ร้านธรรมลิขิต พุทธคุณจากอริยสงฆ์มากมาย เชิญแวะชม สัมผัสญาณบารมีได้ ณ บัดนี้

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ธรรมลิขิต, 27 พฤษภาคม 2013.

  1. ผะระณา

    ผะระณา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +250
    ขอจององค์นี้ค่ะ
     
  2. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    รับทราบครับ ขออนุโมทนาด้วยครับ
     
  3. Torami

    Torami Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +91
    ได้รับของแล้วค่ะ สวยงามมากค่ะ
     
  4. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    ขอบคุณครับ ขออนุโมทนาด้วยครับ
     
  5. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    องค์ที่ 8 สิวลี หลวงพ่อเกษม เขมโก ปี 2517​


    [​IMG]
    [​IMG]



    เลข 8 เป็นเลขมงคล ของคนจีน หมายถึง ความมีทรัพย์ไม่สิ้นสุด และ ลงองค์นี้ เป็นลำดับนี้พอดี บังเอิญแท้ๆ

    คงไม่ต้องบรรยายมากนะครับ เกี่ยวกับหลวงพ่อเกษม
    พระที่น้อยคนจะไม่รู้จักท่าน

    มหาลาโภ ภวันตุเม

    นึกถึงท่าน ยามมีปัญหา ท่องคาถานี้ไว้ในใจ

    ความเมตตาจะหลั่งไหลมา จนหาประมาณมิได้

    ขอให้ผู้ที่ได้ไปครอบครอง ประสบความสำเร็จโดยเร็วพลันเทอญ

    1490 บาท

    ปิดรายการนี้ให้คุณ maxymaxy แล้วครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2013
  6. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    องค์ที่ 9 สิวลี หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม

    [​IMG]
    [​IMG]


    เลขมงคลของชุดนี้ เลข 9

    เหล่าดาราศิลปิน คงไม่มีใครไม่รู้จักหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม
    เพราะ พระของท่านล้วนแล้วแต่เมตตาแรง ผู้ที่ได้ไปเคารพบูชากราบไหว้
    ชื่อเสียง งานเข้า มาไม่ขาดสาย

    ขออาราธนาบารมีของหลวงพ่อ ได้โปรดช่วยให้คนที่มีบุญร่วมกับท่าน ได้ไปครอบครอง เพื่อให้ชีวิตเขา ได้เบิกบุญเก่า มาใช้ในคราวชีวิตพบกับอุปสรรคด้วยเทอญ

    490 บาท
     
  7. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    ได้รับการโอนเงินจากคุณ ผะระณา เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ ขออนุโมทนาด้วยครับ
     
  8. ผะระณา

    ผะระณา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +250
    แจ้งโอนเงิน 690 บาทค่ะ
     
  9. ในนภา

    ในนภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    709
    ค่าพลัง:
    +1,689
    ได้รับพระแล้วครับ องค์พระสมบูรณ์สวยงามมาก
    ขอบคุณอาจารย์มากครับ
     
  10. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    ขอบคุณครับ ขออนุโมทนาครับ
     
  11. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    ประวัติหลวงพ่อกวย​


    [​IMG]

    หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร มีนามเดิมว่า กวย ปั้นสน เกิดเมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๘ ปีมะเส็ง ณ หมู่บ้าน บ้านแค หมู่ ๙ ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท

    ต่อมาเมื่อครบอายุบวช จึงเข้าอุปสมบท โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ พระชัยนาทมุนี มีหลวงพ่อปา วัดโบสถ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เเละพระอาจารย์หริ่งเป็นอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันที่ ๕ เดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๗ เวลา ๑๕ นาฬิกา๑๗ นาที อายุ ๒๐ ปี ณ วัดโบสถ์ ต.โพธิ์งาม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท มีฉายาว่า ชุตินฺธโร แปลว่า "โลกนี้มีแต่ความวุ่นวายของโลก หนักไปด้วยกิเลส ตัณหาคือ โลภ โกรธ หลง ทั่งสิ้น ถ้าท่านผู้ใดตัดกิเลส ตัณหาได้ก็จะถึงซึ่งฝั่งพระนิพพาน"

