เชิญบูชาพระเครื่องหลากหลาย อาจาร์ย ในราคาแบ่งปัน

รายการที่ 66

ปลัดขิก หลวงพ่อกลั่น วัดอินทราวาส จารเพียบ

ให้บูชาที่ 300 บาท

เด่นทางโชคลาภ เสน่ห์ แค่รอยจารก็คุ้มแล้ว ขนาดแค่ปลายนิ้วก้อย พกพาง่าย

 

รายการที่ ุ67

เหรียญหลวงพ่อโสธร เงินลงยาสีเขียว ๒๕๐๙

ให้บูชา 3000 บาท

เป็นเนื้อเงินลงยาครับ สภาพพอใช้ เอาไว้บูชาครับ สวยๆเป็นหมื่นครับ ปีลึก รุ้นนิยม

 

รายการที่ 68

เหรียญหลวงพ่อโสธร ๒๔๘๕ หลังธรรมจักร เก่า น่าสะสม

*****ให้บูชาไปแล้วครับ*****

พระสวยปีลึกครับ สร้างก่อนผมเกิดอีก ไว้ใช้ครับ พุทธคุณเกินราคา

 

รายการที่ 69

รูปหล่อ ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก

ให้บูชาที่ 1250 บาท

ผู้สร้างผ้ายันต์ ม้าเสพนางอันลือลั่น มาบูชารูปเหมือนท่านอีกสักอย่าง ราคาเบากว่าผ้ายันต์เยอะครับ

 

รายการที่ 70

รูปเหมือน ร ๕ หน้ากระเบื้อง หลังเงิน น่าสะสม คลาสสิก

ให้บูชาที่ 1500 บาท

ปลุกเสกโดย หลวงพ่อเกษม เขมโก น่าบูชา คลาสสิก
สวยงาม มากๆ

 

รายการที่ 71

เหรียญในหลวง ฉลองอายุครบ 3 รอบ

ให้บูชาไปแล้วครับ

 

รายการที่ 72

เหรียญหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง จ.อยุธยา

ให้บูชาที่ 550 บาท

เก่ามากครับ ออกก่อนปี ๒๕๐๐ แน่ๆ กะหลั่ยทอง สวยงาม

 

รายการที่ 73

เหรียญหลวงพ่อเดิม เนื้อเงิน ไม่ทราบปี

ให้บูชาเบาๆ 400 บาท

ไม่รู้ประวัติ แต่ประกันว่าเป็นเงินครับ

 

รายการที่ 75

พระเนื้อดินไม่ทราบที่ เลี่ยมเงินเดิมๆ

ให้บูชาที่ 500 บาท

พระดี มีอาจาร์ย ไม่ทราบที่ ราคานี่รวมกรอบเงิน ไม่แพง

 

รายการที่ 76

ยอดขุนพล วัดโพธิ์นิมิตร ๒๕๒๗

ให้บูชา 700 บาท

หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิตร วัดนี้อยู่ใกล้ตลาดพลู ในสมัยที่หลวงพ่อฑูรย์ มีชีวิตอยู่จะมีผู้นับถือไปหาท่านกันมาก เพื่อขอให้หลวงพ่อช่วยในเรื่องการปรับดวงชาตา แก้ไขอุปสรรคในชีวิต โดยเฉพาะเรื่องน้ำมนต์ของท่านเด็ดขาดมาก เวลาท่านทำพิธีอาบน้ำมนต์ให้ลูกศิษย์ ในสมัยที่ท่านแข็งแรงท่านจะเป็นผู้ลงมืออาบให้ด้วยตนเอง เวลาอาบก็ใช้ตุ่มน้ำในกุฏิของหลวงพ่อนั่นแหละครับ ผมเคยไปอาบน้ำมนต์ประมาณปี2524-7 ตนนั้นหลวงพ่ออายุได้ 70กว่าปีจะไปอาบทุกปี ตอนท่านอายุได้ 72ปีผมก็ยังไปร่วมงานหลวงพ่อ และโชคดีได้ตะกรุดยอดขุนพล 1 ใน 72 ( ตอนบูชามาจากวัดตอนนั้นดอกละ 200บาท จำแม่นครับ นับว่าราคาสูงมาก ช่วงที่บูชาพระกริ่งรุ่นสี่ ปี 2518 ก็ยังเหลืออยู่ที่วัด ถ้าจำไม่ผิดราคาก็ประมาณนี้แหละครับ) มาด้วยครับ ตะกรุดของท่านผมเคยบูชาติดตัวประสบการณ์เป็นเลิศ เรื่องเมตตา แคล้วคลาด สุดยอดจริงๆ บูชาห้อยติดตัวอยู่หลายปี ประสบการณ์เยี่ยมจริงๆไม่โม้นะครับ ตอนอายุเริ่มมากขึ้น ถอดเครื่องรางทุกอย่างออกหมด เพราะลำคาญเวลาเดินทางไปต่างประเทศ พอเข้าเครื่องสแกนจะโดนตรวจเจอ เคยมีครั้งหนึ่งพกเครื่องรางเป็นแพะหลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก ไปเที่ยวที่ฮาวาย ฝรั่งตรวจละเอียดเลยครับทั้งถอดเสือและถอดรองเท้า ตั้งแต่นั้นมาเลยเก็บเครื่องรางไว้บูชา สำหรับน้ำมนต์ ผมคิดว่าหลวงพ่อฑูรย์ ทำได้ศักดิ์สิทธิ์มากๆ เพราะรู้สึกว่าอาบแล้วดี น้ำมนต์ของท่านเย็นเฉียบ แม้ว่าอากาศข้างนอกไม่หนาวก็แปลกดีครับ หลวงพ่อฑูรย์ เป็นพระที่มีเมตตาสูงมาก ไม่เลือกชั้นวรรณะ ใครมาหาจะรวยหรือจน ท่านให้การต้อนรับอย่างดี ท่านเป็นพระที่เก่งแบบคมในฝัก ไม่อยากดัง จะทำตัวแบบสมถะ ในสมัยก่อนท่านมักจะได้รับนิมนต์ไปปลุกเสกให้ที่วัดต่างๆมากมาย หลวงพ่อเป็นพระที่สนิทกับหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพีล เพราะว่าวัดอยู่ใกล้กันและรู้จักกันดี หลวงปู่โต๊ะ เคยมาปลุกเสกพระให้วัดโพธินิมิตหลายครั้ง หลวงพ่อฑูรย์ ถือว่าเป็นลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดของสมเด็จพุฒาจารย์(นวม) วัดอนงคาราม หลวงพ่อฑูรย์ เป็นชาวสุพรรณบุรี เกิดปี 2453 ได้บรรพชาตั้งแต่เป็นเณรที่วัดสุวรรณภูมิ ปี2470 ต่อมาได้อุปสมบทเป็นพระเมื่อปี2473 โดยมีพระโพธิวงศาจารย์(นวม) วัดอนงคาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อบวชแล้วหลวงพ่อฑูรย์ ได้ศึกษาอยู่กับพระอุปัชฌาย์ และคงได้เรียนวิชากับพระเกจิดังๆในสมัยนั้นอีกหลายองค์ หลวงพ่อฑูรย์ ได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธินิมิตร ตั้งแต่ปี่2493 ซึ่งตอนนั้นวัดนี้อยู่ในสภาพทรุดโทรมมาก ซึ่งในปีนี้เองหลวงพ่อฑูรย์ ก็ได้เริ่มสร้างวัตถุมงคลเป็นครั้งแรก เพื่อหารายได้เข้าวัด เช่น พระสมเด็จเกษมงคล พระกริ่งหน้ายักษ์ เป็นต้น หลวงพ่อฑูรย์ ได้รับสมณศักดิ์สุดท้ายเป็นพระราชาคณะวิสามัญ เมื่อปี2517 เป็นพระโพธิสังวรเถร หลวงพ่อฑูรย์ มรณภาพมีอายุได้ 82ปี เมื่อ 25 พฤษภาคม 2535

