อะไรคือธาตุมูลฐาน (Fundamental) ของสรรพสิ่ง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 18 สิงหาคม 2008.

  1. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    แบบนี้แหละครับ ที่อยากได้ เพราะมันจะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆมาก
    อย่างน้อยเขาก็จะได้เอะใจตาม ว่า วิทยาศาสตร์ที่เราคิดว่าเรามาไกลแล้วนั้น
    มันมาไกลจริงหรือ มันตอบคำถามอะไร ต่ออะไร ได้แล้วจริงหรือ

    โดยเฉพาะ ผู้ที่ยังชอบพูดว่า "จะไม่ยอมเชื่ออะไร ที่หาข้อพิสูจน์ไม่ได้"

    และผมคิดว่าคนที่คิดแบบนี้มีเกินกว่า 80% ของคนบนโลกนี้ซะด้วย
    ที่ผมอยากจะบอกพวกเขาด้วยใจจริงๆ ก็คือ ถ้าจะพูดให้ถูกพวกเขาน่าจะพูดว่า
    "จะไม่ยอมเชื่ออะไร ที่ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้" มากกว่า
    เพราะผมเชื่อว่าวิทยาศาสตร์ของเรานั้น จะทะยอยค้นพบไปเรื่อยๆ แต่จะใช้เวลา
    นานแค่ไหนสำหรับการค้นพบเรื่องง่ายๆสักเรื่องหนึ่ง ที่พระพุทธเจ้าสอนเอาไว้นานแล้วก็ไม่รู้
    ซึ่งถ้าแม้แต่ตลอดช่วงชีวิตที่พวกเขาเกิดมานี้ ก็ยังไม่สามารถค้นพบสิ่งที่ว่านั้นเลย
    เช่น เรื่องที่ว่า การเวียนว่ายตายเกิดนั้นมีจริง อะไรแบบนั้น แล้วพวกเขาก็จะละเลยสิ่งเหล่านี้ไปกระนั้นหรือ
    เสียโอกาสในชาติภพนี้ไปเปล่าๆ เพียงเพื่อรอให้มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ก่อน
    ทิ้งโอกาสดีๆที่จะได้สร้างสมเสบียงเอาไว้เลี้ยงตัวยามเดินทางไกลข้ามชาติภพไปเสียสิ้น
    เพียงเพราะยึดเอาวิทยาศาสตร์เป็นสรณะ เป็นพระเจ้าคอยบงการชีวิตอยู่ ช่างน่าเสียดายแทนซะจริงๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2008
  2. bazcifer

    bazcifer Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +30
    <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1448293", true); </SCRIPT>กล้วยทอดเลยครับหลักการประมาณนี้แระครับ ที่ต้องการ ขอบคุณจิงๆ ผมมองไม่เห็นเลยครับว่าจะผมจะคิดแบบ คุณ นิรันตรพินทุ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1448293", true); </SCRIPT> ได้ยังงัย เห็นภาพเลยว่า0เป็นปริมาณนิ่งสงบที่แข็งแกร่งมาก แต่ถ้าเมื่อใด หลุดออกจากค่าของ0 เพียงนิด จะเกิดการทะลักของจำนวนทั้งบวกและลบ(ผมลองคิดว่าเป็นกำเนิดบิกแบงดู) แต่ถึงแม้จะเกิดการทะลักของจำนวนอย่างมหาศาลเพียงใด แต่ว่า0ก็ยังคงอยู่(ทางคณิต0ไม่มีค่าเพราะงั้นมันจะไม่หายไปไหน) เพราะฉะนั้นค่าของ 0 นั้นประมาณมิได้ * 0 จึง=infinity และinfinity ก็คือปริมาณทั้งหมดของ 0
    แปลว่า0 ก็คือทั้งหมดของทุกสิ่ง และไม่มีวันหมดเพราะมันไม่มีค่า มันเป็นนิรันดร

    โอ้แม่เจ้า ผมบ้ามั้ยนี่คับ กล้วยทอดมากมาย
     
  3. bazcifer

    bazcifer Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +30
    อีกอย่างนึงนะคับ ถ้าทุกอย่างประกอบด้วย 0 แล้วรวมเป็น 0

    งั้น 0 ตัวไหนมีค่ามากกว่ากันละ

    แล้วถ้ามัน มีค่าเท่ากัน จะหมายความว่างัยนะเนี้ย
     
  4. sckdsfjs

    sckdsfjs Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2007
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +46
  5. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    และข้อความต่อจากนี้ มาจากกระทู้ "จะมีไหมทฤษฎีสรรพสิ่ง อธิบายทั้งจักรวาล"

    http://palungjit.org/showthread.php?p=688947#post688947

    .........................................................................................................
    <TABLE class=tborder id=post676061 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">28-08-2007, 02:09 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#5 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Chayutt<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_676061", true); </SCRIPT>
    ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 11:55 AM
    วันที่สมัคร: Aug 2005
    สถานที่: Vietnam
    อายุ: 36
    ข้อความ: 2,002
    ได้ให้อนุโมทนา: 12,415
    ได้รับอนุโมทนา 23,507 ครั้ง ใน 1,983 โพส
    <IF condition="1"><!--############### AWCoding Back-End created by Adam Ellis ########################################### Version 3.0.2 ##############################-->[​IMG] <!--####################### Awards Postbit Template ########################################## Copyright 2008 all rights reserved ##################-->
    </IF>พลังการให้คะแนน: 2134 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_676061 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->..อนุภาคซึ่งประกอบกันขึ้นเป็นอะตอมและโมเลกุล
    มีขนาดเล็กลงไปเรื่อยๆ จนในที่สุดเธอไม่สามารถมองเห็นมัน
    ได้ด้วยอุปกรณ์ใดๆ จุดนี้จึงเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่าง
    อนุภาคที่ก่อเกิดแล้ว และยังไม่ได้ก่อเกิด

    นักวิทยาศาสตร์สามารถนับหน่วยของธาตุได้
    ซึ่งหมายความว่า พวกเขาจะค้นพบไปเรื่อยๆ
    จนกระทั่งเขาพร้อมที่จะเสียสติ..
    ..เขาจะค้นพบอนุภาคที่เล็กลงไปเรื่อยๆอย่างไม่มีวันสิ้นสุด..
    ..พวกเขาจะตระหนักว่า มีบางสิ่งบางอย่างผิดพลาดอย่างมหันต์..

    จากโนวา อนาลัย "ประวัติศาตร์ของจิตวิญญาณ" หน้า 9
    <!-- / message --><!-- sig -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2008
  6. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    <TABLE class=tborder id=post676085 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">28-08-2007, 02:25 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#7 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Chayutt<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_676085", true); </SCRIPT>
    ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 11:55 AM
    วันที่สมัคร: Aug 2005
    สถานที่: Vietnam
    อายุ: 36
    ข้อความ: 2,002
    ได้ให้อนุโมทนา: 12,415
    ได้รับอนุโมทนา 23,507 ครั้ง ใน 1,983 โพส
    <IF condition="1"><!--############### AWCoding Back-End created by Adam Ellis ########################################### Version 3.0.2 ##############################-->[​IMG] <!--####################### Awards Postbit Template ########################################## Copyright 2008 all rights reserved ##################-->
    </IF>พลังการให้คะแนน: 2134 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_676085 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->..ในทางตรงข้ามฉันจะกล่าวว่า
    จิตวิญญาณเป็นปัจจัยก่อเกิดสสาร
    อะตอมและโมเลกุลเป็นสิ่งที่มีจิตวิญญาณของมันเอง
    จิตวิญญาณ-พลังงาน-สสาร คือหนึ่งเดียวกัน
    แต่จิตวิญญาณก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาวะ
    จากพลังงานเป็นสสาร..

