หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง กับ หลวงพ่อจันทร์ วัดมฤคทายวัน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 13 มีนาคม 2010.

  1. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ............
    .................................................................................
    .....ผมก็เล่าไปแล้วเหมือนกัน..ครั้งที่๒...แต่พอเล่าใหม่มันก็ไม่เหมือนเดิม..เพราะไม่ได้กลับ
    ไปอ่าน..ก็คงได้ความรู้สึกคนละอย่าง..แต่..จำเป็น..เพราะมันมาประกอบเรื่องนี้.....
    .......เพื่อนรักผม..ไอ้หนอง (ตายไปแล้ว)...เมื่อปี ๒๕๒๐...เราเข้ามาเป็นลูกจ้างชั่วคราว...
    ..ที่ รพช.(เร่งรัดพัฒนาชนบท)..ที่เดี๋ยวนี้..แปรสภาพไปแล้ว...ไอ้หนองมัน..ก็ชอบเล่นพระ
    เหมือนผม..แต่..มันเริ่มช้ากว่าผม..หลายปี...ผมเลยเหนือกว่ามันหน่อย..(..แต่เรื่องผู้หญิง..
    มันเหนือกว่าผม..มหาศาล)...ตอนนั้น..ตลาดกลางยังไม่ค่อยรู้จัก..หลวงพ่อศุข..เท่าไหร่..
    ก็เล่นกัน..แต่..หลวงพ่อแดง..หลวงพ่อหนึ่ง(วัดห้วยโรง)..หลวงพ่อโศก..หลวงพ่อฉุย..
    ราคาเหรียญถูกมากที่..สนามกรุงเทพ..เพราะยังไม่มีการเผยแพร่..ประวัติท่าน..ในหนังสือ
    พระเป็นเรื่องเป็นราว..ต่างกับ..หลวงพ่อแดง..ฟ้ากับเหว...หลวงพ่อศุข..นี่ท่านได้..
    อาณิสงฆ์..จากหลวงพ่อยิดนะครับ..นักเล่นพระหน้าใหม่ๆ...ไม่ค่อยทราบกัน.......
    ...หลวงพ่อยิด..ดังก่อน..เพราะหนังสือมหาโพธิ์...ของใหญ่ ท่าไม้...เอามาลงประวัติ...
    ตั้งแต่เรื่องปลัดขิก..บินเแข่ง..กับเครื่องบินไอพ่น....แล้วท่านก็ดังขึ้นเรื่อยๆ...พอ..ใหญ่
    ท่าไม้..สัมผัสกับ..ท่านบ่อยๆ..ท่านก็คงเล่าถึง..ความเก่งกาจของอาจารย์...มหาโพธิ์..จึง
    เริ่มลง ประวัติหลวงพ่อศุข..และ..เหรียญของท่าน...ตอนขณะนั้น...เมืองเพชร..มี..
    เหรียญที่ฮือฮา..มากราคาสูงลิ่ว..แข่งกับหลวงพ่อแดงเลย..เพราะประสพการณ์มากหลาย
    ...นั่นคือ..เหรียญของ...หลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลือง....เหรียญนี้เหนียวมากครับ..
    ....หลวงพ่อศุข..ยังแค่หลักร้อยแก่ๆ...เหรียญหลวงพ่อเพลินนะ..เหยียบหลักหมื่นแล้ว..
    .......แต่นี่..เป็นเหตุการณ์หลังจาก...ปี ๒๕๒๐ ไปร่วมเป็นสิบปี....ไอ้หนองมันเห็น...
    เหรียญหลวงพ่อศุข..ที่ผมห้อย..มันไม่เคยเห็น..มันก็ให้เล่าประวัติให้ฟัง.....ผมก็เล่า..
    ก็คล้ายกับที่..เล่าให้ท่านทั้งหลายฟังนี่แหละ...แต่ย่อหน่อย...มันฟังเข้าถึงกับ..ตาลุก...
    มันบอก..เดี๋ยวสักวัน..มันจะหามาห้อยให้ได้...ผมก็บอกว่า..เฮ้ย..หาไม่ยากหรอก..ยิ่ง
    ถ้ามึงมาถึงเมืองเพชร..ดูเค้าหน้าที่เหรียญกูนี่แหละ..จำเค้าหน้าไว้....ของปลอมหน้าไม่
    เหมือน..(อย่างว่า..ตอนนั้น..พระหลักร้อย...ของปลอม..มันก็ไม่พิถีพิถันอะไร...)......
    ...........แล้วปรากฎว่า...ที่กองที่เราทำงานอยู่..มีการเลี้ยงฉลอง..ประจำปี..อะไรไม่ทราบ
    ผมก็จำไม่ได้แล้ว....ช่วงหยุดติดต่อกันหลายวันนี่แหละ...ยกกันไปทั้งหมด..ไปสังสรรค์กัน
    ที่..ประจวบ..ก็ไปกันง๒-๓วัน..เล่นน้ำ..พักกันชายทะเล..รพช.ประจวบ..เป็นเจ้าภาพ..
    พอตอนขากลับ..เริ่มออกจากประจวบ..ไอ้หนอง..มันก็มานัดแนะ..กับผม..มันบอกว่า..
    อยากสักยันต์ครูวะ...ผมก็บอก..เออหลวงพ่อแผ่วนี่ท่านก็เก่งนะ...ก็ไม่เลว.......
    ..................ผมกับมัน..ก็..เลย..มาลงรถ..ริมเพชรเกษม..ที่..ริมคลองชลประทาน..ทางเข้าวัด
    โตนดหลวง....ปล่อยให้คนอื่นเขากลับบ้านกันไป....เราก็มุ่งหน้าสู่..วัดโตนดหลวง...
    ........นี่คือ..การไปเป็นครั้งที่ ๒ ของผม...................
    ...(ถ้าไอ้ที่เล่ามันเพี้ยน..ไปจากเดิมบ้าง..ก็อย่าว่ากันนะครับ..ผมแก่แล้ว..รายละเอียดมันอาจ
    ไม่เหมือนกัน..บางทีตอนนี้..อาจจำได้มากกว่า..ตอนที่เขียนครั้งแรกอีก..ผมก็ขี้เกียจกลับ
    ไปอ่านซะด้วย.....ก็ด้นกัน..สดๆ..ตามความทรงจำ ณ ตอนนี้เลย...)
    .....................................ต่อตอนหน้าครับ.................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2013
  2. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ............
    ....................................................................
    .....ผมก็เล่าไปแล้วเหมือนกัน..ครั้งที่๒...แต่พอเล่าใหม่มันก็ไม่เหมือนเดิม..เพราะไม่ได้กลับ
    ไปอ่าน..ก็คงได้ความรู้สึกคนละอย่าง..แต่..จำเป็น..เพราะมันมาประกอบเรื่องนี้.....
    .......เพื่อนรักผม..ไอ้หนอง (ตายไปแล้ว)...เมื่อปี ๒๕๒๐...เราเข้ามาเป็นลูกจ้างชั่วคราว...
    ..ที่ รพช.(เร่งรัดพัฒนาชนบท)..ที่เดี๋ยวนี้..แปรสภาพไปแล้ว...ไอ้หนองมัน..ก็ชอบเล่นพระ
    เหมือนผม..แต่..มันเริ่มช้ากว่าผม..หลายปี...ผมเลยเหนือกว่ามันหน่อย..(..แต่เรื่องผู้หญิง..
    มันเหนือกว่าผม..มหาศาล)...ตอนนั้น..ตลาดกลางยังไม่ค่อยรู้จัก..หลวงพ่อศุข..เท่าไหร่..
    ก็เล่นกัน..แต่..หลวงพ่อแดง..หลวงพ่อหนึ่ง(วัดห้วยโรง)..หลวงพ่อโศก..หลวงพ่อฉุย..
    ราคาเหรียญถูกมากที่..สนามกรุงเทพ..เพราะยังไม่มีการเผยแพร่..ประวัติท่าน..ในหนังสือ
    พระเป็นเรื่องเป็นราว..ต่างกับ..หลวงพ่อแดง..ฟ้ากับเหว...หลวงพ่อศุข..นี่ท่านได้..
    อาณิสงฆ์..จากหลวงพ่อยิดนะครับ..นักเล่นพระหน้าใหม่ๆ...ไม่ค่อยทราบกัน.......
    ...หลวงพ่อยิด..ดังก่อน..เพราะหนังสือมหาโพธิ์...ของใหญ่ ท่าไม้...เอามาลงประวัติ...
    ตั้งแต่เรื่องปลัดขิก..บินเแข่ง..กับเครื่องบินไอพ่น....แล้วท่านก็ดังขึ้นเรื่อยๆ...พอ..ใหญ่
    ท่าไม้..สัมผัสกับ..ท่านบ่อยๆ..ท่านก็คงเล่าถึง..ความเก่งกาจของอาจารย์...มหาโพธิ์..จึง
    เริ่มลง ประวัติหลวงพ่อศุข..และ..เหรียญของท่าน...ตอนขณะนั้น...เมืองเพชร..มี..
    เหรียญที่ฮือฮา..มากราคาสูงลิ่ว..แข่งกับหลวงพ่อแดงเลย..เพราะประสพการณ์มากหลาย
    ...นั่นคือ..เหรียญของ...หลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลือง....เหรียญนี้เหนียวมากครับ..
    ....หลวงพ่อศุข..ยังแค่หลักร้อยแก่ๆ...เหรียญหลวงพ่อเพลินนะ..เหยียบหลักหมื่นแล้ว..
    .......แต่นี่..เป็นเหตุการณ์หลังจาก...ปี ๒๕๒๐ ไปร่วมเป็นสิบปี....ไอ้หนองมันเห็น...
    เหรียญหลวงพ่อศุข..ที่ผมห้อย..มันไม่เคยเห็น..มันก็ให้เล่าประวัติให้ฟัง.....ผมก็เล่า..
    ก็คล้ายกับที่..เล่าให้ท่านทั้งหลายฟังนี่แหละ...แต่ย่อหน่อย...มันฟังเข้าถึงกับ..ตาลุก...
    มันบอก..เดี๋ยวสักวัน..มันจะหามาห้อยให้ได้...ผมก็บอกว่า..เฮ้ย..หาไม่ยากหรอก..ยิ่ง
    ถ้ามึงมาถึงเมืองเพชร..ดูเค้าหน้าที่เหรียญกูนี่แหละ..จำเค้าหน้าไว้....ของปลอมหน้าไม่
    เหมือน..(อย่างว่า..ตอนนั้น..พระหลักร้อย...ของปลอม..มันก็ไม่พิถีพิถันอะไร...)......
    ...........แล้วปรากฎว่า...ที่กองที่เราทำงานอยู่..มีการเลี้ยงฉลอง..ประจำปี..อะไรไม่ทราบ
    ผมก็จำไม่ได้แล้ว....ช่วงหยุดติดต่อกันหลายวันนี่แหละ...ยกกันไปทั้งหมด..ไปสังสรรค์กัน
    ที่..ประจวบ..ก็ไปกันง๒-๓วัน..เล่นน้ำ..พักกันชายทะเล..รพช.ประจวบ..เป็นเจ้าภาพ..
    พอตอนขากลับ..เริ่มออกจากประจวบ..ไอ้หนอง..มันก็มานัดแนะ..กับผม..มันบอกว่า..
    อยากสักยันต์ครูวะ...ผมก็บอก..เออหลวงพ่อแผ่วนี่ท่านก็เก่งนะ...ก็ไม่เลว.......
    ..................ผมกับมัน..ก็..เลย..มาลงรถ..ริมเพชรเกษม..ที่..ริมคลองชลประทาน..ทางเข้าวัด
    โตนดหลวง....ปล่อยให้คนอื่นเขากลับบ้านกันไป....เราก็มุ่งหน้าสู่..วัดโตนดหลวง...
    ........นี่คือ..การไปเป็นครั้งที่ ๒ ของผม...................
    ...(ถ้าไอ้ที่เล่ามันเพี้ยน..ไปจากเดิมบ้าง..ก็อย่าว่ากันนะครับ..ผมแก่แล้ว..รายละเอียดมันอาจ
    ไม่เหมือนกัน..บางทีตอนนี้..อาจจำได้มากกว่า..ตอนที่เขียนครั้งแรกอีก..ผมก็ขี้เกียจกลับ
    ไปอ่านซะด้วย.....ก็ด้นกัน..สดๆ..ตามความทรงจำ ณ ตอนนี้เลย...)
    .....................................ต่อตอนหน้าครับ.................................
     
