ลดราคาหลายเกจิ ครูบากฤษดา จองภายใน 3 วัน

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย นพ_กำแพงแสน, 1 เมษายน 2012.

  1. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,982
    ค่าพลัง:
    +10,040
    พระดีปีลึกพิธีใหญ่รวมสุดยอดพระเกจิ ราคาตอนแรงๆขึ้นไป 2500 3000 ครับ

    พระสมเด็จจิตรลดาหลังอุณาโลม พิมพ์ใหญ่ พร้อมกล่องเด้มๆ ปี 2519 เลี่ยมพลาสติก พร้อมกล่องเดิมๆ

    พระสมเด็จอุณาโลมทรงจิตรลดา ปี 2519 ในหลวงทรงรับสั่งให้สร้าง และทรงพระสุหร่ายด้วยพระองค์เอง คือพระที่ในหลวงมีพระราชปรารถให้นำกระเบื้องวัดบวรนิเวศวิหารมาสร้างพระนี่คือปฐมเหตุ!!!!!และเสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีและทรงพระสุหร่ายด้วยพระองค์เอง

    พระสมเด็จอุณาโลม ได้ถอดแบบมาจาก พระสมเด็จจิตรลดา ด้านหน้าเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งสมาธิอยู่บนอาสนะบัวสองชั้นในทรงกรอบสามเหลี่ยมหน้าจั่วคล้ายพระสมเด็จจิตรลดาแต่เพิ่มรายละเอียดในองค์พระปฏิมากรให้ชัดเจนขึ้นและเพิ่มยันต์อุณาโลมที่ด้านหลังองค์พระ พร้อมกับมีอักขระจารึกว่า เอตังสะติง พะมะนะอะกะสะนะทะอะ สะ อะ เป็น 3 บรรทัด อักษรจมลงไปในเนื้อพระ ด้านหลัง
    ขนาดพระมีสองพิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ สูง 3 ซม. กว้าง 2 ซม. หนา 0.5 ซม. ส่วนพิมพ์เล็กสูง 2.5 ซม. กว้าง 1.7 ซม. หนา 0.4 ซม. พระเครื่องพิมพ์นี้เป็นพระเครื่องเนื้อผงพุทธคุณ สีแบบอิฐเผา จำนวนสร้าง 100,000 องค์.

    พิธีพุทธภิเษก
    เมื่อสร้างเสร็จเป็นองค์พระแล้ว ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกขึ้นอีก 7 วัน ณ พระอุโบสถคณะรังษี วัดบวรนิเวศวิหารฯ เมื่อวันที่ 5-11 ก.ค. 2519
    รายนามพระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสกและเจริญพุทธมนต์พระสมเด็จพระอุณาโลมทรงจิตลดา - นางพญา สก. 2519
    1. วันจันทร์ 5 ก.ค. 2519 เวลา 17.00 น.
    พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
    1. สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรฯ
    2. พระสังวรวิมลเถระ(หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
    3. หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่
    4. หลวงพ่อเมตตาหลวง วัดเทพพิทักษ์ฯ นครราชสีมา
    5. พระเทพวราลังการ(หลวงปู่ศรีจันทร์) วัดศรีสุทธาวาส จ.เลย
    6. พระสุทธิสารโสภณ วัดศรีโพแท่น จ.เลย
    7. หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม จ.อุดรธานี
    พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ เจริญพุทธมนต์ ๑๐รูป
    1. สมเด็จพระวันรัต วัดสังเวชวิศยาราม
    2. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา
    3. สมเด็จพระพุทธิวงศมุนี วัดเบญจมบพิธ
    4. พระพรหมคุณากรณ์ วัดสระเกศ
    5. พระธรรมวราลังการ วัดบุปผาราม
    6. พระธรรมวิสุทธาจารย์ วัดพิชัยญาติการาม
    7. พระธรรมธีรราชมหามุนี วัดปากน้ำ
    8. พระราชสารมุนี วัดเขมาภิรตาราม
    9. พระปริยัติเมธี วัดมกุฎกษัตริย์
    10. พระอุดมศีลคุณ วัดบุรณศิริมาตยาราม
    2. วันอังคาร 6 ก.ค. 2519
    พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
    1. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
    2. หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม จ.อุดรธานี
    3. พระอาจารย์วัน อุตตโม วัดอภัยดำรงธรรม สกลนคร
    4. หลวงพ่ออ่อนสี วัดพระงาม หนองคาย
    5. หลวงพ่อมา วัดวิเวกอาศรม ร้อยเอ็ด
    6. พระโพธิสังวรเถร (หลวงพ่อฑูรย์) วัดโพธินิมิต ธนบุรี
    7. พ่อหลวงเปลื้อง ปญญานโต วัดบางแก้วผดุงธรรม จ.พัทลุง
    3. วันพุธ 7 ก.ค. 2519
    พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
    1. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
    2. พระอาจารย์วัน อุตตโม วัดอภัยดำรงธรรม สกลนคร
    3. พ่อหลวงเปลื้อง ปญญานโต วัดบางแก้วผดุงธรรม จ.พัทลุง
    4. หลวงพ่ออ่อนสี วัดพระงาม หนองคาย
    5. หลวงพ่ออ่อน วัดประชานิยม กาฬสินธุ์
    6. หลวงปู่สี มหาวีโร วัดประชาคมฯ ร้อยเอ็ด
    7. หลวงพ่อชา วัดศรีแก่งคร้อ ชัยภูมิ
    8. หลวงพ่อชม วัดป่าบ้านบัวค่อม อุดรธานี
    9. หลวงพ่อบุญมา วัดอุดมคงคาคีรีเขต
    10. หลวงพ่อมา วัดวิเวกฯ ร้อยเอ็ด
    4. วันพฤหัสบดี 8 ก.ค. 2519
    พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
    1. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
    2. พ่อหลวงเปลื้อง ปญญานโต วัดบางแก้วผดุงธรรม จ.พัทลุง
    3. หลวงปู่สี มหาวีโร วัดประชาคมฯ ร้อยเอ็ด
    4. หลวงพ่อบุญมา วัดอุดมคงคาคีรีเขต
    5. พระอาจารย์สาม วัดป่าไตรวิเวก สุรินทร์
    6. หลวงพ่อจ้อย วัดสุวรรณประดิษฐ์ สุราษฎร์ธานี
    7. หลวงพ่อบุญรักษ์ วัดคงคาวดี สิชล นครศรีธรรมราช
    8. หลวงพ่อเหรียญ วัดป่าอรัญญบรรพต หนองคาย
    9. พระอาจารย์บัวพา วัดป่าพระสถิต หนองคาย
    5. วันศุกร์ 9 ก.ค. 2519
    พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
    1. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
    2. พ่อหลวงเปลื้อง ปญญานโต วัดบางแก้วผดุงธรรม จ.พัทลุง
    3. หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาละวัน นครราชสีมา
    4. หลวงพ่อโชติ วัดภูเขาแก้ว อุบลฯ
    5. หลวงพ่อพั่ว วัดบ้านนาเจริญ อุบลฯ
    6. พระอาจารย์สมชาย วัดเขาสุกิม จันทบุรี
    7. หลวงพ่อจันทร์(อายุ ๑๐๒ปี) วัดนามะตูม ชลบุรี
    6. วันเสาร์ 10 ก.ค. 2519
    พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
    1. สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรฯ
    2. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
    3. หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม
    4. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี
    5. หลวงพ่อเก็บ วัดดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี
    6. หลวงพ่อสนิท วัดศีลขันธาราม อ่างทอง
    7. หลวงพ่อซ้วน วัดลาดใต้ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
    7. วันอาทิตย์ 11 ก.ค. 2519
    พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
    ตอนกลางวัน (เวลา 13.00 - 1600 น.) หลวงปู่ธูป วัดสุทรธรรมทาน(วัดแค) กทม. นั่งปรกบริกรรมภาวนาเดี่ยว 4 ชั่วโมงเต็ม
    ตอนค่ำ 1. สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรฯ
    2. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
    3. หลวงพ่อซ้วน วัดลาดใต้ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
    4. พระอาจารย์ผ่อง วัดสามปลื้ม กทม.
    5. หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาฯ ธนบุรี
    6. หลวงพ่อสา วัดราชนัดดา กทม.
    7. พระครูสงัด วัดพระเชตุพนฯ กท
    ในวันที่ 12 ก.ค. 2519 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนิน ทรงเจิมและสุหร่าย สมเด็จนางพญา ส.ก.และพระสมเด็จอุณาโลม ในเวลา 16.00 น. ณ พระอุโบสถคณะรังษี วัดบวรฯรายนามพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์เจริญ ชัยมงคลคาถา ๑๐ รูป
    1. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดราชผติการาม
    2. พระสาสนโสภณ วัดเทพศิรินทราวาส
    3. พระพุทธพจน์วราภรณ์ วัดราชบพิธ
    4. พระญาณวโรดม วัดบวรราชนิเวศ
    5. พระธรรมปาโมกข์ วัดราชประดิษฐ์
    6. พระธรรมเสนานี วัดพระเชตุพนฯ
    7. พระธรรมวราภรณ์ วัดนรนาทสุนทริการาม
    8. พระเทพวราภรณ์ วัดบุรณศิริมาตยาราม
    9. พระเทพปัญญากวี วัดราชาธิวาส
    10 พระเทพกวี วัดบวรฯ
    พระสมเด็จทรงจิตรลดา และ พระนางพญา ส.ก. นั้น เป็นพระที่มีเนื้อหามวลสารดีเยี่ยมที่สุดเท่าที่คณะบุคคลจะพึงทำได้ โดยมีมวลสารหลักคือกระเบื้องพระอุโบสถของทั้งสองหลังและยังแสวงหาผงพุทธคุณต่าง ๆ จากพระเถราจารย์ทั่วประเทศ ซึ่งมีทั้งพระสายกรรมฐานและพระสายวิชา ว่าน-ยา ที่รวมแล้วมีกว่าพันชนิดมิใช่ 108 ดังที่นิยมทั่วไป แร่ธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศจากสถานที่ต่าง ๆ ทุกมุมเมืองเกือบสองร้อยรายการ เส้นเกศาของพระสุปฏิปันโนซึ่งเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปของพุทธศาสนิกชน องค์หลักก็คือ เส้นพระเกศาของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า ย้อนยุคขึ้นไปหลายพระองค์ เส้นเกศาของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่ชอบ ฐานสโม สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวัฑฒโน) หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ เป็นต้น

