มีดเทพศาสตราวุธสามกษัตริย์หลวงพ่อรุ่ง,ลูกสะกด หลวงพ่อเนียม,ชานหมากหลวงปู่ทอง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย อโศ, 30 ตุลาคม 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 104 พระเนื้อผงยา หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก

    <hr style="background-color: rgb(255, 255, 255); color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> [​IMG]


    น้ำมนต์จากปลายนิ้ว
    ในงานพิธีพุทธาภิเษกงานหนึ่ง หลวงพ่อจงได้รับนิมนต์มาร่วมงานด้วย โดยหลวงพ่อจงนั่งใกล้กันกับท่านพ่อคล้าย วาจาสิทธิ์ มีบรรดาลูกศิษย์เข้ามาน้ำมนต์ท่านพ่อคล้าย ท่านฯจึงบอกให้ลูกศิษย์ไปขอน้ำมนต์หลวงพ่อจง บรรดาลูกศิษย์จึงนำขวดเปล่าไปขอน้ำมนต์ หลวงพ่อจงท่านเป็นผู้มีความเมตตาสูง จึงสงเคราะห์ให้ตามความศรัทธาแก่ผู้ที่มาขอน้ำมนต์ ท่านฯจึงนำขวดเปล่ามาตั้งตรงหน้าอฐิษฐานจิต เอานิ้วชี้ไปที่ขวดเปล่า ปรากฏมีน้ำไหลจากนิ้วชี้ไหลลงขวดเปล่าน้ำมนต์ จนเป็นที่อัศจรรย์ใจประจักษ์แก่สายตาทุกคู่ในที่นั้น

    [​IMG][​IMG]


    พระเนื้อผงยา หลวงพ่อจง

    บูชา ๗๙๙ บาท
    ปิดรายการ

    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา อิมพีเรียลเวิลด์(สำโรง)
    เลขบัญชี 332-257130-3

    เบอร์โทร 0875509271<!-- google_ad_section_end --> <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG] </fieldset>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2011
  2. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 105 เม็ดประคำนเรศวรปราบหงสา หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว

    [​IMG]

    ตำรับโบราณ
    ประคำนเรศวรปราบหงสาวดี เป็นตำรับโบราณครั้งสมัยสมเด็จพระพนรัตน์ พระอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรคราวออกรณรงค์สงครามกับพม่า โดยพระองค์ดำนำทัพออกศึกได้ชัยชนะต่อข้าศึกในสงครามอันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของชาติ จึงเป็นที่มาของคำว่า "นเรศวรปราบหงสาวดี"
    .
    อิทธิวัตถุชั้นสูง
    ประคำนเรศวรปราบหงสาวดี เป็นอิทธิวัตถุชั้นสูงที่หลวงปู่บุญ ท่านได้สร้างเอาไว้แต่มีจำนวนน้อยมาก ท่านจะสร้างมอบให้เฉพาะศิษย์ใกล้ชิด และเจ้านายชั้นผู้ใหญ่หรือพระบรมวงศานุวงศ์ ท่านจะพิถีพิถันในการสร้างมาก เพราะวัสดุ เช่น เนื้อไม้อันเป็นมงคลตลอดจนเครื่องยาต่างๆ ล้วนแล้วแสวงหาได้ยากทั้งสิ้น และพิธีการสร้างแสนละเอียดปราณีต

    อ้างอิง:
    <table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody> <tr> <td style="border: 1px inset ;" class="alt2">สิทธิการิยะ ตำรา โบราณท่านกล่าวความไว้ว่า พระอาจารย์เจ้าตนใดพึงประสงค์ที่จะสร้างลูกประคำวิเศษ ท่านให้เตรียมการให้พร้อมและพึงปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้ การเตรียมการ

    ๑.จัดเตรีมผงใบลานและผงขี้รักตามจำนวนให้พร้อม หากเป็น ผงยาวาสนาจินดามณี ก็ควรเตรียมจำนวนให้พอกับการสร้างประคำ

    ๒.จัดหาโลหะเงินบริสุทธิ์(พอสมควร)มาแผ่เป็นแผ่นบางๆแล้วตัดให้เป็นแผ่นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสเล็กๆมีขนาดเท่าๆกันให้ได้จำนวน๑๐๘แผ่น

    ๓.กำหนดวันและเวลา อันเป็นศุภมงคล เพื่อประกอบพิธีลงยันต์บนแผ่นโลหะเงินบริสุทธิ์ ๑๐๘ แผ่น

    ๔.หาสถานที่เหมาะสมอันจะประกอบพิธีลงยันต์
    ขั้นตอนการปฏิบัติการ
    ๑.เมื่อถึงเพลาอันเป็น ศุภมงคลฤกษ์ ตามที่กำหนดไว้แล้วพึงประกอบพิธีการลงยันต์พระเจ้า ๓ พระองค์ เป็นปฐมวาระคือ
    แผ่นโลหะเงินที่ ๑ ลงยันต์พระพุทธเจ้า
    แผ่นโลหะเงินที่ ๒ ลงยันต์พระธรรมเจ้า
    แผ่นโลหะเงินที่ ๓ ลงยันต์พระสังฆเจ้า
    ยันต์พระเจ้า ๓ พระองค์ดังกล่าวนี้ ลางท่านเรียกว่า ยันต์พระรัตนตรัย
    เมื่อลงแผ่นยันต์ พระเจ้า ๓ พระองค์ หรือแผ่นยันต์พระรัตนตรัยครบแล้ว ต่อจากนั้นพึงประกอบพิธีลงยันต์พระเจ้า ๑๐๕ องค์
    เมื่อประกอบพิธีลงแผ่นยันต์องค์พระครบจำนวน ๑๐๕ แผ่นแล้ว พึงม้วนแผ่นยันต์นั้นเป็นตะกรุด จนครบ กล่าวคือ แผ่นยันต์พระรัตนตรัย ๓ แผ่นและแผ่นยันต์องค์พระ ๑๐๕ แผ่น รวมเป็นตะกรุด ๑๐๘ ดอก ต่อจากนั้นให้พอกด้วยผงใบลานและผงขี้รักหรือผงยาวาสนาจินดามณีพอกให้มี ลักษณะเป็นเม็ดกลมแบน หรือเม็ดกลมเล็กๆจนครบตะกรุด ๑๐๘ ดอก เมื่อพอกเสร็จแล้วนำไปผึ่งลมไว้ในที่อันสมควรจนแห้งสนิทดี
    สายลูกประคำและการร้อย บางตำราท่านให้สาวพรมจารีเป็นผู้ร้อยฝั้นเชือกเป็นเกลียว ๓ เกลียวนิยมร้อยเม็ดลูกประคำที่ลงแผ่นยันต์องค์พระ จำนวน ๑๐๕ เม็ดส่วนลูกประคำที่ลงแผ่นยันต์พระรัตนตรัย ๓ แผ่นนั้นให้ร้อยนอกพวงมีลักษณะดุจช่ออุบะที่ห้อยพวงมาลัย
    เมื่อพระอาจารย์เจ้าได้ประกอบพิธีทำลูกประคำร้อยเป็นพวงสำเร็จแล้วตามตำรากล่าวต้องประกอบพิธีปลุกเสกสำทับอีกครั้งหนึ่งดังต่อไปนี้
    วาระ ๑ พึงปลุกเสกด้วยพระคาถา สัมพุทธเธฯ ให้ครบ ๑๐๘ ครั้ง
    วาระ ๒ พึงปลุกเสกด้วยพระคาถา พระพุทธคุณ ให้ครบ ๑๐๘ ครั้ง
    วาระ ๓ พึงปลุกเสกด้วยพระคาถา พระเจ้า ๕ พระองค์ ให้ครบ ๑๐๘ ครั้ง


    พระโบราณาจารย์ ผู้เป็นเจ้าของตำราให้สมัญญานามว่าลูกประคำวิเศษย่อมทรงไว้ ซึ่ง พุทธานุภาพอย่างอุกฤษฏ์สัมฤทธิ์ผล แก่สุจริตชนที่ศรัทธาและปรารถนาอย่างแรงกล้าทุกประการแล เป็นเครื่องรางชั้นสูงจึงมิได้มีอยู่อย่างกลาดเกลื่อนผู้ใดได้ไว้ย่อมนับว่า มีบุญวาสนา

    ในอดีตก็ต้องยกให้หลวงปู่บุญ แต่ประคำปราบหงสาของท่านมีตะกรุดคั่น แล้วก็มีกรรมวิธีการสร้างที่สลับซับซ้อนมาก ทำทีละเส้น ไม่กี่เส้น ใครได้ไปถือว่ามีบุญมาก

    จำนวนเม็ดประคำที่ว่ามี 108 เม็ดนั้นก็ยังมีความเห็นต่างอีก บางท่านก็ว่าหัวประคำ (ที่รูปร่างเหมือนน้ำเต้า) คือประคำ 3 เม็ด บนสร้อยมีอีกแค่ 105 เม็ดก็พอ แต่บางท่านก็ว่า หัวประคำไม่เกี่ยว บนเส้นต้องมี 108 เม็ดถึงจะครบ
    </td></tr></tbody></table>
    ตำนานการสร้าง
    ตกทอดมาจากสมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว ผู้เป็นอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื้อความตามตำราการสร้างมีดังต่อไปนี้

    อ้างอิง:
    <table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody> <tr> <td style="border: 1px inset ;" class="alt2">สิทธิการิยะ ถ้าจะทำลูกประคำ ท่านให้เอากาฝากศรีมหาโพธิ์ ๙ ลูก ชุมแสงโทน ๘ ลูก ชัยพฤกษ์ ๕ ลูก ไคลเสมา ๓๒ ลูก ไม้เท้ายายม่อม ๙ ลูก ค้นทรง ๑๐ ลูก หนาด ๒๘ ลูกและราชพฤกษ์ ๘ ลูก ผสมกันเข้าเป็น ๑๐๘ ลูก

    กาฝาก พระศรีมหาโพธิ์ ๙ ลูก ลงด้วย อะ สัง วิ สุ โล ปุ พุ ภะ
    ชุมแสงโทน ๗ ลูก ลงด้วย สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ
    ชัยพฤกษ์ ๕ ลูก ลงด้วย นะ โม พุท ธา ยะ
    ไม้เท้ายายม่อม ๙ ลูก ลงด้วย มะ อะ อุ อุ อะ มะ อะ มะ อุ
    ไคลเสมา ๓๒ ลูก ลงด้วย อิ ติ ปา ระ มิ ติง ตี สา อิ ติ สัพ ญา ญุ มา คตา อิ ติ โพ ธิ มนุ ป ปต โต อิ ติ ปิ โส จเต นโม
    คันทรง ๑๐ ลูก ลงด้วย อา ปามะ จุ ปะ ทิม สํ อํ คุฯ
    หนาด ๒๘ ลูก ลงด้วย ตง เม โส ทิ โม มง สุ เร โส อ ป นา ป สุ สุ ปิ อทสิติ ปุวิสิเว กุโกกโคฯ
    ราชพฤกษ์ ๘ ลูก ลงด้วย กะจะภะสะ นะ มะพะทะ

    สายประคำนั้น ให้เอาไหมเบญพรรณมาทำ ลักษณะของประคำวิเศษนี้ มีลักษณะเป็นลูกประคำชุด ๘ ชุด ถ้านับตามลำดับจากชุดที่ทำด้วยไคลเสมาเป็นชุดที่ ๑ แล้ว เวียนไปตามลำดับชุดที่ติดต่อกันภายในสายแล้วก็จะได้ลำดับชุดดังต่อไปนี้

