@สื่อกลางกระทู้ถาม-ตอบพระเครื่อง เหรียญ-ดิน-ชิน-ผง@

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย stoes, 8 ตุลาคม 2011.

  1. stoes

    stoes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,343
    ค่าพลัง:
    +9,050
    ยืนตอองค์นี้ ทำมาครับ พระกรุเก่า รารักดำจะขึ้นจากเนื้อ
    แต่จะไม่ขึ้นเหนือคราบกรุ ที่เป็นแผ่นเห้นชัดเจน เช่นในซอกแขน
    เนื้อและพิมพ์ยังไม่ชอบครับ แต่ก่อนบอกว่าเนื้อใช่แต่พิมพ์ไม่ใช่
    เนื้อก็คงอยู่ในโซนกรุกำแพงเพชร
     
  2. stoes

    stoes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,343
    ค่าพลัง:
    +9,050
    เว็บหลายเว็บลง ประวัติพระกำแพงเพชร ถ่ายรูปมา ปลอมทุกองค์ พิมพ์ที่ลงและเนื้อไม่ใช่ทั้งสิ้น ไม่ทราบว่าจะบอกอย่างไร

    อ่าน เอกสารอ้างอิง ....จากอาจารย์ เชียร ธีรศานต์ ดีกว่า

    รวบรวมจากบทความของ เชียร ธีรศานต์
    เนื้อพระกำแพงเปรียบเทียบได้แก่เนื้อทองคำ พระกำแพงสวยๆราคาแพงมาก สวยปานกลางแพงน้อยหน่อย ไม่สวยก็ยังแพงอยู่ดี พระกำแพงจึงได้ชื่อว่า กำ-แพง ไม่ว่าพระจะอยู่ในสภาพใด ราคาจะสูงกว่าจังหวัดอื่นในสภาพเดียวกันเสมอเพราะอะไร
    1.การสร้างพระเนื้อดิน วัสดุที่ผสมส่วนใหญ่คือดิน ดินของแต่ละแห่งก็ใช่ว่าจะเหมือนกัน แร่ธาตุที่อยู่ในดินเมื่อเผาแล้วจะเกิดเนื้อพระสวยงามแตกต่างกัน เนื้อดินกำแพงเพชรได้เปรียบหรือเผาแล้วมีสีสันสวยงามน่าใช้วงการนิยมว่าดูง่ายแยกง่าย
    2.การผสมเนื้อพระ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือพืชว่าน การผสมพืชว่านมากหรือน้อยอาจจะเกิดจากสัดส่วนที่โบราณาจารย์ได้กำหนดไว้หรือขึ้นอยู่กับการหาพืชว่านยากหรือง่าย การผสมว่านเข้ากับดินทำให้เกิดสภาพเนื้อแตกต่างกับการเผาดินธรรมดา เนื้อพระกำแพงจึงนุ่มตามากกว่าเนื้อพระแห่งอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การเผาเนื้อพระบางแห่งอาจจะมีสูตรผสมใกล้เคียง หรือเอาตำราไปเรียนแบบความแตกต่างอาจจะน้อย ถึงอย่างไรก็ดีถ้าได้ติดตามพระกำแพงบ่อยๆ เนื้อดินของแต่ละแห่งอาจจะใช้เป็นข้อแยกพระแต่ละจังหวัดได้
    3.การเผา เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเนื้อที่แตกต่างกัน เนื้อพระกำแพงใช้ความร้อนปานกลางและอ่อน จะเห็นได้ว่าเนื้อในของพระกำแพงอยู่ในลักษณะของเนื้อละเอียดอัดแน่นเข้าตำราว่าเนื้อผงจะหาเนื้อละลายยาก มีพระเพียงไม่กี่แบบทีใช้ไฟแรงจนเนื้อละลาย การเผาไฟอ่อนเกินไปทำให้เนื้อที่ยึดไม่แน่นเมื่อนำออกจากกรุ จะต้องระวังให้มาก บางองค์จะเห็นรอยระแหงเหี่ยวย่น คล้ายเอาเนื้อดินปนว่านดิบๆทำแล้วตาก ระหว่างเนื้อผิวแห้งหดตัวเนื้อในยังแห้งไม่ทันน้ำในเนื้อจะดันผิวที่แห้งก่อนจนกลายเป็นรอยระแหง รอยระแหงนี้จะพบในเนื้อพระสีดำบ่อยๆ
    4.ความโทรมของเนื้อพระกำแพง โดยเฉพาะเนื้อชั้นหนึ่งของทุ่งเศรษฐี ซึ่งเผาไฟปานกลางและไฟอ่อน เนื้อพระจะโทรมมากเพราะเนื้อรอบกรุและดินละลายแทรกซึมเข้าเนื้อดินละลายเข้าแทรกในเนื้อจะทำให้เกิดความเก่าทะลุเนื้อไม่ใช่เกาะเคลือบอยู่เฉยๆแม้จะพยายามล้างสักเท่าไรก็ตาม ดินที่เข้าแทรกปนอยู่ในเนื้อจะปรากฏอยู่เสมอ สำหรับเนื้อพระสีดำเมื่อดินแทรกในเนื้อ เนื้อจะกลายเป็นสีกะลาหรือเขาควาย ไม่ดำสนิท ส่วนองค์ที่ดินขี้กรุค่อนขางแดงแทรกเข้าเนื้อดำจะทำให้เกิดสีเขียวค้ำแบบยาเขียว ไม่ใช่เขียวหินปูนหรือหินครก พระสีเขียวสีหินทำครกจะต้องเป็นพระเผาไฟแรงร้อนจัดเช่นพระเม็ดขนุนเป็นต้น
    5.เนื่องจากพระกำแพงไม่แกร่งมาก น้ำและดินสามารถแทรกเข้าได้เวลาที่ฝังดินอยู่นาน เนื้อพระกับดินจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ตอนออกจากกรุต้องระวังให้มาก การล้างแรงๆจะทำให้ผิวของพระติดดินออกมาด้วย แต่การทีจะปล่อยให้ขี้กรุพอกหนาก็มองผิวพระไม่เห็นวงการไม่นิยม เพราะเกรงว่าพระจะชำรุดซ่อมเอาไว้ พระเนื้อเหลืองนวลหรือเหลืองปนแดง เนื้อพระจะแกร่งหน่อย เมื่อตอนออกจากกรุใหม่ๆไม่ควรจะล้างน้ำทันที เพราะจะทำให้ผิวพระอ่อนจะกลายเป็นดินตามสภาพเดิมหลุดออกได้ง่ายทิ้งไว้ให้แห้ง เนื้อดินเผาจะแข็งกว่าดินดิบตามธรรมซาติ ในตอนนั้นเราจะสามารถค่อยๆเอาดินดิบที่ไม่ฝังเนื้อแยกออกจากผิวพระได้ จะเรียบร้อยแค่ไหนก็แล้วแต่ฝีมือ
    6.สภาพของผิว ถ้าเป็นพระเนื้อเหลืองนวลหรือนวลแดง เมื่อล้างดินดิบออกเหลือแต่ดินฝังเนื้อแล้ว ผิวส่วนมากจะย่นแบบหนังไก่ ผิวพระที่ดินดิบออกหมดแล้วเหลือแต่ดินฝังเนื้อ จะเห็นเนื้อพระมีมวลสารสีต่างๆทั้งนี้เนื่องจากเนื้อพระมีแร่ผสมตามธรรมซาติประการหนึ่ง เนื้อที่เอาพืชว่านผสมอีกประการหนึ่ง การเผาซึ่งแร่บางอย่างเปลี่ยนสภาพเปลี่ยนสีไปเพราะความร้อนบันดาลให้เป็นเอกลักษณ์ในแบบต่างๆกัน ให้สีต่างกันไปสีดินซึ่งปกติเป็นสีเทาแบบดินเหนียว ก็กลายเป็นสีดำสีนวล สีนวลปนเหลือง สีนวลปนแดง สีเขียวหม่นฯลฯ สุดท้ายแต่ว่าพระองค์ไดได้รับความร้อนมากและน้อยในระหว่างเผาหรือเอกลักษณ์ของเนื้อตามส่วนผสม
    ท่านที่เคยอ่านหนังสือว่าเนื้อทุ่งต้องละเอียด นั้นต้องเข้าใจคำว่าละเอียด ให้ดีสมัยก่อนนักเล่นพระดูพระด้วยตาธรรมดา จะเห็นผิวพระกำแพงหนึกนุ่ม จึงเขียนไว้ว่าผิวพระกำแพงต้องละเอียดหนึกนุ่ม ผิวแก่ว่าน สมัยนี้นักเล่นพระใช้กล้องขยาย 10 เท่าขยายดู จะเห็นมวลสารหรือวัสดุผสมซึ่งวงการเรียกว่าเนื้อแก่ว่าน ลักษณะผิวย่นคล้ายหนังไก่ เนื้อนี้ถ้าไม่พิจารณาให้ลึกซึ้งจะตีความว่าเป็นเนื้อหยาบ
    พระบางองค์อาจจะมีกรวดปนอยู่ด้วย การศึกษาเนื้อแท้จึงเป็นบทเรียนที่ดี ดีกว่าการอ่านหนังสือแล้วผ่านเป็นไหนๆโปรดละวังเนื้อละเอียดยิบ ผิวเรียบเป็นมันปลาบ เนื้อจานเสียงเขาก็ว่ามีบทบาทมาเป็นเนื้อกำแพงกันแล้ว และมีวิธีอื่นๆที่ข้าพเจ้าไม่ได้เรียนรู้ เพราะเจ้าของปกปิดจึงไม่สามารถเล่าแจ้งแถลงไขถึงวิธีปลอมแปลงพระให้ทราบได้
    เท่าที่เรียนมายืดยาวนี้เพื่อจะแจ้งให้ทราบว่าพระกำแพง แพงเพราะเนื้อพระมีค่าสูง เปรียบเสมือนทองคำธรรมซาติ จะเป็นรูปก้อนหรือรูปพรรณก็มีค่าทั้งสิ้น การที่ท่านกล่าวว่า พระกำแพงองค์นั้นองค์นี้ไม่สวยสักหน่อยราคาทำไมสูงนัก ก็ขอให้เข้าใจว่า ค่าของพระองค์นั้นๆจะสูงที่เนื้อพระก็เป็นได้

