หลวงปู่ดำ อายธัมโม เทศน์เรื่อง ภัยพิบัติ ครับ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ป้อมpp, 5 พฤศจิกายน 2011.

  1. ไห่เฉากุหลาบไฟ

    ไห่เฉากุหลาบไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    895
    ค่าพลัง:
    +2,177
    น่ากลัวจริงๆ ;k01:'(
     
  2. เขามอ

    เขามอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +539
    เป็นพระคุณอย่างหาประมาณมิได้ที่หลวงพ่อดำได้เมตตา เตือนสติลูกหลาน
     
  3. littleweb_cs

    littleweb_cs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    567
    ค่าพลัง:
    +1,241
    กำลังฟังไฟล์เสียง หลวงพ่อได้เตือนไว้แล้ว ขอให้ทุกท่านอย่าประมาท
     
  4. mungkonn

    mungkonn สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +3
    ขอจงแยกแยะ
    ***จิต@*** ออกจาก ร่างกาย ให้ชัดเจน
    อย่าสับสนเด็ดขาด!!!!



    เราคือ
    *****จิต@อทิสมานกาย*****
    หรือ
    กายทิพย์
    สงบสุข*
    สดใส* เบาสบาย* อมตะ* บริสุทธิคุณยิ่ง*


    การหลงในร่างกายนี้คือ ต้นเหตุแห่งกิเลสความชั่วร้าย อันก่อทุกขังทั้งปวงในวัฎสงสาร!<WBR>!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
    ร่างกายนี้คือ ต้นเหตุแห่งกิเลสความชั่วร้าย อันก่อทุกขังทั้งปวงในวัฎสงสาร!!!<WBR>!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!<WBR>!!!!!!!!!!!
    ร่างกายนี้!!! ต้องตายแน่
    ร่างกายนี้!!! สุดน่ารังเกียจสกปรกโสโครกที่สุด
    ร่างกาย!!! ไม่ใช่เรา
    ร่างกาย!!! ไม่ใช่ของเรา
    เราไม่มีใน ร่างกาย!!!
    ร่างกาย!!! ไม่มีในเรา


    ********จงตัดร่างกาย********
    ตัดการหลงติดในร่างกายได้ตัวเดียว

    ก็ง่าย แลถึงซึ่ง
    ****************พระนิพพาน@****************
    แดนแห่ง
    ความสงบสุขยิ่ง*
    สดใส* เบาสบาย* อมตะ* บริสุทธิคุณยิ่ง*
    ตลอดนิจนิรันดร์กาล*



    ...........ขอให้ทุกสรรพชีวิตถึ<WBR>งซึ่ง~พระนิพพาน@ณ กาลชาตินี้****





    ~พระเดชพระคุณ@หลวงพ่อฤาษีลิงดำ<WBR>*












    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 พฤศจิกายน 2011
  5. ป้อมpp

    ป้อมpp สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +1
  6. ป้อมpp

    ป้อมpp สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +1
    ส่วนท่านใดต้องการศึกษา ฟังธรรมมะและเทศน์ของหลวงปู่เพิ่มเติม สามารถเข้าไปที่เวบ
     
  7. ป้อมpp

    ป้อมpp สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +1
    ข้าพเจ้าขอโมทนา สาธุกับญาติธรรมทุกท่านนะครับ ช่วยๆกันกระจายเทศน์ของหลวงปู่ให้แก่ญาติธรรมทั้งหลายด้วยนะครับ สาธุๆๆ
     
  8. ป้อมpp

    ป้อมpp สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +1
    ไฟล์เสียงนี้ หลวงปู่ดำ ปาฐกถาธรรม วันที่ 31 ตุลาคม 2554 ครับ ที่วัดป่าดงหวาย อำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนครครับ เป็นเทศน์ทางการล่าสุดของท่านครับ
     
  9. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    คำพยากรณ์
    ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    “ดูก่อนอานนท์ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะเกิดการร้ายแรงจะมีการรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ฝนเหล็กจะตกจากอากาศ ไฟจะลงมาจากอากาศจะเผาผลาญประชาชนให้พินาศ จะมีการล้มตายซิ่งกันและกันเป็นอันมากแต่ว่าดูก่อนอานนท์ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะถือว่าเป็นการณ์ร้ายแรง หาได้ไม่ทั้งนี้ก็เพราะว่าหลังกึ่งพุทธกาลไปแล้ว
    ดูก่อนอานนท์ จะมีความร้ายแรงมากกว่าก่อนถึงกึ่งพุทธกาลมากยักษ์นอกศาสนาจะรบราฆ่าฟันซึ่ง กันและกัน ต่างฝ่ายต่างล้มตายกันฝ่ายละมากๆ สมณะ ชี พราหมณ์ จะล้มตาย จะตายไปฝ่ายละครึ่งจึงจะเลิกรากันสำหรับประเทศที่นับถือพุทธศาสนาจะมีภัย เหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก”

    พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า โลกจะไม่ล้มสลาย พระพุทธศาสนาจะทรงอยู่ได้ตลอด ๕,๐๐๐ ปี ทรงตรัสชี้ว่า เขตประเทศต่อไปนี้ จะเป็นประเทศที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากจะสามารถทรงพระพุทธศาสนาครบ ๕,๐๐๐ ปี นี่หมายถึงประเทศไทย…..

    ถ้าสงคามเกิดขึ้น คนไทยจะมีความมั่นคงในพุทธศาสนามากขึ้นในเมื่อเห็นการสูญเสีย ความตายเกิดขึ้น ความทุกข์เกิดขึ้น จิตใจเริ่มเป็นกุศล เวลานั้พุทธศาสนิกชนก็จะมีความมั่นคงในพระพุทธศาสนามากขึ้นเพราะกลัวตาย…

    สำหรับท่านนักปฏิบัติที่เจริญสมาธิจิต ก็จะเร่งตัวเอง กำลังใจก็จะมีสมาธิในที่สุดอภิญญาก็จะเกิด ในเมืออภิญษเกิดก็จะใช้ผลของอภิญญาและญาณต่างๆที่ได้จากสมาธิและวิปัสสนาญาณ เอามาช่วย บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ให้ปลอดภัย…..

