ลงรายการใหม่ พระหลักร้อย พุทธคุณหลักล้าน และคณาจารย์ยอดนิยม เชิญรับชมก่อนครับ

#พิมพ์หลวงปู่ดู่ รุ่นรวมใจ



#แบ่งบูชา 99 ครับ

สร้างจากเนื้อผงพุทธคุณผสมผงกรรมฐานต่างๆกว่าพันรายการ ผงว่านเกษร 108 ชนิด ผงดอกไม้บูชาพระ
ผงมหาจักพรรดิ์ที่หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านลบไว้สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ผงเถ้าอังคารของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และผงปูนซีเมนต์ขาว

หลวงตาม้าท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่โดยตรงเวลาหลวงตาม้าสร้างวัตถุมงคล จึงมีผงกรรมฐานมหาจักพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่ผสมอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก
หากหาพระของหลวงปู่ดู่บูชาไม่ได้เพราะของปลอมเยอะมากๆ ก็บูชาพระที่หลวงตาม้าสร้างและเสกขึ้นคอแทนหลวงปู่ดู่ได้ครับ แถมยังไม่ต้องกลัวของปลอมอีกด้วย เพราะหลวงตาม้าท่านทำพระแจกให้ครับ

พระของหลวงตาม้าพุทธคุณ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย โชคลาภเงินทองเจริญรุ่งเรือง ป้องกันภูติผีปีศาจ คุณไสยและมนต์ดำทั้งปวง คงกระพันและมหาอุต

 

#พระสมเด็จพัดโบก เนื้อผงมงคลมหาลาภ โรยเกศาตะกรุด 3 ดอก หลวงปู่เจิม วัดหนองน้ำขุ่น

#พระสมเด็จพัดโบก (เมตตา ค้าขาย มหาเสน่ห์ ดีนัก)




#แบ่งบูชาราคาพิเศษ 750 ครับ

#สุดยอดโภคทรัพย์อย่างที่สุด ผง มวลสาร เอาผงพระสมเด็จ 3 มิติ ของ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดสัมพันธ์วงศ์ เป็นหลัก ผสมกับผงวัดสารนารถ และผงระดับตำนานแห่งวัดระฆัง รับรองว่าผงมวลสารสุดยอดครับ

หลวงปู่เจิมสร้าง "สมเด็จพัดโบก" ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยให้เอาหัวใจและอักขระยันต์พัดโบก หรืออันที่จริงก็คือ "ยันต์จินดามณี" ที่ตามประวัตินางยักษ์พันธุรักษ์มอบให้พระสังข์ทองไว้ใช้เรียกเนื้อเต็มป่า เรียกปลาเต็มหนอง เรียกทรัพย์สินเงินทอง มากมายก่ายกองเข้ามาสู่ตัวเรา
ด้านหน้าเป็นรูปพระสมเด็จนั่งประทับบนไหสมบัติ ด้านหลังเป็นรูปหลวงปู่เจิม และธงชัยพัดโบก พัดเรียกทรัพย์สินเงินทอง ข้าวของลาภสักการะ น้อยใหญ่มาสู่ผู้บูชา ถือเป็นพระสมเด็จที่ใช้แทนธงพัดโบกได้ พ่อค้าแม่ขายในยุคนี้ เศรษฐกิจไม่ดี ค้าขายเงียบๆ เหงาๆ ลองเอาพระสมเด็จพัดโบกหลวงปู่เจิมติดตัว-ติดร้านค้าไว้ ตอนขายของจะขายดี ขายคล่องขึ้นจนอัศจรรย์ใจ เจรจาธุรกิจ ของาน ขอเงิน ธุรกิจหลักแสน หลักล้าน ต้องเอาของดีเข้าช่วย จีน มาเลย์เซีย สิงค์โปร์ ที่ว่าศิวิไลย์ นักธุรกิจของเค้ายังพกเครื่องรางของขลังไปติดต่อธุรกิจ
เราคนไทยมีพระอริยสงฆ์ปรากฏกายช่วยศิษย์อยู่รอบทิศ โดยเฉพาะหลวงปู่เจิม พ่อท่านใหญ่แห่งเมืองน้ำเค็มนี่มีดี ไม่อยากอวด แต่อยากให้ลองใช้ดู ใช้ดีบอกต่อแล้วทำบุญต่อจะได้ดีตลอดไป ยุคนี้เกจิที่รู้มนต์พัดโบกของแท้ๆ ก็ต้องหลวงปู่เจิม วัดหนองน้ำขุ่น นี่แหละ วิชาเอกทางตรงท่านเจนจบหมด รู้จริง ทำได้จริง ใช้แล้วก็เห็นผลจริงเป็นเรื่องธรรมดา

#อักขระยันต์แถวแรก คือ หัวใจเศรษฐี หรือ อุ อะ กะ สะ

#อักขระยันต์แถวที่สอง คือ คาถาเรียกและเร่ง โชคลาภ คือ มา นิ มา มา

 

พระกริ่งพุทธรักษาอันนำโชค

(เกศา + จีวรท่านครูบากฤษดาชัดเจนครับ )

ที่ระลึกในการจัดทำระบบน้ำสะอาดในถิ่นทุรกันดาร



ให้บูชา องค์ละ cxxx uาท.