ร้านขอแนะนำ ขุนแผนยอดขุนพลเนื้อชิน พิมพ์ใหญ่ หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิตร สร้างปี 2527 มีพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ พระขุนแผนยอดขุนพลเนื้อชิน พิมพ์ใหญ่ ที่นำเสนอเป็นพระแบบปั้มดังนั้นจะมีความสวยงาม คมชัด พระรุ่นนี้ดีมากในด้านชนวนมวลสาร เพราะหลวงพ่อฑูรย์ ได้นำพระกรุรุ่นเก่าๆที่ชำรุดของสุพรรณบุรี ตะกรุดเก่าๆ แผ่นยันต์ มาหลอมรวมในพระรุ่นนี้ด้วยครับ เรื่องพุทธคุณพระยอดขุนพล หลวงพ่อฑูรย์ บูชาดีใช้แทนขุนแผนบ้านกร่างได้สบายๆ ในเรื่องเมตตามหานิยม ดูเหมือนพระหลวงพ่อฑูรย์ จะได้เปรียบกว่า อันนี้พูดจากประสบการณ์ส่วนตัว เพราะผมเองก็เคยห้อยบูชาพระของกรุบ้านกร่างในสมัยจบมหาลัยใหม่ๆ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าเวลาห้อยบูชาจะมีความรู้สึกอึดอัด เลยถอดเก็บออกจากสร้อยคอ แต่พระของหลวงพ่อฑูรย์ ที่เคยสัมผัสและบูชาด้วยตนเอง เป็นพระในสายเย็น บูชาแล้วปลอดโปร่ง ไปที่ไหนก็มีแต่คนเมตตา โดยเฉพาะตะกรุดยอดขุนพล บอกได้คำเดียวว่าสุดยอดเมตตามหานิยมเท่าที่เคยเจอด้วยตนเอง ดังนั้นพระขุนแผนยอดขุนพล ที่เข้าพิธีเดียวกันคงไม่ต้องบรรยายมาก ปัจจุบันแม้ว่าพระเครื่องหลวงพ่อฑูรย์ จะไม่ใช่พระตลาดซื้อง่ายขายคล่อง แต่ถ้าใครชอบพระดีๆพุทธคูณสูงแบบชัวร์ เราขอแนะนำด้วยใจจริงว่าท่านเอาขุนแผนยอดขุนพล ไปบูชาติดตัวรับรองว่าไม่ผิดหวังจริงๆ

 

รายการที่ 77

สมเด็จนาคปรก ขนาดใหญ่กว่า วัดปากน้ำ นิดหนึ่ง ไม่ทราบที่

ให้บูชาที่ 350 บาท

 

รายการที่ 78

พระลีลาเนื้อดิน เลี่ยมเงิน และเลี่ยมพลาสติก ไม่ทราบที่้

ให้บูชาที่ 500 บาท

 

รายการที่ 79

พระกริ่งชินบัญชร หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.อยุธยา ตอกโค๊ต และ หมายเลข สร้าง 1193 องค์ เท่านั้น


