รวมอุปกรณ์ ยังชีพ

ขอมูลจากคุณตั้มครับผม

ขอแนะนำเว็บไซต์ที่ขายอุปกรณ์เดินป่า สำหรับการเตรียมจัดหาสิ่งของจำพวก เต้นท์ ถุงนอน เป้ กระเป๋า รองเท้า และอุปกรณ์ยังชีพต่างๆ ในเว็บไซต์นี้จะมีทั้งสินค้าแบรนด์เนมอย่างดีที่เป็นของใหม่ และของที่ใช้แล้วหรือมือสอง รวมทั้งสินค้า COPY เกรด A แต่ราคาประหยัด มีให้เลือกซื้อเลือกหากันตามความพึงพอใจ


สำหรับข้อมูลในการเตรียมตัวเดินป่า ดูได้ที่ลิงค์นี้

http://www.trekkingthai.com/


หากต้องการซื้อสินค้าประเภทมือสอง (บางทีก็มีมือหนึ่ง) ดูได้ทีลิงค์นี้

http://www.trekkingthai.com/board/we...=trekking&#top


สำหรับอันนี้เป็นตัวอย่างการขายเป้สะพายหลังครับ

http://www.trekkingthai.com/board/sh...rum=8&No=82856


.
.
<!-- / message --><!-- sig -->

____________________________________________________________
สร้างสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก 9 วา
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=65729

ร่วมสร้างศาสนสถานเป็นพุทธบูชา ณ วัดป่าพุทธคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=66817

'พระพลังจิต เสาร์๕' มีพุทธานุภาพยันต์เกราะเพชร,ป้องกันรังสีนิวเคลียร์ และอาวุธชีวภาพ
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=61889

 

เท่าที่อ่านผ่านๆ ไม่แน่ใจว่ามีการตอบตรงนี้ไปแล้วหรือไม่ เอาเป็นว่าขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมคือ

ด่างทับทิม จะเป็นเคมีที่ชื่อ โปตัสเซี่ยมเปอร์แมงกาเนต ซึ่งแตกต่างจากคุณสมบัติที่เราต้องการจาก โปรแตสเซี่ยมไอโอไดน์ เพราะสิ่งที่เราต้องการคือ อนุภาคหรือประจุไอออน ของไอโอไดน์ ที่แตกตัวออกมา

โปรแตสเซี่ยมไอโอไดน์ โดยคร่าวๆเป็นตัวใช้ช่วยแก้ไขกรณีของกัมมันตภาพรังสี เฉพาะกรณีที่เป็นรังสีประเภทไอโอดีน131 (เท่านั้น?)

(แหล่งกำเนิดของรังสีจะมาได้จากสารหลายตัว หนึ่งในนั้นคือกลุ่มของไอโอดีน131 ที่เหลือก็มีเช่น เทนีเทียม99 ทอลเลี่ยม201 แกลเลี่ยม67 ฟลูโอรีน18 อินเดียม 111 ซึ่งทั้งหมดอยู่ในกลุ่มของสารพวกของเหลว ...
ส่วนแก็สจะมีพวก ซีนอน133 คริปตอน81 เทคนีเทียม99 )

เมื่อไอโอดีน131รั่วไหลออกมาจะมีผลการดูดซับที่ต่อมไทรอยของมนุษย์ จึงต้องใช้ โปรแตสเซี่ยมไอโอไดน์ เพื่อเข้าไปแย่งการดูดซับของไอโอดีนที่ต่อมไทรอย คือ ใช้ไอดีนชนิดธรรมดาไปแย่งการดูดซับของไอโอดีนชนิดรังสี นั่นเอง

พอดีไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสี คงต้องให้ท่านผู้รู้มาช่วยเพิ่มเติมให้

 

โปรแตสเซี่ยมไอโอไดน์

ความเห็นแบบงูๆปลาๆ

ในกรณีฉุกเฉิน หรือหาโปรแตสเซี่ยมไอโอไดน์ แบบเกรดยาไม่ได้จริงๆ อาจจะลองทดแทนด้วยเกรดที่ใช้ในห้องทดลอง (ทางเลือกที่2) หรือเกรดที่ใช้อุตสาหกรรม (ทางเลือกสุดท้าย เพราะจะมีสารแปลกปลอมมากกว่าเกรดอื่น) น่าจะดีกว่าไม่มีอะไรเลย

ส่วนเกลือไอโอดีนเข้าใจว่าจะมีปริมาณไอโอดีนต่ำมากไม่น่าจะสามารถทดแทนได้

จริงๆแล้วผมเคยเห็นพวกนักธรณีวิทยาหลายคน เวลาอยู่ในป่า หายาบางอย่างไม่ได้ก็เข้าห้องทดลองไปเอาเกรดห้องแลบกินกัน (ห้ามก็ไม่เชื่อ) เช่น ท้องอืดก็ไปเอา...(...)มากินแทนอีโน ก็ยังเห็นมีชีวิตรอดจนอายุมากๆกัน ... บางคนก็ไปเอา เอททานอลเกรดแลบมาต้มเหล้าเถื่อนผ่านเครื่องควบแน่นกินอยู่หลายปีก็ยังเห็นชีวิตมีความสุขดี (ไม่รู้กินเข้าไปได้งัย)

 

เห็นภาพสวย ๆ ก็เลยเอามาฝากกัน ครับ ตามไปดูที่คุณ ตั้มศักดิ์แนะนำ นึกถึงอดีตที่เคยท่องยุทธจักแถว ๆ นั้น

พื่นที่แบบนี้เราจะนอนกัยไงเนี่ย

 

เช็คลิสต์อุปกรณ์ในการเดินทางครับ

เนื่องจากมีน้อง ๆ สอบถามกันเข้ามามากว่า อยากรู้ว่าไปเที่ยวเดินป่า ควรเตรียมอะไรไปบ้าง จึงนำมาลงแนะนำเสียเลย

รายการสิ่งของที่แนะนำให้เตรียมไปเพื่อการเดินป่า นำมาจากคำแนะนำในการอบรมพี่เลี้ยงเยาวชน - จำเป็นต่อการเดินทางครั้งนั้นหรือไม่ให้พิจารณาจากหลัก เบา คล่องตัว และมีประโยชน์ อันนี้ตามตำราของพี่สุรชัย ท้วมสมบูรณ์ จากชมรมนักนิยมธรรมชาติ ซึ่งผมคิดว่าลงตัวทีเดียวกับสภาพป่าเมืองไทยนะครับ โดยลองนำมาแยกอีกทีเป็นดังนี้