    จักรวาลปรากฏขึ้นในลักษณะเดียวกัน
    คือจากความรู้สึกนึกคิดอันเป็นนามธรรม
    แปลงสภาวะเป็นสสารที่เป็นรูปธรรม
    แต่ปรากฏขึ้นในระดับที่แตกต่างไป
    ในนัยนี้ เมื่อจิตวิญญาณเรียนรู้ที่จะแปลงสภาวะ
    จากพลังงานเป็นสสาร ซึ่งมีรูปทรงทางกายภาพ
    หรือแปลงสภาวะจากนามธรรมเป็นรูปธรรม
    กำเนิดของจักรวาลจึงเปรียบได้กับชัยชนะ
    แห่งการแผ่ขยายของจิตวิญญาณ..

    จาก โนวา อนาลัย "ประวัติศาสตร์ของจิตวิญญาณ"
    หน้า 2

    ..ฉันจะเรียกผู้สร้างและกระบวนการการสร้างสรรค์
    อันไร้ขอบเขตนี้ว่า “สรรพสิ่งทั้งปวง”..


    ..ฉันไม่ได้หมายความว่า จักรวาลเป็นผลลัพธ์ของกลไกของจิต
    แต่ฉันหมายความว่า จิตวิญญาณทั้งหลายทั้งปวง
    เป็นส่วนหนึ่งของ “สรรพสิ่งทั้งปวง”
    และจักรวาลก่อเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
    ในภาวะที่เป็นระเบียบแบบแผนอันเป็นเลิศ
    และส่วนย่อยทั้งหลายของจิตวิญญาณ
    ต่างก็มีความรู้ของส่วนรวมที่ลบล้างไม่ได้..

    จากโนวา อนาลัย "ประวัติศาสตร์ของจิตวิญญาณ"
    หน้า 6<!-- google_ad_section_end -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2009
  7. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    <TABLE class=tborder id=post676097 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">28-08-2007, 02:32 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #9 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Chayutt<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_676097", true); </SCRIPT>
    ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 11:55 AM
    วันที่สมัคร: Aug 2005
    สถานที่: Vietnam
    อายุ: 36
    ข้อความ: 2,002
    ได้ให้อนุโมทนา: 12,415
    ได้รับอนุโมทนา 23,507 ครั้ง ใน 1,983 โพส
    <IF condition="1"><!--############### AWCoding Back-End created by Adam Ellis ########################################### Version 3.0.2 ##############################-->[​IMG] <!--####################### Awards Postbit Template ########################################## Copyright 2008 all rights reserved ##################-->
    </IF>พลังการให้คะแนน: 2134 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_676097 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->..เธอไม่อาจกล่าวได้ว่า
    สรรพสิ่งหนึ่งๆถือกำเนิดขึ้น
    เมื่ออีกสรรพสิ่งหนึ่งสูญสลายไป
    มนุษย์สร้างกฎเกณฑ์ของ
    อดีต-ปัจจุบัน-อนาคตขึ้นมาช่วย
    ให้การสื่อความหมายเป็นไปได้

    “สรรพสิ่งทั้งหลายในโลกทางกายภาพ
    ถูกสร้างขึ้นจากความนึกคิด”

    ในนัยแห่งสมการของเธอ

    พลังงาน = จิตวิญญาณ = สสาร

    เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และในนัยนี้
    จิตวิญญาณคือปัจจัยกระตุ้น
    ให้พลังงานแปลงสภาวะเป็นสสาร
    และกระตุ้นให้สสารแปลงสภาวะเป็นพลังงาน
    อนุภาคที่เธอมองเห็นได้และมองเห็นไม่ได้
    ทั้งที่ค้นพบและที่จินตนาการขึ้น
    ซึ่งหมายถึงอนุภาคที่เป็นสมมุติฐาน
    ล้วนมีจิตวิญญาณที่เต็มไปด้วยพลังงาน

    พลังงานมีคุณลักษณะจำเพาะ
    ซึ่งซ่อนเร้นอยู่ในตัวของมัน
    ซึ่งมักแตกต่างไปจากที่เธอสันนิษฐาน
    เพราะตราบจนทุกวันนี้
    พวกเธอทั้งหลาย ยังไม่เคยพิจารณาว่า

    “พลังงานคือจิตวิญญาณ”

    พลังงานเป็นสิ่งสร้างสรรค์ที่เหนือชั้น
    เป็นนวัตกรรมที่เป็นแบบฉบับใหม่ๆ

    “พลังงานคือจินตนาการ”

    (นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย
    ที่อ่านหนังสือเล่มนี้อยู่
    จะเลิกอ่านทันทีที่มาถึงจุดนี้)

    จากโนวา อนาลัย "ประวัติศาสตร์ของจิตวิญญาณ"
    หน้า 8

    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    <TABLE class=tborder id=post676114 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">28-08-2007, 02:40 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #10 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Chayutt<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_676114", true); </SCRIPT>
    ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 11:55 AM
    วันที่สมัคร: Aug 2005
    สถานที่: Vietnam
    อายุ: 36
    ข้อความ: 2,002
    ได้ให้อนุโมทนา: 12,415
    ได้รับอนุโมทนา 23,507 ครั้ง ใน 1,983 โพส
    <IF condition="1"><!--############### AWCoding Back-End created by Adam Ellis ########################################### Version 3.0.2 ##############################-->[​IMG] <!--####################### Awards Postbit Template ########################################## Copyright 2008 all rights reserved ##################-->
    </IF>พลังการให้คะแนน: 2134 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_676114 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->..อนุภาคของภาวะจิต คือจิตวิญญาณ
    ในหลายรูปแบบ ซึ่งเปรียบได้กับ

    อะตอม โมเลกุล โปรตอน นิวตรอน หรือ ควอร์ค

    อนุภาคของภาวะจิต เป็นอนุภาค
    ที่ไม่มีสภาวะทางกายภาพ
    เป็นรูปแบบของจิตวิญญาณ
    ที่มีเสน่ห์ดึงดูด หรือเป็นรูปแบบประหลาด
    ที่ทำให้ประสบการณ์ชีวิตของเธอขึ้นๆลงๆ
    หรือหมุนไปเรื่อยๆ..


