วิริเยนทุกฺขมจฺเจติ. (บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร.)

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย กล่องไม้ขีดไฟ, 27 มกราคม 2022.

  1. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ไปถามผู้รู้เอาเอง..
     
  2. เด็กชายปราบ

    เด็กชายปราบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2022
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +32
    ผู้รู้ มีหลาย รู้ เหลือกเกิน

    ถามลวกเพ้ ม้ายขีดนี่แหล่ะ
     
  3. ฟ้ากับเหว

    ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +372
    ขอเสือกตอบแบบเพื่อความเข้าใจของตนเอง
    บุญคือ ความเป็นไปของผลที่กระทำอันเป็นไปในทางที่ดี ที่เกิดขึ้นกับใจเราเป็นหลัก เรียก กุศล แต่บางครั้งก็มองถึงผลอันเกิดแก่ผู้รับเป็นรอง เรียก กุศล เหมือนกันแต่กุศลของเขา
    บารมี คือ ความตั้งใจเพื่อให้เป็นไปในทางที่เป็นกุศล ทั้งหลักและรอง มันเป็นเพราะความพอใจในความตั้งใจนั้นโดยใช้ทั้ง ความพยายาม ความศรัทธาและสติปัญญา มีมากก็คือมาก มีน้อยก็คือน้อย อันนี้เรียก บารมี
     
  4. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    มีคนมาตอบแล้ว
     
  5. เด็กชายปราบ

    เด็กชายปราบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2022
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +32
    ผมชอบท่านนี้แปล รู้สึก ตรงกะผลงาน

    บุญ คือ เหตุที่เล็งให้เกิดความสุข
     
  6. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ทำดี ละชั่ว ทำจิตให้บริสุทธ์ หลักของพุทธศาสนา

    ทำดี ก็ได้บุญ
    ทำชั่ว ก็ได้บาป
    จิตให้บริสุทธ์ ก็ต้องสร้างบารมี เช่นทานบารมี ศลีบารมี ปัญญาบารมี

    บารมีทำงานเหมือนแม่ไก่ฟักไข่
    ลูกไก่จะออกจากเปลือกไข่ได้ ก็ต้องโตในฟองไข่ก่อน
    โตเต็มที่แล้ว จึงจะสามารถออกจากเปลือกไข่ได้
     
  7. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    พระพุทธองค์ ท่านไม่เรียกว่าท่านบำเพ็ญบารมี หากจำไม่ผิด
    ท่านให้ทำอิธิบาท 4 เป็นบาทฐาน
    และหากใครกำลังจะเพียร ไปคิดว่าว่าตัวเองบารมีน้อย บารมีมาก
    จะเกิดทิฐิมานะ ไปเสียเปล่า พระพุทธองค์จึงทรงตรัส ธรรมมเป็นอกาลิโก ท่านทรงเป็นห่วง
    พวกคิดเยอะ พวกที่ชอบคิดว่า ตัวเองบารมีน้อย บารมีมาก นั้นล่ะ

    ส่วนบุญคือ กุศลที่ทำให้ใจมีความสุข ยินดีกับผลนั้น บุญไม่ใช่ของพุทธ เพราะพุทธคือหนทางของหลุดพ้นเท่านั้น หากใจไปแสวงหา ทำให้เกิดสุขทางใจ นับว่าจะผิดทาง
     
  8. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ชาวพุทธมีสองส่วน
    ส่วนแรกคือส่วนที่เกี่ยวกับข้องกับโพธิสัตว์ เป็นบุคคลที่โพธิสัตว์
    พาบำเพ็ญบารมี ถ้าสังเกตุจากประวัติพระพุทธเจ้าจะเห็นว่าโพธิสัตว์
    เกิดเป็นกษัติย์บ้าง เกิดเป็นดาบสบ้าง เกิดเป็นพยาช้าง เกิดเป็น
    พยาลิงบ้าง ฯลฯ และจะมีบริวารจำนวนมาก การเกิดแต่ละชาติ
    เป็นไปเพื่อสั่งสมบารมีให้เต็ม พอเต็มก็ใส่กุญแจไว้ เพื่อรอชาติสุดท้าย
    เมื่อโพธิสัตว์จะอุบัติเป็นพระพุทธเจ้า บรรดาสาวก ก็จะเกิดร่วมกัน
    เพื่อบรรลุธรรมและตั้งศาสนาขึ้นในโลกนี้

