วัตถุมงคล หลวงพ่อฤาษีฯ- หลวงปู่ชื้น-เหล็กไหล หลวงพ่อหวล-ของทนสิทธ์ฯลฯ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย saipote, 19 สิงหาคม 2012.

  1. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    สีผึ้งเสน่ห์จันทร์สาว-3

    หลวงปู่สิงห์ วัดบ้านขี้เหล็ก อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3384022-2.jpg
      3384022-2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.4 KB
      เปิดดู:
      35
    • 3384022-1.jpg
      3384022-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.7 KB
      เปิดดู:
      27
    • 3384022-3.jpg
      3384022-3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86.5 KB
      เปิดดู:
      39
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2013
  2. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    สีผึ้งเสน่ห์จันทร์สาว-4

    หลวงปู่สิงห์ วัดบ้านขี้เหล็ก อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3384022-2.jpg
      3384022-2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.4 KB
      เปิดดู:
      31
    • 3384022-1.jpg
      3384022-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.7 KB
      เปิดดู:
      30
    • 3384022-3.jpg
      3384022-3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86.5 KB
      เปิดดู:
      27
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2013
  3. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    พระคำข้าว รุ่นปืนแตก หนังสือโค้ง (นิยม)


    เนื้อผงพุทธคุณ สภาพสวยเดิมฯพระคำข้าว (พระมหาลาภ) เป็นพระเนื้อผงสีขาวปางมารวิชัย สร้างแบบพระพุทธชินราชในวิหารแก้ว 100 เมตรวัดท่าซุง มี ๒ รุ่น
    รุ่นที่ ๑ ปลุกเสกเมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๓๓ จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ องค์
    รุ่นที่ ๒ สร้าง ๕,๐๐๐,๐๐๐ องค์ ปลุกเสก ๒ ครั้ง คือ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๓๓ และ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๓๔
    ด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อ นั่งในกรอบรูปพัดยศ มีชื่อ พระราชพรหมยาน อยู่ตรงที่นั่งและมีอีกหนึ่งพิมพ์ด้านหน้ารูปเหมือนหลังยันต์เกราะเพชร
    พระคำข้าวมหาลาภ(โดยมากเรียกกันว่ารุ่นปืนแตก) สร้างปี2534 เนื่องจากหลวงพ่อท่านเกิดนิมิตว่าสามารถทำให้ปืนใหญ่ที่ยิงมาแตกได้ สร้างน้อยมากแค่100,000องค์เมื่อเทียบกับจำนวนลูกศิษย์ของท่าน ซึ่งทำให้หมดอย่างรวดเร็วตั้งแต่สมัยหลวงพ่อ และมีการเก็บบูชากันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เป็นที่หวงแหนของลูกศิษย์รุ่นเก่าอีกหนึ่งรุ่นไม่แพ้พระคำข้าวรุ่นแรกเลย คำว่า“ปืนแตก”เกิดจากสมัยนั้นหลวงพ่อท่านจะพูดเล่าให้ลูกหลานฟังว่า เพราะท่านรู้ว่าลูกหลานท่านซน ชอบลอง ท่านบอกว่าอย่าไปลองกันนะ 3 นัดปืนจะแตก จึงเรียกรุ่นนี้ติดปากกันตั้งแต่สมัยหลวงพ่อเวลานั้นเป็นต้นมา สำหรับพระคำข้าวรุ่นปืนแตก ทำได้ยากมากเช่นเดียวกับพระคำข้าวรุ่นปกติ มีพิธีการเช่นเดียวกัน คือต้องเสกข้าวที่มีรสอร่อยที่สุด ออกจากปาก นำมาเสก ทำอย่างนี้ครบ ๓ เดือนแล้วจึงทำเป็นผง แล้วนำเข้า พิธีพุทธาภิเษกอีกวาระหนึ่ง วิธีอาราธนาพระคำข้าวรุ่นปืนแตก ให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหมด รวมทั้งเทวดาและพรหม ครูบาอาจารย์ทั้งหมด มีหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อฤาษีลิงดำเป็นที่สุด แล้วตั้งนะโม ๓ จบ แล้วปลุกด้วยคาถาปลุกพระของหลวงพ่อปานว่า "อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะ เดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่มะอะอุนี้เถิด"


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3361549-1.JPG
      3361549-1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      94.5 KB
      เปิดดู:
      82
    • 3361549-2.JPG
      3361549-2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      87.3 KB
      เปิดดู:
      83
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2013
  4. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    #‎เหรียญกูผู้ชนะ‬ + ผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงคราม#
    (สภาพเดิมๆ จากวัดค่า)
    ในบรรดาเหรียญที่นำมาเลี่ยมเดิมๆกับผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงครามนั้น เหรียญ "กูผู้ชนะ" พิมพ์หน้าใหญ่ (ในกระทู้นี้) ได้รับความนิยมสุดค่ะ และหายากที่่สุด


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0090.jpg
      DSCN0090.jpg
      ขนาดไฟล์:
      89.9 KB
      เปิดดู:
      90
    • DSCN0088.jpg
      DSCN0088.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86.2 KB
      เปิดดู:
      84
    • DSCN0091.jpg
      DSCN0091.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.6 KB
      เปิดดู:
      69
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2013
  5. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ##กุมารทอง รุ่น 99 เฮง เฮง เฮง##
    ขนาดบูชา 5 นิ้ว หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม จ.นครปฐม


    ผู้ที่มีความประสงค์อยากได้ตุ๊กตาทองไปบูชา เพื่อคุ้มครองบ้านเรือน ไร่ นา สวน หรือใช้ช่วยเหลือกิจการ ติดต่อค้าขาย ต้องหมั่นบูชา บอกเล่าตามความปรารถนา เมื่อเห็นว่าเป็นผลสำเร็จ หรือร่ำรวยขึ้น ก็จงซื้อสิ่งของเครื่องประดับกาย เช่น สร้อยคอ เพชร พลอย และเครื่องเล่นต่างๆ ให้ เขาจะพอใจมาก ต้องหมั่นบอกเล่าเสมอๆ จะเกิดลาภให้เห็น นำกุมารทองเข้าบ้านต้องบอกศาลเจ้า ศาลพระภูมิ ที่มีอยู่ในบ้าน ตลอดจนบอกเล่าคนในบ้านมีกี่คนใครบ้างแนะนำให้ตุ๊กตาทองรู้จัก ใครไปมาค้างคืนต้องบอกด้วย เช้าต้องจัดอาหารถวายให้อย่างน้อยวันละ 1 เวลา คือ เวลาเช้า ก่อนที่คนในบ้านจะรับประทาน เมื่อหุงหาอาหารทำกับข้าวเสร็จแล้วจัดแบ่งไว้ให้ เมื่อถวายอาหารต้องเชิญ(เรียกชื่อ)ให้รับอาหาร ถ้ามีบุตรต้องเรียกตุ๊กตาทองว่าพี่ การจัดตั้งที่สำหรับตุ๊กตาทองอย่าหันหน้าไปทางทิศตะวันตก หรือปลายเท้าที่นอน หรือใต้บันไดบ้านที่เป็นบ้านสองชั้นและอย่าไว้รวมกับที่บูชา พระพุทธรูป ศาลเจ้า ต้องให้อยู่ต่ำกว่าที่พระพุทธรูป

    ก่อนนอนทุกคืนต้องสวดคาถาบูชาตามความต่อไปนี้
    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ( ว่า 3 จบ)
    พุทธัสสะบูชา ธัมมัสสะบูชา สังฆัสสะบูชา ปติปติบูชา ภะวันตุเม
    อุ กาสะ อุกาสะ ข้าพเจ้าขอไหว้ตุ๊กตาทอง ขอจงมาบังเกิดอยู่ในจักขุทวาร ในมโนทวาร ในกายทวาร แห่งข้าพเจ้า ขอเดชะ ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญกุศลมาแต่อเนกอนันทชาติ เกิดด้วยตุ๊กตาทอง ลาภประการจงมาบังเกิดแก่ ข้าพเจ้า ทั้ง 8 ทิศ เนืองๆ จงมาทุกวันอย่าได้ขาดสักการะนั้นเลย ให้เหมือนองค์ตุ๊กตาทองนั้นเถิด ท่านจะซื้อขายก็ดี จงพูดเอาตามความปรารถนาเถิด ได้ดังใจ

    การถวายของให้กุมารทอง
    1.ทำหิ้งหรือวางบนโต๊ะก็ได้
    2.น้ำเปล่า-น้ำแดงอย่าให้ขาด วิธีเปลื่ยน 2 วัน 3 วัน เปลื่ยนครั้งหนึ่งก็ได้
    3.ถวายข้าว-แกง-ขนม แล้วแต่ท่านจะจัดหา
    4.จุดธูปบอกกล่าวกุมารทอง- ถวายข้าว น้ำ-แกง - น้ำแดงขนมต่างๆ จุดธูปถวายธรรมดา 2 ดอก หรือ 3 ดอก ถ้าบนบานใช้ 5 ดอก

    การถวายของแก้บน กุมารทอง
    เมื่อเค้าทำสำเร็จก็ให้ สร้อย แหวน เงิน ทอง ของเล่นทุกชนิด แล้วแต่ท่านจะบน
    (ถ้าบนบานแล้วไม่ได้ก็ไม่ต้องให้)

    ข้อห้าม
    ห้ามจุดธูป 1 ดอก ห้ามหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ห้ามวางไว้ใต่บันได ห้ามวางปลายเท้าตัวเอง ข้อห้ามหลักๆมีเพียงเท่านี้


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3391328-1.JPG
      3391328-1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      82.4 KB
      เปิดดู:
      70
    • 3391328-2.JPG
      3391328-2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      81.5 KB
      เปิดดู:
      86
    • 3391328-3.JPG
      3391328-3.JPG
      ขนาดไฟล์:
      84 KB
      เปิดดู:
      46
    • 3391328-4.JPG
      3391328-4.JPG
      ขนาดไฟล์:
      83.6 KB
      เปิดดู:
      60
    • 3391328-5.JPG
      3391328-5.JPG
      ขนาดไฟล์:
      73.1 KB
      เปิดดู:
      78
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2013
  6. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ##กุมารทอง รุ่น 99 เฮง เฮง เฮง##
    ขนาดบูชา 5 นิ้ว หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม จ.นครปฐม