    จงอย่าประมาทในชีวิต จงทรงจิตของท่านให้มีความมั่นคงในคุณพระรัตนตรัย 3 ประการ คือ คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้มีจิตยึด พระพุทธคุณ ให้ภาวนาว่า “ พุทโธ ” ก่อนจะหลับให้กำหนดการเข้าออกของลมหายใจ หายใจเข้า “ พุท ” หายใจออก “ โธ ”

    และเวลาตื่นนอนใหม่ทำแบบนี้เป็น ปกติ เวลาที่ยังตื่นอยู่ถ้าคิดขึ้มมาได้เมื่อไรก็ทำใจให้นึกถึงความดีของ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภาวนาว่า “พุทโธ” เป็นปกติอย่างนี้ได้ชื่อว่า เป็นผู้เข้าถึงไตรสรณคมน์ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ ทั้ง 3 ประการจิตของท่านจะทรงสมาธิ อำนาจบารมีของพระพุทธเจ้าจะทำให้จิตของท่านให้เยือกเย็นมีความสุข อันตรายท่จะเกิดขึ้นกับท่านทั้งหลายก็จะพ้นภัยด้วยอำนาจของพุทธนุภาพ ธัมมานุภาพ สังฆานุภาพ

    ถ้าจิตใจของ เราไม่นิยมในขันธ์ ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา จิตเราเกาะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าพระองค์อยู่ที่ไหนเราจะไปที่นั้น ท่านจะพ้นจากกิเลส จะเข้าถึงนิพพานได้….

    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)

    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระธรรมเจ้าเป็นที่พึ่ง
    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง

    ลางบอกเหตุก่อนเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ (ระยะที่ ๒ )
    ท้องฟ้ามืดมิดผิดปกติ ใบไม้จะพลิกคว่ำพลิกหงายแลดูหดหู่ สัพสัตว์ทั้งหลายจะไม่ปรากฏกายให้เห็น แต่ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านจะเห็นมันวิ่งลุกลี้ลุกลนผิดปกติหรือบางตัวจะ นอนนิ่งน้ำตาซึม
    เป็นกรรมของสัตว์โลกนะ ครูบาอาจารย์ท่านเคยบอกว่าระบบจะเริ่มล้างปลายปี แล้วจะมีเหตุอื่นมาล้างเรื่อยๆ ด้วยระบบภัยพิบัติทาง ดิน น้ำ ลม ไฟ คือ ธาตุทั้ง ๔ โรคระบาด และอุบัติภัยสงคราม จากยักษ์นอกศาสนาและจะหนักขึ้นเรื่อย

    ต่อไปที่จะวิบัติหนักๆ ก็จะเป็น ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อเมริกา ไต้หวัน ฯลฯ ตามลำดับศิลธรรม และความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ทุกคน เคยถามพ่อแม่ครูบาอาจารย์ว่าไม่มีใครเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลยหรือ ท่านบอกว่า "ไม่ได้ " ในโลกนี้ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้เพราะกรรมของมนุษย์ทำกันไว้แบบนั้นเอง แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ไปเลยซะที่เดียวหรอก ถ้ามนุษย์ทุกคน หยุดความเห็นแก่ตัว หันมาช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน ไม่ทำลายธรรมชาติคืนสิ่งที่เอามาจากธรรมชาติ แลัวธรรมชาติก็อาจเมตรตาบ้าง ท่านลองคิดดูง่ายๆ แค่เรื่องป่าไม้ท่านทั้งหลายก็ไม่สามารถให้เขาคืนได้เพราะคิดแค่อยากมี พื้นที่สร้างเมืองให้ใหญ่โตแต่ลืมธรรมชาติที่ใหญ่โตพอถึงเวลาที่เขาจะเอาคืน ทำเป็นเดือนร้อน ทำไหมไม่คิดที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติเหมือนกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ เจ้าละ......

    สำหรับเมืองไทย ต่อไปกรุงเทพฯใช่ว่าจะปลอดภัย เพราะบางส่วนเริ่มถอนระบบออกไปมากแล้ว
    และต่อไปภาคไต้แทบจะไม่เหลือจะเป็นเกาะ เป็นแก่งทั้งหมด เราเข้าใจว่าภัยพิบัติในภาคใต้เป็นสัญญาณของยุคจักรพรรดิที่กำลังจะเริ่มต้น ที่จริงแล้วสัญญาณอย่างอื่นก็มีบ้างแล้วดังที่ปรากฏในปัจจุบัน

    ในยุคจักรพรรดิ ทั้งโลกจะถูกปกครองโดย ๓ ร่มโพธิ์ศรีอัญญาสิทธิ์และอัญญาธรรม พระจักรพรรดิจะเป็นพระมหากษัตริย์ของโลกศาสนาอื่นนั้นจะไม่เหลือ เมื่อถึงเวลาแล้วจะหนีตาย........(ยังมีต่อ)

    มนุษย์ทุกคนที่หวังความเจริญ ควรปฏิบัติให้ได้ คือการปรนนิบัติดูแล บิดา มารดา
    สมเด็จ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง ปุรัตถิมทิศ คือ ทิศตะวันออก คือ มารดา บิดา ว่าดูก่อนบุตรคฤหบดี บุตรควรปฏิบัติแก่มารดา บิดาอันเป็นปุรัตถิมทิศ คือ ทิตะวันออกด้วยสถาน ๕ โดยความตั้งใจว่า ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว เราจะเลี้ยงตอบท่าน ๑ เราจักทำกิจของท่าน ๑ เราจักดำรงวงศ์ตระกูล ๑ เราจักปฏิบัติจักควรรับทรัพย์มรดก ๑ อีกอย่างหนึ่ง เราจักทำบุญให้แก่ท่านเมื่อล่วงลับไปแล้ว มารดาบิดาได้เลี้ยงเรามาด้วยการให้ดื่มน้ำนม........(กำลัง upload )

    ที่มา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2011
  10. Nat Simon

    Nat Simon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2010
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +172
    Anumotan Satu. Good teaching.
     
