ปิดรับบริจาค เรียนเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพถวายมณีนาคา ณ สำนักสงฆ์ภูสูง จังหวัดยโสธร

ขอเชิญอนุโมทนาบุญนะคะ
รายนามผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพถวายมณีนาคา ณ พุทธอุทยานภูสูง อำเภอเลิงนกทาจังหวัดยโสธร
๑. วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๔ คุณจักรพงศ์ เผ่าสวัสดิ์ จำนวน ๔๐๐ บาท
๒. วันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณ...... จำนวน ๑,๐๐๐ บาท
๓. วันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณKao Oat<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4670821", true); </SCRIPT> จำนวน ๓๐๐ บาท
๔. วันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Fuangfah<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4677883", true); </SCRIPT> จำนวน ๑๐๐ บาท
๕. วันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณปทมา ส่งพระมาร่วมบุญ จำนวน ๕๐ องค์
๖. วันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณสันติ(คุณซึ้งบน<!-- google_ad_section_end -->)<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4682087", true); </SCRIPT> จำนวน ๕๐๐ บาท
๗. วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->suppysuppy<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4692066", true); </SCRIPT> จำนวน ๒๐ บาท
๘. วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณ สันติ(คุณซึ้งบน<!-- google_ad_section_end -->)<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4692673", true); </SCRIPT> จำนวน ๕๐๐ บาท
๙. วันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->บุญทรงพระเครื่อง<!-- google_ad_section_end --> ส่งพระมาร่วมบุญ จำนวน ๗ องค์
๑๐. วันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เฮียปอ ตำมะลัง<!-- google_ad_section_end --> จำนวน ๔๐๐.๓๘ บาท
๑๑. วันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณเฟื่องฟ้า จำนวน ๑๐๐ บาท
๑๒. วันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณขวัญ09 จำนวน ๓๓๓ บาท
๑๓. วันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณสันติ(คุณซึ้งบน) จำนวน ๕๐๐ บาท
๑๔. วันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณราคุเรียวซาย จำนวน ๓๐๐ บาท
๑๕. วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณติงติง(คุณรจนา พุ่มจันทร์) จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท
๑๖. วันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Oupasene<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4744024", true); </SCRIPT> จำนวน ๑๐๐ บาท
๑๗. วันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณMr.Kim(คุณเสรี วงษ์ทองเหลือ และครอบครัว) จำนวน ๒๐๐ บาท
๑๘. วันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณศุภชัย-จิตรา-ด.ช. ฐปนรรฆ์-ด.ช. ธนกร-คุณพ่อวันชัย-คุณแม่สุรางค์ โรจน์ขจรนภาลัย และครอบครัว จำนวน ๒๐๐ บาท
๑๙. วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณ Oupasene<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4769099", true); </SCRIPT> จำนวน ๒๐๐ บาท
๒๐. วันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณmarquis31<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4756863", true); </SCRIPT> จำนวน ๑,๐๐๐ บาท
๒๑. วันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Lek2010<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4762698", true); </SCRIPT> จำนวน ๓๐๐ บาท
๒๒. วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณ สันติ(คุณซึ้งบน<!-- google_ad_section_end -->)<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4692673", true); </SCRIPT> จำนวน ๕๐๐ บาท
๒๓. วันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Miss Brown<!-- google_ad_section_end --> จำนวน ๘๐ บาท
๒๔. วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณสันติ(คุณซึ้งบน<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4692673", true); </SCRIPT> )จำนวน ๕๐๐ บาท
๒๕. วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->บุญทรงพระเครื่อง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4864226", true); </SCRIPT> ส่งพระมาร่วมบุญ จำนวน ๙ องค์ และร่วมทำบุญเป็นจำนวนเงิน ๒,๐๐๐ บาท
๒๖. วันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔ คุณพีระ(คุณpeerac ) จำนวน ๑,๐๐๐ บาท
๒๗. วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๒ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->bannasanoo<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4914646", true); </SCRIPT> จำนวน ๑๐๐ บาท
๒๘. วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๔ คุณGoiUSA<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4947862", true); </SCRIPT> เณศรา ชาติรักษา และ
คุณวิบูลย์ หาญดิลก และครอบครัวของทั้งสองฝ่าย จำนวน ๕๐๐ บาท
๒๙. วันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๕๔ คุณสันติ(คุณซึ้งบน) จำนวน ๒,๐๐๐ บาท
๓๐. วันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๔ คุณอัฐ อัครโกเมน จำนวน ๑๐๐ บาท
๓๑. วันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๔ คุณพีระ(คุณpeerac ) จำนวน ๑,๐๐๐ บาท
๓๒. วันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔ คุณสันติ(คุณซึ้งบน) จำนวน ๕๐๐ บาท
๓๓. วันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๔ ด.ช ก้องกิดากร - ด.ช ก้องกิจ ปิงแก้ว จำนวน ๒๐๐ บาท
๓๔. วันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->บุญทรงพระเครื่อง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5022372", true); </SCRIPT> <!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4864226", true); </SCRIPT>ส่งพระมาร่วมบุญ จำนวน ๘ องค์
๓๕. วันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๔ คุณBirddy<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5046119", true); </SCRIPT> (คุณโกศล สุวรรณกิจ) จำนวน 300 บาท
๓๖. วันที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๔ คุณบุษบากาญจ์<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT> จำนวน ๓๐๐ บาท
๓๗. วันที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๔ คุณ.......จำนวน ๕๐๐ บาท
๓๘. วันที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๔ คุณสันติ(คุณซึ้งบน) ส่งพระมาร่วมบุญ จำนวน ๕ องค์
๓๙. วันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๔ คุณKob<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5100562", true); </SCRIPT> จำนวน ๒๙๙ บาท
๔๐. วันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๔ คุณnirada_r<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5129634", true); </SCRIPT> จำนวน ๑๐๐ บาท