    จากโนวา อนาลัย "ประวัติศาสตร์ของจิตวิญญาณ"
    หน้า 11

    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    <TABLE class=tborder id=post676123 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">28-08-2007, 02:43 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #11 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Chayutt<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_676123", true); </SCRIPT>
    ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 11:55 AM
    วันที่สมัคร: Aug 2005
    สถานที่: Vietnam
    อายุ: 36
    ข้อความ: 2,002
    ได้ให้อนุโมทนา: 12,415
    ได้รับอนุโมทนา 23,507 ครั้ง ใน 1,983 โพส
    <IF condition="1"><!--############### AWCoding Back-End created by Adam Ellis ########################################### Version 3.0.2 ##############################-->[​IMG] <!--####################### Awards Postbit Template ########################################## Copyright 2008 all rights reserved ##################-->
    </IF>พลังการให้คะแนน: 2134 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_676123 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->..เมื่อกล่าวถึง “จุดเริ่มต้น” ของจักรวาล
    โดยกล่าวถึงเวลา ในความหมายที่เธอรู้จัก

    อะตอมและโมเลกุล เริ่มต้นด้วยการ
    “จินตนาการ” รูปทรงทางกายภาพที่มันปรารถนา
    จากความเป็นไปได้อันเป็นอนันต์
    มันจินตนาการจำนวนของเซลซึ่งนับไม่ได้
    ที่จะสร้างสรรค์ขึ้นจากการร่วมมือกัน
    พลังงานปราศจากขีดจำกัด
    พลังงานมีมากมายเหลือเฟือ
    มันจึงไม่รู้จักขีดจำกัด
    ในนัยนี้อะตอมเหล่านั้น “ฝัน”
    ให้เซลแปลงสภาวะเป็นกายภาพ
    และจากจุดเริ่มต้นใหม่ของสภาวะที่เป็นกายภาพนี้
    จิตวิญญาณของเซล “ฝัน” ถึงองค์ประกอบอันเป็นอนันต์
    ซึ่งจะก่อเกิดการผจญภัยอันสุดที่จะพรรณนา
    (เช่นการก่อเกิดเป็นอวัยวะส่วนต่างๆ
    ของร่างกายของเธอเป็นต้น)

    การก่อเกิดทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวมานี้
    เกิดขึ้นอย่างฉับพลันพร้อมกันทั้งหมด
    ประสบการณ์ทางจิตอันลึกล้ำเป็นสิ่งที่หยั่งไม่ถึง
    แต่เกี่ยวพันกับการเติมเต็มช่องว่าง
    แห่งประสบการณ์ซึ่งจิตวิญญาณแต่ละหน่วยเกี่ยวพันกัน
    คุณลักษณะของการเติมเต็มช่องว่าง
    แห่งประสบการณ์เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด
    ของ “สรรพสิ่งทั้งปวง” และเป็นส่วนหนึ่ง
    ของมรดกที่ตกทอดมาสู่เผ่าพันธุ์ทั้งหลาย
    ..ทั้งมนุษย์-สัตว์-พืช..<O:p</O:p

    จาก โนวา อนาลัย "ประวัติศาสตร์ของจิตวิญญาณ"
    หน้า 11

    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    <TABLE class=tborder id=post676146 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">28-08-2007, 02:55 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #12 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Chayutt<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_676146", true); </SCRIPT>
    ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 11:55 AM
    วันที่สมัคร: Aug 2005
    สถานที่: Vietnam
    อายุ: 36
    ข้อความ: 2,002
    ได้ให้อนุโมทนา: 12,415
    ได้รับอนุโมทนา 23,507 ครั้ง ใน 1,983 โพส
    <IF condition="1"><!--############### AWCoding Back-End created by Adam Ellis ########################################### Version 3.0.2 ##############################-->[​IMG] <!--####################### Awards Postbit Template ########################################## Copyright 2008 all rights reserved ##################-->
    </IF>พลังการให้คะแนน: 2134 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_676146 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->..ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเธอ
    เป็นเพียงส่วนพ่วงต่อของประสาทสัมผัสภายใน
    ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันทางกายภาพ
    ที่ทำให้สื่อสารกันได้ภายนอก ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
    แต่ประสาทสัมผัสภายใน ทำให้สื่อสารกันได้ภายใน
    ถึงกันได้ทั้งหมดทุกเผ่าพันธุ์

    เซลทุกเซลมีประสาทสัมผัสภายใน

    อะตอม หยั่งรู้ตำแหน่ง
    หน้าที่-อัตราความเร็ว-การเคลื่อนไหว
    และธรรมชาติของสิ่งแวดล้อมของมัน
    ตลอดจนส่วนประกอบของตัวตนของมัน

    โลกของเธอไม่ได้อุบัติขึ้นด้วยความบังเอิญ
    โลกไม่ได้เกิดจากอะตอมไร้สติ
    ที่ก่อตัวเข้าด้วยกันที่นี่บ้าง-ที่โน่นบ้าง
    หรือเกิดจากการรวมตัวกันอย่างไร้สติของแก็ส
    โลกไม่ได้ถูกสร้างขึ้นทีละส่วนๆ
    แล้วประกอบเข้าด้วยกัน
    โดยพระเจ้าผู้อยู่ไกลโพ้น
    โดยที่บางชิ้นส่วนก็ดีบ้าง เสียบ้าง
    หรือบางแบบที่ดีกว่า ก็ถูกประกอบ
    ขึ้นมาบ้างในบางฤดูกาล..<O:p</O:p

    จาก โนวา อนาลัย "ประวัติศาสตร์ของจิตวิญญาณ"
    หน้า 18

    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    <TABLE class=tborder id=post676181 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">28-08-2007, 03:08 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #14 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Chayutt<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_676181", true); </SCRIPT>
    ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 11:55 AM
    วันที่สมัคร: Aug 2005
    สถานที่: Vietnam
    อายุ: 36
    ข้อความ: 2,002
    ได้ให้อนุโมทนา: 12,415
    ได้รับอนุโมทนา 23,507 ครั้ง ใน 1,983 โพส
    <IF condition="1"><!--############### AWCoding Back-End created by Adam Ellis ########################################### Version 3.0.2 ##############################-->[​IMG] <!--####################### Awards Postbit Template ########################################## Copyright 2008 all rights reserved ##################-->
    </IF>พลังการให้คะแนน: 2134 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_676181 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->..หน่วยย่อยของจิตวิญญาณ

    เป็นทั้ง “อนุภาค” และ “คลื่น”

    ไม่ว่ามันจะทำหน้าที่เป็นอนุภาคหรือคลื่น
    มันจะมีสติรู้ถึงตัวตนของมัน
    เมื่อหน่วยย่อยของจิตวิญญาณ
    ทำหน้าที่เป็น “อนุภาค” มันก่อตัวขึ้น
    บนเส้นทางแห่งกาลเวลา
    มันรับเอาคุณลักษณะจำเพาะ
    มีรูปกายจำเพาะ และเผชิญกับ
    โลกแห่งความเป็นจริงจาก “ศูนย์กลาง”
    ของรูปกายนั้น มันจดจ่อและเอาใจใส่
    ต่อคุณลักษณะจำเพาะ อันเป็นเอกลักษณ์
    มันแปลงสภาพไปสู่สภาวะ
    ที่เธอเรียกว่าเป็น ”ตัวตนจำเพาะ”
    เมื่อหน่วยย่อยของจิตวิญญาณ
    ทำหน้าที่เป็น “คลื่น” มันไม่ได้สร้างขอบเขตจำกัด
    ให้กับการมีสติรู้เห็นในความเป็นตัวตน
    และเมื่อมันทำหน้าที่เป็นคลื่น
    มันสามารถอยู่ในสถานที่ต่างๆ
    ได้พร้อมกันหมด-หลายแห่ง-ในเวลาเดียวกัน..