    ผู้ที่มีความประสงค์อยากได้ตุ๊กตาทองไปบูชา เพื่อคุ้มครองบ้านเรือน ไร่ นา สวน หรือใช้ช่วยเหลือกิจการ ติดต่อค้าขาย ต้องหมั่นบูชา บอกเล่าตามความปรารถนา เมื่อเห็นว่าเป็นผลสำเร็จ หรือร่ำรวยขึ้น ก็จงซื้อสิ่งของเครื่องประดับกาย เช่น สร้อยคอ เพชร พลอย และเครื่องเล่นต่างๆ ให้ เขาจะพอใจมาก ต้องหมั่นบอกเล่าเสมอๆ จะเกิดลาภให้เห็น นำกุมารทองเข้าบ้านต้องบอกศาลเจ้า ศาลพระภูมิ ที่มีอยู่ในบ้าน ตลอดจนบอกเล่าคนในบ้านมีกี่คนใครบ้างแนะนำให้ตุ๊กตาทองรู้จัก ใครไปมาค้างคืนต้องบอกด้วย เช้าต้องจัดอาหารถวายให้อย่างน้อยวันละ 1 เวลา คือ เวลาเช้า ก่อนที่คนในบ้านจะรับประทาน เมื่อหุงหาอาหารทำกับข้าวเสร็จแล้วจัดแบ่งไว้ให้ เมื่อถวายอาหารต้องเชิญ(เรียกชื่อ)ให้รับอาหาร ถ้ามีบุตรต้องเรียกตุ๊กตาทองว่าพี่ การจัดตั้งที่สำหรับตุ๊กตาทองอย่าหันหน้าไปทางทิศตะวันตก หรือปลายเท้าที่นอน หรือใต้บันไดบ้านที่เป็นบ้านสองชั้นและอย่าไว้รวมกับที่บูชา พระพุทธรูป ศาลเจ้า ต้องให้อยู่ต่ำกว่าที่พระพุทธรูป

    ก่อนนอนทุกคืนต้องสวดคาถาบูชาตามความต่อไปนี้
    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ( ว่า 3 จบ)
    พุทธัสสะบูชา ธัมมัสสะบูชา สังฆัสสะบูชา ปติปติบูชา ภะวันตุเม
    อุ กาสะ อุกาสะ ข้าพเจ้าขอไหว้ตุ๊กตาทอง ขอจงมาบังเกิดอยู่ในจักขุทวาร ในมโนทวาร ในกายทวาร แห่งข้าพเจ้า ขอเดชะ ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญกุศลมาแต่อเนกอนันทชาติ เกิดด้วยตุ๊กตาทอง ลาภประการจงมาบังเกิดแก่ ข้าพเจ้า ทั้ง 8 ทิศ เนืองๆ จงมาทุกวันอย่าได้ขาดสักการะนั้นเลย ให้เหมือนองค์ตุ๊กตาทองนั้นเถิด ท่านจะซื้อขายก็ดี จงพูดเอาตามความปรารถนาเถิด ได้ดังใจ

    การถวายของให้กุมารทอง
    1.ทำหิ้งหรือวางบนโต๊ะก็ได้
    2.น้ำเปล่า-น้ำแดงอย่าให้ขาด วิธีเปลื่ยน 2 วัน 3 วัน เปลื่ยนครั้งหนึ่งก็ได้
    3.ถวายข้าว-แกง-ขนม แล้วแต่ท่านจะจัดหา
    4.จุดธูปบอกกล่าวกุมารทอง- ถวายข้าว น้ำ-แกง - น้ำแดงขนมต่างๆ จุดธูปถวายธรรมดา 2 ดอก หรือ 3 ดอก ถ้าบนบานใช้ 5 ดอก

    การถวายของแก้บน กุมารทอง
    เมื่อเค้าทำสำเร็จก็ให้ สร้อย แหวน เงิน ทอง ของเล่นทุกชนิด แล้วแต่ท่านจะบน
    (ถ้าบนบานแล้วไม่ได้ก็ไม่ต้องให้)

    ข้อห้าม
    ห้ามจุดธูป 1 ดอก ห้ามหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ห้ามวางไว้ใต่บันได ห้ามวางปลายเท้าตัวเอง ข้อห้ามหลักๆมีเพียงเท่านี้


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3399988-1.JPG
      3399988-1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      87.3 KB
      เปิดดู:
      54
    • 3399988-2.JPG
      3399988-2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      84.4 KB
      เปิดดู:
      57
    • 3399988-3.JPG
      3399988-3.JPG
      ขนาดไฟล์:
      80.3 KB
      เปิดดู:
      53
    • 3399988-4.JPG
      3399988-4.JPG
      ขนาดไฟล์:
      77.5 KB
      เปิดดู:
      50
    • 3399988-5.JPG
      3399988-5.JPG
      ขนาดไฟล์:
      62.7 KB
      เปิดดู:
      67
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2013
  7. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง 26/08/56

    - คุณฤทธิชัย EX 2681 0216 7 TH
    - คุณสุภาภรณ์ EX 2681 0217 5 TH
    - คุณภานุมาศ EX 2681 0218 4 TH
    - คุณจักรพันธ์ EX 2681 0220 8 TH
    - คุณณธกฤษ EX 2681 0221 5 TH
    - คุณวีระ EX 2681 0222 4 TH
    - คุณศุภกิจ EX 2681 0223 8 TH
     
  8. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง 27/08/56

    - คุณสุชัญญา EX 2681 0222 4 TH
     
  9. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **น้ำมันมนต์มหาละลวย**1

    หลวงปู่สิงห์ วัดบ้านขี้เหล็ก อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ
    (รวมสุดยอดมวลสารค่ะ ตามใบรายการเลยค่า)
    ***********************


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3408637-1.JPG
      3408637-1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      79.7 KB
      เปิดดู:
      32
    • 3408637-2.JPG
      3408637-2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      80.4 KB
      เปิดดู:
      28
    • 3408637-3.JPG
      3408637-3.JPG
      ขนาดไฟล์:
      98 KB
      เปิดดู:
      56
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2013
  10. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    สีผึ้งเสน่ห์จันทร์สาว-5

    หลวงปู่สิงห์ วัดบ้านขี้เหล็ก อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3384022-1.jpg
      3384022-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.7 KB
      เปิดดู:
      22
    • 3384022-2.jpg
      3384022-2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.4 KB
      เปิดดู:
      24
    • 3384022-3.jpg
      3384022-3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86.5 KB
      เปิดดู:
      38
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2013
  11. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **รังนก เขาหลง (ตัวเมีย - ตัวผู้)**1


    รังนกเขาหลง เป็นรังนกกายสิทธิ์ ท่านพญาแถนกล่าวว่า มีประวัติเล่าให้ลูกหลานฟังว่า ถ้าใครได้เห็นรังนกเขาหลง คนนั้นมีบุญบารมีสูงส่ง เขาเป็นรังนกกวักเงินกวักทอง หรือไทรเงินไทรทอง ขอพรได้สิบประการ เช่น ที่อยู่เรือนชานเข็ดขวางอยู่ไม่ได้ หรือบ้านนั้นมีทรวงขวางลูกขาวงเมียเจ็บออดๆแอดๆ อยู่อย่างนี้ ถ้ามีรังนกเขาหลงบุชา เจ้าจงเก็บดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 คู่ เงิรน 5 บาท ข้าวสาร 7 เม็ด ธูป 9 ดอก แล้วใส่ลงไปในรังนกเขาหลง แล้วจงอธิฐานว่า สาธุฯ สิ่งร้ายๆหรือเสนียดจัญไรรำคษญใจบ่อยๆ ให้ออกไป เมื่อท่านทำอย่างนี้แล้ว ท่านจะสุขสบายทั้งกายใจ เจ้ารังนกกายสิทธิ์ เขาจะกวักเงินกวักทองเข้าเรือนชาน ตัวผู้กงัดเข้า ตัวเมียเก็บไว้ ถ้าใครมีไว้สักการะบูชาคนนั้นมีบุญหลาย ถ้าใครมีประจำบ้าน สามารถคุ้มครองบ้านเรือน และประสบลาภบันดาลผลให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขอยู่เป้นทุกทิวาราตรี ของกายสิทธิ์ ใครมีบุญก็ได้ไว้บูชาประจำบ้าน ตั้งบูชาไว้หน้าร้าน เรียกเงินเรียกทอง เรื่องมหาเสน่ห์ก็ดีค่ะใครมีแฟนคิดนอกใจ ลองนำไปบูชาดูค่ะ ของกายสิทธิ์ หายากค่ะ


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0062.jpg
      DSCN0062.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.2 KB
      เปิดดู:
      24
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2013
  12. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **เครือเขาหลง (ตัวเมีย - ตัวผู้)**1


    เครือเขาหลง คือ ไม้ชนิดเดียวกันที่อยู่ในป่าลึก มีเทวดารักษา ผู้มีวิชาอาคมถึงไปขอตัดเอามาได้

    ที่ ชื่อ อย่างนี้ก็เพราะว่า ไม้นี้ ถ้าคนหรือสัตว์เผลอไปข้ามเข้าก็จะหลงป่า แม้แต่นกที่บินผ่านต้นก็จะหลงอยู่ที่ต้นไปไหนไม่ได้ ปละตกลงมาตาย ตรงใต้ต้นเครือเขาหลง นี้จึงเต็มไปด้วยซากสัตว์

    เครือสาวหลง เครือเขาหลง หรือ เครือเถาหลง ของอาถรรพ์..ทางธรรมชาติ ทนสิทธิ์ซึ่งผู้มีวิชาอาคมเท่านั้นถึงไปขอพลีตัดเอามาได้ ว่านสาวหลงนี้จัดอยู่ในประเภท ว่านเสน่ห์ เมตตามหานิยม บ้านเรือนอาศัยร้านค้าขายใด หากนำมาบูชาไว้จะเป็นศิริมงคลแก่บ้านเรือน ว่านนี้นิยมกันมาแต่โบราณ เป็นว่านที่มีสรรพคุณให้ผลถึงกับปิดบังไม่ยอมแพร่งพรายผู้เป็นเจ้าของนั้น หวงแหนยิ่งนัก ผู้มีว่านนี้อยู่ในครอบครองจะทำให้มีเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างมาก เครือสาวหลงนี้ ในกระบวนพิธีสร้างพระผงพระเครื่องด้าน เสน่ห์มหานิยมแล้วจะขาดว่านนี้ไม่ได้ ในจำนวนผงต่าง ๆ ที่นำมาผสมอยู่ในพระเครื่องจะต้องมีผงของว่านสาวหลงนี้ด้วยเสมอไปนอกจากนั้น เพียงแต่ใครมีว่านนี้พกพาติดตัว เดินทางไปยังทิศทางต่าง ๆ ผู้ที่ได้กลิ่น ว่านถึงกับให้งงงวย หลงใหล ยิ่งนำว่านนั้นมาฝนกับน้ำมัน... น้ำมันเ... หรือ ผสมกับ...ด้วยแล้วจะเป็นยอดของขบวนเสน่ห์มหานิยมอีกด้วย นักเลงเจ้าชู้พากันรู้จักมาแต่โบราณกาลและเป็นที่นิยมกันยิ่งนัก สำหรับคาถาที่ใช้เสกกำกับเวลานำออกใช้ โบราณท่านแนะนำไว้ก็หาได้ยุ่งยาก ท่านแนะนำก่อนใช้ให้เสกด้วย “นะโมพุทธายะ” หรือ “อิธะคะมะ” รับรองว่าจะสำเร็จผลตามที่ปรารถนา ยิ่งเสกด้วยมนตรามหาหลงที่ขึ้นต้นว่า “โอมมหาหลง สารพัดที่จะหลง หลงที่กิ่งหลงทั้งก้านหลงทั้ง…....” แล้วละก็เรื่องเสน่ห์หาเด็ดขาดทีเดียวค่ะ