    ชุดที่ ๑ ไคลเสมา มีจำนวน ๑๒ เม็ด ลูกประคำชุดนี้จะมีสัณฐานเขื่องกว่าชุดอื่นๆ ลักษณะเป็นเนื้อผงละเอียดผสมด้วยน้ำยาชนิดหนึ่ง แล้วปั้นเป็นเม็ดกลม ข้างในมีหลอดเล็กๆ เป็นแกนทำด้วยเงิน สำหรับเป็นแกนให้พอกเนื้อยาและเป็นช่องสำหรับร้อยไหม บางท่านบอกว่าแกนหรือหลอดนี้คือ ตะกรุดขนาดเล็กที่หลวงปู่ลงอักขระเอาไว้ด้วย วรรณะเม็ดประคำชุดนี้ดำสนิทเป็นเงางาม คล้ายมีวัสดุเคลือบเอาไว้
    ชุดที่ ๒ ชุมแสงโทน มีจำนวน ๗ เม็ด แกะด้วยเนื้อไม้ชุมแสงโทน ซึ่งเข้าใจว่าปกติต้นชุมแสงจะขึ้นเป็นกอหรือขึ้นเป็นต้นเดี่ยวๆ หรือโทนนั้นหายาก เมล็ดประคำมีสัณฐานขนาดปานกลาง ค่อนข้างเขื่องลักษณะเป็นเมล็ดกลมๆ ได้สัดส่วนงดงามมาก สังเกตุได้ว่าเป็นไม้เนื้ออ่อนมองเห็นเยื้อเนื้อไม้เป็นเส้นๆได้ชัดเจน วรรณะเหลืองแก่งามสดใส และเคลือบหรือย่อมด้วยยางไม้ หรือยางหมาก วรรณะน้ำตาลไหม้แก่ บางส่วนที่เคลือบสึกหรือกระเทาะล่อนจะเห็นเนื้อไม้งดงาม
    ชุดที่ ๓ ชัยพฤกษ์ มีจำนวน ๕ เม็ด แกะจากแก่นไม้ชัยพฤกษ์สัณฐาน ขนาดค่อนข้างเขื่องเช่นเดียวกับชุดที่ ๒ อีกทั้งรูปพรรณสัณฐานก็คล้ายคลึงกันมากที่สุดจนพิจารณาเกือบไม่เห็นลักษณะ แตกต่าง นอกจากจะพิจารณาความละเอียดของเนื้อไม้ว่า "ชุดชัยพฤกษ์เนื้อจะละเอียดกว่าไม่ปรากฏเส้นเยื่อไม้และเนื้อไม้ก็แกร่งกว่า อีกทั้งวรรณะเหลืองนวลอ่อนกว่า ชุดชุนแสงโทนเล็กน้อย"
    ชุดที่ ๔ ราชพฤกษ์ มีจำนวน ๘ เม็ด แกะจากแก่นราชพฤกษ์ ขนาดสัณฐานเล็กย่อมกว่าชุดที่ ๒ เล็กน้อย วรรณะดำสนิทมียางไม้เคลือบไว้เช่นกัน
    ชุดที่ ๕ ไม้หนาด มีจำนวน ๒๘ เม็ด ชุดนี้มีลักษณะพิเศษคือ แยกออกเป็น ๒ ชุดย่อยซึ่งมีลักษณะและขนาดไม่เหมือนกัน
    ชุดแรกจำนวน ๑๗ เม็ด เป็นเนื้อไม้แกะขนาดเดียวกับชุดที่ ๒ สัณฐานลักษณะกลมป้อมงดงาม วรรณะเหลืองอ่อนนวลๆ แกมคล้ำเล็กน้อยเคลือบด้วยยางไม่เช่นกัน ชุดหลังจำนวน ๑๑ เม็ด สัณฐานขนาดย่อมๆ ใกล้เคียงกับขาดของชุดที่๔ แกด้วยไม้เนื้ออ่อน สัณฐานไม่สู้กลมนัก ลักษณะทำนองอ้อนควั่นที่ลบขอบคมออกแล้ว วรรณะแดงสดใสงดงามมากมียางไม้เคลือบวรรณะ น้ำตาลไหม้สด
    ชุดที่ ๖ คันทรง มีจำนวน ๑๐ เม็ด ทั้งขนาดสัณฐานและลัษณะคล้ายคลึงกับชุดที่ ๒ แต่เนื้อไม้ละเอียดและนุ่มนวล ไม่ปรากฏเยื่อไม้ วรรณะเหลืองอ่อนนวลงดงาม และมียางไม้สีแดงน้ำตาลเคลือบไว้
    ชุดที่ ๗ กาฝากศรีมหาโพธิ์ มีจำนวน ๙ เม็ด เป็นประคำเนื้อผงเช่นเดียวกับชุดที่ ๑ เข้าใจว่าจะเอากาฝากนานาพันธุ์ที่จับกิ่งพระศรีมหาโพธิ์พันธุ์พุทธคยา แล้วเอามาบดละเอียดคลุกเคล้ากับน้ำประสานบางชนิด ปั้นเป็นลูกประคำชุดไคลเสมานั้นเอง จึงมีลักษณะและขนาดเช่นเดียวกัน เนื้อมีความแข็งแกร่งและเป็นเงางามคล้ายเครื่องเคลือบ
    ชุดที่ ๘ ไม้เท้ายายม่อม มีจำนวน ๙ เม็ด แกะจากไม้เท้ายายม่อม ขนาดสัณฐานปานกลางค่อนข้างเขื่องเช่นเดียวกับชุดที่ ๒ ทรวดทรงกลมกลืนได้สัดส่วนงดงามมาก เนื้อละเอียดและค่อนข้างนุ่ม วรรณะเหลืองอ่อนนวลๆ คล้ายสีใบลาน และเคลือบด้วยยางไม้น้ำตาลไหม้ค่อนข้างหนา
    ยอดลูกประคำ ๓ ลูก ทำด้วยเนื้อตะกั่วลักษณะเป็นแว่นๆ หรือคล้ายอ้อยควั่นลบมุม ๓ ลูก ๓ ขนาด คือ ใหญ่ กลาง และเล็ก ซ้อมกันตามลำดับหมายถึงองค์พระคือ ลูกบนเล็กหมายถึงพระเศียร ลูกกลางหมายถึงลำพระองค์ และลูกเบื้องล่างหมายถึงพระเพลา
    สายประคำใช้ไหม ๕ สี ควั่นโดยสาวพรหมจารีย์เรียกว่า "ไหมเบญจพรรณพรหมจารีย์" นำมาปลุกเสกก่อนจึงร้อยลูกประคำทั้ง ๑๐๘ ลูก หรือรวมทั้งยอดประคำตะกั่วอีก ๓ ลูก เป็น ๑๑๑ ลูก แล้วจึงปลุกเสกรวมกันอีกครั้งหนึ่ง
    </td></tr></tbody></table>
    [​IMG]
    .
    มนต์จินดามณี
    เป็นมนต์เรียกเนื้อเรียกปลา ดีทางด้านโภคทรัพย์ เมตตาค้าขาย หลวงปู่บุญ เรียนวิชานี้มาจากพระครูปลัดปาน วัดตุ๊กตา


    ที่สำคัญที่สุด เม็ดประคำ
    นเรศวรปราบหงสาเนื้อจินดามณี ฝังตะกรุด แท้ ดูง่าย ที่มาดี

    [​IMG][​IMG]

    เม็ดประคำ
    นเรศวรปราบหงสา
    เนื้อจินดามณี
    ๒ เม็ด
    หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
    ราคาพิเศษ ๑๘๐๐ บาท

    ปิดรายการ
    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา อิมพีเรียลเวิลด์(สำโรง)
    เลขบัญชี 332-257130-3<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    เบอร์โทร 0875509271
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF30.jpg
      DSCF30.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.1 KB
      เปิดดู:
      557
    • DS.jpg
      DS.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.1 KB
      เปิดดู:
      169
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2011
  3. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 10ุ6 เม็ดประคำนเรศวรปราบหงสา หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว

    [​IMG]

    ตำรับโบราณ
    ประคำนเรศวรปราบหงสาวดี เป็นตำรับโบราณครั้งสมัยสมเด็จพระพนรัตน์ พระอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรคราวออกรณรงค์สงครามกับพม่า โดยพระองค์ดำนำทัพออกศึกได้ชัยชนะต่อข้าศึกในสงครามอันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของชาติ จึงเป็นที่มาของคำว่า "นเรศวรปราบหงสาวดี"
    .
    อิทธิวัตถุชั้นสูง
    ประคำ นเรศวรปราบหงสาวดี เป็นอิทธิวัตถุชั้นสูงที่หลวงปู่บุญ ท่านได้สร้างเอาไว้แต่มีจำนวนน้อยมาก ท่านจะสร้างมอบให้เฉพาะศิษย์ใกล้ชิด และเจ้านายชั้นผู้ใหญ่หรือพระบรมวงศานุวงศ์ ท่านจะพิถีพิถันในการสร้างมาก เพราะวัสดุ เช่น เนื้อไม้อันเป็นมงคลตลอดจนเครื่องยาต่างๆ ล้วนแล้วแสวงหาได้ยากทั้งสิ้น และพิธีการสร้างแสนละเอียดปราณีต

    อ้างอิง:
    <table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody> <tr> <td style="border: 1px inset ;" class="alt2">สิทธิการิยะ ตำรา โบราณท่านกล่าวความไว้ว่า พระอาจารย์เจ้าตนใดพึงประสงค์ที่จะสร้างลูกประคำวิเศษ ท่านให้เตรียมการให้พร้อมและพึงปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้ การเตรียมการ

    ๑.จัดเตรีมผงใบลานและผงขี้รักตามจำนวนให้พร้อม หากเป็น ผงยาวาสนาจินดามณี ก็ควรเตรียมจำนวนให้พอกับการสร้างประคำ

    ๒.จัดหาโลหะเงินบริสุทธิ์(พอสมควร)มาแผ่เป็นแผ่นบางๆแล้วตัดให้เป็นแผ่นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสเล็กๆมีขนาดเท่าๆกันให้ได้จำนวน๑๐๘แผ่น

    ๓.กำหนดวันและเวลา อันเป็นศุภมงคล เพื่อประกอบพิธีลงยันต์บนแผ่นโลหะเงินบริสุทธิ์ ๑๐๘ แผ่น

    ๔.หาสถานที่เหมาะสมอันจะประกอบพิธีลงยันต์
    ขั้นตอนการปฏิบัติการ
    ๑.เมื่อถึงเพลาอันเป็น ศุภมงคลฤกษ์ ตามที่กำหนดไว้แล้วพึงประกอบพิธีการลงยันต์พระเจ้า ๓ พระองค์ เป็นปฐมวาระคือ
    แผ่นโลหะเงินที่ ๑ ลงยันต์พระพุทธเจ้า
    แผ่นโลหะเงินที่ ๒ ลงยันต์พระธรรมเจ้า
    แผ่นโลหะเงินที่ ๓ ลงยันต์พระสังฆเจ้า
    ยันต์พระเจ้า ๓ พระองค์ดังกล่าวนี้ ลางท่านเรียกว่า ยันต์พระรัตนตรัย
    เมื่อลงแผ่นยันต์ พระเจ้า ๓ พระองค์ หรือแผ่นยันต์พระรัตนตรัยครบแล้ว ต่อจากนั้นพึงประกอบพิธีลงยันต์พระเจ้า ๑๐๕ องค์
    เมื่อประกอบพิธีลงแผ่นยันต์องค์พระครบจำนวน ๑๐๕ แผ่นแล้ว พึงม้วนแผ่นยันต์นั้นเป็นตะกรุด จนครบ กล่าวคือ แผ่นยันต์พระรัตนตรัย ๓ แผ่นและแผ่นยันต์องค์พระ ๑๐๕ แผ่น รวมเป็นตะกรุด ๑๐๘ ดอก ต่อจากนั้นให้พอกด้วยผงใบลานและผงขี้รักหรือผงยาวาสนาจินดามณีพอกให้มี ลักษณะเป็นเม็ดกลมแบน หรือเม็ดกลมเล็กๆจนครบตะกรุด ๑๐๘ ดอก เมื่อพอกเสร็จแล้วนำไปผึ่งลมไว้ในที่อันสมควรจนแห้งสนิทดี
    สายลูกประคำและการร้อย บางตำราท่านให้สาวพรมจารีเป็นผู้ร้อยฝั้นเชือกเป็นเกลียว ๓ เกลียวนิยมร้อยเม็ดลูกประคำที่ลงแผ่นยันต์องค์พระ จำนวน ๑๐๕ เม็ดส่วนลูกประคำที่ลงแผ่นยันต์พระรัตนตรัย ๓ แผ่นนั้นให้ร้อยนอกพวงมีลักษณะดุจช่ออุบะที่ห้อยพวงมาลัย
    เมื่อพระอาจารย์เจ้าได้ประกอบพิธีทำลูกประคำร้อยเป็นพวงสำเร็จแล้วตามตำรากล่าวต้องประกอบพิธีปลุกเสกสำทับอีกครั้งหนึ่งดังต่อไปนี้
    วาระ ๑ พึงปลุกเสกด้วยพระคาถา สัมพุทธเธฯ ให้ครบ ๑๐๘ ครั้ง
    วาระ ๒ พึงปลุกเสกด้วยพระคาถา พระพุทธคุณ ให้ครบ ๑๐๘ ครั้ง
    วาระ ๓ พึงปลุกเสกด้วยพระคาถา พระเจ้า ๕ พระองค์ ให้ครบ ๑๐๘ ครั้ง


    พระโบราณาจารย์ผู้เป็นเจ้าของตำราให้สมัญญานามว่าลูกประคำวิเศษย่อมทรงไว้ ซึ่ง พุทธานุภาพอย่างอุกฤษฏ์สัมฤทธิ์ผล แก่สุจริตชนที่ศรัทธาและปรารถนาอย่างแรงกล้าทุกประการแล เป็นเครื่องรางชั้นสูงจึงมิได้มีอยู่อย่างกลาดเกลื่อนผู้ใดได้ไว้ย่อมนับว่า มีบุญวาสนา

    ในอดีตก็ต้องยกให้หลวงปู่บุญ แต่ประคำปราบหงสาของท่านมีตะกรุดคั่น แล้วก็มีกรรมวิธีการสร้างที่สลับซับซ้อนมาก ทำทีละเส้น ไม่กี่เส้น ใครได้ไปถือว่ามีบุญมาก

    จำนวนเม็ดประคำที่ว่ามี 108 เม็ดนั้นก็ยังมีความเห็นต่างอีก บางท่านก็ว่าหัวประคำ (ที่รูปร่างเหมือนน้ำเต้า) คือประคำ 3 เม็ด บนสร้อยมีอีกแค่ 105 เม็ดก็พอ แต่บางท่านก็ว่า หัวประคำไม่เกี่ยว บนเส้นต้องมี 108 เม็ดถึงจะครบ
    </td></tr></tbody></table>
    ตำนานการสร้าง
    ตกทอดมาจากสมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว ผู้เป็นอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื้อความตามตำราการสร้างมีดังต่อไปนี้

    อ้างอิง:
    <table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody> <tr> <td style="border: 1px inset ;" class="alt2">สิทธิการิยะ ถ้าจะทำลูกประคำ ท่านให้เอากาฝากศรีมหาโพธิ์ ๙ ลูก ชุมแสงโทน ๘ ลูก ชัยพฤกษ์ ๕ ลูก ไคลเสมา ๓๒ ลูก ไม้เท้ายายม่อม ๙ ลูก ค้นทรง ๑๐ ลูก หนาด ๒๘ ลูกและราชพฤกษ์ ๘ ลูก ผสมกันเข้าเป็น ๑๐๘ ลูก

    กาฝาก พระศรีมหาโพธิ์ ๙ ลูก ลงด้วย อะ สัง วิ สุ โล ปุ พุ ภะ
    ชุมแสงโทน ๗ ลูก ลงด้วย สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ
    ชัยพฤกษ์ ๕ ลูก ลงด้วย นะ โม พุท ธา ยะ
    ไม้เท้ายายม่อม ๙ ลูก ลงด้วย มะ อะ อุ อุ อะ มะ อะ มะ อุ
    ไคลเสมา ๓๒ ลูก ลงด้วย อิ ติ ปา ระ มิ ติง ตี สา อิ ติ สัพ ญา ญุ มา คตา อิ ติ โพ ธิ มนุ ป ปต โต อิ ติ ปิ โส จเต นโม
    คันทรง ๑๐ ลูก ลงด้วย อา ปามะ จุ ปะ ทิม สํ อํ คุฯ
    หนาด ๒๘ ลูก ลงด้วย ตง เม โส ทิ โม มง สุ เร โส อ ป นา ป สุ สุ ปิ อทสิติ ปุวิสิเว กุโกกโคฯ
    ราชพฤกษ์ ๘ ลูก ลงด้วย กะจะภะสะ นะ มะพะทะ

    สายประคำนั้น ให้เอาไหมเบญพรรณมาทำ ลักษณะของประคำวิเศษนี้ มีลักษณะเป็นลูกประคำชุด ๘ ชุด ถ้านับตามลำดับจากชุดที่ทำด้วยไคลเสมาเป็นชุดที่ ๑ แล้ว เวียนไปตามลำดับชุดที่ติดต่อกันภายในสายแล้วก็จะได้ลำดับชุดดังต่อไปนี้

