รวม สุดยอดวัตถุมงคล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย montrik, 21 มกราคม 2017.

  1. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    ปิดรายการนี้แล้วครับ
     
  2. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 476 : พระปางสดุ้งกลับ กรุวัดสุวรรณ จ.อ่างทอง เนื้อตะกั่วสนิมแดง หลวงพ่อเนียม วัดน้อย ปลุกเสก
    สภาพสวยสุดยอดพิมพ์หายาก

    รับประกัน

    ราคา 2,750 บาท ปิด
    FB_IMG_1528182085171.jpg FB_IMG_1528182087558.jpg

    พระกรุวัดสุวรรณ อ่างทอง เนื้อตะกั่วสนิมแดง หลวงพ่อเนียมปลุกเสก
    วัดสุวรรณเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของจังหวัดอ่างทอง แต่ได้ชำรุดทรุดโทรม และปรักหักพังจากการทำลายของข้าศึกไปเสียเป็นส่วนใหญ่ ในคราวการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2310 ดังนั้นถาวรวัตถุต่างๆจึงได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ภายหลัง กล่าวว่าผู้บูรณะวัดสุวรรณขึ้นมาใหม่คือเศรษฐีทองคำ คหบดีผู้มีถิ่นฐานอยู่ทางทิศเหนือของวัด เมื่อบูรณปฏิสังขรณ์จนสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ยังได้สร้างพระเจดีย์ทรงลังกาขึ้นมาอีกหนึ่งองค์ ฐานล่างขององค์เจดีย์ใช้ซุงสองต้นวางกากบาท ภายในแบ่งเป็นห้อง 4 ห้อง มีภาพวาดพุทธประวัติ หลังจากสร้างเสร็จได้รวบรวมเอาพระพุทธรูป พระพิมพ์ ที่ยังพอหลงเหลืออยู่บ้างตามวัดเก่าในละแวกนั้นเข้าบรรจุอยู่ภายในองค์เจดีย์และได้สร้างพระเครื่องพิมพ์ต่างๆ ด้วยเนื้อชินตะกั่วนำเข้าบรรจุกรุรวมอยู่ด้วย ซึ่งพระพิมพ์ต่างๆ ที่สร้างขึ้นนั้นล้วนแต่เป็นพระพิมพ์ที่ล้อพระกรุพระเก่าทั้งสิ้น เช่นพิมพ์พระรอด พิมพ์พระลำพูน พระปิดตา พระลีลา พระนาคปรก พระสมเด็จ เหล่านี้เป็นต้น...
    ธรรมชาติของพระกรุวัดสุวรรณ ด้วยความที่เป็นพระเนื้อชิน และถูกบรรจุอยู่ภายในกรุหรือเจดีย์ ทำให้พระมีคราบไขปกคลุม รวมถึงบางองค์เกิดสนิมแดงเป็นจุดๆ สนิมแดงไม่แดงจัดมากนัก และทุกพิมพ์จะไม่มีการตัดขอบตกแต่ง เทหล่อออกมาเช่นไรก็ปล่อยเอาไว้เช่นนั้นซึ่งก็เป็นจุดพิจารณาอีกจุดหนึ่งของพระกรุนี้..
    หลายท่านเชื่อกันว่าเป็นพระของหลวงพ่อเนียม วัดน้อยมาสร้างไว้ เพราะมีหลายพิมพ์คล้ายแต่เนื้อหาก็ไม่เหมือนเสียทีเดียว บางท่านก็ว่าท่านมาปลุกเสกในพิธี อย่างไรก็ตาม พระชุดนี้มีอายุถึงปัจจุบันเป็นร้อยปีแล้ว มีความเก่า เนื้อหาสวยงาม จึงเป็นที่นิยมเล่นหากันอย่างกว้างขวาง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2018
  3. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    ายการที่ 477 : พระปางสมเด็จ กรุวัดสุวรรณ จ.อ่างทอง เนื้อตะกั่วสนิมแดง หลวงพ่อเนียม วัดน้อย ปลุกเสก
    สภาพสวยสุดยอดพิมพ์หายาก

    รับประกัน

    ราคา 2,750 บาท ปิด
    ลพ เนียม 1.jpg FB_IMG_1528271822283.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2018
  4. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 478 : พระปางนาคปรก กรุวัดสุวรรณ จ.อ่างทอง เนื้อตะกั่วสนิมแดง หลวงพ่อเนียม วัดน้อย ปลุกเสก
    สภาพสวยสุดยอดพิมพ์หายาก

    รับประกัน

    ราคา 2,750 บาท ปิด
    ลพ เนียม 2.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2018
  5. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    ายการที่ 479 : พระกรุหนองกระทุ่ม เนื้อตะกั่วสนิมแดง หลวงปูุ่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ปลุกเสก
    สภาพสวย

    รับประกัน

    ราคา 2,750 บาท
    องค์ที่ 1 พิมพ์สมาธิ
    ลป ศุข 1.jpg
    องค์ที่ 2 พิมพ์เม็ดบัว
    ลป ศุข 2.jpg

    พระกรุวัดหนองกระทุ่ม หนองฉาง อุทัยธานี พระสร้างด้วยเนื้อตะกั่ว มีสนิมแดงฉาบบาง ๆ บางองค์ผิวปรอท พระเกจิยุคก่อนสร้างบรรจุกรุ แตกกรุประมาณปี 2520 - 2521 เนื่องจากทางวัดได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์อุโบสถ ได้ทำการขุดใต้พระประธาน พบเจอโอ่งมีพระบรรจุไว้เต็ม มีพระจำนวนมามายหลายพิมพ์ และมีพระฝากกรุ มีเนื้อดิน ชิน ผง จากการสืบประวัติ นัยว่าเป็นพระเก่าที่อดีตเจ้าอาวาสได้สร้างไว้ อายุได้ร้อยกว่าปี และได้ข้อมูลว่าได้มีหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท ได้มาเสกไว้ให้ด้วย ด้วยเพราะจำนวนหลายพิมพ์ได้รับแบบการแกะพิมพ์ การเท แบบพระของหลวงปู่ศุข ฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2018
  6. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 480 : สมเด็จกำแพงแก้ว หลวงพ่อจลปลุกเสก
    องค์นี้บิ่นมุมเล็กน้อย พร้อมกรอบสแตนเลส พร้อมใช้

    ราคาน่ารัก 600 บาท
    รวมค่าส่ง
    FB_IMG_1528198778806.jpg FB_IMG_1528198776831.jpg FB_IMG_1528198774500.jpg
     
  7. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 481 : พระเนื้อผงทาทองเดิม หลวงพ่อพระใส หนองคาย พิมพ์กลาง ปี 2520
    สุดยอดพิธีปลุกเสก ครูบาสายเหนือ และหลวงปู่มั่น
    รับประกันแท้ ครับ