  3. Orkar

    Orkar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +952


    ไม่ใด้เข้ามาซะหลายวัน
    เดี๋ยวนี้ เค้ามีการอุ้มคอมเมนต์หายไปเลยกันด้วยหรือครับนี่
    ทำอะไรแปลกๆขึ้นทุกวันนะครับ เวปนี้

    เฮ้อ. ช่างมันเถอะ. รออ่านเรื่อง หลวงพ่อทองสุข ต่อดีกว่าครับ
    กระทู้นี่ มีสาระน่ารู่ และข้อสังเกตุดีๆเยอะเลยครับ
    เรื่องเรียนวิชาเพิ่ม ของลูกศิษย์หลวงพ่อทองสุขนี่
    ผมเองก็ใด้ข้อมูลมาบ้างเหมือนกันครับ
    อย่างหลวงปู่นิ่ม วัดเขาน้อย อาจารย์ผมซึ่งเป็นลูกศิษย์และลูกบุญธรรมท่านโดยตรง
    ก็ยังเล่าให้ฟัง ว่า วิชาทำตะกรุดแก้แมงกินฟัน
    กับตะกรุด หัวใจไก่เถื่อน สองวิชานี้ หลวงปู่นิ่มมาเรียนใว้ทีหลังจากอาจารย์ฆราวาส
    ไม่ใด้เรียนจากหลวงพ่อทองสุขครับ

    เป็นกำลังใจให้ครับ รออ่านตอนต่อไปด้วยเลยครับ
     
  4. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .......
    ....นั่นแหละ...คิดดูแล้วกัน..นี่ผมโดนไป ๓ รอบมั้ง..บทความเดิม..
    ก็สงสัย..ว่า..เป็นเพราะLinkรึเปล่า..ขนาดบอกว่า..ไม่เกี่ยวกับโฆษณา..
    ขายพระ..แค่อ้างรูป..เพราะเราไม่อยากก๊อปมาดื้อๆ..มันไม่ถูก..เขามีลิขสิทธิ์..ก็ไม่วาย..ผมข่มใจอยู่ตั้งนาน..ว่าจะหยุดเขียน..ก็สงสารหลายคนที่เขา..ตามอ่าน..ก็ลงบทความเดิมนี่แหละ..แล้วก็ลง url เฉยๆ..ไม่เป็น Link..เอา...อย่างงี้..เอาLinkออกจาก..PATTERNไปเลยดีกว่า..
    ...ของเราเลยซวยโดนไปด้วย..ที่นี่..คงทำงานกันแบบเครื่องจักรมั้ง..
    ควรวิจารณญานมาช่วยตัดสินใจด้วย......
    .......เอ้ามาเข้าเรื่องดีกว่า...
    ..พึ่งรู้ว่า..ออร์ก้า..เป็นลูกศิษย์..หลวงพ่อนิ่ม..ยอดเยี่ยมมาก...
    ...อย่างที่เคยเล่าไปว่า..มันเป็นวิถี..ของพระรุ่นเก่า..เป็นรูปแบบ..ที่เหมือนกัน..ก็คือ...อาจารย์..ต้องสั่งสอนศิษย์..จนสามารถ..ธุดงค์..เดี่ยวได้..
    ...เพื่อไปแสวงหา..วิชาเพิ่มเติม..การทำเช่นนี้..จึงสามารถทำให้..วิชาโบราณ..หลากหลายไม่สูญหายไป...อย่าง..หลวงปู่บุญ..ท่านมีอาจารย์ตั้งกี่องค์...หลวงพ่อปาน..นอกจากอาจารย์พระ..หลายองค์..ก็มี ฆราวาสด้วย...หลวงพ่อคง..นี่ก็เพียบ........
    ..........หลากหลายวิชา..ก็มาจาก..การธุดงค์..แล้วไปเจอกัน..แลกวิชากันมั่ง..ไปขอเขาเรียนมั่ง...อีกส่วน..ก็ไป..ตามชื่อเสียง..ของพระ..หรือ..ฆาราวาส..ที่โด่งดัง..นั้นๆ....
    ...........ขนาด..หลวงอาดี(พระครูสมุห์ทองดี)ผม..นอกเหนือวิชาของหลวงพ่อปาน..ก็ยัง..เรียนเพิ่ม..ทั้งจากฆาราวาส..และ..พระ..
    ...........ทั้งนี้..ทั้งนั้น...มันขึ้นอยู่กับตัว..พระองค์นั้นเอง..ว่า..ยังยึดมั่น..และ..อยากสืบต่อ..วิชาของใคร...อย่าง...หลวงพ่อจ้วน..อยู่กับ..หลวงพ่อศุข ๔ ปี..แล้วก็เรียนกับ..อาจารย์อื่น..ไปเรื่อยๆ..แล้วท่านอาจเห็นว่า..วิชาอาจารย์อื่นขลังกว่า..ก็เลยใช้..มาเป็นวิชาประจำของตัวเอง...
    .......แต่บางองค์..อย่าง..หลวงพ่ออุ้น..ท่านไม่ใช่พระวัดโตนดหลวง..
    ..แล้วก็..เรียนมา..หลายอาจารย์..แต่ท่านก็ยึดมั่น..และยึดเอาวิชาจาก
    วัดโตนดหลวง..มาเป็นวิชาหลัก..ของตัวเอง..
    .........ดูอย่างหลวงพ่อพิมพ์มาลัย...ท่านยังเอาวิชาเข็มทอง..ที่ท่านไปเรียนมาทีหลัง..มาเป็นวิชาหลักของตัวเองเลย...
    ......ขอบคุณ..ออร์ก้า..ที่มาเล่าเรื่องวิชาเพิ่มเติม..ของหลวงพ่อนิ่มให้ฟัง....
     
