หลวงพ่อปาน รุ่นรักษามะเร็ง(ตับ)

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย บุพนิมิต, 17 ธันวาคม 2009.

  1. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    เป็นด้วยบุญวาสนาครับ...ทำให้ผมได้มาพบและครอบครองพระเครื่องของท่านฯ และได้รับประสบการณ์จากกลิ่นผงในองค์พระท่านฯโดยมิรู้ตัวครับ..จนมาระลึกได้ก็ตอนหลังทราบข่าวดีสิ้นเวรสิ้นกรรมจากมะเร็งแล้วครับ....

    ทุกวันนี้...ภาวนาพระคาถาปัจเจกโพธิ์ในทุกๆเช้าตอนขับรถเคลื่อนออกหน้าบ้านครับ.....รู้สึกปลอดภัย ใจเย็น และไม่โกธรเวลามีใครขับรถไม่ดี หรือปาดหน้าเราครับ...
     
  2. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    ทานบ่อยๆ...สารอาหารจากธัญพืช มีประโยชน์ต่อเซลร่างกายมากๆเลยครับ....
     
  3. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034

    มะเร็งตับเป็นภัยเงียบครับ.....
    ผู้ที่เป็นโรคที่เกี่ยวกับตับ...เช่นไวรัส ตับอักเสบทั้งหลาย ไขมันพอกตับ หรือตับทำงานผิดปกติ ...ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงครับ...ต้องตรวจติดตามด้วยอัลต้าซาวนด์ จะป้องกันหรือรู้ตัวได้ดีกว่าวิธีอื่นๆ...(แผนปัจจุบันนะครับ)

    มะเร็งขนาด 6cm ที่ผมเคยมี...ไม่เคยส่งสัญญาณค่า AFP เลยครับ...ซึ่งถือเป็นกรณีหนึ่งที่คุณหมอก็ให้เหตุผลไม่ได้...ว่าทำไมค่า AFP ไม่ขึ้น...
    แต่ด้วยขนาดที่โตเกิน 5cm และอยู่ลึกเข้าไปที่ขั้วตับ...การรักษาของหมอเลยต้องเลือกที่จะตัดตับออกทิ้งข้างหนึ่ง...เพื่อรักษาชีวิตไว้ครับ...
     
  4. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    โรคของกรรม...ต้องแก้ด้วยกรรมครับ....
    แต่ทุกๆโรคที่เกิดขึ้นทุกวันนี้....ต้องแก้ด้วยใจครับ.....
    ละกิเลส...ละความยากทั้งปวง...แล้วจะมีสติในการดูแลตัวเองให้มีความสุขในทุกๆวันครับคุณนัน...

    ชีวิตเรา...มีแค่ 2 องค์ประกอบเท่านั้น คือกาย กับ ใจ....แค่นี้เอง...จริงๆ
     
  5. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    ขอบพระคุณคุณหมูน้อยที่ เมตตาแวะมาเยี่ยมครับ...
     
  6. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    ผมว่าใจสำคัญสุดเลยครับพี่ คือ ใจ แยกไปอีก เป็นจิต กับใจ(สติ) ผมเข้าใจถูกหรือป่าวครับพี่

    ละกิเลส ยากสุดๆ แต่ก็ต้องค่อยๆละ ไปเรื่อยๆ เด๋วก็ชินใช่หรือป่าวครับ

    กว่าพี่เกรียงจะมาเช็คกระทู้นี้ นานทีเดียวเชียวครับ
     
  7. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    ฮ่าๆๆๆ....ขอบพระคุณครับคุณนัน...ที่ช่วยเข้ามาดันให้ครับ...
    ช่วงนี้งานเยอะ...เลยแวะเพียงกระทู้พระบ้านเป็นหลักครับ...โชตดีที่กระทู้พระบ้านๆ...มีพี่หน่องเมตตาช่วยส่งเสริมอยู่ทุกวันครับ...