พระครูบากฤษดา สุเมโธ เสก ๑ ไตรมาส

( ๑๘ ส.ค ๕๗ - ออกพรรษา )

เสกพร้อมเหรียญ รุ่นแรก ครูบากฤษดา ปี ๕๗


พุทธาภิเษก ที่วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่

โดย หลวงพ่อเล็ก และพ่อตุ๊มหาสิงห์


หลวงพ่อประสาท วัดสันหีบ ( เสก ๑ เดือน )

.

เนื้อทองเหลืองผสมชนวน ชุบทอง

สร้าง ๒๒๗ องค์
+++++++++++++++++++++

พระกริ่งพุทธรักษาอันนำโชค บรรจุ

เกศา จีวร ครูบากฤษดา

เม็ดผลคุณ คือเมล็ดพุทธรักษา ที่เก็บมาจากวัด

พระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ ปี ๒๕๕๓ ผ่านพิธีมามาก

บรรจุเพื่อเป็นเคล็ด ในการอธิษฐานรักษาโรค

และปกป้องคุ้มครองรักษา

มวลสารต่าง ๆ จากทั่วประเทศเกือบหมื่นรายการ

+++++++++++++++++++++

เสกพร้อมเหรียญ รุ่นแรก ครูบากฤษดา ปี ๕๗

พิธีพุทธาภิเษก ที่วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่

พระอาจารย์เล็ก ตุ๊พ่อมหาสิงห์

 

พี่ๆเพื่อนๆ นอกเว็ป
ถ้าสนใจสามารถแอด LINE
มาสอบถามเพิ่มเติมได้นะครับ

​

 

#เหรียญพระสุธรรมคณาจารย์(แดง) ออกวัดประชานิยม จ.กาฬสินธุ์ ปี 2514



#เหรียญจริงสวยมาก แบ่งบูชาที่ 750 ครับ

#เหรียญพระสุธรรมคณาจารย์(แดง) ออกวัดประชานิยม จ.กาฬสินธุ์ ปี 2514 ท่านเป็นพระปฏิบัติสายพระอาจารย์มั่น เคยร่วมธุดงไปกับคณะของพระอาจารย์มั่น ก่อนจะมาอยู่พระอาจารย์ลี ที่วัดคลองกุ้ง และร่วมกันกลับพระอาจารย์ลี สร้างวัดอโศการาม จ.สมุทธปราการ จนได้เป็นศิษย์เอกหลวงปู่ลี อยู่เคียงข้างหลวงปู่ลี จนท่านมรณะภาพ ก่อนที่ท่านจะกลับมาอยู่วัดป่าสามัคีธรรม บ้านเกิดของท่าน จนท่านมรณะภาพในปี 2531 หลวงปู่เปี่ยมด้วยเมตตาบารมี เหรียญของท่านมีพุทธคุณทางด้านแคล้วคาด คงกระพัน มหานิยม เหรียญสวยน่าใช้ครับ

 

#เหรียญสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี

ด้านหลังตราประทับ ภปร ปี2511

(รูปด้านหน้าสมเด็จโต ด้านหลัง ภปร พ่อหลวง ร.9 และได้พระอรหันต์กลางกรุง อธิฐานจิตให้อีก ควรบูชาอย่างยิ่งครับ)




แบ่งบูชาราคาพิเศษที่ 499 ครับ

ในหลวงและสมเด็จพระราชินีเสด็จพระราชดำเนินทรงเททองหล่อรูปเหมือน ณ วัดโพธิ์ บางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เมื่อ 5 กันยายน ปี 2511

จัดสร้างและปลุกเสกโดย

#ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ #วัดเทพศิรินทร์ #กรุงเทพฯ

และพระเกจิ-อาจารย์ดังในยุคนั้น

พร้อมกับเหรียญท่านเจ้าคุณนรฯ หลังรัชกาลที่ 6 พิธีใหญ่

#สภาพสวยไม่ผ่านการใช้งานครับ

 

#เหรียญกฐินปี47 หลังหนุมานเชิญธง เนื้อทองแดง



#รุ่นประสบการณ์ หลวงพ่อเพี้ยนวัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี

#เหรียญที่ระลึกทอดกฐินปี 47 เนื้อทองแดง บล๊อคธรรมดา หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน พิธีใหญ่มาก

(สุดยอดประสบการณ์โดนปืนยิง 4 นัด ยิงไม่ออก) รวบรวมมวลสารจากหลายเกจิ ดีนอก ดีใน ประสบการณ์สูงมาก

#แบ่งบูชาราคาพิเศษที่ 1500 ครับ

พระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก

หลวงปุ่ทอง วัดศรีษะทอง
หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
หลวงพ่อรวย วัดตะโก
หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม
หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดเม้าส์สุขา
หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม
หลวงปุ่คีย์ วัดศรีลำยอง
หลวงปู่นนท์
หลวงพ่ออั๊บ
หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ
หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม
หลวงพ่อจ้อย วีดศรีอุทุมพร
หลวงพ่อจ้อย วัดโนนเกด
หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง
หลวงปุ่โทน
หลวงพ่อสุพจน์ วัดศรีทรงธรรม

 