    7.กรุตาพุ่มที่ขุดได้ครั้งสุดท้ายนี้อยู่ลึกมาก ฝังดินมานานกว่าพระทีออกก่อนเนื้อพระจึงโทรมมากกว่า ราดำเกาะมากกว่าหนากว่า รอให้แห้งแล้วเอาสำลีแตะเบาๆมองดูด้วยตาเปล่าท่านจะเห็นว่า ผิวหนึกนุ่มแบบแก่ว่าน ถือเป็นเนื้อครูได้เป็นอย่างดีถึงอย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะแพงสักหน่อย เราก็สามารถมั่นใจได้ว่า พระเนื้อนี้ผิวเป็นอย่างนี้ออกจากกรุตาพุ่มแน่ และเป็นเนื้อมาตรฐานของทุ่งเศรษฐีเนื้อพิเศษชั้นหนึ่ง ศึกษาให้ดีหนีการต้มตุ๋นได้
    ส่วนพุทธคุณนั้นถ้าเราเชื่อว่าพระทุ่งเศรษฐีนั้นดีเลิศก็เท่ากับว่าเรามีพระที่ดีเลิศติดตัวแล้ว
    ปัญหาเกี่ยวกับพระเนื้อดินนั้นเป็นปัญหาใหญ่สำหรับวงการพระเครื่อง เพราะในวงการหาผู้ที่มีอาชีพทางทำเครื่องปั้นดินเผายากจะมีอยู่บ้างแทนที่จะเป็นประโยชน์ต่อวงการแต่กลับเป็นโทษ ส่วนมากมักจะเป็นนักปลอมพระพวกนี้มีประสบการณ์ดีแต่ปกปิดหากินเพาะตัว เป็นปลิงในวงการพระเครื่อง
    เนื้อดินเผานั้นแยกออกได้มากมายหลายประเภท การศึกษาเนื้อดินเผาที่สร้างพระนั้นจึงใช้การสันนิษฐานและหาเหตุผลประกอบนั้นเป็นส่วนมาก