    ชุดที่ ๑ ไคลเสมา มีจำนวน ๑๒ เม็ด ลูกประคำชุดนี้จะมีสัณฐานเขื่องกว่าชุดอื่นๆ ลักษณะเป็นเนื้อผงละเอียดผสมด้วยน้ำยาชนิดหนึ่ง แล้วปั้นเป็นเม็ดกลม ข้างในมีหลอดเล็กๆ เป็นแกนทำด้วยเงิน สำหรับเป็นแกนให้พอกเนื้อยาและเป็นช่องสำหรับร้อยไหม บางท่านบอกว่าแกนหรือหลอดนี้คือ ตะกรุดขนาดเล็กที่หลวงปู่ลงอักขระเอาไว้ด้วย วรรณะเม็ดประคำชุดนี้ดำสนิทเป็นเงางาม คล้ายมีวัสดุเคลือบเอาไว้
    ชุดที่ ๒ ชุมแสงโทน มีจำนวน ๗ เม็ด แกะด้วยเนื้อไม้ชุมแสงโทน ซึ่งเข้าใจว่าปกติต้นชุมแสงจะขึ้นเป็นกอหรือขึ้นเป็นต้นเดี่ยวๆ หรือโทนนั้นหายาก เมล็ดประคำมีสัณฐานขนาดปานกลาง ค่อนข้างเขื่องลักษณะเป็นเมล็ดกลมๆ ได้สัดส่วนงดงามมาก สังเกตุได้ว่าเป็นไม้เนื้ออ่อนมองเห็นเยื้อเนื้อไม้เป็นเส้นๆได้ชัดเจน วรรณะเหลืองแก่งามสดใส และเคลือบหรือย่อมด้วยยางไม้ หรือยางหมาก วรรณะน้ำตาลไหม้แก่ บางส่วนที่เคลือบสึกหรือกระเทาะล่อนจะเห็นเนื้อไม้งดงาม
    ชุดที่ ๓ ชัยพฤกษ์ มีจำนวน ๕ เม็ด แกะจากแก่นไม้ชัยพฤกษ์สัณฐาน ขนาดค่อนข้างเขื่องเช่นเดียวกับชุดที่ ๒ อีกทั้งรูปพรรณสัณฐานก็คล้ายคลึงกันมากที่สุดจนพิจารณาเกือบไม่เห็นลักษณะ แตกต่าง นอกจากจะพิจารณาความละเอียดของเนื้อไม้ว่า "ชุดชัยพฤกษ์เนื้อจะละเอียดกว่าไม่ปรากฏเส้นเยื่อไม้และเนื้อไม้ก็แกร่งกว่า อีกทั้งวรรณะเหลืองนวลอ่อนกว่า ชุดชุนแสงโทนเล็กน้อย"
    ชุดที่ ๔ ราชพฤกษ์ มีจำนวน ๘ เม็ด แกะจากแก่นราชพฤกษ์ ขนาดสัณฐานเล็กย่อมกว่าชุดที่ ๒ เล็กน้อย วรรณะดำสนิทมียางไม้เคลือบไว้เช่นกัน
    ชุดที่ ๕ ไม้หนาด มีจำนวน ๒๘ เม็ด ชุดนี้มีลักษณะพิเศษคือ แยกออกเป็น ๒ ชุดย่อยซึ่งมีลักษณะและขนาดไม่เหมือนกัน
    ชุดแรกจำนวน ๑๗ เม็ด เป็นเนื้อไม้แกะขนาดเดียวกับชุดที่ ๒ สัณฐานลักษณะกลมป้อมงดงาม วรรณะเหลืองอ่อนนวลๆ แกมคล้ำเล็กน้อยเคลือบด้วยยางไม่เช่นกัน ชุดหลังจำนวน ๑๑ เม็ด สัณฐานขนาดย่อมๆ ใกล้เคียงกับขาดของชุดที่๔ แกด้วยไม้เนื้ออ่อน สัณฐานไม่สู้กลมนัก ลักษณะทำนองอ้อนควั่นที่ลบขอบคมออกแล้ว วรรณะแดงสดใสงดงามมากมียางไม้เคลือบวรรณะ น้ำตาลไหม้สด
    ชุดที่ ๖ คันทรง มีจำนวน ๑๐ เม็ด ทั้งขนาดสัณฐานและลัษณะคล้ายคลึงกับชุดที่ ๒ แต่เนื้อไม้ละเอียดและนุ่มนวล ไม่ปรากฏเยื่อไม้ วรรณะเหลืองอ่อนนวลงดงาม และมียางไม้สีแดงน้ำตาลเคลือบไว้
    ชุดที่ ๗ กาฝากศรีมหาโพธิ์ มีจำนวน ๙ เม็ด เป็นประคำเนื้อผงเช่นเดียวกับชุดที่ ๑ เข้าใจว่าจะเอากาฝากนานาพันธุ์ที่จับกิ่งพระศรีมหาโพธิ์พันธุ์พุทธคยา แล้วเอามาบดละเอียดคลุกเคล้ากับน้ำประสานบางชนิด ปั้นเป็นลูกประคำชุดไคลเสมานั้นเอง จึงมีลักษณะและขนาดเช่นเดียวกัน เนื้อมีความแข็งแกร่งและเป็นเงางามคล้ายเครื่องเคลือบ
    ชุดที่ ๘ ไม้เท้ายายม่อม มีจำนวน ๙ เม็ด แกะจากไม้เท้ายายม่อม ขนาดสัณฐานปานกลางค่อนข้างเขื่องเช่นเดียวกับชุดที่ ๒ ทรวดทรงกลมกลืนได้สัดส่วนงดงามมาก เนื้อละเอียดและค่อนข้างนุ่ม วรรณะเหลืองอ่อนนวลๆ คล้ายสีใบลาน และเคลือบด้วยยางไม้น้ำตาลไหม้ค่อนข้างหนา
    ยอดลูกประคำ ๓ ลูก ทำด้วยเนื้อตะกั่วลักษณะเป็นแว่นๆ หรือคล้ายอ้อยควั่นลบมุม ๓ ลูก ๓ ขนาด คือ ใหญ่ กลาง และเล็ก ซ้อมกันตามลำดับหมายถึงองค์พระคือ ลูกบนเล็กหมายถึงพระเศียร ลูกกลางหมายถึงลำพระองค์ และลูกเบื้องล่างหมายถึงพระเพลา
    สายประคำใช้ไหม ๕ สี ควั่นโดยสาวพรหมจารีย์เรียกว่า "ไหมเบญจพรรณพรหมจารีย์" นำมาปลุกเสกก่อนจึงร้อยลูกประคำทั้ง ๑๐๘ ลูก หรือรวมทั้งยอดประคำตะกั่วอีก ๓ ลูก เป็น ๑๑๑ ลูก แล้วจึงปลุกเสกรวมกันอีกครั้งหนึ่ง
    </td></tr></tbody></table>
    [​IMG]
    .
    มนต์จินดามณี
    เป็นมนต์เรียกเนื้อเรียกปลา ดีทางด้านโภคทรัพย์ เมตตาค้าขาย หลวงปู่บุญ เรียนวิชานี้มาจากพระครูปลัดปาน วัดตุ๊กตา


    ที่สำคัญที่สุด เม็ดประคำ
    นเรศวรปราบหงสาเนื้อจินดามณี ฝังตะกรุด แท้ ดูง่าย ที่มาดี

    [​IMG][​IMG]

    เม็ดประคำ
    นเรศวรปราบหงสา
    เนื้อจินดามณี
    ๒ เม็ด
    หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
    ราคาพิเศษ ๑๘๐๐ บาท

    ปิดรายการ

    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา อิมพีเรียลเวิลด์(สำโรง)
    เลขบัญชี 332-257130-3<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    เบอร์โทร 0875509271
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF3027[1].jpg
      DSCF3027[1].jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.4 KB
      เปิดดู:
      111
    • DSn.jpg
      DSn.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.9 KB
      เปิดดู:
      90
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2011
  4. blackeye

    blackeye เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    747
    ค่าพลัง:
    +744
    เม็ดประึคำ ดูง่ายจริงๆ แท้ตาเปล่าคับ ไม่แพงด้วย
     
  5. คนกรุงศรี

    คนกรุงศรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +763
    รายการที่ 105 เม็ดประคำนเรศวรปราบหงสา หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว

    รายการที่ 106 เม็ดประคำนเรศวรปราบหงสา หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว

    จองทั้ง 2 รายการครับ กลับจากพักผ่อนช่วงปีใหม่แล้วจะโอนให้นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2010
  6. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 107 ตะกรุดหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน


    หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
    หลวงพ่อเงิน เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้เลื่องชื่อ มีความเชี่ยวชาญและแก่กล้าเรื่องวิทยาคมเยี่ยมยอดที่สุดของเมืองไทยอีกองค์ หนึ่ง ท่านเป็นพระเถระที่เคร่งครัดในศีลจารวัตรบริบูรณ์

    พระอภิญญาจารย์
    ท่านเป็นพระ อภิญญาจารย์มีญาณวิเศษสามารถรู้วาระจิตได้อย่างมหัศจรรย์ มีนิสัยพูดจริง ทำจริง ใจนักเลง ไม่เกรงกลัวใคร เคยมีผู้ไปลองดีกับท่าน ท่านก็แอ่นอกให้ยิง แต่กระสุนไม่ยอมออกจากลำกล้อง อภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของท่านฯ ชื่อเสียงโด่งดังมาก แม้แต่กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ เสด็จไปฝากตัวเป็นศิษย์ด้วย กิตติศัพท์ของท่านเลื่องลือขจรขจายไปทั่วทุกภาคจากเหนือจดใต้จากตะวันออกจด ตะวันตกมาเนิ่นนานแล้วตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

    ถึงแม้หลวงพ่อเงินจะมรณภาพจากไปนานแล้วก็ตาม แต่ก็ยังอยู่ในความทรงจำ ศรัทธาของทุกคนเสมอมา ปรารถนาที่จะได้ของวัตถุมงคลหลวงพ่อมีไว้ครอบครอง เพราะวัตถุมงคลของหลวงพ่อทุกๆ อย่าง ถ้าผู้ใดมีไว้คู่กาย จะได้รับแต่ความเจริญรุ่งเรือง เป็นศิริมงคล และแคล้วคลาดจากภัยพิบัติทั้งหลายทั้งปวงแม้แต่ชื่อของท่านก็เป็นมงคล นามอยู่แล้ว

    .
    ตะกรุดคู่ชีวิต
    เป็นที่เลื่องลือเล่าขานกันมาแต่โบราณ ของตำนานตะกรุดคู่ชีวิต

    "ตราบใดที่ตะกรุดไม่ห่างกาย
    ชีวามิวอดวายม้อยมรณา"

    นักเลงรุ่นเก่าเมืองพิจิตร มีตะกรุดคู่ชีวิตดอกเดียวคู่กาย เจอทั้ังมีดและปืนไม่ระคายผิว โดนซ้อมรุมกินโต๊ะ จับมัดแขนขาผูกปากกระสอบโยนทิ้งแม่น้ำ ในขณะที่อยู่ใต้น้ำระลึกถึงครูบาอาจารย์ ฉับพลันเชือกที่มัดถุงปากกระสอบหลุด ขณะที่ใกล้จะหมดลมหายใจตะกายตัวเองขึ้นจากผิวน้ำ เผอิญจังหวะที่ชาวบ้านหาปลาเห็นเข้า ช่วยชีวิตให้พ้นจากมัจจุราชมาได้

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    ตะกรุดหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
    ปิดรายการ
    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา อิมพีเรียลเวิลด์(สำโรง)
    เลขบัญชี 332-257130-3<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    เบอร์โทร 0875509271
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2011
  7. คนกรุงศรี

    คนกรุงศรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +763
    รายการที่ 107 ตะกรุดหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

    เสียดายจังครับอยากได้ครับ พอมีเหลืออีกใหมครับแบบดูง่ายๆน่ะครับ
     
  8. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 108 ตะกรุดหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก

    [​IMG]
    หลวงพ่อจง
    เป็นพระเถราจารย์ที่มีวิทยาคมแก่กล้า เป็นศิษย์พระอาจารย์
    เดียวกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เป็นสหายธรรมที่สนิทสนมและต่างฝ่า่ยต่างเคารพนับถือกันและกัน
    พระทองคำ
    หลวงพ่อปาน ท่านมักพูดแก่ศิษย์ของท่านเองว่า หลวงพ่อจงนั้นเป็นพระทองคำ แม้แต่เทพยดาชั้นสูงๆ ยังต้องขอเป็นโยมอุปัฎฐาก หลวงพ่อปานสั่งว่า “ถ้าฉันไม่อยู่ติดขัดเรื่องธรรมะ ให้ไปถามท่านจงนะ ท่านจงสอนเทวดามาแล้ว ถ้าเธอไปเรียนกับท่านจงได้ ก็นับว่าเป็นบุญของเธอ”