    เรื่อง "จิต" กับ"ใจ" หากคิดว่ามันคือสิ่งเดียวกัน ก็จะง่ายที่จะเข้าใจ...
    แต่หากแยกมันออกจากกัน...บางครั้ง...มันก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรมากนักจากการแยก...
    ผมมองมันแค่พื้นๆ...ดังนั้น...จิตกับใจ...ในความหมายของผม...คือสิ่งเดียวกันครับ....
    หลักพื้นฐานที่สุดของสิ่งมีชีวิตตามหลักพุทธ...
    จิต(ใจ) คือนาม ตัวตนของเรา
    กาย คือรูป..เปรียบเหมือนที่อาศัยของจิต

    กายที่จิตอาศัยอยู่...มีเกิดมีดับ...ไม่มีสิ้นสุด ไม่เสถียร...ไม่คงอยู่...
    แต่จิตนั้นไซร้...ดำรงอยู่...ไม่มีดับสูญ...ตามกรรม...เปลี่ยนเพียงกายที่เป็นเรือน...
    เมื่อกายเสื่อมสลาย..ตามกฏแห่งธรรมชาติ...จิตก็เปลี่ยนเรือน...ตามกรรม ตามวัฏสังสาร...
    ดังนั้น...นิพพาน จึงเป็นที่สุดของจิต...เป็นสิ่งที่จิตบริสุทธิ์ ใฝ่ถึง...หรือต้องการไปให้ถึงเป็นเป้าหมายสุดท้าย ของผู้บำเพ็ญความดีต้องการ

    ผมเอง...ไม่เคยใฝ่ฝันถึงนิพพานครับ...ไกลเกินเอื้อม...ลำพังแค่ดับ"ความอยาก"ให้ได้ทุกครั้งที่มันบังเกิดขึ้น..ก็นับว่าสุดยอดแล้วครับคุณนัน..ฮ่าๆๆๆ

    เวลาเกิด"ความอยาก" ขึ้นในใจ...ลองใช้สติ จับจริต"ความอยาก" ของเราขณะนั้นดูซิครับ...เรียนรู้ความรู้สึก"อยาก" ต่างๆนาๆ หลายๆอารมณ์...ผมว่า จะทำให้เราเข้าใจและเข้าถึงตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง แบบบริสุทธิ์ได้ครับ...

    ทำบ่อยๆ...ทำจนชิน...ก็ไม่ยากที่จะเกิดองค์ความรู้ในตัวเองครับคุณนัน..
     
  8. 15 ค่ำ

    15 ค่ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,108
    ค่าพลัง:
    +10,573
    สวัสดียามเช้าๆครับ ^ ^
     
  9. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    สวัสดียามบ่ายครับ...ท่าน 15ค่ำ...
    มิได้เข้ามาเสียหลายวัน...มัวเพลินกับห้องพระเครื่อง อยู่อ่ะครับ....

    ได้มีโอกาศพูดคุยกับเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่ง...ที่โทรเข้ามาขอคำชี้แนะในการปฏิบัติและดูแลตัวเองในช่วงที่รู้ว่า...เราเป็นมะเร็ง และต้องได้รับการรักษาจากหมอแผนปัจจุบัน....

    แต่อย่างที่กล่าวไว้ในโพสต้นๆนะครับ...เจตนาจริงๆของผม คือต้องการให้ผู้ที่แสวงหาคำตอบเพื่อการอยู่รอดและต่อสู้กับมะเร็งได้รับรู้ ว่า...มีผู้ที่รักษามะเร็งขั้นวิกฤตรอดชีวิต อยู่จริง....ไม่เป็นเพียงผู้ถึงอ้างถึงในหนังสือสุขภาพ หรือหนังสือเกี่ยวกับมะเร็งอื่นๆที่มีขายอยู่ในท้องตลาด...

    ข้อเท็จจริงที่อยากแจ้งให้รับรู้คือ...ผมได้พบและได้รู้จักกับผู้ป่วยมะเร็งชนิดหมอบอกให้ไปรอทำใจอยู่ที่บ้าน (หมอไม่รับรักษาต่อ) แต่ก็สามารถดูแลตัวเอง อยู่ร่วมกับมะเร็งมาได้ยืนยาว 10 กว่าปี...มีตัวตนอยู่จริงๆ...และไม่ใช่ผู้ที่ถูกเขียนถึงในหนังสือเกี่ยวกับมะเร็งที่เราเห็นในเนท หรือขายทั่วๆไป...

    สิ่งเดียวที่ผมได้ทราบเหมือนๆกันคือ...ท่านล้วนยึดหลักธรรมชาติ หลักธรรม ในการดูแลตัวเองในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ครับ....