    แม้ผงอิทธิเจอันลือลั่นว่าขลังนักของพระเดชพระคุณพระราชสังวราภิมณฑ์ (โต๊ะ อินทวัณโณ) วัดประดู่ฉิมพลี บางกอกใหญ่ ธนบุรี ท่านก็เมตตามอบให้มาผสมเนื้อตั้งชามใหญ่ และยังมีผงวิเศษต่าง ๆ ที่ไม่สามารถกล่าวได้หมด แต่เป็นมวลสารที่ไม่อาจหาได้ในพิธีกรรมไหน ๆ อีกแล้วโดยง่าย เช่น ผงฉัตรจากพระธาตุช่อแฮ จ.แพร่ ผงหินน้ำมันจากใต้ทะเลลึก 10,000 ฟุต ผงแร่ไมก้าและข้าวตอกฤาษีที่อ่างกา ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ผงธนบัตรมูลค่า 2,000 ล้านบาท ผงดินใจกลางเมืองหงสาวดี ผงหินจากบรมเจดีย์บุโรพุทโธ ประเทศอินโดนีเซีย ผงพระสมเด็จของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) แท้ ๆ ผงจากสัตตัปปดลมหามงคลเศวตฉัตร ซึ่งลอยอยู่เหนือองค์พระพุทธชินสีห์ ที่สำคัญคือ ผงพระราชทานหลากชนิดจากพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีผงจิตรลดาอันลือลั่น

    ผงที่กล่าวมาก็เป็นแค่ 1 ใน 100 ของผงทั้งหมด ไม่สามารถหยิบยกมาเล่าให้ฟังได้หมด เพราะเนื้อที่จำกัดจริง ๆ จำได้ว่าคุณเนาว์ นรญาณ เคยนำประวัติพระทั้งสองพิมพ์นี้เขียนลงในศักดิ์สิทธิ์เมื่อนานมาแล้ว ซึ่งผู้เขียนอยากได้พระเครื่องของหลวงปู่โต๊ะ แต่ปัจจัยน้อย ต้องรุ่นนี้เลย เสกพิธีแรก 7 วัน 7 คืน หลวงปู่โต๊ะมาทุกวันเสกเต็มที่ทุกวัน เห็นว่าท่านเมตตานั่งปรกให้วันละประมาณ 4 ชั่วโมง 4 ชม. ดังว่านั้นท่านนั่งรวดเดียว

    ใครเคารพครูบาอาจารย์รูปใดองค์ใด โดยเฉพาะสายกัมมัฏฐาน รุ่นนี้เก็บพลังจากท่านไว้มากโขทีเดียว ทั้งพระป่าพระเมือง พระวิปัสสนาและพระวิชา ร่วมกันอธิษฐานจิตปลุกเสกพระเครื่องสองพิมพ์นี้ไว้อย่างเต็มเหนี่ยว

    พระ 25 ศตวรรษ ก็ดีเลิศ แต่ถ้าดูประวัติให้ดีจะมีพระที่อัฐิเป็นพระธาตุมาร่วมพิธีน้อยมาก เป็นพระวิชาเสียเยอะ ใครชื่นชอบพระสงฆ์ผู้มีศีลบริสุทธิ์ เดินตามรอยบาทพระพุทธเจ้าโดยแท้จริง ควรหาพระเครื่องรุ่นนี้มาบูชาเพื่อเป็นสิริมงคล

    ด้วยรายละเอียดดังกล่าวมานี้ จึงเชื่อได้แน่ว่า "พระสมเด็จพระอุณาโลมทรงจิตรลดา" และ "พระสมเด็จนางพญา สก."อันเป็นที่พระเครื่องที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริ, พระราชปรารภ, พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้าง, ทรงพระสุหร่าย, ทรงจุณเจิมด้วยพระองค์เองโดยตรง ตั้งแต่เบื้องต้นจนจบตลอดสายดุจนี้ จะเป็น "พระเครื่องแห่งกษัตริย์" ที่ทรงไว้ซึ่ง "พระราชบารมี" และ "พระบรมเดชานุภาพ" แห่งพระบรมมหากษัตริยาธิราชเจ้าผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐสุดอย่างล้นพ้น แท้จริง และ "ของจริง" อย่างหาที่สุดมิได้

    และยิ่งการสร้างพระสมเด็จพระอุณาโลมฯและพระสมเด็จนางพญาสก.ในครั้งนี้ อยู่ภายใต้การควบคุมและกำกับดูแลของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร สมัยที่ยังเป็นที่สมเด็จพระญาณสังวร ซึ่งเป็น "พระอริยสงฆ์กลางกรุง" ที่แม้แต่พระอรหันตเจ้าอย่าง "หลวงปู่ชอบ ฐานสโม" วัดป่าสัมมานุสรณ์

    20220722_094442.jpg 20220722_094532.jpg 20220722_094522.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2022
  2. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,982
    ค่าพลัง:
    +6,581
    ขอจองครับ
     
  3. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,982
    ค่าพลัง:
    +6,581
    ขอจองครับ
     
  4. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,982
    ค่าพลัง:
    +10,040
    รับทราบขอบพระคุณครับ
     
  5. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,982
    ค่าพลัง:
    +10,040
    พระปิดตาปลดหนี้รุ่นแรก หลวงปู่มหาศิลา บล็อคเเรก ขอบหนา ซองเดิม เลี่ยมพลาสติกกันน้ำ เปิดให้บูชา1500 บาท จัดส่งEMS

    #พิธีมหาพุทธาภิเษกพระธาตุพนม
    และพิธีปลุกเสก ในอุโบสถ 9 วัน 9 คืน !!
    พร้อมกับเหรียญมหาโชค พระผงดวงเศรษฐี รูปหล่อปั้มเทพ เหรียญมังกรคู่
    #พระปิดตาปลดหนี้มีจำนวนการจัดสร้างทั้งสิ้น5,600 องค์
    #แบบทาทองและทาทองฝังตะกรุดจำนวน600องค์
    #แบบเนื้อผงตะเคียนธรรมดา4,200องค์
    #พระปิดตาปลดหนี้ เนื้อผงตะเคียน
    #แบบแช่น้ำมนต์ 800 องค์ ถือว่าเป็น พระหลักร้อยพุทธคุณหลักล้าน ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก ของศิษย์ที่เพิ่งเข้ามาในกลุ่มมากนัก สีสรรค์วรรณะ ของพระมีสีออกคราบขาว บางองค์มีประกายรุ้ง แตกต่างจากองค์ธรรมดาที่มีสีน้ำตาลเข้ม เกิดจากการแช่ในน้ำมนต์ ด้านหลังเป็นคาถาเหนือ ดวง(ยันต์เดียวกันกับเหรียญเหนือดวง) หรือหลวงปู่ที่เรียก #คนสามบ้านกินน้ำบ่อเดียว ถอดจากลายมือของหลวงปู่
    .....หากท่านผู้ที่ศรัทธาหลวงปู่แล้วอยากจะหาพระผง ของหลวงปู่ที่ราคาหลักร้อย พุทธคุณหลักล้าน ต้อง ปิดตาแช่น้ำมนต์ ราคาจับต้องได้ ชื่องามนามมงคล ปลดหนี้ ปลดสิน

