ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จชุมนุมมหาคุณบารมีเก้าชั้นแต่งอโหสิกรรม(ถอนกรรมเผ่าพันธุ์บาปบรรพชน) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +16,626
    อรุณสวัสดิ์ครับ ช่วงนี้เปิดกระทู้มาก็มีแต่คนทักหาสีผึ้งรุ่นเก่าๆกันมาอยู่เรื่อย จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ออกเครื่องมงคลมาสีผึ้งกับน้ำมันของพ่ออาจารย์นั้นสามารถพูดได้ว่าท่านออกให้บูชายากที่สุด ตรงนี้ท่านว่าเหตุผลง่ายๆเลย เพราะมันต่างกับเครื่องมงคลในแง่คนที่เขานำไปใช้แบบจริงจัง เพราะท่านมักกล่าวว่า"สีผึ้งมันทำให้อาคมซึมเข้าเนื้อเข้าตัวได้แต่ก็ยังไม่ไวเท่าน้ำมัน" คำว่าอาคมซึมเข้าเนื้อเข้าตัวของท่านนี่บอกได้เลยว่าสุดๆโดยเฉพาะน้ำมันนั้นท่านว่าฝังในกระเเสเลือดชนิดถอดถอนกันทั้งชาติยังทำได้ยากเลย(ตรงนี้ท่านว่าให้นึกถึงคนที่โดนน้ำมันพรายทำไมมันถึงถอนยาก นั่นก็เพราะมันซึมเข้าในเลือด แต่ของเรานั้นต่างกันไปเพราะเป็นน้ำมันพุทธคุณ อันนี้ยิ่งซึมยิ่งดี)

    b475bf7c9427a179e31fda933bba992b.jpg
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +16,626
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ฐิตกาญจน์ EW 4023 2828 0 TH

    พี่วิชัย EW 4023 2829 3 TH

    พี่ชนันธร EW 4023 2830 2 TH

    พี่นวรัตน์ EW 4023 2831 6 TH
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +16,626
    ถามกันมาเรื่องน้ำมัน อันนี้ก็แย้มๆแง้มๆไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วว่ามียอดน้ำมันตัวนึงที่น่าใช้มากๆ แต่ไม่ใช่น้ำมันผีน้ำมันพรายนะครับ เพราะพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นการทำน้ำมันสายบุญฤทธิ์ ใช้แล้วพุทธคุณ พรหมคุณเข้าเนื้อเข้าเลือด อันนี้ติดตามกันดีๆเพราะเป็นวิชาทำตะกรุดแช่น้ำมันที่หุงเป็นพิเศษโดยเฉพาะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2019
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +16,626
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ศิระ EW 4025 8972 2 TH

    พี่อัครพงศ์ EW 4025 8973 6 TH

    พี่ชนันธร EW 4025 8974 0 TH
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +16,626
    พรุ่งนี้ใครรอสายน้ำมันห้ามพลาดนะครับ เฉพาะแค่วิชาที่ทำบรรจุอันนี้ก็มีอาถรรพ์มากๆแล้ว
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +16,626
    ร่วมทำบุญบูชา น้ำมันอาญาสิทธิ์ตราประทับหักด่านสามโลก(บรรณาการสวรรค์ทะลวงวาสนาจัดเต็ม)

    สีผึ้งมันทำให้อาคมซึมเข้าเนื้อเข้าตัวแต่ก็ยังไม่ไวเท่าน้ำมัน
    พ่ออาจารย์ท่านไม่ค่อยจะทำน้ำมันพุทธาคมเท่าไหร่ ด้วยท่านให้เหตุผลว่า"สำหรับคนใช้(ชีวิตเขาจะง่ายไป)" นอกจากทำยากแล้วยังต้องพิถีพิถันอย่างมาก ด้วยว่าจะมีของอาถรรพ์ที่ให้โทษหรือทำลายวิถีชีวิตผสมลงไปไม่ได้ เช่นนั้นกว่าจะทำได้สำหรับน้ำมันของท่านที่สามารถนำมาใช้ทาเนื้อทาตัวได้แล้วท่านจะพิถีพิถันอย่างมาก กล่าวได้ว่านอกจากตานอกจะมองเห็นแล้ว มวลสารวัตถุดิบแต่ละอย่างท่านต้องใช้ตาในตรวจสอบแล้วตรวจสอบอีกจนแน่แก่ใจ ด้วยเหตุว่าน้ำมันนั้นเพราะมันซึมเข้าตัวง่ายและอิทธิคุณในน้ำมันนั้นจะติดตัวเราไปจนตาย ดังนั้นท่านจึงไม่ค่อยออกน้ำมันชุดพิเศษเท่าไหร่


    น้ำมันอาญาสิทธิ์ตราประทับหักด่านสามโลกนั้นเป็นน้ำมันถอดอาถรรพ์โดยเฉพาะ ท่านว่าคนที่เขาใช้นอกจากจะแก้อาถรรพ์แล้วยังใช้ทะลวงวาสนาที่ไม่มีให้จัดเต็มเข้ามาในชีวิตได้ในภายหลังด้วย ซึ่งวิชาทำน้ำมันนี้ท่านว่าทำให้สำเร็จยากมากและสิ่งที่เป็นของขับพลังงานของน้ำมันจริงๆก็คือตะกรุดอาญาสิทธิ์ตราประทับนั่นเอง สำหรับน้ำมันถอดอาถรรพ์นั้นท่านว่าสามารถอธิษฐานกินได้หรือจะใช้ผสมกับอาหารที่ปรุงแล้วก็ได้ แม้ใครกินติดต่อกัน 3 วัน 5 วัน อาถรรพ์สิ่งใดๆในชีวิตที่ติดอยู่ก็จะค่อยๆดีขึ้นจนหาย ถ้าโดนคุณไสย คุณมนต์ โดนอาถรรพ์ ผีทัก ผิดผี ผิดครู ... เรียกว่าไปทำผิดอะไรมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันชาติก็ตามย่อมสามารถถอดถอนให้พ้นเภทภัยได้ เช่นนั้นน้ำมันนี้จึงเน้นการใช้งานในชีวิตจริงแบบค่อยๆกิน ท่านว่าแต้มกินหรือใส่อาหารเล็กน้อยก็เอาอยู่ดั่งได้กินยาถอดอาถรรพ์ ยาเพิ่มวาสนาตำรับใหญ่นั่นทีเดียว ท่านต้องใช้ผงงา ไม้ช้องระอา ว่านขอทองแก้ ชะมดเชียง น้ำมันเลียงผา มหาปราบ ดาบพระนารายณ์ ยายอายุยืน หมื่นอุดมโชค โยกโลหิต.. ฯลฯ และว่านยาเฉพาะทางต่างๆที่เปิดเผยไม่ได้มาหุง พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่ละตัวนั้นค่อนข้างพิเศษมีตั้งแต่ของหาง่ายแต่เอายาก ยันของที่ไม่มีปัญญาหาสุดปัญญาเอา กว่าจะรวบรวมมาหุงน้ำมันได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย พื่อให้มีอิทธิคุณใหญ่นั่นคือใครกินก็ได้ และยังต้องไม่เป็นอันตรายใช้แต้มผสมอาหารก็ได้

    สำหรับคนที่ชีวิตต้องอาถรรพ์มาโดยกำเนิด
    ถ้าเคยโดนของแล้วทานน้ำมันจะมีอาการร้อนภายในเนื้อตัว บ้างก็หลังร้าว บ้างก็รู้สึกตัวชา.. อาการอันจะแสดงออกมาเหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้เราเห็นต่างๆนาๆว่าเราโดนอาถรรพ์กัดกินชีวิตอยู่ จะด้วยว่าอาถรรพ์จากกรรมที่เราสร้างก็ดี จากเจ้ากรรรมนายเวรก็ดี จากคำสบถสาบานก็ดี จากแรงครูผิดครูก็ดี...อาถรรพ์ทั้งหลายนั่นแหละที่เล่นงานกับชีวิตท่านให้กินติดต่อกันสามสี่วันก็จะดีขึ้น ไอ้อาการที่แสดงออกต่างๆจะทรมานหรือปรากฏเป็นช่วงๆก็จะหายไปไม่มีอาการเหล่านั้นอีก นั่นคืออาถรรพ์ได้หมดไปแล้ว ได้รับการถอดถอน ในขณะเดียวกันหากคนที่ไม่เป็นเลยชีวิตไม่ได้ต้องอาถรรพ์ใดๆอะไรเลยกินเข้าไปจะช่วยให้เวทย์มนต์ดลคาถาที่ถืออยู่ รวมไปถึงแรงครูสรรพวิทยา และเครื่องมงคลทั้งหลายที่ใช้มีพลังพุทธานุภาพแลเทวานุภาพมากขึ้น ท่านว่ายากนักที่จะหาคนเกิดแล้วเกิดอีกแต่ชีวิตไม่ต้องอาถรรพ์ใดๆเลยเหมือนเที่ยวหาหนวดเต่า หาไปก็ตายเปล่า ดังนั้นท่านจึงว่าจะมีหรือไม่มีก็ตามน้ำมันตำรับนี้ทำมาเพื่อให้กินให้ใช้จริงๆ ถ้ามีก็คิดเสียว่าถอดมันออกไป ถ้าไม่มีก็กินเป็นกำลังฤทธิ์เสริมสวัสดิมงคลให้ตัวเองจะได้จัดเต็มเปิดทางทะลวงวาสนาให้พร้อมเจอสิ่งที่สมบูรณ์แบบ