#พระผงขวัญถุงมหาเศรษฐี หลวงปู่บุดดา ถาวโร

#วัดกลางชูศรีเจริญสุข สิงห์บุรี

#รูปถ่าย หลวงปู่ + จีวรปั้มยันต์ประจำองค์ท่าน หายากครับ



#แบ่งบูชาครบชุด 500 บาทครับ

 

#พระผงรูปเหมือนหลวงปู่มีชัย #หลวงปู่โลกเทพอุดร



#มวลสารชัดเจนครับ

#วัดปราการชัยพัฒนาราม

#รุ่นขุมทรัพย์ ปี 2558 #ด้านหลังเป็นยันต์ขุมทรัพย์

#เรียกทรัพย์สินเงินทอง

#ได้รับการปลุกเสกจากหลวงปู่ก่อนที่ท่านจะมรณภาพไม่นาน

เรียกว่า "รุ่นทิ้งทวน" ก็น่าจะได้

#พระหลวงปู่มีประสบการณ์มากมาย

#แบ่งบูชาที่ 250 ครับ 

 

#พระหล่อรูปเหมือนรุ่นแรกหลวงปู่ท่อน ญาณธโร

#วัดศรีอภัยวัน ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย

#ปี2533 สภาพสวยเดิมๆไม่ผ่านการใช้ครับ



#แบ่งบูชาที่ 1,499 ครับ หายากควรบูชาอย่างยิ่งครับ

 

หลวงปู่ทวด เนื้อว่าน รุ่น เอ็ม16 อ.นอง วัดทรายขาว ปี๒๕๓๔ จ.ปัตตานี

#สภาพสวย พร้อมกรอบสแตนเลสอย่างดีครับ



#แบ่งบูชาราคาพิเศษที่ 1,350 ครับ

พระรุ่นนี้เป็นพระยุคแรก ที่อาจารย์นอง วัดทรายขาว ปลุกเสก จัดสร้างเมื่อปี 2534 องค์พระจะมีทั้งหลังเรียบ และหลังตอก 72 เป็นเนื้อว่านยุดแรกๆ ของท่าน เนื้อว่านองค์นี้จะมีส่วนผสมของเนื้อกล้วยป่ารวมกับเนื้อว่าน จึงทำให้พระมีสีดำ ดูเข้มขลัง เนื้อพระแบบนี้ไม่ค่อยแตกรานง่าย ทำให้พระดูสวยงามมาก มีประสบการณ์มากจนมีฉายาว่ารุ่น M16 เพราะมีผู้เล่าว่า "มีประสบการณ์ผู้บูชาพระรุ่นนี้ แล้วถูกยิงด้วย ปีน M16 แต่ไม่เข้า จึงเป็นฉายาที่เรียกกันจนติดปากว่ารุ่น M16"

 

พระผงพรายสมุทรหลวงพ่อเจิม วัดหอยราก

#สภาพสวยเดิมๆ พร้อมกรอบสแตนเลสอย่างดี หายากครับ



#แบ่งบูชาราคาพิเศษที่ 950 ครับ


หลวงพ่อเจิม วัดหอยราก จ.นครศรีธรรมราช ปี 2499 หลวงพ่อเจิมปลุกเสกเดี่ยวมาตลอดมาถึงปี 2502 ได้มีพิธีใหญ่ปลุกเสกใหญ่อีกครั้งโดยหลวงพ่อเจิมและนิมนต์เกจิในยุคนั้น มาร่วมปลุกเสกด้วย 1.หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน 2.หลวงพ่อแปลก วัดหูล่อง 3.หลวงปู่่เขียว วัดหรงบน 4.หลวงพ่อค งวัดบ้านสวน 5.หลวงพ่อมุ่ย ป่าระกำเหนือ 6.หลวงพ่อจันทร์ วัดทุ่งเฟื่อ 7.หลวงพ่อสังข์ วัดดอนตรอ 8.หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง 9.หลวงพ่อจับ วัดบางจาก

