รับพยากรณ์ชนกกรรมโดยใช้พระธรรมน้อมนำสู่หนทางแห่งการพ้นทุกข์

บรรยากาศวัดจากแดงครับ http://www.oknation.net/blog/aumboon/2011/02/26/entry-1
ที่วัดมีสอนพระอภิธรรมด้วยนะครับ วัดสวย อากาศดี ใครอยากไปดูสายน้ำ สัมผัสกับสายลม และไหว้พระบรมสารีริกธาตุ ที่พระเจดีย์ทอง(พระธาตุสมันตมหาปัฏฐานเจดีย์) สร้างบุญ เจริญสมาธิก็ยิ่งดีนะครับ

 

ขอบคุณ คุณปรมัตถธรรม ที่ช่วยดูให้นะคะ

 

ดูจากเวบแล้วบรรยากาศดีมากเลยค่ะ แต่ไม่รู้จะมีโอกาสไปแวะที่นั่นบ้างหรือเปล่า

 

สวัสดี เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ วันนี้ขอนำเสนอคำว่า "กัลยาณมิตร"



กัลยาณมิตร คือ มิตรแท้ เพื่อนแท้ เพื่อนตาย เพื่อนที่คอยช่วยเหลือเพื่อนอย่<wbr>างจริงใจโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน เป็นมิตรที่หวังดี มีสิ่งดี ๆ ให้กันด้วยความจริงใจ
คุณสมบัติของกัลยาณมิตร (กัลยาณมิตรธรรม 7)

1. ปิโย น่ารัก ในฐานเป็นที่สบายใจและสนิทสนม ชวนให้อยากเข้าไปปรึกษา ไต่ถาม
2. ครุ น่าเคารพ ในฐานประพฤติสมควรแก่ฐานะ ให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นใจ เป็นที่พึ่งใจ และปลอดภัย
3. ภาวนีโย น่าเจริญใจ หรือน่ายกย่อง ในฐานทรงคุณ คือ ความรู้และภูมิปัญญาแท้จริง ทั้งเป็นผู้ฝึกอบรมและปรับปรุ<wbr>งตนอยู่เสมอ ควรเอาอย่าง ทำให้ระลึกและเอ่ยอ้างด้วยซาบซึ<wbr>้งภูมิใจ
4. วตฺตา จ รู้จักพูดให้ได้ผล รู้จักชี้แจงให้เข้าใจ รู้ว่าเมื่อไรควรพูดอะไรอย่างไร คอยให้คำแนะนำว่ากล่าวตักเตือน เป็นที่ปรึกษาที่ดี
5. วจนกฺขโม อดทนต่อถ้อยคำ คือ พร้อมที่จะรับฟังคำปรึกษาซั<wbr>กถามคำเสนอแนะวิพากษ์วิจารณ์ อดทน ฟังได้ไม่เบื่อ ไม่ฉุนเฉียว
6. คมฺภีรญฺจ กถํ กตฺตา แถลงเรื่องล้ำลึกได้ สามารถอธิบายเรื่องยุ่งยากซับซ้<wbr>อน ให้เข้าใจ และให้เรียนรู้เรื่องราวที่ลึ<wbr>กซึ้งยิ่งขึ้นไป
7. โน จฏฐาเน นิโยชเย ไม่ชักนำในอฐาน คือ ไม่แนะนำในเรื่องเหลวไหล หรือชักจูงไปในทางเสื่อมเสีย

[แก้] อ้างอิง

ความเป็นผู้มีมิตรดีเป็<wbr>นพรหมจรรย์ทั้งสิ้น

จาก วิกิซอร์ซ
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
ความเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี นี้เป็นพรหมจรรย์ทั้งสิ้นทีเดี<wbr>ยว
อันภิกษุผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี พึงหวังข้อนี้ได้ว่า
จักเจริญอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ จักกระทำให้มากซึ่งอริ<wbr>ยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘
ก็ภิกษุผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี ย่อมเจริญอริยมรรคประกอบด้<wbr>วยองค์ ๘
ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริ<wbr>ยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ อย่างไร
ภิกษุในธรรมวินัยนี้

• ย่อมเจริญสัมมาทิฏฐิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ
• ย่อมเจริญสัมมาสังกัปปะ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ
• ย่อมเจริญสัมมาวาจา อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ
• ย่อมเจริญสัมมากัมมันตะ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ
• ย่อมเจริญสัมมาอาชีวะ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ
• ย่อมเจริญสัมมาวายามะ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ
• ย่อมเจริญสัมมาสติ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ
• ย่อมเจริญสัมมาสมาธิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ

ความเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี เป็นพรหมจรรย์ทั้งสิ้นทีเดียวนั<wbr>้น
พึงทราบโดยปริยายแม้นี้
ด้วยว่าเหล่าสัตว์ผู้มีชาติเป็<wbr>นธรรมดา ย่อมพ้นไปจากชาติ
ผู้มีชราเป็นธรรมดา ย่อมพ้นไปจากชรา
ผู้มีมรณะเป็นธรรมดา ย่อมพ้นไปจากมรณะ
ผู้มีโสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส เป็นธรรมดา ย่อมพ้นไปจากโสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส
เพราะอาศัยพระพุทธองค์ผู้เป็นกั<wbr>ลยาณมิตร
[แก้ไข] อ้างอิง

• อุปัฑฒสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๙

การที่เราได้คบค้าสมาคมอยู่กับกัลยาณมิตร เป็นมงคลสูงสุดข้อที่ 1 ในมงคล 38 ข้อ เป็นลำดับแรกที่ทุกคนควรมี เพราะจะเป็นเหตุปัจจัยให้เราได้สร้างแต่กุศล เป็นผู้สนับสนุนให้ชีวิตเราดำเนินไปในทางที่ถูกที่ควร มีความ เมตตา กรุณา มุทิตา ต่อกัน ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่แฝงไปด้วย โลภะ โทสะ โมหะ (เราควรอธิษฐานให้ได้พบและได้อยู่ร่วมกับกัลยาณมิตร อย่าได้พบคนพาลหรืออยู่ร่วมกับคนพาล หรือแม้แต่ได้ยินเสียงหรือเรื่องราวที่เกี่ยวกับคนพาล)
มงคล 38 ประการ

[แก้ไข] ข้อที่ 1: ไม่คบคนพาล

บาลี: อเสวนา จ พาลานํ (อะเสวะนา จะ พาลานัง)
พาล แปลว่า โง่เขลา อับปัญญา รู้เท่าไม่ถึงการณ์ คนพาลคือคนโง่เขลา คนเกเรแม้คนมีปริญญาสูง ๆ แต่ประพฤติทุจริตทางกาย วาจา ใจ เรียกว่า คนพาล การไม่คบคนพาลจึงเป็นมงคล เพราะการคบคนพาลพาไปหาผิดและพาเราไปทำสิ่งไม่ดีไม่ร้ายกับตัวเรา การไม่คบคนพาลจึงทำให้พ้นจากโอกาสที่จะหลงเข้าสู่ความผิด นำมาซึ่งความสรรเสริญของคนทั่วไป และประสบความสุขความก้าวหน้าในชีวิต เป็นการตัดกำลังไม่ให้เชื้อคนพาลระบาดไป เพราะขาดคนสนับสนุน
[แก้ไข] ข้อที่ 2: คบบัณฑิต

บาลี: ปณฑิตานญฺจ เสวนา (ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา)
บัณฑิต แปลว่า ผู้มีปัญญา นักปราชญ์ หมายถึง ผู้รู้ทัน และมีเหตุผล ในการกระทำ ในคำที่พูด และเรื่องที่คิด คบบัณฑิตเป็นมงคล เพราะได้ความรู้ ความปลอดภัย ความสรรเสริญ ความสุข เกียรติยศ ชื่อเสียง และชื่อว่าได้ทำความดีด้วย ทำให้บรรลุมรรคผลนิพพานได้ง่าย ได้ชื่อว่ามี "กัลยาณมิตร"

 

สัมปทาคุณ 4 ประการ ประกอบด้วย

1. วัตถุสัมปทา คือ ความถึงพร้อมแห่งวัตถุ ในที่นี้หมายถึงผู้รับ คือปฏิคาหก ต้องเป็นทักขิไณยบุคคล ผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยคุณธรรม ยิ่งมีคุณธรรมสูงมากเท่าใดก็ยิ่งทำให้ทานของผู้บริจาคมีผลมากขึ้นเท่านั้น

2. ปัจจยสัมปทา คือ ความถึงพร้อมแห่งปัจจัย ในที่นี้หมายถึงสิ่งของที่จะนำมาทำบุญ ต้องได้มา อย่างบริสุทธิ์โดยชอบธรรม

3. เจตนาสัมปทา คือ ความถึงพร้อมแห่งเจตนา ในที่นี้หมายถึงมีเจตนาดี เจตนาเพื่อชำระกิเลส บูชาคุณ เพื่อสงเคราะห์ หรืออนุเคราะห์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ มิได้หวังลาภ ยศ หรือชื่อเสียง มีเจตนาดีทั้ง 3 กาล คือก่อนให้ก็ดีใจ กำลังให้ก็เลื่อมใส ครั้นให้แล้วก็เบิกบานใจ อย่างนี้เรียกว่าถึงพร้อมด้วยเจตนา