  5. MasterTest

    MasterTest เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +1,031
    สวัสดีครับคุณครู ยังติดตามอ่านอยู่ตลอดครับ

    ผมก็เคยโดนอุ้มคอมเม้นต์ เพราะเผลอบอกค่าบูชาพระไปในหน้าประสบการณ์-เรื่องเล่านี่แหละครับ (พอดีมีคนถามมา เลยตอบไปไม่ทันนึก) ปรากฏว่าคอมเม้นต์โดนอุ้มหายไปเลย แถมคอมเม้นต์ที่คนอื่นอ้างอิงกับเราก็ติดร่างแหหายไปด้วย 555+ แต่ก็เข้าใจ web ครับ

    คิดว่าคราวหลังถ้าใครถามอีก ก็จะบอกแค่แพง-ไม่แพง ที่เหลือให้ไปตีความหมายกันเอาเอง สบายไป 555+ :)
     
  6. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    สวัสดีครับคุณอา มาติดตามอ่านเหมือนเดิมครับ
     
  7. สีจำปา

    สีจำปา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    270
    ค่าพลัง:
    +343
    ขอบคุณครับคุณอา สำหรับความรู้ดีๆ
     
  8. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ......
    ....หวัดดี..Mastertest..เฉียวฟง..และ..สีจำปา....
    ...................................................
    ....มาว่ากันต่อ.........
    ......................................................................................
    .....ผมยังจำได้ว่า..ตอนนั้น..ทางก็ยังไม่ได้ลาดยาง.......เมื่อไปถึง..เท่าที่เห็น..ภายนอก...
    ทุกๆอย่าง..ก็ยังคล้ายเดิม...โบสถ์ก็ยังดูโทรมเหมือนเดิม.....ผมบอกไอ้หนองก่อนจะขึ้นศาลา
    ว่า..นี่ถือว่าวัดดวงนะโว้ย..ไม่รู้ท่านอยู่รึเปล่า..(เราไปถึง..ก็..บ่ายโขแล้ว)...ผมก็รีบเตือนมัน
    ก่อนอีกเรื่อง...เฮ้ย..หนอง..หลวงพ่อท่านเป็น..คนเงียบๆ..ถามคำ..ตอบคำ...อย่าเซ้าซี้ชวนคุย
    มากนะมึง..ดูท่านดุเอาเรื่อง...ชวนคุยนิดหน่อยพอ..แล้วค่อยเข้าเรื่อง.....มันก็พยักหน้า...
    รับคำว่า..เออ...แล้วมึงจะสักพร้อมกูรึเปล่า...(ตอนนั้น..ผมยังไม่เคยสักที่ไหน)..ผมก็บอกมันว่า
    ...กูคงไม่สักหรอก...กูมีเหรียญหลวงพ่อศุข..ห้อยติดตัวแล้ว...(..ผมเขียนไปนี่ยังนึกถึง..หน้า
    มันอยู่..เสียดาย..มาตายซะตอนยังไม่ทันแก่..)...เราเดินขึ้นไป...ทุกอย่างก็คล้ายเดิม..เหมือนเมื่อ
    ๕ ปี..ที่แล้ว..เงียบ..มองเห็นหลวงพ่อ..นั่งอยู่พอดี..ก็นึกดีใจ....เราเข้าไปกราบท่าน....จำได้ว่า
    ..ผมเอ่ยขึ้นก่อน..ว่า..พาเพื่อนมา..ที่นี่..เพราะมันศรัทธา..ในหลวงพ่อศุข...เรากำลังกลับจาก
    ประจวบ..จะเข้ากรุงเทพ..ก็เลยได้จังหวะ..ลงที่คลองชลประทานปากทางเข้าวัด..ไอ้หนอง
    มันก็เริ่ม..ถามโน่นนี่..นิดหน่อย..แล้วก็ถามถึง..การสักยันต์ครูของหลวงพ่อศุข..ท่านก็ตอบนิด
    หน่อย...แล้วก็เข้าเรื่องเลย...พอดีวันนี้ได้โอกาศ..ผมเลยกราบหลวงพ่อ..ขอให้ช่วยสักยันต์..
    ให้ผมหน่อยครับ......ท่านก็พูดเรียบๆว่า....สักวันนี้ไม่ได้...ต้องเป็นวันอะไรไม่ทราบ..แล้ว
    ต้องมา..ค้างที่นี่ก่อน ๑ คืน...ท่านก็ทำหน้าเฉยๆ..ตามสไตล์ท่าน...ผมกับไอ้หนอง..ก็..นั่ง
    ปรึกษากัน...คุยกันค่อยๆตรงนั้น...ปรากฎว่า..วันที่ว่า..เราต้องไปปฎิบัติงานที่อีสาน..กัน...
    ...แล้วยิ่ง..ค้างคืนด้วย..เดินทางไป..เดินทางกลับ..หมดสิทธิ์....ไอ้หนองมันก็เลย..บอกกับ..
    ..หลวงพ่อทำนองขอร้อง..ว่า..เว้นเป็นกรณี..พิเศษ..ได้มั้ย..ต้องไปปฎิบัติราชการ...ผมมีโอกาศ
    มาถึงนี่แล้ว...ค้างคืน..วันนี้ก็ได้....แต่..หลวงพ่อไม่ยอม..ยืนกราน.........
    .............เราสองคน..ก็เลย..คอตก...กลับออกจากวัดไป...แต่ท่านก็ให้ของมา..น่าจะเป็น..แหวน
    หัวนะ..ของท่าน..เพราะปัจจุบัน..ก็ยังอยู่...ความจำบางช่วงก็เบลอๆแล้ว..เหมือนกัน......
    .................หลังจากนั้น....ผมก็จำไม่ได้ว่า...มันไปสักกับหลวงพ่อแผ่ว..ในภายหลังรึเปล่า..
    ...แต่มันก็ได้..เหรียญหลวงพ่อศุขปี ๙๘ สภาพดีมา......
    ..............จากนั้นมา...อีก ๓๕ ปี...ผมถึงได้มีโอกาศ..กลับไปอีกครั้ง...เพราะพี่ชายคนโต
    เป็นประธาน..ทอดผ้าป่า...เมื่อปลายปี..อย่างที่บอกแล้ว......
    ..............................ต่อตอนหน้าครับ.......................................................
     