    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0079.jpg
      DSCN0079.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.7 KB
      เปิดดู:
      24
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2013
  13. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    #สมเด็จองค์ปฐม ทำบุญครบรอบ ๑ ปี มรณภาพ#4
    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
    เนื้อนวะโลหะ ปี๒๕๓๖ (3) พร้อมกล่องเดิมจากวัดค่า

    พระสมเด็จองค์ปฐมเนื้อนวโลหะ รุ่น ครบรอบ 1ปี มรณะภาพหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    พุทธลักษณะ ด้านหน้าเป็นรูปสมเด็จองค์ปฐม ด้านล่างเขียนคำว่า สมเด็จองค์ปฐม ด้านหลังเป็นรูปพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และมีข้อความว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำ สร้างด้วยเนื้อเงินแท้ผสมชนวนทองหล่อสมเด็จองค์ปฐมองค์ใหญ่ ของวัดท่าซุง

    จัดสร้างด้วยกันทั้งหมด 5 เนื้อคือ

    1. เนื้อทองคำ
    2. เนื้อเงิน
    3. เนื้อนวโลหะ
    4. เนื้อผงเหล็กบด
    5. เนื้อผงพุทธคุณสีขาว

    สร้างขึ้นในวโรกาสครบรอบ 1 ปีมรณะภาพหลวงพ่อ โดยทั่วไปจะเห็นแต่เนื้อนวโลหะแบบนี้ หรือเป็นเนื้อผงพุทธคุณสีขาวเป็นส่วนใหญ่


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN4147.jpg
      DSCN4147.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.3 KB
      เปิดดู:
      53
    • DSCN4148.jpg
      DSCN4148.jpg
      ขนาดไฟล์:
      63.3 KB
      เปิดดู:
      49
    • DSCN4149.jpg
      DSCN4149.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.3 KB
      เปิดดู:
      49
    • DSCN4150.jpg
      DSCN4150.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.5 KB
      เปิดดู:
      60
    • DSCN4154.jpg
      DSCN4154.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69.2 KB
      เปิดดู:
      58
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2013
  14. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **รังนก เขาหลง (ตัวเมีย - ตัวผู้)**2


    รังนกเขาหลง เป็นรังนกกายสิทธิ์ ท่านพญาแถนกล่าวว่า มีประวัติเล่าให้ลูกหลานฟังว่า ถ้าใครได้เห็นรังนกเขาหลง คนนั้นมีบุญบารมีสูงส่ง เขาเป็นรังนกกวักเงินกวักทอง หรือไทรเงินไทรทอง ขอพรได้สิบประการ เช่น ที่อยู่เรือนชานเข็ดขวางอยู่ไม่ได้ หรือบ้านนั้นมีทรวงขวางลูกขาวงเมียเจ็บออดๆแอดๆ อยู่อย่างนี้ ถ้ามีรังนกเขาหลงบุชา เจ้าจงเก็บดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 คู่ เงิรน 5 บาท ข้าวสาร 7 เม็ด ธูป 9 ดอก แล้วใส่ลงไปในรังนกเขาหลง แล้วจงอธิฐานว่า สาธุฯ สิ่งร้ายๆหรือเสนียดจัญไรรำคษญใจบ่อยๆ ให้ออกไป เมื่อท่านทำอย่างนี้แล้ว ท่านจะสุขสบายทั้งกายใจ เจ้ารังนกกายสิทธิ์ เขาจะกวักเงินกวักทองเข้าเรือนชาน ตัวผู้กงัดเข้า ตัวเมียเก็บไว้ ถ้าใครมีไว้สักการะบูชาคนนั้นมีบุญหลาย ถ้าใครมีประจำบ้าน สามารถคุ้มครองบ้านเรือน และประสบลาภบันดาลผลให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขอยู่เป้นทุกทิวาราตรี ของกายสิทธิ์ ใครมีบุญก็ได้ไว้บูชาประจำบ้าน ตั้งบูชาไว้หน้าร้าน เรียกเงินเรียกทอง เรื่องมหาเสน่ห์ก็ดีค่ะใครมีแฟนคิดนอกใจ ลองนำไปบูชาดูค่ะ ของกายสิทธิ์ หายากค่ะ


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0063.jpg
      DSCN0063.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57 KB
      เปิดดู:
      24
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2013
  15. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **เครือเขาหลง (ตัวเมีย - ตัวผู้)**2


    เครือเขาหลง คือ ไม้ชนิดเดียวกันที่อยู่ในป่าลึก มีเทวดารักษา ผู้มีวิชาอาคมถึงไปขอตัดเอามาได้

    ที่ ชื่อ อย่างนี้ก็เพราะว่า ไม้นี้ ถ้าคนหรือสัตว์เผลอไปข้ามเข้าก็จะหลงป่า แม้แต่นกที่บินผ่านต้นก็จะหลงอยู่ที่ต้นไปไหนไม่ได้ ปละตกลงมาตาย ตรงใต้ต้นเครือเขาหลง นี้จึงเต็มไปด้วยซากสัตว์

    เครือสาวหลง เครือเขาหลง หรือ เครือเถาหลง ของอาถรรพ์..ทางธรรมชาติ ทนสิทธิ์ซึ่งผู้มีวิชาอาคมเท่านั้นถึงไปขอพลีตัดเอามาได้ ว่านสาวหลงนี้จัดอยู่ในประเภท ว่านเสน่ห์ เมตตามหานิยม บ้านเรือนอาศัยร้านค้าขายใด หากนำมาบูชาไว้จะเป็นศิริมงคลแก่บ้านเรือน ว่านนี้นิยมกันมาแต่โบราณ เป็นว่านที่มีสรรพคุณให้ผลถึงกับปิดบังไม่ยอมแพร่งพรายผู้เป็นเจ้าของนั้น หวงแหนยิ่งนัก ผู้มีว่านนี้อยู่ในครอบครองจะทำให้มีเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างมาก เครือสาวหลงนี้ ในกระบวนพิธีสร้างพระผงพระเครื่องด้าน เสน่ห์มหานิยมแล้วจะขาดว่านนี้ไม่ได้ ในจำนวนผงต่าง ๆ ที่นำมาผสมอยู่ในพระเครื่องจะต้องมีผงของว่านสาวหลงนี้ด้วยเสมอไปนอกจากนั้น เพียงแต่ใครมีว่านนี้พกพาติดตัว เดินทางไปยังทิศทางต่าง ๆ ผู้ที่ได้กลิ่น ว่านถึงกับให้งงงวย หลงใหล ยิ่งนำว่านนั้นมาฝนกับน้ำมัน... น้ำมันเ... หรือ ผสมกับ...ด้วยแล้วจะเป็นยอดของขบวนเสน่ห์มหานิยมอีกด้วย นักเลงเจ้าชู้พากันรู้จักมาแต่โบราณกาลและเป็นที่นิยมกันยิ่งนัก สำหรับคาถาที่ใช้เสกกำกับเวลานำออกใช้ โบราณท่านแนะนำไว้ก็หาได้ยุ่งยาก ท่านแนะนำก่อนใช้ให้เสกด้วย “นะโมพุทธายะ” หรือ “อิธะคะมะ” รับรองว่าจะสำเร็จผลตามที่ปรารถนา ยิ่งเสกด้วยมนตรามหาหลงที่ขึ้นต้นว่า “โอมมหาหลง สารพัดที่จะหลง หลงที่กิ่งหลงทั้งก้านหลงทั้ง…....” แล้วละก็เรื่องเสน่ห์หาเด็ดขาดทีเดียวค่ะ


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0076.jpg
      DSCN0076.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.5 KB
      เปิดดู:
      22
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2013
  16. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    #กำไรเหล็กไหลหลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์#1

    (เส้นผ่าศูนย์กลาง 6.5 ซม.) ของแแท้ 100%


    อานุภาพของธาตุกายสิทธิ์ (พญาเหล็ก/เหล็กไหล)
    …"เหล็กไหล" เป็น โลหะธาตุแปลกประหลาดที่มีชีวิต เป็นวิบากของกฏแห่งกรรม บันดาลให้วิญญาณอยู่ในสังสารวัฏ มาปฏิสนธิในสภาวะที่เป็นโลหะธาตุเหล็กไหล เคลื่อนไหวได้ เสพบริโภคผึ้งได้ ขับถ่ายได้ (เรียกว่าขี้เหล็กไหล)และสถานที่อยู่อาศัยนั้นชอบสถานที่สงบตามถ้ำ ดังนั้นจึงถือได้ว่าเหล็กไหลเป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกเทพ เป็นเทพที่มาใช้วิบากกรรมในโลก เหล็กไหลจึงมีทั้งเทพที่เป็นยักษ์ ที่เป็นคนธรรพ์คอยอารักขาอยู่ตลอดเวลา เหล็กไหลที่พบกันจึงมีหลากหลายชนิดที่ได้เห็นกัน เหล็กไหลเป็นธาตุที่ทรงอำนาจในการป้องกันตัว และ สิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ให้พ้นจากภัยอันตราย อันเกิดจาก "อาวุธปืน" หรือ "ของมีคม" และ "ศาสตราวุธ" ทุกชนิด "เหล็กไหล" เป็นสสารที่มีชีวิตเป็นอมตะ และ หาได้ยากยิ่ง ต้องมีพิธีกรรมมากมาย กว่าจะได้มา ฉะนั้น เหล็กไหลจึงเป็นวัตถุอาถรรพ์ที่มีราคาแพง เพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และ เป็นที่เข้าใจกันทั่วไปว่า เหล็กไหลมีอานุภาพยอดเยี่ยม สามารถคุ้มครองชีวิตผู้ที่มีเหล็กไหลไว้ในความครอบครองหรือพกพาติดตัว และจะได้รับความคุ้มครองให้ปลอดภัยจาก "อุบัติภัยร้ายแรง" ต่างๆ รวมไปถึง "อาวุธร้ายแรง" นานาชนิด ได้อย่างอัศจรรย์นั่นเอง

