ร่วมทำบุญบูชา มงคลสหัสธาตุรังสรรค์กรรมสิทธิ์หมื่นเขตแดนประทานพร(หมื่นฟ้ารวมหนึ่ง) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,102
    ค่าพลัง:
    +16,624
    มะอะอุ

    อรุณสวัสดิ์ครับ เกี่ยวกับคาถามะอะอุนี้เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยเพราะจะเห็นได้จากคาถาหรือรอยจารของพระเกจิต่างๆ ซึ่งหลายครั้งพ่ออาจารย์ท่านก็ชอบใช้คาถานี้ในการจารเครื่องมงคลเหมือนกัน

    บางคนที่อ่านขอมพอออกบ้าง หรือบางคนที่เห็นรอยจารมะอะอุนี้ มีหลายคนและหลายครั้งที่เวลาเช่าเครื่องมงคลมักจะขอให้พ่ออาจารย์ท่านลงจารยาว จารเต็มๆ จารคาถาแปลกๆ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นความคิดของเหล่าคนที่ชอบของพิเศษ ของแปลก ของที่ดูไม่ธรรมดา

    แต่เหนือสิ่งอื่นใดเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าพูดถึงคาถาแล้วไม่มีสิ่งใดเกินพุทโธ กับมะอะอุนี้ไปได้ ทั้งภาวนาก็มีคุณได้ล้านช่องดุจฝอยท่วมหลังช้างสุดแต่จะใช้ ซ้ำยังเป็นคำที่จำง่าย จำกันได้ขึ้นใจ ใช้ก็ยิ่งง่าย หากแต่กลับไม่ค่อยมีใครใช้กันไม่ว่าจะใช้ทางคาถาก็ดี ใช้ทางภาวนาก็ดี


    - เกี่ยวกับ มะ อะ อุ

    มะ อะ อุ คำสามคำนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีปรากฏในพระสติปัฏฐานเกี่ยวเนื่องในวิธีทำสันโดษของพระพุทธองค์ เป็นคำสั้นๆแต่มีความหมายยิ่งใหญ่

    มะ ย่อมาจาก มหาปุริสะ หมายถึงพระมหาบุรุษผู้นั้น ทรงเปี่ยมไปด้วยกำลังแห่ง
    บารมีทั้งสามสิบทัศ โดยปฐมาจารย์แต่โบราณแทนอักษร"มะ"ด้วยกำลังของศีล ซึ่งศีลนี้เองก็เป็นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ เป็นบาทฐานแรกแห่งการภาวนาทั้งปวง เช่นนั้นบุคคลผู้ทุศีล ผู้ไม่มีศีลสมบูรณ์แล้วย่อมจะกระทำการภาวนาให้ดีหรือสำเร็จนั้นเป็นไปไม่ได้เลย พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าแค่อักษรมะตัวเดียวนั้นก็ครอบคลุมบารมีทั้งสามสิบทัศน์ไปทั้งหมดแล้ว

    อะ ย่อมาจาก อาโลโก ที่แปลว่าแสงสว่าง คำว่าแสง สว่าง ในที่นี้ย่อมถูกนำมาเปรียบกับสมาธินั่นเอง ดุจแสงสว่างที่ขจัดความโง่เขลา ความมืดบอดอันเกิดจากจิตที่เป็นสมาธิ พ่ออาจารย์ท่านให้เหตุผลว่าเพราะสมาธิในเบื้องต้นนั้น บุคคลผู้ปฏิบัติย่อมปรากฏแสงสว่าง หรือนิมิตขึ้นมา เรียกว่าสีต่างๆก็ได้ เรียกว่ารัศมีก็ได้ซึ่งแสงสีเหล่านี้จะเกิดจากการปฏิบัติสมาธินั่นเอง เช่นนั้น"อะ"ตัวอักขระนี้ย่อมเปรียบเสมือนกำลังแห่งสมาธิฌาณ อันเป็นคติที่สองในบาทฐานของการภาวนา

    อุ ย่อมาจาก อุตมปัญญา ถูกนำมาใช้แทนความหมายของปัญญา พ่ออาจารย์ท่านว่าอันตัวอุตมปัญญานี้ไม่ใช่ปัญญาเพียงทั่วไปหากแต่เป็นปณิธานสูงสุดในพระศาสนาของพระตถาคตเจ้า นั่นคือกำลังปัญญาในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า กำลังปัญญาอันไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนหรือเทียบเท่าและยิ่งกว่า เป็นกำลังปัญญาที่จะบังเกิดเฉพาะในพระสัพพัญญุตญาณมิได้มีปรากฏในพระอัครสาวกหรือพระสาวกหมู่หนึ่งหมู่ใด เรียกว่าเป็นคุณของพระพุทธเจ้าที่จะแสดงออกให้นิกรชนทั้งหลายได้พบเห็นด้วยพระฉัพพรรณรังสีทั้งหกประการเท่านั้น

    เช่นนั้นมะก็คือโชตินี อะก็คือพระแสง อุก็คือพระฉัพพรรณรังสี
    ซึ่งสามสิ่งนี้มีบาทฐานมาจากศีล สมาธิ และปัญญา อันเป็นหลักการสำคัญของการบำเพ็ญปฏิบัติ เป็นหลักการของการบรรลุโพธิญาณ เป็นองค์คุณและกำลังของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงว่ามะอะอุแค่สามคำนี้ถ้าผู้ใดรู้ความหมาย ถ้าผู้ใดภาวนาได้ หรือแม้แต่ผู้ใดเกิดศรัทธาอย่างจริงใจแลนำไปเป็นบาทฐานของการบำเพ็ญบารมีในชีวิตประจำวันแล้วล่ะก็ ผู้นั้นถือได้ว่ามีกำลังแห่งพระพุทธคุณ มีกำลังอันประเสริฐของพระพุทธเจ้าท่านหนุนนำและเป็นผู้ชี้ทางการดำเนินชีวิตทีเดียว ดังนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงกล่าวเสมอว่าอย่าได้ไปดูถูกดูแคลนพระคาถาใดๆเลย แม้จะสั้น แต่บทที่ว่าสั้นนั้นอาจจะประเสริฐที่สุด เป็นจุดแทนกำลังอันสูงสุดยิ่งกว่าบทยาวๆบทไหนๆก็เป็นได้ เช่นนั้นเธอจงรู้และนำไปใช้ จงใช้อย่างเข้าใจ และใช้กันให้เป็น

    edu-photo-197576089587.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2018
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,102
    ค่าพลัง:
    +16,624
    แจ้งการส่งEMS
    พี่วีรภัทร EV 7739 4222 5 TH

    พี่วิศณุกร EV 7739 4223 9 TH

    พี่ศิระ EV 7739 4224 2 TH
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,102
    ค่าพลัง:
    +16,624
    ช่วงนี้มีคนถามหาตะกรุดมหาสะท้อนเข้ามาเริ่มจะหลายคนแล้ว ซึ่งตะกรุดตอนนี้ก็ไม่มีนะครับ เดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันอีกที
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,102
    ค่าพลัง:
    +16,624
    ใครที่ชอบแนวย้อนมาร ชะลอกรรม ที่เป็นมากกว่ามหาสะท้อนเดี่ยวเอาไว้ติดตามรายการพระเจ้าย่างบาทให้ดีๆ บอกได้คำเดียวว่าสุดดั่งพ่ออาจารย์ท่านอุปมาว่าตัวเราเดินเหยียบอยู่ใต้ร่มพระฉาย(เงา)ของพระพุทธองค์ทีเดียว ***วิชานี้ท่านว่าคนไม่เชื่อไม่ต้องใช้ เพราะถ้าใครไม่เชื่อก็ตกนรกอย่างเดียวให้ผลแรงถึงขนาดนั้น ในขณะเดียวกันคนที่เชื่อที่ใช้ก็เหมือนขาเขาเดินเหยียบอยู่ในร่มเงาของพระตถาคตเจ้า
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,102
    ค่าพลัง:
    +16,624
    มีคนฝากคำถามไว้ถึงวิธีทำให้รวย ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็บอกว่ารวยกันได้ทำได้ง่ายๆโดยไม่ต้องพึ่งคาถา เอาไว้ติดตามพูดคุยกันพรุ่งนี้นะครับ :)
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,102
    ค่าพลัง:
    +16,624
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วิชาพระเจ้าย่างบาทนี้มีคนสนใจอยู่มากจริงๆ เดี๋ยวรอบสายๆจะลงให้นะ บอกได้คำเดียวแค่เม็ดมหาธาตุที่พ่ออาจารย์ท่านทำวิชานำมาฝังนั้นก้ประสบการณ์ดีสุดๆทางพลิกดวงแล้ว ปกติก็ให้บูชาเอาไปทำจี้เลี่ยมทองของผู้หญิงก็เม็ดละสี่พันแล้วเพราะทำยากมาก ดังนั้นรายการนี้ใครได้ไปถือว่าคุ้มสุดๆเลย
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,102
    ค่าพลัง:
    +16,624
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญย้อนมารพระเจ้าย่างพระบาท (ชะลอกรรม)

    "วิชานี้คนอาราธนา ดุจตัวเขาเดินเหยียบอยู่ใต้ร่มพระฉาย(เงา)ของพระพุทธองค์...เดินเหยียบอยู่ในร่มเงาของพระตถาคตเจ้า จะปิดกั้นตัวเขาออกจากเรื่องวุ่นวายต่างๆทั้งหลายทีเดียว"

    เพื่อไม่ให้รับรู้เรื่องวุ่นวายต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างเครื่องมงคลที่ให้ผลทางมหาสะท้อนอย่างหนักควบคู่ไปกับความเจริญก้าวหน้า เจริญรุ่งเรืองด้วยจุดประสงค์หลักที่ท่านตั้งใจไว้เพื่อให้คนใช้มีชีวิตที่ขยับเยื้อน เคลื่อนไหวได้แบบก้าวกระโดด ดังนั้นท่านจึงได้ทำวิชาพระเจ้าย่างพระบาทของเสด็จพระใหญ่ที่ถือว่าเป็นที่สุดของศาสตร์แห่งการสงเคราะห์ด้วยแรงครูอย่างแท้จริง ถึงกับว่าเหรียญสำคัญนี้ "ถ้าไม่น้ำตาตกอย่าเพิ่งเอามาใช้"