    - ตะกรุดอาญาสิทธิ์ตราประทับหักด่านสามโลก สิ่งนี้นั้นเป็นวิชาเฉพาะในสายพรหมศาสตร์ที่ครูพรหมสฮัมบดีได้สอนพ่ออาจารย์ท่านไว้ ด้วยเป็นวิชาที่จะช่วยหนุนเสริมพลังอำนาจของทุกวิชา ท่านว่าเมื่อเอามาแช่น้ำมันนั้น น้ำมันนอกจากจะแรงทวียิ่งขึ้นไปอีก แม้ตัวเราได้บริโภคอำนาจของยันต์ของวิชาก็จะหนุนพลังอำนาจในชีวิตของเราให้วาสนาเปิดออกด้วย ตะกรุดนี้ทำให้น้ำมันสมบูรณ์แล้วในขณะเดียวกันก็ทำให้คนถือมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบเช่นกัน ท่านว่าที่จริงตะกรุดนี้องค์ครูบรมพรหมผู้เป็นใหญ่ท่านสรรเสริญนัก ว่าวิชานี้มันขับพลังเข้าไปที่ดวงจิตคนใช้โดยตรง "จะทำให้จิตของผู้รับคุณวิชาเป็นอิสระไร้พันธนาการใดๆ แม้นความปรารถนาพันหมื่นก็เป็นดั่งที่คิดหวังไว้ไร้บ่วงกังวล" เมื่อทำตะกรุดแล้วด้วยโองการบรมบิดาท้าวมหาพรหมนั้นท่านว่าตอนม้วนต้องปิดผนึกเสริมพลังคุมสรรพสิ่งทั้งปวงด้วย ถึงกับไม่ไห้เรียกว่าดอกแต่ท่านให้เรียกว่าองค์ตะกรุดทีเดียว(พ่ออาจารย์ท่านว่าคิดๆก็แปลกตั้งแต่ทำตะกรุดมาแม้แต่ตะกรุดจักรพรรดิท่านยังไม่ได้สั่งให้เรียกเป็นองค์แบบนี้) ท่านพูดอย่างน่าคิดว่าว่าตะกรุดชุดที่แช่น้ำมันนี้เมื่อทำเสร็จ "ครูพรหมท่านให้คติไว้ว่าเป็นของกลาง แม้ตาจะมองเห็นแต่ก็พ้นห้วงความคิด ไม่ยึดติดอยู่ในกุศลหรืออกุศลใดๆ มันมีพลังในการพัฒนาตัวมันเองไปพร้อมๆกับการรู้แจ้งในกาย วาจา ใจ ของผู้ใช้งาน จากหยาบให้ละเอียด ทุกมิติ ทุกภพ ให้จบในกาลปัจจุบัน"(พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวาจาของครูที่สั้นแต่มีความหมายไปไกลหลายปีแสง) เป็นวัตถุยึดเหนี่ยวที่จะทำให้คนถือครองกลายเป็นผู้เจริญรุ่งเรืองแต่ฝ่ายเดียว(ไม่ตกต่ำ) ใครมียันต์นี้จะเจริญรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่องและไม่ตกต่ำเสมือนพระอาทิตย์และพระจันทร์ที่ส่องสว่างทั้งเวลากลางวันและกลางคืนไม่มีเมฆปิดบังดุจแสงสว่างอันจะช่วยส่องทางส่องชีวิต ดุจแสงนำทางผู้มืดมนโหยหาให้สมความปรารถนานานัปการดั่งพ่ออาจารย์ท่านว่าไว้

    นอกจากน้ำมันและตะกรุดชุดพิเศษนี้แล้ว ในตัวน้ำมันนั้นครูบรมพรหมท่านโองการให้พ่ออาจารย์ท่านนำพ่อขุนหลักชัยแช่เอาไว้ด้วย
    - พ่อขุนหลักชัย สิ่งนี้เป็นไม้เสาหลักเมืองเก่าที่มีอาถรรพ์มาก มีคนกราบไหว้มาหลายร้อยปี ใครไปลบหลู่ก็เจออาถรรพ์ให้ชีวิตพินาศไปตามๆกัน แต่หากใครได้บูชากราบไหว้ด้วยใจเคารพนบนอบก็จะได้โชคลาภอย่างน่าอัศจรรย์ พ่ออาจารย์ท่าว่าไม้หลักเมืองเก่าแต่โบราณนั้นใต้หลุมมักจะฝังคนเป็นๆอันมีนามมงคลลงไปเป็นการทำอาถรรพ์ให้มหานครนั้นรุ่งเรือง ดังนั้นหลักเมืองที่เชิญมาประดิษฐานจึงต้องเป็นไม้อาถรรพ์ที่มีกำลังมากพอที่จะเป็นหลักแก่คนทั้งเมืองได้ เป็นหลักเมืองเก่าหลักชีวิตเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าไม้นี้มีเทวดารักษามีเทวดาอยู่ชื่อพ่อขุนหลักชัย เป็นไม้หลักเมืองที่มีความอัศจรรย์ในตัวของมันเองนั่นคือเขาลอยน้ำได้ไม่จม(ท่านว่าเมื่อครูพรหมให้นำมาแกะเป็นหลักชีวิตให้คนใช้ใส่ลงไปในน้ำมันด้วยก็เท่ากับอาถรรพ์นี้จะหนุนให้คนใช้น้ำมันชีวิตต้องลอยขึ้นในทางเดียวจะจมลงไปเหมือนก่อนไม่ได้แล้วเพราะมีหลักให้เกาะแล้วนั่นเอง) คนที่เสียหลักโบราณนั้นเขาถือว่าเริ่มชีวิตผิดมาตั้งแต่ต้นเมื่อรั้นเดินไปในทางผิดก็ต้องคิดจนตัวตาย แต่หากมีหลักให้เกาะทำได้ถูกต้องครบถ้วนตามเคล็ดของคนโบราณ ว่ากันว่าคนๆนั้นจะอยู่ในวาสนามหาสมบัติเจริญขึ้นไปชั่วลูกชั่วหลาน ใครที่ได้อาศัยหลักชัยนั้นเกาะอยู่ค้ำอยู่ก็จะมีแต่ความสุขสวัสดิ์พิพัฒมงคลเจริญสุขในทุกๆประการ
    พ่ออาจารย์ท่านว่าโบราณนั้นถือนักว่าบ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้คนก็มีหลักในการใช้ชีวิตหากมองข้ามไป จะหาความสุขความเจริญได้ยากมาก ท่านว่าชีวิตใครก็ตามที่มีปัญหาแม้คนในบ้านยังมีปากเสียงโต้เถียงกัน หรืออาจมีคนเจ็บป่วยออดๆแอดๆอยู่เสมอ ยิ่งมีชีวิต ยิ่งอยู่นานก็มีแต่การนำมาซึ่งความเสื่อม ทั้งเสื่อมเกียรติยศ ชื่อเสียง เงินทอง หาความสุขอันใดไม่ได้เลย นั่นก็เพราะคนเหล่านี้ไร้หลักชัยในชีวิตเหมือนมังกรไร้หัวย่อมบินสะเปะสะปะไปทั่วไม่รู้ทิศรู้ทาง ท่านว่าพ่อขุนหลักชัยนี้เมื่อทำแล้วต้องเชิญเทพทั้งห้ามารักษาตั้งแต่ท้าวมหาพรหม พระวิษณุกรรม พระเสื้อเมืองพระทรงเมือง เจ้าพ่อเจตคุปต์ และเจ้าพ่อหอกลอง ทั้งยังลงวิชามหาพิทักษ์ รุ่งเรืองรู้จบ ยอดมิ่งยอดขวัญ พระคลังเต็มท้อง บังโพยภัย เป็นชัยมงคล เมื่อทำสำเร็จแล้วก็จะมีคุณเป็นเอนกประการตั้งแต่หนุนการมีทรัพย์สินให้มีเงินทองล้นหลามมีใช้ไม่ขัดสน มีความอยู่เย็นเป็นสุขสืบไปทั้งเจ็ดชั่วอายุคน มีโชคชัย ชัยชนะ ชนะศัตรู ชนะอุปสรรคต่างๆ มีความสุขกายสบายใจ ไร้ทุกข์โศกโรคภัยทั้งมวล หนุนตัวให้ดีขึ้นร่ำรวยขึ้น ทำอะไรจะมีผู้ให้การเกื้อหนุนอยู่เสมอๆ ทั้งพยุงฐานะ พยุงดวงชะตาให้ดีขึ้น ให้ความมั่นคงทำให้ชีวิตมั่นคงแข็งแรง ทั้งป้องกันภัยอันตรายต่างๆ และกลั่นกรองเอาแต่สิ่งที่ดีๆเข้ามาสู่ชีวิตตน แม้คนที่ได้ไปบูชาก็มักจะฝันเห็นเทวดาทั้งห้าหรือเจ้าพ่อหลักชัยท่านมาโปรดถายในสามวันเจ็ดวัน ท่านว่าเอามาใส่น้ำมันนี้ให้บูชาก็เพื่อจะได้เสริมหลักชีวิต(เพราะปกติไม้หลักเมือง หลักชัยลอยน้ำได้ที่มีอาถรรพ์มากนี้ท่านไม่ให้กับใครเลย)ท่านว่าใครได้บูชาเจ้าพ่อหลักชัยก็มักพบกับความเจริญรุ่งเรืองดีขึ้นขึ้นแบบผิดหูผิดตาเป็นที่อัศจรรย์ใจในศาสตร์วิชาหลักค้ำชีวิตนี้ยิ่งนักจะนำไปถึงซึ่งความมีศักดิ์ศรี ชื่อเสียง เกียรติภูมิ อำนาจบารมี มีคนเคารพนับถือและยำเกรง