    วิชาการเเหล่เเละเทศน์

    เมื่ออุปสมบทแล้วก็มาจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านแค ตอนนั้นหลวงปู่มา เป็นเจ้าอาวาสอยู่ พระกวย ชุตินฺธโร จึงหัดเทศน์เวสสันดรชาดก กันฑ์กุมาร, ทานกัณฑ์ ท่านชอบเทศน์แหล่หญิงหม้ายซึ่งกล่าวถึงพระนางมัทรี ตอนที่องค์พระเวสสันดร ถูกเนรเทศออกนอกเมือง ไปบวชอยู่ในป่า หลักฐานในเรื่องนี้คือใบลานเทศน์ต่างๆที่หลวงพ่อเก็บรักษาไว้ เเละบางอันท่านได้ประทับตราสิงห์ชูคอเอาไว้ บางอัน หลวงพ่อเขียนไว้ว่า พระกวยสร้างถวาย หรือพระกวยสร้างส่วนตัวหลังจากนั้นหลวงพ่อได้ไปเรียนวิชาแพทย์โบราณกับหมอเขียน เพื่อเรียนวิชารักษาโรคระบาด หรือโรคห่าเเละ โรคไข้ทรพิษ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2013
  12. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    เรียนวิชากับหลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์

    ต่อมาในวันที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๒ ท่านได้มาอยู่ที่วัดวังขรณ์ ต.โพธิ์ชนไก่ ๒ พรรษา ในพรรษาต่อมาได้เรียนธรรมโท แต่พอสอบไล่ เป็นไข้ไม่สบายเลยไม่ได้สอบ จึงมาคิดได้ว่าปริยัติธรรมก็เรียนมาพอสมควร จึงอยากจะเรียนวิปัสสนากรรมฐานและอาคมตลอดจนวิธีทำเครื่องรางของขลัง จึงได้เดินทางไปเรียนวิชากับหลวงพ่อศรี วิริยะโสภิต แห่งวัดพระปรางค์ จ.สิงห์บุรี หลวงพ่อได้เรียนวิชาทำแหวนนิ้ว ซึ่งแหวนนิ้วของหลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ ใต้ท้องวงจะตอกตัวขอมอ่านว่าอิติ ของหลวงพ่อกวยก็เช่นกันและท่านยังได้ได้เรียนวิชาอีกหลายอย่าง กับหลวงพ่อศรีนี้ หลวงพ่อกวยได้ ยันต์เเรกที่หลวงพ่อสำเร็จเเละท่านมั่นใจในยันต์นี้มาก นั่นคือ ยันต์มงกุฎพระเจ้า ซึ่งหลวงพ่อมักใช้ปลุกเสกพระเเละเครื่องรางต่างๆ ท่านมั่นใจในยันต์นี้มากเเละได้ใช้ยันต์นี้ลงในหลังเหรียญรุ่นเเเรกของท่าน โดยบรรจุยันต์นี้ครบสูตร เเละท่านยังได้ทำเป็นตรายางเพื่อประทับผ้ายันต์เเละรูปถ่ายบางรุ่น คือมีความหมายทางคุ้มครองเเละช่วยเสริมดวง จนกลายมาเป็นชื่อยันต์เสริมดวงที่เรียกกันนั่นเองนอกจากนี้ ตามที่ได้ข้อมูลว่า ยันต์เเละคาถานะโมตาบอด หลวงพ่อก็ได้มาจากหลวงพ่อศรี ยันต์นี้ นอกจากใช้จารเครื่องรางเเล้ว ท่านยังใช้บรรจุที่หลังเหรียญรุ่นสองของท่าน หลังจากเล่าเรียนกับหลวงพ่อศรี ท่านก็มาจำพรรษาอยู่วัดหนองตาแก้ว ต.โคกช้าง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ที่วัดตาแก้วนี้ หลวงพ่อได้ปลูกต้นสมอไว้ ๑ ต้น ปัจจุบันยังอยู่ หลวงตาสมาน เคยไปอยู่วัดหนองตาแก้ว ได้นำไก่แจ้เอาไปนอนบนต้นสมอ ปรากฏว่าไก่ไม่ยอมนอน ไม่ทราบว่าหลวงพ่อได้ลงวิชาอะไรไว้ ทั้ง ๆ ที่หลวงพ่อ เพิ่งอายุ ๒๘ ปี พรรษาได้ ๘ พรรษา แสดงว่าหลวงพ่อเป็นผู้มีอาคมตั้งแต่ยังเป็นพระหนุ่มๆต้นสมอที่หลวงพ่อลงอาคมนี้ ปัจจุบันยังอยู่เเละไม่มีใครกล้าไปตัดหรือทำอะไร เพราะกลัวอาถรรพ์ เคยมีพระบางรูปขึ้นไปตัด เเต่ก็ต้องเจอกับอาถรรพ์จนเสียชีวิตมาเเล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2013
  13. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    ตำราในโพรงไม้