กรณีไปกับทัวร์
1 เสื้อแขนยาว ใส่เดินป่า ๑ ตัว -ป่าเมืองไทยมีต้นไม้รกกว่าเมืองนอกนะครับ
2. เสื้อยืดแขนสั้น ๑ - ๒ ตัว
3. เสื้อ สำหรับใส่นอน ๑ ตัว (เพราะอากาศหลายที่เย็น-ชื้น)
4 . เสื้อกันฝน หรือปันโจ ๑ ตัว (หน้าฝน)
5. กางเกงขายาว ใส่เดินป่า ๑ ตัว
6. กางเกง สำหรับใส่นอน ๑ ตัว
7. เสื้อ กางเกง ใส่เดินทางปกติ ๑ ชุด (ตามสะดวก) -หลายคนไม่นำไป
8. หมวก หรือผ้าโพกศีรษะ (ผ้าขาวม้าก็ได้)
9. ชุดชั้นใน ๒-๓ ชุด (ตามความเหมาะสม)
10. ผ้าเช็ดตัว ๑ ผืน
11. ผ้าขาวม้า ผ้าถุง ใช้อาบน้ำ ๑ ผืน
12. ถุงเท้า ๒ - ๓ คู่ (ส่วนถุงเท้ากันทาก-ตามสะดวก)
13. รองเท้าหุ้มส้น หรือหุ้มข้อ ใส่เดินป่า ๑ คู่
14. รองเท้าแตะ ๑ คู่
15. หวี หรือแปรงผม ๑ อัน (ตามสะดวก)
16. แปรงสีฟัน ๑ ด้าม (ตามสะดวก)
17. แป้งทาตัว ของใช้ส่วนตัวอื่นๆ (ตามสะดวก)
18. ยาสีฟัน สบู่ แชมพูสระผม (ตามสะดวก)
19. ยาทากันยุง กันแมลง
20. ยาสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว
21. พลาสเตอร์ปิดแผล และยาสามัญทั่วไป (ถ้ามี)
22. ถุงพลาสติกใหญ่ ๒ ใบ (ใช้ใส่เสื้อผ้า-ผ้าเปียก)
23. ช้อน ๑ คัน
24. แก้วน้ำ ๑ ใบ (อาจใช้อย่างอื่นแทนได้)
25. กระติกหรือ ขวดใส่น้ำดื่ม ๑ ใบ
26. ไฟฉายพร้อมแบตเตอรี่ ๑ กระบอก
27. มีดพก มีดพับ ใช้ทำอาหาร ๑ เล่ม
28. เป้ ใส่สัมภาระ ๑ ใบ
29. ปากกา ๑ ด้าม หรือดินสอ 1 แท่ง
30. สมุดบันทึก ๑ เล่ม
31. กล้องส่องทางไกล ๑ อัน หรือแว่นขยาย (ถ้ามี)


ไปกันเอง เพิ่มเติมดังนี้
32. เต็นท์ / เปลนอน
33. ผ้าพลาสติกปูพื้น และกันฝน ๑ - ๒ ผืน -โดยเฉพาะหน้าฝนและหน้าหนาวที่มีน้ำค้างแรง
34. ถุงนอน ๑ ใบ หรือผ้าห่ม 1 ผืน
35. หม้อสนาม ๑ ใบ
36. กล่องใส่อาหารกลางวัน ๑ ใบ (ใช้แทนจานได้ด้วย) - ทำให้คุณไม่ต้องใช้ถุงพลาสติค
37. มีดเดินป่า ใช้หาฟืน ๑ เล่ม (ควรมี)
38. ไฟแช๊คแก๊ส ๑ อัน
39. เทียนไข ขนาดกลาง ๓ เล่ม
40. เชือกใช้ยึดเต็นท์ หรือทำราวตากผ้า ยาว ๓ - ๕ ม.

---
ที่เหลือเช่น เข็มทิศ GPS แผนที่ trekking pole เตาแกส ตะเกียงแกส ชุดครัว backpack สเปรป้องกันตัว เครื่องกรองน้ำพกพา ฯลฯ ให้พิจารณาตามความเหมาะสมของพื้นที่ หลายพื้นที่นั้นไม่อนุญาตให้ก่อไฟแล้วนะครับ...


โดย Mr.OB1 เมื่อ 23 ส.ค. 44, 04:34 น.

จาก http://www.trekkingthai.com/cgi-bin/webboard/generate.pl?board=travel&content=0163

แถมอย่างนะ เฉพาะไปเดินป่าลึกนะจ๊ะ พลั่วอันเล็กๆ แบบที่เขาไว้พรวนดินต้นไม้ไง สีส้ม ๆ ด้ามเป็นวัสดุชิ้นเดียวกับตัวใบอ่ะหนักสัก 2ขีด (น้ำหนักประมาณปลากรป๋อง 1 กระป๋อง )สำคัญนะแต่เรามักจะลืมกัน ราคาก็ย่อมเยาว์(25 บาทเอง)โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเข้าป่าอนุรักษ์หรือสถานที่มีสัตว์ป่าอาศัย และไม่มีห้องน้ำหรือถังขยะ เพราะมันเอาไว้ใช้
1. เอาไว้ขุดดินให้มันลึก ๆ เวลากลบขยะ จะได้ไม่มีสัตว์ป่ามาคุ้ยกิน จะเป็นอันตรายต่อมัน เช่นกระป๋องบาด หรือติดเชื้อโรคที่มาจากในเมือง ( มันจะไม่ภูมิคุ้มกันเชื้อโรคเหล่านี้อาจเกิดโรคระบาดในสัตว์ได้ )
2.เอาไว้ขุดให้ลึก ๆ เวลาไปทำธุระส่วนตัว *นี่แหละตัวแพร่เชื้อโรคอย่างดี และบางทีถ้ากลบฝังไม่ลึกพอสัตว์จะกระสากลิ่น และทิ้งถิ่นหากินไปอีกนานครับ
3.เอาไว้ขุดร่องน้ำรอบๆ เต้นท์กันน้ำท่วม
4.เอาไว้โกยกอบขี้เถ้า จากกองไฟเอาไปใส่หลุม หรืโรยรอบเต้นท์กันแมลง
5.เอาไว้แซะหญ้าออก ก่อนก่อกองไฟ เมื่อใช้เสร็จก็เอาหญ้าที่แซะไว้มาแปะตามเดิม
6.เอาไว้ยังชึพเผื่อขุดหัวเผือกหัวอะไรมากิน อ้อ เวลาใช้งานหนักก็หาไม้มาต่อเป็นด้ามพลั่วใช้เสร็จก็เอาด้ามออกใส่เป้สบายใจเฉิบ

