เพื่อการกุศล เปิดกรุ ประมูล ๑-๒ สค.๕๙ ลพ.ศรีทัต/ลป.ดู่/ลพ.วิชัย/ลป.ขาว/ลป.ม่น/คุณแม่ชีประทุม ราคาเริ่มที่๙๙ บ. น.ท้าย

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย rs83, 2 สิงหาคม 2015.

  1. bunpon

    bunpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2015
    โพสต์:
    478
    ค่าพลัง:
    +303
    ครูบา 210 ตระกรุด 160
     
  2. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460

    เริ่มประมูล
     
  3. นวลลดา

    นวลลดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    446
    ค่าพลัง:
    +687
    พระปิดตา หนึ่งร้อย
    เหรียญกินไม่หมดสามร้อยค่ะ
     
  4. suwat.su

    suwat.su เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    7,648
    ค่าพลัง:
    +55,536
    พระปิดตา 400
    เหรียญกินไม่หมด 400
     
  5. นวลลดา

    นวลลดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    446
    ค่าพลัง:
    +687
    เหรียญกินไม่หมด สี่ร้อยห้าสิบ
     
  6. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
  7. Moon of Wanpan

    Moon of Wanpan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2013
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +1,009
    เหรียญกินไม่หมด 500
     
  8. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ตำนานพระปิดตากรุวังหน้า
    … ผู้เขียนเคยได้ยินเรื่องราวของหลวงเทพโลกอุดรจากนิตยสารพระเครื่องเล่มหนึ่ง เมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้ว (ประมาณ พ.ศ. 2515) และก็พยายามค้นหาข้อมูลพร้อมทั้งประวัติของหลวงปู่เทพโลกอุดร มาโดยตลอด แต่ก็ไม่ค่อยได้รายละเอียดมากนักเพราะเป็นเรื่องเล่าต่อๆ กันมา จนกระทั่งมาพบคุณแม่มณีจันทร์ เลิศหิรัญปัญญา ท่านได้บันทึกประวัติของหลวงปู่ ไว้ อย่างละเอียด และผู้เขียนต้องการทราบเกี่ยวกับการสร้างพระเครื่องพระบูชาของหลวงเทพโลกอุดรว่ามีหรือไม่ จนกระทั่งมาพบพระปิดตากรุวังหน้านี่เอง ต่อไปจะขอกล่าวถึงประวัติของวังหน้า ดังต่อไปนี้
    โดยจะตัดทอนเรียบเรียงจากพระราชนิพนธ์เรื่อง “ตำนานวังหน้า” ของสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ วังหน้านี้แต่เดิมเรียกกันอย่างเป็นทางการว่า “พระราชวังบวรสถานมงคล” แต่ชาวบ้านหรือคนทั่วไป มักเรียกกันว่า “วังหน้า” เพราะเป็นวังที่ประทับ ของ พระมหาอุปราชซึ่งเรียกกันว่า “ฝ่ายหน้า” เลยเรียกที่ประทับของพระมหาอุปราชว่า วังฝ่ายหน้าและวังหน้า หรือพระราชวัง บวรสถานมงคล ของกรุงรัตนโกสินทร์นี้ เริ่มสร้างขึ้นพร้อมกับพระราชวังหลวง หรือพระบรมมหาราชวัง เมื่อปีขาล พ.ศ. 2325 โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงเลือกเอาที่สองแปลง ของกรุงเทพฯ คือแปลงหนึ่งอยู่ระหว่างวัดโพธิ์กับวัดสลัก (วัดมหาธาตุฯ) เป็นที่สร้างวังหลวง ส่วนที่อีกแปลงหนึ่งอยู่เหนือวัดสลักขึ้นไป จนถึงปากคลองคูเมืองด้านเหนือ (บริเวณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ วิทยาลัยนาฏศิลป์ วิทยาลัยช่างศิลป และโรงละครแห่งชาติ) เป็นที่สร้างพระราชวังบวรสถานมงคลหรือวังหน้า เพื่อให้เป็น ที่ประทับของพระอนุชาธิราชคือ กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ซึ่งเป็นพระมหาอุปราช พระราชวังหน้านี้
    พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ กรมหมื่นบวรวิไชยชาญ (พระโอรสในสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว พระเจ้าแผ่นดินองค์ที่ 2 ของรัชกาลที่ 4) ขึ้นเป็นกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญสถานมงคล

    กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ท่านมีความประสงค์จะสร้างพระเครื่อง วัตถุมงคล เพื่อแจกแก่ทหารทุกหมู่เหล่าเอาไว้ป้องกันอันตราย ในการปกป้องกันรักษาบ้านเมือง จึงได้ปรารถนาจะจัดสร้างวัตถุมงคลอันศักดิ์สิทธิ์ โดยขอให้หลวงปู่เทพโลกอุดรเป็นผู้ทำ เพื่อให้เกิดความศักด์สิทธิ์ หลวงปู่ท่านได้ให้ไปหาว่าน 9 ชนิด เตรียมไว้ให้พอเพียง และหาหินเพชร (นำมาเผาไฟให้สุกเอาน้ำราดหินจะเป็นแป้ง) มาให้พอแก่ความต้องการ
    เมื่อได้วัตถุมงคลตามที่หลวงปู่บอกเรียบร้อยแล้ว พระองค์สั่งให้นำไปตากให้แห้งทำเป็นผงไว้ เมื่อเตรียมผงพร้อมแล้ว เสด็จวังหน้าจึงเข้าสมาธิส่งจิตไปเรียนให้หลวงปู่เทพโลกอุดรทราบ หลวงปู่มาตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ ครั้นเวลาใกล้เที่ยงคืนหลวงปู่ท่านเข้าสู่สมาธิฌานสมาบัติ พุ่งไปยังพระอรหันต์ สาวกครั้งพุทธกาล
    รูปหนึ่งนามว่า “พระกัจจานะมหาเถระ” ท่านพิจารณาภาพของพระกัจจานะ ตั้งแต่เริ่มต้นทำสมาธิเป็นรูปหล่ออย่างในร่างเดิม ขัดสมาธิอุกาตุง มือขวาทับมือซ้าย หุ่มจีวร จนชัดเจนแล้ว ก็เรียกช่างแกะสลักที่เตรียมไว้เป็นช่างที่เรียกว่า “ช่างสิบหมู่” ฝีมือเยียมชั้นครูทั้งนั้น แกะพิมพ์ตามคำบอกของท่าน ใบหน้าเข้มแข็งบึกบึนเอาจริงเอาจัง ดูมีชีวิตเป็นพิมพ์แรก พิมพ์ที่ 2 พิมพ์แบบเดิม แต่เอามือมาพนมที่อก เป็นท่าอธิษฐาน แล้วให้ช่างแกะอีก
    คือให้แกะไปตามทุกลักษณะที่ค่อยๆ เปลี่ยนไป เช่น เศียรใหญ่ พุงยื่น ปิดตา ซึ่งไม่อยากให้เห็นรูปงาม จนกระทั่งเอามือทั้งสองอุ้มท้อง รวมทั้งหมดมี 13 ท่าด้วยกัน จึงแกะพิมพ์ 13 พิมพ์ ซึ่งช่างแต่ละช่างก็ทำกันอย่างสุดฝีมือด้วยเป็นพระราชโองการ จึงปรากฎว่า แกะได้เรียบร้อยมีชีวิตชีวาสวยงาม เมื่อได้ 13 พิมพ์แล้ว เสด็จวังหน้าได้ขอเพิ่มอีก 2 พิมพ์ คือแกะเป็นรูปหลวงปู่เทพโลกอุดรผู้เป็นพระอาจารย์ของพระองค์เอง เพื่อที่จะได้รำลึกถึงผู้สร้าง หลวงปู่ท่านก็อนุญาต
    หลวงปู่ได้หยิบผงวิเศษขนาดเท่าผลส้มโอออกมาส่งให้เสด็จวังหน้า บอกว่าเฉพาะผงวิเศษนี้ก็มีอิทธิฤทธิ์ปาฎิหาริย์สุดจะคณาได้ เพียงปั้นก้อนกลมๆ เอาติดตัวไว้ก็จะปกป้องคุ้มครองได้สารพัดอย่าง แต่จะให้ปลุกเสกจำนวนมากก็จงเอาผงผสมลงไปเพียงช้อนเดียวคละเคล้าให้ทั่วถึง พอแกะพิมพ์เสร็จแล้วทั้ง 15 พิมพ์ เสด็จวังหน้าก็ให้เอาผงอัดเป็นองค์พระขึ้น นำมาให้ทอดพระเนตรและให้หลวงปู่พิจารณาดูว่าจะสมควรประการใด ปรากฎว่าพิมพ์ 15 พิมพ์แกะได้ถูกต้องมีชีวิตชีวาสวยงามเรียบร้อย เป็นที่พอใจของหลวงปู่และเสด็จวังหน้า เรียกว่าหาที่ติมิได้ หลงปู่ก็ให้ลงมือกดอัดเป็นองค์พระขึ้นมา และหลวงปู่สั่งว่าทำเสร็จเมื่อไร ก็ให้ส่งจิตไปบอกท่านจะมาปลุกเสกอีกครั้ง

