เจตสิก ๕๒ เกิดพร้อมกับจิต ดับพร้อมกับจิต รู้อารมณ์เดียวกับจิต อาศัยวัตถุเดียวกับจิต

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Samarnl, 14 กรกฎาคม 2012.

  1. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    ไม่ใช่ตรงนั้นหรอกที่เป็นประเด็น

    แต่มันอยู่ที่การจรรโลง ว่าช่วงไหนจังหวะไหน จะทำความรู้จักแบบนั้นแบบนี้

    จะจรรโลงให้เข้ามาได้อย่างไร
     
  2. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ก็พิจารณาสิค๊าบ นี้ก็ตอบไปบ่อยมากแล้ว

    สุตะ ฟังมา

    มนสิการ พิจารณามา

    พวกนี้เป็นอาหาร เป็นปัจจัยทั้งนั้น ข้ามไม่ได้หรอก

    ฟังน้าปราบก็ รู้ๆอยู่ ว่าจะหลับตาท่าเดียว

    เรื่องศึกษา เรื่องฟัง เรื่องพิจารณาไม่เอาเลย ถูกไหม

    ท่านก็ลำดับให้แล้วว่า รู้มาผิด ย่อมเข้าใจผิด พูดผิด ระลึกผิด เพียรผิด ภาวนาผิด

    ของน้าปราบ นี่เล่นจากท้ายสุดไปหาหน้าสุดรึเปล่าเอ่ย
     
  3. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ไว้มาใหม่นะน้องโหน่ง ล้อเลื่อนอีกแล้ว :cool:
     
  4. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    น้าปราบว่า นั่งหลับตานี้ต้องมีศรัทธาไหม

    เช่นเดียวกัน ผู้ที่ตัดสินใจศึกษา จะด้วยกำลังจิตที่เข้มแข็งเห็นประโยชน์ หรือกำลังจิตน้อย ฟังมาว่าเรียนแล้วดี ก็ตาม

    ท่านเหล่านั้นมีศรัทธาไม่หย่อนไปกว่าน้าปราบเลย

    บางท่านอายุมากแล้ว นั่งอยู่กับบ้านก็ได้ แต่เพราะศรัทธามาก ความเพียรมาก

    จึงขวนขวายศึกษาก็มีอยู่ เพื่อให้ญาณสัมปยุตเนืองๆ

    เพื่อเจริญอินทรีย์ไม่ให้ยิ่งหรือหย่อนไปกว่ากันเลย

    ก็อย่าไปเหมาว่าพระธรรมที่พวกเขาศึกษานั้นไม่ใช่สิ่งจรรโลงใจ

    ก็อย่าเหมาว่าผู้ศึกษาธรรมนั้นจะไม่จรรโลงใจ ไม่จรรโลงธรรม เลย

    ไม่จำเป็นต้องแบ่งแยกเลย ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 กรกฎาคม 2012
  5. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    [​IMG]

    ยังมีให้สะดุ้งอีกเยอะครับ ^^
     
  6. ลูกบัวผัน

    ลูกบัวผัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +295
    เมื่อก่อนนะเฮ้ย คิดว่า นายนิวรณ์ คุยด้วยยากที่สุด ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว

    ไปเว็บไหน เขาพูดถึง แต่นายโชแปง นายหลงฉันเลยตามเข้ามา

    เกือบไปแล้วกรู *-* สลับ ID หนุกๆ ดีฟ่า
     
  7. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    มีเวปอื่นด้วยหรอ

    ไม่เคยไปโพสเวปอื่นเลย เข้าใจคลาดเคลื่อนแล้วครับ ^^
     
  8. ลูกบัวผัน

    ลูกบัวผัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +295
    เปล่าหรอก สมาชิกในนี้เอาไปพูดกันที่เว็บอื่นน่ะ เยอะด้วยนะ เจ้เลยตามมาดู
     
  9. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    แล้วดูเสร็จรึยังล่ะครับ จะได้ทำหน้าที่ต้อนรับขับสู้ที่ดี ^^
     
  10. ลูกบัวผัน

    ลูกบัวผัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +295
    ไม่ต้องหรอก เอาตัวเองให้รอดก่อน ถือว่าดีแล้ว