โอยเยอะแยะจาระไนยไม่หมดครับ อ้อ เอาไม้หรือเอามีดขุดก็ได้นะครับแต่ไม่ดีเท่า ช้าและได้ไม่ลึกพอ ก่อให้เกิดปัญหากับธรรมชาติโดยที่เราไม่รู้ตัวหรือตั้งใจ สรุปว่ามันมีประโยชน์มากมายและหลายคนลืมมันอย่างน่าเสียดายครับ

สำหรับ "พลั่วอันเล็กๆ " ที่คุณมือเก่าแนะนำมาก็ดีครับ แต่คณะหนึ่งมีไปแค่ 1-2 อันก็พอแล้วมั๊งครับ

ส่วนเรื่องจะเอาไปขุดหลุมฝังขยะนี่ ผมไม่แนะนำเลย ถ้าเป็นพวกเศษอาหารที่ย่อยสลายได้ง่ายก็ไม่เป็นไรครับ แต่พวกพลาสติก โฟม กระป๋องโลหะ ขวดแก้ว กระดาษฟอยล์ห่อขนมหรือกล่องนม ถ่านไฟฉาย เศษผ้า นั้น อะไรที่เผาทำลายได้ให้เผาไป ถ้ากำจัดไม่หมดหรือเผาไม่ได้ ก็ขนใส่เป้ออกมาทิ้งในเมืองดีกว่าครับ

จริงๆ แล้วเสบียงอาหารและของใช้ต่างๆ ถ้าเรามีการจัดสัมภาระที่ดีพร้อมก็ไม่ต้องขนไปให้หนัก หรือเสียเวลาในการกำจัด อย่างพวกสบู่ แชมพู ยาสีฟัน ก็เตรียมไปเฉพาะที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น โดยแบ่งใส่ขวดเล็กๆ หรือถุงพลาสติก หรือกล่องฟิล์ม หรือถ้าขี้เกียจมากๆ ก็ใช้หมากฝรั่งแทนยาสีฟัน ใช้ผ้าเย็นเช็ดตัวแล้วทาแป้งตรงจุดที่อับชื้นตามข้อพับต่างๆ แทนการอาบน้ำ วิธีสุดท้ายค่อนข้างเห็นแก่ตัวไปหน่อย ก็คือ ขอเพื่อนร่วมเดินทางใช้ จะได้ไม่ต้องขนไปเองให้หนัก
ส่วนเรื่องเสบียงอาหาร อย่างเช่น ปลากระป๋อง ถ้าเข้าป่าไม่เกิน 3-4 วัน ก็จะแพ็คใส่ถุงพลาสติก 2-3 ชั้น น้ำหนักเบาและไม่เปลืองเนื้อที่ เพราะตอนกิน ก็ต้องทำให้เละอยู่ดี แต่ผมมักจะหลีกเลี่ยงไม่ชอบนำอาหารกระป๋องเข้าป่า หรือน้ำปลาก็ใช้แบบซองหรือขวดพลาสติกเล็กๆ หรือไม่ก็ใช้เกลือป่นแทน ...Mr.OB1 น่าจะมีการแนะนำเรื่องการถนอมอาหารในการเดินป่า บ้างนะครับ อย่างเช่น จะเอาไข่ไก่สดเข้าป่าจะต้องทำอย่างไร เป็นต้น

ผมว่า "การเที่ยวป่าชมธรรมชาตินั้น ความสุขคงไม่ใช่อยู่เพียงแค่ได้พบเห็นธรรมชาติที่สวยสดงดงามเท่านั้น แต่น่าจะรวมไปถึงการใช้ชีวิตอยู่ในธรรมชาตินั้นๆ ด้วย"

คิดดูแล้วกันถ้าอาหารแต่ละมื้อในป่า มีแต่อาหารกระป๋องกับบะหมี่สำเร็จรูป การใช้ชีวิตในธรรมชาติแห่งนั้นคงไม่มีสีสัน และความสุขเท่ากับได้ทำอาหารสดๆ รับประทานกันแน่ๆ เรื่องนี้คงต้องไปถามพี่แต๋ม-สุธนัย ดูละกัน เพราะมีหลายครั้งที่ผมไปเที่ยวป่ากับพี่เขา แล้วได้ทานอาหารทานกับข้าวประเภทที่เราคาดไม่ถึง ว่าจะพบได้กลางป่ากลางดอย อย่างนี้ เช่น ยำปลาดุกฟู ยำเห็ดหูหนู ต้มโคล้งปลากรอบ เป็ดย่าง วุ้นกะทิ ข้าวเหนียวเปียกลำใย ฯลฯ ไม่รู้ว่าพี่เขาจัดการได้อย่างไร เพราะเสบียงที่ขนกันไปก็ไม่หนัก แถมได้อาหารอร่อยรสชาติดี ทำให้บรรยากาศในการเที่ยวป่ามีความสุขเพิ่มมากขึ้นกว่าทุกครั้ง


รายการอุปกรณ์ที่เตรียมเข้าป่านั้น ยังมีอีก 3-4 อย่าง ที่นับว่าจำเป็นเหมือนกัน แต่หลายคนมักจะลืม
1. เข็มเย็บผ้าขนาดกลาง กับด้ายไนล่อน (เป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ แต่มักจะลืม มานึกได้อีกทีตอนที่ เป้ขาด รองเท้าขาด เสื้อผ้าขาด ฯลฯ)