    ราคา 700 บาท ปิดครับ
    รสมค่าส่ง
    จอง

    นับเป็นวัตถุมงคลยอดนิยมอีกรุ่นของชาวหนองคายและสาธุชนที่มีจิตศรัทธาทั้งหลาย โดยทางวัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง ได้จัดพิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคล “หลวงพ่อพระใส” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เป็นศูนย์รวมใจของพุทธศาสนิกชนทั้งในจังหวัดหนองคาย และพื้นที่ใกล้เคียง ครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้ง เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2520 มีการนิมนต์พระเกจิอาจารย์ ที่มีชื่อเสียงมากมายในสมัยนั้น เข้าร่วมพิธีด้วย โดย แบ่งพระคณาจารย์ เข้านั่งปรกในพิธีทั้งสิ้นถึง 5 ชุด ปรากฏรายละเอียดดังนี้

    ชุดที่ 1 เริ่มเข้านั่งปรก 20.00 น. – 22.00 น. ปรากฏรายนามพระคณาจารย์ดังนี้
    1. พระรักขิตวันมุนี(หลวงพ่อถิร) วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี
    2. พระสังวิมลเถระ(หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
    3. พระครูศีลสารสัมบัน(พระอาจารย์สำรวย) วัดสระแก้วปทุมทองพิษณุโลก
    4. พระครูพิลาสธรรมกิตติ์(พระอาจารย์ทวี) วัดโรงช้าง พิจิตร
    5. พระครูธรรมชัย วัดทุ่งหลวง เชียงใหม่
    6. หลวงปู่สำลี ปกาโส วัดซับบอน สระบุรี
    7. หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ลพบุรี
    8. หลวงพ่อคำแสน ไชยวุฒิ วัดท่าแหน ลำปาง
    9. พระอาจารย์อ่อน วัดป่านิโครธาราม อุดรธานี
    10. พระครูวรวุฒิคุณ วัดฟ้าหลั่ง เชียงใหม่
    11. พระอาจารย์จวน วัดภูทอก หนองคาย
    ชุดที่ 2 เริ่มเข้านั่งปรก 22.00 น. – 24.00 น. ปรากฏรายนามพระคณาจารย์ดังนี้
    1. พระโสภณวิสุทธิเถร วัดศรีละขัน สุพรรณบุรี(สะกดตามต้นฉบับ)
    ที่ถูกคือ พระโสภณวิสุทธิเถร วัดศีลขันธ์ อ่างทอง
    2. พระอุดมวุฒิคุณ วัดสำเภา เชียงใหม่
    3. พระเกษมธรรมานนท์ (หลวงพ่อแช่ม) วัดดอนยายหอม นครปฐม
    4. พระครูประภาสธรรมาภรณ์ วัดสุนทรประดิษฐ์ พิษณุโลก
    5. พระครูรัตนานุรักษ์ (พระอาจารย์แก้ว) วัดปงสนุกใต้ ลำปาง
    6. พระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโม วัดสิริสาลวัน อุดรธานี
    7. พระอาจารย์จ้อย จันทสุวรรณโณ วัดศรีอุทุมพร นครสวรรค์
    8. หลวงพ่อศรีทัต วิปัสสโน วัดธาตุหนองสามหมื่น ชัยภูมิ
    9. เจ้าอธิการบุญชุบ พินนโค วัดเกาะวาธุการาม ลำปาง
    10. พระครูมงคลศิลวงศ์ วัดบุพพราม เชียงใหม่
    11. พระครูเหรียญ วัดผาชัน อ.ศรีเชียงใหม่ หนองคาย
    ชุดที่ 3 เริ่มเข้านั่งปรก 24.00 น. – 02.00 น. ปรากฏรายนามพระคณาจารย์ดังนี้
    1. พระครูวิมลกิจจารักษ์ (พระอาจารย์สิริ) วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ
    2. พระครูศรีภูมานุรักษ์ วัดป่าสามัคคีธรรม สกลนคร
    3. พระครูศรีปริยัติยานุรักษ์ (พระครูบาไฝ) วัดพันอ้น เชียงใหม่
    4. พระครูบวรชินรัตน์ (พระอาจารย์บุรัชย์) วัดนางพญา พิษณุโลก
    5. พระครูสนิทวินัยการ (พระอาจารย์สนิท) วัดท่าโขลง ลพบุรี
    6. พระครูปิยธรรมภูษิต (พระอาจารย์คำ) วัดบำรุงธรรม สระบุรี
    7. พระครูอ่อนศรี วัดพระงาม ท่าบ่อ หนองคาย
    8. พระปลัดกอง จันทวังโส วัดกษัตราธิราช อยุธยา
    9. พระอาจารย์สน เขมิโย วัดอรัญญานาโพธิ์น้อย นครพนม
    10. พระอาจารย์บุญ ชินวังโส วัดศรีสว่างแดนดิน สกลนคร
    11. ญาท่านบุญมาก วัดท่าไร่ หนองคาย
    ชุดที่ 4 เริ่มเข้านั่งปรก 02.00 น. – 04.00 น. ปรากฏรายนามพระคณาจารย์ดังนี้
    1. พระครูกิตตินนทคุณ (พระอาจารย์กี๋) วัดหูช้าง นนทบุรี
    2. พระครูสังคมคณารักษ์ วัดสังคมธรรมาราม หนองคาย
    3. พระครูภาวนาภิสนฑ์ วัดโชติรสธรรมกร สกลนคร
    4. พระครูสังฆรักษ์สัมฤทธิ์ วัดอู่ทอง สุพรรณบุรี
    5. พระครูอินทศิริชัย วัดไทย นครปฐม
    6. พระอาจารย์ชาย วัดสังทอง มหาสารคาม
    7. พระอาจารย์แพงตา เขมิโย วัดประดู่วีรธนนม นครพนม
    8. พระครูโอภาสประทุม โพนพิสัย หนองคาย
    9. พระครูสิริธรรมญาณ วัดลำดวน ท่าบ่อ หนองคาย
    10. พระอาจารย์คำแหวน สิริปัญโญ วัดบ้านห้วยดอกไม้ หนองคาย
    ชุดที่ 5 เริ่มเข้านั่งปรก 04.00 น. – จนดับเทียนชัย ปรากฏรายนามพระคณาจารย์ดังนี้
    1. พระโบราณคณิสสร (พระอาจารย์ใหญ่) วัดสระแก(สะกดตามต้นฉบับ)อยุธยา
    2. พระครูพิทักษ์วิหารกิจ (พระอาจารย์สา) วัดราชนัดดา กรุงเทพฯ
    3. พระครูประสาทวรคุณ (พระอาจารย์พริ้ง) วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี
    4. พระครูพิบูลธรรมเวศ (หลวงพ่อเปรื่อง) วัดหิรัญญาราม พิจิตร
    5. พระครูสุวรรณวิสุทธิ วัดธัญญาวารี สุพรรณบุรี
    6. พระครูญาณกิตติคุณ (พระอาจารย์ยุ่น) วัดตงยวด อุดรธานี
    7. พระครูญาณวิภาค (ครูบาคำพันธ์) วัดดอนจีน เชียงใหม่
    8. พระอาจารย์แว่น ธนปาโล วัดสุทธาวาส สกลนคร
    9. พระอาจารย์พันธุ์เทพ วัดศรีบุญเรือง เชียงใหม่
    10. พระอาจารย์คูณ วัดท่าไร่??? หนองคาย (สะกดตามต้นฉบับ) ***
    FB_IMG_1528199843045.jpg FB_IMG_1528199845772.jpg FB_IMG_1528199848063.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2018
  8. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    ข้อมูลเพิ่มเคิม
    รายการที่ 481