    นอกจากนั้นในขวดน้ำมันพ่ออาจารย์ท่านยังได้นำสีผึ้งแท้ๆของหลวงพ่อปานที่ท่านหวงแหนนักไม่ค่อยนำออกมาใช้ ท่านปั้นใส่ลงไปด้วยทุกขวด ท่านว่าให้เอาไว้เป็นพลังงานตั้งต้นนึกถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่ท่านทำวิชาสงเคราะห์เราคนรุ่นหลัง ทั้งวิชาสีผึ้งยังเป็นเมตตามหานิยม เมตตามหาเสน่ห์ คนทั้งหลายจะมาชื่นชมหลงใหลดุจดวงดาวส่องประกายแม้อยู่ในที่มืดก็มีคนแลเห็นอยากเข้ามาเชยชม เมื่อผสมลงไปแล้วน้ำมันนี้จึงมีคติทางเมตตามหานิยมอย่างเอกใช้แตะแต้มเป็นเสน่ห์เมตตา ทั้งท่านยังได้นำมาเสกในพิธีจันทร์เพ็ญอีกหลายปีทำให้มีจะมีพลานุภาพเสริมให้ผู้ใช้เป็นที่พิศมัยยินดีแก่มนุษย์และเทวดาทั้งหลาย มีชีวิตสุกสกาวเหมือนดั่งพระจันทร์กลางฟ้ายามจันทร์เพ็ญเป็นชีวิตที่โดดเด่นท่ามกลางดวงดารา

    ด้วยเป็นวิชาแห่งครูบรมพรหมสูงสุด น้ำมันนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามันยังให้คุณแปลกๆอีกหลายประการเอาไปใช้จะเห็นด้วยตัวเอง..แม้ใครได้กินหรือสูดดมเป็นประจำก็มักจะระลึกชาติได้ดุจได้สูดดมดอกปาริชาติพฤกษาสวรรค์ ทั้งยังจะระลึกรู้ถึงบุญกุศลบารมีของตนเอง ผู้ใดได้ครอบครองน้ำมันที่มีตะกรุดชุดพิเศษของครูพรหมนี้ทำอะไรครูก็รักษาดุจเรานั่งอยู่กลางใจครูกลางใจพระะพรหม ทั้งยังช้แต้มเพื่อที่จะขจัดฟาดฟันฝ่าอุปสรรค์ต่างๆให้มลายสิ้นไปก็ได้...***ท่านว่าให้จำเอาไว้ว่าน้ำมันนี้สำคัญนัก อะไรที่ประนีประนอมไม่ได้จริงๆในชีวิตเรามันก็จะบังคับหักมาให้เราโดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆเลย(ในส่วนนี้ท่านพูดไม่ได้มันไม่สมควรทั้งๆที่มีความสำคัญมาก ท่านว่าให้ใช้ไปเดี๋ยวจะรู้เองเช่นนี้จึงเรียกว่าหักด่านสามโลก) ท่านว่าใช้ได้สารพัดก่อนใช้ให้ระลึกถึงพระคุณเทพพรหมทั้งปวงจักบังเกิดสิริมงคลไม่รู้จบ ท่านว่าน้ำมันนี้ฉันทำให้เธอใช้ เพื่อแก้ เพื่อถอด เพื่อถอน ของไม่ดีออกจากตัว ในส่วนของพ่อขุนหลักชัยนั้น "ยิ่งแต้มยิ่งได้ ยิ่งขอยิ่งรวย" พ่อขุนหลักชัยท่านจะช่วยให้ไปถึงเป้าหมายที่หวังไว้ ขอเพียงบูชาด้วยความศรัทธา หมั่นรักษาสัจจะ สิ่งที่หวังไว้จักสำเร็จได้ไม่ยาก แม้ขอสิ่งใดก็ให้มีมารยาทรู้กาลควรไม่ควรเพราะอย่าลืมว่าท่านเป็นเทวดามีศักดิ์สูงระดับเทพรักษาเมืองรักษาพระนครแต่โบราณแม้ขอสิ่งใดได้สมหวังก็ควรทำบุญอุทิศให้พ่อขุนท่านด้วยเป็นการตอบแทนคุณ เป็นการบอกท่านว่าเรารู้คุณที่ท่านได้เมตตาได้ช่วยเหลือ ทำเช่นนี้หวังสิ่งใดก็ย่อมสำเร็จ น้ำมันชุดนี้ไม่มีส่วนผสมของภูติพรายก็จริงแต่พ่ออาจารย์ท่านว่าเราก็ทำให้แรงดุจมีจิตวิญญาณดังนั้นจึงมีแต่คุณปราศจากโทษใดๆทั้งสิ้น เอาว่าคนใช้จะติดใจทีเดียว

    ในกรณีใช้จนน้ำมันหมด
    - ผู้บูชาสามารถอธิษฐานนำน้ำมันในขวดมาแตะแต้มตนเองเพื่อหวังผลทางสิริมงคลเมตตามหานิยม ติดต่อธุระการงาน เจรจาธุรกิจก็ไร้ซึ่งอุปสรรค ใช้แตะแต้มสิ่งของภายในร้านค้าต่างๆได้ ช่วยให้ขายดิบขายดีลูกค้าเข้าออกไม่ขาดสาย หรือแตะแต้มคนที่หมายปองให้มีใจแก่เรามากขึ้นตามแต่จะอธิษฐาน แม้แต่การผสมให้ตนเองกินเพื่อถอดถอนเคราะห์กรรมทั้งสิ้นก็ย่อมทำได้เรียกน้ำมันสารพัดอธิษฐานนั่นเอง หากน้ำมันใกล้หมดท่านให้เทน้ำมันเก่าออกมาก่อนแล้วจึงเติมน้ำมันจันทน์ที่หาซื้อมาใส่ขวดลงไปกะปริมาณให้พอดีก่อนนำน้ำมันเก่าเททับลงไปใหม่ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่มีเชื้อของเก่าก็ต่อได้อีก ต่อไปร้อยครั้งพันครั้งก็มีคุณเหมือนเดิมเพราะเรามีเชื้อความเข้มขลังมีตะกรุดมีพ่อขุนท่านอยู่ในขวดแล้วก็ต่อใช้ไปได้เรื่อยๆ

    ท่านว่าน้ำมันนี้ใครจะใช้บนบานขอให้ช่วยสิ่งใดก็ใช้ได้หลากหลายตามแต่จะขอในเหตุที่เป็นไปได้ วิธีใช้ให้บนขอเรื่องต่างๆได้เลยไม่ต้องเปิดขวด หรือใช้พกติดตัวก็มีอานุถาพมากไปติดต่อธุระต่างๆ อธิษฐานงานให้สำเร็จ...พกไว้ใช้ได้ดุจเครื่องรางเช่นนั้น หรือจะแตะแต้มเนื้อตัวโดยไม่ต้องพกก็ได้ หากจะใช้ทางเสี่ยงโชคก็ให้บอกพ่อขุนกับครูพรหมท่านและนำน้ำมันมาแต้มที่หน้าผาก และฝีปากก่อนออกไปเสี่ยงโชค ปฏิหาริย์ก็จะเกิดขึ้นดังที่ขอ (วิธีนี้ท่านว่าทำได้หลายอย่าง จะใช้กับการเจรจา จีบสาว ทำงาน ขอสิริมงคลให้ทั้งวันพบเรื่องดีๆ ให้บังตาภูตผีปีศาจเจ้ากรรมนายเวรก็ได้ทั้งสิ้น)

    คาถาบูชา
    นิจจังกาลัง ปิยังโหติ เทวะตาปีนิปัตเตยยัง มหาเตชัง มหาตะปัง พะเลเนเน เตเชนะ ชะยะตุ ชะยะมังคะลัง

    *** น้ำมันสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าครูพรหมท่านให้ทำครั้งเดียว ถึงจะหุงใหม่ก็หุงไม่ได้อีก ท่านทำไว้เจ็ดขวดและท่านเก็บไว้ใช้เองสองขวด อีกขวดหนึ่งนั้นครูท่านเอาไป(หายไปเองท่านว่าพลีให้กับครูอาจารย์เพราะน้ำมันนี้แม้เทวดาก็ยังอยากจะใช้) จึงมีให้จองได้สี่ขวดเท่านั้น รับจองเฉพาะทาง PM รายได้ร่วมสมทบทุนสร้งห้องน้ำเป็นแหล่งปลดทุกข์ในวัดที่ขาดแคลนกำลังทรัพย์สืบไป