    ผู้ที่จะทำพิธีตัดเหล็กไหลได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรมชั้นสูง และต้องประพฤติปฏิบัติรักษาศีลได้อย่างมั่นคง ไม่มีจิตคิดละโมภ กล่าวคือ จะต้องขออนุญาตจาก "เทพยดา" ผู้ดูแลรักษาเสียก่อน เมื่อได้รับอนุญาตจึงค่อยทำพิธีตัดเอาได้ มิฉะนั้น หากเราขืนตัดเหล็กไหลด้วยกำลัง หมายแย่งชิงเอาโดยพละการ ถือดีในพระเวทย์ก็อาจมีเภทภัยถึงแก่ชีวิต หรือ เกิดความขัดแย้งในหมู่คณะจนถึงขั้นวิบัติเอาได้ ด้วยอิทธิฤทธิ์ของเทพยดาผู้รักษาเหล็กไหลนั้นเอง
    หลวงพ่อหวลท่านได้เรียนวิชาอาคม สุดยอดวิชาอาคมที่เกือบจะเรียกว่าสาบสูญไปแล้ว ได้แก่วิชาอาคมเรียกและเชิญเหล็กไหล หรือพญาเหล็กไหลสุดยอดแห่งธาตุกายสิทธิ์ ที่ทุกคนต้องการได้มาครอบครอง วิชาอาคมเรียกหรือเชิญเหล็กไหลนั้นไม่ใช่จะเปิดเผยกันง่ายๆการเรียกหรือเชิญเหล็กไหลก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ทำได้ เหล็กไหลเป็นธาตุกายสิทธิ์…..ย่อมเป็นอันตรายต่อผู้ที่จิตไม่บริสุทธิ์ หากทำการเรียกหรืออัญเชิญเหล็กไหล อาจถึงตายได้ ซึ่งหลวงพ่อหวล แห่งวัดพุทไธสวรรค์ จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านได้เล่าเรียนศึกษาวิชา "การเรียกและตัดเหล็กไหล" จากศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ หลายท่านบอกว่าหลวงพ่อเดิมท่านชอบเล่นแร่แปรธาตุ บางคนตั้งให้หลวงพ่อเดิมท่านเป็นเทพเจ้าแห่งการเล่นแร่แปรธาตุเลยทีเดียว
    เหล็กไหลที่หลวงพ่อหวลได้ตัดไว้ มีด้วยกัน 3 วรรณะ ซึ่งแต่ละสีก็แบ่งแยกตามชั้นวรรณะของเหล่าบรรดา "เทพยดา หรือ ฤาษี" ที่ปกปักรักษา ได้แก่
    1.วรรณะเจ้าน้ำเงิน
    2.วรรณะท้องปลาไหล
    3.วรรณะเงินยวง

    และรูปแบบของเหล็กไหลที่ท่านตัดไว้มีหลายอย่าง อาทิเช่น แบบพิมพ์พระกริ่ง (นิยมสูงสุด และหายากมากที่สุด!!! ), พระพุทธ, แคปซูล, แหวน, กำไล, พระขรรค์ ,กรมหลวงชุมพร,หลวงปู่ทวด,รัชกาลที่ 5, พระสมเด็จ,พระนางพญา,พระผงสุพรรณ,พระซุ้มกอ,พระรอด,เจ้าแม่กวนอิม,พระขรรค์,ตรีสูญ,พระบูชา,พระสังกัจจายน์ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งเหล็กไหลแต่ละพิมพ์นั้น หลวงพ่อหวลจะต้องจัดสร้าง "หุ่นเทียน" ขึ้นมาไว้ก่อน จากนั้นหลวงพ่อท่านจึงนำเข้าไปในถ้ำกลางป่าลึก แล้วเมื่อท่านเจอ "เหล็กไหล" ท่านจึงทำ "พิธีอัญเชิญเหล็กไหล" ให้ "ไหลวิ่ง" ลงมาตามด้ายสายสิญจ์ โดยอัญเชิญให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง เพื่อให้เราสามารถที่จะจับต้องเหล็กไหลเป็นรูปธรรมได้ ตามรูปแบบทรงพิมพ์ของหุ่นเทียนที่หลวงพ่อท่านได้ขออนุญาตจัดสร้างเตรียมขึ้นมา (หุ่นเทียน 1 อัน จะได้เหล็กไหล มาเพียงแค่ 1 ชิ้นเท่านั้น) ซึ่งพิธีในขั้นตอนนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พิธีหุงเหล็กไหล" โดยเป็นวิธีการหุงแบบตามธรรมชาติ โดยให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง ซึ่งในการทำพิธีแต่ละครั้ง ต้องใช้ "อำนาจพลังจิต" สูงมาก และเหล็กไหลที่ได้มาแต่ละชิ้นนั้น ต้องใช้ระยะเวลาในการหุงนานมาก จึงทำให้ในการทำพิธีแต่ละครั้งจะได้เหล็กไหลเพียงไม่กี่ชิ้น (โดยในแต่ละขั้นตอนในการทำพิธีนี้ ต้องเป็นผู้มีวิชาอาคมใน "การเรียกและตัดเหล็กไหล" โดยเฉพาะ) ไม่ได้มาทำกันเล่นๆๆ หรือ นำเหล็กมาปั๊ม หรือ นำมาหล่อ เหมือนอย่างพระเครื่องทั่วๆไป ซึ่งทำให้ "ของปลอม" ยากที่จะทำออกมาเลียนแบบได้ ซึ่งปัจจุบันเหล็กไหลของหลวงพ่อหวลนี้หายากมากๆๆ เดินตามสนามพระทั่วไปแล้ว ท่านจะไม่ได้พบเห็นเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เพราะเป็นที่หวงแหนของผู้ที่มีไว้ครอบครองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ เป็นเหล็กไหลที่หาได้ค่อนข้างยากมากๆๆๆ (เพราะมีระดับสภาวะ ขั้นสูงสุด 31 ภพภูมิ ทั้งยังมีเทพยดา และ ฤาษี ชั้น "มหาเทพ" และ "มหาฤาษี" ลงมาปกปักรักษามากที่สุดและจะพบ "เหล็กไหล 3 สี 3 วรรณะ" นี้ได้ ต้องเป็นถ้ำที่มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นมาก และอยู่ในกลางป่าลึก บริเวณใจกลางหุบเขา "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" มีคุณวิเศษทางด้านเมตตาแรงมากๆๆ มหาเสน่ห์ขั้นสูง คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เรียกโชคลาภขั้นสูง บันดาลทรัพย์สินเงินทอง ดลจิตดลใจ พลิกดวงชะตา จากตกต่ำให้เป็นสูงขึ้น (จากหน้ามือเป็นหลังมือ) เตือนภัยเมื่อมีเหตุคับขัน และสามารถล่องหนกำบังตัวหลบภัยได้ (ครบวงจร) ชอบช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรม หรือ จะดลจิตดลใจของผู้ครอบครองเหล็กไหลนี้ ให้ตั้งมั่นอยู่แต่ในศีลในธรรม ในความดี มุ่งแต่สร้างบุญสร้างกุศล เพราะเกิดจากฤทธิ์ของมหาเทพและมหาฤาษีในขั้นระดับ “อรูปฌาณ” ที่มีบารมีธรรมสูงมาก ที่เป็นผู้ปกป้องครอบครองเหล็กไหลประเภทนี้ อยู่นั้นเอง

    "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ มักจะตกได้อยู่แต่ในความครอบครองของ "พระภิกษุ" หรือ "นักบวชต่างๆ" (ที่มีฌาณขั้นอุกฤษณ์) คนธรรมดาอย่างเราๆ ยากนักที่จะได้เป็นผู้ครอบครอง เพราะใช่ว่ามีเงินเพียงอย่างเดียวจะหามาไว้ในความครอบครองได้ง่ายๆๆ จะต้องเป็น "ผู้มีบุญญาธิการบารมี" และต้องมี "กรรมเก่าเกี่ยวกัน" จริงๆๆ จึงจะได้เป็นผู้ครอบครอง พระพญาเหล็กไหลนี้ มีคุณ 108 ประการตามแต่อธิษฐาน ท่านบอกว่าใครได้ครอบครองไว้จะมีอำนาจ บารมี เหนือผู้อื่นพกพาติดตัวแคล้วคลาดปลอดภัย กิจการงานเจริญก้าวหน้า เดินทางไปที่ใด มีเทพยดา ปกปักรักษา มีโชคลาภ เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง และพระพญาเหล็กนี้ใช่ว่ามีเงินแล้วจะได้ครอบครอง ล.พ.หวลท่านบอกว่าต้องมีบุญวาสนาแต่ชาติปางก่อนจึงได้ครอบครอบครอง


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0148.jpg
      DSCN0148.jpg
      ขนาดไฟล์:
      95.6 KB
      เปิดดู:
      25
    • DSCN0149.jpg
      DSCN0149.jpg
      ขนาดไฟล์:
      98.9 KB
      เปิดดู:
      24
    • DSCN0150.jpg
      DSCN0150.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.8 KB
      เปิดดู:
      35
    • DSCN0156.jpg
      DSCN0156.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.5 KB
      เปิดดู:
      25
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2013
  17. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ผ้ายันต์เกาะเพชร หลวงปู่ปาน (ผืนเล็ก)

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก


    " พลังอำนาจ " ยันต์เกราะเพชร " ลูกหลวงพ่อ "

    การที่ข้าพเจ้าได้นำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังก็เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ น่าสนใจเรื่องหนึ่งที่บรรดาท่านทั้งหลายมียันต์เกราะเพชรไว้ประจำตัวและผู้ เขียนเองก็ห้อยคออยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะไปไหนหรือแม้แต่เวลานอนก็ยังอยู่ที่คอ ตลอดเวลา

    เรามีของประจำตัวนั้น บางทีเราก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า เครื่องรางของขลังนั้นจะสามารถป้องกันตัวเราให้พ้นจากอันตรายได้หรือเปล่าก็ ไม่ทราบ ซึ่งคงมีหลายท่านที่มีความคิดเหมือนกับข้าพเจ้า บางท่านอาจจะมีประสบการณ์มาแล้ว รู้ได้เฉพาะตัวของท่านเอง ไม่อยากจะเล่าให้คนอื่นฟังเพราะถ้าเล่าให้ฟังแล้วอาจจะไม่เชื่อก็ได้

    เรื่องเครื่องลางของขลังนั้น ถ้าเรามีความรู้จะพิสูจน์ว่าจะสามารถป้องกันหรือคุ้มครองให้แก่เราได้หรือ ไม่นั้น เราก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นแจ้งชัดกันไปเลย

    ข้าพเจ้าได้พบหลวงพ่อฤาษีเป็นครั้งแรกที่เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา นับว่าเป็นโชคดีที่สุดในชีวิตของข้าพเจ้าในการไปหาท่านครั้งนี้ ข้าพเจ้าทำสมาธิมาหลายปีแล้ว ประมาณสัก 15 ปี เห็นจะได้ ทำโดยไม่มีครูหัดเลย อ่านจากหนังสือแล้วก็ทำเอง ทำถูกบ้างไม่ถูกบ้าง ดังนั้นจึงเป็นโอกาสอันดีงามที่หลวงพ่อเดินทางไปอเมริกาจะได้ฝึกสมาธิเป็น ทางการเสียที นอกจากนั้นข้าพเจ้าก็ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาเมืองไทย ถ้ามาเมืองไทยก็ไม่แน่นักจะได้พบหลวงพ่อ เพราะได้ข่าวว่ามีคนมาพบหลวงพ่อแน่นทุกวัน

