาหารพื้นเมืองที่มีส่วนผสมของซีฟู้ดสอดแทรกเข้าไปด้วย อย่างเช่น มี ห่อหมก เบือทอด น้ำพริกขยำ น้ำพริกกุ้งเสียบ ปลาเจี๋ยน” อุทิศ อธิบาย

เรียกได้ว่าหากใครคิดที่อยากจะมาเที่ยวภูเก็ต ก็ไม่ควรพลาดการหาโอกาสไปลิ้มรส “อาหารพื้นเมืองภูเก็ต”อัน หลากหลายและเลิศรส ซึ่งนอกจากจะได้ความอิ่มอร่อยแล้ว ยังได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนภูเก็ตผ่านอาหารการกินที่มีอัต ลักษณ์อีกด้วย</td></tr></tbody></table>

-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000143676-

.

 

ปกติชอบทาน[FONT=Tahoma,]ก๋วยเตี๋ยวอยู่แล้ว[/FONT]น่ารับประทานทุกอย่างเลย

 

.

ชิมร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาอันดามัน ภูเก็ต

11 พฤศจิกายน 2554 เวลา 11:16 น.


“ก๋วยเตี๋ยว” ใน จ.ภูเก็ต มีให้เลือกรับประทานหลายร้าน ขอแนะนำร้าน “ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาอันดามัน” กันก่อนนะคะ

โดย..อชัถยา ชื่นนิรันดร์

ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาอันดามัน” ตั้งอยู่ที่ถนนติลกอุทิศ อ.เมือง จ.ภูเก็ต อยู่บริเวณด้านหลังโรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ จ.ภูเก็ต เป็นร้านค้าอาคารพาณิชย์ 2 ห้องติดกัน มองเห็นชัดเจนค่ะ พ่อครัวจะยืนปรุงเมนูอาหารต่างๆ อยู่ที่ด้านหน้าของร้าน ภายในร้านเลือกนั่งได้ในห้องแอร์หรือห้องพัดลม ราคาอาหารเท่ากัน

​

ปรีชญา เกิดมณี อายุ 24 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาอันดามัน บอกว่า ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาอันดามันเป็นเจ้าเก่าต้นตำรับเจ้าแรกในภูเก็ต เปิดขายมานานกว่า 10 ปี ขายกันทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-18.30 น. มีเมนูหลักคือ ลูกชิ้นปลาลวก เกี๊ยวปลาลวก ลูกชิ้นกุ้ง ฮือก๊วยลวก เต้าหู้ปลา ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน เย็นตาโฟ หมูสะเต๊ะ ปลาทอด ราคาอาหารตั้งแต่ 30-100 บาท

ลูกชิ้นปลาของทางร้านทำจากเนื้อปลากล้วยญี่ปุ่น 5 ดาวล้วนๆ ไม่ผสมสารบอแรกซ์ ไม่ผสมแป้ง ไม่มีวัตถุกันเสีย ไม่มีสารฟอกขาว เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน เน้นวัตถุดิบสด สะอาด คุณภาพดี น้ำจิ้มทำเอง สูตรเฉพาะเช่นกัน เมนูที่ลูกค้าชอบสั่งคือ ลูกชิ้นปลาลวก ปลาทอด ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน เมื่อลูกค้าสั่งก๋วยเตี๋ยว 1 ถ้วย จะมีเนื้อปลาชุบแป้งทอดแถมให้ 12 ชิ้น พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด

​

เครื่องดื่มที่ให้บริการมีราคาเดียว แก้วละ 15 บาท น้ำเก๊กฮวย กระเจี๊ยบ ชาดำเย็น ลำไย โอเลี้ยง ชาเย็น ทั้งหมดนี้ทางร้านทำเอง ส่วนน้ำอ้อยกับน้ำตาลสดสั่งมาขายให้กับลูกค้าได้เลือกดื่มตามชอบ ลูกค้าที่มาอุดหนุนกันทุกวัน มีทั้งคนท้องถิ่น นักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวต่างประเทศ จีน ฮ่องกง เกาหลี และมีกรุ๊ปทัวร์มาแวะรับประทานอาหารด้วย รับได้ครั้งละกว่า 100 คน และมีลูกชิ้นปลาสดขายกิโลกรัมละ 280 บาท มีลูกค้าสั่งวันละหลายกิโล

​

ทางร้านได้รับรางวัลการคัดสรรสุดยอดผลิตภัณฑ์ระดับ 5 ดาว 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ไทย ปี พ.ศ. 2547 และได้รับรางวัลความอร่อยสุดยอดลูกชิ้นปลาอันดามันจากหนังสือพิมพ์ดัง ทั้งหมดนี้การันตีได้ว่า ลูกชิ้นปลาอันดามันร้านนี้สุดยอดจริงๆ ค่ะ

ถ้าแวะมาเที่ยวภูเก็ต ขอเชิญรับประทานกันได้นะคะ ราคาไม่แพง สด สะอาด อร่อย โทร. 076211954


-http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3/121146/%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%95-

.

