วัตถุมงคล...เริ่มหน้า 676 เป็นต้นไป

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ญาณวโร นามะ, 4 มกราคม 2017.

  1. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,695
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11281.เหรียญพระเจ้าตาเขียว รุ่นแรก วัดบ้านเหล่า ต.บ้านเรือน อ.ป่าซาง จ.ลำพูน รุ่นนี้เป็นรุ่นศิษย์สร้างถวาย สมทบทุนสร้างพระอุโบสถ ปี 2530 ครับ สภาพสวยครับ ***แบ่งให้บูชา 650 บาท***ลดเหลือ100บาท ิปิดครับ
    DSC_0561.JPG DSC_0563.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2023
  2. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,695
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11282.รูปหล่อ หลวงพ่อนิล วัดหน้าต่างใน จ.อยุธยาเนื้อทองผสมสภาพสวยมากเก่าคร่ำพอมีอายุหลวงพ่อนิลท่านเป็น**พระน้องชายแท้ ๆ ร่วมสายโลหิต คู่บารมีขององค์ท่านหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ***แบ่งให้บูชา 450 บาท****ลดเหลือ 100 บาท
    DSC_0497.JPG DSC_0499.JPG
     
  3. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,695
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11283. เหรียญพระพุทธรูปแม่เจ้าอยู่หัว วัดท่าคุระ อ.สทิงพระ จ.สงขลา ปี 2528 ชุบนิเกิ้ล สภาพสวย ***แบ่งให้บูชา 300 บาท****ลดเหลือ 100 บาท ปิดครับ
    เจ้าแม่อยู่หัว หมายถึง พระพุทธรูปทองคำที่สร้างแทนตัวบุคคล ที่ชาวบ้านท่าคุระ บุคคลทั่วไปให้ความเคารพนับถือและเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธ์ซึ่งบรรพบุรุษได้สร้างไว้เมื่อหลายร้อยปีมาแล้วจึงเป็นมรดกตกทอดมาให้คนรุ่นหลังได้เคารพสักการบูชาสืบต่อกันมา รวมทั้งเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ที่รวมใจเป็นหนึ่งทำให้ลูกหลานเกิดความรัก ความสามัคคีสืบมา
    เจ้าแม่อยู่หัว ประดิษฐานอยู่ที่วัดทุ่งคุระ หมู่ที่ 9 ตำบลคลองรี อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ขนาดหน้าตักกว้าง 2 นิ้ว สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นสมัยสุโขทัยตอนปลายหรืออยุธยาตอนต้น ประมาณ พ.ศ. 1900 ด้วยความเชื่อถือและศรัทธาว่าเจ้าแม่อยู่หัวมีความศักดิ์สิทธ์ ประชาชนทั่วไปจึงแสดงความจงรักภักดีความกตัญญูกตเวที ความศรัทธาโดยการสมโภชและสรงน้ำเจ้าแม่อยู่หัวทุกปี ด้วยความสามัคคีที่มีเป้าหมายตรงกัน โดยยึดเอาเจ้าแม่อยู่หัวเป็นศูนย์รวมจิตใจ แม้ว่าลูกหลานได้อพยพกระจัดกระจายย้ายถิ่นไปทำมาหากินทั่วประเทศ บ้างก็ไปรับราชการ บ้างก็ไปทำมาค้าขาย แต่ใน 1 ปี เมื่อถึงวันพุธแรกข้างแรมเดือน 6 ก็จะกลับมาเพื่อร่วม “สมโภชสรงน้ำเจ้าแม่อยู่หัว”เป็นพันธะสัญญาของลูกหลานในท้องถิ่น ชาติกำเนิด เจ้าแม่อยู่หัว หรือพระหน่อเชื่อกันว่าเป็นโอรสเจ้าเมืองใดไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัด แต่ท่านผู้เฒ่าเล่าต่อกันมาว่า เมื่อหลายร้อยปีมาแล้วมีเมือง ๆ หนึ่ง สมัยสุโขทัยตอนปลายอยุธยาตอนต้นเจริญด้วยศิลปวัฒนธรรมอย่างยิ่งน่าจะเป็นเมืองนครศรีธรรมราชในปัจจุบัน เจ้าเมืองมีโอรสหนึ่งพระองค์ มีพระนามเรียกขานทั่วไปว่าพระหน่อ พระชนมายุประมาณ 9-10 พรรษา ซึ่งเป็นที่รักใคร่ของพระบิดามารดาและเหล่าอาณาราษฏร