เตรียมตัวให้พร้อม!มันกำลังมา แจ้งข่าวสารการชำระโลก

วิธีการเตรียมเสบียงอาหารสำเร็จรูป ยังชีพเพื่อเอาชีวิตรอด

505 survival
เผยแพร่เมื่อ 6 พ.ย. 2018​

อาหารเป็นปัจจัยพื้นฐาน เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมี ในกรณีเกิดเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา เราจะได้มีการเตรียมความพร้อม เพื่อรับมือกับเหตุ ที่ไม่ขาดฝันได้ เมื่อเกิดเหตุขึ้น เป็นอีกหนึ่งทางรอดที่เราควรรู้ *** อาหารมีหลายประเภท หลายรูปแบบให้เลือกตามความชอบ ของแต่ละคน ลองมาดูกันครับว่า มันมีแบบไหนกันบ้าง เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการติดต่อครับ....

 

การเปลี่ยนผ่านยุคพลังงานเก่า ไปสู่ยุคพลังงานใหม่...

ลองอ่านดูค่ะ แล้วจะเห็นภาพ.....



ปัจจุบันผู้ที่ชอบสนใจในแนวของศาสนา ได้หันมาสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้กันมาก
บทความชิ้นนี้ก็จะเป็นบทความอีกชิ้นหนึ่ง ที่พอที่จะเป็นไกด์ทางความคิด
ให้กับผู้ที่ไม่เคยหรือไม่ค่อยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ ที่จะได้พอเข้าใจ
เป็นพื้นฐาน ลองศึกษาไว้เป็นแนวพอที่จะต่อยอดทางความคิดได้บ้าง

หลังจากที่เขียนเรื่องการเปลี่ยนผ่านจากยุคพลังงานเก่าไปสู่ยุคพลังงานใหม่กันไปแล้ว ทีนี้ก็มาว่าด้วยการยกระดับพลังงานจากพลังงานเก่าไปสู่พลังงานใหม่กันดีกว่า ว่ามันจะเป็นยังไงกันแน่.....

คนที่ไม่เคยเห็นผมเขียนอะไรแบบนี้ก็ไม่ต้องเอ๊ะอ๊ะนะครับ จริงๆมันก็คือสัจธรรมเหมือนกัน เพียงแต่ใช้สมมติบัญญัติคนละชุดสำหรับคนอ่านอีกกลุ่มหนึ่งเท่านั้นเอง

เรื่องการยกระดับสู่มิติที่สูงกว่าของมนุษย์เพื่อก้าวสู่ยุคพลังงานใหม่นั้น ถูกกล่าวถึงกันมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อก่อนผมอ่านแล้วก็งงครับ แต่ถึงจุดหนึ่งก็กลับกลายเป็นว่า มันเข้าใจเองว่าคืออะไร ก็ขอสรุปเนื้อหาตามนี้เลยก็แล้วกัน

ยุคพลังงานเก่าที่ผ่านมานั้นสรรพชีวิตทั้งหลายในโลกล้วน “ติด” อยู่ในมิติที่ “หยาบ” ซึ่งต้องอาศัยกายจิต และสภาวธรรมทั้งหลายเป็นเครื่องอยู่ อยู่มากๆ นานๆเข้าก็กลายเป็นอุปาทานยึดติด จนต้องขับเคลื่อนทุกอย่างด้วยพลังกรรม เป็นไปโดยกรรม เพื่อเสวยผลแห่งกรรม อันก่อให้เกิดความอึดอัดขัดเคือง เบียดเบียนฆ่าฟัน กระทบกระทั่งกัน ไม่ว่าจะเป็นภาคหยาบอย่างมนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน หรือจะเป็นภาคทิพย์ตั้งแต่กลุ่มอบายภูมิที่ต่ำกว่าเดรัจฉานลงไปจนถึงสัตว์นรก และภพภูมิเบื้องสูงกว่าอย่างเหล่าเทวดาไล่ไปจนถึงพรหมชั้นสูงสุด สรุปรวมแล้วคือทั้ง 31 ภพภูมิล้วนแล้วแต่ติดอยู่ในมิติที 3(ภาคหยาบ) และ 4(ภาคทิพย์) ซึ่งยังถือว่าหยาบอยู่ ยังไม่พ้นไปจากกฏไตรลักษณ์ เพราะหลงลืมความเป็นจริงไปว่าธาตุทั้งหลาย ทั้งกายและใจนี้ก็เป็นเพียงวัสดุที่หยิบยืมมาทำกิจชั่วคราวเท่านั้น (เปรียบเหมือน Avatar)