    1.เนื้อดิน แต่ละแห่งมีส่วนผสมตามธรรมซาติแตกต่างกัน แร่ในเนื้อดินแตกต่างกัน เนื้อดินธรรมซาติละเอียดแตกต่างกัน
    2.การผสมเนื้อ แตกต่างกัน
    3.การเผา แตกต่างกัน ทั้งในวิธีการเผา และการใช้ความร้อน
    นั้นการศึกษาเนื้อพระควรศึกษาเพาะจังหวัด นอกจากนี้การฝังดินนานมากและน้อยแตกต่างกัน พื้นดินที่ฝังแตกต่างกัน ที่อยู่ของพระแตกต่างกัน เช่นอยู่ใต้เจดีย์และยอดเจดีย์ อยู่ในโอ่ง ในไห หรือผอบหรือวางกองไว้เฉยๆ การที่จะแนะนำให้ท่านศึกษาจึงควรศึกษาแนวกว้างๆเมื่อท่านต้องการศึกษาพระแบบใดก็หาเหตุผลสันนิษฐานเอาเอง ดูพระแท้บ่อยๆก็เกิดความชำนาญขึ้นทีละน้อยโดยตนเอง ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป การจำแนกเนื้อพระโดยกว้างๆควรอาศัยเหตุผลดังนี้

    1.เนื้อดินละเอียด ดินละเอียดอาจจะอาศัยชั้นของดินมากกว่าจะใช้วิธีบดให้ละเอียดดินผิวส่วนมากหยาบดินละเอียดจึงเป็นดินที่ลึกจากพื้นผิว จะลึกมากหรือน้อยแล้วแต่ท้องถิ่น การคัดดินละเอียดหรือหยาบต้องอาศัยความรู้ความชำนาญ การใช้ผ้ากรองดินเป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่สามารถคัดดินหยาบออกมาได้ แต่จะต้องเป็นงานน้อยหรือถ้าเป็นงานใหญ่ก็ต้องมีเครื่องมือใหญ่
    การเผาดินเพื่อให้กลายเป็นดินเผา ถ้าดินละเอียดเนื้อจะละเอียดแต่กระด้าง อาจจะรักษารูปรอยที่สร้างไว้ได้ดี แต่เนื้อแบบนี้ด้อยค่าในด้านคุณสมบัติของเนื้อพระ ถ้าใช้ความร้อนสูงเนื้อผิวละลายกลายเป็นเปลือกหรือผิวคล้ายเคลือบ อาจมีรอยระแหงเนื่องจากการขยายตัวหรือหดตัวของดินไม่เสมอกัน

    2.เนื้อดินหยาบ ดินหยาบส่วนมากเป็นดินผิว ซึ่งเป็นดินเพิ่งแปรสภาพจากพืชกลายเป็นดินหรือสิ่งที่เหลือใช้กลายเป็นดิน ดินหยาบจึงไม่เป็นที่นิยมในการทำเครื่องปั้นดินเผานัก แต่ดินหยาบก็มีประโยชน์เช่นกัน เช่นอิฐก่อสร้างบ้าน อิฐต้องการให้น้ำซีเมนต์ซึมเข้าเนื้อได้สะดวกเพื่อใช้น้ำซีเมนต์ยึดอิฐต่อๆกันไปจนกลายเป็นผนังฝาบ้านมีความแข็งแกร่งเหมือนยกอิฐทั้งแผ่นทำฝาบ้าน การเผาจะใช้ไฟปานกลางเพื่อมิให้ดินละลายกลายเป็นสิ่งกั้นน้ำ เนื้อดินแบบนี้ไม่นิยมทำเป็นเนื้อพระ

    3.เนื้อดินสร้างพระ ดินสำหรับสร้างพระจะต้องเป็นดินที่มีส่วนผสมสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีอิทธิฤทธิ์ในด้านไสยศาสตร์ เช่นจากพืชที่มีชื่อมงคลหรือว่านที่มีประสิทธิภาพพิเศษหรือกรวดแร่ที่เชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ เนื้อดินที่สร้างพระจะต้องมีตำราระบุไว้แตกต่างกันในด้านประสิทธิภาพหลายแขนง

    3.1. เนื้อดินสร้างพระละเอียด หมายถึงการนำดินละเอียดมาผสมกับพืชและแร่ที่ตำรากำหนดฉะนั้นการดูเนื้อพระว่าละเอียดหรือหยาบให้ดูเนื้อดินเป็นหลัก ส่วนพืชหรือแร่ที่นำมาผสมนั้นถือว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมมาต่างหาก

    3.2.เนื้อดินสร้างพระละเอียด หมายถึงการนำดินหยาบมาผสมสร้างพระ ไม่คำนึงถึงส่วนผสมอื่นที่นำมารวม
    การนำพืชก็ดี นำแร่หรือกรวดก็ดีมารวมสร้างทำให้เกิดเนื้อดินเผาที่แปลกกว่าดินเผาธรรมดาโดยไม่คำนึงว่าควรจะให้น้ำซึมหรือไม่ พระแต่ละกรุต่างเผาในวิธีการที่แตกต่างกัน