ให้บูชา 1200 บาท

ประวัติ น่าใช้สุดๆ องค์นี้ เนื้อ นวะ ก้นอุดชานหมาก

พระกริ่งชินบัญชรรุ่นนี้ ได้ถอดแบบจากพระกริ่งชินบัญชรของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ได้อย่างลงตัว สุดยอดมวลสารที่ใช้หล่อเป็นองค์พระ ประกอบไปด้วย
- พระกริ่งชินบัญชรองค์จริง เนื้อนวโลหะของหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่ ที่มูลค่าเป็นแสนบาทหล่อเป็นชนวน
1 องค์
- พระกริ่งปรโม ของหลวงปู่เริ่ม 3 องค์
- พระกริ่งชินบัญชรหลวงปู่วิเวียร วัดดวงแข 9 องค์
- ชนวนพระกริ่งท่านเจ้าคุณศรี (สนธ์) วัดสุทัศน์ปี 2493 พร้อมทั้งพระกริ่งนายควง 1 องค์
- ชนวนชินราชอินโดจีน 2485 พร้อมชินราชอินโดจีน 5 องค์
- พระกริ่งมหาจักรพรรดิ ปี 15
- ชนวนพระพุทธชินราชที่สมเด็จพระเทพฯ เสด็จเททอง
- ชนวนเหรียญสมเด็จโต วัดระฆังฯ ผู้เป็นต้นกำเนิดพระคาถาชินบัญชร รุ่น 100 ปี รุ่น 108 ปี รุ่น 122 ปี
- เหล็กยอดเจดีย์
- ชนวนหล่อเกศพระประธาน
- ชนวนหล่อองค์หลวงพ่อพระมหาจักรพรรดิ์
- แผ่นจารพระคาถาชินบัญชรจากพระเถระ 8 ทิศ 8 มุมเมืองทั่วประเทศ
- แผ่นจารจากพระคณาจารย์ทั่วประเทศ 993 แผ่น
- แผ่นจารพระยันต์บังคับตำรับการสร้างพระกริ่งนะปถมัง 14 นะ ยันต์ 108 ล้วน

อลังการด้วยพิธี "มหาชัยมังคลาภิเษก" เดี่ยวแบบเต็มๆ ในกุฏิของหลวงปู่ทิมยิ่งเพิ่มความพิเศษสูงค่าหาประมาณมิได้ และไม่ใช่ง่ายนักที่จะเกิดพระกริ่งชินบัญชรของหลวงปู่ทิม วัดพระขาว ครั้งนี้จึง สำคัญและพิเศษที่สุด

 

รายการที่ 80

พระกริ่งตั๊กแตน รุ่น1 หลวงปู่เที่ยง วัดพระพุทธบาทเขากระโดง
ยอดเกจิสายเขมรโบราณ ยอดโลหะขอม และหินลาวาภูเขาไฟ

๑๑๑๑๑ให้บูชาไปละครับ๑๑๑๑๑

พระกริ่งตั๊กแตน รุ่น1 หลวงปู่เที่ยง วัดพระพุทธบาทเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ สร้างจากเนื้อโลหะขอมโบราณ, ระฆังเก่านับร้อยปี และเทวรูปโบราณอายุนับพันปี ผสมหินลาวาภูเขาไฟ นำมาเป็นส่วนผสมหลักจึงได้เนื้อโลหะสัมฤทธิ์ที่มีอายุเก่าแก่ถึงยุคยากที่จะทำเรียนแบบได้ ใต้ฐานอุดกริ่ง ด้านหลังตอกโค้ดอักขระขอมตัวยันต์ "อุ" ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2534

ในการจัดสร้างวัตถุมงคลแต่ละครั้ง หลวงปู่เที่ยงท่านจะปราณีตพิถีพิถันทุกรายละเอียด ตั้งแต่การนำพระกริ่งตั๊กแตน ยุคเขมรโบราณมูลค่าหลายแสนบาทมาทำการถอดพิมพ์เพื่อทำต้นแบบ การเลือกการคัดสรรมวลสารโลหะที่จะใช้ รวมถึงการปลุกเสกอย่างเข้มขลังจริงจัง

พุทธคุณ : เมตตามหานิยม มหาอำนาจ มหาอุตม์ และโภคทรัพย์


ประวัติ หลวงพ่อเที่ยง (พระครูสัจจานุรักษ์ ปภังกโร)

สถานะเดิม

ชื่อ เที่ยง อารมณ์ เกิดวันพฤหัสบดี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 2 ปีมะเส็ง วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2484 บิดาชื่อนาย เสด มารดาชื่อ นางมั่น อารมณ์ บ้านเลขที่ 108 หมู่ที่ 12 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

บรรพชาอุปสมบท

วันเสาร์ ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 6 ปีจอ วันที่ 16 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2513 วัด อิสาน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จนถึงวันนี้ 43 พรรษา อายุ 72 ปี

หลวงพ่อเที่ยง ปภังกโร เป็นชาวบุรีรัมย์โดยกำเนิด ท่านเรียนจบแค่ประถมปีที่ 4 จากนั้นก็ช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำนามาตลอด ช่วงชีวิตในวัยรุ่นไม่ค่อยมีอะไรผาดโผนเท่าไรนัก เพราะเป็นคนขยันทำมาหากินอย่างเดียว