    ร่วมทำบุญบูชา น้ำมันอาญาสิทธิ์ตราประทับหักด่านสามโลก(บรรณาการสวรรค์ทะลวงวาสนาจัดเต็ม) บูชา 4,000 บาท

    53361204-337676273520757-5167607133314744320-n.jpg 54206191-1018369641685367-5341841136036085760-n.jpg
    53915127-374140900108134-5078324598706012160-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2019
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +16,626
    น้ำมันชุดนี้บอกล่วงหน้ากันเป็นปีๆ หลายคนก็รอมานาน เฉพาะไม้หลักชัยนี่ท่านก็หวงมาก อ่านให้จบจะรู้ว่ามีอาถรรพ์สูงมากๆใครได้ไปก็เป็นบุญของเขา เพราะเป็นน้ำมันสายบุญฤทธิ์ที่พ่ออาจารย์ท่านไม่ค่อยออก ยิ่งชนิดแบบใช้ทาใช้กินได้แถมยังต่อไปได้เรื่อยๆขยายเองก็ได้แบบนี้ยิ่งไม่มีมาก่อน แอบบอกไว้แค่นี้
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +16,626
    น้ำมันชุดนี้กระแสแรงจริงๆ คนที่ไม่ทันรึพลาดไม่ต้องถามหาเลย อีกสิบปีก็ไม่มีจ้า คนที่ไวก็ดีใจด้วย เพราะอาจารย์ท่านไม่ได้ทำแบบใช้กินได้มานานแล้ว เดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันพรุ่งนี้นะ
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +16,626
    สมาธิกับการทำงาน

    สิ่งที่ยุ่งยากในตอนแรกของการทำงานก็คือ ใจยังไม่เกิดสมาธิ จึงมีสภาพวอกแวก หันไปหาเรื่องนั้นทีเรื่องนี้ที เช่นเดียวกับการอ่านตำราเตรียมตัวสอบ หากใจยังฟุ้งซ่าน ย่อมมีพลังดึงดูดใจให้วางหนังสือแล้วไปทำกิจกรรมอื่นโดยง่าย

    ผู้ที่ฝึกใจเป็นสมาธิดีแล้ว มักจะหยิบงานชิ้นใดมาทำ ก็ทำมุ่งมั่นต่อไปจนสำเร็จ จดจ่อกับงานนั้นได้ตลอดเวลา สมาธิจึงมีความสำคัญต่อการทำงานทุกอย่าง ถ้ามีสมาธิในการทำงาน จะทำงานได้มาก และไม่ค่อยเหนื่อย เพราะมีความสุขเพลิดเพลินในงาน

    สมาธิคือความตั้งมั่น ฉะนั้นถ้าใจตั้งมั่นหรือมีสมาธิอยู่กับสิ่งใด ย่อมไม่หวั่นไหววอกแวก แม้จะมีอะไรภายนอกมากระทบหรือแม้กระทั่งอารมณ์ภายในของตนก็ตาม คนเราจะเห็นความสามารถของตนได้ ต้องทำใจให้เป็นสมาธิก่อนจึงจะแสดงความสามารถออกมา

    วิธีทำให้เกิดความตั้งมั่น อาจผูกใจไว้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น ลมหายใจขณะนั่งสมาธิ หรืออยู่กับสิ่งที่เพ่งมองตรงหน้าพยายามเตือนตนให้รู้ตัวตลอดหากจิตใจเผลอไผลไปหาสิ่งอื่น หรือครุ่นคิดเรื่องใด ก็ให้มีสติดึงใจกลับมาอยู่กับสิ่งที่มุ่งมั่น แรกๆอาจพบว่าตัวเองรู้สึกฝืนเพราะใจไม่ยอมอยู่นิ่ง ยิ่งพยายามผูกมันไว้ ก็ยิ่งพยายามหนีออกไป ขอให้มีสติ จะหนีเตลิดไปเมื่อใดให้รู้ตัว ดึงใจกลับมาจดจ่องานตรงหน้า หรือสิ่งที่ต้องการทำให้ได้ ทำเช่นนี้บ่อยๆ ค่อยๆ ฝึกใจให้เป็นสมาธิดีขึ้น ฝึกประจำ ใจย่อมตั้งมั่นได้รวดเร็ว สามารถทำงานได้ดีและสนุกขึ้น

    เวลาเรามีเรื่องทุกข์ใจ มีปัญหาหนักอก เรื่องดังกล่าวมักขยายใหญ่ เรามักหมกมุ่นจ่อมจมอยู่กับเรื่องนั้นนานเกินควร เรียกว่ามีสมาธิกับสิ่งไร้สาระนานจนทำให้ฟุ้งซ่าน การหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งปรุงแต่งนาน ย่อมทำให้ขาดสติ บางคนจึงหันไปเดินจงกรมนั่งสมาธิ เพื่อดึงจิตที่ลุ่มหลงในความคิดกลับมาอยู่กับลมหายใจ หรือการเดินในปัจจุบัน

    ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความรัก อกหักผิดหวัง หรือกำลังสูญเสียความรัก จะกลายเป็นผู้ที่ไม่รู้ว่าใจกำลังมีสมาธิกับปัญหาของตนอยู่สามารถครุ่นคิดเวียนวนได้หลายรอบ สมาธิก็เหมือนกับการโฟกัสพลังงานไปที่จุดหนึ่ง ถ้าโฟกัสไปที่เรื่องดี ก็จะก่อเกิดสิ่งดีหรือผลงานตามมา แต่หากโฟกัสไปยังเรื่องเหลวไหล หรือเรื่องชอกช้ำผิดหวัง จะทำให้ทุกอย่างบานปลาย เป็นการใช้สมาธิของตนทำลายสุขภาพกายและจิตได้

    เรียกว่าต้องฝึกใจให้เป็นสมาธิให้ได้ เพื่อจะได้ทำงานให้สำเร็จตามที่มุ่งหวัง เรียกว่าต้องทำอะไร เมื่อใด ที่ไหน อย่างไร ใจมีสมาธิ สามารถทำงานให้สัมฤทธิ์ผลขณะเดียวกัน ใจที่มีสมาธิง่ายและรวดเร็ว ต้องมีสติกำกับ เพื่อให้รู้ตัวว่ากำลังมีสมาธิอยู่กับเรื่องใด เช่น กำลังเล่นเกมเพลินอยู่หลายชั่วโมง มีสมาธิแรงกล้า แต่ขาดสติ จะเล่นจนไม่ลืมหูลืมตารับรู้ว่าควรทำอะไรต่อไป ไมสามารถหักห้ามใจได้เพราะสมาธิแรงกล้าต้องอาศัยสติแรงกล้าเช่นกันดึงใจกลับมา

    ปัจจุบันมีสิ่งดึงดูดเวลา ความสนใจ หรือสมาธิของผู้คนมากมาย ทั้งอินเตอร์เน็ต เอ็มเอสเอ็น เกมออนไลน์ การจะทำความหวังความฝันให้สำเร็จนั้น ต้องอาศัยบทเรียนจากการฝึกสมาธิฝึกสติมาประกอบ หากใจเรียนรู้ข้อผิดพลาดในอดีตเกี่ยวกับการใช้เวลาที่ฟุ่มเฟือย เรียกว่ามีสติ ระลึกถึงบ่อยๆ เตือนตนเองบ่อยๆ เท่ากับกำลังสร้างสติที่เปี่ยมกำลัง ย่อมนำสมาธิมาใช้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่เป็นประโยชน์ได้

    สติสมาธิ คล้ายกับเรากำลังมองหาสิ่งที่จะทำ ตอนที่ยังไม่ตัดสินใจลงมือทำอะไร จะมองเห็นสิ่งนั้นสิ่งนี้น่าทำไปหมด ความสนใจหลากหลาย แต่ไม่บรรจุสำเร็จสักอย่าง เรียกว่ายังไม่รู้ตัวจะทำอะไร ไม่มีสติที่เพียงพอแต่พอมองเห็นชัดแล้วว่าจะทำอะไร เรียกว่ามีสติแล้ว ใจจึงเริ่มมีกำลัง สามารถเพ่งความสนใจใช้เวลาจดจ่อกับสิ่งนั้นอย่างเต็มที่

    การทำสิ่งนั้นย่อมประกอบด้วยสมาธิ คือ ความมุ่งมั่นจดจ่อ และสติคือความรู้ตัวกำลังทำอะไร เมื่อทั้งสองอย่างมีพลังและประสานกันดีสิ่งที่ทำก็คืบหน้าอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะอยู่ในวัยใด หากสติกับสมาธิกอดคอไปด้วยกัน ย่อมไม่มีวันอับจนหนทางในชีวิตเป็นแน่!

    b475bf7c9427a179e31fda933bba992b.jpg
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +16,626
    วันนี้มีแต่คนทักมาคุยเรื่องน้ำมัน ที่ผิดหวังกันก็มาก อย่างที่บอกรายการนี้มีน้อยวัดกันที่ความไวอย่างเดียวจริงๆ ส่วนคนที่ฝากคำถามไว้เดี๋ยวจะทยอยตอบคำถามในบางส่วนที่ตอบได้ไปก่อนนะครับ
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +16,626
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้เดี๋ยวเคลียร์ของส่งให้นะ
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +16,626
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่เมธี EW 4025 9068 5 TH

