วิญญาณ มีมวลสารและมีน้ำหนัก ใช่หรือไม่?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย NiNe, 3 กันยายน 2005.

  1. freeek

    freeek สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +8
    มีเอกสาร หรือหลักฐานอะไรมั้ยครับ ว่ามีการทดลองนี้จริง
     
  2. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    เรื่อง"จิตวิญญาณ"เป็นเรื่องที่น่าศึกษามากนะครับ..เรื่องไก่งวงไม่มีหัวแต่มีชีวิตอยู่ได้2-3วัน พอจะอธิบายในแบบวิทยาศาสตร์ตามที่ได้เรียนรู้มาได้บ้างครับ..

    ตามที่ทราบโดยทั่วกันว่าจิตวิญญาณประกอบด้วนหน่วยของประจุไฟฟ้าจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน มันสามารถแบ่งแยกแตกตัวออกไปตามการขับเคลื่อนของความรู้สึกนึกคิดและอารมณ์ จิตวิญญาณจะพุ่งไปในทิศทางนั้น (ไม่ได้พุ่งออกไปทั้งหมด แต่ออกไปเพียงบางส่วนในทิศทางนั้น) หรือก่อตัวขึ้นตามคลื่นอารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง โดยมีสมองเป็นที่แปลงรหัสสัญญาณให้เป็นปฎิกริยาไฟฟ้าเคมี โดยมีต่อมไร้และมีท่อต่างๆ ช่วยในการขับเคลื่อนร่างกายไปตามที่ได้รับข้อมูลนั้นๆ (เหมือนเครื่องยนต์นะครับกว่าจะสตารท์ติดต้องมีอุปกรณ์ช่วย)
    จิตเราอาจจะมีที่ตั้งอยู่จุดหนึ่งเหมือนเป็นประธานแล้วแบ่งหน้าที่ให้จิตย่อยอื่นๆมีหน้าที่ร่วมกันทำแต่เป็นหนึ่งเดียวกัน..อาจเป็นเหตุผลหนึ่งเราจึงเห็นไก่งวงเดินไปมาได้ทั้งๆที่ไม่มีหัวเพราะเขาอาจยังต้องการมีชีวิตอยู่ จิตเขาจึงยังเชื่อมกันอยู่ได้ราวปาฏิหารย์..ก็เป็นได้ครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2005
  3. Paranormal

    Paranormal สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +4
    น่าจะมีนะ แต่คงน้อยมากกกกกๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ถ้าจิต(วิญญาณ)มีสภาพเป็นประจุไฟฟ้า หรืออะไรที่ใกล้เคียง ก็มีน้ำหนักนะ อาจจะเป็นน้ำหนักประมาณของอิเล็กตรอนหลายตัว(ไม่รู้เท่าไหร่ง่า) แต่ผมว่ามีแน่นอนนะ
     
  4. หมอช๊อต

    หมอช๊อต สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +14
    ก็ให้คนที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการถอดจิต หรือ การอัญเชิญดวงวิญญาณ มาไว้บนตาชั่งสิครับ

    ง่ายดี
     
  5. นายผี

    นายผี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +3
    เง้อ
     
  6. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ขอให้อ่านกันด้วยความเพลิดเพลิน..เอาแต่สาระประโยชน์มาแบ่งปันกันครับ..ไม่ต้องจริงจังนะครับ..(ความรู้จากอาจารย์ปริญญา ตันสกุล ครับ..)

    จิตวิญญาณที่แท้แล้วมีน้ำหนักแน่นอนครับ(ถึงจะมีแต่ก็เหมือนไม่มี)..แต่เบามากเบายิ่งกว่าก้อนเมฆหลายๆเท่า ไม่อาจจะวัดน้ำหนักมวลได้ด้วยเครื่องชั่งบนโลกมนุษย์ครับ
    "แรงดึงดูดของโลก"เป็นเหตุให้เกิดน้ำหนักมวลของทุกสรรพสิ่งก็จริง ถ้าไปวัดบนดวงจันทร์ก็จะได้ค่าไปคนละแบบ..