    การทำพระเครื่องวัตถุมงคลชุดพระกัจจายนะครั้งนี้ใช้เวลนานถึง 6 เดือนจึงแล้วเสร็จ หลังจากจัดสร้างพระเป็นองค์ครบตามที่ต้องการแล้ว เสด็จวังหน้าท่านก็เข้าสมาธิส่งจิตไปเรียนให้หลวงปู่ทราบ หลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านมาในวันขึ้น 15 ค่ำเดือนเพ็ญ มาถึงท่านนั่งคุยทักทายอย่างเคยไม่มีการสั่งให้เตรียมพิธีในการบวงสรวงสังเวยหรือกันราชวัตรฉัตรธงดังพิธีพุทธาภิเษกใดๆ ที่เคยเห็นมา เป็นที่แปลกและฉงนใจของเหล่าข้าราชบริพารไปตามๆ กัน บ่ายก็แล้ว ค่ำก็แล้ว ท่านนั่งคุยอยู่อย่างนั้น แต่พอถึงเวลาใกล้พระจันทร์เดือนเพ็ญขึ้นอยู่กลางท้องฟ้า ตรงศีรษะพอดี ท่านก็ลุกขึ้น เอาอาสนะผืนเล็กไปปูกลางสนามกับพื้นแม่พระธรณี แล้วนั่งสมาธิเพชรตั้งตัวตรง มือขวาทับมือซ้ายแน่วนิ่งดิ่งลงไป ที่แปลกประหลาดก็คือ พระที่จะทำการปลุกเสกเก็บไว้ในห้องพระบนตำหนัก แต่ตัวท่านนั่งอยู่กับอาสนะตรงพื้นสนามข้างล่าง สายสิญจน์เชื่อมโยงอะไรก็ไม่มี นั่งจนพระจันทร์ที่ตรงศีรษะนั้นค่อยๆ เคลื่อนลงไป ปรากฎแสงสว่างภายในบริเวณวังกระจ่างจ้ากว่านอกวังเป็นอันมาก ในสมัยนั้น แม้ในพระราชวังก็ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องใช้ตะเกียงน้ำมันและจุดเทียนให้แสงสว่างยามค่ำคืน แต่ปรากฎว่าในห้องพระเสด็จวังหน้าที่นั่งสมาธิ มีแสงสว่างเจิดจ้าดุจมีแสงนีออนทั่วไป ต่อมาก็ปรากฎกลิ่นดอกมะลิล้วนๆ ส่งกลิ่นหอมฟุ้งชื่นใจไปทั่ววัง ทั้งที่ในวังไม่มีดอกมะลิที่จะส่งกลิ่นได้มากมายถึงเพียงนี้ จะมีเพียงกอสองกอเท่านั้น จึงเป็นที่อัศจรรย์ใจแก่ข้าราชบริพาร ซึ่งห้อมล้อมอยู่ในที่นั้นไปตามๆ กัน เช้าแล้วหลวงปู่ยังไม่ออกจากสมาธิ กลางคืนก็นั่งตากน้ำค้าง ไม่มีมุ้งบังแต่อย่างใด ถึงเวลาเช้ากระทั่งแสงแดดจ้าหลวงปู่ก็นั่งตากแดดแน่วนิ่งอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งตะวันเที่ยงตรง หลวงปู่ท่านจึงถอนจิตออกจากสมาธิ ซึ่งท่านบอกว่า “การปลุกเสกได้สิ้นสุดลงแล้ว ต่อไปภายหน้าจะไม่มีการปลุกเสกที่แก่กล้าด้วยพุทธานุภาพเช่นนี้อีก
    พระชุดนี้เป็นหนึ่งในแผ่นดินและอาจกล่าวว่าเป็นหนึ่งในโลกตามความประสงค์ของเสด็จวังหน้า” เสด็จวังหน้าถามท่านว่า “พระที่ปลุกเสกนี้มีคุณทางไหนบ้าง” ท่านตอบว่า “รอบตัวเข้าป่า สัตว์ร้ายพวกผีปีศาจ แม้เทพยดาก็ไม่อาจมาแตะต้องทำอันตรายได้ สามารถป้องกันความเจ็บไข้หรือไข้ป่าทั้งปวง คนเจ็บท้อง ปวดท้อง อาราธนาขอน้ำมนต์ให้กินก็หายได้ และทางอยู่ยงคงกระพันแคล้วคลาด แต่การจะให้พระนี้แก่ใคร ควรเลือกคนที่มีศีลธรรม อย่าให้แก่คนชั่วจะเอาไปทางชั่ว และอย่าแจกพร่ำเพรื่อ คนหนึ่งเพียงองค์หนึ่งเท่านั้น เหลือจากแจกข้าราชการแล้ว ก็สุดแต่เสด็จวังหน้าจะเอาไปบรรจุที่ไหน เพื่อให้คนรุ่นหลังที่มีวาสนาบารมีจะได้มารับไปคุ้มครองตน” ได้สั่งเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ร่ำลาออกเดินเพียงแวบเดียวก็หายไป
    พระสมเด็จกรุวังหน้า สร้างโดยโดยกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ มีพระบัณฑูรให้สร้างขึ้น โดยช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าเป็นผู้สร้าง และนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า) มีการอาราธนาคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร(คณะโสณะ-อุตระ) และ หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และ หรือ กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ (เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร , หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ เป็นต้น) อธิษฐานจิต ระหว่างปี พ.ศ.2400- 2428 เป็นพระพิมพ์ที่งดงามด้วยพุทธศิลป์ โดยช่างหลวงในยุคสมัยนั้นได้สรรสร้างงานชั้นดี ด้วยจินตนาการล้ำเลิศ ทั้งมีผู้ทรงภูมิธรรมสูงส่ง ได้อธิษฐานจิต ปลุกเสก ไว้สืบอายุพระพุทธศาสนา จึงเป็นมรดกทางพระพุทธศาสนาบนแผ่นดินสยาม ควรค่าแก่การอนุรักษ์และรักษาไว้ให้ลูกหลานตราบนานเท่านาน

