หลวงปู่ดุลย์สอนว่า "คิดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงรู้ แต่ก็ต้องอาศัยความคิดจึงรู้"

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 1 เมษายน 2008.

  1. dhammadasa

    dhammadasa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +69
    ใครบวกเลข 225 + 356 ได้โดยไม่มีเสียงดังในหัวบ้างครับ
    ผมว่าเด็กออทิสติกบางคนทำได้นะ คูณเป็นหลักพันหลักหมื่นเฉยเลย หากมีเสียงดังในหัวอย่างเรา มันแค่ดีดลูกคิดนะผมว่า มันจะไปทำอะไรได้ หลวงปู่ท่านถึงบอกให้หยุดคิด (แบบเรา) แล้วให้ไปคิด (แบบออทิสติก)

    อันนี้ผมสรุปเอาเอง :555:
     
  2. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ขออนุญาติยกมาเท้าความ

    สำหรับคนที่มีกิจกรรม กึ่งอดิเรก เช่นเล่นเครื่องดนตรี หรือ ฟังเพลง
    สังเกตุให้ดีว่า มันเริ่มจากความสุขใจ เพราะสุขใจ จึงกลับไปเล่น
    ดนตรี หรือ ฟังเพลง ความสุข-ก่อเกิดสมาธิ ก็เหตุนี้

    แต่เดิมเราเคยได้ยินแต่ ทำสมาธิ แล้วจึง สุข อันนั้นไม่ใช่ สุข ใน
    เป้าหมายของพุทธะ

    ความสุขแบบพุทธะ จะเกิดขึ้นเมื่อเรา ระลึกรู้ หรือ เห็นสติเกิดเองได้บ่อยๆ
    จนมันขจัดกิเลสที่จะผุดขึ้นได้ต่อหน้าต่อตา ความสุขจะเกิดขึ้นทำให้สมาธิ
    ในการระลึกรู้นั้นตั้งมั่นขึ้นเรื่อย เรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ
    เรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ .....จนไวพอเป็นขณะจิต

    จิตเขามีความสุขของเขาเองเมื่อไหร่ เขาก็กลับไปทำสมาธิตั้งมั่นระลึกรู้

    สัมมาสติ เป็นเหตุใกล้ให้เกิด สัมมาสมาธิ และ สัมมาสมาธิ ก็เป็นปัจจัย
    เกื้อต่อการ ผลุงขึ้นเองของ สัมมาปัญญา -- ( ปัญญา ไม่มีเหตุใกล้ให้เกิด )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2008
  3. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    นี่คือขั้น advance
    สติไปจับที่ฐาน จิต และ ธรรม โดยตรง
    ถ้าทำถึงขั้นนี้ได้
    ก็หมดสงสัยในการปฏิบัติแล้ว
    สำหรับ beginner
    ดูที่ฐานกายให้ชำนาญไปก่อน
    เมื่อเป็นวสี จะเห็นเวทนา จิต ธรรม ได้เอง
    เวลาดู จะดูได้พร้อมๆ กัน
    แล้วแต่เราจะเลือกพิจารณาที่ฐานใด
    การปฏิบัติต้องค่อยเป็นค่อยไป
    สังคมปัจจุบัน กิเลสมันหนา
    ต่างจากสมัยพุทธกาล ที่บรรลุกันได้เร็ว เพราะบารมีมาก
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ขอสารภาพว่าดิฉันมีสันดานเป็นลูกอีช่างคิด ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก เลยมีแต่คิดเพื่อรู้ พอมาเจอคำว่า หยุดคิดเพื่อรู้ ก็เหมือนจะรู้ แต่ยังไม่รู้ เลยต้องมาทำข้อสอบต่อ
     
  5. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    พูดภาษาง่าย คือ จิตเหมือนกับม้าพยศ

    เราต้องหาทางทำให้ม้าหายพยศ

    แต่ม้าที่เรากำลังปราบ ไม่มีใครทำได้ หรือ สอนได้

    นอกจาก เจ้าของม้าตัวนั้นเองคะ


    คนส่วนมาก กลับคิดว่าตัวเองเป็นม้า ก็เลย พยศโดยไม่รู้ตัวคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2008
  6. siratsapon

    siratsapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +641
    ขอตอบเจ้าของกระทู้ดังนี้ครับ

    "คิดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงรู้ แต่ก็ต้องอาศัยความคิดจึงรู้"

    คิดเท่าไรก็ไม่รู้?