    พี่วุฒิชัย EW 4025 9069 4 TH

    พี่นฤชา EW 4025 9070 3 TH

    พี่สุรวุฒิ EW 4025 9071 7 TH

    พี่อนุวัฒน์ EW 4025 9072 5 TH

    พี่ธีรนนท์ EW 4025 9073 4 TH

    พี่ธนากร EW 4025 9074 8 TH

    พี่พรเทพ EW 4025 9075 1 TH

    พี่พชร EW 4025 9076 5 TH
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +16,626
    พระผงต่อชีวิต ต่อลมหายใจ (พ่อพลายเก้าขอ) มีคนบ่นๆถึงกันมาเยอะ ว่าอยากได้มวลสารชุดนี้แต่เป็นรูปพญาช้างหรือพ่อพลายไม่ใช่รูปพระ รายการนี้ผมเรียนไปว่าไม่มีจัดสร้างนะครับที่เป็นรูปช้าง(พ่อพลาย)

    แต่ใครที่อยากได้หรือสนใจเพราะคิดว่าเป็นรูปสัตว์จะแรงกว่า
    อยากได้สัตว์อาคมแบบนี้ เอาว่าเดี๋ยวได้สมใจ ใครที่เคยพลาดควายธนู วัวธนูของพ่ออาจารย์ไป ตัวนี้แรงชนิดที่เอาไปใช้แทนกันได้เลย ที่สำคัญออกให้บูชาถูกมากๆๆ (ถูกกว่าทุกรุ่น) เดี๋ยวเอาไว้ว่ากันอีกที แต่ไม่ใช่วัวไม่ใช่ควายจะเป็นอะไรติดตามดูเอง รายการนี้แรงแบบรถถังหุ้มเกราะทีเดียว
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +16,626
    หลวงปู่ศุข ..เสกคนเป็นจรเข้

    เสด็จในกรมได้ขึ้นไปสนทนากับหลวงปู่ศุขบนกุฏิ การสนทนาในวันนั้นส่วนมากก็วนเวียนอยู่กับฤทธิ์อาคมเสกหัวปลีให้เป็นกระต่าย หลวงปู่ศุขก็เล่าบอกตามความเป็นจริงในทางที่ตนเองยึดถือปฏิบัติ ยิ่งพูดคุยกันมากเสด็จในกรมก็ยิ่งรู้ว่าหลวงปู่ศุขมีอาคมมากมาย ทั้งยังสามารถเสกคนให้เป็นจระเข้ได้อีกด้วย ในตอนหนึ่งของการสนทนา หลวงปู่ศุขได้สอบถามกรมหลวงชุมพรฯ ว่า “ปรารถนาจะใคร่ชมคนกลายเป็นจระเข้หรือไม่” เสด็จในกรมและข้าราชบริพารที่นั่งอยู่ต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “อยากเห็นคนกลายเป็นจระเข้” เมื่อทุกคนอยากดูการเสกคนเป็นจระเข้ หลวงปู่ศุขจึงบอกให้เสด็จในกรมคัดเลือกคนรูปร่างล่ำสันแข็งแรง พระองค์จังคัดเลือกพลทหารมาได้คนหนึ่งชื่อ “จ๊อก”

    จากนั้นหลวงพ่อสั่งให้เอาเชือกเส้นใหญ่มัดที่เอวของพลทหารจ๊อกอย่างแน่นหนา แล้วพาไปที่สระน้ำแห่งหนึ่งในวัด ให้พลทหารผู้นั้นนั่งคุกเข่าลงข้างสระ แล้วสั่งให้หลับตาพนมมืออยู่นิ่ง ๆ ส่วนตัวหลวงปู่จับปลายเชือกไว้แน่น พลางบริกรรมคาถาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็เป่าพรวดลงไปที่ศีรษะพร้อมกับใช้ฝ่ามือที่ไม่ได้จับปลายเชือกตบลงที่กลางหลัง พร้อมกับผลักพลทหารจ๊อกตกลงไปในสระน้ำเสียงตูมใหญ่ สายตาทุกคู่จ้องเป็นจุดเดียว กรมหลวงชุมพรฯ ยืนมองร่างพลทหาร ท้องน้ำแตกกระจายเป็นวงกว้าง ครั้นน้ำสงบลงจึงแลเห็นร่างของจระเข้ตัวโตอยู่ในน้ำ ส่วนหัวมีเชือกผูกติดตัวแหวกว่ายวนเวียนสะบัดหากฟาดน้ำอยู่ไปมา

    ทุกคนในที่นั้นต่างอัศจรรย์ในความขมังเวทย์ของหลวงปู่ศุข ส่วนกรมหลวงชุมพรฯ ทรงทอดพระเนตรดูลูกน้องกลายเป็นจระเข้ แหวกว่ายอยู่ในสระน้ำด้วยใจระทึก ร่างของจระเข้พยายามตะเกียกตะกายเพื่อจะดำดิ่งลงก้นสระ ติดแต่ว่าถูกล่ามเชือกอยู่ โดยเหล่าทหารเข้าช่วยหลวงปู่ดึงเอาไว้ หลวงปู่ศุขได้กล่าวกับเสด็จในกรมว่า “ท่านจะให้ลูกน้องกลับเป็นคนหรือจะให้เขาเป็นจระเข้อยู่อย่างนั้น” กรมหลวงชุมพรฯ ได้ตรัสตอบว่า “ต้องการให้เขากลับเป็นมนุษย์อย่างเดิม” หลวงปู่ศุขจึงให้พวกทหารช่วยกันดึงเชือกให้หัวจระเข้โผล่ขึ้นมาพร้อมกับสั่งกำชับว่า “อย่าปล่อยให้เชือกหลุดมือหรือขาด หากจระเข้หลุดไปแล้วมันจะดำลึกลงกบดานที่ก้นสระ โอกาสที่จะทำให้คืนร่างเป็นมนุษย์คงยาก”

    พวกทหารจึงช่วยกันดึงรั้งเชือกกันสุดแรง กลายเป็นการชักเย่อระหว่างคนกับจระเข้ ส่วนหลวงปู่ศุขท่านเดินกลับกุฏิ ครู่ใหญ่ถือบาตรน้ำมนต์ตรงมายังขอบสระที่จระเข้กำลังตะเกียกตะกายหนี จากนั้นท่านได้บริกรรมคาถากำกับน้ำมนต์อยู่อึดใจแล้วท่านได้สั่งด้วยเสียงอันดังว่า “เอาออกแรงดึงขึ้นมาหน่อย” ทหารทุกคนทำตาม ออกแรงดึงให้ร่างจระเข้ลอยบนผิวน้ำ หลวงปู่ศุขจึงเอาน้ำมนต์ที่เสกแล้วเทราดบนหัวจระเข้ ความอัศจรรย์เกิดขึ้นเป็นคำรบสอง ร่างจระเข้ที่ดิ้นรนและฟาดหางไปมานั้นค่อย ๆ มีอาการสงบลง แล้วร่างที่ขรุขระของจระเข้ก็กลายเป็นผิวเนื้อของมนุษย์ทีละน้อยอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นทหารคนเดิมในเวลาต่อมา กรมหลวงชุมพรฯ มองดูทหารผู้นั้นด้วยความอัศจรรย์ในเป็นที่สุด เรื่องที่พระองค์ไม่เคยพบเห็นในชีวิตก็ได้มาเห็นที่วัดของหลวงปู่ศุข (เป็นที่น่าเสียดายที่ในปัจจุบันนี้ “สระประวัติศาสตร์แห่งนี้ได้ถูกถมเป็นพื้นดินราบและส่วนหนึ่งของสระได้ปลูกสร้างตึกเจ้าอาวาสวัดปากคลองมะขามเฒ่ารูปต่อ ๆ มา)

    อนึ่ง จากหนังสือพระประวัติพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พลเรือเอกกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ โดยชัยมงคล อุดมทรัพย์ ได้บันทึกไว้เป็นความตอนหนึ่ง ดังนี้ ...จากการบอกเล่าของพลทหารจ๊อก ภายหลังร่างกลับกลายเป็นคนว่า ขณะที่ตนลงไปในสระก็มิได้รู้สึกตัวว่าตัวเองเป็นจระเข้แต่อย่างใด เพียงแต่รู้สึกว่าตัวเองมีพละกำลังมหาศาลผิดปกติเท่านั้น และแหวกว่ายน้ำด้วยจิตใจคึกคะนองฮึกเหิม ในอยากดำผุดดำว่ายทั้งที่มองตัวเองแล้วก็มีร่ายกายเหมือนคนทุกอย่าง ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับวิชาเสกคนให้เป็นจระเข้ของคุณทวี เย็นฉ่ำ ผู้ศึกษาวิชาไสยศาสตร์คนหนึ่งของเมืองไทยกล่าวไว้ว่า “จระเข้วิชา” ก็คือ“คน” ซึ่งแก่กล้าวิชาอาคม และมีเหตุให้กลายร่างเป็นจระเข้ เพราะความเรืองวิชาอาคมของตนเอง จะเป็นด้วยเหตุบังเอิญหรืออะไรก็ตามที ทำให้ไม่สามารถรดน้ำมนต์ลงไปที่ตัวจระเข้ได้ บุคคลผู้นั้นก็จะกลายเป็นจระเข้ต่อไปจนกว่าจะแก้มนต์กำกับหรือมนต์อาถรรพณ์ได้