2. เชือกยาวประมาณ 10 เมตร 1 เส้น สำหรับใช้ข้ามลำน้ำ ชักลากคน-สัมภาระขึ้นที่สูงหรือส่งลงที่ต่ำ ใช้ช่วยโหนและป่ายปีน (มักจะมานึกถึงได้ทีหลัง ไม่จำเป็นต้องใช้ของดีขนาดเชือกปีนหน้าผาก็ได้ เอาแค่ สายเชือกเปลสนามขนาดใหญ่สุดก็พอแล้ว ข้อดีคือน้ำหนักเบา ไม่ขาดง่าย รับน้ำหนักได้มากพอสมควร)

3. ผ้าขี้ริ้ว ใช้หยิบจับของร้อนหรือเช็ดถูทั่วไป ประหยัดกว่าใช้กระดาษชำระ-ประหยัดการใช้ทรัพยากรฯ ส่วนใครที่สะดวกใช้ผ้า
อเนกประสงค์ (ผ้าขาวม้า) ก็ไม่จำเป็นต้องเอาไปก็ได้

4. อุปกรณ์ล้างจาน (ตามสะดวก) แต่ส่วนใหญ่ผมจะใช้ น้ำด่างจากขี้เถ้าที่เราก่อไฟนั่นแหละแทนน้ำยาล้างจาน และใช้ทรายในลำห้วยแทนสก๊อตไบร์ท

พวกขยะประเภทกระป๋อง นี้ผมจะทุบจนแบนแล้วแบกขนออกมา ยกเว้นถ้ารู้ว่าขนไม่ไหวจริงๆ ก็จะเผาไฟก่อนในขณะที่ทำอาหารนั่นแหละ มันจะได้ผุพังเร็วขึ้น แล้วขุดหลุมลึกๆ ฝังอีกที

ตั้งแต่เริ่มเดินทางมาก็น่าจะคิดได้ว่าน่าจะพกเสียมอันเล็กๆ เพราะมั่วแต่คิดถึงพลั่วสนามซึ่งคงไม่มีใครคิดเอาไป แต่ก็เอา มีด E-เหน็บขุดดินอยู่บ่อยข้อดีคือเป็นมีดที่หน้ากว้างใช้ขุดดินได้ดีไม่ต้องพกเสียมข้อเสียคือต้องลับบ่อยๆเพราะคมจะเสียเร็วมาก คงจะต้องหาเสียมอันเล็กๆมาพกบ้าง
ส่วนของที่ไม่เอาไปจากรายการข้างต้นหรือดัดแปลงเพิ่มเติมก็มี
ข้อ 2-3 เสื่อยืดแขนสั้นกับเสือ่ใส่นอนจริงๆแล้วเอาไปตัวเดี่ยว หากกลางวันชื้นกลางวันไม่ได้ใส่ก็เอาไปผึ่ง
ข้อ 4 ปันโจเอาไปทุกฤดูเพราะมันสารพัดประโยชน์
ข้อ 10 ผ้าขนหนูไม่เอาไปใช้ผ้าขาวม้าสารพัดประโยชน์
ข้อ 15 หวีไม่เอาไปเพราะอยู่กับบ้านก็หล่อประมาณนี้เข้าป่าคงจะไม่หล่อเพิ่มขึ้นหรือน้อนลง
ข้อ 20 ยาสามัญที่ติดตัวเสมอ เบต้าดีน(คุณสมบัติมันจะแทนเกล็ดเลือดทำให้แผลแห้งและหายไวขึ้น เบอลเนอร์พลัสครีม(ทาพวกน้ำร้อนลวกดี) พลาสเตอร์แบบผ้า(แบบพสาสติกไม่ทนโดนน้ำหลุดง่าย)น็อกซี(แก้ท้องเสีย ท้องร่วง) นาโซลีน(แก้ภูมิแพ้) ดีคอลเจน สำลี ผ้าพันแผล ยาหม่อง วิทช์(แก้เวลาหนาวหายใจไม่ออก)
ข้อ 23 ช้อนเอาช้อนยาวเพราะยาวดีคนในหม้อสนามที่ลึกดี กับส้อมเอาไว้เสียบปิ้งปลากับกุ้งเชียง
ข้อ 33 ผ้าปูเต๊นท์เอาถุงขยะขนาด 36*45 นิ้ว(ใครมีขนาดใหญ่กว่านี้บอกอยากได้มาก)มาตัดแล้วคลี่ออกถ้าต้องการขนาดใหญ่ก็เอามาต่อกันด้วยกาวยาง เบาและเหนียวดีมาก
ที่ตา OB1 จัดมาก็เหมาะสมดีมากครับ



วิธีการจัดสัมภาระลงเป้ ให้เหมาะสมที่สุด
คือ จัดอุปกรณ์และเสบียงอาหารทั้งหมดที่คิดว่าจำเป็นในการเดินทางครั้งนั้นลงเป้ให้หมด พยายามให้มือทั้งสองว่างเปล่า อย่าให้ต้องถืออุปกรณ์อะไรอีก จากนั้นลองแบกขึ้นหลังดู ลองเขย่าและเหวียงตัวดู ถ้ากระชับ คล่องตัว ไม่หนัก ก็ถือว่าใช้ได้ ถ้ามีโอกาสก็ลองเดินขึ้นลงบันได ดูด้วยว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่ถ้ารู้สึกว่าหนักเกินไป หรืออยากให้เบาลงกว่านี้ ก็รื้อเป้ออกมา แล้วพิจารณาหยิบอุปกรณ์ออก หรือลดปริมาณลงให้เหลือเท่าที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ น้ำหนักของเป้ก็จะเปล่าขึ้นอีกมาก

ถ้าจัดสัมภาระได้อย่าง "พระธุดงส์" ซึ่งมีเฉพาะสัมภาระที่จำเป็นจริงๆ ต่อการดำรงชีวิตเท่านั้น ถ้าเราทำได้ เราจะแบกของได้เบามากๆ เพราะไม่ต้องแบก กลดหรือบาตร ซึ่งค่อนข้างหนักมากๆ อย่างพระธุดงส์ เพราะเสบียงอาหารที่นำไปก็ไม่หนักมากเท่ากับน้ำหนักของ กลดกับบาตร รวมกัน

--- แนะนำเพิ่มเติมครับ ----
มีใครบ้างไหมที่ยังพับเสื้อผ้าใส่เป้อยู่
แนะนำให้ม้วนเอาครับ มันไม่ยับเท่าไหร่หรอก
เข้าป่าไม่ได้โชว์ใครอยู่แล้ว ประหยัดเนื้อที่ในเป้ได้เยอะ
แล้วคุณจะเห็นว่าเป้คุณยังสามารถ load สัมภาระได้มากกว่าที่คิด