จำนวนการสร้างตามพระธรรมขันต์ 84,000 องค์ สุดยอดประสบการณ์ หลวงพ่อเจิม หรือ พ่อท่านเจิม อชิโต หรือ พระสมุห์เจิม แก้วช่วย หรือ พระครูพิศาลวรเวทย์ เจ้าอาวาสวัดศรีสมบูรณ์ (วัดหอยราก) อดีตพระเกจิอาจารย์ขลังแห่งลุ่มน้ำปากพนัง ต.ปากพนังตะวันตก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เป็นพระสงฆ์ผู้ทางอภิญญาด้านวิทยาคมมากท่านหนึ่ง ชำนาญด้านไสยศาสตร์มากมายหลายแขนง บุคลิกท่าทางของท่านดูเป็นที่เคารพน่าเกรงขามแบบคนโบราณ.พ่อท่านเจิม อชิโต ได้มารั้งตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศรีสมบูรณ์เมื่อปี พ.ศ.2479 และได้ละสังขารลงเมื่อ ปี พ.ศ.2527 รวมสิริอายุ 76 ปี 57 พรรษา ครั้งเมื่อพ่อท่านเจิม อชิโต สมัยท่านยังไม่ละสังขารอยู่นั้น ท่านได้สร้างพระเนื้อผงดินเผา พระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์ และพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปิดตา ปี พ.ศ. 2499 เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา พ่อท่านเจิมได้เสาะแสวงหาและรวบรวมมวลสารที่เป็นมหามงคล โดยใช้ระยะเวลาอยู่นานร่วม 7-8 ปี เมื่อได้มวลสารที่ต้องการแล้ว พ่อท่านเจิมได้ทำพิธีกดพิมพ์พระพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์ และพิมพ์ปิดตา เป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2499 ซึ่งมวลสารที่พ่อท่านเจิมได้ใช้ในการสร้างล้วนมีพุทธคุณ และคุณวิเศษมากมายในตัวซึ่งเป็นมวลสารที่หายากยิ่ง พ่อท่านเจิมอยากให้วัตถุมงคลที่สร้างออกมาให้มีพุทธคุณ จึงต้องทำให้ตรงตามตำราโบราณทุกอย่าง ทุกขั้นตอนอย่างประณีต...โดยเฉพาะมวลสารที่เป็นดินพรายสมุทร (ท้องทะเล) ต้องใช้ถึง 108 ปั้น โดยต้องดำน้ำลงไป และเถ้าคนที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคารให้ได้ 7 ป่าช้า เอามาบดเป็นผงให้ได้ 108 จอกชา และยังมีมวลสารที่สำคัญอีกร่วม 700 ชนิด พ่อท่านเจิมได้นำพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์ และ พิมพ์ปิดตา เข้าปลุกเสกเดี่ยวในพระอุโบสถ วัดศรีสมบูรณ์อีก เพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ด้วยพระคาถาพระมหาหมื่น 10,000 จบ พระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์ และพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปิดตา ของพ่อท่านเจิม จึงเป็นวัตถุมงคลที่มีความเข้มขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ในพุทธคุณสูง ดังใบฝอย ที่ท่านได้เขียนไว้คราวแจกจ่ายพระ "สวัสดีท่านที่เคารพและนับถือทั้งหลาย การที่ข้าพเจ้าจัดทำรูปหลวงพ่อ อะชิโตขึ้นครั้งนี้ ทำตามแบบโบราณ ที่ท่านเขียนไว้ในคำภีร์ใบลาน พัสดุที่เอามาประสมเกินกว่า 700 สิ่ง แต่ละสิ่งล้วนเป็นของศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้น ข้าพเจ้าเที่ยวหาของต่าง ๆ นั้น 2 ปีซ้อน ทำแต่ผงนั้นราว 4 เดือน และทำแต่รูปหลวงพ่อ อะชิโต ก็ราว 3 ปี และโดยเฉพาะปลุกเสกอยู่นั้นย่างเข้า 5 ปี คือเริ่มปลุกเสกในฤกษ์ของวันเสาร์ เดือน 5 ปี มะเส็ง กระทั่งถึงวันเสาร์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 12 ปีระกา พ.ศ.2512 เป็นอันสัมฤทธิ์ผลโดยสมบูรณ์ รุ่งขึ้นวันอาทิตย์ ขึ้น 8 ค่ำเดือนเดียวกัน เป็นปฐมฤกษ์ของการแจกจ่ายให้เช่า อันเป็นมหามงคลฤกษ์ของอมฤคฆโชค แปลว่า เป็นโชคอันไม่ตาย ข้าพเจ้าขอเตือนว่า ทุก ๆ ท่านที่มีรูปหลวงพ่อ อะชิโต ไว้นั้น อย่าสักแต่ว่าเอาไว้เฉย ๆ เท่านั้น มันไม่เกิดเป็นมงคลและผลประโยชน์อะไรเลย เหมือนอย่างไก่ไปพบพลอย พลอยก็ไม่เป็นประโยชน์อะไรกับไก่เลย.