    #แบบนี้ที่นำมาให้ชมเป็นแบบเนื้อผงไม้ตะเคียน ไม่แช่น้ำมนต์ครับ สร้าง 4,200องค์
    รุ่นนี้ก็ถือได้ว่าสร้างน้อยมากๆครับ แต่ครึ่งหมื่นนิดๆเองครับ #ที่สำคัญ ถูกนิมนต์ไปอยุ่ต่างประเทศคร่าวๆน่าจะเกือบพันองค์ครับรุ่นนี้
    เหลือในไทยก็น่าจะสี่พันปลายๆครับ #รุ่นนี้ก็เก็บใด้ให้เก็บครับ เดี๋ยวจะหายาก

    หลวงปู่ท่านบอกว่า
    “ อยากได้อะไรให้ยกขึ้นใส่หัวอธิษฐานตามแรงปรารถนาต้องการ
    " หากไผมีบุญมากพอที่จะได้
    เทวดาที่อยู่ในพระหลายสิบๆองค์ จะช่วยได้ไวและเร็วตามบุญผู้นั่น
    "พระของข่อยมีฤทธิ์ทุกองค์เพราะเทวดาช่วยเยอะมาก
    "ขอแค่อย่าแช่งคนอื่นเพราะมันแรง เด่วจะเป็นบาปเป็นกรรม ”
    ภาคอีสานตอนนี้และเหล่าศิษย์หลวงปู่หมุนต่างพากันฝากตัวเป็นศิษย์ท่าน
    อธิฐานจิตปลุกเสกต่ออีก9วัน9คืนในโบสถ์
    ในพิธีหลวงปู่ท่านว่า "
    นอกจากมนุษย์จะมาร่วมอนุโมทนาในพิธีองค์พระธาตุพนมจากทั่วสาระทิศทั่วประเทศ นับคนเลือนหมื่น!!เลือนแสน!!คนแล้ว
    ยังมีเหล่า
    เทพเทวดา ครุฑ พญานาค ยักษ์
    มาเป็นแสนเป็นล้าน!!
    พระชุดนี้ติดตัวไปไหนมาไหนจะมีเทวดาตามรักษาหลาย "

    พระปิดตาปลดหนี้ หลวงปู่มหาศิลา
    กระแสพลัง
    - มีพระพรหมเทพเทวาครูบาอาจารย์ บารมีมาก มาร่วมในพิธีร่วมเสกกำลังมาก รัศมีสว่าง ให้ความเสถียรแก่ผู้ใช้คงทนตลอดเวลา
    พระพุทธคุณอิทธิคุณ
    - เสน่ห์เมตตามหานิยมชั้นสูงติดต่อประสานงานราบรื่นได้ลาภทางปากมีผลพลอยได้ ได้โชคลาภจากความเสน่หาหรือเมตตาติดต่อค้าขายผลดีมีกำไร ค้าขายแข่งกับผู้ใดมีโอกาสชนะ ขายดีกว่าชาวบ้าน
    เสริมพลังอำนาจ วาสนาบารมีเพิ่มพูน ดับทุกข์ร้อนเกิดความร่มเย็นเป็นสุขเกื้อหนุนฐานะความเป็นอยู่ให้มีมากขึ้นเจริญโภคทรัพย์ทำงานใดๆด้วยความมุ่งมั่นขยันอุตสาหะจะได้ดีแคล้วคลาดปลอดภัยจากพยานอันตรายทั้งปวง หนุนดวงชะตาชีวิตไม่ให้ตกต่ำ
    -เคล็ดลับในการใช้วัตถุมงคลนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เทพเทวาบารมีมากรักษาอยู่จึงต้องหมั่นทำความดีถวายทานการปฏิบัติจะเกิดผลดีอย่างรุนแรงพูดจาไพเราะพูดจาดีๆจะเกิดผลดีทางเสน่ห์ทางคำพูดมีความสว่างครอบคลุมตัวเป็นมหานิยมแก่ผู้พบเห็น 20220722_105254.jpg 20220722_105238.jpg 20220722_105218.jpg 20220722_105200.jpg 20220722_105147.jpg 20220722_105051.jpg 20220722_105123.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2022
  6. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,982
    ค่าพลัง:
    +10,040
    ตะกรุดมหารูดทรัพย์ รุ่นแรกที่หลวงพ่ออุ้มมอบให้เจ้าของเดิมรับกับมือหลวลพ่อครับ
    20220722_195228.jpg 20220722_195211.jpg 20220722_195155.jpg 20220722_195128.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2022
  7. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,982
    ค่าพลัง:
    +10,040
    จองแล้ว
    นกถืดทือไม้เสาโบสถ์

    พระอาจารย์บุญอุ้ม อาภัสสโร
    ท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่า
    ในช่วงเย็นของวันที่13กรกฎาคม2558 ตอนค่ำคืน หลวงปู่ศุข พระอริยะเจ้าแห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่ามาหา ด้วยวาสนาเคยผูกพันกันมา
    หลวงปู่ศุขท่านได้สอนเคล็ดวิชาสร้างนกถึดทือแก่หลวงพ่อบุญอุ้ม เรื่องวิชาสร้างนกถึดทือ ที่หลวงปู่ศุข ได้มามอบให้ไว้ในนิมิต

    โชคลาภ เมตตา ค้าขาย องค์นี้ทาชาดแดงทาสีทอง หลวงพ่อทำให้เฉพาะศิษย์ใกล้ชิด ก้นอุดผงจีวร เปิดให้บูชา 700 บาท จัดส่งEMS 20220722_195425.jpg 20220722_195402.jpg 20220722_195342.jpg 20220722_195319.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2022
  8. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,982
    ค่าพลัง:
    +10,040
    เหรียญหล่อพระเจ้าสัวรุ่นแรก หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต วัดเขาตาเงาะอุดมพร จ.ชัยภูมิ ปี2558 เนื้อสัมฤทธิ์กรรมการ สร้าง 555 ชุด เลขโค๊ต 96 เลี่ยมพลาสติกกันน้ำ เปิดให้บูชา 1200 บาท จัดส่งEMS FB_IMG_1658496369066.jpg FB_IMG_1658496374810.jpg FB_IMG_1658496377964.jpg
     
  9. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,982
    ค่าพลัง:
    +6,581
    ขอจองครับ
     
  10. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,982
    ค่าพลัง:
    +10,040
    รับทราบขอบพระคุณครับ
     
  11. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,982
    ค่าพลัง:
    +10,040
    เหรียญพระอุปคุตปางวิมุตติสุข วัดเขาน้ำซับ เนื้อชนวน เปิดให้บูชาองค์ละ 550 บาท จัดส่งEMS
    ในกลุ่มราคาเปิดแรงกว่านี้ครับ

    #เหรียญพระอุปคุตปางวิมุตติสุข รุ่นนี้มีคนนำไปให้พระอาจารย์รูปหนึ่ง ที่เก่งทางตรวจญาณ อยู่ที่ชัยภูมิ ท่านตรวจดูเหรียญแล้วบอกว่า..

    " รุ่นนี้ออกแบบได้สวยมาก.. ปกติพระอุปคุตทั่วไปพุทธคุณจะเน้นไปในทางคุ้มครอง แต่รุ่นนี้แปลกกว่าที่เคยเห็นมา คือ จะเด่นไปในทางเมตตามหาลาภ.."

