รับประทานเนื้อวัวบาปไหมครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย chiwgim, 2 เมษายน 2010.

  1. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    585
    ค่าพลัง:
    +3,151
    มีคนเข้าใจผมผิดอีกแล้ว

    งั้นผมขอเพิ่มข้อมูลอีกหน่อย

    ผมบอกแล้วว่าผมไม่รู้ว่าจะบาปหรือไม่ ผมไม่ใช่ผู้ที่รู้แจ้งแล้ว

    และเคยกล่าวไปหลายครั้งแล้ว และผมก็ปฎิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าอยู่

    ผมไม่ได้รู้มากไปกว่าพระพุทธเจ้า ผมมีความรู้แค่หางอึ่ง

    แต่ที่กล่าวไปเป็นแค่ความเห็นของผมเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเชื่อ และกระทู้นี้ก็ไม่ใช่ของผมนะครับ

    ทุกท่านล้วนมีแนวทางการปฎิบัติ และผลการปฎิบัติที่ไม่เหมือนกัน ความเห็นในหลายๆเรื่อง หรือความรู้ในแต่ละเรื่อง ก็มีไม่เหมือนกัน จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้นมา

    สิ่งเหล่านี้ถ้าสงสัยและจะพิสูจน์กันให้ได้จริง ก็คงต้องปฎิบัติให้รู้แจ้งด้วยตัวเองเท่านั้น ผมเองก็เช่นกัน คงต้องปฎิบัติให้รู้ด้วยตนเอง เมื่อรู้แล้วก็หมดความสงสัย

    เรื่องในพระไตรปิฏกก็เป็นสิ่งที่มีอยู่ แต่เรื่องที่มีคนมาลงข้อความเอาไว้ เช่น ประวัติพระพุทธเจ้าไม่ฉันท์เนื้อสัตว์ หรือที่มีพระอาจารย์ท่านบอกว่า เคยไปเจอพระอรหันต์ บอกว่า ถ้าจะให้ถึงพระอรหันต์ ก็ต้องงดเนื้อสัตว์ คุณว่า ข้อความเหล่านี้เป็นเท็จหรือไม่ แล้วพิสูจน์ได้หรือไม่ว่าเป็นเท็จ (ต้องพิสูจน์ด้วยความรู้แจ้ง ไม่ใช้อารมณ์หรือทิฐิ)

    เมื่อมีข้อความต่างๆที่ออกมา เหมือนจะตรงข้ามกับพระไตรปิฏก จึงเกิดข้อสงสัยกันขึ้นมาบ้างเป็นธรรมดา ผมจึงบอกว่า ถ้าใครอยากจะรู้จริงๆ คงต้องปฎิบัติให้ถึงเท่านั้น แต่จะถึงหรือไม่ หรือจะได้รู้หรือไม่ คงไม่ตั้งความหวัง จนเกิดความอยากขึ้นมา แค่ปฎิบัติไปเรื่อยๆ

    ผมจะเล่าอดีตบางอย่างของผมอีกหน่อย

    พ่อของผมเคยทำงานอยู่โรงฆ่าไก่ ผมไปหาพ่อที่ทำงานเป็นประจำ จึงเห็นเป็นประจำ และได้ยินเสียงร้องโหยหวนของไก่ เพราะความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน และความกลัว อยู่เป็นประจำ และก็เกิดความรู้สึกสงสารกับไก่เหล่านั้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็เท่านั้น

    มีอยู่ครั้งหนึ่งลูกน้องของพ่อผม เป็นคนเชือดคอไก่ กำลังเชือดคอไก่อยู่ดีๆ ก็เอามีดมาปาดคอตัวเอง ตายในที่ทำงาน คงเป็นกรรมสนองกรรมกระมัง

    และมีอีกครั้งหนึ่ง ตอนที่ผมมีแฟนคนแรก แม่ของแฟนเค้าไปรับจ้างทำไส้กรอกที่บ้านหลังหนึ่ง มีคอกหมูอยู่ในบริเวณบ้าน วันนั้นผมไปเยี่ยมแม่แฟนผม

    ครั้งนั้นคนฆ่าหมู เอาไม้กระบองยักษ์ตีัที่หัวหมูไป 1 ที แต่หมูไม่ตาย แล้วยังวิ่งหนีร้องเสียงดังด้วยความกลัวตายและความเจ็บปวดมาทางที่ผมยืนอยู่ ผมก็หลบออก หมูก็วิ่งไปซุกตรงซอกหลืบที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด แต่คนฆ่าก็มาดึงลากออกไป แล้วตีอีก 2-3 ที หมูร้องเสียงดังมาก แล้วก็แน่นิ่งไป ผมเห็นแล้วรู้สึกสงสารและสลดสังเวชใจเป็นยิ่งนัก กินอะไรไม่ลงเลยวันนั้น