    จาก โนวา อนาลัย "ประวัติศาสตร์ของจิตวิญญาณ"
    หน้า 33

    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความต่อไปนี้ ผมตัดเอามาบางส่วน จากกระทู้ที่ชื่อ

    "The Secret of Ancient School - English/Thai Version"

    http://palungjit.org/showthread.php?t=133683&page=2

    .........................................................................................................
    จุดเริ่มต้นของทุกสรรพสิ่งคือความว่างเปล่า หรืออาจจะเรียกว่า สุญญตา ก็ได้
    สุญญตานี้กว้างใหญ่ไพศาลมาก และเริ่มต้นทีเดียวยังไม่มีสิ่งใดอยู่ในความว่างเปล่านี้
    มันคือ ความกว้างใหญ่ไพศาลแห่งความไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรเลยแปลว่าไม่มีสิ่งใดๆอยู่เลย
    ดังนั้น มันคือความไม่มีสิ่งใดเลย มันคือความกว้างใหญ่ไพศาลแห่งความไม่มีอะไรเลย
    หรือความกว้างใหญ่ไพศาลแห่งความว่างเปล่า

    มันคงจะยากสำหรับมนุษย์ที่จะนึกภาพความเป็นสุญญตาออก แต่ถ้าเปรียบเทียบว่าคล้ายๆกับ
    ในอวกาศที่ปกติจะมีดวงดาว มีดาวเคราะห์ มีกลุ่มแก็ส มีโนบูล่าอยู่ และคุณมองเห็นมันอยู่ไกลๆลิบๆ
    แต่ในขณะต่อมาลองนึกว่าทุกอย่างหายไปหมด ไร้แสงสว่างใดๆ มันก็จะเหลือเพียงความมืด
    ความว่างเปล่า ความเงียบสงบและปราศจากการเคลื่อนไหวใดๆ นี่อาจจะพอเทียบเคียงกับ
    สภาพความว่างเปล่าของสุญญตาได้บ้าง หรือว่าคุณอาจะปล่อยให้ใจของคุณสงบและหยุดนิ่ง
    แล้วจ้องมองอะไรบางอย่างนิ่งๆ ในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องคิดอะไรเลย คุณก็จะว่างจากทุกสิ่ง
    นั่นแหละความว่างเป็นคล้ายๆแบบนั้นแหละ<o></o>

    ความว่างเปล่ามันดำรงอยู่ด้วยตัวมันเอง มันเป็นนิรันดร์และปราศจากกาลเวลา
    มันเป็นอยู่ของมันอย่างนั้นตลอดชั่วกาลนาน
    แต่กระนั้นก็ตาม ในความเป็นความว่างเปล่าที่ปราศจากสิ่งใดของมันนั้น
    ก็ดำรงไว้ซึ่งศักยภาพของทุกสิ่งทุกอย่างด้วย ดังนั้นความเป็นสุญญตานี้ก็คือความว่างเปล่าอันกว้างใหญ่ไพศาล
    แต่ทรงพลังอำนาจแห่งศักยภาพของความเป็นทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ ด้วยความเป็นจิตสำนึกอันเป็นอนันต์อันบริสุทธิ์ ของมันเอง

    อยู่มาวันหนึ่ง ความว่างเปล่านี้ไม่มีอะไรจะทำมันก็เลยกลับเข้าไปข้างในตัวมันเองแล้วก็พินิจพิเคราะห์ดูตัวมันเอง
    ความว่างเปล่านี้มันจะพินิจพิเคราะห์อะไรได้ ก็มันไม่มีอะไรอื่นใดให้พินิจพิเคราะห์เลยนอกจากตัวมันเองเท่านั้น
    ดังนั้นมันจึงได้แต่กลับเข้าไปข้างในและพินิจพิเคราะห์ตัวมันเองเท่านั้น แล้วจากนั้นมีอะไรเกิดขึ้นรู้ไหมครับ
    หลังจากที่ความว่างเปล่ามันพินิจพิเคราะห์ตัวมันเองแล้ว มันก็เกิดภาพสะท้อนของตัวมันเองขึ้นมาในบัดดล
    หรืออาจจะเรียกได้ว่า มันได้สร้างหรือขยายตัวตนของมันขึ้นมาอีกตัวตนหนึ่งแล้ว นี่คือครั้งแรก
    ที่มันประจักษ์ถึงศักยภาพของมัน ที่มันไม่เคยรู้มาก่อน<o></o>

    คุณยังจำได้อยู่ใช่ไหม๊ ที่ว่าความว่างเปล่าคือความไม่มีอะไรเลย แต่ทรงไว้ซึ่งพลังอำนาจแห่งศักยภาพ
    ของความเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้นหลังจากที่ความว่างเปล่านี้ได้พินิจพิเคราะห์ตัวมันเองแล้ว
    ศักยภาพที่หลับใหลอยู่ของตัวมันเอง จึงตื่นขึ้นมา และสิ่งที่เกิดขึ้นจากความว่างเปล่านี้ก็คือตัวมันเองอีกตัวหนึ่งนั่นเอง
    (แต่มีจำนวนมหาศาล นับไม่ถ้วน จนเป็นอนันต์ - ชยุต) เราอาจจะเรียกความว่างเปล่าที่เกิดขึ้นมาใหม่นี้ว่า
    จิตวิญญาณ/จิตสำนึกต้นแบบ หรือบางทีผมก็เรียกมันว่า จิตสำนึกอันเป็นอนันต์”<o></o>

    อาจจะกล่าวได้ว่าจิตวิญญาณหรือจิตสำนึกต้นแบบนี้ก็คือคุณนั่นเอง ซึ่งนั่นก็แปลว่ามีคุณดำรงอยู่ตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว
    เพราะคุณดำรงอยู่ภายในความว่างเปล่าอันนั้น ในรูปแบบของพลังอำนาจแห่งศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่
    แล้วเมื่อความว่างเปล่านั้นได้กลับเข้ามาพินิจพิเคราะห์ภายในของตัวเองคุณจึงตื่นขึ้นมา
    ดังนั้นความว่างเปล่านี้จึงเป็นพ่อ/แม่ผู้ให้กำเนิดคุณ และนี่แหละคือที่ๆคุณมา<o></o>

    แล้ววันหนึ่งความว่างเปล่าก็กล่าวกับคุณว่า ข้าตื่นเต้นมากที่พวกเจ้าซึ่งเป็นพลังอำนาจแห่งศักยภาพ
    ที่ครั้งหนึ่งเคยหลับใหลอยู่ภายในตัวข้า ได้กำเนิดขึ้นมา เพราะการกลับเข้าไปพินิจพิเคราะห์ภายในตัวข้าเอง
    พวกเจ้าคือส่วนหนึ่งหรือส่วนขยายของข้า ข้าปลาบปลื้มมากและข้าก็รักพวกเจ้ามาก ตอนนี้ขอให้พวกเจ้าลองมาเล่นสนุก
    โดยทำอย่างที่ข้าทำในตอนแรกเถิดแล้วอะไรหละที่ความว่างเปล่าทำในตอนแรก ก็คือการ
    กลับเข้าไปข้างในตัวเองแล้วพินิจพิเคราะห์ตัวเองนั่นเอง<o></o>