4. คุณาติเรกสัมปทา คือ ความถึงพร้อมแห่งคุณพิเศษของปฏิคาหก คือผู้รับเป็นทักขิไณยบุคคล ที่มีคุณธรรมพิเศษ ซึ่งระบุไว้ว่า ผู้รับจะต้องเป็นผู้ที่ออกจากนิโรธสมาบัติใหม่ๆ ซึ่งผู้ที่จะเข้านิโรธสมาบัติได้ ก็คือพระอรหันต์ หรืออย่างต่ำต้องเป็นพระอนาคามีบุคคล

บุคคลใดที่ได้ทำทานโดยถึงพร้อมด้วยคุณวิเศษทั้ง 4 ประการนี้จะได้ผลบุญทันตาเห็น ดังมีกรณีของ
"นายปุณณะ" เป็นตัวอย่าง

เรื่อง นายปุณณะ
มีเรื่องเล่าว่า เมื่อพระศาสดาของเราประทับอยู่ที่เวฬุวัน เมืองราชคฤห์ ครั้งนั้นมีคนยากจนชื่อ "ปุณณะ" อยู่ในเมืองนั้นพร้อมกับภรรยาและลูกสาว เขาเป็นลูกจ้างของสุมนเศรษฐี อยู่มาวันหนึ่งมีการ เล่นมหรสพในเมือง เศรษฐีก็ถามว่า

"ปุณณะ เธอจะไปเล่นมหรสพ หรือว่าจะทำงาน"

นายปุณณะก็ตอบว่า

"การเล่นมหรสพเป็นงานที่ต้องเสียเงินมาก เป็นเรื่องของคนที่มีทรัพย์เขาทำกัน ผมเป็นคนยากจน เป็นคนหาเช้ากินค่ำ ข้าวจะกินพรุ่งนี้ก็ยังไม่มี ผมจะไปรื่นเริงได้อย่างไรกัน ผมขอไปไถนาตามปกติดีกว่า"

เศรษฐีจึงมอบวัวให้เขาไปไถนา เมื่อได้วัวแล้วเขาก็ไปหาภรรยา แล้วบอกว่า

"วันนี้ชาวเมืองเขาไปเล่นมหรสพกัน แต่เราเป็นคนจน ทำอย่างเขาไม่ได้ ดังนั้นฉันจะไปไถนา วันนี้ขอให้เธอช่วยต้มผักให้มากขึ้นอีกสองเท่าไปให้ฉันด้วยนะ " พอสั่งภรรยาแล้วก็รีบออกไปไถนาทันที

วันนั้นเองพระสารีบุตรเถระออกจากนิโรธสมาบัติใหม่ๆ ตรวจดูว่า "เราควรจะไปสงเคราะห์ ใครหนอ บุญนี้จะเป็นของใครหนอ" ได้เห็นนายปุณณะเข้าไปในญาณของท่าน จึงใคร่ครวญพิจารณาว่า เขาจะมีศรัทธาหรือเปล่า เขาสามารถที่จะถวายอาหารได้หรือไม่ ครั้นทราบว่าเขามีศรัทธา และสามารถที่จะถวายอาหารได้ และถ้าได้ถวายอาหารแล้ว จะได้สมบัติอันยิ่งใหญ่

ดังนั้นแล้วจึงครองจีวร ถือบาตรไปยังที่นายปุณณะไถนาอยู่ พอนายปุณณะเห็นพระเถระเข้าก็ดีใจ เข้ามากราบไหว้ และคิดว่าท่านต้องการไม้สีฟันในยามนี้ จึงทำไม้สีฟันถวาย พระเถระก็เอาบาตรและผ้ากรองน้ำมาให้เขา นายปุณณะพอได้รับก็ทราบว่าพระเถระคงต้องการน้ำดื่ม จึงรับเอาบาตรและผ้ากรองน้ำไปกรองน้ำมาถวาย

พระเถระคิดอยู่ว่า นายปุณณะนี้เป็นคนรับใช้ของเขา ถ้าท่านจะไปสู่เรือนของเขา ภรรยาของนายปุณณะก็จะไม่เห็นท่าน ท่านจึงจะอยู่ที่นั่นจนกว่าภรรยาของเขาจะนำอาหารมาให้ พระเถระรออยู่ครู่หนึ่ง ทราบด้วยญาณว่าภรรยาของนายปุณณะกำลังมาถึงแล้ว จึงออกเดินมุ่งหน้าไปยังพระนคร

ภรรยาของนายปุณณะ เมื่อพบพระสารีบุตรในระหว่างทางคิดว่า

"ตัวเราบางคราวพอมีไทยธรรม ก็ไม่พบพระเถระผู้เป็นเนื้อนาบุญ บางคราวพบพระเถระแต่ก็ไม่มีไทยธรรม วันนี้เราพบพระเถระด้วย ไทยธรรมก็มีด้วย ขอให้พระเถระโปรดสงเคราะห์เราด้วยเถิด"