ฉะนั้น ขอท่านอย่าได้ประมาท อุตส่าห์กราบไหว้บูชาอยู่เสมอ เป็นรูปที่ทำขึ้นแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น พอถึงวันอังคาร หรือวันเสาร์ ควรจัดของถวายข้าวพระ มีน้ำสิ่งหนึ่ง ข้าวสิ่งหนึ่ง คาวสิ่งหนึ่ง หวานสิ่งหนึ่ง อย่างน้อยให้ได้เดือนละหนึ่งครั้ง เวลาจะหลับนอนหรือไปไหน ให้ยกเอารูปหลวงพ่อ อะชิโต ขึ้นตั้งเหนือหัวขอท่านช่วยคุ้มครองป้องกันรักษาเถิด พระพุทธเจ้าทรงตรัสภาษิตไว้ว่า อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ แปลว่า ท่านทั้งหลายจงยังไม่ประมาทให้ถึงพร้อม พระพุทธภาษิตขึ้นนี้ท่างจะยึดถือไว้ให้มั่น นี้เป็นหลักของหลวงพ่อ อะชิโต ที่จะต้องปฏิบัติคือ อย่าได้ประมาทเลย และขอให้ท่านทุกท่านที่มีหลวงพ่อ อะชิโต ไว้กับตัวและครอบครัวของท่าน จงสัมฤทธิ์ผลดลบันดาลให้สำเร็จทุกประการเทอญ มวลสารหลักๆที่จัดหาได้แก่ 1. ว่าน ๑๐๘ ชนิด จำนวน ๑๐๘ บาตร 2. ดินพรายสมุทรท้องทะเลลึก ๑๐๘ ปั้น 3. ดินท้องแม่น้ำปากพนัง ๑๐๘ ปั้น 4. ดินกลางวัด ๑๐๘ วัด ๑๐๘ ปั้น 5. ดินกลางนา ๑๐๘ แปลง ๑๐๘ ปั้น 6. ดินหาดทรายแก้ว ๑๐๘ หาด 7. ดินกลางไร่ ๑๐๘ ไร่ 8. ดินรูปูนา ๑๐๘ รู 9. ดินปราบหญ้าไม่งอก ๑๐๘ ปราบ 10. ดินจอมปลวกวัวเลีย ๑๐๘ จอม 11. ดินกลางสระน้ำ ๑๐๘ สระ 12. เถ้าเชิงตะกอนเผาศพ ตายวันเสาร์เผาวันอังคาร ๗ ป่าช้า บดเป็นผง ๑๐๘จอก 13. เถ้าหนังสือใบลาน ๑๐๘ จอก 14. ดินป่าช้า ๓ วัด ปั้นเป็นก้อน ๑๐๘ ก้อน 15. ดอกไม้บูชาพระบรมธาตุ วันมาฆบูชา เฉพาะที่ตรงกับวันเสาร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ บดเป็นผง ๑๐๘ จอกชา 16. น้ำจากหุบเขาชัยราช แนวต่อจังหวัดชุมพรกับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นน้ำผสมผงปั้นพระ 17. น้ำฝนตกชายคาพระอุโบสถ เฉพาะที่ตรงกับวันจันทร์ขึ้น ๑๐ ค่ำเป็นน้ำผสมผงปั้นพระ 18. ดินพอกหางหมู ๑๐๘ ก้อน 19. ผงพระท่าเรือ นครศรีธรรมราช และ ยังมีวัตถุมงคลอื่นๆอีกรวมแล้ว ๗๐๐ ชนิด มีพระสมุห์เผียน หมอเพียร ชาวบ้านหนองนก หมอปลื้ม ช่วยกันจัดหา และใน พ.ศ.๒๔๙๙ ได้เริ่มกดพิมพ์ และได้เริ่มปลุกเสกในพระอุโบสถ พ่อท่านเจิมได้ปลุกเสกด้วยพระครถามงคลต่างๆ และพระมหาทมื่น ๑๐๐,๐๐๐ จบ ปลุกเสกนาน ๕ ปี จึงนำออกแจกจ่ายบูชา ว่ากันว่าพระพิมพ์อะชิโต นี้ พุทธคุณ ขอแล้วได้ผล รวมถึงด้านเมตตาเสี่ยงโชค และป้องกันเตือนภัย ดีนักแล. วิธีการบูชาพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์ และพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปิดตา ปี 2499 ของพ่อท่านเจิม อชิโตนั้น มีดังนี้ นะโม 3 จบ กล่าวต่อ ติวาคะภะ โธพุทนังสา นุสมะวะเท ถาสัตถิระ สามะทัมสะ ริปุโรตะ นุตอะทูวิ กะโลโตคะ สุโนปันสัม ณะระจะชา วิชโธพุทสัมมาสัมหังระ อะวาคะภะ โสปิติอิ พระที่สร้างไว้ มีหลายขนาดด้วยกัน ดังนี้ 1. พระพิมพ์พระประจำวันทั้ง ๗ มีขนาดใหญ่สำหรับไว้บูชาประจำบ้าน ประจำสำนักงาน ขนาด กว้าง ๙ ซม. สูง ๑๕ ซม. 2. พระปรกโพธิ์ขนาดใหญ่ กว้าง ๑.๕ ซม. สูง ๔ ซม. 3. พระปรกโพธิ์ขนาดเล็ก กว้าง ๑.๕ ซม. สูง ๒.๕ ซม. 4. พระปิดทวารทั้งเก้า (มหาอุตม์) กว้าง ๑.๕ ซม. สูง ๔ ซม.ส่วนเนื้อหาก็แตกต่างกันออกไปตามมวลสาร มีทั้งแดง ส้ม ขาว เทา ดำ แรกๆด้วยพระของท่านประกอบด้วยเถ้าผงกระดูกผี ชาวบ้านจึงพากันกลัวไม่ขอ หรือนำ เข้าบ้านสักเท่าไหร่ แต่เมื่อมีประสบการณ์ที่เกิดกับผู้ได้บูชามากขึ้น โดยเฉพาะคราววาตภัยที่แหลมตะลุมพุก เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๖ พระเครื่องของท่านได้ช่วยชาวบ้านให้รอดพ้นจากภัยธรรมชาติดังกล่าวหลายคนทีเดียว ประกอบกับไม่ได้มีประสบการณ์หรือเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวแต่ประการใด จึงได้มีการเสาะแสวงหาไว้ติดตัวกันมากขึ้นจนถึงปัจจุบันนี้