    แต่การที่"จิตวิญญาณ"จะต้องลงมาจุติหรือปฏิสนธิกับร่างกายมนุษย์ได้ต้องอาศัยพลังงานหรือ"อำนาจในตนเอง"ดึงดูดเหนี่ยวนำลงมาตามทิศทาง(direction) ของผลบุญหรือผลกรรมกรรมนั้นๆที่เหมาะสมสอดคล้องกันพอดิบพอดี..เช่นการมา้เกิดกับครอบครัวใด ผูกกรรมไว้กับใครบ้าง...บนเงื่อนไขของเรื่องที่ต้องกลับมาแก้ไขตนเองใหม่..

    "จิตเดิมแท้"นั้นมีความบริสุทธ์มากแรงดึงดูดของโลกไม่อาจมีผลกระทำใดๆกับจิตวิญญาณได้ และยังอยู่เหนือกฎแรงโน้มถ่วงของจักรวาลด้วยนะครับ..

    นอกจากว่าจิตวิญญาณดวงนั้นมี"ผลกรรม"ที่ยังต้องรอการชดใช้ หรือยังชำระไม่หมด จนมีน้ำหนักมวลเพิ่มขึ้นจากเดิม (บันทึกเป็นประจุลบ)จึงจะมีผลกับแรงดึงดูดของโลก การมีน้ำหนักมากขึ้นหนักขึ้น หมายถึงการ"ไม่หลุดพ้น"ออกไปจากระบบโลก รวมทั้งจักรวาลด้วย..(รวมทั้งผมด้วยเช่นกัน) เกิดการมีภพชาติต่างๆตามมา..

    จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อจิตออกจากร่างไปแล้ว ก็เอารหัสของประจุลบที่มีน้ำหนัก ที่บันทึกเอาไว้ติดออกไปเป็นคุณสมบัติของจิตวิญญาณ ไปรอการเกิดใหม่ในภพชาติถัดไป..ช่วงนั้นร่างกายอาจมีน้ำหนักลดลงบ้าง และกายสังขารก็จะค่อยๆหดเล็กลงไป กลับคืนสู่ธรรมชาติในที่สุด...

    ดังที่"พระพุทธเจ้า"หรือรูปธรรมชั้นสูงทั้งหลายได้กล่าวไว้ ให้ชำระกิเลส ขัดเกลาดวงจิตให้ผ่องใสบริสุทธ์ดั่งเดิมให้ได้ โดยดับการเกิดดับทั้งปวงให้จงได้ เพื่อ"ให้น้ำหนักจิตวิญญาณลดลงเท่าเดิม"เหมือนตอนแรกที่เราลงมา ในที่สุดเราก็มีจะมีโอกาสหลุดพ้นจากระบบโลกได้ได้กันทุกๆคน...

    สงสัยจะยังสนุกกับโลกนี้กันอยู่แน่ๆเลย...ไม่อยากกลับบ้านกัน...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2005
  7. peerachai333

    peerachai333 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +15
    ร่างกาย (รูป)

    ร่างกาย (รูป) ประกอบด้วย ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ เวลาคนตายธาตุลมและธาตุไฟจะดับไปก่อนเพราะฉะนั้นน้ำหนักที่หายไป คือ ธาตุไฟ ไม่ใช่ ( นาม )
     
  8. weare

    weare สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    เออ โม้กันเข้าไป รำคาญ
     
  9. poonpan

    poonpan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +6
    รำคาญก็น่าจะไปนอนได้แล้วเดียวก็บ้าหรอก อยากรู้เข้ามาทำ...ไม
     
  10. Paranormal

    Paranormal สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +4
    ตามนั้น!!
     
  11. ผู้ใฝ่รู้

    ผู้ใฝ่รู้ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +31
    ข้อความข้างล่างนี้ใครอ่านแล้วอย่าคิดมากนะ ข้าพเจ้าก็แค่คนเพ้อเจ้อน่ะ