ส่วนในยุคพลังงานใหม่นั้น มนุษย์ เทวดาและพรหมทั้งหลายก็จะมีโอกาสยกระดับขึ้นสู่มิติที่ 5 ซึ่งพ้นไปจากทั้ง 4 มิติแรก แต่ไม่ได้หมายความว่า มิติที่ต่ำกว่ามิติที่ 5 จะหายไปนะครับ เพราะมิติที่ 5 นี้จะนอกเหนือธาตุขันธ์หยาบๆ เป็นมิติทื่เชื่อมทุกมิติเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียวไม่แบ่งแยก

ที่บอกว่าโลกกำลังยกระดับสู่มิติที่ 5 นั้น ไม่ได้ให้ไปทำหรือปฏิบัติอะไรเพื่อตะกายขึ้นไปยกระดับอะไรนะครับ แต่ให้ปลงความยึดติดในกายในใจที่ทำให้เราติดวนอยู่ในมิติที่ 3 และ 4 ลง ปลง ปล่อย ยอม หรืออะไรก็แล้วแต่ ให้มันคลายจากอุปาทานในธาตุขันธ์ที่ยึดโยงเราอยู่กับมิตินั้นๆ เมื่อมันปลงธาตุขันธ์หมดแล้ว แม้กระทั่งกายใจก็ปล่อยให้มันเป็นธรรมของมันเองไป มันก็จะคลี่คลายหลุดพ้นจากพลังงานเก่าแล้วยกระดับขึ้นสู่มิติที่ 5 ซึ่งใช้พลังงานที่เบากว่าไปเอง

ความเป็นไปในยุคพลังงานเก่านั้นถูกขับเคลื่อนด้วยพลังงานกรรมเป็นหลัก สรรพสัตว์ทั้งหลายจึงดำเนินไปด้วยกรรม หมกมุ่นในกรรม ตอกย้ำในกรรม อัตตาจึงจัดจ้าน เพราะเชื่อว่าทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยการกระทำ จึงทำให้โลกและสังสารวัฏดำเนินไปด้วยความอึดอัดขัดเคืองการเบียดเบียนกัน การกดขี่ข่มเหงฆ่าแกงกัน มิจฉาทิฏฐิจากทุกหมู่เหล่าทำให้เกิดความขัดแย้งและเกิดการรบราฆ่าฟันกันไปทั่วโลก ซึ่งระบบที่รองรับยุคพลังงานเก่าได้อย่างเหมาะสมก็คือระบบทุนนิยม ที่เอื้ออำนวยให้กับการชดใช้และทำกรรมอย่างเต็มที่

แต่เมื่อโลกได้เปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่ซึ่งเป็นพลังธรรมที่มีลักษณะคลี่คลายกว่า ผ่อนคลาย กว้างขวางกว่า สายบารมีจากเบื้องบนจึงเชื่อมต่อลงมายังโลกเพื่อชำระล้างพลังงานเก่า(กรรม)ตามจุดต่างๆของโลกและสังสารวัฏโดยรวม มีทั้งที่ทำสำเร็จและไม่สำเร็จ ซึ่งก็มีเหตุจากหลายปัจจัย แต่เหตุหลักๆก็มาจากกรรมของมนุษย์เองที่ปิดบังสัจธรรมเอาไว้อย่างหนาแน่นนั่นเอง

