เคยรู้สึกไหมว่าชีวิตนี้ตามหาอะไรอยู่

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ผีเสื้อราตรี, 20 กรกฎาคม 2008.

  1. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ........

    ปล. คราวหน้าไม่ต้อง ปล. แบบนั้น ให้ ตรงต่อ พระพุทธองค์ หรือ พระสัทธรรม เท่านั้น
     
  2. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    หาเวลาไปบ้างสิ
    พื้นฐานดีเช่นท่านจิน รับรอง แจ่ม หุๆๆๆ
    นัดกับผมก็ได้
    ไปธุดงค์ปักกลดบนเขากัน
    ให้มันถึงๆ กันไปเลย
     
  3. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 5 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>บุคคลทั่วไป 3 คน*, วิมุตติ, ไฟสถิตย์, ขันธ์ </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>วิมุตติ, ขันธ์ </TD></TR></TBODY></TABLE>บรื้อๆๆๆๆ
     
  5. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    น่าสนใจครับ ไว้ดูเวลาเหมาะ ๆ ไปเพียรบ้างก็ดี ^-^
     
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    [๘๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใดด่าบริภาษเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายกล่าวโทษพระอริยะ
    ภิกษุนั้นจะไม่พึงถึงความฉิบหาย ๑๐ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่งข้อนี้มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส
    ความฉิบหาย ๑๐ อย่างเป็นไฉน คือ ภิกษุนั้นไม่บรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุเสื่อมจากธรรมที่
    บรรลุแล้ว
    สัทธรรมของภิกษุนั้นย่อมไม่ผ่องแผ้วเป็นผู้เข้าใจว่าตนได้บรรลุในสัทธรรม
    ทั้งหลาย ๑ เป็นผู้ไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ ๑ ต้องอาบัติเศร้าหมองอย่างใดอย่างหนึ่ง ๑ ย่อม
    ถูกโรคอย่างหนัก ๑ ถึงความเป็นบ้า มีจิตฟุ้งซ่าน ๑ เป็นผู้หลงใหลกระทำกาละ ๑ เมื่อตายไป
    ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใดด่าบริภาษเพื่อนพรหมจรรย์
    ทั้งหลาย กล่าวโทษพระอริยะ ภิกษุนั้นจะไม่พึงถึงความฉิบหาย๑๐ อย่างนี้ อย่างใดอย่างหนึ่ง
    ข้อนี้มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส ฯ
    พระสุตตันตปิฎก เล่ม 16 ข้อที่ 88

    อย่าประมาท กรรมนั้นส่งผลแล้ว
     
  7. แพน้อย

    แพน้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +25
    ทักทายคุณขันธ์ คุณวิมุตติค่ะ

    แพน้อยเคยไปปฏิบัติธรรมเหมือนกันค่ะ แต่ยังไม่อุกกฤษฏ์เท่าไหร่ ติดที่เป็นผู้หญิง

    ตอนนี้ แม้อยู่กับบ้าน ก็คล้ายวัดเข้าไปทุกทีแล้วค่ะ วัดอยู่ที่ใจนะคะสำหรับแพ

    แพน้อยเข้ามาอ่านนะคะ เสมือนเป็นอากาศธาตุ เชิญตามสบายนะคะ
     
  8. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อิอิ เห็นไหม มีการเศร้าหมองของจิต ใช่หรือเปล่านี้ ก็แล้วแต่ความเป็นจริง

    ทีนี้ ขอเตือนอีกนิด พระท่านจะเตือนบ่อย สำหรับคนที่เจริญตัว สติ ได้แล้ว
    บางส่วน คือ เห็น ตัวสติ แท้ๆ เริ่มแจ่ม ก็ขอเรียบเรียงคำพระเล่าสู่กันฟังพลางๆไปก่อน

    หน้าที่ของสติ หรือ ยามที่เกิดสติ นี้ มันจะทำให้อกุศลตกหายไป

    ที่นี้ สักกายทิฏฐิ นี้ มันเป็น อุกศลจิต

    ดังนั้น เวลา สติเรามี หรือ ตั้งมั่น เราจะมองไม่เห็นตัวนี้

    เผลอ เราอาจคิดไปว่า สักกายทิฏฐิหายไปแล้ว แต่จริงๆเปล่า

    แล้วถามว่า จะเห็นได้อย่างไร ว่ามี สักกายทิฏฐิ อยู่หรือเปล่า

    ก็

    ให้สังเกต ตอนเผลอ หรือ ตอนที่ไม่ได้จงใจมี สติ

    ตอนนั้นแหละ มันจะออกมาหยอกเอิ้นเบาๆ

    ก็ ไม่ต้องทำอะไร ให้ดู และ รู้ อย่างเดียว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2008
  9. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ท่านเอกกำลังบอกว่า
    จิตที่มีสติ เป็นกุศล ดังนั้นส่วนที่เป็นอกุศลจะไม่เกิด
    จิตที่เผลอ เป็นอกุศล สติจะไม่มี
    ถ้ามีสติ ก็จะไม่เห็นอกุศล เช่น สักกายทิฏฐิ
    แล้วสติตอนที่ไม่ได้จงใจมี หมายถึง อะไร ใช่สติอัตโนมัติหรือไม่
    แล้วถ้ามีสติที่ไม่จงใจ จิตไม่เป็นกุศลหรอกหรือท่าน
    ช่วยขยายหน่อยจิ...
     