    ส่วนที่สองเป็นชาวพุทธไม่ขึ้นตรงกับโพธิสัตว์ เคยเกิดทันในสมัยที่มีพุทธศาสนา
    ของพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ ฟังธรรมแล้วตั้งใจไปนิพพาน ก็สร้างบารมีไป
    มีการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ถ้าคนไหนบารมีเพียงพอแล้ว พอมาเกิด
    ทันพุทธเจ้าในปัจจุบัน ก็จะสามรถบรรลุด้วยอุบายที่พระพุทธเจ้าสอน

    เมื่อพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลก ท่านจะพิจารณาบารมีของดวงจิตสัตว์โลก
    (พิจารณาบัวสี่เหล่า)เมื่อสามารถตั้งศาสนาขึ้นได้แล้ว ศาสนาก็จะเป็นประโยชน์
    กับบุคคลที่สนใจ

    จะเห็นว่าต้นพุทธกาลมีคนบรรลุธรรมเป็นจำนวนมากก็เพราะเป็นลูกๆที่ท่านพา
    บำเพ็ญมารมีมาจนเต็มและเกิดร่วมสมัยกับพระองค์ เรียกว่าเป็นช่วงเก็บเกี่ยว
    คือทำดอกบัวให้บาน ทำจิตให้หมดอาสวะกิเลส

    และการไว้ศาสนา(อายุศาสนา)นานๆก็เป็นประโยชน์กับบุคคลที่ต้องการบรรลุธรรม
    เพราะการบำเพ็ญบารมีในขณะมีพุทธศาสนาทำได้ง่ายกว่าเพราะมีคำสอนปรากฏอยู่
    เช่นฆรวาสมีการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ส่วนพระ ศีล สมาธิ ปัญญา เรียกว่า
    เดินในทางมรรคแปดนั้นเอง..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กุมภาพันธ์ 2022
  9. ปวีรัศมํชา

    ปวีรัศมํชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2022
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +2
    เมื่อก่อนก็เคยคิด ว่าคนจะบรรลุต้องสร้างบารมีมามาก แต่พอมาลองฝึกจิตดู.. ที่แท้อยู่ที่ความขยัน กับทำให้ถูกต้อง


    ส่วนพวกพุทธภูมิ ส่วนตัวไม่ค่อยเชื่อ ว่าใครจะช่วยใคร
    ทดสอบง่ายๆ คือลองพูดเรื่องเงิน

    หรือแม้แต่คนเป็นพุทธภูมิชวนคนทำบุญโน่นนี่นั่น ก็ไม่เคยเอาเงินตัวเอง 100% ออกเอง มีแต่เรี่ยไรชาวบ้านไปสร้างทั้งนั้น
     
  10. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    ลองตั้งใจ อารถนาศีล และตั้งจิตถือ กรรมบท 10 แล้วก็แผ่เมตตาให้ตัวเองไปเรื่อยๆสัก 3 วัน
    แล้วลองสำรวจความคิดของตัวเองดู ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง แล้วเปลี่ยนอย่างไร
     
  11. ปวีรัศมํชา

    ปวีรัศมํชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2022
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +2
    การทำบุญของชาวพุทธ เป็นเรื่องของการค้าขายแลกเปลี่ยน จะมีสักกี่คนที่ไม่มีการขออะไรในใจ

    เราทำบุญแล้วจะได้อะไร? ก็ได้การสละออก ได้ความสบายใจ ใช่มั้ย... เราจะต้องทำเพื่อสะสมอะไรกัน

    ถ้าพูดว่าทำบุญดีกว่าทำบาป อันนี้พอฟังได้หน่อย

    และศาสนาพุทธเป็นเรื่องของการฝึกทางด้านพ้นทุกข์ ไม่น่าจะใช่เรื่องของการสร้างโน่นนี่นั่นกันจนล้นเหมือนทุกวันนี้
     