    ดังเช่นตำนาน “จระเข้คน” จากจังหวัดพิจิตรอันเป็นแดนอาถรรพณ์ต้นกำเนิดนิทานพื้นบ้านอันลือลั่น เรื่องไกรทองและชาละวันนั่นเอง มีเรื่องเล่าจากนายเนตร แพงกลิ่น ที่เคยบวชเรียนอยู่ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า ได้เล่าถึงคนกลายเป็นจระเข้แล้วมาให้หลวงปู่ศุขช่วยแก้อาถรรพณ์ให้ว่า ณ ท่าเรือทองนี้ (อยู่วัดปากคลองมะขามเฒ่า) มีการลงอาถรรพณ์ไว้ หากจระเข้วิชามาถึงท่าเรือทองนี้ จะต้องลอยหัวโผล่ขึ้นมา ไม่สามารถดำน้ำได้อีกต่อไป คราวนี้พวกญาติจะนำน้ำมนต์หลวงปู่ศุขไปราดที่หัว จระเข้วิชาก็จะกลายเป็นคนตามเดิม โดยจะนอนแน่นิ่งเกยตื้นริมตลิ่งอยู่บางทีมีเรื่องทุลักทุเลไม่อาจราดน้ำมนต์ที่หัวจระเข้ได้ เพราะความกลัวของบรรดาญาติ หรืออะไรก็ตามแต่ บางทีเป็นเดือน ๆ เป็นปี ๆ ก็มี จระเข้วิชาเมื่อถูกราดด้วยน้ำมนต์แก้อาถรรพณ์แล้ว จะกลายเป็นคนนิ่งเงียบ ไม่ยอมพูดจา ญาติจะช่วยกันประคองไปหาหลวงปู่ศุขที่กุฏิ ท่านก็จะทำพิธีแก้อาถรรพณ์รักษาให้ นานอยู่ประมาณ 7-8 วัน คนผู้นั้นจึงจะพูดได้


    r14-6.jpg
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +16,626
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่แมน EW 4023 5633 4 TH

    พี่ศิระ EW 4023 5634 8 TH

    พี่ฐิตกาญจน์ EW 4023 5635 1 TH

    พี่ปกรณ์เกียรติ EW 4023 5636 5 TH
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +16,626
    ร่วมทำบุญบูชา ทวดกุมภีร์สาริกาวิชาแต่งคน(พระโพธิสัตว์,นารายณ์อวตาร,พญาเถรกวาด)

    วิชาจระเข้นี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีความซับซ้อนมาก เพราะเค้ามีอยู่หลายตัวในวิชาภาคต่างๆถ้าจะทำแล้วก็ต้องลงให้ครบทุกอย่าง ท่านว่าจะทำขอไปทีก็ไม่ได้เพราะเสกจระเข้นั้นจำเป็นต้องมีวิชาของเค้าไม่ใช่จะทำไปเรื่อยเสกแบบอาศัยแรงครูอย่างเดียวเช่นนี้ย่อมไม่สำเร็จ

    จระเข้ถือว่าเป็นใหญ่ในสัตว์น้ำทั้งปวง แต่โบราณจะใช้ธงรูปจระเข้เป็นผู้นำสัตว์ต่างๆมาช่วยคุ้มกันขบวนเรือกฐิน ถือเป็นสัตว์ที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารเนื่องจากเป็นสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่ทั้งยังเป็นผู้ล่าที่ไม่มีศัตรูตามธรรมชาติ เช่นนั้นครูบาอาจารย์จึงนิยมทำจระเข้กันมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาจระเข้นี้มีหลายตัวถ้าจะทำก็ต้องทำเป็นเนื้อผงเพราะจะลบผงคุณวิชาผสมไปในเนื้อด้วย ทั้งนี้ท่านว่าวิชาจระเข้แต่ละตัวนั้นก็มีคุณแรงแต่ละด้านต่างกันไป โดยรวมผงคุณวิชาจระเข้ทุกตัวจึงดีครบทุกด้าน ซ้ำจระเข้ยังเป็นตัวแทนของความโลภเพราะเขามีปากใหญ่ที่กินไม่อิ่ม ดังนั้นคนที่บูชาเครื่องมงคลรูปจรเข้ที่ลงถูกต้องตามคุณวิชาจะสังเกตุได้ว่าเขาจะเป็นสื่อ จะทำให้โชคดี นำโชคลาภมาให้เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสกับเรา ทำให้ค้าขายดี ผ่อนปัญหาความทุกข์ยาก...จนถึงคดีความต่างๆ หรืออาการเจ็บไข้ได้จะหายป่วยได้ แม้คนที่มีอาชีพที่ต้องอาศัยดวงเรียกว่ามีอาชีพหรือชีวิตที่ไม่แน่นอนหากบูชาก็เชื่อว่าจะทำให้ได้ผลประโยชน์ในปริมาณที่มากกว่าเดิม เรียกว่าไม่ว่าอาชีพของเราจะหาอะไรก็ตามจะหาได้ง่าย ได้เร็ว ได้มากกว่าเดิมแบบนั้น

    โดยปกติวิชาจระเข้นั้นจะดีทางปกป้องคุ้มครอง แคล้วคลาด ภูตผีปีศาจเกรงกลัว ป้องกันสัตว์เลื้อยคลาน ถอดถอนเสน่ห์ยาแฝดต่างๆ สามรถพกใส่ใส่กระเป้าเสื้อกางเกงหรือผูกติดเอวก็ได้ จะคล้องคอลอดราวผ้าลอดไต้ถุนไม่ถือไม่เสื่อมอะไรทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างจระเข้อาคมมานานแล้วแต่มักทำเป็นขนาดบูชาคือขนาดใหญ่ จะแกะด้วยไม้มงคลแล้วเอาผงอุดบ้าง หรือเอาผงมาปั้นเป็นตัวบ้างก็มี ท่านทำให้ใช้กันในหมู่คนพิเศษหรือเป็นของเฉพาะคนหากแต่ท่านกลับไม่เคยทำขนาดที่พกติดตัวได้ให้กับใครเลย ผู้ที่ได้รับจระเข้มนต์จากท่านไปต่างบอกกันปากต่อปากว่าป้องกันภัยได้ดีบ้าง รักษาทรัพย์คุ้มครองสมบัติเงินทองดีบ้าง แถมยังขยันหาทรัพย์เก่งมีมหาโภคทรัพย์ได้เงินได้ทองทำให้ทรัพย์สมบัติงอกเงยเพิ่มพูลขึ้น คำว่ายากจนข้นแค้นจะหนีไกลไปเลยไม่ปรากฏกับผู้ที่ได้บูชาจระเข้วิชาของพ่ออาจารย์

    วิชาจระเข้นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะทำให้ครบต้องลงไว้สามภาค แต่ละภาคก็มีสูตรมีวิชาย่อยต่างๆประกอบกัน ตั้งแต่
    - กุมภีร์โพธิสัตว์ เป็นชาติหนึ่งซึ่งพระพุทธองค์เสวยชาติเป็นพญากุมภีร์ เป็นเจ้าแห่งสัตว์น้ำทั้งหลาย มีบริวารเป็นจระเข้อีก 500 ตัว เรียกได้ว่าใครๆ ต่างก็เกรงกลัวบารมีของพญากุมภีร์เป็นอันมาก
    - จระเข้นารายณ์อวตาร ตำรับนี้ท่านว่าทำให้ถึงจริงๆนั้นทำยากเพราะแต่ละส่วนตามร่างกายจระเข้นั้นล้วนแต่เป็นพระอิศวi พระนารายณ์ พระพรหม เทพนพเคราะห์แลเทพสำคัญอื่นๆตั้งแต่พระยม พระกาฬ พระอัคนี พระอาทิตย์ พระจันทร์ ท้าวกุเวร...จุติลงมาเกิดเข้าพิทักษ์รักษาร่างกายตามจุดต่างๆทั้งสิ้น เช่นนี้วิชานารายร์อวตารเป็นจระเข้จึงมีฤทธิ์มากเกินจระเข้ทั้งหลาย
    - จระเข้พญาเถรกวาด อันนี้เป็นมนต์จำแลงกายแยกออกไปหลายตัว ใช้ได้ตั้งแต่หาทรัพย์ เป็นเมตตาจนถึงมหาเสน่ห์หัวกระได้ไม่แห้งนั่นทีเดียว...ท่านว่ามีอุปเท่ห์ใช้ได้เยอะมากจึงลงไว้ให้ครบทุกตัว
    แล้วก็ต้องเสริมด้วยวิชาแต่งคนให้หุ่นจระเข้นั้นให้คุณกับคนใช้โดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติแล้วหลายๆที่ทำจระเข้จะยึดเอาตัวใดตัวหนึ่งแต่ส่วนใหญ่จะใช้กุมภีร์โพธิสัตว์ บางที่ทำเป็นกุมภีร์นารายณ์อวตารได้ก็นับว่าแรงมากมีอาถรรพ์เป็นที่สุดแล้ว ที่จริงยังมีวิชาจระเข้หลายๆแบบเช่นผงชุดวิชาพญาชาละวัน...ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าตัวท่านก็ลบถมผสมลงไปให้ทั้งหมด