 

.


ก๋วยเตี๋ยวเนื้อพันล้าน บิลเลี่ยนบีฟ


ยินดีต้อนรับสู่ก๋วยเตี๋ยวเนื้อพันล้าน! คนรักเนื้อทุกคนขอเชิญตามมา ที่ “บิลเลี่ยนบีฟ” ตั้งอยู่ที่ฟู้ดฮอลล์ ชั้น 6 ศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม ศูนย์รวมของมีตเลิฟเวอร์


โดย..เซียงขวาง บัวลำพัน



ยินดีต้อนรับสู่ก๋วยเตี๋ยวเนื้อพันล้าน! คนรักเนื้อทุกคนขอเชิญตามมา ที่ “บิลเลี่ยนบีฟ” ตั้งอยู่ที่ฟู้ดฮอลล์ ชั้น 6 ศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม ศูนย์รวมของมีตเลิฟเวอร์ สถานที่ที่ได้สร้างปรากฏการณ์แห่งเมนูเนื้ออย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เจ้าของร้าน (ที่ก็ไฮโซทั้งนั้น) เผยว่า “เนื้อนุ่มหวาน ราวกับจะละลายในปาก” นั่นเป็นเพราะเป็นความตั้งใจของผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อ Executive Butcher ที่คัดเฉพาะเนื้อโคขุน (ThaiFrench Natural Beef) ที่มีคุณภาพสูงและมีระดับความงดงามของไขมันแทรก (Marbled Scores) ที่ได้มาตรฐาน อย่างนี้เองคุณภาพถึงได้เป็นหนึ่ง

​

​

เนื้อสันหน้า (Chuck) เป็นเนื้อเกรด A ที่มีไขมันแทรกระดับสูง ความนุ่ม ความหวาน และความงามของไขมันแทรก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการย่างที่เป็นสูตรพิเศษเฉพาะของทางร้าน เนื้อปาเลอฮง (Paleron) เข้มข้นด้วยระดับไขมันแทรกที่งดงามเช่นกัน ความนุ่มและความหวานของเนื้อจะทำให้เป็นคนรักเนื้อขึ้นมาเลยทีเดียว หรือเนื้อสันสะโพก (Sirloin) เนื้อส่วนนี้เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับอาหารหลายๆ ประเภท มีระดับไขมันแทรกที่ได้มาตรฐาน อีกหนึ่งรสสัมผัสที่จะทำให้เข้าถึงจิตวิญญาณของเนื้อ


บิลเลี่ยนบีฟ จุดเด่นก็คือเมนูเนื้ออันเป็นเอกลักษณ์ ร้านอาหารไทยที่มีก๋วยเตี๋ยวเนื้อชูโรง ถ้าเป็นจานเนื้อที่นี่ใช้เซอร์ลอยด์หมด นอกจากก๋วยเตี๋ยวแล้วก็ยังมีเขียวหวาน หรือกะเพราเนื้อเซอร์ลอยด์อย่างนี้ เป็นต้น ซึ่งคนนิยมสั่งกัน สำหรับก๋วยเตี๋ยวแบ่งเป็น 3 เซตให้เลือก ได้แก่ กริลล์สไตล์ (Grill Style) บอยล์ดสไตล์ (Boiled Style) และสตีมด์สไตล์ (Steamed Style) หรือเนื้อย่าง เนื้อตุ๋น และเนื้อลวกนั่นเอง นอกจากนี้ก็มีอีกสารพันเมนูเนื้อ ขอให้ยกมาเลยก็แล้วกัน...ยัมยัม