  9. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .......
    .............................
    .................................................................................................................
    ........พี่ชายผม..กับ..พรรคพวกเขา..ไปอยู่กันที่หัวหินก่อนหน้าแล้ว..เขาให้คนขับรถ..มารับผม
    ..แล้วเลยไปรับ..พ่อ..กับ..พี่สาวคนรอง(..คนที่กระโดดไปเกาะขา..หลวงพ่อศุข..ไปอ่านเอาใน
    เรื่องอีกที..)...ที่พี่สาวไปด้วย..ก็ไม่ใช่อะไร..ต้องคอยดูพ่อหน่อย..เดี๋ยวจะซน..เพราะอายุเข้าไป
    ๙๖ ขวบแล้ว...พี่สาวเขาบ้านอยู่ในรั้วเดียวกับพ่อ...นี่หนักกว่า..ผมเยอะ..เพราะพี่แก..ครั้งสุด
    ท้ายที่มา..วัดนี้..ก็ประมาณ ๖๐ ปีมาแล้ว........คราวนี้..คนขับพาเข้ามาอีกทาง..ไม่ได้วิ่งเลียบคลอง
    ...ผมก็เลย..งงๆ...พอก่อนถึงป้ายทางเข้าวัด...โอ้โห..คนละโลก..กับเมื่อผมมาครั้งสุดท้าย...
    ....เพราะ..มองเห็น..โบสถ์ใหม่..หลังเบ้อเริ่มเทิ่ม..(..ดูในรูปได้)..แถมเก๋ไก๋...โบสถ์อยู่ในเรือ
    สำเภา..(ความจริง..ก็ฐานโบสถ์นั่นแหละครับ..แต่คราวนี้..ทำให้เห็นชัดว่า..เป็นรูปเรือจริงๆ)
    ...ผมว่าใหญ่กว่า..โบสถ์เดิมสัก ๓ เท่าเห็นจะได้...สวยงามครับ...ยังไม่ได้มองรายละเอียดอะไร
    ...รถก็..เข้ามาจอด...ใกล้กับ..ศาลาเดิม...ผมก็ไม่ทันสังเกตจากด้านนอก..ว่าเปลี่ยนแปลงไปยังไง
    .....พอดี..เรามาถึงเช้ามาก..บางคนเริ่มมาแล้ว..แต่..คณะส่วนหนึ่ง..ที่เป็นพวกพี่ชายผม..ยังไม่ได้มา
    ....ก็เลยมีเวลา...ผมก็รี่..เข้าไปหา..โบสถ์เก่าเลย...เพราะมีเรื่องคาใจ..มานาน.....
    ................คือ....เรื่องของเรื่อง..หลังจากผมทำงานแล้ว...ผมก็ได้มีโอกาศ..ได้เข้าถึงประวัติศาสตร์
    ..และ..โบราณคดี..เต็มที่..หาซื้อหนังสือมาอ่าน..สารพัด...อย่าง..หนังสือศิลปวัฒนธรรมนี่..ผม
    ซื้อ..ตั้งแต่..ฉบับที่ ๑ ปีที่ ๑ เลย..ชอบมาก......
    ..................................ผมศีกษาประวัติศาสตร์ไทย..และ อัพเดทข้อมูลการค้นคว้าสมัยใหม่...
    ตลอดเวลา...จนทราบเรื่องนี้..และทางนักวิชาการยืนยัน..ว่าไม่แค่เรื่องเล่า...มาตั้งเป็นยี่สิบปี
    แล้ว..ก่อนที่..ทางจังหวัดจะเผยแพร่..ด้วยซ้ำ....เรื่อง....
    .............พระนเรศวรเป็นเจ้า..กับ..พระเอกาทศรถ...ทรงมาพักผ่อนอริยาบท..ตกปลาทะเล..
    บริเวณนี้....และ..เป็นที่มา..แห่งชื่อ..หาดเจ้าสำราญ..(อยู่ทางเหนือ..ของ..ชะอำ..)..แต่เนื่องจาก
    บริเวณนี้..แยกไม่ออกหรอกครับ...เพราะหาดมัน..ยาวต่อเนื่องกัน....แต่ทางนั้น..มีตะกอนปน
    และ..ใกล้ทางน้ำใหญ่....นักตกปลาจริงๆ..ถ้าอยากได้ปลาทะเลใหญ่ๆ..เขาจะมาหาทางที่..
    น้ำทะเลค่อนข้างสะอาดกว่า....ก็คือ..ทางใต้..ซึ่งก็น่าจะใกล้เคียงกับ...บริเวณนี้..นี่เอง.....
    .........วัดโตนดหลวงนี้..อยู่ห่างจาก..ชายหาด..ประมาณ ๒ กิโล..ได้........
    ................ผมจะขอนอกเรื่องหน่อย...ถึงแม้จะไม่เกี่ยวกับ..หลวงพ่อศุข..แต่..เกี่ยวกับวัดท่าน..
    .............ผมจะว่าถึง..การค้นคว้า..ประกอบ..ข้อมูลอ้างอิง..ทั้งภูมิศาสตร์..ประวัติศาสตร์..วัฒนธรรม
    ....เอามา..รวมกัน.ข้อมูลจากคนเก่า..มาเป็นเรื่องของผมเอง..นี่เป็น..การวิเคราะห์ของผมเอง..
    ไม่ได้..บังคับให้ใครเชื่อนะครับ...ถ้าใครอยากอ่าน..ก็อ่าน..ไม่อยากอ่าน..ก็รอไปจน..ผมกับพ่อ
    ..ขึ้นศาลาวัด..นั่นแหละ.................หรือ..จนผมได้ไปคุยกับ..หลวงพ่อย้อนเจ้าอาวาส..ลูกศิษย์
    หลวงพ่อศุข..นั่นแหละ......
    .......................ต่อตอนหน้าครับ.......................
    ......................................................
    [​IMG]