    การนำพืชผสมกับดินมาก ทำให้เกิดที่ว่างในเนื้อมากพืชไหม้กลายเป็นเถ้าจึงเกิดช่องว่างดินมีแร่ผสมอยู่ เมื่อแร่ได้รับความร้อนสูงจะละลายไหลในช่องว่างที่พืชทิ้งไว้ แร่จะผสมกับเถ้าของพืชกลายเป็นเนื้อที่มีสีสันแปลกตาไป แร่ในดินเมื่อได้รับความร้อนจะเปลี่ยนสีไปด้วยเนื้อพระที่ได้รับความนิยมสูงส่วนมาก เนื้อมีสีสันสลับ พระแบบใดที่ใช้ความร้อนต่ำ พืชอาจกลายสภาพจากพืชสดเป็นถ่าน สีจึงดำหรือสีน้ำตาลไหม้ เนื้อที่ผสมพืชมากผิวจะย่นมากเหมือนผิวส้ม ทั้งนี้เพราะหลุมที่พืชทิ้งไว้จะมีดินขี้กรุอยู่ประการหนึ่งหรือดินละลายไหลเข้าแทนที่อีกอย่างหนึ่ง การมีช่องว่างทำให้เกิดผิวสูงต่ำ ผิวจึงย่น ผิวแบบนี้วงการนิยม เรียกว่าผิวแก่ว่าน ถ้าใช้กล้องขยาย 10 เท่าจะดูคล้ายเนื้อหยาบ
    พระผิวว่านสมัยก่อนเมื่อดูพระด้วยตาเปล่าได้รับความนิยมมาก ฉะนั้นการดูพระด้วยกล้องขยายควรจะมีหลักเกณฑ์ในการดู เนื้อที่ผสมแร่กรวด แร่หรือกรวดอาจจะไม่ละลายเมื่อใช้ความร้อนต่ำอย่าทึกทักว่าเนื้อพระหยาบ ความจริงเนื้อดินละเอียด แต่มีส่วนผสมอื่นทำให้เห็นว่าหยาบ การตัดสินจึงควรมีเหตุผลดังที่กล่าวมาแล้ว
    พระกรุตาพุ่มเป็นเนื้อที่ผสมพืชว่านสูงฝังดินลึก อยู่ในกรุมานานกว่ากรุเก่า จึงมีสภาพโทรมมาก ความชัดเจนน้อยกว่า แต่คุณภาพของพระเข้าทำนอง รูปชั่วตัวดำน้ำใจดี ความสวยของพระเป็นจุดนิยมสูง สำหรับนักพระเครื่องสมัยนี้แต่ควรจะถือหลักว่า ถ้าเป็นทองกับทอง ทองรูปพรรณอาจมีค่าสูงกว่าทองคำแท่ง แต่ถ้าตะกั่วรูปสวยหรือจะเทียบกับทองได้ จึงขอเตือนว่าอย่าเพิ่งโยนพระที่ไม่สวยทิ้งจนกว่าจะทราบว่า พระองค์นั้นมิใช่พระเนื้อทอง
    พระกรุตาพุ่ม พระเนื้อทอง ที่ยังคงเหลืออยู่สำหรับอนุชนรุ่นหลัง มีค่าทางด้านคุณภาพ มีค่าในการศึกษาเนื้อพระสกุลทุ่งเศรษฐีแท้ชั้นหนึ่ง จึงรีบควรหาไว้ถ้ามีโอกาส

    ใครที่อยากได้พระทุ่งเศรษฐีมาแขวนประการแรก

    ให้ดูเนื้อพระเป็นเบื้องต้น พระฝั่งทุ่งเนื้อนึกนุ่มแสดงการฝังอยู่ในดินนาน อย่าคำนึงถึงความงาม
    พระฝั่งทุ่งส่วนมากความงามด้อยกว่าทางด้านฝั่งศาลากลาง
    สิ่งที่ควรสังเกตเป็นอย่างยิ่งคือ ขี้กรุ ขี้กรุฝั่งทุ่งเศรษฐี เป็นขี้กรุดินละเอียด สีเทาหรือสีโคลนแห้ง ฝังเนื้อ ส่วนที่อยู่นอกเนื้อล้างออกได้ง่าย ระวังถ้าล้างไม่ดีผิวพระจะละลายออกมาด้วย พระฝั่งทุ่งนอกจากนั้นพระบางชนิดอย่าแช่น้ำพระจะละลายเสียผิวง่ายๆ
    ส่วนพระฝั่งศาลากลาง ขี้กรุส่วนมากเป็นสีแดงเพราะเป็นดินลูกรัง ฝังในเนื้อยากหน่อยแต่ติดผิวง่าย เนื้อพระทางฝั่งศาลากลางแกร่งกระด้างกว่าฝั่งทุ่งหน่อย เว้นแต่เนื้อดำมักจะโทรมใกล้เคียงกัน เนื่องจากเนื้อดำเข้าข่ายเนื้อผงดูดน้ำง่าย เนื้ออ่อนยุ่ยกว่า บางองค์เห็นเห็นผิวมันแข็งก็อย่าประมาท ถ้าถูกน้ำนานๆจะเปื่อยเอาง่ายๆ

    เนื้อพระ
    เนื้อพระส่วนมากเป็นสีดำ ดำหม่นปนเขียวคล้ำ สีเหลืองนวล สีแดงคล้ำ(สีเหลืองนวล สีแดงคล้ำ หายาก ไม่ควรตั้งเป้าหมายจะหาสีเหลืองนวลและสีแดงเท่านั้น เพราะทุ่งเศรษฐีมีเจตนาเผาแบบเนื้อผง เปลือกเกาะแน่น เนื้อในป่นแบบผงยาอัดไว้เท่านั้น) ท่านควรดูเนื้อพระทุกสีเอาไว้

    ขี้กรุ
    ขี้กรุสีเทาหม่น สีโคลนตากแห้ง ละเอียด ขี้กรุฝังเนื้อจนผิวพระดำหม่นบางครั้งทำให้เห็นเป็นสีเขียวคล้ำหม่น สีของขี้กรุอาจจะแปลงสีเนื้อได้ไม่น้อย