    เรียกอีกชื่อว่า รุ่นเครื่องบินตก

    ความน่าสนใจของวัตถุมงคลชุดนี้ แค่เพียงความศักดิ์สิทธิ์ของ “หลวงพ่อพระใส” พระคู่บ้านคู่เมือง เชื่อได้ว่าเพียงพอที่จะแผ่บารมีคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายต่างๆ ของผู้ครอบครองได้ หากแต่เมื่อพิจารณาถึงรายนามพระคณาจารย์ชื่อดังแห่งยุคนั้นทั้งหลายที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิต ในพิธีพุทธาภิเษกที่จัดขึ้นอย่างเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนพุทธศิลป์ที่สวยงามกดพิมพ์ได้คมชัดลึกแทบทุกองค์ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่วัตถุมงคลรุ่นนี้ เป็นที่นิยมของทั้งชาวหนองคายและผู้คนทั่วไป ซึ่งต่อมายิ่งโด่งดังมากขึ้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ ที่นำความโศกสลดมาสู่พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ ในวันที่ 27 เมษายน 2523 ในครั้งนั้นพระคณาจารย์พระป่ากัมมัฏฐานสายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ได้รับอาราธนาจากทางสำนักพระราชวัง ทั้งหมดจำนวน 5 รูปด้วยกัน ได้แก่คือ พระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโม, พระอาจารย์วัน อุตฺตโม, พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ, พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร และพระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม
    หลังจากรับนิมนต์พระคณาจารย์ทั้งหมดจึงได้ไปรวมกันที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อขึ้นเครื่องบินเที่ยวบิน TG 231 อุดรธานี-กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเครื่องบิน 2 ใบพัด รุ่น HS-748 รหัส HS-THB บินออกจากท่าอากาศยานอุดรธานี จะไปลงที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เพราะลูกศิษย์ลูกหาต้องการถวายความสะดวกและความรวดเร็วในการเดินทาง
    ครั้นเมื่อเครื่องบินมาถึงท้องนาทุ่งรังสิต เขตหมู่ที่ 4 ตำบลคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เหลือระยะทางอีเพียงประมาณ 20 กิโลเมตรเศษ เครื่องบินได้ตั้งลำและลดเพดานบินเพื่อเตรียมลงสู่สนาม แต่เนื่องจากเครื่องบินได้ประสบพายุหมุน ประกอบกับมีพายุฝนตกลงมาอย่างหนัก มีลมกระโชกแรง เกินที่นักบินจะควบคุมเครื่องให้ลงจอดได้อย่างปลอดภัย สุดท้ายจึงเสียการควบคุมตกลงมากระแทกกับพื้นดินบนท้องนาทุ่งรังสิต ทำให้ผู้โดยสารบนเครื่องจำนวน 53 คน เสียชีวิตไปถึง 40 คน อุบัติเหตุเครื่องบินตกในครั้งนั้นเป็นเหตุทำให้ พระคณาจารย์ทั้ง 5 รูป ได้ถึงแก่มรณภาพลงพร้อมกันกับผู้โดยสารอีกเป็นจำนวนมาก เมื่อเวลาประมาณ 14.00 นาฬิกา มีผู้ที่รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์จากเหตุการณ์ดังกล่าวเพียง 13 คนเท่านั้นส่วนใหญ่เป็นผู้ที่นั่งทางส่วนท้ายของเครื่องบิน เพราะส่วนหางของเครื่องบินยังอยู่ในสภาพดี และหนึ่งในนั้นคือ นายสมพร กลิ่นพงศา ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายในขณะนั้น ส่วนอีกคนนั้น คือ นายศักดา อัครเมธาทิพย์ อดีตผู้บัญชาการเรือนจำหนองคาย ก่อนขึ้นเครื่องได้ไปนมัสการ หลวงพ่อพระใส พร้อมทั้งเช่าบูชาวัตถุมงคล และพระบูชาขนาดหน้าตัก 5 นิ้วนำติดตัวขึ้นเครื่องมาด้วย และอีกหลายคนที่รอดตายอย่งเหลือเชื่อนี้ ก็มีพระรุ่นนี้อาราธนาติดตัวอยู่เช่นกัน จากประสบการณ์เฉียดตายในครั้งนี้ ทำให้ความนิยมในวัตถุมงคลรุ่นนี้เพิ่มมากขึ้น จนนักสะสมในพื้นที่มักเรียกขานพระใสเนื้อผงรุ่นปี 20 นี้ว่า “รุ่นประสบการณ์(เครื่องบินตก)”
    FB_IMG_1528200705052.jpg
     
  9. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    ปิดรายการนี้
    ขอบคุณครับ
     
  10. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 482 : ปิดตาล้มลุก แม่ชีบุญเรือน
    ชุดใหม่ มี 2 องค์
    ราคา องค์ละ 1,850 บาท
    รวมค่าส่ง
    ปิดตาล้มลุก 2.jpg
     
  11. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    ปิด
     
  12. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    ปิด
     
  13. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 483 : พระสมเด็จใบโพธิ์ พิมพ์คะแนนสาริกา เนื้อว่านชานหมาก รุ่นแรก หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง

    *** รับประกันแท้ครับ ***

    ราคา 800 บาท
    ปิดครับ
    หายากนะครับ
    FB_IMG_1528284057448.jpg FB_IMG_1528284060077.jpg FB_IMG_1528284062967.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2018
  14. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 484 : พระยอดขุนพลเนื้อดิน พิมพ์ใหญ่ หลวงพ่อถม วัดเชิงท่า จ.ลพบุรี สร้างผสมดินกรุเก่า