​

​

ยกมาจานแรก คือ เนื้อลวกจิ้มแจ่ว โอ้ ว้าว อันนี้สุดยอดตั้งแต่จานแรก เนื้ออย่างดีจิ้มกับแจ่วอย่างยอด ก็แล้วอะไรมันจะแจ่มขนาดนี้ ขอเน้นว่าคนชอบเนื้อต้องไม่พลาด เนื้อดีอยู่แล้ว ส่วนแจ่วเป็นแจ่วสะท้านพิภพที่รสเด็ดจริงๆ จานถัดมาเปาะเปี๊ยะกุ้ง กินเล่นแต่อร่อยจริงๆ กุ้งและเครื่องเปาะเปี๊ยะเต็มที่ ถัดมาขอชิมก๋วยเตี๋ยวลือชื่อ เขาทำให้เป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อลวก เป็นสันหน้าที่นุ่มนวลชวนฝัน กินแล้วต้องเขย่าตัวกัน (ฮา) อีกจานเป็นก๋วยเตี๋ยวย่าง ซึ่งถือเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ด้วย พันล้านอย่างไรก็ชิมชามนี้เลย รสชาติของเนื้อดีนำมาย่างจึงหอมหวานเป็นดับเบิล จากนั้นจึงทำให้สุดยอดด้วยน้ำก๋วยเตี๋ยวสุดหอม สดหวานชุ่มฉ่ำคอ

​

​

สำหรับผู้ที่อยากกินเมนูอาหารไทย ก็ที่นี่เขาไม่ขัดข้อง เพราะทำให้ได้โดยเข้าเนื้อชั้นดีของที่ร้านนั่นเอง ตั้งแต่แกงเขียวหวานรสเลิศ ที่นี่ใช้เซอร์ลอยด์ปรุงเข้าเนื้อด้วยเครื่องแกง รสออกหวานไปนิดแม้สำหรับคนที่ชอบหวาน อีกจานคือ กะเพราเซอร์ลอยด์ เมนูดูพื้นแต่รสชาติไม่พื้นนะ ด้วยปรุงมาแบบใจเด็ดเผ็ดขาด อีกหอมล้ำเลิศ กินกับไข่ดาวที่ทอดแบบไม่สุกนะ แหม ขอตบเข่าสักฉาด

​

​

นอกจากนี้ ก็ยังมีอีกหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น ยำเนื้อย่าง ข้าวผัดเนื้อพิเศษ แพนงเนื้อพิเศษ ฯลฯ ถัดจากเมนูหนักๆ และก๋วยเตี๋ยว เกาเหลาเนื้อย่าง เนื้อตุ๋นทั้งหลายจบลง ของหวานที่บิลเลี่ยนบีฟเป็นเฉาก๊วยนมสด เฉาก๊วยโบราณที่รสชาติกล้ารับรองว่า เข้มข้นดื่มด่ำ หอมเย็น ทว่าล้ำลึก กินกับชานมสด จึงต้องนับว่าอร่อยปิดท้ายเมนูเนื้อไฮโซพันล้านอย่างลงตัว ร้านเปิดทุกวัน 10.00-22.00 น. โทร. 022599327



-http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3/121142/%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%9F-

.

 

.


หรอยจังฮู้ที่ร้านระย้า


เพราะน้ำท่วมเมืองกรุงแท้ๆ เราจึงต้องมุ่งหน้าสู่ภูเก็ต เพื่อไปหาของอร่อยรองท้องเสียหน่อย
โดย..โจลิฟวิ่ง

เพราะน้ำท่วมเมืองกรุงแท้ๆ เราจึงต้องมุ่งหน้าสู่ภูเก็ต เพื่อไปหาของอร่อยรองท้องเสียหน่อย (หลังทนหิวโซอยู่นานหลายวันก็ของบริจาคมาไม่ถึงมือซะทีอ่ะ ฮะฮา)

ถึงภูเก็ต เราไม่มีลีลาและรีรอ ขอต่อรถไปร้าน “ระย้า” โดยพลัน

ร้านอยู่ตรงสี่แยกถนนดีบุกตัดใหม่ หาไม่ยาก สังเกตง่ายๆ เห็นบ้านหลังเล็กๆ ทาสีเขียวอ่อน นั่นละใช่เลย ถ้าหาไม่เจอ ก็กดถามไถ่ได้ที่เบอร์นี้ 076218155