    ซึ่งพุทธคุณก็เป็นไปตามที่พระอาจารย์หนึ่ง ได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ทุกประการ เพราะท่านอยากให้คนในยุคนี้ได้มีของดีไว้ใช้ในยามเศรษฐกิจฝืดเคือง ผู้บูชาจะได้มีกินมีใช้ มีความคล่องตัว เพราะเรื่องปากท้องสำคัญที่สุด

    ถ้าพูดถึงการปลุกเสกพระเครื่องวัตถุมงคลนั้น ครูบาอาจารย์หลายท่านได้กล่าวตรงกันไว้ว่า.. เรื่องเมตตานับว่าเสกยากที่สุด เมตตาคือที่สุดแห่งพุทธคุณ คือ ไปไหนก็มีแต่คนรัก สงสาร ทำร้ายเราไม่ลง ทำให้แคล้วคลาดปลอดภัย แถมยังมีคนและเทวดาคอยช่วยเหลือ ทำอะไรก็จะสำเร็จ ค้าขายก็ได้ผลกำไรดี คล่องตัวดี มีความสุข มีเมตตาอย่างเดียว ก็มีครบทุกอย่าง

    #รายนามพระคณาจารย์ที่ร่วมอธิษฐานจิตเหรียญพระอุปคุตปางวิมุตติสุข วัดเขาน้ำซับ

    1.หลวงปู่บุญส่ง วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี

    2.หลวงปู่มหาพร้อม วัดพลับบางกะจะ จ.จันทบุรี

    3.หลวงปู่อ่อง วัดธรรมสุขสว่าง(ถ้ำเขาวง) จ.จันทบุรี

    4.หลวงพ่อสมบัติ วัดเขาน้อยท่าแฉลบ จ.จันทบุรี

    5.หลวงปู่สำอางค์ วัดเขาสมิง จ.ตราด

    6.ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน

    7.พระอาจารย์หนึ่ง วัดเขาน้ำซับ จ.จันทบุรี

    8.พระอาจารย์ดิน วัดเทพธารทอง จ.จันทบุรี

    9.พระอาจารย์สงกรานต์ วัดธรรมสุขสว่าง(ถ้ำเขาวง) จ.จันทบุรี

    10.พระอาจารย์หนู วัดเนินโพธิ์ จ.จันทบุรี

    ... ฯลฯ

    เหรียญพระอุปคุตรุ่นนี้ ยังได้ทำพิธีเชิญบารมีญาณ และดวงจิตอันศักดิ์สิทธิ์ของพระมหาเถรอุปคุต ครูบาอาจารย์ในแดนลี้ลับ และองค์หลวงปู่พิศดู มาอธิษฐานจิตแผ่พลังให้ตามวิธีการของทางวัด อันเป็นพิธีที่สำคัญทึ่สุดอีกด้วย

    ขอขอบพระคุณข้อมูล พี่ Sira Pop ครับ
    20220628_135400.jpg 20220628_135416.jpg 20220628_135433.jpg 20220628_135453.jpg 20220628_135518.jpg
     
  12. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,982
    ค่าพลัง:
    +10,040
    เหรียญรูปใข่ สมเด็จโต พรหมรังสี วัดบางขุนพรหม รุ่นอมตมหามงคล ปี 2554 พิมพ์ใหญ่

    วัดใหม่อมตรส หรือชาวบ้านนิยมเรียกว่า "วัดบางขุนพรหม" ตั้งอยู่ที่บ้านพานถม บางขุนพรหม เขตพระนคร กทม. ตามประวัติวัดนี้สร้างขึ้นในปลายรัชกาลสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ประมาณปี พ.ศ. 2321 ไม่ปรากฏ

    ประวัติและความสำคัญของเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) ที่เกี่ยวข้องกับวัดใหม่อมตรส (วัดบางขุนพรหม) คือ การสร้างพระพิมพ์สมเด็จ ของเสมียนตราด้วง "ต้นตระฉัน(เซ็นเซอร์)ลธนโกเศต" การสร้างพระสมเด็จของเสมียนตราด้วง

    ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้เป็นประธานในพิธีจัดสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการโขลกผงก็ดี การผสมผงวิเศษของเจ้าประคุณสมเด็จฯ ก็ดี จนอธิษฐานจิตปลุกเสกท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ทรงทำด้วยพระองค์เอง

    จนกระทั่งเสร็จพิธี ได้พระสมเด็จจำนวน 84,000 องค์ และได้นำบรรจุในพระเจดีย์ เมื่อปีพ.ศ.2413-2415 และได้เปิดกรุเพื่อนำพระสมเด็จออกจากเจดีย์ โดยพระครูอมรคณาจารย์ (เส็ง) เจ้าอาวาสในขณะนั้นได้แต่งตั้งคณะกรรมการโดยท่านเจ้าคณะอำเภอพระนคร เป็นประธาน พระสงฆ์ในวัดร่วมเป็นคณะกรรมการ ส่วนฝ่ายฆราวาสได้เชิญ นายบุญทอง เลขกุล และได้เชิญ พลเอกประภาส จารุเสถียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น เป็นประธานในการเปิดกรุ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2500

    หลังจากที่ได้เปิดกรุแล้ว ทางวัดได้จัดงานพิธีพุทธาภิเษก และปูชนียวัตถุมงคล โดยครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2509 ได้จัดสร้างพระสมเด็จและได้นำบรรจุไว้ในพระเจดีย์องค์เดิม จำนวน 84,000 องค์ส่วนพระเครื่องที่เหลือ นำออกให้ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคนำไปบูชา

    ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ.2517 ได้จัดสร้างพระสมเด็จ เพื่อนำรายได้ก่อสร้างอาคารสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) เป็นอาคาร 4 ชั้น สำหรับให้เด็กศึกษาเล่าเรียน (โรงเรียนวัดใหม่อมตรส)

    ครั้งที่ 3 ปี พ.ศ. 2531 ได้จัดสร้างพระสมเด็จเพื่อนำรายได้ก่อสร้างศาลาการเปรียญอเนก ประสงค์ 2 ชั้น (ศาลาสมเด็จฯ)

    ครั้งที่ 4 ปี พ.ศ.2539 ได้จัดสร้างพระสมเด็จเพื่อนำรายได้ก่อสร้างฌาปนสถาน (เมรุ)

    ครั้งที่ 5 ปี พ.ศ.2543 ได้จัดสร้างพระสมเด็จ เพื่อรวบรวมปัจจัยมาก่อสร้างกุฏิสงฆ์ 80 ปี สิรินธโร (พระครูบริหารคุณวัตร อดีตเจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรส)

    ครั้งที่ 6 มาถึงครั้งนี้ พระสมเด็จ และวัตถุมงคล ที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้ได้หมดแล้ว ทางวัดจึงได้จัดสร้างขึ้นมาใหม่ คือ รุ่น "อมตมหามงคล" เพื่อเป็นที่ระลึกครบ ๑๓๙ ปี สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ประกอบด้วย พระพุทธรูป (จำลองจากพระประธานในโบสถ์) หน้าตัก 9 นิ้ว 5 นิ้ว พระบูชารูปเหมือนสมเด็จฯโต หน้าตัก 9 นิ้ว 5 นิ้ว 3 นิ้ว และขนาดห้อยคอ เหรียญ พระพิมพ์สมเด็จ เนื้อผง บาตรน้ำมนต์เนื้อสัมฤทธิ์ ฯลฯ

    ซึ่งได้ประกอบพิธีเททองนำฤกษ์ เมื่อวันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม 2554 โดยมี พระราชรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดอินทรวิหาร เป็นประธานในพิธี

    พระคณาจารย์นั่งอธิษฐานจิต ๔ ทิศ คือ หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม, หลวงพ่อทรัพย์ วัดอ่างศิลา จ.ชลบุรี, หลวงพ่อสิริ วัดตาล จ.นนทบุรี หลวงพ่อหล่ำ วัดสามัคคีธรรม ลาดพร้าว กทม. และพระครูวินัยธรชาญณรงค์ วัดเลา กทม. เป็นผู้ผสมชนวนโลหะ และเป็นเจ้าพิธี

    เมื่อวัตถุมงคลทั้งหมดสร้างสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกอีกครั้ง