ผมขอพกเพิ่มไปอีก 1 อย่าง น้ำมันมวยครับ
สรรพคุณข้างขวดก็มี แต่ผมใช้กันทาก ดีกว่ายาฉุนอีก
ลงน้ำก็อยู่ทนหน่อย เพราะมันไม่สามารถผสมกับน้ำได้
ยาฉุนลุยน้ำทีเดียวหายเกลี้ยง อิอิ โม้มากเปลืองพื้นที่คนอื่น แค่นี้พอล่ะ


ผมว่านะครับ การเดินป่าหรือพักแรมในป่า ที่ความคิดเห็นแรกเสนอมาผมเห็นด้วยนะครับ แต่ตามจริงแล้วต้องดูตามสถานการณ์นะครับ ว่าต้องใช้อะไรบ้าง ต้องพักแรมกี่คืน การเดินป่าอะไรที่ไม่จำเป็นจริงๆก็ไม่ต้องเอาไปก้ได้ อย่างเช่น แก้วน้ำ กับหวี เพราะเรามีกระดิกน้ำที่ติดกับเข็มขัดสนาม(ในทางทหารใช้กันคนทราบกันดี)เพราะไม่รู้ว่าจะเอาหวีมาหวีผมได้ตอนไหน ไม่ต้องสวยไม่ต้องหล่อมากก็ได้นะครับในป่านะ จานหรือชามอารายไม่ต้องเอาไปเพราะเรามีหม้อสนามอยู่แล้ว ตามที่ผมเข้าป่ามาก็มีนะดังนี้นะครับ
1.เป้สนาม(ล๊อกแซก)1ใบ
2.ชุดเดินป่า (ชุดฝึกทหารแหละครับ เสื้อ + กางเกง)
3.เสื้อยืน 3 ตัว
4.ร้องเท้าคอมแบก หรือจังเกอร์ 1 คู่
5.ถุงเท้า 2 -3 คู่
6 เชือกเดินป่าไว้ข้ามน้ำ ฯลฯ 1 เส้น
7.เปล
8.เสื้อกันฝน
9.ผ้ายางปูรองนอน(เป็นบางครั้งที่เอาไปถ้าไม่มีที่จะผูกเปล)
10.ช้อน
11.หม้อสนาม
12.เข็มขัดสนาม 1 เส้น+กระดิก 2 ใบ
13.มีดยาวสัก8 นิ้ว 1 เล่ม
14.กางเกงขาสั้น 1 ตัว
15. แปลงสีฟัน + ยาสีฟัน
16.สบู่ + ยาสระผม
17.หมวก + ผ้าสามเหลี่ยมใช่พันคอ เช็ดเหงื่อ บังแดด ฯลฯ
18.การเกงใน 3ตัว (ถ้าอยู่ 2 วัน อาจถึง 3 วัน)
19.ไฟฉาย
20.แผ่นที่ + เข็มทิศ
21.แอลกอฮอล์แห้ง
22.กล้องส่องทางไกล
23.ถ้าพลาสติก
24.ชุดที่จะใส่กลับบ้าน
25.เงินอีกนิดหน่อย
26.อาหารแห้งสักเร็วน้อย
27.เครื่องดื่มแอลกอฮออล์นิดหน่อย(แก้หนาว+แก้เหงา)อิอิ
28.ตัวและหัวใจ

ผมว่ามีเท่านี้นะที่ผมเอาไปด้วยหากขาดอารายจะเอามาใส่ให้ใหม่นะครับ /Ranger
22.ยารักษา ยาทา ต่างๆ 1 ชุด
23.พลั่วสนาม 1 เล่ม
24.ดินสอ ปากกา สมุด
25.เชือกอ่อนๆ ยาวสัก 5 เมตร 2 เส้น
26.เทียนไข
27.ไฟแก้ส

โดย ผู้หมวดหนุ่มแห่งกองทัพไทย


เตรียมตัวสำหรับเดินป่ากันเถอะ
เสื้อผ้า เลือกชุดทะมัดทะแมง พร้อมลุย คำนึงถึงความ
สะดวกและปลอดภัยไว้ก่อน ความสวยงามไว้ว่ากันทีหลัง
สีสันก็ไม่ควรแสบตา จะเป็นการไล่สัตว์ทางอ้อม และที่ขาด
ไม่ได้ก็คือ เสื้อแจ๊กแก็ต หรือเสื้อกันหนาว เพราะอากาศ
ในป่าช่วงกลางคืนค่อนข้างเย็น

หมวก ไม่เพียงแต่จะช่วยกันฝน กันแดดเท่านั้น แต่ยังกัน
หนาม ไม่ให้เกี่ยวศีรษะได้ด้วย

รองเท้า เป็นอุปกรณ์ส่วนที่สำคัญ เพราะรองเท้าเป็นส่วน
ที่รองรับน้ำหนักของร่างกาย รวมทั้งสัมภาระที่นำติดตัวไป
และยังต้องรับแรงกระแทกจากการเดิน วิ่ง หรือกระโดด
ถ้าเลือกใส่รองเท้าที่ไม่ดีพอ จะทำให้เกิดการบาดเจ็บที่
เท้าได้ง่าย ควรใช้รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าหุ้มส้นที่
ใส่สบาย หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าแตะ เพราะจะทำให้
เกิดอันตรายจากหนาม เศษไม้ หรือสัตว์มีพิษได้ง่าย

เป้หลัง ควรเลือกให้เหมาะกับขนาดตัว และสัมภาระที่บรรจุ

เต็นท์ มีหลายแบบให้เลือก ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ควรเลือก
แบบที่เหมาะสมกับสภาพการใช้งาน
เปลสนาม มีทั้งแบบชนิดมีมุ้ง และไม่มีมุ้ง ก่อนตัดสินใจซื้อ
ควรดูว่าทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรงในการรับน้ำหนัก เพื่อ
ความปลอดภัยในการนอน

ถุงนอน ควรเลือกชนิดที่สามารถคลี่ออกเป็นผ้าห่มได้ เพราะ
จะสะดวกกว่าถุงนอนชนิดปิด

เสื้อกันฝน ฝนกับป่านั้นเป็นของคู่กัน ติดเสื้อกันฝนไปด้วย
นอกจากจะช่วยไม่ให้คุณเปียกปอนกันแล้ว เสื้อกันฝนยังสามารถ
นำมาใช้ปูนอนได้ด้วย