เพราะนอกจากพระหน่อเป็นคนฉลาดเฉลียว ยังพูดจาไพเราะอ่อนหวาน ส่วนพระนามที่แท้จริงนั้นไม่สามารถจำได้ เพราะกษัตริย์เป็นสมมุติเทพมีพระนามยาว ๆ หลายพยางค์ พระหน่อสาบสูญ ตามธรรมดาพระหน่อมักจะลงเล่นน้ำสรงน้ำที่ท่าน้ำเป็นประจำ อยู่มาวันหนึ่งแม้ว่าพี่เลี้ยงนางสนมต่างดูแล และระมัดระวังเป็นอย่างดี แต่พระหน่อก็หายไปราวกับเกิดปาฏิหาริย์ ถึงจะค้นหาอย่างไรก็ไม่พบร่องรอย บ้างก็ดำน้ำลงค้นหา บ้างก็วิ่งไปหาบนตลิ่งต่างร้องไห้คร่ำครวญเพราะเสียใจที่เจ้าฟ้าอันเป็นที่รักยิ่งหายไป และเกรงกลังพระอาญา ในที่สุดเมื่อหมดปัญญาจึงได้พากันมากราบทูลให้พระเจ้าอยู่หัว และพระราชินีทรงทราบ พระเจ้าอยู่หัวทรงกริ้วเป็นที่สุดและพระราชินีถึงกับเป็นลมหมดสติไป พอตั้งสติได้ พระเจ้าอยู่หัวจึงทรงรับสั่งให้ทหารมหาดเล็ก เสนาบดีน้อยใหญ่ค้นหาอีกครั้งอย่างละเอียด แม้ได้แต่ร่างไร้วิญญาณก็ทรงพอพระทัยแล้ว ถึงค้นหาอย่างไร ก็ไม่พบอีกนั่นแหละ ถึงพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีจะทรงเสียพระทัยจนสุดที่จะพรรณนา แต่เชื่อในกฎแห่งกรรมและด้วยทศพิธราชธรรม พระองค์ก็มิได้ลงอาญาแก่ผู้ใด คำทำนายโหร เมื่อกษัตริย์ทั้งสองพระองค์ได้พยายามถึงที่สุดแล้ว ก็ไม่เป็นผลเลยรับสั่งให้โหราธิบดีทำนายตรวจดูดวงชะตาราศีของพระราชโอรส หลังจากโหราธิบดีได้ตรวจดูวัน เดือน ปี ลงเลขบวกลบคูณหารตามราศีอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว จึงกราบทูลว่า ดวงชะตาของพระหน่อยังไม่ถึงชีวิต เพียงแต่ตกอยู่ในพระเคราะห์เล็กน้อยด้วยผลบุญกรรมที่เคยทำไว้แต่ปางก่อนที่เสวยอายุ จึงทำให้ต้องพลัดพรากจากเมืองหลวงไป แต่ก็ไปในทางที่ดีจะพบผู้อุปการะอย่างดีและด้วยบุญญาบารมีต่อไปข้างหน้า จะมีเกียรติคุณ เกียรติศัพท์ เป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป แล้วจะกลับสู่พระราชฐานในไม่ช้า ขอให้ติดตามไปทางทิศใต้ ซึ่งเป็นที่ทุรกันดารเมื่อพระเจ้าอยู่หัวได้พรับฟังคำทำนายของโหรแล้ว ก็ตรัสให้เหล่าทหารมหาดเล็กจัดกำลังพลแยกย้ายกันออกเดินทางไปติดตามหาพระหน่อทางทิศใต้ โดยกำชับว่าหากไม่พบพระหน่อก็ไม่ต้องกลับเมืองหลวงแม้จะใช้เวลาสักเพียงใดก็ตาม ชีวิตใหม่ของพระหน่อ แต่เดิมนั้นเมืองพัทลุงตั้งอยู่ที่อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ปัจจุบัน โดยมีกษัตริย์ปกครองติดต่อกันหลายพระองค์ เช่น พระเจ้ากรุงทอง ปกครองตรงกับสมัยสุโขทัยตอนปลายพระเจ้าธรรมรังศัล ตรงกับสมัยกรุงศรีอยุธยา เมืองพัทลุงจึงมีประวัติสัมพันธ์กับกรุงศรีอยุธยาหลักฐานที่สำคัญปรากฏในการก่อสร้างวัดพะโคะ เมื่อ พ.ศ. 2057 ณ หมู่บ้านหนึ่งอยู่ทางทิศใต้ เมืองศิริธรรมนคร หรือ นครศรีธรรมราชในปัจจุบัน และทิศเหนือเมืองพัทลุงเรียกว่า บ้านพราหมณ์จัน ห่างจากวัดพะโคะ ประมาณ 2 กิโลเมตร มาทางทิศใต้และทิศเหนือของวัดท่าทอง หรือปัจจุบันเรียกว่าวัดท่าคุระประมาณ 1 กิโลเมตร บ้านพราหมณ์จัน ปัจจุบันเพี้ยนมาเป็นบ้านแพรจัน อยู่ในเขตปกครองหมู่ที่ 9 ตำบลคลองรี อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลาเป็นส่วนหนึ่งของแหลมที่ยื่นลงมา ทิศตะวันออกจรดอ่าวไทย ทิศตะวันตกจรดทะเลสาบสงขลาพื้นที่เป็นที่ราบดินเหนียว ปัจจุบันเป็นที่นาของนางไสว ยิ้มละมัย (กลิ่นสุวรรณ) ซึ่งเคยขุดพบถ้วยชาม เครื่องใช้โบราณมาแล้ว