    ข้าพเจ้าตั้งใจว่าจะขับรถยนต์ไปกับภรรยาและลูกของข้าพเจ้า ให้ถึงเมืองชิคาโก แต่เผอิญข้าพเจ้าได้เจ็บป่วยเสียก่อนโดยเป็นไข้หวัดธรรมดาเอง แล้วก็มาติดภรรยาเสียอีกเขาก็เลยเจ็บป่วยกันงอมแงม เลยตัดสินใจมาคนเดียว โดยมาทางเครื่องบิน แต่ไข้หวัดเจ้ากรรมมันก็ยังไม่หาย ข้าพเจ้าก็กังวลใจกลัวจะไม่มีโอกาสได้พบหลวงพ่อ

    คืนวันก่อนเดินทางหนึ่งวัน ข้าพเจ้าก็ได้ไหว้พระและอธิษฐานขอให้ข้าพเจ้าหายจากเจ็บป่วยเถอะ ลูกจะได้พบหลวงพ่อตามความตั้งใจ พอรุ่งเช้ารู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้น สดชื่นกว่าทุกวัน และสามารถขับรถไปได้อีก 2 ชั่วโมงเพื่อไปขึ้นเครื่องต่อ

    เมื่อมาถึงเมืองชิคาโก ได้มาพักอยู่บ้านคุณบุษกรซึ่งข้าพเจ้าไม่รู้จักกันมาก่อนเลย เธอให้การต้อนรับเป็นอย่างดีเหมือนกับเป็นญาติพี่น้องกันมาก่อน ขอขอบพระคุณคุณบุษกรมา ณ โอกาสนี้ด้วย ก็เป็นอันว่าได้พบหลวงพ่อที่บ้านพักคุณอมร ริดใจบุญ (ขณะนั้นยังไม่ได้บวช) ในวันเดียวที่ข้าพเจ้าได้ถึงเมืองชิคาโก

    ข้าพเจ้าได้ฝึกสมาธิตามแบบมโนมยิทธิของหลวงพ่ออยู่ถึง 2 วัน ตามกำหนดแล้วหลวงพ่อให้ฝึก 3 คืน แต่ผมอยู่ไม่ได้มีธุระต้องกลับบ้าน ผลที่ได้รับจากการฝึกสมาธิแบบมโนมยิทธิของหลวงพ่อ ข้าพเจ้าดีใจเป็นอย่างมาก พูดกับตนเองว่าเกิดมาชาตินี้ทั้งทีไม่เสียชาติเกิด เพราะว่าข้าพเจ้าได้พบของวิเศษในชีวิตที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลย การฝึกสมาธิแบบนี้ ผลที่ได้รับนั้นจะมีฤทธิ์ทางใจจริงๆ เพราะสามารถเห็นผี เทวดา พรหม และแม้กระทั่งเห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระนิพพานได้ นอกจากใจเห็นได้แล้ว ยังสามารถคุยกับพวกพรหม เทวดาได้อีก ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกมากเพราะธรรมดาเรื่องเหล่านี้ถ้าใครมาคุยให้ข้าพเจ้า ฟังแล้วจะไม่สนใจนัก แต่ก็ไม่ปฏิเสธเมื่อมาพิสูจน์ได้แล้วก็ต้องเชื่อ อย่างไม่มีความสงสัย

    เมื่อเรามีความรู้ในทางทิพย์ เราก็ต้องทดลองเครื่องลางของขลังที่มีอยู่กับตัวเราให้ประจักษ์แก่ใจว่าจะมี จริงเพียงไร ข้าพเจ้าเป็นศัลยแพทย์ทางผ่าตัดทั่วไป ประจำอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา

    วันหนึ่งคนไข้ของข้าพเจ้าเจ็บหนัก และถึงขั้นสลบ ไม่รู้ตัว (โคม่า) แต่การเจ็บป่วยครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการผ่าตัด เกิดจากการเป็นอัมพาต แล้วมีโรคปอดบวมเข้า มีไข้สูงมาก เป็นอันว่าคนไข้คนนี้ตายแน่เพราะอายุก็เข้าไป 80 ปีแล้ว ขณะปลอดคน ยังไม่มีพยาบาลเข้ามาดูแลคนไข้ ข้าพเจ้านั่งอยู่ข้างเตียง จิตใจสงสารไม่รู้จะช่วยอย่างไร เพราะไม่ใช่เรื่องของการผ่าตัด ข้าพเจ้าก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่า อาจจะมีวิญญาณภูติผีในห้อง อาจจะเป็นได้ ก็เลยทำจิตให้สงบแล้วค่อยๆ ใช้กระแสจิตกวาดไปในห้อง ครั้งแรกเริ่มกวาดจากขวามาซ้าย กวาดไปช้าๆ พอมาถึงมุมห้อง รู้สึกว่ากระทบอะไรเข้าอย่างหนึ่ง แต่ข้าพเจ้าไม่ดูว่าเป็นอะไร เสร็จแล้วก็ทำแบบเดิม เริ่มจากทางซ้ายของห้องมาทางขวาพอมาถึงมุมห้องเดิมก็สะดุดสิ่งอันเดิมอีก

    ทีนี้ข้าพเจ้าก็เลยเอาจิตเพ่งที่มุมห้องทันที เพ่งสักพักก็เห็นชัดขึ้นมา พบว่าเป็นคนยืนอยู่ที่มุมห้องลักษณะเป็นชายร่างท้วม ผิวค่อนข้างขาว ไม่สูงนัก ใส่เสื้อแบบเสื้อยืดสีขาวค่อนข้างสกปรก แถมยังมีผ้ากันเปื้อนที่หน้าอก เหมือนกับที่แม่ครัวใส่เวลาทำกับข้าวแม้กระทั่งเสื้อกันเปื้อนยังสกปรก มือขวาถือหอกยาว ปลายหอกดูเหมือนจะมีสามแฉก นุ่งกางเกงขาสั้นแต่เลยเข่าไปหน่อย ใส่รองเท้าสานแบบนักรบโรมัน ขณะที่ยืนอยู่ก็ยืนอยู่ไม่นิ่ง เดี๊ยวเหลียวซ้ายแลขวา บางทีก็ทอดอารมณ์

    ข้าพเจ้าเป็นคนขี้สงสัยก็เลยขยับปากถามเพราะอยากรู้ว่าเจ้านี่คือใคร มาทำอะไรอยู่ในห้องนี้ แล้วถามเป็นภาษาอังกฤษออกไป คิดว่ามันเป็นผีฝรั่งแน่ ข้าพเจ้าถามว่า " คุณคือใคร...? "

    เท่านั้นแหละตาที่กำลังทอดอารมณ์อยู่ก็กลับมาจ้องเขม็งตรงมายังข้าพเจ้า เขาตอบว่า " มาเฝ้าไข้ "

    ข้าพเจ้าเลยถามต่อไปว่า " มาเฝ้าเพื่ออะไร ? "

    เขาตอบว่า " เพื่อจะเอาคนไข้ไป "

    ข้าพเจ้าถามอีกว่า " เอาไปเพื่ออะไร ? "

    เขาตอบว่า " ไม่รู้ เขาใช้ให้มาเอาไป "

    ข้าพเจ้าก็เลยนึกขึ้นได้ว่าไอ้เจ้าคนนี้ก็คือยมบาลเราดีๆนี่เอง คงจะเป็นยมบาลชั้นลูกน้อง เพราะถามอะไรแล้วก็ไม่รู้เรื่องนัก คงไม่ฉลาด ถ้าฉลาดแล้วเขาคงไม่ให้มายืนเฝ้าแบบนี้

    พอมาถึงตอนนี้ท่านผู้อ่านคงได้ยินคำบอกเล่าต่อกันมาว่า เวลาคนเราใกล้จะตายหรือตายแล้ว จะมียมบาลมาเอาวิญญาณไป ดังนั้นเรื่องก็เป็นจริงตามคำบอกเล่าของคนโบราณที่เล่ากันต่อๆมา

    ข้าพเจ้าก็เลยถามเขาต่อไปอีกว่า " คุณรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นหมอและเคยรักษาคนไข้คนนี้ "

    เขาตอบว่า " รู้แล้ว "

    ข้าพเจ้าก็เลยพูดต่อไปอีกว่า " เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน คนไข้คนนี้เป็นคนไข้ของฉัน ฉันรักษาเขามาหลายหนแล้ว และนับถือเขาเหมือนญาติ ฉันจะไม่ยอมให้คนไข้คนนี้แก่ท่าน แล้วท่านจะว่าอย่างไร ? "

    เขาตอบ " ไม่ให้ไม่ให้ ต้องเอาไปให้ได้ "

    ข้าพเจ้าก็เลยพูดสำทับต่อไปอีกว่า " ฉันจะไม่ยอมให้จริงๆ แล้วคุณจะว่าอย่างไร ?"

    เขาก็ตอบว่า " ก็ต้องสู้กันเท่านั้น "


    (((ปิดรายการนี้ค่า))))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0055.jpg
      DSCN0055.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76 KB
      เปิดดู:
      60
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2013
  18. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    #กำไรเหล็กไหลหลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์#2

    (เส้นผ่าศูนย์กลาง 6.5 ซม.) ของแแท้ 100%


    อานุภาพของธาตุกายสิทธิ์ (พญาเหล็ก/เหล็กไหล)
    …"เหล็กไหล" เป็น โลหะธาตุแปลกประหลาดที่มีชีวิต เป็นวิบากของกฏแห่งกรรม บันดาลให้วิญญาณอยู่ในสังสารวัฏ มาปฏิสนธิในสภาวะที่เป็นโลหะธาตุเหล็กไหล เคลื่อนไหวได้ เสพบริโภคผึ้งได้ ขับถ่ายได้ (เรียกว่าขี้เหล็กไหล)และสถานที่อยู่อาศัยนั้นชอบสถานที่สงบตามถ้ำ ดังนั้นจึงถือได้ว่าเหล็กไหลเป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกเทพ เป็นเทพที่มาใช้วิบากกรรมในโลก เหล็กไหลจึงมีทั้งเทพที่เป็นยักษ์ ที่เป็นคนธรรพ์คอยอารักขาอยู่ตลอดเวลา เหล็กไหลที่พบกันจึงมีหลากหลายชนิดที่ได้เห็นกัน เหล็กไหลเป็นธาตุที่ทรงอำนาจในการป้องกันตัว และ สิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ให้พ้นจากภัยอันตราย อันเกิดจาก "อาวุธปืน" หรือ "ของมีคม" และ "ศาสตราวุธ" ทุกชนิด "เหล็กไหล" เป็นสสารที่มีชีวิตเป็นอมตะ และ หาได้ยากยิ่ง ต้องมีพิธีกรรมมากมาย กว่าจะได้มา ฉะนั้น เหล็กไหลจึงเป็นวัตถุอาถรรพ์ที่มีราคาแพง เพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และ เป็นที่เข้าใจกันทั่วไปว่า เหล็กไหลมีอานุภาพยอดเยี่ยม สามารถคุ้มครองชีวิตผู้ที่มีเหล็กไหลไว้ในความครอบครองหรือพกพาติดตัว และจะได้รับความคุ้มครองให้ปลอดภัยจาก "อุบัติภัยร้ายแรง" ต่างๆ รวมไปถึง "อาวุธร้ายแรง" นานาชนิด ได้อย่างอัศจรรย์นั่นเอง