    เนื้อพระกำแพงเพชร
    1.เนื้อแกร่ง หมายถึงพระเนื้อละเอียด เผาด้วยความร้อนสูง พระส่วนมากจะเป็นเนื้อสีเหลืองนวล แบบผิวไม้รวกแห้ง บางองค์เนื้อละลายกลายเป็นเนื้อเขียวหินครกก็มี เท่าที่พบ พระแบบนี้ส่วนมากคือ พระกำแพงเม็ดขนุน พระในกรุทุ่งเศรษฐีบางชนิดเนื้อแกร่งแบบนี้ก็มี แต่พบไม่มากนัก

    2.เนื้อว่านจัด หมายถึงพระเนื้อละเอียดผสมพืชว่าน ตอนเผาไฟใช้ไม่สูงนักความร้อนทำให้วัสดุผสมในเนื้อพระแปรสภาพกลายเป็นสีแดง ซึ่งมีบางคนเรียกว่าว่านดอกมะขาม ถ้าเผาไฟร้อนสูงขึ้นแทนที่วัสดุนั้นจะแดงขึ้นเรื่อยๆกลับจะละลายเปลี่ยนสีผสมกลายเป็นเนื้อพระไปเลย
    เนื้อพระว่านจัด หมายถึงวัสดุสีแดงมากเมื่อฝังดินนานน้ำจะแทรกซึมเข้าเนื้อทำให้เนื้อยุ่ย ถ้าใช้พระเนื้อนี้สมบุกสมบันผิวจะหลุดเห็นเนื้อข้างใน ก้อนวัสดุสีแดงจะปรากฏชัดมาก(บางคนบอกว่าแร่ลอย) การที่พระเสียผิวไปเพราะใช้มากก็ดีหรือล้างไม่เป็น ผิวเสียก็ดี ด้านที่ใช้หรือล้างผิดนั่นแหละ จะถูกกล่าวหาจากนักเล่นบางท่านว่า เป็นพระแกะทันที บางคนทักโดยไม่ส่องกล้องก็มี การซื้อพระแบบนี้ เรามีสิทธิที่จะผิดพลาด และเราก็มีสิทธิที่จะถูกเท่าๆกันพระมีปัญหาราคามักจะถูกเพราะอิทธิพลของลมปากเชียนพ่นทับถม ใครตาดีก็ได้ไป
    พระกำแพงซุ้มกอพิมพ์ใหญ่และพิมพ์กลาง มักจะเป็นเนื้อแบบนี้หาเนื้อแกร่งยาก

    3.เนื้อผงดินเผา ข้าพเจ้าเชื่อว่าการผสมเนื้อพระอาจจะลอกเลียนแบบกันมาแต่ความอยากดีอยากเด่นกว่าคนอื่นของมนุษย์ทำให้นักสร้างพระไม่อยากจะทำตามคนอื่น คนอื่นเผาให้กลายเป็นเนื้อกระเบื้อง ผู้ที่อยากจะสร้างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะคนก็เผาไฟอ่อน ให้ว่านเกรียมเป็นถ่านเท่านั้นโดยให้เหตุผลว่า ต้องการคุณสมบัติของว่านเหลือไว้ให้มาก
    การใช้ความร้อนลดลงพอที่จะทำให้เนื้อยึดได้พอสมควรเท่านั้นไม่แข็งแกร่งมาก พระเนื้อดินเผาจึงมีสีน้ำตาลไหม้หรือสีดำ ถ้าท่านลองเอาพืชมาเผาเมื่อพืชร้อนมากจะเริ่มกลายเป็นสีน้ำตาลก่อน แล้วค่อยกลายเป็นสีดำ เรียกว่าถ่าน เมื่อความร้อนสูงขึ้นแล้วหยุดเพียงแค่นนั้น
    พระสีดำและสีน้ำตาลไหม้ ไม่ค่อยมีใครกล้าเล่น เพราะสีทั้งสองแบบทึบและดูยากดูให้เห็นเนื้อในไม่ได้และอาจจะปลอมง่ายใครๆจึงกลัวกันนัก แต่ถ้าท่านไม่เล่นพระเนื้อผงเผา ท่านอาจจะหาพระเครื่องเนื้ออื่นได้ยากเพราะ พระเนื้อผงเผามีจำนวนมากกว่าครึ่งของพระเนื้อสีอื่นรวมกันเสียอีก

    4.เนื้อกระเบื้อง เนื้อนี้สันนิษฐานว่าถูกความร้อนมาก เนื้อย่นจนบางท่านดูว่าเนื้อหยาบ ความจริงถ้าพืชว่านมาก เมื่อพืชว่านกลายเป็นเถ้าทิ้งเนื้อไว้มาก เนื้อดินและโลหะก็จะละลายเข้าแทนที่ ทำให้ขนาดพระย่อมลงไปมากจนเห็นถนัดตา พระเนื้อนี้ไม่เหมือนเนื้อแกร่งเหมือนที่กล่าวมาในข้อ 1 แต่ไม่ทราบว่าจะกล่าวแยกอย่างไรจึงจะเข้าใจดี นอกจากได้เห็นพระแล้วนำมาเทียบเคียง สมัยนี้จะหาพระแต่ละองค์ก็ยากยิ่งแล้วจะหาพระมาเทียบเคียง และเป็นของเราเองก็น่าเห็นใจว่าทำได้ยาก จะยืมใครดูก็ไม่มีใครไว้ใจใคร ต่างเก็บซ่อนไว้อย่างดี ที่ซ่อนที่นิยมสุดก็คือธนาคาร

    5.เนื้อผสมกรวด พระเนื้อผสมกรวดนี้มิใช่จะเนื้อจากคนทำเกียจคร้านไม่กรองเนื้อหรือไม่ป่นเนื้อให้ละเอียดก่อนทำเป็นเนื้อพระ ความจริงเนื้อป่นละเอียดแล้ว แต่มีความประสงค์ที่จะผสมกรวดทรายละเอียดลงไปด้วย เพื่อผลประโยชน์ด้านคุณวิเศษ เรียกว่าเป็นการจงใจ เช่น กรุผู้ใหญ่เชื้อ เคยพบพระเนื้อผสมกรวดก็มี ไม่ผสมก็มี มีตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า พระที่มีอานุภาพร้อนแรงแกร่งกล้า มักจะมีกรวดแม้ว่ากรวดจะทำให้เนื้อไม่แข็งแรง ไม่น่ารัก แต่ก็มีสิ่งตอบแทนน่าใช้มากเลยทีเดียว