๔๑. วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๔ คุณ.......... จำนวน ๑,๙๙๙บาท
๔๒. วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๔ คุณพีระ(คุณpeerac) จำนวน ๑,๐๐๐ บาท
๔๓. วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๔ คุณพี่มหาหิน จำนวน ๓๐๐ บาท
๔๔. วันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->tuk_taar<!-- google_ad_section_end --> จำนวน ๑,๐๐๐ บาท
๔๕. วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๔ คุณ>น้องนาง<<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5212771", true); </SCRIPT> และเพื่อนๆ จำนวน ๒๒๐ บาท
๔๖. วันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๔ คุณติงติง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5166462", true); </SCRIPT> (คุณรจนา พุ่มจันทร์) จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท
๔๗. วันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๔ คุณสันติ(คุณซึ้งบน) จำนวน ๑,๐๐๐ บาท
๔๘. วันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๔ คุณพีระ ชลายนวัฒน์(คุณpeerac<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT> ) จำนวน ๑,๐๐๐ บาท
๔๙. วันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->duangkamol<!-- google_ad_section_end -->จำนวน ๓๐๙ บาท
๕๐. วันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->บุญทรงพระเครื่อง<!-- google_ad_section_end --> มอบพระสมเด็จองค์ปฐม-องค์ปัจจุบัน ๑๖ องค์พระปิดตานะมิมหาลาภ ๑๑ องค์
๕๑. วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ คุณคุณสันติ(คุณซึ้งบน) จำนวน ๑,๐๐๐ บาท
๕๒. วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ คุณsuppysuppy<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5356372", true); </SCRIPT> จำนวน ๑๐๐ บาท
๕๓. วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ คุณppoonsuk<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5360979", true); </SCRIPT> จำนวน ๒๐๐ บาท
๕๔. วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->crunoi11112011<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5364892", true); </SCRIPT> (คุณหน่อย) จำนวน ๖๑๕ บาท
๕๕. วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ คุณวินัตร ธนประสิทธิพัฒนา จำนวน ๕๐๐ บาท
๕๖. วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->titapoonyo<!-- google_ad_section_end --> จำนวน ๒๐๐ บาท
๕๗. วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ คุณคุณพีระ ชลายนวัฒน์(คุณpeerac<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT> ) จำนวน ๑,๐๐๐ บาท
๕๘. วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ คุณศรชัย มอบเพชรพญานาค จำนวน ๑๘ องค์
๕๙. วันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๕๔ คุณเมธา จำนวน ๒๙๙ บาท
๖๐. วันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->wrabbit<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5422523", true); </SCRIPT> จำนวน ๓๐๐ บาท
๖๑. วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->duangkamol<!-- google_ad_section_end --> จำนวน ๒,๕๐๙ บาท
๖๒. วันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ คุณวารุณี เดชรักษาและครอบครัว จำนวน ๖๐๐ บาท
๖๓. วันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๔ คุณคุณพีระ ชลายนวัฒน์(คุณpeerac<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT> ) จำนวน ๑,๐๐๐ บาท
๖๔. วันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๕ คุณนคร(คุณnakorn_nd<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5532069", true); </SCRIPT> ) จำนวน ๕,๐๐๐ บาท
๖๕. วันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๕ คุณอดิเรก(adireksa<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5555344", true); </SCRIPT> ) จำนวน ๑,๒๙๙ บาท
๖๖. วันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๕๕ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ym2511<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5576622", true); </SCRIPT> จำนวน ๕๐๙ บาท
๖๗. วันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๕ คุณอดิเรก(<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->adireksa<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5574443", true); </SCRIPT> ) และคุณดำรงศักดิ์ จำนวน ๑,๔๒๙ บาท
๖๘. วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๕ คุณAnupak<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT> (คุณแหม่ม) จำนวน ๕๐๐ บาท
๖๙. วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๕ คุณหน่อย(<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->crunoi11112011<!-- google_ad_section_end -->) จำนวน ๕๑๔ บาท
๗๐. วันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๕ คุณคุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->duangkamol<!-- google_ad_section_end --> จำนวน ๕๐๙ บาท
๗๑. วันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๕ คุณคุณพีระ ชลายนวัฒน์(คุณpeerac<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT> ) จำนวน ๑,๐๐๐ บาท
๗๒. วันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ คุณohohooi<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT> จำนวน ๒๙๙ บาท
๗๓. วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ คุณเมธา จำนวน ๑๐๐ บาท
๗๔. วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ คุณคนฝั่งโขง จำนวน ๕๐๐ บาท
๗๕. วันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->duangkamol<!-- google_ad_section_end --> จำนวน ๓๐๙ บาท
๗๖. วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ คุณพี่Patty(คุณพี่วราพร นนนทะนำ) จำนวน ๑,๕๐๐ บาท
๗๗. วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ คุณคุณwiwath<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5765448", true); </SCRIPT> (คุณวิวัฒน์ นิมมานรัชต์) จำนวน ๓๕๐ บาท
๗๘. วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->บุญทรงพระเครื่อง<!-- google_ad_section_end --> มอบพระสมเด็จองค์ปฐม-องค์ปัจจุบัน ๓ องค์พระปิดตานะมิมหาลาภ ๗ องค์
๗๙. วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ คุณคุณพีระ ชลายนวัฒน์(คุณpeerac<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT> ) จำนวน ๑,๐๐๐ บาท
๘๐. วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ คุณสาวอุทัย จำนวน ๕๐๐ บาท
๘๑. วันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ คุณekkorn9<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5780996", true); </SCRIPT> (คุณเอกกร บริพัตรกมล) จำนวน ๒๐๐.๐๗ บาท