  10. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อิอิ

    อย่าสงสัยเลย ทำไปเถอะ

    มีอะไรที่จงใจให้เกิดได้ไหมละ มีสติแล้วจะให้เกิดอะไรได้ไหมละ
    ไม่มีสติแล้วจะให้เกิดอะไรได้ไหมละ

    แต่แปลกนะ ของบางอย่าง ไม่อาจเกิดได้ด้วยภาวะจงใจ เป็นอนัตตา

    ได้ยินอย่างนี้แล้ว เกิดอะไร สงสัย หรือ ไม่ก็ชักแปลกๆ น่าท้อเนอะ

    แต่อย่าสงสัยเลย ทำไปเถอะ

    แหม มีจิตใจจะไปปักกลดแล้ว ก็ต้องขอทักเอาไว้ก่อน
     
  11. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ท่านก็แจ่มนะ ถูกต้องที่สุด
    จงใจก็ไม่ได้ ไม่จงใจก็ไม่ได้
    มีสติ จะให้อะไรมันเกิดก็ไม่ได้ ทำได้แค่ดู
    ไม่มีสติ ก็ไม่เห็นอะไรได้ ทำได้แค่โง่
    มันแปลกจริงๆ
    การปฏิบัติมันก็จงใจทำ แต่จงใจเกินไปก็ไม่ได้ผล
    ต้องทำแบบ แกล้งๆ เหมือนไม่ตั้งใจทำ
    น่าแปลกเนอะ ขำจริงๆ เหอๆๆ
    ความจริงแล้ว ที่ถามก็ไม่ได้สงสัยอะไรนักหรอก
    เห็นท่านแนะมา ผมก็ชงต่อ เป็นการ make conversation
    ก็ขอขอบคุณในไมตรีจิตที่แนะนำตักเตือน
    ผมรักการปฏิบัตจังเลย สนุกมากมาย จิตนี้พิสดารจริงหน๊อ...
     
  12. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ตอนแรกคิดว่า ไม่อยากจะออกมาพูดอะไรอีก เพราะว่ามันเบื่อ คนค้าน

    แต่ สงสารวิมุตติ ก็จะออกมาสอนอีกสักหน่อย

    วิมุตติ ยังติดมากๆ ในเรื่อง การเอาใจไปจับกับสิ่งนั้นสิ่งนี้ ยังเหมือนคนฝันอยู่ คือ คิดนึกอะไรไปตามเรื่องตามราว ต้องหมั่น ตั้งมั่นให้มาก ถ้าจะแย้งอะไรมาขอให้รู้ไว้เถอะว่า กิเลสทั้งนั้น
    คำว่า จริง คืออะไร คือ เห็นสภาวะที่จริง ของจิตของใจ
    ว่าทำอะไรอยู่ รู้ตัว แต่ถ้าคิดนึกอยู่แล้วบอกว่า รู้ตัวว่าคิดนึก ก็เรียกว่าไปรู้ในสิ่งไม่จริง
    ถ้าคิดนึกอยู่ แล้ว รู้ตัวจริง มันจะหยุดคิดนึก เพราะว่า มันตื่น เหมือนคนฝันอยู่ แล้วตื่น ก็จะหยุดฝัน

    การตื่นขึ้นจากสรรพกิเลส นี้แหละ คือ ทาง แม้กระทั่งว่า จิตเข้าไปจับกับอริยาบทใดๆ แล้วเมื่อใดก็ตามที่เริ่มมีการรู้ เป็นเรื่องเป็นราว ก็เรียกว่าไม่ตื่น จิตยังไม่เป็นอุเบกขา ยังไม่เป็นเอกคตา

    การตื่น ก็จะตื่นเป็นชั้นๆ ไป

    ก็ให้ดูว่า การทำอะไรไปตามเรื่องตามราว นั้นแหละ ไม่ต่างกับฝัน ต้องมีสติกำหนดรู้ตัวอยู่ จึงเรียกว่าไม่ฝัน
     
  13. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    แกล้งๆ ก็ไม่ได้ เสร็จหมด

    แปลกจริงๆ

    แล้วใครค้นพบได้กันหนอ
     
  14. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่าท่านขันธ์จะตำหนิหรือไม่
    แต่คิดว่าคงดีเหมือนกันที่จะเล่าเรื่องราวให้ท่านขันธ์ตำหนิ
    จะได้เห็นจุดพร่อง
    ท่านก็เมตตาเหมือนเดิมนะ
    ขอขอบคุณ สาธุ
     
