หลวงปู่หล้า สนทนาธรรม กับหลวงปู่บุญฤทธิ์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย jinny95, 13 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เอาอย่างนี้สิ ป๊ะป๋า

    เรื่องของจิตนั้น บางทีมันเหนือธรรมชาติ ที่เราจะไปคาดเดาได้

    กรรม นั้นเป็นเรื่องอจิณไตย แต่ ก็ต้องสอดส่อง ดวยหลัก สัมมัปธาน4

    ไม่แน่นะคร้าบ

    การที่ ป๊ะป๋า มาศึกษาธรรมะ แล้วพบว่า มันได้รับแต่ ผิวๆ ไม่อาจเข้าถึงใจ

    บางทีตรงนี้เป็น ปัญหาหญ้าปากคอกมากๆ เรียกว่า เหลือเชื่อ

    ป๊ะป๋า ฟังดีๆนะ อาจจะฟังยากนิดนึงส์ หรือ ไม่ก็อาจจะคนละเรื่อง ก็เป็นไปได้
    ใช่ว่าจะเป็นอย่างที่ผมกล่าวเสมอไป เพราะบางที่ก็ อจิณนไตยจริงๆ

    * * * *

    ฮึดชชช์ ฟืดดดดส.....

    ป๊ะป๋า ที่อาจจะฟังธรรมแล้ว ไม่ถึงใจ เป็นเพราะว่า ปฏิเสธ คุณธรรมของ
    คนที่มีคุณธรรมสูงกว่า ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ตัวป๊ะป๋า

    ดังนั้น บางทีก็แก้ง่ายๆ แต่ หากใช้ปัญญาแบบโลก จะแก้ไม่ตก ไม่ยอม
    แก้ อาจจะหัวเราะเสียงดัง

    แต่ดีกว่าไม่ลองนะป๊ะป๋า

    ง่ายๆเอง แค่ลองมอง [​IMG] ใกล้ๆ นั้นใหม่ แล้ว ลองยอมรับว่ามี
    คุณธรรมสูงกว่า

    ไม่แน่ว่า พอน้อมไปปั๊ป คราวนี้ ธรรมไหลเป็นน้ำพุเลย

    ทางพุทธนั้น เราจะไม่ประมาทในธรรม แม้เล็กๆน้อยๆ [​IMG]
     
  2. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    เปรี๊ยง หรือ ไม่เปรี๊ยง น้ำหนักเท่ากัน

    มันเกิดที่การให้ค่า เห็นตัวที่ให้ค่าบ่อยๆ คือมีความเพียร

    ผลที่เห็นตัวให้ค่าทำให้กิเลสมันไหม้
     
  3. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    เห็นตัวเอง คือเห็นรสชาิด
    รสดีใจ รสไม่ชอบใจ รสเฉยๆ

    มีไว้ให้ชิมแทบไม่ขาดขาย

    ชิมรสดีใจก็มีดีใจซ้อนไปอีก

    ชิมรสไม่ชอบใจก็มีรสไม่ชอบใจซ้อนลงไปอีก

    ชิมรสเฉยๆก็เปลี่ยนเป็นไม่ชอบใจในรสเฉยๆก็มี


    ชิมรสไม่ชอบใจก็มีรสเฉยๆซ้อนตามไปก็มี
    ชิมรสเฉยๆก็มีรสไม่ชอบใจซ้อนตามมาก็มี

    ชิมรสชอบใจก็มีรสเฉยๆซ้อนตามมาก็มี
    ชิมรสเฉยๆก็มีรสชอบใจซ้อนตามมาก็มี

    ชิมรสไม่ชอบใจก็มีรสชอบใจตามมาก็มี
    ชิมรสชอบใจก็มีรสไม่ชอบใจตามมาก็มี

    วันๆนึงจะได้ชิม กี่ครั้งเน๊อ




    กิเลสสามรส ^^ ราดพริก :cool:
     
  4. ต้นปลาย

    ต้นปลาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    629
    ค่าพลัง:
    +69
    ป๋า ไม่ใช่เด็ก แค่ป๋าเป็นเป็ด ที่ทำได้ทุกอย่าง
    สัญญา ก็ลอยเต็มไปหมด ป๋าทำไง กับสัญญาดีนะ
    กินเข้าไป ก็คงไม่ได้ปัญญาหรอก ...
     