    พ่ออาจารย์ท่านได้ลบถมผงต่างๆให้มีอาถรรพ์ ท่านว่าในส่วนของผงคุณพระก็ลบได้ตามปกติ แต่ในส่วนของผงวิชาจระเข้จริงๆหากจะทำให้เข้มขลังขมังเวทย์ก็ต้องใช้หนังจระเข้ที่เคยกินคนมาก่อนเอามาล้างเสนียดลงวิชาเสียใหม่ก่อนจะเอามาทำเป็นมวลสารแท่งผงเพื่อจะลบวิชาเช่นนั้นจระเข้มนต์ที่ได้ก็จะเป็นเจ้าแห่งกุมภีร์มีอาถรรพ์มากแตกต่างจากจระเข้บริวารทั่วไป ท่านลบถมผงต่างๆตั้งแต่ ผงโพธิสัตว์รัตนมงคล,ผงวิชาจระเข้นารายณ์อวตาร,ผงวิชาพญาเถรกวาดตัวที่หนึ่งถึงเก้า,ผงพญาชาละวันทุกตัว,ผงพระพุทธคุณห้าสิบหก,ผงพระธรรมคุณสามสิบแปด,ผงพระสังฆคุณสิบสี่,ผงวิชาแต่งคน,ผงนะเมตตา,ผงนะหน้าทอง,ผงนะมหาละลวย,ผงนะอกแตก,ผงนะมหาเสน่ห์,ผงไม้มะยมตายพราย,ผงไม้รักช้อนตายพราย,ผงไม้พญายอ,ผงพญาไม้กายู,ผงว่านดอกทอง,ว่านเสน่ห์จันทร์,ผงดินเจ็ดโป่ง เมื่อได้ผงต่างๆแล้วก็นำมาคลุกคลีด้วยน้ำมันนางตานีปั้นเป็นหุ่นจรเข้ตัวใหญ่ไว้ก่อนจะเสกทุกคืนวันเพ็ญ จนกระทั่งจระเข้เดินลงน้ำแหวกว่ายดุจมีชีวิตในน้ำคืนจันทร์เพ็ญได้ ท่านว่าเช่นนั้นจึงถือว่าสำเร็จพลีเอาหุ่นจระเข้นี้มาทำผงกดพิมพ์พระได้ ท่านว่าพระผงที่ได้นั้นจะมีอาถรรพ์มากไม่ต่างกันเลย ทั้งดีเด่นทางอยู่ยงคงกระพันกันเขี้ยวงา เป็นมหาอำนาจ เมื่อได้ธาตุน้ำมาหนุนก็จะเป็นเสน่ห์เมตตาอยู่เย็นเป็นสุขใช้ได้ครอบคลุมทุกด้าน

    ด้านหลังพ่ออาจารย์ท่านลงตะกรุดหัวใจเถรกวาดฝังไว้ ท่านว่าปกติจระเข้ก็ให้คุณด้านโชคลาภอยู่แล้ว แต่จระเข้ของท่านนั้นพิเศษกว่าปกติก็คือทำให้คนที่เขามีความต้องการสูงเอาไปใช้ หากชีวิตเหมือนการเดิมพันต้องการชนะเพราะมีการแข่งขันในสายอาชีพสูง หรืออยากได้รับความร่วมมือจากคนอื่น ต้องการความเมตตาจากบุคคลอื่น เช่นนี้ต้องใช้จระเข้วิชชาของท่านเพราะท่านตั้งใจลงตะกรุดไม้กวาดพระอินทร์(เถรกวาด) ซึ่งมีอิทธิคุณกวาดเรียบ กวาดได้ทุกอย่าง(ตามแต่จะตั้งจิตบอกขอทวดจระเข้) จะกวาดเสน่ห์แก่คนทั่วไปหรือจะให้เก็บกวาดทางใดตั้งแต่ศัตรูผู้คิดร้าย หรือจะกวาดจะโกยทรัพย์สินโชคลาภเข้ากระเป๋าตน ให้แผ้วถางทางกวาดเก็บอุปสรรคเช่นนี้ย่อมใช้ได้หมด ท่านว่ามันขึ้นอยู่กับเราอธิษฐานเองนี่แหละว่าจะใช้ทำอะไรทางไหน และช่วยในเรื่องธุรกิจการค้าให้ได้ดี ไปไหนมีแต่คนรักใคร่ ไม่มีอด เป็นสง่าราศรีแก่ผู้พบเห็นก็ทำได้ จระเข้ของท่านงมนต์เถรกวาดไว้ครบทุกตัวนอกจากโชคลาภแล้วคนใช้จะมีสาวมากวนเกาะแกะเรียกว่าหัวกะไดไม่แห้งเลย***ถ้าเน้นเสน่ห์เอาไปใช้เป็นคู่ผูกไว้คู่กันก็จะได้คู่สมใจ

    ด้วยจระเข้นี้เป็นวิชาผูกหุ่นพยนต์ชนิดหนึ่ง ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านจะทำการเรียกอาการสามสิบสองเพื่อให้จระเข้นี้มีอาถรรพ์เสมือนมีชีวิต ทุกตัวมีจิตวิญญาณคอยเรียกโชคลาภ คุ้มครองอันตรายเมื่อพกติดตัวให้แคล้วคลาดจากเรื่องอุบัติเหตุต่างๆ หรือเฝ้าคุ้มครองบ้านเรือนทรัพย์สิน ป้องกันภูติผีปีศาจและคุณไสยต่างๆได้เป็นอย่างดี ท่านว่ายิ่งรวมเข้ากับผงคุณวิชาก็จะยิ่งแรงมากแม้ใครคิดร้ายก็จะมีอันเป็นไปต่างๆนาๆ ทั้งยังใช้เคล็ดคาดเอวเป็นมหารูดได้อีกด้วย เมื่อจะใช้กันตัวในยามทำศึกสงครามหรือต้องใช้ในด้านคงกระพันชาตรีก็ให้ไว้ด้านหน้า เมื่อจะใช้ทางด้านมหานิยมเเละเป็นมหาอำนาจให้ชนเกรงขามก็ให้รูดไว้ด้านซ้าย ถ้าจะเดินทางไปเพื่อแสวงหาโชคลาภทำการค้าขายก็ให้รูดไว้ด้านขวา

    พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ต้องเรียกว่าทวดกุมภีร์นั้นก็เพราะจระเข้ของฉันเทวดาท่านมาทำให้ เป็นใหญ่กว่าจระเข้แลปีศาจทั้งหลาย มีกำลังตบะมากเปรียบกับชาละวันแล้วก็เหมือนจระเข้รุ่นทวดของมันนั่นทีเดียว เมื่อบูชาไปก็ให้นำเข้าบ้านตามปกติ แค่อธิฐานบอกว่าในบ้านมีใครบ้าง ชื่ออะไร นามสกุลอะไร ให้ทวดจระเข้ได้รู้ทุกคน เขาจะได้คุ้มครองป้องกันภัยคนในบ้านไม่ให้เป็นอันตรายใดๆจากสิ่งไม่ดีต่างๆ หากไว้เฝ้าร้านเฝ้าบ้านเรือนโจรขโมยก็จะขึ้นบ้านไม่ได้ ทั้งด้วยอำนาจตบะของทวดจระเข้ยังเป็นที่หวั่นเกรงของภูติผีปีศาจ เวลาเดินทางไปในที่แห่งใดไม่ว่าจะเป็นทางบกหรือทางน้ำสรรพสัตว์ทั้งหลายจะยำเกรง ศัตรูหมู่มารจะเกรงขามตัวเรา สามารถป้องกันเสนียดจัญไร ถอดถอนเสน่ห์ยาแฝดต่างๆ จะไต่เต้าเจ้าสัวแสนทะนานทองลาภเต็มห้องทองเต็มไห ขุนนางใดมีไว้ดีนักแลจักให้คุณเป็นถึงท้าวพระยาพานทองทรัพย์สินสิ่งของเต็มวังอีกทั้งช้างม้าวัวควายนับได้เหลือหลาย