    ด้วยปัจจุบันท่านเห็นว่าคนเริ่มน้ำตาตกใน เจ็บช้ำน้ำใจจากภัยรอบด้านด้วยไม่อาจต่อต้านหรือเปลี่ยนแปลงวงจรชีวิตของตนให้ดียิ่งๆขึ้นไปได้ พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าอาการเหล่านี้ตรงกับคำของเสด็จพระใหญ่ท่านนั่นคือคนเริ่มน้ำตาตกในแล้ว ควรแล้ว ถึงเวลาแล้วที่จะเอาวิชาพระเจ้าย่างพระบาทนี้ให้กับคนที่เหมาะสมและคู่ควรใช้อาราธนาเพื่อวัตถุประสงค์ชะลอกรรมด้วยวิชาและแรงของครูต้นวิชานั่นเอง

    พระเจ้าย่างพระบาทนั้น พ่ออาจารย์ท่านเปรียบเทียบเอาไว้ว่าดุจครูท่านย่างเท้าก้าวเข้ามาในชีวิตเรา ดุจครูท่านยื่นขาเดินเข้ามาร่วมชะตากรรมอยู่กับเราเรียกว่าตกบันไดพลอยโจนทิ้งตัวลงมาอยู่กับเราแล้วเช่นนั้นก็ว่าได้ ดังนั้นวิชานี้จึงเป็นวิชาสำคัญที่เรียกว่าเลือดไม่เข้าตาอย่างถึงที่สุดก็อย่าได้นำมาใช้เพราะคุณครูบาอาจารย์นั้นจะช่วยให้เจริญรุ่งเรืองได้อย่างน่าประหลาดใจ ที่แย่กลับเป็นรุ่ง จากดวงที่ตกต่ำกลับได้ดีเจริญด้วยธนสารสมบัติ ทั้งยังปราบศัตรู ปราบทุกข์เข็ญ พิชิตมาร ทำให้สิ่งที่ข้องขัดและแน่นิ่งไปแล้วไหลลื่น สามารถก้าวต่อไปได้เรื่อยๆไม่หยุดอยู่กับที่และไม่ถอยหลังลงด้วยอาถรรพ์คุณวิชาดุจพระเจ้าเยื้องย่างพระบาทประกาศพระศาสนามีแต่จะก้าวไปข้างหน้าไม่มีทางถอยหลังกลับ เช่นนั้นจึงมีคติไว้ว่าผู้ใดรับไปอาราธนานั้นต้องมีบุญสัมพันธ์กับสมเด็จพระตถาคตเจ้า ด้วยเขาจะใช้ชีวิตดุจเดินเหยียบอยู่ในร่มเงาของพระศาสดา เช่นนั้นคนไม่เชื่อก็ไม่ต้องใช้ เพราะถ้าใครไม่เชื่อก็จะตกนรกอย่างเดียวด้วยเป็นวิชาของพระองค์ท่านให้ผลแรงถึงขนาดนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านเลือกทำวิชาพระเจ้าย่างพระบาทนี้กับพระพิมพ์ลีลาทุ่งเศรษฐี ท่านว่านอกจากอาถรรพ์จากคุณวิชาแล้วรูปแบบพิมพ์ทรงก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะผลักดันซึ่งกันและกันด้วย โดยท่านได้ขอยืมพระลีลาเม็ดขนุนกรุทุ่งเศรษฐีกำแพงเพชรมาหนี่งองค์จากศิษย์ที่มีความเป็นอยู่สุขสบายโดยเชื่อว่ามาจากพุทธคุณการอาราธนาพระพิมพ์พิเศษนี้ โดยทางผู้ให้ยืมก็มีข้อแม้อยู่ว่าเมื่ออาจารย์ท่านสร้างเสร็จต้องเก็บไว้ให้เขาร่วมทำบุญหนึ่งองค์ ที่ท่านยืมองค์พระเขามานั้นก็เพื่อจะตรวจดูว่าพระที่เจ้าสัวเขาใช้นั้นมีมงคลอย่างไร มีสิริเช่นไร โบราณเขาเสกอะไรไว้ บรรจุพุทธานุภาพด้านไหนและพระลีลาพิมพ์นี้ที่เศรษฐีเขาเชื่อว่าเปลี่ยนชีวิตเขานั้นมีคุณต่างจากพระลีลากรุนี้องค์อื่นๆอย่างไร พอท่านรู้แล้วท่านก็ปั้นหุ่นเทียนเป็นพระพิมพ์ลีลาเม็ดขนุนเช่นนั้น ด้วยถือคติว่าจะทำวิชาพระเจ้าย่างพระบาทใส่พระลีลาก้าวหน้าให้เป็นมงคลนิมิตแห่งความก้าวหน้า ความเจริญรุ่งเรือง ความสำเร็จเพิ่มพูนเกียรติยศแบบไม่รู้สิ้นสุด ดั่งคำว่ามีแล้วไม่จนเป็นอย่างไรท่านก็จะทำให้เช่นนั้น เพราะนี่คือพระเศรษฐี เพราะนี่คือพระพุทธลีลา เพราะนี่คือพระประทานพร เป็นพระองค์เดียวที่มีคุณูปการอุปถัมภ์ให้คนใช้เจริญก้าวหน้าเป็นเศรษฐีได้ไม่หยุดนิ่งซ้ำยังประทานพรให้เราดั่งใจได้ทุกสิ่ง ท่านนำหุ่นเทียนนั้นมาเสกทำวิชาให้แก่กล้าอิทธิคุณดุจพระลีลากรุทุ่งเศรษฐีองค์นั้นทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านเสกกำกับทำวิชาจนมั่นใจว่าใครได้ไปมีไว้จะไม่ตกอับ จะต้องสำเร็จ และต้องเจริญไปควบคู่กันเท่านั้น เรียกว่าเสกให้เสร็จนานนับเดือนตั้งแต่เป็นหุ่นเทียนนั่นทีเดียว

    ต่อจากนั้นท่านจึงนำธาตุกายสิทธิ์มาหลอมรีดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อลงวิชาอาถรรพ์พระเจ้าย่างพระบาท อันมีอำนาจพิเศษนอกเหนือจากที่กล่าวไปแล้วเพื่อใช้ชะลอผลแห่งกรรมได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ท่านเองยังได้กำกับวิชาชะลอกรรมตามศาสตร์ของหลวงปู่แช่ม วัดตาก้อง เสริมลงไปด้วยอีกคำรบหนึ่งเพื่อให้มั่นใจว่าจะเกิดผลการชะลอกรรมทั้งหนักและเบาทั้งหลายอย่างแน่นอนด้วยอำนาจแรงครู เสร็จแล้วจึงนำแผ่นธาตุกายสิทธิ์มาอธิษฐานเข้าสมาธิเสกตามวิธีของท่านจนจิตเกิดความว่างแล้วถอยอารมณ์เดินคาถาเสกแผ่นธาตุศักดิ์สิทธิ์นี้จนเกิดนิมิตสำเร็จในเบื้องต้น พ่ออาจารย์ท่านว่าการชะลอกรรมนั้นชื่อก็ตรงตัวอยู่แล้วเราจะไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้อีก เอาว่ารู้ตัวกันนะสำหรับคนที่กรรมมันหนักมากจนหยุดไม่ได้แล้วจริงๆก็ควรรู้ตัว ในเมื่อหยุดไม่ได้แต่กลับชะลอได้ การชะลอนี้ก็คือการให้โอกาสเธอมีชีวิตใหม่ ให้โอกาสได้สะสม ได้ประกาศคุณงามความดีให้สมกับเป็นคนที่ได้รับโอกาสแล้ว อย่าเอาไปใช้ให้เสียของเปล่ามีโอกาสแต่กลับไม่ทำบุญไม่สนใจการภาวนา เช่นนี้ท่านว่าอย่าได้เอาไปเลยเพราะต่อให้มีของดีเพียงไหน มีโอกาสอย่างไรก็เสียชาติมนุษย์เปล่าๆ

    พ่ออาจารย์ท่านอธิษฐานจิตหลอมรีดทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าห้าสิบหกครั้ง เท่ากับกำลังของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ให้มีอิทธิคุณแฝดดั่งกำลัง ดั่งคุณของพระชินสีห์เช่นนั้น ก่อนจะหล่อหลอมให้สำเร็จและเทเนื้อธาตุเป็นพระพิมพ์ และทำการเสกพระพิมพ์นั้นทั้งยังเชิญเสด็จพระใหญ่มาแผ่กำลังทำวิชาพระเจ้าย่างพระบาทให้จนสำเร็จในวาระแรกอีกแปดสิบครั้งให้ได้เท่าวาสนาของพระชินสีห์ดั่งกำลังของ “พุทธะ” ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ผู้รื่นเริงอยู่ในธรรม และไม่มีการหวนกลับย้อนคืนมาสู่ความเป็นปุถุชนอีก เมื่อก้าวไปข้างหน้าย่อมขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุด(พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ทำยากอย่างมาก แค่คิดจะเสกก็นานนับปีแล้ว เพราะทุกอย่างของพิธีกรรมล้วนสัมพันธ์กับวาสนาของพระตถาคตเจ้า ด้วยหมายเอาวาสนานั้นดึงคน ดึงผู้มีบุญสัมพันธ์ในอดีตอยู่บ้างแม้เพียงเล็กน้อยกับพระองค์ให้พ้นออกจากเรื่องวุ่นวายทั้งหลาย) หลังจากนั้นจึงนำมาทำวิชาเศรษฐีก้าวหน้าอีกวาระหนึ่งเพื่อหวังอานิสงส์ให้กำราบทุกข์เข็ญ ความอดอยาก แห้งแล้ง และโรคภัยนานาประการที่กำลังเป็นอยู่ เพื่อประโยชน์ใหญ่ที่จะเห็นแจ้งแก่ตนเองว่าไม่ช้าไม่นาน ทั้งอาเพศ ภัยร้าย และทุกข์เข็ญ ความอดอยาก สิ่งขาดแคลน และโรคที่ย่ำยีทั้งหลายจะค่อยๆหมดไปอย่างน่าอัศจรรย์ ให้ผู้ใช้อยู่รอดปลอดภัยจากทั้งภัยของมนุษย์ที่พยายามคุกคาม ภัยจากอมนุษย์ ภัยจากธรรมชาติ และภัยที่มีอันตรายจนอาจทำให้เจ็บให้ตายได้ เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย มีกินมีใช้ต่อเนื่องไปจนถึงกาลดับซึ่งธาตุสังขาร ทั้งยังส่งเสริมให้มีวาสนาและบารมีเหนือผู้อื่นๆ แลมีความเจริญก้าวหน้าในอาชีพหน้าที่การงานที่คิดจะทำ ได้เป็นเจ้าคนนายคนหรือประสบความเจริญรุ่งเรืองในกิจธุระแห่งตน มีชีวิต ขยับเยื้อนเคลื่อนไหวได้แบบก้าวกระโดด