  15. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    อ่อครับ
    เป็นเรื่องของการใช้ภาษาหน่ะครับ
    มีทิ้งท้ายไว้ด้วยนะท่าน หุๆๆๆ
     
  16. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ไปคราวนี้รู้ตัวเลย
    ยังอีกไกลนัก
    เวลาทำความเพียร
    จิตส่งออกตลอด ต้องดึงกันไปดึงกันมานับไม่ถ้วน
    สมาธิอ่อนมาก
    สงสัยต้องไปฝึกสมถะ กับท่านสมถะ แล้วกระมัง
     
  17. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    แหม สงสัยต้องพูดตรงๆ

    ก็เหมือนที่ อ.ขันธ์ ชี้นะครับ แต่ขอพูดในมุมมองของผม

    ต้องแจ้งก่อนนะ ว่าเป็นมุมมองของผม เพราะกำลังเมามันอยู่ตรงนี้พอดี

    คือ

    พอเราภาวนาได้ สติตั้งมั่นดี ก็เรียกว่า มี ปัญญา ละ

    ทีนี้ ปัญญา มันจะพร้อมกับ มานะ ความกล้า แล้วก็อิทธิบาท 4

    แต่ตัวร้าย ก็คือ มานะ มันจะมาแผ่วๆ ละเอียดๆ มาด้านกุศลเสียด้วย

    ซึ่งมีแล้ว ก็ทำให้ จิตหยุด แล้วส่งออกนอก ไปดูคนอื่น พอดูคนอื่นเสร็จสรรพ
    ก็จะย้อนมาที่ตน แต่ตอนย้อนมาที่ตน นั้น จะมีสติ สักกายทิฏฐิเลยหายจ้อย
    เสร็จแล้วก็ผลิกไปไม่มีสติ( ไปคิด ) สักกายทิฏฐิครอบงำอ่อนๆ ทำให้เกิด
    เห็นเขา แต่ไม่เห็นเรา

    จริงๆ ก็คิดว่า พี่วิมุตติ น่าจะเห็นอยู่แล้ว ก็เลยออกตัวว่า ลองทักดู

    แต่ถ้าจริง หรือไม่จริงอย่างไร การภาวนาในขั้นนี้จะต้องผลิกมาใช้ศรัทธานำ

    ก็เลย ให้พี่วิมุตติ นึกถึง พระพุทธองค์ไว้เป็นที่ตั้ง แต่แหม...ชงไปแล้วก็ไม่ตอบ
    กลับอมพนำซ้ำซ้อน ก็เลย ต้องออกตัวชี้ตามตรง

    ถ้าพี่วิมุตติไม่มีสักกายทิฏฐิ ไม่มีอัตตา ไม่มีตัวตน ก็จะรับฟังผมผ่านๆ
     
  18. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253

    นี่เลย จับได้เลย

    เกิด คิด แล้ว จะเจตนา ไปทำอะไร สักอย่าง

    ต้อง เอา ศรัทธา นำ ปัญญา ในบาง เวลาครับ

    ต้อง สลับกัน ไปมา ให้ถูกจังหวะ

    ไม่อย่างนั้น ปัญญา มันจะล้ำหน้า จะคิดทำท่าเดียว
    แถมมีเปรียบเทียบด้วย แล้วก็อยากสำเร็จ(ปรารภชอบใจสถานที่ขึ้นมา )

    ( ที่ทักว่า มานะ เกิด เพราะพี่เอามาเล่า ก็ต้องขอชี้ย้อนหลัง )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2008
  19. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    น้อมรับด้วยใจ
    มันละเอียดมากจริงๆ
    กิเลสมันบอกตลอดเลยว่า
    ที่ไปเนี่ย เราเก่งกว่าใครๆเลย มีแต่คนไม่รู้เรื่อง ไม่มีใครรู้ธรรมเท่าเราเลย
    ถามว่า ผมรู้ตัวไหม
    รู้ตัวนะ แต่กิเลสมันให้รางวัล มันให้ความยินดีขึ้นมา
    มานะจริงๆ บัดซบจริงๆ พูดแล้วแค้นใจยิ่งนัก อยากจะด่ามันให้หายแค้น
    ต้องเอาสติเข้าสู้เต็มกำลัง
    เดินจงกรม และ เจริญสติแนวหลวงพ่อเทียน ช่วยได้มาก
     
  20. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    แล้วใครค้นพบได้กันหนอ

    พี่วิมุตติ ตอบตามตรงได้ไหม ว่าตอนเจอคำถามนี้ แล้ว คิดจะตอบว่าเป็นใคร

    ตอบเลย ไม่ต้องกลัว
     

แชร์หน้านี้

Loading...