เชิญแลกเปลี่ยนเรื่องเล่าและแบ่งปันภาพความประทับใจในไทยและต่างแดนคร่า

รู้ทันจังนะเจ้าน้องสาวคนนี้ ยางมะตื่น 555 ตื่นมาก็มีอาหารหน้าตาดีมารอเลยเชียว น้ำลายสอเลยอ่า

 

ยัยจังวางกับดักไว้ทุกทู้เลยนะเนี่ย โอ้ยหิววววว

 

ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2553 ดิฉันได้มีโอกาสไปประชุมเกี่ยวกับโครงการที่ได้รับทุนจาก JICA ที่เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่นค่ะ ภาพแรกที่จะให้ชมนั้น เป็นภาพดอกซากุระ ที่อยู่ใกล้ๆ กับโรงแรมที่พักค่ะ

 

วัดนี้อยู่ใกล้ๆ กับที่พักค่ะ

 

โรงแรมที่พักนี้ จะอยู่ใกล้กับ วัด Ginkakuji หรือ วัดเงิน ค่ะ ซึ่งเป็นวัดที่ได้รับการบันทึกเป็นมรดกโลก เป็นส่วนหนึ่งของอนุสาวรีย์

ทางประวัติศาสตรแห่งเมืองเกียวโต พวกเราคนไทยที่ไปด้วยกันชวนกันเดินไปค่ะ เดินไปประมาณ 3-4 กิโลเมตรค่ะ เนื่องจากภาพ

ที่ถ่ายมาส่วนใหญ่จะมีคนอยู่ในภาพค่ะ อยากให้เห็นวัดเงิน ก็เลยต้องนำภาพที่มีภาพคนอยู่ด้วยมาวางให้ชม ขอเบลอหน้าเล็กน้อยค่ะ

ไม่อยากเปิดเผยตัวต่อสื่อจนเกินไปค่ะ อิอิ...ค่าเข้าชม500 เยนค่ะ ในภาพคือ ศาลาคันนน มักเรียกกันว่า ศาลาเงิน (Ginkaku)

ที่มาของคำว่า วัดเงิน....ถ้าวัดทอง ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับท่านอิคคิวซัง นั้น คือวัดทอง หรือ วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji Temple)

เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองเกียวโต ในการ์ตูนเรื่องอิคคิวซัง ปราสาทนี้เป็นที่พำนักของโชกุนอาชิคางะ โยชิมิซึ ต่อมาเมื่อโชกุน โยชิมิซึ

เสียชีวิต ลูกชายก็เปลี่ยนเป็นวัดแบบเซนแทน ซึ่งดิฉันไม่ได้ไปค่ะ และจริงๆ แล้ววัดที่ท่านอิคคิวอยู่นั้น คือ วัด Shuon'an Ikkyuji

อยู่ที่ Takigi Satonouchi, Kyotanabe city, Kyoto ซึ่งอยู่นอกตัวเมืองเกียวโตไปทางนาราค่ะ ก็ไม่ได้ไปเช่นกันค่ะ เพราะอยู่

ไกลออกไปจากที่พัก ที่ประชุมมาก และดิฉันมีเวลาจำกัดค่ะ ชมวัดเงินแทนละกันนะคะ

 

สระน้ำในวัดเงินค่ะ น้ำใสแจ๋วเลยค่ะ มีคนโยนเหรียญอธิษฐานลงไปด้วยค่ะ

 

ต้นไม้ที่อยู่โดยรอบบริเวณวัดค่ะ

 

ขากลับออกจากวัดเงิน เราก็เดินอีกเส้นทางหนึ่ง เราก็ได้พบกับหมู่ซากุระที่บานแล้วบางส่วนค่ะ โชคดีจริงๆ ค่ะ

 

สวยงามจริงๆ ค่ะ

 

เดินไปเรื่อยๆ เมื่อยก็หยุดถ่ายภาพค่ะ

 

ไม่รู้บริเวณนี้ เป็นสถานที่อะไรค่ะ มีความสวยงามเช่นกันค่ะ เลยอดใจไม่ได้ ต้องเก็บภาพเอาไว้ค่ะ

 