    บางท่านก็เป็นวิทยากรรับเชิญ...ไปบรรยายเกี่ยวกับการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับมะเร็ง....

    สำหรับผมในทุกวันนี้...มะเร็งไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่เคยเข้าใจ...มีอีกหลายสิ่งหลายอย่าง...ที่คร่าชีวิตเราได้ และน่ากลัวกว่ามะเร็งครับ...

    สองสามวันก่อน...เด็กข้างบ้านวัย 15 ปี...
    เกิดอาการปวดศรีษะเพราะเครียดเรื่องความรัก...หมดสติ ไม่หายใจไปเฉยๆ...
    ตอนนี้นอนอยู่ในไอซียู...ยังไม่รู้สึกตัวเลย....
    เด็กผู้ชาย วัยเรียน แข็งแรง...เพื่อนหลานสาว...นั่งรถไปโรงเรียนคันเดียวกันทุกวัน...
    นี่เป็นตัวอย่างนึงครับ...ที่ร้ายกว่ามะเร็ง....และยังไม่รู้ว่าจะรอดหรือไม่รอด...

    ดังนั้น...มะเร็ง...เป็นได้และหายได้จริงๆครับ...ไม่น่ากลัวเลย....
     
  10. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    หลักสำคัญสามอย่างที่ผมยึด...คือ
    1. อาหาร
    2. ออกกำลังกาย
    3. สวดมนต์ ทำสมาธิ...

    ข้อสองกับข้อสาม...ทำไม่ยาก...ทำได้ทุกวัน...เลือกเอาครับ.....
    สำหรับผม...เช้าวิ่งสบายๆ ออกกำลังกายพอหอบ...
    ก่อนนอน...สวดมนต์ ทำสมาธิ ...มากบ้าง น้อยบ้าง...แต่สม่ำเสมอ....
    สองข้อนี้...ทำง่ายที่สุด...แต่ประโยชน์มากกว่าข้อแรก..มากมายครับ....

    ส่วนข้อแรก...
    หัดกินผัก...กินผลไม้...
    เพื่อนผมคนหนึ่ง เป็นเก๊าท์ แก่เกินวัย...ทรมานอยู่ทุกวัน แต่ยังไม่ตาย...
    พอพูดเรื่องกินผักผลไม้...มันบอกเลย "ผมกินประจำ?????"
    แต่พอผมถามกลับไป...
    วันนี้กินหรือยังล่ะ?...คำตอบคือ..ยัง? หุหุหุ
    วันนี้กินผลไม้อะไรมาล่ะ...คำตอบคือ..ยังไม่ได้กิน

    แต่สิ่งที่ผมทำคือ...ผมมีผลไม้ติดมือมากินที่ห้องทำงาน ทุกๆวัน....
    เช้าขึ้นมาก...ผมกินน้ำมะพร้าวอ่อนก่อนทานมื้อเช้า 1 ชม.ทุกๆวัน....

    ที่บ้าน...
    งดกินเนื้อสัตว์ใหญ่...ไม่ซื้อเนื้อสัตว์ใหญ่เข้าบ้าน....
    ไม่ซื้อ manufacturing food เข้าบ้าน...งดเด็ดขาด....

    กินข้าวกล้องผสมข้าวขาวทุกๆวัน.....
    มือเช้า มื้อเที่ยง...ทานข้าว
    มื้อเย็นทานสลัด..หรือผักผลไม้เบาๆ...ไม่ทานเยอะ ไม่เน้นอิ่ม

    และอีกหลายๆสิ่ง...เช่นน้ำเต้าหู้...ต้มถั่วเขียว...ข้าวโพดต้ม ถั่วต้ม....
    น้ำตาล...เปลี่ยนเป็นนำตาลทรายแดงและน้ำตาลอ้อย...

    น้ำใบบัวบก น้ำอาร์ซี...น้ำผลไม้คั้น....สลับสับเปลี่ยนในแต่ละวัน...

    แกงส้ม..ผักรอบๆบ้าน....ตำรึง ชะอม กวางตุ้ง ผังบุ้ง มะรุม แค กระเจี๊ยบ สะเดา...
    น้ำพริก นานาชนิด...ปลาทู ปลาสลิด ปลาทับทิม...