    ต่อมา ในวันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๗ ได้มาจำพรรษาที่วัดหนองแขม ต.ดงคอน อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท อีก ๑ พรรษา ได้เรียนแพทย์แผนโบราณต่อกับโยมป่วน บ้านหนองแขม และเรียนแพทย์แผนโบราณต่อกับหมอใย บ้านบางน้ำพระ ในขณะที่พักจำพรรษาที่วัดหนองแขม ได้มีเพื่อนภิกษุชื่อ แจ่ม ได้เดินทางท่องเที่ยว ไปพบตำราเป็นสมุดข่อยอยู่ในโพรงไม้ แต่เอามาไม่ได้ เพราะตำรานั้นมีอาถรรพณ์แรงมาก คล้ายมีเทพและเทวดารักษา จึงได้มาชักชวนพระกวยให้ไปดู ปรากฏว่ามีตำราอยู่โพรงไม้จริง มีรอยคนเอาพวงมาลัยดอกไม้ ธูปเทียนมาบูชาใต้โคนไม้ พระภิกษุกวย จึงได้จุดธูปบอกเล่าและอธิษฐานว่า "ถ้าจะให้ข้าพเจ้าเอาตำรานี้ไปเก็บรักษาไว้ ขอธูปที่จุดนี้ให้ไหม้ให้หมดดอก" แต่ปรากฏว่าธูปได้ไหม้ไม่หมด พระภิกษุกวยจึงได้เสี่ยงสัตย์อธิษฐานขึ้นมาใหม่ว่า "ถ้าหากว่าท่านจะให้ตำรานี้ให้ข้าพเจ้าเอาไปเก็บรักษาไว้ ข้าพเจ้าจะนำเอาตำรานี้ไปทำประโยชน์แก่วัดและช่วยเหลือ ประชาชนเท่านั้น" แล้วก็จุดธูปขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายปรากฏว่าธูปได้ไหม้หมดทั้ง ๓ ดอก หลวงพ่อจึงได้กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เจ้าของตำราและอัญเชิญเอาตำรานั้นมาเก็บไว้ เกี่ยวกับตำรานี้ มีคำร่ำลือกันว่า ก่อนหน้านั้นมีคน ๆ หนึ่งได้นำตำราชุดนี้มาเก็บไว้ในบ้าน ได้เกิดเหตุวิบัติ เจ็บไข้ล้มตาย จึงเอาตำราชุดนี้มาทิ้งไว้ที่ดังกล่าว พระภิกษุกวย เมื่อได้ข่าวดังนั้นก็มาเปิดตำราดู ก็ปรากฏว่ามีลายลักษณ์อักษรบอกไว้ในตำราว่า ตำรานี้ห้ามเอาไปไว้บ้านใคร ๆ ทั้งสิ้น มิฉะนั้นจะฉิบหาย ท่านจึงได้ศึกษาตำรายันต์และคาถาจากตำราเล่มนี้ ปัจจุบันตำราเล่มนี้ยังอยู่ที่วัด หน้าปกเขียนว่า “ครูแรง” ด้วยสีแดง นับว่าหลวงพ่อกวยท่านเป็นพระที่ได้ตำราเเบบเเปลกกว่าพระอื่นๆทั่วไป ส่วนพระภิกษุเเจ่มที่เป็นคนพาหลวงพ่อไปเอาตำรานี้ภายหลังได้สึกเเละผันชีวิตไปเป็นอ้ายเสือ เรื่องตำรายันต์ที่หลวงพ่อคัดลอกและเรียนมานี้ ปัจจุบันบางส่วนยังอยู่ที่วัด บางส่วนอยู่ที่ศิษย์หลวงพ่อหลายๆท่าน เช่นที่อาจารย์เหวียน มณีนัย บ้านท่าทอง ต.ปากน้ำ อ.เดิมบาง จ.สุพรรณบุรี อยู่ที่วัดท่าทอง อยู่ที่อาจารย์โอภาสหรือ(มรณภาพเเล้ว) วัดซับลำใย จ.ลพบุรี อยู่ที่อาจารย์แสวง(มรณภาพเเล้ว) วัดหนอง อีดุก อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ตำราเก่า สมุดบันทึก ตลอดจนของเก่าๆที่หลวงพ่อเก็บไว้ บางอย่างท่านจะห่อปกด้วยกระดาษ เเละมักจะเขียนว่าห้ามทำสกปรก จะจับถือให้เบามือ เเสดงว่าหลวงพ่อท่านเป็นคนรักของเเละมีระเบียบ หลวงพ่อไม่หวงของเเต่ไม่ชอบให้ทิ้งขว้าง ตำรายาเเละเลขยันต์ต่างๆ ที่ท่านได้จดบันทึกไว้ บางเล่มท่านจะเขียนหน้าปกไว้ ว่า ห้ามหยิบ ห้ามจับ ครูเเรง บางเล่มจะเขียนสั่งว่า เปิดดูจุกตาย เป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2013
  14. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    เรียนวิชากับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ

    เมื่อหลวงพ่อออกจากวัดหนองแขมแล้ว ได้ไปจำพรรษาที่วัดบางตาหงาย อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ได้มาเรียนวิชากับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ได้เรียนวิชาทำ แหวนแขน, ตะกรุด, มีดหมอ และอื่นๆ ศิษย์ร่วมรุ่นของหลวงพ่อที่เป็นที่รู้กันคือ หลวงปู่พิมพา วัดหนองตางู อ.บรรพตพิสัย จากคำบอกเล่าจากพระภิกษุแบนและพระหลวงตา ตลอดจนศิษย์รุ่นเก่าได้พูดตรงกันว่า หลวงพ่อกวยตอนที่อยู่ที่วัดก็เป็นพระที่มีอาคมเหมือนพระทั่ว ๆ ไป แต่เมื่อท่านกลับมาจากเรียนวิชาจากเมืองเหนือ (หมายถึง นครสวรรค์) เมื่อท่านกลับมาท่านเก็บตัว พูดน้อย มีจิตมหัศจรรย์ วาจาสิทธิ์ เรื่องที่หลวงพ่อไปเรียนวิชามากับหลวงพ่อเดิมนี้ มีหลักฐานคือมีรูปถ่ายของหลวงพ่อเดิม มีจารด้วย เป็นรูปถ่ายพรรษาท้ายๆของหลวงพ่อเดิมลายมือ พบในกุฏิของหลวงพ่อ หลักฐานอีกอย่างหนึ่งคือ ลุงหล่อน คนสักยันต์แทนหลวงพ่อ ตอนนั้นลุงหล่อนได้ทำบุญเเละได้รูปหลวงพ่อเดิมมาสองรูปกับเเหวนหลวงพ่อเดิมหนึ่งวง รูปนั้นเป็นรูปหลวงพ่อเดิมพรรษาท้ายๆ อีกรูปเป็นรูปหลังเเววหางนกยูง ข้อมูลจากลุงหล่อน ได้กรุณาเล่าว่า สมัยนั้นเดินไปกับหลวงพ่อ ตอนนั้นลุงยังหนุ่มๆอายุยี่สิบเศษๆ เดินเท้าจากบ้านเเคไปตาคลี ใช้เวลาหนึ่งวัน ไปค้างที่วัดหนองโพสามคืน ลุงหล่อนได้คุยเเละนวดให้หลวงพ่อเดิมด้วย ลุงบอกว่าหลวงพ่อเดิมนั้นใจดี มีเมตาตามาก หลวงพ่อกวยเคยขอเรียนวิชาทำทอง เล่นแร่แปรธาตุ แต่หลวงพ่อเดิมไม่สอนให้ ท่านจึงเรียนมาเท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2013
  15. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    การสักยันต์