    รายนามพระคณาจารย์นั่งปรกเจริญจิตภาวนาพุทธาภิเษก
    ปูชนียวัตถุมงคล รุ่น อมตมหามงคล
    วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2554
    1. พระครูสุนทรธมฺมนิวิฐ (หลวงพ่อรวย ปสาธิโก) วัดตะโก จ.พระนครศรีอยุธยา
    2. พระสุนทรธรรมมานุวัตร (หลวงพ่อเอียด อินฺทวํโส) วัดไผ่ล้อม จ.พระนครศรีอยุธยา
    3. พระครูสุววรรณสีลาธิคุณ (หลวงพ่อพูน ฐิตสีโล) วัดบ้านแพน จ.พระนครศรีอยุธยา
    4. พระครูประโชติธรรมวิจิตร (หลวงพ่อเพิ่ม อตฺถทีโป) วัดป้อมแก้ว จ.พระนครศรีอยุธยา
    5. พระครูพิศาลจริยาภิรมย์ (พระมหาสุรศักดิ์ อติสักโข ) วัดประดู่ จ.สมุทรสงคราม
    6. พระครูวิมลญาณอุดม (พระอาจารย์ติ๋ว ฐิตวฑฺฒโน) วัดมณีชลขัณฑ์ จ. ลพบุรี
    7. พระครูจันทสิริธร (หลวงพ่อสารันต์ จนฺทนูปโม) วัดดงน้อย จ.ลพบุรี
    8. พระครูธีรพัชโรภาส (หลวงพ่อผอง ธมฺมธีโร) วัดพรหมยาม จ.เพชรบูรณ์
    9. พระครูพิพัฒน์วิทยาคม (หลวงพ่อเจริญ ฐานยุตฺโต) วัดโนนสว่าง จ.อุดรธานี
    10. พระราชรัตนาภรณ์ (หลวงพ่อทองสืบ สจฺจสาโร) วัดอินทรวิหาร กรุงเทพฯ
    11. พระราชประสิทธิวิมล (หลวงพ่อประจวบ) วัดระฆังฯ กรุงเทพฯ
    12. 12. พระครูบุญญาภินันท์ (พระอาจารย์หรีด) วัดป่าโมกข์ จ.พังงา
    13. พระอาจารย์ประสูติ ปิยธมฺโม วัดในเตา จ.ตรัง
    14. พระครูอนุวัตรชินวงศ์ (หลวงพ่อจอย) วัดโนนไทย จ.นครราชสีมา
    15. พระครูประทุมวรกิจ (หลวงพ่อชำนาญ ) วัดบางกุฎีทอง จ.ปทุมธานี
    16. หลวงพ่อ ครูบากฤษณะ อินฺทวณฺโณ วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
    17 .หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม
    18. หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี
    19. พระครูสังฆรักษ์(หลวงพ่อนพวรรณ คุณสาโร) วัดเสนานิมิต จ. อยุธยา
    20. พระครูโสภิตวิริยาภรณ์ (พระอาจารย์ อิฏฐ์ ภทฺทจาโร) วัดจุฬามณี จ สมุทรสงคราม
    21. หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ จ.พระนครศรีอยุธยา
    22. หลวงพ่อสิริ วัดตาล จ.นนทบุรี
    23. หลวงพ่อหล่ำ วัดสามัคคีธรรม กรุงเทพฯ
    24. พระราชธรรมสุนทร วัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพฯ
    25. พระพิพัฒน์สังวรคุณ วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ
    26. พระปริยัติธรรมสุนทร วัดราชสิงขร กรุงเทพฯ
    27. พระบวรรังษี วัดระฆังฯ กรุงเทพฯ
    28. พระสิทธิพัฒนาภรณ์ วัดไชโย จ.อ่างทอง
    29. พระครูวินัยธรชาญณรงค์ ติกขญาโณ วัดเลา กรุงเทพฯ
    เหรียญรูปใข่ สมเด็จโต พรหมรังสี วัดบางขุนพรหม รุ่นอมตมหามงคล ปี 2554 เหรียญรุ่นนี้พิธีดีและใหญ่ เหรียญรุ่นนี้พิมพ์สวยเหมือนกับเหรียญรุ่นปี 2517 จึงใช้แทนกันได้อย่างสบายใจ
    เปิดให้บูชา 430 บาท จัดส่งEMS 20220723_000503.jpg 20220723_000602.jpg 20220723_000530.jpg
     
  13. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,982
    ค่าพลัง:
    +10,040
    หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ สายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    จัดสร้างโดยวัดศาลพันท้ายนรสิงห์ สายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองหลวงพ่อใหญ่ เงินไหลมาเทมา พุทธาภิเษกเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2545 ในชุดประกอบด้วยเนื้อชุบทอง เนื้อชุบเงิน และเนื้อชุบนาค มาพร้อมกล่องเดิมๆ สภาพสวยเดิมๆจากวัดครับ

    สำหรับพระชุดนี้เป็นชุดมหาลาภ เวลาบูชาให้บูชาด้วยพระคาถาเงินล้าน แล้วการเงินจะคล่องตัว ยกตัวอย่าง เวลาที่วัดท่าซุงมีงาน มักจะเห็นลูกหลานหลวงพ่อนั่งต่อหน้าพระพักตร์หลวงพ่อพระยืนสามสิบศอก กันเสมอๆ นั่นคือ กำลังภาวนาพระคาถาเงินล้านกันอยู่ครับ ว่ากันว่า ภาวนาพระคาถาเงินล้าน ด้วยจิตสงบนิ่ง 9 จบ การงานการเงินทุกอย่างจะคล่องตัว 20220723_000754.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2022
  14. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,982
    ค่าพลัง:
    +10,040
    (สุดยอดมหาเสน่ห์เมตตา ชั้นสูง) พระอาจารย์จิ วัดหนองหว้า เพชรบุรี (ทายาทพุทธาคมหลวงพ่อยิดวัดหนองจอก) เลี่ยมพลาสติกกันน้ำ เปิดให้บูชา 800 บาท จัดส่งEMS
    ตะกรุดหญิงรักชายหลง และเหรียญเทวดามีสุข วัตถุมงคลที่ปลุกเสกอย่างเข้มขลังภายใต้ศาสตร์แห่งเมตตามหานิยม ท่านพระอาจารย์จิ ปลุกเสกเรียกจิตเทวดา ชาย-หญิง บรรจงบรรจุพลังพุทธานุภาพลงบนตะกรุด และเหรียญ โดยเหรียญนั้นจะเป็นรูปเทวดาหญิงชาย ส่วนตะกรุด ด้านในจะจารทั่วทั้งดอกตอกโค้ด ลงบนตะกั่วหนา

    ศาสตร์แห่งวิชาเมตตามหานิยม หญิงรักชายหลงนั้น เรียกอีกอย่างว่าเทวดามีสุขไม่ว่าชายหรือหญิง ถ้าได้บูชาเหรียญนี้ติดตัวจะเป็นเมตตามหานิยมกับฝ่ายตรงข้าม เป็นเมตตาทั้งมนุษย์ อมนุษย์ เทพยดา สัตว์ทั้งปวง ภูตผีปิศาจ ศัตรูหมู่มารทั้งปวงย่อมไม่ประสงค์ประทุษร้ายกับเรา เมื่อได้บูชาเหรียญ หรือตะกรุดนี้แล้วจะมีหน้าที่การงานดี เจ้านายรักใคร่ การค้าการขายคล่องดี ด้านโชคลาภดี แล้วแต่จะอธิษฐาน ขอให้ท่านจงตั้งจิตปรารถนาอย่างตั้งมั่นท่านจะสำเร็จความประสงค์ดั่งตั้งใจ

    กล่าวสำหรับตะกรุดจะจารด้วยมหายันต์ มหาเมตตา มหาโชคลาภ มหาป้องกัน มีนะสาลิกาลิ้นทอง ตัวผู้ตัวเมีย เป็นสุดยอดแห่งศาสตร์มหาเมตตามหาเสน่ห์ โชคลาภ ส่วนเหรียญนั้นเพิ่มตรงรอยจารด้านหลัง ซึ่งพระอาจารย์จิ จารเองกับมือทุกเหรียญ ปลุกเสกจนเข้มขลังตามศาสตร์เมตตามหานิยม

    วิชามหายันต์เมตตา เป็นศาสตร์ชั้นสูง มีอานุภาพรุนแรง โดยเฉพาะด้านเมตตามหานิยม และด้านเสน่ห์ก็ไม่แพ้กัน พระอาจารย์จิ ได้รับการถ่ายทอดวิชานี้มาจากหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก
    นอกจากปลุกเสกวัตถุมงคลได้อย่างเข้มขลังแล้ว พระอาจารย์จิ ยังเป็นพระสมถะไม่เคยสะสมสิ่งใด แม้ปัจจุบันท่านเป็นรองเจ้าอาวาส “ขนาดมีคนนำปัจจัยไปถวายท่าน ท่านไม่เคยเก็บสะสม ท่านถวายต่อเจ้าอาวาสซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่าน ซึ่งก็ได้นำปัจจัยที่ได้รับการถวายมาสร้างวัดหมดเหมือนกัน” 20220723_001024.jpg 20220723_001055.jpg 20220723_001041.jpg 20220723_001009.jpg
     
  15. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,982
    ค่าพลัง:
    +10,040
    พญาโครัตนมงคล หลวงพ่อพิจารณ วัดโพธิ์ผักไห่ ท่านหลวงพ่อเสกเสกเดี่ยวที่วัดโพธิ์ผักไห่ ท่านบอกว่าดีนอกดีในปั้นมือทีละตัว แบ่งบูชา 700 บาท จัดส่งEMS 20220723_102244.jpg 20220723_102305.jpg
     