รวมปัจจัยทั้งสิ้น ๖๗,๐๖๑.๔๕ บาท

ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั่วสากลโลกได้โปรดเมตตาธรรมแด่ท่าน และขอกุศลผลบุญนี้ได้เป็นพลวัตปัจจัยให้ท่านและครอบครัวเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ธนสารสมบัติ เจริญสูงสุดทั้งทางโลกและทางธรรมด้วยเทอญ


และติงขอมอบวัตถุมงคลเพื่อตอบแทนพระคุณท่านที่ร่วมบุญถวายมณีนาคานะคะ
(ตามรายละเอียดที่เรียนให้ทราบในกระทู้)
หากท่านที่ร่วมบุญท่านใดประสงค์จะรับพระเพื่อไว้สักการะบูชา
กรุณา PM แจ้งที่อยู่ให้ติงทราบด้วยจะเป็นพระคุณยิ่งค่ะ
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ<!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

<TABLE class=tablebg cellSpacing=1 width="100%"><TBODY><TR></TR><TR><TD align=middle>
หลวงปู่มหาผิน สุมโน พระอรหันต์แดนใต้
</TD></TR></TBODY></TABLE>
หลวงปู่มหาผิน สุมโน ท่านปรารภว่า เราหมดอายุ96นะ จัดการเรื่องกระดูกเราให้ด้วยนะ ค่าเมรุ50,000ได้ไหม แล้วท่านก็กล่าวต่ออีกว่า ทำเหรียญนะ รุ่นแรกรุ่นสุดท้าย งานเราคนเยอะ จะไม่มีอะไรให้เขา แล้วท่านก็หยิบเส้นเกศาท่าน ที่ท่านเก็บมาตั้งแต่ปี2540-ปัจจุบัน ให้ผมทั้งหมด พร้อมทั้หยิบขวดน้ำอธิฐานจิต ส่งให้ เมื่อทราบแบบนี้ผมรู้ว่า ท่านปลงสังขารแล้ว แล้วท่านก็สั่งว่าให้ไปทำหนังสือมา1ฉบับให้เธอรับผิดชอบสร้างเหรียญเราและกระดูกอาตมา อาตมาจะเซ็นเป็นหลักฐานทางโลก แต่ทางธรรมอาตมารู้กับเธอ แต่ผมก็อาราธนาท่านรักษาธาตุขันธ์อยู่ต่อไป
ท่านบอกว่าก่อนทำจะให้ยังไงและหลังทำ ผมเลยกราบเรียนท่านว่า ก่อนทำหลวงปู่ดูก่อน หลังทำหลวงปู่อธิฐานจิตก่อน ท่านตอบว่า ได้ แล้วก็สนทนาธรรมกับท่านเรื่องปฎิบัติต่อไป
ใครพอทราบเรื่องจัดสร้างเหรียญ หรือ พอช่วยผมได้ ช่วยกันนะครับ ผมคงไม่มีปัจจัยสร้างทั้งหมด ใครจะช่วยผม รีบโทรมานะครับติดต่อสอบถามได้ที่ คณะกรรมการดำเนินการจัดสร้างวัตุถุมงคลพระผง หลวงปู่มหาผิน สุมโน รุ่นแรกและรุ่นสุดท้าย
090-863-4880 นายแพทย์ธีรกรณ์ อมรรัตนสกุลวงศ์ (ธี) ขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมทำบุญครับ
คำสอนหลวงปู่มหาผิน สุมโน
สิ่งไหนที่ทางโลกบอกว่าบริสุทธิ์ ยังไม่เท่าความบริสุทธิ์แห่งจิตแห่งใจ ไม่มีจริงๆๆน่ะ จิตใจบริสุทธิ์ไปที่ไหนก็บริสุทธิ์ จำกันไว้นะ เราไม่ได้อยู่อีกนานเท่าไหร่หรอกน่ะ

ที่มาแสดงกระทู้ - แปลก! หลวงปู่มหาผิน สุมโน • ลานธรรมจักร

 

พระพุทธศาสนากับพญานาค
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=fb-msgview-right><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=2>อดีตชาติ ในฐานะพญานาค ของพระพุทธเจ้า

สมัยที่พระพุทธองค์ยังสร้างบารมี เคยเสวยพระชาติเป็นพญานาคหลายครั้ง เช่น จัมเปยยะนาคราช..ทัททระนาคราช..ปัณฑระกะนาคราช..ภูริทัตนาคราช

สัปดาห์ที่ ๖ หลังจากที่พระพุทธองค์ตรัสรู้ใหม่ๆ พระองค์ประทับ นั่งอยู่ใต้ต้นอัชปาละนิโครธ ขณะนั้นเกิดฝนตกและมีพายุแรง พญานาค มุจลินท์ ได้ขึ้นมาจากสระมุจลินท์ มาขนดกายรอบพระองค์ ๗ รอบ และแผ่พังพานปิดด้านบนเหนือพระเศียรเพื่อปกป้อง ลม ฝน เหลือบ ยุง แก่พระองค์ครบ ๗ วัน จนฝนและพายุหมดแล้ว พญานาคมุจลินท์ จึงได้เนรมิตกายเป็นชายหนุ่มยินไหว้พระองค์อยู่

พญานาคตนหนึ่ง อยากบวชเป็นพระภิกษุ จึงเนรมิตกาย เป็นมนุษย์ แล้วมาขอบวชกับพระภิกษุสงฆ์ เมื่อบวชแล้ววันหนึ่งนอนหลับเผลอสติ ร่างจึงกลับกลายเป็นพญานาคนอนเหยียดยาวอยู่ในกุฎิ พระภิกษุทั้งหลายเห็นแล้วตกใจกลัว จึงพากันไปกราบทูลพระพุทธเจ้า

พระองค์ทรงตรัสเรียกพญานาคตนนั้นเข้าเฝ้า แล้วตรัสห้ามพญานาคบวชเป็นพระภิกษุ พญานาคกราบทูลว่า ขอให้พระองค์ เรียกผู้ที่จะบวชเป็นพระภิกษุว่า นาค
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=fb-msgview-left-c> </TD><TD class=fb-msgview-right-c> การบันทึก
</TD></TR><TR><TD class=fb-msgview-left-c> </TD><TD class=fb-msgview-right-c>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=fb-msgview-right><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=2>อดีตชาติ ในฐานะพญานาค ของพระพุทธเจ้า

สมัยที่พระพุทธองค์ยังสร้างบารมี เคยเสวยพระชาติเป็นพญานาคหลายครั้ง เช่น จัมเปยยะนาคราช..ทัททระนาคราช..ปัณฑระกะนาคราช..ภูริทัตนาคราช

สัปดาห์ที่ ๖ หลังจากที่พระพุทธองค์ตรัสรู้ใหม่ๆ พระองค์ประทับ นั่งอยู่ใต้ต้นอัชปาละนิโครธ ขณะนั้นเกิดฝนตกและมีพายุแรง พญานาค มุจลินท์ ได้ขึ้นมาจากสระมุจลินท์ มาขนดกายรอบพระองค์ ๗ รอบ และแผ่พังพานปิดด้านบนเหนือพระเศียรเพื่อปกป้อง ลม ฝน เหลือบ ยุง แก่พระองค์ครบ ๗ วัน จนฝนและพายุหมดแล้ว พญานาคมุจลินท์ จึงได้เนรมิตกายเป็นชายหนุ่มยินไหว้พระองค์อยู่

พญานาคตนหนึ่ง อยากบวชเป็นพระภิกษุ จึงเนรมิตกาย เป็นมนุษย์ แล้วมาขอบวชกับพระภิกษุสงฆ์ เมื่อบวชแล้ววันหนึ่งนอนหลับเผลอสติ ร่างจึงกลับกลายเป็นพญานาคนอนเหยียดยาวอยู่ในกุฎิ พระภิกษุทั้งหลายเห็นแล้วตกใจกลัว จึงพากันไปกราบทูลพระพุทธเจ้า

พระองค์ทรงตรัสเรียกพญานาคตนนั้นเข้าเฝ้า แล้วตรัสห้ามพญานาคบวชเป็นพระภิกษุ พญานาคกราบทูลว่า ขอให้พระองค์ เรียกผู้ที่จะบวชเป็นพระภิกษุว่า นาค
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=fb-msgview-left-c> </TD><TD class=fb-msgview-right-c> การบันทึก
</TD></TR><TR><TD class=fb-msgview-left-c> </TD><TD class=fb-msgview-right-c>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พญานาคที่วัดพระธาตุพนม เล่าโดย เจ้าคุณ พระธรรมราชานุวัตร-แก้ว กนฺโตภาโส เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร (พ.ศ. ๒๔๘๐-๒๕๓๒)