เสบียงอาหาร เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ และต้องเตรียม
อาหารไปให้พอดีกับจำนวนวันที่ค้างแรม และจำนวนคนที่
ร่วมทางไปด้วย

ถุงขยะ ต้องนำไปด้วยเสมอ เพื่อใส่ขยะนำกลับมาทิ้ง เพราะเรา
จะไม่ทิ้งอะไรไว้ในป่า นอกเสียจากรอยเท้าเท่านั้น

ของใช้เบ็ดเตล็ด เช่น ไฟฉาย ไฟแช็ก มีดพก กระติกน้ำ หม้อสนาม
ยา เชื่อก เข็ม ด้วย ฯลฯ

สมุดบันทึก เพื่อบันทึกสิ่งที่คุณเรียนรู้และสัมผัสกับธรรมชาติอย่าง
ใกล้ชิด

กล้องถ่ายรูป เพื่อเก็บภาพประทับใจ

กล้องส่องทางไกล เป็นสิ่งจำเป็น หากคุณสนใจจะดูนกให้เห็น
ใกล้ขึ้น ชัดขึ้น

สิ่งสุดท้ายที่ต้องเตรียมกัน ...ร่างกายที่แข็งแรง และจิตใจที่พร้อมจะ
ก้าวสู่โลกแห่งธรรมชาติ ..ความงดงามของดอกไม้ป่า ความยิ่งใหญ่
ของขุนเขา เสียงร้องอันแสนไพเราะของหมู่นกนานาชนิด อากาศที่
สดชื่นที่คุณสามารถสูดหายใจได้อย่างเต็มปอด โดยไม่ต้องหวั่นเกรง
กับมลพิษ ...นี่แหล่ะ สิ่งที่ธรรมชาติได้เอื้ออาทรต่อมวลมนุษย์ เราจึง
ควรมีจิตสำนึก ในการที่จะเดินทางท่องเที่ยวอย่างมีคุณค่า เพื่อรักษา
ผืนป่าให้อุดมสมบูรณ์ตลอดไป


มีข้อมูลอีกมากจากที่นี่ครับผม

http://www.trekkingthai.com/gear/gearinfo.htm

 

สวยครับ ง่วงจัดๆ หลับไปก็ไม่รู้เรื่องแล้วหละคร๊าบพี่ (b-oneeye)

 

นอนไปด้วย ....กลิ้งตกเขา...ไปด้วย ....ก็ท่าจะดีนะคะ....(ผจญภัย...ในระหว่างนอนหลับ...) และก็เป็นการวัดว่า ...เรานอนดิ้นกันรึป่าว...ฮิ ฮิ ฮิ (จะได้เลิกนอนดิ้น...กันสักที...คนใกล้ ๆ ตัวนี่ก็เหมือนกันค่ะ... มือไม้สาย...สะเปะ..สะปะ...แข้ง...ขา...รึ ...ก็หาที่ลง...งาม ..งาม..พอได้จังหวะ..ก็ฟาดเปรี้ยง..ลงมาเลยค่ะ...)...ต้องคอยหลบกันจ้าละหวั่น...กลัวภัยพิบัติมาถึงก่อนกำหนดค่ะ...

บางครั้งไปนอนที่อื่น...ฟาดขา...เปรี้ยง...โครม...เข้ากำแพง...เลยเจ็บ..ตื่นขึ้นมากลางดึก..(...สังเกตว่า...ตื่นมาเจ็บสักครู่...แล้วหลับต่อ...เป็นไปได้งั้ยเนี้ย...) โอ...น่ากลัว...คนอะไร..อย่างนี้ก็มีด้วย...

ชีวิตเราจะขาดตอนกะทันหัน...ก็เพราะพ่อคุณนี่แหล่ะ...ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

คุณเปี๊ยกเกียร์ครับ หลอดไฟแอลอีดี สำหรับ ไฟฉายแมกไลท์ มีเฉพาะ ขนาด ถ่าน c d cell ส่วนขนาด aa ไม่มีครับผม ไปถามมาให้แล้ว ครับ

http://www.konrakmeed.com/webboard/upload/index.php?showtopic=393

มีที่ร้านนี้ครับ

เดี๋ยวจะมาลงเรื่องไฟฉายจากที่ได้ใช้งานจริงในป่าในทริปถ้ำวัวแดงครับ

รวมทั้งความรู้ทั่วไปเรื่องไฟฉาย ไฮเทคชนิดต่างๆ รวมทั้ง ถ่านไฟฉายครับผม

 

ขอบคุณครับที่ยังไม่ลืม ผมก็คิดว่าน่าจะลืมไปแล้ว

วันก่อนผมไปเจอ ไฟฉายที่ Lotus เป็นแบบพลังแสงอาทิตย์ 199 บาท เลยซื้อมาลอง ก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจครับ ลองแง้มๆดูข้างในก็มีแบตที่เป็นแบบ
ชาร์ทได้ ตัวที่ว่านี่คือตัวที่สองนับจากซ้ายมือครับ ลองเปิดให้ไฟหมดและเอาไปตากแสงแดด แล้วมาใช้ก็มีไฟเต็มครับ

ตัวแรกซ้ายมือ panasonic BF-443 ราคา 199 ที่seven แต่ผมซื้อ big C
200 บาท ใช้แบต AA 4 ก้อน แต่ว่าข้อดีเป็นหลอด LED ที่ประหยัดมากๆครับ
ความน่าเชื่อถือได้(reliability) สูงครับ ไม่มีอิดออด ผมว่ารุ่นนี้พวกเราน่าหามาใช้ครับ

ตัวที่สามจากซ้ายมือ เป็นแบบ Xenon ซ้อมา 1050 ที่ร้าน อมรฯ ก็ดีครับ แสงสว่างมากๆ และก็ประหยัด ผมมักจะไปส่องใช้งานเวลาทำงานในถังของปิโตรเคมีบ่อยๆ ก็ถือว่าประสิทธิภาพสูงมาก แต่ว่าแพง แล้วก็แบต CR123A (3V) ก้อนละ 100 สองก้อนครับ ก็แพงหน่อย