    ต่อมาเมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง หลวงพ่อกลับมาอยู่วัดบ้านแค หลวงพ่อได้ทำการสักให้ศิษย์ มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ขนาดสักกันทั้งกลางวันกลางคืน ทางเดินสมัยก่อนต้องเดินเท้าเอา ลำบากมาก อย่างดีก็ขี่จักรยาน รถ ๒ แถว มีเข้าวัด ๑ คัน ออก ๑ คัน เท่านั้น มีศิษย์สักมาก ได้จดบัญชีไว้ ๔ หมื่น ๔ พันคน ต่อมา หลวงพ่อเห็นว่าสมควรแก่เวลา หลวงพ่อได้หยุดสัก เปลี่ยนมาทำพระเเละแต่เรื่องรางของขลัง เช่น ตะกรุด, มีดหมอ, แหวนแขน เป็นต้น ช่วงนั้น ข้าวยากหมากเเพง โจรร้ายเต็มบ้านเมือง โดยเฉพาะ เเถวภาคกลางตอนล่าง เเถบนครสวรรค์ ชัยนาท อ่างทอง สุพรรณบุรี เป็นเเหล่งกบคานของก๊กเสือร้ายหลายกลุ่ม ชาวบ้านเเคก็ได้อาศัยบารมีหลวงพ่อเพื่อคุ้มครองครอบครัวเเละทรัพย์สิน ของมีค่าต่างๆ ก็จะเอามาฝากหลวงพ่อที่วัด ลูกเมียก็จะมาขอนอนที่วัดเพราะกลัวโจรฉุด วัวควายก็พากันเอามาผูกในลานวัด จากคำบอกเล่าของคนเก่าๆที่บ้านเเค เล่าว่า พวกโจร เสือต่างๆไม่มีใครกล้ากับหลวงพ่อ มีอยู่รายนึงเป็นเสือมาจากอ่างทอง พาสมุนล้อมวัดบ้านเเคตอนกลางคืน เห็นว่าวัวควายของชาวบ้านที่ลานวัดมีเยอะมาก เเต่ก็โดนตะพดหลวงพ่อจนต้องรีบพาสมุนกลับเเละก็ไม่มาเเถวบ้านเเคอีกเลย เขาว่าในสมัยนั้นเมื่อเสือ เดินผ่านวัดหลวงพ่อ ต้องยิงปืนถวายทุกครั้ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2013
  16. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    ครูบาอาจารย์เเละวิชาอาคมของหลวงพ่อกวย

    ๑.หลวงพ่อเฒ่า วัดคังคาว


    [​IMG]

    หลวงพ่อเฒ่า เป็นพระอยู่ในช่วงสมัยรัชกาลที่๔ ชื่อจริงคือ หลวงพ่อปั้น เเต่ชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อเฒ่า เป็นเจ้าอาวาสรูปเเรกของวัดคังคาว วัดนี้อยู่ไม่ไกลจากวัดหลวงพ่อกวย หลวงพ่อเฒ่านั้นเป็นพระร่นพี่หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ทั้งสองรูปได้ศึกษาวิชาจากตำราเดียวกัน เเละมีการเเลกเปลี่ยนวิชากันด้วยวัตถุมงคลที่สำคัญของหลวงพ่อเฒ่า คือ ตะกรุดโทน ผ้าเเดง โดยเฉพาะผ้ายันต์นั้น นับเป็นผืนเดียวในเมืองไทยที่มีการตัดอักขระขายเป็นตัว ผ้ายันต์ที่ว่านั้นคือ ผ้ายันต์ค่ายกล ซึ่งยังมีชื่อเรียกเเตกต่างออกไป เช่น ผ้ายันต์อาฬวกยักษ์ ผ้ายันต์จักรณีย์ เป็นต้น ลักษณะของผ้าจะเป็นตารางทั้งผืนโดยมีอักขระสี่ตัว อะปะจะคะ เดินสลับกันทั้งผืนเป็นค่ายกล ยันต์สี่ตัวของหลวงพ่อเฒ่านั้น มีหลายเกจิที่นำมาใช้สืบทอดต่อจากหลวงพ่อเฒ่า อาทิเช่น หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หลวงพ่อป่วน วัดโพธิ์งาม หลวงพ่อฉาบ วัดคลองจันทร์ หลวงพ่อเจ้ย วัดห้วยเจริญสุข สำหรับหลวงพ่อกวยนั้น ท่านเกิดไม่ทันหลวงพ่อเฒ่า เเละท่านก็สืบทอดยันต์นี้ โดยใช้จารเครื่องราง เเละทำผ้ายันต์ค่ายกลเเเบบหลวงพ่อเฒ่า มีทั้งเขียนมือเเละพิมพ์ หลักฐานคือ ยันต์ค่ายกลที่หลวงพ่อได้คัดลอกไว้ในตำราเเละสมุดบันทึกเก่าๆของท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2013
  17. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    ๒.หลวงศรี วัดพระปรางค์

    [​IMG]