การชำระล้างพลังงานเก่าที่กักขังหน่วงเหนี่ยวสรรพชีวิตทั้งหลายนั้นไม่ใช่แค่การล้างพลังงานกรรมเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการล้างระบบที่รองรับยุคพลังงานเก่าอย่างระบบเศรษฐกิจที่มีลักษณะกระตุ้นตัณหาอย่างมากด้วย โดยในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้จะเกิดภัยพิบัติในโลกมากขึ้น เพื่อบีบบังคับให้สรรพสัตว์ทั้งหลายได้รับวิบากกรรมเร็วขึ้น ยิ่งภัยพิบัติมากก็ยิ่งทำให้ระบบเศรษฐกิจอ่อนแอ แล้วก็มีการจ่ายวิบากกรรมผ่านตัวกระทำทางเศรษฐกิจที่มีอิทธิพลระดับโลก เหมือนที่เราจะเห็นว่าระบบเศรษฐกิจทุนนิยมกำลังอ่อนแอใกล้ล่มสลายเข้าไปทุกทีในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา

เศรษฐกิจอันฝืดเคืองนี้ก็จะบีบผู้คนที่อยู่ในระบบให้ใช้กรรมกันเร็วขึ้น ทำงานหนักขึ้น ปัญหามากขึ้น กดดันเคร่งเครียดมากขึ้น เพื่อให้ผู้คนได้รับวิบากกรรมตามสมควรจะได้เคลียร์กรรมเก่าให้หมด และถูกบีบให้ทุกข์หนักมากขึ้น ก็จะไปเข้าเงื่อนไขข้อแรกที่จะเข้าสู่เนื้อหาแห่งอริยสัจ 4 ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะไม่สามารถก้าวเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่ได้ ก็ต้องตายลงเปลี่ยนภูมิเพื่อชดใช้กรรมให้หมดก่อนแล้วค่อยมาเกิดใหม่ในแบบที่กรรมไม่หนามากจนเกินไป

ส่วนระบบเศรษฐกิจทุนนิยมกระแสหลักที่ไม่สามารถไปต่อได้เพราะความโลภที่กัดกินตัวมันเอง ก็จะถูกปรับเปลี่ยนไปโดยคำนึงถึงพื้นฐานความเป็นมนุษย์มากขึ้น อย่างเช่นระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียง ซึ่งก็เป็นจิ๊กซอว์ตัวหนึ่งของยุคพลังงานใหม่ เพียงแต่ยังติดขัดกับอุปสรรคบางอย่างอยู่

การเชื่อมต่อสายบารมีลงมาเพื่อชำระล้างกรรมก็มาจากการน้อมองค์คุณเบื้องสูงเป็นประธานในการสละ ชดใช้หนี้กรรม และขอขมากรรม บางคนนึกว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ เพราะไม่รู้เรื่องอจิณไตยที่อยู่คนละมิติ ก็เลยอาศัยวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความรู้ความเข้าใจเดิมๆอันคับแคบของตนจากการอ้างอิงเอาในตำรา จนกลายเป็นกรรมปิดบังอีก ซึ่งการต่อสารบารมีลงมาช่วยชำระกรรมนี้มีขึ้นเพื่อช่วยในการเปลี่ยนผ่านยุค ถ้าเคลียร์พลังงานเก่ากันไม่ทันก็เป็นไปได้ที่จะเกิดภัยพิบัติใหญ่ขึ้นมาชำระกรรมให้กับมนุษย์ สัตว์ และจิตญาณที่ยังไม่ได้ยกระดับสู่มิติที่ 5

การเชื่อมสายบารมีจากองค์คุณเบื้องสูงลงมาบนโลกนี้ก็มีอยู่ทั่วไปทุกที่ครับ ไม่ใช่แค่ที่วัดร่มโพธิธรรม แล้วแต่ว่าใครจะมีบารมีสัมพันธ์กับกลุ่มไหนก็จะถูกเชื่อมโยงไปตรงนั้นเองโดยอัตโนมัติ

ส่วนการหยาดน้ำก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการนำพาบารมีธรรมแห่งองค์คุณเบื้องสูงแผ่ไปสู่ปวงสัตว์ทั้งหลายโดยทั่วกัน ทุกจุดที่มีการหยาดน้ำ เหล่าจิตญาณก็จะได้เชื่อมต่อถึงบารมีขององค์คุณเบื้องสูงไปด้วย คลี่คลายไปด้วยกัน เป็นการชำระพลังงานเก่าอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งปฏิบัติกันเป็นอริยประเพณีที่วัดร่มโพธิธรรม