    นี่จึงเป็นเหตุให้ผมกำหนดเมตตาจิต เพราะไม่อยากจะเบียดเบียนผู้ใด จนติดเป็นกมลสันดานฝังรากอยู่ในจิต เค้าเจ็บเช่นไร เป็นเราเอง เราก็เจ็บเช่นนั้นเหมือนกัน

    ส่วนเรื่องผลการปฎิบัติของผมนั้น ผมรู้ที่ตัวผมเอง ไม่มีใครรู้ด้วย ผมคงจะบอกให้ใครรู้หรือเชื่อไม่ได้ ก็ตามแต่จะพิจารณาครับ
     
  2. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    Supop.... เรื่องในพระไตรปิฏกก็เป็นสิ่งที่มีอยู่ แต่เรื่องที่มีคนมาลงข้อความเอาไว้ เช่น ประวัติพระพุทธเจ้าไม่ฉันท์เนื้อสัตว์ หรือที่มีพระอาจารย์ท่านบอกว่า เคยไปเจอพระอรหันต์ บอกว่า ถ้าจะให้ถึงพระอรหันต์ ก็ต้องงดเนื้อสัตว์ คุณว่า ข้อความเหล่านี้เป็นเท็จหรือไม่ แล้วพิสูจน์ได้หรือไม่ว่าเป็นเท็จ (ต้องพิสูจน์ด้วยความรู้แจ้ง ไม่ใช้อารมณ์หรือทิฐิ)

    เมื่อมีข้อความต่างๆที่ออกมา เหมือนจะตรงข้ามกับพระไตรปิฏก จึงเกิดข้อสงสัยกันขึ้นมาบ้างเป็นธรรมดา ผมจึงบอกว่า ถ้าใครอยากจะรู้จริงๆ คงต้องปฎิบัติให้ถึงเท่านั้น แต่จะถึงหรือไม่ หรือจะได้รู้หรือไม่ คงไม่ตั้งความหวัง จนเกิดความอยากขึ้นมา แค่ปฎิบัติไปเรื่อยๆ


    พรานทะเล...ครับผม เห็นแย้งนิดนะครับ การสังคยนาพระไตรปิฏกมีทั้งหมด ๑๑ ครั้งจนถึงปัจจุบัน

    ครั้งแรก มีพระอานาท์ สำเร็จเป็นพระอรหันต์ บรรลุธรรมขั้นสูงสุดในบวรพุทธศาสนา

    เข้าร่วมเป็นองค์สุดท้าย ท่านมาหลังสุด ตามหลักฐานตามพุทธประวัติที่มีมา

    ตามหลักฐาน ทุกครั้งที่มีการสังคยนาพระไตร จะมีพระมีความสำคัญ หรือพระอรหันต์เข้าร่วมด้วย

    การสังคยาจริงๆ ไม้ได้เพิ่มเติม หรือแก้ไข ฉบับเดิม เพียงแต่ปรังปรุง

    ไห้เข้าใจง่ายขึ้น อ่านง่ายขึ้น ตามยุค ตามสมัยเท่านั้น สรุปก็คือขอมูลเดิม หลักฐาน

    เป็นหมวด เป็นหมู่ ตัวหนังสือ รายลักษ์อักษรยังอยู่ครบถ้วน

    หลักฐานพระ พระไตรปิฏก ยังอยู่ครบ....

    หมวดพระธรรม หมวดว่าด้วยพุทธประวัติ และหมวดพระวินัยสงฆ์ยังอยู่ครบ

    พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า หลังจากที่คถาคตปรินิพพานไปแล้ว

    พระธรรมคำสอน ธรรมะนี่แหละ คือ องค์แทนพระพุทธ์เจ้า

    ซึ้งพุทวจน มีอยู่ว่า "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราคถาคต"

    ..............................................................

    ที่เขาว่า บอกกันมา ว่าพระพุทธเจ้าไม่ฉันเนื้อสัตว์

    หรือแม้กระทั้งการจะเป็นพระอรหันต์ ต้อง งดเนื้อสัตว์

    ที่กล่าวมานี้ ก็เขาว่าอีกที ใครก็ไม่รู้ ไช่ไหม

    น้ำหนักมันเบา หาข้อเท็จยาก

    ผมว่า เอาตาม หลักฐานจริงๆที่มีอยู่ ในพระไตรปิฏก ผมว่า

    มันแน่นอนกว่า เชื่อถือได้มากกว่า จริงไหม

    อยากดู อยากอ่าน ก็ไปเิปิดดู เปิดอ่าน ค้นคว้าได้

    วรรคไหน ตอนไหน เล่มใด บรรทัดที่เท่าไหร่

    มันไม่เปลี่ยน จะวันไหนๆ ก็ยังเหมือนเดิม

    เดี๋ยวนี้ พระไตรปิฏกฉบับประชนก็มีแแล้ว หาซื้อ หาอ่านได้

    . . . .จอมอรหันต์ หรือองค์สมเด็จพระทศพล

    พระสัมมาสุมพุทธเจ้า ทรงตรัสว่า กินได้

    ฉันได้ ผู้ก่อตั้ง พระศาสนาตรัสเอง....