    ผู้ที่จะทำพิธีตัดเหล็กไหลได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรมชั้นสูง และต้องประพฤติปฏิบัติรักษาศีลได้อย่างมั่นคง ไม่มีจิตคิดละโมภ กล่าวคือ จะต้องขออนุญาตจาก "เทพยดา" ผู้ดูแลรักษาเสียก่อน เมื่อได้รับอนุญาตจึงค่อยทำพิธีตัดเอาได้ มิฉะนั้น หากเราขืนตัดเหล็กไหลด้วยกำลัง หมายแย่งชิงเอาโดยพละการ ถือดีในพระเวทย์ก็อาจมีเภทภัยถึงแก่ชีวิต หรือ เกิดความขัดแย้งในหมู่คณะจนถึงขั้นวิบัติเอาได้ ด้วยอิทธิฤทธิ์ของเทพยดาผู้รักษาเหล็กไหลนั้นเอง
    หลวงพ่อหวลท่านได้เรียนวิชาอาคม สุดยอดวิชาอาคมที่เกือบจะเรียกว่าสาบสูญไปแล้ว ได้แก่วิชาอาคมเรียกและเชิญเหล็กไหล หรือพญาเหล็กไหลสุดยอดแห่งธาตุกายสิทธิ์ ที่ทุกคนต้องการได้มาครอบครอง วิชาอาคมเรียกหรือเชิญเหล็กไหลนั้นไม่ใช่จะเปิดเผยกันง่ายๆการเรียกหรือเชิญเหล็กไหลก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ทำได้ เหล็กไหลเป็นธาตุกายสิทธิ์…..ย่อมเป็นอันตรายต่อผู้ที่จิตไม่บริสุทธิ์ หากทำการเรียกหรืออัญเชิญเหล็กไหล อาจถึงตายได้ ซึ่งหลวงพ่อหวล แห่งวัดพุทไธสวรรค์ จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านได้เล่าเรียนศึกษาวิชา "การเรียกและตัดเหล็กไหล" จากศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ หลายท่านบอกว่าหลวงพ่อเดิมท่านชอบเล่นแร่แปรธาตุ บางคนตั้งให้หลวงพ่อเดิมท่านเป็นเทพเจ้าแห่งการเล่นแร่แปรธาตุเลยทีเดียว
    เหล็กไหลที่หลวงพ่อหวลได้ตัดไว้ มีด้วยกัน 3 วรรณะ ซึ่งแต่ละสีก็แบ่งแยกตามชั้นวรรณะของเหล่าบรรดา "เทพยดา หรือ ฤาษี" ที่ปกปักรักษา ได้แก่
    1.วรรณะเจ้าน้ำเงิน
    2.วรรณะท้องปลาไหล
    3.วรรณะเงินยวง

    และรูปแบบของเหล็กไหลที่ท่านตัดไว้มีหลายอย่าง อาทิเช่น แบบพิมพ์พระกริ่ง (นิยมสูงสุด และหายากมากที่สุด!!! ), พระพุทธ, แคปซูล, แหวน, กำไล, พระขรรค์ ,กรมหลวงชุมพร,หลวงปู่ทวด,รัชกาลที่ 5, พระสมเด็จ,พระนางพญา,พระผงสุพรรณ,พระซุ้มกอ,พระรอด,เจ้าแม่กวนอิม,พระขรรค์,ตรีสูญ,พระบูชา,พระสังกัจจายน์ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งเหล็กไหลแต่ละพิมพ์นั้น หลวงพ่อหวลจะต้องจัดสร้าง "หุ่นเทียน" ขึ้นมาไว้ก่อน จากนั้นหลวงพ่อท่านจึงนำเข้าไปในถ้ำกลางป่าลึก แล้วเมื่อท่านเจอ "เหล็กไหล" ท่านจึงทำ "พิธีอัญเชิญเหล็กไหล" ให้ "ไหลวิ่ง" ลงมาตามด้ายสายสิญจ์ โดยอัญเชิญให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง เพื่อให้เราสามารถที่จะจับต้องเหล็กไหลเป็นรูปธรรมได้ ตามรูปแบบทรงพิมพ์ของหุ่นเทียนที่หลวงพ่อท่านได้ขออนุญาตจัดสร้างเตรียมขึ้นมา (หุ่นเทียน 1 อัน จะได้เหล็กไหล มาเพียงแค่ 1 ชิ้นเท่านั้น) ซึ่งพิธีในขั้นตอนนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พิธีหุงเหล็กไหล" โดยเป็นวิธีการหุงแบบตามธรรมชาติ โดยให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง ซึ่งในการทำพิธีแต่ละครั้ง ต้องใช้ "อำนาจพลังจิต" สูงมาก และเหล็กไหลที่ได้มาแต่ละชิ้นนั้น ต้องใช้ระยะเวลาในการหุงนานมาก จึงทำให้ในการทำพิธีแต่ละครั้งจะได้เหล็กไหลเพียงไม่กี่ชิ้น (โดยในแต่ละขั้นตอนในการทำพิธีนี้ ต้องเป็นผู้มีวิชาอาคมใน "การเรียกและตัดเหล็กไหล" โดยเฉพาะ) ไม่ได้มาทำกันเล่นๆๆ หรือ นำเหล็กมาปั๊ม หรือ นำมาหล่อ เหมือนอย่างพระเครื่องทั่วๆไป ซึ่งทำให้ "ของปลอม" ยากที่จะทำออกมาเลียนแบบได้ ซึ่งปัจจุบันเหล็กไหลของหลวงพ่อหวลนี้หายากมากๆๆ เดินตามสนามพระทั่วไปแล้ว ท่านจะไม่ได้พบเห็นเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เพราะเป็นที่หวงแหนของผู้ที่มีไว้ครอบครองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ เป็นเหล็กไหลที่หาได้ค่อนข้างยากมากๆๆๆ (เพราะมีระดับสภาวะ ขั้นสูงสุด 31 ภพภูมิ ทั้งยังมีเทพยดา และ ฤาษี ชั้น "มหาเทพ" และ "มหาฤาษี" ลงมาปกปักรักษามากที่สุดและจะพบ "เหล็กไหล 3 สี 3 วรรณะ" นี้ได้ ต้องเป็นถ้ำที่มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นมาก และอยู่ในกลางป่าลึก บริเวณใจกลางหุบเขา "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" มีคุณวิเศษทางด้านเมตตาแรงมากๆๆ มหาเสน่ห์ขั้นสูง คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เรียกโชคลาภขั้นสูง บันดาลทรัพย์สินเงินทอง ดลจิตดลใจ พลิกดวงชะตา จากตกต่ำให้เป็นสูงขึ้น (จากหน้ามือเป็นหลังมือ) เตือนภัยเมื่อมีเหตุคับขัน และสามารถล่องหนกำบังตัวหลบภัยได้ (ครบวงจร) ชอบช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรม หรือ จะดลจิตดลใจของผู้ครอบครองเหล็กไหลนี้ ให้ตั้งมั่นอยู่แต่ในศีลในธรรม ในความดี มุ่งแต่สร้างบุญสร้างกุศล เพราะเกิดจากฤทธิ์ของมหาเทพและมหาฤาษีในขั้นระดับ “อรูปฌาณ” ที่มีบารมีธรรมสูงมาก ที่เป็นผู้ปกป้องครอบครองเหล็กไหลประเภทนี้ อยู่นั้นเอง

    "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ มักจะตกได้อยู่แต่ในความครอบครองของ "พระภิกษุ" หรือ "นักบวชต่างๆ" (ที่มีฌาณขั้นอุกฤษณ์) คนธรรมดาอย่างเราๆ ยากนักที่จะได้เป็นผู้ครอบครอง เพราะใช่ว่ามีเงินเพียงอย่างเดียวจะหามาไว้ในความครอบครองได้ง่ายๆๆ จะต้องเป็น "ผู้มีบุญญาธิการบารมี" และต้องมี "กรรมเก่าเกี่ยวกัน" จริงๆๆ จึงจะได้เป็นผู้ครอบครอง พระพญาเหล็กไหลนี้ มีคุณ 108 ประการตามแต่อธิษฐาน ท่านบอกว่าใครได้ครอบครองไว้จะมีอำนาจ บารมี เหนือผู้อื่นพกพาติดตัวแคล้วคลาดปลอดภัย กิจการงานเจริญก้าวหน้า เดินทางไปที่ใด มีเทพยดา ปกปักรักษา มีโชคลาภ เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง และพระพญาเหล็กนี้ใช่ว่ามีเงินแล้วจะได้ครอบครอง ล.พ.หวลท่านบอกว่าต้องมีบุญวาสนาแต่ชาติปางก่อนจึงได้ครอบครอบครอง


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0151.jpg
      DSCN0151.jpg
      ขนาดไฟล์:
      90.3 KB
      เปิดดู:
      25
    • DSCN0152.jpg
      DSCN0152.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.1 KB
      เปิดดู:
      19
    • DSCN0153.jpg
      DSCN0153.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.6 KB
      เปิดดู:
      21
    • DSCN0157.jpg
      DSCN0157.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.3 KB
      เปิดดู:
      19
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2013
  19. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ผ้ายันต์เกาะเพชร หลวงปู่ปาน (ผืนเล็ก)2

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก


    " พลังอำนาจ " ยันต์เกราะเพชร " ลูกหลวงพ่อ "

    การที่ข้าพเจ้าได้นำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังก็เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ น่าสนใจเรื่องหนึ่งที่บรรดาท่านทั้งหลายมียันต์เกราะเพชรไว้ประจำตัวและผู้ เขียนเองก็ห้อยคออยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะไปไหนหรือแม้แต่เวลานอนก็ยังอยู่ที่คอ ตลอดเวลา

    เรามีของประจำตัวนั้น บางทีเราก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า เครื่องรางของขลังนั้นจะสามารถป้องกันตัวเราให้พ้นจากอันตรายได้หรือเปล่าก็ ไม่ทราบ ซึ่งคงมีหลายท่านที่มีความคิดเหมือนกับข้าพเจ้า บางท่านอาจจะมีประสบการณ์มาแล้ว รู้ได้เฉพาะตัวของท่านเอง ไม่อยากจะเล่าให้คนอื่นฟังเพราะถ้าเล่าให้ฟังแล้วอาจจะไม่เชื่อก็ได้