  5. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ปัญหาของ แพทย์ ที่มี จรรยาบรรณ ก็คือ การปฏิเสธ ความจริงในข้อที่ว่า

    "ข้าก็พลาดได้เหมือนกัน บางที่ข้าก็ลืม"

    แต่โดยวิชาชีพ สิ่งตรงนี้ จะพูดออกมาไม่ได้ จะไม่ยอมรับว่า สัญญาไม่เที่ยง เด็ดขาด

    วิธีแก้ไม่มี มีแต่ ต้องยอมรับการเห็น สัญญาไม่เที่ยง นั้นมีอยู่จริง มีอยู่ตลอดเวลา
    ต้องดูให้มากๆ

    จริงๆแล้ว คนเราอ้างว่า รู้ อ่านแล้วก็อ้างว่ารู้แล้ว ฉันจำได้

    เอาเข้าจริงๆ จำไม่ได้หรอก แต่ที่บอกว่า จำได้ เพราะโกหกตัวเอง

    เรื่องตรงนี้ จะไปชัดอีกที ตอนตาย คือ พอตายปั๊ป ที่บอกว่าจำได้
    เหล่านั้น จะอันตรธานหายไปหมด

    พอเกิดใหม่ ก็ลืมหมดแล้ว ต้องเริ่มนับจาก0ใหม่ หากไปเกิดเป็น
    สัตว์ที่เรียกว่าเป็ดจริงๆ ก็ไม่ต้องนับ การจะระลึกได้นั้น หมดสิทธิ

    การที่เห็นว่า สัญญามี สัญญาเที่ยง จิตเที่ยงจำได้ ล้วนแต่เป็น
    สภาพธรรมความเห็นผิด ที่ยังย้อมติดจิตได้อยู่

    * * *

    เวลาบอกว่า สัญญาไม่มี คุณจำไม่ได้หรอก หากใช้ ความคิดแบบปุถุชน
    ก็จะเถียง และ ยอมรับไม่ได้ใน บทธรรมนี้ โดยอ้างว่า ก็กูจำได้ จะมาบอก
    ว่า สัญญาไม่มีได้อย่างไร

    ก็ย้อนกลับไปที่เรื่องเดิม คือ เรียกหาพระตถาคตเพื่อมาเป็นศัตรู จิตใจไม่น้อม
    ไปเลื่อมใสในสิ่งที่เรียก ผู้มีคุณธรรมสูงกว่า มีอยู่

    ตรงนี้เองที่ทำให้ ปิดกั้นการยกจิตด้วยความแยบคาย และเรียกหา พระตถาคตเพื่อ
    มาเป็นศัตรูทุกครั้งที่อ่านธรรมะจบในแต่ละบท
     
  6. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ปุถุชนผู้ไม่เคยสดับ ย่อม ยึดขันธ์5 เป็นตน

    แม้ ปุถุชน จะมาสดับ ก็อาจจะยึดขันธ์5 เป็นตน อยู่อย่างนั้น เพราะการ
    ฟังธรรมนั้น ไม่ใช่ของง่าย การจะดสับแล้วเห็นด้วย จะมีโอกาสเหมือน
    เอาไม้กระดานที่เป็นรู ไปบอยกลางมหาสมุทร แล้ว ให้เต่าตาบอดลอย
    คอขึ้นมาเอาหัวโพล่เข้ารู้ในรอยแตกของไม้นั้นพอดี

    เรียกว่า ปุถุชนจะฟังธรรมแล้วเห็นด้วย ไม่ยึดขันธ์5เป็นตนนั้นมี ร้อยละ 0.000000001

    คือ น้อยมาก

    น้อยมากนี้ไม่เท่าไหร่ หากฟังโดยแยบคาย ฟังแล้ว ไม่โพล่งปฏิเสธ แต่ เอาไปพิจารณา
    ด้วยจิตด้วยใจให้แยบคาย ก็มีโอกาสน้อย ส่วนใหญ่แล้ว 99.999999999 จะเถียง
    และพูดจากปฏิเสธ อ้างนู้นอ้างนี่สารพัด

    อ้างในตนไม่เท่าไหร่ อาจจะอ้างขันธ์ภายนอกอีก คือ เห้ย เช่นนั้น คนอื่นก็โง่เหมือนกู
    ทั้งนั้น ดังนั้น เย็นใจดีกว่า เพราะ กูไม่แปลกคน กูไม่ผิด

    โดยลืมไปเสียสนิทว่า ธรรมะนั้น เป็นเรื่อง ปัจจัตตัง วิญญูชนพึงรู้ได้ด้วยตัวเอง
     
  7. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    นักวิชาการ ที่เรียนเก่งๆ จำนวนมาก จึงเรียนธรรมะแบบวิชาปรัชญา ศีลธรรมพื้นฐาน
    วางคุณค่าของธรรมะให้กลายเป็นเพียง ผลงานวิจัยทางปรัชญา อภิปรัชญา