 

#เหรียญเสมา ที่ระลึกสร้างพระมหาเจดีย์

#หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดป่าเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์ (วัดถ้ำผาแดง) อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ปี 2555

#เนื้อทองแดงสภาพสวย ซีลเดิมๆ ตอกโค๊ด เจดีย์

#หมายเลข 9248 เลขมงคลสวยๆ ครับ"



#แบ่งบูชาที่ 399 ครับ 

 

#รูปหล่อพระราชอุดมมงคล ( หลวงพ่ออุตตมะ ) วัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

#จัดสร้างเป็นที่ระลึกอายุครบ 7 รอบ 84 ปี

#สภาพสวยสมบูรณ์เดิมๆจากวัดครับ


#แบ่งบูชาที่ 599 ครับ

 

เหรียญหล่อสมเด็จพุฒจารย์ โต พรหมรังษี หลัง ภปร. วัดเกศไชโย จ.อ่างทอง ที่ระลึกในหลวงรัขกาลที่ 9 เสด็จราชดำเนิน ปี 2521




#แบ่งบูชาที่ 199 ครับ

เหรียญหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังษี) หลัง ภปร ปี 2521 วัดไชโยวรวิหาร ที่ระลึกในหลวง ร.9 เสด็จพระราชดำเนิน
ในปีพ.ศ.๒๕๒๑ มีพิธีพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ของวัดไชโย ในงานสมโภช ๑๙๐ปีแห่งชาตะของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) วันที่ ๒๔-๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๒๑ ตรงกับวันแรม ๑๐-๑๑ ค่ำเดือน๑๒
โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตาญาณ สมเด็จพระสังฆราช(วาสนมหาเถระ) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพฯ ทรงเป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย
และมีสมเด็จพระพุฒาจารย์(เสงี่ยม) วัดสุทัศน์เทพวราราม กรุงเทพฯ เป็นองค์ดับเทียนชัย
รายนามพระคณาจารย์ เจริญพระพุทธมนต์ บริกรรมภาวนาและสวดพุทธาภิเษก ดังนี้
๑.หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล เชียงใหม่
๒.หลวงปู่สุด วัดกาหลง สมุทรสงคราม
๓.หลวงปู่เปรื่อง วัดสุวรรณภูมิ สุพรรณบุรี
๔.พระราชมงคลมุนี วัดชัยมงคล อ่างทอง
๕.พระมหาพุทธพิมพาภิบาล วัดไชโย อ่างทอง
๖.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม.
๗.หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี
๘.หลวงพ่อน้อย วัดหนองโพธิ์ นครสวรรค์
๙.พระครูประสานนวกิจ วัดพระนอนจักร์สีห์ สิงห์บุรี
๑๐.หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ชัยนาท
๑๑.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี
๑๒.หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม
๑๓.ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน
๑๔.พระครูศรีรัตนาภิวัฒน์ วัดวิเศษชัยชาญ อ่างทอง
๑๕.พระครูอดุลสุดกิจ วัดโคกพุทธา อ่างทอง
๑๖.พระครูใบฎีกาเจริญ วัดอ่างทองวรวิหาร อ่างทอง
๑๗.หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวนาราม นครปฐม
๑๘.หลวงพ่อยงยุทธ วัดเขาไม้แดง ชลบุรี
๑๙.หลวงพ่อสด วัดหางน้ำสาคร ชัยนาท
๒๐.หลวงพ่อคูณ วัดสระแก้ว นครราชสีมา
๒๑.พระอธิการสน วัดไทร อ่างทอง
๒๒.หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว ฉะเชิงเทรา
๒๓.หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จันทบุรี
๒๔.พระอาจารย์จำเนียร วัดละมุด อ่างทอง
๒๕.หลวงปู่วัน อุตตโม วัดถ้ำอภัยดำรงค์ธรรม สกลนคร
๒๖.หลวงปู่สิม พุทธจาโร วัดสันติสังฆารามพรรณานิคม สกลนคร
๒๗.หลวงปู่คำแหง จนฺทสาโร วัดป่าสุวรรณนิเทศทรงธรรม ร้อยเอ็ด
๒๘.หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ลพบุรี
๒๙.พระราชสุวรรณโมลี วัดต้นสน อ่างทอง
๓๐.พระราชสังวรญาณ(เจ้าคุณสนิท) วัดศีลขันธาราม อ่างทอง
๓๑.พระวิเศษชัยสิทธิ์ วัดอ่างทองวรวิหาร อ่างทอง
๓๒.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
๓๓.หลวงปู่เส่ง วัดกัลยาณมิตร กทม.
๓๔.หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม สิงห์บุรี
๓๕.หลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน สิงห์บุรี
๓๖.พระครูสิริปัญญาธร วัดตูม อยุธยา
๓๗.หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร
๓๘.พระครูวิบูลคุณาวัตร วัดน้อย อ่างทอง
๓๙.พระครูวิรัตนธรรมวัตร วัดรางฉนวน อ่างทอง
๔๐. พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิ์ราชาวาส กทม.
๔๑.พระอาจารย์บัว วัดแสวงหา อ่างทอง
๔๒.หลวงพ่อชม วัดอินทราราม ชัยนาท
๔๓.หลวงพ่อบาง วัดหนองพลับ สระบุรี
๔๔.หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม
๔๕.หลวงปู่พล วัดหนองคณฑี สระบุรี
๔๖.หลวงพ่อพุทธิ วัดวงศ์พาสน์ อ่างทอง
๔๗.หลวงพ่อสวน วัดบางกระดาน ตราด
๔๙.พระอาจารย์สมภพ วัดสาลีโข นนทบุรี
๕๐.หลวงปู่แว่น วัดป่าสุทธาวาส สกลนคร
๕๑.หลวงปู่ธูป วัดสุนทรธรรมทาน กทม