    เนื้อพระ

    พระกำแพงส่วนมากเผาความร้อนน้อย พืชบางอย่างที่ผสมในเนื้อพระยังเปลี่ยนตัวไม่เสร็จ จากใบไม้สีเขียวกลายเป็นสีน้ำตาลแต่ยังไม่กลายเป็นสีขาว ส่วนแร่ในดินที่ติดมาบ้างละลายในอุณหภูมิไม่สูงนัก แร่อยู่ในเนื้อพระจึงมีก้อนแร่ดูหยาบ ถ้าเผาไฟแรงแร่ละลายก็ดูว่าละเอียด แต่ความนิยมที่มีแตกต่างกัน บางคนนิยมผงใบลานที่เผาเพียงแค่ดำ ซึ่งเสียหายได้ยากกว่าดินธรรมดา พระขนาดนี้เรียกว่าพระผงดินเผา ส่วนพระที่เผาไฟแรงเนื้อแกร่งก้อนแร่น้อย พระไม่มีก้อนแร่เหลืออยู่ในนั้นหายาก
    การดูพระกำแพงราคาแพงจึงเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่ต้องเรียนรู้และมีประสบการณ์เพียงพอ

    ขี้กรุ
    ขี้กรุพระกำแพง มีความสำคัญในด้านพิจารณาตัดสินว่า พระเก่าหรือใหม่มิใช่น้อย จริงอยู่พระที่มีขี้กรุหนา จะทำให้ภาพพระเห็นไม่ถนัด ขาดความงามไปมากและบางองค์หนาจนมองไม่เห็นองค์พระด้วยซ้ำไป
    ตอนขึ้นจากกรุใหม่ๆคนขุดมักจะใช้นิ้วปาดขี้กรุซึ่งอ่อนตัวอยู่เพื่อดูว่าก้อนดินที่ได้มานั้นเป็น พระหรือเปล่า และในตอนนั้นหน้าพระจะถูกทำลายเพราะนิ้วมือปาดไม่รู้ว่าเท่าไร
    การล้างก็เช่นกัน ใจร้อนก็ทำให้พระเสียผิว ควรจะเก็บไว้นานร่วมเดือนจึงจะค่อยๆล้าง ถ้าตาร่วงโรยเพราะเกิดนานเกินไปควรหาแว่นหรือเครื่องขยายให้เห็นถนัด สิ่งที่จำเป็นยิ่งคือ ต้องเรียนรู้ลักษณะส่วนสัดของพระแต่ละพิมพ์ ป้องกันมิให้เขี่ยขี้กรุแรงจนรายละเอียดหายไป หรือแรงจนเข้าเนื้อพระ เพราะผิวพรรณพระมีส่วนสูงๆต่ำๆทั่วองค์
    ความงามของพระกำแพงอยู่ที่รักษาผิวพระ ซึ่งบางเหมือนเยื่อหัวหอม ถ้าหนักมือหรือล้างไม่เป็น ผิวพระจะหลุดออกเนื้อข้างในจะหยาบ พระส่วนมากเป็นเนื้อผงดินเผาเรียกว่าแก่ว่าน โดยเฉพาะทางฝั่งทุ่งเศรษฐี มีเนื้อผงว่านเผามากที่สุด

    ประการสำคัญที่รับฟังมา
    1.ขี้กรุฝั่งทุ่งเศรษฐีเป็นดินดำ เหมาะสำหรับปลูกพืชผล แห้งแล้วจะเป็นสีเทาขี้กรุแบบนี้ซึมเข้าเนื้อพระ จะทำให้สีพระเป็นไปอย่างหนึ่งจึงให้ท่านสังเกตไว้ ขี้กรุแบบนี้นักขุดบอกว่าฝั่งทุ่ง

    2.ขี้กรุฝั่งศาลากลาง ดินด้านทางนี้ส่านมากเป็นดินลูกรังสีแดงปนแสดเมื่อเกาะผิวพระจะเห็นเป็นสีเนื้ออีกอย่างหนึ่ง อิทธิพลของสีมีมาก
    พระเนื้อดำ ถ้าดินลูกรังเกาะ ผิวพระจะกลายเป็นสีเขียวคล้ำ ถ้าอยากดูสีผิวจริงๆลองชุบน้ำดู จะเห็นสีของพระจริง แม้ไม่ถึง 100 % ก็เชื่อว่าเห็นถึง 80%
    จากการที่ข้าพเจ้าเขียนมาแล้วท่านจะเห็นว่าความยากในการดูพระกำแพงเพชรช่างมีมากมายเสียจริงๆปัญหาแต่ละข้อยังต้องแยกออกเป็นข้อย่อยๆอีก
    พระฝั่งทุ่งเศรษฐี กับ ฝั่งสาลากลาง ค่านิยมก็ต่างกัน พระบางแบบมีทั้งสองฝั่ง นอกจากนั้นพระปลอม ซึ่งปลอมมานานก่อนที่ข้าพเจ้าเข้าวงการก็มีสมัยปัจจุบันก็มีและเชื่อว่าจะมีต่อไปไม่สิ้นสุด ถ้าพระขาดความนิยมไม่เสื่อม ปัญหาจะยิ่งมากถ้าวงการไม่คิดสร้างหลักเกณฑ์ไว้เสียแต่เดียวนี้