มีครอบครัวหนึ่งอยู่ช้านานแล้ว แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน ชื่อตาพรหม กับยายจัน ทั้งสองสู่วัยชราอาชีพทำนา เก็บผัก หาฟืน หากุ้ง หาปลา เอาแต่พอกินพอใช้ไม่เดือดร้อนอะไรเพราะเมื่อก่อนมีความอุดมสมบูรณ์ อยากจะกินปลาน้ำจืดก็ไปหาปลาตามลำห้วยหนองคลองบึงหรือในทะเลสาบ อยากจะกินปลาน้ำเค็มก็ไปหาปลาทะเลอ่าวไทย อยู่มาคืนหนึ่ง ตาพรหมฝันว่า เห็นช้างเผือกเชือกหนึ่งกำลังเล่นน้ำอยู่ แกได้จับมาเลี้ยงไว้ที่บ้าน แต่อยู่ได้ไม่นานช้างเผือกนั้นก็สูญหายไป ตา ยาย ก็แก้ความฝันไปต่าง ๆ นานา พอรุ่งเช้าตาพรหมก็ออกจากบ้านเพื่อไปหาปลาน้ำเค็มกิน ยายก็ช่วยจัดข้าวห่อ หมากพลู ใบจาก ยาเส้น เตรียมให้ตา ตาออกจากบ้านมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกคือบ้านแล ปัจจุบันอยู่ใกล้วัดชะแม ตำบลดีหลวง ตาพรหมหากุ้งปลาได้พอสมควรแล้วหยุดพักกินข้าวห่อแล้วเหลือบไปเห็นสิ่งหนึ่งลอยติดตลิ่ง แกก็ไปดูใกล้ ๆ เลยพบว่า เป็นเด็กผู้ชายเนื้อตัวของเด็กเต็มไปด้วยตะไคร่น้ำเต็มไปหมด แต่เป็นสิ่งที่น่าแปลกใจว่า ชีพจรยังทำงานปกติจับดุหน้าอกหัวใจก็เต้น เนื้อตัวก็ยังอุ่น ตารีบทำความสะอาดเด็กแล้วเอาน้ำจืดในกระบอกที่เตรียมไว้ดื่มเทบนร่างของเด็ก เพื่อชำระคราบน้ำเค็มและตะไคร่น้ำ ตาพรหมปฐมพยาบาลจนเด็กรู้สึกตัวได้สติ แกดีใจและแปลกใจระคนกันไปหมด เลยลืมสัมภาระและกุ้งปลาที่หามาได้จนหมดสิ้น แล้วรีบยกร่างเด็กขึ้นบ่าเพื่อพากลับบ้าน ระหว่างเดินทางก่อนถึงบ้าน ตาก็ได้หยุดที่บ่อน้ำตักน้ำมาลูบตามเนื้อตัวเด็กอีกครั้งหนึ่ง และหยดน้ำให้ดื่มจนเด็กกระปรี้กระเปร่าขึ้น แกก็อุ้มต่อไปจนถึงบ้าน ด้วยความดีใจตาตะโกนเรียกยายจันให้ลงมาดู โดยที่ตนเองยังไม่ได้ขึ้นบันได ตาขึ้นบนบ้านวางเด็กให้นอนดื่มน้ำ ดื่มท่า แล้วยายต้มน้ำอุ่นอาบให้เด็ก พร้อมกับประแป้งแต่งกายให้เรียบร้อย ตาตั้งสติได้เลยเล่าถึงความเป็นมาเป็นไปที่ได้นำเด็กมาจนยายเข้าใจ เวลาล่วงเลยไปหลายวัน ตา ยาย เลี้ยงดูเด็กเป็นอย่างดี จนปลอดภัยแข็งแรงขึ้น มีอาการปกติทุกประการ ตา ยาย สังเกตดูบุคลิก ลักษณะ ผิวพรรณ รูปร่าง หน้าตาและคำพูดจาของเด็กแล้วทั้งสองรู้สึกแปลกใจยิ่งนัก โดยเฉพาะคำพูดสำเนียงอ่อนหวาน ตาและยายไม่เคยได้ยินมาก่อน เพียงแต่รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ตาและยายสอบถามความเป็นมาของเด็กว่าเป็นมาอย่างไร เป็นบุตรของใคร เด็กเล่าให้ตากับยายฟังพอจับใจความได้ว่าเขาคือพระหน่อราชโอรสกษัตริย์เมืองเหนือ เมื่อตากับยายได้รับทราบดังนั้นก็รู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสได้เลี้ยงดูราชโอรส คิดว่าเป็นบุญวาสนาของตน ทั้งสองตา ยาย ได้ปรึกษาและลงความเห็นว่า หากเปิดเผยความจริงให้ใครรู้ว่าเด็กที่ตา และยายเลี้ยงคือพระหน่อ เป็นโอรสของกษัตริย์ อาจเป็นอันตรายของพระหน่อและตายายได้ จึงอธิบายให้พระหน่อเข้าใจและพร้อมใจกันปกปิดความจริงเอาไว้ ข่าวของตาพรหม ยายจัน พบเด็กแล้วนำมาเลี้ยงไว้ที่บ้านเผยแพร่ไปจนเพื่อนบ้านใกล้ไกลในระแวกนั้นมาเยี่ยมเยือนมากมาย ยิ่งเห็นบุคลิกลักษณะพูดจาไพเราะ อ่อนหวาน จึงทำให้เกิดความเคารพนับถือ ยำเกรง ต่างก็เจ้าใจว่าเด็กคนนี้มีบุญญาบารมี บางคนเจ็บไข้ได้ป่วย มีความทุกข์เดือดเนื้อร้อนใจ ได้มีโอกาสพูดคุยกับพระหน่อตามอัธยาศัยก็สามารถหายไข้ คลายทุกข์ได้ บางคนปรารถนาสิ่งหนึ่งสิ่งใด ได้อธิษฐานบนบานก็ได้รับผลสำเร็จ เมื่อเกิดเหตุอัศจรรย์และมีปาฏิหาริย์เช่นนี้ประชาชนทั่วไปต่างให้ความเคารพนับถือพระหน่อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต่างก็มากราบไหว้และนำสิ่งของฝาก ทำให้ตายายเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไปเช่นกัน และฐานะตา ยาย ก็ดีขึ้นตามลำดับ ทหารและมหาดเล็กพบพระหน่อ อยู่มาวันหนึ่ง ตาและยายออกไปธุระนอกบ้านปล่อยให้พระหน่อเฝ้าบ้านคนเดียว พวกมหาดเล็กที่พระเจ้าอยู่หัวให้มาติดตามพระหน่อเดินทางมาถึงบ้านตายาย และช่วยกันไล่จับไก่ พระหน่อได้ยินจึงพูดทักทายห้ามปรามว่า “ไล่จับไก่ทำไม” พวกทหารได้ยินเสียงนั้นถึงกับชะงัก เพราะเป็นสำเนียงที่คุ้นหู และไม่ใช่เป็นเสียงคนในละแวกนี้แน่ จึงพากันขึ้นไปบนเรือนและขอน้ำดื่มพวกทหารต่างสังเกตพฤติกรรมของพระหน่อแล้วต่างก็มั่นใจว่าเด็กคนนี้คือพระหน่ออย่างแน่นอน เพียงแต่ผิวพรรณหมองคล้ำ แต่งกายแบบชาวบ้านทั่วไปเพราะอยู่บ้านไร่ปลายนาเสียนาน เมื่อมั่นใจแน่นอนแล้ว พวกทหารมหาดเล็กต่างก็หมอบลงกราบบังคลทูลให้พระหน่อทราบว่า พวกตนได้รับมอบหมายจากพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีให้ออกติดตามพระหน่อเพื่อกลับพระราชวังพระหน่อสังเกตเหล่าทหารและมหาดเล็กที่กราบทูล ทรงมั่นพระทัยว่าเป็นข้าราชการสำนักของราชบิดา และไม่เป็นอันตรายกับพระองค์แน่ จึงยอมรับและเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ได้มาอยู่ตา ยาย ให้พวกทหารมหาดเล็กฟัง และก่อนจะตัดสินใจอย่างไรให้รอจนกว่าตา ยาย กลับมาบ้านก่อน แล้วจึงปรึกษา หารือกัน ตกเย็น ตา ยาย กลับมาถึงบ้าน เห็นผู้คนแปลกหน้าอยู่บนบ้านหลายคน เป็นชายหนุ่มและแต่งกายไม่เหมือนกับชาวบ้านธรรมดา เลยคิดไปว่าคงเกิดเหตุร้ายกับพระหน่อแน่ แต่ก็โล่งอกเมื่อเห็นพระหน่อออกมาต้อนรับด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส และรับสัมภาระจากตา ยาย เก็บเข้าที่ เอาน้ำมาให้ตา ยาย ดื่ม ถึงอย่างไรก็ตาม ตา ยาย ยังไม่หายกังวลอยู่ดี ตา ยาย ดื่มน้ำเสร็จนั่งพักพอหายเหนื่อยพระหน่อก็แนะนำให้เหล่าทหารรู้จักทำความเคารพ ตา ยาย แล้วเล่าเหตุการณ์พร้อมกับบอกจุดประสงค์ของพวกทหารมหาดเล็กที่มาที่นี่ ตา ยาย เมื่อทราบว่าพวกทหารติดตามมาเพื่อจะนำกลับเมืองหลวงต่างก็เสียงใจอย่างยิ่ง มีความตื้นตันใจ สับสนไปหมด เพราะต่างรักพระหน่อเหมือนลูกในอุทร พระหน่อเป็นแก้วตา ดวงใจ ของตา ยาย และคนในท้องถิ่นนี้ ที่สุดตา ยาย ก็ทำใจได้และร่วมปรึกษากับทหารมหาดเล็กว่า หากจะพาพระหน่อไปเมืองหลวงเลย เกรงว่าจะเป็นอันตราย และเพื่อความปลอดภัยให้แบ่งทหารออกเป็นสองพวก คือ พวกหนึ่งให้อยู่ ที่บ้านตา ยาย เพื่อดูแลอารักขาพระหน่ออยู่ก่อน อีกพวกหนึ่งให้เดินทางไปกราบทูลให้พระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีทรงทราบ ข่าวพวกทหารมหาดเล็กเดินทางมาบ้านตาพรหม ยายจัน เพื่อนำพระหน่อกลับเมืองหลวงทราบถึงชาวบ้านทั่วไปอย่างรวดเร็ว ด้วยความศรัทธาต่อพระหน่อที่มีอยู่เดิมแล้วยิ่งทวีคูณขึ้นเป็นลำดับ ในวันหนึ่ง ๆ ประชาชนมาเยี่ยมชมบารมีไม่ขาดระยะบ้างมาเพื่อเยี่ยมชนบารมี แสดงความจงรักภักดีบ้างขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล จนทำให้บ้านของตายาย คับแคบไปถนัด พวกทหารมหาดเล็กที่คอยรับใช้พระหน่อ ได้ร่วมมือกับชาวบ้านหมู่บ้านพราหมณ์จัน ช่วยตัดได้สร้างบ้านตายายให้กว้างกว่าเดิม แล้วขุดคูรอบบ้าน ขุดสระสองลูกคือสระสังข์แก กับสระแพรจัน สร้างทางจากหมู่บ้านไปทางทิศใต้จรดทะเลสาบเขตหมู่บ้านท่าทอง (ท่าทอง หมายถึง ท่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ ที่มีพืชพันธุ์ธัญญาหารสัตว์น้ำนานาชนิด ปัจจุบันเรียกว่า บ้านท่าคุระ หมายถึง ท่าที่มีต้นคุระ) ทางสายดังกล่าวต่อมาใช้เป็นเส้นทางนำซากศพไปเผาหรือฝังในป่าช้า ชาวบ้านเลยเรียกว่าทางผี ติดปากจนถึงปัจจุบัน ซึ่งปรากฏหลักฐานให้คนรุ่นหลังเห็นตราบทุกวันนี้ พระราชบิดา – มารดา เสด็จมารับพระหน่อ ฝ่ายทหารมหาดเล็กที่เดินทางกลับเมืองหลวง เมื่อเดินทางเข้าถึงได้เข้าเฝ้ากราบบังคมทูลให้พระเจ้าอยู่หัวทรงทราบ ซึ่งเป็นที่ปลาบปลื้มปิติยินดีทั้งสองพระองค์ และข้าราชบริภารทั้งหลายพระเจ้าอยู่หัวได้รับสั่งให้โหราธิบดีตรวจดูฤกษ์ยามตามประเพณีนิยม และขบวนทหารเครื่องอุปโภคบริโภค ตลอดจนโขนหนังการละเล่นต่าง ๆ อย่างครบครัน ออกเดินทางสู่ทิศใต้ จุดมุ่งหมายคือหมู่บ้านพราหมณ์จันบ้านของตาพรหมยายจัน ขบวนเดินทางมาถึงบ้านแล้วมุ่งตรงไปทางทิศตะวันตก ถึงบ้านโหมโรง หรือสำโรง หรือวัดเก่า ปัจจุบันเรียกว่าบ้านบ่อใหม่ มีพื้นที่กว้างขวาง ดินทรายขาวสะอาด ต้นไม้เป็นทิวแถวร่มรื่นและอยู่ไม่ไกลจากบ้านพราหมณ์จันมากนัก พระเจ้าอยู่หัวจึงตรัสให้พวกทหารปลูกสร้างพลับพลาประทับ กษัตริย์ทั้งสองประทับที่พลับพลา หนึ่งคืนแล้วนำเหล่าทหารจำนวนหนึ่งเสด็จไปบ้านตา ยาย เมื่อพระราชบิดา มารดาได้พบพระราชโดรสต่างก็ปิติยินดีเป็นล้นพ้น จนน้ำพระเนตรไหล กษัตริย์ทั้งสองขอพระหน่อจากตายาย เสด็จไปที่พลับพลา พระหน่อขออนุญาตให้ตา ยาย ติดตามไปกับขบวนด้วย พิธีสมโภชรับขวัญพระหน่อ เมื่อถึงพลับพลาพระเจ้าอยู่หัวได้รับสั่งให้โหราธิบดีดูฤกษ์ยาม เพื่อจัดพิธีสมโภชรับขวัญพระหน่อ โหราธิบดีตรวจดูแล้ววันที่เป็นมงคลที่สุดคือวันพุธ แรมหนึ่งค่ำเดือนหก ประชาชนทั่วไปเมื่อทราบว่ากษัตริย์เมืองเหนือได้ติดตามพระโอรสมา และจัดทำพิธีสมโภชรับขวัญ ต่างก็จัดทำอาหารคาว หวาน มาร่วมพิธีกันคับคั่ง พิธีเริ่มวันพุธ แรมหนึ่งค่ำ พระสงฆ์ทำพิธีอันเสร็จพิธีรับขวัญพระหน่อ เมื่อทำพิธีรับขวัญพระหน่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พระมหากษัตริย์ทั้งสองจำเป็นที่จะนำพระหน่อกลับเมืองหลวง ซึ่งนำความโศกเศร้าเสียใจแก่ ตา ยาย เป็นอย่างมาก พระราชินีนึกตระหนักถึงความรักที่ ตา ยาย มีต่อพระหน่อ และความจงรักภักดีที่ชาวบ้านมีต่อพระหน่อ พระองค์ท่านซาบซึ้งเป็นที่สุด ก่อนจากไปพระองค์ได้รับสั่งให้นายช่างทำทองตีทองให้แผ่กว้าง แล้วสลักรูปพระหน่อลงในแผ่นทองนั้น มอบให้ตาพรหม และยายจันด้วยความซาบซึ้งน้ำพระทัย พระราชินี ตา ยาย และเรียกแผ่นทองคำสลักพระหน่อว่าเจ้าแม่อยู่หัว เหตุผลเพราะพระราชินีหรือเจ้าแม่อยู่หัวเป็นผู้มอบให้ ส่วนสถานที่สร้างพลับพลาพระราชินีก็ได้ทรงขออนุญาตต่อพระเจ้าอยู่หัวสร้างวัดขึ้นเพื่อเป็นบุญกุศลและมอบให้ชาวบ้านละแวกนั้นที่จงรักภักดีต่อพระหน่อ ชื่อว่าวัดเจ้าแม่ ต่อมาเพื้ยนเป็นวัดชะแม ตำบลดีหลวง มีต้นโพธ์เป็นหลักฐาน บางคนมีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ ได้ไปบนบานศาลกล่าวที่ต้นโพธ์ดังกล่าวตามหลักฐานในพงศวดารเมืองพัทลุงว่า ในสมัยออกขุนเทพตำรวจเป็นเจ้าเมืองพัทลุง (อำเภอสทิงพระ) มีผู้ศรัทธาสร้างเจดีย์วิหารหลายวัด เช่น พระมหาเทพ สร้างพระวิหารและเจดีย์วัดแจระ(หัวแจระ) พระครูธรรมรังสี ลำราม สร้างพระวิหารวัดเบิก พระครูพิชัย สร้างพระวิหารวัดชะแม พระมหาเถรพรหม สร้างพระวิหารวัดมีไชย (สนามไชย) สร้างวัดท่าทอง หรือวัดทุ่งคุระ เมื่อพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีได้จัดการภารกิจต่าง ๆ ตามประสงค์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงเสด็จกลับพระราชวังพร้อมด้วยพระหน่อ ตาพรหมกับยายจันยังอยู่ที่หมู่บ้านพราหมณ์จันเหมือนเดิม เก็บรักษารูปสลักของพระหน่อในแผ่นทองคำไว้อย่างดีแม้ไม่มีพระหน่อตัวจริงแล้ว ก็ตามแต่ ประชาชนทั่วไปยังให้ความเคารพนับถือบนบานตามที่เคยกระทำมาเหมือนตอนที่พระหน่อยังอยู่และได้รับผลสำเร็จทุกประการ ตา ยาย และชาวบ้านจึงพร้อมใจกันยึดเอาวันพุธแรกข้างแรมเดือนหก ตามที่พระพุทธเจ้าอยู่หัวจัดพิธีสมโภชรับขวัญพระหน่อ กลางคืนมีมโนราห์แสดงให้ชมรุ่งเช้าวันพฤหัสบดี ใครบนบานศาลกล่าวไว้ว่าอย่างไรก็แก้บนเสีย เช่นบางคนบนไว้ รำมโนราห์ บนบวชชีก็แล้วแต่ พระหน่อเจริญวัยคิดถึงตา ยาย ด้วยความกตัญญูกตเวทีและมีพระเมตตาจึงกราบบังคมทูลบิดามารดา เสด็จมาเยี่ยมตา ยาย และจะรับไปอยู่ด้วยในฐานะพระประยูรญาติผู้ใหญ่ในพระบรมราชวังด้วยกษัตริย์ทั้งสองเห็นด้วยกับพระราชโอรสและได้ร่วมเสด็จเยี่ยมตา ยาย ด้วย ตากับยายเมื่อกษัตริย์มาเยี่ยมถึงบ้านรู้สึกดีใจจนบอกไม่ถูก ราษฏรทั่วไปก็เผ้ารับเสด็จอย่างพร้อมเพรียง ด้วยความจงรักภักดี พระหน่อได้แจ้งถึงจุดประสงค์ที่มาเยี่ยมครั้งนี้เพราะเห็นว่า ตายายชราภาพมากแล้ว สมควรไปอยู่ที่สบาย ๆ มีคนคอยดูแลอย่างใกล้ชิด หากปล่อยให้ตา ยาย ยังคงอยู่ในหมู่บ้านพราหมณ์จัน พระองค์จะมาเยี่ยมบ่อย ๆ ก็ไม่สะดวก ตา ยาย รักและหวงแหนแผ่นดินเกิด และญาติพี่น้องสักปานใดก็ตาม แต่เข้าใจในความปรารถนาดีและซึ่งในน้ำใจของพระหน่อที่กตัญญู เลยจำใจต้องรับคำ และก่อนไปตา ยาย จึงทูลขอให้พระเจ้าอยู่หัว พระราชินีและพระหน่อได้ร่วมกันสร้างวัดขึ้นวัดหนี่งซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้านพราหมณ์จัน สลักรูปพระหน่อมาไว้ในวัดโดยให้เจ้าอาวาสและประชาชนในหมู่บ้านช่วยกันรักษา เหตุผลที่ตา ยาย เลือกเอาท่าคุระตั้งวัดเพราะวัดท่าคุระสมัยนั้นสะดวกในการเดินทางลูกหลานฝั่งตะวันตกและตะวันออก ทางใต้ที่รู้กิตติศัพท์ความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่อยู่หัวได้มาร่วมพิธีได้สะดวก เมื่อสร้างวัดและทำพิธีฉลองเสด็จ ตา ยายต้องเดินทางไปอยู่ในเมืองหลวงกับพระหน่อ วัดท่าคุระบางคนเรียกว่า วัดท่าทองบ้าง วัดตา ยาย บ้าง เหตุผลที่เรียกวัดตายาย คงเป็นเพราะตา ยายเป็นผู้ริเริ่มกระมัง นำแผ่นทองคำหล่อพระพุทธรูป ต่อมาด้วยความโลภเป็นแก่ส่วนตัว ผู้ที่เคารพศรัทธาบางคนที่ใกล้ชิดขอตัดแผ่นทองคำคนละนิดละหน่อย เพื่อนำไปบูชาที่บ้านตนเอง หรือบางคนขโมยไปขาย ทำสร้อยคอ ทำกำไล ใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน ทำให้แผ่นทองคำนั้นสึกกร่อนลงไปทุกที คนที่นำไปทำเป็น สร้อย ทำกำไล ทำต่างหู ทำให้เกิดแผลพุพอง