    เมื่อได้องค์พระแล้วท่านจึงนำมาอุดด้วยผงพระเจ้าเปิดบาตรอีกรอบหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากจะเจริญก้าวหน้าแล้วยังต้องอุดมสมบูรณ์ด้วย ให้อุดมสมบูรณ์ร่ำรวยในโภคทรัพย์ ให้อยู่ยั้งยืนยงเป็นหลักชัยแห่งความสำเร็จ ด้วยอาศัยคุณบาตรแห่งพระตถาคตเจ้าที่เปิดเมื่อไหร่เป็นเต็มเมื่อนั้น อุปมาดั่งพระองค์เลี้ยงภิกษุและพุทธบริษัทได้มากมายฉันใดก็จะเผื่อแผ่พระพุทธานุภาพมาฉุดดึงเราได้มากมายดุจเดียวกัน ทั้งนี้องค์พระเจ้าย่างพระบาทนั้นพ่ออาจารย์ท่านยังได้นำสิ่งมงคลมีอิทธิคุณรุนแรงฝังไว้เสริมอำนาจให้อีกดังนี้
    - เม็ดมหาธาตุปาฏิหาริย์ ของใช้เฉพาะทางด้านพลิกกลับชะตาชีวิตคนที่พ่ออาจารย์ท่านหวงแหน ท่านว่าเขาก็มีชื่อ มีคุณสมดั่งชื่อของเขานั่นคือเม็ดมหาธาตุที่เอาไว้สร้างปาฏิหาริย์นั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะทำมาให้คนได้ใช้ก็ไม่ใช่ง่าย เพราะท่านต้องนำธาตุปาฏิหาริย์พูดง่ายๆก็คือพระกรุต่างๆที่ท่านทำพิธีไปดัก ไปเชิญขึ้นมานำมาเก็บไว้นำมาล้างมาหล่อหลอมกำลังธาตุและหุงประชุมธาตุทั้งหมดใหม่ ท่านว่าพระกรุเหล่านี้แม้จะเอาองค์อื่นในกรุเดียวกันมาใช้ก็ยังนับว่าใช้ไม่ได้ ไม่เป็นอะไรทั้งสิ้น ด้วยท่านจะใช้เฉพาะพระกรุที่เสด็จหนี วิ่งได้ตามพื้นดิน ต้องทำพิธีดัก ทำพิธีขุดกว่าจะได้ซักองค์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าลงทุนลงแรงไปมากมาย เพราะเชื่อว่าพระกรุประเภทนี้จะมีคุณแรงกล้ากว่าพระองค์อื่นในกรุเดียวกันดุจเป็นองค์จ่าฝูงที่แก่กล้าอิทธิคุณกว่าองค์อื่นทั้งหมด ท่านว่าสมัยสามถึงสี่สิบปีก่อนท่านก็จะออกหาจะคอยดักทั้งพระท่ากระดาน พระร่วงและพระยอดขุนผลต่างๆซึ่งตอนนั้นยังไม่มีราคาค่านิยมมาก พอได้มาก็สะสมไว้แล้วตอนหลังครูสมเด็จท่านแนะนำให้ทำเม็ดมหาธาตุปาฏิหาริย์นี้ขึ้นมา เมื่อหล่อออกมาได้แล้วก็จะนำมาตีบุไว้ด้วยแผ่นตะกั่วน้ำนมที่ลงคาถามหาเศรษฐี เก็บเอาไว้ให้คนที่มีศรัทธาอย่างจริงใจนำไปทำจี้ทองคำเลี่ยมบูชา พ่ออาจารย์ท่านว่าเม็ดมหาธาตุนี้มีปาฏิหาริย์มากนะไม่ใช่เพียงหนุนชีวิต พลิกชีวิตแต่คุ้มครองเองก็ใช่ย่อย เห็นคนที่เขาห้อยเขาว่าแม้แต่ฟ้าผ่าลงมาใส่เขาก็ยังไม่เป็นอะไร(ไม่ใช่ฟ้าผ่าไม่ตายนะ)แต่คนเขาว่าเห็นสายฟ้านั้นแยกออกเป็นหลายเส้นและเบี่ยงออกไป นั่นคือแม้ฟ้าก็ยังไม่ทำอันตรายผู้ครอบครองมหาธาตุนี้
    - ตะกรุดย้อนมารสะท้อนกลับ ดีก็คืน ชั่วก็สนอง ให้ทำใจกลางๆเดี๋ยวเกิดผลเองให้ทำใจเสียว่า "กรรมใครกรรมมัน" พ่ออาจารย์ท่านได้ลงเฑาะว์มหากระดอนสะท้อนกลับ เสริมด้วยมหาสะท้อนย้อนมารผลาญศัตรู ท่านว่าวิชาตะกรุดชุดนี้ฉันทำไว้ให้เธอแค่กันตัวนะอย่าเอาไปใช้ทำร้ายใคร เพราะปกติแล้ววิชานี้จะมีแรงครูสูงมาก สมัยลองวิชาท่านว่ามีแขกฮินดูมาทำของใส่ฉัน ตอนนั้นเขาท้าตรงๆซึ่งหน้ากันเลย เรียกว่าเราก็ยอมให้เขาท้าเลยอยากทำอะไรก็ทำไป ตัวเราก็นั่งภาวนาตำรับย้อนมารไปเรื่อยๆนี่แหละ ส่วนในมือก็กำหนดจิตขีดลากเฑาะว์ตัวนี้แล้วตบเอาคุณไสยที่เขาทำมากลับไป ปกติวิชาทางนั้นของพวกแขกทมิฬจะนับว่าเป็นวิชาฆ่าคนแบบไร้รูป ไร้เสียงที่ค่อนข้างรุนแรงขนาดว่าแม้โดนไปก็ยังตายทรมานเรียกว่าถึงตายก็ไม่ได้ตายดีและแก้ไขได้ยากมากที่สุด แต่คุณของการสะท้อนย้อนมารนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเวรกรรมมันสนองตรงนั้นเลย นับถอยหลังไปสามวันไอ้ไสยวิชชาที่เค้าทำเรานั่นแหละก็เข้าตัวเขาและตายตกไปชนิดไม่น่าดูชม ดังนั้นวิชาสะท้อนตัวนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงนำมาฝังไว้ในองค์พระให้คุ้มครองป้องกันตัวผู้บูชา ท่านว่าเราจะไม่เสี่ยงทำเป็นตะกรุดเฉยๆเด็ดขาดเพราะไม่รู้ว่าอารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆของคนปกตินั้นเขาจะเอาไปใช้ทำอะไรกันบ้าง เพราะวิชานี้ถ้าลองได้กำตะกรุดและไปสาปแช่งใครเข้าแล้วเอาว่าผลน่ากลัวจนไม่กล้าคิดทีเดียว ดังนั้นท่านจึงบรรจุไว้ในองค์พระ ท่านว่าหากใครคิดร้าย ทำร้าย หรือกระทำเราก็ให้เขารับเวรรับกรรมไปตามสมควรแห่งความคิดและการกระทำเขาเท่านั้นพอ แม้เขาดีกับเราชีวิตเขาก็ดี แม้เขาร้ายกับเราชีวิตเขาก็สั้นเต็มทีเช่นนี้
    - พลอยดิบบูรพาจารย์ พลอยดิบชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันเก็บไว้นานแล้วนะ สมัยก่อนเวลาไปกราบไหว้ครูบาอาจารย์ที่ไหนก็จะขอเมตตาท่านให้ลงให้หน่อย เรียกว่าผ่านมือครูบาอาจารย์ยุคเก่าทำวิชาให้มามากมายจนฉันเองก็จำได้ไม่หมด ตั้งแต่หลวงปู่ขาวท่านก็เสกให้พร้อมกำกับว่าสว่างหมดแล้ว หลวงพ่อกวยท่านก็เสกให้เพราะฉันขอให้ท่านลงจินดามณีให้ด้วย หลวงปู่โต๊ะท่านก็ทำให้บอกว่าเสกรวมไว้กับพระปิดตา(ชุดดังในปัจจุบัน)เลย ...จนถึงหลวงพ่อฤาษีท่านบอกว่าข้าเสกไม่ลงว่ะเพราะคนที่ทำไว้ก่อนหน้าเขาเชิญพระพุทธเจ้ามาทำให้แล้ว ดังนั้นพลอยดิบชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงเก็บไว้และไม่ค่อยนำมาใช้เพราะกลัวคนจะเห็นว่าเป็นแค่พลอยดิบ กลัวคนเขาจะเผลอคิดปรามาสครูบาอาจารย์เพราะไม่ได้รู้ว่าเป็นของมีค่า ซึ่งพลอยดิบสมัยนี้ก็มีฝังอยู่ในวัตถุมงคลทั่วๆไป เช่นนั้นท่านจึงเก็บมาตลอดแต่หนนี้ที่ทำพระเจ้าย่างพระบาทนั้นพ่ออาจารย์ท่านตั้งใจจะทำให้องค์พระมีแรงครูหนุนนำอย่างแรงกล้า ท่านจึงนำเอาพลอยดิบชุดนี้มาฝังไว้ ท่านว่าใครรู้ค่าก็มาเอาไป

    เมื่อเสกทำวิชาและฝังของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆแล้ว พ่ออาจารย์ท่านก็ทำวิชาดั้นเมฆเสริมองค์พระอีกคำรบหนึ่งเป็นอันเสร็จพิธี ท่านว่าดั้นเมฆก็คือยกเมฆบังดวงอาทิตย์ วิชานี้ต้องเสกแดดจ้าๆเสกกำหนดนิมิตยกเมฆมาบังดวงอาทิตย์จนเมฆเคลื่อนมาบังปิดแสงนั้นทั้งหมด ท่านว่าอาถรรพ์แห่งคุณวิชานั้นกันเดือดร้อน กันทุกภัยทั้งปวงได้ เมื่อเสกดั้นเมฆแล้วพ่ออาจารย์ท่านต้องถอนจิตมาระดับอุปจารสมาธิเชิญเสด็จพระใหญ่และครูต้นวิชาเต็มอัตรากำหนดจิตให้ผู้นำไปใช้สมความปรารถนา ทั้งยังยกดวง ยกชะตา ยกใจคน ยกชีวิตคนไม่ให้ตกต่ำ ท่านว่าเมื่อยกขึ้นเขาก็จะไม่ล้ม เมื่อเขาไม่ล้มเขาก็จะก้าวต่อไปเรื่อยๆไม่หยุดนิ่งเช่นนั้นจึงเป็นอันเสร็จพิธี