 

สนใจพูดคุย สอบถามเพิ่มเติมได้นะครับ ​

 

#หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่น ร.ศ. 200

#พิมพ์เสมาเล็กลงยาสีแดงเคลือบนูน




#แบ่งบูชาราคาพิเศษที่ 850 ครับ

#หลวงปู่ทวดรุ่น รุ่น ร.ศ. 200 ปี ได้มีการจัดสร้างขึ้นเป็นกรณีพิเศษเนื่องในโอกาสเฉลิมกรุงรัตยโกสินทร์ครบ 200 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2525 ชนิดที่สร้างก็มีพระบูชาหลวงพ่อทวด 200 องค์ รูปเหมือนหลวงพ่อทวดขนาดเล็ก เนื้อทองคำ 200 องค์ เนื้อเงิน 200 องค์ และเนื้อนวะโลหะ 2,525 องค์ และมีหลวงพ่อทวด พิมพ์กลีบบัวเล็กกับเหรียญหลวงพ่อทวด พิมพ์ใบเสมาเล็ก อีกจำนวนหนึ่งด้วย

#หลวงพ่อทวด รุ่นนี้ ได้จัดพิธีปลุกเสก ณ. พระอุโบสถวัดช้างให้ ระหว่างวันที่ 9-13 มีนาคม 2525

#โดยมีท่านอาจารย์นอง วัดทรายขาว เป็นเจ้าพิธี และพระเกจิคณาจารย์ที่มานั่งปรกปลุกเสกล้วนแต่มีชื่อเสียงทั้งนั้น อาทิ เช่น หลวง พ่อหมุน วัดเขาแดง, หลวงพ่อดำ วัดตุยง, ท่านเจ้าคุณ วัดนาประดู่่, หลวงพ่อสอน วัดปิยาราม, หลวงพ่อวัดคลองท่อม พ่อท่านเเดง ศรีมหาโพธิ์ ฯลฯ และเกจิสายใต้อีกหลายรูป

ในคืนวันที่ 13 มีนาคม 2525 ซึ่งเป็นพิธีปลุกเสกคืนสุดท้าย ดวง วิญญาณหลวงพ่อทวดได้เข้าประทับทรงพ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันออก ซึ่งนั่งเป็นประธานปลุกเสกในพิธี และประทับทรงปลุกเสก อยู่อย่างนั้นจนเสร็จพิธีพร้อมกับประพรมน้ำมนต์วัดถุมงคลด้วย

#หลวงพ่อทวดรุ่นนี้แม้ว่าจะสร้างหลังที่พระอาจารย์ทิมมรณภาพไปแล้ว แต่ก็ได้รับความนิยมมากไม่แพ้รุ่นเก่าๆเหมือนกัน ทั้งนี้ก็เพราะหลวงพ่อทวดมาประทับทรงในการปลุกเสกนั่นเอง ประสบการณ์มาแล้วมากมายเล่าขานกันไม่รู้จบชนิดเล่ากันแล้วเล่ากันอีกไม่มี เบื่อ มีพิธีดี พิธีใหญ่

 

#เหรียญหลวงพ่อกินรี วัดกัณตศิลาวาส ปี 2519 เนื้อทองแดงรมน้ำตาล สภาพสวยมากครับ



#เหรียญนี้สร้างในวันแม่ 12 สิงหาคม 2519

#หลวงปู่ชา สุภัทโท #หลวงปู่ฝั้น อาจาโร

#และสายป่ากรรมฐานร่วมอธิฐานจิตครับ

#เพื่อแจกรั้วของชาติ #ประสบการณ์สูง

#แบ่งบูชาที่ 750 ครับ

ประวัติ หลวงปู่กินรี จันทิโย วัดกัณตะศิลาวาส

"หลวงปู่กินรี จันทิโย" วัดกัณตศิลาวาส ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พระสงฆ์สุปฏิปันโนรูปหนึ่ง เป็นลูกศิษย์ที่เคยปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานกับหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต นอกจากนี้ ท่านยังเป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่ชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า กลม จันสีเมือง เกิดเมื่อวันพุธที่ 8 เมษายน 2439 ตรงกับสมัย ร.ศ.115 ที่บ้านหนองฮี ต.หนองฮี อ.ปลาปาก จ.นครพนม โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายโพธิ์ และนายวันดี จันสีเมือง ครอบครัวประกอบอาชีพชาวนา

ในวัย 10 ขวบ ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดหนองฮี ต.หนองฮี อ.ปลาปาก จ.นครพนม ได้ศึกษาหนังสือธรรม หนังสือผูก ภาษาขอม ภาษาไทยน้อย (อักษรธรรม) และภาษาไทยปัจจุบัน ครั้นพออายุครบ 20 ปี ได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดเกาะแก้วอัมพวัน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม แต่ด้วยความการร้องขอจากบิดา-มารดา ท่านจึงลาสิกขาตามความประสงค์ของบุพการี และประกอบอาชีพเป็นนายฮ้อยค้าวัว-ควาย