    และเมื่อความว่างเปล่าบอกให้จิตวิญญาณบริสุทธิ์/จิตสำนึกบริสุทธิ์ต้นแบบกลับเข้าไปพินิจพิเคราะห์ภายใน
    ของตนเองแล้ว อะไรจะเกิดขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือบางอย่างที่หลับใหลอยู่ในรูปแบบของพลังอำนาจแห่งศักยภาพก็บังเกิดขึ้น
    แล้วสิ่งนั้นคืออะไร สิ่งนั้นก็คือส่วนหนึ่งของความว่างเปล่าเองเช่นกัน ดังนั้น ส่วนหนึ่ง
    ที่เคยเป็นพลังแห่งศักยภาพที่หลับใหลอยู่ภายใน ของความว่างเปล่า ก็บังเกิดขึ้นได้ด้วยเหตุนี้เองนี่
    คือวิธีการกำเนิดขึ้นของทุกสิ่งทุกอย่าง จากความไม่มีอะไรเลย

    (ยังมีต่ออีกนะครับ...)
    <o></o><!-- / message --><!-- sig -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2012
  13. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ความลับของโรงเรียนโบราณแห่งการรู้แจ้ง<o></o>


    ต้นฉบับภาคภาษาอังกฤษ โดย : avatar_boy
    แปลภาคภาษาไทย โดย : Chayutt และ ผองเพื่อนจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์


    <hr align="right" color="white" width="100%" noshade="noshade" size="1">


    ตอนที่ 13 : ความลับของภูมิปัญญาโบราณแห่งสุญญตา จิตวิญญาณ/จิตสำนึก และสรรพสิ่ง

    <o></o>
    หัวข้อต่อไปที่ผมอยากจะมาบอกเล่าถึงความลับให้ทราบคือ เรื่องเกี่ยวกับสรรพสิ่ง ว่ามันอุบัติขึ้นมาจากความว่างเปล่า
    หรือสุญญตาได้อย่างไร และทำไม
    รวมถึงเรื่องราวของจิตวิญญาณ/จิตสำนึก ว่ามันอุบัติขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์อะไร? และ “สรรพสิ่ง” คืออะไร?
    <o></o>
    ถ้าคุณได้ติดตามอ่านความลับที่ผมเขียนบอกเล่ามาตั้งแต่ต้น คุณก็จะรู้แล้วหละว่า ตั้งแต่เริ่มแรกเลยนั้น มันไม่มีอะไรอยู่เลย
    ซึ่งคุณอาจจะเรียกมันว่า “ความว่างเปล่า” หรือ “สุญญตา” ก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความว่างเปล่าจะไม่มีอะไรเลย
    แต่มันก็มีพลังอำนาจแห่งศักยภาพและความเป็นไปได้อันเป็นอนันต์ ที่หลับใหลอยู่ภายใน ซึ่งผมขอเรียกมันว่า

    “จิตสำนึกอันเป็นอนันต์”
    <o></o>
    และถ้าความว่างเปล่านี้ ยังคงเป็นความว่างเปล่าอยู่ต่อไป โดยไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วอะไรจะเกิดขึ้น มันก็คงจะมีแต่ความเงียบสงบ
    ปราศจากการเคลื่อนไหว ไร้กาลเวลาและระยะทาง และปราศจากความคิดใดๆทั้งสิ้น คุณว่างั้นไหม๊ มันคงจะไม่มีอะไรอยู่เลย
    เว้นแต่ความว่างเปล่า และความมืดของมันเอง
    <o></o>
    แล้วความว่างเปล่าทำอะไรหละ จึงมีสรรพสิ่งทั้งปวงอุบัติขึ้นเฉกเช่นที่เป็นอยู่นี้? ก็เพราะว่าโดยธรรมชาติของความว่างเปล่าเอง
    มันก็เป็นจิตสำนึกอันเป็นอนันต์อยู่แล้ว
    ดังนั้น ความว่างเปล่ามันจะทำอะไรได้อีกนอกเสียจากว่าจะคิดและพินิจพิเคราะห์ดูภายในตัวมันเอง แล้วมันทำอะไรอีกหละ
    มันจะไปทำอะไรได้อีก ก็เพราะว่าไม่มีอะไรอยู่เลยนอกจากตัวมันเอง ดังนั้น มันจึงได้แต่คิดและพินิจพิเคราะห์ดูภายในตัวมันเองยังไงหละครับ
    <o></o>
    และสิ่งแรกที่อุบัติขึ้นเป็นสิ่งแรก (หลังจากที่ความว่างเปล่าได้คิดและพินิจพิเคราะห์ภายในของตนเองแล้ว)
    ก็คือชุดสำเนาของตัวความว่างเปล่าเอง ซึ่งผมอยากจะเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่นี้ว่า “จิตวิญญาณ/จิตสำนึก” หรือ”จิตสำนึกอันเป็นอนันต์”

    และพอถึงตอนนี้ คุณคิดว่ามันมีจำนวนของความว่างเปล่าที่เกิดขึ้นรุ่นแรกนี้จำนวนเท่าไหร่? คำตอบคือมันมีจำนวนเป็นอนันต์!!
    มันมีจิตสำนึกหรือจิตวิญญาณเกิดขึ้นจำนวนนับไม่ถ้วน จนเป็นอนันต์
    <o></o>
    ดังนั้นความว่างเปล่าก็คือพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดหรือต้นกำเนิดของจิตวิญญาณ/จิตสำนึกทั้งหลายนั่นเอง คุณเห็นด้วยไหม๊?
    และเราอาจจะพูดได้ว่าจิตวิญญาณ/จิตสำนึกทั้งหลายเหล่านี้ก็คือลูกๆของความว่างเปล่านั่นเอง ถูกไหมครับ?
    และจิตวิญญาณ/จิตสำนึกแต่ละจิตสำนึกก็มีความสามารถต่างๆเหมือนกันกับความว่างเปล่าเองทุกอย่างเลย
    (เพราะว่าจิตวิญญาณ/จิตสำนึกเหล่านี้ก็คือชุดสำเนาของความว่างเปล่าเอง)

    แล้วความสามารถที่ว่านั้นคืออะไรหละ? มันก็คือความสามารถในการคิด/พินิจพิเคราะห์(วิปัสสนา)ยังไงหละครับ ถูกไหม๊ครับ
    แล้วสามารถคิด/พินิจพิเคราะห์อะไรหละ? ก็คือสามารถคิด/พินิจพิเคราะห์ตัวเองยังไงหละครับ
    แล้วตัวมันเองหนะมีจำนวนมากน้อยแค่ไหน? คำตอบก็คือ มีจำนวนนับไม่ถ้วน จนเป็นอนันต์
    <o></o>
    และมีอะไรเกิดขึ้นเมื่อจิตสำนึก/จิตวิญญาณคิดและพินิจพิเคราะห์ดูภายในของตนเอง คำตอบคือ มันก็มีบางอย่างอุบัติขึ้นด้วยเช่นกัน
    ซึ่งเราอาจจะเรียกมันว่า “สรรพสิ่ง” และถ้าถามต่อว่า “สรรพสิ่ง” ที่ว่านี้คืออะไร ก็อาจจะตอบได้ว่า
    สรรพสิ่งก็คือส่วนหนึ่งของความว่างเปล่าเอง ที่ครั้งหนึ่งเคยหลับใหลอยู่ภายในความว่างเปล่า
    ในรูปแบบของพลังอำนาจแห่งศักยภาพและความเป็นไปได้ทั้งมวล