    หมายถึง สภาวะธรรมอันที่จำเป็นจะต้องให้บังเกิดขึ้นจริงๆ แต่ผู้ปฏิบัติมัวไปนั่งคิดเอา ปรุงแต่งเอาเอง ให้เห็นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ย่อมไม่มีทางจะรู้ตามจริงของสิ่งนั้นๆ ได้ เช่น ปิติ สุข เอกัคตตา เป็นต้น ไปคิดเท่าไหร่ก็ไม่รู้


    หยุดคิดถึงจะรู้?

    หมายถึง การที่เราไม่คิดถึงสภาวธรรมต่างๆ ข้างต้นเอาเอง แต่หมั่นฝึกปฏิบัติเพื่อทำสภาวะเหล่านั้นให้เกิดขึ้นจริงๆ ในกาย ในใจของเราจึงจะรู้ได้


    แต่ต้องอาศัยความคิดจึงรู้?

    หมายถึง การจะให้เข้าถึงสภาวะรู้แจ้ง หรือรู้จริง ให้เกิดสภาวธรรมต่างๆ ขึ้นจริงๆ จะต้องอาศัยความคิดมาช่วย โดยที่เรารู้จักกันดี ได้แก่ "วิตกและวิจาร" นั่นเอง วิตก-วิจารจัดว่าเป็น "วจีสังขาร" เป็นการตรึกอย่างแรง มาช่วยนึก ช่วยคิดซ้ำๆ ไปซ้ำๆ เช่น คำว่า "พุทธ-โธ" เป็นต้น จนกระทั่งจิตเกิดสภาวะธรรมขึ้นจริงๆ

    แต่เพียงเท่านั้นหาเพียงพอเกิดความรู้จริงไม่? จะต้องใช้ความคิดช่วยอีกตอนหนึ่งถึงจะรู้ ข้อนี้แหละที่สำคัญที่สุด คือ หลังจากเกิดสภาวะธรรมได้แล้ว มีจิตสงบ เกิดองค์ฌาน สมภนิมิตปรากฏขึ้น ให้ใช้การคิดนี้แหละช่วย คือ น้อมจิตไปพิจารณาให้เห็น รู้ตามเป็นจริงแห่งไตรลักษณ์ ซึ่งเมื่อเราน้อมจิตคิดจะเห็นสภาวะความเป็นจริง ตามจริงอันใด เช่น เห็นความไม่เที่ยงเป็นต้น เป็นต้น องค์ธรรมที่ปรากฏนั้นจะแสดงสภาวะไม่เที่ยงให้เห็นตามที่ต้องการได้ เรียกว่า "แค่คิดก็ถึง" หรือผู้ที่ต้องการเห็นร่างกายเป็นปฏิกูลอย่างไร เพียงน้อมจิตคิดว่าจะดูปฏิกูลในร่างกายเท่านั้น ร่างกายก็จะปรากฏสภาวะปฏิกูลตามที่ใจต้องการให้เห็น เมื่อเป็นไปอย่างนี้ ก็จะเกิดวิปัสสนาญาณขึ้นได้ เมื่อนั่นแหละที่เรียกว่าจึงจะรู้ (จริงๆ)

    ขอให้เจริญในธรรม
     
  7. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ถ้านักเรียนขวัญ เข้ามาอ่านในเว็บนี้

    จิตเขาก็มีความสุข อยู่โดยไม่วิตก ไม่ทุกข์ ไม่สุข
    แต่รู้สึกอิ่มเอิบ สมบูรณ์ การเรียนรู้ธรรมที่เกิด ก็เข้าใจ
    โดยไม่ต้องฝืนให้อ่านคัมภีร์ แต่ก็ได้ความรู้มาก

    ความรู้นะคะ คือ ปัญญา ไม่ใช่ความจำถูกไหม?

    ดังนั้น เราต้องรู้ว่า ปัญญา ของอัจฉริยะ

    เกิดจากการจดจ่อในสิ่งใดสิ่งนึงเป็นเวลานานจนเกิด สมาธิ

    ถ้าคนไหน อยู่ที่ไหน หรือ ทำอะไร นานๆไม่ได้เรียกว่า จับจด

    เพราะ จิตไม่นิ่ง คนที่จิตนิ่ง คือ คนที่สามารถ จดจ่อกับอะไรก็ได้

    เป็นเวลานาน ปัญญาก็เกิด เท่านั้นเองคะ

    อย่างที่ไอน์สไตน์ หรือ นักกวี หรือ
    นักประพันธ์ สามารถจดจ่อกับสาขาวิชาชีพของเขาจนเกิดความชำนาญ