  16. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,982
    ค่าพลัง:
    +10,040
    ปิด

    ชานหมาก+ภาพหลวงปู่ทิม วัดพระขาว เปิดให้บูชา 220 บาท จัดส่งEMS 20220724_061500.jpg 20220724_061518.jpg 20220724_061531.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2022
  17. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,982
    ค่าพลัง:
    +10,040
    เหรียญหลวงปู่จื่อ พันธมุตโต วัดเขาตาเงาะอุดมพร อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ที่ระลึกสิริอายุ 75 ปี พศ 2561 เนื้อทองแดง ขนาด 3 เซน บล็อคกษาปณ์.เปืดให้บูชา 230 บาท จัดส่งEMS เหรียญเดิมๆ 20220724_061412.jpg 20220724_061432.jpg
     
  18. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,982
    ค่าพลัง:
    +10,040
    ล็อกเก็ตอายุ 133 ปี หลวงปู่หิน ปภังกโร วัดโพธาราม ด้านหลัง จีวร เทียนชัย เกศา เปิดให้บูชา 300 บาท จัดส่งEMS

    หลวงปู่หิน ปภังกโร อริยสงฆ์ ๕ แผ่น แห่งวัดวัดโพธาราม
    หลวงปู่หิน ปภังกโร พระสงฆ์ที่เปี่ยมด้วยบารมีธรรม ได้ละสังขารไปเมื่อกลางดึก ของคืนวันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๓ ขณะอายุได้ ๑๓๕ ปี ซึ่งท่านเกิดในสมัยรัชกาลที่ ๕ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๐๗

    “สาธุ ให้ข้าพระพุทธเจ้าจงอยู่ดีมีสุข มีร่างกายแข็งแรง” นั้นเป็นคําอธิษฐานของ หลวงปู่หิน เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดําเนิน ไปยังจังหวัดอุดรธานี ผ่านอําเภอน้ำพอง ที่หลวงปู่หินมีโอกาสคอยรับเสด็จ ซึ่งขณะนั้น หลวงปู่หินมีอายุประมาณ ๑๒ ปี ครั้นขบวนรถ ม้าเสด็จผ่านสะพานไม้ลําน้ำพอง หลวงปู่จึงยกมือขึ้นเหนือศีรษะแล้วอธิษฐานดังกล่าวมา

    เมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ หากใครที่ เคยไปกราบไหว้หลวงปู่แล้ว จะทราบซึ่งในธรรมเมตตา ของหลวงปู่อย่างยิ่ง เพราะแม้หลวงปู่หินอายุมากและต้องการพักผ่อนตามวัยที่ชราภาพ แต่หลวงปู่ก็เปิดโอกาสให้ทุกคน ทุกระดับชั้นเข้าไปกราบไหว้ท่านได้ถึงกุฏิ หลวงปู่ บางครั้งหลวงปู่จะเป็นฝ่ายทักทาย ผู้ศรัทธาที่เข้าไปกราบไหว้ก่อนด้วยใบหน้าที่ ยิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งบารมีธรรมดังกล่าวเป็น ที่ประจักษ์แก่เหล่าศิษย์ใกล้ชิดว่าตั้งแต่เคย อุปฎฐากหลวงปู่ ยังไม่เคยพบว่าหลวงปู่ แสดงอาการโกรธสักครั้ง หลวงปู่จะอารมณ์ ที่อยู่ตลอดเวลา ยิ้มแย้มและไมตตากับทุก คนโตยเสมอภาค
    หลวงปู่หิน ปภังกโร เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีฉลู พ.ศ.๒๔๐๗ ในสมัยรัชการที่ ๕ ที่บ้านกุดกว้าง ตําบลกุดน้ำใส อําเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น มีนามเดิมว่า หิน คำอ้อ เป็นบุตรคนเดียวของ นายสีลา-นางคํามี คำอ้อ ไม่มีพี่น้อง เมื่อศึกษาประวัติ ย้อนหลังของหลวงปู่แล้ว ในด้านการปฏิบัติธรรม ออกรุกขมูลตามป่าเขาแสวงหาวิมุตติ ธรรมแล้ว ค่อนข้างจะแตกต่างจากพระสงฆ์รูปอื่น กล่าวคือ หลวงปู่หิน ปภังกโร ได้บวช ๒ ครั้ง และ ออกธุดงค์บำเพ็ญเพียรเมื่อครั้งที่กลับมาบวชใหม่ที่อายุท่านถึง ๘๕ ปีแล้ว

    การบวชครั้งแรกของหลวงปู่ในวัยเด็ก บวชเณรเมื่ออายุได้ ๑๓ ปี ที่บ้านโคกแสง ตําบลหนองกุง อําเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น โดยมีเจ้าอาวาสวัดท่าน้ำ พอง เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งหลวงปู่ท่านเป็นคนชอบหาความรู้ใส่ตัวอยู่ตลอดเวลา การบวชที่วัดท่าน้ำพอง ท่านได้ศึกษาและบําเพ็ญตนตามหลักธรรมที่พระ พุทธเจ้าได้วางแนวทางไว้อย่างเคร่งครัด เสมอต้นเสมอปลายมาตลอด การบวชครั้งแรกหลวงปู่หิน ได้ลาสิกขาเข้าสู่วิถีชีวิตของฆราวาสเมื่ออายุได้ ๓๓ ปี มีครอบ ครัวตามสามัญชนทั่วไป

    การครองตนอยู่ในเพศฆราวาส หลวงปู่หินไม่ได้หลงกับสรรพกิเลสตามวิถีโลก ยังครองตนตามหลักธรรมที่ได้เรียนมา มีชีวิตที่เรียบง่าย พร้อมกับ อบรมสั่งสอนบุตร-ธิดาให้เป็นคนดีตามแบบอย่างอริยชนพึงปฏิบัติ ซึ่งหลวงปู่มีบุตร-ธิดา รวมกัน ๑๒ คน

    แม้จะอยู่ในวิถีชีวิตของฆราวาสเป็นระยะเวลานาน กระทั่งย่างเข้าสู่วัยชราภาพแล้วก็ตาม แต่ด้วยความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ยังเต็มเปี่ยมไม่เสื่อมคลาย ไปจากใจของหลวงปู่ กอร์ปกับบุญบารมีที่ได้สั่งสมในอดีตชาติ เป็นเหตุปัจจัยให้ หลวงปู่หินกลับเข้ามาบวชอีกเป็นครั้งที่สอง เมื่ออายุได้ ๘๕ ปีแล้ว แม้จะชราภาพมากแล้ว แต่ก็ไม่ทอดทิ้งธุระในการแสวงหาสัจธรรมของชีวิต ที่บรรพชิตพึงปฏิบัติซึ่งหลวงปู่หิน ได้ตั้งปณิธานเด็ดเดี่ยวที่จะ ออกรุกขมูลตามสถานที่วิเวก เพื่อปฏิบัติธรรมให้บังเกิดผล ถึงปฏิเวธธรรมที่ตั้งใจไว้

    ประสบการณ์การออกรุกขมูลของหลวงปู่ ได้ออกเดินธุดงค์ไปในพื้นที่ภาคอีสานในเขตจังหวัดขอนแก่น หนองคาย สกลนคร นครพนม และเลยเข้าไปถึง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งการเดินธุดงค์เข้าไปสปป.ลาวนี้เองที่หลวงปู่ ได้พบพระอาจารย์ที่สอนแนวทางการปฏิบัติ ให้ คือพระมหาปาน อานันโท ที่วัดป่าบก นครเวียงจันทน์ โดยให้พิจารณาธรรมานุสติเป็น หลักอบรมจิต หลวงปู่เคยเล่าให้ศิษย์ใกล้ ชิตว่าหลังจากพิจารณาธรรมานุสติ จนจิตสงบแล้ว จะสามารถสัมผัสกับโลกอีกมิติได้ แม้ญาติพี่น้องที่ได้เสียชีวิตไปแล้วก็สามารถพบเห็นได้

    การออกธุดงค์ตามป่าเขา ท่านไปคนเดียวเพราะมีนิสัยสันโดษ ระยะที่ปฏิบัติธรรมในสปป.ลาว ท่านเคยตั้งใจที่จะเข้าไปปฏิบัติธรรม ณ ภูเขาควาย ซึ่งเป็นพื้นที่ป่ารกที่บมีสัตว์ป่าอาศัยจํานวนมาก แต่หลวงปู่หินไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติถึงบริเวณพื้นที่ชั้นในได้ เนื่องจากทหารที่รักษาการอยู่บริเวณนั้นไม่ให้เข้าไป จึงธุดงค์ตามป่าที่ไม่ห่างจากภูเขาควายมากนัก