    เหนือยอดฉัตร
    ครั้งหนึ่งฯ เจ้าภาพได้นิมน์พระเกจิอาจารย์มาหลายรูปร่วมงานพิธีสงฆ์ เช่น หลวงพ่อโอภาสี หลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อปาน หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อเงิน และหลวงพ่อจง ฯลฯ ในงานพิธีนั้นเขาได้เอาไม้ไผ่มาจักตอกสลับเป็นรูปฉัตรเจ็ดชั้น สูงราวสักสองวา เจ้าภาพผู้นิมนต์พระสงฆ์ไป ขออาราธนาบรรดาพระเกจิอาจารย์ปีนขึ้นไปบนยอดฉัตร บรรดาพระเกจิฯเหล่านั้นบางองค์เห็นว่าจะกระทำมิได้ ถ้าเหยียบไม่มั่นคง เกิดงอหักหรือล้มลงมา จะทำให้เกิดอันตราย ต่างองค์ต่างปฏิเสธ หลวงพ่อเดิมเห็นว่าควรรับนิมนต์ ไม่ควรขัดอัธยาศัยของเจ้าภาพ พร้อมกับถามหลวงพ่อจงว่า “หากท่านเห็นด้วย เราทั้งสองควรรับนิมนต์เป็นผู้แทนสงฆ์อื่นเสียด้วยก็จะดี จะได้เสร็จกิจไป ”พลางชี้ฉัตรด้านข้างเป็นสัญญานว่าให้หลวงพ่อจงไปที่นั่น ส่วนหลวงพ่อเดิมเอง ยึดเอาฉัตรที่ตั้งตรงหน้าตั้งท่าป่ายปีนขึ้นไป ฉัตรที่ทำด้วยไผ่สานนี้ไม่มีที่เกาะจับ แม้จะสอดเท้าเข้ารูที่เว้นเป็นช่องไว้ก็จะสอดเข้าได้เพียงปลายนิ้วเท้าเท่า นั้น ฝ่ายหลวงพ่อจงไม่ว่าอะไร หัวร่อ หึ หึ หึ ออกเดินดุ่มไปหาฉัตรที่ห่างออกไป หลวงพ่อเดิมสอดปลายเท้ามือเพียงแตะฉัตรก้าวอย่างแผ่วเบา พลางปรายตามองดูหลวงพ่อจง แต่แล้วก็ต้องตะลึง เพราะหลวงพ่อเดิมขึ้นไปได้ราวห้าศอก หลวงพ่อจงขึ้นไปยืนคร่อมยอดฉัตรซะแล้ว
    น้ำมนต์จากปลายนิ้ว
    ในงานพิธีพุทธาภิเษกงานหนึ่ง หลวงพ่อจงได้รับนิมนต์มาร่วมงานด้วย โดยหลวงพ่อจงนั่งใกล้กันกับท่านพ่อคล้าย วาจาสิทธิ์ มีบรรดาลูกศิษย์เข้ามาน้ำมนต์ท่านพ่อคล้าย ท่านฯจึงบอกให้ลูกศิษย์ไปขอน้ำมนต์หลวงพ่อจง บรรดาลูกศิษย์จึงนำขวดเปล่าไปขอน้ำมนต์ หลวงพ่อจงท่านเป็นผู้มีความเมตตาสูง จึงสงเคราะห์ให้ตามความศรัทธาแก่ผู้ที่มาขอน้ำมนต์ ท่านฯจึงนำขวดเปล่ามาตั้งตรงหน้าอฐิษฐานจิต เอานิ้วชี้ไปที่ขวดเปล่า ปรากฏมีน้ำไหลจากนิ้วชี้ไหลลงขวดเปล่าน้ำมนต์ จนเป็นที่อัศจรรย์ใจประจักษ์แก่สายตาทุกคู่ในที่นั้น

    ที่มาดี ได้มาจากคนพื้นที่อ.บางบาล อยุธยา แท้ ดูง่าย ไม่ผิดวัดผิดอาจารย์แน่นอน

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    ตะกรุดหลวงพ่อจง ๕ นิ้ว
    บูชา ๒๕๐๐ บาท

    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา อิมพีเรียลเวิลด์(สำโรง)
    เลขบัญชี 332-257130-3

    เบอร์โทร 0875509271
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2011
  9. visut_p

    visut_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2008
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +1,763
    จองแบบนี้ด้วยคน

    คุณคนกรุงศรีห้ามแย่ง เตือนไว้ก่อนนะว่าผมดุจริงๆ ระวังโดนกัด!!! 555 ล้อเล่นนะครับ

    [​IMG]


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2010
  10. pardy

    pardy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,084
    ค่าพลัง:
    +2,703
    ได้ของแล้วนะครับ
    ขอบคุณมากครับ
     
  11. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 109 ชานหมากหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา

    [​IMG]
    ของดีที่สุดของหลวงปู่ทอง
    หลวงปู่ทองท่านฯเป็นพระสุดยอดอภิญญาจารย์ มีวาจาสิทธิ เมื่อท่านจะคายชานหมากมอบให้ใคร ท่านจะบริกรรมคาถาเพื่อประสิทธิวิชา เพื่อให้ชานหมากนี้มีความศักดิสิทธิ์เข้มขลัง สมัยที่หลวงปู่ฯ ท่านมีชีวิตอยู่ จะมีทหารและตำรวจมาขอชานหมากไป เพื่อนำไปติดตัวปกป้องคุ้มครองภัยอันตราย บางทีบรรดาพ่อค้าแม่ค้า จะมาขอชานหมากของหลวงปู่ฯ เพราะศรัทธาในชานหมากของหลวงปู่ฯ ที่ท่านบอกเองว่า..ชานหมากนี้กินไม่หมด เป็นชานหมากที่นิยมที่สุดอันดับหนึ่งในประเทศไทย เป็นชานหมากที่แพงที่สุดและหายากที่สุด

    พุทธคุณ
    ครอบจักรวาล ปกป้องคุ้มครองภัย แคล้วคลาด เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม ค้าขาย ผู้ใดมีไว้ไม่จน ไม่อด ไม่ยาก

    ที่มาดี ได้มาจากคนเก่าแกพื้นที่ เป็นศิษย์ก้นกุฎิวัดราชโยธา บ้านอยู่ใกล้วัดฯ ได้มาพร้อมพระหลวงปู่ทอง พิมพ์นิยมหลังยันต์ครู

    [​IMG][​IMG]

    ชานหมากหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา

    ปิดรายการ

    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ

    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา อิมพีเรียลเวิลด์(สำโรง)
    เลขบัญชี 332-257130-3

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0402.jpg
      IMG_0402.jpg
      ขนาดไฟล์:
      164.4 KB
      เปิดดู:
      79
    • IMG_0403.jpg
      IMG_0403.jpg
      ขนาดไฟล์:
      158.4 KB
      เปิดดู:
      77
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2011
  12. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 110ชานหมากหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา

    [​IMG]
    ของดีที่สุดของหลวงปู่ทอง
    หลวงปู่ทองท่านฯเป็นพระสุดยอดอภิญญาจารย์ มีวาจาสิทธิ เมื่อท่านจะคายชานหมากมอบให้ใคร ท่านจะบริกรรมคาถาเพื่อประสิทธิวิชา เพื่อให้ชานหมากนี้มีความศักดิสิทธิ์เข้มขลัง สมัยที่หลวงปู่ฯ ท่านมีชีวิตอยู่ จะมีทหารและตำรวจมาขอชานหมากไป เพื่อนำไปติดตัวปกป้องคุ้มครองภัยอันตราย บางทีบรรดาพ่อค้าแม่ค้า จะมาขอชานหมากของหลวงปู่ฯ เพราะศรัทธาในชานหมากของหลวงปู่ฯ ที่ท่านบอกเองว่า..ชานหมากนี้กินไม่หมด เป็นชานหมากที่นิยมที่สุดอันดับหนึ่งในประเทศไทย เป็นชานหมากที่แพงที่สุดและหายากที่สุด

    พุทธคุณ
    ครอบจักรวาล ปกป้องคุ้มครองภัย แคล้วคลาด เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม ค้าขาย ผู้ใดมีไว้ไม่จน ไม่อด ไม่ยาก

    ที่มาดี ได้มาจากคนเก่าแกพื้นที่ เป็นศิษย์ก้นกุฎิวัดราชโยธา บ้านอยู่ใกล้วัดฯ ขนาดเท่าใหญ่กว่าเหรียญสิบบาท

    [​IMG][​IMG]

    ชานหมากหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา

    ปิดรายการ

    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ

    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา อิมพีเรียลเวิลด์(สำโรง)
    เลขบัญชี 332-257130-3
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0398.jpg
      IMG_0398.jpg
      ขนาดไฟล์:
      114.6 KB
      เปิดดู:
      95
    • IMG_0401.jpg
      IMG_0401.jpg
      ขนาดไฟล์:
      141.8 KB
      เปิดดู:
      82
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2011
  13. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 111 พระหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ฝังตะกรุดโทน ปี 2529

    [​IMG]
    บารมีแห่งพระโพธิสัตว์
    พระหลวงปู่ดู่ วัดสะแก จัดเป็นพระผงผสมปูนอีกรุ่นที่หลวงปู่ดู่ได้อฐิษฐานจิตปลุกเสก ฝังตะกรุดโทนในองค์พระ

    [​IMG][​IMG][​IMG]

    พระหลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    ฝังตะกรุดโทน

    ปิดรายการ

    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา อิมพีเรียลเวิลด์(สำโรง)
    เลขบัญชี 332-257130-3

    เบอร์โทร 0875509271
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0450.jpg
      IMG_0450.jpg
      ขนาดไฟล์:
      140.4 KB
      เปิดดู:
      84
    • IMG_0453.jpg
      IMG_0453.jpg
      ขนาดไฟล์:
      151.8 KB
      เปิดดู:
      91
    • IMG_0458.jpg
      IMG_0458.jpg
      ขนาดไฟล์:
      155.9 KB
      เปิดดู:
      84
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2011
  14. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 112 ตะกรุดหน้าผากเสือหลวงปู่บุญ

    [​IMG]

    ขั้นตอนการสร้าง
    กรรมวิธี
    การสร้างแสนยากลำบากอยากยิ่ง ก่อนทำพิธีหลวงปู่ต้อง
    กำหนดฤกษ์ ยาม จากนั้นจัดทำปะรำพิธี ตั้งเครื่องสังเวยมีหัวหมูบายศรี บูชาเทวดา ครูอาจารย์ ผู้ที่จะทำจะต้องจัดหาเครื่องพิธีมาครบ เมื่อได้หนังเสือตามลักษณะที่ท่านฯกำหนด ท่านฯจะทำพิธีลงอักขระเลขยันต์ในแผ่นหนังเสือ เมื่อลงเสร็จแล้วท่านจะปลุกเสกจนครบ เจ็ดเสาร์ เจ็ดอังคาร จึงจะใช้ได้นับว่ามีกรรมวิธีสร้างที่ค่อนข้างพิถีพิถันและยากมาก
    .
    ที่สำคัญ เสือหนึ่งตัวจะนำหนังหน้าผากเสือมาใช้ได้เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น หนังเสือ
    ส่วนที่เหลือจะผุพังเปื่อยยุ่ยใช้การไม่ได้
    .
    บรรดาศิษย์ได้ถามหลวงปู่ "ทำไมหนังเสือถึง
    ผุพังเปื่อยยุ่ย"
    หลวงปู่บุญท่าน ยิ้มน้อยๆ แบบเมตตา ตอบศิษย์ไปว่า "ก็เอาของดีเค้ามาแล้วนี่ ที่เหลือถึงใช้การไม่ได้"

    .
    ดัง นั้นในชีวิตของหลวงปู่จึงได้สร้างตะกรุดหน้าผากเสือเอาไว้น้อยมาก ไม่ได้สร้างขึ้นแบบง่ายๆเหมือนทั่วไป แต่กรรมวิธีโดยเฉพาะที่เป็นแบบอย่างของท่านตามตำร้บที่ท่านได้ศึกษามา แจกเฉพาะศิษย์ใกล้ชิดที่มีความศรัทธาและมีความปรารถนาแรงเกล้าเท่านั้น ขนาดของตะกรุดหนังเสือหลวงปู่บุญ มีขนาดไม่แน่นอนเท่าที่พบขนาดไม่เท่ากันแม้แต่ดอกเดียว ลักษณะเป็นหนังเสือ ม้วน ประมาณ2-3รอบเท่านั้น เพราะหนังมีความหนาจะม้วนได้ลำบากหนังเสือซึ่งม้วนยาก หากไม่ใช้เชือกถักแน่นแล้วจะคลายตัวออกทันที ลักษณะการถักมีหลายแบบไม่แน่นอน มีทั้งลักษณะถักคลุมหัวท้ายกับถักไม่คลุมหัวท้าย ส่วนที่เชือกไม่คลุมไว้คือ หัวและท้ายจะเห็นขนเสือโผล่ออกมาบ้างเล็กน้อยเพราะไม่ได้เอาขนออก การลงอักขระเลขยันต์หลวงปู่ท่านลงด้านในมิใช่ด้านมีขนจะยังคงสภาพเดิมอยู่ ทุกดอกจะถักเชือกค่อนไว้อย่างแน่นตึงและนิยมลงรักทับไว้ด้วยเพื่อรักษาเนื้อ ของเชือกให้คงทนบางดอกปิดทองทับตลอดดอก
    .

    สุดยอดมหาตะกรุด

    จัดเป็นที่สุด
    ในบรรดาตะกรุดของหลวงปู่บุญทั้งหมด สุดยอดเข้มขลังและสร้างได้ยากที่สุด และหายากที่สุด พุทธคุณมีดังนี้
    (1)
    เด่นทางมหาอำนาจสูงมากเพราะ เสือเป็นเจ้าป่า มีตบะเดชะมหาอำนาจสูงมาก สัตว์ตัวไหนจ้องตาเสือเป็นต้องเกรงกลัว ได้ยินเสียงเสือคำรามเป็นต้องตกใจ แค่เพียงกลิ่นสาปเสือโชยไปกระทบสัตว์อื่นเป็นต้องหวาดกลัว ตัวสั่นขยับแข้งขยับไม่ออกเหมาะสำหรับผู้ที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานเป็นผู้บริหาร ผู้บังคับบัญชา ข้าราชการ นายทหาร เจ้าของกิจการ ฯลฯที่มีผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
    (2)เสือแม้จะเป็นสัตว์ที่ดุและน่ากลัว แต่คนก็อยากเห็นเสือ ข้อนี้ท่านว่าเป็นเมตตามหานิยม
    (3)หากินคล่องไม่มีฝืดเคืองเรื่องอาหาร

    (4)ป้องกันเสนียดจัญไร สิ่งอัปมงคลทั้งปวง
    (5)คุ้มครองป้องภัยอันตรายต่างๆ
    (6)เสริมวาสนาบารมี ให้เหนือผู้อื่น

    ที่มาดี ได้มาจากคนพื้นที่ เจ้าของ
    เลี่ยมเงินเก่าแขวนห้อยคอ ตะกรุดหน้าผากเสือดอกนี้ แท้ ดูง่ายสุดๆ หายากมากที่สุดในบรรดาวัตถุมงคลของหลวงปู่บุญ ราคาพิเศษถูกสุดๆ


    [​IMG][​IMG][​IMG]

    .
    ตะกรุดหน้าผากเสือ
    หลวงปู่บุญ
    ขนาด ๑ นิ้ว
    ราคาพิเศษ ๗๐๐๐ บาท

    ปิดรายการ
    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา อิมพีเรียลเวิลด์(สำโรง)
    เลขบัญชี 332-257130-3
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0478.jpg
      IMG_0478.jpg
      ขนาดไฟล์:
      152.4 KB
      เปิดดู:
      86
    • IMG_0473.jpg
      IMG_0473.jpg
      ขนาดไฟล์:
      130.6 KB
      เปิดดู:
      83
    • IMG_0474.jpg
      IMG_0474.jpg
      ขนาดไฟล์:
      125.4 KB
      เปิดดู:
      85
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2011
  15. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 113 ตะกรุดชาตรีเก้าเฮ(แฝด)หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ

    [​IMG]
    .
    สำนักตักศิลาแห่งอโยธยา

    ในอดีตครั้งกรุงศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้น มีสำนักที่มีชื่อเสียงในการถ่ายทอดวิชาอักขระเวทย์ตำรามนต์ และตำราพิชัยสงครามในยุคนั้น มีสำนักวัดตูม สำนักวัดประดู่ทรงธรรม ทั้งสองสำนักนี้ได้สืบทอดตำราอักขระโบราณและด้านธรรมะมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา พระอาจารย์ยุคเก่าๆ ในยุคกึ่งพุทธกาลหลายหลายสิบรูปด้วยกัน ได้รับการสืบทอดตำรามาจากสองสำนักนี้
    บรมครูใหญ่แห่งอโยธยา
    พระเดชพระคุณเจ้า หลวงพ่อกลั่น ธมฺมโชติ ท่านเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาอักขระเวทย์ตำรามนต์โบราณ และตำราพิชัยสงครามจากสำนักวัดประดู่ทรงธรรม และท่านฯเป็นผู้สร้างเหรียญที่ได้รับความนิยมสูงสุดราคาแพงที่สุดของเมืองไทย และเป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    หนึ่งในสิบคณาจารย์ผู้มีพลังจิตสูง
    หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ เป็นหนึ่งในสิบคณาจารย์ผู้มีพลังจิตสูงในปีพ.ศ. 2452 ที่จังหวัดนครปฐมได้มีการชุมนุมพระอาจารย์จากสำนักต่างๆ ทั่วประเทศไทย มีการทดสอบวิทยาคม และพลังจิตจากพระอาจารย์ทั่วประเทศที่ได้รับนิมนต์มาร่วมในพิธีร้อยกว่าองค์ ซึ่งแต่ละจังหวัดได้จัดให้พระอาจารย์เดินทางไปร่วมในพิธี โดยมีการทดสอบพระอาจารย์ต่างๆ ครั้งละสิบองค์ มีสมเด็จพระสังฆราช (เข) วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ที่บริเวณ วัดพระปฐมเจดีย์ ในการทดสอบครั้งนั้นมีกติกาว่าให้เอาท่อนไม้มา 1 ท่อน วางบนม้า 2 ตัว แล้วเอากบไสไม้วางไว้บนท่อนไม้ แล้วประธานฝ่ายสงฆ์จึงบอกกติกาว่า อาจารย์องค์ใดสามารถทำกบไสไม้ให้วิ่งไสไม้ไปกลับได้โดยกบไม่หล่นทำการทดสอบ กันถึงสามวันสามคืน พระอาจารย์ส่วนมากสามารถใช้จิตบังคับให้กบวิ่งไปได้ แต่กลับไม่ได้ ที่ทำให้กบไสไม้ไปกลับได้ มีด้วยกัน 10 รูป ในสิบรูปนั้นมีหลวงพ่อกลั่น เป็นหนึ่งในสิบนั้นด้วย
    หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ
    หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า
    หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
    หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง
    หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
    หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก
    หลวงพ่อทอง วัดเขากบ
    หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย
    หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว
    หลวงพ่อจอน วัดดอนรวบ
    วิชาเก้าเฮ (ขาตรี)
    วิชาเก้าเฮ เป็นวิชาสุดยอดของสำนักวัดพระญาติการาม อยุธยา หลวงพ่อกลั่น ท่านเป็นปรมาจารย์ใหญ่ของสำนักนี้ เป็นผู้สำเร็จวิชานี้ วิชาเก้าเฮ เป็นวิชาที่ป้องกันคมศาตราวุธมุกชนิด ทำให้ผู้ถูกทำร้ายไม่รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด เป็นวิชาที่ทำให้ตัวเบาและวัตถุสิ่งของมีคมทั้งหลายที่มากระทบตัวเบาไปหมด แม้เป็นของแข็งอย่างหินทุ่มมาทำร้ายก็เชื่อว่าจะรู้สึกเหมือนถูกทุบด้วยหมอนนุ่น วิชาชาตรีนี้แตกต่างจากวิชาคงกระพัน จะเป็นการทำให้เนื้อหนังร่างกายคงทนต่อศาตราวุธตลอดจนวัตถุต่างๆ ที่มาทำร้าย แต่หากอาวุธนั้นมีอันตรายมากหรือมีน้ำหนักมากก็อาจทำให้เจ็บปวดสาหัสหรือ อวัยวะภายในบอบช้ำถึงตายได้

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    .
    ตะกรุดเก้าเฮชาตรี(แฝด)
    หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ


    ปิดรายการ

    โอนเงิน
    บัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ

    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา อิมพีเรียลเวิลด์(สำโรง)
    เลขบัญชี 332-257130-3

    เบอร์โทร 0875509271
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0477.jpg
      IMG_0477.jpg
      ขนาดไฟล์:
      168.9 KB
      เปิดดู:
      82
    • IMG_0487.jpg
      IMG_0487.jpg
      ขนาดไฟล์:
      115.3 KB
      เปิดดู:
      78
    • IMG_0486.jpg
      IMG_0486.jpg
      ขนาดไฟล์:
      93.5 KB
      เปิดดู:
      80
    • IMG_0485.jpg
      IMG_0485.jpg
      ขนาดไฟล์:
      81.4 KB
      เปิดดู:
      86
    • IMG_0483.jpg
      IMG_0483.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.1 KB
      เปิดดู:
      81
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2011
  16. chura

    chura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,971
    รายการ 112 จองน๊ะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมโอนให้ครับ
     
  17. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 114 ลูกอมผงมหาโสฬส วัดสะพานสูง
    มหาตะกรุดอันดับ๑
    ในบรรดาเครื่องรางของขลัง เบญจฯเครื่องรางของแวดวงนักสะสมเครื่องรางของขลัง ได้ให้การยอมรับและยกย่องให้ "ตะกรุดมหาโสฬสหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง" ให้เป็นอันดับ๑ หายากที่สุดยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ไม่มีนักเลงพระคนใดจะไม่รู้จัก อย่างน้อยก็ต้องได้ยินนักเลงพระด้วยกันเล่าขานถึง ผู้ใดมีต่างก็หวงแหนเป็นอย่างยิ่ง
    .
    ที่สุดของที่สุดแห่งตะกรุด

    ปรากฏกฤตยาการแห่งตะกรุดมหาโสฬสเป็นที่สำแดงและยืนยันถึงอำนาจพุทธาคม โดยปราศจากข้อกังขาใดๆ ตะกรุดของท่านได้รับการปลุกเสกขึ้นมาด้วยอำนาจพลังจิตสูงส่งผ่านปลายเหล็ก จารถ่ายทอดลงสู่แผ่นโลหะในรูปแบบเลขยันต์อักขระเลขาจารึกแห่งสูตรมหาโสฬส มงคลและพระไตรสรณคมน์ล้อมรอบด้วยบารมี 30 ทัศน์อันพิเศษสุด พร้อมด้วยมนต์ปัสสาสะปราณชีพด้วยพลังจิตสุดยอดของหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง
    เมื่อสำเร็จแล้วด้วยอิทธิเวทย์พุทธาคม กิตติคุณของตะกรุดมหาวิเศษขจรขจาย ควบคู่กันไปกับนามของหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูงมีปาฏิหารย์ดุจดังเทวดาสร้างมีค่าควรเมืองหรือค่าพันตำลึงทอง ปลุกเสกองค์เดียวด้วยโองการมหาทะมึนให้ได้ครบ 10,000 จบเป็นเวลาถึง 3 ปี( 3 พรรษา ) ไม่มีวัตถุมงคลของสำนักใด ที่มีการปลุกเสกอย่างลึกล้ำเสมอเหมือนตะกรุดของหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูงเป็นแน่แท้ มีอานุภาพทุกด้านครอบจักรวาล ผู้ใดมีไว้ครอบครองหมั่นบูชากราบไหว้ด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่นจะเป็นสิริ มงคลแก่ตนและวงศ์ตระกูล พ้นจากภัยพิบัติต่างๆ ชีวิตจักไม่ตกต่ำเป็นมหามงคลยิ่งใหญ่มีเมตตามหานิยม, เจริญลาภผล จังงัง, กำบังภัย, แคล้วคลาด, คงกระพันชาตรี, บำบัดและป้องกันเจ็บไข้ เสนียดจัญไรโจรภัยกันไฟพ้นจากศัตรูหมู่สัตว์ร้าย อย่าว่าแต่ปืนผาหน้าไม้เลยแม้แต่อหิงสาหรือฟ้าผ่าก็ยังกันได้ แจ้งเหตุการณ์ให้ทราบก่อนล่วงหน้า ดลใจในทางที่ถูกที่ควร ถ้าอยู่ในบ้านเรือนบูชา ก็จะมีแต่ศิริมงคล แต่ที่สำคัญที่จะทำให้ผู้มีไว้ครอบครองได้สัมฤทธิ์ผล แห่งเดชานุภาพทั้งปวง แต่ต้องปฏิบัติตนให้อยู่ในศีลธรรม ตะกรุดฯ หลวงปู่เอี่ยมจึงเด่นขึ้นสู่ความนิยมสูงยิ่งเป็นอันดับ๑ ของบรรดาเครื่องรางและตะกรุด เป็นวัตถุมงคลที่มีสนนราคาสูงยิ่ง และหายากยิ่งจนมีผู้สืบเสาะอยากจะเป็นเจ้าของกันทั่วไป

    ขั้นตอนการลงตะกรุด
    ตะกรุดของท่านจะลงในวันเสาร์,วันอังคาร เวลาตอนเช้า โดยจะทำการลงพระยันต์มหาโสฬสมงคลประทับหน้า เมื่อม้วนแล้วจะอยู่ด้านใน (พระยันต์นี้แม้แต่สมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ ผู้เจนจบในยันต์๑๐๘ ทรงพิจารณาแล้วเห็นว่ายันต์โสฬสมงคลเป็นยันต์อันวิเศษสุดกว่ายันต์ทั้งปวง พระองค์ได้นำไปประทับในพระอุโบสถของวัดสุทัศน์ฯ และเขียนสอดใส่ไว้ใต้หมอนหนุนศรีษะตลอดเวลา จนกระทั่งมรณะภาพเมื่อปี พ.ศ. 2487 จึงได้พบแผ่นยันต์นี้)
    ยันต์โสฬสมงคลเป็นยันต์เลข 3 ชั้น ชั้นนอกลงด้วยเลข 16 ตัว ( โสฬสคำนี้แปลว่า 16 ชั้นฟ้า อันมีอินทร์,พรหม,ยม,นาค และพระคณาจารย์โบราณ จะกล่าวพรรณาถึงเมื่อเวลากระทำพิธีบวงสรวง ในการบูชาครูทุกๆ ครั้ง) ด้วยสูตรโสฬสรอบกลางลงด้วยเลข 12 ตัว ลงด้วยสูตรตรีนิสิงเห,รอบในลงด้วยเลข 6 ตัว,ลงด้วยสูตรจตุโร แล้วทำการลงอักขระเพื่อล้อมรอบยันต์ทั้ง 4 ด้านด้วยพระคาถาบารมี 30 ทัศน์ ส่วนพระยันต์ไตรสรณคม ประทับหลัง เมื่อม้วนแล้วยันต์จะอยู่ด้านนอก ล้อมด้วยอิติปิโส ฯลฯ ภควาติ ลงด้วยสูตรรัตนมาลัยเป็นตาม้าหมากรุกโดยรอบ
    หลังจารม้วนตะกรุดเสร็จแล้ว ท่านจะโรยด้วยผงวิเศษ 5 ประการที่ท่านปลุกเสกเองกับผงยันต์ตะกรุดโสฬสมงคลและผงพระยันต์ไตรสรณาคม ทาหรือจุ่มรักเพื่อให้คงทนที่ผสมด้วยผงพุทธคุณ หลวงปู่ท่านจะมาปลุกเสกตามตำรับโดยเฉพาะของท่าน ต้องใช้ระยะเวลาอันยาวนานถึง 3 ปี (3 พรรษา) ทุกขั้นตอนละเอียดความปราณีตทำด้วยความพากเพียรพยายามตั้งใจตามตำรับโบราจารย์ เพื่อให้มีพุทธคุณมีอิทธิฤทธิ์ที่ยิ่งยวดเสมือนเหมือนประดุจดั่งเทวดาสร้างมีค่าควรเมือง

    เอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนสำนักใด
    ตะกรุดของหลวงปู่มีอายุการสร้างจนถึงปัจจุบันมีอายุประมาณ 140-150 ปี มีความเป็นเอกลักษณ์เป็นของตัวเองที่ไม่เหมือนการสร้างตะกรุดของคณาจารย์รูป อื่น ๆ เช่น การม้วน , การตัดแผ่นโลหะ อีกทั้งความเก่าของแผ่นโลหะสนิมที่เกาะและการกัดกร่อนแผ่นโลหะตามระยะเวลา อย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งเชือกสายสิญจน์ที่ใช้ถัก รวมถึงผงวิเศษที่ใช้โรยและรักที่ลงไว้ก็จะเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนสำนักใด ผิดแผกไปจากสำนักอื่นคือจะมีสีอมแดง เมื่อส่องกับแดดหรือที่สว่าง เมื่อพิจารณาจะเห็นเม็ดแดง ๆ ที่ว่านี้ได้ชัดเจน

    เพชรน้ำเอกแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา

    ปัจจุบัน "หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูง" ได้มรณะภาพไปแล้วรวม 106 ปี แต่ชื่อเสียงเกียรติคุณของท่านยังเป็นที่เลื่องลือและกล่าวขวัญอยู่เสมอไม่ มีวันเสื่อมคลาย วัตถุมงคลของท่านผู้ครอบครองต่างก็ประสบคุณอภินิหารมากมาย จนกล่าวได้ว่าไม่มีผู้ใดที่มีวัตถุมงคลของท่านติดตัว ประพฤติตนอยู่ในศีลในธรรมอันควรแล้วต้องเสียชีวิตจากคมอาวุธหรือสิ่งมีคม อื่นๆ แม้แต่รายเดียว กาลเวลาได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงคือ ความเป็นอมตะของหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง และวัตถุมงคลของหลวงปู่เอี่ยม เพชรน้ำเอกแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยาและคลองพระอุดม จ. นนทบุรี