เรื่องพญานาคนี้เกิดขึ้นภายหลังที่ท่านได้ตั้งสำนักวิปัสสนากรรมฐานได้ ๑ ปี เหตุเกิดเมื่อประมาณตี ๒ เดิอน ๑๑ ขึ้น ๕ ค่ำ พ.ศ. ๒๕๐๐ คืนนั้นฝนตกหนักครึ่งชั่วโมง แล้วตกพรำๆอีก ๒๐ นาที ฟ้าร้องดังสนั่นแผ่นดินสะเทือน นายไกฮวด คนพื้นที่ได้ออกมารองน้ำฝนที่หน้าร้านของตน เห็นแสงประหลาด เป็นลำงามโตเท่าลำต้นตาลขนาดใหญ่ มีสีต่างๆกันถึงเจ็ดสี พุ่งแหวกอากาศแข่งกันเป็นลำยาวหลายเส้น จากทางด้านทิศเหนือ มองเห็นได้แต่ไกล จึงได้ร้องเอะอะ เรียกภรรยามาดู พอแสงนั้นมาถึงหน้าซุ้มประตู แสงนั้นก็หายเข้าไปในองค์พระธาตุพนม

ในวันออกพรรษา หรือวันสัตตนาคา พ.ศ. ๒๕๐๑ นายสมบูรณ์ ตั้งไพบูลย์ เห็นแถบสี ๗ สี พาดบนท้องฟ้า ตอนกลางคืนก่อนตีสอง เกิดขึ้นนานพอควร เขาเรียกคนอื่นๆอีกมาดู

สามเณรทรัพย์เข้าฌานสมาธิ พบพญานาคราชทั้งเจ็ดเรียงกันเป็นแถวอยู่บริเวณลานพระธาตุพนม ลำตัวใหญ่โตเท่าลำต้นตาล มีหงอนแดงน่าสะพรึงกลัว พลันประเดี๋ยวเดียว พญานาคทั้ง ๗ ได้กลับกลายเป็นมาณพ ๗ นาย ทรงเครื่องขาวเรียงกันเป็นแถวอยู่ที่เดิม อากัปกิริยาอยู่ระหว่างยืนกับก้ม หัวหน้าพญานาคเห็นสามเณร บอกขอไปสนทนากับท่านเจ้าคุณ พอขาดคำก็เข้าประทับร่างสามเณรทรัพย์ทันที ด้วยอำนาจจิตที่เหนือกว่า สามเณรทรัพย์หมดความรู้สึกวูบไปทันที สักครู่หันมายกมือไหว้ ท่านพระธรรมราชานุวัตร พร้อมกับพูดว่า " สวัสดีท่านเจ้าคุณ หม่อมฉันมาสองคืนแล้วมิรู้หรือ"

พวกหม่อมฉันเป็นพญานาคราช มาจากสระอโนดาดในเทือกเขาหิมาลัย มีนามตามลำดับ เป็นมงคล..ตามอริยทรัพย์อันประเสริฐคือ
๑. พญาสัทโทนาคราชเจ้า เป็นประธาน
๒. พญาศีลวุฒินาโค
๓. พญาหิริวุฒนาโค
๔. พญาโอตตัปปะวุฒนาโค
๕. พญาสัจจะวุฒินาโค
๖. พญาจาคะวุฒนาโค
๗. พญาปัญญาเตชะวุฒนาโค

 

พญานาค ที่วัดพระธาตุพนม

หม่อมฉันทั้ง ๗ ได้รับบัญชาจากพระอินทราธิราชเจ้า ให้มารักษาพระอุรังคธาตุ พวกเทพยดาที่รักษาองค์พระธาตุอยู่ก่อนนิสัยไม่ดี อาศัยกินสินบนและเครื่องเซ่นสรวง ของชาวบ้าน พวกหม่อมฉันขอแต่น้ำบูชาถวายอย่างเดียวก็พอแล้ว จะอยู่รักษาองค์พระธาตุไปจนกว่าจะหมดสิ้นศาสนาของพระสมณโคดม

ท่านเจ้าอาวาส ได้ให้พระวิปัสสนาธุระในวัดนั่งทางในตรวจสอบ ในขณะที่พญานาคเข้าประทับทรงร่างของสามเณรทรัพย์..ได้พบมาณพรูปงามแต่งองค์ทรงเครื่องคล้ายเจ้าฟ้ามหากษัตริย์ ๗ องค์ ปรากฎร่างทิพย์มีกายสีวันสวยงามต่างๆกันเช่น สีน้ำเงิน สีเขียวนิล สีเขียวอ่อน สีเหลือง ขมพู แสดและขาว องค์ที่กำลังเข้าประทับสามเณรทรัพย์เป็นสง่า หาไห้แทรกซ่อนอยู่ในร่างคนทรงแต่อย่างใดไม่

ร่างทิพย์ที่มีกายสีน้ำเงินกล่าวโดยตรงมิได้ผ่านร่างสามเณรว่า หม่อมฉันมีนาม พญาสัทโทนาคราช เป็นประธาน(รักษาองค์พระธาตุทิศตะวันออกเฉียงเหนือ) องค์สีเขียวนิลชื่อ พญาศีลวุฒินาโค องค์สีเขียวอ่อนคือ พญาหิริฯ ( สององค์รักษาด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้) องค์สีเหลืองคือ พญาโอตตัปปะฯ องค์สีชมพูคือ พญาพาหุสัจจะฯ ( ๒ องค์รักษา ทิศตะวันตกเฉียงใต้) องค์สีแสดคือ พญาจาคะฯ องค์สีขาวคือ พญาปัญญาเตชะฯ ( ๒ องค์รักษาทิศตะวันตกเฉียงเหนือ) ..มาจากสระอโนดาดในเทือกเขาหิมาลัย พระอินทราธิราชเจ้า ทรงมีบัญชาให้มารักษาองค์พระธาตุพนม

 

พญานาคที่วัดพระธาตุพนม

พวกหม่อมฉันมีทิพยวิมานอยู่ใต้องค์พระธาตุนี้เอง ใต้บาดาล เป็นทิพยวิมานที่สวยงามมาก มีสระน้ำ สวนดอกไม้ ภูเขาเงิน ภูเขาทอง..ที่พระธาตุพนมนี้เป็นสวรรค์ชั้น จาตุมหาราชิกา

เมื่อสร้างองค์พระธาตุพนมเสร็จ พญาทั้ง ๕ นคร ผู้สร้างได้กลับบ้านกลับเมือง พระมหากัสสปะเถระเจ้าพร้อมด้วยพระอรหันต์ทั้ง ๕๐๐ ร้อยองค์ ได้เสด็จกลับชมพูทวีป ด้วยอธิษฐานจิตวิญญาณแล้ว พระอินทราธิราชเจ้า ได้ทรงแต่งตั้งให้เทวดามีชื่อเป็นหัวหน้า พากันอยู่ปกปักรักษาองค์พระธาตุพนม พร้อมบริวารจำนวน ๔๐๐๖ พระองค์ และมเหศักดิ์หลักเมืองอีกสามพระองค์ เมื่อที่ไหนมีเทพยดามาสิงสถิตอยู่ ที่นั่นต้องทีสวรรค์วิมาน สำหรับให้เทพยดาอยู่เป็นธรรมดา

เมื่อหม่อมฉันมาถึงที่นี่ เพื่อรับหน้าที่แทน ได้ขับเทพยดาเหล่านั้นไปหมดแล้ว สภาวะทิพย์หรือปราสาทวิมานสวรรค์ชั้นฟ้าของพวกเทพยดาก็สลายไปโดยอัตโนมัติ