  11. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    "นอบน้อมโอนอ่อน กตัญญุตา" ต่อทุกสรรพสิ่ง โดยเฉพาะ "แม่ธาตุ"

    [​IMG]





    [​IMG]






    [​IMG]

    บุญคือความสุข ความอิ่มใจ ความยินดีในธรรม
    ให้ เมตตาธรรม
    รักษาใจเราเอาไว้


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2011
  12. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    [​IMG]






    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=2>ประวัติองค์หลวงพ่อดำ อายธัมโม




    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>นามเดิม </TD><TD>
    ปิยะพงษ์ ควรชม
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>เกิดวันที่ </TD><TD>
    วันพฤหสับดี ที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๔๙๐ ขึ้น ๙ ค่ำ เดิอน ๑๑ ปีกุน
    </TD></TR><TR><TD>ถิ่นกำเนิด </TD><TD>
    บ้านสว่าง ตำบลโพธิ์ชัย อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด
    </TD></TR><TR><TD>บิดา</TD><TD>
    นายเอน ควรชม
    </TD></TR><TR><TD>มารดา </TD><TD>
    นางสงฆ์ ควรชม
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>ถือกำเนิด </TD><TD>
    ครั้นแรกเกิดกำเนิดมา สายรกก็พันรอบกาย ตามตำราศาสตร์โบราณได้กล่าวไว้ว่า
    ๑. ถ้าออกบวชจะได้เป็นนักปราชญ์ ก็จะเป็นผู้เหยียบแผ่นดินสะเทือน
    ๒. ถ้าเป็นนายพราน ก็จะเป็นผู้มีความชำนาญลือลั่นสนั่นป่า
    ๓. ถ้าเป็นโจร ก็จะเป็นประเภทคุกตะรางแตกตื่น ขญัวผวา
    </TD></TR><TR><TD>การศึกษา </TD><TD>มศ.๓</TD></TR><TR><TD style="WIDTH: 100px" width=100>ครูบาอาจารย์ </TD><TD>หลวงปู่วัน อุตตโม (สายธรรมยุต)


    [​IMG]




    ในสมัยที่ นางสงฆ์ ควรชม ตั้งครรภ์บุตรคนแรกนั้น ค่ำคืนหนึ่งก่อนที่จะมีทารกมากำเนิดในครรภ์ นางสงฆ์ได้ฝันไปว่า....


    วันนั้นได้เดินทางเข้าไปในดงขมิ้นและอยากได้ขมิ้น จึงได้ทำการขอขมิ้นจากเจ้าของสวน ซึ่งเจ้าของสวนได้อนุญาตด้วยความเต็มใจ หลังจากนั้นนางสงฆ์ได้ฝันต่อไปว่า นางไปได้ดวงจันทร์มาหนึ่งดวงและได้กลืนกินดวงจันทร์ดวงนั้นหายเข้าไปในร่างกาย....


    จากนั้นครรภ์นางสงฆ์ก็โตขึ้นและใหญ่ตามลำดับ จนถึงกำหนดการคลอดบุตร วันนั้น ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๐ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๑๐ เวลา ๐๙.๐๙ น. ในคราวที่ให้กำเนิดบุตรในครั้งนี้มีสิ่งที่ผิดปกติแก่ผู้ที่ได้พบเห็นทารกที่กำเนิดในครั้งนี้ เมื่อตามร่างกายของทารกน้อยนั้นได้ปรากฏมีสายรกพันอยู่รอบกายเฉวียงขึ้นบ่าพันกายถึง สามรอบ เมื่อคลอดออกมาในวันนั้นปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อได้เกิดลมฝน ฟ้าร้องดังกระหึ่มไปทั่วสารทิศแห่งหมู่บ้านสว่างติดต่อกันนานถึงสามวันสามคืน


    สิ่งประหลาดอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นวันมหามงคลที่ตรงกับวันปิยะมหาราช ทางพ่อแม่จึงได้ตั้งชื่อบุตรชายนี้ว่า ปิยะพงษ์ ควรชม และด้วยเด็กชายที่มาเกิดนี้จะมีแขนข้างซ้ายสั้นกว่าข้างขวา ผิวกายมีสีคล้ำ ญาติจึงตั้งชื่อเล่นให้ว่า “ เด็กชายดำ ”


    ทางผู้เฒ่าผู้แก่ที่พบเห็นลักษณะของเด็กชายน้อยผู้นี้ ต่างเล่าลือในเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่างๆ นานาเพราะเป็นความเชื่อที่ว่า หากแม้ว่ามีเด็กใดที่เกิดมาตามลักษณะดังกล่าวนี้จึงได้พยากรณ์ให้ราบว่า


    “ หากเด็กคนนี้ออกบวชเป็นพระภิกษุ ในพระพุทธศาสนาแล้ว จะเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงสร้างคุณงามความดีในพระศาสนาได้อย่างแน่นอน ” ตามตำราศาสตร์โบราณได้เคยกล่าวไว้เป็นสามแนวทางเกี่ยวกับผู้มีลักษณะการเกิดเช่นนี้ว่า