    และถ้าถามต่ออีกว่า แล้วศักยภาพและความเป็นไปได้ทั้งมวลนี้มันมีมากน้อยเพียงใด คำตอบก็คือ ไร้ขีดจำกัด จนเป็นอนันต์
    ดังนั้นแต่ละสรรพสิ่งที่อุบัติขึ้นมาจากความว่างเปล่า ก็คือส่วนหนึ่งของศักยภาพและความเป็นไปได้ทั้งมวลนั่นเอง ถูกต้องไหมครับ

    หรือพูดอีกอย่างก็คือ สรรพสิ่งก็คือส่วนหนึ่งของความว่างเปล่าเอง ที่ครั้งหนึ่งเคยหลับใหลอยู่ภายในความว่างเปล่า
    ในรูปแบบของพลังอำนาจแห่งศักยภาพและความเป็นไปได้ทั้งมวล แต่ตอนนี้ได้ออกมาจากความว่างเปล่าแล้ว
    <o></o>
    ดังนั้น นี่คือคำตอบของหลายๆคำถามที่อยากรู้อยากเห็น ว่าทำไมจึงมีสรรพสิ่งเกิดขึ้นในครั้งแรก
    ก็เพราะว่าความว่างเปล่าอยากรู้จักตัวมันเอง เพราะมันรู้ว่ามันคือจิตสำนึกอันเป็นอนันต์ ที่บริสุทธิ์
    แต่มันก็ไม่รู้ว่ามันจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ได้รู้จักตัวมันเอง
    <o></o>
    ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณรู้ว่าคุณมีความต้องการที่จะทราบรสชาติของต้มยำ ว่ามันมีรสชาติอย่างไร คุณอาจจะเคยได้ยินได้ฟังมาว่า
    รสชาติของต้มยำคือ เผ็ด อร่อย และรสชาติจัดจ้าน แต่ว่าคุณก็ยังไม่เคยลองชิมหรือทานดูจริงๆเลยสักครั้งหนึ่ง
    ดังนั้นคุณจึงโหยหาและอยากจะลิ้มลองรสชาติของต้มยำสักครั้งหนึ่งในชีวิตจริงของคุณ
    <o></o>
    และเมื่อวันหนึ่ง คุณได้ลองชิมหรือลองทานต้มยำดูจริงๆแล้ว อะไรจะเกิดขึ้น ความอยากรู้อยากเห็นของคุณก็คงจะไม่มีอีกต่อไป
    ใช่ไหมครับ แล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกต่อไปหละ คุณก็จะบันทึกรสชาติของต้มยำนี้ไว้ในความทรงจำของคุณ
    เพราะว่าเมื่อคุณครั้งหนึ่งที่เคยอยากรู้ แต่ตอนนี้ก็ได้รู้แล้ว ดังนั้นเส้นทางของความอยากรู้มันจึงสิ้นสุดลง ไ
    ม่มีความโหยหาหรืออยากรู้รสชาติของต้มยำอีกต่อไป
    <o></o>
    มันก็เหมือนกับความว่างเปล่านั่นแหละครับ เพราะว่ามันเป็นจิตวิญญาณ/จิตสำนึกอันเป็นอนันต์อันบริสุทธิ์ด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว
    แม้ว่ามันจะกว้างใหญ่ไพศาลและไม่มีอะไรอยู่เลย
    แต่มันก็มีพลังอำนาจแห่งศักยภาพและความเป็นไปได้ทั้งมวลหลับใหลอยู่ภายในครรภ์ของมัน

    และเพราะว่ามันคือจิตวิญญาณ/จิตสำนึกอันเป็นอนันต์และบริสุทธิ์ ดังนั้นมันจึงรู้ด้วยตัวมันเองว่ามันคือจิตสำนึกอันเป็นอนันต์
    ที่มีพลังอำนาจแห่งศักยภาพและความเป็นไปได้ทั้งมวลอยู่ภายในด้วย
    <o></o>
    และอะไรคือจิตสำนึกอันเป็นอนันต์ ที่มีพลังอำนาจแห่งศักยภาพและความเป็นไปได้ทั้งมวลอยู่ภายใน?
    มันก็คือเอกภพ แกแล็กซี่ มิติ ระบบสุริยจักรวาล ดวงดาว ดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ ดิน น้ำ ลม ไฟ แร่ธาตุต่างๆ อาณาจักรพืช
    อาณาจักรสัตว์ มวลหมู่มนุษย์ และอื่นๆอีกมากมาย ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีประมาณ
    <o></o>
    แล้วยังมีอะไรอีก ที่เป็นพลังอำนาจแห่งศักยภาพและความเป็นไปได้ทั้งมวลอยู่ภายในจิตสำนึกอันเป็นอนันต์นี้
    ก็เช่น กาลเวลา ระยะทาง ช่องว่าง สิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่ทั้งหลาย สิ่งประดิษฐ์ทั้งหลาย สิ่งที่มีรูปทั้งหลาย รสชาติทั้งหลาย
    สีสันทั้งหลาย เสียงทั้งหลาย ภูมิปัญญาทั้งหลาย ประสบการณ์ทั้งหลาย ความเป็นต่างๆ สรรพสิ่งทั้งหลาย สถานที่ทั้งหลาย
    และอื่นๆอีกมากมาย ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีประมาณ
    <o></o>
    แล้วยังมีอะไรอีกบ้าง ที่เป็นพลังอำนาจแห่งศักยภาพและความเป็นไปได้ทั้งมวลอยู่ภายในจิตสำนึกอันเป็นอนันต์นี้
    มันก็คือทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเคยอยากได้ อยากมี อยากเป็น เช่น ความเย็น/ความร้อน ความรวย/ความจน ความเจ็บ/ความมีสุขภาพดี
    ความสุข/ความเศร้า ความยาว/ความสั้น ความฉลาด/ความโง่ ความใกล้/ความไกล ความขาว/ความดำ ความสำเร็จ/ความล้มเหลว
    ความโชคดี/ความโชคร้าย และอื่นๆอีกมากมาย ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีประมาณ
    <o></o>
    สิ่งเหล่านี้คือพลังอำนาจแห่งศักยภาพและความเป็นไปได้ทั้งมวลที่อยู่ภายในจิตสำนึกอันเป็นอนันต์นี้
    ดังนั้นความว่างเปล่าจึงตัดสินใจที่จะหาประสบการณ์กับตัวมันเอง แล้วตัวมันเองที่ว่านั้นหนะ มีมากน้อยแค่ไหน
    ก็คำตอบเดิม คือ ไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณ เป็นอนันต์