กระทั่งอายุ 29 ปี ท่านจึงเข้าอุปสมบทที่วัดอีสาน โดยมีพระเมธีธรรมาภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อบุญมา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อจำรัส เป็นพระอนุสาวนาจารย์ อุปสมบทแล้วมาอยู่จำพรรษาที่วัดพระพุทธบาทเขากระโดง หลวงพ่อเที่ยง ศึกษาวิทยาคมและวิปัสสนากรรมฐานอยู่หลายปี จนเชี่ยวชาญเสมอด้วย หลวงพ่อบุญมาทีเดียว ซึ่งได้รับการแนะนำว่า ถ้าจะบรรลุถึงธรรมปฏิบัติที่แท้จริงแล้วจะต้องออกธุดงค์ เพื่อหาความวิเวกฝึกจิตสมาธิให้กล้าแข็ง ท่านจึงออกเดินธุดงค์จาริกหาความวิเวกไปตามป่าดงดิบทั้งไทย พม่า และเขมร

ต่อมา หลวงพ่อบุญมาถึงแก่มรณภาพ.......ท่านได้เดินทางกลับมาเพื่อช่วยจัดการเกี่ยวกับศพของหลวงพ่อบุญมา และพระอธิการบุญเย็น พระอาวุโสในวัดได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสองค์ต่อมา
หลังจากนั้น หลวงพ่อเที่ยงก็ออกธุดงค์อีก คราวนี้ขึ้นไปทางเหนือ จุดหมายปลายทางคือ ฝั่งเมียวดี ประเทศพม่า ท่านผ่านทางแม่สอด จ.ตาก แล้วข้ามฟากมุ่งสู่ยอดดอย "ลิ้นกี่" ฝั่งเมียวดี แล้วเข้ากรรมฐานรักษาศีลปฏิบัติธรรมอยู่ที่นั่นเป็นเวลาเกือบปี

และวันหนึ่ง ท่านใด้พบกับพระลาวรูปหนึ่งชื่อว่า หลวงมหาตันอ่อน เป็นพระเถระจากเมืองเวียงจันทร์ ซึ่งเชี่ยวชาญในคาถาอาคม ออกธุดงค์มานับสิบๆ ปีแล้ว ท่านทั้งสองได้แลกเปลี่ยนวิทยาคม และความรู้ด้านปฏิบัติสมถะสำหรับในด้านคาถาอาคมนั้น พระมหาตันอ่อนก็เปรียบเสมือนครูอีกคนหนึ่งของหลวงพ่อเที่ยง ท่านได้สั่งสอนวิทยาคมต่าง ๆ ให้กับหลวงพ่อเที่ยงอย่างไม่ปิดบัง กระทั่งใก้ลเข้าพรรษา ท่านทั้งสองก็ต้องแยกจากกันเพื่อหาที่พักจำพรรษารับอนิสงส์ตามประเพณี พอออกพรรษา หลวงพ่อเที่ยงก็แบกกลดคู่ชีพธุดงค์มุ่งหน้าสู่เขาพระวิหารเพื่อบำเพ็ญเพียรสร้างสมบารมี

ที่เขาพระวิหารนี้ ท่านได้พบกับพระเถระของเขมรระดับเกจิหลายรูปด้วยกัน ได้ฝากตัวเป็นศิษย์รับการถ่ายทอดวิชาการต่าง ๆ อย่างเต็มที่ หลวงพ่อเที่ยงธุดงค์เข้าไปในเขมรพร้อมกับพระอาจารย์อุทัยเพื่อนสหธรรมมิก พบกับพระเกจิอาจารย์ขมังเวทชาวเขมรได้รับความเมตาสั่งสอนถ่ายทอดวิทยาคมต่าง ๆ อย่างไม่ปิดบัง จนสำเร็จอภิญญาทางอิทธิฤทธิ์ หรือสมถกรรมฐานนั่นเอง ท่านรอนแรมธุดงค์อยู่ในป่าเสียมากก่วาจะอยู่ในเมือง พยายามที่จะทำวิปัสสนาธุระให้ได้ และศึกษาความรู้จากพระอาจารย์ต่าง ๆ นั่นเอง

เมตตามหาลาภ หาใครทาบเท่าเทียบท่าน
เผื่อแผ่แก่ศีลทาน บริจาคมากคณา
เครื่องรางและของขลัง ศิษย์ใหลหลั่งเที่ยวเสาะหา
หนังเสือเหรียญมนต์ตรา อีกพกพา ตะกรุดดี
เทพแท้ภูเขาไฟ ดังไปไกลทั่วทุกที่
พ่อเที่ยงเกจิดีแห่งบุรีรัมย์


วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2531 บนยอดเขากระโดง อันเป็นภูเขาไฟที่ดับมานับพัน ๆ ปี อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งของวนอุทยานเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กลุ่มข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดสี่ห้านายพร้อมด้วย ชาวบ้านอีกหลายคนใด้ขึ้นไปชุุมนุมกันอยู่ที่นั่น... ชื่อของบรรดาข้าราชการจังหวัดบุรีรัมย์นั้น ท่านขอให้สงวนเอาไว้ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางอย่าง แต่ชาวบ้านที่พอจะเปิดเผยใด้ก็มี คุณวรพจน์ ลิ้มพานุกิจ คุณอุทัย ใจชื่น และคุณกลิ่น โนนสังกาศ เป็นชาวตลาดในเมืองบุรีรัมย์

เขามาชุมนุมทำอะไรกัน? การกระทำครั้งนี้ ในตอนแรกต้องการปกปิดเป็นความลับ เพราะไม่อยากให้ใครใด้รู้เห็น แต่หลังจากผ่านการทดลองไปแล้ว ความลับทั้งหลายจึงถูกเปิดเผยขึ้น มีสิ่งหนึ่งแขวนอยู่กับกิ่งไม้ นั่นก็คือ ตะกรุด ดอกหนึ่ง ซึ่งชาวคณะได้นำมาจาก วัดพระพุทธบาทเขากระโดง เป็นของ หลวงพ่อเที่ยง ปภังกโร พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งดินแดนที่ราบสูง ได้รับจากมือมาก็เอามาลองกันเลย เพื่อที่จะดูว่าแน่จริงสมคำร่ำลือหรือเปล่า...........