    ๑ ถ้าออกบวช จะเป็นนักปราชญ์ ก็จะเป็นผู้เหยียบแผ่นดินสะเทือน


    ๒. ถ้าเป็นนายพราน ก็จะเป็นผู้มีความชำนาญลือลั่นสนั่นป่า


    ๓. ถ้าเป็นโจร ก็จะเป็นประเภทคุกตะรางแตกตื่น ผู้คนขวัญผวา


    ชีวิตในวัยเด็กของเด็กชายดำ ดำเนินชีวิตไปตามเฉกเช่นเด็กชนบท ตามท้องไร่บ้านนา โดยทั่วไปและได้เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดบ้านหนองศรีทอง ต.โพธิ์ชัย อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด ในวัยเด็กของเด็กชายดำนับตั้งแต่เด็กนั้นมีนิสัยชอบการทำบุญใส่บาตรเป็นนิสัย เด็กชายดำเติบโตจนมีอายุย่างวัยครบ ๑๑ ปี จึงได้บรรพชาเป็นสามเณรปิยะพงษ์ ควรชม เมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๑ บรรพชาเป็นสามเณร แล้วพระอุปัชฌาย์จารย์ได้นำมาฝากไว้ที่ยัดป่าศรีสุทธาทิพย์ ต.หนองเม็ก อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เพื่อให้ศึกษาเล่าเรียนจนจบนักธรรม สามเณรดำศึกษาเล่าเรียนจนจบชั้น ม.ศ. ๓ แล้ว ครูบาอาจารย์ท่านจึงได้นำไปฝากไว้ที่วัดถ้ำผาปู่ เพื่อให้ได้ศึกษาภาวนากับท่านหลวงปู่คำดี ปภาโส ศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต สามเณรดำ ศึกษาเล่าเรียนอยู่กับท่านหลวงปู่คำดี ปภาโส จนครบหนึ่งปี เพื่อศึกษาด้านจิตตภาวนา โดยเมื่อสามเณรดำได้เล่าเรียนด้านการเจริญจิตตภาวนาแล้ว รู้สึกถูกจริตกับทางด้านการเจริญจิตตภาวนา และไม่อยากไปเรียนต่อในทางด้านพระปริยัติธรรม สามเณรดำเรียนหลวงปู่คำดี ท่านก็อนุญาตให้ไปศึกษาธรรมกับหลวงปู่จันทร์ กมโล ได้ สามเณรดำจึงเดินทางมาขออยู่ในอาวาสของท่านหลวงปู่จันทร์ กมโล ที่มีศักดิ์เป็นญาติทางสายโลหิต ศึกษาเรียนรู้ข้อวัตรปฏิปทากับท่านหลวงปู่จันทร์ กมโล


    จนเป็นเวลาพอสมควรท่าน หลวงปู่จันทร์ได้นำสามเณรดำไปอยู่ปฏิบัติกับท่านหลวงปู่วัน อุตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม อ.ส่องดาว จ.สกลนคร เพื่อหมายมุ่งให้ได้รับใช้อุปฐากหลวงปู่วัน อุตโม และเข้ารับการศึกษาอบรมธรรมกรรมฐานตามที่ท่านหลวงปู่วัน อุโม จะเห็นสมควร สามเณรดำขณะนั้นมียุเข้าวัยรุ่น ร่างกายกำลังเติบโตเป็นหนุ่ม ขณะนั้นมีพระพี่เลี้ยงคือ พระสุวิทย์ (ปัจจุบันเป็นปลัดจังหวัด)

    กราบมหาอนุโมทนาที่มาข้อมูล : http://rattanaphonchai.tht.in/pawat.html


    [​IMG]



    ไฟล์เสียงปรารภธรรม (.mp3) องค์หลวงพ่อดำ เกี่ยวกับคำเตือนภัย สื่อให้ทุกๆ ท่านอยู่ในศีล ในธรรม เร่งเพียร เจริญขึ้นธรรมนาวา (สงบเย็น) รักษาตัวตน ครอบครัว ส่งผลพยุงผ่อนเบาวิกฤตยามนี้ด้วยกันได้
    เชิญโหลดศึกษา และปฏิบติตาม เจริญสุขค่ะ




    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2011
  13. artmaster

    artmaster Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2011
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +52
    ผมขอขอบคุณเว็บไซต์พลังจิตเป็นอย่างมากและทุกท่านที่โพสต์เตือนและให้เตรียมการต่างๆ เอาไว้มีเวลาผมจะเล่าประสบการณ์ให้พิจารณากันครับ
     
  14. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    องค์หลวงพ่อดำ ปรารภธรรมเตือนภัย เมื่อปีขาล (พ.ศ. ๒๕๕๓)

    [​IMG]



    "ทุกอย่างมาเป็นคู่ ผลสุดท้ายก็เดียวดาย "


    พูดถึงเรื่องการมีชีวิตคู่สามีภรรยานั้น บุคคลที่เกิดมาแล้วได้พบและอยู่กินเป็นสามีภรรยากันนั้นจะต้องทำบุญร่วมกันมารวม 4 อสงไขย แค่เห็นหน้าแตยังไม่ถามชื่อต้องทำบุญร่วมกันมาแล้ว 1 อสงไขย (รงค์ถาม 1 อสงไขเท่ากับเท่าไหรครับหลวงพ่อ) 1 อสงไขยเท่ากับ กว้าง 400 ยาว 400 ลึก 400 ใน 1 อสงไขย ก็จะมีเทวดานำเมล็ดงามาย่อนวันละเม็ดจนกว่าจะเต็มจึงจะได้ 1 อสงไขย นี้แหละคือการเวียนตายเวียนเกิด

    ทุกคนนั้นมีหน้าที่ๆต่างกัน เราจงทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด แล้วความดีนั้นจะตอบสนองเราเองเราอย่าไปไขว่คว้าในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ถามว่าทุกคนที่มีหน้าที่ๆต้องทำแล้วมันจะสมบูรณ์หรือไม่สมบูรณ์นั้น มันขึ้นอยู่กับจิติญญาณเดิมของเรา

    และเราจะสามารถดึงเอาจิตวิญญาณเดิมของเราออกมาให้ได้มากน้อยเพียงใด ถ้าสมมุติว่าดึกออกมาได้มากสิ่งที่เราทำนั้นมันก็จะสมบูรณ์ได้ ถ้าเราหลงทางเดินแล้วมันจะไม่ได้อะไรเลย เราพยายามอย่าหลงทางเดินๆให้มันถูก