คนแน่น ก็ไม่รู้จะแน่นอะไรขนาดนั้น (เอ๋ รึคนกรุงเทพฯ หนีน้ำมาน้า) แต่แน่นจริงๆ นะ คนเก่าอิ่มแปล้เดินออกไป คนหิวรายใหม่เดินเข้ามานั่งต่อ ไม่มีเงียบหงอยให้พนักงาน หรือ “ป้ากุหลาบ” เจ้าของร้าน นั่งตบยุง

​

ฉะนั้น จึงโทร.สั่งอาหารไว้ล่วงหน้าดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลาและไม่ทำให้อารมณ์บูด
เมนูอร่อยเขาเน้นอาหารพื้นบ้านภูเก็ต สูตรของครอบครัวป้ากุหลาบ ย้ำอีกทีนะครับ สูตรครอบครัวที่ป้ากุหลาบทำกันมาสมัยพ่อแม่นู่น หน้าตากับรสชาติเลยไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน
“หมูฮ้อง” หมูสามชั้นชิ้นเบ้อเริ่ม สีคล้ำๆ นอนแอ้งแม้งอยู่ในน้ำข้นๆ ขลุกขลิกๆ เห็นแล้วน้ำลายไหล หอมครับ หอมกลิ่นเครื่องปรุง ดูไปดูมาก็ช่างดูคล้ายพะโล้หมู กัดคำแรก หนังทะลุเนื้อ รวมกันในคำเดียว อร่อยมากกกกกก

“น้ำพริกกุ้งเสียบ” รสจัดจ้าน หวานเผ็ดเค็มนิดๆ กินกับข้าวสวยร้อนๆ แกล้มผักแนม หรอยจังฮู้
ที่เด็ดดวง ต้องสั่งๆๆๆๆๆ และเราชอบที่สุดคือ “แกงปูใบชะพลูเส้นหมี่” น้ำแกงสีเหลือง เหลืองเครื่องแกงที่ป้ากุหลาบตำเองกับมือ ข้นคลั่กด้วยเนื้อปูแกะ ชิ้นโตๆ ทั้งนั้น

จานนี้เขาเสิร์ฟคู่เส้นหมี่ลวก แทนที่จะเป็นข้าวสวย หรือขนมจีนอย่างที่คุ้นเคย ซึ่งเส้นหมี่สามารถดูดซับน้ำแกงจนเข้าเนื้อได้ดี ยิ่งมีเนื้อปูชิ้นโตๆ ยิ่งเคี้ยวได้เต็มปากเต็มคำ

ทุกเมนูที่ว่ามาและเมนูอร่อยอื่นๆ ในร้าน เป็นฝีมือป้ากุหลาบทั้งหมด ป้ากุหลาบเข้าครัวทำเองทุกวัน ทุกจานต้องผ่านการชิมของป้ากุหลาบ

“ใครทำก็อร่อยสู้ป้าไม่ได้หรอก” ป้ากุหลาบบอกอารมณ์ดี “ถ้าวันไหนป้าไม่เข้าครัว ลูกค้าก็เริ่มแซวละว่าวันนี้จะอร่อยเหรอป้า ป้าก็เลยต้องขลุกอยู่หน้าเตาตลอด”

ช่วงหนี (ลี้ภัย) น้ำท่วมเมืองกรุงแบบนี้ อยากกินของอร่อยฝีมือป้ากุหลาบ ก็แวะไปที่ร้านได้เลย ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10 โมง ปิดประมาณ 4 ทุ่ม แนะนำว่าควรจองล่วงหน้า

ความอร่อย 5 นิ้วโป้ง
ความสะอาด 4 นิ้วโป้ง


-http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3/121114/%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AE%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%B2-

.

 

.


“นัทเตาปูน” หมูนุ่ม น้ำซุปหอม ยั่วน้ำลาย
-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000149602-
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">24 พฤศจิกายน 2554 17:39 น.</td></tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บรรยากาศภายในร้าน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> สถานการณ์น้ำท่วมในช่วงนี้ดูจะบรรเทาเบาบางลงบ้างแล้ว เลยทำให้ “ผ่านมาแวะกิน” อยากจะชวนเพื่อนฝูงไปหาของอร่อยกินให้สบายใจเหมือนเดิม ซึ่งในคราวนี้ก็ได้แวะเวียนมาที่ร้าน “นัทเตาปูน” แถวๆ ถ.ประชาชื่น ริมคลองประปา