ครั้นแล้วนางวางภาชนะใส่อาหารลง ไหว้พระเถระ พลางกล่าวว่า

"ขอท่านผู้เจริญจงโปรดอย่าคิดว่าอาหารนี้เลวหรือประณีตเลย ขอจงโปรดรับอาหารนี้ เพื่อสงเคราะห์แก่คนยากจนเช่นดิฉันด้วยเถิด"

พระเถระก็น้อมบาตรเข้าไป เมื่อนางเกลี่ยอาหารใส่ในบาตรครึ่งหนึ่งแล้ว พระเถระก็เอามือปิดบาตร นางจึงกล่าวต่อไปว่า

"อาหารนี้เป็นแค่ส่วนเดียว ดิฉันไม่อาจจะทำเป็นสองส่วนได้ ขอท่านอย่าสงเคราะห์เพียงแค่ใน โลกนี้เลย ช่วยกรุณาสงเคราะห์ดิฉันในโลกหน้าด้วยเถิด ดิฉันขอถวายทั้งหมด" แล้วใส่อาหารทั้งหมดลงไปใน บาตรของพระเถระ พร้อมกับตั้งจิตอธิษฐานว่า"ขอให้ได้เข้าถึงธรรมะที่พระเถระได้เข้าถึงแล้ว ด้วยเถิด"

พระเถระก็ให้พร

"ขอความปรารถนาที่เธอตั้งไว้ดีแล้วจงสำเร็จเถิด แล้วก็หาที่ฉันภัตตาหารในบริเวณนั้น ส่วนนางต้องรีบกลับไปบ้านเพื่อหุงข้าวให้แก่สามีอีกครั้งหนึ่ง"

ฝ่ายนายปุณณะไถนาไปได้มากแล้ว เกิดความหิวจนทนไม่ไหว จึงปล่อยวัวไว้ แล้วตัวเองก็เข้าไป นั่งพักใต้ร่มไม้ รอภรรยานำอาหารมาให้อยู่เป็นเวลานาน กว่าภรรยาของเขาจะถืออาหารมาให้ก็สายมาก นางจึงเกิดความกลัวว่า สามีจะหิวมากแล้วพาลโกรธนางขึ้น หรืออาจจะมีโทสะจนกระทั่งทำร้ายนางได้ สิ่งที่ตนเองทำบุญไว้ก็จะไม่เกิดประโยชน์ คิดอย่างนั้นแล้วจึงรีบตะโกนมาแต่ไกลทันทีว่า (นึกคนบางคนที่มีโทสะจริต)

"ข้าแต่สามี ท่านจงทำจิตให้ผ่องใสสักวันหนึ่งเถิด อย่าได้ทำสิ่งที่ฉันทำไว้ดีแล้วให้เสียประโยชน์ไปเลย ฉันได้นำอาหารมาแต่เช้าตรู่ พอดีมาเจอกับพระสารีบุตรพระธรรมเสนาบดี จึงถวายส่วนของท่านแด่พระเถระไปแล้ว และได้ไปหุงมาให้ท่านใหม่จึงมาสาย ขอท่านจงเลื่อมใสในบุญนี้เถิด"

ฝ่ายนายปุณณะก็ถามซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อความแน่ใจ พอได้รับการยืนยันอย่างเดิมก็ดีใจ พร้อมกับ กล่าวว่า

"เธอทำดีแล้วที่ได้ถวายภัตตาหารแด่พระสารีบุตรเถรเจ้า แม้ตอนเช้านี้เอง ฉันก็ได้ถวายน้ำบ้วนปาก และไม้ชำระฟันแด่ท่านเช่นกัน"

เขาทั้งสองมีใจเลื่อมใส และเพลิดเพลินในบุญของกันและกัน นายปุณณะพอกินข้าวเรียบร้อยแล้ว ด้วยความอ่อนเพลีย จึงเอาศีรษะหนุนตักภรรยาแล้วก็หลับไป พอตื่นขึ้นมามองไปที่ท้องนา เห็นนาที่ตนไถไว้กลายเป็นสีทองคำ จึงถามภรรยาด้วยความไม่แน่ใจว่า

"ช่วยดูทีเถอะว่า ที่ฉันเห็นตาลายไปหรือเปล่า ไปดูซิว่ารอยไถที่ไถไว้มันเป็นทองคำหรือเปล่า"