ใครจะเป็นคนยิง ? เสียงผู้อาวุโสคนหนึ่งในคณะถามขึ้น ข้าราชการสังกัด นปพ. อาสาเป็นผู้ยิงเดินเข้าหาตะกรุดพร้อมด้วยปืนพกกึ่งอัตโนมัติขนาด 11 มม. ในมือ มีเสียงทัดทานของใครคนหนึ่งเตือนมาข้างหลัง.....เดี๋ยวเถอะมึง ได้รู้ว่าหมู่หรือจ่า หลวงพ่อท่านบอกห้ามลองของนะโว้ย!!! เฮียเงียบเถอะ เขากำลังจะเอาจริงเอาจัง. เสียงห้ามจากอีกคนยืนอยู่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ

การทดลองวัตถุมงคลต่าง ๆ ของหลวงพ่อเที่ยงนั้นเป็น ข้อห้ามอย่างเด็ดขาด เพราะจะนำเอาสิ่งไม่ดีมาสู่ตัวเอง แต่คณะทดลองของขลังนี้ก็ยอมเสี่ยงด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าของที่ได้มานั้นดีจริง เนื่องจากเห็นพิธีการสร้างแล้วน่าทึ่งแปลกพิสดารล้ำลึก ชนิดที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนเลยนั่นเอง เริ่มตั้งแต่พิธีบวงสรวงเทพารักษ์ และดวงวิญญาณของพญาเสือโคร่ง ซึ่งน่าขนลุกขนพอง หลังจากนั้นก็มีการลงอักขรยันต์ลงบนหนังเสือโคร่ง กว่าจะเสร็จกินเวลานานมาก แล้วมาถึงพิธีปลุกเสกพระคาถากำกับ หัวใจเสือ เป็นอันแล้วเสร็จ ตะกรุดพญาเสือโคร่งมหาอำนาจ
ปากกระบอกปืนถูกจ่อห่างจากตะกรุดดอกนั้นประมาณ 2 ฟุต ทุกคนกลั้นลมหายใจอย่างตื่นเต้น เดี๋ยวจะใด้รู้กันว่าของหลวงพ่อนั้นแน่แค่ไหน แต่ก็มีเสียงทักท้วงขึ้นอีก หัวหน้าทีมสั่งให้เปลี่ยนปืนที่จะใช้ยิงเป็นปืนวอลเว่อร์แทน เพราะเก็บกระสุนที่ด้านง่ายกว่าปืนออโต้ ซึ่งจะต้องกระชากลำเลื่อนเพื่อคายกระสุนปืนที่ด้านออกจากรังเพลิงทำให้เสียเวลา เอาล่ะยิงใด้ !! มือปืนกระตุกไกยิงทันที แชะ...แชะ...!! ยิงไม่ออก กระสุนด้าน เฮ้ย ซัดให้หมดโม่ไปเลย !! เสียงหัวหน้าทีมกำกับบท มือปืนจาก นปพ. จึงสับไกรวดเดียว แชะ...แชะ...แชะ...แชะ...!! น่าอัศจรรย์..กระสุนชุดนั้นไม่ลั่นเลยแม้แต่นัดเดียว ! หัวหน้าทีมน้ำเสียงสั่น สั่งให้หันปากกกระบอกปืนไปทางอื่นแล้วลองยิงดู เปรี้ยง...เปรี้ยง...!! ทุกคนตกตะลึงเมื่อเสียงปะทุแตกของกระสุนปืนขนาด .38 ดังกึกก้อก มือปืนยังไม่แน่ใจแหงนลำกล้องขึ้นฟ้าอีกสองนัด มันก็ระเบิดออกมาไม่เหลือ

นั่นเป็นการพิสูจน์ที่ทุกคนมั่นใจทันที เมื่อกระสุนนัดที่ 4 สิ้นเสียงลง หัวหน้าทีมปราดเข้าไปเก็บเอาตะกรุดทันที. ตะกรุดดอกนี้ของผมโว้ย แสนหนึ่ง ก็ไม่ขายว่ะ !! เพราะว่าเป็นตะกรุดดอกที่ลองยิงนั่นเอง ทำให้ราคาพุ่งพรวดขึ้นไปตามความหวงแหนของเจ้าของ. เย็นนั้นที่ไปลองตะกรุดกันก็มาที่ร้านอาหารในตัวเมืองบุรีรัมย์ หลังจากที่เข้าไปขอเช่าตะกรุดเอาไว้อีกคนละหลาย ๆ ดอก ความจริงจะเอากันมากกว่านั้น แต่หลวงพ่อบอกว่าเอาไว้ให้คนอื่นเขาบ้างจะได้ทั่วถึง แยกจากร้านเหล้าแล้ว หัวหน้าทีมก็กลับมานอน แล้วคืนนั้นเองสิ่งที่หลวงพ่อเตือนเอาไว้ก็เกิดขึ้น
ขณะที่หลับสนิทได้ฝันว่ามี เสือโคร่ง ตัวใหญ่มหึมาตัวหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง ตรงเข้าไปหาแล้วกระโดดขึ้นคร่อมร่าง แยกเขี้ยวยิงฟันขาววับ ก่อนจะตะปปกรงเล็บอันแหลมคมเข้าใส่อย่างไม่ปรานีปราศรัย ท่านตกใจร้องเสียงลั่นบ้านจนคนในบ้านตื่นกันหมด มีคนในบ้านพังประตูเข้าไปพบว่าท่านนั่งตัวสั่นงันงกอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าซีดขาวเม็ดเหงื่อโซมหน้า. เมื่อสติกลับคืนมา ท่านก็นึกถึงคำสั่งของหลวงพ่อที่ว่า ห้ามลองของเป็นอันขาดเพราะเอาไปลองนั่นเอง ไม่เชื่อคำสั่งจึงทำให้พญาเสือโคร่งโกธร พอรุ่งเช้า ท่านจึงรีบบึ่งรถไปหาหลวงพ่อที่วัด พอเจอหน้าท่าน หลวงพ่อเลยเอ่ยถามว่า ? เจออะไรดีมาหรือ ? ท่านก็เล่าเรื่องทีฝันเห็นเสือโคร่งมาทำร้ายให้ฟัง โดยไม่กล่าวถึงเรื่องที่ไปลองตะกรุดกันเมื่อวานนี้ หลวงพ่อหัวเราะและย้อนถามไปว่า