    +อืมไม่รู้สิ รู้แต่ว่าเราสัมผัสเขาได้ด้วยอ่ะ แต่ว่า.. เราคิดว่าก็น่าจะมีน้ำหนักอยู่น่ะนะ เพราะบางครั้งเราได้ยินเสียงเดินด้วย เราว่าเขาน่าจะแบบเป็นเหมือนประจุไฟฟ้าด้วยน่ะ เพราะว่าเวลาที่พวกเขามาใกล้เราจะรู้สึกว่าเหมือนมีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ( เหมือนไฟฟ้ารั่วน่ะ ) ค่อยๆ เคลื่อนเข้ามา ( ถ้านึกไม่ออกก็ลองแบบว่าหันหลังอยู่คนเดียวแล้วทำอะไรเพลินๆ ดู สิ ถ้าหากมีคนหรือมีสัตว์เดินเข้ามาใกล้เราจะรู้สึกว่ามีคนเดินมาอะไรงี้ หรือเหมือนเวลาเดินๆ อยู่แล้วรู้สึกว่ามีคนเดินตามน่ะ นั่นล่ะความรู้สึกเหมือนกัน เพียงแต่ว่าถ้าเป็นวิญญาณแล้วเราจะไม่เห็นตัว ถ้าหากคลื่นไม่ตรงกัน เราก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะมันจะเป็นช่วงๆ น่ะเหมือนคลื่นวิทยุมั๊ง ถ้าหมุนไม่ตรงก็ไม่ชัดน่ะ )

    เอ พิมพ์อย่างนี้เดี๋ยวมีคนเข้าใจผิดว่าเรามีตาทิพย์แน่ะ เราก็แค่ความรู้สึกไวเท่านั้นเอง

    และก็เออแน่ะจะบอกให้นะว่าวิญญาณแบบในหนังน่ะไม่มีหรอก ต่อให้เขาตายแบบว่าหัวแบะหน้าเละ เขาก็จะมาแบบปรกติ เหมือนคนแหล่ะ ถ้าเป็นสัมภเวสีก็จะมาแบบตัวดำๆ เหมือนเป็นเงา ถ้าอยากให้เขาชัดขึ้นต้องทำบุญให้ พวกนี้ส่วนใหญ่จะไม่ดุร้ายถ้าหากว่าเราไม่ไปท้าทายหรือลบหลู่เขาก่อนเขาจะไม่ทำร้ายเรา พวกที่ชอบไปลองของน่ะระวังให้ดีเพราะเขาจะโกรธมาก แต่ถ้าลองไปแล้วต้องทำบุญให้เขาด้วย ถ้าเป็นวิญญาณที่มีบุญเขาจะมาแบบว่าสว่างเหมือนกลางวันเลยล่ะ และก็จะแบบชัดมากด้วย ส่วนใหญ่ประเภทนี้จะมาเพื่อให้โชคลาภ หรือมาเตือนมาบอกข่าวอะไรประมาณนี้ ถ้าเป็นพวกเจ้าที่เจ้าทางก็จะมาในแบบชุดโบราณ ใส่กำไลแขนกำไลเท้า

    ทำบุญให้ก็ไม่ยาก ตักบาตรและกรวดน้ำไปให้ แค่นี้เอง

    จะบอกให้ว่าเราน่ะกลัวผีมาก แต่ทุกวันนี้เลิกกลัวไปแล้วล่ะ กลายเป็นเพื่อนร่วมโลกอีกรูปแบบหนึ่งไปแล้ว ขำน่ะ แต่เราขำไม่ออก
     
  12. ยายทองประสา

    ยายทองประสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +3,069
    คุณพีระชัย อธิบายได้น่าสนับสนุนมากครับ
    วิธีของเว็บสโนว์ง่ายแต่ทดลองยาก
    เรื่องไก่ ผมไม่เชื่อครับ แค่มีดโดนคอมันๆยังดิ้นพรวดๆ เลือดฉีดปี้ดๆ ประเดี๋ยวเลือดหมดมันก็ตายครับ ส่วนวิญญาณจะอยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งนั้นผมว่าไม่น่าใช่

    วิญญาณขันโธ คือ วิญญาณ เป็นเครื่องรับรู้ คนที่แขนขาด แต่เค้ายังสามารถรับรู้เสมือนยังมีแขนอยู่นะครับ(คล้ายกับเรื่อง ออร่าของใบไม้) ผมว่าวิญญาณจะยึดกับร่างที่มีชีวิต ส่วนที่โดนตัดทิ้งไป หรือไม่มีชีวิต วิญญาณจะเข้าอยู่ไม่ได้ ส่วนคนตายนั้นวิญญาณอยู่ไม่ได้ครับเพราะไม่มีชีวิตแล้ว อย่าลืมนะครับว่าวิญญาณเป็นเครื่องรับรู้ สัมพันธ์กับจิตมาก (จิตกับวิญญาณ คนละอย่างนะครับ)
    แต่เราสามารถกำหนดจิตไปรวมกันตรงจุดหนึ่งๆได้ เมื่อเพิกเฉยขันธ์ 5 ได้ก็เรียกว่าเข้าฌานสมาบัติ คือไม่สนใจใน รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ดับขันธ์ 5 ได้ชั่วขณะ.... ถ้าจัดขาดจากขันธ์ 5 ได้ชื่อว่าเสร็จกิจครับ....