    เราจะเชื่อใครละ?

    หนัสือเรียนธรรมะเริ่มต้น สำหรับพระภิกษุสมเณร บวชไหม่

    ไช้สอบสนามหลวงทั่วประเทศ เช่นนวโกวาทเป็นต้น ฯลฯ

    มีกล่าวไว้ว่า เนื้อ๑๐อย่าง เท่านั้น ที่ห้ามฉัน นอกนั้นฉันได้ กินได้

    ไม่ว่าจะเป็นพระอรหันต์ หรือสมมุตติสงฆ์ กินได้ ฉันได้ ไม่ผิดพระธรรมวินัย

    พระองค์ทรงตรัสไว้แบบนี้

    แล้วเผอิญว่า ถ้าได้ไปสอบนักธรรม

    ถ้าข้อสอบ ถามว่าพระภิกษุ ห้ามฉัน ห้านกินเนื้อไหม?

    ถ้าเราตอบว่า มีห้ามอยู่๑๐ อย่าง นอกนั้น

    ฉันได้ กินได้ ถ้าตอบแบบนี้สอบผ่านนะ

    ถ้าเราตอบนอกเหนือจากนี้ ผิดไปแม้แต่นิดเดียว

    สอบตกนักธรรมตรี ธรรมะขั้นต้น ขั้นพื้นฐานเลยนะ

    แลกเปลี่ยนครับ

    อนุโมทนาครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 กันยายน 2010
  3. พรหมรักษ์

    พรหมรักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +26
    ...มีโจรคนหนึ่ง เขาเที่ยวปล้นทรัพย์อยู่เป็นนิจ เพื่อเลี้ยงบุตรและภรรยา
    อยูมาวันหนึ่ง เขาก็ถูกตำรวจจับได้..เขาจึงต้องได้รับโทษเพียงคนเดียว
    บุตรและภรรยาหาได้รับโทษไม่..ทั้งๆที่บริโภคใช้สอยทรัพย์นั้นแหละ
    ..แต่ตำรวจเขาไม่จับบุตรและภรรยา เพราะไม่ได้กระทำความผิด
    ถึงแม้จะกิน ก็ไม่ผิด เพราะไม่ได้ทำ
     
  4. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    585
    ค่าพลัง:
    +3,151
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่มากมายครับ คุณ พรานทะเล

    ผมเองก็พยายามปฎิบัติตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา และเมื่อถึงวาระบวช ผมก็จะตั้งใจปฎิบัติตามกฎของพระธรรมวินัยแน่นอนครับ

    ส่วนเรื่องอื่นๆที่มีเพิ่มเติมเข้ามานั้น ผมก็จะหาคำตอบด้วยตัวเอง เมื่อถึงวาระที่จะได้รู้ ก็คงจะรู้เอง

    เรื่องอื่นๆที่มีเพิ่มเข้ามานั้น ผมไม่ตัดทิ้งหรือเชื่อเลยทันที ทุกอย่างผมจะนำมาพิจารณาให้รู้เห็นแจ้งด้วยตัวเอง แต่ไม่ปักใจเอาไว้ ถ้าไม่ใช่ก็ทิ้งไป ถ้าใช่ก็เป็นปัญญาเพิ่มเติม เมื่อรู้ก็คือแค่รู้เท่านั้น

    และสำหรับผมเมื่อสงสัยอะไรก็มักจะได้คำตอบอยู่เสมอ ด้วยเหตุอะไรก็ยากที่จะอธิบายได้ครับ

    ส่วนเรื่องนี้ที่ผมสงสัยมันมีอะไรที่ละเอียดมากกว่านั้น คงไม่ขออธิบายนะครับ

    คุณเองก็ตอบได้ยาวดีเหมือนกันนะครับ แสดงว่าความรู้และความคิดของคุณคงมีอยู่มากมาย และชอบอธิบายอย่างละเอียดเพื่อให้เข้าใจ

    เหมือนผมเลย ชอบตอบยาวๆ แต่ไม่ค่อยละเอียด แถมบางทีสับสน ต้องมาแก้ใขบ่อยๆ เพราะพิมพ์ไปทำงานไป เลยงงบ้างเล็กน้อยถึงมาก

    ผมขออนุโมทนาด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...