    คาถาบูชา
    พุทโธ ภควา (พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้ากำลังใจดีก็นึกถึงพระพุทธเจ้าและเกาะพระองค์ท่านไปไม่ต้องใช้คาถาใดๆเลย แต่ถ้ากำลังใจยังไม่ถึงก็ให้ภาวนาไปจนนิ่งแล้วเกาะท่านไป)

    *** องค์พระนี้เหลือให้บูชาห้าองค์ พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ให้พูดเยอะเพราะตั้งแต่เริ่มทำทุกอย่างก็ถูกกำหนดให้เข้ากับวาสนาในพระตถาคตเจ้า จะมีเฉพาะผู้ที่มีวาสนาสัมพันธ์กับองค์พระชินสีห์เท่านั้นที่จะได้ไปอาราธนา รับจองเฉพาะทาง PM รายได้ร่วมสมทบทุนวิหารทาน

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญย้อนมารพระเจ้าย่างพระบาท (ชะลอกรรม) บูชา 4,000 บาท

    45769053-265126447690938-7327912976680222720-n.jpg 45728276-2147096778645582-2505604287497764864-n.jpg
    45593437-486505878504300-246717343982419968-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2018
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,102
    ค่าพลัง:
    +16,624
    เหรียญย้อนมารนี่ ถ้าใครอ่านได้จนจบจริงๆนับว่ามีวาสนาแต่เดิมไม่ธรรมดาผมเชื่อแบบนั้นนะ แต่ถ้าใครได้อาราธนานี่ก็เป็นวาสนาล้วนๆอีกเหมือนกัน
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,102
    ค่าพลัง:
    +16,624
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่นฤชา EV 7740 4904 0 TH

    พี่กรธัช EV 7740 4905 3 TH
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,102
    ค่าพลัง:
    +16,624
    พูดคุย

    - พระเจ้าย่างบาทนี่พ่ออาจารย์ท่านจะค่อยๆนั่งประสิทธิทำให้ ท่านว่าเราขอให้เขารวยขอจนครูบาอาจารย์ทานถามว่าจะเอาเงินไปทำอะไรนักหนา (อันนี้พูดตามท่านบอกก็ลองคิดกันเองครับแสดงว่าท่านต้องขอชนิดที่ไม่เกรงใจใครเพื่อให้คนใช้ได้ดีสุดๆจริงๆ)

    - ส่วนเรื่องที่ค้างกันไว้เมื่อวานก็คือทำอย่างไรให้รวยโดยไม่ต้องแขวนอะไรทั้งสิ้น เรื่องนี้พ่ออาจารย์ท่านตอบว่าทำง่ายๆนั่นคือรักษาศีลให้ครบเพราะศีลทั้งห้าข้อนั่นแหละจะเป็นที่มาแห่งโภคทรัพย์ ถ้าเราเคร่งครัดรักษาครบ รักษาได้ทุกข้อ ยิ่งอันไหนที่เป็นนิสัยแก้ได้ยากและเราทำมาประจำ ถ้าเราลดเราเลิกได้อันนี้ยิ่งมีอานิสงค์มาก ตั้งแต่เลิกฆ่าสัตว์ เลิกเบียดเบียนสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ลักเล็กโขมยน้อยหรือไปหยิบฉวยอะไรที่เจ้าของเขาไม่ให้... นี่ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านบอกว่ารักษาศีลห้านี่ทำได้ง่ายๆเลย เอาแค่มีสติเราก็รักษามันได้แล้วทุกข้อ เพราะพอเรามีสติเราก็รู้ตัว รู้ว่าเราคิดอะไร พอมันคิดแล้วเราก็ต้องรีบดับความคิดนั้นเสียอย่าปล่อยให้ความคิดมันพัฒนาเป็นความอยาก ความตั้งใจและเปลี่ยนเป็นการกระทำ ถ้าเราดับได้เสียตั้งแต่ยังเป็นความคิดเช่นนี้รับรองศีลจะครบ เราจะมีบุญเป็นที่พิศมัยของมนุษย์และอมนุษย์ และในเรื่องอื่นๆเช่นโชคลาภ ความโชคดี ความสำเร็จอะไรทั้งหลายนั้นมันจะไม่ใช่สาระสำคัญเลย ซ้ำมันจะเดินเรียงหน้าเข้ามาหาเราเอง เพราะศีลนั้นนำความสุขมาให้ ถ้าเราดับความคิดชั่วร้ายได้ผลมันก็จะทำให้เราโชคดีพูดง่ายๆตรงๆกันแบบนี้เลย แต่ต้องจำไว้ว่าให้ทำเป็นนิสัย ให้ปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำได้เรื่องนึง ทำได้ชั่วโมงนึง ทำได้วันนึงแล้วมันจะไปเปลี่ยนชะตาชีวิตเราได้ ท่านว่าต้องทำไปเรื่อยๆเป็นขั้นๆต่อเนื่องสะสมขึ้นไปเหมือนเราหยอดกะปุก ให้หยอดไปเรื่อยๆไม่ต้องนับ หยอดไปประจำจนเป็นนิสัยเดี๋ยวมันก็เต็ม

    - สุดท้ายก็เรื่องของพี่จักร อันนี้ใครมองข้ามไปเรียกว่าหดหู่แทนจริงๆ มีพี่ท่านนึง (คนนี้ดวงตาจะแจ่มใสมาก) เค้าว่าเช้าวันที่พี่จักรมาถึง(ems) พี่เขาก็มีนิมิตว่าได้กลืนกินจักรลงท้องไปทั้งสององค์ พอกินลงไปแล้วดั่งคล้ายอารมณ์เข้าสู่สมาบัติขั้นสูงสุด ***อันนี้ก็บอกไว้แต่ต้นแล้วว่าเป็นของคู่บารมีคนจริงๆ ของใครของมัน แต่ให้จำไว้ว่าจักรนั้นเป็นเครื่องบริโภค(พาหนะ อาวุธ)ของเทพเจ้า ของโพธิสัตว์ ของพระจักรพรรดิ์ เช่นนั้นคนไม่มีบุญจะถือครองไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าเค้าจะไม่สนใจ ไม่รู้ค่าไปเฉยๆ ในขณะที่คนมีบารมีมากพอ บำเพ็ญสั่งสมบุญมาจนถึงจุดๆหนึ่งแล้ว เค้าจะรู้ได้ทันทีว่าจักรนี้เป็นตัวแทนจักรรัตนะในอนาคตกาลของเขา จะต้องมาเสริมส่งสร้างบารมีไปกับเขาทุกชาติ พี่คนนี้เขาบอกว่าพี่จักรรุ่นนี้เป็นตำนานและมีอะไรยิ่งกว่าหมายถึงขั้นที่มากกว่าที่พ่ออาจารย์ท่านบอกเอาไว้จริงๆ ขนาดที่พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าถ้าชีวิตใครตกต่ำให้ถือจักรนี้บูชาคนละสององค์ แต่พี่เขาว่าชีวิตเขาราบรื่นดีแต่ก็มีนิมิตกลืนกินจักรไปทั้งสององค์ จะเห็นได้ว่าบางอย่างถ้าพ่ออาจารย์ท่านบอกอะไรไว้อันนั้นก็คือสิ่งที่จำเป็นสำหรับบางคนจริงๆ

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,102
    ค่าพลัง:
    +16,624
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    รายการที่โอนๆไว้เดี๋ยวเคลียร์ยอดจัดส่งให้วันจันทร์นะ

    ก็จะมาเล่าต่อเพราะได้ข้อความไลน์มาเมื่อคืนเรื่องของสุทัศนจักร พี่เขาเล่าว่าคืนก่อนนั่งสมาธิโดยกำพี่จักรไว้ เห็นเทพเจ้าฮินดูองค์หนึ่งท่านมาให้เห็นหน้าตาคุ้นๆแต่นึกไม่ออกว่าท่านใดเพราะปกติจะจำได้แต่พระศิวะ ซึ่งท่านมีเอกลักษณ์ที่ศรีษะคล้ายใส่มงกุฏทองใหญ่ๆจำได้เฉพาะจุดนี้ พอออกจากกรรมฐานก็เปิดกูเกิ้ลเพราะจำได้ว่าใส่หมวกอะไรทองๆนี่แหละ จึงหารูปพระนารายณ์ก่อนเลยสรุปรูปที่เจอเป้ะมากเหมือนกันกับที่ท่านแสดงให้เห็นเลย ***พี่เขาเล่าเพิ่มเติมว่าก่อนออกพระไพรีพินาศสักหลายวันพระขันธกุมารท่านก็มาโปรดให้เห็น ก็จำได้เพราะสีเสื้อกับหน้าตาดูหนุ่มกว่า

    **ก็เอามาเล่าพูดคุยกันไว้ เอาว่าใครได้จักรรุ่นนี้ไปเอาไปนั่งกำเวลาเข้าสมาธิดู หรือจะพกติดตัว จะใช้อย่างไรก็ตามแต่จะอธิษฐานได้เลยเพราะพ่ออาจารย์ท่านว่ากำหนดนิมิตให้จักรครอบตัวเราเองก็ได้ ทำได้ทุกอย่าง
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,102
    ค่าพลัง:
    +16,624
    กายสิทธิ์มีค่ามากกว่าทองคำ

    ก็มีคนฝากถามมาว่าจริงหรือไม่ที่พระเครื่องหรือเครื่องรางหากใช้วัสดุที่มีค่ามาสร้างจะยิ่งมีพลังงานมากและพ่ออาจารย์ท่านจะทำเครื่องมงคลเป็นเนื้อทองคำบ้างมั๊ย

    ตรงนี้ก็ตอบไว้อีกรอบนะครับ ว่ายิ่งวัสดุมีค่าเท่าไหร่พลังงานก็ยิ่งมากเท่านั้นและเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เข้ามารักษาเครื่องมงคลสักการะนั้นก็จะยิ่งมีระดับสูงมากขึ้นไปตามระดับของวัสดุที่ใช้สร้างเช่นกัน อันนี้ก็เป็นความเชื่อที่มีต่อเนื่องกันมาจึงสังเกตุได้ง่ายว่าผู้ที่พอมีกำลังทรัพย์นั้นเวลาหาพระห้อยจะต้องเลือกเนื้อที่มีราคาสูงที่สุดกล่าวได้ว่ายิ่งเป็นทองคำยิ่งดี

    ทั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านก็มีทำพระเนื้อทองคำอยู่บ้างคือทำให้เป็นคนๆไปถ้าเขาอยากได้ก็ให้ไปหาทองคำแท่งส่งมาท่านก็ปั้นหุ่นหล่อให้ และส่วนมากท่านจะไม่คิดราคาบูชาเลยด้วยซ้ำ เพราะท่านกล่าวว่าลำพังทองคำก็เปลืองทรัพย์โดยใช่เหตุอยู่แล้ว แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นด้วยทองคำนั้นมีราคาค่อนข้างสูง คนบางคนก็บูชาไม่ไหวแน่นอนพ่ออาจารย์ท่านจึงมักนิยมสร้างเครื่องมงคลของท่านด้วยธาตุกายสิทธิ์ที่ท่านหุงธาตุปรุงธาตุขึ้นมาด้วยตัวเอง

    ท่านว่าหากนับวัสดุที่ใช้สร้างแล้วธาตุกายสิทธิ์นั้นย่อมมีพลังและมีค่ามากกว่าทองคำเป็นไหนๆ อันนี้ก็เป็นคำตอบเรียบๆของท่านแต่เอาว่าชื่นใจเพราะท่านมั่นใจว่าตัวนี้ดีที่สุดในระดับนึง คือดีกว่าโลหะมีค่าอย่างทองคำเช่นนั้น***คำถามนี้ก็ตอบไว้แบบคร่าวๆไม่ขอลงลึกมากเพราะเครื่องมงคลธาตุกายสิทธิ์ของท่านมีคนจ้องเก็บกันตลอด ใครที่มีก็ควรนำมาห้อยบูชากันนะครับเพราะกว่าจะได้มาเป็นพระองค์นึงนี่แค่ท่านหุงธาตุทีก็ใช้เวลาหลายวันแล้ว

    b475bf7c9427a179e31fda933bba992b.jpg
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,102
    ค่าพลัง:
    +16,624
    พูดคุย

    เมื่อวานก่อนก็นั่งคุยโทรศัพท์กับพี่คนนึง ซึ่งเขาโทรมาหาจากต่างประเทศบอกว่าอาทิตย์นี้พี่ยังไม่ได้กลับนะ ก็โทรมายืนยันสถานะของที่จองไว้เพราะปกติแกจองอะไรเราก็จะเก็บไว้ให้ตลอดเพราะรู้ว่าแกต้องเดินทางบินไปๆมาๆ แล้วก็คุยไปถึงงานว่าเป็นยังไงบ้างพี่เขาก็เล่าๆมาให้ฟังมากมายว่าบริษัทเขาถือว่าทำกำไรได้ดี แต่ด้วยเราเองเป็นคนไทยในมุมมองของฝั่งนั้นก็ยังโดนเหยียดๆโดนดูถูกอยู่มาก เวลามีงานประมูลหรือทำอะไรก็มักจะโดนตัดหน้าไปเรียกว่าสู้เจ้าถิ่นเขายังไม่ได้ เพราะแต่ละพื้นที่ก็มีเจ้าถิ่นเขาอยู่แล้ว พี่เขาก็เล่าๆมาให้ฟังจนสอบถามว่าพอจะมีเครื่องรางอะไรมั๊ยแนวโหดๆเอาไว้กดขี่สูบเลือดสูบเนื้อพวกหยิ่งๆหรือมีอิทธิพลพวกนี้

    เราก็งงๆแต่ก็บอกว่าเดี๋ยวจะเอาไว้ถามมาให้ เพราะของแบบนี้ควรจะเป็นของเฉพาะทาง แต่ผมพอจะมองเห็นว่ามันนับเป็นเรื่องสำคัญ เพราะคนไทยเมื่อไปอยู่ในเวทีโลกไม่ใช่คนไทยทุกคนจะมีศักยภาพพอที่จะไปแข่งกับเขา แม้ในบ้านเราเองพวกนายทุนต่างชาติก็เข้ามามากมายและแน่นอนว่าเราก็สู้เขายังไม่ค่อยได้ ถึงขนาดตัวพี่คนที่มาปรึกษานั้นเรียกได้ว่าเป็นเศรษฐีพันล้านทีเดียวแต่ค่าเงินเหล่านี้เมื่อไปอยู่ต่อหน้าเขามันก็กลายเป็นเรื่องเล็กน้อย ทีนี้ที่เขาถามก็เป็นเครื่อรางแนวขมขู่ ขูดรีดอย่างแท้จริงซึ่งพี่เขาต้องการนั้นผมมานั่งคิดๆดูแล้วมันควรจะเป็นประโยชน์ที่ได้ในวงกว้างเรียกว่านอกจากตัวเขาแล้วคนอื่นๆก็สมควรได้สิทธินี้ด้วย แม้ในสังคมเราก็ยังถือว่าควรมีควรใช้อยู่มาก นี่ก็ขำก็แซวๆเขาไปว่าเอาขนาดนั้นเลยหรอ เรียกว่า555หัวเราะกันสนุกปากเพราะไม่อยากให้บทสนทนาเครียดเกินไป พี่เขาว่าผมเคยขอให้พ่ออาจารย์หล่อพระชัยชนะ(ของเฉพาะตัว)ให้ผม ทำให้เปลี่ยนฐานะจากหลักร้อยล้านขึ้นมาถึงพันล้านได้ในเวลาไม่กี่ปี ตอนนี้จึงอยากยกระดับตัวเองถึงมันจะยากแต่เขาก็บอกว่าผมมั่นใจ


    ***อันนี้ก็มาเล่ามาบอกไว้แต่เนิ่นๆ คนที่ชอบวิชาแนวกดขี่ ขูดรีดหนักๆเหนือกว่ามหาอำนาจทั่วไปก็ติดตามพูดคุยไว้เฉพาะช่วงนี้ แต่กะซิบว่าถ้าพ่ออาจารย์ท่านให้เอาออกผมจะกั้กยอดไว้ให้พอได้จองกัน ไม่ให้พี่เขาเหมาหมดหรือเกือบหมดแบบรายการอื่นๆแน่นอน
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,102
    ค่าพลัง:
    +16,624
    อรุณสวัสดิ์นะครับ

    วันนี้เดี๋ยวส่งของแล้วมาติดตามพูดคุยกันต่อนะ
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,102
    ค่าพลัง:
    +16,624
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่รุ่งเรือง EV 7740 4986 1 TH

    พี่เมธี EV 7740 4987 5 TH

    พี่สุทธิธรรม EV 7740 4988 9 TH

    พี่พรเทพ EV 7740 4989 2 TH

    พี่พชร EV 7740 4990 1 TH
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,102
    ค่าพลัง:
    +16,624
    พูดคุย

    พรุ่งนี้ติดตามกันดีๆ คนที่ถามเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องของที่จะเอาไว้ช่วยในการแข่งขันกับบุคคลที่มีอำนาจสูงกว่าเรามากๆ โดยเฉพาะเครื่องรางนี้ที่จะเป็นเสมือนเพื่อนของเรา ...บอกเลยว่ารายการนี้ช้าจะหมดเพราะคนจ้องๆกันเยอะและถือเป็นของที่น่าสนใจตั้งแต่ปลุกเสกทีเดียว

    - พ่ออาจารย์ท่านว่าตอนเสกวราหา(หมูนารายณ์) พาน...วางอยู่ใกล้กับพานที่ใส่วราหา ปรากฏว่าในนิมิตนั้นเราเห็นมันไปไล่กัดพระวราหา พอออกจากสมาธิมาท่านว่ายังเห็นเครื่องรางชิ้นนี้กระโดดข้ามพานโดยพระวราหาก็กระโดดหลบลงพื้นทั้งนั้นเลย

    - ทั้งพอเสกเสร็จแล้วมีคนเขาเอาไปใช้แล้วโดนรุมแทงหนนึง โดนดักยิงหนนึง มีคนที่เห็นเหตุการณ์เค้าเล่าว่าเห็นเงาดำมายืนบังผู้ชายคนนี้ไว้ เป็นเงาดำเช่นนี้ถึงสองครั้งสองหน เรียกว่าหนแรกมีดทำอันตรายไม่ได้ ส่วนหนที่สองกระสุนนั้นตกลงตรงหน้า ถือได้ว่าปลอดภัยทั้งสองครั้งจนคนที่พกขนานนามให้ว่า...ผีสิง เพราะมีคนเห็นเป็นเงาดำมากันตัวให้ทั้งสองหนเช่นนั้น

    - ที่สำคัญเหนือกฤติยาคมทุกอย่าง พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ครูบาอาจารย์ของท่านมักไม่ใช้กันพร่ำเพรื่อ
    เพราะจะใช้ก็ต่อเมื่อต้องการเอาของที่เอาไม่ได้ หรือจะเรียกว่าเป้าหมายใหญ่เกินตัวเกินกำลังนั่นเอง ทั้งสิ่งที่ลากไม่ขึ้น เกินวาสนา เกินแรง เกินกำลังนั้นจะกลับลากขึ้นมากินได้ง่ายๆอย่างสบายๆ...เรียกว่าใช้ได้ทั้งฉกฉวยแย่งชิง ลากมา บังคับมาแม้ไม่เต็มใจ ท่านว่าถึงไม่ใช่ของเราก็ยังเอามาได้แบบนั้น

    ** เช่นนั้นคนที่ถามที่รอก็อย่าได้พลาดไปเพราะพ่ออาจารย์ท่านว่ามวลสารที่ต้องหามาผสมนั้นหาได้ยาก ถ้าขาดของอาถรรพ์บางอย่างไปแม้มีวิชาก็ทำไม่ได้อีก

    b475bf7c9427a179e31fda933bba992b.jpg
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,102
    ค่าพลัง:
    +16,624
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้เปิดไลน์แต่เช้าเห็นพี่สองคนทักมาถามเหมือนกันเมื่อคืนว่าวันนี้จะออกสิงห์หรอครับ เรายังงงๆอยู่เลยว่ารู้กันได้ยังไง แปลกจริงๆทำไมเขารู้ทำไมไม่คิดว่าเสืออะไรแบบนี้ o_O
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2018
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,102
    ค่าพลัง:
    +16,624
    ร่วมทำบุญบูชา สิงห์ราชลากเนื้อ(สิงห์ทิพย์)