    " ถ้าผิดมันก็ผิดหมด ถ้าถูกมันก็ถูกหมด "
    ทำไมพูดอย่างนั้นเพราะความผิดพลาด คือครูสอนคน ความผิดนั้นแหละคือครูอาจารย์คุณ ถามว่าทุกคนเคยผิดไหม ?(ผิดทุกคน) ทุกคนเคยถูกไหม ? (ถูกทุกคน) พราะทุกคนลองผิดลองถูก ถ้าไม่ลองถูกจะไม่รู้ว่าถูก ถ้าไม่ลองผิดจะไมรู้ว่าผิด


    สวรรค์มีให้คนดีขึ้นแต่คนดีไม่ขึ้นผู้ปารถนาต้องขึ้นเอง
    นรกมีให้คนชั่วลงก็ไม่มีใครลงผู้ปารถนาต้องลงเอง


    " ถ้าหลวงพ่อไม่ลงนรกไม่ขึ้นสวรรค์แล้ว
    จะได้อะไรมาสอนคน "

    [​IMG]


    ถามว่าทุกคนอยากเป็นคนดีไหม ? "อยากเป็นทุกคน" แต่บุพกรรมละ มันมาไม่เท่ากันเราดูที่นิ้วมือสินั้นแหละบาปกับบุญแล้วแต่ใครจะทำมากหรือน้อยและบารมี ยกตัวอย่างเช่น สวด

    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ

    ถามว่าเปิ้ลก็สวดได้ ศักดิ์ก็สวดได้ พระโยก็สวดได้ รงค์ก็สวดได้ แต่ทำไมไม่ขลังหลวงพ่อนั่งอธิฐานจิตเฉยๆทำไมมันถึงขลัง ลองให้โยมสวดจนเช้ามันก็ไม่ขลังหรอกเพราะบุญเก่าของท่านมันยังไม่เปิด และบุญใหม่ท่านก็ยังไม่เต็ม ให้ท่านดูนิ้วมือก็พอมันไม่เท่ากันเลยใช่ไหมละ (เปิ้ลถามว่าถ้างั้นเราก็มาเริ่มสร้างบุญใหม่ในชาตินี้ให้มากๆเผื่อจะได้เหลือไว้ไปใช้ในภายภาคหน้าใช่ไหมครับหลวงพ่อ) ใช่ (หลวงพ่อดำตอบ)


    สิ่งไหนถ้าเราตั้งใจจะไม่ใช่เรื่องยากเลย ไม่มีอะไรลำถามว่าหลวงพ่อเคยลำบากไหม " ลำบากทุกเรื่อง " พระท่านอื่นทำงานกายพอได้พักตื่นเช้ามาก็หายเหนื่อยสดชื่น แต่หลวงพ่อไม่รู้พักเวลาไหน รับญาติธรรมตั้งแต่ตีห้ายันค่ำ จะเอาเวลาไหนพัก พรุ่งนี้ก็ต้องนั่งสวดทั้งวันอีก บางทีก็ถามตัวเองอยู่ว่าเราทำไปเพื่ออะไร บางครั้งก็ถอดใจ มันเหนื่อยมากๆ เราทำไปเพื่ออะไรทีนี้เทวดาท่านก็ลงมาบอกว่า " พระองค์ท่าน ในเมื่อพระองค์ท่านปรารถนาในพุทธภูมิ ท่านท้อแท้แล้ว โลกนี้จะอยู่ได้อย่างไร " ....นั้นแหละเป็นยาวิเศษที่ทำให้หลวงพ่อลุกขึ้นสู้ต่อไปอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย


    กราบมหาอนุโมทนาที่มาข้อมูล : http://rattanaphonchai.tht.in/Tamma1.html




    [​IMG]



    ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น



    อาตาปี สมฺปชาโน สติเป็นวลีที่กล่าวถึง “ตบะ” “ความเพียร” ที่มีสติสัมปชัญญะ เฝ้าเพียรเผากิเลส ด้วยปัญญาภาวนามัย

    อาตาปี สมฺปชาโน สติมา ข้อความนี้ปรากฎอยู่ในพระไตรปิฏกหลายที่ ส่วนที่นิยมอ้างนั้น มาจาก มหาสติปัฏฐานสูตร
    ผู้สนใจจะอ่าน คลิกที่นี้ โดยพระสูตรนี้ ท่านแปลข้อความนี้สั้นๆ ดังนี้<O></O>
    • อาตาปี = มีความเพียร<O></O>
    • สมฺปชาโน = มีสัมปชัญญะ<O></O>
    • สติมา = มีสติ <O></O>
    • อาตาปี สมฺปชาโน สติมา = มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ<O></O>
    <O></O>

    คำว่า อาตาปี (มีความเพียร) นั้น เป็นคำแสดงการประกอบความเพียรของผู้กำหนดกาย (เป็นอารมณ์). ก็เพราะเหตุที่ภิกษุนั้น ประกอบความเพียรที่ท่านให้ชื่อว่า อาตาปะ เพราะเป็นเครื่องเผาผลาญกิเลสทั้งหลายในภพทั้ง ๓ ในสมัยนั้น ฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า อาตาปี.<O></O>

    <O></O>
    คำว่า สมฺปชาโน (มีสัมปชัญญะ) คือผู้ประกอบด้วยญาณ กล่าว คือ สัมปชัญญะ อันกำหนดเอาซึ่งกาย (เป็นอารมณ์).<O></O>

    คำว่า สติมา (มีสติ) คือผู้ประกอบด้วยสติอันกำหนดกาย. ก็เพราะเหตุที่ภิกษุนี้กำหนดอารมณ์ด้วยสติ แล้วก็ตามเห็นอยู่ด้วยปัญญา. จริงอยู่ขึ้นชื่อว่า การตามเห็นของภิกษุเว้นจากสติ ก็ไม่มี. ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัสว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวสติแล ว่าเป็นธรรม มีประโยชน์ในที่ทั้งปวง <O></O>