    นอกจากนี้ที่สำคัญที่สุดพ่ออาจารย์ท่านว่าจระเข้ของท่านยังเป็นวิชาแต่งคนด้วย ความแตกต่างของการพกเครื่องมงคลทั่วไปกับเครื่องมงคลที่ลงวิชาแต่งคนไว้นั้นมีช่องว่างอยู่สูงมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่งคนก็เหมือนแต่งตัวเราให้อาถรรพ์และวิชานั้นเกิดขึ้นกับเรา จะสังเกตุได้ง่ายๆว่าเวลาที่เราพกทวดจระเข้นี้ ตัวเราจะมีกำลังวังชาอย่างน่าประหลาดใจ ไอ้โรคน้อยใหญ่เจ็บไข้ได้ป่วยแพ้อากาศอะไรต่างๆนาๆก็ไม่ค่อยจะมี จะถึกจะทนกว่าชาวบ้านอย่างน่าประหลาดรู้สึกว่าตัวเองมีพลังงานเยอะมากเพราะพลังชีวิตมันเอ่อล้นออกมา ไอ้ทีนี้อะไรที่คิดๆไว้มันก็จะเดินเข้ามาเอง โชคลาภก็เข้ามาอย่างน่าประหลาด ความปรารถนาก็ได้เติมเต็มอย่างน่าประหลาดเพราะวิชามันแต่งเราไว้หมดแล้วจากที่เราต้องไปใช้ไปพึ่งมันกลายเป็นว่าแค่เราจับทวดจระเข้มันก็เข้ามาเป็นกำลังเป็นตบะเป็นฤทธิ์ให้กับเรา มันแต่งตัวของเราให้เราเอง จะหันหน้าไปทางไหนทำอะไรแข่งกับใครก็กวาดเขาเรียบ ไล่กวาดเขาต้อนเขาไปซะหมด จากที่เคยถูกต้อนก็จะกลายเป็นฝ่ายไล่ต้อนไม่รู้จักอับจนเลย

    คาถาบูชา
    โอมยะ โอมมิ โอมอิ โอมพระนางคงคาสุสะสะสิติกันตัง โอมกูจะปลุกพญากุมภาให้สะท้านลั่นพระธรณี ว่าพระนารายณ์อวตารเป็นพญากุมภีร์ ทรงศรศรีกำกับกายหวังจักปราบมารร้ายราวี โอมปลุก ปลุก ลุกแล้วอย่าไปอื่น ตื่นแล้วจงมารักษา เข้าคุ้มครองกายาทั่วสารพางกาย พุทธังสะระณังเมสิทธิ ธัมมังสะระณังเมสิทธิ สังฆังสะระณังเมสิทธิ พุทธังเอหิมาเรโส ธัมมังเอหิมาเรโส สังฆังเอหิมาเรโส พุทธังกุมภีโรโจรังคงคังปิติอิ ธัมมังกุมภีโรโจรังคงคังปิติอิ สังฆังกุมภีโรโจรังคงคังปิติอิ


    *** ทวดจระเข้นี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้น้อยมากและท่านยังได้ใส่วิชาสำคัญคือไม้กวาดพระอินทร์กำกับด้วย ท่านว่าเพราะจระเข้นี้มีกำลังมาก และยังมีสมบัติมากดุจพญานาค ทั้งมีเมืองแก้วปราสาทแก้วดุจเดียวกัน พอลงกำกับกันกับคุณวิชาท่านว่าจะกวาดอะไรมันก็มีกำลังมีตบะมากพอที่จะหักเอามาได้ทั้งหมด(ถ้าจะบูชาแบบเป็นเรื่องเป็นราวก็ให้ใช้ติดตัวตนหนึ่งและบูชาไว้ในบ้านอีกคู่หนึ่งคือเก็บไว้ใช้สามตนนั่นเองอันนี้เป็นเคล็ดของกุมภีร์รัตนมงคล พ่ออาจารย์ท่านว่าให้เขาอยู่เป็นกลุ่มสามตัวจะเป็นยอดของวิชามหาปราบและสิทธิมงคลชัยทั้งหมด) ท่านเขียนสีให้ดุจมีชีวิตทุกตัว

    ร่วมทำบุญบูชา ทวดกุมภีร์สาริกาวิชาแต่งคน(พระโพธิสัตว์,นารายณ์อวตาร,พญาเถรกวาด) บูชา 900 บาท

    53918420-670749666674673-2379538514799755264-n.jpg 54517991-349381985676212-6705612768571031552-n.jpg
    53781840-330684290987216-2253975029937078272-n.jpg
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +16,626
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ภิญโญ EW 4023 9880 2 TH

    พี่วัชรพันธ์ EW 4023 9881 6 TH

    พี่ชัยวัฒน์ EW 4023 9882 0 TH
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +16,626
    จระเข้รุ่นนี้แรงจริงๆ มีคนถามว่าอยากกั้นคอกเลี้ยงไว้เป็นส่วนตัวได้มั๊ย อันนี้ก็เอาตามสบายใจเลย จะให้อยู่รวมกับอย่างอื่นเช่นวัวธนูควายธนูก็ได้หรือจะแยกเลี้ยงโดดๆก็ได้ไม่มีปัญหา พ่ออาจารย์ท่านเองก็ไม่เคยทำวิชาไม้กวาดพระอินทร์ใส่เครื่องมงคลอะไร อันนี้จึงนับได้ว่าเป็นรุ่นแรกเลย ลองดูกันชีวิตใครที่ไม่ค่อยราบเรียบก็ลองพกทวดจระเข้ดูเพราะท่านว่ากวาดได้ทุกอย่างตั้งแต่คนไปจนถึงสิ่งของ จะใช้เก็บกวาดศัตรูก็ได้
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +16,626
    15 วิธีฝึกสมาธิ สำหรับคนไม่ชอบนั่งสมาธิ!!!

    1. ฝึกอ่านหนังสือ หรือบทความยาวๆ เป็นประจำ
    2. ฝึกเขียนบันทึกประจำวัน หรือเขียนอะไรด้วยดินสอ และปากกา
    3. ปิดโทรทัศน์ วิทยุ อินเทอร์เน็ต และเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดแล้วอยู่กับตนเองเงียบๆ ทำทุกวันให้เป็นนิสัย
    4. ฟังเพลงบรรเลงที่ไม่มีเนื้อร้อง(ทั้งในรถยนต์ และที่บ้าน)
    5. วิ่งหรือออกกำลังกายแบบนับลมหายใจไปด้วย
    6. ฟังคลิปธรรมะ ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เป็นประจำ
    7. หาอุปกรณ์ที่สร้างจังหวะมาวางข้างๆ แล้วหลับตาฟัง เช่น ฟังเสียงเข็มนาฬิกา เป็นต้น
    8. ทำทุกอย่างให้ช้าลง เดินให้ช้าลง เคลื่อนไหวให้ช้าลง แล้วรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของตนเอง
    9. จินตนาการถึงการทำงานของโครงกระดูกของตนเอง ในขณะที่เคลื่อนไหว ว่าแต่ละครั้งที่เคลื่อนไหวนั้น
    โครงกระดูกของเราอยู่ในลักษณะใด
    10. รับประทานสิ่งใด กินให้รู้รสของสิ่งนั้น อยู่กับสิ่งที่เรากำลังกิน อย่าพูดคุยขณะที่อาหารเข้าปาก แต่ให้สังเกตการรับรู้ของลิ้นและความรู้สึก
    11. ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างเหมาะสม มีเวลาจำกัด อย่าใช้ทุกเวลาตามที่ใจต้องการ
    12. หาต้นไม้มาปลูกที่บ้าน รดน้ำ พรวนดิน และสังเกตความเปลี่ยนแปลงของต้นไม้
    13. พูดให้น้อยลง สังเกตสิ่งรอบตัวให้มากขึ้น
    14. เปลี่ยนจากเดินห้าง ไปเดินสวนสาธารณะ ชมงานศิลปะ หรือชมธรรมชาติในสถานที่เงียบๆ
    15. ศึกษา ค้นคว้า จนเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า

    สมาธิมีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตของเราอย่างไร เพราะเมื่อเรารู้และเข้าใจอย่างแท้จริง เราจะเห็นถึงคุณประโยชน์พร้อมกับเปิดใจรับ และตัดสินใจลงมือทำมันด้วยตนเอง
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +16,626
    ทวดจระเข้มีคนได้ทางในทักมาถามว่าทำไมแรงจัง ครูเขามาบอกว่ามีเทวดาระดับเทพบดีพิทักษ์รักษาอยู่ทุกจุดเลยไม่เคยเห็นใครสร้างได้ขนาดนี้ อันนี้ต้องบอกคร่าวๆว่าปกติที่นิยมสร้างกันจะเป็นคติจระเข้โพธิสัตว์อันนั้นจะเด่นทางด้านคุ้มครองตัวและอื่นๆ แต่ของพ่ออาจารย์นั้นท่านเล่นอาคมและเชิญเทพสำคัญสถิตย์ลงไปด้วยพูดอีกอย่างหนึ่งคือนอกจากเป็นจระเข้โพธิสัตว์แล้วยังเสริมอาคมของเถรกวาดและฤทธิ์ของนารายณ์อวตารด้วยเช่นนั้นจึงมีฤทธิ์มากและเพราะเขามีจิตวิญญาณสื่อกับเราด้วยวิชา ดังนั้นเราคิดอะไรเขาจะรู้ทั้งหมด ที่ถามว่าต้องเซ่นต้องบนด้วยเนื้อมั๊ยนี่ไม่จำเป็นเลยเพราะเป็นของทิพย์ พ่ออาจารย์ท่านว่าทวดจระเข้มีประสาทแก้วอยู่เขาอิ่มทิพย์...หลังจากนี้ก็เอาไว้รอดูประสบกรณ์เพราะรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านสำทับไว้อย่างน่าคิดว่าหมดจากนี้พลิกแผ่นดินหาก็ไม่เจอ(ปกติท่านจะไม่ค่อยพูดลักษณะนี้เท่าไหร่)
     

แชร์หน้านี้

Loading...