    ขอขอบคุณ ภาพจาก civicclubthailand.com..ด้วยครับ
     
  10. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..............
    ................................................................................
    .....พ่อผม..ได้รับหนังสือ" พระดีเมืองเพชร"..เล่มแรก..ที่เป็นหนังสือแบบพ็อกเก็ตบุ๊ค....ข้าง
    ในเป็นเรื่อง..และมีภาพ..ประกอบเป็นขาวดำ...เข้าว่า..จัดทำโดยทางจังหวัด..แต่หน่วยไหน..
    ผมจำไม่ได้แล้ว..เมื่อเกือบ ๔๐ ปีก่อน...เป็นอภินันทนาการ....ซึ่งในเรื่อง..แน่นอน..ต้องมี..
    เรื่องหลวงพ่อศุข อยู่ด้วย...ในนั้นเล่าประวัติของ..วัดโตนดหลวงว่า..น่าจะสร้างสมัย....
    อยุธยาตอนปลาย..เพราะดูจากฐานโบสถ์ด้านนอก..ว่าแอ่นเป็นท้องเรือสำเภา....
    .........ผมก็จำได้..หลังจากนั้น..ที่ผมบอกว่า..ผมมีความรู้เรื่องประวัติสาสตร์ไทย..และ...
    ประวัติศาสตร์ศิลปไทย...มากขึ้นเรื่อยๆ....เมื่อ ยี่สิบกว่าปีก่อน..ผมยังไปเที่ยวในเมืองเพชร
    ...แล้ว..ไปเดินดูวัดต่างๆ..ในเขตเมือง..ประกอบ..ความรู้และ..เปรียบเทียบกับ..ตำราที่ศึกษามา
    ....ผมก็เริ่มแปลกใจ..ความจริงตั้งแต่อ่าน..หรือ..ดูรูป..ในหนังสือแล้ว...เมื่อมาเห็นโบสถ์..ใน
    สมัยอยุธยาตอนปลาย..หลายแห่ง...แล้วผมก็เรียกความทรงจำ..เปรียบเทียบ...กับ..วัดโตนด
    หลวง...คือ..จากปี ๒๕๒๐ ไปถึง..ช่วงนั้น..มันไม่กี่ปี..ผมยังจำทรวดทรง..รูปร่าง..สัดส่วนได้
    ....ผมดูแล้ว..มันแหม่งๆ..ใครอ่าน..หรือ..เป็น..แฟนประจำ..ของ..ผม..ใน ผม..พระ..และ..
    สาระยุคก่อน..จะรู้ตัวตนผมดี..ถ้ามันมีอะไรคาใจ..ผมต้องแก้ให้ได้..หาเหตุผล..มาให้ได้..
    แล้ว..ทำให้ตัวเอง..ยอมรับได้..ไม่ใช่โยนปัญหา..ทิ้ง..หรือ..เลิกคิด....
    ....(อย่าลืมนะครับ...ตอนนั้น...ประวัติวัดโตนดหลวง..ยังไม่ได้แก้ไข..ก็ยังบอกว่า..สร้าง
    สมัยอยุธยาตอนปลายเหมือนเดิม)
    .........ผม..จะมี..หนังสือนิตยสารรายเดือน..ของกรมศิลปากร..เป็นตั้งๆ...หนังสือ..เมืองโบราณ
    ..แทบทุกเล่ม..ที่ออกมา..หนังสือ..ของ..ท่าน น. ณ ปากน้ำ..เรื่องศิลปไทย...รอยอดีต..หนังสือ
    ของ อาจารย์มนัส วัลลิโภดม...แล้วอีกมากมายก่ายกอง...ผมกลับมานั่ง..ดูเฉพาะเรื่องนี้...
    ....ดูไปเรื่อยๆ..ช่วงนั้น..ผมก็งานยุ่ง..เสาร์อาทิตย์ก็ไม่ว่าง...ไม่มีไปที่วัดโตนดหลวงอีกรอบ..
    .....แล้ววันนึง...หลังจาก..นั่งดูโบสถ์..ในหนังสือ..(ถ้า..เป็นสมัยนี้..ก็คงไม่เหลือ..เพราะมีเน็ต
    ....ตอนนั้น..มือถือ..ยังไม่มีกันเลย...)..ไปเรื่อยๆ..ผมก็นึกออก..............
    .........มันเรื่องของ...สัดส่วนครับ.....สัดส่วน..มันไม่ได้...สัดส่วน..ไม่ใช่ตามรูปแบบ..ของ
    อุโบสถสมัยอยุธยาตอนปลาย............ผมก็เลยมาไล่ดูว่า..มันน่าจะอยู่ตอนช่วงไหน..ปรากฎว่า
    ...ดูไปเรื่อยๆ...มันก็ไปตรงกับ...สัดส่วนของ...อยุธยาตอนกลาง..และอาจไปจนถึง..ตอนต้น
    ......ถามว่า..เรื่องสัดส่วน..มันกำหนดได้เลย..รึ...กำหนดได้ครับ....เพราะมันเป็นวิถีของช่างไทย
    ..สมัยโบราณ..เหตุผลสนับสนุนเป็นยังไง..แล้ว..สัดส่วนที่ว่านะ..ส่วนไหน...
    ............ผมจะมาเล่าต่อ...ในตอนหน้า......
    .....แล้วท้ายที่สุด..มาเกี่ยวข้อง..กับ..พระนเรศวร..และ..พระเอกาทศรถ..ยังไง...ก็จะ..เกี่ยวพัน
    กัน..ในตอนต่อๆไป...................
    .........................................................................................................
     
  11. Orkar

    Orkar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +952



    รอติดตามครับ
    ปูเสื่อ ซื้อข้าวตอกกับโค้ก
    มารอฟังตอนต่อไปแล้วครับ
     
  12. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ....ขอบคุณ ออร์ก้า..ที่มาเยี่ยมเยียน..
    .....................................
    .........................................................................................................
    ....เรื่องที่ตามสืบนี้..เกิดก่อน..ที่จะมีการกล่าวถึงกัน..เรื่องของพระนเรศวร....อย่าลืมว่า...
    ...การกลับมาเป็นที่ความสนใจอย่างมาก..ของ..พระนเรศวร...กระแสนั้น..มาจาก..
    อภิมหากาพย์ภาพยนต์เรื่อง..พระนเรศวร....ถึงแม้จะมีการค้นคว้าเรื่อยมา..แต่...ก็มีคนไม่มาก
    ที่จะรู้และแพร่หลาย...เรื่องเล่าของชาวบ้านเมืองเพชร..ก็เล่ากันไป..และไม่มีใครใส่ใจก่อน
    หน้านี้......................................
    ...............ผมเองในขณะนั้น..ก็..ไม่มีเรื่องพระนเรศวร..เข้ามาในสมองเลย...มีแต่เรื่อง..ข้อข้องใจ
    ...ที่มันคาอยู่..และ..พยายามแก้ไข..ให้ออก...แฟนประจำผมทุกท่าน..จะทราบเรื่องนี้ดี...และจะ
    ทราบว่า...ผมจะไม่เชื่อใครส่งเดช...เว้นแต่จะมีเหตุผล..หลักฐานอ้างอิง..ให้ผมเชื่อได้..ไม่ว่า
    เรื่องนั้น..จะหลุดออกมา..จากปากใคร...
    .........ไอ้เรื่อง....."ว่ากันว่า"...หรือ.."เล่ากันมาว่า"...หรือ...อะไรทำนองนี้...ทำให้ผมเชื่อไม่ได้...
    แต่เก็บเอามา..ไว้ประเมิน..ประกอบกับเหตุผล..หรือ..ข้อมูลอื่นๆ...เพื่อสรุปผลออกมา..เท่านั้น
    ...ผมใช้กับ..ทุกเรื่อง..ไม่ว่า..เรื่องพระ..หรือ..การงานของผม..............
    ................ข้อสันนิษฐาน..เรื่องที่มาของวัดโตนดหลวงเช่นกัน...เนื่องจาก..นักวิชาการ..นักประวัติ
    สาสตร์ไม่ได้..ลงไปทำการค้นคว้าจริงจัง...มันจึงมาจาก...การประเมินโดย..เคร่าๆ...โดย...
    เป็นแค่..การสังเกต..อะไรก็ได้..ที่เห็นโดยง่าย..และ..ข้อมูลเคร่าๆ..........เพราะ...วัดนี้..ก็..เป็นแค่
    วัดเก่าเล็กๆ..ในเมืองเพชร...แล้วก็อยู่ในพื้นที่ๆ..ไม่ได้สำคัญ..อะไร.....
    .........แต่บังเอิญว่า..มันสำคัญสำหรับ..ผม..ตั้งแต่ไปเห็นครั้งแรก..พ่อพาไปดู..รอบๆ..เล่าเรื่อง
    โน้นนี้...มันอยู่ในความทรงจำของพ่อ..แล้วอีกอย่าง..เพราะนิสัยที่ผมชอบของเก่า..มาประจวบ
    กัน...มันก็เลยฝังใจ..ถึงแม้ตอนนั้น..ตัวเองยังไม่รู้สึกตัวก็ตาม....ภาพโบสถ์..ก็ยังติดตาอยู่...
    .......................สัดส่วนในศิลปกรรมไทยที่ผสมผสานกับงานช่าง..นั้น...มันลงตัวของมัน...
    ...โครงสร้าง...จะเป็น..ส่วนประกอบส่วนนึงในการ..กำหนดรูปแบบ..ในงานศิลปของอาคาร
    .....ผมพอมีความรู้ด้านโครงสร้าง...เพราะพื้นฐานจริงๆของผม..ไม่ใช่งานเกี่ยวกับ..น้ำ...
    ...แต่ผมเป็น..วิศวกรโยธา...ผมเรียน..เกี่ยวกับ..ทั้งโครงสร้าง..เหล็ก..ไม้..ปูน.....โครงสร้าง
    ของงานช่างไทย..อย่าง...บ้านเรือนไทย..ก็เรียน...ดังนั้น..ผมใช้ความรู้ส่วนนึง..เอามาช่วย
    ..เกี่ยวกับเรื่องนี้...................
    .......................ผมว่า..พอพูดถึง...บ้านเรือนไทย....เกือบทุกท่าน..จะนึกถึง..ภาพในสมองคอนนี้
    ออกได้เลย....ผมบอกให้ท่านนึกถึง..เฉพาะตัวเรือนไทย..เอาตัวชานด้านนอกออก....เอา...
    เสา..ออก...แล้วนึกให้...ส่วนที่เหลือนี้...วางแปะ..ติดอยู่กับดิน....
    ..............แล้วให้ท่านนึกถึง...โบสถ์ขนาดเล็ก...แบบที่ไม่มีเสาค้ำชายคา..ด้านข้าง........
    .......................ลองเปรียบเทียบดู....ว่ามันคล้ายกัน..ขนาดไหน....ต่างเฉพาะ..ส่วนรายละเอียด
    ....วัสดุ.....ด้านข้างเรือนที่เป็นช่องหน้าต่าง(ด้านแคบ)...ก็คือ..ด้านหน้าโบสถ์....ช่องหน้าต่าง
    เรือน..กลายเป็น..ประตูโบสถ์........
    .........................นั่นแหละครับ...ผมจูงท่านเข้าไปสู่..รูปแบบศิลปกรรมไทย..ที่เกี่ยวกับ..โครงสร้าง
    รูปทรง...และ..สัดส่วน...
    ........ผมว่าใครๆก็ต้องชื่นชม..ในคนโบราณ..ที่สร้างสรรค์ไว้...โดยใช้เวลา..เป็นร้อยๆปี......
    ...ไม่ใช่..เป็นพันปี...เพราะรูปแบบมันมีการ..เปลี่ยนแปลง..ตามช่วง...ตามยุค...
    ......ท่านดูจาก..พระพุทธรูปได้....แบบสุโขทัย...ไล่มา..อู่ทอง..ไล่มา..อยุธยาตอนต้น..ต่อ...
    ตอนกลาง..ต่อมาถึง...ตอนปลาย...รูปแบบ..จะค่อยๆเปลี่ยนไป..เฉกเช่น..เดียวกับ..อาคารเช่นกัน
    .......บ้านเรือนไทยที่ท่านเห็นนี้...ได้รับอิทธิพลมาจาก..ศิลปงานช่างสมัยอยุธยาตอนปลาย....
    ..................................ต่อตอนหน้าครับ.................................