    เรื่องเครื่องลางของขลังนั้น ถ้าเรามีความรู้จะพิสูจน์ว่าจะสามารถป้องกันหรือคุ้มครองให้แก่เราได้หรือ ไม่นั้น เราก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นแจ้งชัดกันไปเลย

    ข้าพเจ้าได้พบหลวงพ่อฤาษีเป็นครั้งแรกที่เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา นับว่าเป็นโชคดีที่สุดในชีวิตของข้าพเจ้าในการไปหาท่านครั้งนี้ ข้าพเจ้าทำสมาธิมาหลายปีแล้ว ประมาณสัก 15 ปี เห็นจะได้ ทำโดยไม่มีครูหัดเลย อ่านจากหนังสือแล้วก็ทำเอง ทำถูกบ้างไม่ถูกบ้าง ดังนั้นจึงเป็นโอกาสอันดีงามที่หลวงพ่อเดินทางไปอเมริกาจะได้ฝึกสมาธิเป็น ทางการเสียที นอกจากนั้นข้าพเจ้าก็ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาเมืองไทย ถ้ามาเมืองไทยก็ไม่แน่นักจะได้พบหลวงพ่อ เพราะได้ข่าวว่ามีคนมาพบหลวงพ่อแน่นทุกวัน

    ข้าพเจ้าตั้งใจว่าจะขับรถยนต์ไปกับภรรยาและลูกของข้าพเจ้า ให้ถึงเมืองชิคาโก แต่เผอิญข้าพเจ้าได้เจ็บป่วยเสียก่อนโดยเป็นไข้หวัดธรรมดาเอง แล้วก็มาติดภรรยาเสียอีกเขาก็เลยเจ็บป่วยกันงอมแงม เลยตัดสินใจมาคนเดียว โดยมาทางเครื่องบิน แต่ไข้หวัดเจ้ากรรมมันก็ยังไม่หาย ข้าพเจ้าก็กังวลใจกลัวจะไม่มีโอกาสได้พบหลวงพ่อ

    คืนวันก่อนเดินทางหนึ่งวัน ข้าพเจ้าก็ได้ไหว้พระและอธิษฐานขอให้ข้าพเจ้าหายจากเจ็บป่วยเถอะ ลูกจะได้พบหลวงพ่อตามความตั้งใจ พอรุ่งเช้ารู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้น สดชื่นกว่าทุกวัน และสามารถขับรถไปได้อีก 2 ชั่วโมงเพื่อไปขึ้นเครื่องต่อ

    เมื่อมาถึงเมืองชิคาโก ได้มาพักอยู่บ้านคุณบุษกรซึ่งข้าพเจ้าไม่รู้จักกันมาก่อนเลย เธอให้การต้อนรับเป็นอย่างดีเหมือนกับเป็นญาติพี่น้องกันมาก่อน ขอขอบพระคุณคุณบุษกรมา ณ โอกาสนี้ด้วย ก็เป็นอันว่าได้พบหลวงพ่อที่บ้านพักคุณอมร ริดใจบุญ (ขณะนั้นยังไม่ได้บวช) ในวันเดียวที่ข้าพเจ้าได้ถึงเมืองชิคาโก

    ข้าพเจ้าได้ฝึกสมาธิตามแบบมโนมยิทธิของหลวงพ่ออยู่ถึง 2 วัน ตามกำหนดแล้วหลวงพ่อให้ฝึก 3 คืน แต่ผมอยู่ไม่ได้มีธุระต้องกลับบ้าน ผลที่ได้รับจากการฝึกสมาธิแบบมโนมยิทธิของหลวงพ่อ ข้าพเจ้าดีใจเป็นอย่างมาก พูดกับตนเองว่าเกิดมาชาตินี้ทั้งทีไม่เสียชาติเกิด เพราะว่าข้าพเจ้าได้พบของวิเศษในชีวิตที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลย การฝึกสมาธิแบบนี้ ผลที่ได้รับนั้นจะมีฤทธิ์ทางใจจริงๆ เพราะสามารถเห็นผี เทวดา พรหม และแม้กระทั่งเห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระนิพพานได้ นอกจากใจเห็นได้แล้ว ยังสามารถคุยกับพวกพรหม เทวดาได้อีก ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกมากเพราะธรรมดาเรื่องเหล่านี้ถ้าใครมาคุยให้ข้าพเจ้า ฟังแล้วจะไม่สนใจนัก แต่ก็ไม่ปฏิเสธเมื่อมาพิสูจน์ได้แล้วก็ต้องเชื่อ อย่างไม่มีความสงสัย

    เมื่อเรามีความรู้ในทางทิพย์ เราก็ต้องทดลองเครื่องลางของขลังที่มีอยู่กับตัวเราให้ประจักษ์แก่ใจว่าจะมี จริงเพียงไร ข้าพเจ้าเป็นศัลยแพทย์ทางผ่าตัดทั่วไป ประจำอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา

    วันหนึ่งคนไข้ของข้าพเจ้าเจ็บหนัก และถึงขั้นสลบ ไม่รู้ตัว (โคม่า) แต่การเจ็บป่วยครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการผ่าตัด เกิดจากการเป็นอัมพาต แล้วมีโรคปอดบวมเข้า มีไข้สูงมาก เป็นอันว่าคนไข้คนนี้ตายแน่เพราะอายุก็เข้าไป 80 ปีแล้ว ขณะปลอดคน ยังไม่มีพยาบาลเข้ามาดูแลคนไข้ ข้าพเจ้านั่งอยู่ข้างเตียง จิตใจสงสารไม่รู้จะช่วยอย่างไร เพราะไม่ใช่เรื่องของการผ่าตัด ข้าพเจ้าก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่า อาจจะมีวิญญาณภูติผีในห้อง อาจจะเป็นได้ ก็เลยทำจิตให้สงบแล้วค่อยๆ ใช้กระแสจิตกวาดไปในห้อง ครั้งแรกเริ่มกวาดจากขวามาซ้าย กวาดไปช้าๆ พอมาถึงมุมห้อง รู้สึกว่ากระทบอะไรเข้าอย่างหนึ่ง แต่ข้าพเจ้าไม่ดูว่าเป็นอะไร เสร็จแล้วก็ทำแบบเดิม เริ่มจากทางซ้ายของห้องมาทางขวาพอมาถึงมุมห้องเดิมก็สะดุดสิ่งอันเดิมอีก

    ทีนี้ข้าพเจ้าก็เลยเอาจิตเพ่งที่มุมห้องทันที เพ่งสักพักก็เห็นชัดขึ้นมา พบว่าเป็นคนยืนอยู่ที่มุมห้องลักษณะเป็นชายร่างท้วม ผิวค่อนข้างขาว ไม่สูงนัก ใส่เสื้อแบบเสื้อยืดสีขาวค่อนข้างสกปรก แถมยังมีผ้ากันเปื้อนที่หน้าอก เหมือนกับที่แม่ครัวใส่เวลาทำกับข้าวแม้กระทั่งเสื้อกันเปื้อนยังสกปรก มือขวาถือหอกยาว ปลายหอกดูเหมือนจะมีสามแฉก นุ่งกางเกงขาสั้นแต่เลยเข่าไปหน่อย ใส่รองเท้าสานแบบนักรบโรมัน ขณะที่ยืนอยู่ก็ยืนอยู่ไม่นิ่ง เดี๊ยวเหลียวซ้ายแลขวา บางทีก็ทอดอารมณ์

    ข้าพเจ้าเป็นคนขี้สงสัยก็เลยขยับปากถามเพราะอยากรู้ว่าเจ้านี่คือใคร มาทำอะไรอยู่ในห้องนี้ แล้วถามเป็นภาษาอังกฤษออกไป คิดว่ามันเป็นผีฝรั่งแน่ ข้าพเจ้าถามว่า " คุณคือใคร...? "

    เท่านั้นแหละตาที่กำลังทอดอารมณ์อยู่ก็กลับมาจ้องเขม็งตรงมายังข้าพเจ้า เขาตอบว่า " มาเฝ้าไข้ "

    ข้าพเจ้าเลยถามต่อไปว่า " มาเฝ้าเพื่ออะไร ? "

    เขาตอบว่า " เพื่อจะเอาคนไข้ไป "

    ข้าพเจ้าถามอีกว่า " เอาไปเพื่ออะไร ? "

    เขาตอบว่า " ไม่รู้ เขาใช้ให้มาเอาไป "

    ข้าพเจ้าก็เลยนึกขึ้นได้ว่าไอ้เจ้าคนนี้ก็คือยมบาลเราดีๆนี่เอง คงจะเป็นยมบาลชั้นลูกน้อง เพราะถามอะไรแล้วก็ไม่รู้เรื่องนัก คงไม่ฉลาด ถ้าฉลาดแล้วเขาคงไม่ให้มายืนเฝ้าแบบนี้

    พอมาถึงตอนนี้ท่านผู้อ่านคงได้ยินคำบอกเล่าต่อกันมาว่า เวลาคนเราใกล้จะตายหรือตายแล้ว จะมียมบาลมาเอาวิญญาณไป ดังนั้นเรื่องก็เป็นจริงตามคำบอกเล่าของคนโบราณที่เล่ากันต่อๆมา

    ข้าพเจ้าก็เลยถามเขาต่อไปอีกว่า " คุณรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นหมอและเคยรักษาคนไข้คนนี้ "

    เขาตอบว่า " รู้แล้ว "

    ข้าพเจ้าก็เลยพูดต่อไปอีกว่า " เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน คนไข้คนนี้เป็นคนไข้ของฉัน ฉันรักษาเขามาหลายหนแล้ว และนับถือเขาเหมือนญาติ ฉันจะไม่ยอมให้คนไข้คนนี้แก่ท่าน แล้วท่านจะว่าอย่างไร ? "

    เขาตอบ " ไม่ให้ไม่ให้ ต้องเอาไปให้ได้ "

    ข้าพเจ้าก็เลยพูดสำทับต่อไปอีกว่า " ฉันจะไม่ยอมให้จริงๆ แล้วคุณจะว่าอย่างไร ?"