เน่าเปื่อยตามคอ หู หรือข้อมือ หรือมีเหตุเป็นไปต่าง ๆ นานา เลยทำให้บุคคลเหล่านั้นเกิดความกลัง เลยนำกลับมาไว้ที่เดิม ความทราบถึงพระเจ้าอยู่หัวพระราชินี และพระหน่อ เลยตรัสให้เอาทองคำที่เหลือเหล่านั้น หล่อเป็นพระพุทธรูปเก็บไว้ในผอบอย่างดี ในปีหนึ่งลูกหลานสามารถเห็นพระพุทธรูปแม่เจ้าอยู่หัวได้ครั้งเดียวตอนสรงน้ำ ในวันพุธแรกข้างแรมเดือนหกเท่านั้น ซึ่งทำติดต่อกันมานับร้อยปีมาแล้ว และลูกหลานเจ้าแม่อยู่หัวเราต้องรักษาประเพณีสืบไป ประเพณีงานตายายย่าน งานตายายย่าน คือ งานแสดงความเคารพนบนอบหรือการแสดงความกตัญญูกตเวที ต่อองค์เจ้าแม่อยู่หัว ของวัดท่าคุระ อำเภอสทิงพระ จังวัดสงขลา เมื่อเอ่ยนาม “เจ้าแม่อยู่หัว” วัดท่าคุระ ก็จะรู้จักกันทั่วไปในหมู่บ้านชาวอำเภอระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ และอำเภออื่น ๆ โดยเฉพาะแถบลุ่มทะเลสาบซึ่งเป็นลูกหลานของชาวบ้านท่าคุระ และได้กระจัดกระจายอยู่กันทั่วไป เจ้าแม่อยู่หัว เป็นพระพุทธรูปทองคำ ปางสมาธิหน้าตักกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร ส่วนสูงประมาณ 25 เซนติเมตร เป็นสมบัติล้ำค่า บรรพบุรุษเก็บรักษาไว้ที่วัดท่าคุระ เป็นเวลานานหลายชั่วอายุคน ในรอบปีหนึ่ง ๆ เมื่อเวียนมาถึงเดือน 6 ข้างแรมวันนี้จะมีงานเทศกาลประจำปี ชาวบ้านเรียกกันว่า “งานตายายย่าน” เริ่มงานวันพุธตอนบ่าย ด้วยการนำพระพุทธรูปเจ้าแม่อยู่หัวออกสรงน้ำ จากนั้นก็นิมนต์พระสงฆ์สวดสมโภชและแก้บนด้วยวิธีต่าง ๆ และปัจจัยไทยทานทางอื่น ๆ อีกมาก การแก้บนที่สำคัญยิ่ง ซึ่งเจ้าแม่อยู่หัวโปรดมากที่สุดก็คือการรำมโนราห์ถวาย เรียกกันว่ารำโรงครู การรำโรงครูก็คือการรำมโนราห์ ตามแบบฉบับดั้งเดิม เริ่มต้นด้วย ตั้งเครื่องโหมโรงประกาศราชครูรำเบิกโรง – รำแม่บท ออกพราน รำคล้องหงส์ แทงจระเข้ เฆี่ยนพรายและแสดงเรื่องเหล่านี้ คณะมโนราห์ที่แสดงต้องมีความชัดเจนเป็นพิเศษ ในระหว่างการแสดงนั้น ก็มีชาวบ้านซึ่งนับถือกันว่าเป็นลูกหลานของเจ้าแม่อยู่หัว ต่างก็ผลัดเปลี่ยนกันรำแก้บนในโรงด้วย เหล่านี้เป็นกิจกรรมของงาน “ตายายย่าน” ซึ่งชาวบ้านท่าคุระและชาวบ้านอื่น ๆ ต่างยึดถือปฏิบัติต่อเนื่องกันมาทุก ๆ ปี จนกลายเป็นประเพณีสืบเนื่องกันมาช้านาน งานตายายย่าน หรือนัยหนึ่งพิธีการแสดงความเคารพนบนอบต่อเจ้าแม่อยู่หัว เริ่มงานตอนบ่ายวันพุธแรกของเดือน 6 ข้างแรมจะเสร็จพิธีตอนบ่ายวันรุ่งขึ้น โดยเฉพาะวันพฤหัสนั้น จะมีประชาชนจากต่างอำเภอ ต่างจังหวัด ไปร่วมงานเป็นเรือนหมื่น ทุก ๆ ปี เขาเหล่านั้นต่างมีความสำนึกติดแน่นในสายเลือดว่าเป็นลูกหลานของเจ้าแม่อยู่หัวต้องมากันให้ได้เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวที ได้พบปะแสดงความรักสามัคคีระหว่างเครือญาติมิตร และที่สำคัญยิ่งก็คือ การรักษาเทิดทูนศิลปะ นาฏกรรมการรำมโนราห์ มรดกทางวัฒนธรรม อันล้ำค่าของชาติไทยเรา มีธรรมเนียมปฏิบัติว่า ลูกชานคนหัวปีของครอบครัวและมีอายุเกิน 14-15 ปี ต้องทำขนมโคมาถวายวัด และเลี้ยงดูญาติมิตร แต่ถ้าเป็นลูกสาวคนหัวปีต้องทำขนมพอง (หรือขนมลา) หากไม่ปฏิบัติตามเจ้าแม่อยู่หัวจะให้โทษถึงเป็นบ้า ง่อยเปลี้ย พิกลพิการ หรือประสบทุกขเวทนาได้
    DSC_0357.JPG DSC_0359.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2023
  4. pnt014