    ทั้งนี้ พึงทราบว่า เพราะความหดหู่ภายในเป็นธรรม ทำอันตรายแก่ภิกษุ ผู้ไม่มีอาตาปีผู้ไม่มีสัมปชัญญะ ย่อมหลงใหลในการกำหนด ธรรมอันเป็นอุบาย และในการเว้นจาก สิ่งที่มิใช่อุบาย...<O>

    ผู้มีสติหลงลืม ก็ย่อมเป็นผู้ไม่สามารถในการไม่สละอุบาย และในการกำหนดสิ่งที่มิใช่อุบาย. <O></O>

    เพราะฉะนั้น กรรมฐานของเขาจึงไม่รุ่งเรือง ด้วยเหตุนั้นกรรมฐานนั้นย่อมรุ่งเรือง ด้วยอานุภาพแห่งธรรมเหล่าใด เพื่อการแสดงธรรมเหล่านั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสคำนี้ว่า อาตาปี สมฺปชาโน สติมา ดังนี้.
    <O></O>






    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1756574/[/MUSIC]​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2011
  15. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    มงคลที่ ๑๑ - ๑๒ การเลี้ยงดูมารดา บิดา





    [​IMG]





    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]ขยายความมงคลข้อที่ ๑๑[/FONT][FONT=4711_AtNoon_Traditional] การบำรุงมารดาเป็นอุดมมงคล และ ๑๒ การบำรุงบิดา เป็นอุดมมงคล ในอรรถกถาท่านแยกการบำรุงมารดาออกจากการบำรุงบิดา เพื่อให้ครบมงคล ๓๘ แต่ตามความเป็นจริงแล้ว บุตรพึงบำรุงมารดาบิดาให้เป็นสุขเท่าเทียมกัน เพราะมารดาบิดาเป็นผู้ให้ชีวิตแก่บุตร ให้บุตรได้มีโอกาสเกิดมาดูโลกนี้ ถ้าปราศจากมารดาบิดาแล้ว บุตรจะมีโอกาสเกิดขึ้นมาดูโลกนี้ได้อย่างไร เพียงเท่านี้ก็นับว่าท่านทั้งสองมีบุญคุณแก่ลูกอย่างล้นเหลือแล้ว ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงการให้การอุ้มชู อุปการะ เลี้ยงดู ป้อนนม ป้อนข้าว ป้อนน้ำ มาตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ อบรมสั่งสอนให้เป็นคนดี ให้มีการศึกษา มีการงานเป็นหลักฐาน ช่วยตนเองได้ บางครั้งก็ยังหาสามีและภรรยาที่เหมาะสมให้ด้วย เพียงเท่านี้ก็นับเป็นพระคุณล้นฟ้า ยากที่ลูกจะตอบแทนคุณได้หมด ยิ่งกว่านั้นบางท่านยังต้องเลี้ยงดูหลานๆ อันเป็นลูกของลูกชายลูกหญิงของท่านอีกด้วย<o></o>[/FONT]
    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]<o></o>[/FONT]

    [FONT=4711_AtNoon_Traditional][​IMG][/FONT]
    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]<o>
    </o>
    [/FONT]​

    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]พระพุทธองค์ตรัสว่า การที่บุตรจะตอบแทนบุญคุณของมารดาบิดา นั้นไม่ใช่ง่าย คือ ยากที่จะตอบแทนให้หมดสิ้นได้ [/FONT][FONT=4711_AtNoon_Traditional]หากว่าจะประคองมารดาไว้บนบ่าข้างหนึ่ง[/FONT][FONT=4711_AtNoon_Traditional] ประคองบิดาไว้บนบ่าอีกข้างหนึ่ง ตลอดเวลา ๑๐๐ ปีที่ลูกมีชีวิตอยู่ ปรนนิบัติท่านด้วยความรัก ความเอาใจใส่ ยอมให้มารดาบิดาถ่ายอุจจาระปัสสาวะบนบ่าทั้งสองของเขานั่นแหละ ถึงกระนั้นก็ยังไม่ชื่อว่าอันบุตรทำแล้วหรือทำตอบแทนแล้วแก่มารดาบิดาเลย[/FONT][FONT=4711_AtNoon_Traditional] ........ หรือแม้บุตรจะสถาปนาแต่งตั้งมารดาบิดาไว้ในตำแหน่งพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นใหญ่ในแผ่นดิน บุตรก็ยังไม่ได้ชื่อว่าทำตอบแทนแล้วแก่มารดาบิดาเลย เพราะมารดาบิดามีอุปการะมากแก่บุตร [/FONT][FONT=4711_AtNoon_Traditional]แต่ถ้าบุตรคนใดได้กระทำมารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธา[/FONT][FONT=4711_AtNoon_Traditional] ให้มีศรัทธา ไม่มีศีล ให้มีศีล ไม่มีจาคะ ให้มีจาคะ ไม่มีปัญญา ให้มีปัญญา การกระทำอย่างนี้เท่านั้นจึงจะได้ชื่อว่า บุตรได้ทำตอบแทนมารดาบิดาแล้วอย่างแท้จริง[/FONT]


    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]<o></o>[/FONT]
    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]>[​IMG][/FONT]




    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]พระพุทธเจ้าตรัสว่า มารดาบิดาเป็นพรหมของบุตร เพราะประกอบไปด้วยคุณธรรมของพรหม คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา[/FONT]