หากว่าฟังชื่อแล้วนึกไม่ออกว่าร้านนี้ขายอาหารประเภทไหน เราก็ขอเฉลยเลยแล้วกันว่าร้านนี้เขาขายอาหารจำพวกก๋วยเตี๋ยวหมู ทั้งน้ำ ทั้งแห้ง รวมไปจนถึงเกาเหลาเลือดหมู และจุดเด่นที่อยู่คู่กับร้านมาเกือบ 30 ปีแล้ว นั่นก็คือ เนื้อหมูที่นุ่มอร่อยถูกปาก

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เกี๊ยวน้ำ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ถ้าจะมาชิมก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ นั้น ก็ต้องเริ่มต้นกันด้วยการลิ้มรสน้ำซุปที่หอมเตะจมูก ซึ่งที่ร้าน “นัทเตาปูน” ก็มีสูตรเด็ดตรงที่น้ำซุปเคี่ยวจากกระดูกหมูแท้ๆ ปรุงรสเล็กน้อยด้วยเกลือ และพริกไทย แถมยังใส่ใบเตยลงไปต้มด้วยเพื่อเพิ่มความหอม เคี่ยวไป 3-4 ชั่วโมง ก็จะได้น้ำซุปที่กลมกล่อมหอมอร่อย

ส่วนที่บอกว่าจุดเด่นอยู่ที่หมูนุ่มนั้น ทางร้านก็จะเลือกเนื้อหมูมาเป็นพิเศษ นำมาหมักด้วยสูตรเฉพาะ แล้วลวกแค่พอสุก และอีกหนึ่งความอร่อยที่ต้องชิมก็คือ หมูกรอบ ที่จะเลือกใช้เนื้อหมูส่วนคอ นำมาหมัก แล้วชุบแป้งทอด ก่อนจะหั่นเป็นชิ้น

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ได้ทั้งน้ำซุป หมูนุ่ม และหมูกรอบมาแล้ว คราวนี้ก็ต้องมาลองชิมก๋วยเตี๋ยวกันสักที ชามแรกนี้ขอสั่งเมนูขึ้นชื่อของร้าน ซึ่งก็คือ เกี๊ยวน้ำ (40 บาท พิเศษ 50 บาท) เกี๊ยวน้ำชามนี้ประกอบไปด้วยตัวเกี๊ยวที่ทางร้านทำเอง โดยใช้แป้งเกี๊ยวมาห่อกับไส้ที่ทำจากเนื้อหมูบด หมักรวมกับรากผักชี กระเทียม พริกไทย แล้วปรุงรสเล็กน้อย นำไปลวกให้สุก เสิร์ฟมาในชามพร้อมกับ ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง เกี๊ยวปลา หมูนุ่ม และเครื่องในต่างๆ ทั้งตับ ไส้ หัวใจ เซี่ยงจี้ กระเพาะ และตับเหล็ก (ม้าม) ใส่ผักกาดขาวลวกสุก แถมด้วยเกี๊ยวกรอบก็ยังใส่มาให้ด้วย

ลองชิมเกี๊ยวน้ำชามนี้ต้องบอกว่าอร่อยถูกใจ เริ่มต้นจากน้ำซุปที่หอมหวานกลมกล่อม เกี๊ยวหมูคำโตที่นุ่มได้รสชาติ เครื่องในไม่มีกลิ่นคาว แถมความหวานอร่อยจากผักกาดขาวที่เข้ากันชามนี้ได้เป็นอย่างดี

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ชามถัดมาขอต่อด้วย ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ (30 บาท พิเศษ 40 บาท) ซึ่งก๋วยเตี๋ยวที่ร้านนี้จะมีให้เลือกทั้งเส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ เกี้ยมอี๋ บะหมี่ และวุ้นเส้น ส่วนชามนี้เราเลือกมาเป็นบะหมี่ต้มยำ ที่ถูกปรุงรสต้มยำมาให้สีสันจัดจ้าน ใส่ทั้งพริกป่นและถั่วลิสงป่นใหม่ๆ ได้กลิ่นหอม เครื่องเคราที่ใส่มาก็ครบครันทุกอย่าง แถมด้วยหมูกรอบอีกหนึ่งอย่าง ลองชิมแล้วรสชาติต้มยำชามนี้จัดจ้านจี๊ดใจ หมูกรอบก็กรอบนอกนุ่มใน ได้รสชาติพอดี