    เห็นด้วยกับคุณเว็บสโนว์ที่ว่าจิตมีสองรูปแบบคือ จะมองเป็นคลื่นก็ได้ จะมองเป็นสสารก็ได้ คล้ายคุณสมบัติของแสง
     
  13. ชา ใคร่รู้

    ชา ใคร่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +496
    เรื่องไก่ที่โดนตัดหัว เคยมีสารคดีเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ครับ ผมเคยดูแต่จำไม่ได้ว่าออกทีวีช่องไหน คือว่าเป็นความฟลุ๊คที่บังเอิญการตัดหัวไก่ตัวนั้นไม่ได้ทำลายก้านสมองของไก่ กล่าวคือไก่ตัวนั้นมีแต่คอและส่วนที่เป็นก้านสมอง (ไม่ได้คอขาดกระเด็นอย่างที่เข้าใจกัน) ทำให้มันไม่ตายและยังทำเงินให้เจ้าของมากพอดู หลังจากนั้นฝรั่งเขาก็ทดลองเรื่องนี้อยู่เหมือนกันแต่ก็ไม่สำเร็จ(สงสัยอยู่ว่ามันแหกเนตรเราหรือเปล่า) รายละเอียดผมจำไม่ได้แล้วล่ะครับ ก็เอามาเล่าให้ฟังครับ ผมเองก็ยังไม่ค่อยเชื่อเพราะมันขัดๆกับความรู้สึกพิกล
     
  14. ชา ใคร่รู้

    ชา ใคร่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +496
    ขอโทษครับ คุยกันเรื่องวิญญาณนี่นา น่าสนใจมากครับ ลองช่วยกันออกแบบการทดลองดูก็ได้นะครับ ทำเป็นกิจกรรมระดมปัญญาก็ได้ ถ้ามีความคืบหน้าก็มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ
     
  15. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,482
    การทดลองที่ยืนยันว่า วิญญาณมีมวลสาร คือ "ภาพถ่ายของเคอร์เลี่ยน"

    ประวัติความเป็นมา : เป็นการทดลองถ่ายภาพ "ชีววิญญาณ" ของช่างภาพชาวรัสเซีย เมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมานี้ (ไม่นานมานี้)

    วิธีการ : โดยใช้หลักการของการถ่ายภาพที่มีสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเข้ามาช่วยในการถ่าย และสิ่งที่สำคัญคือการใช้สนามความต่างศักย์ของไฟฟ้าสูง (High Voltage) ความถี่สูง (High Frequency) ผ่านพื้นผิวของฟิลม์ถ่ายภาพที่มีความไวมากๆ และที่สำคัญมากๆ คือต้องทำให้ห้องมืดเท่านั้น

    การทดลอง : นำใบไม้ที่เพิ่งเด็ดจากต้นไม้มาใหม่ๆ มาที่ชุดทดลอง และตัดใบไม้ครึ่งหนึ่ง (ส่วนที่เหลือรีบนำมาถ่ายภาพเคอร์เลี่ยนทันที)

    ผลการทดลอง : สิ่งที่ได้คือ "เส้นสายใยของใบไม้ที่ยังคงรูปร่างอยู่ แม้นว่าส่วนที่ได้ถูกตัดออกไปแล้วจะสูญหายไป แต่ยังทิ้งร่องรอยแห่งพลังชีวิต และจะสังเกตุได้ว่า สายใยแห่งโครงของใบไม้ยังคงอยู่ หากแม้นแต่ว่า ลางเลือนลงไปบ้างเล็กน้อย"