ผู้โปรดสัตว์หรือผู้เผยแพร่สัจธรรมก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยเคลียร์พลังงานเก่าให้กับสังสารวัฏได้ โดยการให้สัจธรรมที่ช่วยคลี่คลายโมหะอุปาทานผู้คนและจิตญาณทั้งหลาย ก็จะดึงดูดถ่ายเทพลังงานเก่าของผู้ที่คลี่คลายจากสัจธรรมเข้ามาชำระ ช่วยให้ผู้คนทั้งหลายหลุดพ้นคลี่คลายจากอุปาทานในกายในใจตน ยกระดับขึ้นสู่มิติที่ 5 ตามวาระของแต่ละคน ส่วนผู้โปรดฯก็จะต้องช่วยเคลียร์พลังงานเก่าที่เชื่อมโยงเข้ามาด้วยการพาจิตญาณทั้งหลายขอขมากรรม พาประกาศสละ และหยาดน้ำช่วยอุทิศบารมีให้ด้วย

กิจในการเปลี่ยนยุคนี้ยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลามากน้อยแค่ไหน อย่างเร็วก็คง 2-3 ชั่วอายุคน แต่ช่วงเวลานี้ก็จะมีผู้บรรลุธรรมมากขึ้น มีพระโพธิสัตว์ที่บรรลุธรรมมากขึ้น แต่ไม่เก็บตัวเหมือนยุคก่อนๆ ก้าวเข้าสู่เนื้อหาบารมีในการโปรดสัตว์อย่างกว้างขวางตามองค์มหาบารมี และช่วยเหลือในการเปลี่ยนผ่านยุคให้เป็นไปด้วยดี เราจึงได้เห็นผู้โปรดฯบางท่านในรูปแบบที่แตกต่างไปจากในอดีตที่ส่วนใหญ่จะเป็นพระสงฆ์ ซึ่งจะแทรกซึมไปตามส่วนต่างๆของสังสารวัฏได้ดีกว่าชนิดที่ไม่แบ่งโลกแบ่งธรรมเหมือนในอดีต นัยว่าแบ่ง segment กันทำงานโปรดสัตว์ก็ว่าได้ ซึ่งอริยบุคคลกลุ่มนี้ก็จะเป็นต้นแบบในการออกจากความวกวนคับแคบในยุคพลังงานเก่าไปสู่ยุคพลังงานใหม่ให้แก่ผู้คนในวงกว้าง

การดำเนินไปของยุคพลังงานใหม่ก็จะเป็นไปโดยกรรมน้อยลง แม้ว่าอาจจะไม่ได้บรรลุธรรมกันหมดทุกคน แต่ก็เป็นไปด้วยกรรมที่เบาบางกว่า ตรงเนื้อหาธรรมมากขึ้น ผ่อนคลายยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น การแบ่งแยกแตกต่างในโลกจะน้อยลง โลกธาตุก็จะสงบสุขมากขึ้นตามไปด้วย ความขัดแย้งหรือทะเลาะเบาะแว้งเพราะทิฏฐิที่เคยจัดจ้านก็ค่อยๆจางคลายไป ทำให้ผู้คนทั้งหลายทิฏฐิใส่กันน้อยลง เข้าใจโลกและสังคมมากขึ้นไปเอง

แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็จะไปทำเอาสร้างเอาไม่ได้ ต่อให้ปฏิบัติเอายังไงก็ติดอยู่แค่มิติหยาบๆ จะไปปรับเปลี่ยนเปลือกนอกยังไงมันก็ได้แต่เปลือก แต่เนื้อหาก็ยังไม่ใช่ ต้องปลงทิ้งตัวตนที่ซ้อนธาตุขันธ์ลง ก็จะแจ้งในสัจธรรมไปเอง กว้างขวางผ่อนคลายไปเอง เปลี่ยนผ่านเป็นมนุษย์ในยุคพลังงานใหม่ไปเองจากภายใน แล้วเปลือกภายนอกก็จะปรับเปลี่ยนตามไปด้วยอย่างสัมพันธ์กัน