    การผจญภัยกับสัตว์ป่านั้น ครั้งหนึ่งท่านเคยพบโขลงช้างประมาณ ๑๐ เชือกที่มาหากินใกล้กับสถานที่ที่หลวงปู่กําลังปฏิบัติธรรม การพบกับสัตว์ใหญ่ขนาดนั้นในครั้งแรกท่านก็ตกใจเหมือนกัน แต่ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง ท่านจึงกําหนดจิตแผ่เมตตาให้กับ ช้างเหล่านั้นและเป็นที่อัศจรรย์แม้ช้างเหล่านั้น จะเดินเข้ามาหาท่าน แต่หาได้ทําร้ายท่านไม่ รวมระยะเวลาที่ปฏิบัติธรรมในสปป.ลาว ประมาณ ๓ ปี ๒ เดือน จึงเดินทางกลับประเทศไทย ทางฝั่งอําเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม และได้นมัสการพระธาตุพนม

    ท่านเคยเดินธุดงค์กับพระป่ากรรมฐานที่มีชื่อเสียงหลายรูป ที่หลวงปู่ได้เมตตาเล่าไว้ คือ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นต้น และในระยะที่หลวงปู่ธุดงค์ในจังหวัดสกลนครนี่เอง หลวงปู่หินมีโอกาสฝากตัวเป็นศิษย์ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ขอฝึกวิปัสสนากรรมฐานเป็น ระยะเวลา ๑๐ วัน โดยหลวงปู่มั่น ได้ขอให้หลวงปู่แปรญัตติ เป็นพระฝ่ายธรรมยุตินิกาย เพื่อสะดวกต่อการปฏิบัติตามแนวทางพระป่ากรรมฐาน แต่ หลวงปู่พึงพอใจในวัตรปฏิบัติของพระฝ่ายมหานิกาย จึงไม่ได้แปรญัตติและกราบลาพระอาจารย์มั่น ออกเดินธุดงค์ต่อไป

    หลังจากทําความเพียร ออกรุกขมูลไปตามสถานที่ต่างๆ เพียงพอต่อการขัดเกลากิเลส หลวงปู่ จึงได้เดินทางกลับมายังถิ่นเกิด ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อ สงเคราะห์ญาติพี่น้อง ตลอดจนพัฒนาศาสนสถานให้เป็นประโยชน์ต่อชุมชนส่วนรวม เมื่อท่านอายุได้ ๑๐๐ ปี รวมระยะเวลาที่ หลวงปู่ออก เดินธุดงค์ทั้งภาคอีสานและ สปป.ลาวเป็นระยะเวลา ๑๔ ปี
    คําสอนที่หลวงปู่หินมักสั่งสอนลูกศิษย์ เสมอคือ “ให้ทุกคนหมั่นทําบุญ รักษาศีลภาวนา ให้มีธรรมะของพระพุทธเจ้า เป็น เครื่องยึดไว้ในกายในจิตใจของทุกคนตลอด เวลาทําจิตใจให้ผ่องใส กินอาหารที่ถูกหลัก ไม่กินเหล้า บุหรีไม่เสพ จะทําให้มีอายุยืน ยาวได้และมีความสุขกันถ้วนหน้า

    ที่ท่านหลวงปู่หินมีอายุยืนยาวถึง ๑๓๕ ปี หลวงปู่ เคยเล่าว่า เป็นผลมาจากกรรมที่ท่านสร้างไว้ ท่านได้ทํากรรมดี สร้างสมคุณงามความดี ไว้มาก นอกจากนี้ในการปฏิบัติของท่าน ท่านจะมีอารมณ์ดีตลอดเวลา การขบฉัน ท่านจะไม่นอาหารดิบ ไม่ฉันเนื้อหมู เนื้อวัว แต่ฉันเนื้อปลา อาหารหลักส่วนใหญ่จะ เป็นผักและผลไม้ เช่น ข้าวเหนียวมะม่วง กล้วย เป็นต้น แม้ท่านจะมีอายุยืนเกิน ๑๐๐ ปี แต่ท่านไม่เคยหวั่นเกรงต่อความตาย ที่อาจเกิดกับท่านเมื่อใดก็ได้ เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๕ ท่านเคยนิมิตว่าจะละสังขาร จึงดําริให้มีการสร้างเจดีย์ เพื่อบรรจุอัฐิของท่านไว้ล่วงหน้า

    งานด้านการพัฒนาศาสนา และสงเคราะห์ส่วนรวม
    การกลับมาจําพรรษาที่วัดโพธาราม บ้านหนองอ้อน้อย ขณะที่อายุจะถึง ๑๐๐ ปี แล้ว ควรที่จะพักผ่อนตามอัตภาพ แต่ท่าน ก็หาได้นิ่งดูดายกับงานด้านทํานุบํารุงพระศาสนาไม่ วัดโพธาราม เมื่อครั้งที่หลวงปู่หิน มาจําพรรษาครั้งแรก มีสภาพที่รกร้าง ไม่ มีศาสนวัตถุเพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา หลวงปู่จึงได้ริเริ่มพัฒนาวัดโพธารามมาโดยตลอด อาศัยเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาและศิษย์ที่ใกล้ชิด งานด้านการ พัฒนาจึงก่อเกิดอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่การสร้างกําแพงรอบวัด สร้างกุฏิสงฆ์ กระทั่งการสร้างพระอุโบสถ

    โดยเฉพาะการสร้างพระอุโบสถสําหรับใช้บวชลูกหลาน ที่วัดโพธารามยังไม่มี เป็นสิ่งจําเป็นยิ่งสําหรับงานสืบทอดพระศาสนา ให้บังเกิดขึ้นกับพุทธศาสนิกชนในแถบนั้น นับเป็นงานหนักที่ต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูงในเบื้องต้นคาดว่าต้องใช้เงิน ๔.๕ ล้าน บาท การจะหาทุนขนาดนั้นจะต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างมาก ซึ่งการสร้างพระอุโบสถนี้เอง เป็นงานที่หลวงปู่ห่วงมาก ถึงขนาดที่มีคนถามหลวงปู่ว่า “จะอยู่กับลูกหลานไป อีกนานไหม” หลวงปู่ตอบว่า “ขอให้สร้างพระอุโบสถเสร็จก่อนจึงจะละสังขาร”

    สําหรับการก่อสร้างพระอุโบสถ ได้ริเริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๙ เกิดปัญหาวัสดุก่อสร้างปรับราคาสูงขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๐ ทําให้ค่า ก่อสร้างเพิ่มเป็นเท่าตัวถึง ๘ ล้านบาท แต่การก่อสร้างได้เสร็จเรียบร้อย เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๒ สมดังเจตนารมณ์ที่ตั้งไว้ ซึ่งหลวงปู่ต้องการให้มีการจัดงานฉลองฝั่งลูกนิมิต
    ประมาณเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๔๔

    นอกจากการพัฒนาทํานุบํารุงพระศาสนาแล้ว หลวงปู่ยังมีเมตตาให้มีการจัดตั้ง “กองทุนมูลนิธิหลวงปู่หิน” เพื่อช่วยเหลือจัดซื้ออุปกรณ์ทางการศึกษา ให้ทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนยากจนในโรงเรียนประจําหมู่บ้าน และช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยในโรงพยาบาลน้ำพอง อีกส่วนหนึ่งด้วย
    ในส่วนของวัตถุมงคลของหลวงปู่นั้น ทางวัดจัดสร้างเพียง ๓ รุ่นเท่านั้น เพื่อระดมทุนก่อสร้างศาสนสถานภายในวัดและสมทบกองทุนมูลนิธิหลวงปู่หิน วัตถุมงคล ของหลวงปู่หิน ได้รับความนิยมจากคนในพื้นที่ เนื่องจากวัตถุประสงค์การจัดสร้างดีและสร้างน้อยเพียงพอกับปัจจัยที่ต้องการเท่านั้น โดยเฉพาะวัตถุมงคลรุ่น ๑ สร้างปี พ.ศ.๒๕๓๙ เพื่อสร้างกําแพงวัด หมดไปอย่างรวด เร็วตั้งแต่ออกให้บูชา ส่วนรุ่น ๒ และ ๓ สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๐ เพื่อสร้างพระอุโบสถยัง พอมีเหลือให้บูชา

    คำกล่าวของหลวงปู่ที่ว่า “ขอให้สร้างพระอุโบสถเสร็จก่อนจึงจะละสังขาร” เหมือนเป็นปริศนาถึงอายุขัยของท่าน เพราะเมื่อ หลวงปู่ได้จ่ายเงินค่าก่อสร้างพระอุโบสถที่ติดค้างงวดสุดท้ายเมื่อวันที่ ๒ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๓ แล้ว ในวันที่ ๗ มกราคม ท่านก็เริ่มอาพาธ จนกระทั่งละสังขารในอีก ๓ วันต่อมา

