สัมมาทิฏฐิสูตรว่าด้วยความเห็นชอบ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 3 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ใจคอจะไม่ให้ตามงานอะไรเลย

    ตื่นปุ๊บเข้าเวปปั๊บเลยหรือลุง ^^
     
  2. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    หากใส่ใจคำว่า รู้ชัด นั้นต่างจาก รู้เฉย นัก

    จิตมีโทสะ ก็รู้ชัดว่าจิตมีโทสะ

    จิตปราศจากโทสะ ก็รู้ชัด ว่าจิตปราศจากโทสะ

     
  3. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ...................... อันนี้ พอได้ พอได้....ถ้า สติรู้ลงปัจจุบันจริงจริง มีก็รู้ ไม่มีก็รู้ เกิดก็รู้ ดับก็รู้......แต่ถ้า คิดต่อจากนี้ละก็ ผมว่า เป็น คิด แต่ก็ไม่เป็นอะไร คิดเป็นกุศลก็ดี เราก็ รู้ว่าเราคิด ไม่ใช่บุคคล เป็นสภาพธรรม:cool:
     
  4. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ............ ก็ นั่นแหละพี่ สติระลึกที่ กายใจ ที่ปัจจุบัน ....ไม่ได้คิด:cool:
     
  5. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    คืนก่อนค้างเรื่อง สัมมาสังกัปปะ ถูกไหม

    เป็นอาการ กุศลวิตก

    การที่ใส่ใจลักษณะโกรธนั้น ขณะนั้น มีสติ สัมปชัญญะ และ ความเพียร

    รู้อยู่ปัจจุบันที่ปรากฏ มีอยู่ ไม่มีอยู่ก็รู้

    ไม่ใช่เรื่องพอได้ หรือไม่ได้หรอกครับ นี้ก็ชี้อยู่ว่าสติปัฏฐาน ปัญญาลงวิปัสสนาภูมิ

    ไม่ใช่รู้โกรธเป็นจบ พวกนี้ไม่ได้รู้เหตุเกิด รู้ว่ามีอยู่ หรือ ไม่มีอยู่แต่อย่างใดตรงตามปัจจุบัน
     
  6. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    คิดก็เป็นเรื่องของคิดสิ แต่ไม่ได้ไปหลงอะไรมัน

    มันเกิด หรือไม่เกิด ก็เป็นธรรมชาติของเขา

    ดับวิตก วิจาร เป็นเรื่ององค์ฌาณ แยกออกหรือ
     
  7. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ลักษณะโทสะ และ อโทสะ นั้นเป็นปรมัตถ์ธรรมนะครับ ไม่ใช่ความคิด

    ที่คิดนั้นเป็นผลจากสังขารขันธ์ ปรุงอยู่ เป็นลักษณะของ โทสะ อโทสะ

    สติควรรู้ลิเกหน้าม่าน หรือ หลังม่านล่ะ

    ส่วนเรื่องไม่เที่ยง ไม่ใช่เรา พุดเยอะแล้ว วันนี้พูดเรื่องลักษณะรูปนามนี่ล่ะ
     
  8. ต้นปลาย

    ต้นปลาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    629
    ค่าพลัง:
    +69
    ถึงจะโกธร มาตีหัวผม ผมก็โกธรอยู่ แต่ผมไม่กระทืบตอบหรอก
    น้องโหน่ง ตื่นสาย ผมใจดีกว่าที่คุณคิด
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    แล้วคิดว่า แค่นั้น ถือถูกหรือไง การที่จะรู้ว่ามีอยู่ หรือไม่มีอยู่

    เขาไม่ได้ดูกันที่ มันมี หรือ ไม่มี แค่นั้นนะ

    ดังนั้น หากไม่รู้เฉยๆ คืออะไรกันแน่เนี่ยะ ตบปากตัวเองไปพลางๆก่อน
    จะดีกว่าที่ไป ยัดความเข้าใจให้คนอื่น แล้วไปเหยียบเขาอีกว่า ผิด

    ทั้งๆที่ ตัวเองหนะ ยังไม่รู้เรื่องอะไรสักนิดเดียวเลย

    ไอ้ที่คุณออกตัวว่า รู้ถูกต้องเนี่ยะ ผมก็ยืนยันตามเดิมว่า ยังภาวนา
    ไม่เป็นเลยต่างหาก
     
