เดียวนี้คนเสื่อมศัทธาในศาสนากันมาก

แม้อธิบายได้ไม่หมด ก็ไม่ใช่สาระ
ปัญญาแค่ใบไม้ในกำมือ ก็เพียงพอในยุคที่คนเขลาใช้เข้ากระแส

 

จริงดั่งที่ท่านว่า กิเลสมันกรัดไกว่
เหมือนลิงที่ต้องจับล่ามโซ่นะท่าน

 

งั้นก็ขออนุโมทนา<!-- / message -->

 

แจ่ม

คุณติดปีกไม่ใช่คนประมาท

สาธุครับ

 

มันเป็นอดีตไปแล้ว

 

ท่านก็ลึกซึ้ง

 

บุคคลทั่วไป 1
ทุกข์หาได้จากท้องถนน เนอะ หุหุ

 

อดีตที่ไม่ดูดาย ท่านมาช่วยชี้แนะ

 

สวยใช้เล่นเลยนะผู้หญิงคนนี้ ทำหน้าเหมือนคนกำลังมีความรัก(ping)

 

อะไร ผี เสื้อ วันนี้ วัน เสาร์ ออกมาให้เพื่อน เห็นหน้ามั้ง ไง

 

อตีดคือเมื่อกี้ เห็นไหมเป็นอดีตอีกแล้ว

 

ครับอดีตก็อดีต งั้นก็อยู่กับปัจจุบันดีกว่าเน้อ

 

*** ขาดกำลังใจ ****

คนทำกัน ไม่ได้จริง...เพราะ ขาดสัจจะ
ไปตั้งใจ เอ่ยวาจาจะทำ....ในสิ่งที่เกินตัว

สัจจะ...สัญญาทำในสิ่งที่เป็นไปได้
ก้าวทีละขั้น...พิจารณาจิตใจ ความคิด การกระทำของตนไปเรื่อยๆ
สัจจะ....จะทำอะไร แค่ไหน ตัวเองกำหนดให้ตนเอง
ทำได้จริง...ภูมิใจ มีกำลังใจ
จึงทำใหม่ ทำซ้ำ....ขยายผล

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

อดีตคือปัจจุบันที่ผ่านไปทุกขณะจิต
อนาคตคือปัจจุบันที่ยังไม่เคยมาถึง
แล้วปัจจุบันจะมีอยู่ที่ใด?

 

จิตเป็นลูกตุ้ม ดั่งนาฬิกาที่แกว่งไปมา
คอยบอกเวลา ตอกย้ำเตือนใจ
หมุนเวียนเปลี่ยนไปตลอดเวลา

 

สิ่งหนึ่งสู่สิ่งหนึ่ง ที่เห็นซ้ำๆคือจิตปรุง
ที่จริงมีแต่ปัจจุบันทุกขณะใจ
เพราะความทรงจำมี จินตนาการมี อนาคตและอตีดจึงมี

 

กลไกของจิต ย่อม รับ จำ คิด รู้
สิ่งที่ปรุงแต่งย่อมแสดงออกทางพฤติกรรม
มโนกรรม วจีกรรม กายกรรม
หากมนุษย์รู้จัก คิดดี ทำดี พูดดี มีสติ
ย่อมประเสริฐยิ่งแล้ว

 

ส่วนใหญ่จิตมักปรุงอารมณ์ ไปตามรูปที่มากระทบ
ปุถุชนผู้เสพกิเลสจึงมักปล่อยใจให้ไหลไปตามกาลนั้นๆ
มโน วจี กาย สามช่องนี้ก่อเกิดกรรมมากมาย ทั้งกุศล และ อกุศล

โอวาทสาม
การละอุศลทั้งปวง สร้างกุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิด ทำจิตให้ผ่องใส
อันที่จริง ก็อยู่ในศีล สมาธิ ปัญญา รวมมาที่ สติ