    รับประกัน
    ราคา 800 บาท จองแล้ว
    รวมค่าส่ง
    FB_IMG_1528350824232.jpg FB_IMG_1528350826994.jpg FB_IMG_1528350829385.jpg FB_IMG_1528350831226.jpg

    หลวงปู่ถม วัดเชิงท่า สายตรงสังฆราช(แพ) หลวงปู่ถม วัดเชิงท่า สายตรงสังฆราช(แพ) ใครก็ตามที่ได้ไปเยือนเมืองลพบุรี บริเวณใกล้มุมเขตพระราชฐานพระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์ จะได้เห็นความแปลกและความงดงามของอารามดังแห่งหนึ่ง ที่ว่าแปลกก็เพราะโบสถ์ของอารามแห่งนี้ผิดแผกจากวัดโดยทั่วไป คือเป็น “โบสถ์ขวางตะวัน” และยังปรากฏสิ่งก่อสร้างเป็นศิลปะของชาวจีนปะปนอยู่นั่นคือ “เก๋งจีน” วัดที่กล่าวถึงนี้คือ “วัดเชิงท่า”หรือ “วัดท่าเกวียน”ในอดีต ตั้งอยู่ในท้องที่ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี ปกครองโดยพระครูโสภณธรรมรัต (หลวงปู่ถม ธัมมทีโป) อายุ 90 ปี เจ้าคณะอำเภอเมืองรูปปัจจุบัน แม้ท่านจะมิใช่พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ก็เป็นที่ล่วงรู้ในหมู่ชาวเมืองละโว้ว่า “พระรูปนี้ไม่ธรรมดา ไม่ต้องโฆษณาประชาสัมพันธ์เพราะมีดีในตัวเอง แถมมีวัตถุมงคลขลังมากด้วยประสบการณ์” ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2455 หลวงปู่ถมได้ถือกำเนิดขึ้นในครอบครัวของกำนันลอย และนางเนย แห่งตระกูล“สงวนวงษ์” ซึ่งเป็นชาวบ้านโพธิ์ผีไห้ (ปัจจุบันเป็นต.โพธิ์เก้าต้น) อ.เมือง จ.ลพบุรี ในวัยเด็กได้อาศัยหัดเรียนเขียนอ่านกับผู้เป็นบิดา จนถึงปีพ.ศ.2462 ได้ไปพักอาศัยกับสามเณรแถม ที่วัดเชิงท่า ซึ่งขณะนั้นพระครูโวทานสมณคุต (หลวงพ่อรุ่ง พรหมสโร) เจ้าอาวาส ท่านได้เปิดโรงเรียนทำการสอนลูกหลานของชาวบ้านท่าหิน ในช่วงนั้นจึงมีโอกาสเรียนหนังสือแบบเรียนเร็ว มูลบทบรรพกิจ รวมทั้งหัดอ่านเขียนหนังสือขอมด้วย และได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนประจำจังหวัด ตั้งอยู่ที่ตึกวิชาเยนทร์ ปีพ.ศ.2465 พระครูธรรมรักขิต ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาได้บวชเรียนอยู่ที่วัดสุทัศน์ กทม. ได้รับตัวไปพักอาศัยด้วย เพื่อหวังให้หลานชายได้มีความรู้ภูมิปัญญาเท่าเทียมกับเด็กในกรุง การศึกษาในคราวนั้น สำเร็จชั้นประถมศึกษาและวิชาพิเศษที่ได้รับมาก็คือ วิชาช่างไม้ ช่วงที่พำนักในวัดสุทัศน์นั้น ได้มีโอกาสรับใช้ใกล้ชิดสมเด็จพระสังราช(แพ) และพระมหาสนธิ์ (พระศรีสัจจญาณมุนี) โดยได้รับความเมตตาเอ็นดูจากท่านทั้งสองอย่างมาก หลังจบการศึกษาที่วัดสุทัศน์ก็กลับมาช่วยครอบครัวทำนา แต่หากมีเวลาเมื่อใด ก็จะเดินทางกลับมากราบสมเด็จพระสังราช(แพ) และพระมหาสนธิ์ (พระศรีสัจจญาณมุนี) อยู่เสมอๆ กระทั่งอายุ 20 ปี จึงเข้าอุปสมบทที่วัดโคกหม้อ โดยมีพระครูโวทานสมณคุต (หลวงพ่อรุ่ง) เจ้าอาวาสวัดเชิงท่า-วัดกวิศราราม เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการบุญ วัดโคกหม้อ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์เฉย วัดเชิงท่า เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ความตั้งใจของท่านครั้งนั้น จะบวชเพื่อเอาดีทางด้านพระปริยัติและนักธรรม แต่การณ์กลับเป็นว่า ท่านต้องช่วยเหลือหลวงพ่อบุญในการซ่อมบำรุงเสนาสนะของวัดโคกหม้อ โดยอาศัยวิชาช่างไม้ที่ได้มาจากวัดสุทัศน์ ต่อมาได้มีโอกาสพบกับหลวงพ่อรุ่งพระอุปัชฌาย์ จึงขออนุญาตหลวงพ่อบุญมาจำพรรษาที่วัดเชิงท่าเพื่อศึกษาพระธรรมวินัยในปีพ.ศ.2497 และสามารถสอบนักธรรมเอกได้ในปีพ.ศ.2481 หลังจากหลวงพ่อรุ่งมรณภาพได้ประมาณหนึ่งปี ภายหลังหลวงปู่ถมก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสสืบแทน แต่ท่านปฏิเสธไม่ขอรับตำแหน่ง โดยเอาใบตราตั้งไปคืนเจ้าคณะจังหวัด โดยยกเหตุผลว่าท่านนั้นมีคุณวุฒิและวัยวุฒิยังน้อยอยู่ จนถึงสมัยของพระพุทธวรญาณ (ทองย้อย) ท่านได้ขอร้องแกมบังคับให้รับตำแหน่ง ดังนั้น ในปีพ.ศ.2504 เป็นปีที่ท่านไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จึงปกครองดูแลวัดเชิงท่านตั้งแต่นั้นมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยฝีมือในเชิงช่าง และความเป็นพระนักพัฒนาผู้เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม เมื่อได้เป็นผู้นำแล้ว ท่านก็มุ่งมั่นสร้างสรรค์ความเจริญให้วัดเชิงท่า รวมทั้งสร้างสิ่งอันเป็นประโยชน์แก่ประชาชนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ผลงานล่าสุดก็คือ การสร้างพิพิธภัณฑ์หอโสภณศิลป์ สำหรับใช้เป็นสถานที่เก็บรักษาโบราณวัตถุที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา ภูมิปัญญาของชาวบ้าน เพื่อไว้ให้ลูกหลานชาวเมืองลพบุรีและผู้ที่สนใจได้มีโอกาสเรียนรู้ อาคารพิพิธภัณฑ์ซึ่งท่านเป็นแกนนำรวมกับคณะสงฆ์และฆราวาสที่มีจิตศรัทธา มีจุดมุ่งมั่นในทางเดียวกัน ทำให้เกิดสิ่งนั้นขึ้นมาเริ่มต้นเมื่อปีพ.