  10. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ................เอ้า พี่หลง รู้อยู่แล้ว ว่า มันมาจาก ทวารทั้ง หก...คนรู้ก็รู้อยู่แล้ว...เหตุเกิดทางทวารพี่หลงก็รู้อยู่แล้ว ทีนี้ มันกลายเป็น ราคะ ปฎิฆะ หรือ ราคะ โทสะ ก็รู้...อย่างนี้มันจะไม่รู้ตรงปัจจุบันได้ไงครับ.....ทีนี้การรู้ว่ามาจากทวารทั้งหก นี่ ไม่ต้อง คิดเลย มันรู้อยู่แล้ว เราก็รู้ ตามจริงไป....ถ้า เกิดผัสสะ(รับอารมณ์ทางทวารทั้งหก) แล้ว มีราคะก็รู้ ไม่เกิดราคะก็รู้ มีโทสะก็รู้ ไม่มีโทสะก้รู้...ในเมื่อพี่หลง รู้อยู่แล้ว มันเป็นวิปัสนา ก็ ต่อ เมื่อ พี่หลงเห็น ตามจริงไป เรื่อย เรื่อย จากเกิด ดับ....ไม่ใช่คิดเรื่อง วิปัสนาภูมิ...เพราะการรู้ตั้งแต่ ทวารทั้งหก จนมาสู่ เวทนา จนเป็น ราคะ ปฎิฆะ หรือ อุเบกขา ถ้า รู้ ตามจริงแล้ว จะไปทวน ตรงใหน? เพราะฉนั้น มัน จึง เดินไป ตามพระสูตร คือ รู้ไปเรื่อยเรื่อย ตามจริง..:cool:.
     
  11. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    เขาคุยกันเยอะแยะ นี่ต้องมาขยายให้อีกหรือนี่

    กลุ้มใจน้าเอกจริงๆ
     
  12. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    โอ้โห การเข้าเวบช้า เข้าเวบเร็ว นี่แปลว่าเขาตื่นเช้าตื่นสายหรือครับ

    ผมเชื่อว่าใจดีครับ แต่หลงความใจดีนั้นไหม ^^
     
  13. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ............ จิตมีธรรมชาติรู้ อารมณ์ ทีละอย่าง ถ้ามีสติระลึกรู้ว่าคิด นี่ ไม่ดีกว่า คิดว่ามันเกิด ไม่เกิดเป็นธรรมชาติของมัน เรารู้ก็คือรู้ รู้ว่า คิดก็รู้แล้วไม่ดีเหรอ พี่.....ดับ วิตก วิจาร พี่หลง ลองรู้ ทัน คิดสิ ว่ามันเป็นอย่างไร? เวลากำลังคิดส่งออกอยู่ แล้ว จิตมีสติระลึกรู้ น่ะ ว่า วิตก วิจาร ที่พี่ว่า มันเป็นยังไง?:cool:
     
  14. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ผมตอบเรื่อง ทวารทั้ง๖ไปเยอะ จนลงมโนทวาร ทำกิจปรุง

    จนคนมันแซวว่าสำเร็จรูป

    ทุกวันนี้ก็เจริญไปเงียบๆ สบายใจกว่า

    วลมันอยู่หลายวันแล้ว เรื่องรู้ เรื่องคิด มันน่าจะไปต่อได้แล้ว
     
  15. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ขณะที่รู้ว่าไม่คิด ขณะนั้นคิดอยู่

    เพราะอะไร เพราะมันเป็นปัจจัย ธรรมชาติของขันธ์๕ มันมีอยู่แล้ว

    คุณรู้สิ่งหนึ่ง สิ่งหนึ่งก็ปรากฏ อารมณ์หนึ่งดับไปกับรู้ อารมณืใหม่ที่กระทบก็เกิดทันที