เนื่องจากอาชีพดังกล่าวต้องพรากพ่อแม่ลูกโค-กระบือ ผลกรรมจึงตามย้อนสนองให้ต้องสูญเสียภรรยาหลังคลอดบุตร สร้างความโศกเศร้าเป็นยิ่งนัก ท่านจึงละวางทางโลก มุ่งหาทางธรรม เข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้ง ณ วัดศรีบุญเรือง ต.กุดตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2465 ขณะมีอายุ 25 ปี โดยมี พระอาจารย์วงศ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์พิมพ์และพระอาจารย์พรหมา เป็นพระคู่สวด

ได้ชื่อใหม่จากพระอุปัชฌาย์จากชื่อเดิม "กลม" เป็น "กินรี" มีฉายาว่า "จันทิโย"ภายหลังอุปสมบท ได้อยู่จำพรรษที่วัดหนองฮี ต.หนองฮี อ.ปลาปาก เพื่อสอนความรู้ภาษาไทยทั้งการอ่านและเขียนให้แก่เด็กๆ ในหมู่บ้าน และยังขุดลอกสระน้ำขนาดใหญ่ด้วยตัวเอง เพื่อให้วัดและชาวบ้านได้มีน้ำอุปโภคบริโภค

ต่อมาได้ไปศึกษาเล่าเรียนกัมมัฏฐานจากพระอาจารย์ทองรัตน์ กันตสีโล ที่สำนักบ้านสามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ได้ระยะหนึ่งจึงเดินทางกลับสู่วัดบ้านเกิด และได้จัดตั้งสำนักสงฆ์ฝ่ายอรัญวาสี ชื่อว่า สำนักสงฆ์เมธาวิเวก

ครั้งหนึ่ง พระอาจารย์ทองรัตน์ ได้พาไปกราบนมัสการหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ณ วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร เพื่อรับโอวาทถึงข้อธรรม พร้อมกับการเจริญสมาธิ ภาวนาจิตให้สงบ ซึ่งท่านได้ใช้ชีวิตอยู่กับหลวงปู่มั่นเพียง 2 ปีเท่านั้น

ท่านได้ธุดงค์มุ่งไปตามป่าเขา เลาะเลียบฝั่งโขงไปฝั่งลาว กราบนมัสการพระพุทธบาทโพนสัน กระทั่งไปจำพรรษาอยู่กับเผ่าแม้วที่ จ.อุตรดิตถ์ ฉันแต่ข้าวโพด ธุดงค์ข้ามไปย่างกุ้ง ประเทศพม่า และได้รับนิมนต์ให้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดกุลาจ่อง ก่อนมุ่งหน้าไปสู่แดนพุทธภูมิเพื่อนมัสการสังเวชนียสถานทั้ง 4 และจำพรรษานาน 12 ปี จนพูดภาษาพม่าได้ จากนั้นจึงกลับมาพักอยู่สำนักสงฆ์เมธาวิเวกระยะหนึ่ง ก่อนย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดกัณตศิลาวาส ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม

ระหว่างนี้ ท่านยังได้แวะเวียนไปหาหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น และพระอาจารย์ทองรัตน์อยู่เป็นนิจ ซึ่งท่านยังมีลูกศิษย์ที่สำคัญรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียง คือ หลวงปู่ชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง ที่ได้อยู่จำพรรษาศึกษาปฏิบัติธรรมและคอยอุปัฏฐากรับใช้หลวงปู่กินรี ในระหว่างปี พ.ศ.2490-2491 ก่อนจะนำพระพุทธศาสนาไปประกาศเผยแผ่ไปยังทวีปต่างๆ ทั่วโลก

หลวงปู่กินรี เป็นพระที่ยึดมั่นในศีลธรรม จะคอยอบรมลูกศิษย์อย่าประมาทในศีล แม้สิกขาบทเล็กๆ น้อยๆ ในพระวินัยจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด แม้การตากผ้าสบงจีวรแล้วมิได้เฝ้าดูรักษา ก็จะตำหนิพระลูกศิษย์ เป็นสมณะต้องมักน้อยสันโดษ เป็นอยู่ง่ายๆ กินแต่น้อย ไม่สะสมทรัพย์สิ่งของ

หลวงปู่กินรี มีโรคประจำตัว คือ ไออยู่เป็นนิจ เนื่องจากปอดชื้น แต่ท่านไม่ยอมให้หมอรักษาหรือยอมให้ศิษย์นำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่ด้วยความชราภาพ ทำให้สภาพร่างกายไม่แข็งแรงดังแต่ก่อน และนับวันมีแต่อาการอาพาธจะทรุดลง

กระทั่งวันที่ 26 พฤศจิกายน 2523 ท่านได้ละสังขารจากไปอย่างสงบ สิริอายุ 84 ปี 58 พรรษา "หลวงปู่กินรี จันทิโย" จึงกลายเป็นนามแห่งพระเถระที่คณะศิษย์และสาธุชนชาวเมืองนครพนม ต่างเลื่อมใสศรัทธา นำคำสั่งสอนไปปฏิบัติและเผยแผ่ขจรขยายในต่างแดนตราบเท่าทุกวันนี้