    อีกหน่อย คุณขวัญก็จะบรรลุธรรมได้เหมือนกัน

    เพราะสามารถจดจ่อกับ เว็บพลังจิตได้ทั้งวัน

    ที่อ่านเล่น อ่านจริง ทุกอย่างรู้เเละผ่านตา
    มันก็จะกลายเป็นประสบการณ์ ที่สามารถเล่าให้ผู้อื่นฟังได้สมจริงนั้นเอง

    ความรู้เกิด จากประสบการณ์ ไม่ใช่เพราะจำได้คะ

    แถมอีกนิด...เวลาไม่มีตัวตนคะ

    หากเราทำอะไรเเล้วมีความสุขเวลามักจะผ่านไปเร็ว
    หากเราทำอะไรแล้วมีความทุกข์เวลามันช่างยาวนาน

    จริงหรือเปล่า ? ไม่ได้ให้คิด ให้ระลึกรู้คะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2008
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    รายงานอาจารย์
    ตอนนี้
    คิดก็รู้ว่าคิด
    ไม่คิดก็รู้ว่าไม่คิด
    คิดแล้วอยากตอบก็รู้ว่าตอบ
    คิดว่าตอบก็รู้ว่าตอบอะไร
    รู้ว่าตอนนี้พิมพ์ตอบเสร็จแล้ว
     
  9. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870

    ฝึกให้ชำนาญเเล้วจะรู้......

    ถึงความมหัศจรรย์ของคำว่า พลังจิตเองคะ

    ค่อยๆฝึกกันไปนะคะ ดูเเต่จิตตนเองนะคะ แล้วจะดี
     
  10. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ขอชี้อีกครั้ง ภาวะสติ สมาธิ และ ปัญญา ล้วนแต่เป็นสภาวะธรรม

    ลักษณะสามัญลักษณ์ของสภาวะธรรม ก็คือ ไตรลักษณ์

    ที่สำคัญ และเน้นให้ตั้งเป็นข้อเตือนใจเสมอคือ ไม่มีอะไรไปบังคับบัญชาได้
    หรือที่เรียกสั้นๆว่า อนัตตา

    อย่างกรณีหลวงปู่มั่น ท่านสามารถเดินอสุภกรรมฐานได้ขณะเดินในเมือง
    ครั้งหนึ่งหญิงฟรั่งเดินผ่านท่านไป ท่านกลับเห็นเป็นโครงกระดูกเดินผ่าน
    ท่านไปอัตโนมัติตามวสี เมื่อสามีเดินผ่านก็ถามว่า เห็นผู้หญิงหน้าตา
    ลักษณะนี้ไหม ท่านก็ชี้ไม่ได้ เพราะไม่เห็นในลักษณะนั้น เห็นแต่โครง
    กระดูก จึงไม่สามารถบอกได้

    ก็จะเห็นว่า นี่ก็คือ สภาวะธรรม อย่างหนึ่ง เป็นอาการของจิตอย่างหนึ่ง
    ที่เกิดขึ้นเองโดยอยู่นอกเหนือการบังคับบัญชา เกิดเอง ไม่เอาก็ไม่ได้
    เป็นเพียงสภาวะธรรมที่ไม่เที่ยง อนิจจัง และ ทุกขัง แบบนี้ก็ให้ยกมา
    ระลึกว่า มันก็ไม่เที่ยง เป็นอนัตตา เอาธรรมจับลงไป ถึงจะเกิด วิปัสสนา
    ญาณ ส่วนอาการของจิตที่ไปเห็นอสุภะ อันนั้นไม่ใช่ภาวะปัญญา วิปัสสนา
    ญาณ -- วิปัสสนาญาณ จะเกิดขึ้น เมื่อมีการถอยเข้า ถอยออกของฌาณ

    สรุปอีกครั้งหนึ่ง

    ปัญญา ต้องเกิดเอง เป็นสภาวะธรรมหนึ่ง ไม่ใช่ความรู้จรดจ่อเจนจัดอัจฉริยะ
    เป็นเพียงสภาวะธรรมที่รองรับการลด ละ ของกิเลส และสุดท้ายก็คือ
    สภาวะธรรมที่สิ้นไปของกิเลสทั้งมวล อย่าไปเข้าใจไขว้เขวกับคำว่าปัญญา
    เป็นอย่างอื่นเสีย จะทำให้ศึกษาธรรมของพุทธองค์ไม่ตรง มรรค และ ผล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2008
  11. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ส่วนของจอย ใครจะเข้าใจยังไงก็ได้