ท่านเจ้าอาวาสถามพญานาคว่า สามเณรทรัพย์มีศีลบริสุทธิ์ มีฌานสมาธิแก่กล้า ขณะเข้าฌาน เหตุใดพญานาคจึงเข้าประทับร่างได้ พญานาคตอบว่า วิญญาณผีปีศาจเข้าสิงไม่ได้ แต่วิญญาณชั้นสูง คือ เทพพรหม สามารถเข้าประทับทรงได้ ด้วยเหตุ๒ ประการ
๑. มีกรรมเก่าพัวพันมาก่อนในอดีตชาติ
๒. เจตนาจะมาสร้างกุศลผลบุญ ทำความดีไว้ในโลกมนุษย์

พวกหม่อมฉัน ยังมีเมตตาจิต จะช่วยบำบัดทุกข์ทางกายและใจแก่มนุษย์ ไม่เลือกชาติ ศาสนา การที่ขอน้ำเปล่า เพราะน้ำเป็นสภาวะของพวกนาคราช คือ อาศัยน้ำเป็นสื่อ ปัจจัย ถ้าใคร ผู้ใดมีจิตรำลึกถึง ต้องการจะติดต่อด้วยกับหม่อมฉัน ก็ขอให้ตั้งถ้วยน้ำขึ้น แล้วลอยด้วยดอกมะลิหอม จุดธูปเจ็ดดอก กล่าวอัญเชิญก็สามารถส่งกระแสจิตติดต่อกันได้ทันที

พระมหาเจดีย์พระธาตุพนมอันศักดิ์สิทธิ์ เก่าแก่อายุกว่า ๒๕๐๐ ปีองค์นี้ เป็นที่รวมชีวิตจิตใจ ของชาวอีสานและพี่น้องฝั่งลาวทั้งประเทศ

 

พญานาคที่วัดพระธาตุพนม

เวลามีงานเทศกาลประจำปี มีคนมาขอน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของพญานาคทั้ง ๗ ไปกิน ไปทา รักษาโรคภัยไข้เจ็บจนหายเป็นปกติ..ให้เอาน้ำใสสะอาดใส่ เอาผ้าขาวหุ้มปากให้แน่นแล้วยกเข้าไปตั้งไว้ติดโคนฐายพระธาตุพนมภายในกำแพงแก้ว เก็บไว้วมที่นั้น อย่างน้อยหนึ่งคืน เพื่อให้ท่านเสกคาถาเทวฤทธิ์

สำหรับไหพระธาตุนี้ เมื่อคราวพระธาตุพนมพังทลายปี ๒฿๑๘ ไหน้ำมนต์พระธาตุ ตั้งอยู่ในบริเวณกำแพงแก้วชั้นที่ ๒ ห่างจากองค์พระธาตุพนม ๓ เมตร อยู่ในท่ามกลางอิฐที่พังลงมาทับถมอยู่รอบๆ ไม่ได้รับความเสียหาย ยังคงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์เช่นเดิม

พญานาคยังรักษาคนป่วยเป็นนิ่ว โดยการใช้พลังเทวอำนาจ สูบนิ่วออกมาให้เห็นกับตา โดยใช้กายทิพย์ เข้าไปในปากคนไข้ แล้วกลับออกมาพร้อมก้อนนิ่ว

รักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ด้วยการสูบเลือดออกจากร่างผู้ป่วย ..รักษาคนที่ถูกผีกระทำ-คนมีวิชาอาคมกระทำ..ได้เสกเอากระดูกผี..เส้นผมผีตายท้องกลม..ก้อนกรวด..ด้ายมัดตราสังข์..คางคกตาย..ของมีคม ออกจากตัวผู้ป่วย..บางครั้งได้ เนื้อควายสด เปลวหมูดิบ หนังควาย..เมื่อสูบออกจากท้องมีขนาดเท่าหัวแม่มือ สักประเดี๋ยว กระดุกกระดิกคล้ายมีชีวิต ขยายตัวโตขึ้น ต้องเอาไปฝังในป่าช้า

คุณไสย เป็นวิชาลึกลับร้ายกาจของพวกเขมรและอิสลาม พญานาคบอกว่า ตรวจเห็นได้ง่ายกว่าอย่างอื่น เพราะเป็นวัตถุที่มีอยู่ในโลก แต่ถ้าเป็นวิญญาณผีร้ายประเภทต่างๆเข้าสิงในร่างแล้ว จะมองเห็นเป็นจุดดำๆหลบซ่อนอยู่ในร่างกายคนไข้ที่โน่นที่นี่ ต้องสำทับสั่งให้ ..ปรากฎร่าง มันถึงจะแสดงตัวเป็นรูปร่างให้เห็น

พญานาคจะสั่งให้มันออกจากร่างคนไข้ ผีบางตัวก็ยอมโดยดีด้วยความกลัว แต่ผีบางตัวดุร้ายมีฤทธิ์ไม่ยอมออกง่ายๆ ผีประเภทนี้พญานาคท่านเพียงคอยยืนกำกำบสั่งการให้งทรงปราบเอง โดยบอกคาถาปราบให้บ้าง

มีหลายรายไม่รอด เพราะถึงคราวต้องตายไปตามวิบากกรรม

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=fb-msgview-right><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=2>พระธุดงค์ กับ พญานาค

คำของ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม (มรณภาพ ปี พ.ศ. ๒๕๔๖)

ฝั่งไทยและฝั่งลาว ต่างมี กษัตริย์แห่งนาคราช หรือ นาคาธิบดี แยกปกครองดูแลดังนี้

ฝั่งลาว คือ พญาศรีสัตตนาคราช( นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล) เป็นพญานาค ๗ เศียร ทรงฤทธิ์ ชอบจำศีล ประพฤติธรรม ชอบมาที่วัดพระธาตุพนมเหมือนกัน

ฝั่งไทย คือ พญาศรีสุทโธนาคราช (นาคาธิบดีสีสุทโธ) เป็นพญานาค ๑ เศียร
- ท่านชอบจำศีลบำเพ็ญเพียร ปฏิบัติธรรม อ่อนโยน มีเมตตา ไม่ชอบการต่อสู้ ชอบมาปฎิบัติธรรมที่พระธาตุพนม โดยมอบหมายให้ ๖ พญานาคดูแลแทน ๓ ใน ๖ นั้นคือ
๑. พญาจิตรนาคราช รักสวยรักงาม มีเขตแดนปกครองของตน ตั้งแต่ ตาลีฟู ถึง หนองคาย ตามแนวแม่น้ำโขง สุดแดนที่วัดหินหมากเป้ง
๒. พญาโสมนาคราช ปกครองตั้งแต่ วัดหินหมากเป้ง มาจนวัดธาตุพนม สุดแดนที่แก่งกะเบา ชอบปฎิบัติธรรม จึงเป็นที่ไว้วางใจของพญาศรีสุทโธ
๓. พญาชัยยะนาคราช เขตแดนจากแก่งกะเบา ไปจุดสุดแดนที่ปากแม่น้ำโขง ลงทะเลในเขมร มีฤทธิ์เดชมาก ชอบทำสงคราม หรือต่อสู้เป็นนิสัย