    3.รักและน้ำหมาก นักเล่นจำนวนหนึ่งเรียกว่าพวกบ้าน้ำหมาก หรือบ้ารัก ท่านลองคิดดู ให้คิดดูให้ดี พระดินเผามีความคงทนเหนียวแน่นแข็งแกร่งอยู่ในตัวแล้วและเชื่อว่า สมัยโบราณจริงๆการชุบพระลงรักยังไม่ควรมี เว้นเสียแต่สมัยเร่งรัดเพื่อให้พระดูเก่ามากกว่า การอาศัยรักเป็นเครื่องวินิจฉัยความเก่านั้นยาก อาจจะมีพระบางองค์ที่ออกมาจากกรุครั้งหนึ่งๆ เจ้าของกลับเอาไปฝังใหม่ ความจริงพระแบบนี้มีไม่มากนัก จึงต้องระวังให้มาก

    ราดำ
    เป็นราชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดจากความชื้นภายในกรุเกาะติดอยู่บนเนื้อพระ ล้างออกได้ยากมีลักษณะเป็นแผ่นหรือเป็นจุดๆสีดำ บางครั้งสีดำปนน้ำตาลมีพระบางพิมพ์ที่ไม่มีหรือเกือบไม่ราดำเลย เช่นพระกำแพงซุ้มกอ พระกำแพงลีลาเม็ดขนุน พระยืนหรือพระลีลาก็มีราดำเกาะติดเป็นส่วนน้อยนานๆจะพบสักที

    แร่ดอกมะขาม
    สีของแร่ดอกมาขามมักจะแดงคล้ำ ส่วนใหญ่จะแทรกเป็นจุๆในเนื้อพระมักจะไม่ลอย บางครั้งจะเห็นเป็นแผ่นใหญ่ๆปรติเห็นไม่ชัดเจนแต่ถ้าเช็ดด้วยผ้าเนื้ออ่อนพระเป็นเงาจะเห็นชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะเนื้อพระที่มีสีเหลืองหรือเหลืองปนแดงอ่อนๆ จะเห็นแร่ดอกมาขามเป็นจุดๆชัดเจน จุดๆนนี้บางครั้งก็ติดกันเป็นแผ่นๆ

    สีของพระเครื่องเมืองกำแพงเพชร
    สีของพระเครื่องเมืองกำแพงเพชรมีหลายสี แต่พระเครื่องที่ปรากฏเป็นสีต่างๆนั้นน่าจะมาจากสีของว่านเกสรและผงต่างๆเช่น สีแดงของว่านดอกมะขาม สบู่เลือดและอื่นๆ สีเหลืองของดอกไม้นานาชนิด สีดำของผงใบลานเผา สีขาวจากผงพระพุทธคุณและว่านบางชนิดจึงทำให้เกิดพระเครื่องสีต่างๆขึ้นตามแต่จะมีส่วนผสมว่านและเกสรหรือผงอะไรมากก็ดูออกเป็นสีนั้นๆมากเช่น

    สีแดง
    มีทั้งแดงจัด(คล้ายครั่ง) แดงชมพู(แดงปนขาว) แดงหม้อใหม่(แดงปนเหลือง)แดงคล้ำ(แดงปนดำ)

    สีดำ
    มีทั้งดำจัด(แบบเนื้อผงใบลาน)เทาดำ(ดำปนขาว)ดำม่วง(ดำปนแดง)จะมีสีคล้ายสีหว้าหรือดอกมะเขือเข้มๆ

    สีเหลือง
    มีทั้งสีเหลืองเกสรดอกไม้(สีพิกุลแห้ง) เหลืองจำปา(เหลืองปนแดง) เหลืองอ่อนละสำหรับเหลืองปนดำทำให้เกิดสีที่สวยงามอีกสีหนึ่งคือสีขาว

    สีเขียว
    มีทั้งสีเขียวมอย(เขียวเทาๆ)แลเขียวแก่เกี่ยวกับพระเครื่องที่ปรากฏเป็นสีเขียวนี้ คุณวินัย ศักดิ์เสนีย์เขียนไว้ในหนังสือนามานุกรมพระเครื่องหน้าที่ 127 ว่า ผู้รู้กล่าวว่าเพราะองค์พระมีส่วนผสมว่านมาก แต่ทำให้เกิดสีเขียวน่าจะไม่เป็นความจริงที่ว่านทำให้เกิดสีเขียวได้น่าจะเป็นผงหินสีเขียว แต่ข้าพเจ้าค่อนข้างจะเห็นกับฝ่ายที่ว่าเกิดจากการผสมว่านมากกว่า และว่านนั้นเป็นว่านที่มีสีเขียวด้วยเพราะข้าพเจ้าเคยเห็นจุดสีเขียวของเนื้อพระที่มีสีเขียวอ่อนๆบางองค์มีว่านอยู่บางจุดเป็นสีเขียวอ่อน เนื้อพระที่มีสีเขียวกับสีดำของผงใบลานเผา ถ้ามีผสมใบลานเผาน้อยว่านมากก็เป็นสีเขียวเกือบดำเลยก็มี ส่วนความแกร่งของเนื้อพระทีดูคล้ายกับหินน่าจะเป็นเพราะการเผาและความแกร่งของเนื้อที่ดูคล้ายกับหินนั้นน่าจะเป็นเพราะการเผาและความเก่าของเนื้อดินมากกว่าที่จะเป็นหินเพราะพระเครื่องที่มีอายุเก่าแก่ส่วนมากก็มีลักษณะเนื้อแกร่งแบบเนื้อหินทั้งนั้นแต่หาใช่ทำด้วยหินไม่เพราะน้ำหนักไม่บอกเลยว่าเป็นหิน
     
  3. champnutt

    champnutt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +533
    ขอบคุณครับพี่
     
  4. hiddenbhume

    hiddenbhume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,513
    ค่าพลัง:
    +7,067
    ขอบคุณครับน้า
     
  5. Zijjo

    Zijjo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +68
    รบกวนหน่อยครับพี่ stoes ขอบคุณมากครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. stoes

    stoes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,343
    ค่าพลัง:
    +9,050
    หลังยันต์สิบ พิมพ์เบลอครับ ไม่แน่ใจ
    เหรียญไม่แท้ครับ ขาดความเก่าและคมชัดลึก
    กวักปรกโพธิ์ หลวงพ่อจงไม่ชำนาญครับ
    สมเด็จวัดปากน้ำ เก๊สนิทครับ
     
  7. noppornl

    noppornl เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,607
    ค่าพลัง:
    +8,008
    รบกวนพี่ให้ความเห็นหน่อยนะครับ พอดีเขาให้มาแล้วรู้สึกชอบแต่เนื้อทองเหลืองไม่แน่ใจว่าของที่ไหนครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_5379s.jpg
      DSC_5379s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      310.1 KB
      เปิดดู:
      40
    • DSC_5380s.jpg
      DSC_5380s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      379.6 KB
      เปิดดู:
      44
  8. gallery

    gallery Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +80

    ขอบคุณมากๆครับ...
     