    กินซ้ำๆ..วนไปวนมา...หารอบๆบ้าน....

    ตรงนี้อาจยากสำหรับบางท่าน....

    แต่ทั้งหมดนี้...คือหนทางต่อสู้ที่ผมเลือกใช้ในระยะเวลาหนึ่งปีกว่าๆ กับมะเร็งเพิ่อนรักครับ...
    แล้วเราก็เลิกคบกัน...มันเป็นคนทิ้งผมไปเองครับ...
     
  11. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    ผมมีผู้ใหญ่ใกล้ตัวที่ต้องเผชิญเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้นะครับ....
    แต่ปัญหาที่พบคือ....
    ท่านตัดใจเลิกกินเนื้อกินหมูไม่ได้...เหตุผลคือ มันไม่อิ่ม ไม่อยู่ท้อง..อืมมม...ก็สุดแต่กรรมอ่ะครับ...
    กินผักซ้ำไปซ้ำมาบ่อยๆ...เบื่อ..กินไม่ลง...น้ำหนักลด แรงไม่มี...อืมมม...ก็สุดแต่กรรมเช่นกัน...

    หมอบอกหกเดือน...เพียงสองเดือนท่านก็ทรุดโทรมอย่างรวดเร็ว แล้วก็จากไปครับ...
    ทำบุญต่อชะตา ถวายพระพุทธรูปให้วัด...ก็เป็นแบบที่เห็นครับ...

    ของผม..ภรรยาก็บนไว้กับหลวงพ่อพระพุทธชินราช...พอหายป่วย...ก็พากันไปกราบหลวงพ่อที่พิษณุโลกครับ...แล้วก็แก้บนตามที่ตั้งใจไว้...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2010
  12. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    อัพเดทข้อมูล....

    ปี 2553 นี้...เป็นช่วง follow up 3 เดือนครั้ง....หลังจากผ่านผล MRI เมื่อประมาณธันวาคม 2552....

    เมื่อวันอังคารที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา...เป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 1 ปีนี้...ที่ต้องไปพบหมอ...ฟังผล CT Scan....

    ผมออกจากบ้านพระพุทธบาท...ตีหนึ่งครึ่ง....ถึงศิริราช ก็ราวๆตีสามกว่าๆ....
    จอดรถ...จัดที่ทาง...นอนต่ออีกพัก...

    เจ็ดโมงเช้า...ตื่น...เตรียมตัวพร้อม...ไปเข้าคิวยื่นเอกสารที่ตึก ปกส....
    ยื่นเอกสาร...ได้บัตรคิว...เดินไปทานข้าวโรงอาหาร...เป็นเรื่องประจำครับ...อีกนานกว่าจะผ่านตรงจุดนี้...ฮ่าๆๆๆ

    กินข้าวสบายๆ...เดินไปดูหนังสือพระ...ได้"มงคลทิพย์"ติดมือมา...กลับมารอเรียกรับแฟ้มฯ...
    แปดโมง...ได้แฟ้ม...ตรงไปเข้าคิวต่อที่ชั้นล่างรังษี...รับผล ct scan...จุดนี้ไม่ค่อยนาน...ประมาณ 4-5 คิวก็ได้รับผล...

    ได้ผล ct แล้ว...เดินขึ้นชั้น 3 ไปยื่นแฟ้มที่ฝ่ายศัลยกรรม...รอเรียกเข้าพบหมอ...เป็นอีกจุดหนึ่ง...ที่ยาวๆๆๆๆๆ....
    ผล ct อยู่ในมือแล้ว...นึกในใจ...จะอ่านก่อนดีมั๊ยว่ะ...
    อืมมม...ลังเลใจ...คล้ายๆตอนมาฟังผล MRI เมื่อ 1 ปีที่แล้ว....ไม่กล้า...ไม่อยากรู้ก่อน...กลัวผลไม่ ok แล้วต้องมาฟังซ้ำจากปากหมออีก...ไม่เอาดีกว่า....วัดดวง...หุหุหุ...กลัว...แต่สู้โว๊ยยย....