    แล้วในครั้งแรกโน้นความว่างเปล่าได้ทำอะไรไป เพื่อที่จะให้มันสมปรารถนา แล้วมันปรารถนาอะไรหละ
    คำตอบคือ มันปรารถนาที่จะสร้าง/ขยายตัวมันเอง เพื่อหาประสบการให้กับตัวมันเอง

    แล้วความว่างเปล่าซึ่งไม่มีอะไรอยู่เลยนั้น มันจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร ก็โดยการคิด การพินิจพิเคราะห์ (วิปัสสนา)
    และการขยายตัวมันเองออกไป ให้กลายเป็นจิตวิญญาณ/จิตสำนึกอันเป็นอนันต์

    จากนั้น จิตวิญญาณ/จิตสำนึกอันเป็นอนันต์ก็ทำเช่นเดียวกันบ้าง คือการคิด การพินิจพิเคราะห์ (วิปัสสนา)
    และการขยายตัวมันเองออกไป เพื่อหาประสบการณ์ให้กับตัวเอง แล้วก็บันทึกประสบการณ์เหล่านั้นไว้ในความทรงจำหรือภูมิปัญญาของมัน
    ในรูปแบบของพลังงาน คลื่นความถี่ และการสั่นสะเทือน
    <o></o>
    เพราะฉะนั้น เราอาจพูดได้ว่า จิตวิญญาณ/จิตสำนึกอันเป็นอนันต์เหล่านี้ ทำหน้าที่คล้ายๆเป็นแขน เป็นขา ให้กับความว่างเปล่า
    ในการขยายตัวหรือสร้างตัวมันเองเพิ่มขึ้น แล้วก็หาประสบการณ์ให้กับตัวมันเอง หรืออาจจะพูดได้อีกอย่างว่า
    ความว่างเปล่าหาประสบการณ์ให้กับตัวมันเองผ่านทางจิตวิญญาณ/จิตสำนึกอันเป็นอนันต์เหล่านี้
    <o></o>
    เพราะฉะนั้น จริงๆแล้วคุณคือใคร คุณคือส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณหรือจิตสำนึกอันเป็นอนันต์ ที่ขยายตัวหรือถูกวิปัสสนาขึ้นมา
    หรือถูกสร้างขึ้นมาหรืออุบัติขึ้นมาจากตัวความว่างเปล่าเอง ด้วยความรักอันบริสุทธิ์ คุณถูกสร้างขึ้นมาหรือขยายตัวออกมา
    หรือกำเนิดขึ้นมาด้วยความรักจากครรภ์ของความว่างเปล่านั่นเอง

    ซึ่งมันคือความรักในรูปแบบของจิตวิญญาณ/จิตสำนึก นี่คือเหตุผลว่าทำไมความรักจึงทำให้โลกหมุนได้
    และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเอกภพจึงยังคงดำรงอยู่ได้ และทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้ และทำให้สรรพสิ่งก่อเกิดขึ้นมา
    <o></o>
    มันคือความรักที่ทำให้สรรพสิ่งก่อกำเนิดขึ้นมาจากครรภ์ของความไม่มีอะไรเลยหรือความว่างเปล่า และทำให้ยังคงดำรงอยู่จนถึงบัดนี้
    ดังนั้นพวกเราทั้งหลาย ต่างก็ถูกสร้างขึ้นมาหรือกำเนิดขึ้นมาจากความรัก และจากนั้นพวกเราก็ต่างยังคงขยายตัวห
    รือสร้างสรรค์สรรพสิ่งขึ้นมาจากความรักเช่นเดียวกัน

    เพราะฉะนั้นเอกภพทั้งเอกภพนี้ รวมถึงสรรพสิ่งทั้งปวงนี้จึงเป็นสิ่งที่ออกมาจากหัวใจของเราด้วยความรักทั้งสิ้น
    <o></o>
    และนี่คือความลับว่า ทุกสรรพสิ่งก่อเกิดขึ้นมาจากความไม่มีอะไรเลยได้อย่างไร และรวมถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งกลายเป็นทุกๆสรรพสิ่ง
    และทุกๆสรรพสิ่งคือความเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างไร และทุกสรรพสิ่งคือความไม่มีอะไรเลย ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม
    มันจึงมีสองทางเลือกสำหรับแต่ละจิตวิญญาณหรือแต่ละจิตสำนึก นั่นคือ
    <o></o>
    - ทางเลือกที่หนึ่ง คือการเลือกที่จะเพลิดเพลินไปกับการขยายตัวหรือสร้างสรรค์สรรพสิ่งขึ้นมาจากความไม่มีอะไรเลย
    และเพลิดเพลินไปกับโลกของสรรพสิ่งที่เป็นมายาใบนี้ต่อไป

    - ทางเลือกที่สอง คือ หากจิตวิญญาณหรือจิตสำนึกใดๆเกิดเบื่อหน่ายที่จะเล่นเกมส์การขยายตัวและสร้างสรรค์สรรพสิ่ง
    และเบื่อหน่ายที่จะเล่นเกมส์กับสรรพสิ่งที่เป็นเพียงมายานี้แล้ว และเมื่อเป็นเช่นนั้น จิตวิญญาณหรือจิตสำนึกนั้นๆ
    ก็สามารถเลือกที่จะกลับคืนไปสู่บิดา/มารดาผู้ที่ให้กำเนิดมา หรือกลับคืนสู่สุญญตา ที่ที่พวกเขาจากมาได้เช่นกัน
    <o></o>
    คำถามคือ ทางไหนหละที่คุณจะเลือก? คุณจะเลือกที่จะขยายตัวหรือสร้างสรรค์สรรพสิ่งและเล่นเกมส์ต่อไป?
    หรือคุณเลือกที่จะกลับไปบ้านที่ที่คุณจากมา? มันขึ้นอยู่กับคุณ ว่าคุณจะเลือกทางไหน เพียงแค่ทำตามใจปรารถนาของคุณ
    และของวิญญาณและจิตวิญญาณของคุณ ไม่มีใครสามารถตอบแทนคุณได้ นอกจากตัวของคุณเอง...

    ..โอมมมมมมมม..