  9. stoes

    stoes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,343
    ค่าพลัง:
    +9,050
    ไม่ทราบครับว่าที่ไหน แต่ได้ข้อมูลจาก google
    http://www.prapantip.com/memshopview.php?postid=140406&keyid=101194
     
  10. Zijjo

    Zijjo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +68
    ขอบคุณหลายๆครับพีชาย:cool:
     
  11. อาร์มบาว

    อาร์มบาว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +66
    ขอบคุณมากครับพี่แต่ที่แตกมุมนั้นท่านโดนกล่องพระบีบจนแตกครับ
     
  12. noppornl

    noppornl เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,607
    ค่าพลัง:
    +8,008
    ขอบคุณมากครับ พระผมองค์นี้เขาล้างมาครับ ดูแล้วคล้ายๆกันเลย
     
  13. thailaothai

    thailaothai Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2013
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +39
    หลวงปู่จันทร์ ปี2500 เนื้อทองแดงกะไหล่เงินครับ
    ขอความรู้จากพี่stoes ดูช่วยน้องคนนี้ด้วยครับ
    ขอบคุณมากครับพี่ เอาแบบฟันธงเลยนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.JPG
      1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      56.3 KB
      เปิดดู:
      36
    • 2.JPG
      2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      62.9 KB
      เปิดดู:
      33
    • 3.JPG
      3.JPG
      ขนาดไฟล์:
      64.3 KB
      เปิดดู:
      35
    • 4.JPG
      4.JPG
      ขนาดไฟล์:
      64.2 KB
      เปิดดู:
      32
    • 5.JPG
      5.JPG
      ขนาดไฟล์:
      29.9 KB
      เปิดดู:
      37
    • 6.JPG
      6.JPG
      ขนาดไฟล์:
      29.3 KB
      เปิดดู:
      30
    • 7.JPG
      7.JPG
      ขนาดไฟล์:
      28.6 KB
      เปิดดู:
      29
  14. jaturong_tun

    jaturong_tun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,879
    ค่าพลัง:
    +2,473
    [​IMG]

    ขอรบกวนพี่สโตร์และพี่ๆ ทุกท่าน ร่วมวิเคราะห์ครับ
     
  15. kiita

    kiita สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณมากครับผม
     
  16. champnutt

    champnutt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +533
    พี่ Stoes คับ หลวงพ่อทวดสองรุ่นนี้ ใช้ได้ไหมคับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1961.JPG
      IMG_1961.JPG
      ขนาดไฟล์:
      76.3 KB
      เปิดดู:
      38
    • IMG_1960.JPG
      IMG_1960.JPG
      ขนาดไฟล์:
      94.3 KB
      เปิดดู:
      35
    • IMG_1959.JPG
      IMG_1959.JPG
      ขนาดไฟล์:
      72 KB
      เปิดดู:
      35
    • IMG_1956.JPG
      IMG_1956.JPG
      ขนาดไฟล์:
      73.3 KB
      เปิดดู:
      47
    • IMG_1958.JPG
      IMG_1958.JPG
      ขนาดไฟล์:
      78.3 KB
      เปิดดู:
      34
    • IMG_1957.JPG
      IMG_1957.JPG
      ขนาดไฟล์:
      58 KB
      เปิดดู:
      36
    • IMG_1954.JPG
      IMG_1954.JPG
      ขนาดไฟล์:
      60.4 KB
      เปิดดู:
      36
    • IMG_1953.JPG
      IMG_1953.JPG
      ขนาดไฟล์:
      61.7 KB
      เปิดดู:
      39
    • IMG_1955.JPG
      IMG_1955.JPG
      ขนาดไฟล์:
      75.7 KB
      เปิดดู:
      44
  17. อาร์มบาว

    อาร์มบาว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +66
    รบกวนพี่Stoesดูพระปิดตาหลวงปู่ยิ้มด้วยครับพี่

    หลวงปู่ยิ้ม.jpg หลวงปู่ยิ้ม1.jpg
    รบกวนด้วยครับพี่ๆทุกท่านครับ
     
  18. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    ปิดตาหลวงปู่ยิ้ม เนื้อเก่า และจะมองดูคล้ายๆเนื้อแบบไม่แน่น ที่เขาเรียกว่าเนื้อนุ่ม จะไม่แข็งออกกระด้าง แม้จะผ่านการชุบรักมา และรัก ในองค์ที่ชุบรักจะเป็นรักโบราณ ต้องมีความแห้งที่เรียกว่ารักตาย
    สรุปองค์นี้ไม่ทันท่านครับ
     
  19. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    ขออนุญาติ น้าโตว์ ขายขี้เท่อนิดนึง

    เหรียญนี้โดนหลัก ดูไม่เป็น แต่ถ้าดูรูปลักษณ์ ภายนอก ไม่น่าจะเก่า ดูเนื้อเหรียญออกบวมๆนะครับ

    ผมเด็กฝึกงานน้าโตว์ครับ
     
  20. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025

    เดี๋ยวนี้พระมีกล่อง ก็ใช่ว่าจะเเท้เสมอไปครับ ถ้าไปเอามาเองจากวัด หรือได้จากคนที่เชื่อถือได้ มีโอกาศที่จะไม่แท้ หือไม่ผ่านพิธีได้เหมือนกันครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...