หลวงปู่กล่าวว่า ส่วนใดที่อยู่ใกล้ต้นน้ำลำธาร หรือหากมีพิธีกรรมอันใดเกิดขึ้น ให้อัญเชิญบอกกล่าวเหล่าพญานาค พิธีกรรมนั้นจะศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=fb-msgview-left-c> </TD><TD class=fb-msgview-right-c></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

หลวงปู่เทสก์กับ พญานาค

บริเวณสระน้ำด้านหน้าวัดหินหมากเป้ง ต.พระบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย มีถ้ำลงไปเมืองพญานาค หลวงปู่เทสก์เคยลงไปพบพญานาคหลายครั้ง และเคยมีพญานาคมาฟังเทศน์ ..แม้ก่อนงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่เทสก์ มีงูเหลือมใหญ่ ๓ ตัวมาจากประเทศลาว เพื่อมาร่วมงานฯ

 

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม พบพญานาคแม่น้ำโขง

ครั้งหนึ่งหลวงปู่ชอบได้ร่วมธุดงค์ไปกับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ไปปักกลดริมบึงน้ำใหญ่ในเขตป่าดงดิบ ท่านสังเกตว่า ไม่มีรอยเท้าสัตว์ลงมาดื่มน้ำเลย ท่านกำหนดจิตได้รู้ว่า มีพญานาคผู้ยิ่งใหญ่แต่ไร้คุณธรรมได้พ่นพิษอันร้ายกาจไว้ในบึง ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์หากกินน้ำ ย่อมถึงแก่สิ้นชีวิต กลุ่มสงฆ์จึงงดใช้น้ำในบึงนั้น

พระอาจารย์มั่นได้ทรมานพญานาคจนหมดทิฐิ และถอนพิษออกจากน้ำ และชวนบริวารมาฟังธรรม..ผู้ที่จะผ่านมิติอันเร้นลับถึงขั้นพบเห็นหรือสนทนากับพญานาคได้นั้น จะต้องเป็นผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ และบำเพ็ญเพียรธรรมจนได้ญาณวิสุทธิ์เท่านั้น

อีกครั้งหนึ่งเมื่อหลวงปู่ชอบนำคณะสงฆ์ธุดงค์ข้ามไปลาว ไปปักกลดใกล้หมู่บ้านชาวลาวติดแม่น้ำโขง เมื่อท่านฉันเสร็จ ชาวบ้านนำบาตรของท่านไปล้าง ได้เทเศษอาหารโดยมีข้าวสุก น้ำแกง น้ำพริกปลาร้าลงไปในน้ำ...หลวงปู่ได้ยินเสียงตลิ่งพัง ชาวบ้านวิ่งมาบอกว่า น้ำที่เคยใสกลายเป็นน้ำขุ่นในพริบตา เหมือนมีอะไรลงไปกวนน้ำในกลางน้ำวน (วังน้ำหันตาไก่) วนเป็นน้ำวนอย่างรุนแรง แรงหมุนของน้ำถล่มเข้าสู่ตลิ่งที่พวกเขาล้างบาตรอยู่ พังออกเป็นกระบิ

พวกที่อยู่ริมตลิ่งหนีกันจ้าละหวั่น ท่านกำหนดจิต พบว่าพญานาคในลำน้ำโขง แค้นเคืองชาวบ้านที่เทของเหลือในบาตร ไปถูกตัวพญานาค หลวงปู่ท่านห้ามเทเศษอาหารลงไปอีก แต่มีพระภิกษุองค์หนึ่ง คิดว่าท่านพูดเล่น ให้ชาวบ้านกระทำอีก ก็เกิดอาเพศเช่นเดิม หลังจากนั้นไม่มีใครกล้าฝืนคำสั่งอีก

ในช่วงพรรษาหนึ่งในถ้ำไม่ไกลแม่น้ำโขง พญานาคได้มานมัสการหลวงปู่ชอบ สัวนหัวของพญานาคมานอบน้อมคารวะท่านที่ปากถ้ำ ส่วนหางยังอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำโขงห่างกันเป็นกิโลเมตร

พญานาคเล่าว่า ชาติก่อนเป็นมานพผู้มั่นในศีล ๕ แต่วันหนึ่งถือวิสาสะว่าคุ้นเคย ได้ถือเอามีดของพระสงฆ์ไปใช้เป็นของส่วนตัว เมื่อดับชีวิตแล้วจึงมาเป็นพญานาคราช แม้แสดงฤทธิ์ได้แต่ก็อับวาสนาไม่ได้เป็นคน หลวงปู่ชอบให้ศีล ๕ พญานาคยึดถือ เพื่อเจริญภาวนาและยึดในไตรสรณคมน์ต่อไป

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=fb-msgview-right><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=2>หลวงปู่ชอบ ฐานสโม และพญานาคที่ วัดห้วยน้ำริน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

วันหนึ่งหลวงปู่สังเกตเห็น ชายคนหนึ่งแม้แต่งกายพื้นเมืองธรรมดากว่าคนอื่น แต่ดูสำรวม-สง่างามกว่าผู้มาทำบุญคนอื่นๆ อาหารที่นำมาเป็นอาหารพื้นเมือง แต่รสโอชากว่าอาหารของคนอื่น คนในที่นั้นไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร หลวงปู่ตามดูชายนี้อย่างเงียบๆ พบว่าเขาแบกสัมภาระไปตรงสระน้ำหน้าวัด แล้วหายวับไปในสระนั้น

วันหนึ่งหลวงปู่ชอบได้มีโอกาสคุยกับชายผู้นี้ เขาเล่าว่า เขาชื่อ นาคมานพ " ศีลของพระคุณเจ้าหอมเหลือเกิน หอมไปไกล พวกกระผมจึงขึ้นมาลำเพ็ญทานถวายพระคุณเจ้า เพื่อเพิ่มพูนบารมี" " พญานาคสามารถเนรมิต หรือคิด แล้วร่างเปลี่ยนไปอย่างต้องการ จะให้เป็นมนุษย์ครั้งละหลายๆคนก็ได้ เป็นสัตว์ป่าหลายตัวก็ได้ เป็นสัตว์ สอง อย่างพร้อมๆกันได้" พญานาคมีฤทธิ์ในด้านการแปลงกายเป็นพิเศษ

รูปร่างจริงของพญานาค เหมือนภาพในผนังโบสถ์ มี ๓ หงอน ๔,๗ หงอนบ้าง หงอนสีแดงมีแพรคอเหมือนม้า ลำตัวใหญ่ยาว เกล็ดสีดำเป็นมันเลื่อม
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=fb-msgview-left-c> </TD><TD class=fb-msgview-right-c> การบันทึก
</TD></TR><TR><TD class=fb-msgview-left-c> </TD><TD class=fb-msgview-right-c>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=fb-msgview-right><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=2>หลวงปู่ชอบ ฐานสโม + องค์อื่นๆ และพญานาค ณ ที่ต่างๆ