    นักวิชาการเหล่านั้น ส่วนมากจึงกลายเป็น นิยตมิจฉาทิฏฐิ เป็น ผู้เที่ยงในการ
    ไม่เข้าถึงพระนิพพาน พระพุทธองค์เสด็จผ่านไปจำนวนแสนล้านโกฏิพระองค์
    ก็จะหัวเราะเยาะ และ เรียนวิชาธรรมะในฐานศัตรูทางความคิด จิตวิทยาการเมือง
    การปกครอง ปรัชญาอย่างหนึ่งเท่านั้น
     
  8. ต้นปลาย

    ต้นปลาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    629
    ค่าพลัง:
    +69
    เวลาของใจ สนใจด้วยเหรอใครมีคุณธรรมสูงกว่า ต่ำกว่า
    เพราะเวลานั้นมันตัวป๋า ใจป๋า
     
  9. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ธรรมมะไม่เว้นเด็กไม่เว้นผู้ใหญ่
    แค่เพียงรู้เท่าทันได้ในขณะจิตเดียว


    สัญญาเป็นตัวเก็บผลงาน
    เพื่อให้สติมันเท่าทันในสิ่งที่เกิดขึ้นดับไป
    เกิดขึ้นดับไป

    สัญญาก็มีประโยชน์
    อย่าปล่อยประโยชน์ไปกับสัญญา
     
  10. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    อีกอย่างหนึ่ง สำหรับคนทำอาชีพขายชีวิต

    กรรมที่ประกอบอาชีพนี้ จะ ส่งผลให้เกิดการปิดกั้นการเข้าหาธรรม

    เสมือนสัตว์เหล่านั้นเอามือมาปิดตาของผู้ฆ่าตนเอาไว้ ไม่ให้ได้รับ
    แสงสว่าง ทั้งนี้เพราะ พวกเขากลัวว่า คุณจะรอดพ้นบ่วงกรรม

    เมื่อพวกเขาเอามือบังตา ก็จะเกิด ทิฏฐิแล่นไปว่า หากเราปฏิบัติ
    ธรรมเราก็ต้องยอมรับผิด ในการฆ่า และ ขายชีวิต ใครเล่าจะ
    ยอมกระโดดลงกระทะทองแดงข้างหน้า สู้ขอปฏิเสธ และขอ
    ศึกษาเป็นเพียงปรัชญาสัญญาดีกว่า จำได้ไม่ยาก ไอ้เรื่องปฏิบัติ
    แล้วต้องไปยอมรับชะตากรรมนั้น คงไม่เอา

    จริงๆแล้ว หากศรัทธาให้แน่นแฟ้น การก้าวข้ามโลกไปอย่างไม่
    เห็นร่องรอย ไม่มีใครสามารถติดตามได้ นั้นมีอยู่

    และพระพุทธองค์ก็ชี้ทางนั้น แต่เรามักไปหวาดเสียวเสียก่อน หาก
    เคยอยู่ในตาข่ายทิฏฐิ "ทางรอด" "การพิภากษา" ด้วยแล้ว ก็จะยิ่ง
    มีตาข่ายที่ร้อยรัดให้บาดเจ็บ ให้ครั้นคร้าม ให้ปฏิเสธ การเห็นทางที่
    พระพุทธองค์ทรงชี้ไว้
     
  11. ต้นปลาย

    ต้นปลาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    629
    ค่าพลัง:
    +69
    ในชีวิต ป๋าทำอาชีพขายชีวิต ไม่ต้ำเป็นล้านๆ ชีวิต ป๋าไม่โกหกนะ อันนี้เรื่องจริง
    สะดุ้งเลยพอพูดถึงเรื่องนี้
     
  12. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    การใช้ความคิดแล่นไป ไม่ได้ กล่าวตามการเห็นจริง

    ก็เท่ากับ ศึกษาธรรมะด้วย ตรรกศาสตร์

    ศึกษาธรรมะ เสมอวิชาปรัชญา

    ซึ่งธรรมดาอยู่เอง ที่ พูดเมื่อไหร่ อ้างเมื่อไหร่ ก็รู้สึกถูก
    มีเหตุผล

    แต่จริงๆแล้ว ธรรมะ เขาไม่ได้ ศึกษาแบบนั้น ไม่ได้ศึกษา
    แบบเอา สัทธรรม มาฟาดฟันผู้สอนหน้าไหน