ส่วนชามนี้ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ (30 บาท พิเศษ 40 บาท) จะใส่หมูนุ่ม หมูกรอบ ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง เกี๊ยวปลา เลือดหมู ปลาหมึกกรอบ ผักบุ้ง และเกี๊ยวกรอบ ลองชิมเย็นตาโฟรสชาติเค็มๆ เปรี้ยวๆ ได้กลิ่นเต้าหู้ยี้ ส่วนลูกชิ้นก็เคี้ยวเด้ง ไม่คาว อร่อยถูกใจ

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ก๋วยเตี๋ยวแห้ง</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> แถมท้ายด้วยอีกชามที่ ก๋วยเตี๋ยวแห้ง (30 บาท พิเศษ 40 บาท) ที่ใส่เครื่องเครามาครบครัน อร่อยแบบแตกต่างจากก๋วยเตี๋ยวน้ำ แต่ถ้าหากใครไม่ชอบเส้น จะสั่ง เกาเหลาเลือดหมู (40 บาท พิเศษ 50 บาท) มาลองชิมอีกสักหน่อยก็ไม่ผิดกติกา

ใครผ่านไปผ่านมา อยากจะแวะมาดูน้ำแถวคลองประปา ก็แวะมาเติมความอิ่มให้เต็มกระเพาะกันที่ร้าน “นัทเตาปูน” แห่งนี้ ก็จะได้อิ่มอร่อยถูกใจกันไป แต่ร้านนี้ยังมีอีกหนึ่งสาขา บน ถ.กรุงเทพ-นนทบุรี บริเวณตรงข้าม ธ.กสิกรไทย สาขาเตาปูน ให้แวะเวียนไปลองชิมกันได้

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน “นัทเตาปูน” ตั้งอยู่ที่ 457/7 ปากซอยประชาชื่น 16 ถ.ประชาชื่น แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. การเดินทางถ้ามาจากแยกบางโพ ให้ตรงมาทาง ถ.ประชาราษฎร์สาย 2 จนถึงแยกตัดคลองประปา ให้เลี้ยวซ้ายเข้า ถ.ประชาชื่น วิ่งตรงมาเรื่อยๆ สังเกตทางซ้ายมือจะเห็น ซ.ประชาชื่น 16 ร้านจะอยู่บริเวณปากซอยติดริมถนน ใกล้กับสะพานลอย สามารถจอดรถได้ริมถนน ร้านเปิดทุกวัน (หยุดอังคารเว้นอังคาร) เวลา 08.00-15.00 น. โทร. 0-2556-1815 ส่วนอีกหนึ่งสาขาตั้งอยู่ตรงข้าม ธ.กสิกรไทย สาขาเตาปูน โทร. 0-2911-2881

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> คลิก!!อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “นัทเตาปูน”</td></tr></tbody></table>
-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000149598-


<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ชื่อร้าน : นัทเตาปูน

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยวหมู

เมนูจานเด่น : เกี๊ยวน้ำ,ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ,ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ,ก๋วยเตี๋ยวแห้ง

บรรยากาศร้าน : ห้องแถวริมถนน

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 457/7 ปากซอยประชาชื่น 16 ถ.ประชาชื่น แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. การเดินทางถ้ามาจากแยกบางโพ ให้ตรงมาทาง ถ.ประชาราษฎร์สาย 2 จนถึงแยกตัดคลองประปา ให้เลี้ยวซ้ายเข้า ถ.ประชาชื่น วิ่งตรงมาเรื่อยๆ สังเกตทางซ้ายมือจะเห็น ซ.ประชาชื่น 16 ร้านจะอยู่บริเวณปากซอยติดริมถนน ใกล้กับสะพานลอย

สถานที่จอดรถ : บริเวณหน้าร้านริมถนน

เวลาเปิด-ปิด : ร้านเปิดทุกวัน (หยุดอังคารเว้นอังคาร) เวลา 08.00-15.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 0-2556-1815 ส่วนอีกหนึ่งสาขาตั้งอยู่ตรงข้าม ธ.กสิกรไทย สาขาเตาปูน โทร. 0-2911-2881

 

แวะมาชิม ชุดนี้ชอบๆๆๆ
เส้นเล็กต้มยำ 1
เส้นใหญ่เย็นตาโฟ 1
เส้นเล็กแห้ง 2
เก็บตังที่เจ้าของกระทู้ อิอิอิ มามุขเดิม

 

แค่เห็นก็น้ำลายสอแล้วครับ



.