หลวงปู่ชอบ " ทางขึ้น-ลงของพญานาคในถ้าผาบิ้ง อ.วังสะพุง จ.เลย...พญานาคที่ น้ำตกไนแองการา"
- การเห็นพญานาคนั้น แต่ละบุคคลจะเห็นไม่เหมือนกันเสมอไป อาจเห็นด้วยสายตาปกติธรรมดา บางคนเห็นแต่ในนิมิตสมาธิขณะนั่งเจริญภาวนาเท่านั้น
- พญานาคเล่าว่าใต้บาดาลไม่มีแสงอาทิตย์ แต่มีแสงแก้วสว่างไสวตลอดกลางวันกลางคืน เวลาพญานาคจะไปจากหลวงปู่ จะไปไม่เหมือนงู คือ ค่อยๆถอยหลังลงแม่น้ำโขงแล้วหายไปเลย
- ที่บ้านน้ำมี่ ถ้ำผาร่มพร้าว มีพญานาค ๒ ผัวเมียมาหาท่านหลายครั้ง พญานาคเล่าว่า ชาติก่อนพวกเขามีบ้านใกล้ถ้ำนี้ แล้วถ้ำนี้เป็นวัด พวกเขานำเอาเสียม เอาจอบ เอามีดของวัดไปใช้ แล้วไม่ได้ส่งคืน ถือเอาเป็นเจ้าของ พอตายไปกรรมนั้นทำให้มาเกิดเป็นพญานาคใต้บาดาลแม่น้ำโขง
- ครั้งหนึ่งหลวงปู่บุญพิน ได้นำบาตรไปล้างที่ท่าน้ำและได้เห็นฝูงปลา จึงพากันสาดข้าวให้ปลากิน พอล้างบาตรกลับมาที่ถ้ำ ได้ยินเสียงดังสนั่นริมฝั่งน้ำ หลวงปู่ชอบออกไปดู และกล่าวว่า " ในสถานที่นี้เป็นที่ อาศัยของพญานาค พวกเขาไม่ชอบสกปรก พวกเขาโกรธ แสดงอภินิหารให้ดู"

หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดป่าอรัญวิเวก บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
หลวงปู่จาม วัดวิเวกวัฒนาราม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
หลวงพ่อบาน สัดสันติธรรม ริมฝั่งแม่น้ำศรีสงคราม บ้านโพนก่อท่า ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
พระอาจารย์บุญเพ็ง วัดป่าหนองแสงวนาราม อ.วังหว้า จ.นครพนม
หลวงปู่อวน วัดจันทิยาวาส อ.ปลาปาก จ.นครพนม
หลวงปู่ทอง วัดสว่างอารมณ์ ต.ดอนหญ้านาง อ.พรเจริญ จ.หนองคาย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=fb-msgview-left-c> </TD><TD class=fb-msgview-right-c> การบันทึก
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พระพุทธองค์กล่าวถึง นาค

พวกนาคมีความคิดว่า เมื่อก่อนเราทำกรรมสุจริตและทุจริต ด้วยกาย วาจา ใจ เมื่อตายไปจึงเข้าถึงความเป็นสหายของนาค ถ้าพวกเราประพฤติแต่สุจริต เมื่อตายไปจะเข้าถึงสวรรค์ เชิญพวกเรามาประพฤติสุจริตกันเถิด

บางคนในโลกนี้ เป็นผู้กระทำกรรมทั้งสุจริตและทุจริต และได้ฟังมาว่า พวกนาคมีอายุยืน ผิวพรรณงาม มีความสุขมาก พวกเขาปรารถนาว่า เมื่อตายไปของจงเป็นสหายของพวกนาคเถิด พวกเขาจึงให้ทาน เมื่อตายไปย่อมเกิดเป็นนาค

นาค ๔ จำพวกนั้น พวกที่ผุดเกิด-โอปปาติกะ หมายถึง พญานาค เป็นพวกมีกายทิพย์ มีอายุยืน ผิวพรรณงาม เสวยสุขในทิพยสมบัติ มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก สามารถเนรมิตกายเป็นมนุษย์ได้ อาศัยอยู่ในพิภพใต้บาดาล-ใต้แม่น้ำต่างๆ

พญานาคชนิดนี้มีบุญมากกว่ามนุษย์ แต่ในพิภพนาคไม่อาจประพฤติพรหมจรรย์ได้ เพราะมากล้นไปด้วยกามคุณ ๕ ดุจเทวดา ดังน้นพระโพธิสัตว์เมื่อเกิดเป็นพญานาค จึงต้องขึ้นจากพิภพนาค มาประพฤติพรหมจรรย์บนโลกมนุษย์ หรืออธิษฐานให้เกิดเป็นมนุษย์ เพื่อจะได้ประพฤติพรหมจรรย์

 

ตำนานอุรังคธาตุ

กล่าวถึงการทะเลาะกันของพญานาค จนนำไปสู่การเกิดของแม่น้ำสายสำคัญในภาคเหนือและอีสาน

สุวรรณนาค และสุทโธนาค ทะเลาะกันจนมนุษย์และสัตว์เดือดร้อน เทพเจ้าชื่อพระยาแถน บอกให้นาคทั้งสองขุดแม่น้ำแข่งกัน ใครขุดออกทะเลก่อนเป็นผู้ชนะ และจะส่ง ปลาบึก มาให้

สุทโธนาคใจร้อน รีบขุดโดยเร็ว แต่ขุดอ้อมไปอ้อมมา จนถึงตอนใต้ของ จ.หนองคาย เกิดหลงทิศ ขุดย้อนขึ้นไปทางเหนืออีกแล้วรีบวกกลับเมื่อรู้ว่าผิดทาง ทำให้เกิดบึงขนาดใหญ่ ชื่อ บึงโขงหลง สุทโธนาคเรียก ชีวายนาค และ ธนมูลนาค มาช่วย แม่น้ำที่ ชีวายนาคขุด กลายเป็น แม่น้ำชี ส่วนแม่น้ำที่ ธนมูลนาคขุด เป็นแม่น้ำมูล มาพบกันที่ จ.อุบลราชธานี รวมกับแม่น้ำที่ สุทโธนาคขุดที่ อ.พิบูลมังสาหาร ผ่านประเทศลาว กัมพูชา และเวียตนาม ลงทะเล

เมื่อสุทโธนาคขุดถึงก่อน พระยาแถนจึงส่งปลาบึกมาอยู่เฉพาะในแม่น้ำโขง

ส่วน สุวรรณนาค เป็นนาคสุขุม ค่อยๆขุดเป็นแนวตรง กลายเป็นแม่น้ำน่าน เชื่อว่าหากนำน้ำจากแม่น้ำน่าน มาผสมกับน้ำจากแม่น้ำโขง จะทำให้แก้วแตก เนื่องจากนาคที่ขุด ไม่ถูกกัน