    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]มารดาบิดาเป็นบุรพเทพ คือเป็นเทวดาก่อนกว่าเทวดาทั้งปวง ก็เทวดาหรือเทพนั้นมี ๓ พวกคือ <o></o>[/FONT]
    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]สมมติเทพ[/FONT][FONT=4711_AtNoon_Traditional] เทวดาโดยสมมติ ได้แก่พระราชา พระราชินี พระราชโอรส และพระราชธิดา ๑ <o></o>[/FONT]
    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]อุปปัตติเทพ[/FONT][FONT=4711_AtNoon_Traditional] เทวดาโดยอุบัติ คือเกิดป็นเทวดาโดยกำเนิดในเทวโลก ๖ ชั้นมีจาตุมหาราชิกา เป็นต้น กับพรหมโลกอีก ๒๐ ชั้นรวมเป็น ๒๖ ชั้นที่จัดเป็นเทวดาโดยกำเนิด ๑ <o></o>[/FONT]
    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]วิสุทธิเทพ[/FONT][FONT=4711_AtNoon_Traditional] เทวดาผู้บริสุทธิ์หมดจดจากอาสวะกิเลสทั้งปวงซึ่งได้แก่พระอรหันตขีณาสพพวกเดียวอีก ๑[/FONT]
    <o>
    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]วิสุทธิเทพ คือพระอรหันต์นั้นประเสริฐกว่าเทวดาทั้งปวง เพราะปฏิบัติตนเพื่อประโยชน์สุขแก่ชนทั้งปวง เป็นผู้ประกอบด้วยพรหมวิหาร ๔ ควรแก่การเคารพสักการะบูชา มารดาบิดาก็เช่นกัน เป็นเทวดาประจำบ้าน ที่บุตรควรให้ความเคารพสักการะก่อนผู้อื่น ด้วยเหตุนั้นมารดาบิดาจึงชื่อว่าบุรพเทพหรือบุรพเทวดา คือเป็นเทวดาก่อนกว่าเทวดาทั้งปวง บุตรรู้จักเทพอย่างอื่นได้ ก็เพราะรู้จักบุรพเทพ คือมารดาบิดาก่อนนั่นเอง เทวดาประเภทอื่นจึงชื่อว่า มาทีหลังมารดาบิดา<o></o>[/FONT]
    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]<o></o>[/FONT]

    [FONT=4711_AtNoon_Traditional][​IMG][/FONT]


    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]มารดาบิดาชื่อว่าบุรพาจารย์ เพราะเป็นครู เป็นอาจารย์ก่อนกว่าครูอาจารย์ทั้งปวง เริ่มแต่ลูกยังเล็กก็สอนให้รู้จัก พ่อแม่ พี่ ป้า น้า อา สิ่งโน้นสิ่งนี้ ชื่อโน้นชื่อนี้ คนโน้นคนนี้ ตลอดจนแนะนำสั่งสอนในสิ่งที่ควรรู้ ควรทำและไม่ควรทำ นานาประการ เพราะฉะนั้นมารดาบิดา จึงชื่อว่าบุรพาจารย์ อาจารย์คนแรกของลูก[/FONT]
    <o>
    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]มารดาบิดาชื่อว่าอาหุเนยยบุคคล คือบุคคลผู้ควรรับของที่บุตรนำมาให้ แม้จากที่ไกล มีข้าว น้ำ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น ทั้งนี้เพราะมารดาบิดาเป็นผู้มีอุปการคุณแก่บุตร มีการให้อาหาร เป็นต้น เป็นผู้มุ่งประโยชน์แก่บุตรเทียบเท่ากับพระอรหันต์ทั้งหลาย กล่าวคือพระอรหันต์ท่านเป็นผู้ควรแก่ของที่เขานำมาบูชา เคารพสักการะ ฉันใด มารดาบิดาก็เป็นผู้ควรแก่ของที่บุตรนำมาบูชา มาเคารพสักการะ ฉันนั้น มารดาบิดาจึงเป็นพระอรหันต์ประจำบ้านที่บุตรควรให้การอุปการะเลี้ยงดูด้วยข้าวน้ำ เป็นต้น ด้วยเหตุนั้นมารดาบิดาจึงชื่อว่าอาหุเนยยบุคคล บุคคลผู้ควรแก่ของที่เขาคือบุตรนำมาบูชา[/FONT]
    <o>
    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]นอกจากนั้นพระพุทธเจ้ายังตรัสว่า มารดาเป็นมิตรในเรือนตน ซึ่งรวมทั้งบิดาด้วย เพราะมารดาบิดาเป็นคู่คิดของบุตร เป็นที่ปรึกษาของบุตร เป็นที่บำบัดทุกข์ของบุตร ขอเพียงให้บุตรได้ไว้ใจท่านปรึกษาหารือท่านเท่านั้น[/FONT]
    <o>
    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]มารดาบิดาพร้อมอยู่เสมอที่จะช่วยลูกทั้งในด้านความคิดและโภคทรัพย์ หากเกินกำลังของท่าน ท่านก็เสาะหาผู้ที่มีกำลังกว่าให้ช่วยแทน ท่านไม่เคยทอดทิ้งลูกแม้ในยามยาก ท่านจึงเป็นมิตรแท้ของลูกยิ่งกว่ามิตรคนใด มารดาบิดาจึงเป็นผู้มีอุปการะมาก หาผู้เสมอเหมือนมิได้ เป็นผู้สมควรที่ลูกๆ จะได้อุปการะตอบแทนคุณท่านจนถึงที่สุด โดยเฉพาะในเวลาแก่เฒ่า ดูแลเอาใจใส่รักษาพยาบาลท่านในยามเจ็บไข้ แม้ท่านล่วงลับไปแล้ว ก็ยังเพิ่มบุญให้ด้วยการทำบุญอุทิศให้ท่านได้ชื่นชมอนุโมทนา<o></o>[/FONT]
    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]<o></o>[/FONT]