    ต้องขอโทษด้วยต้องไปทำงานแล้ว
     
  11. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    อย่าไปรู้รสก่อนชิม
    อย่าไปปฏิเสธกลิ่นก่อนดม
    เพียงรู้มาแต่ไม่เคยได้เห็น ใจเย็นๆค่อยๆพิจารณา
    จิตของปุถุชนเหมือนน้ำย่อมไหลลงที่ต่ำเสมอ
     
  12. JitJailove

    JitJailove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    736
    ค่าพลัง:
    +741
    ไม่ว่ามีอะไรเข้ามา อันดับแรกนะ
    ปุถุชนหนีไม่พ้น มันต้องยึคไว้ก่อนอันดับแรก
    หนีไม่ได้แน่นอน ยังต้องยึคไว้ก่อนเป็นปกติ
    แล้วจะ โยนิโส หรือ จะเป็น อโยนิโส
    ค่อยว่ากัน
     
  13. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    [​IMG]

    ดีใจมากๆไม่เป็นหมันแล้ว คงมีคนทำคลอด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 กรกฎาคม 2012
  14. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=2 width=700><TBODY><TR><TD>๑) ผัสสเจตสิก เป็นธรรมชาติที่กระทบกับ สิ่งที่มาปรากฏ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ คือ รับภาพให้มากระทบกับตา รับเสียงให้มากระทบกับหู รับกลิ่นให้มากระทบกับจมูก รับรสให้มากระทบกับลิ้น รับความเย็น-ร้อน อ่อน-แข็ง หย่อน-ตึง ให้มากระทบกับกาย และเรื่องราว ที่ผ่านมาหรือเรื่องราวที่ยังไม่เกิด ให้มากระทบทางใจ แล้วจิตก็จะรับรู้สิ่งที่มากระทบนั้น ๆ ทำให้เกิดความพอใจ ไม่พอใจ หรือรู้สึกเฉย ๆ ดังภาพ</TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>
    โดยมีผัสสเจตสิกเป็นตัวประสาน
    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD> ๒) เวทนาเจตสิก คือ ความรู้สึกของคนและสัตว์ทั่วๆ ไป ซึ่งจะมีความรู้สึกอยู่ ๓ อย่างคือพอใจ ไม่พอใจ และเฉยๆ เมื่อถูกด่าก็รู้สึกไม่พอใจ เมื่อถูกชมก็จะรู้สึกพอใจ ถ้าไปด่าหรือชมคนอื่นก็จะรู้สึกเฉย ๆ ความพอใจ ไม่พอใจ หรือเฉย ๆ นี้แหละคือเวทนา เจตสิกที่เกิดในจิตใจของคนเรานั่นเอง มิใช่สิ่งอื่นใด</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD> ๓) สัญญาเจตสิก คือ ความจำ เช่นเด็กเล็กจำ ก.ไก่ – ฮ.นกฮูก ได้ จำ A – Z ได้ ผู้ใหญ่ก็จำเรื่องราวต่าง ๆ ได้ คนและสัตว์ต่าง ๆ จะจำใน ๖ สิ่งนี้เท่านั้น คือ จำรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และจำเรื่องราวที่คิดนึกทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD> ๔) เจตนาเจตสิก เป็นธรรมชาติที่ตั้งใจ หรือความมุ่งหวัง ที่เกิดขึ้นในจิตใจของคนเรา แล้วกระทำออกมาทางกาย วาจา ใจ สำเร็จเป็นบุญบาปที่เรียกว่า กุศลกรรม อกุศลกรรม เมื่อตายไปแล้วก็จะต้องไปเสวยผลของกรรมที่ได้ทำไว้ คือตกนรกบ้าง หรือมาเกิดเป็นมนุษย์บ้าง เจตนาเจตสิกจึงได้ชื่อว่าเป็น กรรม คือ การกระทำดี หรือไม่ดี นั่นเอง</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD height=344>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD> ๕) เอกัคคตาเจตสิก เป็นธรรมชาติที่ทำจิตใจ ให้ตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์เดียว เพ่งอยู่ในอารมณ์เดียว ทำให้จิตใจเกิดความสงบเยือกเย็น ไม่ฟุ้งซ่านไปในเรื่องราวต่างๆ ที่เราเรียกว่า สมาธิ เช่นในขณะที่อ่านหนังสือ ถ้ามีจิตแน่วแน่หรือมีสมาธิในการอ่าน จิตใจไม่ซัดส่ายไปคิดเรื่องอื่น จะทำให้เข้าใจ ในเนื้อหาสาระในหนังสือโดยตลอด เด็กหรือนักศึกษา ถ้าได้รู้จักการฝึกสมาธิแล้ว จะทำให้เรียนหนังสือได้เก่ง การฝึกจิตให้สงบเกิดสมาธินี้ชื่อว่า เป็นกรรมฐานอย่างหนึ่งที่เรียกว่า สมถกรรมฐาน ซึ่งมีการฝึกถึง ๔๐ วิธี ด้วยกัน รายละเอียดจะได้ศึกษากันต่อไป</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD> ๖) ชีวิตินทรียเจตสิก เป็นธรรมชาติที่หล่อเลี้ยงรักษานามธรรม คือจิตและเจตสิก ให้มีชีวิตอยู่ และทำงานให้สำเร็จลุล่วงไปได้
    คำว่า “ชีวิต” มี ๒ อย่าง คือ ชีวิตนาม และ ชีวิตรูป ชีวิตนามหรือนามชีวิต ได้แก่ ชีวิตินทรียเจตสิกนี้เอง ส่วนชีวิตรูปจะได้ศึกษากันต่อไป ในเรื่องของรูปปรมัตถ์
    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD> ๗) มนสิการเจตสิก เป็นธรรมชาติที่น้อมจิตใจไปสู่อารมณ์ เช่น ขณะที่ดูทีวี ดูหนังดูละคร มนสิการเจตสิก ก็จะน้อมจิตให้จดจ่อ กับภาพกับเสียงบนจอทีวีอยู่เสมอตลอดเวลา ทำให้เกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลิน นอกจากจะทำให้จิตใจน้อม ไปสู่การดูการฟังแล้ว ยังทำให้จิตใจน้อมไปสู่ การได้ยิน การได้กลิ่น การลิ้มรส การสัมผัสถูกต้อง และการคิดนึกเรื่องราวต่าง ๆ ด้วย</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff align=middle>บทสรุป
    สัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗
    </TD></TR><TR><TD> เจตสิกทั้ง ๗ ดวงนี้ เป็นเจตสิกที่เกิดดับ ทำงานร่วมกับจิตใจของคน และสัตว์ทั้งหลาย ตลอดเวลาทั้งในเวลาหลับและตื่น จึงได้ชื่อว่า สัพพจิตตสาธารณเจตสิก คือเกิดขึ้นกับจิตทั่วไปทุกดวง</TD></TR><TR><TD>
    <TABLE border=5 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=531 height=290><TBODY><TR><TD bgColor=#ffd9b3 width=581>
    <TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=500 bgColor=#ffffff><TBODY><TR><TD width=40 align=right>๑.</TD><TD width=113>ผัสส</TD><TD width=41 align=middle>คือ</TD><TD width=280>การกระทบอารมณ์</TD></TR><TR bgColor=#f6f6f6><TD align=right></TD><TD>เวทนา</TD><TD align=middle>คือ</TD><TD>การเสวยอารมณ์</TD></TR><TR><TD align=right>๓.</TD><TD>สัญญา</TD><TD align=middle>คือ</TD><TD>ความจำหมายอารมณ์</TD></TR><TR bgColor=#f6f6f6><TD align=right>๔.</TD><TD>เจตนา</TD><TD align=middle>คือ</TD><TD>การแสวงหาอารมณ์</TD></TR><TR><TD align=right>๕.</TD><TD>เอกัคคตา</TD><TD align=middle>คือ</TD><TD>ความตั้งมั่นในอารมณ์เดียว</TD></TR><TR bgColor=#f6f6f6><TD height=30 align=right>๖.</TD><TD>ชีวิตินทรีย์</TD><TD align=middle>คือ</TD><TD>การรักษาธรรมที่เกิดร่วมกับตน</TD></TR><TR><TD align=right>๗.</TD><TD>มนสิการ </TD><TD align=middle>คือ</TD><TD>การใส่ใจในอารมณ์</TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 กรกฎาคม 2012
  15. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ถ้า หาคำที่เป็น พุทธวจนะ มาให้ได้ แล้ว จะยังไงบ้างหละ