    ผมมีผลงานของภาพถ่ายชุด เคอร์เลี่ยน ในสมัยที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ แต่เสียดายที่อยู่ต่างจังหวัด เอาไว้เมื่อไหร่ที่ผมได้มีโอกาสกลับต่างจังหวัด แล้วผมจะ Scan มาโพสท์ไว้ที่นี่ ... แต่เป็นภาพที่ไม่ค่อยตรงทฤษฎีเท่าไหร่นัก เพราะว่า ผมไม่มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่จ่ายไฟฟ้าได้เป็นหมื่นๆ โวลท์ และไม่มีเครื่องสร้างความถี่ที่เป็นแหล่งจับพลังงานของวิญญาณที่สามารถสร้างความถี่ได้เป็นเมกาเฮิร์ซท์ ... แต่ภาพที่ถ่ายมาจาก กล้องที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับโครงการนี้ ... "พอใช้ได้ครับ" ....พอจะเห็นอะไร ลางๆ เลือนๆ

    นี่คือตัวอย่างภาพถ่าย "ชีววิญญาณ" หรือที่เราเรียกว่า "ภาพถ่ายเคอร์เลี่ยน"

    ค้นคว้าเพิ่มเติม : ....

    หมายเหตุ : ภาพข้างล่างนี้เป็นผลงานของต่างชาตินะครับ ไม่ใช่ผลงานของผม (ผลงานของผมพอใช้ได้ใกล้เคียง แต่ไม่สวยสด และมีความละเอียดมากเท่าขนาดนี้นะครับ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2005
  16. อนันตรา

    อนันตรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +325
    เท่าที่ได้รับทราบมา ภาพถ่ายเกอร์เลียนนั้นเป็นการถ่ายภาพรังสีออร่าที่เปล่งออกมาจากสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ไม่ใช่ภาพวิญญานหรอกค่ะ มันคือพลังงานชนิดที่สิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีอยู่ในขณะที่ร่างกายยังทำงานจะปกติหรือไม่ปกติแสงออร่าก็จะแสดงพลังงานออกมาให้สามารถจับภาพได้เป็นแสงสีต่างๆกันไป เช่นบริเวณศีรษะของผู้ที่กำลังโกรธก็จะเป็นรังสีสีแดง หรือออร่าของผู้ที่กำลังเข้าสมาธิก็จะสว่างและออกสีม่วงอย่างนี้เป็นต้น ส่วนเรื่องมวลของวิญญานนั้นค่อนข้างมั่นใจมากว่ามีแน่ๆจากประสบการณ์ส่วนตัวหลังจากที่คุณพ่อเสียชีวิตได้ครบ 15 วัน รู้สึกได้ขณะที่กำลังตื่นอยู่นะคะว่ามีมวลบางอย่างที่ แน่นกว่าอากาศรอบตัวโดยปกติ วนอยู่ข้างหน้าและสัมผัสได้ที่ผิวหน้าว่า แน่นแต่นุ่มและเย็นมีกลิ่นหอมอ่อนๆบางๆ เป็นอย่างนั้นอยู่ประมาณ 1-2 นาทีก็หายไปและเมื่อตั้งสติได้หันไปมองพี่สาวที่นั่งอยู่ข้างๆเขาทำสีหน้าบอกไม่ถูกแล้วพูดออกมาเหมือนที่เรารู้สึกได้เลยค่ะ
     
  17. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,482
  18. หลับตา

    หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    716
    ค่าพลัง:
    +3,151
    ไก่ไม่มีหัวเป็นเรื่องจริง ชื่อ เจ้า mike อยู่ได้ 18 เดือนแบบไม่มีหัว ดังไปทั่วโลก มีคนพยายามทำตาม แต่อยู่ไม่นานเท่าเจ้าไมค์
     
  19. หลับตา

    หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    716
    ค่าพลัง:
    +3,151
  20. Ambient

    Ambient สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +1
    วิญญานในพุทธศาสนาเป็นนามธรรมครับไม่ได้เป็นรูปธรรม
    ส่วนที่มีน้ำหนักได้ใน ธรรมธาตุทั้งหลายต้องเป็นรูปธรรมเท่านั้นครับ
    วิญญานขันธ์คือ การรับรู้เท่านั้น เมื่อคนตายน้ำหนักลดลง
    แสดงว่า รูปธาตุใดเสื่อมสลายไป ไม่เกี่ยวกับ วิญญานเลยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...