ศ.2540 สำเร็จลงด้วยงบประมาณเกือบ 10 ล้านบาท สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ทรงเป็นองค์ประธานในการเปิดอาคารเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2545 ทั้งนี้ ได้เปิดให้ผู้สนใจเข้าชม โดยไม่มีการเรียกเก็บเงินค่าผ่านประตูแต่อย่างใด ปัจจุบันในวัย 90 ปี แต่งานด้านการสงเคราะห์ต่อบรรดาญาติโยม มิได้ลดน้อยลงไป มีแต่จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว แทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน หากไม่รบกวนต่อสังขารเรื่องของการเจ็บป่วยแล้ว ท่านจะไม่เคยปฏิเสธกิจนิมนต์ใดๆไม่ว่าไกลหรือใกล้ ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลหลายรุ่นย่อมจะขาดท่านไปไม่ได้ เพราะต่างเชื่อในความขลังอันเกิดจากพลังจิตของท่าน เท่าที่ได้รับการกล่าวขานก็คือ น้ำมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่ได้รับมักจะประสบกับความโชคดีมีลาภอย่างไม่คาดคิดมาก่อน ศาสตร์อีกแขนงหนึ่งที่ได้รับความเชื่อถือคือ การเจิมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ได้รับการเล่าสืบต่อๆกันมาว่า เมื่อครั้งที่หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี ยังมีชีวิตอยู่ มีผู้ไปขอให้ท่านเจิมรถยนต์ให้ หลวงพ่อพริ้งได้กล่าวต่อเจ้าของรถว่า “ตำราของฉันมันชอบลองของนะ” ปรากฏว่าเป็นตามที่ท่านลั่นวาจาไว้ทุกครั้ง เมื่อเสร็จพิธีเจิมรถ เจ้าของนำรถออกนอกวัด มักจะพบประสบการณ์ตามที่หลวงพ่อพริ้งบอกไว้เป็นประจำ ภายหลังท่านได้บอกต่อผู้ที่จะนำรถไปให้ท่านเจิมว่า “หากไม่ต้องการเจออุบัติเหตุประเภทปลอดภัยโดยตลอด ไปหาพระอาจารย์ถม วัดเชิงท่า ให้ท่านเจิมให้ ฉันรับรอง” คำพูดของหลวงพ่อพริ้งเหมือนเป็นเครื่องการันตีในสรรพคุณ เพราะนับแต่นั้นเป็นต้นมา ได้ผู้นำรถมาให้ท่านเจิมมากขึ้นๆ ในส่วนของวัตถุมงคลนั้น ที่โด่งดังมีประสบการณ์ให้กล่าวขานถึงความขลังศักดิ์สิทธิ์ก็คือ เหรียญพระสมเด็จเกศทะลุซุ้ม ปี15,พระกริ่งธรรมรัตน์ พระสมเด็จเนื้อผง ,พระนาคปรก,พระย้อนยุคพระเครื่องเมืองลพบุรี,พระปิดตามหาลาภ พระร่วงโสภณญาณรังษี ส่วนล่าสุดคือรุ่น “มหามงคล90” สร้างในมงคลโอกาสอายุครบ 90 ปี เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2545 ประสบการณ์ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางด้านแคล้วคลาด ปกป้องคุ้มครอง เมตตามหานิยมเป็นเอก ********************* ในส่วนของพุทธาคมนั้นเป็นที่แน่นอนว่าหลวงปู่ถมได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงพ่อรุ่ง ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์อย่างแน่นอนเพราะได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้ใกล้ชิด หลวงพ่อรุ่งนับเป็นเกจิอาจารย์เมืองละโว้ที่มีชื่อเสียงมากองค์หนึ่ง เก่งทางด้านการศึกษาและทำตะกรุด มีบารมีทางกระแสจิตแก่กล้ามาก ตะกรุดของท่านจะแจกเฉพาะผู้ใกล้ชิดเท่านั้น กล่าวกันว่าเวลาปลุกเสกตะกรุดจะร้อนและแดงเป็นไฟเลยทีเดียว นอกจากนี้ การได้เข้า-ออกวัดสุทัศน์เป็นประจำตั้งแต่สมัยเด็กจนกระทั่งบวชเรียน จึงทำให้ท่านได้วิชาจากสมเด็จพระสังฆราช(แพ) และเจ้าคุณศรีฯ(สนธิ์) มามิใช่น้อย ด้วยเหตุนี้ จึงปรากฏคุณวิเศษความเข้มขลังในวัตถุมงคลพระกริ่งที่ท่านได้สืบสานตำรับตำราการสร้างจากผู้เป็นพระอาจารย์ทั้งสอง ทั้งนี้นับว่าท่านเป็นศิษย์สายตรงวัดสุทัศน์เพียงหนึ่งเดียวในจังหวัดลพบุรี เกจิอาจารย์ดังของลพบุรีอีกองค์ที่ท่านได้รับถ่ายทอดวิทยาคมมาก็คือ หลวงปู่จัน วัดนางหนู เกจิยุคสงครามอินโดจีนที่เชื่อได้ในความคงกระพัน รวมทั้งได้รับการจารตะกรุดตามตำรับหลวงปู่ศุข เกสโร วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาทอีกด้วย นี่ย่อมแสดงถึงความเป็นศิษย์มีครูที่น่าสนใจยิ่ง!!! แม้จะเป็นศิษย์อาจารย์ดังในอดีตหลายต่อหลายท่าน แต่หลวงปู่ถมไม่เคยโอ้อวดให้ใครได้ยินสักครั้ง และไม่นิยมการโฆษณาชวนเชื่อแต่อย่างใดโดยให้เหตุและผลว่า ของจริงอยู่นิ่งๆก็ดัง ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่ไม่ว่าท่านจะดังหรือไม่ นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะทุกวันนี้หลวงปู่โถมท่านคงมุ่งเน้นทางด้านปฏิบัติและบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อชุมชน ต่อญาติโยมในทุกสภาวะโดยไม่ทำให้ใครต้องเดือดร้อน วัตรปฏิบัติของท่านงดงาม เปี่ยมด้วยความจริงใจ
     