    ยื่นแฟ้มเสร็จฯ...พยาบาลบอก..."ไปทานข้าวก่อนได้นะ...อีกนานกว่าจะเรียก"...
    เดินลงมาเตร่ชั้นล่าง...สั่งคาปูชิโนร้อน togo...เข้าห้องน้ำให้พร้อม (ห้องรังษีชั้นล่าง...ห้องน้ำสะอาดกว่าชั้น 3 ศัลยกรรมครับ)...

    ดูโน้นดูนี่...จิบกาแฟร้อน...ฆ่าเวลา....เดินขึ้นไปรอชั้น 3 เก้าโมงกว่า...

    สักพัก...ถูกเรียกจากด้านนอก...เข้าไปรอด้านในอีกรอบ...ส่งผล ct ติดหน้าอกอักษร "A" สีแดง...กลุ่มทางเดินอาหาร ในช่องท้อง ประมาณนี้ๆครับ...

    เจอคุณลุง...ป่วยหลายๆโรค...คุยกันถูกคอ...
    สอนผมเรื่องกรรมมัถฐาน...ท่านอน...
    ให้สติเรื่องดู/ศึกษาพระเครื่องฯ...อิอิอิ...โดนใจครับ...ต้องกราบขอบพระคุณคุณลุงอย่างสูง...(ไม่ได้ถามชื่อ...อิอิอิ)

    ขณะคุยกะคุณลุงอย่างเข้าได้เข้าเข็ม...แกกำลังจะถอดพระในคอให้ดู....พยาบาลเรียก...เข้าไปเตรียมพบหมอหน้าห้องตรวจ...
    จำต้องอำลาคุณลุงด่วนในตอนนั้น...ฮ่าๆๆๆๆ

    พบหมอ...ยิ้ม...ทักทาย....
    หมอก็ถามเดิมๆ..."เป็นอย่างไรบ้าง...มีอาการอะไรผิดปกติมั๊ย"....
    ผมก็ตอบหมอเหมือนๆที่เคยตอบ..."สบายดีครับ...แข็งแรงดีครับ...."

    ไอ้คำว่า.."อาการผิดปกติ" เนี่ย....สำหรับคนที่เป็นมะเร็งตับ ก็คือ....
    - ตาเหลือง
    - ตัวเหลือง
    - อาหารไม่ย่อย
    - ท้องอืด
    - ท้องปวม
    - ท้องโต
    - อ่อนเพลียง่าย...ฯลฯ ครับ...
    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ผล...เป็นที่น่าชื่นใจ....
    ไม่มีอะไรบ่งชี้ว่ามีเซลมะเร็ง หรือเชื้อมะเร็งอยู่ในตับ....คริคริคริ...โล่งอก ฮ่าๆๆๆๆๆ

    ปีนี้ 3 เดือนเจอกัน...
    ปีหน้านี้...4 เดือนล่ะกัน....หมอบอก
    หากแน้วโน้มดี...ก็เพิ่มเป็น 5 และ 6 เดือนเจอกัน...

    หมอเขียนใบนัดครั้งถัดไป....บ๊าย บาย หมอ....ไปเดินเรื่องนัด...
    เสร็จ...ขับรถกลับบ้าน....แวะไป ฟิวเจอร์ปาร์ค...ซื้อของตามใบสั่งภรรยา....
    สบายใจ...กล้าขึ้นเยอะ...ความกลัวมะเร็งที่ยังคงติดค้างในใจอยู่บ้าง...หายไปเกือบสิ้น....
    วันหนึ่ง...จะไม่มีความกลัวหรือกังวลหลงเหลือในใจอีกแม้แต่นิดเดียว...

    เอาใจช่วยคนที่ต้องต่อสู้กับมะเร็งทุกๆคนครับ...
    ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2010
  13. akachiro

    akachiro เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +1,327
    ดีใจด้วยครับ
    ท่านบุพนิมิต
     
  14. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    บทสวดชะยันโต พุทธชัยมงคลคาถา กับการรักษามะเร็งตับ

    ในช่วงปีกว่าๆที่ผ่านมา (5 ก.ย 51 จนถึง 14 ธ.ค. 52) ผมต้องเข้า-ออก รพ.ศิริราชเป็นว่าเล่น ไปทำ x-ray CT Scan, ไปพบหมอเพื่อฟังผล, ไปนอน admit เพื่อให้ครีโมฯ เฉลี่ยแล้ว ต้องไปทุกเดือน (ครั้งถัดจากนี้ไปคืออีกสามเดือน...ฮ่าๆๆๆ ค่อยยังชั่ว)

