หลวงปู่ดุลย์สอนว่า "คิดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงรู้ แต่ก็ต้องอาศัยความคิดจึงรู้"

มีสติรู้หนอ รู้หนอ
เล่นหมากเก็บหนอ เล่นหมากเก็บหนอ
ขอบคุณค่ะ อาจารย์

 

ไร้สาระ

ผู้มีธรรม ย่อมเห็นธรรม ในธรรม
การปะทะใช่เพ่งโทษผู้อื่น
แต่เป็นการหยั่งใจ ว่าหวั่นไหวต่อโลกธรรมกันหรือไม่
หากปล่อยใจไปตามรูปโยค ก็ยังไม่เห็นธรรม

 

เด็กชายพชรไม่เล่นด้วยกานนนนหรอ

นิพพานอย่างเดียวเลยนะท่าน

ยังไงปฏิบัติเเล้วยังไม่ละสังขาร

ท่านก็เท่ากับ พระโพธิสัตว์ ต้องมาช่วยเหลือมนุษย์ บรรลุธรรมนะคะ

 

เนี๊ยดูเเล้ว เกิด อารมณ์ เกิดอีกแล้ววววววว(evil)

เรียกว่า ตัวอย่าง..ที่ดู เเล้วขัดเเย้ง

ไม่ดีนะคะ สาวๆ อย่าทำตาม..ดูเฉยๆพอ ไม่ต้องคิด เมือนมนุษย์คนนี้

 

การสนทนาธรรม ได้ชื่อว่าปฎิบัติธรรมอย่างหนึ่ง
การเออออ เชิดชูกันนั้น หาสาระประโยชน์ไม่ได้
หากโต้กันเพื่อ ประหารกัน ก็ไม่ต่างปุถุชน

ในที่นี้ผู้ขวนขวายธรรมมีมาย
ย่อมน้อมธรรมจาก ผู้รู้สนทนา

 

เคสนี้ ต้องการแสดงถึงปัญญาธรรมที่มี

อัตตาความรู้ ต้องการอวดภูมิคะ..กลัวเสียหน้า(||)

ดูพอนะคะ ไม่ต้องใช้จิตคิดตาม เดี๋ยว จิตนักเรียนไม่สงบนะคะ

 

คนบางคนเข้าถึงธรรมด้วยปัญญา แต่ตัดสังโยชน์ไม่หมด
เพราะต้องการเหลือไว้จึงเกิดใหม่ได้อีก บำเพ็ญต่อได้อีก


ท่านนั้นอาจมีปัญญามาก "มานะ" ก็มาก
ก็มานะนี่แหละ เขาใช้เป็นไฟให้เร่งเครื่องปัญญาแก่เขา
เขาจึงไม่ตัดมานะออกไป นี่เรียกว่า "ใช้กิเลสให้เป็น"


เหมือนเอาพิษแก้พิษ ฉะนั้น
เพราะหากจิตบริสุทธิ์หมดแล้ว
การบำเพ็ญจะลดลง ได้น้อยกว่าผู้ไม่บริสุทธิ์

 

จะไปดูให้มันขัดแย้งทำไมล่ะ

ดูแล้วนิ่งเฉย น้อมมาแต่ธรรม ก็ได้
ดูแล้วเพ่งโทษ ก็ได้
ดูแล้ว ไปแบกแทนก็ได้

สุดแต่ใจผู้ดู

คุณ สันโดษ ก็ให้วางใจไว้เป็นกลาง อย่าเที่ยวกวนน้ำ

 

การบำเพ็ญก็ต้องทำแบบผู้บำเพ็ญ
ทำแบบอรหันต์ไม่ได้


คนละสูตรคนละทางกัน
แม้มีความเชื่อมโยงก็ยังต่างกัน


ดังนั้น ไม่ควรบอกให้ผู้บำเพ็ญชำระจิตให้บริสุทธิ์หมด
และไม่ควรบอกผู้หวังนิพพานให้มาบำเพ็ญเพียรเลย

 

ดิ๊งๆๆๆๆๆๆ...ถูกต้องนะค้าบบบบบ

เดี๋ยวมานะท่าน...ไปดูห้องสงคราม ใบไม้ฯ กระชับศัตรู

 

ฤษีแปลงสาร, เอกวีร์, สันโดษ, k.kwan, ฐาณัฏฐ์ , ใบไม้นอกกำมือ


หมดนี้น่ะ ไม่ต้องสอนแล้วเรื่องชำระจิต
คุยกันเรื่องบำเพ็ญให้กิจที่ตนได้รับมาดีกว่า