ภรรยาของเขามองเห็นนาที่ไถแล้วเป็นทองคำเหมือนกัน จึงเดินไปดูพร้อมกับหยิบก้อนทองนั้นฟาด กับที่งอนไถ เกิดเสียงดังกังวาน ทำให้รู้ว่าสิ่งที่ตนมองเห็นนั่นเป็นทองคำจริงๆ จึงอุทานด้วยความเบิกบานใจว่า

"น่าอัศจรรย์จริง สิ่งที่เราถวายแด่พระธรรมเสนาบดีนั้น ให้ผลทันตาเห็นทีเดียว"

เขาไม่อาจจะปกปิดทรัพย์ที่มากมายขนาดนั้นได้ จึงคิดว่าควรที่จะกราบทูลพระราชาให้ทรงทราบ ดีกว่า แล้วได้นำเอาทองคำจำนวนหนึ่งใส่ถาดไปเฝ้าพระราชา กราบทูลเรื่องทั้งหมดให้ทรงทราบ พระ-ราชาส่งราชบุรุษไปขนทองคำที่ท้องนาของเขามา

ฝ่ายราชบุรุษพอไปขนทองเป็นจำนวนมากมาไว้ที่พระลานหลวง พลางกล่าวว่า "ทองคำนี้เป็นของพระราชา พอเทออกมา ทองคำก็กลายเป็นก้อนดินไป พระราชาทอดพระเนตรเห็น ดังนั้นรู้สึกประหลาดใจมาก จึงถามว่าพวกเธอกล่าวว่าอย่างไรหรือ"

พวกราชบุรุษกราบทูลว่า

"พวกข้าพระองค์กล่าวว่า ได้ขนสมบัติของพระราชามา"

พระราชาตรัสว่า

"เธอกล่าวอย่างนั้นไม่ถูก เธอต้องคิดแล้วกล่าวเสียใหม่ว่า นี่เป็นสมบัติของนายปุณณะ"

ราชบุรุษทำตามที่พระราชารับสั่ง และแล้วสมบัตินั้นก็กลายเป็นทองคำในทันที พระราชารับสั่ง ให้เหล่าอำมาตย์ประชุมกัน แต่งตั้งและมอบตำแหน่งเศรษฐีให้แก่นายปุณณะและตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "พหุธนเศรษฐี" แปลว่า เศรษฐีผู้มีทรัพย์มาก

จะเห็นได้ว่า นายปุณณะได้ทำบุญในเขตที่ครบทั้งสัมปทา 4 คือ มีผู้รับ ได้แก่พระสารีบุตร เป็น พระอรหันต์ เป็นทักขิไณยบุคคลผู้เลิศ ปัจจัยที่ถวายก็ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ แม้จะเป็นอาหารของชาวบ้านธรรมดา แต่เป็นของบริสุทธิ์ เจตนาของเขาดีทั้ง 3 กาล คือก่อนให้ก็ดีใจ กำลังให้ก็เลื่อมใส ให้แล้วก็เบิกบานยินดี และพระสารีบุตรเป็นคุณาติเรกสัมปทา คือเพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติใหม่ๆ ฉะนั้น ผลบุญนี้จึงมากมายมหาศาล ส่งผลให้ทันตาเห็นฉะนี้

 

พิมสิริ]15กย25..... เลขท้าย 891
ตอบน้องพิมสิริคะ
ตามวันเกิดและบัตรที่ให้มานั้น
นับตั้งแต่เมษาปีที่แล้วเป็นต้นมา น้องประสบความทุกข์ยากและเกิดความเสื่อเสีย เนื่องจากดาว1 เสีย ดังนั้นตัวเองที่เกิดวันอาทิตย์ด้วย ก็เลยพลอยตกฐานะที่แย่ไปด้วยนะคะ หากน้องใช้ความตัดสินใจในทางที่ไม่ดี ผิดทางก็จะยิ่งแย่ เพราะอำนาจดาว 8 ดังนั้นตัวน้องหากหมั่นประพฤติปฏิบัติธรรม จะส่งผลให้ชีวิตเกิดความก้าวหน้าที่ดีนะคะ ตัวน้องนั้นเดิมเป็นคนค่อนข้างดื้อ หรือเชื่อยาก แต่ถ้าเชื่อใครแล้วจะยอมราบคาบเลยทีเดียว ดังนั้นหมั่นคบคนที่เป็นบัณฑิตไว้ ชีวิตจะเกิดความสุขและสามารถก้าวล่วงสิ่งร้ายๆไปได้นะคะ