    [​IMG]

    [​IMG]

    ภาพบน..อุโบสถขนาดเล็กมี พาไล(ชายคาด้านหน้า)สมัยอยุธยาตอนกลาง
    วัดแก้วฟ้า นนทบุรี (ขอขอบคุณ ภาพจาก สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย)
    ...................................
    ภาพล่าง..อุโบสถขนาดเล็กมี พาไล สมัยอยุธยาตอนปลาย
    วัดดุสิตาราม อยุธยา (ขอขอบคุณ ภาพจาก Comingthailand.com)
    ..............................................
    ...ทั้งสองยุค..เป็นโบสถ์ขนาดเล็ก..และ..มีพาไล เช่น เดียวกับ โบสถ์วัดโตนดหลวง
     
  13. Orkar

    Orkar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +952
    ตามความเข้าใจของผมคือ
    ลักษณะ โบสถ์โบราณ
    จะมีความคล้ายคลึงกับเรือนไทย
    หากแต่เพียง ไม่มีเสา
    ผมเข้าใจใกล้เคียงความน่าจะเป็นรึปล่าวครับ?
     
  14. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .........
    .....เข้าใจถูกต้องแล้ว..ออร์ก้า....ลองดูรูปเปรียบเทียบ
    (ขอขอบคุณ ภาพจาก oknation.net)


    [​IMG]

    (ขอขอบคุณ ภาพจาก thaitransportphoto.net)


    [​IMG]
     
  15. joke k9

    joke k9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +182
    สวัสดีครับ พี่มด
    มาให้กำลังใจ และมาติดตามบทความ ครับบบบบบบบบบบ
     
  16. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ....ขอบคุณ Joke k9..ที่ติดตามเป็นกำลังใจให้..
    ...........................
    .......เราจะเห็นได้ว่า..ศิลปยุคนี้..เพรียว..อ่อนช้อย..งดงาม...แต่ถ้า..เป็นตอนกลางมันจะต่างไป
    รู้สึกได้..รูปทรง..แข็งกว่า..ไม่เพีรยว..ดูแข็งแรง..และทึบกว่า..นี่ละครับ..คือ..สัดส่วน..หรือ..
    ...ถ้าจะให้ท่านเห็นภาพชัดๆ...ก็ดูเอาจากพระพุทธรูป..เป็นหลัก.....
    .........อยุธยาตอนปลาย...หน้าไม่เรียวยาวแบบสุโขทัย..แต่เป็นปานกลาง..เหมือนหน้าคนจริงๆ
    ...อกใหญ่..เอวเล็ก..คอเล็ก..แขนเล็ก..อ่อนช้อย..จะประกอบไปด้วย..ส่วนโค้ง..ส่วนเว้าที่..
    จำแนกได้ชัดเจน..และลงตัว......
    .......อยุธยาตอนกลาง....หน้าจะใหญ่..หน้าผากกว้าง...คางใหญ่...คอหนา..เอวหนา...ดูเป็นแบบ
    บึกบึน...ส่วนโค้งเว้า..น้อย...
    ...............เราจะเรียกว่า..สไตล์..ก็ได้..ที่ต่างกัน..มันก็ส่งผล..ไปถึง..รูปทรง..อาคารด้วย....
    ...ในแบบทำนองเดียวกัน..คือ..เพรียวกว่า..โปร่งกว่า...ถ้าเรากำหนดขนาด..ของฐานอาคาร
    ที่มี..ความกว้างเท่ากัน...ในกรณีวัดในเมือง..หรือ..วัดหลวงที่มี..การตบแต่งสมบูรณ์จะดูได้
    ง่าย..เพราะความสูงผนัง..ก็จะมากกว่า..หลังคา..จะลาดชันกว่า...ทำให้อาคารจากฐานยัน..
    หลังคา..สูงกว่า...เพราะ..คติที่..ต้องให้รูปทรงเพรียว(..เพรียว คือ..ค่าอัตราส่วน..ความสูง
    ต่อ..ความกว้าง..มากๆ..ถ้า..ต้อ..ก็คือ..น้อย).............
    .........สำหรับ..โบสถ์เล็ก..ที่ไม่ใช่วัดหลวง..และ..อยู่นอก..เมือง....ลาดชันของ..หลังคา..อาจ
    จะแตกต่าง..กันไม่มาก..แต่..ผนัง..ของยุคตอนปลาย..จะสูงกว่า....ซึ่งมันก็ส่ง..ผลให้...ดูเพรียว
    กว่า......
    ........ตอนนั้น..ผมเปิดอ่านหนังสือ..แล้วได้เห็น..โบสถ์วัดแก้วฟ้า..(..ดูรูป..จากคราวที่แล้ว)
    ...ผมจึงถึงบางอ้อ....ยุคเมื่อร่วม ๓๐ ปีที่แล้ว..ทั้งๆที่เป็นวัดไม่ใหญ่..ศิลปไม่สวยงามนัก..
    ทำไมจึงมีรูป...บางท่านไม่เคยได้ยินชื่อ..แต่ถ้าคนศึกษาประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยาลงไปใน
    รายละเอียดจะทราบ..เพราะมีส่วนเกี่ยวข้อง..กับประวัติศาสตร์..ถึงอยู่เมืองนนทบุรี..แต่มี
    มาก่อนยุค..สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์แล้ว..(ใครสนใจก็ไปหาอ่านใน..Googleได้)...
    .......ถ้าดูทรงเทียบกับ..วัดดุสิตาราม..จะแยก..ความเพรียว..ความต้อได้......
    ..............พูดง่ายๆ..ที่จูงใจผมเพราะ...สัดส่วน..คล้ายกับ..โบสถ์วัดโตนดหลวงมาก......
    ....แล้ว...วัดโตนดหลวง..ทำไมบัว..ที่ฐานจึงโค้ง..อ่อนช้อย...แบบยุคปลาย..แต่ขัดกับ
    รูปทรงส่วนบน..อันนี้สันนิษฐาน..ไม่ยาก..ตามทักษะช่างของผม...อายุที่มากขึ้นเป็น ร้อยปี..
    ...ประกอบกับ..อยู่กลางทุ่ง..แถม..ใกล้ไอเค็มทะเลอีก....ผนังปูนที่ฉาบ...ก็คงโดนกัดกร่อนไปเยอะ
    ...พอมาบูรณะ..ครั้งใหญ่...ในช่วงอยุธยาตอนปลาย...รูปแบบงานศิลป..เปลี่ยนไป...คตินิยมยุค
    นั้น..เขาทำบัวแอ่นโค้ง..เป็นกราบเรือสำเภาทั้งนั้น....ก็เลยทำให้..โบสถ์มามีบัว..ที่แอ่นโค้งแบบ
    อยุธยาตอนปลายแทน....ยิ่งเมืองเพชรมีโบสถ์ขนาดเล็กยุคอยุธยาตอนปลาย..ที่สวยงามอย่าง
    .โบสถ์ วัดสระบัว ที่มีชื่อเสียง..ให้ดูเป็นตัวอย่างแล้ว....พววกช่างยุคนั้นก็คงอยากทำแบบนั้น
    บ้าง..( ดูรูปประกอบได้ )
    .............ผมจึงสันนิษฐานไว้ในขณะนั้น..ตามนี้ก่อนว่า...วัดโตนดหลวงน่าจะสร้างสมัยอยุธยา
    ตอนกลาง..แต่มาปฎิสังขรณ์ใหญ่..ตัวโบสถ์..ในยุคตอนปลาย..มำให้มีศิลปตอนปลาย..เข้ามาปน
    ...ทำให้..การสันนิษฐานเดิม..สับสน.....แต่ตอนนั้น..แค่นี้..มันยังยืนยัน..ไม่หนักแน่น....ว่ายุคไหน
    แน่...มันต้องดูอีกตัว...แล้วสิ่งนี้..เป็นสิ่งที่..ผมไม่ได้สังเกต..ทั้ง สองคราว..คือ..ทั้งครั้งแรก..และ
    ครั้งที่สอง...เพราะตอนนั้น..ยังไม่มีความรู้....สิ่งนี้..สามารถบอกได้ชัดกว่า..เรื่องรูปทรงมาก..
    .........นั่นคือ.............ใบเสมา.....................................
    ............................ต่อตอนหน้าครับ.............................................