    หลวงพ่อศรีเป็นพระเกจิที่โด่งดังของจ.สิงห์บุรี มีลูกศิษย์มากมาย ที่ไปเรียนวิชากับท่านเเละมีชื่อเสียงอาทิเช่น หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หลวงพ่อทอง วัดพระปรางค์ หลวงพ่อบัว วัดเเสวงหา หลวงพ่อฟุ้ง วัดสะเดา หลวงพ่อเเพ วัดพิกุลทอง หลวงพ่อปรง วัดธรรมเจดีย์ หลวงพ่อเย็น วัดสระเปรียญ เป็นต้นหลวงพ่อกวยได้สร้างเเหวนตามตำรับของหลวงพ่อศรี โดยมีคาถาอิติอยู่ที่ใต้ท้อง เเละท่านก็ชอบใช้คาถาอิติจารเครื่องรางด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2013
  18. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    ๓.หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา

    [​IMG]

    หลวงพ่อไปเรียนวิชากับหลวงพ่ออิ่ม ได้วิชา เช่นวิชามนต์จินดามณี การทำผงจินดามณี วิชามือยาว ศิษย์ร่วมสำนักที่โด่งดังคือ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ทั้งหลวงพ่อมุ่ยเเเละหลวงพ่อกวย ได้สร้างผ้ายันต์โดยสืบทอดต่อจากของหลวงพ่ออิ่ม ซึ่งลักษณะรูปเเบบของผ้ายันต์จะดูคล้ายเเละตัวยันต์จะเหมือนกัน ผ้ายันต์ชนิดนี้ของหลวพ่อกวยจะเรียกว่า ผ้ายันต์อิทธิเจหรือผ้ายันต์สารพัดดีสารพัดกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2013
  19. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    ๔.หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ

    [​IMG]

    ก่อนที่หลวงพ่อกวยจะเดินไปหาหลวงพ่อเดิมกับลุงหล่อน ก่อนหน้านี้ท่านก็เคยไปเรียนกับหลวงพ่อเดิมมาบ้างเเล้ว ท่านเรียนวิชาทำมีดหมอ ตะกรุด เเละปลุกเสกเครื่องรางจากหลวงพ่อเดิม โดยเฉพาะมีดหมอนี้ ของหลวงพ่อกวยเเท้ๆนับเป็นมีดหมอที่หายาก เเละมีราคาเเพงรองจากของหลวงพ่อเดิมทีเดียว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2013
  20. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    ๕.หลวงพ่อเเบน วัดเดิมบาง

    หลวงพ่อได้เรียนวิชาทำผ้าขอดจากหลวงพ่อเเบน ผ้าขอดของหลวงพ่อกวยดังมากเเละก็หายากด้วยนอกจากนี้ยังมี หลวงพ่อเคน วัดดงเศรษฐี หลวงพ่อโต วัดวิหารทอง หลวงพ่อพวง วัดหนองกะโดน ซึ่งอาศัยจากหลักฐานคือ บัยทึกที่ท่านได้เขียนเอาไว้ ระบุคาถาเเละเจ้าของยันต์ เเต่ไม่ทราบเเน่ชัดว่า ท่านเรียนมาโดยตรงหรือเปล่า หรือรับทอดต่อมาจากใคร

    ๖.ฆราวาส

    หลวงพ่อเคยเล่าให้หมอเฉลียว เดชมา ฟังว่า ท่านเรียนวิชาเเผนโบราณจากครูฟุ้ง ครูจำปีซึ่งเป็นศิษย์สายหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เรียนวิชาถอนของ ถอนคุณไสย เเละวิชาสะเดาะกุมารในท้องนอกจากนี้ก็เรียนจากครูลุน ครูเพ็ง อาจารย์เเเหล่ม วัดท่าช้าง เป็นศิษย์สายหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ เรียนวิชาอาบว่านยา วิชาสัก วิชาหินเบา วิชาสักเเละอาบว่านยานี้ ทำให้หลวงพ่อโด่งดังมาก ก่อนที่ท่านจะทำพระเเละเครื่องราง

    ๗.ตำราศักดิ์สิทธิ์จากโพรงไม้

    เป็นตำราเก่าที่ภิกษุเเจ่มพาหลวงพ่อไปเอาจากโพรงไม้ดังที่ได้กล่าวมาเเล้ว นอกจากนี้ หลวงพ่อยังได้จดบันทึกยันต์จากหลวงพ่อต่างๆ ที่ท่านเห็นว่าสวย ท่านจะคัดลอกเก็บไว้ หลักฐานคือ ในบันทึกเก่าๆของหลวงพ่อ มียันต์ต่างๆที่ท่านจดไว้มากมาย เเม้กระทั่งยันต์ของเสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์อาจารย์ของท่านเจ้าคุณนรหลวงพ่อก็กวยท่านก็มี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...