    pnt014 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +311
    จองครับ
     
  5. pnt014

    pnt014 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +311
    จองครับ
     
  6. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,695
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รับทราบครับ
     
  7. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,695
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11284.พระรอด เนื้อดิน ไม่ทราบกรุ ทางภาคเหนือ เจ้าของเดิมเลี่ยมทอง ***แบ่งให้บูชา 650 บาท****ลดเหลือ100บาท ปิดครับ
    DSC_0137.JPG DSC_0139.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2023
  8. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,907
    ค่าพลัง:
    +6,805
    ขอจองครับ
     
  9. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,907
    ค่าพลัง:
    +6,805
    ขอจอง 11283 ครับ
     
  10. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,695
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รับทราบครับ
     
  11. pnt014

    pnt014 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +311
    จองครับ
     
  12. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,695
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รับทราบครับ
     
  13. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,695
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11285.พระผงของขวัญรุ่นแรก หลวงปู่ทองพูน เขมเปโม สำนักปฎิบัติธรรม ถ้ำจำปาทอง ราชบุรี บูชาแล้วรวย เมตตามหานิยม เงินทองไหลมาเทมา***แบ่งให้บูชา 200 บาท***ลดเหลือ100บาท




    ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.khaosod.co.th/newspaper/newspaper-inside-pages/news_5712163
    DSC_0027.JPG DSC_0028 (1) (2).JPG DSC_0029 (3).JPG
     
  14. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,695
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11286.ลูกอมผงยา หลวงพ่อเปิ่น ปี 2533 เนื้อผงยา วัดบางพระ จ.นครปฐม รุ่นสร้างโรงเรียน หายาก น่าบูชามากครับ***แบ่งให้บูชา 200 บาท***ลดเหลือ100บาท
    DSC_0033 (3).JPG DSC_0032 (1).JPG
     
  15. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,695
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11286.พระศิวะเนื้อผง ครูบากฤษณะ วัดเวฬุวัน จ.นครราชสีมา ตอกโค๊ต ฝังพลอย สภาพสวย
    ****แบ่งให้บูชา 200 บาท****ลดเหลือ100บาท

    DSC_0024 (4).JPG DSC_0025 (2).JPG
     
  16. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,695
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11287.เหรียญหลวงพ่อฉ่ำ-หลังหลวงพ่อกฤษ วัดท้องคุ้ง รุ่น 2 ปี 2508 จ.สมุทรปราการ เนื้อทองแดง สภาพสวย***แบ่งให้บูชา 350 บาท****ลดเหลือ100บาท
    ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.pradeetae.com/product/เหรียญหลวงพ่อฉ่ำ-2508

    DSC_0390.JPG DSC_0392.JPG
     
  17. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,695
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11288.เหรียญเม็ดแตงลงยาแดง หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม รุ่น เลื่อนยศ รวยเงิน รวยทอง ไม่ผ่านการใช้ ยังไม่แกะซีล****แบ่งให้บูชา 200 บาท ****ลดเหลือ100บาท ปิดครับ
    DSC_0023 (5).JPG DSC_0024 (5).JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2023
  18. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,695
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11289. เหรียญหลวงพ่อฉุย วัดแสนสุข มีนบุรี สมเด็จพระเทพฯ เสด็จปิดทองตัดลูกนิมิตร ปี 23 พิมพ์ใหญ่ เนื้อทองแดงสวยเดิมๆ ประสบการณ์สูง สวยๆเดิมๆ พุทธคุณ เมตตา แคล้วคลาด โชคลาภ กันภัย ทันหลวงพ่อครับ****แบ่งให้บูชา 300 บาท***ลดเหลือ100บาท
    DSC_0004 (7).JPG DSC_0005 (3).JPG
     
  19. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,695
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11290.เหรียญรูปไข่ หน้าตรง ครึ่งองค์ หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม ศิษย์สร้าง ปี๒๕๒๑ เนื้อทองแดงรมดำ.. ศิษย์เอกสายตรง หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เหรียญในทำเนียบยุคแรกๆ เป็นเหรียญนิยมเหรียญหนึ่งเลยที่เดียว***แบ่งให้บูชา 300 บาท****ลดเหลือ100บาท ปิดครับ
    DSC_0012 (1) (1).JPG DSC_0013 (1) (4).JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2023
  20. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,907
    ค่าพลัง:
    +6,805
    ขอจอง 11290 ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...