    ผมมีเรื่องเล่าโดยเฉพาะตอนอยู่บนเตียงผ่าตัดเพื่อให้ครีโมฯ (TACE) TACE คือวิธีการเปิดเส้นเลือดใหญ่ที่โคนขาหนีบ แล้วใส่สายสวนเส้นเลือดเพื่อเข้าไปยังก้อนมะเร็งที่อยู่ภายในตับ ใช้เวลาในการทำประมาณ 1-2 ชั่วโมง นอนบนเตียงเล็กๆขนาดพอดีตัว ขยับไม่ได้ ไม่ได้วางยาสลบ ปิดตา และคอยฟังคำสั่งจากหมอและพยาบาล

    พอผมรู้ว่าต้องขึ้นเตียงผ่าตัด ผมฟิตร่างกายโดยการออกวิ่งทุกเช้า สวดมนต์ทำสมาธิก่อนนอนทุกคืน ได้ผลครับ ร่างกายโอเค ไม่ปวดหลัง เมื่อยก้นแต่พอทนได้ แต่ด้านจิตใจ...ไม่โอเคครับ สวดมนต์ได้ไม่ตลอด ใจวอกแวก บทไหนก็ไม่นิ่ง ฟุ้งซ่านมาก แล้วยิ่งตอนจบ หมอเดินน้ำยาครีโมฯ เฉียดนรกเลย สุดบรรยาย ขนาดเราฟิตขนาดนี้...ยังไม่อยากกลับไปซ้ำอีกเลย แล้วคนที่ร่างกายไม่แข็งแรงจะขนาดไหนเนี่ย ขึ้นอยู่กับใจล้วนๆเลย

    เข็มแรกผ่านไป...กลับมาฟิตใหม่ เพื่อรอรับเข็มที่สอง วิ่งทุกเช้า วันละประมาณ 1 กม. (วิ่งๆเดินๆนะครับ...ไม่วิ่งแบบหมาหอบ ฮ่ะๆๆๆ) สวดมนต์ทำสมาธิเหมือนเดิม เรื่องอาหารก็เป็นปัจจัยหนึ่งนะครับ แต่จะไม่พูดถึงในที่นี้

    อีกประมาณ 6-8 สัปดาห์ผ่านมา ครีโมฯเข็มที่ 2 มาถึง...ร่างกายฟิตเปี๊ยะ ไม่ปวดไม่เมื่อย เมื่อยก้นเล็กน้อย แต่สมาธิแจ่มครับ...สวดได้ตั้งแต่ต้นจนจบบทแผ่เมตตา บทอุทิศส่วนกุศล เวลาเหลือ...จะสวดบทไหนต่อดี พระพุทธคุณ(อิติปิ โส), พาหุง-มหากา, ยังไม่ได้ความรู้สึก ลองวนที่บทชะยันโตเห็นพระชอบใช้ตอนพรมน้ำมนต์...แจ่มอ่ะ ได้ฟิลลิ่งครับ รู้สึกกำลังใจดีสุดๆ ฮ่ะๆๆๆ ชะยันโต กับการภาวนะในใจ (มะเร็งร้ายจงหายไปๆๆๆๆ) แจ่มมาก

    ได้ผลเกินคาดครับ...หมอรังษีที่ให้ครีโมฯแจ้งว่า ยกเลิกการเดินยา เพราะกลุ่มจุดเล็กปลายตับซีกซ้ายดังกล่าว ทดสอบแล้วไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ไม่ใช่เซลมะเร็ง ทีมเจ้าหน้าที่คนหนึ่งแซวว่า นึกว่ามานอนเจาะเล่นๆ ฮ่ะๆๆๆ ดีใจสุดๆเหมือนกัน แต่ครั้งนี้นะซี่ ที่หมอฝ่ายศัลยกรรมเข้ามา Motivate ให้ตัดตับซีกขวาออก..ชีวิตแทบสิ้นหวัง