  12. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    ทุกการเดินทางแต่ละคนต้องเคยผ่านทั้งความทุกข์ความเพลิดเพลินในบาปบุญ กุศล อกุศล ทุกคนต้องเคยติดข้องตรงนี้ทั้งนั้น…ตราบใดที่ยังมีนิพพานเป็นเป้าหมาย เพียรกำหนดรู้ สักวันจะต้องมาเจอจุดที่สลัดคืนทั้งกุศล อกุศลได้เอง
     
  13. ฟ้ากับเหว

    ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +372
    ขยายความอีกนิดสิ ว่าอะไรเป็นอะไร
     
  14. เด็กชายปราบ

    เด็กชายปราบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2022
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +32
    เป็นสิ่งที่ลูกเพ่ คิดเอาเอง ลูกเพ่ได้สิทธิ์นั้น :rolleyes:
     
  15. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    อะอ๊า..ok ได้สิทธิ์แล้ว 55
    เอาเป็นว่า เป็นความละเมอของผมเอง(ความเห็นผม)
    ผมอยากเขียนในสิ่งที่ผมอยากเขียน และมีหลายเรื่อง
    ที่จะละเมอเขียนไปตามแบบของผม

    ผมอธิฐานมาแล้วก่อนเกิด และเวบนี้มีไว้เขียนส่งการบ้าน
    และเป็นกระทู้ที่ผมตั้งเอง ผมก็มีสิทธิ์เขียนอยู่แล้ว
    ใครถูกใจไม่ถูกใจเป็นของบุคคล ถ้าไม่พอใจก็ไม่ต้องอ่าน
    ข้ามไปได้เลย เพราะเป็นเรื่องละเมอของผม55

    ส่วนใครจะแสดงความเห็นอะไรก็สิทธิ์ของเขา..
     
  16. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    นิมิตภาวนา ไปให้สุดทาง

    ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ปี2540ได้นิมิตอนาคต ขณะนั่งภาวนาพิงฝาให้ห้องเช่า
    มันปรากฏภาพนิมิตขึ้นมาว่า เรากำลังนั่งบนกิ่งไม้บนต้นไม้ต้นใหญ่
    จะเก็บผลไม้แต่พลัดตกลงมากระทบกับพื้นแต่ไม่เจ็บ พอฝืนขึ้นมา
    เห็นพระภิกษุรูปหนึ่งยืนอยู่ข้างๆ ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน

    เราเอาพระภิกษุนั้นแบกขึ้นหลัง แล้วออกวิ่งไป.. มองไปข้างหน้ามืดไปหมด
    มองไม่เห็นทาง แต่เป็นเหมือนทุ่งนากว้างๆ แล้วฝนก็ตก แต่เราก็วิ่งไป
    มีพระภิกษุแบกไว้บนหลังตลอด..วิ่งไป..วิ่งไป..

    ไปถึงจุดหนึ่งไปเจอคล้ายคันนา ขวางทางอยู่ เป็นคันนาไม่สูง สูงแค่น่อง
    พยายามวิ่งเพื่อจะข้ามไป..แต่ข้ามไปไม่ได้..พยายามวิ่งข้ามไปให้ได้
    มองเห็นขาตัวเองพยามวิ่งข้าม เริ่มหนักพระภิกษุที่แบกอยู่

    แล้วภาพเริ่มจะหายเลยพูดสำทับไปว่า..”ต้องไปให้สุดทาง”..
    ภาพนิมิตก็ปรากฏเป็นภาพต่อ ข้ามคันนาได้แล้ว รู้สึกมีกำลังมาก..
    พระภิกษุยังแบกไว้ข้างหลัง แล้วออกวิ่งต่อ ทางข้างหน้ายังมืดอยู่