    ลูกอมผงมหาโสฬส
    สร้างตามสูตรพระบรมครูโบราณจารย์เป็นผงมหาโสฬสและผงพระไตรสรณคมที่ใช้ในการพอกตะกรุดมหาโสฬสและพระปิดตาวัดสะพานสูง ๑ในเบญจภาคีพระปิดตาแดนสยาม

    [​IMG][​IMG]

    ลูกอมผงมหาโสฬส
    ราคาพิเศษ ๒๒๐๐ บาท
    ปิดรายการ

    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ

    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา อิมพีเรียลเวิลด์(สำโรง)
    เลขบัญชี 332-257130-3
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF4416.jpg
      DSCF4416.jpg
      ขนาดไฟล์:
      92.1 KB
      เปิดดู:
      91
    • DSCF4420.jpg
      DSCF4420.jpg
      ขนาดไฟล์:
      92.1 KB
      เปิดดู:
      121
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2011
  18. visut_p

    visut_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2008
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +1,763
    รายการที่ 114 ลูกอมผงมหาโสฬส วัดสะพานสูง จองครับ

    คุณอักษรทมิฬเขาแค่อยากได้ แต่ผมขอจองตัดหน้าก่อนแล้วกันครับ ฮิ ฮิ ฮิ
     
  19. เอกลภัษ

    เอกลภัษ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +0
    ตามสบายเลยครับ แบ่งๆๆกัน
     
  20. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    [​IMG]

    หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง

    ปรมาจารย์ผู้ทรงธุดงคุณ เเละทรงพระกัมมัฏฐานทรงฌาณอภิญญาปฎิปทาบริสุทธิ์ล้ำเลิศ เป็นครูอาจารย์สอนพระกัมมัฎฐาน สอนศาสตร์โบราณวิชานานา เป็นพระอุปัชฌาย์ผู้สอนศิษย์ให้มั่นในพระธรรมวินัย เป็นผู้สร้างพระปิดตาเเละตะกรุดโสฬสอันดับหนึ่งของประเทศ เป็นครูบาอาจารย์องค์ปฐม "หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม"

    ประวัติหลวงปู่เอี่ยม เเต่เเรกขาดการบันทึกกันมา คงบันทึกได้เเต่คราวระยะท่านเริ่มบวช กล่าวกันว่าท่านบวชอยู่ที่วัด นวลนรดิษฐ์ กรุงเทพมหานคร ศึกษาธรรมบทเเปล เเละวิปัสสนากัมมัฎฐานปรนนิบัติอุปัชฌาย์อาจารย์อยู่ห้าพรรษา จึงได้รับนิมนต์มาอยู่ดูเเลบำรุงวัดสะพานสูง หลวงปู่เอี่ยมท่านอายุอ่อนกว่าสมเด็จโต โดยประมาณยี่สิบปี หลวงปู่เอี่ยมท่านสำเร็จผงวิเศษห้าคัมภีร์เหมือนกัน

    วัดสะพานสูงในยุคหลวงปู่เป็นสถานที่ไม่เจริญ มีไม้ใหญ่ร่มรื่นสงบสงัดเป็นพิเศษ จึงเป็นที่ควรเเก่พักอบรมทางภาวนา ท่านฯทรงภูมิวิชาโบราณทุกๆวิชาเป็นที่นับถือศรัทธาเป็นที่พึ่งของประชาชน กาลออกพรรษา ท่านจะนำพาพระลูกวัด เเละมีพระวัดอื่นที่มาขอขึ้นพระกัฎมัฎฐานขึ้นธุดงควัตร ติดตามท่านไปปฎิบัติตามชนบทจนถึงป่าลึกบางสถานที่ เเม้ชราภาพเเล้วท่านก็ยังเดินไวกว่าพระลูกศิษย์ ต้องหยุดคอยพระลูกศิษย์เป็นระยะ

    ครั้งหลังพบช้างเกเรมาก ทำชาวบ้านเเละพระธุดงค์เดือดร้อนหลายราย ได้ยืนขวางทางคณะของหลวงปู่ หลวงปู่ให้พระลูกศฺษย์หลบเข้าข้างทางก่อน ท่านจะต้องทรมานช้างเกเรตัวนี้เสียก่อน ช้างเกเรก็เตรียมจะทำร้ายหลวงปู่ หลวงปู่เพ่งภาวนาคาถาถอนโบสถ์ของท่าน เเล้วเพ่งไปที่ช้างเชือกนั้น ชัางล้มลงด้วยคาถาของหลวงปู่ทันที ขี้เเตกเยี่ยวเเตกชักดิ้นอยุ่ใหญ่จึงสงบเเละรู้ตัว ลุกขึ้นวิ่งหนีหลวงปู่หายเข้าไปในป่าโดยไว ภายหลังชาวบ้านกล่าวว่าช้างเชือกนี้ กลัวพระเป็นที่สุด เห็นสีเหลืองเป็นต้องหนีมันก็ไม่มารังควานอีก หลวงปู่สอนศิษย์ว่า เเผ่เมตตาให้มันๆก็ไม่ทำร้าย บางตัวก็ต้องใช้อานุภาพจิตทรมานมัน ปราบมันให้กลัวพระ ซึ่งเรื่องนี้ผีจากต้นตะเคียนหน้าวัดหลวงปู่ อยู่ข้างทางคนเดินผ่านไปมาหลอกชาวบ้านให้กลัวให้เดือดร้อน หลวงปู่ไปยืนเพ่งคาถาถอนโบสถ์ที่ต้นตะเคียนต้นนั้น ยามเย็นมันก็เฉาตาย ผีนางตะเคียนต้องหนีไปที่อื่น เเม้เจ้าพ่อก็เช่นกัน เจ้าพ่อคลองข่อยห่างจากวัดหลวงปู่พอสมควร สถานที่นั้นมีชายคนนึงทำตาลกลัวจะตกต้นตาล ได้บนบอกเจ้าพ่อคลองข่อยว่า ขอให้ช่วยดูเเลด้วย อย่าให้ตกต้นตาล สิ้นหน้าตาลเเล้ว จะเอาหัวหมูมาถวายให้เจ้าพ่อ พอสิ้นหน้าตาลเพื่อจะทำน่้ำตาลโตนดเเล้ว ชายนั้นเอาหัวหมูไถนาไปถวายไว้ที่ศาล เป็นการเเก้บน เจ้าพ่อโกรธมาก ด้วยหัวหมูไถนาเป็นไม้เป็นเหล็กกินไม่ได้ จึงเข้าภรรยาชายคนนั้น จะหักคอชายคนนั้นให้ได้ ทำอย่างไรก็จะเอาให้ตาย ญาติได้นำเรือมารับหลวงปู่ไปช่วยสงเคราะห์เรื่องนี้ให้เเก่ชายคนนั้น หลวงปู่ได้ซักถามเจ้าพ่อดูชัดเจนเเล้ว เเต่เจ้าพ่อบอกว่ามันกินไม่ได้ต้องเอาให้ตาย หลวงปู่ก็บอกว่า ตกลงกันว่าอย่างไร เจ้าพ่อตอบ หลวงปุ่ว่ามันพูดข้างเดียวคนเดียว เห็นเขาเอาหัวหมูถวายให้เเล้วตามสัญญา เเละไม่ได้บอกว่าเป็นหัวหมูชนิดไหน สิ่งนี้ก็เป็นหัวหมูเหมือนกัน ขอให้เจ้าพ่อระงับความโกรธเสียเถิด เจ้าพ่อไม่ยอมจะเอาตายอย่างเดียว หลวงปู่จึงกล่าวกับเจ้าพ่อว่า เป็นถึงเทวดาไม่มีเมตตาธรรม เทวธรรมเอาเสียเลย เห็นเเก่จะกิน เห็นเเก่สินบน ไม่ได้ก็จะเอาให้ตาย อย่าอยู่เป็นเจ้าพ่อที่นี่เลย คุณธรรมไม่เพียงพอ ท่านได้ไล่เจ้าพ่อให้ออกไปเสีย เเละสาปไม่ให้มาอยู่ที่ศาลเเละเขตเเถวนั้น

    หลวงปู่มีวาจาสิทธิ์คนนับถือเกรงกลัว พระเณรเเละศิษย์ประชาชนจะกลัววาจาสิทธิ์ของท่านที่สุด ผิดอะไรให้ท่านเฆี่ยนตี หลวงปู่ปกครองเเบบพ่อกับลูกจริง ท่านจะเฆี่ยนด้วยหนังหางปลากระเบน ทุกคนล้วนยอมให้ท่านเฆี่ยนกลัวท่านสาปเเช่งเอา เมื่อท่านตีเเล้ว จึงเอาดอกไม้ธูปเทียนไปขอขมา เเละขอให้ท่านอาบน้ำมนต์ให้ เจริญได้ดีกันทุกๆคน ไม่มีใครกล้าโกหกต่อหน้าท่านด้วย กลัวญาณวิเศษหยั่งรู้เหตุการณ์อันเเม่นยำของท่าน

    สำนักของหลวงปู่เป็นที่ประชุมเเห่งศาสตร์โบราณต่างๆกระทั่งการอาบน้ำว่าน น้ำยา อาบน้ำมันงา หลวงปู่จะสอนพระเณรศิษย์วัดเเละประชาชน ให้หัดทำไม้คานข้างพายสำหรับพายเรือข้าง เพื่อจะได้ทำเป็นดีกว่าไปเล่นหมากรุกเตะตะกร้อ เเล้วไว้สงเคราะห์ เเจกเป็นกำลังใจคณะกฐินผ้าป่า คณะเเม่ครัวของวัด เป็นต้น

    ท่านเป็นหมอกลางบ้านโดยตรง โดยเฉพาะยาเขียวใหญ่ซึ่งต้องใช้ใบไม้นานาชนิด พระเณรศิษย์เเละประชาชน จะตามเก็บมาเป็นหลายร้อยอย่างเอาทุกๆชนิด ใส่ตุ่มใหญ่ดองด้วยน้ำมูตรเด็กๆ ในหมู่บ้านเเละเด็กวัด ไม่กี่วันก็ไม่มีกลิ่นมีสีอะไร กินเเก้ไข้ปวดหัวตัวร้อนผิดสำเเดง ไข้หนักตัวร้อนจัด ไข้ป่า ไข้ทับฤุดูสารพัดไข้ หายได้เเน่นอน เรียกว่า ยาเขียวประชุมสมุนไพร พระเณรประชาชนใกล้ไกลใช้ยาขนานนี้ของท่านทั้งสิ้น ผสมด้วยพลังพุทธาคมอันศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงปู่ปลุกเสกให้ทุกๆคืนด้วย หายได้ทุกโรคได้อย่างปาฎิหารย์ ต้องมีทำตุ่มสำรองไว้กันต่อไป เเม้เเห้งเป็นผงเหลืออยุ่ก้นก็วิเศษ ผสมน้ำซาวข้าวหรือน้ำมูตรกินเเก้ไข้ดังที่กล่าวมาได้ดี ยาเก้าราก รากคนทา รากหญ้านา รากเพกา รากผักข้าว รากมะเดื่อชุมพร รากท้าวยายม่อม รากมะกรูด รากมะนาว รากมะปรางหวาน รากหนามพุงดอ รากน้อยหนา รากเขยตาย เหมือนคนพญามือเหล็ก จันทร์ทั้งสอง รากเถาตำลึง รากต้นครอบจักรวาล ตัวยาเหล่านี้เป็นขนานสำคัญพิเศษ ขนานนั้นหลวงพ่อกลิ่นท่านใช้สิบต่อมา ถ้าไม่เป็นโรคประจำตัวอะไรบางอย่างจริงๆ ยาขนานนี้รักษาได้หมด กินได้เรื่อยๆทั้งวันไม่มีโทษ

    น้ำมนต์หลวงปู่จะเสกไว้ที่หัวสะพานวัด ใครจะอาบก็ให้ไปอาบได้ หรือจะไปให้ท่านตักอาบให้ก็ได้ หลวงปู่มีวิชาทางขับไล่ภูตผีปิศาจชนิดสะกดได้ทั้งป่าช้าเลยที่เดียว ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์บวชพระที่วัดท่าน เเละวัดในเขตนั้น พวกพระหลวงตาที่ท่านบวชให้ ท่านจะให้ไปอยู่วัดอื่น ด้วยพระหลวงตาเเก่ไม่ค่อยจะเอื้อเฟื้อพระธรรมวินัย ไม่ชอบปฎิบัติพระกรรมฐาน ห่วงบ้านเเละครอบครัวสะสมมากอยากใหญ่ นิสัยยังเป็นฆราวาส ให้ความเดือดร้อนเเก่วัด เสียศรัทธาชาวบ้าน มีเพืยงรูปเดียว คือ หลวงตาคง ที่คอยปรนนิบัติรับใช้ศึกษาวิชาจากหลวงปู่ ช่วยลงตะกรุดให้หลวงปู่ กับหลวงพ่อกลิ่น ด้วยหลวงปู่มีอายุมากสายตาไม่สู้ดี หลวงปู่ปลุกเสกเองสามปี ใครเอาเเผ่นโลหะมาให้หลวงปู่ ท่านจะบอกว่า อีก สามปี ค่อยมาเอา ตะกรุดดอกเล็กท่านลงให้ไม่ครบสูตร จะลงยันต์พระไตรสรณาคมให้ เรื่องอานุภาพเป็นที่หนึ่งของประเทศ ลงเเล้วต้องเขียนผ้ายันต์เอาผ้ายันต์ลูบอีกรอบจึงม้วน เอาผงลูบด้ายเเล้วจึงเอาผงผสมรักเเล้วทาเสกให้อีก สาม ปี ด้วยคาถารัตนมาลา คาถาที่ลง เเละคาถาโองการมหาทมื่น เก้าหมื่นจบ พระปิดตาของท่านสร้างด้วยผงวิเศษห้าประการ ผสมผงยันต์จุ่มรัก ปลุกเสกให้สามปีเช่นเดียวกันกับตะกรุด มีพระคุณอานุภาพดุจกันครอบจักรวาล ทำน้ำมนต์คลอดบุตรง่าย ค้าขายดี ถอนคุณไสยขับไล่ผี ถอนอาถรรพ์กันกระทำ กันเขี้ยวงาเเละโจรขโมย