 

บั้งไฟพญานาค

เกิดประจำทุกปี คืนวันออกพรรษา หรือ ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๑๑ ระหว่างเวลาประมาณ ๑๙-๒๒ น มีลูกไฟกลม โต ประมาณลูกไช่หรือผลส้ม สีแดงชมพู สีหมากสุก ผุดขึ้นจากแม่น้ำโขง ลอยสูงขึ้น ๒๐-๓๐ เมตร ในเวลา ๒-๓ วินาที ก่อนจะหมายไปโดยไม่มีเสียงใดๆ

เกิดในแม่น้ำโขง บริเวณ อำเภอโพนพิสัย และกิ่งอำเภอรัตนวาปี เป็นระยะทางยาวประมาณ ร้อย กม ตำแหน่งที่เกิดลูกไฟไม่เฉพาะที่ คือเปลี่ยนที่ไปมาหลายจุด

ผุดขึ้นจากน้ำเป็นดวงกลมขนาดเท่าๆกัน เริ่มเห็นได้เมื่อสูงกว่าผิวน้ำประมาณ ๑-๒ เมตรเป็นอย่างน้อย และลอยขึ้นอย่างรวดเร็ว (ความเร็วเฉลี่ย ๑๐ เมตรต่อวินาที) ขึ้นสูงประมาณ ๒๐-๓๐ เมตรก่อนที่จะลูกไฟจะดับในขณะยังเคลื่อนที่

 

ปรากฎการณ์บั้งไฟพญานาค

มีแห่งเดียวในโลก ณ แผ่นดินแม่น้ำโขง บริเวณ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย หรือปากน้ำงึมของฝั่งลาว ตรงกับวันออกพรรษาของไทย หรือวันมหาปวารณาของลาว

พญานาคใต้ลำน้ำโขงจะขึ้นมาพ่นบั้งไฟ เป็นดวงประทีปถวายพุทธบูชา เพื่อสรรเสริญคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นการระลึกนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต เมื่อครั้ง วันเปิดโลก

พญานาคที่ลุ่มน้ำโขง เป็นท่านหนึ่งที่เห็นพุทธานุภาพ บังเกิดความเลื่อมใส ตอกย้ำถึงความปรารถนาดั้งเดิมที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต จึงอธิษฐานซ้ำไปอีก และเมื่อถึงวันเข้าพรรษาทุกปี พญานาคจะออกมาจากนาคพิภพ มาจำศีลภาวนาใต้ลำน้ำโขง ประพฤติพรหมจรรย์ ไม่เสพเมถุนตลอดเวลา ๓ เดือน

เมื่อถึงวันออกพรรษา แล้วระลึกถึงพระพุทธองค์ในวันเสด็จลงมาจากดาวดึงส์ ด้วยใจปลื้มปิติ พ่นไฟที่กลั่นจากใจใสๆลอยขึ้นไปในอากาศ พร้อมอธิษฐานว่า ด้วยอานิสงส์นี้ ขอให้ข้าพระองค์ได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต ดวงไฟออกมาอย่างนุ่มนวล เป็นฟองอยู่ใต้น้ำกลมๆ เนื่องจากเป็นของกึ่งหยาบกึ่งละเอียด ทำให้เวลาลอยพ้นน้ำขึ้นมา ผิวน้ำจะไม่กระเพื่อม คือเหมือนผ่านอากาศ แล้วลอยขึ้นไปสว่างวาบบนท้องฟ้า

ตอนแรกท่านมาลำพังตนเดียว ต่อมาบริวารเกิดศรัทธา ตามขึ้นมาจำศีลด้วย บั้งไฟที่ส่องสว่างขึ้นบนท้องฟ้า ช่วงสั้นบ้าง ยาวบ้าง ดวงโตบ้าง ดวงเล็กบ้าง แล้วแตอานุภาพของแต่ละท่าน ใครกำลังบารมีอ่อนก็พ่นได้ไม่กี่ดวง แล้วไม่สูงมาก แต่ของพญานาคจะสูงทีเดีย

 

บั้งไฟพญานาค

ปรากฎการณ์ลูกไฟที่พุ่งขึ้นเหนือลุ่มน้ำโขง ในช่วงออกพรรษา คือ วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ของทุกปี เกิดจากพญานาคที่อาศัยใต้วังบาดาล ในลุ่มน้ำโขงปล่อยลูกไฟขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองเป็นพุทธบูชาแก่พระพุทธเจ้า
ที่วัดไทย อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ..ซึ่งเชื่อกันว่า ใต้วัดแห่งนี้เป็นศูนย์กลางเมืองบาดาล ชาวอีสาน ถือว่า พญานาคคือเทพเจ้าแห่งน้ำ สามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ และอาศัยอยู่ใต้น้ำ ลึกลงไปใต้พื้นเดินกว่า ๑ โยชน์หรือ ๑๖ กม

ไม่ว่าจะเป็นวัดโพธิ์ทองหนองคำแสน..วัดนาคห่อผ้า..พระธาตุหลวงเวียงจันทน์ ที่ชาวลาวเชื่อว่า มีทางเชื่อมสู่วังพญานาค

ที่มา
Re:พญานาค + เกจิอาจารย์ - Patchrin Forum

 

ขอร่วมทำบุญถวายมณีนาคาด้วยค่ะ - น.ส.ปุณยนุช ภูธาคุณานนต์ 100 บาท

<table cellpadding="" cellspacing=""><tbody><tr><td>เวลาที่สั่งทำรายการ</td><td colspan=""> :</td> <td>04/03/2012 00:08</td></tr><tr><td>วันที่ทำการโอนเงิน</td> <td colspan=""> :</td> <td>4/3/2012</td></tr><tr><td>หมายเลขอ้างอิง</td><td colspan=""> :</td> <td>2643485910201234</td> </tr><tr><td>บัญชีที่โอน </td><td colspan=""> :</td><td>น.ส.ปุณยนุช ภูธาคุณานนต์ </td> <td>A/C No.</td><td colspan=""> :</td><td>3120315893</td></tr> <tr><td>บัญชีผู้รับโอน </td><td colspan=""> :</td><td>รจนา พุ่มจันทร์ </td> <td>A/C No.</td><td colspan=""> :</td><td>3251310313</td></tr> <tr><td>จำนวนเงินที่โอน</td><td colspan=""> :</td> <td>THB 100.00</td></tr></tbody></table>
และขอโมทนาบุญกับทุกๆ ท่าน รวมทั้งคุณครูติงด้วยนะคะ สาธุ สาธุค่ะ ^/\^

 

ขอขอบพระคุณและขอน้อมอนุโมทนาบุญเป็นอย่างสูงค่ะคุณปุณยนุช
ขออานิสงส์แห่งกุศลผลบุญนี้ดลบันดาลให้คุณปุณยนุชและครอบครัว
ตลอดจนญาติสนิท มิตรสหาย
จงเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ธนสารสมบัติอันเลิศ
ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ สาธุค่ะ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->