จากคำถามที่ถามมาดูดวงให้ด้วยเป็นกรณีพิเศษ
คือดวงปีนี้และปีต่อไปหลังวันเกิดก็ยังไม่สู้ดีนะจ๊ะ ระวังเรื่องของเพศตรงข้ามไว้ด้วยนะ จะเกิดความทุกข์ใจ อึดอัดใจ สิ่งที่ติดขัดอยู่มันจะยืดเยื้อยาวนานนะจ๊ะ ดังนั้นหนูต้องหมั่นทำบุญ สวดมนต์ ปฏิบัติธรรมไว้มากๆนะ แล้วบุญทั้งหลายนั้นจะติดตามส่งผลให้ตัวน้องหลุดพ้นได้ แต่การทำกุศลบุญต่างๆนั้นอย่าหวังผลเป็นของการทำบุญนั้นๆที่ตั้งนะคะ คือให้ทำบุญด้วยเจตตนาที่เป็นการทำบุญเพื่อประโยชน์แห่งการสร้างความดีใส่ตัว หวังผลสูงสุดคือการพ้นทุกข์(นิพพาน)นะคะ

 

ตัณหา

ธรรมดาสัตว์ทั้งหลายที่เกิดอยู่ในโลกนี้ ความเกิดและความตายในคนหนึ่งๆ ที่ผ่านมาแล้วนั้น มากมายจนไม่สามารถจะคำนวณได้ว่า เคยเกิดเคยตายมาแล้วเท่าไร และต่อไปข้างหน้า ความเกิดและความตายก็จะมีต่อไปเรื่อยๆ กำหนดไม่ได้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไร ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะอาศัย ตัณหา คือความพอใจ ติดใจ ต้องการในอารมณ์ต่างๆ นั้นเอง เป็นผู้เกี่ยวสัตว์ไว้ไม่ให้หลุดพ้นจากความเกิดและความตายไปได้ เหมือนหนึ่งช่างเย็บผ้าที่เอาผ้าหลายๆชิ้นมาเย็บให้ติดต่อกันฉันใด ตัณหาก็เปรียบได้เหมือนกับช่างเย็บผ้า คือเกี่ยวสัตว์ในภพเก่าให้ติดต่อกันกับภพใหม่เรื่อยๆไป ด้วยเหตุนี้แหละตัณหาจึงได้ชื่อว่า “ วาน ”
B.Paramarthadham Astrology: ตัณหา

 

ขอบคุณมากๆ คะ โห เล่นใช้ตัวสีแดงเลยนะคะ ๕๕๕๕ ยอมรับว่าใจหายเลยคะ ๕๕๕๕ (เพราะมันก็แย่ตามที่พี่บอก)
ไม่รู้จะทำไงดี ตอนนี้ก็ว่าจะบำเพ็ญไปเรื่อยๆ ละก็จะขายคอมชำระหนี้ไปก่อนคะ ขอบพระคุณมาก

 

ผลของการทำบุญกุศล

วันหนึ่งจากการฟังธรรมจากวัดกลาง บางปลาม้า พระอาจารย์ สมทบ ปรักกโม ท่านเมตตาแสดงธรรมไว้ตอนหนึ่งว่า
การทำบุญหรือกุศลของเรานั้น เรารู้หรือไม่ว่าสิ่งที่เราทำที่เรียกว่าทำบุญนี้ ผลนั้นจะเกิดคืออะไร แล้วท่านก็ยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้ฟังว่า
มีนายพรานคนหนึ่งเดินเข้าป่าไปเพื่อล่าเนื้อสัตว์ นายพรานได้เนื้อมาแล้วก็เอาเนื้อแบกขึ้นหลังมา กลิ่นคาวของเลือด ทำให้ยุง เหลือบ ลิ้น ไร บินตามสัตว์นั้นมากับนายพราน นายพรานแม้ไม่ได้มีความปรารถนาในยุง เหลือบ ลิ้น ไร แม้แต่น้อยเลย ต้องการเพียงสัตว์ที่ล่ามาได้ ไปขายเพื่อให้ได้มาซึ่งเงิน แต่สิ่งที่ติดตามมานั้น ก็เปรียบเสมือนกับ เราทำบุญแล้วผลแห่งบุญนั้น ส่งผลให้ผู้ที่ทำบุญทำกุศล เกิดมาในกำเนิดต่างๆเป็นผู้มีทรัพย์มากก็ดี มีชื่อเสียงมากก็ดี มีสิ่งของอันชอบใจต่างๆก็ดี นั่นเปรียบเหมือนกับพวกยุง เหลือบ ลิ้น ไร ถึงแม้เราไม่ได้ตั้งความปรารถนาที่อยากจะได้ก็ตาม แต่อานิสงส์เหล่านั้นก็ได้มาเพราะอำนาจแห่งบุญที่เราทำ แต่จุดสูงสุดของบุญทุกๆประการคือการพ้นทุกข์ คือพระนิพพาน ดังนั้นให้เราท่านทั้งหลาย มุ่งผลแห่งการให้ทาน รักษาศีล และปฏิบัติธรรมต่างๆ ไม่ต้องไปขอมากมายอะไร ให้ตั้งจิตเพื่อความพ้นทุกข์ คือ พระนิพพานดีกว่า