    พญาราชสีห์เป็นยอดของสัตว์ทั้งหลายมีอำนาจเหนือป่าหิมพานต์ ด้วยหมู่สัตว์ต่างๆจะเกรงกลัวแม้เสียงคำรามเมื่อได้ยินไม่ตกตายก็สิ้นสติเลยทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านสร้างสิงหราชขึ้นด้วยท่านว่าพญาราชสีห์นี้ทรงไว้ซึ่งอำนาจบารมี ตบะบารมี ศีลบารมี สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุอันเป็นที่สุดแห่งมหาอำนาจ เป็นที่สุดแห่งความเกรงกลัวเช่นนั้นท่านจึงสร้างพญาราชสีห์ขึ้นมาช่วยเสริมอำนาจราชศักดิ์ ตบะ เดชะ หนุนนำคน หนุนนำชะตาชีวิตให้ผู้บูชาได้เป็นเจ้าคนนายคน

    การสร้างพญาสีห์ราชนั้นแต่โบราณย่อมมีการสร้างกันมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะสร้างให้สำเร็จจริงๆได้อย่างน้อยก็ต้องได้หัวใจสิงห์เป็นเบื้องต้นถึงจะสร้างและเสกได้ขลัง ยิ่งถ้าได้วิชาเกี่ยวกับสิงห์หนุนเสริมลงไปด้วยอีกทอดหนึ่ง อันนี้ก็จะขลังยิ่งขึ้นเด่นในทางต่างๆเฉพาะด้านไป แต่สมัยนี้ท่านเห็นเขาสร้างสิงห์กันมากใช้ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้างก็เป็นไปตามกรรมวิธีของเกจิแต่ละท่านซึ่งพ่ออาจารย์ท่านสอบดูสิงห์หลายๆที่แล้วแม้แต่หัวใจก็ยังลงไม่ถูก

    เช่นนั้นท่านจึงตั้งใจจะสร้างสิงห์ที่เป็นสิงห์จริงๆโดยสายเลือดและชาติกำเนิดขึ้นมาซักรุ่นหนึ่ง ท่านว่าไอ้สิงห์กับไอ้เสือนี้มันต่างกันอย่างไรพวกเธอรู้มั๊ย สิงห์จริงๆนั้นไม่ค่อยจะมีใครเขาสร้างกันสำเร็จนัก ด้วยมันเป็นราชาของป่า เป็นเจ้าแห่งสัตว์ป่าทั้งหลายเป็นมหาอำนาจ เป็นราชศักดิ์อย่างถึงที่สุด แต่โบราณเขาถึงมีตำราสิงหราชครองโลกบ้าง สิงหราชเหยียบโลกบ้าง ดุจใครได้ครอบครองสิงห์ที่ทำขึ้นจากวิชาเหล่านี้เสมอได้โลกทั้งใบเช่นนั้น ด้วยเป็นสัตว์ตระกูลสูงแม้ใครได้เลี้ยงได้พกพาก็จะหนุนนำวาสนาให้ได้มีอำนาจเหนือคน ดั่งกษัตริย์หรือตัวเจ้าตัวนายในรามเกียรติ์ก็จะมีสิงห์เป็นพาหนะเป็นสัตว์บริวารเสมอเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจจะทำสัตว์บริวารให้เป็นดั่งเพื่อน เป็นดั่งเงาตามตัวคอยติดสอยห้อยตามเรา ทั้งยังเป็นทาสที่ซื่อสัตย์อันจะคอยใช้อำนาจราชศักดิ์เสริมชะตาให้เจ้านาย เรียกขานประกาศหาชัยชนะกำราบศัตรู

    คนที่สิงห์หนุนนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องชื่อเสียง เกียรติยศ ลาภศฤงคารเหล่านี้เขาจะรู้ว่าสิ่งต่างๆล้วนเป็นของตาย คือมันจะเข้ามาในรูปแบบไหนมันก็เข้ามาแน่ๆ เราจะเหนือกว่า เด่นกว่าคนอื่นเช่นนั้นดั่งกำชัยชนะไว้ เห็นทาง เห็นความสำเร็จตั้งแต่ต้น ดุจเอาชัยชนะใส่พานมาประเคนให้ถึงปากถึงมือเลยทีเดียว หนุนกำลังวาสนา หนุนอำนาจตบะเดชะให้ครบสมบูรณ์

    ด้วยปกติสิงหราชจะอาศัยซ่อนตัวอยู่ในหลืบในถ้ำแม้จะเก็บตัวเงียบแต่สัตว์ต่างๆก็ยังตื่นกลัวเป็นที่สุด ไม่ว่าจะสัตว์ใด ทั้งเทวดาหรือเพชรพญาธรก็ไม่กล้าจะเข้าไปตอแยถึงในถ้ำพระคูหา แม้เสือเจ้าป่าหรือเสือจ่าฝูงและสัตว์ต่างเมื่อเจอสิงหราชยังต้องเผ่นหนีอยู่ห่างๆ นั่นเพราะเขาสู้กำลังของสิงหราชไม่ได้ ได้แต่จะคอยชะเง้อมองเป็นแค่บริวารคอยพิทักษ์รักษาความปลอดภัยให้แก่สิงหราชเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือเคล็ดมหาอำนาจของสิงหราชอุปมาดั่งว่าแม้สัตว์เหล่าใดมีตบะมีอำนาจมากมายเพียงใดก็ตาม ย่อมต้องพ่ายแพ้ต่อราชศักดิ์ของพญาสิงห์นี้ ดุจเราคนเลี้ยงคนที่อุปถัมภ์สิงหราชก็เช่นกันท่านว่าบอกได้แค่เพียงต่อไปนั้นคนอื่นย่อมต้องชะเง้อคอคอยมองเราเท่านั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสาปของพญาราชสีห์นั้นจะแรงมากทั้งยังฟุ้งกระจาย แม้เทวดา เพชรพญาธร ผีป่า เจ้าทุ่ง เจ้าเขา เจ้าท่าก็ยังต้องคอยดูแลรักษาสิงหราชนี้ ด้วยคุณวิเศษอันมีมาเฉพาะตัวของสิงหราชอันเป็นสัตว์ตระกูลสูง พ่ออาจารย์ท่านจึงบอกเคล็ดไว้ว่าสิงหราชที่ทำวิชาถูกต้องนั้นแม้พกหนังเสือ เขี้ยวเสือ หน้าผากเสือก็ยังไม่เป็นมหาอำนาจเทียบเท่ากับพญาสิงห์เพราะใช้ได้ทางเพิ่มทั้งมหาอำนาจและหนุนส่งบารมีให้กับผู้เป็นเจ้านายแบบลูกโดดดังนี้ พ่ออาจารย์ท่านจึงได้นำธาตุกายสิทธิ์มาเสกลงหัวใจสิงหราชพร้อมทั้งทำวิชาสิงหราชครองโลก สิงหราชเหยียบโลก สิงหราชครองเมือง สิงหราชเชิญธง สิงหราชตะปบเหยื่อและวิชาตระกูลสิงหราชเฉพาะทั้งร้อยแปดตัวนำไปหล่อหลอมเป็นพญาสิงหราชขึ้นมา ท่านว่าสิงหราชที่เราทำนี้เป็นสัญลักษณ์ของมหาอำนาจกลืนโลกไม่ว่าจะสิ่งมีชีวิตใดทั้งอยู่ในป่า อยู่บนดิน อยู่บนฟ้า อยู่ในน้ำ หรือต่อให้ขุดรูอยู่เมื่อขึ้นชื่อว่าอยู่ในโลกไม่ว่าจะที่ไหนหรือมิติไหนก็ยังต้องยอมสยบ ด้วยเขามีบารมีโดดเด่นเป็นที่เคารพยำเกรงทั้งมีฤทธิ์เลิศช่วยเราดับทุกข์ภัยเหตุการณ์เลวร้ายได้ชงัดนัก ท่านว่าทำให้บริบูรณ์ทั้งหมดสุดแต่จะเอาไปใช้กันแม้ถามหาโชคลาภก็ดุจมีคนเอามาป้อนให้ถึงปากทั้งลงมหากันแก้สารพัดเหตุการณ์ ทั้งกำบังภัยมองไม่เห็นตัว ทั้งแปลงภาคแบ่งรูปแม้ใครประทุษร้ายก็จะเห็นเป็นหลายคนเช่นนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านกำกับวิชาให้คนที่พกสิงห์ ใช้สิงห์มีอำนาจบารมีแลดูสง่า องอาจ เกียงไกรเป็นที่ยำเกรงเคารพในสายตาคนทั่วไป ทั้งยังกำกับให้สิงห์เค้าหนุนอำนาจวาสนา หนุนความเจริญรุ่งเรือง ความก้าวหน้าในหน้าที่การงานให้เป็นพิเศษ ท่านได้ทำการปลุกเสกขั้นแรกด้วยวิธีเปิดอาการทั้ง32 แล้วจึงกำหนดสมาธิเปิดอักขระทั้ง108ที่ท่านจารท่านเสกใส่ไว้ก่อนนำมาหลอมสิงหราชเพื่อให้สิงห์นี้มีฤทธิ์อย่างถึงที่สุดเป็นการเปิดกำลังคุณวิชาทั้งหมด แล้วจึงเบิกแม่ธาตุทั้งสี่เปิดทิศทั้งสิบหก จากนั้นจึงได้เชิญกายทิพย์ครูอาจารย์สายวิชาสิงหราชท่านมาประสิทธิ์ทำพิธีให้ ซึ่งครูท่านได้กำกับไว้ว่าใครมีสิงห็รุ่นนี้นอกจากเป็นผู้มีอำนาจบารมีวาสนามาก ยังจะเปี่ยมไปด้วยตบะเดชะศัตรูกลัวเกรง