ตัวที่สี่จากซ้าย LED 12 หลอด แบต AAA 3ก้อน ซื้อมา 300- แต่ว่าความน่าเชื่อถือไม่ค่อยดีครับ ติดๆดับๆ ก็พอใช้ได้

ตัวที่ห้า อันนี้ราคาประเมิณไม่ถูกเพราะซื้อมากับชุดมีดสาระพัดประโยชน์ราคารวมมีดอยู่ 500 กว่าบาท เฉพาะไฟฉายน่าจะอยู่ราวๆ 200 เป็นแบบแบคไลท์
แบต AA 2 ก้อน

 

ตอนนี้ผมจัดกระเป๋าพร้อมแล้วครับ พร้อมที่จะเคลื่อนย้ายตลอดเวลา
แต่ว่าต้องกลับมาเอาของที่บ้านถ้าทำงานอยู่ ก็ราวๆครึ่งชั่วโมงครับ
ในกระเป๋าก็มีของจำเป็นน่าจะครบ รวมทั้งอาหาร ข้าวสาร
ก็ใกล้เคียงกับคำตอบ#85 ของคุณคณานันท์ ครับ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนทบทวนและทดลองใช้งานอยู่ครับ ว่าอะไรที่ต้องเพิ่มอะไรที่ต้องเอาออกบ้าง

 

ไม่มีโอกาสดิ้นฟาดแขนฟาดขาหรอก ครับ มันจะนอนเกร็งตัวทั้งคืน นี่ ซิ เพราะความสูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 1800 เมตร อากาศเย็นทั้งปี ผมเคยขึ้นไปนอนมาแล้ว ชุดหนึ่ง 14 คน นอนเรียงแถว ตามแนวสันเขา นอนเกร็งตัวทั้งคืนเพราะมันหนาวมาก มีแต่ลุ้นว่าเมื่อไหรมันจะเช้าเสียที พลิกข้อมือดูนาฬิกาหลายสิบรอบ เวลาคืนนั้นมันเดินช้าจริง ๆ มีเปลผ้าร่มห่มผื่นเดียว แล้วคลุมด้วยเสื้อกันฝนอีกผืนยังเอาไม่อยู่ สันเขาอย่างนี้ ตามภาษาพวกเรา เขาเรียกว่า สันคมมีด มีแต่หินล้วน ๆ บรรยากาศดีมาก พอมาเห็นภาพที่เขาไปพิชิตแล้วถ่ายมาให้ดู ก็เลยนึกถึงความหลัง ก็อยากให้เพื่อนพลังจิตได้ดูกัน ถ้าใครได้มีโอกาสขึ้นไปบนนั้น ก็นับว่าโชคดีได้พบบรรยากาศดี ๆ

 

ดูที่วิทยุหน่อยครับว่า

Power......W (watt)
Frequency.....MHz

 

ไปดูที่คลองถมมา เมื่ออาทตย์ที่แล้ว ขนาด 2 วัตต์ ราคา 1300 บาท แต่เขาขายเป็นคู่ สมัยผมเป็นทหารเราไม่ค่อยได้ใช้วิทยุแบบนี้ เราใช้แบบ PRC 25 หนักประมาณ 5 กก.ระยะส่ง 5-7 ไมล์ เพราะวิทยุแบบVR มันถูกดักฟังได้ง่าย

 

เรื่องวิทยุเดี๋ยวคุณตั้มจะเล่าให้ฟังให้การประชุมในทริปนี้ครับ ต้องขอความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ คุณZZ คุณมาร์รีน24 และอีกหลายๆท่านครับผม

 

วิธีการลับมีด สำหรับคุณ เปิ้ล ถาวร ครับ

[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]SHARPENING YOUR EMERSON
"MY WAY"[/FONT]​

<HR>

[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]Related Pages | F.A.Q.'s | Emerson Knives Glossary | [/FONT]
[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]To help you keep your knife sharp and ready to serve you, I'm going to show you some of the Emerson quick and dirty methods using a couple of different procedures to sharpen your knife. We can't show all of the fixtures, devices or methods as there are ton of them. Most of them will work and if you use your sharpening method in the manner shown below, and can improvise a little; I know you can sharpen your knife.[/FONT]​

<TABLE height=208 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=389 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top height=3813><TABLE height=89 cellSpacing=2 cellPadding=0 width=517 border=0><TBODY><TR><TD height=80><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=519 align=left border=0><TBODY><TR vAlign=center align=middle><TD width=251 height=189>

​

</TD><TD width=253 height=189>

​

</TD></TR><TR vAlign=center align=middle><TD width=251 height=158>

​

</TD><TD width=253 height=158>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=4>[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]Using the Commander knife, this sequence shows the initial sharpening of the edge using a diamond stick. Push the stick away from you, along the edge.[/FONT]</TD></TR><TR><TD bgColor=#0000ff height=4> </TD></TR><TR><TD height=193>

<TABLE height=58 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=157 align=left border=0><TBODY><TR><TD height=171></TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR><TR><TD height=4>[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]When you feel a burr with the back of your fingernail by running your fingernail off the edge in the direction of the arrow, you have sharpened the front edge enough.[/FONT]</TD></TR><TR><TD bgColor=#0000ff height=4> </TD></TR><TR><TD height=4><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=457 align=left border=0><TBODY><TR><TD width=251 height=101>

​

</TD><TD width=191 height=101>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=4>[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]Turning the knife over, you lightly stroke or kiss the backside just to break the burr free. This only takes a couple of light passes. Incline the sharpener slightly so you don't scratch the surface of the blade and are only touching the very edge.[/FONT]</TD></TR><TR><TD bgColor=#0000ff height=4> </TD></TR><TR><TD height=4><TABLE height=176 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=470 align=left border=0><TBODY><TR><TD>