บุญที่ทำโดยมุ่งผลตอบแทนเพื่ออยากจะได้อีก มีผลน้อย มีอานิสงส์น้อย ดังนั้นขอให้หวังพระนิพพานจึงประเสริฐสุด

 

บุญที่เราทำเสมอๆจะส่งผลทำให้ได้รับความสุข ดังนั้นหากทำบุญแล้วอุทิศต่อเทพเทวดาต่างๆ หากท่านได้รับรู้ว่าเรามีศีล มีการปฏิบัติดีแล้ว เทวดาท่านจะช่วยน้องได้ถ้าสิ่งนั้นไม่ได้เกิดจากกรรมที่เกินวิสัยนะจ๊ะ

และอีกอย่าง ที่เราเป็นเช่นนี้ก็เพราะเราอ่อนเรื่องของการรักษาศีล น้องต้องเคยทำผิดข้อ ๒ มาในอดีต ท่านว่าไว้จึงทำให้เราเสียหายเกี่ยวกับทรัพย์ หรือมีเงินไม่มากพอแก่การดำรงชีพ
หากเราเดือดร้อนเพราะร่างกายอ่อนแอ ไม่สบายบ่อยๆ แสดงว่าเราอ่อนเรื่องการรักษาศีลข้อ ๑
ดังนั้นสิ่งที่เป็นไปกับเรา เป็นการวัดผล และความสามารถของเราด้วย ว่าเราจะมีขันติธรรมมากน้อยแค่ไหน บางทีก็เป็นการสร้างบุญสร้างบารมีนะคะ ดังนั้นอุปสรรคแห่งชีวิตก็อาจเป็นสิ่งที่สร้างโอกาสแก่เราถ้ามองในทางที่เป็นจุดทดสอบตัวเรานะคะ
ขอเป็นกำลังใจในการปฏิบัติและสร้างความดีต่อไป ขอให้กำลังใจอย่าเสีย อย่าตก หลังพายุที่ร้าย ฟ้าย่อมสดใสนะคะ

 

คาถาศักดิ์สิทธิ์

คาถาสมประสงค์​

สัทธัมมะ รังสิชาลิโน ธัมมา ติเรกะเทสะโก โชเตสิสาสะนังวะรัง จะตุราสีติสะหัสสัง ติโลกานังปาปะนายะ ริปุงหันตะวานะนิพพพานัง กะตะวาโสชะยะมังคะลัง ยะถิจ ฉิตัง มัยหัง เทตุ
สมเด็จพระผู้มีพระภาค เป็นผู้ทรงแผ่ข่ายรัศมี คือ พระสัทธรรรม และทรงเป็นผู้ชี้ธรรมอันประเสริฐ คือพระนิพพานนี้ ทรงเผยแพร่คำสอนอันประเสริฐทั้งแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ให้รุ่งเรือง เพื่อเวไนยสัตว์ทั้งหลาย ที่อยู่ในโลกทั้งสาม จักได้ฆ่าศัตรูภายในคือ กิเลสแล้ว ให้เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ขอเดชพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นจงประสิทธิ์พรให้ข้าพระองค์ได้มีชัยมงคล และจงทรงอนุเคราะห์ความประสงค์ที่ข้าพระองค์ได้ตั้งความปรารถนาไว้แล้วนั้น ให้สำเร็จทุกประการด้วยเทอญ

เห็นว่าพระคาถานี้มีเนื้อความที่ดีและน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวเวปพลังจิตบ้างจึงคัดลอกมาบอกกัน สวดกันดูนะคะ เผื่อว่าคุณจะเป็นคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จและสมหวังในสิ่งที่ตั้งใจไว้นะคะ
B.Paramarthadham Astrology

 

<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>
ชื่อ สวัสดิพัทธ์ ณ พัทลุง เกิด 10 ตค 25??
9.?? am เลขท้ายประชาชน 55-1 ครับ

อยากทราบเรื่อง
1. บวชตลอด จะได้ไหม
ตอบคะ
สำหรับน้องคำถามข้อนี้ ก็ขออนุโมทนาด้วยนะคะ หากน้องอยากจะบวชก็ได้เลย ดาว ๕๕๑ ในบัตรและดาวในดวงดีคะ เหมาะสำหรับการปฏิบัติศีล สมาธิ ภาวนานะคะ ก็ขอให้น้องมีวาสนาในทางธรรมนะ จะได้ปฏิบัติตนเองให้ออกจากวัฏฏะสงสาร และเมื่อได้ปฏิบัติเรียนรู้แล้ว จะได้ช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไปด้วยนะคะ