ขอขอบคูณ เครดิตบทความจาก www.rombodhidharma.net

 

เออ..นี่ จิตยิ้ม.ขอถามหน่อยดิ

ไอ้...มหาสุญญตา ที่เป็น สนามแม่เหล็ก อันละเอียดอ่อน ที่ แก กล่าวอ้างมาเนี่ย...ใครเป็นคนสร้างมันขึ้นมา.?
..
ต้องมีผู้สร้างนะเว้ย...
ถ้าไม่มีผู้สร้าง แกจะมากล่าวอ้าง ว่ามีตัวมีตน มีองค์แม่มารดา เป็นเจ้าของไม่ได้นะเว้ย มันจะไม่สมเหตุสมผลเอานะ

หรือแกจะบอกว่า องค์แม่มารดาของแกที่แกอุปโลกขึ้นมา เป็นผู้สร้าง
ต้องบอกที่มาที่ไปได้นะเว้ย...
..
ใครสร้าง.?

 

จะดับมันทิ้ง ทั้งอนันตจักรวาลเลย เบื่อ จิตจักรวาลน่ะ อิอิ
ดับมหาสุญญตาด้วยนะ ถ้ามันมีจริง อิอิ

 

เออ นางจิตยิ้ม ถามอีก..
แกว่า อนัตตา มันเล็กไป..อนัตตารวมกัน เป็น มหาสุญญตา
ทีนี้ มหาสุญญตา ดัน เป็นสนามแม่เหล็ก อันละเอียดอ่อน ไปได้
แล้ว
นิพพาน มันอยู่ ตรงไหน.?
สนามแม่เหล็กอันละเอีนดอ่อน มาจากไหน..?

ตกลง แกจะตั้ง ลัทธิขึ้นมาใหม่ งั้นหรือ.?
...

 

พระยาธรรมิกราช ที่แกนับถือ อยู่นี่..เป็นจิตของมนุษย์ต่างดาวชัดๆ
แกโดน จิตต่างดาว หลอกเอาซะแล้ว...นี่ตกลง แกเป็นจิตมารดา
ส่วนจิตต่างดาวคนนั้น เป็น จิตบิดา...
...
แกระวังดีดีนะ จิตต่างดาวพวกนี้ มันดูดพลังงานของแก นะ
อย่าหาว่า...หล่อไม่เตือน อิอิ

 

ไปโดนต่างดาวหลอก อีกแล้ว..น้องแก้ว ไม่เข็ด
ก่อนเคยช้ำใจ เพราะ....?

 

ต่างดาวที่เป็นสัมมาทิฐิ ยังนับถือ เคารพ พระพุทธะเจ้า พระธรรม พระสงฆ์

พระยาธรรม ของแก มัน เป็นต่างดาวมิจฉาทิฐิ...แกไม่ เอะใจบ้างรึไง
ว่าพระยาธรรมของแก...มันมองข้าม ..พระพุทธะเจ้าไปเลย
มันเอา จักรวาลมาล่อลวงแก..
ระวัง มันจะให้แกเป็นนางแก้วของมัน อิอิ

 

ไอ้ที่เคยโดนหลอกลวง มีมาเยอะแล้ว
โดยเฉพาะต่างดาวตัวที่ อ้าง ปริศนานกยางนี่แหล่ะตัวดีเลย
ชอบอ้างรหัสนั่นรหัสนี่...
ชอบอ้างสัญญาลักษณ์ต่างๆ
ดูดวงคนนั้นคนนี้ ทักนั่นทักนี่
อ้างตนเป็นตัวจริง ต้อง ไม่พูดมาก..
อิอิ

 

ต่างดาวตนนี้ มันจับจุดออ่อนใจใจคน
มันแสร้งทำเป็นคนดี..ให้แกตายใจ
มันมีวิชา มากมาย ..
รู้ไปหมดเรื่องจักรวาล
ไม่รู้อยู่เรื่องเดียวคือ นิพพาน
....
ถ้ามันพูดสำเนียงลาวชัยภูมิ ล่ะก้อ ระวังตัวเลย
อิอิ...