    อีกหกสัปดาห์ถัดมา...ให้ครีโมฯเข็มที่สามซ้ำที่จุดเดิมเมื่อครั้งที่สองที่ฝ่ายรังษียกเลิกการเดินยา เนื่องจากมีความเห็นแย้งกันระหว่างฝ่ายรังษีและฝ่ายศัลยกรรม ฝ่ายรังษีจึงจำเป็นต้องเจาะไปที่จุดเดิมอีกรอบ และคราวนี้..เหมือนเดิมครับ ร่างกายฟิตเปี๊ยะ จิตใจ(สมาธิ)แจ่มครับ สุดยอด พอขึ้นนอนบนเตียงผ่าตัด ผมก็เริ่มสวดมนต์จนถึงแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศล แล้วก็...สวดชะยันโต พร้อมภาวนา (มะเร็งร้ายจงหายไปๆๆๆๆ) อะไรจะเหลือเชื่อปานนั้นครับ..หมอฝ่ายรังษี confirmed 100% เนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าวไม่ใช่เซลมะเร็ง เย้....ถึงเจ็บก็คุ้ม แต่หมอฝ่ายศัลยกรรมก็ยังไม่หายสงสัย แล้วตั้งสมมุติฐาน 3 อย่างว่า
    1. อาจไม่ใช่เซลมะเร็งจริงๆ
    2. เป็นเซลมะเร็งที่ตายแล้ว จากผลการให้ยาครั้งแรก
    3. เป็นเซลมะเร็งที่มีเส้นเลือดอวัยวะส่วนอื่นหล่อเลี้ยงอยู่
    ไม่รู้ล่ะ...ผมดีใจไว้ก่อน ว่าการสวดมนต์ภาวนาได้ผล อิอิอิ....

    อีกเกือบสองเดือนผ่านมา 14 ก.ย. 52 ให้ครีโมฯเข็มที่ 4 ครั้งนี้เพราะผลจาก CT Scan ก่อนหน้าพบว่า ก้อนขนาด 6 ซม. ลดลงไปเหลือประมาณ 3.2 ซม. และปรากฏเซลมะเร็งหลงเหลืออยู่ภายในก้อนขนาด 3.2 ซม.นั้น จึงจำต้องให้ครีโมฯต่อ แล้วก็เหมือนเดิมครับ...พอขึ้นนอนบนเตียงผ่าตัด ผมก็สวดมนต์จนจบ แล้วก็สวดวนชะยันโต และภาวนา (มะเร็งร้ายจงหายไปๆๆๆ) เหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ไม่รอดครับ โดนยาแต่โชคดีตรงที่ว่า..คุณหมอสั่งยาไป 1 โดส แต่ใช้จริงครึ้งโดส การเดินยาไม่ปวดมากเท่าครั้งแรก แต่ใช้เวลานานกว่า พยาบาลแจ้งให้ทราบว่า คุณหมอค่อยๆเดินยาเพราะบริเวณที่ให้คือจุดเล็กๆขนาด 0.5 ซม. ที่ตับด้านซ้ายด้วยพร้อมกันทีเดียว สุดๆ...แต่พอทน

    และจนมาถึงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (14 ธ.ค. 52) ข่าวดีก็เป็นของผม ผลการ x-ray MRI (2 ธ.ค. 52) ไม่พบเนื่อร้ายหลงเหลือในตับผมอีกแล้ว ถึงแม้จะมีหลายๆปัจจัยที่ทำให้ผลการรักษาหายได้ แต่ที่ช่วยให้ผมทนต่อการนอนบนเตียงผ่าตัดได้นานเกือบสองชั่วโมงทุกครั้ง คือบทสวด ชะยันโตครับ

    ขออนุโมทนาบุญสำหรับบทความที่แด่ผู้อ่านทุกท่านครับ

    -----------------------------------------------------------------------
    นำกลับมารวมในกระทู้นี้ครับ...เป็นสิ่งหนึ่ง...ที่ช่วยให้ใจผมสงบ นิ่ง...และไม่กลัวมะเร็ง...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2010
  15. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    ขอบพระคุณอย่างสูงครับ...ท่าน akachiro....
     
  16. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    เพิ่งเข้ามาอ่าน ดีใจด้วยนะครับ
     
  17. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    ขอบพระคุณอีกครั้ง...และอีกหลายๆครั้งต่อไปข้างหน้าด้วยครับ....
    ปีหน้าหากมี trip เยี่ยมลูกค้าแถวนครปฐม...จะหาเวลาแวะไปคารวะทักทายครับพี่....