    ทั้งนี้เมื่อสร้างสิงห์แล้วท่านยังตระหนักได้ว่าคนที่สู้ชีวิต สู้กับชะตากรรมเดิมของตนนั้นยังมีอยู่มากและท่านยังรู้ว่าสังคมปัจจุบันนั้นต้องฉกฉวยแย่งชิง หากอยู่นิ่งๆก็จะไม่ได้อะไร ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตจั้งใจจะทำวิชาสิงหราชลากเนื้อเพื่อลงสิงห์ของท่านซ้อนอาถรรพ์ให้คนใช้อีกคำรบหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ครูบาอาจารย์ของท่านมักไม่ใช้กันพร่ำเพรื่อ เพราะจะใช้ก็ต่อเมื่อต้องการเอาของที่เอาไม่ได้ หรือจะเรียกว่าเป้าหมายใหญ่เกินตัวเกินกำลังนั่นเอง ทั้งสิ่งที่ลากไม่ขึ้น เกินวาสนา เกินแรง เกินกำลังนั้นจะกลับลากขึ้นมากินได้ง่ายๆอย่างสบายๆ...เรียกว่าใช้ได้ทั้งฉกฉวยแย่งชิง ลากมา บังคับมาแม้ไม่เต็มใจ ท่านว่าถึงไม่ใช่ของเราก็ยังเอามาได้แบบนั้น พ่ออาจารย์ท่านต้องเสาะหากระดูกหน้าผากของสิงห์โตที่แก่ตายโดยมีซากเหยื่อคาปากเอาเฉพาะกระโหลกหน้าผากของมันมาลงอาถรรพ์สิงหราชลากเนื้อก่อนจะใช้ผงกะโหลกสิงห์บดละเอียดมาปั้นเป็นแท่งและลบยันต์สิงหราชลากเนื้อปั้นเป็นเม็ดกลมๆเรียกว่าตบะสิงหราชเก็บไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านทำวิชานี้ก็เพื่อตั้งใจให้คนที่เค้าทำอะไรเกินแรง เกินกำลัง เกินวาสนาตนเองเป็นหลักจะได้บรรเทากำลังลงบ้าง ทั้งสิ่งที่ลากไม่ขึ้นเหล่านั้นจะกลับลากขึ้นมากินได้อย่างง่ายดาย ท่านได้นำเม็ดตบะสิงห์นี้มาลงวิชาสิงห์ตะปบเหยื่อให้อีกหนหนึ่งด้วยตั้งใจจะให้คนใช้เอาไปทำมาหากินจะได้เป็นดั่งมหาอำนาจครองเมือง ได้เป็นใหญ่เป็นโตเป็นเจ้าคนนายคน ด้วยกำลังจิตวิญญาณแห่งราชสีห์ทั้งยังดวงกำลังของสิงหราชจะเป็นดั่งฐานมหาอำนาจหนุนชะตาพลิกวาสนาให้เป็นใหญ่เหนือคนได้ดั่งพญาสิงห์หาเหยื่อหากินไม่อดอยาก คนใช้ก็ต้องหากินดี หากินเก่งมีเหยื่อมีลูกค้ามากๆดุจเดียวกัน เมื่อเสกหนุนวิชาทั้งสองในลูกอมตบะสิงหราชแล้วพ่ออาจารย์ท่านจึงนำมาเสกปิดด้วยวิชาสุดท้ายคือสิงห์ราชนอนกกถ้ำ วิชานี้คือพญาสิงห์แม้นอนอยู่เฉยๆสบายๆในถ้ำพระคูหาไม่ได้ออกไปไหนก็ยังมีเหล่าสัตว์บริวารหาเหยื่อมาให้กินถึงปากดั่งตำราว่าไว้ว่าแม้ยอมพลีชีวิตร่างกายก็ยังให้ได้ด้วยเต็มใจเพื่อเป็นอาหารแก่พญาสิงห์ราชนั้นท่านจึงเรียกวิชานี้ว่าสิงห์นอนกินซึ่งเหนือและลึกซึ้งกว่าเสือนอนกินหลายเท่านักเพราะจะมีโภคพลาหารมากมีทรัพย์สมบัติไหลมาเทมาให้หยิบจับสมใจไม่รู้จักหยุดหย่อน ทั้งทำมาหากินสบายหากินได้ง่ายดายในทุกถิ่น เงินทองจะไหลเข้ามาได้ง่าย ท่านว่าลงไว้ให้ครบเครื่องมีทั้งเสน่ห์แบบราชเสน่ห์ทั้ง ต่อเงินทองเรียกเงินทอง และมหาอำนาจเข้าไปอีก

    ท่านได้นำเม็ดตบะสิงหราชนี้มาฝังไว้ในพญาสิงหราชของท่านทุกตัวแล้วนำมาเสกปิดในราชาฤกษ์ เพชรฆาตฤกษ์ ภูมิปาโลฤกษ์และเดชาฤกษ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าสิงห์ของฉันถือว่ามีความดุร้ายและมีกำลังมากกว่าสิงห์ที่ลงหัวใจสิงห์โดยทั่วไป สิงห์ของฉันนั้นเป็นผู้นำเป็นสิงห์ตัวผู้กินเนื้อเป็นอาหารมีเสียงคำรามดังก้องมากจนทำให้สัตว์อื่นที่ได้ยินอาจสลบหรือตายเช่นนั้นด้วยฉันเสกให้เป็นอำนาจของไกรสรราชสีห์ ทั้งยังให้มีนิสัยดุร้ายให้คุณมากแบบติณสีห์ มีสิงหนาทเป็นที่หวาดกลัวยำเกรงในสรรพชีวิตแบบบัณฑุราชสีห์ ทั้งยังมีความลึกลับงามสง่าแบบกาฬสีห์ ท่านว่าฉันเสกยกเอาคุณลักษณะที่ดีของราชสีห์ทั้งสี่ตระกูลมารวมกันไว้ในสิงห์ของฉัน ใครที่เอาไปใช้เวลามีปัญหาให้นำสิงห์นี้ขึ้นขึ้นมาระลึกอธิษฐานแล้วเขาจะเอาเป็นธุระรีบช่วยในทันที พ่ออาจารย์ท่านว่าสิงห์นี้ท่านให้ขอ ต้องการอะไรก้ให้บอก หมั่นบอกกล่าวพูดคุยกับเขาบ่อยๆเหมือนเลี้ยงกุมาร เรียกเขาว่าพี่สิงห์ก็ได้ท่านว่าให้พูดกับเขาบ่อยๆ ยิ่งคุยบ่อยยิ่งเห็นผลไว แล้วจะรู้เองทุกอย่างทั้งศัตรูหมู่มารที่ไม่เป็นมิตรจะแพ้ภัยตนเอง ส่วนเราก็จะได้ดิบได้ดีไม่ว่าจะทำอะไรไปที่ไหนก็มีแต่จะเจริญยิ่งๆขึ้นเท่านั้น เรียกว่าต้องดีที่สุด เป็นยอด เป็นที่หนึ่งไม่เป็นสองรองใคร

    **เกล็ดเล็กๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าตอนเสกวราหา(หมูนารายณ์) พานสิงห์ที่วางอยู่ใกล้กับพานที่ใส่วราหานั้น ปรากฏว่าในนิมิตนั้นเราเห็นมันไปไล่กัดพระวราหา พอออกจากสมาธิมาท่านว่ายังเห็นเครื่องรางชิ้นนี้กระโดดข้ามพานโดยพระวราหาก็กระโดดหลบลงพื้นทั้งนั้นเลย
    *** ทั้งพอเสกเสร็จแล้วมีคนเขาเอาไปใช้แล้วโดนรุมแทงหนนึง โดนดักยิงหนนึง มีคนที่เห็นเหตุการณ์เค้าเล่าว่าเห็นเงาดำมายืนบังผู้ชายคนนี้ไว้ เป็นเงาดำเช่นนี้ถึงสองครั้งสองหน เรียกว่าหนแรกมีดทำอันตรายไม่ได้ ส่วนหนที่สองกระสุนนั้นตกลงตรงหน้า ถือได้ว่าปลอดภัยทั้งสองครั้งจนคนที่พกขนานนามให้ว่าสิงห์ผีสิง เพราะมีคนเห็นเป็นเงาดำมากันตัวให้ทั้งสองหนเช่นนั้น


    แต่พ่ออาจารย์ท่านว่าสิงห์นี้ไม่ใช่สิงห์ผีสิงแต่อย่างใด แต่เราลงกำบังภัยทั้งแปลงภาคแบ่งรูปไว้ เวลามีอันตรายแบบจวนตัวจริงๆเขาจะมารับภัยพิบัติเหล่านั้นแทนเจ้านายของเขา ท่านว่าสิงห์ของฉันไม่ใช่ผีนะแต่ถ้าจะเรียกให้สนุกปากก็ไม่ว่ากันเพราะมันแรงมันเฮี้ยนด้วยเป็นสิงห์วิชา เป็นสิงห์ทิพย์ แม้หมู่สัตว์จตุบททวิบาทอันได้ชื่อว่าเป็นสัตว์วิเศษใดๆมันก็ควบคุมเขาได้ทั้งหมดเพราะเขาถือตัวว่าตนเป็นสัตว์ตระกูลสูง เป็นเจ้าโลกเจ้าถิ่นเช่นนั้น ดังนั้นท่านว่าคนที่เอาไปก็ต้องบอกกล่าวเขาเสียก่อนว่าไม่ให้ไปข่มเหงหรือรังแกผู้ใด***และจะบริบูรณ์ยิ่งขึ้นไปอีกหากได้อาราธนาเป็นคู่เพราะครูท่านกำหนดมาแต่โบราณว่าหากใช้สิงห์ราชได้ครบคู่จะเก่งกาจมหากาฬระงับทุกข์โทษภัยได้ในทันที(ท่านว่าคนเลี้ยงให้ตั้งชื่อให้เขาด้วย และเขาเป็นสิงห์ทิพย์ไม่ต้องเซ่นด้วยอะไรทั้งนั้นเพราะเขาจะหากินของเขาเอง เว้นแต่เราบนบานก็ให้บนด้วยหมูสดไก่สดเช่นนั้น)

    คาถาบูชา
    อันตะภาโว กะจะยะสะ โวมะถังปะกาเสนโต สะถะอาหาพญาราชะสีโห เชชะนะอาสิทิเสตถัง อาหะเตชะนะ อะปันนาอาสิติ

    * รายการสิงห์ทิพย์นี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย ท่านว่าจะบอกกล่าวให้เขาภักดีกับเจ้าของทั้งฝากฝังให้เขาเชื่อใจเคารพเจ้านายให้อีกหนหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนโรงศพให้ชาวเขาที่ไม่มีทุนทรัพย์เวลาทำฌาปนกิจ