    พระพิมพ์ของคณะพระเทพโลกอุดรนั้นทุกรูปแบบทุกพิมพ์ทรงมีอานุภาพครอบจักรวาล อาราธนาทำน้ำมนต์ประสิทธิ์ยิ่งนัก โดยให้นำเอาพระแช่ในภาชนะที่บรรจุน้ำเรียบร้อยแล้ว บูชาด้วยดอกไม้ จุดธูปเทียน แล้วอธิษฐานตามความมุ่งหมาย เสร็จแล้วให้รีบนำพระขึ้นเช็ดน้ำด้วยสำลีหรือผ้าสะอาด ผึ่งลมให้แห้งก่อนนำไปบรรจุตลับ องค์พระจะไม่ละลายลบเลือนและไม่ควรแช่ในน้ำนานเกินควร จงทะนุถนอมให้จงดี เพราะหาไม่ได้

    อีกแล้ว

    สำหรับพิมพ์อรหันต์ พิมพ์ปิดตา และพิมพ์มหากัจจายนะซึ่งเป็นองค์เดียวกันแต่ปางต่างกันหากจะอาราธนาอย่างพิศ ดารก็ย่อมกระทำได้ กล่าวคือพิมพ์อรหันต์ใหญ่ พิมพ์อรหันต์กลางและพิมพ์อรหันต์น้อย อยู่ในหมวดพระมหากัจจายนะรูปงามซึ่งเป็นรูปเดิมก่อนการอธิษฐานวรกายให้ต่อ ท้ายด้วยคาถาดังนี้
    พิมพ์อรหันต์
    โลกุตตะโร ปัญจะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา อรหันติกัจจายนะเถโร มหาโภโค มหาลาโภ รูปะวะระเชยยะสิทธิเม.
    สำหรับ สำหรับพิมพ์พระปิดตาซึ่งเป็นปางด้วยพระคาถาต่อไปนี้
    ..โลกุตตะโร ปัญจะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา ควัมปติ จะ มหาเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม.
    สำหรับพิมพ์พุงพลุ้ยที่นิยมเรียกกันว่า พระสังกัจจายน์ พระคาถาต่อไปนี้
    …โลกุตตะโร ปัญจะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา อรหันติกัจจายนะเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม .

    บทสวด แบบย่อหรืออาราธนาพระพิมพ์ (ได้ทุกทรงพิมพ์)
    โลกุตตะโร ปัญจะ มะหาเถโร อะหัง วันทามิ ตัง สะทา
    หรือภาวนา ๓ จบ , ๗ จบ , ๙ จบ (เช้า-เย็น ตื่นนอนและก่อนนอน)
    โลกุตตะโร ปัญจะ มะหาเถโร อะหัง วันทามิ ตัง สะทา เมตตาลาโภ นะโสมิยะ อะหะพุทโธ

    หมายเหตุ : คาถาบูชาพระพิมพ์อรหันต์ พิมพ์ปิดตา และพิมพ์มหากัจจายนะที่นำมาเสนอนี้ คัดลอกและเรียบเรียงเพื่อเผยแพร่ เป็นวิทยาทาน นำมาจากท่าน อาจารย์ ประถม อาจสาคร ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้​
     
  9. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    หลวงปู่ท่านจึงถอนจิตออกจากสมาธิ ซึ่งท่านบอกว่า “การปลุกเสกได้สิ้นสุดลงแล้ว ต่อไปภายหน้าจะไม่มีการปลุกเสกที่แก่กล้าด้วยพุทธานุภาพเช่นนี้อีก
    พระชุดนี้เป็นหนึ่งในแผ่นดินและอาจกล่าวว่าเป็นหนึ่งในโลกตามความประสงค์ของเสด็จวังหน้า” เสด็จวังหน้าถามท่านว่า “พระที่ปลุกเสกนี้มีคุณทางไหนบ้าง” ท่านตอบว่า “รอบตัวเข้าป่า สัตว์ร้ายพวกผีปีศาจ แม้เทพยดาก็ไม่อาจมาแตะต้องทำอันตรายได้ สามารถป้องกันความเจ็บไข้หรือไข้ป่าทั้งปวง คนเจ็บท้อง ปวดท้อง อาราธนาขอน้ำมนต์ให้กินก็หายได้ และทางอยู่ยงคงกระพันแคล้วคลาด แต่การจะให้พระนี้แก่ใคร ควรเลือกคนที่มีศีลธรรม อย่าให้แก่คนชั่วจะเอาไปทางชั่ว และอย่าแจกพร่ำเพรื่อ คนหนึ่งเพียงองค์หนึ่งเท่านั้น เหลือจากแจกข้าราชการแล้ว ก็สุดแต่เสด็จวังหน้าจะเอาไปบรรจุที่ไหน เพื่อให้คนรุ่นหลังที่มีวาสนาบารมีจะได้มารับไปคุ้มครองตน” ได้สั่งเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ร่ำลาออกเดินเพียงแวบเดียวก็หายไป​
     
  10. นวลลดา

    นวลลดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    446
    ค่าพลัง:
    +687
    เหรียญกินไม่หมด ห้าร้อยห้าสิบค่ะ
     
  11. Moon of Wanpan

    Moon of Wanpan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2013
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +1,009
    พระปิดตา 450
     
  12. นวลลดา

    นวลลดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    446
    ค่าพลัง:
    +687
    พระปิดตา 460
     
  13. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
  14. Moon of Wanpan

    Moon of Wanpan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2013
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +1,009
    พระปิดตา 500
    เหรียญกินไม่หมด 600
     
  15. suwat.su

    suwat.su เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    7,648
    ค่าพลัง:
    +55,536
    พระปิดตา 500
    เหรียญกินไม่หมด 600
     
  16. vee-lumpinee

    vee-lumpinee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +879
    เหรียญกินไม่หมด 620.-
     
  17. เด็กบางบัว

    เด็กบางบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,028
    ค่าพลัง:
    +3,476
    พระปิดตา 550 ครับ
     
  18. Sunny Moon

    Sunny Moon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2013
    โพสต์:
    1,388
    ค่าพลัง:
    +1,760
    เหรียญกินไม่หมด
    หลวงปู่ละมัย 100 บาท
     
  19. นวลลดา

    นวลลดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    446
    ค่าพลัง:
    +687
    เหรียญ700
     
  20. Smilerider

    Smilerider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    533
    ค่าพลัง:
    +1,994
    พระปิดตา 800
    เหรียญกินไม่หมด 800
     

แชร์หน้านี้

Loading...