    ด้วยความเคารพครับ...
     
  18. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    ครับ ยินดีต้อนรับครับ
     
  19. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    นับจากโพสแรกจนถึงวันนี้....เกือบสองปีแล้ว....
    ปี ๒๕๕๓....พบหมอสามเดือนครั้ง.....
    ปี ๒๕๕๔....(ปีนี้) พบหมอสี่เดือนครั้ง......

    ๒๐ ก.ค. ที่ผ่านมา...เป็นการพบครั้งที่สองของปีนี้.....อีกสี่เดือนเจอหมอใหม่...ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
    ครั้งถัดไปจะเป็นปลายปีครับ...ประมาณ ๙ พฤศจิกายน...นานๆเจอหมอที...อดตื่นเต้นไม่ได้....อิอิอิ....

    ภาระ หน้าที่ในการต้องไปพบหมอเป็นประจำ...ถึงแม้จะเสียเวลา 2 วันต่อครั้ง...และใช้เวลาทั้งวันเพื่อที่จะรอพบหมอเพียง 2-3 นาที...แต่มันคุ้มค่ามากเมื่อมองย้อนกลับไปในอดีตที่เหมือนฝันร้ายที่รอดพ้น มาได้.....

    มีน้องท่านหนึ่งถามผมว่า...หลังจากผ่านเหตุการณ์ร้ายในชีวิตมาได้...พี่คิิดจะทำอะไรบ้าง...ไปเที่ยวไกลๆมั๊ย?

    คำ ตอบที่ผมมีอยู่ในใจเพียงคำตอบเดียวคือ...ผมขออยู่กับครอบครัว ไม่มีอะไรสำคัญที่สุดหรือสิ่งใดสำคัญที่สุดกับผมอีกแล้ว....นอกจากครอบครัว ....(ลูก ๒ เมีย ๑ ...และคนที่อยู่รอบๆตัวผม)....

    วันที่ผมไม่มีทางเลือกให้กับชีวิต...เงินมากมายเท่าไหร่...ก็มิอาจแก้ปัญหาให้ผมได้....
    ชีวิตที่เหลืออยู่...ไม่ได้แลกมาด้วยเงิน...
    แต่แลกมาด้วยใจที่ไม่ยอมตาย...
    แลกมาด้วยความหวังและกำลังใจของภรรยา....
    แลกมาด้วยกำลังใจจากพี่ๆน้องๆญาติและเพื่อนๆทุกคนที่รู้ข่าว....
    และอีกหลายคน หลายปัจจัยที่เมตตาเรา.....

    ชีวิตง่ายขึ้น...
    ไม่ว่าจะเรื่องครอบครัว....
    เรื่องงาน...
    หรือสิ่งแวดล้อมอื่นๆที่อยู่รอบๆตัวเรา.....
    ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เราทุกข์ใจได้นาน....

    ปล่อยวางได้ง่ายขึ้น...เพราะมันเป็นแค่สิ่งเล็กๆน้อยๆ เมื่อเทียบกับวิกฤติที่เราเคยเจอ....ฮ่าๆๆๆๆๆ

    และด้วยความเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาๆคนหนึ่งบนโลกใบนี้....
    ยอมรับครับว่า...ไปหาหมอแต่ละครั้ง...ยังคงตื่นเต้นและตัดความกังวลใจไม่เคยได้สักที....
    แต่ยังดีที่ใจยังมั่นคงกับความเชื่อที่ว่า...หากเราไม่ยอมที่จะตาย อะไรก็มาทำร้ายเรามิได้....
    กรูแข็งแรง...กรูไม่กลัวมึง ไอ้มะเร็ง....ฮ่าๆๆๆ
     
  20. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    คุณเข้มแข็งมาก.....คุณได้ใจผมจริงๆ...สู้ต่อไปนะครับ..(^___^)

    ประโยคนี้มันทะลวงเข้าไปที่กลางใจผมเลยยยยทีเดียว...

    " ชีวิตที่เหลืออยู่...ไม่ได้แลกมาด้วยเงิน แต่แลกมาด้วยใจที่ไม่ยอมตาย"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...