​

</TD><TD>

​

</TD></TR><TR><TD>

​

</TD><TD>

​

</TD></TR><TR><TD>

​

</TD><TD>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=4>[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]Stroping the edge of the knife--front and back. [/FONT][FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]Next you take the cardboard backside of a yellow legal pad and strop the knife back and forth on the cardboard. You have to use some pressure, so be sure that your fingers are clear of the blade if it were to accidentally close. Do this repeatedly maybe, 10 - 20 strokes on each side.[/FONT]
</TD></TR><TR><TD bgColor=#0000ff height=4> </TD></TR><TR><TD height=4><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=150 align=left border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=4>[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]The end result after stroping on the cardboard. Total time about 4 minutes.[/FONT]</TD></TR><TR><TD bgColor=#0000ff height=4> </TD></TR><TR><TD height=4>[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]These photos illustrate the same procedures as used on the Commander but show that you must treat the two cutting edges on the Tanto style blades as separate sharpening operations. Consequently when you strop the knife, you will need to strop the main edge, change your position and strop the front edge. [/FONT]</TD></TR><TR><TD height=4><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=519 align=left border=0><TBODY><TR><TD width=250 height=191></TD><TD width=254 height=191></TD></TR><TR><TD width=250></TD><TD width=254></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=4>[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]Sharpening the main edge. [/FONT][FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]Changing position, sharpen the front edge.[/FONT]
</TD></TR><TR><TD bgColor=#0000ff height=4> </TD></TR><TR><TD height=4><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=491 align=left border=0><TBODY><TR><TD width=261 height=191></TD><TD width=99 height=191></TD></TR><TR><TD width=261></TD><TD width=99></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=4>[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]Same procedure for the back side---main edge deburring. [/FONT][FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]Changing position, front edge deburring.[/FONT]
</TD></TR><TR><TD height=4><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=150 align=left border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=4>[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]This photo shows using a Gatco Triceps to sharpen the serrations on a CQC-7.[/FONT]</TD></TR><TR><TD bgColor=#0000ff height=4> </TD></TR><TR><TD height=4><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=332 align=left border=0><TBODY><TR><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=4>[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]These photos show front edge sharpening using a Gatco Triceps sharpener, the same as you would use croc sticks or any other similar sharpening set up. You would follow the same guideline as above, regarding the burr and stroping.[/FONT]</TD></TR><TR><TD bgColor=#0000ff height=4> </TD></TR><TR><TD height=4><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=514 align=left border=0><TBODY><TR><TD width=250></TD><TD width=249></TD></TR><TR><TD width=250></TD><TD width=249> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=4>[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]This photo sequence shows using the Gatco Triceps to sharpen the edge as we showed in the first sequence using the diamond stick. The procedures are the same for deburring and stroping as previously shown.[/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอบพระคุณครับ แต่ว่า

ขอบพระคุณครับ แต่ว่า "ภาษาอังกฤษไม่ได้ ภาษาไทยก็แย่" แปลให้ผมด้วยจิ ใหนๆจะช่วยแล้ว เอาเป็นซื้อที่ลับมีดให้จะเป็นพระคุณอย่างสูงเลยคร๊าบ (b-oneeye)

 

สงสัยรูปมันไม่ติด ที่จริงมีรูปให้ดูอย่างละเอียดแต่ละขั้นตอนครับ
สงสัยข้างบนท่านเซนต์เซอร์เพราะจะดูโหดไป
ที่ลับมีดที่จริงซื้อจากแผนกเครื่องครัวดีๆครับ เห็นส่วนใหญ่แนะนำของเชพชอยย์

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=pageHeading>*NukAlert Personal Radiation Monitor</TD></TR><TR><TD class=small_bold>Item Number: 4540</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR vAlign=top><TD class=main><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 border=0><TBODY><TR><TD class=smallText vAlign=top><SCRIPT language=javascript><!--document.write('
Click for Large Image');//--></SCRIPT>
Click for Large Image <NOSCRIPT></NOSCRIPT></TD><TD class=main style="PADDING-LEFT: 50px" width=300><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=9></TD><TD vAlign=top background=images/buy_box/tophor.gif></TD><TD vAlign=top></TD></TR><TR><TD background=images/buy_box/vertical1.gif></TD><TD vAlign=center background=images/buy_box/bkgrd.gif><CENTER> <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width=290 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top background=images/buy_box/bkgrd.gif colSpan=2>

Sale: <S>$185.00</S> $144.99

<INPUT type=hidden value=991 name=products_id><INPUT title=" In Cart " type=image alt="In Cart" src="http://www.nitro-pak.com/includes/languages/english/images/buttons/button_in_cart.gif" border=0>
[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]
[/FONT][FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif](Items can always be removed later) <!-- Free shipping stuff here --><!-- End Free shipping stuff here -->[/FONT]​

</TD></TR><TR><TD vAlign=top background=images/buy_box/bkgrd.gif colSpan=2></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER></TD><TD width=8 background=images/buy_box/vertical2.gif height=2 border="0"></TD></TR><TR><TD vAlign=bottom></TD><TD vAlign=top background=images/buy_box/horizontal.gif></TD><TD vAlign=bottom></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พวงกุญแจที่ใช้วัดระดับรังสีนิวเคลียร์ได้ พอกดเครื่องคิดเลขดูราคาเป็นเงินบาท แล้วที่ 35 บาทต่อดอลลาร์ ตกอันละ 5000บาทครับผม

ดูแล้วเราคงต้องใช้อินดิเคเตอร์ตัวอื่นเอาแล้วล่ะครับ เพราะราคากระชากใจเหลือเกิน ต้องเกลี่ยงบประมาณไปใช้ด้านอื่นก่อนครับผม

 

จะออกทริปเชียงรายกันแล้ว

ช่วงนี้ที่ คาร์ฟูลส์ ลดราคา เต้นท์ เหลือ 299 บาทครับ แต่ตอนซื้อ ให้ลองกางดูก่อนนะครับ เพราะเพื่อนๆที่ได้ซื้อไปบางท่านพบว่าเชือกที่ร้อยเสาเต้นท์ บางหลังขาดชำรุดครับ แต่ใช้งานได้ไม่มีปัญหาครับ

ส่วนวันที่ 1-5 มีนา มีงานการท่องเที่ยวของ ททท.มาจัดที่ศูนย์สิริกิติ์ มีร้านที่ขายอุปกรณ์เอาท์ดอร์มาออกร้านลดราคา เป็นพิเศษ ยังพอมีเวลาหาซื้อได้บ้างแถมเป็นต้นเดือนด้วย แต่ขอให้ทราบราคาสิ่งของในใจก่อนเพราะอาจมีบางอย่างถูก บางอย่างแพงบ้าง ถ้าอยากทราบราคาที่ควรเป็นโทรมาถามผมก่อนก็ได้ครับ ลองๆไปดูครับ