    ร่วมทำบุญบูชา สิงห์ราชลากเนื้อ(สิงห์ทิพย์) บูชา 2,500 บาท

    45973451-1381772978623875-4644831706979762176-n.jpg 46113192-351405895419730-4022475230504026112-n.jpg
    45593484-313654695897752-2841957835170906112-n.jpg
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,102
    ค่าพลัง:
    +16,624
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ธเนศพล EV 7739 0998 9 TH

    พี่สุรวุฒิ EV 7739 0999 2 TH

    พี่ศิระ EV 7739 1000 1 TH
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,102
    ค่าพลัง:
    +16,624
    5 วิธีเพิ่มพลังชีวิตที่สร้างได้ด้วยตัวเอง

    อรุณสวัสดิ์นะครับ วันนี้ก็ได้ไล่ตอบ PM ไปครบแล้วนะ เช้าๆวันนี้ก็เลยจะมาพูดคุยยกเรื่องสร้างพลังงานง่ายๆให้กับตัวเองก็ลองอ่านดูกัน

    การผจญภัยในชีวิตเริ่มต้นตั้งแต่วันแรกที่เราลืมตาขึ้นมาดูโลก พร้อมกับพลังชีวิตด้านบวกมากมายที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ อย่างมีคุณค่า และเกิดประโยชน์ต่อโลกใบนี้ แต่ทว่าความจริงของชีวิตไม่ได้มีเพียงด้านเดียว

    If life was easy, where would all the adventures be? ถ้าหากชีวิตเป็นเรื่องง่าย แล้วการผจญภัยอยู่ที่ไหนล่ะ?
    เมื่อเราเติบโตขึ้นกลับได้สัมผัสกับความรู้สึกที่ไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจ ผิดหวัง ท้อแท้ และเหนื่อยล้า ทำให้เราเบื่อหน่ายกับปัญหาต่าง ๆ จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน บั่นทอนสุขภาพจิต จนบางครั้งอดคิดไม่ได้ว่าเราจะใช้ชีวิตต่ออย่างไรหากต้องเจอกับสิ่งเหล่านี้ในทุก ๆ วัน

    ถ้าคุณกำลังคิดว่าการใช้ชีวิตในโลกความจริงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ลองหันมาปรับเปลี่ยนวิธีคิด และใช้ชีวิตบนพื้นฐานความเข้าใจ พร้อมสร้างพลังชีวิตจากสิ่งใกล้ตัวดูก่อนไหม แล้วคุณจะพบว่าการใช้ชีวิตในโลกความจริง บางครั้งมันก็ไม่ได้ซับซ้อน และมีเงื่อนไขอะไรมากมาย

    พลังจากตัวเอง
    คุณต้องรู้จักเคารพและยอมรับตัวเองให้ได้ก่อน บางเรื่องที่ทำผิดพลาดให้เก็บไว้เป็นบทเรียน เสียใจได้แต่อย่านานเพราะเราย้อนเวลากลับไปแก้ไขไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง หาทางจัดการกับความรู้สึกแย่ ๆ และมีความสุขกับเรื่องง่าย ๆ เช่น เพื่อนร่วมงานยิ้มให้ ก็ยิ้มกลับไปบ้าง รู้ว่าตัวเราเป็นคนแบบไหน มีนิสัยยังไง ชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร เพื่อนำมาปรับปรุง พัฒนา และสร้างแรงบันดาลใจให้เป็นพลังที่จะช่วยทำให้ประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ หรืออย่างการนำเสนอรายงานต่อหน้าที่ประชุมไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่เป็นการแบ่งปันความรู้ หรือประสบการณ์ต่าง ๆ ความคิดเห็นให้กับเพื่อนร่วมงานซึ่งเป็นสิ่งที่ดีและควรทำมากกว่านั่งฟังอย่างเดียว

    พลังจากร่างกาย
    สำรวจร่างกายตัวเองกันหน่อยว่าตอนนี้อวัยวะต่าง ๆ ยังทำงานได้มีประสิทธิภาพเหมือนเดิมไหม เพราะสุขภาพกายที่อ่อนล้าย่อมส่งผลให้สุขภาพจิตอ่อนแอลงด้วย ในวัยที่เพิ่มขึ้นมักมีปัญหาระบบหมุนเวียนโลหิตแย่ลง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและข้อต่อ การฝึกโยคะจะช่วยให้นอนหลับดีขึ้น มีความตื่นตัว หากไม่มีโรคประจำตัว แนะนำให้ออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น การเดินเร็วทำสัก 30 นาทีต่อครั้งให้ได้สัปดาห์ละ 3 - 4 ครั้ง เริ่มด้วยการยืดเส้นยืดสายก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มความหนักและระยะเวลานานขึ้นจนถึงระดับที่ต้องการ จากนั้นค่อย ๆ ลดระดับลงมาช้า ๆ เพื่อให้ร่างกายและหัวใจปรับตัวได้ทัน ช่วยให้ปอด หัวใจ ระบบไหลเวียนโลหิต รวมไปถึงกล้ามเนื้อต่าง ๆ มีความแข็งแรง นอกจากนี้ร่างกายยังหลั่งสารแอนโดรฟีนออกมาตามธรรมชาติ ทำให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้ปกระเปร่าและมีความสุข ลดความกังวลและเครียดลงได้ แต่ถ้าวันไหนที่รู้สึกเครียดมากอาจเดินเข้าร้านนวดผ่อนคลายด้วยอโรมาเทอราปี กลิ่นหอมของน้ำมันสกัดจากธรรมชาติต่าง ๆ อย่างกลิ่นลาเวนเดอร์ กุหลาบ มะลิ มิ้นท์ ดอกส้ม และคาโมไมลด์ จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายจากความตึงเครียด บำบัดอารมณ์ที่ขุ่นมัวให้สดชื่นขึ้นได้

    พลังจากสิ่งที่รัก
    เคยสังเกตตัวเองกันดูไหมว่าทุกครั้งที่เราได้ทำในสิ่งที่ชอบเรามีความสุขมากแค่ไหน เริ่มต้นวันหยุดอย่ามัวทำแต่งาน หันมาทำสิ่งที่ตัวเองชอบบ้าง ไม่ว่าจะออกไปเดินช้อปปิ้ง นอนอ่านหนังสือเล่มโปรดอยู่ที่บ้าน รดน้ำต้นไม้ ฟังเพลง หรือถ้าอยากพัฒนาสมอง ลองเล่นพวกเกมบอร์ด แล้วเย็น ๆ ก็ชวนคนที่คุณรักออกไปวิ่งออกกำลังกายด้วยกัน แล้วกลับมานั่งดูหนังเรื่องโปรดที่ค้างไว้ต่อ จะเห็นว่างานอดิเรกที่ชอบทำช่วยเติมเต็มชีวิตของเราได้ เมื่อทำมันบ่อย ๆ จะพบว่ามันเป็นเรื่องสนุก คอยปลุกพลังและทำให้ชีวิตมีสีสัน พร้อมเป็นแรงสนับสนุนให้เราพร้อมรับมือกับวันต่อไป

    พลังจากอาหาร
    อาหารที่กินช่วยให้เราอารมณ์ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ยิ่งถ้ารู้จักเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ เช่น โปรตีนจากเนื้อสัตว์ นม ไข่ อาหารเหล่านี้จะช่วยให้สมองหลั่งสารแห่งความสุขเพิ่มขึ้นทำให้เรารู้สึกสดชื่น ผักใบเขียว ตับ ถั่วต่าง ๆ ปลาแซลมอน ธัญพืช มะเขือเทศ จะช่วยลดภาวะซึมเศร้า และคลายเครียดได้ ลองฝึกกินอาหารที่มีน้ำตาลน้อย เช่น ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีทจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่สม่ำเสมอ อย่าปล่อยให้ท้องว่าง อาจแบ่งอาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ กินบ่อย ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาลในเลือดตก งดดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน หันมาดื่มน้ำผลไม้คั้นสดหรือน้ำเปล่าธรรมดาแทน กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ในทุก ๆ วัน เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารที่ดีมีประโยชน์จะส่งผลให้อารมณ์แจ่มใสและมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

    พลังจากที่บ้าน
    บ้านมีความหมายมากกว่าแค่ที่อยู่อาศัย บ้านเป็นสถานที่พักพิงที่เรามักนึกถึงเป็นอันดับแรกเมื่อรู้สึกเหนื่อยล้าจากโลกภายนอก ซึ่งบ้านที่น่าก็ต้องได้รับการเอาใจใส่จากทุกคนช่วยกันปรับภูมิทัศน์ภายในบ้านให้ปลอดโปร่ง มีอากาศถ่ายเทสะดวก แดดส่องถึง ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด หมั่นรักษาความสะอาดเป็นประจำ เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค วางของใช้ให้เป็นหมวดหมู่หยิบจับง่าย และมีพื้นที่ให้สมาชิกทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน การสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีต่อบ้านส่งผลให้เรามีสุขภาพกายและใจดีตามไปด้วย เมื่อบ้านน่าอยู่ทุกคนก็อยากกลับบ้าน มาเติมความสุข พูดคุยปรึกษา สานสัมพันธ์กันมากขึ้น กลายเป็นบ้านที่สมบูรณ์แบบบนพื้นฐานชีวิตที่ดี

    5 พลังชีวิตนี้ช่วยให้เรามีสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่ดี พร้อมรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่ต้องเจอในแต่ละวันได้อย่างมีสติ พร้อมที่จะจัดการปัญหาต่าง ๆ ด้วยอารมณ์ที่มั่นคง และสร้างความสุข สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดขึ้นได้ในทุก ๆ วัน แต่ถ้าคุณยังคิดว่ามันยากเกินไป เราขอให้คุณแบ่งมันออกเป็นข้อย่อย ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการลงมือปฏิบัติ เช่น ฝึกออกกำลังกายจากที่ไม่เคยทำมาก่อน ถ้าทำได้ให้รางวัลตัวเองด้วยขนมที่ชอบสักชิ้น คุณจะรู้สึกสนุกที่ทำได้ และตื่นเต้นที่ได้สร้างพลังชีวิตใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง แต่จำไว้ว่าอย่าพยายามที่จะทำมากเกินไป เพราะการผจญภัยในชีวิตไม่ได้สิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้ครับ


    DSC07028.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...