เพราะแต่ละท่าน รับกิจมาหนักไม่น้อยน่าดู

 

ถูกต้องครับ....กว่าจะทำได้แทบตายยยย

ทามมายยยยจะให้สันโดษ กลับไปเป็นคนกันจังงงงเลย

จริงๆสันโดษนิพพานตั้งแต่ 20 แล้ววววตายแล้ว

แต่กลับมาเพราะแม่ ไม่ยอมให้ไปคะ

 

แหม ช่วงนี้ ฤาษี มีเยอะจัง นี่เหมือนพบสองท่านละ

ถ้าตามตำรา"พลังจิต" ก็ว่ามีอีก 18 ท่าน

 

ท่าน ฤาษี คนที่ชื่อสันโดษนะ เธออ้างว่า เข้านิพพานแล้ว

แบบนี้ คือ บุคคลในข้อความนี้หรือเปล่าครับ หรือว่า เธอคิดไปเอง
ว่านั้นคือ สภาวะตน

<!-- / message -->

 

กระจกมีไว้ดูเงาสะท้อน
บางอย่างต้องอาศัยกระจกจึงเห็น
มีสติระลึกรู้ตัวหนอ รู้ตัวหนอ
เจริญในธรรมค่ะ สาธุ สาธุ

 

ถามฤษีทามมายเรื่องสันโดษ

สันโดษไม่ได้อ้าง สันโดษรู้ตนเอง

และไม่ได้บอกให้ใครเชื่อ

เหมือนอย่างท่านเอกวีร์

เราจะนิพพานจริงหรือหลอก คนที่รู้มีคนเดียว คือ สันโดษ

พ่อแม่ ก็ไม่รู้....ท่านจะคิดทำไม มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องนำมาใส่ใจด้วยซ้ำ

แล้วนิพพานก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต

ก็แค่รู้ ตัวเอง ณ ปัจจุบัน

ท่านจะไปเอา ปริยัติอะไรมาวัดอีก

ท่านทำไปเพื่ออะไร ต้องการฉีกหน้า

หรือ ต้องการให้สันโดษบอกว่าไม่จริง

แล้วตกลงคำสอนของพระอาจารย์ต่างๆ

สอนเพื่อให้คนนิพพานหรือ ว่า สอนอะไรกันแน่

งง....ไม่เข้าใจมนุษย์

นิพพาน มันก็ ดับซึ่งกิเลสไม่ใช่หรือท่าน?

คนบรรลุธรรมก็มีต้งเยอะเเยะ หรือว่าท่านไม่เคยเจอ

เราเจอออกจะบ่อย

 

รู้คนเดียวได้หรือ

ถ้ายังมีขันธ์ เขาก็ต้องรู้สลัดคืนกันทั้งนั้น

 

แล้วเพื่อนๆที่ นิพพาน เขาก็ดูแต่จิตกับกายตนเอง

เขาไม่เคยเพ่งหรือ ทำร้ายคนอื่นเหมือนมนุษย์เลย

ส่วนมากก็ เพี้ยน คุยคนเดียวอยู่คนเดียว

เวลาอยู่กับมนุษย์ก็คุยกับมนุษย์

เวลาอยู่คนเดียวก็คุยกับจิต

เราเขามาดูในเว็บ พลังจิต

มีคนเขาชื่นชม เราก็เเค่รู้

ถามเราก็ตอบ เราก็ไม่ได้สนใจหรอกว่า เขาจะปลื้มมาก

ถึงขนาดที่ตั้งกระทู้ชมเรา เรื่อง ที่เราสอน

เราก็ตอบเล่นๆ ไม่คิดว่าจะโดน

แต่ตั้งกระทู้ทีไร ตอบคนก็เข้าใจง่ายก็แค่นั้น

มีแต่มนุษย์ ชอบทดสอบธรรมกับเรา

เราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ทดสอบธรรมตัวเอง??

 

คุณใช้ญาณดูสิ
อย่าไปสนคำพูด

 

เพราะผิดหวังซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า
ใจจึงเลือกที่จะข่มด้วยธรรมารมณ์
เพราะเหตุนี้จึงยึดพระนิพพานไว้แน่น
แล้วสำคัณว่าถึงแล้ว
ในที่นี้ เราผู้มีธรรมน้อยดุจแสงหิ่งห้อย ย่อมเข้าใจได้ ว่า
อาการหวั่นไหวต่ออารมณ์ที่กระทบ แล้วปล่อยให้ไหลตามนั้น
ไม่เกิดกับผู้เข้านิพพานเลย