    [FONT=4711_AtNoon_Traditional][​IMG][/FONT]
    <o>
    </o>​

    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]การเลี้ยงดูมารดาบิดา ตลอดจนตอบแทนคุณท่านโดยประการอื่น มีการช่วยทำกิจการงานแทนท่าน ช่วยรักษาวงศ์ตระกูลไว้ให้ดี ประพฤติตนให้สมควรที่จะรับทรัพย์มรดกต่อจากท่าน ตลอดจนทำบุญอุทิศไปให้ท่านเมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว เหล่านี้ล้วนเป็นหน้าที่ของบุตรที่ดีจะพึงกระทำต่อมารดาบิดา บุตรคนใดทำได้อย่างนี้ บุตรคนนั้นชื่อว่าได้ตอบแทนคุณมารดาบิดาที่ท่านให้ชีวิตมา จัดเป็นกตัญญูกตเวทีบุคคล ผู้หาได้ยากในโลก และเป็นผู้ที่บัณฑิตทั้งหลายมีพระพุทธเจ้าเป็นต้นสรรเสริญ แม้ละโลกนี้ไปแล้ว ก็ย่อมบันเทิงในสวรรค์[/FONT]
    <o>
    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]ลูกที่ดูแลเลี้ยงดูมารดาบิดาด้วยความรักความเมตตา กตัญญูกตเวที ย่อมได้รับผลที่น่าพอใจทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ฉันใด ลูกที่ประพฤติผิดในมารดาบิดา ก็ย่อมได้รับผลที่ตรงกันข้าม ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ฉันนั้น คือเป็นผู้ถูกนินทาในโลกนี้ เป็นผู้เกิดในอบายในโลกหน้า ยิ่งทำผิดร้ายแรงถึงกับฆ่ามารดาบิดา ยิ่งโทษหนักมาก เทียบเท่ากับฆ่าพระอรหันต์ทีเดียว เพราะการฆ่าพระอรหันต์เป็นอนันตริยกรรม ให้ผลนำเกิดในอเวจีนรกทันทีที่ตายลง ฉันใด การฆ่ามารดาบิดาก็จัดเป็นอนันตริยกรรม ที่ให้ผลนำเกิดในอเวจีนรกทันทีที่ตายลง ฉันนั้น ไม่มีกรรมอื่นจะสามารถแซงให้ผลก่อนได้ แม้จะสำนึกผิดและทำกุศลมหาศาลเพื่อทดแทนความผิดนั้น ก็ไม่อาจปิดกั้นอนันตริยกรรมที่จะให้ผลก่อนได้[/FONT]

    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]<o></o>[/FONT]
    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]<o>[​IMG]</o>[/FONT]


    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]การเลี้ยงดูมารดาบิดา เป็นคุณธรรมข้อหนึ่งใน ๗ ข้อที่ทำให้เกิดเป็นพระอินทร์เป็นใหญ่กว่าเทวดาทั้งปวงในภพดาวดึงส์ เป็นพระราชาของเทวดาในภพนั้น เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า การบำรุงเลี้ยงดูมารดาบิดาเป็นอุดมมงคล เป็นเหตุให้เกิดความเจริญ ลองสังเกตดูเถิดลูกคนใดที่กตัญญู รู้คุณมารดาบิดา ลูกคนนั้นย่อมมีความสุขความเจริญไม่ตกต่ำจนตลอดชีวิต[/FONT]
    <o>
    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]พระพุทธเจ้าตรัสว่า ธรรมะ ๔ ประการคือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ย่อมเจริญแก่ผู้มีปกติกราบไหว้ อ่อนน้อมต่อผู้เจริญ คือ ผู้ใหญ่เป็นนิตย์ ผู้ที่กระทำการกราบไหว้ อ่อนน้อมต่อมารดาบิดาเป็นนิตย์ก็ย่อมได้รับพร ๔ ประการนี้เช่นกัน[/FONT]
    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]<o></o>[/FONT]

    [FONT=4711_AtNoon_Traditional][​IMG][/FONT]

    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]<o>
    </o>
    [/FONT]​

    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]คนที่ทำความดีมีการเลี้ยงดูมารดาบิดาเป็นต้นนั้น อย่าว่าแต่คนด้วยกันจะยกย่องสรรเสริญ ชื่นชมอนุโมทนาเลย แม้เทวดาทั้งหลาย เมื่อทราบก็ยกย่องสรรเสริญ และชื่นชมอนุโมทนาเช่นกัน<o></o>[/FONT]
    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]<o></o>[/FONT]
    [FONT=4711_AtNoon_Traditional]อนุโมทนาที่มาข้อมูล (มงคล ๓๘) : http://84000.org/tipitaka/book/bookpn06.html<o></o>[/FONT]</o></o></o></o></o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2011
  16. อาภากรณ์

    อาภากรณ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +14
    เรื่องแบบนี้ ฟังหู ไว้หู ใชัปัญญาพิจารณา

    ไม่ใช่ฟังอะไรมา เชื่อไปหมด นะ ชาวพลังจิตทั้งหลาย
     
  17. thanan

    thanan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,668
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +5,215
    ขอทุกท่าน อย่าประมาทในชีวิตครับ

    ไม่มีใครรู้วันตาย นอกจากพระอริยเจ้า

    พวกเราส่วนใหญ่ก็ยังเป็นปุถุชนอยู่ ถ้าชีวิตพวกเราจะเกิดอะไรขึ้น ก็ขอให้ยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไว้นะครับ
     
  18. 77WILL77

    77WILL77 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +1,675
    อยากได้คลิปเสียงของหลวงปู่ดำ ที่โพสต์ในนี้ทุกคลิปค่ะ พอจะมีโอกาสไหมคะ พอดีอยากนำไปให้คุณยายและญาติที่ต่างจังหวัดฟังค่ะ
     
  19. ศรศิลป์

    ศรศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,232
    ค่าพลัง:
    +3,200
    ญาติผมมันบอกว่าคนเตือนภัยพิบัติบอกไปไม่ได้ประโยชน์ ไม่เห็นบอกวิธีแก้ไขเลย ฟังมันแล้วเอวัง ข่าวสารไม่หาอ่านพอคนอื่นบอกทำมาปากเก่งรู้ดีอีก
     
  20. Ton_PB

    Ton_PB เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    4,463
    ค่าพลัง:
    +2,005
    ขออนุญาต save นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...