    เขาก็ตอบว่า " ก็ต้องสู้กันเท่านั้น "


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0056.jpg
      DSCN0056.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.8 KB
      เปิดดู:
      25
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2013
  20. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    #กำไรเหล็กไหลหลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์#3

    (เส้นผ่าศูนย์กลาง 6.5 ซม.) ของแแท้ 100%


    อานุภาพของธาตุกายสิทธิ์ (พญาเหล็ก/เหล็กไหล)
    …"เหล็กไหล" เป็น โลหะธาตุแปลกประหลาดที่มีชีวิต เป็นวิบากของกฏแห่งกรรม บันดาลให้วิญญาณอยู่ในสังสารวัฏ มาปฏิสนธิในสภาวะที่เป็นโลหะธาตุเหล็กไหล เคลื่อนไหวได้ เสพบริโภคผึ้งได้ ขับถ่ายได้ (เรียกว่าขี้เหล็กไหล)และสถานที่อยู่อาศัยนั้นชอบสถานที่สงบตามถ้ำ ดังนั้นจึงถือได้ว่าเหล็กไหลเป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกเทพ เป็นเทพที่มาใช้วิบากกรรมในโลก เหล็กไหลจึงมีทั้งเทพที่เป็นยักษ์ ที่เป็นคนธรรพ์คอยอารักขาอยู่ตลอดเวลา เหล็กไหลที่พบกันจึงมีหลากหลายชนิดที่ได้เห็นกัน เหล็กไหลเป็นธาตุที่ทรงอำนาจในการป้องกันตัว และ สิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ให้พ้นจากภัยอันตราย อันเกิดจาก "อาวุธปืน" หรือ "ของมีคม" และ "ศาสตราวุธ" ทุกชนิด "เหล็กไหล" เป็นสสารที่มีชีวิตเป็นอมตะ และ หาได้ยากยิ่ง ต้องมีพิธีกรรมมากมาย กว่าจะได้มา ฉะนั้น เหล็กไหลจึงเป็นวัตถุอาถรรพ์ที่มีราคาแพง เพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และ เป็นที่เข้าใจกันทั่วไปว่า เหล็กไหลมีอานุภาพยอดเยี่ยม สามารถคุ้มครองชีวิตผู้ที่มีเหล็กไหลไว้ในความครอบครองหรือพกพาติดตัว และจะได้รับความคุ้มครองให้ปลอดภัยจาก "อุบัติภัยร้ายแรง" ต่างๆ รวมไปถึง "อาวุธร้ายแรง" นานาชนิด ได้อย่างอัศจรรย์นั่นเอง

    ผู้ที่จะทำพิธีตัดเหล็กไหลได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรมชั้นสูง และต้องประพฤติปฏิบัติรักษาศีลได้อย่างมั่นคง ไม่มีจิตคิดละโมภ กล่าวคือ จะต้องขออนุญาตจาก "เทพยดา" ผู้ดูแลรักษาเสียก่อน เมื่อได้รับอนุญาตจึงค่อยทำพิธีตัดเอาได้ มิฉะนั้น หากเราขืนตัดเหล็กไหลด้วยกำลัง หมายแย่งชิงเอาโดยพละการ ถือดีในพระเวทย์ก็อาจมีเภทภัยถึงแก่ชีวิต หรือ เกิดความขัดแย้งในหมู่คณะจนถึงขั้นวิบัติเอาได้ ด้วยอิทธิฤทธิ์ของเทพยดาผู้รักษาเหล็กไหลนั้นเอง
    หลวงพ่อหวลท่านได้เรียนวิชาอาคม สุดยอดวิชาอาคมที่เกือบจะเรียกว่าสาบสูญไปแล้ว ได้แก่วิชาอาคมเรียกและเชิญเหล็กไหล หรือพญาเหล็กไหลสุดยอดแห่งธาตุกายสิทธิ์ ที่ทุกคนต้องการได้มาครอบครอง วิชาอาคมเรียกหรือเชิญเหล็กไหลนั้นไม่ใช่จะเปิดเผยกันง่ายๆการเรียกหรือเชิญเหล็กไหลก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ทำได้ เหล็กไหลเป็นธาตุกายสิทธิ์…..ย่อมเป็นอันตรายต่อผู้ที่จิตไม่บริสุทธิ์ หากทำการเรียกหรืออัญเชิญเหล็กไหล อาจถึงตายได้ ซึ่งหลวงพ่อหวล แห่งวัดพุทไธสวรรค์ จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านได้เล่าเรียนศึกษาวิชา "การเรียกและตัดเหล็กไหล" จากศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ หลายท่านบอกว่าหลวงพ่อเดิมท่านชอบเล่นแร่แปรธาตุ บางคนตั้งให้หลวงพ่อเดิมท่านเป็นเทพเจ้าแห่งการเล่นแร่แปรธาตุเลยทีเดียว
    เหล็กไหลที่หลวงพ่อหวลได้ตัดไว้ มีด้วยกัน 3 วรรณะ ซึ่งแต่ละสีก็แบ่งแยกตามชั้นวรรณะของเหล่าบรรดา "เทพยดา หรือ ฤาษี" ที่ปกปักรักษา ได้แก่
    1.วรรณะเจ้าน้ำเงิน
    2.วรรณะท้องปลาไหล
    3.วรรณะเงินยวง

    และรูปแบบของเหล็กไหลที่ท่านตัดไว้มีหลายอย่าง อาทิเช่น แบบพิมพ์พระกริ่ง (นิยมสูงสุด และหายากมากที่สุด!!! ), พระพุทธ, แคปซูล, แหวน, กำไล, พระขรรค์ ,กรมหลวงชุมพร,หลวงปู่ทวด,รัชกาลที่ 5, พระสมเด็จ,พระนางพญา,พระผงสุพรรณ,พระซุ้มกอ,พระรอด,เจ้าแม่กวนอิม,พระขรรค์,ตรีสูญ,พระบูชา,พระสังกัจจายน์ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งเหล็กไหลแต่ละพิมพ์นั้น หลวงพ่อหวลจะต้องจัดสร้าง "หุ่นเทียน" ขึ้นมาไว้ก่อน จากนั้นหลวงพ่อท่านจึงนำเข้าไปในถ้ำกลางป่าลึก แล้วเมื่อท่านเจอ "เหล็กไหล" ท่านจึงทำ "พิธีอัญเชิญเหล็กไหล" ให้ "ไหลวิ่ง" ลงมาตามด้ายสายสิญจ์ โดยอัญเชิญให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง เพื่อให้เราสามารถที่จะจับต้องเหล็กไหลเป็นรูปธรรมได้ ตามรูปแบบทรงพิมพ์ของหุ่นเทียนที่หลวงพ่อท่านได้ขออนุญาตจัดสร้างเตรียมขึ้นมา (หุ่นเทียน 1 อัน จะได้เหล็กไหล มาเพียงแค่ 1 ชิ้นเท่านั้น) ซึ่งพิธีในขั้นตอนนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พิธีหุงเหล็กไหล" โดยเป็นวิธีการหุงแบบตามธรรมชาติ โดยให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง ซึ่งในการทำพิธีแต่ละครั้ง ต้องใช้ "อำนาจพลังจิต" สูงมาก และเหล็กไหลที่ได้มาแต่ละชิ้นนั้น ต้องใช้ระยะเวลาในการหุงนานมาก จึงทำให้ในการทำพิธีแต่ละครั้งจะได้เหล็กไหลเพียงไม่กี่ชิ้น (โดยในแต่ละขั้นตอนในการทำพิธีนี้ ต้องเป็นผู้มีวิชาอาคมใน "การเรียกและตัดเหล็กไหล" โดยเฉพาะ) ไม่ได้มาทำกันเล่นๆๆ หรือ นำเหล็กมาปั๊ม หรือ นำมาหล่อ เหมือนอย่างพระเครื่องทั่วๆไป ซึ่งทำให้ "ของปลอม" ยากที่จะทำออกมาเลียนแบบได้ ซึ่งปัจจุบันเหล็กไหลของหลวงพ่อหวลนี้หายากมากๆๆ เดินตามสนามพระทั่วไปแล้ว ท่านจะไม่ได้พบเห็นเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เพราะเป็นที่หวงแหนของผู้ที่มีไว้ครอบครองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ เป็นเหล็กไหลที่หาได้ค่อนข้างยากมากๆๆๆ (เพราะมีระดับสภาวะ ขั้นสูงสุด 31 ภพภูมิ ทั้งยังมีเทพยดา และ ฤาษี ชั้น "มหาเทพ" และ "มหาฤาษี" ลงมาปกปักรักษามากที่สุดและจะพบ "เหล็กไหล 3 สี 3 วรรณะ" นี้ได้ ต้องเป็นถ้ำที่มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นมาก และอยู่ในกลางป่าลึก บริเวณใจกลางหุบเขา "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" มีคุณวิเศษทางด้านเมตตาแรงมากๆๆ มหาเสน่ห์ขั้นสูง คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เรียกโชคลาภขั้นสูง บันดาลทรัพย์สินเงินทอง ดลจิตดลใจ พลิกดวงชะตา จากตกต่ำให้เป็นสูงขึ้น (จากหน้ามือเป็นหลังมือ) เตือนภัยเมื่อมีเหตุคับขัน และสามารถล่องหนกำบังตัวหลบภัยได้ (ครบวงจร) ชอบช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรม หรือ จะดลจิตดลใจของผู้ครอบครองเหล็กไหลนี้ ให้ตั้งมั่นอยู่แต่ในศีลในธรรม ในความดี มุ่งแต่สร้างบุญสร้างกุศล เพราะเกิดจากฤทธิ์ของมหาเทพและมหาฤาษีในขั้นระดับ “อรูปฌาณ” ที่มีบารมีธรรมสูงมาก ที่เป็นผู้ปกป้องครอบครองเหล็กไหลประเภทนี้ อยู่นั้นเอง

    "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ มักจะตกได้อยู่แต่ในความครอบครองของ "พระภิกษุ" หรือ "นักบวชต่างๆ" (ที่มีฌาณขั้นอุกฤษณ์) คนธรรมดาอย่างเราๆ ยากนักที่จะได้เป็นผู้ครอบครอง เพราะใช่ว่ามีเงินเพียงอย่างเดียวจะหามาไว้ในความครอบครองได้ง่ายๆๆ จะต้องเป็น "ผู้มีบุญญาธิการบารมี" และต้องมี "กรรมเก่าเกี่ยวกัน" จริงๆๆ จึงจะได้เป็นผู้ครอบครอง พระพญาเหล็กไหลนี้ มีคุณ 108 ประการตามแต่อธิษฐาน ท่านบอกว่าใครได้ครอบครองไว้จะมีอำนาจ บารมี เหนือผู้อื่นพกพาติดตัวแคล้วคลาดปลอดภัย กิจการงานเจริญก้าวหน้า เดินทางไปที่ใด มีเทพยดา ปกปักรักษา มีโชคลาภ เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง และพระพญาเหล็กนี้ใช่ว่ามีเงินแล้วจะได้ครอบครอง ล.พ.หวลท่านบอกว่าต้องมีบุญวาสนาแต่ชาติปางก่อนจึงได้ครอบครอบครอง


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0154.jpg
      DSCN0154.jpg
      ขนาดไฟล์:
      89.1 KB
      เปิดดู:
      47
    • DSCN0155.jpg
      DSCN0155.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.7 KB
      เปิดดู:
      19
    • DSCN0156.jpg
      DSCN0156.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.5 KB
      เปิดดู:
      22
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...