    [​IMG]

    ..(ขอขอบคุณ ภาพจาก holidaythai.com )
     
  17. thongchat

    thongchat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +2,195
    โอ้โฮ! มันมาก สนุกมากครับ พี่ modpong สนุกจนอดใจไม่อยู่ ต้องเผยตัวมาโพสต์ข้อความบ้าง หลังจากซุ่มอ่านมาต้ังแต่พี่รีเทิร์นกลับมา
     
  18. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .............หวัดดี น้องThongchat..ขอบคุณที่ติดตามกัน....
    ......................................................
    ........................................................................
    ....ผมจะยังไม่ลงในรายละเอียด..เรื่องนี้...เพราะผมต้องเล่าประกอบ..กับการกลับไป..ที่โบสถ์
    วัดโตนดหลวงครั้งที่ ๓...เพียงแต่..เอาแค่ให้ท่าน..ได้รู้เบื้องต้นพอ..............
    .......ใบเสมาที่..ท่านเห็นอยู่...หลายท่านเข้าใจผิด..โดยเฉพาะ..ท่านที่ไม่เคยบวชพระ..และ..
    ท่านที่บวชพระ..แค่ ๗ วันแล้วสึก....แต่ถ้าคนสนใจ..ก็จะเข้าใจได้.....
    ......เสมา...ไม่ใช่เครื่อง...กำหนด..พุทธาวาส....กำแพงวัด..เป็นเครื่องกำหนด...พุทธาวาส...
    .........เสมา...เป็นเครื่อง..หรือ..หมาย..ที่..กำหนด..ขอบเขต..สังฆกรรม......................
    ......สังฆกรรม..ก็คือ..กิจกรรมที่เป็นทางการ..และ..ต้องปฎิบัติ..ของ..หมู่สงฆ์....
    ....กิจกรรม..ที่เป็น..ทางการ..ก็เช่น...การบวช....การทำวัตรเช้า-เย็น...การสวดปาติโมกข์..
    .......การอยู่ปริวาสกรรม(ลงโทษด้วยการจำกัดบริเวณ)..ของสงฆ์..ที่ผิดศิลขั้นสังฆาทิเสษ
    (..ไปหาอ่าน..ในเว็บ..เอาเอง..ว่าเป็นยังไง..)....
    .........เป็นต้น.................
    .........ผมจะเขียนอธิบาย..ความหมาย..หรือ..คำจำกัดความไม่เหมือน..คนอื่น....เพียงแต่ให้
    เข้าใจ..ไปในทางเดียวกัน............ขอให้เข้าใจตามนี้..................
    .........ดังนั้น..เสมา...ไม่ใช่เครื่องหมายที่บอกว่า..ภายขอบเขตแนวเสมานี้..เป็นโบสถ์....
    ..........บางคนไปเข้าใจผิด..ว่า..จะได้แยกถูกว่า..อันไหน..วิหาร...อันไหน..โบสถ์....
    ..........ที่ผมเคยเล่าใน..ผม..พระ..และ..สาระยุคก่อน..มาแล้วเรื่องนี้....คือ..เรื่องการสวดถอน..
    ...พิธีกรรมที่ยึดปฎบัติกันมา..แต่โบราณ(..แต่เดี๋ยวนี้..คงไม่)...ในสถานที่ๆจะก่อสร้าง..โบสถ์
    ..........อันนี้..ไม่ใช่..สวดถอนเสมา..นะครับ...หมายถึง..สวดถอน..สิ่งอัปมงคล..และ..อาถรรพณ์
    นานาๆ..ที่อยู่ภายใน..และ..ลึกลงไปในพื้นดิน...ขอบเขต..ที่ทำการสวดถอนฯ..จะอยู่ใน...
    ..เขต..สายสิญจน์....หลังจาก..เสร็จแล้ว...แนวสายสิญจน์..ก็..จะถูกกำหนด..โดย..เสมา...
    ...........สมัยโบราณมากๆ...เมื่อใช้เสมา..กันแรกๆ...เข้าใจว่า...ใบเสมา..จะทำการปลุกเสกไว้
    ...เพื่อป้องกัน..สิ่งอัปมงคล..และ..อาถรรพณ์ต่างๆ...ที่จะเข้ามาในภายหลังที่..สวดถอนไปแล้ว
    ...เพียงอย่างเดียว....เพราะ..จากการขุดทางโบราณคดี..หรือ..การปฎิสังขรณ์..วัดโบราณ..ใน
    สุโขัย..และ..เขตภาคกลาง..ในยุคสุโขทัย..และ..อู่ทอง...ไม่พบ..ว่า.มีลูกนิมิต...อยู่ใต้ฐานเสมา..
    ........ผมสันนิษฐานว่า....เพราะ..เสมา..ปักลอยขึ้นมาบนดิน..เฉยๆ...ทำให้..อุบาสก..อุบาสิกา..
    ....อาจจะทำให้เสื่อมได้..โดยไม่ตั้งใจ..โดยเฉพาะ..อุบาสิกาที่..กำลังอยู่ในระหว่างมีประจำเดือน
    ...ผ้าที่สวมใส่..หรือ..มือ..ที่ไม่สะอาด..อาจไปโดน..ใบเสมา..โดยไม่ตั้งใจ...
    ......ก็คงเปลี่ยนแนวคิด...มาปลุกเสก..ลูกนิมิต..ให้เป็นเครื่องป้องกันแทน..แล้วฝังไปใต้..เสมา
    ...คราวนี้ก็..จะปลอดภัย..จากสิ่งแปดเปื้อน..ที่จะมาทำให้เสื่อมได้...อันนี้..เป็นข้อสันนิษฐาน
    ของผมนะครับ....จริงๆ..จะเป็นตามนี้..หรือไม่..ไม่ยืนยัน..แต่ผมมาวิเคราะห์..ตามเหตุผล...
    ...........ใบเสมาทางอีสานตอนกลาง..และ..ตอนบน..รุ่นเก่า..ที่เป็นยุคทวาราวดี..นั้น..รูปแบบและคติ
    .จะต่าง..จากใบเสมาทางภาคกลางและสุโขทัย...เพราะที่มาไม่เหมือนกัน..อิทธิพลที่ในคติ..ต่าง
    กัน...รูปแบบจึงต่างกัน...ทางภาคกลางนั้น..จะได้อิทธิพลบางส่วนมา..จากสมัยขอมเรืองอำนาจ
    ...ส่งผลให้กับ..อาณาจักรสุวรรณภูมิ..แล้ว..ส่งผ่านต่อ..มาเป็น..ยุคอู่ทอง....สังเกตจาก..ใบหน้า
    พระพุทธรูปได้...ว่า..แนวจะเป็น..เหลี่ยมๆ..คล้ายๆรูปแกะสลักเทวรูปของขอม......
    ...........กาลเวลาเปลี่ยนไป...วัสดุที่ใช้..หรือ..รูปแบบศิลปที่เปลี่ยนไป...มันก็ได้..ถ่ายทอดมาสู่ใบ
    เสมา..ด้วย....จึงทำให้เรา..สามารถกำหนดยุค..ของใบเสมาได้...เมื่อกำหนดยุคใบเสมาได้..ก็จึง
    ทำให้..เรา..กำหนดยุคของโบสถ์..ได้เช่นกัน.....
    ..............................ต่อตอนหน้าครับ.....................................