2. งาน
ตอบ
การงานหากเป็นงานที่ต้องมีการโยกย้ายเปลี่ยนแปลง ไม่อยู่กับที่จะดี แต่ก็มีเกณฑ์ว่าจะได้เปลี่ยนอยู่เสมอๆ แต่ก็ออกจะมั่นคงดีนะคะ ถ้าทำงานที่ต้องทำเป็นจ๊อบๆก็จะถูกโฉลก
ดวงมีเกณฑ์ได้ดี ไปต่างประเทศ หรือมักมีชื่อเสียงนะคะ

3. ความรัก
ตอบ
ด้านความรักไม่ค่อยดีนะคะ มักไม่ค่อยสมหวังเรื่องความรัก ดวงประเภทแบบนี้มักเบื่อหน่ายและคิดออกบวช ดังเช่นดวงพระผู้ปฏิบัติดีที่มีชื่อเสียคะ

ดาววันเกิดและตัวเลขจากบัตรประชาชนนั้นส่งผลในทางที่ดี หากน้องศึกษาและปฏิบัติธรรมก็มีโอกาสที่จะก้าวหน้าเป็นอย่างดี ทางโลกและทางธรรมก็จะดีคะ
การเกิดเป็นมนุษย์นับว่ายากยิ่งแล้ว และการได้พบพระพุทธศาสนาก็ยากยิ่งกว่า สัตว์ทั้งหลายเป็นอันมากมักเวียนว่ายในวังวนและหลงทาง ขอให้น้องพบทางที่ต้องการนะคะ
สาธุ

 

ขอให้ความประสงค์ที่ดีใดของพี่และผม ประสบผลดังใจหมายเทอญ ขอบคุณมากครับ

 

สาธุๆๆ.......อนุโมทนา ..........เนื้อหาใจความคำแปลดีจังครับ

 

ตอบ 551

เรื่องงานคุณมีโอกาสได้งานใหม่ โยกย้ายงาน สถานที่ทำงาน มีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัย อาจมีหุ้นส่วนทำงานร่วมกัน ปุ๊บปัปได้งานใหม่ หรือบ้านใหม่อย่างรวดเร็ว
ยังไงน่าจะมีเกณฑ์เปลี่ยนแปลงโยกย้าย มีอะไรใหม่ๆ
ระวังเรื่องสุขภาพของผู้ใหญ่ แนะนำให้ทำบุญบ้านช่วงเมษานี้และช่วงวันเกิดอีกครั้ง
ทำบุญสร้างพระ สวดมนต์ขอขมาพระรัตนตรัย พาหุง ขินบัญชร แผ่เมตตาอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรบ่อย ๆ

 

ข้าพเจ้า พรสิริ เลิศวิทยาวิวัฒน์ -- 414 -- 16 สิงหาคม 2524
แฟน อรรถวิทย์ สุขโข -- 696 -- 22 มีนาคม 2526

ตอนนี้ทำงานที่ต่างประเทศด้วย (ที่เดียวกันค่ะ) คบกันปีกว่าแล้ว

ขออนุญาตถามความรักของเราทั้งคู่ค่ะ มีโอกาสแต่งงาน
มีครอบครัวด้วยกันเมื่อไหร่คะ และเราจะต้องอยู่ไกลกันหรือเปล่าคะ

ขอบคุณค่ะ

 

เลขท้ายบัตรประจำตัวประชาชน
629 ค่ะ เกิด 28 มค 2524 ค่ะ 00.53
ชื่อ เจนจิรา บัวขาว

อยากสอบถามว่าปีนี้ขอทุนการศึกษาไปเรียนต่างประเทศไว้ปีนี้จะมีโอกาสได้ทุนและไปศึกษาต่อต่างประเทศไหมคะ (เขาเปิดเทอมเดือนกันยาค่ะ)

ขอบพระคุณค่ะ

 

เลขบัตรประชาชน392 เกิดวันที่ 26 มีนาคม 2516 เวลา 24.45คะ
ถามเรื่องงานคะ ติดขัดมา 6 เดือนแล้วคะ
กราบขอบพระคุณล่วงหน้านะคะ

 

ขอสอบถามเรื่อง

การเงิน
การงานคะ

จันทร์ที่ 26 ตค 2513 จอ 981 คะ

 

นวรัตน์ จิรกิจไพฑูรย์ จันทร์ 27 กพ32 มะโรงเลขท้าย 452
เน้นเลยคะ ความรัก กำลังมีปัญหาอยากให้สมหวังหนะคะ คบมา4 ปีแล้ว
อีกเริ่องก็ เรียนต่อกับทำงานก่อนหนะคะ