    จะหนีหายไปเลย หรือว่า ถามหา วิธีปฏิบัติต่อไป

    ถ้าหนีหายไปเลย ก็แนะว่า ไป ทดลองปฏิบัติแบบพระครูสุรศักดิ์ ดูก่อน

    แต่ถ้าไม่หนีหายไปไหน จะถามหาวิธีปฏิบัติ ก็นั่นแหละ ไปทดลอง
    ปฏิบัติแบบพระครูสุรศักดิ์ ดูก่อน เอาที่คุณเคยยกมานั่นแหละ ลง
    มือปฏิบัติ

    แล้วจะเห็นเลยว่า ส่วนตบแต่งมรรค หรือ มรรคแบบปุถุชน เนี่ยะ มันมี
    อยู่ตลอด แต่....คนลืมไปว่า ขันธ์ไมใช่เรา เลยลืมดู เรื่องความไม่เที่ยง
    เป็นทุกข์ ......

    *****************

    เนี่ยะ จะถามหาคำบาลี จากผมต่ออะเป่า กล้าถามอะเป่า มรรคส่วนตบแต่ง
    ขันธ์ เนี่ยะ มรรคปุถุชนเนี่ยะ

    ถ้ามี นอกจาเรื่องคุณต้องหนีไปปฏิบัติ หรือ ถามข้อปฏิบัติเพิ่มเติม แล้ว
    ก็ขออนุญาติ จับ ขึงพืดบุคคลาธิษฐานบางคนที่ตะละแม่จิตใจเลิฟเคารพ
    โดยยกปรักปรำเนืองๆว่า เป็นพวก "ทิฏฐิเห็นว่าสัตว์มีสัญญา" "สัตว์มีความ
    จำได้หมายรู้" ซึ่งเป็น มิจฉาทิฏฐิ

    พวกมิจฉาทิฏฐิพวกนี้ จะเน้น การทำซ้ำๆ ซ้ำ108 จบ เล่นเอาจนจำได้

    ไม่ใช่เพราะ "ระลึกได้" แต่ไปเห็นว่า "จำได้"
     
  16. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เคยสังเกตไหม

    พระสมัยพุทธกาล เวลา เทศนา ก็จะเทศนาด้วยถ้อยคำเหมือนกัน เช่น เวลา
    พระสาวกไปเทศนา แล้วกลับมายังสำนัก มีคนถามว่า หากเป็นพระพุทธองค์
    จะเทศนาอย่างไร พระพุทธองค์ก็จะตอบว่า ก็เทศนาเหมือนที่สาวกแสดงทุก
    ประการ

    นี่แปลว่าอะไร

    แปลว่า พระศาสดา และ พระสาวก เตี้ยมกันเหรอ ต่างสาธยายแลกเปลี่ยนกันจดจำ
    เอาไว้เหรอ

    หากอ่านพุทธดำรัสดีๆ พระพุทธองค์ก็กล่าวเหตุผลที่เหมือนกันเอาไว้แล้วว่า ไม่ใช่
    การท่องจำ แต่เป็น การระลึกได้

    ***************

    หากมีมิจฉาทิฏฐิ เห็นว่า สัตว์มีสัญญา หรืออีกพวกเห็นว่า ชีวิตอันใดสรีระก็อันนั้น

    มิจฉาทิฏฐิสองพวกนี้ จะมีความเหมือนกันคือ เห็นว่า ไขสมอง คือ ของวิเศษ พวก
    ที่ระบุว่า สัตว์มีสัญญา อันนี้มืดบอดกว่าเดิมไปเห็นว่า ไขสมอง ในชาติใหม่จะมีเหมือน
    เดิม แต่จริงๆแล้ว กายไม่เที่ยง อีกทั้ง สัญญาก็ไม่เที่ยง

    แต่ที่ พระภิกษุ เวลากล่าวธรรมขั้นลึกซึ้ง กล่าวออกมาแล้ว จะเหมือนกันทุกประการ
    อันนี้จึงไม่ใช่มาจาก การเห็นสัญญาเที่ยง หรือ ท่องจนขึ้นใจ แต่เป็นเพราะ สติที่
    ไวมาก จึงระลึกได้แม่นยำ แม่นจนใครพูดก็จะเหมือนกันทุกประการโดยไม่ต้องท่อง
    หรือ เตี้ยมกันไว้ก่อน