    หลวงปู่กําชับลูกศิษย์ลูกหาก่อนละสังขารว่า เมื่อท่านละสังขารแล้วให้จัดการฌาปนกิจศพ พร้อมกับพิธีฉลองพระอุโบสถ ที่กําหนดจัดขึ้นประมาณกลาง เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๔๔ ขณะนี้ บรร ดาลูกศิษย์ ได้ทําเรื่องขอพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่หิน ปภังกโร กลางเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๔๔

    สําหรับศพของหลวงปู่หิน ได้บรรจุไว้ในโลงแก้ว ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดโพธาราม ห่างจากอําเภอน้ำพองเล็กน้อยหาก เดินทางไปตามถนนมิตรภาพ มาทางตัวเมืองขอนแก่น หลังจากลงสะพานข้ามน้ำพองเก่า แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามป้ายที่ บอกไว้ประมาณ ๓ กิโลเมตร ถึงวัดหลวงปู่หิน

    ◎ เหตุการณ์ที่น่าเหลือเชื่อ เกิดขึ้นในช่วงงานฉลองโบสถ์ ผูกพัทธสีมา และงานฌาปณกิจถวายเพลิงศพ
    ในคืน วันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๔ ช่วงเวลาประมาณ ๐๓.๐๐ น. เกิดอุบัติเหตุ ไฟลุกไหม้ หน้าหีบแก้ว ใกล้กระถางธูปเทียน แล้วลุกลามไหม้แผ่นไม้โดยรอบ จนมีผู้มาพบเห็น สิ่งที่น่าอัศจรรย์คือ ผ้าลูกไม้ลายดอกและไม้ที่กั้นวัตถุมงคลของหลวงปู่ ไม่โดนไฟไหม้เลยแม้แต่น้อย สร้างความศรัทธาอย่างแรงกล้าในวาระสุดท้ายของหลวงปู่ แต่การฉลองโบสถ์ ผูกพัทธสีมาและการฌาปณกิจถวายเพลิงศพก็เสร็จสมบูรณ์
    แม้วันนี้หลวงปู่หิน ปภงฺกโร ได้ละสังขารไปนานแล้ว กาลเวลาอาจทำให้ความทรงจำลบเลือนไปบ้าง แต่คุณงามความดีที่หลวงปู่ได้สร้างไว้ ธรรมมะที่ท่านให้ไว้ แบบแผนการปฏิบัติ ธุดงค์วัตร ธรรมวินัย ที่ท่านทำเป็นแบบอย่าง จะยังคงอยู่ในใจลูกศิษย์ สาธุชน ที่ได้มาพบเห็นทีหลัง ที่มารู้จักทีหลัง ให้ได้ซาบซึ้งในพระคุณแห่งพระอริยสงฆ์ ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เป็นศากยบุตรพุทธชิโนรสของจริง คณะศิษย์ขอน้อมบูชาพระคุณด้วยความดีงามและกราบอนุโมทนาบุญของหลวงปู่หิน ปภงฺกโร ตั้งแต่อดีตชาติ จนบัดนี้

    (จากที่ได้ยินมาว่า อัฐิธาตุของท่านที่ศิษย์เก็บไว้ ได้แปรเป็นพระธาตุ เป็นแก้วสวยงาม นั่นแสดงให้เห็นถึงคุณธรรม ภูมิจิต ภูมิธรรมของท่านผู้สิ้นอาสวะกิเลส แล้ว)

    ส่วนเรื่องราวปาฏิหาริย์อื่นๆ ก็เกิดจาก วัตถุมงคล ที่ท่านอธิษฐานจิต หรือ ที่ท่านจัดสร้างก็อยู่ที่แต่ละคนจะอาราธนาและนึกถึงท่าน ย่อมเกิดอัศจรรย์และความผาสุก ความเจริญรุ่งเรืองตามสมควร ดังที่ท่าน เตือนไว้เสมอว่า “เรามีกรรมเป็นของของตน” เมื่อเราสร้างความดี สร้างเหตุที่ดี ขอบารมีพระคุ้มครอง ท่านสงเคราะห์คนดี แน่แท้ ไม่ต้องลังเลเลยครับ

    ที่มาข้อมูล
    https://www.108prageji.com/หลวงปู่หิน-ปภังกโร/
    20220724_062637.jpg 20220724_062609.jpg 20220724_062531.jpg
     
  19. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,982
    ค่าพลัง:
    +10,040
    พระผงเสริมบารมี หลวงพ่อบุญอุ้ม วัดป่าโนนแพง ที่ระลึกน้ำมนต์พระจันทร์ 17 พย. 56 เลี่ยมพลาสติกกันน้ำสามห่วง 20220724_064141.jpg 20220724_064119.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2022
  20. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,982
    ค่าพลัง:
    +10,040
    จองแล้ว
    พระผงใบโพธิ์พุทธคยา เสก 3 วาระ พร้อมกล่องเดิม พ.ศ.2519 หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ กราบนมัสการและสนทนาธรรมกับหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ณ วัดดอยแม่ปั๋ง ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    เสด็จฯ กราบนมัสการและสนทนาธรรมกับหลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    ณ วัดดอยแม่ปั๋ง ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ เกิดในตระกูลของช่างตีเหล็ก เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2430 ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น 3 ค่ำ เดือนยี่ ปีกุน ณ บ้านนาโป่ง ตำบลหนองใน(ปัจจุบันเป็นตำบลนาโป่ง) อำเภอเมือง จังหวัดเลย โดยเป็นบุตรของนายใสกับนางแก้ว รามสิริ โดยมีน้องสาวร่วมบิดา- มารดาอีกหนึ่งคนคือ นางเบ็ง ราชอักษร และบิดามารดาของท่านได้ ตั้งชื่อว่า ญาณ ซึ่งแปลว่า ปรีชา กำหนดรู้



    หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง พระผงใบโพธิ์พุทธคยา เสก 3 วาระ พร้อมกล่องเดิม พ.ศ.2519



    พระผงใบโพธิ์ พุทธคยา ด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธเจ้า นั่งปางสมาธิในตอนตรัสรู้ คือความรู้แจ้ง ในรูปใบโพฺธิ์ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่เกิดพร้อมกับตอนพระพุทธเจ้าประสูติ ด้านหลังองค์พระจะเป็นรูปเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย ซึ่งอยู่ที่รัฐพิหาร เป็น 1 ใน 4 สังเวชนียสถานทั้งสี่ ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสในมหาปรินิพพานสูตร ว่าหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว ชาวพุทธควรได้มากราบสักการะสถานที่ทั้งสี่แห่ง คือ ประสูติ ตรัสรู้ ธรรมเทศนาครั้งแรก และปรินิพพาน

    หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง พระผงใบโพธิ์พุทธคยา เสก 3 วาระ พร้อมกล่องเดิม พ.ศ.2519

    หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง พระผงใบโพธิ์พุทธคยา จัดสร้างปี พ.ศ. 2519 โดยวัดทุ่งเสรี กรุงเทพ มีขนาดเล็ก สูง 2.3 x 1.5 ซ.ม. พิธียิ่งพุทธาภิเษกยิ่งใหญ่ มีการปลุกเสก 3 วาระด้วยกันดังนี้

    วาระที่ 1 เกจิคณาจารย์ดังจากทั่วประเทศปลุกเสกเดี่ยว 99 รูป

    วาระที่ 2 ประกอบพิธีปลุกเสก ณ สถานที่ตรัสรู้ ภายในบริเวณมหาวิหารพุทธคยา ประเทศอินเดีย

    วาระที่ 3 ประกอบพิธีพุทธาภิเษกที่วัดทุ่งเสรี กรุงเทพ วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ.2519 โดยมีพระเกจิคณาจารย์ชื่อดังจากทั่วประเทศมาร่วมพิธีมากมาย อาทิ

    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี

    หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย

    หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง

    พระอาจารย์ ชุม ไชยคีรี เป็นต้น นอกจากนี้ หลวงปู่แหวน ได้ปลุกเสกเดี่ยวเพิ่มอีก ณ. วัดมหาธาตุ จ.กรุงเทพฯ
    พร้อมกล่องเดิมๆ เปิดให้บูชา 600 บาท จัดส่งEMS 20220724_084644.jpg 20220724_084620.jpg 20220724_084555.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2022

แชร์หน้านี้

Loading...