ถามจริง ๆ เถอะ เมื่อวานไปทดลองยิงตะกรุดดูใช่ไหม ? หลวงพ่อรู้ใด้อย่างไรครับ ? ท่านย้อนถามด้วยความแปลกใจ เพราะเรื่องนี้สั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้บอกใคร ฉันสร้างของฉันมาเองแล้วทำไมจะไม่รู้ว่าใครเอาไปทำอะไรที่ใหน ท่านจึงได้สารภาพว่าเอาไปลองยิงกันจริง และยิงไม่ออก ตนเองไม่ใด้ตั้งใจดูแคลนนับถือหลวงพ่อมาก แต่ที่เอาไปลองก็เพื่อจะเอามาเปิดเผยให้ประชาชนทั่วไปทราบกันว่า ของหลวงพ่อดีมากน้อยแค่ไหนเท่านั้น. หลวงพ่อจึงกล่าวเตื่อนว่า การกระทำเช่นนี้ ทำให้วิญญาณพญาเสือโคร่งโกรธมาก ทีหน้าทีหลังอย่าทำอีกเด็ดขาดเก็บตะกรุดเอาไว้ให้ดี เขาจะช่วยเราได้ในยามคับขัน !?

ข้าราชการท่านนั้นก็ก้มลงกราบบอกกับหลวงพ่อว่า นับตั้งแต่นี้จะไม่ลองของ ของหลวงพ่ออีก และนับถือสนิทใจแล้วว่า ของหลวงพ่อนั้นเยี่ยมจริง ๆ ข้าราชการท่านนั้น ยังได้พบประสบการณ์รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์อีกถึงสองครั้งขณะที่คนอื่นเสียชีวิตหมด ครั้งหนึ่งขณะที่เข้าไปในดงชุมโจร เพื่อรับตัวมือปืนถูกซุ่มยิงเข้ามาในรถปิกอัพ ทุกคนรวมทั้งคนขับตายเกลี้ยง แต่ตัวท่านรอดมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร มีเพียงรอยกระสุนเป็นจ้ำ ๆ สามสี่แห่งที่ลำตัว. อีกครั้ง รถที่นั่งไปประสานงานกับรถสิบล้อ คนที่นั่งมาด้วยอีกสองคนตายคาที่ ส่วนท่านบาดเจ็บเล็กน้อย แต่กว่าจะเอาตัวออกมาจากซากรถที่พังยับเยิน ต้องเอาเลื่อยมาตัดถ่างเหล็ก ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ถึงเอาตัวออกมาได้

ก่อนหน้าที่ หลวงพ่อเที่ยงจะเป็นที่รู้จักกันทั่วทั้งภาคอีสาน และดังระเบิดขึ้นมาท่านได้สร้างวัสถุมงคลขึ้นมาอย่างหนึ่ง ทำให้ชื่อเสียงของท่านจารึกอยู่ในโสตประสาทของบรรดาผู้ที่แสวงหาเครื่องรางของขลังในด้าน อยู่ยงคงกระพัน นั่นก็คือ...ตะกรุดเกราะเพชร... เมื่อปี พ.ศ. 2522 หลวงพ่อพระอธิการเย็น เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทเขากระโดงองค์ที่ 2 ซึ่งสืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อจาก หลวงพ่อบุญมา ได้มรณภาพลง หลวงพ่อเที่ยง กลับจากธุดงค์ จึงต้องมารับหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดพระพุทธบาทเขากระโดง เป็นองค์ที่ 3 หลวงพ่อเที่ยง ยึดถือแนวปฏิบัติเดิม เคร่งในวิปัสนากรรมฐาน และความสันโดษ ปฏิปทาของท่านเริ่มเป็นที่รู้จักและเลื่อมใสในหมู่ผู้คนชาวบุรีรัมย์ก่อน แล้วบอกกันต่อไป ใครที่มาบุรีรัมย์ก็จะได้รับคำแนะนำให้ไปกราบขอพรเพื่อความเป็นมงคล ผู้คนที่มากราบไหว้แล้วกลับไปเกิดความสบายใจ ก็ทำให้ผู้คนหลั่งไหลกันมาที่วัดพระพุทธบาทเขากระโดงเพิ่มมากขึ้นทุกวัน

ขอขอบพระคุณข้อมูลประวัติจาก : เว็บไซต์เกจิสยาม

 

รายการที่ 81

พระกริ่งมหาโชค หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ ๒๕๓๕

ให้บูชาที่ 2500 บาท

ปลุกเสกโดยหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ ชื่อเป็นมงคล เนื้อนวะ มาพร้อมกล่อง