 

ถ้ามันเริ่มยืมตังค์แกล่ะก้อ ระวังให้ดี
จะเสียทั้งตัว เสียทั้งเงิน
ต่างดาวตัวนี้เล่ห์เหลี่ยมมันแพรวพราว
แต่ ก็ดีนะ
แกจะได้เป็นพยาน...จับผิดต่างดาวไง
...
พะยาทำโมะ...ต่างดาวบ้ากาม

 

เดี๋ยวมันจะอ้างว่า ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้เป็นของปลอม
ข้ออ้างอีกข้อ ที่มันไม่เปิดตัว เพราะกลัวโดนจับ หาว่าเป็นกบถผีบุญ
ถ้ามันมาในแนวนี้ แสดงว่า...แกโดน หลอกแล้วล่ะ

 

จิตยิ้ม...แกเป็น เหยื่อล่อ นกยาง...เหยื่อชั้นดี เลยนะ
พะยาทำโมะ คือ นกยาง

ว่าแต่แกเถอะ เสร็จพะยาทำโมะรึยัง อิอิ
อย่าให้พลาดเชียวนา มเหสีของพะยาทำโมะ เท่นะ

 

เจ้าของกระทู้ก็เป็นแบบนี้มานานแล้วขอรับ...ยากที่จะรักษาได้ข้าพเจ้าเองก็เคยพยายามแล้ว...

เอาการปฏิบัติสมถะวิปัสนาไปรวมกับหลักวิทยาศาสตร์ส่วนมากมันก็จะเป็นแบบนี้ทุกรายไปขอรับ...

 

ต้องให้ลองผิดลองถูกด้วยตนเองไปก่อนขอรับ...ให้เห็นทางเองนั่นแหละถึงจะเชื่อตามเป็นจริงที่ตถาคตได้ชี้บอกทางไว้ขอรับ...

 

โห..นี่ นางจิตยิ้ม ไปอยู่มุมไหน ใครเขาก็พยายามรักษาแก ทั้งนั้น
แล้วนี่ตัวแก ไม่คิดจะรักษาตัวแก มั่งหรือไร
รึอยากเป็น นางแก้วของพะยาทำ จนตัวสั่น
..
ถ้ายังไง ก็ หลอก เอา จานบิน จาก ต่างดาวมาซักลำไห้ได้นะ
อิอิ

 

จิตยิ้มเนี่ย ป่วยเป็นโรคขาดความอบอุ่น
มันขาดคนรัก รู้ใจ มันเลยเหงามาก
มันเหงามากจนกลายเป็นมหาสุญญตา
เลยตั้งตนเป็น องค์มารดา..ล่อเหยื่อหา องค์บิดา
..
อิอิ

 

ขอบคุณคะ 5555 เป็นอย่างไรหรือคะ!!
ดีเลยค่ะ ....ตนเองจะได้รู้ด้วย

ตั้งแต่ที่จิตยิ้มได้พบสัจธรรมนะคะ การปฏิบัติของตนเองก็จะเป็นไปในแนว สติปัชัญญะ คือ รู้อารมณ์ ความนึกคิด ความรู้สึก เข้าใจอารมณ์และลดละนิสัยค่ะ เพื่อจำกัดกรรมให้เบาบางลงซึ่งเกิดขึ้นกับตนเองที่เป็นไปเองอย่างอัตโนติ และก็ได้รู้ว่านี่คือ.... แนวทางการปฏิบัติสมาธิยุคพลังงานใหม่ตามที่จิตจักรวาลกล่าวไว้เลยค่ะ (บางคนสงสัยใช่ไหมคะ ว่าอย่างไร?) เป็นแนวทางขัดเกลาจิตใจ ค่ะ

หลักการฝึกฝนที่สำคัญที่ได้กล่าวไว้... มนุษย์จะต้องใส่ใจให้ได้ว่า อารมณ์แต่ละอย่างที่เกิดขึ้นมาแต่ละวันนั้น มันเกิดขึ้นได้อย่างไร เพื่อตนเองจะได้หาทางหลีกเลี่ยงมันไปทีละอย่าง จากนั้นมนุษย์ต้องหาความจริงให้ได้ว่า ตัวเองปฏิบัติต่อสิ่งเร้าที่ยั่วยุอารมณ์นั้นอย่างไร?