    ขอให้เข้าใจในภาษาตนเอง

    เมื่อบรรลุธรรมเเล้วช่วยกันเผยแพร่ สิ่งที่ดีงามต่อไปก็พอ
     
  12. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    สาธุ

    นั้นแหละ แค่ รู้ว่ารู้สึก ก็แค่นี้แหละ
    ไม่ใช่ไปรู้เรื่องอะไร เข้าใจอะไร

    รู้สึกว่ารู้สึกได้ละ รู้สึกชัดละ

    รู้แล้ว มันก็บริบูรณ์ในตัว จบในตัว สุขในตัว โล่งในตัว เบาในตัว
    ว่องไวพร้อมรู้สึก(สมาธิ)ในตัว ก็แค่นี้จริงๆ ธรรมะของพระพุทธองค์
     
  13. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975

    อาการที่หลวงปู่มั่นเห็นผู้หญิงเป็นโครกระดูกในทันที
    น่าจะเป็น "อสุภสัญญา" เป็นหนึ่งในสิบสัญญา (ดูในคิริมานนทสูตร)
    คือ ความจำได้หมายรู้ หมายไว้ว่าเป็นโครงกระดูกในทันที


    แต่หากไม่มีการพิจารณาถึงขั้นไตรลักษณ์ ก็ยังไม่ถึงธรรม
    จะเป็นแค่ "สัญญาขันธ์" จำไว้ชั่วคราวก่อน ดังนั้น ท่านจึง
    ไม่ได้บรรลุธรรมขณะนี้ (แต่บรรลุในขณะอื่นแทน)


    เห็นตรงกับคุณเอกวีร์ ว่าไม่ใช่วิปัสสนาญาณ
     
  14. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    อ้าว มีคนมาแทรก

    คนข้างบนนู้น! นี้ไงที่ว่า ลดกิเลสได้ 90% แล้ว

    เห็นคุณสันโดษตามชี้ ตามเชียร์อยู่ กึ่มๆ

    ก็ขอยืมคำคุณสันโดษนะ

    จิตเราเป็นอย่างไร ก็จะทำให้ได้พบสิ่งนั้น
     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ขออนุญาติแสดงความรู้สึก อ่านตรงนี้แล้วเริ่มอาการ ตาแดงๆ มีน้ำตารื้นขึ้นมาหน่อยๆ ตอบแบบรู้สึกตัว

    สาธุ สาธุ
     
  16. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    แต่ ท่านใบไม้ฯ ก็มีทิฐิ ความคิด ขัดแย้งถูกไหมคะ?

    ความรู้และตำรามีเอาไว้เพื่อรู้ มิใช่เพื่อขัดแย้ง

    แต่ที่ท่าน พยายามให้ผู้คน คิดตามนั้นก็เหมือนกับบังคับผู้อื่นเช่นกัน

    ผู้อ่าน หรือ นักปฏิบัติ ย่อมมีวิจารณญาณ ในการรู้

    ท่านควรจะเป็นกลาง และนำเสนอสิ่งต่างๆ ด้วยความเป็นกลางเช่นกัน

    เพราะ ท่านเอง ก็ศรัทธาในตัวท่านมาก

    จนอัตตาของท่านคือ ความรู้ของตัวท่านเอง

    หากท่านวางเฉยและค่อยๆ แนะนำ ทุกอย่างย่อมดีคะท่าน ใบไม้ฯ
     
  17. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870

    ยังไม่เลิกจับผิด ผู้อื่นอีกหรือท่านเอกวีร์ จิตท่านนะ?
    เราดีใจที่ท่านฯใบไม้เข้ามาอ่าน

    ท่านยังเเบ่งฝ่ายไม่เลิกใช่ไหม?
    ตกลงท่านจะเป็นฝ่ายธรรมะ แล้ว ท่านใบไม้กับสันโดษเป็นอธรรม
    อย่างนั้นใช่หรือไม่?
     
  18. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    จะเรียกว่าจับผิดก็ได้

    แต่ จะดูว่า เราดึงคุณออกมาก็ได้
     
  19. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    สมัยพุทธกาล เขาจะอุทานว่า แจ่มแจ้ง หงายของที่คว่ำ
     
  20. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    บางคนแกล้งโง่แกล้งผิด
    ก็ดี คนที่มีปัญญาอยู่แล้ว
    เขาจะได้พยายามมากขึ้น
    ได้บารมีมากขึ้น


    แต่คนที่ยังขาดปัญญานี่สิ
    ไม่ได้อะไรเลย ไม่รู้อะไรเลย


    (กลายเป็นว่าคนมีปัญญาด้วยกัน
    ช่วยกันสร้างบารมีให้แก่กันและกันเอง)
     

แชร์หน้านี้

Loading...