    ไม่มีใครเขาไปฝืนธรรมชาติ มันฝืนปัจจัยไม่ได้ แต่เราสักว่ารู้ ไม่ยึดได้
     
  16. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ....เราไม่ได้ไปบังคับ มันนี่ พี่ ไม่ใช่รู้โกรธเป็นจบ นะใช่...ถ้าโกรธยังอยู่(เกิดดับไปแล้ว แต่เกิดอีกดับอีก เกิดอีกดับอีก เป็นระลอก)เราก็รู้ ถ้า หายไปเลย ก็รู้ ถ้าไปใส่ใจสิ่งอื่น โทสะดับ โลภะเกิด ก้รู้ เราจะเอาเวลาใหนไปคิดเรื่องวิปัสนา วิปัสนา จึงเป็นการเห็นมากกว่า.....แต่เอาละเมื่อเริ่มต้นภาวนาเราช่วยคิดนะใช่ แต่เห็นว่าพี่หลง ภาวนาคล่องแล้ว คงไม่ต้องใช้ความคิดแล้ว มั้ง:cool:
     
  17. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ................. อ้าวพูดเรื่องสติระลึกรู้ พี่หลง ว่า สติ เป้นความคิดไปซะแล้วหรือ เอ้ะ ยังไง?:cool:
     
  18. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    เหมือนที่ผมเคยทัก ว่า ถ้าไม่เห็นว่ามันไม่เที่ยงยังไง

    แล้วจะนำไปภาวนา ย่อมไม่ใช่ฐานะ

    การรู้จักลักษณะโกรธ ย่อมเห็นปัจจัยให้เกิดอีกธรรมหนึ่ง ปัจจัยให้ดับอีกธรรมหนึ่ง

    ย่อมเห็นการเกิด การดับ ความไม่เที่ยงก็เป็นอีกลักษณะหนึ่ง

    ไม่ใช่รู้โกรธ เป็นจบ สนใจมันหน่อยว่าเหตุเกิดปัจจุบันนั้น เพราะหูไปกระทบ เกิดปรุง

    หรือตาไปกระทบ เิกดการปรุง และสนใจขณะที่โกรธมันดับหน่อย ว่าอะไรเกิดต่อ

    ส่วนที่รู้แล้วเข้าใจว่า นี้ขันธ์ นี้โกรธ ไม่ใช่เรา เพราะสติรู้ตามจริง มันก็แสดงตัวอยู่เห็นๆ
     
  19. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    สติระลึกได้ ในความไม่เที่ยง ตรงปัจจุบันที่ปรากฏ

    ถามว่า เดี๋ยวนั้นมีอะไรเกิดในหัวหรือ

    ถ้าไม่มีการระลึก มันจะโบ๋ๆ กลวงๆนะ
     
  20. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เห้ย คนเขาก็มี วิจารณญาณกันทั้งนั้น อะไรที่ คุณพูดบ่อยๆ คนอื่นเขาก็เห็น

    แต่เขาเห็นแล้ว เขารู้ว่า ไอ้ที่คุณพูดหนะ มันไม่พอ มันสวนกระแสขึ้นไปไม่พอ

    แถมการอธิบายยังไหลตามลงไปอีก ตากระทบรูป แล้วดูอะไรเกิด มันพอซะที่ไหน

    แล้วจริงๆ เขาไม่ได้ดูเพื่อเข้าใจ ว่ามันมีกระบวนอย่างไร เขาดูเพื่อให้เห็นว่า
    มันเป็น ทุกขสัจจ อย่างไร

    พอเห็น มันจะปล่อยการเห็น ปล่อยเหตุผล ที่คุณพรรณามาร้อยแปดเหล่านั้น
    ขึ้นไปพิจารณา บางอย่างทวนกระสแขึ้นไปอีกที

    ทวนขึ้นไปแล้ว ก็ต้องตามเห็นสิ่งนั้นเป็นทุกข์สัจจอีกให้ได้ แล้วมันจะขึ้นไปอีก
    ขึ้นไปอีกแล้วก็ยังต้องยกสิ่งนั้นทวนกระแสขึ้นไปอีก

    แต่ จะยกจาออะไร ก็ยกจากอะไรก็ได้ คราวนี้ไม่เลือกแล้ว ไม่ปรุงสำเร็จรูป
    แล้ว หากยังปรุงสำเร็จรูปอยู่แปลว่า ภาวนาแบบลอกสูตรฆ่าตัวเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...