    คิดดูสิ

    พวกที่ ตะแง้ว ตะแง้ว สร้างคำพูดขึ้นเอง ไม่ใช้คำของตถาคต สร้างผังภูมิขึ้นเอง
    นี้เกิดจากอะไร

    เกิดจาก ไม่เข้าใจวิธีการ ระลึกได้ ......และ เพราะ ตัณหา อยากจะทำสัญญาให้
    มันเที่ยง จึงผลิดสิ่งช่วยจำขึ้นมากลบคำสอนของศาสดา

    ทั้งๆที่ หากปฏิบัติเสียหน่อยเนี่ยะ แค่คำว่า "สัญญาไม่เที่ยง สังขารไม่เที่ยง.....ฯ"
    แค่นี้ก็เป็นอุบายอบรมจิตให้ถึงพระนิพพานได้แล้ว จะรู้ทันทีเลยว่า การไปสร้างคำ
    หรือ รูปผังอะไรขึ้นมานั้น จริงๆแล้ว ไม่จำเป็น

    แต่ถ้าเป็นพวก สัตว์มีสัญญานะ โอ้ย ผังเนี่ยะ ยิ่งกว่าจำเป็นเลย จะตายวันตายพรุ่งนี้
    ยังคิดไม่ตกเลยว่า ขนมปังโดรม่อนเนี่ยะ มันมีจริงๆ หรือเปล่า หากมีจะได้ปั๊มแล้ว
    กินเข้าไป จะได้จำได้แม่น จะได้ยึดมั่นได้แม่นๆ .........คิดเอาเองละกาน จะไปเกิด
    เป็นอะไร
     
  17. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 6 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
    หลงเข้ามา, jittinon, theerasp


    เข้ามาอ่านหรอ ^^
    ดีแล้ว จิตตินนท์
     
  18. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    นี่ๆ คุงจิตใจเลิฟ เอาไงดีอะเธอว์

    เราว่า อีตาเล่าปังเนี่ยะ มันต้อง มั่วนิ่มเรื่อง "มรรคส่วนตบแต่งขันธ์" มรรค
    ปุถุชนอะไรของมันเนี่ยะ แน่ๆเลย มันต้องมั่วนิ่มแน่ๆ

    โพสมาตั้งสองโพส มันเลี่ยงตลอดเลย

    แบบนี้ คุ.จิตใจเลิฟ เราว่า ขย่มมันต่อดีกว่า ทวงถามออกจากปากมันให้ได้
    งานนี้มีหวัง ตบปากอีตาเล่าปังได้แหงมๆ มันโกหกแหงมๆ เลย เราว่านะตะเอง....
     
  19. LiSaBDoDaYup

    LiSaBDoDaYup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,251
    ค่าพลัง:
    +657
    ฮึยยยยยยยย อ้ายยยยยกราผมมมมมว่านะ

    ไอ้เล่าปัง ตานิวรณ์ อะไรทั้งหลายแหล่นี่ มันเมาอาความ บ้า ไปหมดเลยนะ

    เรา คนดีๆ เนี่ยะ อย่าไปเสวนาแบบ บ้าๆ อย่างมานนนนนทีเดียวเชียว

    เรา ควรเหนี่ยวแน่นนนนนน ในการเสวนาแบบบัณฑิต นักปฏิบัติจริงๆ ดีกว่าาาาาาาา

    ว่ากันตามวิธีที่ตนปฏิบัติมา ปฏิบัติมาอย่างไร เห็นผลอย่างไร เราก็กล่าวออกไป
    ตามความเป็นจริง

    ขืนนนนนไปเสวนา บ้าๆ ไม่จริงใจ แบบ ไอ้เล่าปัง หรือ อีตานิวรณ์นี่ มีหวัง
    เสวนากันไปไม่ถึงไหนแน่ๆ เลยยยยยยยยยยยย

    ***********

    รักษาภาพลักษณ์การเสวนาอย่างบัณฑิตไว้เลย ทุกข์ทุกข์คนนนนนนนนนน
     
  20. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ทักบ่อยๆนะครับ จะได้จำได้ติดใจ
     

แชร์หน้านี้

Loading...