  15. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 485 : พระเกศาครูบาศรีวิชัย เนื้อครั่ง พิมพ์พระเลี่ยง มีเส้นเกศา ลอยอยู่ทั่วองค์
    หายากนะครับ

    รับประกันแท้ ครับ
    ราคา 2,500 บาท

    ปิดครับ

    สำหรับองค์นี้ เส้นเกศาเยอะมาก มองเห็นลอยอยู่ทั่วองค์พระ ***
    *** สุดยอดของพระเนื้อผงพุทธคุณ ที่มีเนื้อหามวลสารที่เป็นสิ่งมงคลสูงสุดได้แก่เส้นเกศาของครูบาเจ้าศรีวิชัย แม่ทัพแห่งกองทัพธรรมล้านนานี้ แม้ท่านไม่ได้ปลุกเสก แต่นับได้ว่าเป็นพระเครื่องรุ่นเดียวที่สร้างทันท่าน เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าเป็นพระมากด้วยพุทธคุณทางเมตตามหานิยม เด่นทางแคล้วคลาดภยันตราย กันพิษภัยจากการเจ็บไข้ได้ป่วยระหว่าการเดินทาง รอดพ้นภัยดีนักแล อิทธิปาฏิหารย์ด้านคงกระพันแม้ ไม่ปรากฏ จะมีก็แต่เพียง เมื่อเกิดอุบัติเหตุมักจะแคล้วคลาดรอดพ้นมาได้ อาจมีบาดแผลบ้าง บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยเมื่อครั้งท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น คราใดที่พระครูบาเจ้าจะปลงผม (เส้นเกศา) เหล่าบรรดาพระลูกศิษย์และศรัทธา ชาวบ้านจะพากันเอาผ้าขาวมารอง พร้อมใบบัวมาคอยรับคอยห่อ เอาพระเกศาของท่านครูบาเจ้าฯ เมื่อได้เส้นเกศาที่ครูบาท่านปลงแล้ว ก็จะขออนุญาตินำออกไปแจกให้ คณะศรัทธาชาวบ้านส่วนหนึ่ง โดยอีกส่วนเก็บเอาไว้กับวัดที่ท่านพักอยู่ ณ ขณะเมื่อคราปลงเส้นผมนั้น ซึ่งต่อมาบางวัดก็ได้นำเอาไปบรรจุรวมกับอัฐิธาตุ ของพระครูบาเจ้าศรีวิชัยดังปรากฏตามประวัติการสร้างสถูป อนุสาวรีย์ของพระครูบาเจ้าศรีวิชัย สืบมาถึงปัจจุบัน
    ลักษณะของเส้นเกศาของครูบาเจ้าศรีวิชัย ตามที่ได้พบเห็นในเนื้อพระผงเกศาของท่านจะมีความยาวประมาณมือหยิบ หรือประมาณ เซนติเมตร เป็นส่วนใหญ่ลักษณะเส้นผมจะเป็นสีน้ำผึ้ง, ใส ดุจดั่งเส้นใยแก้วก็มี การสร้างพระเกศาครูบาเจ้าศรีวิชัย มวลสารที่สร้างมักจะนำเอาผงเกสรและดอกไม้ต่างๆ ที่ชาวบ้านนำมากราบไหว้พระในโบสถ์ ในพระวิหารรวมถึงตามพระบรมธาตุจากที่ต่างๆ มาผสมกับดอกพิกุลหรือดอกแก้วที่ตากแห้งดีแล้ว ตลอดทั้งเถ้าธูปจากกระถางบูชาพระพุทธอันหมายถึงพระประธานในพระวิหารของวัด ที่เป็นผู้สร้างพระเกศานั้นๆ เมื่อได้มวลสารผงเกสรตลอดจนวัสดุมงคลครบถ้วนตามความเชื่อของศรัทธาชาวบ้านแล้ว ก็จะนำมาบดให้ละเอียด แล้วนำมาคลุกเคล้ากับยางรักโดยมีผงใบลานที่เป็นพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ซึ่งคนล้านนาโบราณได้จารึกอักขระไว้ เมื่อนำส่วนผสมทั้งหมดมาคลุกเคล้าปั้นเป็นก้อนเหนียวได้ตามประสงค์เจตนา จึงนำเอามากดลงบนแม่พิมพ์เป็นองค์พระเครื่อง โดยจะผสมเอาเส้นพระเกศาครูบาเจ้าฯ ลงไปก่อนจะกดลงพิมพ์บ้าง นำเอาเส้นพระเกศาผสมลงในเนื้อผงเกสรเลยก็มีจึงปรากฏในภายหลังของพระเครื่องเส้นเกศาฯ นี้ ด้วยบางองค์ก็จะเห็นเส้นพระเกศาชัดเจน บางองค์ก็จะไม่พบเส้นพระเกศาข้างนอกเลย สำหรับแม่พิมพ์ที่นำมาสร้างพระเกศาครูบาศรีวิชัยนั้นได้ยึดถือเอาแบบพุทธพิมพ์ของพระสกุลลำพูนเป็นตัวอย่างแม่พิมพ์พระเครื่องเกศาครูบาเจ้าศรีวิชัย จึงมีหลายแบบหลายพิมพ์ทรงส่วนมากจะเป็น พิมพ์พระสกุลลำพูน เช่นพระคง พระบาง พระรอด พระเปิม พระลือ พระเหลี้ยม พระลบ พระสาม พระสกุลลำพูนคงหาได้ง่ายในยุคนั้นอีกทั้งยังเป็นที่เคารพของผู้คนในพื้นถิ่น จึงนำมาเป็นต้นแบบการสร้าง ต้นแบบสวยพระเกศาองค์ที่ถอดแบบออกมาก็สวยตาม พิมพ์ต่อมาคือ พิมพ์รูปเหมือนครูบาเจ้าฯ ที่พบมากคือมีลักษณะคล้ายกับพระเนื้อดินรุ่นอัฐิหลังย่นคือเป็นรูปครูบาเจ้าฯ นั่งเต็มองค์ พิมพ์ทรงกลุ่มสุดท้ายคือ พิมพ์ทรงพระพุทธ มีอยู่หลายแบบหลายปางหลายขนาด
    FB_IMG_1528352684220.jpg FB_IMG_1528352689379.jpg FB_IMG_1528352691766.jpg FB_IMG_1528352694097.jpg FB_IMG_1528352686976.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2018
  16. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    ข้อมูลเพิ่มเติม
    รายการที่ 485
    พระเกศาครูบาศรีวิชัย เป็นพระเครื่องที่ชาวบ้านเกิดความศรัทธาอาลัย ต่อครูบาเจ้าฯจึงได้ร่วมกันสร้างขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะเก็บรักษาเส้นเกศาของครูบาศรีวิชัย เพื่อใช้บูชาหรือพกติดตัวยามเดินทางไปทำมาค้าขาย บ้างก็เก็บเอาไว้บูชากราบไหว้บนหิ้งพระประจำบ้าน จึงถือเอาได้ว่าพระเกศาครูบาศรีวิชัย เป็นพระเครื่องที่สร้างขึ้นจากฝีมือของช่างชาวบ้านโดยแท้ ในการนำเอาเส้นเกศาครูบาเจ้าฯ มาคลุกเคล้ากับมวลสารเกสร, ผงธูปเพื่อสร้างเป็นพระเครื่องนั้น เกิดจากการศรัทธานับถือเส้นเกศาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ในความเชื่อบูชาเส้นพระเกศาของพระพุทธองค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายาวสืบทอดกันมาจวบจนถึงพระครูบาเจ้าศรีวิชัย อันชาวบ้านล้านนา ยกย่องเคารพบูชาด้วยบารมีที่ครูบาเจ้าฯมีแต่ให้แก่พระพุทธศาสนา จวบวาระสุดท้ายได้มาถึง คุณงามความดีที่ได้สร้างถาวรวัตถุให้แก่ชาวพุทธล้านนาไว้มากเหลือคณานับ จึงบังเกิดบุญบารมีอันแก่กล้า เกิดศรัทธาของศิษย์และคณะศรัทธาชาวบ้าน อันส่วนใหญ่มักจะเป็นกรรมการของวัดต่างๆ ในจังหวัดลำพูน, เชียงใหม่ที่ได้ร่วมกันสร้างพระเกศาครูบาศรีวิชัยขึ้น ภายหลังจากที่ท่านได้ล่วงลับดับขันไปแล้ว