    ...ใบเสมาอีสาน..ในยุคทวาราวดี.....( เมืองฟ้าแดดสูงยาง )
    (ขอขอบคุณ ภาพจาก sa-ardnonngam.com)

    [​IMG]

    ....ใบเสมาภาคกลาง....(วัดไชนาวาส สุพรรณบุรี )
    ..(ขอขอบคุณ ภาพจาก reunthai.com)

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2013
  19. Orkar

    Orkar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +952
    รอติดตามครับ
     
  20. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .............
    .........................................................................................................
    ....ขอแถลงไข..หน่อยครับ...ผมว่าบางท่านอาจงง...จากรูปใบเสมา..วัดไชยนาวาส..ว่าทำด้วย
    อะไรแน่...ทำไมมันสีเหลือง...ที่เห็นนั่นคือ..สีที่ทาทับครับ...ใบเสมาจริงๆ..ทำจากหินทรายแดง
    ...เหมือนกับ..ทั่วไป..แต่ด้วยอายุ..เป็นประมาณเคร่าๆ ๕๐๐ ปี...มันจะเริ่มกร่อน..ยิ่งมีคนมาลูบ
    ไปมา..ก็ยิ่งสึก..รายละเอียดจะเลือนไปเรื่อยๆ...เขาเลยต้องทำแบบนี้....มีหลายที่ครับ..เขาขี้เกียจ
    รอ..กรมศิลปฯมาบูรณะ................
    ...........อ้อ...ก่อนจะไปส่วนอื่น...เพื่อเป็นความรู้..สำหรับบางท่าน..หรือ..หลายท่านยังไม่ทราบ..
    ......ถ้า..วัดไหน..มีใบเสมา..ตั้งซ้อนใกล้ๆกัน..และ..เหมือนกัน.....นั่นแสดงว่า...เป็นวัดหลวงครับ
    ...เพื่อ..สาธุชนทั่วไปที่ไปวัดจะได้ทราบ...เข้าใจว่า..ใบเสมา..อีกใบที่มาเพิ่ม..มีนัยถึง..ฝ่ายบ้าน
    เมือง..เป็นผู้คุ้มครองดูแล..ด้วยทำนองนั้น........วัดหลวงสมัยอยุธยา...ก็ใช้เป็นที่ทางหลวง(ฝ่าย
    บ้านเมือง)..ใช้..ประกอบพิธีทางศาสนา..เป็นทางการ..คล้ายๆกับในสมัยนี้..นั่นแหละครับ...
    ....(กลับ..ไปดูรูป..โบสถ์วัดสระบัว..ที่ผมเคยpostมาก่อนหน้านี้...จะเห็น..ใบเสมาที่ตั้งบน
    ฐานสูง..ซ้อนกัน..๒ ใบ)..
    ......ถ้า...วัดไหน...มีใบเสมา ตั้งอยู่ในฐานเดียวกัน..ถึง ๓ ใบ..(ซึ่ง...มีไม่มาก)..และสร้างสมัยเดียวกัน
    ..เหมือนกัน..นั่นแสดงว่า..นอกจากจะเป็น..วัดหลวงแล้ว..ยังมีความเป็นพิเศษ..อาจจะเป็นที่ๆ..
    กษัตริย์..ประกอบ..ศาสนกิจ..ประจำ..ให้ความอนุเคราะห์พิเศษ...อย่างที่ท่านเห็นใน..อุทยาน
    ประวัติศาสตร์สุโขทัยเป็นต้น.....อย่างที่เหลือแต่ชื่อคือ..วัดเสมาสามชั้น..ของเพชรบุรี..นั้น...
    ผมก็เข้าว่า..เป็นทำนองเดียวกัน..เพราะวัดนี้เก่าแก่มาก..ร่วมสมัยกับขอม..อย่าลืมว่า...
    เพชรบุรี..แต่โบราณนั้น..ก็เป็นรัฐที่อิสสระ..และรุ่งเรือง..ร่วมสมัยยุคสุพรรณภูมิ..แถมสืบค้น
    ประวัติยังเก่า..ขึ้นไปกว่านั้นอีก..เจ้าผู้ครองก็เฉกเช่นกษัตริย์...ดูพระร่วงที่วัดนี้ได้..ไม่เหมือน
    ที่อื่น..มีเอกลักษณ์ของตนเอง...และเก่าแก่มาก......(..วัดที่ร่วมสมัยเหลือแต่ชื่อเช่นกัน....
    ..และมี..พระกรุทำนองเดียวกัน..คือ..วัดค้างคาว เพชรบุรี)..................
    ........แต่ถ้าท่านเห็น..เสมาที่ซ้อนนั้น..ไม่เหมือนกัน..คือ..อาจรูปทรงคล้ายแต่..เก่าไม่เท่า...
    ...หรือ..รูปทรงไม่เหมือนกัน.............นั่นแสดงว่า...วัดนั้น..เปลี่ยนนิกาย..ครับ..จากเดิม...เป็น
    มหานิกาย..แล้ว..มาเปลี่ยน..เป็น..ธรรมยุติ..หรือ..จากปกติ..เปลี่ยนมาเป็น ลังกาวงศ์......
    ......หรือ..มีการซ่อมใหญ่โบสถ์..แบบขนานใหญ่..แบบเปลี่ยนไปทั้งหมด..หรือ..เรียกว่า
    ยกเครื่อง..จากเบนซิน..มา..ดีเซล..ทำนองนี้...ทางวัด..ก็อาจ..จะตั้งเสมาขึ้นมาอีกไป..
    เป็นอนุสรณ์............
    ....หรือ..แม้กระทั่ง..เป็นประสงค์ของ..ผู้ทำนุบำรุง...เช่นไอ้พวกอีแอบที่ชอบมาเปลี่ยนแปลง
    สัญญลักษณ์..ของชาวบ้าน..เช่น..ไอ้พวกพ่อค้าพม่า...ตัวอย่างที่บัดซบที่สุดคือ..มันเปลี่ยน..
    เจดีย์พระบรมธาตุ..ที่กำแพงเพชร...กลายเป็น..เจดีย์แบบพม่า...โดยที่ไม่มีใครคิดจะเปลี่ยน
    กลับคืน..มาเป็นทรงเดิม........แถม..อีกหลายวัดโบราณ..ก็โดนไอ้พวกพ่อค้าพม่า..มาเปลี่ยน
    ...ตั้งแต่..ตาก..ลำปาง..แพร่..ฯลฯ....
    .............................................................................................................
    ......หยุดเรื่องเสมา..ไว้ก่อน..กลับมา..เวลาขณะนั้น...เนื่องจากไม่มีเวลาไปตรวจสอบ..เรื่องนี้
    ที่วัดโตนดหลวง..เพื่อจะได้ระบุแน่ชัด....ผมก็ลืมๆเลือนในเรื่องนี้ไป..เพราะมีทั้งเรื่องงาน..
    และ..เรื่องอื่นให้คิดเยอะแยะ...พอเข้ามาถึงยุคคอมพิวเตอร์..และ..กระแสพระนเรศวร..กลับ
    มา..การค้นคว้า..เรื่องพระนเรศวรมากขึ้น...ข้อมูลจากหลายนักวิชาการ..เดิมไม่ได้มาเปิดเผย
    แพร่หลาย...เรื่อง..พระนเรศวร..และ..พระเอกาทศรถ..เสด็จมาผักผ่อนอริยาบท..จากการกรำ
    ศึก..เป็นเวลานาน....โดยมาทรงตกปลาทะเลเล่น..ที่เมืองเพชร..ก็กลับมา...เข้าโสตประสาท..
    และ..เข้ามาแทรกอยู่ในความคิดผม..อีกครั้ง....
    ..................ต่อตอนหน้าครับ.......................
     

แชร์หน้านี้

Loading...