 

ขอจองครับพี่

 

รายการที่ 82

เหรียญกรมพระยาดำรงราชานุภาพ วาระกระทรวงมหาดไทย 100 ปี

พระกริ่งราคาไปไกลละครับ ใช้เหรียญก็ได้ครับราคาต่างกะพระกริ่งเยอะครับ พระกริ่งไป ครึ่งแสนแล้ว

ให้บูชา 800 บาท

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ประสพการ์ณพระกริ่งดำรงราชานุภาพ
วันนี้วันเสาร์ผมอยากคุยแบบสบายๆ แม้ว่าสภาวะในประเทศไทยตอนนี้จะตึงเครียดหลายๆด้าน สัปดาห์ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบกับการแต่งตั้ง นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็น ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผมรู้จักมักคุ้น คุณวิบูลย์ มาตั้งแต่เป็น เลขานุการกรมการปกครอง ครั้งสมัยที่อาจารย์ ชูวงศ์ ฉายะบุตร เป็นอธิบดีกรมการปกครอง เรื่องหนึ่งที่ผมจำฝังใจและเคยนำมาบอกเล่าข้าราชการมหาดไทยคือเรื่องอภินิหาร พระกริ่งดำรงราชานุภาพ ในคอของ คุณวิบูลย์ ที่พกอาราธนาติดตัวมาตลอดเป็นพระกรุงเก่า ของแม่ที่ให้มาคือ เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติฯ และอีกองค์หนึ่ง ที่ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าจะพกหรือไม่คือพระกริ่งดำรงฯ พระกริ่งดำรงฯ ประวัติเป็นมาคือเมื่อครั้งที่ นายพิศาล มูลศาสตร์สาทร เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงมหาดไทยจะก่อตั้งครบ 100 ปี ท่านปลัดพิศาล อยากจะสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาเพื่อเป็นที่ระลึกและหาเงินเพื่อตั้งกองทุนสวัสดิการช่วยเหลือข้าราชการมหาดไทย ปลัดพิศาล ก็นำพระกริ่งจีนนอก ที่ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยพระองค์แรก ทรงใช้พกติดตัวมาเป็นแบบ ถอดออกมาแล้วก็เรียกกันว่า พระกริ่งดำรงฯ และเปิดให้ข้าราชการมหาดไทยเช่าหา มีทั้งเนื้อทองคำ และเนื้อทองแดง เรื่องของเรื่องอยู่ที่ตำนานของพระกริ่งดำรงฯ มีเสียงร่ำลือในหมู่ข้าราชการมหาดไทยว่า ถ้าใครพกบูชาพระกริ่งดำรงฯ แล้วละก้อ จะมีวาสนาได้เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ที่เป็นคนเล่าขาน จนกลายเป็นเรื่องร่ำลือ เป็นตำนาน ก็คือ คุณวิบูลย์ สงวนพงศ์ นี่แหละครับ คุณวิบูลย์ บอกว่าสมัยที่เป็น นายอำเภอ มี รองผู้ว่าราชการจังหวัด ทางภาคอีสานคนหนึ่งมาบ่น รำพึงว่ารับราชการติดแหงกที่รองผู้ว่าฯมาหลายปี เริ่มสิ้นหวังที่จะเป็นผู้ว่าฯ คุณวิบูลย์ก็เลยแนะไปว่าให้ลองหาบูชาพระกริ่งดำรงฯ มาอาราธนาพกพา รับรองได้เป็นแน่ แล้วก็จริง จะด้วยเหตุบังเอิญหรือไม่ก็ตาม ตุลาคมปีนั้นท่านรองผู้ว่าฯก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดทันที!! ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของมหาดไทย พอรู้ก็พากันเชื่อไปตามๆกัน แล้วก็สมหวังกันทั้งนั้น และผมเองก็เอาตำนานนี้มาบอกกับ ผู้อำนวยการกอง คนหนึ่งในสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เพราะท่านมาบ่นหลายครั้งว่าไม่มีเส้นสาย ไม่ใช่พวกสิงห์ดำ สิงห์แดง คงไม่มีวาสนาก้าวหน้าเป็นรองผู้ว่าฯหรือผู้ว่าราชการจังหวัด ก็บอกว่าให้ลองไปหาพระกริ่งดำรงฯมาบูชา แม้มันจะนานแล้ว ก็ให้อธิษฐานว่าถ้าได้เป็นใหญ่เป็นโต ขอให้บูชาพระกริ่งดำรงฯให้ได้ แล้วบังเอิญว่ามีพระเหลืออยู่อีก 1 องค์ที่ฝ่ายสวัสดิการของ พี่อุ๋ย นฤมล ปัจจุบันท่านเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน แค่ผ่านไปสองเดือนเท่านั้น ผอ.คนนี้ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัด และทะลุเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งๆที่ไม่ได้จบจากคณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ หรือธรรมศาสตร์ ท่านคือวรสิทธิ์ โรจนพานิช อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา มีอีกคนหนึ่ง ตอนนั้นรับราชการเป็นแค่ หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ เงินเดือนก็ไม่มากนัก พอรู้เรื่องร่ำลือนี้ ก็ชวนผมไปหาพี่อุ๋ย แต่พระกริ่งราคา 1 พันบาทตอนนั้นถือว่าแพง ท่านก็เลยเช่า เหรียญสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ มา แล้วชวนผมไปด้านหลังกระทรวงกลาโหม เอาเหรียญสมเด็จไปชุบทอง และไปเลี่ยมพลาสติกมาแขวน ท่านบอกว่าไม่มีเงินก็ใช้เหรียญนี่แหละอธิษฐานขอจากสมเด็จฯท่าน ขณะนี้ท่านเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ชื่อวิศวะ ศศิสมิต นี่คืออภินิหารของพระกริ่งดำรงฯ และวันนี้ คุณวิบูลย์ สงวนพงศ์ เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย

 

รายการที่ 83

พระพุทธญาณเรศ 1 ตค 2528

*****ให้บูชาไปแล้วครับ*****

ปลุกเสกโดย สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศ ปีลึกครับ

 

รายการที่ 84

พระพุทธชินราชรุ่นรักแผ่นดินเกิด สวยมากๆครับ มีโค๊ต น่าสะสม

ให้บูชาที่ 400 บาท

พระพุทธชินราช เนื้อผง หลังภปร.ทองคำ

โครงการ "เพราะแผ่นดินนี้ คือ แผ่นดินเกิด"รายได้ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อทรงใช้สำหรับโครงการในพระราชดำริตลอดจนเพื่อใช้พัฒนาการแพทย์และการสาธารณสุขของประเทศไทย

ประกอบพิธีมังคลาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) และพระวิหาร วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (จังหวัดพิษณุโลก) ในเดือนธันวาคม 2548
มูลนิธิวชิรเวทวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดสร้างโดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นำพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. ประดิษฐานไว้ด้านหลังองค์พระพุทธชินราชและพระราชทานมวลสารผงจิตลดาเป็นส่วนผสมในการจัดสร้าง"ผงจิตรลดา" นับเป็นยอดยิ่งแห่งมวลสารจากวัตถุมงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างขึ้นด้วยพระราชศรัทธาอย่างลึกซึ้งในพระพุทธศาสนา ด้วยเครื่องผสมอันเป็นของสูงตามตำราโบราณ อาทิ ดินจากสังเวชปูชนียสถาน เปลวทองคำพระพุทธรูป ผงธูปหน้าแท่นบูชาจากปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์ทั่วราชอาณาจักร อาทิ หน้าแท่นบูชาของพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ พระพุทธโสธร ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร องค์พระปฐมเจดีย์ พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช พระธาตุดอยสุเทพ พระธาตุพระปรางค์วัดอรุณฯและมวลสารส่วนพระองค์อันเนื่องมาจากการประกอบพิธี อาทิ ดอกไม้แห้งจากมาลัยที่ประชาชนทูลเกล้าฯ ถวายเมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) และได้ทรงแขวนไว้ที่องค์พระ ตลอดจนกว่าจะมีการเปลี่ยนเครื่องทรงใหม่ ดอกไม้แห้งที่ทรงคล้องพระมหาเศวตฉัตร และด้ามพระขรรค์ชัยศรีในพระราชพิธีฉัตรมงคลตลอดจนสิ่งที่นับว่าสำคัญที่สุดอันประเมินค่ามิได้คือ เส้นพระเจ้า (เส้นผม) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผสมอยู่ด้วย จึงกล่าวได้ว่า "ผงจิตรลดา" เป็นยอดยิ่งแห่งมวลสารที่เปี่ยมด้วยพุทธคุณและเมตตามหานิยม อันเป็นที่ตั้งสูงสุดของปวงชนชาวไทย

นอกจากนี้คณะกรรมการ ยังได้อัญเชิญพระเบญจภาคีอันเป็นสุดยอดพระเครื่องชั้นนำของไทยมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดสร้างครั้งนี้ อันได้แก่ พระสมเด็จวัดระฆัง ซึ่งได้รับสมญานามว่าเป็น "ราชาแห่งพระเครื่อง" พระนางพญา จ.พิษณุโลก พระกำแพงซุ้มกอ จ.กำแพงเพชร พระรอด วัดมหาวัน จ.ลำพูน และพระผงสุพรรณ วัดพระศรีมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี

จึงนับได้ว่าการจัดสร้างพระพุทธชินราช (จำลอง) ในครั้งนี้มีความพิเศษยิ่งกว่าครั้งใดในประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นสุดยอดสิ่งอันเป็นมงคลและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของไทย ได้แก่ ผงจิตรลดา และพระเบญจภาคี เข้าไว้ด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระผงชินราชที่จัดสร้างในครั้งนี้ มีลักษณะงดงามเป็นพิเศษด้วยการจัดสร้างอย่างพิถีพิถันทั้งจากความวิจิตรประณีตในการแกะสลักองค์พระพุทธชินราชในลักษณะนูนสูง รวมถึงการบรรจงปัดทองลงบนองค์พระจนเหลืองอร่ามทั้งองค์ ด้านหลังประดิษฐานพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร.งดงามล้ำค่าพระผงชินราชแบบทองคำแท้ และแบบเงินมีหมายเลขกำกับทุกองค์

พิธีกรรมมหามงคล ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก 3 วัน 3คืน แบบพิธีมหาจักรพรรตราธิราช ณ วัดพระศรีมหาธาตุฯ จ.พิษณุโลก โดยมีพระคณาจารย์ผูทรงคุณ 108 รูป สวดเจริญพระพุทธมนต์เต็มสูตร และมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วทุกภาค 108 รูปนั่งปรกปลุกเสก

 

รายการที่ 84

รูปเหมือนสมเด็จพุฒาจาร์ยโต หลวงปู่นาค วัดระฆัง น่าสะสม

ให้บูชา 500 บาท

หลวงปู่นาค วัดระฆัง สร้างไว้ครับ ทันยุค น่าสะสม