    จากตำนานเล่าขานกันสืบมา ถึงการสร้างพระเกศาครูบาเจ้าศรีวิชัย มวลสารที่สร้างมักจะนำเอาผงเกสรและดอกไม้ต่างๆ ที่ชาวบ้านนำมากราบไหว้พระในโบสถ์ ในพระวิหารรวมถึงตามพระบรมธาตุจากที่ต่างๆ มาผสมกับดอกพิกุลหรือดอกแก้วที่ตากแห้งดีแล้ว ตลอดทั้งเถ้าธูปจากกระถางบูชาพระพุทธอันหมายถึงพระประธานในพระวิหารของวัด ที่เป็นผู้สร้างพระเกศานั้นๆ

    เมื่อได้มวลสารผงเกสรตลอดจนวัสดุมงคลครบถ้วนตามความเชื่อของศรัทธาชาวบ้านแล้ว ก็จะนำมาบดให้ละเอียด แล้วนำมาคลุกเคล้ากับยางรักโดยมีผงใบลานที่เป็นพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ซึ่งคนล้านนาโบราณได้จารึกอักขระไว้ เมื่อนำส่วนผสมทั้งหมดมาคลุกเคล้าปั้นเป็นก้อนเหนียวได้ตามประสงค์เจตนา จึงนำเอามากดลงบนแม่พิมพ์เป็นองค์พระเครื่อง โดยจะผสมเอาเส้นพระเกศาครูบาเจ้าฯ ลงไปก่อนจะกดลงพิมพ์บ้าง นำเอาเส้นพระเกศาผสมลงในเนื้อผงเกสรเลยก็มีจึงปรากฏในภายหลังของพระเครื่องเส้นเกศาฯ นี้ ด้วยบางองค์ก็จะเห็นเส้นพระเกศาชัดเจน บางองค์ก็จะไม่พบเส้นพระเกศาข้างนอกเลย หลายท่านถึงกับลงทุนหักพระที่ได้มาเพื่อดูภายในว่ามีเส้นเกศาของครูบาเจ้าหรือไม่ ซึ่งวิธีการนี้ไม่ขอส่งเสริมแนะนำ เพราะหากเป็นพระเกศาครูบาเจ้าจากคำยืนยันและศึกษาไตร่ตรองดีแล้วไม่ควรได้ทำการพิสูจน์ด้วยวิธีหักองค์พระเพื่อดู จงมีความศรัทธาเชื่อถือบูชาพระเกศาครูบาเจ้าฯ ความสุขความเจริญจะบังเกิดแก่ท่าน อย่างไม่รู้ตัวในภายหลัง

    สำหรับแม่พิมพ์ที่นำมาสร้างพระเกศาครูบาศรีวิชัยนั้นได้ยึดถือเอาแบบพุทธพิมพ์ของพระสกุลลำพูนเป็นตัวอย่างแม่พิมพ์พระเครื่องเกศาครูบาเจ้าศรีวิชัย จึงมีหลายแบบหลายพิมพ์ทรงไม่ยึดถือเอา พิมพ์ทรงใดพิมพ์ทรงหนึ่ง
    แม่พิมพ์ของพระเครื่องพิมพ์ต่างๆ กันจะสร้างจากดินเผา บางครั้งก็ใช้พระสกุลลำพูนกดลงบนพื้นดินแล้วนำไปเป็นแม่พิมพ์ เรียกได้ว่าลอกแบบเลยก็มี ดังนั้นมีพระเครื่องเกศาครูบาเจ้าศรีวิชัยในรูปแบบพิมพ์ทรงเป็นพระสกุลลำพูนเป็นส่วนมาก จะมีเป็นพิมพ์ทรงแปลกๆ บ้าง ก็ขึ้นอยู่กับชาวบ้านที่ได้เก็บรักษา หรือได้มาซึ่งเส้นเกศาของครูบาเจ้าฯ แล้วนำเอาไปสร้างไปทำเป็นพระเครื่องเองก็มีมากพิมพ์องค์เหมือนกัน
    พุทธคุณของพระเครื่องเกศาครูบาเจ้าศรีวิชัยนี้มากด้วยพุทธคุณทางเมตรตามหานิยมแคล้วคลาดภยันตรายพิษภัยจากการเจ็บไข้ได้ป่วยระหว่าการเดินทางรอดพ้นภัยดีนักแล อิทธิปาฏิหารย์ด้านคงกระพันชาตรีไม่ปรากฏ จะมีก็แต่เพียง เมื่อเกิดอุบัติเหตุมักจะแคล้วคลาดรอดพ้นมาได้ อาจมีบาดแผลบ้าง บางครั้งผู้มีประสบการณ์ที่ประสบอุบัติเหตุก็จะพบว่ารถที่ชนกันแหลกพังยับเยิน ตนเองน่าจะไม่รอดแต่กลับรอดพ้นมาได้ โดยไม่รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
    จากคำบอกเล่าของวัยรุ่น นักเรียนนักศึกษาในเชียงใหม่ ส่วนมากที่ประสบการณ์ในด้านการไปขอพรบนบานสารกล่าว ขอพรต่ออนุสาวรีย์พระครูบาเจ้าศรีวิชัย ณ ทางขึ้นพระธาตุดอยสุเทพเชียงใหม่ ซึ่งทางจังหวัดและชาวล้านนาได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ รำลึกถึงพระครูบาเจ้าศรีวิชัยที่เป็นองค์ประธานสร้างทางขึ้นพระบรมธาตุดอยสุเทพ อันเป็นอัศจรรย์ยิ่งสืบมา และด้วยแรงศรัทธาเคารพบูชาพระครูบาเจ้าฯ เหล่าบรรดานักเรียน นักศึกษาที่ไปกราบไหว้บนบานบูชาขอพรต่ออนุสาวรีย์ของครูบาเจ้าฯ ส่วนใหญ่จะประสบผลสำเร็จในการสอบเข้าเรียนต่อยังสถาบันแห่งใหม่
     