    .....................................<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2012
  14. apichan

    apichan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    825
    ค่าพลัง:
    +4,424
    อนุโมทนาในความขยันนะครับ :)

    ไม่ทราบจะกลับมาเที่ยวเมืองไทยเมื่อไหร่ครับ
     
  15. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    คุณชยุตขยันจริงๆ เลย สงสัยความรู้แน่นหัวแล้วแตกโผล๊ะมาเป็นกระทู้นี้
     
  16. gordberk

    gordberk สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +23
    ขอบน้ำใจท่านมาก...
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [​IMG]

    เจ๋งตั้งกะอยู่ในท้องเลยนะ (ขอนอกเรื่องหน่อยนะ เห็นแล้วขำ)
     
  18. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ..ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเธอ
    เป็นเพียงส่วนพ่วงต่อของประสาทสัมผัสภายใน
    ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันทางกายภาพ
    ที่ทำให้สื่อสารกันได้ภายนอก ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
    แต่ประสาทสัมผัสภายใน ทำให้สื่อสารกันได้ภายใน
    ถึงกันได้ทั้งหมดทุกเผ่าพันธุ์

    เซลทุกเซลมีประสาทสัมผัสภายใน

    อะตอม หยั่งรู้ตำแหน่ง
    หน้าที่-อัตราความเร็ว-การเคลื่อนไหว
    และธรรมชาติของสิ่งแวดล้อมของมัน
    ตลอดจนส่วนประกอบของตัวตนของมัน

    โลกของเธอไม่ได้อุบัติขึ้นด้วยความบังเอิญ
    โลกไม่ได้เกิดจากอะตอมไร้สติ
    ที่ก่อตัวเข้าด้วยกันที่นี่บ้าง-ที่โน่นบ้าง
    หรือเกิดจากการรวมตัวกันอย่างไร้สติของแก็ส
    โลกไม่ได้ถูกสร้างขึ้นทีละส่วนๆ
    แล้วประกอบเข้าด้วยกัน
    โดยพระเจ้าผู้อยู่ไกลโพ้น
    โดยที่บางชิ้นส่วนก็ดีบ้าง เสียบ้าง
    หรือบางแบบที่ดีกว่า ก็ถูกประกอบ
    ขึ้นมาบ้างในบางฤดูกาล..<o></o>

    จาก โนวา อนาลัย "ประวัติศาสตร์ของจิตวิญญาณ"
    หน้า 18

    ...........................................................................................................

    ข้อความต่อไปนี้ คัดลอกบางส่วนมาจาก
    http://palungjit.org/showthread.php?p=1506204#post1506204

    การทดลองของเซิร์นทฤษฎีวิทยาศาสตร์ที่คล้องกับพุทธศาสนา

    .....
    ๒.ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ในพุทธศาสนามีอยู่ในทุกปรมาณู และเป็นคุณสมบัติของธาตุ มิใช่ตัวธาตุโดยตรง
    และทั้งหมดนี้เชื่อมโยงกับ ๔ แรง ทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่ในทุกอะตอม

    กล่าวคือธาตุดิน เชื่อมโยงกับแรงโน้มถ่วง ธาตุน้ำ เชื่อมโยงกับแรงนิวเคลียร์อย่างเข้ม
    ธาตุลม เชื่อมโยงกับแรงแม่เหล็กไฟฟ้า และธาตุไฟ เชื่อมโยงกับแรงนิวเคลียร์อย่างอ่อน

    ๓.วิทยาศาสตร์ใหม่แสดงคุณสมบัติของอนุภาคควอนตัม(ส่วนย่อยของโปรตอน นิวตรอน ในอะตอม)
    ที่แปลกประหลาดมากมาย เช่น เป็นได้ทั้งอนุภาค และคลื่น (ทั้งสสารและพลังงาน)

    และระหว่างอนุภาคด้วยกันจะรับส่งข้อมูลสื่อสารกันได้ด้วยความเร็วมากกว่าแสง
    ซึ่งอาจจะสรุปได้ว่า อนุภาคควอนตัม มีตัวรู้ คือจิตวิญญาณด้วย
    โดยสรุปคือทุกๆ ปรมาณู / อะตอม (คือทุกสรรพสิ่ง) มีตัวรู้ด้วย


    หรือกล่าวได้ว่าทุกปรมาณู จะมีครบ ๖ ธาตุ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศธาตุ และวิญญาณธาตุ
    หรือทุกอะตอมทางวิทยาศาสตร์ก็จะประกอบด้วย ๔ แรงดังกล่าวข้างต้น
    รวมกับช่องว่าง (Space) และตัวรู้ (Conciousness )


    ๔.จากคุณสมบัติของอนุภาคควอนตัมในข้อ๓ ทำให้วิทยาศาสตร์
    ช่วยยืนยันคำสอนในพุทธศาสนา ที่ว่าทุกสรรพสิ่งไม่เที่ยง ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ และไม่มีตัวตนที่แท้จริง
    และหลักอิทัปปัจจยตา ที่ว่าทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ต่อเนื่องกันไปทั้งนั้น
    ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดอยู่ได้โดยตัวของมันเองจริงๆ

    ๕.จากคุณสมบัติอนุภาคควอนตัม ที่แสดงว่า ทุกสรรพสิ่งมีตัวรู้ บันทึกข้อมูลจากพลังจิตใดๆ ก็ได้นั้น
    ทำให้อธิบายได้ว่า ทำไมน้ำมนต์ พระเครื่อง ฯลฯ จึงศักดิ์สิทธิ์ได้ รวมถึงความเป็นไปได้จริงของไสยศาสตร์ต่างๆ
    ที่เราเคยได้เห็น ได้ฟังกันมาด้วย (แต่ไม่ควรงมงาย)
    .....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2012
  19. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    มวลสารเป็นพลังงาน

    .........ตัวอย่างที่สำคัญที่สุดก็คือสมการของไอน์สไตน์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี E=mc^2 (^ ยกกำลัง)
    แสดงความสัมพันธ์ของพลังงานและมวลสารซึ่งเป็น2แนวคิดที่ดูเหมือนว่าไม่น่าจะสัมพันธ์กันได้
    พลังงานคือความสามารถในการทำงานเช่นเมื่อเราต้มน้ำให้เดือดเราต้องอาศัยพลังงานความร้อน
    ที่อาจเปลี่ยนแปลงมาจากพลังงานไฟฟ้าหรือพลังงานเคมี และความสำคัญขั้นพื้นฐานของมัน
    อยู่ที่ข้อเท็จจริงที่ว่าพลังทั้งหมดที่เกี่ยวข้องในกระบานการหนึ่ง
    นั้นจะต้องไม่สูญหายมันอาจจะเปลี่ยนรูปด้วยกลวิธีที่ซับซ้อนและยังไม่เคยมีสิ่งที่อยู่นอกกฏนี้ปรากฏขึ้น

    .........ในปัจจุบันทฤษฎีสัมพัทธภาพได้บอกเราว่ามวลสารไม่ใช่อื่นใดนอกจากพลังงาน
    ตัวอย่างเช่นพลังงานที่มีในอนุภาค(E) ย่อมเท่ากับมวลสารของอนุภาค(m) คูณด้วยความเร็วของแสงยกกำลังสอง (C2)
    แต่ทว่ามันอาจจะถูกเปลี่ยนไปเป็นรูปอื่น ๆ ของพลังงาน ลักษณะดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่ออนุภาคชนกัน
    พลังงานจลน์นี้จะแบ่งเฉลี่ยไปให้แก่อนุภาคตัวอื่นซึ่งเกี่ยวข้องกับการชนกันนี้
    พลังงานจลน์ของมันอาจถูกใช้ไปในการสร้างมวลของอนุภาคตัวใหม่


    .........การค้นพบระหว่างมวลสารเป็นพลังงานรูปหนึ่งได้ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนความคิดของเรา
    ในเรื่องอนุภาคไปในทางที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้น และดังนั้นอนุภาคจึงไม่ถูกถือว่าประกอบด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2012
  20. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ลึกขึ้นเรื่อยๆ ล่ะ จะไปถึงทฤษฏีสตริงด้วยหรือเปล่าครับ ^_^
     

แชร์หน้านี้

Loading...