ซึ่งการปฏิบัติแนวนี้ เป็นสมาธิยุคพลังงานใหม่ คือธรรมชาติสมาธินั่นเองที่จิตยิ้มเข้าใจค่ะ

ซึ่งจะตรงกับข้อความที่เคยกล่าวอ้างอิงไว้ก่อนหน้านี้ค่ะ

เมื่อเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่....ก็จะคลี่คลายหลุดพ้นจากพลังงานเก่าแล้วยกระดับขึ้นสู่มิติที่ 5 ซึ่งใช้พลังงานที่เบากว่าไปเอง (นี่คือ การคลี่คลายพลังงานกรรมเก่า)

ความเป็นไปในยุคพลังงานเก่านั้นถูกขับเคลื่อนด้วยพลังงานกรรมเป็นหลัก สรรพสัตว์ทั้งหลายจึงดำเนินไปด้วยกรรม หมกมุ่นในกรรม ตอกย้ำในกรรม อัตตาจึงจัดจ้าน

ชำระกรรมนี้มีขึ้นเพื่อช่วยในการเปลี่ยนผ่านยุค ถ้าเคลียร์พลังงานเก่ากันไม่ทันก็เป็นไปได้ที่จะเกิดภัยพิบัติใหญ่ขึ้นมาชำระกรรมให้กับมนุษย์ สัตว์ และจิตญาณที่ยังไม่ได้ยกระดับสู่มิติที่ 5

ดังนั้น....หน้าที่ของมนุษย์ยุคพลังงานใหม่....

คือกุญแจดอกใหญ่ที่จักรวาลได้ชี้แนวทางการดำเนินชีวิตสู่ "ความสงบสุขและสันติ"

ตามที่จิตจักรวาลได้ว่า ถ้าเกิดภัยพิบัติใหญ่ใครจะเป็นผู้รอดพ้น....

รูปธรรมมนุษย์ที่มีวิบากกรรมหนัก ๆ ไม่เกิน 30% ติดตัวอยู่ คือผู้ที่จะได้รับการยกเว้นจากการปฏิบัติการในครั้งนี้แน่นอน ขณะที่แผ่นดินทั้งหมดที่มีอยู่ ก็จะถูกลดลงไป 1 ส่วน เช่นเดียวกัน (ถ้ามนุษย์ทุกคนไม่สามารถนำความดีงามในจิตใจ คือ พลังงานบวก มอบให้แก่กันและกันได้เพื่อช่วยเหลือโลก )


ท่านสงบก็น่าจะเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญนั้นด้วย....

งั้นเรามาคุยกันเรื่อง สมาธิยุคพลังงานเก่า กับสมาธิยุคพลังงานใหม่ แตกต่างกันอย่างไร? ดีไหมคะ....

 

นี่ นางจิตยิ้ม ฉันมีข้อแนะนำ ให้แก รู้ตัว...
ทำแบบนี้.

ให้แก อ่าน.โพสล่าสุด ความเห็นล่าสุดของแก..แล้ว จำเอาไว้ ว่า นี่คือแก ในปัจจุบัน..
แล้วทีนี้..แกสมมุติตนเองว่า เป็นคนธรรมดาคนนึง..ให้แก ไปเริ่ม อ่าน โพสแรก ของกระทู้นี้..ให้แก ดู ความแตกต่างของตนเองว่า จากวันนั้น..มาถึงวันนี้ แก มีความคิด ความรู้สึก ที่ เปลี่ยนไปอย่างไร เมื่อมีคนมาคุยด้วย แกมีอารมณ์ ความรู้สึก อย่างไร
ให้แก กลับไปดู ความเป็นตนเอง....จากโพสแรก..ไล่มา จนถึง โพสสุดท้าย
แล้วแก จะเห็น...ความเป็นไป ของตัวเอง..

 

5555 คำตอบอันละเอียดและลึกซึ้งต้องรอ อ.วรณ์ณิ เข้าถึงด้วยตนเองค่ะ