  17. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 486 : พระเกศาครูบาศรีวิชัย เนื้อผงใบลาน พิมพ์พระรอด มีเส้นเกศา ตรงกลางหน้าอก 1 องค์
    หายากนะครับ

    รับประกันแท้ ครับ
    ราคา 1,750 บาท
    FB_IMG_1528356645887.jpg FB_IMG_1528356648618.jpg FB_IMG_1528356651159.jpg FB_IMG_1528356655192.jpg
     
  18. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 487 : พระเชียงแสนซุ้มประตูโขงหรือซุ้มเรือนแก้วถ้ำขุนตาล จว.ลำพูน เนื้อดินด้านหน้าลงชาดแดงและทองเก่าไว้ มีคราบกรุ
    รับประกัน

    ราคา 3,500 บาท

    สภาพสมบูรณ์มาก พระหน้าตาติดชัดเจน ลายเส้นต่างๆ ยังคงความสมบูรณ์คมชัด พริ้วสวย มีลงชาดแดงเดิม และลงทองเดิมๆ เนื้อดินค่อนข้างหายากกว่าเนื้อโลหะ พระกรุนี้น่าสะสมและอนุรักษ์ไว้เพราะเป็นศิลป์เชียงแสน ขนาดพระสูง 3.1 นิ้ว ฐานกว้าง 1 .5 นิ้ว
    พระประตูโขง.jpg องค์พระจร้า1.jpg
    พระที่ขุดพบนั้นมีเนื้อชินปนตะกั่ว เนื้อตะกั่ว เนื้อดิน มีมากพอประมาณ ด้วยที่มีขนาดจะใหญ่สักหน่อย ความนิยมจึงไม่ค่อยสูง ด้านพุทธคุณนั้นดีทางแคล้วคลาด ปัจจุบันพอที่จะหาชมได้ไม่ยาก
     
  19. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    ชุดหลวงพ่อจง
    เหมาะมากถ้าจะรีบหาเก็บให้ลูกหลาน
    นับวันจะหายาก

    20180609_060511.jpg
     
  20. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 488 : เหมายกชุด
    1.พระผงข้าวต้มมัด หลวงปู่สี ปี2517
    2.พระผงพิมพระรอด หลวงปู่สี ปี2517
    3. พระผงพิมกรีบบัว หลวงปู่สี ปี2517
    4.พระปิดตานะมิมหาลาภ หลวงปู่สี ปี2517

    ทั้งหมด 3,900 บาท
    รวมค่าส่ง

    พระโซนน้ำมันชาญหมากคัดสวยเลี่ยมพร้อมใช้
    ด้านหลังเลี่ยมใส่จีวรและเขือกประคตตัดแบ่งมาจากมงคลแขนพิรอดหลวงปู่สี

    รับประกันพระแท้จีวรเชือกประคต

    จัดสร้างในปี ๒๕๑๗ โดยพระครูวิศิสมโภชน์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ เพื่อนำปัจจัยไปสร้างศาลาและกุฎิสงฆ์ที่วัดบ้านเกิดของท่าน ซึ่งหลวงปู่สี ท่านก็อนุญาตตามนั้น มวลสารประกอบไปด้วยอาทิ
    - ผงว่าน ๑๐๘
    - ดอกบัวบูชาองค์หลวงพ่อโสธร
    - ขี้ธูปจากที่บูชาสมเด็จโตฯ วัดระฆัง
    - ขี้ธูปและดอกไม้จากศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
    - ดอกไม้บูชาพระแก้วมรกต
    - ดอกไม้บูชาพระนอนวัดโพธิ์
    - ผงปูนและเศษทองปิดองค์พระพุทธรูป ในวัดโพธิ์ท่าเตียน
    - ชานหมาก น้ำหมาก และผงวิเศษของหลวงปู่สี
    กดพิมพ์ที่วัดพระเชตุพนฯ แล้วจึงนำไปให้หลวงปู่สี ท่านปลุกเสกเดี่ยว พระเด่นด้านเมตตามหานิยม มหาลาภ องค์พระมีขนาดเล็กแต่พุทธคุณไม่เล็ก

    หลวงปู่สี พระมหาเถระผู้มีอายุยืนนานถึง ๑๒๘ ปี จนได้ฉายา "พระอรหันต์ ๗ แผ่นดิน" (สังขารไม่เน่าเปื่อย) หลวงปู่สี ท่านเป็นศิษย์สมเด็จพระพุฒจารย์โต พรหมรังสี วัดระฆังฯ เป็นสหายธรรมกับ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า, หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ, พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และ หลวงปู่สี ท่านยังเป็นอาจารย์ของพระอาจารย์ดังแห่งยุคอีกหลายรูป อาทิ หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง, หลวงพ่อจ้อย วัดแหลมบน (วัดสายชลณ.รังษี), หลวงปู่บุดดา วัดเจริญกลางชูศรี, หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง เป็นต้น

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ยังเคยกล่าวไว้ว่ากราบฉันแสนครั้งไม่เท่าหลวงปู่สีครั้งเดียว หลวงปู่แหวน ก็เคยบอกว่าพระของเราปลุกเสกสามเดือน ไม่เท่าหลวงปู่สีเอามือกวนสามที แม้แต่หลวงปู่บุดดา ถาวโร พระอรหันต์ (อาจารย์ของแม่ชีบุญเรือน) ที่หลวงปู่สิมยกย่องว่าแก่ทั้งอายุ แก่ทั้งพรรษา แก่ทั้งมรรคผลนิพพาน ยังเคารพหลวงปู่สี คอยบีบนวดให้ท่านเสมอ
    FB_IMG_1528587619762.jpg FB_IMG_1528587615855.jpg FB_IMG_1528587622835.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...