ภาพนี้เป็นอาคารหนึ่งที่พวกเราคนไทยเดินผ่าน เพื่อไปมหาวิทยาลัยเกียวโต ในเช้าอีกวันหนึ่ง กำแพงของสถานที่นี้

เขาทำให้มีลายกำแพงเข้ากับต้นซากุระที่อยู่ภายในค่ะ พอดีภาพมีสายไฟ และมุมที่ถ่ายเอียง ก็เลยนำภาพมาปรับ

ให้ตรง และพยายามตัดเอาภาพที่ติดสายไฟออกไปค่ะ เพื่อไม่ให้ภาพแหว่งเลยทำขอบภาพขึ้นมาค่ะ

 

ในที่สุดเราก็เดินมาถึง มหาวิทยาลัยเกียวโต แล้ว

 

หลังจากประชุมเสร็จ ก็เย็นแล้วค่ะ เราพากันไปชมเมืองค่ะ และในวันนั้น เราไปพบกับหิมะหลงฤดูค่ะ

 

แล้วเราก็ได้พบกับซากุระแสนสวยต้นนี้ค่ะ

 

ภาพนี้สวยค่ะพี่มณี สวยมั่กๆ หมายถึง.. คนนะ..มะช่ายวิวข้างหลัง อิอิ

 

หิวกันแล้วค่ะ ก็เดินเข้าไปในย่านการค้าค่ะ ระหว่างที่เดินไป หิมะตกตลอดค่ะ ทั้งหนาว ทั้งเปียก กันเลยค่ะ แต่เราก็ฝ่ากันไปค่ะ

ความรู้สึกเมื่อสัมผัสกับหิมะนั้นคือ เหมือนเขาโปรยน้ำแข็งใสลงมาจากฟ้าค่ะ ปกติแล้วช่วงนี้ของปีที่แล้ว จะไม่มีหิมะแล้วค่ะ

วันนี้ เป็นวันพิเศษจริงๆ คนไทยมาเยือนเกียวโตกันกลุ่มใหญ่ หิมะเลยหลงฤดูค่ะ อิอิ..... ไม่เฉพาะคนไทยนะคะที่ตื่นเต้น

คนญี่ปุ่นเองก็แสดงความตื่นเต้นออกมาเช่นกันค่ะ จนคนไทยแปลกใจกันว่า เขาตื่นเต้นเพราะอะไร มีน้องที่เขาเรียนจบ

ด็อกเตอร์ที่ญี่ปุ่นมาด้วยกันกับเราด้วย ก็ได้บอกให้เรารู้ว่า เพราะมันไม่เคยเกิดขึ้นบ่อยๆ เป็นความพิเศษจริงๆ ค่ะ

 

ในที่สุดกลุ่มเราที่เดินกันมานั้น ก็ตัดสินใจกันว่า เข้าร้านขนมญี่ปุ่นละกัน เพราะอยากจะสัมผัสกับการกินชาเขียวแบบญี่ปุ่นแบบของแท้

และดั้งเดิมค่ะ จากภาพ ขนมนี้ เป็นแป้งเหมือนแป้งโมจิ มีไส้ถั่วแดง มีน้ำตาลราด กินกับชาเขียวชามข้างๆ กินแล้ว อร่อยมว๊ากกกกกก

รสชาติของขนมที่หวานๆ แป้งก็หนุบหนับ ชาเขียวอุ่นๆ ขมนิดๆ ซึมซับไปที่ลิ้น ช่างเข้ากั๊น เข้ากันค่ะ จากที่หนาวๆ เพราะตากหิมะ

มานั้น ก็อบอุ่นขึ้นมาทันใดค่ะ

 

อีกชามคล้ายๆ ลอดช่องสิงคโปร์ค่ะ แต่ว่าเหมือนจะมีส่วนผสมของชาเขียวนะคะ ก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ

 

หลังจากนั้น เราก็ไปชมดอกซากุระในยามค่ำคืนกันค่ะ ภาพชุดนี้ มีแต่ภาพที่มีนางแบบทั้งนั้น

เลยค่ะ ก็เลยขอเบลอหน้านะคะ อยากให้ได้ชมภาพยามค่ำคืนค่ะ สวยงามไม่แพ้กลางวันเลยค่ะ