    ท่านสอนว่าถ้าเจอจระเข้ให้ยกตะกรุดระลึกถึงท่าน กอดคอจระเข้ได้เลย จระเข้จะลอยไม่จมอ้าปากไม่ออก เเม้หน้าวัดของท่านก็ทำอาถรรพ์ไว้ จระเข้จะลอยไม่จมเช่นกัน นายตุ๊ เด็กข้างวัดรุ่นหนุ่ม สติไม่ค่อยดีเป็นศิษย์ของท่าน เกิดอารมณ์เปลี่ยวคาดตะกรุดท่านไปปล้ำสาว ตะกรุดเลยเเตก มาขอหลวงปุ่ใหม่ หลวงปู่ถามว่าทำไมไม่ถอดเสียก่อน นายตุ๊บอกว่าถ้าถอดมันก้จะอาศัยเวลาหนีไป หลวงปู่มีฌาณวิเศษทราบบุพพกรรมของคนทั้งสอง เเละสงสารเห็นใจในความรักต่อหญิงสาวของนายตุ๊ ได้เเต่หัวเราะหึๆ เบาๆ ด้วยสงสารศิษย์ผู้มีกรรมเก่าติดตัวมาเเละสติไม่ดีเหมือนชาวบ้าน ท่านจึงมอบตะกรุดไว้ให้อีกดอก กำชับว่าทีหลังให้รูดตะกรุดไว้ข้างหลัง จะได้ไม่เเตกอีก ครูบาอาจารย์โบราณท่านจะเมตตาเลี้ยงศิษย์ เเม้จะสติไม่ดี เเต่พวกโลภ งก อันธพาลท่านไม่เอาเด็ดขาด ได้มีพวกโจรชอบปล้นมาขอตะกรุดของท่าน ท่านบอกว่าตะกรุดของท่านห้ามนำไปทำชั่ว ถ้าเอาของท่านไปทำชั่วขอให้ลูกปืนถูกที่หัวใจ ท่านพูดพร้อมชี้นิ้วไปที่หัวใจของโจร ทุกคนไม่กล้ารับกลัววาจาสิทธิ์ของหลวงปู่ฯ

    มีศิษย์ของท่าน ชื่อ นายพร้อม อาศัยอยุ่วัดจนหนุ่ม กตัญญูต่อหลวงปู่ เรียนหนังสือเเละศาสตร์โบราณบางอย่างจากท่าน หลวงปู่เมตตาลงยันต์บนผ้าเเดงผืนใหญ่ไว้ให้ใช้ประจำตัว ด้วยอานุภาพเมตตาของผ้ายันต์นี้ทำให้ลูกสาวเศรษฐีของปากเกร็ดรักหนุ่มพร้อม ด้วยตัวหนุ่มพร้อมเองเป็นเด็กวัดขาดคุณสมบัติทุกประการที่จะเป็นเขยของเศรษฐีอันดับหนึ่งของปากเกร็ด เเต่ด้วยรักกันมากเลยพากันหนีไปอยู่ที่ปทุมธานี คณะญาติเเละนักเลงเลี้ยงของฝ่ายพ่อตารีบนำเรือเครื่องตามไปทันที หนุ่มพร้อมเห็นเป็นการจวนตัว ได้อาราธนาถึงหลวงปู่นำผ้ายันต์ผืนเเดงนั้นคลุมศีรษะตนเองไว้ ทำให้คณะติดตามเห็นเเต่ลูกสาวเศรษฐีบนเรือไม่เห็นหนุ่มพร้อม ข้างลูกสาวจึงบอกว่าพายเรือเล่นไม่ได้ไปไหนกับใคร ทุกคนเลยกลับบ้านกันก่อนด้วยความโล่งใจ ครั้นทุกคนไปเเล้ว นายพร้อมได้พาคนรักไปที่ลาดหลุมเเก้ว เมื่อลูกสาวหายไม่ยอมกลับบ้าน บิดาสืบได้เเน่ชัดว่าไปอยูกินกับหนุ่มพร้อม จึงพากันยกคณะไปฟ้องหลวงปู่ว่าศิษย์หลวงปู่ลักพาลูกสาวตนไป หลวงปู่จึงเรียกคู่รักทั้งสองมา เมื่อทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน หนุ่มพร้อมรับสารภาพผิดทุกอย่าง เเต่ก็ให้สัตย์ต่อหน้าหลวงปูว่ารักสาวนั้นด้วยใจจริง หลวงปู่จึงเอาสายสิญจ์พันข้อมือทั้งสองเเละให้พรว่า ขอให้ทั้งสองร่ำรวยรักกันมั่นคง อยู่กินกันจนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร เเละเป็นเช่นนั้นจริง ในกาลต่อมาทั้งสองกลายเป็นผู้มีฐานะดีที่สุดในจังหวัดปทุมธานี อาของผู้บันทึกเป็นเขยของปู่พร้อมได้มีโอกาสเห็นผ้ายันต์ผืนนั้น เเละได้คัดลอกยันต์ลายมือหลวงปู่ไว้ในตำรา ภายหลังทราบว่าผ้ายันต์ผืนนั้น บุตรหลานจำหน่ายออกมาสู่ศิษย์โยมพ่อทัน จังหวัดประจวบนี้

    เสือเพี้ยน เเดงสังวาส มีตะกรุดหลวงปู่เอี่ยมดอกหนึ่ง ไม่ได้ทำการปล้นเเต่ขอเก็บค่าคุ้มครอง ถูกรุมยิงด้วยอาวุธหลายชนิดไม่เคยได้รับภัย เเต่เพราะได้ผิดคำสั่งหลวงปู่ ถูกตำรวจจับได้ทำวิสามัญทำลายคนชั่วผู้นี้โดยเอาเรือลากให้จมน้ำตาย ตายเเล้วก็ยิงไม่ออก บิดาเเละญาติเสือเพี้ยนตามมาทันรับเอาตะกรุดคืนไปได้

    เสือผาด ทับสายทอง ยิงเเละปล้นนายอำเภอเเละบุคคลอื่นๆหลายคน มีตะกรุดหลวงปู่ติดตัวประจำ ตัวเองปลอดภัยทุกๆครั้ง เเต่ก็เพราะผิดศีลธรรมมากไป ผิดคำสั่งสอนของหลวงปู่ ตำรวจนับร้อยนายถูกสั่งให้ทำลายชีวิตเขา เสือผาดหนีเข้าบ้านตัวเอง ตำรวจใช้เเก็สน้ำตาเข้าบ้านทำให้ลืมตาไม่ขึ้น ปลดตะกรุดให้เมียหนีห่างไปจากอันตราย ตัวเองไม่มีตะกรุดจึงรับกระสุนเกือบร้อยนัดเข้าไปในตัว ถูกตัดหัวเสียบประจานไว้ไม่ให้เอาเยี่ยงอย่าง นี้ผิดศีลหลวงปู่ไม่รับผิดชอบทั้งหมด

    ในสมัยที่สร้างทางรถไฟที่ถ้ำขุนตาล ได้มีตะเคียนโบราณขวางทางอยู คนไทยเข้าตัดตายทันที นายฝรั่งเข้าไปตัดก็ตาย จึงได้ขอพระราชทานตราเเผ่นดินจากล้นเกล้ารัชกาลที่ห้า ไปตีประทับจึงตัดได้ ในวันรุ่งขึ้น ยังขึ้นมาขวางทางรถไฟนั้นได้อีก ต้องประชุมชุมนุมสงฆ์สวดถอนโบสถ์เเล้วเผาทิ้ง ต่อมาทั้งคณะได้มาขออาบน้ำมนต์จากหลวงปู่ เพื่อให้จิตใจสงบระงับจากเหตุการประหลาดนั้น เเละทำทางรถไฟปลอดภัยตลอดสาย

    หลวงปู่สอนวิชากัมมัฎฐานเเละคุมธุดงค์ให้เเก่ลูกศิษย์ที่ไปปฎิบัติตามต่าง สถานที่ พอศิษย์เข้าสมาธิจะเห็นหลวงปู่เดินวนรอบกลด สาม รอบทุกคืน

    ครั้งนึงได้มีฆราวาสรักษาศีลเเปด ชื่อ เถรจันทร์ ได้ติดตามหลวงปู่กลับมาที่วัด โดยมาอยู่ในอุโบสถช่วยเขียนผงวิเศษ ให้หลวงปู่สร้างพระปิดตา พระเณรช่วยส่งข้าวส่งน้ำให้ทุกเจ็ดวันจึงจะออกจากโบสถ์มาครั้งนึงเพื่อปรับ ธาตุเเละขับถ่าย คงเป็นผู้ทรงฌาณสมาบัติ หลวงปู่ครั้งสูงอายุมากได้เข้าไปธุดงค์ในป่าลึกนานหลายปี จนคณะศิษย์พากันคิดว่าท่านมรณภาพไปเเล้ว ภายหลังท่านกลับมาที่วัด มีเสือ หมี งูจงอางติดตามเข้ามาในเขตวัดด้วย หลวงปู่ผมยาวเลยก้นไปมาก ผ้าผ่อนหลุดไปบ้าง เเทบจะไม่มีใครจำได้ ท่านออกบิณทบาตรจากเทวดาทุกวัน ญาติโยมดีใจจนร้องไห้ เเละได้ขอร้องอย่าให้หลวงปู่ไปไหนอีกด้วยชราภาพเเล้ว เสือหมีงูจงอางได้พักที่เขตท้ายวัดปีสองปี ก็จากหลวงปู่ไปอยู่ป่าตามเดิม

    เอาไม้เท้าเคาะศีรษะผู้อีกอย่างหนึ่งเป็นที่ศักสิทธิ์มาก เคาะให้ใครเเล้วไม่เจ็บไม่ไข้ ท่านภาวนาเคาะด้วยพระคาถา สัพเพ พุทธาภะลัปปัตตาปัจเจกานัญจะ ยังพะลัง อะระหันตานัญจะเตเชนะรักขังพันธามิสัพพะโส เเล้วเคาะด้วยไม้เท้าหนึ่งที

    บางปีหลวงปู่จะรุ้เหตุเเห่งโทษร้ายโรคร้ายที่จะมาสูคนเเละสัตว์ ท่านจะเเก้ไขโดยเเจกสายสิญจ์ให้เเก่ครอบครัวชาวบ้าน สัตว์เองก็เช่นกันท่านจะให้ทรายเสก เเละน้ำมนต์ไปพรมเเละโปรยหว่านสถานที่เลี้ยงสัตว์จะไม่ถูกโรคระบาดรบกวนเลย

    หลวงปู่ได้สร้างพระปิดตาเเละตะกรุดประมาณ สามครั้ง เพื่อหารายได้สร้างอุโบสถวิหารเเละพระเจดีย์ ตะกรุดของท่านให้บูชาดอกละหนึ่งตำลึง มีทั้งเงินทองเเดงเเละตะกั่ว ได้มีการบรรจุไว้ในเจดีย์หนึ่งตะลุ่มใหญ่ ได้มีพระอุดม คงเป็นเจ้านายเเถวนั้นเนื่องจากคลองหน้าวัดเรียกว่าคลองพระอุดม ทวดเอม รุจิเลข ทวดเพลง เกตุเพ็ง เเละหลวงปู่กลิ่นเป็นพยานร่วมรู้เห็น ท่านอธิฐานว่่าไว้ช่วยชาติในภาวะสงคราม ในสงครามโลกครั้งที่สอง ได้มีผู้พยายามจะลักเเต่ไม่สำเร็จ กรุได้เเตกมาในช่วงสงครามเวียดนาม คาดว่าท่านคงอนุญาตเเล้ว ขโมยได้มาลักไปเผยเเพร่ก่อน
    ส่วนอีกคนตามกำนันไปจับโจรตอนเเกหนุ่มๆ เจอปืนจ่อยิงระยะสองเมตร กระสุนตกข้างหน้าเฉยเลยครับ สังเกตุดูอานุภาพของตะกรุดของท่านจะออกเเนว เพชรหลบ เพชรหลีก กระสุนตก เป็นเเคล้วคลาดครับ ไม่มีที่จะโดนตัว

    วิชาทำนางกวักของหลวงปู่อีกวิชานึง เข้ากระดูกสาวพรหมจรรย์เจ็ดคน ดิน เจ็ด โป่ง เจ็ด ป่าช้า เจ็ดท่า เจ็ดวัด ใช้ดีนักทางค้าขาย อีกวิชาหนึ่งทำนางกวักด้วยปลายงวงช้างเเกะเป็นรูปนางกวักลงอักขระ

    กล่าวกันว่าหลวงปู่มีเพื่อนสหธรรมิกรุปหนึ่งชื่อหลวงพ่อเณร ขี่ม้าสีขาวไปบวชให้วัดต่างๆ มีตะกรุดวิเศษที่ท่านสร้าง เป็นตะกรุดสามห่วงทรงอานุภาพทางมหาอุดมาก ตะกรุดหลวงพ่อเณรวัดประดู่ทรงธรรม อยุทธยานี้ไม่ห้ามอะไรพกติดตัวไปปล้นยังได้ ญาติผู้ใหญ่ที่เกิดทันหลวงปู่ที่ได้เรียนวิชาจากท่านก็มี ปู่ขำ ปู่เณร ปู่เเหยม ปู่ดิฐ เป็นต้น ส่วนหลวงพ่อกลิ่นนั้นเป็นอาจารย์คู่สวดของปู่ดอน รุจิเลข ให้ความเมตตาต่อโยมพ่อทันมากเช่นกัน วิชาที่ได้จากหลวงพ่อกลิ่นมีหลายอย่าง ซึ่งเป็นวิชาของหลวงปู่เอี่ยมโดยตรง

    พระคาถาที่สำคัญ คือ บทพุทธคุณนี้เอง เปรียบเหมือนหัวใจของหลวงปู่ บท อิติปิโส ถึง ภะคะวาติ ห้าสิบหกคำนี้ใช้ได้ทุกประการดังใจนึก ถ้าจะระลึกถึงท่านให้ท่องคาถานี้ต่อด้วย อุมะอะจิตติ ทำให้สัมผัสถึงดวงวิญญาณหลวงปู่โดยตรง