    ฝนก็ยังตกพร่ำๆ แต่ตัวเองมีกำลังมากออกวิ่งไปอย่างเร็ว
    วิ่งน้ำที่พื้นกระจายเลย วิ่งไป..วิ่งไป..ก้มหน้าวิ่งไป จนไปถึงที่หนึ่ง
    วิ่งต่อไปไม่ได้แต่ไม่อะไรขวาง เลยเงยหน้ามอง

    มองไปรอบๆปรากฏว่าสว่างไปหมด..จากนั่นภาพนิมิตก็ถอยออก
    เลยนั่งพิจารณานิมิตแต่ยังไม่เข้าใจ แต่ก็จำเอาไว้
    (จำไม่ลืมเลยเพราะแปลกอยู่มาก)
     
  17. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ความพิเศษศาสนาของสมณะโคดม

    1.. การบำเพ็ญบารมีของพระศาสดาพระสัมมาสัมโพธิญาณ พระศาสดาเป็นโพธิสัตว์
    ประเภทปัญญาธิกะ ท่านใช้เวลาไม่นาน ก็บำเพ็ญบารมี20อสงไขยกับเศษแสนกัปป์ครบ
    ใช้เวลาไปหนึ่งอสงไขยกว่าๆของกาลเวลา(หนึ่งอสงไขยของการเวลาถ้าเทียบแบบง่ายๆ
    โลกมนุษย์แตกดับไป600กว่าใบ) เรียกว่าเร็วมาก

    2.. การวางอายุพระศาสนาไว้ห้าพันปี ถือว่านานมากๆ อายุเฉลี่ยของคนยุคนี้100ปี
    แล้วจะให้ศาสนาถึงห้าพันปี ต้องผ่านช่วงคนไปห้าสิบช่วงคนเลย การผ่านหลายช่วงคน
    จะทำให้การเกิดการเปลี่ยนแปลงตลอด การรักษาศาสนาหลักธรรมวินัยคำสอนจึงยากมาก
    โดยปกติอายุของศาสนา แค่สองช่วงคนครึ่งก็หายแล้ว(อันตรธาน สูญหายไป)

    3.. ศาสนาอุบัติในยุคคนมีอายุเฉลี่ย100ปี ผู้คนที่เกิดท้ายกัปเช่นนี้จะไม่ตั้งมั่น
    ในจริยธรรมคุณธรรม ไม่เหมือนกับคนต้นกัปเช่นคนอายุแสนปีหรือหลายหมื่นปี
    เรียกว่าศาสนาอุบัติขึ้นมาเพื่อโปรดคนยุคเสื่อมเลยทีเดียว


    เรียกว่าศาสนานี้..ทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้
     
  18. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
  19. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    พระศาสดาบอกไว้ก่อนแล้ว พอถึงกึ่งพุทธกาล
    ศาสนาของพระองค์จะเสื่อมลงอย่างมาก

    ลักษณะของเส้นกราฟ บอกความเป็นไปของศาสนา
    ได้จากนิมิตที่ส่งมา

    เท่าที่ผมระลึกได้ ทำให้ทราบว่าเรามาเกี่ยวข้องกับศาสนานี้
    ตั้งแต่พระพุทธองค์ตรัสรู้ และพยายามดูแลศาสนาเรื่อยมา
     
  20. ปวีรัศมํชา

    ปวีรัศมํชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2022
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +2
    ศาสนาพระสมณโคดม ไม่ได้ตายตัวที่ 5 พัน

    จะสั้นกว่า 5 พันก้อได้ ยาวกว่า 5 พันก็ได้ อยู่ที่ยังมีคนสนใจปฎิบัติอย่างจริงจัง และทำให้ถูก

    อึกอย่างนิมิตเป็นสิ่งที่เชื่อไม่ได้ทุกกรณี เพราะจิต จข.สร้างมันขึ้นมาเอง แม้กรรมฐานกลุ่มที่ใช้นิมิตยังเชื่อถือไม่ได้ ยกเว้นใช้วิปัสสนาคุมภาพนิมิตนั้นไว้ แล้วโน้มนิมิตเข้ามาพินากาย เพื่อประโยชน์ในการถอนการยึดมั่นถือมั่น ก็อีกเรื่อง
     

แชร์หน้านี้

Loading...