    ตนเท่านั้นที่รู้ ตนเท่านั้นที่แจ้ง ตนเท่านั้นที่ข้าม ผู้อื่น
    เป็นเพียงแต่ผู้บอกต่อ ถึงทางเหล่านั้นมีอยู่

    หากยังเรียนโดยเห็นว่ามี เปรี้ยงป้าง ก็เท่ากับ เรียกหา
    กัลยณธรรมเพื่อมาเป็นศัตรู
     
  13. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    นั่นแหละ ป๊ะป๋า ป๊ะป๋า เอาอาการสะดุ้ง นั้น นั่นแหละ เป็น ใบเบิกทาง

    ต้องยอมรับตามความเป็นจริงว่า อาการสะดุ้งมีอยู่

    หากเราเอาสัญญาอย่างอื่นมาปิดบัง เบี่ยงเบนการเห็น ก็เท่ากับเราโยน
    ทิ้งใบเบิกทางไปเสีย

    ทีนี้ พุทธศาสนา ไม่ได้สอนให้ สะดุ้ง แล้วไปวุ่นอยู่ที่การแก้

    เราเน้นจิตใจส่วนใหญ่ที่เป็นกุศลบ้าง อกุศลบ้าง เฉยๆ บ้าง เหล่านั้น
    เพื่อพิจารณาถอดถอนการยึดถือ เมื่อนั้น ความสะดุ้งก็จะไม่กระเทือน
    ถึง จิตดวงนั้น แม้นว่า ในสัมปรายภพ จะเกิด ภาพหน้าหวาดเสียว
    อย่างไรก็ตาม จิตดวงนั้น จะลอยพ้นข้ามสิ่งหวาดเสียวนั้นได้

    เป็น จิตหนึ่ง ที่ไม่กำเริบกลับ ข้ามพ้นไปได้

    ไม่ใช่ ไม่ต้องรับผลของกรรมนะคร้าบ

    ผลของกรรมนั้น ส่วนที่เป็นขันธ์ นั้นจะรับไปเต็มๆ อาจจะแหลกเหลว

    แต่ จิตหนึ่ง ที่พ้นการยึดถือขันธ์ เพราะ อบรมไว้ดีแล้ว จะนำสุขมาให้
     
  14. ต้นปลาย

    ต้นปลาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    629
    ค่าพลัง:
    +69
    หากยังเรียนโดยเห็นว่ามี เปรี้ยงป้าง ก็เท่ากับ เรียกหา
    กัลยณธรรมเพื่อมาเป็นศัตรู<!-- google_ad_section_end --> (นิวรณ์)
     
  15. สูญเปล่า

    สูญเปล่า สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +0
    ถ้าเรารู้จักและเห็นกิเลส
    เราก็เผากิเลสได้ครับ
    ต้องรู้จักและเห็นกิเลสก่อนครับ
    เหมือนเราจะเผาขยะ
    ถ้ายังไม่รู้ว่าอะไรเป็นขยะและยังไม่เห็นขยะ
    เราก็ไม่รู้ว่าจะไปเผาอะไร
    ไม่รู้ว่าขยะอยู่ไหนขยะหน้าตาเป็นอย่างไร
     
  16. ซูเนโอะ

    ซูเนโอะ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2008
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +1
    เดี๋ยวนี้ ขยะรีไซเคิลได้ ไม่ต้องไปโยนเข้ากองไฟ สร้างมลพิษเรื่องกระจกครับ
     
  17. สูญเปล่า

    สูญเปล่า สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +0
    เก่งมากครับน้อง
    จะเอา A หรือ F ดีครับ
     
  18. ต้นปลาย

    ต้นปลาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    629
    ค่าพลัง:
    +69
    กิเลส มันเป็นนาม จะใช้ไฟเผาก็ไม่ได้
    เห็นบ่อยว่า เพียรเผากิเลส คงเป็นวลี คำพูดซินะ
     
  19. สูญเปล่า

    สูญเปล่า สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +0
    จิตใจก็เป็นนามธรรม จิตใจทำไมถึงร้อนรนได้ครับ
     
  20. ต้นปลาย

    ต้นปลาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    629
    ค่าพลัง:
    +69
    ถ้ารีบมาก ก็กลัวว่าจะเกรียมซะก่อน
    ใจเย็นมาก ก็จะแห้งตาย ไม่ทันกาล
    อะไร คือความพอดีของนักปฏิบัติ
     

แชร์หน้านี้

Loading...