    วิชาปัสสนาปลงรื้อสังขารดังที่บันทึกในหนังสือเล่มนี้ทำให้ผีกลัวมาก โยมพ่อทันมีชื่อเสียงเรื่องให้ผีกลัวเพราะฝึกวิชาปลงรื้อสังขารนี้ เป็นด้วยวิชาของหลวงปู่ถึงความสำเร็จชั้นพระอนาคามีเลยทีเดียว จึงจะมีวาจาสิทธิ์ได้ นี่ตามหลักทางธรรม เเต่คุณเบื้องสูงกว่านั้นไม่สามารถเทียบเคียงได้ชัดเจน กลัวการคาดคะเนที่ออ่นเหตุผลหลักฐานทำให้ประวัติของหลวงปู่ต้อง บกพร่องเสื่อมเสีย เเต่ไม่ต่ำกว่าพระอนาคามีเเน่นอน ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ทวดเอมได้เข้าไปปรนนิบัติเเละขอวิชาจากหลวงปู่เป็นครั้งสุดท้าย หลวงปู่บอกว่าไม่ต้องเเล้ว มีเหตุทุกข์สุขประการใดก็ให้เอ่ยชื่อระลึกถึงท่าน ท่านจะมาช่วย หลวงพ่อกลิ่นเองก็บอกกับศิษย์เช่นเดียวกันเเสดงถึงเมตตาธรรมอันประเสิรฐ ด้วยท่านรู้เห็นที่อยู่อันเป็นทิพย์ของท่าน เเละท่านจะไม่ทอดทิ้งศิษย์เเละผู้ศรัทธาในตัวท่าน ท่านเเสดงถึงว่าท่านเสมือนมิได้จากไป มีอะไรทุกข์สุขบอกท่านได้เหมือนเดิม ท่านจะมาช่วยเหมือนท่านเคยเมตตาช่วยเหลือสงเคราะห์อยู่โดยปกติประจำอยู่ใน ขณะมีชีวิตอยู่

    ปาฎิหารย์ตะกรุดหลวงปู่ที่อำเภอปราณบุรี นายชำนาญ ลิ้มพิพัฒน์ ศิษย์โยมพ่อทัน ย้ายตามโยมพ่อมาเป็นช่างตัดผม คนร้ายหกคนได้เข้าปล้นชิงทรัพย์ ได้ใช้ปืน สิบเอ็ด มม ยิงนายชำนาญโดยไม่มีใครยิงออก ญาติพี่น้องเห็นนายชำนาญสู้ด้วยมือเปล่า เเถมโดนเเทงหลายทีเเต่ไม่เข้า นายชำนาญเองนั้นเป็นนักมวยเก่า ต่อยคนร้ายอย่างมีกำลังประหลาด ญาติได้ใช้ที่สูบยางจักรยานเเละเเชลงเข้าช่วยเหลือ โจรไม่สามารถยิงปืนออกได้ในบ้าน ถูกรุมทุบตีศรีษะเเตก เเขนหัก พากันหนีออกไปอย่างสะบักสะบอม นี่คืออานุภาพของตะกรุดหลวงปู่

    ตำราตะกรุดของท่านศักดิ์สิทธิ์นัก เเม้เเต่ศิษย์รุ่นหลังสร้างออกมาก็มีอานุภาพอย่างประเสริฐ อาสาสมัครชื่อธงชัยอีกท่านหนึ่ง ได้ตะกรุด ซึ่งอาจารย์ สวย สามร้อยยอด ศิษย์โยมพ่อทัน เป็นผู้ืสร้าง อาสาสมัครท่านนั้นใช้ตะกรุดเพียงดอกเดียวในสมรภูมิทุ่งช้างเชียงคาน จังหวัดนาน วิ่งประจัญบานถูกยิงด้วยอาก้าโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ เตะเอากับระเบิดเข้าถึงกับสลบ ปืนหัก เเถมโดนยิงซ้ำ เมื่อกำลังหนุนมาช่วยเหลือนำเข้าโรงพยาบาล นับรอยไหม้ตามตัวได้เกือบร้อยห้าสิบจุด เเต่ไม่เข้าไม่หักไม่ช้ำไม่บวมอะไร ได้ประกาศออกวิทยุสรรเสริญพระคุณอาจารย์สวยภาคกลางคืน ราวปี 2516
    หลังจากท่านมรณะภาพได้เกินร้อยปีเเล้วก็ตาม คงเสมือนท่านมีชีวิตอยู่ คุณย่าเหรียญ รุจิเลขศรัทธาในตัวหลวงปู่ ปฎิบัติตามคำสั่งสอน เมือสิ้นบุญเเล้วกระดูกตลอดทั้งร่างงอกเป็นเมล็ดเท่าข้าวโพดคั่ว บุตรหลานไม่ได้เผาเก็บไว้ที่บูชาใต้ฐานพระวัดวังยาว

    ปู่ดอน รุจิเลข เรียนวิชาของหลวงปู่ได้มากเฉพาะวิชาหยิบพิษสัตว์ ทำหายได้ไว พุทโธสูญธะหยิบสูญหาย หยิบ ห้าหกที ผู้ป่วยก็หายเลย คาถาพระเจ้าสิบหกพระองค์ ทั้งบทตัวผู้ตัวเมีย โยมพ่อทันใช้หยิบพิษไข้ของพระครูเจ้าอาวาสวัดบัวเเก้วเกษร เพียงสามที หายเป็นปกติทันที หลวงปูท่านอยู่กับศิษย์เเละคาถาของท่าน

    ผู้บันทึกเคยสอนวิชาให้บุคคลหนึ่งไปเล็กน้อย บุคคลนั้นกลับอกตัญญูไปโกหกผู้อื่น ว่าโยมพ่อทันเรียนไปจากเขา ชั่วถึงเพียงนั้น ปัจจุบันเขาสติวิปลาสเเละคงเสื่อมลาภ ยศ หมดที่พึ่ง ต่อให้มีสามหัวหกเเขนเเต่หากทำผิดศีลธรรมก็วิบัติฉิบหาย

    มีผู้ป่วยท่านนึงถูกวิญญาณรบกวน ญาติพามาหาหลวงพ่อกลิ่นให้ช่วยรักษา พอขึ้นจากเรือเข้าเขตวัด ผู้ป่วยวิ่งหนี หลวงพ่อกลิ่นเอ่ยปากบอกหลวงปู่ด้วยเสียงดัง ให้ท่านช่วยจับมัดไว้กับต้นไม่้ในวัด ผู้ป่วยวิ่งหยุดไปโอบต้นไม้เเต่ปากยังบอกวาไม่กลัวดังลั่น หลวงพ่อกลิ่นเอ่ยปากบอกหลวงปู่ให้ตีผีให้เจ็บ คนไข้ร้องคล้ายโดนตีจริง จนบอกว่ากลัวเเล้วๆ พร้อมบอกว่ามาจากไหน มาทำไม เเละขออนุญาตไปเเล้ว ทีหลังจะไม่มากวนอีก หลวงพ่อกลิ่นก็เอ่ยบอกให้หลวงปู่ให้ปล่อยไป ผีออกผู้ป่วยหายเป็นปกติ หลวงปู่ไม่เคยห่างเราเลย อยู่กับเราเหล่าศิษย์ตลอด

    มาถึงยุคหลวงพ่อทองศุขศิษย์หลวงพ่อกลิ่น เป็นเจ้าอาวาสคนต่อมา เเผ่นโลหะของหลวงพ่อทองศุข ลงให้วัดทางสุพรรณบุรีไปหลอมทำพระ หลอมไม่ละลายเหมือนกัน หลวงพ่อทองศุขได้มาขอวิชาจากโยมพ่อทันกลับไปใช้ที่วัดเป็นบางวิชา พระอาจารย์ขาวเจ้าอาวาสคนปัจจุบันก็มาขอเรียนวิชาจากโยมพ่อ โยมพ่อทันดีใจ พูดว่า ดีใจที่ตำราหลวงปู่ได้กลับคืนสู่วัดของท่านอีก

    ศิษย์โยมพ่อเรียนวิชาหลวงปู่ไปเป็นเจ้าอาวาสหลายองค์ โยมพ่อทันใช้วิชาพุทธมนต์โอสถรักษาบำบัดผู้ป่วยหายเป็นจำนวนนับพันคน หลวงปู่ไม่เคยห่างศิษย์เลย ใช้ได้ขลังทุกๆครั้ง

    ประชิด ตั้งพาณิช หลานสาวโยมพ่อทัน เรียนวิชากัมมัฎฐานกับวิชาโบราณของหลวงปู่จากโยมพ่อทันเข้าถึงดวงวิญญาณหลวง ปู่เเต่เด็กๆ อายุเพียงสิบสองขวบ นั่งภาวนาเห็นเเละถามอะไรหลวงปู่ได้สอนวิชาให้ในนิมิตรขณะนั่งภาวนา
    อาจารย์สวย ศิษย์โยมพ่อทัน ได้ผ้ายันต์ผืนเเดงจากปู่พร้อม เเละใช้คลุมศรีษะนั่งภาวนาได้สำเร็จตาทิพยฺ หูทิพย์เบื้องต้น ใครเอาพระห่อกระดาษมา ท่านนั่งภาวนาสองนาที สามารถบอกได้ถูกต้องว่า พระอะไร เเท้หรือเทียม หรือเเม้กระทั่งตะกรุดลงด้วยยันต์อะไร ท่านผู้รับสืบต่อผ้าเเดงจากอาจารย์สวยอาราธนาผ้าเเดงคลุมศรีษะ เห็นวัดสะพานสูงทุกๆพื้นที่ โดยที่ท่านไม่เคยไปเลย ท่านให้ศิษย์โยมพ่อทันพาไปที่วัด ศิษย์โยมพ่อทันถึงกับเอ่ยปากว่ารู้สถานที่ได้ชัดเจนกว่าตนเองมากมาย

    หลวงปู่กลิ่นท่านศรัทธาหลวงปู่เอี่ยมเป็นอย่างสูง เเม้ฐานส้วมก็ทำเอาใหม่ไม่ใช้ของที่หลวงปู่ใช้ ประมาณสี่สิบปีที่เเล้ว เวจกุฎีของหลวงปู่เอี่ยมเเละหลวงปู่กลิ่นอยู่ท้ายวัดหญ้าขึ้นปกคลุม ไฟได้ไหม้โดยเวจของหลวงพ่อกลิ่นไฟไหม้หมด ของหลวงปู่เอี่ยมซึ่งเก่ากว่า กรอบกว่าไฟไม่ไหม้เลยเป็นทีอัศจรรย์ ชาวบ้านทราบข่าวมาขออนุญาติหลวงพ่อทองสุข เอาส่วนประกอบของเวจไป เเม้กระทั่งดินใต้ฐานยังขุดรอกเป็นหลุมใหญ่ พระโบราณท่านปลุกเเละเสกอาหาร ทุกอย่างที่ขบฉัน ทุกๆอริยาบทเเม้กระทั่งขับถ่าย ถึงได้ขลังขนาดนั้น ภะคะวาอิติปิผิด อุทธังอํทโธ อะระหัง อะระหัง คือคาถาที่หลวงปู่เสกน้ำ เคี้ยวหมากฉันข้าวทุกๆสิ่ง

    ทวดเอม รุจิเลข ทวดเพลง เกตุเพ็ง อยู่วัดเรียนหนังสือกับหลวงปู่เเต่เด็กๆ นอนในโปงผ้าเหลืองของหลวงปู่เลย หลวงปู่ท่านติดธุดงควัตรของท่าน ท่านพักบนศาลาใช้ผ้าจีวรพับไว้พอสมควร มุมหนึ่งท่านนั่งมองประนมมือไหว้พระสวดมนต์เเบบโบราณ ท่านสวดมนต์มากมายหลายบท ศิษย์จะรู้ว่าใกล้จบบทไหนเเล้ว ต้องรีบตำหมากให้ท่านรอคอยไว้ พอท่านสวดเสร็จต้องรีบถวายหมากให้ท่าน มิเช่นนั้นท่านจะทวงถาม เมื่อฉันหมากเสร็จท่านจะยกโถขึ้ผึ้งมาเป่าพระเวทย์ลงไป ขึ้ผึ้งในโถจะเดือดฟูขึ้นมาเต็มโถทันที เเล้วท่านก็จะเก็บโถเข้าที่ เป็นเช่นนี้ทุกๆวัน

    ทวดเอม รุจิเลข เเละทวดเพลง เกตุเพ็งเล่าเรียนสรรพวิชาจากหลวงปู่จนกระทั่งบวชเรียนเเละลาสิกขามาประกอบ อาชีพช่วยเหลือคนในนนทบุรีเเละจังหวัดรอบเคียง ท่านทั้งสองมีอายุมากกว่าหลวงปู่กลิ่นเล็กน้อย ส่วนหลวงตาคงจะเป็นผู้สอนกัมมัฎฐานเเทนท่าน หลวงตาคงสามารถรู้วาระจิตของพระฝึกใหม่ขณะนั่งสมาธิ สามารถเเนะนำได้ว่าขาดตกบกพร่องตรงไหน เป็นที่ไว้ใจของหลวงปู่มากทีเดียว

    หลวงปู่มีวิชาลงไว้ที่ปุ่มระฆังของวัด ถ้าวัดมีงานกุศลอะไรก็ตามพอคนมาเต็มวัดเเล้ว เคาะระฆังนั้นดังๆสามครั้ง ผู้คนในบริเวณงานจะมีจิตระงับจากโทสะ ไม่ก่อเรื่องวิวาทใดๆทั้งสิ้น

    ครั้งหนึ่งมีฝรั่งมาหานกยิงในเขตวัดสะพานสูง นกได้พากันหนีไปเกาะที่เจดีย์ที่หลวงปู่สร้างไว้เพื่อบรรจุพระปิดตาเเละ ตะกรุด ฝรั่งยิงนกไม่ออก หลวงปู่เห็นเข้าจะเอาไม้เท้าไปตีหัวฝรั่งคนนั้น หลวงพ่อกลิ่นรองเจ้าอาวาสทราบเรื่องรีบมาถึงทันเหตุการณ์ กราบห้ามหลวงปู่ ด้วยฝรั่งไม่รู้หลักพุทธศาสนา หลวงปู่ให้อภัย ฝรั่งศรัทธามากในอานุภาพของหลวงปู่ หลวงปู่จึงให้ตะกรุดไปหนึ่งดอก ฝรั่งคาดเอวทันที ภายหลังฝรั่งได้กลับมาเมืองไทยอีก ได้นำสิ่งของต่างๆจากเมืองของเขา มาถวายหลวงปู่เป็นจำนวนมาก ได้เห็นหลวงปู่ฉันผักน้ำพริกเป็นอาหารเพล ฝรั่งพอจะพูดไทยได้บ้างได้กล่าวกับหลวงปู่ด้วยความรู้ภาษาไทยกระท่อนกระเเท่น เอ็งกินผักอย่างกับวัวควายอย่างนี้หรือ หลวงปู่ไม่ถือกลับหัวเราะชอบใจ เเละบอกฝรั่งว่าต้องกินหญฺ้าอย่างวัวควายเเบบนี้ละปืนเอ็งถึงยิงไม่ออก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2011
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...